1.1 บริบท กศน. ตาบล ประวัติความเปน็ มาของ กศน. ตาบลทา่ กระดาน วิสยั ทศั น์ คนไทยได้เรียนรู้ตลอดชวี ิตอย่างมีคณุ ภาพ บรบิ ท กศน. ตาบลทา่ กระดาน กศน. ตาบลทา่ กระดาน ตง้ั อยู่หมู่ท่ี 2 บ้านทา่ กระดาน ตาบลท่ากระดาน อาเภอศรีสวสั ดิ์ จงั หวัด กาญจนบุรี โดยอย่ใู นความรบั ผดิ ชอบของ กศน. อาเภอศรีสวสั ด์ิ จังหวดั กาญจนบุรี โดยเรยี นเชญิ นายไพฑลู ย์ มุกสิกโปดก นาอาเภอศรีสวสั ดิ์ ขณะนั้นเป็นประธานในพิธีเปดิ กศน. ตาบลท่ากระดาน เมือ่ วันองั คารที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2553 1.1 สภาพท่ัวไป ของ กศน. ตาบลทา่ กระดาน ประวัติตาบลท่ากระดาน ตาบลท่ากระดานหรือเมืองท่ากระดานมีประวัติการตั้งเป็นบ้านเมืองนานกว่าสองร้อยปีในสมัย รัตนโกสินทร์ตอนต้นเมืองท่ากระดานเป็นหน่ึงในแปดเมืองหน้าด่านขึ้นตรงต่อเมืองกาญจนบุรีที่ตั้งขึ้นเพื่อ ประโยชนท์ างยทุ ธศาสตร์ในการทาสงครามกับกองทัพพม่า คร้ังเมื่อ พ.ศ.2438 ทางราชการได้จัดการปกครอง ใหม่โดยท่ีเมืองท่ากระดานมีประชากรน้อยจึงได้ยุบเป็นหมู่บ้านข้ึนอยู่กับกิ่งอาเภอศรีสวัสด์ิและยกฐานะเป็น ตาบลท่ากระดาน อาเภอศรีสวัสด์ิ ในลาดับต่อมาในปี พ.ศ. 2519 ทางราชการได้ก่อสร้างเข่ือนศรีนครินทร์ (เขอ่ื นบา้ นเจา้ เณร)และตอ้ งใช้พ้ืนท่บี างสว่ นทีจ่ ะใช้เป็นอ่างเก็บน้าซ่ึงบริเวณตาบลท่ากระดานก็อยู่ในพ้ืนท่ีท่ีจะ ใชเ้ ปน็ อา่ งเก็บน้าทางราชการจงึ ไดอ้ พยพราษฎรม์ าอยู่ในบริเวณพน้ื ท่ีทีต่ ้ังในปัจจุบัน ทีต่ ง้ั หมู่ที่ 2 ตาบลทา่ กระดาน อาเภอศรสี วสั ด์ิ จังหวดั กาญจนบุรี หา่ งจาก ทวี่ า่ การอาเภอศรีสวัสด์ิ 47 กโิ ลเมตร และหา่ งจากจงั หวดั กาญจนบุรี 76 กโิ ลเมตร เนอ้ื ท่ี ตาบลท่ากระดาน มีพื้นทโ่ี ดยประมาณ 480 ตารางกโิ ลเมตร หรอื ประมาณ 302,500 ไร่ ภมู ิประเทศ มสี ภาพพืน้ ท่ีเปน็ ภเู ขาสลบั กบั ทร่ี าบ ตงั้ อยูร่ อบบรเิ วณอา่ งเก็บน้าเขื่อนศรีนครินทร์ ติดกับเขอนุรักษ์ พันธส์ุ ตั ว์ปา่ สลักพระและอทุ ยาน แหง่ ชาตเิ อราวณั ทาใหม้ ีแหลง่ ทอ่ งเทีย่ วและสถานทพ่ี ักผ่อนตามธรรมชาตมิ ากมาย อาณาเขตติดต่อ ทิศเหนอื ตดิ ตอ่ ลาหว้ ยสามสุ่ย ตาบลหนองเปด็ อาเภอศรีสวสั ด์ิ จังหวดั กาญจนบุรี ทศิ ใต้ ตดิ ตอ่ ลาหว้ ยสะดอ่ ง ตาบลช่องสะเดา อาเภอเมืองกาญจนบรุ ี ทศิ ตะวนั ออก ตดิ ตอ่ ภเู ขาคนงึ เขต ตาบลหนองรี อาเภอบ่อพลอย จงั หวดั กาญจนบรุ ี ทิศตะวันตก ตดิ ตอ่ ภูเขาหนองเสือ และภูเขาเก้าเลย้ี ว ตาบลไทรโยค อาเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบรุ ี
1.3 ดา้ นการปกครอง จานวนหมู่บ้าน 5 หมู่บ้าน - จานวนหมู่บา้ นในเขตพ้ืนทอี่ งคก์ ารบริหารส่วนตาบลทา่ กระดาน รับผิดชอบทัง้ 5 หมบู่ า้ น ได้แก่ หมู่ท่ี 1 บา้ นท่ากระดาน นายดารัส อาคมเวช เป็นผใู้ หญ่บา้ น หมู่ที่ 2 บา้ นทา่ กระดาน นายเกรยี งศักดิ์ สุวรรณ์ เป็นกานนั หม่ทู ี่ 3 บา้ นบนเขาเรียง นายสาราญ สุนทราลัย เปน็ ผใู้ หญ่บ้าน หมู่ท่ี 4 บ้านแก่งแคบ นายดารง สุวรรณอัมพร เปน็ ผ้ใู หญ่บ้าน หมู่ที่ 5 บ้านหมอ่ งกระแทะ นางสาวศรกี าญจน์ จันทรส์ อาด เปน็ ผใู้ หญบ่ ้าน ท้องถ่นิ อ่นื ในตาบล - จานวนเทศบาล 1 แห่ง เทศบาลตาบลเอราวณั 1.4 ดา้ นประชากร ประชากรท้งั สน้ิ 4,689 คน แยกเปน็ ชาย 2,417 คน หญิง 2,272 คน มคี วามหนาแนน่ เฉล่ยี 10 คน/ตารางกิโลเมตร ชื่อหมูบ่ ้าน จานวนประชากร ชาย หญงิ จานวนครวั เรอื น (คน) (คน) (คน) (ครวั เรือน) หมทู่ ี่ 1 บา้ นท่ากระดาน 999 511 488 360 หมทู่ ่ี 2 บ้านทา่ กระดาน 1,236 655 581 437 หมทู่ ่ี 3 บ้านบนเขาแกง่ เรยี ง 883 470 413 392 หมทู่ ี่ 4 บ้านแก่งแคบ 737 342 395 371 หมู่ท่ี 5 บา้ นหม่องกระแทะ 834 439 395 326 4,689 2,417 2,272 1,886 รวม *** แหลง่ ข้อมลู สานักทะเบียนราษฎร อาเภอศรีสวสั ด์ิ
บทบาทหน้าท่ีของสานกั งาน กศน. สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (สานักงาน กศน.) เป็น หน่วยงานท่ี ก่อตั้งเพ่ือประโยชน์ในการส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษา ให้บุคคลได้รับการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตาม อัธยาศัยอย่างท่ัวถึงและมีคุณภาพตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ และ พระราชบญั ญตั ิการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย พ.ศ. 2551 โดยให้บุคคลซึ่งได้รับการศึกษา ขั้นพื้นฐานไปแล้วหรือไม่ก็ตามมีสิทธิได้รับ การศึกษาในรูปแบบการศึกษานอกระบบหรือการศึกษาตาม อธั ยาศยั ได้ วิสยั ทัศน์ คนไทยไดร้ ับโอกาสการศึกษาและการเรียนร้ตู ลอดชีวิตอย่างมีคณุ ภาพ สามารถดารงชีวิตทเ่ี หมาะสม กบั ชว่ งวัย สอดคลอ้ งกับหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง และมีทักษะที่จาเปน็ ในโลกศตวรรษที่ ๒๑ บทบาทหน้าท่ี สานักงาน กศน. มบี ทบาทหน้าท่ีตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการศึกษานอกระบบและ การศกึ ษาตามอธั ยาศยั พ.ศ. ๒๕๕๑ ๑. เป็นหน่วยงานกลางในการดาเนินการ ส่งเสริม สนับสนุน และประสานงานการศึกษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอัธยาศัย และรับผิดชอบงานธุรการของคณะกรรมการ ๒. จดั ทาข้อเสนอแนะ นโยบาย ยุทธศาสตร์ แผน และมาตรฐานการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอธั ยาศัยต่อคณะกรรมการส่งเสริมสนับสนุนและประสานความร่วมมือการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอธั ยาศยั ๓. ส่งเสริม สนับสนุน และดาเนินการพัฒนาคุณภาพทางวิชาการ การวิจัยการพัฒนาหลักสูตรและ นวัตกรรมทางการศึกษา บุคลากร และระบบข้อมูลสารสนเทศท่ีเก่ียวข้องกับการศึกษานอกระบบและ การศึกษา ตามอธั ยาศยั ๔. ส่งเสริม สนับสนุน และดาเนินการเทียบโอนผลการเรียน การเทียบโอนความรู้และประสบการณ์ และการเทียบระดบั การศึกษา ๕. ส่งเสริม สนับสนุน และประสานงานให้บุคคล ครอบครัว ชุมชน องค์กรชุมชน องค์กรปกครอง ส่วนท้องถ่ิน องค์กรเอกชน องค์กรวิชาชีพ สถาบันศาสนา สถานประกอบการ และองค์กรอ่ืนรวมตัวกันเป็น ภาคี เครอื ข่ายเพือ่ เสริมสรา้ งความเขม้ แขง็ ในการดาเนินงานการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั ๖. จัดทาข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์เครือข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สถานี วิทยุ โทรทัศน์เพื่อการศึกษา วิทยุชุมชน ศูนย์วิทยาศาสตร์เพ่ือการศึกษา ห้องสมุดประชาชน พิพิธภัณฑ์ศูนย์ การเรียนชุมชน และแหล่งการเรียนรู้อื่น เพ่ือส่งเสริมการเรียนรู้และการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างต่อเนื่องของ ประชาชน ๗. ดาเนินการเกี่ยวกับการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการดาเนินงานการศึกษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอัธยาศัย ๘. ปฏิบตั ิงานอน่ื ใดตามพระราชบญั ญตั ินีห้ รือกฎหมายอื่นที่บัญญัติให้เป็นอานาจหน้าที่ของสานักงาน หรอื ตามท่ีรฐั มนตรมี อบหมาย
นโยบายและจดุ เนน้ การดาเนินงาน สานักงาน กศน. ๑.ยุทธศาสตร์ดา้ นความมน่ั คง ๑.๑ ส่งเสริมการจัดการเรยี นรู้ที่ปลกู ฝังคณุ ธรรม สรา้ งวนิ ัย การมจี ติ อาสา และอดุ มการณ์ ความ ยึดมน่ั ในสถาบันหลักของชาติ ๑) เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมี พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีความเป็นพลเมืองดี เคารพความคิดของผู้อื่น ยอมรับความแตกต่างและ หลากหลายทางความคิดและอุดมการณ์ รวมทง้ั สงั คมพหวุ ฒั นธรรม ๒) สง่ เสรมิ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ทปี่ ลกู ฝงั คณุ ธรรม สร้างวินัย จิตสาธารณะ และอุดมการณ์ ความยึดม่ันในสถาบันหลักของชาติ รวมท้ังการมีจิตอาสา ผ่านกิจกรรมลูกเสือ กศน. และกิจกรรมอ่ืนๆ ตลอดจน สนบั สนุนใหม้ ีการจดั กิจกรรมเพอ่ื ปลูกฝังคณุ ธรรม จริยธรรมให้กับบุคลากรในองคก์ ร ๑.๒ ร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศตามโครงการไทยนิยม ยั่งยืน โดยบูรณาการขับเคล่ือนการ ทางานตามแนวทางประชารัฐ ดาเนนิ โครงการ/กิจกรรมในพน้ื ท่ีทัง้ ในระดับตาบล หมู่บ้าน โดยใช้ทีมขับเคล่ือน การ พฒั นาประเทศตามโครงการไทยนิยม ยั่งยืน ระดับตาบลเป็นแกนหลัก และสนับสนุนกลไกการขับเคล่ือน ในพืน้ ที่ทกุ ระดบั ตงั้ แต่จงั หวดั อาเภอ ตาบล และหมู่บ้าน ๑.๓ พัฒนาการจดั การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยในเขตพัฒนาพเิ ศษเฉพาะกจิ จงั หวัด ชายแดนภาคใต้ และพืน้ ที่ชายแดน ๑) พฒั นารูปแบบการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยให้มีความสอดคล้องกับ บริบทของสังคม วฒั นธรรม และพนื้ ท่ี เพ่อื สนับสนนุ การแก้ไขปญั หาและพัฒนาพนื้ ท่ี ๒) เร่งจัดทาแผนและมาตรการด้านความปลอดภัยท่ีชัดเจนสาหรับหน่วยงานและสถานศึกษา รวมทั้งบุคลากรท่ีปฏิบัติงานในพ้ืนที่เขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยบูรณาการแผนและ ปฏิบัตงิ านรว่ มกบั หนว่ ยงานความมั่นคงในพ้นื ที่ ๓) ส่งเสริมและสนับสนุนการจัดกระบวนการเรียนรู้ในสถาบันศึกษาปอเนาะ ในรูปแบบต่างๆ ท่ี หลากหลายตรงกับความต้องการของผู้เรียน อาทิ การเพ่ิมพูนประสบการณ์ การเปิดโลกทัศน์ การยึดม่ัน ใน หลกั คณุ ธรรมและสถาบันหลักของชาติ ๔) สนับสนุนให้มีการพัฒนาบุคลากรทุกระดับทุกประเภทให้มีสมรรถนะท่ีสูงขึ้น เพ่ือให้สามารถ ปฏิบัตงิ านไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ ๑.๔ ส่งเสรมิ การจดั กระบวนการเรียนรทู้ ต่ี อบสนองกบั การเปล่ียนแปลงบริบทด้านสังคม การเมือง รวมทั้งความต้องการของประชาชน และชุมชนในรูปแบบที่หลากหลาย ให้ประชาชนคิดเป็น วิเคราะห์ได้ ตัดสินใจภายใต้ข้อมูลที่ถูกต้อง เช่น ความรู้เร่ืองการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรง เปน็ ประมขุ /การเลือกต้ัง ๒. ยุทธศาสตร์ดา้ นการพฒั นากาลังคน การวจิ ัย และนวัตกรรมเพือ่ สร้างขดี ความสามารถใน การ แขง่ ขนั ของประเทศ ๒.๑ ขบั เคล่ือนการดาเนนิ งานภายใตแ้ ผนพัฒนาการศึกษาระดบั ภาค ๑) สร้างความรู้ความเข้าใจให้กับบุคลากรของสานักงาน กศน. เก่ียวกับการดาเนินงานภายใต้ แผนพฒั นาการศกึ ษาระดบั ภาค เพ่อื ร่วมขบั เคลอ่ื นยทุ ธศาสตร์การพัฒนาภาค ๒) เร่งจัดทายุทธศาสตร์และแผนพัฒนาการศึกษาระดับภาค ของสานักงาน กศน. ให้สอดคล้อง กบั แผนพัฒนาการศกึ ษาระดับภาค
๒.๒ พฒั นากาลงั คนให้มที กั ษะความเข้าใจและใช้เทคโนโลยดี จิ ิทัล (Digital Literacy) ๑) พัฒนาความรู้และทักษะเทคโนโลยดี ิจิทัลของครูและบุคลากรทางการศึกษา เพอ่ื ให้สามารถ ใช้ Social Media และ Application ต่างๆ ในการพฒั นารูปแบบการจดั การเรียนการสอน ๒) ส่งเสรมิ การจดั การเรยี นรู้ดา้ นเทคโนโลยดี ิจิทัล เพื่อใหป้ ระชาชนมีทักษะความเข้าใจและใช้ เทคโนโลยีดจิ ทิ ลั ทสี่ ามารถนาไปใชป้ ระโยชน์ในชวี ิตประจาวัน รวมท้ังสรา้ งรายได้ให้กบั ตนเองได้ ๓) พฒั นาทักษะและส่งเสริมใหป้ ระชาชนประกอบธรุ กจิ การคา้ ออนไลน์ (พาณิชย์อิเลก็ ทรอนิกส)์ มีการใช้ความคิดสร้างสรรค์เชิงนวตั กรรมในการประกอบอาชพี สรา้ งทกั ษะอาชพี ท่สี งู ขึ้นให้กับประชาชน เพื่อ ร่วมขับเคลอื่ นเศรษฐกิจดิจิทลั ๒.๓ พฒั นาทกั ษะภาษาองั กฤษเพ่อื การส่ือสารใหก้ ับประชาชนเพอ่ื รองรบั การพฒั นาประเทศ ๑) พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพ่ือการส่ือสารของประชาชนในรูปแบบต่างๆ อย่างเป็นรูปธรรม โดยเน้นทกั ษะภาษาเพอ่ื อาชีพ ท้ังในภาคธรุ กจิ การบรกิ าร และการทอ่ งเท่ียว ๒) พัฒนาความรู้และทักษะเทคโนโลยีดิจิทัล การใช้ Social Media และ Application ต่างๆ เพ่อื พฒั นารปู แบบการจดั การเรียนการสอนภาษาอังกฤษ ของครูและบุคลากรทางการศึกษา ๓) พัฒนาส่ือการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ เพื่อส่งเสริมการใช้ภาษาเพื่อการส่ือสารและ การพัฒนาอาชีพ ๓. ยทุ ธศาสตร์ด้านการพฒั นาและเสรมิ สรา้ งศกั ยภาพคนให้มีคณุ ภาพ ๓.๑ เร่งรัดดาเนนิ การจดั การศกึ ษาอาชีพเพื่อยกระดับทักษะอาชีพของประชาชนสู่ฝีมือแรงงาน ๑) จัดการศึกษาอาชีพเพ่ือการมีงานทาท่ีสอดคล้องกับศักยภาพของชุมชน และความต้องการ ของ ตลาด ให้ประชาชนสามารถนาไปประกอบอาชีพได้จริง โดยให้เน้นหลักสูตรการศึกษาอาชีพช่างพ้ืนฐาน โดย ประยุกตใ์ ช้เทคโนโลยีในการจัดการเรียนการสอนด้านอาชีพ เช่น การเรียนผ่าน Youtube การเรียนผ่าน Facebook Live ระบบการเรียนร้ใู นระบบเปิดสาหรับมหาชน (Massive Open Online Courses : MOOCs) คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (Computer Assisted Instruction : CAI) เป็นต้น รวมถึงสนับสนุนให้เกิดระบบการ ผลิตท่ี ครบวงจร และเปิดพน้ื ทสี่ ่วนราชการเป็นที่แสดงสนิ คา้ ของชุมชนเพอื่ เป็นการสร้างรายไดใ้ ห้กบั ชมุ ชน ๒) บูรณาการความร่วมมอื ในการพัฒนาฝีมือแรงงานกับสานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ผ่านศูนย์ประสานงานการผลิตและพัฒนากาลังคนอาชีวศึกษาภาคทั่วประเทศ เพื่อมุ่งพัฒนาทักษะของ ประชาชน โดยใช้ประโยชน์จากศักยภาพและภูมิสังคมเฉพาะของพื้นที่ และดาเนินการเชิงรุกเพื่อเสริมจุดเด่น ในระดบั ภาคใน การเป็นฐานการผลติ และการบริการที่สาคญั รวมถงึ มุง่ เน้นสร้างโอกาสในการสร้างรายได้ เพ่ือ ตอบสนองต่อความ ตอ้ งการของตลาดแรงงานทัง้ ภาคอุตสาหกรรมและการบริการ ๓) พัฒนากลุ่มอาชีพพื้นฐานที่รองรับพ้ืนที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ท่ี สามารถ พฒั นาศกั ยภาพไปสรู่ ะดบั ฝมี อื แรงงาน โดยศึกษาต่อในสถาบันการอาชีวศกึ ษา ๓.๒ ส่งเสริมให้ประชาชนใช้เทคโนโลยีในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า การทาช่องทางเผยแพร่ และจาหน่ายผลิตภัณฑ์ของวิสาหกิจชุมชนให้เป็นระบบครบวงจร และสนับสนุนการจาหน่ายสินค้าและ ผลิตภัณฑ์ ผ่านศูนย์จาหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ออนไลน์ กศน. (ONIE Online Commerce Center : OOCC) เพอ่ื จาหน่าย สนิ ค้าออนไลน์ระดบั ตาบล ๓.๓ ส่งเสริมการพัฒนาสุขภาวะของประชาชนทุกวัย โดยการสร้างความรู้ความเข้าใจ การ สนบั สนนุ กิจกรรมสุขภาวะ และสร้างเครือข่ายภาคประชาชน ในการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรค ให้กับ ประชาชนทุกช่วงวัย โดยเฉพาะในพ้ืนท่ีห่างไกล พ้ืนที่ชายแดน และชายแดนภาคใต้ โดยประสานงานร่วมกับ โรงพยาบาลสง่ เสริมสุขภาพตาบล และเจา้ หน้าท่ี อสม. ในการให้ความรเู้ ก่ยี วกับการดูแลสุขภาวะอนามัยให้กับ ประชาชน รวมทั้งผลิตชดุ ความรู้เกี่ยวกับสุขภาวะ สุขอนามัย เพื่อใช้ประกอบการเรียนรู้ในหลักสูตรการศึกษา ของ กศน.
๓.๔ เพิ่มอัตราการอ่านของประชาชน โดยการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านในรูปแบบต่างๆ เช่น อาสาสมัครส่งเสรมิ การอ่าน ห้องสมุดประชาชน บ้านหนังสือชุมชน ห้องสมุดเคล่ือนท่ี ผลักดันให้เกิดห้องสมุด สู่การเป็นห้องสมุดเสมือนจริงต้นแบบ เพื่อพัฒนาให้ประชาชนมีความสามารถในระดับอ่านคล่อง เข้าใจ ความคิด วเิ คราะหพ์ ื้นฐาน และสามารถรบั รู้ขอ้ มูลขา่ วสารท่ีถูกต้องและทันเหตุการณ์ รวมท้ังนาความรู้ท่ีได้รับ ไปใช้ปฏิบตั จิ รงิ ในชวี ิตประจาวัน ๓.๕ เตรยี มความพร้อมการเขา้ สสู่ งั คมผู้สงู อายุทเ่ี หมาะสมและมคี ุณภาพ ๑) ส่งเสริมการจัดกิจกรรมให้กับประชาชนเพ่ือสร้างความตระหนักถึงการเตรียมพร้อมเข้าสู่ สังคม ผู้สูงอายุ (Aging Society) มีความเข้าใจในพัฒนาการของช่วงวัย รวมท้ังเรียนรู้และมีส่วนร่วมในการ ดแู ลรบั ผิดชอบ ผสู้ ูงอายใุ นครอบครวั และชมุ ชน ๒) พัฒนาการจัดบรกิ ารการศึกษาและการเรียนรู้สาหรับประชาชนในการเตรียมความพร้อม เข้า สวู่ ัยสงู อายุที่เหมาะสมและมคี ุณภาพ ๓) จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตสาหรับผู้สูงอายุภายใต้แนวคิด “Active Aging” การศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต และพัฒนาทักษะชีวิต ให้สามารถดูแลตนเองท้ังสุขภาพกายและสุขภาพจิต และ รจู้ กั ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี ๔) สร้างความตระหนักถึงคุณค่าและศักด์ิศรีของผู้สูงอายุ เปิดโอกาสให้มีการเผยแพร่ภูมิปัญญา ของผสู้ ูงอายุ และให้มีสว่ นรว่ มในกิจกรรมด้านต่างๆ ในชุมชน เชน่ ดา้ นอาชพี กฬี า ศาสนาและวฒั นธรรม ๕) จัดการศึกษาอาชีพเพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุ โดยบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานท่ี เกยี่ วขอ้ ง ในทกุ ระดับ ๓.๖ พัฒนาหลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน โดยใช้กระบวนการ “สะเต็ม ศึกษา” (STEM Education) ๔. ยทุ ธศาสตรด์ ้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางการศกึ ษา ๔.๑ สง่ เสริมการรูภ้ าษาไทย เพิม่ อตั ราการรหู้ นังสือ และยกระดบั การรูห้ นงั สอื ของประชาชน ๑) ส่งเสริมการรู้ภาษาไทยให้กับประชาชนในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะประชาชนในเขตพัฒนา พิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้สามารถฟัง พูด อ่าน และเขียนภาษาไทย เพื่อประโยชน์ในการใช้ ชวี ิตประจาวันได้ ๒) เร่งจัดการศึกษาเพ่ือเพิ่มอัตราการรู้หนังสือ และคงสภาพการรู้หนังสือ ให้ประชาชนสามารถ อ่านออก เขียนได้ และคิดเลขเป็น โดยมกี ารวดั ระดับการรหู้ นงั สอื การใชส้ ือ่ กระบวนการ และกิจกรรมพัฒนา ทักษะในรปู แบบตา่ งๆ ทเี่ หมาะสม และสอดคล้องกบั สภาพพน้ื ท่ีและกลุม่ เป้าหมาย ๓) ยกระดับการรู้หนังสือของประชาชน โดยจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะการรู้หนังสือในรูปแบบ ต่างๆ รวมท้ังพัฒนาให้ประชาชนมีทักษะท่ีจาเป็นในศตวรรษท่ี ๒๑ เพ่ือเป็นเครื่องมือในการเรียนรู้ตลอดชีวิต ของประชาชน
๔.๒ เพมิ่ โอกาสทางการศกึ ษาให้กับประชากรวัยเรยี นที่อยนู่ อกระบบการศกึ ษา ๑) เร่งดาเนินการหาตัวตนของประชากรวัยเรียนท่ีอยู่นอกระบบการศึกษา ให้กลับเข้าสู่ระบบ การศึกษา โดยใชก้ ลวธิ ี “เคาะประตบู า้ น รกุ ถึงที่ ลุยถึงถิ่น” โดยประสานกับสานักงานศึกษาธิการจังหวัด เพ่ือ ดาเนินการตรวจสอบข้อมูลทะเบียนราษฎร์เทียบกับข้อมูลการลงทะเบียนเรียนของทุกหน่วยงาน ค้นหาผู้ที่ ไมไ่ ดอ้ ยู่ ในระบบการศึกษาเป็นรายบุคคล และรวบรวมจัดทาเป็นฐานข้อมูล และลงพ้ืนที่ติดตามหาตัวตนของ กลุ่มเป้าหมาย หาสาเหตุของการไม่เข้าเรียน และสอบถามความต้องการในการศึกษาต่อ พร้อมท้ังจาแนก ข้อมูลตามประเภทของ สาเหตุ และประเภทความต้องการในการศึกษาต่อ และส่งต่อกลุ่มเป้าหมายเพ่ือให้รับ การศึกษาตอ่ ตามความ ตอ้ งการของกลุม่ เปา้ หมายได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ ๒) ติดตามผลของกลุ่มเป้าหมายประชากรวัยเรียนที่อยู่นอกระบบการศึกษาท่ีได้รับการจัดหาที่ เรียน และ ท้ังจัดทาฐานข้อมูลผู้สาเร็จการศึกษาของกลุ่มเป้าหมาย รวมท้ังพัฒนาระบบเพื่อการติดตาม กลมุ่ เปา้ หมายที่ได้รับการ ชว่ ยเหลือให้กลบั เข้าสู่ระบบการศึกษาแบบครบวงจร โดยติดตามตั้งแต่การเข้าศึกษา ตอ่ จนจบการศึกษา ๔.๓ ส่งเสริม และพัฒนาระบบการสะสมและเทียบโอนหน่วยการเรียน (Credit Bank System) ของสถานศึกษา ให้มีคุณภาพ มาตรฐาน และสามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย เพ่ือ ประโยชน์ใน การดาเนินการเทยี บโอนความรู้และประสบการณ์ได้อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ ๔.๔ ส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดต้นแบบเมืองแห่งการเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้อย่างต่อเน่ือง ให้กับประชาชนในชมุ ชน โดยกาหนดพน้ื ท่ีนารอ่ งที่ผ่านมาตรฐานเทยี บวัด (Benchmark) ของสานกั งาน กศน. ๔.๕ พัฒนาหลักสูตรการจัดการศึกษาอาชีพระยะส้ัน ให้มีความหลากหลาย ทันสมัย เหมาะสมกับ บริบทของพืน้ ท่ี และตอบสนองความตอ้ งการของประชาชนผรู้ บั บริการ ๔.๖ พัฒนารูปแบบการจัดการศึกษาทางไกล ให้มีความทันสมัย มีหลักสูตรและสาระการเรียนรู้ ท่ี หลากหลาย และสถานศึกษา กศน. สามารถนาไปใช้ในการจดั การเรยี นร้ใู หก้ บั กลุม่ เป้าหมายได้อย่างเหมาะสม ๔.๗ สร้างกระบวนการเรียนรู้ในรูปแบบ E-learning ท่ีใช้ระบบเทคโนโลยีเข้ามาบริหารจัดการ เรียนรู้ เพ่ือเป็นการสร้างและขยายโอกาสในการเรียนรู้ให้กับกลุ่มเป้าหมายได้สะดวก รวดเร็ว ตรงตามความ ต้องการ ของประชาชนผู้รับบริการ เช่น ระบบการเรียนรู้ในระบบเปิดสาหรับมหาชน (Massive Open Online Courses : MOOCs) คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (Computer Assisted Instruction : CAI) ๔.๘ ยกระดบั การศึกษาให้กบั กลุ่มเป้าหมายทหารกองประจาการ รวมทั้งกลุ่มเป้าหมายพิเศษอ่ืนๆ เช่น ผู้ต้องขัง คนพิการ เด็กออกกลางคัน ให้จบการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน สามารถนา ความรทู้ ี่ ไดร้ ับไปพฒั นาตนเองไดอ้ ยา่ งตอ่ เนื่อง ๕. ยุทธศาสตรด์ า้ นส่งเสรมิ และจดั การศกึ ษาเพ่อื เสรมิ สรา้ งคุณภาพชีวิตท่ีเปน็ มิตรกบั สง่ิ แวดลอ้ ม ๕.๑ ส่งเสริมให้มีการให้ความรู้กับประชาชน เกี่ยวกับการป้องกันผลกระทบและปรับตัวต่อการ เปลยี่ นแปลงสภาพภมู ิอากาศและภัยพบิ ัตธิ รรมชาติ ๕.๒ สร้างความตระหนักถึงความสาคัญของการสร้างสังคมสีเขียว ส่งเสริมความรู้ให้กับประชาชน เก่ยี วกบั การคดั แยก การแปรรูป และการกาจัดขยะ รวมท้งั การจดั การมลพิษในชมุ ชน ๕.๓ ส่งเสริมให้หน่วยงานและสถานศึกษาใช้พลังงานท่ีเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งลดการใช้ ทรัพยากรทส่ี ง่ ผลกระทบตอ่ สิง่ แวดล้อม
๖. ยุทธศาสตรด์ ้านการพฒั นาประสิทธิภาพระบบบรหิ ารจดั การ ๖.๑ พัฒนาระบบฐานข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษาเพื่อการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ และ เช่ือมโยงกับระบบฐานข้อมูลกลางของกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อการบริหารจัดการและบูรณาการข้อมูลของ ประชาชนอย่างเปน็ ระบบ ๖.๒ ส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรทุกระดับอย่างต่อเน่ือง ให้มีความรู้และทักษะตามมาตรฐาน ตาแหนง่ ให้ตรงกบั สายงาน ความชานาญ และความต้องการของบคุ ลากร ๖.๓ ส่งเสริมความเข้าใจเก่ียวกับหลักเกณฑ์และวิธกี ารใหข้ า้ ราชการครูและบุคลากรทางการ ศึกษา ตาแหนง่ ครู มวี ิทยฐานะและเล่ือนวทิ ยฐานะ (ว๒๑/๒๕๖๐) วเิ คราะหข์ อ้ มูล (SWOT) ตารางวิเคราะหส์ ภาพแวดล้อมชุมชน ระดับ ตาบล กศน.ตาบลทา่ กระดาน จดุ เด่น หรือจุดแข็ง จุดอ่อน ( S : Strength) ( W : Weakness) 1. มบี ทบาทหน้าทใี่ นการทางานที่ชัดเจน 1. ผู้เรียนบางคนขาดวนิ ัยในตนเอง ทาใหเ้ รียนจบชา้ 2. ไดร้ บั การพฒั นาอย่างต่อเนือ่ งจากสานักงาน กศน.จังหวดั กว่าหลกั สูตรฯ กาหนด 3. มคี วามกระตือรือร้นในการใฝ่หาความรู้ 2. มีความรู้เกย่ี วกบั การวจิ ยั ในชัน้ เรยี นนอ้ ย 4. มคี วามสามารถในการประสานงานกับภาคเี ครอื ข่าย อปุ สรรค โอกาส ( T : Theat ) ( O : Opportunity ) 1. กศน.ตาบลมงี บประมาณที่จากดั ในการ 1. ภาคีเครอื ข่ายให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี บรหิ ารงาน 2. มอี นิ เตอร์เน็ต และคอมพิวเตอร์ให้บรกิ าร 2. ประชาชนขาดความรู้ ความเข้าใจในบทบาท 3. มเี สียงตามสายครบทุกหมู่บ้าน หนา้ ทขี่ อง กศน.ตาบล 4. มีแหลง่ เรยี นรู้ ภมู ิปญั าดา้ นการเกษตรระดับประเทศ
นายทินกร นาคดลิ ก ครู กศน.ตาบลท่ากระดาน
บรรยากาศภายในกศน.ตาบลท่ากระดาน
บรรยากาศภายในกศน.ตาบลท่ากระดาน
Search
Read the Text Version
- 1 - 13
Pages: