โครงการส่งเสรมิ กระบวนการเรยี นรู้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โครงการสง่ เสรมิ และพฒั นาอาชีพตามแนวทาง หลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง (การขยายพันธ์พุ ชื ) วนั ที่ 9 มกราคม 2565 ณ บา้ นหนังสอื ชุมชน หมู่ 5 ตาบลทา่ มะขาม อาเภอ เมืองกาญจนบรุ ี จงั หวัดกาญจนบุรี หนา้ 1
รายงานการจดั การศกึ ษาต่อเนอื่ ง โครงการสง่ เสรมิ กระบวนการเรียนร้หู ลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง โครงการสง่ เสริมและพัฒนาอาชพี ตามแนวทาง หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (การขยายพันธพ์ุ ืช) วนั ที่ 9 มกราคม 2565 ณ บ้านหนงั สือชุมชน หมู่ 5 ตาบลทา่ มะขาม อาเภอเมอื งกาญจนบุรี จงั หวัดกาญจนบุรี ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย อาเภอเมืองกาญจนบรุ ี Non-formal and Informal Education Centre หนา้ 2
คานา กระทรวงศึกษาธิการ มุ่งจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาสังคมและชุมชนตามแนวคิดชัดการศึกษาเพ่ือการ พฒั นาทย่ี งั่ ยืนตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง โดยใชห้ ลักสูตรและการจดั กระบวนการเรยี นรแู้ บบบูรณา การในรูปแบบของการฝึกอบรม การประชุมสัมมนา การจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การสร้างชุมชนนักปฏิบัติ การเรยี นทางไกล และรูปแบบอื่น ๆ ทเ่ี หมาะสมกับกล่มุ เปา้ หมาย และบรบิ ทของชุมชนแตล่ ะพืน้ ท่ี โดยเนน้ การ สรา้ งจติ สานกึ ความเป็นประชาธปิ ไตย ความเป็นพลเมืองดี การส่งเสรมิ บทบาทสตรี การสรา้ งความเขม้ แข็งของ เศรษฐกจิ ชมุ ชน การบริหารกองทนุ การสรา้ งความม่นั คงดา้ นอาหาร การอนุรักษ์พลงั งาน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิง่ แวดล้อม การบริหารจัดการน้า และการรองรับเข้าสู่ประชาคมอาเช่ียน และหลักสูตรเชงิ บูรณาการเพ่ือ การพัฒนาท่ีย่ังยืนตามแนวคิดของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาชี้ถึงแนวทางการ ดารงอย่แู ละปฏบิ ตั ขิ องประชาชนทุกระดับ ตง้ั แตร่ ะดับครอบครัว ระดับชมุ ชน จนถงึ ระดับรัฐ ทั้งในการพฒั นา และบริหารประเทศให้ดาเนินไปในทาง สายกลาง โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจ เพื่อให้ก้าวทันต่อโลกยุค โลกาภิวัตน์ ความพอเพียง หมายถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล รวมถึงความจาเป็นท่ีจะต้องมีระบบ ภมู ิคุ้มกนั ในตวั ท่ีดีพอสมควร ตอ่ การมีผลกระทบใดๆ อันเกดิ จากการเปลี่ยนแปลงทง้ั ภายนอกและภายใน ทั้งนี้ จะต้องอาศัยความรอบรู้ ความรอบคอบ และความระมัดระวังอย่างยิ่งในการนาวิชาการต่างๆ มาใช้ในการ วางแผนและการดาเนนิ การทกุ ขนั้ ตอน และขณะเดียวกันจะตอ้ งเสริมสร้างพ้นื ฐานจิตใจของคนในชุมชน ให้มี สานกึ ในคณุ ธรรม ความซ่ือสัตย์สจุ รติ และให้มีความรอบรู้ ท่เี หมาะสมดาเนินชีวิตดว้ ยความอดทน ความเพียร มีสติ ปัญญา และความรอบคอบ เพ่ือให้สมดุลและพร้อมต่อการรองรับการเปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็ว และ กวา้ งขวาง ทั้งด้านวัตถุ สงั คม ส่งิ แวดลอ้ ม และวฒั นธรรมจากโลกภายนอกไดเ้ ป็นอย่างดี การพัฒนาโดยสง่ เสรมิ ใหค้ นในชุมชนมีแนวคิดเศรษฐกิจพอเพยี ง จะทาให้กลมุ่ เปา้ หมายมคี วามรู้ความ เข้าใจในวถิ ีชีวิตที่ควรเป็นและจะเปน็ พลงั สาคัญท่ีจะขับเคลอ่ื นแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงใหข้ ยายครอบคลุมทุก ครัวเรือน ซึ่งจะทาให้ชุมชนมีความเข้มแข็งและสามารถพ่ึงตนเองได้อย่างยั่งยืนอนึ่งเพ่ือเป็นการส่งเสริม สนับสนนุ โครงการจดั การศึกษาเพ่อื พฒั นาสงั คมและชุมชนตามแนวคดิ การจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาท่ียั่งยืนตาม หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ปีงบประมาณ 2565 ท่ีมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ทุกครัวเรือนนาปรัชญา เศรษฐกจิ พอเพียงไปปรบั ใชไ้ ดอ้ ย่างเหมาะสม และเกิดการปรบั เปลีย่ นทัศนคต/ิ คา่ นยิ มในการดารงชวี ติ และการ ปฏิบัติ กศน. อาเภอกาญจนบุรี จงึ ได้มกี ารจัดทาโครงการดังกล่าวนี้ขึน้ หนา้ 3
บทท่ี 1 บทนา นโยบาย และจุดเน้นการดาเนินงาน กศน. ข้อที่ 1.3.3 มุ่งจัดการศึกษาเพ่ือพัฒนาสังคมและชุมชนตามแนวคิดชัดการศึกษาเพ่ือการพัฒนาท่ี ยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง โดยใช้หลักสูตรและการจัดกระบวนการเรยี นรู้แบบบูรณาการใน รปู แบบของการฝกึ อบรม การประชุมสมั มนา การจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การสร้างชุมชนนักปฏิบตั ิ การเรียน ทางไกล และรูปแบบอื่น ๆ ท่ีเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย และบริบทของชุมชนแต่ละพื้นท่ี โดยเน้นการสร้าง จิตสานึกความเป็นประชาธิปไตย ความเป็นพลเมืองดี การส่งเสริมบทบาทสตรี การสร้างความเข้มแข็งของ เศรษฐกิจชมุ ชน การบรหิ ารกองทนุ การสร้างความมั่นคงดา้ นอาหาร การอนุรกั ษพ์ ลงั งาน ทรัพยากรธรรมชาติ และส่งิ แวดล้อม การบริหารจัดการน้า และการรองรบั เข้าสู่ประชาคมอาเช่ียน และหลกั สูตรเชิงบูรณาการเพ่ือ การพัฒนาที่ยั่งยืนตามแนวคิดของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาชี้ถึงแนวทางการ ดารงอยู่และปฏบิ ัตขิ องประชาชนทุกระดบั ตั้งแตร่ ะดบั ครอบครวั ระดับชมุ ชน จนถงึ ระดับรัฐ ท้ังในการพฒั นา และบริหารประเทศให้ดาเนินไปในทาง สายกลาง โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจ เพ่ือให้ก้าวทันต่อโลกยุค โลกาภิวัตน์ ความพอเพียง หมายถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล รวมถึงความจาเป็นท่ีจะต้องมีระบบ ภมู ิคุม้ กันในตัวทด่ี พี อสมควร ต่อการมผี ลกระทบใดๆ อนั เกิดจากการเปลี่ยนแปลงท้ังภายนอกและภายใน ท้ังนี้ จะต้องอาศัยความรอบรู้ ความรอบคอบ และความระมัดระวังอย่างย่ิงในการนาวิชาการต่างๆ มาใช้ในการ วางแผนและการดาเนินการทุกขั้นตอน และขณะเดียวกนั จะตอ้ งเสริมสร้างพน้ื ฐานจติ ใจของคนในชมุ ชน ให้มี สานกึ ในคณุ ธรรม ความซอ่ื สัตย์สจุ ริต และให้มคี วามรอบรู้ ท่เี หมาะสมดาเนินชีวติ ด้วยความอดทน ความเพียร มีสติ ปัญญา และความรอบคอบ เพื่อให้สมดุลและพร้อมต่อการรองรับการเปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็ว และ กว้างขวาง ท้ังด้านวตั ถุ สงั คม สง่ิ แวดล้อม และวัฒนธรรมจากโลกภายนอกได้เปน็ อยา่ งดี การพฒั นาโดยสง่ เสรมิ ให้คนในชุมชนมแี นวคิดเศรษฐกิจพอเพยี ง จะทาใหก้ ล่มุ เปา้ หมายมคี วามรู้ความ เขา้ ใจในวถิ ชี ีวิตที่ควรเป็นและจะเป็นพลงั สาคญั ท่ีจะขับเคล่อื นแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงใหข้ ยายครอบคลุมทุก ครัวเรือน ซึ่งจะทาให้ชุมชนมีความเข้มแข็งและสามารถพึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืนอนึ่งเพ่ือเป็นการส่งเสริม สนับสนุนโครงการจดั การศึกษาเพ่อื พัฒนาสังคมและชุมชนตามแนวคดิ การจัดการศึกษาเพือ่ พัฒนาท่ียัง่ ยืนตาม หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง หนา้ 4
บทท่ี 2 จดุ เร่ิมตน้ แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง ผลจากการใชแ้ นวทางการพัฒนาประเทศไปสู่ความทันสมัย ได้ก่อใหเ้ กิดการเปลย่ี นแปลงแก่สังคมไทย อย่างมากในทกุ ด้าน ไมว่ ่าจะเปน็ ดา้ นเศรษฐกิจ การเมือง วฒั นธรรม สังคมและสง่ิ แวดลอ้ ม อกี ทั้งกระบวนการ ของความเปลี่ยนแปลงมีความสลับซับซ้อนจนยากที่จะอธิบายใน เชิงสาเหตุและผลลัพธ์ได้ เพราะการ เปล่ียนแปลงทั้งหมดต่างเป็นปัจจัยเชื่อมโยงซง่ึ กันและกัน สาหรับผลของการพฒั นาในด้านบวกนัน้ ได้แก่ การ เพิ่มขึ้นของอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ความเจริญทางวัตถุ และสาธารณูปโภคต่างๆ ระบบส่ือสารท่ี ทันสมัย หรือการขยายปริมาณและกระจายการศึกษาอย่างทั่วถึงมากขึ้น แต่ผลด้านบวกเหล่าน้ีส่วนใหญ่ กระจายไปถึงคนในชนบท หรือผู้ด้อยโอกาสในสังคมน้อย แต่ว่า กระบวนการเปลี่ยนแปลงของสังคมได้เกิดผล ลบติดตามมาด้วย เช่น การขยายตวั ของรัฐเข้าไปในชนบท ได้ส่งผลให้ชนบทเกิดความอ่อนแอในหลายดา้ น ท้งั การต้องพึ่งพิงตลาดและพ่อค้าคนกลางในการสั่งสินค้าทุน ความเส่ือมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติ ระบบ ความสัมพนั ธแ์ บบเครือญาติ และการรวมกลุ่มกนั ตามประเพณีเพอ่ื การจัดการทรพั ยากรที่เคยมีอยู่แต่เดิมแตก สลายลง ภูมคิ วามรู้ทเี่ คยใช้แกป้ ญั หาและสัง่ สมปรบั เปลย่ี นกนั มาถูกลืมเลอื นและเร่ิม สญู หายไป ส่งิ สาคญั กค็ ือ ความพอเพียงในการดารงชีวิต ซึ่งเป็นเงื่อนไขพื้นฐานที่ทาให้คนไทยสามารถพ่ึงตนเอง และดาเนินชีวิตไปได้ อยา่ งมีศักด์ศิ รีภายใต้อานาจและความมีอิสระในการกาหนด ชะตาชวี ติ ของตนเอง ความสามารถในการควบคุม และจดั การเพ่ือให้ตนเองไดร้ ับการสนองตอบต่อความตอ้ ง การตา่ งๆ รวมทง้ั ความสามารถในการจัดการปัญหา ต่างๆ ได้ด้วยตนเอง ซึ่งท้ังหมดนี้ถือว่าเป็นศักยภาพพ้ืนฐานที่คนไทยและสังคมไทยเคยมีอยู่แต่ เดิม ต้องถูก กระทบกระเทือน ซ่ึงวิกฤตเศรษฐกิจจากปัญหาฟองสบู่และปัญหาความออ่ นแอของชนบท รวมท้ังปัญหาอน่ื ๆ ท่ีเกดิ ขึ้น ล้วนแตเ่ ปน็ ขอ้ พิสจู น์และยนื ยันปรากฏการณ์นไี้ ดเ้ ปน็ อยา่ งดี พระราชดารวิ ่าดว้ ยเศรษฐกิจพอเพียง “...การพัฒนาประเทศจาเป็นต้องทาตามลาดับขั้น ต้องสร้างพื้นฐานคือ ความพอมี พอกิน พอใช้ของ ประชาชนส่วนใหญ่เบื้องต้นก่อน โดยใช้วิธีการและอุปกรณ์ที่ประหยัดแต่ถูกต้องตามหลักวิชาการ เมื่อได้ พ้ืนฐานความมั่นคงพร้อมพอสมควร และปฏิบัติได้แล้ว จึงค่อยสร้างค่อยเสริมความเจริญ และฐานะทาง เศรษฐกิจขัน้ ท่ีสูงขึน้ โดยลาดับตอ่ ไป...” (18 กรกฎาคม 2517) “ เศรษฐกิจพอเพียง ” เป็นแนวพระราชดาริใน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระราชทานมานานกว่า 30 ปี เป็นแนวคิดท่ีต้ังอยู่บนรากฐานของ วฒั นธรรมไทย เปน็ แนวทางการพัฒนาท่ีตง้ั บนพืน้ ฐานของทางสายกลาง และความไม่ประมาท คานึงถึงความ พอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุ้มกันในตัวเอง ตลอดจนใช้ความรู้และคุณธรรม เป็นพ้ืนฐานในการ ดารงชวี ติ ทส่ี าคัญจะต้องมี “ สติ ปัญญา และความเพียร ” ซ่ึงจะนาไปสู่ “ ความสุข ” ในการดาเนินชีวิต หนา้ 5
อย่างแท้จริง “ ...คนอื่นจะว่าอย่างไรก็ช่างเขา จะว่าเมืองไทยล้าสมัย ว่าเมืองไทยเชย ว่าเมืองไทยไม่มีสิ่งท่ี สมัยใหม่ แต่เราอยู่พอมีพอกิน และขอให้ทุกคนมีความปรารถนาที่จะให้เมืองไทย พออยู่พอกิน มีความสงบ และทางานต้งั จิตอธิษฐานต้ังปณิธาน ในทางนี้ท่ีจะใหเ้ มืองไทยอย่แู บบพออยู่พอกิน ไมใ่ ชว่ า่ จะรุ่งเรอื งอยา่ งยอด แตว่ ่ามีความพออยพู่ อกนิ มีความสงบ เปรยี บเทยี บกบั ประเทศอ่ืนๆ ถ้าเรารกั ษาความพออยู่พอกินน้ไี ด้ เรากจ็ ะ ยอดย่ิงยวดได้... ” (4 ธันวาคม 2517 )พระบรมราโชวาทน้ี ทรงเห็นว่าแนวทางการพัฒนาที่เนน้ การขยายตัว ทางเศรษฐกิจของประเทศเป็นหลักแต่ เพียงอย่างเดยี วอาจจะเกิดปญั หาได้ จงึ ทรงเน้นการมีพอกินพอใช้ของ ประชาชนส่วนใหญ่ในเบื้องต้นก่อน เมื่อมีพ้ืนฐานความมั่นคงพร้อมพอสมควรแล้ว จึงสร้างความเจริญและ ฐานะทางเศรษฐกจิ ใหส้ งู ขน้ึ ซง่ึ หมายถึง แทนท่จี ะเนน้ การขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมนาการพฒั นาประเทศ ควรท่ีจะสร้างความม่ันคงทางเศรษฐกิจพ้ืนฐานก่อน นั่นคือ ทาให้ประชาชนในชนบทส่วนใหญ่พอมีพอกิน ก่อน เป็นแนวทางการพัฒนาท่ีเน้นการกระจายรายได้ เพ่ือสร้างพื้นฐานและความมัน่ คงทางเศรษฐกิจโดยรวม ของประเทศ ก่อนเน้นการพัฒนาในระดับสูงข้ึนไป ทรงเตือนเร่ืองพออยู่พอกิน ต้ังแต่ปี 2517 คือ เม่ือ 30 กว่าปีท่ีแล้วแต่ทิศทางการพัฒนามิได้เปล่ียนแปลง “ ...เมื่อปี 2517 วันน้ันได้พูดถึงว่า เราควรปฏิบัติให้ พอมพี อกิน พอมีพอกินนีก้ ็แปลว่า เศรษฐกิจพอเพียงนน่ั เอง ถา้ แตล่ ะคนมพี อมพี อกิน ก็ใชไ้ ด้ ย่งิ ถ้าทง้ั ประเทศ พอมพี อกนิ กย็ ่งิ ดี และประเทศไทยเวลานั้นกเ็ ร่มิ จะเปน็ ไม่พอมพี อกนิ บางคนก็มมี าก บางคนก็ไม่มีเลย... ” ( 4 ธันวาคม 2541 ) เศรษฐกิจพอเพียง “ เศรษฐกิจพอเพียง ” เป็นปรัชญาท่ีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชดาริชแ้ี นะแนวทาง การดาเนินชีวิตแกพ่ สกนกิ รชาวไทยมาโดยตลอดนานกว่า 25 ปี ต้งั แต่ กอ่ นเกิดวกิ ฤตการณท์ างเศรษฐกจิ และเมอื่ ภายหลังได้ทรงเนน้ ย้าแนวทางการแก้ไขเพอื่ ใหร้ อดพน้ และสามารถ ดารงอยู่ได้อย่างมั่นคงและย่ังยนื ภายใต้กระแสโลกาภวิ ัตน์และความ เปลีย่ นแปลงตา่ งๆ ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง เศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาช้ีถึงแนวการดารงอยู่และปฏิบัติตนของประชาชนในทุกระดับ ต้ังแต่ ระดับครอบครัว ระดับชุมชน จนถึงระดับรัฐ ท้ังในการพัฒนาและบริหารประเทศให้ดาเนินไปในทางสายกลาง โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกจิ เพ่ือใหก้ ้าวทันตอ่ โลกยคุ โลกาภวิ ตั น์ ความพอเพียง หมายถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล รวมถงึ ความจาเปน็ ท่ีจะตอ้ งมรี ะบบภูมิคมุ้ กนั ในตวั ทด่ี ีพอสมควร ต่อการกระทบใดๆ อนั เกดิ จาก การเปล่ียนแปลงทั้งภายในภายนอก ทั้งน้ี จะต้องอาศัยความรอบรู้ ความรอบคอบ และความระมัดระวงั อย่าง ยิ่งในการนาวิชาการต่างๆ มาใช้ในการวางแผนและการดาเนินการ ทุกข้ันตอน และขณะเดียวกัน จะต้อง เสริมสร้างพื้นฐานจิตใจของคนในชาติ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ของรัฐ นักทฤษฎี และนักธุรกิจในทุกระดับ ให้มี สานึกในคุณธรรม ความซ่อื สัตย์สุจรติ และให้มคี วามรอบรู้ทเี่ หมาะสม ดาเนินชวี ติ ด้วยความอดทน ความเพียร มีสติ ปัญญา และความรอบคอบ เพื่อให้สมดุลและพร้อมต่อการรองรับการเปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็วและ กว้างขวาง ท้ังด้านวัตถุ สังคม ส่ิงแวดล้อม และวัฒนธรรมจากโลกภายนอกได้เป็นอย่างดี ความหมายของ เศรษฐกิจพอเพยี ง จงึ ประกอบดว้ ยคุณสมบัติ ดงั น้ี หนา้ 6
1. ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดีท่ีไมน่ ้อยเกินไปและไม่มากเกินไป โดยไม่เบียดเบียนตนเองและผอู้ ื่น เชน่ การผลติ และการบริโภคทอี่ ยูใ่ นระดบั พอประมาณ 2. ความมเี หตุผล หมายถงึ การตดั สนิ ใจเกี่ยวกับระดับความพอเพียงนั้น จะต้องเปน็ ไปอย่างมเี หตผุ ล โดย พจิ ารณาจากเหตุปัจจัยท่ีเก่ยี วขอ้ ง ตลอดจนคานงึ ถึงผลท่ีคาดว่าจะเกดิ ขนึ้ จากการกระทานัน้ ๆ อยา่ งรอบคอบ 3. ภูมิคุ้มกัน หมายถึง การเตรียมตวั ใหพ้ ร้อมรบั ผลกระทบและการเปล่ียนแปลงด้านต่างๆ ท่ีจะเกดิ ขึน้ โดย คานึงถึงความเป็นไปไดข้ องสถานการณต์ ่างๆ ท่ีคาดว่าจะเกดิ ขึ้นในอนาคต โดยมี เงือ่ นไข ของการตัดสนิ ใจและ ดาเนนิ กิจกรรมต่างๆ ให้อยูใ่ นระดบั พอเพยี ง 2 ประการ ดงั นี้ 1. เงอื่ นไขความรู้ ประกอบดว้ ย ความรอบรเู้ กี่ยวกับวชิ าการต่างๆ ท่เี กย่ี วข้องรอบด้าน ความรอบคอบทีจ่ ะนา ความรเู้ หลา่ นั้นมาพจิ ารณาให้เช่อื มโยงกัน เพือ่ ประกอบการวางแผนและความระมัดระวงั ในการปฏบิ ตั ิ 2. เงือ่ นไขคุณธรรม ทจ่ี ะต้องเสรมิ สร้าง ประกอบด้วย มคี วามตระหนักใน คณุ ธรรม มีความซอื่ สัตย์สจุ ริตและมี ความอดทน มคี วามเพียร ใช้สติปัญญาในการดาเนินชวี ิต หนา้ 7
การจดั การเรียนรู้ของศูนย์การเรียนรปู้ รชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง หลกั การและเหตผุ ล เศรษฐกิจพอเพยี ง เป็นปรัชญาทีช่ ีถ้ งึ แนวทางปฏิบัติตน โดยคานงึ ถงึ ความพอประมาณ ความมเี หตุผล และการสร้างภูมิคุ้มกันที่ดี เพ่ือพร้อมรับต่อความเสี่ยง บนพ้ืนฐานของความรอบรู้ ความรอบคอบ ระมัดระวัง และคณุ ธรรม การใช้ความรู้อย่างถูกหลักวิชาการ ดว้ ยความรอบคอบและระมัดระวงั ควบคู่ไปกบั การกระทาที่ ไมเ่ บียดเบยี นกัน เป็นหลักการท่มี ีประโยชน์และสามารถมาประยุกต์ใช้ได้ และเป็นประโยชน์กบั ผู้สนใจ การ พัฒนาโดยส่งเสริมให้ชุมชน มแี นวคดิ เศรษฐกิจพอเพียง จะทาให้คนในชุมชนมีความรู้ความเข้าใจในวิถีชีวิต ท่คี วรเป็นและจะเป็นพลงั สาคัญท่ีจะขับเคลื่อนแนวคดิ เศรษฐกิจพอเพียงให้ขยายครอบคลุมทกุ ตาบลซึ่งจะทา ให้ชุมชนมีความเข้มแข็ง สามารถพึ่งตนเองได้และส่งเสริมให้มีคุณภาพชีวิตท่ีดียิ่งๆขนึ้ ไปทาให้สามารถใช้ชวี ติ และวางแผนจัดการบันทกึ รายรับรายจา่ ยเพ่อื เป็นประโยชนต์ อ่ ไป กศน.ตาบลหนองบัว ได้เล็งเห็นความสาคัญดังกล่าว ผนวกกับจากการสารวจความต้องการของ ประชาชนตาบลท่ามะขาม พบว่าประชาชนมีความต้องการให้จัดกิจกรรมการจัดกระบวนการเรียนรู้ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ในด้านการนาเทคโนโลยีที่เหมาะสมในการทาการเกษตรทฤษฎีใหม่ ดังน้ัน เพ่ือให้บรรลุผลตามนโยบาย ตอบสนองความต้องการของชุมชน จึงจัดโครงการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพตาม แนวทางหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง (การขยายพันธุ์พืช) เพื่อให้ประชาชนสามารถนาไปปรับใช้ในการ จัดกระบวนการเรยี นรขู้ องผรู้ บั บริการทางการศกึ ษาไดอ้ ยา่ งมีประสิทธภิ าพ ขน้ึ วตั ถุประสงค์ เพ่ือใหผ้ ู้เรียนมีความรู้ความสามารถ และคุณลักษณะดงั น้ี มคี วามรู้ความเข้าใจเศรษฐกจิ พอเพยี ง มคี วามร้คู วามเข้าใจและสามรถนาไปใชใ้ นการดาเนินชีวติ ได้อย่างมคี วามสขุ เปา้ หมาย จานวน 6 คน เชงิ ปริมาณ - ประชาชนในพน้ื ทต่ี าบลท่ามะขาม - ประชาชนในพน้ื ทต่ี าบลวังด้ง จานวน 6 คน - ประชาชนในพ้ืนท่ตี าบลลาดหญา้ จานวน 6 คน - ประชาชนในพื้นทตี่ าบลหนองบวั จานวน 6 คน เชงิ คณุ ภาพ - ผูเ้ ข้ารบั การอบรมสามารถนาความรู้เก่ยี วกบั เศรษฐกิจพอเพียง ไปใช้ในการดารงชวี ติ ได้ หนา้ 8
ขัน้ ตอนการดาเนนิ งาน กิจกรรมหลกั วัตถุประสงค์ กลุ่มเป้าหมาย พ้นื ทด่ี าเนนิ การ ระยะเวลา งบประมาณ ประชุมและวางแผน หาแนวทางในการ ประชาชน กศน.ตาบลทา่ มะขาม พฤศจิกายน - ตาบล ดาเนนิ งาน กศน.ตาบลทา่ มะขาม 2564 - ทา่ มะขาม เสนอขออนมุ ัตโิ ครงการ/ เพอ่ื ขอสนบั สนุน - วังด้ง ธันวาคม - แตง่ ตั้งคณะทางาน งบประมาณ - ลาดหญ้า 2564 - หนองบัว ครู กศน.ตาบล ทา่ มะขาม ประสานเครือขา่ ยและ เพือ่ ประสานงานเครือขา่ ย ครู กศน.ตาบล - ตาบลท่ามะขาม ธนั วาคม - ประชาสมั พันธก์ จิ กรรม - ท่ามะขาม - ตาบลวังด้ง 2564 - จดั เตรยี มเอกสารวัสดุ - วงั ด้ง - ตาบลลาดหญ้า เตรียมการ อปุ กรณ์ ทใี่ ช้ในโครงการ - ลาดหญา้ - ตาบลหนองบัว มกราคม - หนองบัว 2565 คณะครแู ละ กศน.ตาบลท่ามะขาม เครอื ข่าย ดาเนนิ กิจกรรมตาม เพอ่ื ดาเนนิ การจัดกจิ กรรม ประชาชนใน บ้านหนงั สือชมุ ชน หมู่ 5 9 5,320 แผนงานและโครงการ มกราคม บาท โครงการ ตาบล ต.ทา่ มะขาม อ.เมือง 256๕ - ทา่ มะขาม จ.กาญจนบุรี - วังดง้ - ลาดหญา้ - หนองบัว จานวน 2๔ คน ประเมนิ ผลสรุปและ เพ่อื ประเมินผลการดาเนนิ ครู กศน.ตาบล กศน. มกราคม - รายงานผล เพอื่ สรุปผลการดาเนนิ งาน - ท่ามะขาม ตาบลทา่ มะขาม 2565 และเป็นแนวทางในการ - วังดง้ ปฏิบตั ิงานครง้ั ต่อไป - ลาดหญา้ - หนองบัว หนา้ 9
งบประมาณ จากงบประมาณปี 2565 แผนงาน : พ้ืนฐานด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ ผลผลิตที่ 4 ผู้รับบริการการศึกษานอกระบบ กิจกรรมจัดการศึกษานอกระบบ งบดาเนินงาน กิจกรรมการจดั กระบวนการเรียนรตู้ ามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง จานวนเงนิ ๕๓๒0.-บาท (ห้าพันสามร้อยยี่สิบบาท ถ้วน) รายละเอยี ดคา่ ใชจ้ า่ ยดงั นี้ คา่ อาหารและนา้ ด่มื 1 มอื้ X 70 บาท X 2๔ คน เป็นเงิน 1,680 บาท คา่ วัสดุ เป็นเงนิ 3,640 บาท รวมคา่ ใชจ้ า่ ยท้ังส้ิน 5,320.-บาท (ห้าพนั สามร้อยยีส่ บิ บาทถว้ น) หมายเหตุ : ขอถวั เฉล่ียจา่ ยทุกรายการตามที่จา่ ยจริง 8. แผนการใชจ้ ่ายงบประมาณ กจิ กรรมหลกั ไตรมาส 1 ไตรมาส 2 ไตรมาส 3 ไตรมาส 4 (ต.ค. – ธ.ค. 2564) (ม.ค. – มี.ค. 2565) (เม.ย. – ม.ิ ย. 2565) (ก.ค. – ก.ย. 2565) โครงการสง่ เสริมและ พัฒนาอาชพี ตาม - 5,320.- - - แนวทางหลกั ปรชั ญา ของเศรษฐกจิ พอเพียง (การขยายพันธพุ์ ชื ) ผู้รับผดิ ชอบโครงการ ครู กศน.ตาบลท่ามะขาม นางสาวสุกัญญา บานเยน็ ครู กศน.ตาบลวังด้ง นางสาวขนษิ ฐา แจม่ จนั ทร์ ครู กศน.ตาบลลาดหญา้ นางสาวชญั ญช์ นพรชานาญป่า ครู กศน.ตาบลหนองบวั นายณฏั ฐเมศ เสริมสุข เครอื ขา่ ย เทศบาลตาบลท่ามะขาม ผูน้ าชมุ ชน/อสม.ตาบลท่ามะขาม โครงการทเ่ี ก่ียวขอ้ ง โครงการจัดการศกึ ษาเพื่อพฒั นาทกั ษะชวี ิต โครงการจัดการศึกษาเพอ่ื พัฒนาสงั คมและชมุ ชน หนา้ 10
ผลลัพธ์ (Outcome) ผเู้ ขา้ รว่ มโครงการเกดิ ทักษะคดิ เป็น และสามารถนาไปปรับใชใ้ นชีวิตประจาวนั ได้ ผู้เข้าร่วมโครงการสามารถนาความรู้ในเรื่องการดาเนินชีวิตในครัวเรือนเพ่ือพ่ึงพาตนเองตามหลัก ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งและดาเนนิ ชีวิตไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ ผลทค่ี าดว่าจะไดร้ บั ผเู้ ข้ารว่ มโครงการได้รับความร้จู ากการอบรมสามารถนามาใช้ในการดาเนนิ ชีวติ ของคนในชมุ ชนเพื่อให้ ประชาชนมีคุณภาพชวี ติ ท่ีดีขึ้น ดชั นีชีว้ ัดความสาเรจ็ ของโครงการ ตัวช้ีวัดผลผลิต ผู้เข้าร่วมโครงการมีความพึงพอใจในการจัดกระบวนการเรียนรู้ คิดเป็น ทาเป็น แก้ไขปัญหาได้ ตัวชว้ี ดั ผลลัพธ์ ผู้เขา้ รว่ มโครงการมีความรู้ความเข้าใจในเกย่ี วกับเร่ืองการดาเนนิ ชวี ิตในครัวเรือนเพ่ือ พงึ่ พาตนเองตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและสามารถนาไปปรับใช้ในชวี ิตประจาวันได้อย่างถกู ตอ้ ง และ เหมาะสม การตดิ ตามและประเมินผลการดาเนินงาน แบบนเิ ทศตดิ ตามงาน แบบสารวจความพึงพอใจ หนา้ 11
บทที่ 3 แผนการดาเนนิ งาน กจิ กรรมดาเนินงาน ปี พ.ศ.2565 ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย พ.ค ม.ิ ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. การเตรียมการ สารวจความต้องการของชมุ ชนในเรื่อง ของความตอ้ งการให้ส่งเสริมอาชีพ กาหนดอาชีพใหต้ รงความต้องการของ ชุมชน ติดต่อวิทยากร เขยี นโครงการ ขออนมุ ตั โิ ครงการ การเตรยี มสถานท่ี การจดั เตรียมสถานที่ การเตรยี มอุปกรณ์ การดาเนนิ งาน ประชาสมั พนั ธห์ ากลุ่มเป้าหมายในตาบล ดาเนินการเรยี นการสอน นิเทศการเรยี นการสอน ประเมนิ สรปุ เมือ่ ดาเนนิ การเรยี นการ สอนตามระยะเวลาทีก่ าหนด เสนอแนวทางการพัฒนา หนา้ 12
บทที่ 4 การประเมินผลการจัดกิจกรรม สรุปแบบสอบถามความพึงพอใจ 9 มกราคม 2565 บา้ นหนงั สือชมุ ชน หมู่ 5 ตาบลทา่ มะขาม อาเภอเมืองกาญจนบุรี จงั หวดั กาญจนบุรี ตอนที่ 1 ขอ้ มลู ทั่วไป ชาย คน เพศ หญงิ 6 คน อายุ ระดับการศึกษา อาย1ุ 5 - 39 ปี คน ตาแหน่งทางสังคม อาย4ุ 0 - 59 ปี 6 คน อายุ 60 ปี ขน้ึ ไป คน ประถมศึกษา คน ม.ตน้ 2 คน ม.ปลาย 4 คน ปวช ปวส. คน ปรญิ ญาตรี คน อื่นๆ ระบุ....................... คน คน ประชาชนทว่ั ไป อสม. 6 คน กรรมการหม่บู า้ น คน ผู้นาท้องถิ่น คน คน หนา้ 13
ภาพกจิ กรรมการศกึ ษาเพ่ือโครงการส่งเสรมิ กระบวนการเรียนรู้หลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โครงการสง่ เสรมิ และพัฒนาอาชีพตามแนวทางหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง (การขยายพนั ธพ์ุ ชื ) ณ บ้านหนังสอื ชมุ ชน หมู่ 5 ตาบลท่ามะขาม อาเภอเมืองกาญจนบรุ ี จงั หวดั กาญจนบุรี วันท่ี 9 มกราคม 2565 เปดิ โครงการสง่ เสรมิ และพฒั นาอาชีพตามแนวทางหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง (การขยายพันธ์พุ ชื ) ครบู รรยายใหค้ วามรู้โครงการส่งเสริมและพัฒนาอาชพี ตามแนวทางหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง (การขยายพันธ์พุ ชื ) หนา้ 14
ภาพกจิ กรรมการศกึ ษาเพื่อโครงการส่งเสรมิ กระบวนการเรยี นรหู้ ลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง โครงการส่งเสรมิ และพัฒนาอาชีพตามแนวทางหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง (การขยายพันธพุ์ ืช) ณ บา้ นหนงั สอื ชมุ ชน หมู่ 5 ตาบลท่ามะขาม อาเภอเมอื งกาญจนบุรี จงั หวัดกาญจนบรุ ี วนั ท่ี 9 มกราคม 2565 ลงมือปฏิบตั โิ ครงการสง่ เสริมและพัฒนาอาชพี ตามแนวทางหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง (การขยายพันธุพ์ ชื ) หนา้ 15
สรปุ แบบสอบถามความพึงพอใจ วันที่ 9 มกราคม 2565 ณ บา้ นหนังสอื ชุมชน หมู่ 5 ตาบลท่ามะขาม อาเภอเมอื งกาญจนบรุ ี จงั หวัดกาญจนบุรี ตอนที่ 2 ดา้ นความพึงพอใจของผรู้ ับบริการ สรปุ ระดับความพึงพอใจ คา่ เฉลย่ี ความหมาย คดิ เป็นร้อยละ ลาดบั รายการ 4.00 ดี 80.00 1 เน้อื หาวชิ าทจี่ ดั ที่เรยี นรู้ตรงตามความตอ้ งการของทา่ นเพียงใด 2 วทิ ยากรมาให้ความรตู้ รงตามเวลา 4.00 ดี 80.00 3 วิทยากรมาให้ความรู้ครบตามหลักสตู รทีก่ าหนด 4 ความสามารถในการถา่ ยทอดความรขู้ องวิทยากร 4.00 ดี 80.00 5 จานวนสื่อ/อุปกรณก์ ารฝึกประกอบการเรยี นเพียงพอเพียงใด 6 ท่านไดร้ ับความรคู้ วามสามารถฝึกทกั ษะไดต้ ามท่คี าดหวังมากน้อยเพียงใด 4.00 ดี 80.00 7 ความรู้ทกั ษะที่ได้ สามารถนาไปใช้ประกอบอาชพี ไดเ้ พียงใด 8 สถานเรียนเหมาะสมเพียงใด 4.00 ดี 80.00 9 ท่านไดร้ บั โอกาสในการเรียนรูเ้ ทา่ เทียมกันเพียงไร 10 ระยะเวลาในการเรยี น/กิจกรรมเหมาะสมเพยี งใด 4.00 ดี 80.00 11 ความรู้ทไ่ี ด้รบั คุ้มคา่ เวลา และความตัง้ ใจเพยี งใด 12 ท่านพงึ พอใจตอ่ หลักสตู รน้ีเพยี งใด 4.00 ดี 80.00 4.00 ดี 80.00 4.00 ดี 80.00 4.00 ดี 80.00 4.00 ดี 80.00 4.00 ดี 80.00 จากผลแบบสอบถามความคดิ เห็นและความพงึ พอใจของผเู้ รยี น/ผู้รบั บรกิ ารดา้ นกระบวนการจดั กจิ กรรม และความพึงพอใจในครัง้ นีพ้ บว่า - ด้านหลักสตู ร ๑. เนื้อหาวิชาที่จัดท่เี รียนรูต้ รงตามความต้องการ มีผลการประเมินอยู่ในระดับดีคิดเป็น ร้อยละ 80 ของผู้เข้าร่วม โครงการ * โดยภาพรวมด้านหลักสตู รผูร้ ับบริการมผี ลการประเมนิ ในระดบั ดี คิดเปน็ รอ้ ยละ 80.00 - ด้านวทิ ยากรหรือผ้สู อน 2. วิทยากรมาให้ความรู้ตรงตามเวลา มผี ลการประเมินอยู่ในระดบั ดคี ิดเปน็ รอ้ ยละ 80 ของผู้เข้ารว่ มโครงการ 3. วิทยากรมาใหค้ วามรคู้ รบตามหลักสตู รท่ีกาหนด มีผลการประเมนิ อยู่ในระดับดีคดิ เปน็ ร้อยละ 80 ของผู้เข้าร่วม โครงการ * โดยภาพรวมดา้ นวิทยากรหรอื ผู้สอน ผ้รู บั บริการมผี ลการประเมินในระดับดี คิดเป็นรอ้ ยละ 80.00 - ดา้ นการจัดกิจกรรมหรอื การเรียนรู้ หนา้ 16
4. ความสามารถในการถ่ายทอดความรขู้ องวิทยากร มีผลการประเมินอยู่ในระดับดีคดิ เปน็ รอ้ ยละ 80 ของผู้เข้าร่วม โครงการ * โดยภาพรวมด้านการจัดกิจกรรมหรอื การเรียนรผู้ รู้ ับบรกิ าร มีผลการประเมินในระดบั ดี คิดเปน็ รอ้ ยละ 80.00 - ส่ือและวสั ดุอุปกรณ์ ๕. จานวนสื่อ/อปุ กรณก์ ารฝกึ ประกอบการเรียนเพยี งพอเพยี งใด มีผลการประเมนิ อยูใ่ นระดับดคี ดิ เป็นรอ้ ยละ 80 ของ ผ้เู ข้ารว่ มโครงการ * โดยภาพรวมดา้ นสือ่ และอุปกรณผ์ ้รู บั บรกิ ารมผี ลการประเมนิ ในระดับดี คิดเป็นร้อยละ 80.00 - ผลท่ีไดร้ ับจากการเรียนรู้หรอื เข้าร่วมกิจกรรม 6. ทา่ นได้รับความรู้ความสามารถฝึกทกั ษะได้ตามทค่ี าดหวังมากน้อยเพียงใด มีผลการประเมนิ อยใู่ นระดบั ดีคิดเป็น รอ้ ยละ 80 ของผู้เข้ารว่ มโครงการ 7. ความรู้ทักษะท่ีได้ สามารถนาไปใช้ประกอบอาชีพได้เพียงใด มีผลการประเมินอยู่ในระดับดีคิดเป็น ร้อยละ 80 ของผูเ้ ข้าร่วมโครงการ * โดยภาพรวมด้านผลทีไ่ ดร้ ับจากการเรียนรู้หรอื เข้าร่วมกจิ กรรม ผู้รับบรกิ ารมีผลการประเมินในระดับดคี ิดเป็นร้อย ละ 80.00 - สถานท่ีให้บรกิ าร 8. สถานเรยี นเหมาะสมเพยี งใด มีผลการประเมินอยใู่ นระดับดคี ดิ เปน็ ร้อยละ 80 ของผู้เขา้ ร่วมโครงการ * โดยภาพรวมด้านผลที่ได้รับจากการเรียนรู้หรือเข้าร่วมกิจกรรม ผู้รับบริการมีผลการประเมินในระดับดีขึ้นไปคดิ เป็นรอ้ ยละ 80.00 - ความพงึ พอใจตอ่ การใหบ้ ริการ 9. ท่านได้รับโอกาสในการเรียนร้เู ท่าเทียมกันเพียงไร มีผลการประเมินอยู่ในระดับดีคิดเป็นรอ้ ยละ 80 ของผู้เข้าร่วม โครงการ 10. ระยะเวลาในการเรยี น/กิจกรรมเหมาะสมเพียงใด มผี ลการประเมนิ อยู่ในระดับดีคิดเป็นร้อยละ 80 ของผูเ้ ขา้ ร่วม โครงการ 11. ความรู้ท่ีได้รับคมุ้ ค่าเวลา และความตัง้ ใจเพียงใด มีผลการประเมินอยู่ในระดับดีคิดเป็นร้อยละ 80 ของผ้เู ข้าร่วม โครงการ 12. ทา่ นพึงพอใจต่อหลักสตู รนเี้ พยี งใด มีผลการประเมินอยใู่ นระดับดีคดิ เป็นรอ้ ยละ 80 ของผเู้ ขา้ รว่ มโครงการ * โดยภาพรวมด้านผลที่ได้รบั จากการเรยี นรู้หรือเข้ารว่ มกิจกรรม ผู้รบั บริการมีผลการประเมนิ ในระดบั ดี คดิ เปน็ ร้อย ละ 80.00 ۞โดยภาพรวมแล้วจากแบบสอบถามความคิดเห็นและความพึงพอใจของผู้เรียน/ผู้รับบริการ การจัด กจิ กรรมโครงการส่งเสริมและพฒั นาอาชีพตามแนวทางหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง (การขยายพนั ธุพ์ ชื ) มผี ลการ ประเมนิ อยใู่ นระดบั ดี คดิ เป็นร้อยละ 80.00 หนา้ 17
คณะผจู้ ดั ทา ท่ปี รึกษา นายศกั ด์ชิ ยั นาคเอีย่ ม ผอ.กศน.อาเภอเมืองกาญจนบรุ ี ครอู าสาสมคั รฯ กศน.อ.เมอื งฯ นางสนุ ีย์ ทนั ไกร ครอู าสาสมัครฯ กศน.อ.เมืองฯ นางภทั รานิษฐ์ หนขู าว คณะผู้จัดทา นายณฏั ฐเมศ เสริมสขุ ผรู้ บั ผิดชอบโครงการ นางสาวจารุณี สาราญวงศ์ คณะทางาน หนา้ 18
ภาคผนวก หนา้ 19
แบบติดตามผู้เข้ารับการฝกึ อบรมประชาชนหลังจบหลกั สูตร กศน.ตาบลหนองบัว กศน.อาเภอเมืองกาญจนบุรี จงั หวัดกาญจนบุรี ฝึกอบรมหลกั สตู ร โครงการส่งเสริมและพัฒนาอาชพี ตามแนวทางหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง (การขยายพนั ธพ์ุ ชื ) จานวน......1........ วัน ระหว่างวันที่…...9 มกราคม 2565................................................. ชื่อวทิ ยากร (ถา้ ม)ี ................นางสาวสุกญั ญา บานเยน็ ............ คาชีแ้ จง แบบตดิ ตามผเู้ ขา้ รบั การฝึกอบรมประชาชน มวี ัตถปุ ระสงค์เพ่อื ศึกษาและรวบรวมข้อมลู เกย่ี วกับประโยชนท์ ี่ผู้เขา้ รบั การฝกึ อบรมได้รับหลังจากการฝึกอบรมจบหลักสูตรแล้ว ท่ี ชอ่ื –นามสกลุ ลดรายจ่าย เพมิ่ รายได้ การนาไปใชป้ ระโยชน์ นาไปประกอบ อ่ืน ๆ ผเู้ ข้ารบั การฝึกอบรม พฒั นา อาชีพ (ระบุ) คุณภาพชวี ิต 1 นางกวนิ นาถ เหมือนมิ่ง 2 นางวรรณา ชมชน่ื 3 นางสภุ าพิศ หวายมงคล 4 นางสาวสาอาง สมศรี 5 นางสาวพรพันธ์ สมสี 6 นางวณฐั จริ กาญจน์ไพศาล ลงชือ่ ..............................................................ครู กศน.ตาบล (นายณัฏฐเมศ เสริมสุข) หนา้ 20
หนา้ 21
Search
Read the Text Version
- 1 - 21
Pages: