Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 1แผน Co-5STEPs วิชาวิทยาศาสตร์ ป.5

1แผน Co-5STEPs วิชาวิทยาศาสตร์ ป.5

Published by plakorn kakaaka, 2022-08-31 08:14:05

Description: 1แผน Co-5STEPs วิชาวิทยาศาสตร์ ป.5

Search

Read the Text Version

การออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้วชิ า วิทยาศาสตร์ (ตามแนว LOE) ระดบั ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 เรอ่ื ง สง่ิ มชี ีวิตรอบตัว ตวั ชว้ี ดั ว 3.1 ป. 4/1 จำแนกสงิ่ มีชีวติ โดยใช้ความเหมือน และความแตกตา่ ง ของลักษณะของ สง่ิ มชี วี ติ เปน็ กลุม่ พืชและกลุ่มสตั ว์ และบอกชอื่ สิง่ มชี ีวิตอืน่ ทีไ่ ม่ใช่ พชื และสตั ว์ สาระ สิ่งมีชวี ติ มหี ลายชนิดซงึ่ มลี กั ษณะบางอยา่ งเหมอื นกนั และแตกต่างกัน ซ่ึงสามารถนำมาใชเ้ ปน็ เกณฑใ์ น การจำแนกส่งิ มีชวี ติ ออกเปน็ กลมุ่ พชื กลุม่ สัตว์ และกลมุ่ ท่ีไม่ใช่ พชื และสตั ว์ ในกล่มุ พชื และกล่มุ สตั ว์ ยงั สามารถจดั เป็น กลมุ่ ยอ่ ยไดอ้ ีกขึ้นอยกู่ ับเกณฑ์ทใี่ ช้ OE วัตถุประสงค์การเรยี นรู้ ประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 1.นักเรียนสามารถอธิบายจำแนกสิ่งมชี วี ิตออกเปน็ 1. ประเมินการปฏิบตั กิ ิจกรรมด้วยแบบประเมิน 2. ประเมินความมีวินยั ใฝเ่ รียนรูแ้ ละม่งุ ม่ันในการ กลุ่มพชื กล่มุ สตั ว์ และ กลุ่มทไี่ มใ่ ช่พชื และสัตว์ โดยใช้ ทำงานด้วยแบบประเมิน การเคล่อื นทแ่ี ละ การสรา้ งอาหารเป็นเกณฑ์ได้ 2.นกั เรียนสามารถจำแนกสงิ่ มชี วี ติ ออกเป็นกลมุ่ พชื กลุ่มสตั ว์ และ กลุ่มทไี่ มใ่ ชพ่ ชื และสัตว์ โดยใชก้ าร เคลอ่ื นท่ีและ การสร้างอาหารเป็นเกณฑ์ได้ 3.นกั เรยี นมนี ัย ใฝ่เรยี นรู้ มุ่งมน่ั ในการทำงาน สามารถทำงานรว่ มกับผอู้ ื่นได้โดยใช้วธิ ีการทาง L กจิ กรรมการเรียนรู้ ข้นั ท่ี 2 ครูแบ่งกล่มุ นกั เรยี นเพอ่ื ให้นักเรยี นทำกิจกรมมและทบทวนว่าไดฝ้ กึ ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละ ทกั ษะแห่งศตวรรษที่ 21 อะไรบ้างและในขนั้ ตอนใดบ้าง แล้วบนั ทกึ ลงในแบบบันทึกกิจกรรม ครูชักชวนนักเรียนศกึ ษาเรอื่ งการจัดกลุม่ ของสิง่ มชี ีวิตโดยใหอ้ า่ นช่อื หน่วย ช่ือบท และอา่ นจดุ ประสงค์การ เรยี นร้ปู ระจำบท ในหนังสือ เรียนหนา้ 39 จากน้ันครใู ชค้ ำถามว่า เมื่อจบบทเรียนนักเรียนจะ สามารถทำอะไรได้ บ้าง (สามารถจำแนกสงิ่ มีชีวิตออกเป็นกลุ่มพืช กล่มุ สัตว์ และกลมุ่ ท่ไี ม่ใช่พืชและสัตว์ โดยใช้เกณฑ์การเคลือ่ นที่ และ การสร้างอาหาร รวมทง้ั จำแนกกลมุ่ สตั วแ์ ละกลมุ่ พืชออกเปน็ กลุม่ ได้ อีก ซง่ึ ข้นึ อยู่กับเกณฑท์ ีใ่ ช้) ขนั้ ที่ 5 1. ครใู หน้ กั เรียนแตล่ ะคนพิจารณาวา่ จากหัวขอ้ ทเ่ี รยี นมาและการปฏบิ ัติกจิ กรรม มีจุดใดบ้างที่ยังไม่เข้าใจหรือ ยังมขี อ้ สงสัย ถ้ามี ครูชว่ ยอธบิ ายเพิม่ เติมใหน้ กั เรยี นเข้าใจ 2. นักเรียนรว่ มกันประเมินการปฏบิ ตั ิกจิ กรรมกลุม่ ว่ามีปญั หาหรอื อปุ สรรคใด และไดม้ กี ารแกไ้ ขอยา่ งไรบา้ ง 3. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั แสดงความคดิ เห็นเกีย่ วกับประโยชน์ทไ่ี ดร้ ับจากการปฏบิ ตั ิกจิ กรรม และการนำ ความรทู้ ี่ไดไ้ ปใช้ประโยชน์ 4. นกั เรียนตอบคำถามเกี่ยวกบั การสืบเสาะหาความรทู้ างวทิ ยาศาสตร์ ในสำรวจความร้กู อ่ นเรยี น โดยอาจถามว่านักเรียนรอู้ ะไรบ้าง เกยี่ วกบั การสบื เสาะหาความร้ทู างวทิ ยาศาสตร์

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 1 สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาวิทยาศาสตร์ รหสั วิชา ว 14101 ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 4 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2565 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เรอ่ื งที่ 1 ส่ิงมีชีวติ เวลาเรยี น 1 ชั่วโมง ครูผสู้ อน นางนิตสา คำเจรญิ ********************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ ว 1.3 เขา้ ใจกระบวนการและความสำคัญของการถา่ ยทอดลักษณะทางพนั ธุกรรม สารพนั ธุกรรม การเปลย่ี นแปลงทางพันธุกรรมที่มผี ลตอ่ สง่ิ มชี วี ิต ความหลากหลายทางชีวภาพ และววิ ฒั นาการของส่ิงมชี ีวิต รวมท้ังนำความรูไ้ ปใชป้ ระโยชน์ 2. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด สิง่ มชี วี ติ สามารถจำแนกเปน็ กลุ่มไดโ้ ดยการกำหนดเกณฑท์ ี่แสดงลักษณะสำคัญเฉพาะท่ีเหมือนกนั 3. ตัวชี้วัด/จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ตวั ชีว้ ัด ว 1.3 ป. 4/1 จำแนกสงิ่ มชี วี ิต โดยใช้ความเหมอื น และความแตกต่าง ของลักษณะของ สิ่งมชี ีวิต เป็นกลุ่ม พืชและกลุ่มสัตว์ และบอกช่ือ ส่งิ มชี วี ิตอ่นื ทีไ่ ม่ใช่ พืชและสัตว์ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ดา้ นความรู้ (K) - นักเรยี นสามารถอธบิ ายจำแนกสิง่ มีชีวิตออกเปน็ กลมุ่ พชื กลมุ่ สัตว์ และ กล่มุ ที่ไม่ใช่พชื และสตั ว์ โดยใชก้ ารเคล่ือนท่ีและ การสร้างอาหารเปน็ เกณฑไ์ ด้ ด้านทักษะกระบวนการ (P) - นกั เรียนสามารถจำแนกส่งิ มีชวี ติ ออกเป็นกลุ่มพชื กลมุ่ สตั ว์ และ กลมุ่ ทไ่ี มใ่ ชพ่ ืชและสัตว์ โดยใช้ การเคล่ือนทแ่ี ละ การสร้างอาหารเปน็ เกณฑ์ได้ ดา้ นคณุ ลักษณะ (A) - นกั เรียนมนี ัย ใฝ่เรยี นรู้ มุ่งม่ันในการทำงาน สามารถทำงานร่วมกบั ผูอ้ ืน่ ได้ 4. สาระการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ส่งิ มีชวี ิตมีหลายชนิดสามารถจัดกลมุ่ ได้โดยใชค้ วามเหมือนและความแตกตา่ งของลกั ษณะตา่ งๆเช่น กลุ่มพืชสร้างอาหารเองได้และเคลื่อนทีด่ ้วยตนเองไม่ได้กลมุ่ สตั ว์กินส่ิงมีชีวติ อ่ืนเปน็ อาหารและเคลื่อนท่ี ไดก้ ลมุ่ ทีไ่ ม่ใช่พชื และสตั ว์เชน่ เหด็ ราจลุ นิ ทรีย์

สาระการเรยี นร้ทู อ้ งถิน่ (พิจารณาตามหลกั สูตรสถานศกึ ษา) 5. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น 1) ความสามารถในการส่ือสาร 2) ความสามารถในการคิด 3) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1) มวี ินัย 2) ใฝ่เรยี นรู้ 3) มงุ่ มนั่ ในการทำงาน 7. กิจกรรมการเรยี นรู้ (กระบวนการเรียนรูแ้ บบรวมพลงั 5 ขัน้ ตอน Co-5STEPs) ข้นั ที่ 1 เสนอสิ่งเรา้ และรวบรวมพลังระบคุ ำถามสำคญั 1.ครูทบทวนความรู้พืน้ ฐานของนักเรยี นเกย่ี วกบั ลักษณะของสง่ิ มชี วี ติ ซึ่งเคยเรียนผ่านมาแลว้ ในชั้น ประถมศึกษาปที ่ี 2 โดยถามวา่ สง่ิ มีชีวติ มีลกั ษณะใดบา้ ง (ลักษณะของสงิ่ มชี ีวติ เชน่ สืบพนั ธไ์ุ ด้ เคลื่อนไหว หรอื เคลื่อนทีไ่ ด้ หายใจได้ ขับถา่ ยได้ และตอบสนองต่อ ส่งิ เรา้ ได้) ขน้ั ที่ 2. รวมพลงั แสวงหาสารสนเทศและวเิ คราะห์ 1. ครูแบ่งกลมุ่ นกั เรยี นเพ่ือใหน้ ักเรียนทำกจิ กรมมและทบทวนว่าไดฝ้ ึกทักษะกระบวนการทาง วิทยาศาสตรแ์ ละทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 อะไรบา้ งและในขั้นตอนใดบ้าง แล้วบนั ทกึ ลงในแบบบนั ทกึ กจิ กรรม 2. ครชู ักชวนนักเรียนศึกษาเร่ืองการจัดกลุม่ ของสง่ิ มีชวี ติ โดยให้อา่ นชื่อ หนว่ ย ชอ่ื บท และอ่าน จุดประสงค์การเรยี นรปู้ ระจำบท ในหนังสอื เรยี นหน้า 39 จากนนั้ ครใู ชค้ ำถามว่า เม่ือจบบทเรยี นนกั เรยี น จะ สามารถทำอะไรไดบ้ ้าง (สามารถจำแนกสงิ่ มีชีวติ ออกเป็นกลมุ่ พชื กลมุ่ สตั ว์ และกลมุ่ ท่ีไมใ่ ช่พืชและ สัตว์ โดยใช้เกณฑ์การเคลอื่ นทแ่ี ละ การสรา้ งอาหาร รวมท้ังจำแนกกลมุ่ สตั ว์และกลมุ่ พืชออกเปน็ กลมุ่ ได้ อีก ซง่ึ ขึ้นอยู่กับเกณฑ์ทใ่ี ช้) ขั้นท่ี 3. รวมพลังอภปิ รายและสร้างความรู้ 1.นักเรยี นอภิปรายเน้ือเร่ืองทีอ่ ่าน จากนน้ั ครูซักถามโดยใช้คำถาม ดังต่อไปน้ี - รอบตวั นกั เรียนในขณะนี้ มีสง่ิ มชี วี ิตใดบ้าง (นักเรียนตอบตาม ความเป็นจรงิ ) ครรู บั ฟังเหตุผลของ นักเรียนเป็นสำคญั ครูยังไม่ เฉลยคำตอบใด ๆ แตช่ ักชวนใหห้ าคำตอบที่ ถกู ตอ้ งจากกิจกรรม ตา่ ง ๆ ในบทเรยี นนี้ - เราสามารถใช้เกณฑใ์ ดบา้ งในการจำแนกส่ิงมีชวี ิตท่ีอยู่รอบตวั เรา (นกั เรยี นตอบตามความเขา้ ใจ ของตนเอง) ขน้ั ท่ี 4. รวมพลงั ส่ือสารและคดิ สะท้อน ครบู ันทึกแนวคดิ คลาดเคล่อื นหรือแนวคิดที่ น่าสนใจของนักเรียน แลว้ นำมาออกแบบการจดั การ เรียนการสอน เพ่ือแกไ้ ขแนวคิดคลาดเคล่ือนให้ถูกต้อง และต่อยอดแนวคิดที่ น่าสนใจของนักเรยี น ขน้ั ท่ี 5. รวมพลงั ประยุกตแ์ ละตอบแทนสังคม

1. ครใู หน้ ักเรยี นแต่ละคนพจิ ารณาว่า จากหวั ข้อที่เรยี นมาและการปฏบิ ัติกจิ กรรม มีจุดใดบ้างท่ยี งั ไมเ่ ขา้ ใจหรอื ยงั มขี ้อสงสยั ถ้ามี ครชู ่วยอธบิ ายเพิ่มเตมิ ใหน้ ักเรยี นเขา้ ใจ 2. นกั เรียนร่วมกนั ประเมินการปฏิบัติกจิ กรรมกลุ่มวา่ มปี ญั หาหรืออปุ สรรคใด และไดม้ ีการแก้ไข อย่างไรบ้าง 3. ครูและนกั เรียนรว่ มกันแสดงความคดิ เห็นเก่ยี วกับประโยชนท์ ่ีได้รับจากการปฏิบัติกิจกรรม และ การนำความรทู้ ี่ได้ไปใชป้ ระโยชน์ 4. นักเรียนตอบคำถามเก่ยี วกับการสืบเสาะหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ในสำรวจความรู้ก่อนเรียน โดยอาจถามวา่ นักเรียนรอู้ ะไรบ้าง เก่ยี วกบั การสืบเสาะหาความร้ทู างวิทยาศาสตร์ 8.การวัดและประเมินผล วธิ ีการ เครอ่ื งมอื เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 1 (ประเมินตามสภาพจรงิ ) ตรวจใบงานท่ี 1 การจำแนกส่ิงมีชวี ิต ใบงานที่ 1 การจำแนกส่ิงมชี วี ิต รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ตรวจแบบบันทึกการอา่ น แบบบนั ทกึ การอ่าน ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สงั เกตความมวี นิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ และมงุ่ ม่ันในการทำงาน แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ 9.สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้ สอ่ื การเรียนรู้ 1) หนงั สอื เรียนรายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 (สสวท.) 2) แผ่นภาพ 3) ส่อื อนิ เตอรเ์ น็ต แหลง่ การเรียนรู้ - หนงั สือเรียนรายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ตามหลกั สูตรแกนกลาง การศึกษาข้ันพ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรงุ พทุ ธศักราช 2560) สสวท. - ส่อื อินเตอรเ์ น็ต

10. แบบบนั ทึกหลังแผนการสอน 11. บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ ผลการจัดการเรียนรู้ นักเรยี นจำนวน...............................คน ผา่ นจดุ ประสงค์การเรียนรู.้ ...............คน คิดเปน็ ร้อยละ............................. ไมผ่ ่านจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้.............คน คิดเปน็ ร้อยละ............................. ได้แก่ 1………………………………………………………………………………………… 2…………………………………………………………………………………………… นกั เรยี นท่ีมีความสามารถพิเศษ/นกั เรยี นเด็กพิเศษ ได้แก่ 1…………………………………………………………………………………………… 2……………………………………………………………………………………………

นกั เรยี นท่ีไม่ผา่ นการประเมนิ จดุ ประสงคด์ า้ นความรู้ (K) จำนวน............................คน ไดแ้ ก่ ................................................................................................................................................................ .......................................................................................... นกั เรียนท่ีไม่ผ่านการประเมนิ จุดประสงคด์ ้านทักษะ (P) จำนวน.............................คน ไดแ้ ก่ ................................................................................................................................................................ .......................................................................................... นกั เรียนท่ไี ม่ผ่านการประเมินจุดประสงค์ด้านเจตคติ (A) จำนวน............................คน ไดแ้ ก่ ................................................................................................................................................................ .......................................................................................... ปัญหา /อุปสรรค /ขอ้ คน้ พบ …………………………………………………….…………………..………………………………………………………………………… …………………………………………………….…………………..………………………………………………………………………… แนวทางการแก้ไข/พฒั นา …………………………………………………….…………………..………………………………………………………………………… …………………………………………………….…………………..………………………………………………………………………… ลงชอ่ื ………………………………...….......... ผูส้ อน (นางนติ สา คำเจริญ) ครู โรงเรียนบกี รมิ วันท่ี……..…เดือน…….......…….……. พ.ศ. ……….......... 12. ความเหน็ ของหัวหน้าสถานศกึ ษาหรอื ผทู้ ไี่ ดร้ ับมอบหมาย ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรยี นรู้ของ นางนิตสา คำเจริญ ครโู รงเรยี นบีกรมิ แลว้ มคี วามคิดเห็นดงั นี้ 1. เป็นแผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี  ดมี าก  ดี

 พอใช้  ควรปรบั ปรงุ 2. การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ไดน้ ำเอากระบวนการเรยี นรู้  เน้นผูเ้ รียนเปน็ สำคัญมาใชใ้ นการสอนได้อย่างเหมาะสม  ยังไมเ่ น้นผเู้ รยี นเปน็ สำคัญควรปรบั ปรงุ พัฒนาต่อไป 3. การนำแผนการจดั การเรียนรไู้ ปใช้  เหมาะสมนำไปใช้ไดจ้ รงิ  ควรปรบั ปรุงกอ่ นนำไปใช้ 4. ข้อเสนอแนะอน่ื ๆ ............................................................................................................................. ........................................................ ......................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................................ ............................................................................................................................. ............................................................ (ลงชอ่ื ).......................................................... (นางสาวภทั รภร หมนื่ มะเรงิ ) ผูอ้ ำนวยการโรงเรียนบกี ริม วนั ท.ี่ ........เดือน.................................พ.ศ................ ใบงานที่ 1 การจำแนกสิ่งมีชีวติ






Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook