Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บทพากย์เอราวัณ

บทพากย์เอราวัณ

Published by Narumon Nonrucha, 2022-01-20 03:50:48

Description: บทพากย์เอราวัณ

Keywords: บทพากย์เอราวัณ

Search

Read the Text Version

เอบทรพาาวกยณั ์ คุณครนู ฤมล นนลอื ชา

ผู้แตง่ ผ้แู ต่ง : พระบาทสมเดจ็ พระพุทธเลศิ หลา้ นภาลยั (รัชกาลท่ี ๒) บทพากย์รามเกยี รติ์ ใช้พากย์สาหรับการแสดงโขน แต่ละตอน รชั กาลที่ ๒ พระราชนพิ นธ์บทพากย์รามเกยี รตทิ์ มี่ ีชอ่ื เสยี งไว้ 4 ตอน คอื ๑. ตอน นางลอย ๒. ตอน นาคบาศ ๓. ตอน พรหมมาศ ๔. ตอน เอราวัณ

ลกั ษณะคาประพนั ธ์ บทพากยเ์ อราวัณ แต่งด้วยกาพย์ฉบงั ๑๖ คือ ๑ บท มี ๑๖ คา แบ่งออกเปน็ ๓ วรรค วรรคแรกมจี านวน ๖ คา วรรคที่ ๒ มี ๔ คา และวรรคสุดทา้ ยมี ๖ คา

เนอื้ เรอ่ื งยอ่ บทพากยเ์ อราวัณ มเี นอ้ื หามาจากเร่อื ง รามเกียรติ์ ตอน ศกึ อนิ ทรชติ กล่าวถงึ อินทรชติ แปลงกายเป็นพระอินทร์ทรงช้างเอราวณั เสดจ็ มายงั สนามรบ พระลักษณ์พรอ้ มด้วยกองทพั ลิงตา่ งคิดวา่ เปน็ กองทพั ของพระอนิ ทร์ หลงเพลนิ ดไู ม่ทนั ระวงั องค์ จงึ ถูกศรพรหมมาศ ของพระอินทรแ์ ปลงสลบไปตามกนั

เนอื้ เรือ่ งยอ่ ฝา่ ยพระรามได้เสดจ็ ออกจากพลับพลา มาตามหาพระลกั ษณ์ เห็นพระลกั ษณส์ ลบอยู่ คิดว่าพระลักษณ์ตายด้วยพิษศรพรหมมาศ กร็ อ้ งไหค้ ร่าครวญคดิ ถึงพระลักษณจ์ นสลบไป ความโดดเด่นของบทพากย์เอราวัณ อยู่ตรงที่การพรรณนาถงึ ชา้ งเอราวณั อย่างพิสดาร ทาใหผ้ อู้ า่ นเหน็ ถงึ ภาพความย่ิงใหญ่ สมเกยี รตยิ ศของพระอินทร์

อนิ ทรชติ คอื ? อนิ ทรชติ มนี ามเดมิ ว่า “รณพักตร์” เปน็ โอรสคนโต ของทศกณั ฐ์กบั นางมณโฑ เคยรบชนะพระอินทร์ ทศกัณฐจ์ ึงตั้งช่ือใหใ้ หมว่ า่ ‘’อินทรชติ ’’ แปลวา่ ผู้พชิ ิต พระอนิ ทร์ อนิ ทรชติ เคยศึกษามนต์ มหากาลอัคคี สาหรบั บูชา พระอิศวร พระพรหม พระนารายณ์ และนง่ั ภาวนาอยู่ อนิ ทรชิต ท่าเดยี วครบ ๗ ปี

อนิ ทรชติ คือ ? พระอิศวรประทานศรพรหมมาศและบอกเวทแปลง กายเป็นพระอนิ ทร์ พระพรหมประทานศรนาคบาศ และ ให้พรว่าเมื่อตายให้ตายบนอากาศ ถ้าหัวขาดถงึ พน้ื เมื่อไหรจ่ ะเกดิ ไฟบรรลยั กลั ปล์ ้างโลก ต้องเอาพานของ พระพรหมมารองรบั เท่านั้น สว่ นพระนารายณ์ประทาน ศรวษิ ณปุ าณมั อินทรชิต

บทพากย์เอราวณั ๏ อนิ ทรชิตบิดเบอื นกายนิ เหมอื นองคอ์ มรนิ ทร์ ทรงคชเอราวัณ เผือกผอ่ งผิวพรรณ ๏ ชา้ งนิรมติ ฤทธิแรงแข็งขัน สสี งั ข์สะอาดโอฬาร์ อนิ ทรชติ แปลงกายเหมอื นพระอนิ ทร์ทรงชา้ งเอราวณั ซง่ึ ช้างเอราวัณ (แปลง) เป็นช้างเผือกท่ีมีรปู รา่ งใหญโ่ ตแข็งแรง

บทพากย์เอราวณั ๏ สามสิบสามเศยี รโสภา เศียรหน่ึงเจด็ งา ดั่งเพชรรัตน์รูจี ๏ งาหนึง่ เจ็ดโบกขรณี สระหนง่ึ ย่อมมี เจ็ดกออุบลบนั ดาล ชา้ งเอราวัณ มีเศียรที่งดงาม ๓๓ เศียร แตล่ ะ เศียรหน่ึงมี ๗ งา ส่องแสงดั่งเพชร งาหนึง่ งามสี ระบวั อยู่ ๗ สระ และสระบัวหน่ึงสระมีบัวอยู่ ๗ กอ

บทพากยเ์ อราวัณ ๏ กอหน่ึงเจ็ดดอกดวงมาลย์ ดอกหนง่ึ แบง่ บาน มกี ลบี ไดเ้ จ็ดกลบี ผกา เจด็ องคโ์ สภา ๏ กลีบหนึง่ มีเทพธดิ า แนง่ น้อยลาเพานงพาล กอบัวหนึง่ กอมีดอกบวั อยู่ ๗ ดอก และบวั หนง่ึ ดอกมี กลีบบวั อยู่ ๗ กลีบ บวั ๑ กลีบมีเทพธิดาผอู้ อ่ นเยาวว์และ งดงามอยู่ ๗ องค์

บทพากย์เอราวัณ ๏ นางหนึง่ ยอ่ มมบี ริวาร อีกเจด็ เยาวมาลย์ ลว้ นรูปนิรมติ มายา ชาเลอื งหางตา ๏ จับระบาราร่ายสา่ ยหา ทาทดี ังเทพอปั สร เทพธิดา ๑ องคม์ ีบริวาร ๗ นาง แต่ละนางรา่ ยรา และชายตาทาท่าทางงดงามราวกับนางฟ้า

บทพากย์เอราวณั ๏ มีวมิ านแก้วงามบวร ทุกเกศกุญชร ดังเวไชยนั ตอ์ มรินทร์ ซองหางกระวนิ ๏ เครือ่ งประดับเก้าแกว้ โกมนิ สรอ้ ยสายชนกั ถักทอง ทเี่ ศียรชา้ งทุกเศยี รมีบุษบกวมิ านซ่ึงงามราวกบั วิมาน เวไชยันตข์ องพระอินทร์ เครื่องประดับมี โกมินล้อมแก้วนพเกา้ ซองหางกระวิน สายชนกั ทีล่ ้วนถกั รอ้ ยดว้ ยสรอ้ ยทอง

บทพากยเ์ อราวัณ ๏ ตาขา่ ยเพชรรัตนร์ ้อยกรอง ผา้ ทิพย์ปกตระพอง ห้อยพทู่ ุกหูคชสาร เปน็ เทพบตุ รควาญ ๏ โลทันสารถขี ุนมาร ขับทา้ ยทีน่ ัง่ ชา้ งทรง มผี า้ ทพิ ยป์ กตระพองซ่ึงร้อยประดบั ดว้ ยเพชร มีสายสร้อยห้อยเป็นพลู่ งท่ัวทุกหูชา้ ง ควาญชา้ งคือสารถขี อง อินทรชติ ชือ่ โลทัน แปลงกายเปน็ เทพบตุ รนั่งอยทู่ า้ ยชา้ งเป็น ผู้ขับข่ชี ้าง

บทพากยเ์ อราวัณ ๏ บรรดาโยธาจัตรุ งค์ เปลี่ยนแปลงกายคง เปน็ เทพไทเทวัญ ทัพหลงั สบุ รรณ ๏ ทัพหน้าอารักขไพรสณั ฑ์ กินนรนาคนาคา บรรดาทหารสี่เหลา่ ตา่ งแปลงกายเป็นเทวดา นางฟา้ ทพั หน้าคอื เทพารักษ์ ทัพหลงั คือครุฑ กนิ นร และนาค

บทพากยเ์ อราวัณ ๏ ปกี ซ้ายฤาษิตวทิ ยา คนธรรพป์ ีกขวา ตง้ั ตามตารบั ทพั ชยั โตมรศรชยั ๏ ลว้ นถืออาวธุ เกรียงไกร พระขรรคค์ ทาถ้วนตน ปีกซ้ายแปลงเปน็ วทิ ยาธร ปกี ขวาแปลงเปน็ คนธรรพ์ กองทพั จดั ต้ังตามตาราพิชยั สงคราม เทวดา (แปลง) ทกุ องค์ ล้วนถอื อาวุธตา่ ง ๆ เชน่ โตมร ศร พระขรรคแ์ ละคทา

บทพากยเ์ อราวณั ๏ ลอยฟา้ มาในเวหน รบี เร่งรี้พล มาถงึ สมรภมู ชิ ยั เหาะเหนิ มาบนฟากฟา้ รีบเรง่ เคลือ่ นพลเขา้ สสู่ นามรบ

๏ ชา้ งเอราวณั มีเศยี ร ๓๓ เศียร มงี า ๒๓๑ งา มีสระ ๑,๖๑๗ สระ มกี อบัว ๑๑,๓๑๙ กอ มดี อกบวั ๙๗,๒๓๓ ดอก มกี ลีบดอก ๕๕๔,๖๓๑ กลบี มีนางฟ้า ๓,๘๘๒,๔๑๗ องค์ มีบรวิ าร ๒๗,๑๗๖,๙๑๙ คน

บทพากย์เอราวณั ๏ เม่อื น้นั จงึ พระจกั รี พอพระสรุ ิย์ศรี อรุณเรืองเมฆา เฟอ่ื งฟงุ้ วนา ๏ ลมหวนอวลกลิ่นมาลา นิวาสแถวแนวดง พระอาทิตย์ขน้ึ สอ่ งแสงเรอื งรองไปท่ัวเมฆ ลมพัดกลนิ่ ดอกไมค้ ลุ้งไปทว่ั ในท่พี ักนนั้ ซ่ึงอยแู่ ถวปา่

บทพากย์เอราวณั ๏ ผ้ึงภหู่ มคู่ ณาเหมหงส์ รอ่ นราถาลง แทรกไซ้ในสรอ้ ยสุมาลี ไก่ขันปีกตี ๏ ดเุ หวา่ เรา้ เร่งพระสุริย์ศรี ก่กู อ้ งในท้องดงดาน หมู่แมลงบนิ ลงมาดอมดมดอกไม้ นกดเุ หว่าเตือน พระอาทิตย์ว่าเปน็ เวลาเช้าแล้ว ไก่ต่างกระพอื ปีกและขันเสยี ง ร้องไปท่ัวปา่

บทพากยเ์ อราวัณ ๏ ปกั ษาตน่ื ตาขันขาน หาคูเ่ คยี งประสาน สาเนียงเสนาะในไพร สร่างแสงอโณทัย ๏ เดือนดาวดับเศร้าแสงใส ก็ผ่านพยับรองเรอื ง นกตา่ งประสานสง่ เสียงรอ้ ง อันไพเราะออกมาทว่ั ปา่ แสงดาวหายเร่ิมไป และแสงอาทติ ย์กาลงั ขึ้นปรากฏขน้ึ มา

บทพากยเ์ อราวัณ ๏ จับฟา้ อากาศแลเหลอื ง ธิบดินทรเ์ ธอบรรเทอื ง บรรทมฟ้ืนจากไสยา ไพโรจน์รจู ี ๏ เสด็จทรงรถแก้วโกสยี ์ จะแขง่ ซึง่ แสงสรุ ยิ ์ใส ท่ัวฟา้ เปลี่ยนเปน็ สีเหลอื ง พระรามกเ็ ริ่มต่นื จากการนอน เสดจ็ ข้นึ ราชรถทีเ่ ป็นสที องคล้ายกบั จะแข่งแข่งแสงกับดวง อาทิตย์

บทพากยเ์ อราวณั ๏ เทียมสนิ ธพอาชาไนย เรงิ รอ้ งถวายชัย ชันหูระเหดิ หฤหรรษ์ กรกุมพระขรรค์ ๏ มาตลสี ารถีเทวญั ขบั รถมากลางจัตรุ งค์ เทียมดว้ ยมา้ ศกึ ที่มกี าลังฮึกเหิม เตม็ ไปด้วยความรา่ เริง มาตลีเป็นสารถี ถอื พระขรรค์ ขบั รถมายังกลางกองทัพ ๔ เหลา่

บทพากยเ์ อราวัณ ๏ เพลารอยพลอยประดบั ดมุ วง กกึ กอ้ งกากง กระทบกระทง่ั ธรณี ๏ มยรุ ฉัตรชุมสายพรายศรี พัดโบกพชั นี กบี่ระบายโบกลม เพลาและลอ้ รถประดับดว้ ยพลอย กระทบพื้นเสียงดงั กกึ ก้อง มพี ลทหารลิงคอยถือฉตั รและโบกพดั

บทพากย์เอราวณั ๏ องึ อินทเภรีตรี ะงม แตรสังขเ์ สยี งประสม ประสานเสนาะในไพร เล่อื นลั่นสน่นั ใน ๏ เสยี งพลโหร่ อ้ งเอาชัย พภิ พเพยี งทาลาย เสยี งแตรสงั ขเ์ คลือ่ นทัพดงั ก้องปา่ ไพร่พลโห่ร้องเอาชัย ดังสนนั่

บทพากย์เอราวัณ ๏ สตั ภัณฑ์บรรพตทั้งหลาย อ่อนเอียงเพยี งปลาย ประนอมประนมชมชัย ๏ พสธุ าอากาศหวาดไหว เนือ้ นกตกใจ ซุกซอ่ นประหวนั่ ขวญั หนี ภเู ขาเอนเอยี งทาความเคารต่อพระราม แผ่นดนิ สะเทือน ฝงู สัตวท์ ง้ั หลายตกใจ หนเี ข้าทีซ่ ่อน

บทพากยเ์ อราวัณ ๏ ลกู ครฑุ พลัดตกฉมิ พลี หัสดนิ อินทรี คาบชา้ งก็วางไอยรา หกั ถอนพฤกษา ๏ วานรสาแดงเดชา ถอื ต่างอาวุธยุทธยง ลูกครุฑตกจากวิมานครฑุ นกหสั ดนิ ท่คี าบช้างอย่กู ว็ างลง ทหารลิงกส็ าแดงอทิ ธฤิ ทธิ์หักถอนต้นไมม้ าถอื ตา่ งอาวุธ

บทพากยเ์ อราวณั ๏ ไม้ไหลย้ ูงยางกลางดง แหลกลูล่ ้มลง ละเอยี ดดว้ ยฤทธโิ ยธี เทวญั จนั ทรี ๏ อากาศบดบังสรุ ยิ ์ศรี ทุกชนั้ อานวยอวยชยั ตน้ ไม้โคน่ ล้มกระจัดกระจาย ด้วยอานาจของกองทหาร แสงอาทิตยล์ ดความรอ้ นแรง เหลา่ เทพยาดาทกุ ชน้ั อวยชยั

บทพากย์เอราวัณ ๏ บ้างเปดิ แกลแกว้ แววไว โปรยทพิ มาลัย ซอ้ งสาธุการบชู า พุ่มบษุ ปมาลา เร่งรดั หัสดิน ๏ ชกั รถรี่เร่อื ยเฉือ่ ยมา กงรถไม่จดธรณนิ ทร์ ๏ เรง่ พลโยธาพานรินทร์ วานรให้เรง่ รีบมา เหล่าเทวดาต่างโปรยพวงดอกไมท้ ิพย์ สง่ เสยี งสรรเสริญบูชา ชักรถเคลื่อนไปบนพุม่ ดอกไม้โดยล้อไมต่ ดิ ดนิ เรง่ ใหไ้ พรพ่ ลวานรตดิ ตามไป

บทพากย์เอราวณั ๏ เมอ่ื นั้นพระศรอี นชุ า เอือ้ นอรรถวัจนา ตรัสถามสุครพี ขนุ พล ๏ เหตุไฉนสหสั นยั นเ์ สดจ็ ดล สมรภูมิไพรสณฑ์ เธอมาดว้ ยกลอันใด พระลกั ษมณจ์ ึงไดต้ รสั ถามสคุ รีพ เหตใุ ดพระอินทรจ์ ึง เสดจ็ มาในสนามรบ

บทพากย์เอราวัณ ๏ สุครีพทูลทัดเฉลยไข ทุกทีสหัสนัยน์ เสดจ็ ดว้ ยหมเู่ ทวา บัดนเี้ ธอมา ๏ อวยชัยถวายทพิ มาลา เห็นวิปรติ ดูฉงน สุครพี ทูลวา่ ธรรมดาพระอนิ ทร์จะเสร็จมาพร้อมเทวดา ทจี่ ะมาอวยพรพร้อมดว้ ยดอกไม้ แตค่ ร้ังน้ีเหน็ แลว้ แปลก

บทพากยเ์ อราวัณ ๏ ทรงเครือ่ งศสั ตราแย่งยล ฤาจะกลบั เปน็ กล ไปเขา้ ด้วยราพณอ์ าธรรมม์ คอยดสู าคญั ๏ พระผเู้ รืองฤทธิแข็งขัน อยา่ ไว้พระทัยไพรี แต่งกายพรอ้ มรบ อาจเป็นกลของทศกัณฐ์ พระลักษณ์โปรดระวัง อย่าไวใ้ จศัตรู

บทพากย์เอราวณั ๏ เมือ่ นน้ั อนิ ทรชิตยักษี ตรสั สง่ั เสนี ให้จบั ระบาราถวาย เคลิบเคลม้ิ วรกาย ๏ ใหอ้ งคอ์ นชุ านารายณ์ จะแผลงซ่งึ ศสั ตรศรพล อินทรชิตส่งั ให้เสนาระบาถวย ให้พระลกั ษมณเ์ คลิบเคล้ิม จะไดแ้ ผลงศรสังหาร

บทพากย์เอราวณั ๏ อินทรชติ สถติ เหนือเอรา วัณทอดทัศนา เหน็ องค์พระลกั ษณ์ฤทธริ งค์ จึงจับศรทรง ๏ เคลิบเคลิ้มหฤทัยใหลหลง พรหมาสตรอ์ นั เรืองเดชา อนิ ทรชิตน่งั อยบู่ นช้างเอราวัณแล้วเหน็ พระลกั ษณ์ ซง่ึ กาลังหลงไหลในรปู พระอนิ ทร์ท่ีอินทรชติ แปลงมา อินทรชิตจงึ จับศรพรหมมาศขึน้ มา

บทพากยเ์ อราวณั ๏ ทนู เหนอื เศียรเกลา้ ยักษา หมายองคพ์ ระอนชุ า กแ็ ผลงสาแดงฤทธิรณ โลกล่ันอึงอล ตอ้ งองค์อนิ ทรีย์ ๏ อากาศก้องโกลาหล อานาจสะท้านธรณี ๏ ศรเตม็ ไปทั่วราศี พระลกั ษมณ์ก็กลิง้ กลางพล ยกศรขึ้นเหนือหัวแลว้ ก็แผลงศรใสพ่ ระลกั ษณ์ เสยี งดงั สนั่นไป ทวั่ ฟ้าดินในโลก เม่ือศรโดนตวั พระลกั ษณ์กล็ ม้ ลงไปกลางกองทัพทนั ที

วิเคราะห์ เอบทรพาาวกยัณ์ คณุ ครนู ฤมล นนลอื ชา

พจิ ารณาบทประพนั ธ์ นพรตั นแ์ ก้ว 9 ประการ เพชร ทับทมิ มรกต บษุ ราคัม โกเมน นลิ มุกดา เพทาย ไพฑรู ย์ ๏ เครอ่ื งประดับเก้าแกว้ โกมนิ ซองหางกระวนิ กระวนิ หมายถงึ ซองหาง หมายถึง หว่ งทเ่ี ก่ยี วสาหรบั สัปคับชา้ ง สรอ้ ยสายชนกั ถกั ทอง ชเคนรกั่ือหงหผ้อมูกายชย้าพถง๏งึ ูท่ ทาุกตดหว้ายคูขเา่ชชอืยสกเาเพปรน็ ชปรมรัตนร์ อ้ ยกรอง เครอ่ื งคลอ้ งโคนหางช้าง ผ้าทิพย์ปกตระพอง ผ้าทิพย์ หมายถึง ผา้ ทคี่ ลุมตระพองช้างตกแต่งสวยงาม ๏ โลทันสารถขี นุ มาร เปน็ เทพบตุ รควาญ ขับทา้ ยท่นี ่ังชา้ งทรง

พจิ ารณาบทประพันธ์ ๏ บรรดาโยธาจตั ุรงค์ เปลีย่ นแปลงกายคง เทพไทเทวัญ หมายถึง ทหารทั้ง 4 เหลา่ เหล่าชา้ ง เหล่ารถ เหลา่ ม้า และเหลา่ ราบ(คน) ๏ ทพั หน้าอารักขไพรสัณฑ์ ทัพหลงั สุบรรณ การจัดกองทพั แปลงของอนิ ทรชิต กินนรนาคนาคา ทัพหนา้ เทวดาอารกั ษ์ ๏ ปกี ซ้ายฤาษิตวิทยา คนธรรพ์ปกี ขวา ทัพหลงั เปน็ ครฑุ นาค กนิ นร ตง้ั ตามตารบั ทพั ชยั ปกี ซ้ายฤาษี ปีกขวาคนธรรพ์ ๏ ล้วนถอื อาวุธเกรียงไกร โตมรศรชัย พระขรรคค์ ทาถ้วนตน มีอาวธุ 4 ชนดิ ไดแ้ ก่ โตมร ศร พระขรรค์ คทา

วเิ คราะหค์ ุณคา่ ด้านเนื้อหา สาระสาคญั ทีป่ รากฏคอื “ความประมาทเพราะลมุ่ หลงเปน็ เหตุ ให้เกิดความสูญเสยี และพา่ ยแพ้” ดงั ท่ีปรากฏในเรอ่ื ง เหตุทพ่ี ระลกั ษมณต์ ้องศพรหมาสตรร เพราะหลงมองความงามของขบวนทพั พระอนิ ทร์ ทง้ั ท่ีสคุ รพี ไดก้ ลา่ วเตอื นแตเ่ พราะประมาทจึงต้องพา่ ยแพ้ในศกึ ครง้ั นี้

วเิ คราะหค์ ุณคา่ ดา้ นวรรณศิลป์ กลวิธกี ารประพันธ์ - สัมผัสสระ เชน่ ผึ้งภู่หมู่คณาเหมหงส์ รอ่ นราถาลง แทรกไซใ้ นสรอ้ ยสุมาลี - สัมผสั อักษร เช่น สร่างแสงอโณทัย เดอื นดาวดับเศรา้ แสงใส กผ็ ่านพยับเรืองรอง

วเิ คราะหค์ ณุ ค่าดา้ นวรรณศลิ ป์ การใชภ้ าพพจน์ ทุกเกศกญุ ชร - อุปมา เช่น มวี มิ านแก้วงามบวร ดงั เวไชยนั ตอ์ ัมรนิ ทร์ - อติพจน์ เชน่ เล่อื นล่ันสน่นั ใน เสียงพลโห่รอ้ งเอาชัย พภิ พเพยี งทาลาย

วเิ คราะห์คณุ คา่ ดา้ นวรรณศิลป์ ออ่ นเอยี งเพยี งปลาย การใชภ้ าพพจน์ - บคุ คลวัต (บุคลาธษิ ฐาน) เชน่ สัตภณั ฑบ์ รรพตทั้งหลาย ประนอมประนมชมชยั

วเิ คราะหค์ ุณคา่ ดา้ นวรรณศลิ ป์ การพรรณนาให้เหน็ ภาพช้างเอราวัณอยา่ งละเอียด ๏ ช้างนิรมิตฤทธแิ รงแข็งขัน เผอื กผอ่ งผวิ พรรณ สีสงั ข์สะอาดโอฬาร์ เศียรหนงึ่ เจด็ งา สระหนง่ึ ย่อมมี ๏ สามสบิ สามเศียรโสภา ด่ังเพชรรตั น์รูจี ๏ งาหน่งึ เจด็ โบกขรณี เจ็ดกออุบลบนั ดาล

วเิ คราะหค์ ณุ คา่ ด้านวรรณศิลป์ การพรรณนาให้เหน็ ภาพช้างเอราวัณอย่างละเอยี ด ๏ กอหนง่ึ เจ็ดดอกดวงมาลย์ ดอกหน่งึ แบ่งบาน มีกลีบได้เจด็ กลีบผกา ๏ กลบี หนึ่งมีเทพธิดา เจ็ดองค์โสภา แน่งนอ้ ยลาเพานงพาล ๏ นางหนึ่งยอ่ มมบี ริวาร อีกเจ็ดเยาวมาลย์ ล้วนรูปนิรมติ มายา

วเิ คราะหค์ ุณคา่ ดา้ นวรรณศลิ ป์ การพรรณนาให้เหน็ ภาพชา้ งเอราวณั อย่างละเอียด ๏ จบั ระบาราร่ายส่ายหา ชาเลืองหางตา ทกุ เกศกญุ ชร ทาทดี ังเทพอัปสร ๏ มีวิมานแก้วงามบวร ดงั เวไชยนั ต์อมรินทร์

วิเคราะห์คุณค่าดา้ นวรรณศลิ ป์ การพรรณนาใหเ้ หน็ ภาพชา้ งเอราวณั อย่างละเอยี ด จากตัวอย่างจะเหน็ ไดว้ า่ มีการพรรณนาให้เห็นภาพชา้ งเอราวณั ท่มี กี ายสขี าวดั่งสสี ังข์ มเี ศียรถึง ๓๓ เศียร แต่ละเศยี รมีงา ๗ งา มีประกายสวยงามแวววาวดง่ั เพชร งาแตล่ ะงามีสระบัว ๗ สระ แต่ละสระมีกอบัว ๗ กอ แต่ละกอมีดอกบวั ๗ ดอก แต่ละดอกจะมี ๗ กลีบ แตล่ ะกลีบมีนางฟ้า ๗ องค์ แตล่ ะองค์มีบรวิ าร ๗ นาง ซ่ึงนางทั้ง ๗ กาลังระบาร่ายราอยู่ทเ่ี ศยี รชา้ ง ทกุ เศยี รจะมีวิมานแก้ว งามดงั่ วมิ านเวไชยนั ต์ของพระอนิ ทร์

วเิ คราะหค์ ณุ ค่าดา้ นวรรณศิลป์ การพรรณนาให้เหน็ ภาพกองทัพของอินทรชิต ๏ บรรดาโยธาจตั รุ งค์ เปลีย่ นแปลงกายคง ทพั หลังสบุ รรณ เป็นเทพไทเทวัญ คนธรรพป์ กี ขวา ๏ ทัพหนา้ อารกั ขไพรสณั ฑ์ กินนรนาคนาคา ๏ ปกี ซ้ายฤาษิตวิทยา ตง้ั ตามตารบั ทพั ชัย

วเิ คราะหค์ ณุ ค่าด้านวรรณศลิ ป์ การพรรณนาให้เหน็ ภาพกองทพั ของอินทรชติ ๏ ลว้ นถืออาวธุ เกรยี งไกร โตมรศรชัย พระขรรคค์ ทาถ้วนตน รบี เรง่ รพี้ ล ๏ ลอยฟา้ มาในเวหน มาถึงสมรภูมชิ ัย

วิเคราะห์คุณคา่ ด้านวรรณศลิ ป์ การพรรณนาใหเ้ หน็ ภาพกองทพั ของอินทรชิต จากตัวอยา่ งจะเห็นได้ว่า มกี ารพรรณนากองทพั ของอินทรชติ ทีแ่ สดงให้เหน็ ถงึ ความยิง่ ใหญแ่ ละความพรอ้ ม เพรียง ซงึ่ ประกอบไปดว้ ยพลทหารยกั ษส์ ีเ่ หลา่ ทพั ที่แปลง กายมา ทพั หน้าเปน็ เทพารกั ษ์ ทัพหลงั เปน็ ครฑุ กินนร นาค ปกี ซา้ ยเปน็ วทิ ยาธร ปีกขวาเป็นคนธรรพ์ถอื อาวุธ พร้อมสรรพ

วเิ คราะหค์ ณุ คา่ ด้านวรรณศลิ ป์ การพรรณนาใหเ้ ห็นบรรยากาศของธรรมชาติยามเช้าตรู่ ๏ ดเุ หวา่ เรา้ เร่งพระสรุ ยิ ศ์ รี ไกข่ ันปีกตี กู่ก้องในท้องดงดาน หาคู่เคียงประสาน ๏ ปักษาต่นื ตาขันขาน สาเนยี งเสนาะในไพร

วเิ คราะห์คณุ ค่าด้านวรรณศลิ ป์ การพรรณนาให้เหน็ ความยงิ่ ใหญ่ของกองทพั พระราม ๏ องึ อินทเภรตี รี ะงม แตรสงั ขเ์ สียงประสม ประสานเสนาะในไพร ๏ เสียงพลโหร่ ้องเอาชยั เลอ่ื นลน่ั สนั่นใน พิภพเพียงทาลาย ๏ สัตภณั ฑ์บรรพตทง้ั หลาย ออ่ นเอียงเพยี งปลาย ประนอมประนมชมชัย


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook