พัฒนาสังคม

รายงานการจดั กจิ กรรมการศกึ ษาตอ่ เนอ่ื ง พัฒนาสงั คมและชมุ ชน โครงการอบรมใหค้ วามรกู้ ารแพรเ่ ชอื้ ของโรคโควดิ 19 และวธิ กี ารปอ้ งกนั ตนเองในชมุ ชน วนั ท่ี 22 มิถนุ ายน 2564 ณ รพ.สต.ตำบลหนองบวั อำเภอเมอื งกาญจนบุรี ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อธั ยาศยั อำเภอเมืองกาญจนบุรี หนา้ 1

รายงานการจัดการศกึ ษาตอ่ เนอ่ื ง พฒั นา สงั คมและชมุ ชน โครงการอบรมใหค้ วามรู้การแพร่เช้ือของโรคโค วดิ 19 และวธิ ีการป้องกันตนเองในชมุ ชน วันที่ 22 มถิ ุนายน 2564 ณ กศน.ตำบลหนองบัว ตำบลหนองบัว อำเภอเมืองกาญจนบรุ ี จงั หวดั กาญจนบรุ ี ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัย อำเภอเมอื งกาญจนบรุ ี Non-formal and Informal Education Centre หนา้ 2

คำนำ กระทรวงศึกษาธิการ มุ่งจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาสังคมและชุมชนตามแนวคิดชัดการศึกษาเพื่อการ พัฒนาท่ยี งั่ ยนื ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง โดยใช้หลกั สตู รและการจัดกระบวนการเรยี นรแู้ บบบูรณา การในรูปแบบของการฝึกอบรม การประชุมสัมมนา การจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การสร้างชุมชนนักปฏิบัติ การเรียนทางไกล และรปู แบบอนื่ ๆ ท่เี หมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย และบริบทของชุมชนแต่ละพ้ืนที่ ไวรัสโคโร นาสายพันธุใ์ หม่ 2019 เป็นตระกลู ของไวรสั ที่ก่อให้อาการป่วยต้ังแต่โรคไข้หวัดธรรมดาไปจนถึงโรคที่มีความ รุนแรงมาก เช่น โรคระบบทางเดินหายใจตะวันออกกลาง (MERS-CoV) และโรคระบบทางเดินหายใจ เฉียบพลันรนุ แรง (SARS-CoV) เป็นต้น ซึ่งเป็นสายพันธุ์ใหมท่ ี่ไม่เคยพบมาก่อนในมนษุ ยก์ อ่ ให้เกิดอาการปว่ ย ระบบทางเดินหายใจในคน และสามารถแพร่เชื้อจากคนสู่คนได้ โดยเชื้อไวรัสนี้พบครั้งแรกในการระบาดใน เมอื งอู่ฮน่ั มณฑลหูเป่ย์ สาธารณรัฐประชาชนจีน ในช่วงปลายปี 2019 ความรู้เบอ้ื งต้นเกยี่ วกบั ไวรัสโรคทางเดนิ หายใจอุบัติใหม่ รวมท้งั ไวรสั โคโรนาพันธใ์ุ หม่ หลังจากเรียนจบคอร์สน้ี คุณควรจะสามารถอธิบาย • ลักษณะของไวรัสโรคทางเดินหายใจอุบัตใิ หม่ แนวทางการตรวจหาและประเมนิ การ ระบาด กลยทุ ธ์การป้องกนั และควบคุมการระบาดท่มี ีสาเหตจุ ากไวรสั โรคทางเดนิ หายใจ พนั ธใ์ุ หม่ • กลยทุ ธ์การสอ่ื สารความเสีย่ งและการทำงานรว่ มกบั ชุมชนทีค่ วรใช้เพือ่ ตรวจหา ปอ้ งกัน และควบคมุ ภาวะฉกุ เฉินท่เี กิดจากไวรัสโรคทางเดินหายใจพนั ธ์ใุ หม่ หนา้ 3

บทที่ 1 บทนำ นโยบำย และจุดเน้นกำรดำเนนิ งำน กศน. ข้อท่ี 1.3.3 มุ่งจัดการศึกษาเพื่อพฒั นาสังคมและชุมชนตามแนวคิดชัดการศึกษาเพื่อการพฒั นาที่ ยง่ั ยืนตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยใชห้ ลกั สูตรและการจดั กระบวนการเรียนรู้แบบบูรณาการ ในรูปแบบของการฝึกอบรม การประชุมสัมมนา การจดั เวทีแลกเปลีย่ นเรียนรู้ การสร้างชุมชนนกั ปฏบิ ตั ิ การ เรียนทางไกล และรูปแบบอนื่ ๆ ที่เหมาะสมกบั กลุ่มเป้าหมาย และบริบทของชุมชนแต่ละพ้ืนท่ี โดยเนน้ การ สร้างจิตสานึกความเป็นประชาธิปไตย ความเป็นพลเมอื งดี การส่งเสริมบทบาทสตรี การสร้างความเขม้ แข็ง ของเศรษฐกิจชุมชน การบริ หารกองทุน การสร้างความม่ันคงด้านอาหาร การอนุรักษ์พลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม การบริหารจดั การน้า และการรองรับเขา้ สู่ประชาคมอาเชี่ยน และ หลกั สูตรเชิงบรู ณาการเพอื่ การพฒั นาท่ียง่ั ยืนตามแนวคิดของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งเศรษฐกิจพอเพียง เป็น ปรัชญาช้ีถึงแนวทางการดารงอยู่และปฏิบตั ิของประชาชนทุกระดับ ต้งั แต่ระดบั ครอบครัว ระดับชุมชน จนถึงระดบั รัฐ ท้งั ในการพฒั นาและบริหารประเทศให้ดาเนินไปในทาง สายกลาง โดยเฉพาะการพฒั นา เศรษฐกิจ เพ่ือให้กา้ วทนั ต่อโลกยุคโลกาภิวตั น์ ความพอเพียง หมายถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล รวมถึงความจาเป็นท่ีจะตอ้ งมีระบบภูมิคุม้ กนั ในตวั ที่ดีพอสมควร ต่อการมีผลกระทบใดๆ อนั เกิดจากการ เปลยี่ นแปลงท้งั ภายนอกและภายใน ท้งั น้ี จะตอ้ งอาศยั ความรอบรู้ ความรอบคอบ และความระมดั ระวงั อยา่ ง ย่ิงในการนาวิชาการต่างๆ มาใช้ในการวางแผนและการดาเนินการทุกข้นั ตอน และขณะเดียวกันจะตอ้ ง เสริมสร้างพ้ืนฐานจิตใจของคนในชุมชน ใหม้ สี านึกในคณุ ธรรม ความซื่อสัตยส์ ุจริต และใหม้ ีความรอบรู้ ที่ เหมาะสมดาเนินชีวิตดว้ ยความอดทน ความเพียร มีสติ ปัญญา และความรอบคอบ เพ่ือให้สมดุลและพร้อม ต่อการรองรับการเปลย่ี นแปลงอยา่ งรวดเร็ว และกวา้ งขวาง ท้งั ดา้ นวตั ถุ สังคม สิ่งแวดลอ้ ม และวฒั นธรรม จากโลกภายนอกไดเ้ ป็นอยา่ งดี การพฒั นาโดยส่งเสริมให้คนในชุมชนมีแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง จะทาให้กลุ่มเป้าหมายมีความรู้ ความเข้าใจในวิถีชีวิตท่ีควรเป็ นและจะเป็ นพลังสาคญั ท่ีจะขบั เคล่ือนแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงให้ขยาย ครอบคลุมทุกครัวเรือน ซ่ึงจะทาให้ชุมชนมีความเขม้ แข็งและสามารถพ่ึงตนเองไดอ้ ย่างยงั่ ยืนอน่ึงเพื่อเป็น การส่งเสริมสนับสนุนโครงการจดั การศึกษาเพ่ือพฒั นาสังคมและชุมชนตามแนวคิดการจัดการศึกษาเพ่ือ พฒั นาทย่ี ง่ั ยืนตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง หนา้ 4

กำรศึกษำต่อเน่ือง 1) จดั การศึกษาอาชีพเพ่ือการมีงานทาอยา่ งยง่ั ยืน โดยให้ความสาคญั กบั การจดั การศึกษา อาชีพเพื่อการมีงานทาประเภทช่างพ้ืนฐาน/ช่างชนบท และอาชีพท่ีสอดคลอ้ งกบั ศกั ยภาพของผูเ้ รียนและ ศกั ยภาพของแต่ละพ้ืนท่ี 2) จดั การศึกษาเพื่อพฒั นาทกั ษะชีวิตให้กบั ทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยจดั กิจกรรมการศึกษาใน รูปแบต่างๆ อาทิ ค่ายพฒั นาทกั ษะชีวิต การจัดต้งั ชมรม/ชุมนุม การส่งเสริมความสามารถพิเศษต่าง ๆที่ มุ่งเนน้ ให้ทกุ กลมุ่ เป้าหมายมคี วามรู้ความสามารถในการบริหารจดั การชีวิตของตนเองให้อยใู่ นสงั คมไดอ้ ยา่ ง มีความสุข มีคณุ ธรรมจริยธรรม รวมท้งั สามารถใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ป็นประโยชน์ต่อตนเอง ครอบครวั และชุมชน 3) จดั การศึกษาเพื่อพฒั นาสังคมและชุมชน โดยใชห้ ลกั สูตรและการจดั กระบวนการเรียนรู้ แบบบูรณาการในรูปแบบของการฝึกอบรม การเรียนทางไกล การประชุม สัมมนา การจดั เวทีแลกเปล่ียน เรียนรู้ การจดั กิจกรรมจิตอาสา การสร้างชุมชนนกั ปฏิบตั ิ และรูปแบบอืน่ ๆ ทีเ่ หมาะสมกบั กลมุ่ เป้าหมายและ บริบทของชุมชนแต่ละพ้ืนที่ โดยเน้นการดาเนินตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง การสร้างจิตสานึก ความเป็นประชาธิปไตย ความเป็นพลเมืองดี การบาเพญ็ ประโยชน์ การอนุรกั ษพ์ ลงั งานทรัพยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดลอ้ ม 4) ส่งเสริมการจดั การเรียนรู้เพ่ือสร้างจิตสานึกและวินัยในชุมชน เช่น การส่งเสริมคณุ ธรรม และจริยธรรมในชุมชน การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจดั การขยะมูลฝอยของชุมชน ศูนยเ์ รียนรู้หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งและเกษตรทฤษฎีใหมป่ ระจาตาบล หนา้ 5

บทที่ 2 หลักกำรและเหตุผล ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 เป็นตระกูลของไวรสั ที่กอ่ ให้อาการป่วยตั้งแต่โรคไข้หวัดธรรมดาไป จนถึงโรคที่มีความรุนแรงมาก เช่น โรคระบบทางเดินหายใจตะวันออกกลาง (MERS-CoV) และโรคระบบ ทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (SARS-CoV) เป็นต้น ซึ่งเป็นสายพันธุ์ใหม่ที่ไม่เคยพบมาก่อนในมนุษย์ ก่อให้เกิดอาการป่วยระบบทางเดินหายใจในคน และสามารถแพร่เชอื้ จากคนสู่คนได้ โดยเชอ้ื ไวรสั นพี้ บครง้ั แรก ในการระบาดในเมอื งอฮู่ ัน่ มณฑลหเู ป่ย์ สาธารณรัฐประชาชนจนี ในชว่ งปลายปี 2019 ไวรัสโคโรนาเป็นไวรัสในสัตว์ มีหลายสายพันธุ์ โดยปรกติไม่ก่อโรคในคน แต่ เมื่อกลายพันธุเ์ ป็นสาย พันธุ์ใหม่ที่ก่อโรคในมนุษย์ได้ (ซึ่งมักเกิดจากการจัดการท่ีผิด ธรรมชาติโดยมนุษย์) ในขณะที่มนุษยย์ ังไม่รู้จกั และไม่มีภูมิต้านทาน ก็จะเกิดการ ระบาดของโรคในคน โรคโควิด-19 (COVID-19, ย่อจาก Coronavirus disease 2019) เปน็ โรคติด เชื้อทางเดนิ หายใจท่ีเกิดจากไวรัสโคโรนา ซงึ่ มชี อ่ื ทางการวา่ SARS-CoV-2 ท าให้ เกิด ไข้ ไอ และอาจมีปอดอักเสบ เริ่มพบผู้ป่วยครั้งแรกเมื่อเดือน ธันวาคม พ.ศ. 2562 (ค.ศ. 2019) ที่เมืองอู่ ฮั่น เมอื งหลวงของมณฑลหูเป่ย์ ภาคกลางของประเทศจนี ซึง่ เป็นเมอื งใหญม่ ีผคู้ น หนาแน่น จึงเกิดการระบาด ใหญไ่ ดร้ วดเร็ว การดแู ลรักษาเปน็ ไปอย่างฉุกเฉิน มคี น ป่วยหนกั และตายมากเกินที่ควรจะเปน็ จนประเทศจีน ตอ้ งปดิ เมอื ง และปดิ ประเทศ ต่อมา ขณะน้ีประเทศจีนสามารถควบคมุ ได้ จนแทบจะไม่มผี ู้ป่วยรายใหม่ แตโ่ ดย ธรรมชาติแล้ว จะยังมีผู้ที่มีเชื้ออยู่ ผู้ป่วยรายแรกที่รับการรักษาในประเทศไทย เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2563 เปน็ คนจนี ที่รบั เช้ือจากการระบาดในประเทศจีน และได้เดินทางมาประเทศไทย หลงั จาก น้นั มผี ้ปู ่วยอีกหลาย รายท่ีมาจากประเทศอน่ื สว่ นผูป้ ่วยท่ตี ิดเชอื้ ในประเทศไทยราย แรก มีการรายงานเมือ่ 31 มกราคม 2563 โรค นี้เกิดจากไวรัสโคโรนา (Corona virus) ที่กลายพันธุ์ในธรรมชาติเป็นสาย พันธุ์ใหม่ จากการที่ธรรมชาติถูก มนุษยท์ าร้าย โดยมสี มมตุ ิฐานว่า ไวรสั อาจจะมี แหลง่ เรม่ิ ต้นคอื ค้างคาว และกลายพนั ธเุ์ ม่ือผ่านสัตว์ตัวกลาง กลายเป็นไวรัสสาย พันธุ์ใหม่ที่ก่อโรคในคน และคนไปรับเชื้อมาแพร่ระหว่างคนสูค่ น ทั้งนี้ต้องรอการ พิสูจน์ ต่อไป เคยมีเหตุการณ์ที่คล้ายคลึงกันจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่เกิดขึ้นใน อดีต คือ การเกิดโรค SARS (พ.ศ.2545) และ MERS (พ.ศ.2557) ซงึ่ ทั้งสองโรคน้ัน ๔ ผู้ปว่ ยมีอาการหนกั ทงั้ หมดและตอ้ งอยู่ในโรงพยาบาล จึงสะกัดการแพร่โรคได้ไม่ยากนัก ส่วนผู้ป่วยโรค COVID-19 ที่แพร่เชื้อ มีทั้งผู้ที่มีอาการน้อยหรืออาจไม่มี อาการ นอกเหนือจากผูม้ อี าการหนักซงึ่ มีนอ้ ยกว่ามาก จงึ ควบคมุ การระบาดไดย้ ากกว่า การระบาดท่ีใกล้เคียง กับครั้งนี้มากที่สุด คือการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ุ ใหม่ 2009 (Influenza A (H1N1) pdm09 virus) ใน พ.ศ.2552 ซึ่งเริ่มจากอเมริกา แล้วระบาดหนักไปทั่วโลก แต่คนที่ติดเชื้อโควิด-19 สามารถแพร่เชื้อได้ใน ชว่ งเวลา ของการติดเชื้อได้นานกว่า การระบาดจึงน่าจะกว้างขวางกวา่ และควบคมุ ยากกว่า ความรู้เบือ้ งต้นเกี่ยวกับไวรัสโรคทางเดินหายใจอุบัติใหม่ รวมทั้งไวรัสโคโรนาพันธุ์ใหม่ หลังจากเรียน จบคอรส์ นี้ คุณควรจะสามารถอธบิ าย หนา้ 6

• ลกั ษณะของไวรัสโรคทางเดนิ หายใจอุบัตใิ หม่ แนวทางการตรวจหาและประเมินการ ระบาด กลยทุ ธ์การป้องกนั และควบคุมการระบาดท่ีมีสาเหตุจากไวรสั โรคทางเดินหายใจ พนั ธใุ์ หม่ • กลยุทธก์ ารสือ่ สารความเสยี่ งและการทำงานร่วมกับชุมชนทค่ี วรใชเ้ พื่อตรวจหา ป้องกัน และควบคุมภาวะฉกุ เฉนิ ท่ีเกิดจากไวรสั โรคทางเดินหายใจพันธใ์ุ หม่ วตั ถุประสงค์ - เพ่อื ให้ผูเ้ รียนมีความสามารถในการคิดไดอ้ ยา่ งหลากหลาย - เพื่อใหผ้ ูเ้ รียนมีความคิดสร้างสรรคแ์ ละมีจินตนาการ - เพื่อใหผ้ ูเ้ รียนสร้างความสามคั คใี นหมู่คณะ - เพือ่ ให้ผูเ้ รียนนาความรู้ไปใช้ในชีวิตประจาวนั เป้ำหมำย เชิงปริมำณ กศน.ตาบลหนองบวั จานวน 22 คน เชิงคณุ ภำพ - นกั เรียนไดร้ ับประสบการณ์ตรงไดเ้ รียนรู้จากของจริง และสามารถ ดาเนินชีวิตอยูใ่ นสังคมไดอ้ ย่างมี ความสุข วธิ ดี ำเนินกำร 1. วางแผนการจดั กิจกรรม โดยมีการประชุมครูและบุคลากร จดั ทาคาสั่งแบง่ งานและมอบหมาย ฝ่ายต่าง ๆ 2. เตรียมการจดั ประชุมแตล่ ะกลมุ่ สาระการเรียนรู้ กาหนดขอบข่ายของเน้ือหาสาระเพื่อบูรณาการ กลุ่มสาระการเรียนรู้ จดั ทาเอกสาร เตรียมงานป้ายนิเทศแต่ละฐาน จดั ทาแบบประเมนิ ผลการจดั กิจกรรม 3. ดาเนินกิจกรรม แบง่ นกั เรียนเป็นกลุ่ม โดยให้นกั เรียนเขา้ แตม่ าศึกษาและบอกวตั ถปุ ระสงคข์ อง การจดั กิจกรรมแต่ละฐานเพื่อให้นกั เรียนไดร้ ่วมกิจกรรม 4. ตดิ ตามประเมนิ ผลการดาเนินกิจกรรมโดยจดั ทาแบบสอบถาม 5. สรุปผลการดาเนินงานและรายงานผล หนา้ 7

กจิ กรรมหลัก วัตถุประสงค์ กล่มุ เป้ำหมำย เป้ำหมำย พนื้ ทด่ี ำเนินกำร ระยะเวลำ งบประมำณ 1.อบรมใหค้ วามรู้ 1. เพอื่ พฒั นา ประชาชน 22 คน ณ รพ.สต.ตำบล 22 ผเู้ รียนให้มีความรู้ มถิ ุนายน วชิ าการ กศน.ตาบล หนองบวั 2564 หนองบวั ระยะเวลำดำเนินกำร 22 มถิ นุ ายน 2564 สถำนที่ดำเนินกำร ณ รพ.สต.ตำบลหนองบัว ตำบลหนองบัว อำเภอเมอื งกาญจนบรุ ี จงั หวัดกาญจนบรุ ี ตัวชี้วดั ควำมสำเร็จของโครงกำร 1.ประชาชนไดเ้ สริมทกั ษะทางดา้ นวชิ าการมผี ลสัมฤทธ์ิและมีผลทดสอบการสอบหลงั เรียนสูงกวา่ กอ่ นเรียน 2. ประชาชนไดร้ ับประสบการณต์ รงนอกเหนือจากการเรียนในห้องเรียน 3. ประชาชนนาเอาประสบการณ์มาใชใ้ นชีวิตประจาวนั 4. ประชาชนไดอ้ ยรู่ ่วมกนั รู้จกั ปรับตวั ให้เขา้ กบั ผอู้ ืน่ ช่วยเหลอื ซ่ึงกนั ได้ 5. ประชาชนมวี นิ ยั รู้จกั เสียสละตรงต่อเวลา รู้จกั เป็นผนู้ า และผตู้ ามท่ดี ี ผลทคี่ ำดว่ำจะได้รับ 1. ประชาชนมที กั ษะทางดา้ นวชิ าการเพม่ิ ขน้ึ 2. ประชาชนไดร้ บั ประสบการณ์ตรงนอกเหนือจากการเรียนในหอ้ งเรียน 3. ประชาชนสามารถนาเอาประสบการณม์ าใชใ้ นชีวิตประจาวนั 4. ประชาชนสามารถอยรู่ ่วมกนั รู้จกั ปรับตวั ให้เขา้ กบั ผอู้ ื่น ช่วยเหลอื ซ่ึงกนั และกนั 5. ประชาชนมวี ินยั รู้จกั เสียสละตรงต่อเวลา รู้จกั เป็นผนู้ า และผตู้ ามท่ีดี หนา้ 8

บทท่ี 3 แผนกำรดำเนนิ งำน กจิ กรรมดำเนนิ งำน ปี พ.ศ.2564 ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย พ.ค ม.ิ ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. กำรเตรียมกำร สารวจความตอ้ งการของชุมชนใน เร่ืองของความตอ้ งการใหส้ ่งเสริมอาชีพ กาหนดอาชีพให้ตรงความตอ้ งการของ ชุมชน ตดิ ต่อวทิ ยากร เขียนโครงการ ขออนุมตั โิ ครงการ กำรเตรียมสถำนท่ี การจดั เตรียมสถานท่ี การเตรียมอุปกรณ์ กำรดำเนนิ งำน ประชาสัมพนั ธห์ ากลุ่มเป้าหมายใน ตาบล ดาเนินการเรียนการสอน นิเทศการเรียนการสอน ประเมนิ สรุปเมื่อดาเนินการเรียนการ สอนตามระยะเวลาที่กาหนด เสนอแนวทางการพฒั นา หนา้ 9

บทท่ี 4 กำรประเมินผลกำรจัดกิจกรรม สรุปแบบสอบถำมควำมพงึ พอใจ วันท่ี 22 มถิ ุนำยน 2564 ณ รพ.สต.ตำบลหนองบัว ตำบลหนองบวั อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ตอนท่ี 1 ข้อมูลท่วั ไป ชาย 1 คน เพศ อำยุ หญิง 21 คน ระดบั กำรศึกษำ อาย1ุ 5 - 39 ปี คน ตำแหน่งทำงสังคม อาย4ุ 0 - 59 ปี 14 คน อายุ 60 ปี ข้นึ ไป 8 คน ประถมศึกษา 5 คน ม.ตน้ 8 คน ม.ปลาย 8 คน ปวช ปวส. คน ปริญญาตรี คน อืน่ ๆ ระบ.ุ ...................... 1 คน คน ประชาชน 22 คน ประชาชนทว่ั ไป คน กรรมการหมบู่ า้ น คน หนา้ 10

ภำพกจิ กรรมกำรศึกษำเพอื่ พฒั นำชุมชนและสังคม โครงกำรอบรมให้ควำมรู้กำรแพร่เชื้อของโรคโควิด 19 และวิธีกำรป้องกันตนเองในชุมชน ณ รพ.สต.ตำบลหนองบัว หม่ทู ี่ 3 ตำบลหนองบวั อำเภอเมืองกำญจนบรุ ี จังหวัดกำญจนบรุ ี วนั ที่ 22 มถิ นุ ำยน 2564 หนา้ 11

ภำพกจิ กรรมกำรศึกษำเพอื่ พฒั นำชุมชนและสังคม โครงกำรอบรมให้ควำมรู้กำรแพร่เชื้อของโรคโควิด 19 และวิธีกำรป้องกันตนเองในชุมชน ณ รพ.สต.ตำบลหนองบัว หม่ทู ี่ 3 ตำบลหนองบวั อำเภอเมืองกำญจนบรุ ี จังหวดั กำญจนบรุ ี วนั ที่ 22 มถิ นุ ำยน 2564 หนา้ 12

สรุปแบบสอบถำมควำมพงึ พอใจ วนั ท่ี 22 มถิ ุนำยน 2564 ณ รพ.สต.ตำบลหนองบวั ตำบลหนองบัว อำเภอเมอื งกาญจนบุรี จงั หวัดกาญจนบรุ ี ตอนท่ี 2 ด้ำนควำมพงึ พอใจของผ้รู ับบริกำร สรุประดับควำมพงึ พอใจ ลำดับ รำยกำร ค่ำเฉลย่ี ควำมหมำย คิดเป็ น ร้อยละ 1 ประชาชนมีความสามารถในการคดิ ไดอ้ ยา่ งหลากหลาย 2 ประชาชนมีความคดิ สร้างสรรคแ์ ละมจี ินตนาการ 4.35 ดี 87.00 3 เสริมสร้างการทางานเป็นทมี 4 สามารถนาความรู้ไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั 4.35 ดี 87.00 5 สร้างความสามคั คีในหมู่คณะ 6 ฝึกความอดทน 4.35 ดี 87.00 7 เป็นแหลง่ เรียนรู้นอกสถานท่ี 8 สถานทีจ่ ดั กิจกรรมเหมาะสม 4.35 ดี 87.00 9 การเรียนรู้ครบถว้ น 10 มกี ารจดั กิจกรรมบูรณาการในแต่สาระการเรียนรู้ 4.35 ดี 87.00 สรุปควำมพงึ พอใจโดยรวม 4.35 ดี 87.00 4.35 ดี 87.00 4.35 ดี 87.00 4.35 ดี 87.00 4.35 ดี 87.00 4.35 ดี 87.00 หนา้ 13

บทท่ี 5 จำกผลแบบสอบถำมควำมคิดเหน็ และควำมพึงพอใจของด้ำนกระบวนกำรจัดกิจกรรม 1. ประชาชนมีความสามารถในการคิดไดอ้ ยา่ งหลากหลาย มีผลการประเมินอยู่ในระดบั ดีมากคิด เป็นร้อยละ 94 2. ประชาชนมคี วามคดิ สร้างสรรคแ์ ละมจี ินตนาการ มผี ลการประเมินอยใู่ นระดบั ดีคดิ เป็นร้อยละ 87 3. เสริมสร้างการทางานเป็นทมี มีผลการประเมินอยใู่ นระดบั ดีคิดเป็นร้อยละ 87 4. สามารถนาความรู้ไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั มีผลการประเมนิ อยใู่ นระดบั ดีคิดเป็นร้อยละ 87 5. สร้างความสามคั คใี นหมคู่ ณะ มีผลการประเมนิ อยใู่ นระดบั ดีคิดเป็นร้อยละ 87 6. ฝึกความอดทน มผี ลการประเมนิ อยใู่ นระดบั ดีคิดเป็นร้อยละ 87 7. เป็นแหลง่ เรียนรู้นอกสถานท่ี มีผลการประเมินอยใู่ นระดบั ดีคิดเป็นร้อยละ 87 8. สถานที่จดั กิจกรรมเหมาะสม มีผลการประเมนิ อยใู่ นระดบั ดีคดิ เป็น ร้อยละ 87 9. การเรียนรู้ครบถว้ น มีผลการประเมินอยใู่ นระดบั ดีคดิ เป็นร้อยละ 87 10. มีการจดั กิจกรรมบูรณาการในแต่สาระการเรียนรู้ มีผลการประเมนิ อยูใ่ นระดบั ดีคิดเป็นร้อยละ 87 * โดยภาพรวมดา้ นผลที่ไดร้ ับจากการเรียนรู้หรือเขา้ ร่วมกิจกรรม ผูร้ ับบริการมีผลการประเมินใน ระดบั ดีข้นึ ไป คดิ เป็นร้อยละ 87 หนา้ 14

คณะผ้จู ดั ทำ ทป่ี รึกษา นายศกั ด์ชิ ยั นาคเอ่ียม ผอ.กศน.อาเภอเมอื งกาญจนบรุ ี นางสุนีย์ ทนั ไกร ครูอาสาสมคั รฯ กศน.อ.เมอื งฯ นายธีรพงศ์ พมิ พ์ใจ ครูผชู้ ว่ ย กศน.อ.เมืองฯ คณะผจู้ ดั ทา นายณฏั ฐเมศ เสริมสุข ผรู้ ับผิดชอบโครงการ นางสาวจารุณี สาราญวงศ์ คณะทางาน หนา้ 15

ภาคผนวก หนา้ 16

แบบตดิ ตามผูเ้ ขา้ รบั การฝกึ อบรมประชาชนหลงั จบหลกั สตู ร กศน.ตำบลหนองบวั กศน.อำเภอเมอื งกาญจนบรุ ี จงั หวดั กาญจนบรุ ี ฝกึ อบรมหลกั สตู ร โครงการอบรมใหค้ วามรูก้ ารแพร่เช้ือของโรคโควดิ 19 และวธิ ีการป้องกนั ตนเองในชุมชน จำนวน......1........ วนั ระหวา่ งวนั ท…ี่ ...22 มิถนุ ายน 2564................................................. ชือ่ วทิ ยากร (ถ้าม)ี ................นางสาวจฑุ าลกั ษ์ ศรพลธรรม์............ คำชแ้ี จง แบบตดิ ตามผเู้ ขา้ รบั การฝกึ อบรมประชาชน มวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอื่ ศกึ ษาและรวบรวมขอ้ มลู เกยี่ วกบั ประโยชนท์ ผ่ี เู้ ข้ารบั การฝกึ อบรมไดร้ บั หลงั จากการฝกึ อบรมจบหลกั สตู รแลว้ ท่ี ชื่อ –นามสกุล ลดรายจา่ ย เพ่มิ รายได้ การนำไปใชป้ ระโยชน์ นำไปประกอบ อ่นื ๆ ผู้เขา้ รบั การฝึกอบรม พัฒนา อาชพี (ระบุ) คุณภาพชีวติ 1 รต.ธนาคม เกษมโชตยุทธกิจ ✓ 2 นางบุญยงั ปรยิ าปญั วงค์ ✓ 3 นางพรรณ ทวิ ทิมพฤกษ์ ✓ 4 นางระเบยี บ วเิ ศษสงิ ห์ ✓ 5 นางบญุ เนอื ง สตั ยกาญจน์ ✓ 6 นางจติ รา หงสท์ องต์ ✓ 7 นางอารมณ์ ชยั เจรญิ ✓ 8 นางอำไพ ประพฤตกิ รรม ✓ 9 นางวาสนา พฒุ ซอ้ น ✓ 10 นายยรรยง หงส์ยนต์ ✓ 11 นางสรวง เหตะ ✓ 12 นางปภาวี เอตกิ าญจน์ ✓ 13 นางลนิ จง พันธุวาสฏิ ฐ์ ✓ 14 นายพีรภาฬ นอ้ ยจนี ✓ 15 นางวิเชยี ร เกษมโศธน์ ✓ 16 น.ส.ศิริรัตน์ วิมลราตรี ✓ 17 นางกระจ่าง เอกจติ ร ✓ 18 นายอภิรัฐ บญุ น้อม ✓ 19 นางพริ ณ หอมชนี า ✓ 20 น.ส.พิศมัย สรุ วิ งศ์ ✓ 21 น.ส.ปนุ้ บัวหลวง ✓ 22 นางงามตา ศริ พิ ฒั น์ ✓ ลงชอ่ื ..............................................................ครู กศน.ตำบล (นายณฏั ฐเมศ เสรมิ สขุ ) หนา้ 17