BIOมหาสนกุ รายสปั ดาห์ www.Khwamhasamanprachamban.com จบในเล่ม พมิ พครงั้ ท่ี 1 พทุ ธศักราช 2564 ราคา 15 บาท จาํ นวนพมิ พ 1 เลม บรษิ ทั Khwamhasamanprachamban
เพยี งซ้ือบะหมกี่ ่ึงสาํ เรจ็ รูป ตรา หมามา รสชาติใด ขนาดใดก็ได แลวสงรหสั มาท่ี *607 * ตามดวยรหสั # และโทรออก ก็จะมีสิทธิล์ นุ เท่ียวรอบโลก กับบะหมกี่ ่ึงสาํ เรจ็ รปู ตรา หมา มา ตัง้ แตวันนี้ถงึ วันที่ 31 ม.ี ค. 2564
จนั ทรเ์ จา้ ขา กฏหมาย ถือว่าดวงจันทร์เปนสมบัติร่วมกัน อวกาศ ของมนุษยชาติ ตามสนธิสัญญาที ใช้บังคับกิจกรรมของรัฐบนดวง จันทร์ ดวงดาวและวัตถุอวกาศ อืนๆ เมือ ค.ศ.1979 ดวงจนั ทร์ มีการหมุนรอบตัวเอง เรียกว่า การหมุนสมวาร (SYNCHRONOUS ROTATION)
อาณาจักรพืช Division Bryophyta มีขนาดเล็ก มีโครงสร้างง่าย ๆ ยังไม่มีราก ลําต้นและใบ ทีแท้จริง ชอบอาศัยอยู่ตามทีชุ่มชืน การสืบพันธุ์แบบ อาศัยเพศยังต้องอาศัยนาํ สาํ หรับให้สเปร์มทีมีแฟลกเจลลา (flagella) ว่ายไปผสมกับไข่ ต้นทีพบเห็นโดยทัวไปคือแกมี โทไฟต์ (มีแกมีโทไฟต์เด่น) รูปร่างลักษณะมีทังทีเปนแผ่น หรือแทลลัส (thallus) และคล้ายลาํ ต้นและใบของ พืชชันสูง (leafy form) มีไรซอยด์ (rhizoid) สําหรับยึด ต้นให้ติดกับดินและช่วยดูดนําและแร่ธาตุ Division Psilophyta ไดใ นประเทศไทย ไดแ ก Psilotum รูจักกนั ในช่อื ไทยวา หวายทะนอย สปอโรไฟตของพืชนี้ มีรูปรางลักษณะงายๆ คอื มีแตล ําตนยงั ไมม ีรากและใบ ลําตน มีลักษณะเป็นไมเน้ือออ นขนาดสงู ประมาณ 20 –30 เซนติเมตร ข้ึนอยตู ามพ้นื ดิน (tcrrestrial) หรือเกาะตดิ กับ ตนไมอ ่นื (epiphyte) ลาํ ตน แบงออกเป็น 2 สวน คอื สวนท่อี ยใู ตดนิ เป็นลาํ ตน ชนิดไรโซม (rhizome) มสี นี ้ําตาล และมีไรซอยดทํา หน าทีด่ ดู น้ําและแรธ าตุ ลําตน สว นท่ีอยูเหนือพ้นื ดนิ (acrial stem) มสี เี ขยี ว มีลักษณะเป็นเหลย่ี ม ลาํ ตนสว นนี้ทําหน าทส่ี ังเคราะห แสง ทัง้ ลาํ ตนใตดินและลาํ ตนเหนือพ้นื ดิน แตกกิ่งเป็น 2 แฉก (dichotomous branching) ทีส่ ว นของลําตน เหนือพ้นื ดนิ มรี ะยางค เล็กๆ (appcndage) ย่นื ออกมาเห็นไดทวั่ ไป สปอโรไฟตท เ่ี จรญิ ตน ท่จี ะสรา งอบั สปอรท มี่ รี ปู รางเป็น 3 พู ทซ่ี อกของระยางคบนลาํ ตน เหนือพ้นื ดนิ อบั สปอรสรา งสปอรชนิดเดียว แกมีโทไฟตมีขนาดเล็ก สนี ้ําตาลไมมีคลอโรฟิลล รปู รา งเป็นแทงทรงกระบอก แตกแขนง ได Division Lycophyta สปอโรไฟตของพืชดวิ ชิ นั นี้มรี าก ลาํ ตน และใบครบทุกสวน มีลักษณะเป็นไมเน้ือออนทีม่ ขี นาดไมใหญมากนัก พวกท่เี จริญอยบู นพ้นื ดิน อาจมลี ําตน ตัง้ ตรงหรอื ทอดนอน บางชนิดอาศยั เกาะบนตน ไมอ ่นื ลาํ ตนแตกกงิ่ เป็น 2 แฉก ใบมีขนาดเลก็ เป็นใบแบบไมโครฟิลล (microphyll) คือเป็นใบท่มี ีเสนใบเพียงเสน เดียว สปอโรไฟตที่เจริญเตม็ ที่แลว จะสรา งอบั สปอรบ นใบทีม่ กั มีรูปรางและขนาดแตกตา ง ไปจากใบทีพ่ บทวั่ ไป เรยี กใบชนิดนี้วา สปอโรฟิลล (sporophyll) ซ่งึ จะมาเรียงซอนกนั แนนอยูทปี่ ลายกง่ิ เป็นโครงสรางทเ่ี รียกวา สโต รบิลสั (strobilus) หรือโคน (cone) พืชในดิวชิ ันนี้มีทัง้ ท่ีสรางสปอรช นิดเดยี วและ 2 ชนิด ตัวอยา งทรี่ ูจักกนั ดีไดแ ก Lycopldium และ Selaginella Lycopldium รจู ักในช่ือไทยวา ชองนางคล่ี สรอ ยสกุ รม สามรอ ยยอด และหางสิงหเ ป็นตน ที่พบในปัจจุบนั มี ประมาณ 200 ชนิด ใบในขนาดเทา ๆ กนั เรยี งตัวเป็นเกลยี วโดยรอบลําตนและก่งิ เป็นพชื ทีส่ รา งสปอรชนิดเดียว แกมีโทไฟตมขี นาด เลก็ บางชนิดมคี ลอโรฟิลลเ จริญอยูบ นพ้ืนดนิ บางชนิดไมม คี ลอโรฟิลลเ จริญอยูใ ตด ิน
Division Sphenophyta พชื ทีม่ ีทอลําเลยี งในดิวชิ ันนี้มเี พียง วงศเ ดยี ว คอื Equisetaceae แกมีโตไฟตมขี นาดเล็ก เจริญอยูใตด ิน สปอ โรไฟตมขี นาดใหญ อายยุ ืน มซี ิลกิ า ลําตนเป็นขอปลองชัดเจน ปลอ งเป็นรอ งและสนั ขอ มใี บแบบไมโครฟิลล อยูรอบขอเรียงแบบ whorl เป็น homosporous plant โดยสปอแรงเจียมเจริญอยบู นโครงสรา งท่ีเรียกวาสปอ แรงจโิ อฟอร (sporangiophore) Division Pterophyta มชี ่อื ทัว่ ไปวา เฟิรน (fern) มีจาํ นวนมากทีส่ ุดในบรรดาพโรไฟตของเฟิรนมีราก ลาํ ตนและใบเจริญดี เฟิรนสวน ใหญม ลี ําตน ใตดนิ ใบของเฟิรน เรยี กวา ฟรอนด (frond) เป็นสว นทีเ่ หน็ เดนชัด มขี นาดใหญเป็นใบแบบเมกะ ฟิลล (megaphyll) มรี ูปรางลักษณะเป็นหลายแบบ มีทัง้ ทเี่ ป็นใบเดี่ยว (simple leaf) และใบประกอบ (compound leaf) ใบออนของเฟิรนมลี กั ษณะพิเศษคือ จะมว นเป็นวง (circinate venantion) สปอโรไฟตท ่ี เจรญิ เตม็ ท่ีจะสรา งอบั สปอร ซ่งึ มารวมกลมุ อยทู ่ดี านไดใบ แตล ะกลมุ ของอบั สปอรเ รียกวา ซอรัส (sorus) เฟิรนสวนใหญสรา งสปอรชนิดเดยี ว ยกเวน เฟิรนบางชนิดทอ่ี ยใู นน้ํา และทชี่ ้นื แฉะ ไดแก จอกหหู นู แหนแดง และผักแวน มีการสรา งสปอร 2 ชนิด แกมโี ทไฟตของเฟิรนที่สรา งสปอรช นิดเดยี ว มีลักษณะเป็นแผน แบน บางสีเขยี ว (มคี ลอโรฟิลล) ดานลา งมีไรซอยด สวนใหญมักมรี ูปรางคลา ยรูปหวั ใจ (prothallus) Division Coniferophyta เป็นจิมโนสเปิรม ท่ีมีจาํ นวนมากท่สี ดุ มีหลายสกลุ ดว ยกนั ท่รี จู ักกันดคี ือ Pinus ไดแ ก สนสองใบ และสนสามใบ เป็นตน สปอโรไฟตข อง Pinus มี ลกั ษณะเป็นไมยืนตน ขนาดคอ นขา งใหญ และแตกก่ิงกานสาขาจํานวนมาก ใบมีขนาดเล็ก รปู รา งคลายเข็ม อยรู วมกนั เป็นกลุม สปอโรไฟตทีเ่ จรญิ เต็ม ที่จะสรางโคนเพศผูที่มขี นาดเลก็ และโคนเพศเมียท่มี ขี นาดใหญบ นตน เดียวกัน
Division Cycadophyta พชื ดิวิชนั นี้มีอยปู ระมาณ 60 ชนิด ตวั อยา งทรี่ จู ักกนั ดคี ือ พวกปรง (Cycas) สปอโรไฟตมีลําตนอวบ เตยี้ และมกั ไมแ ตกแขนง มใี บเป็นใบ ประกอบแบบขนนกขนาดใหญ เกิดเป็นกระจุกท่บี ริเวณยอดของลําตน ใบ ยอยมีรปู รางเรียวยาว และแขง็ สปอโรไฟตทเี่ จรญิ เตม็ ที่จะสรางโคนเพศผู และโคนเพศเมยี แยกตวั กนั Division Ginkophyta ปัจจบุ ันมเี พียงชนิดเดียวคือ Ginkgo biloba หรือแปะกวย เป็นพืชท่ขี ้ึนอยู ในเขตอบอุน เชน ในประเทศจีน สปอโรไฟตม ีลกั ษณะเป็นไมย ืนตนขนาด สูงใหญ แตกกิ่งกา นสาขาเป็นจาํ นวนมาก ใบมีรูปรา งคลายพัด สปอโรไฟต ทเ่ี จรญิ เตบิ โตเต็มท่ีจะสรา งโคนเพศผแู ละโคนเพศเมียแยกตน กนั Division Anthophyta แบง ออกไดเ ป็น 2 คลาส คอื 1.Class Dicotyledones ไดแก พืชใบเลีย้ งคูทงั้ หมด มอี ยูป ระมาณ 170,000 ชนิด ลกั ษณะทัว่ ไปคือ มีใบเลีย้ ง 2 ใบ เสน ใบเป็นรา งแห รากเป็นระบบรากแกว และสว นประกอบของดอก (เชน กลีบเลีย้ ง กลบี ดอก) มีจาํ นวนเป็น 4–5 หรือ ทวคี ณู ของ 4–5 2.Class Monocotyledones ไดแ ก พืชใบเลยี้ งเด่ยี วทัง้ หมดมีอยูประมาณ 60,000 ชนิด ลักษณะทวั่ ไป คือ มใี บเลยี้ ง ใบเดียว ใบมเี สนใบเรยี งตวั แบบขนาน รากเป็นระบบรากฝอย สว นประกอบของดอกมจี ํานวนเป็น 3 หรอื ทวีคณู ของ 3 Class Dicotyledones Class Monocotyledones
เกมส์ปริศนา ห า คํา ศั พ ท์ จงหา ชือไฟลัม ทอี ยู่ในอาณาจักรสัตว์ (Kingdom Animalia) จํานวน 9 ไฟลัม ดังนี POLIFERA CHIDARIA PLATYHELMINTHES NEMATODA ANNELIDA MOLLUSCA CHORDATA ARTHROPODA ECHIODERMATA อาณาจกั รสัตวส์ ิงมชี วี ตทจี ดั อยใู่ นอาณาจกั รมีมากกวา่ 1.7 ลา้ นสปชีส์ ในจํานวนนี เปนแมลงประมาณ 6 แสนชนิด สตั วถ์ ือเปนสิงมีชีวตทีมคี วามสําคญั ต่อระบบนิเวศ ในแง่ของผบู้ รโภค ซงึ เปนผลทาํ ใหม้ ีการถ่ายทอดพลังงานไปยงั ผูบ้ รโภคระดับต่างๆ นอกจากนสี ตั วย์ ังเปนตัวทําให้เกดิ แกส๊ คาร์บอนไดออกไซดซ์ งึ มคี วามสําคญั ในการ สังเคราะหด์ ว้ ยแสงของพชื และกอ่ ให้เกดิ ความสมดุลในธรรมชาติ
จับคู่...กันเถอะ จงจบั คู่ ชือกับภาพ ของสิงมชี วี ตในอาณาจักรโปรติสตา (Kingdom Protista) ใหถ้ ูกต้อง Division Diplomonadida Division Parabasala Division Kinetoplastida Division Euglenophyta Division Dinoflagellata Division Apicomplexa
ตข้นอกงไําวเนรสั ดิ ขณะนียังไม่มีใครทราบชดั เจนถงึ แหล่งกําเนดิ ของเชอื ไวรัสโคโรนาสายพนั ธุใ์ หม่ ก่อนหน้านมี กี าร สนั นิษฐานวา่ ไวรัสชนิดนีอาจเริมติดตอ่ จากสตั วป์ ามาสู่คน โดยมีตน้ ตอของการแพร่ระบาดจากงูเห่าจีน (Chinese cobra) และงสู ามเหลียมจีน (Chinese krait) ทนี ํามาวางจาํ หน่ายในตลาดสดเมืองอฮู่ ัน ซงึ เปนสถานทพี บผู้ตดิ เชอื กล่มุ แรก ๆทมี ผูว้ จิ ัยสนั นษิ ฐานวา่ งูอาจเปนสัตวต์ ัวกลางทีส่งตอ่ เชอื ไวรัส โคโรนาสายพนั ธใุ์ หม่จากค้างคาวมาสคู่ น เนืองจากงูพิษทอี าศัยอยใู่ นธรรมชาตลิ ่าค้างคาวในถาํ เปน อาหาร แต่กย็ งั คงมีขอ้ สงสยั วา่ ไวรัสโคโรนาสามารถปรับตวั ให้อยอู่ าศัยและขยายพันธใุ์ นร่างกายของทัง สัตวเ์ ลอื ดเย็นและสัตวเ์ ลือดอ่นุ ไดอ้ ยา่ งไร องค์การอนามัยโลก ระบุวา่ ผู้ติดเชือไวรัสโคโรนาสายพันธ์ุใหม่ จะมอี าการเริมแรกคอื มีไข้ ตามมาดว้ ย อาการอาการไอแห้ง ๆ หลังจากนันราว 1 สัปดาหจ์ ะมปี ญหาหายใจติดขดั ผู้ปวยอาการหนกั จะมอี าการ ของผปู้ วยปอดบวมอักเสบร่วมดว้ ย หากอาการรุนแรงมากอาจทาํ ให้อวยั วะภายในลม้ เหลวขณะทีกรมควบคมุ โรค กระทรวงสาธารณสุข แนะนาํ วา่ หากผูท้ ีเดนิ ทางมาจากพนื ทีเสียงการระบาดของโรคมีอาการไข้ ร่วมกับ อาการทางเดนิ หายใจอยา่ งใดอยา่ งหนึง เชน่ ไอ เจบ็ คอ มนี ํามูก หายใจเหนือยหอบ ควรรีบพบแพทย์ ทนั ที จวาธิ กปี เชอองื กโรันค ปจจุบนั ยังไมท่ ราบชดั เจนวา่ เชอื ไวรัสโคโรนาสายพันธใุ์ หม่แพร่กระจายจากคนสูค่ นได้อย่างไร แต่เชือ ไวรัสชนดิ คลา้ ยกันแพร่ผา่ นทางละอองของเหลวทีออกมาจากการไอและจามคาํ แนะนาํ ทีดที สี ดุ จาก องค์การอนามัยโลกคอื เราสามารถปองกันตวั เองจากไวรัสทตี ดิ ตอ่ ทางระบบทางเดินหายใจทกุ ชนิดได้ ดว้ ยการล้างมอื เลยี งการเขา้ ใกล้คนทไี อหรือจาม และพยายามอย่าสมั ผัสใบหน้า ดวงตา จมกู และปาก ทําอยางไรเพ่อื ป องกันการตดิ เช่ือและการแพรไวรสั ขอบคุณ : BBC THAI
จงหา ชอื ไฟลัม ทีอยูใ่ นอาณาจกั รสตั ว์ (Kingdom Animalia) จํานวน 9 ไฟลัม ดงั นี POLIFERA CHIDARIA PLATYHELMINTHES NEMATODA ANNELIDA MOLLUSCA CHORDATA ARTHROPODA ECHIODERMATA อาณาจักรสตั วส์ ิงมชี ีวตทจี ัดอยู่ในอาณาจักรมมี ากกวา่ 1.7 ลา้ นสปชีส์ ในจาํ นวนนี เปนแมลงประมาณ 6 แสนชนิด สัตวถ์ อื เปนสงิ มีชวี ตทีมคี วามสาํ คัญต่อระบบนิเวศ ในแง่ของผ้บู รโภค ซงึ เปนผลทําให้มีการถ่ายทอดพลังงานไปยงั ผ้บู รโภคระดับตา่ งๆ นอกจากนสี ตั วย์ งั เปนตัวทําให้เกดิ แกส๊ คาร์บอนไดออกไซด์ซงึ มคี วามสาํ คญั ในการ สังเคราะหด์ ว้ ยแสงของพืช และก่อให้เกดิ ความสมดลุ ในธรรมชาติ
จงจบั คู่ ชอื กบั ภาพ ของสงิ มชี วี ตในอาณาจกั รโปรติสตา (Kingdom Protista) ใหถ้ กู ตอ้ ง Division Diplomonadida ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ---------------------------------------------------- Division Parabasala Division Kinetoplastida Division Euglenophyta Division Dinoflagellata Division Apicomplexa
ผู้จัดทํา นายเจตษฎา สรุ เดช เลขที8 มธั ยมศึกษาปที 6/7 เสนอ อาจารยน์ รศรา วรรณโกษิตย์ วชาชวี วทยา (BIOLOGY) ว.30103 ภาคเรยนที 2 ปการศึกษา 2563 โรงเรยนธญั บรุ
Search
Read the Text Version
- 1 - 12
Pages: