96 มามรุาตรุตพฒั พผัฒลผ:ล๒:๕2๕5๓54 สาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ระดับชัน ป. 4 ภาคเรียนที 1 หน่วยการเรยี นรู้ เรือง วงแหวนแห่งไฟ (The Ring of Fire) เวลา 3 ชัวโมง 1. ผลการเรียนรู้ (Learning Outcome) รู้และเข้ าใจการวิเคราะห์ทางสถติ แิ ละนาํ เสนอข้ อมูลในลักษณะต่างๆ โดยใช้กระบวนการวิจัย มคี วามสามารถในการคิดวเิ คราะห์ และมีจิตสาํ นกึ ความรับผิดชอบต่อสงิ แวดล้อม 2. ความคิดรวบยอดหลกั (Main Concept) จิ ต สํานึกควา มรั บผิ ดชอบ บรเิ วณ ปรากฏการณ์ ต่ อสิงแว ดล้ อม ทางธรรมชาติ วงแหวน แห่งไฟ คิดวิเคราะห์ การวิ เครา ะห์ ท างสถิติ และการนาํ เสนอ กระบวนการวจิ ัย มารุต พฒั ผล : 2554
97 3. หวั ข้อสาระการเรียนรู้ มารุต พฒั ผล : 2554 3.1 การกาํ เนิดวงแหวนแห่งไฟ 3.2 บริเวณวงแหวนแห่งไฟ 3.3 ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติทเี กิดจากวงแหวนแห่งไฟ 3.4 การวิเคราะห์สถิติและการนาํ เสนอข้อมูล 4. สมรรถนะ มคี วามสามารถในการคดิ วิเคราะห์ 5. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ มจี ิตสาํ นึกความรับผดิ ชอบต่อสิงแวดล้อม 6. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 6.1 สามารถวิเคราะห์และนาํ เสนอข้อมูลในลักษณะต่างๆ ได้ 6.2 มคี วามสามารถในการคิดวเิ คราะห์ 6.3 มจี ติ สํานกึ ความรบั ผิดชอบตอ่ สงิ แวดล้อม 7. กิจกรรมการเรียนรู้ 7.1 ขันกาํ หนดปัญหา 1) ผู้เรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกียวกบั ภาพถ่ายภูเขาไฟระเบิด สึนามิ แผ่นดินไหว 2) ผู้สอนตังคําถามเกยี วกบั ปรากฏการณ์แผ่นดินไหวทีเกดิ ขึนในประเทศไทย 7.2 ขนั เกบ็ รวบรวมข้อมูล 3) ผู้เรยี นร่วมกันศึกษาค้นคว้าเกยี วกับปรากฏการณ์แผ่นดินไหวทีเกิดขึนในประเทศไทย จากแหล่งข้ อมลู internet และจดบนั ทึกไว้อยา่ งเป็ นระบบ 7.3 ขันวิเคราะห์ข้อมูล 5) ผู้เรียนร่วมกนั วิเคราะห์ความถีการเกดิ ปรากฏการณ์แผ่นดินไหวทีเกิดขึนในประเทศไทย จาํ แนกตามปี และพืนทขี องการเกิด 7.4 ขนั สรุปผล 6) ผู้เรยี นสรุ ปสถิติการเกิดปรากฏการณ์แผ่นดนิ ไหวทีเกิดขึนในประเทศไทย มารุต พฒั ผล : 2554
98 7.5 ขันแลกเปลยี นเรียนรู้ 7) ผู้เรียนร่วมกนั แลกเปลยี นเรียนรู้สถิติการเกิดปรากฏการณ์แผ่นดินไหวทีเกดิ ขนึ ในประเทศไทย แนวทางการปฏิบัติตนเพือลดอันตรายทีอาจเกดิ ขึนกบั ตนเองขณะแผ่นดินไหว 8. สอื การเรยี นรู้ / แหล่งเรยี นรู้ 8.1 http://www.seismology.tmd.go.th/eq_stat/eq_stat.php 8.2 http://www.tmd.go.th/info/info.php?FileID=77 8.3 http://www.rmutphysics.com/charud/specialnews/4/earthquake/index5.htm 8.4 http://www.oknation.net/blog/print.php?id=38442 8.5 http://blog.eduzones.com/anisada/80016 มารุต พฒั ผล : 2554 9. การวัดและประเมนิ ผล จุ ดป ระส งค์ กา รเ รีย นร้ ู วิธกี ารวัด เครอื งมือวัด เกณฑ์ แหล่งข้อมูล (ร้อยละของ 1. สามารถวเิ คราะห์และนําเสนอข้อมูล การตรวจสอบ แบบประเมนิ ผลงาน คะแ นนเต็ ม) ผลงา น ผลงาน 80% ในลกั ษณะต่างๆ ได้ 2. มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การสังเกต แบบสังเกต ผ้ ูเ รีย น 90% 3. มีจิตสํานกึ ความรับผิดชอบ การสังเกต แบบสงั เกต ผ้ ูเ รีย น 90% ต่ อสิงแ วดล้ อม มารุต พัฒผล : 2554
99 10. บันทึกหลงั การจัดการเรียนรู้ 1. เนือหาสาระ …………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………… 2. สมรรถนะ …………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………… 3. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ………………………………………………………….………………………………… …………………………………………………………………………………………… 4. ทักษะการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการวิจัย …………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………… 5. สิงทีผู้สอนต้องพัฒนา …………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………… มารุต พฒั ผล : 2554 แบบตรวจสอบผลงาน การวิเคราะห์ทางสถิติและนาํ เสนอข้อมูล คาํ ชีแจง เขียนระดับคะแนนลงในช่องผลการประเมิน โดยใช้เกณฑ์การให้คะแนนดังนี 1 คะแนน หมายถึง ผลงานยังไม่ถูกต้อง ต้องปรับปรุงแก้ไขโดยมีผู้ให้คําแนะนํา 2 คะแนน หมายถงึ ผลงานมีความถูกต้ องบางส่วน ต้องปรับปรุงแกไ้ ขด้วยตนเอง 3 คะแนน หมายถงึ ผลงานมีความถูกต้ อง โดยไม่ตอ้ งแกไ้ ขหรืออาจมีการแก้ไขเล็กน้อย ผลการตรวจสอบ ชือ - สกุล รายละเอียด การนําเสนอ การคิดคาํ นวณ วิธีการนาํ เสนอ รวม มารุต พฒั ผล : 2554
100 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการคิดวิเคราะห์ คําชีแจง 1. แบบสังเกตนีใช้สงั เกตพฤติกรรมการคดิ วิเคราะห์ของผู้เรียน 2. เขียนคะแนนในช่องผลการสังเกต โดยใช้เกณฑ์การให้คะแนนต่อไปนี 1 คะแนน หมายถึง ปฏิบตั ิได้เมอื ได้รบั ความช่วยเหลือจากครู 2 คะแนน หมายถงึ ปฏบิ ัติได้เมือศกึ ษาความรู้เพิมเตมิ ด้วยตนเอง และมีความถูกต้ อง 3 คะแนน หมายถึง ปฏิบตั ิได้ด้วยตนเองในทันที และมีความถกู ต้ อง ผลการสงั เกต ชือ - สกลุ การ การจัด การสรปุ อย่าง การประยกุ ต์ใช้ การคาดการณ์ รวม จําแนก หม วด หมู่ สมเหตุสมผล ในสถานการณ์ใหม่ บนพืนฐานข้อมูล มารตุ พัฒผล : 2554 แบบสังเกตพฤติกรรมการมีจิตสํานึกความรับผิดชอบต่ อสิงแวดล้อม คําชี แ จ ง 1. แบบสังเกตนมี ผี ู้สงั เกต 3 ฝ่ าย คอื ตนเอง เพอื น และครู 2. เขยี นระดบั คะแนนลงในช่องผลการสงั เกต โดยใช้เกณฑ์การให้คะแนนดังนี 1 คะแนน หมายถึง ปฏิบัตเิ มือได้รับคําสงั จากครู 2 คะแนน หมายถึง ปฏิบัตเิ มือได้รับการกระตุ้นจากครู 3 คะแนน หมายถึง ปฏิบัตดิ ้วยตนเอง ผลการสังเกต ชือ - สกลุ กา รปร ะหยั ด การประยกุ ต์ การนํากลบั รักษาประโยชน์ รวม ทรัพยากร ใ ช้ ทรั พย ากร ม าใช้ ใ หม่ ส่ วนร วม ลงชือผูส้ ังเกต ............... ................................................... (ตนเอง เพือน ผู้สอน) มารุต พัฒผล : 2554
101 มามรุ าตรุตพฒั พผฒั ลผ:ล๒:๕2๕5๓54 สาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพละศกึ ษา ระดับชัน ป. 6 ภาคเรียนที 1 หน่วยการเรียนรู้ เรอื ง นํานําแสง เวลา 1 ชวั โมง 1. ผลการเรียนรู้ (Learning Outcome) มีความรู้ความเข้าใจในคณุ สมบัตขิ องแสง คณุ สมบัติการนาํ แสงของนาํ จากการใช้กระบวนการวิจยั มีความสามารถในการวิเคราะห์ และมีความใฝ่ เรียนรู้ 2. ความคดิ รวบยอดหลัก (Main Concept) ใฝ่ เรยี นรู้ คุณสมบัติ คณุ สมบัติ ของแสง การนําแสงของนํา นาํ นําแสง การคิดวเิ คราะห์ กระบวนการวิจัย มารุต พฒั ผล : 2554
102 3. หัวข้อสาระการเรยี นรู้ 3.1 คณุ สมบัติของแสง 3.2 คุณสมบัตขิ องนาํ 3.3 คณุ สมบัติการนําแสงของนํา 4. สมรรถนะ มี คว ามส าม ารถใ นกา รคิดวิ เคร าะห์ 5. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ มีความใฝ่ เรยี นรู้ 6. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 6.1 สามารถระบุคุณสมบตั ิของแสงและนาํ ได้ 6.2 สามารถระบุคุณสมบัติการนาํ แสงของนาํ ได้ 6.3 มีความสามารถในการคดิ วิเคราะห์ 6.4 มีความใฝ่ เรียนรู้ มารุต พฒั ผล : 2554 7. กิจกรรมการเรยี นรู้ 7.1 ขันกาํ หนดปัญหา 1) ผเู้ รียนดกู ารสาธติ การส่องไฟฉายลงบนผวิ นําของผู้สอน 2) ผเู้ รียนร่วมกันอภปิ รายเกียวกับสิงทสี งั เกตพบ 3) ผู้สอนและผู้เรยี นร่วมกันกาํ หนดปัญหาเกยี วกับคณุ สมบตั กิ ารนาํ แสงของนาํ 7.2 ขนั เกบ็ รวบรวมขอ้ มูล 3) ผู้เรียนแบ่งกลุ่มและร่วมกนั ทาํ การทดลองคณุ สมบตั ิการนาํ แสงของนาํ ดังนี 1. เจาะรูกลมเส้นผ่านศนู ย์กลาง 1 เซนติเมตรบริเวณใกล้กบั ฐานขวด 2. จากนันใช้นิวอดุ รูไว้ และเตมิ นาํ ให้สู งกว่ารู 3. ใช้ ไฟฉายส่องด้านหลังขวดบรเิ วณตรงข้ามกบั รู 4. เอานิวออกจากรูและใช้มอื อีกข้างรับนําทีไหลออกมาจากรู 5. สังเกตบริเวณปลายสุดของนาํ ทีไหลออกมา 4) ผเู้ รยี นจดบันทกึ สงิ ทสี งั เกตพบขณะทําการทดลอง มารตุ พฒั ผล : 2554
103 7.3 ขนั วิเคราะห์ ขอ้ มลู 5) ผ้เู รียนแต่ละกลมุ่ ร่วมกนั วิเคราะห์สิงทสี งั เกตพบขณะการทดลอง 7.4 ขันสรปุ ผล 6) ผเู้ รยี นร่วมกนั สรุปผลการทดลอง เกยี วกับคุณสมบตั ิการนําแสงของนาํ 7.5 ขนั แลกเปลยี นเรยี นรู้ 7) ผูเ้ รยี นร่วมกันนาํ เสนอและอภิปรายผลการทดลองหน้ าชันเรียน 8. สือการเรียนรู้ / แหล่งเรียนรู้ 8.1 ไฟฉาย 8.2 ขวดนาํ พลาสตกิ ใส 8.3 นําเปลา่ 8.4 กรรไกรหรือสิงทีเจาะรูกลมได้ มารตุ พัฒผล : 2554 9. การวดั และประเมนิ ผล จุ ดประส งค์ กา รเ รีย นร้ ู วิธกี ารวัด เครืองมอื วัด เกณฑ์ แหล่งข้อมูล (ร้อยละของ 1. สามารถระบุคุณสมบัตขิ องแสง และนาํ ได้ คะแ นนเต็ ม) การตรวจบันทกึ แบบตรวจสอบบนั ทึก แบบบันทกึ 80% ผลการทดลอง ผลการทดลอง ผลการทดลอง 2. สามารถระบุคุณสมบัตกิ ารนําแสง การตรวจบันทึก แบบตรวจสอบบันทกึ แบบบันทกึ 80% ของนําได้ ผลการทดลอง ผลการทดลอง ผลการทดลอง การสงั เกต แบบสงั เกต ผู้เรียน 90% 3. มีความสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ 4. มีความใฝ่ เรียนรู้ การสังเกต แบบสงั เกต ผู้เรียน 90% มารุต พฒั ผล : 2554
104 10. บันทกึ หลังการจัดการเรียนรู้ 1. สาระสาํ คญั …………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………… 2. สมรรถนะ …………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………… 3. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ………………………………………………………….………………………………… …………………………………………………………………………………………… 4. ทักษะการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการวิจัย …………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………… 5. สิงทผี ู้สอนต้องพัฒนา …………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………… มารตุ พัฒผล : 2554 แบบตรวจสอบบนั ทกึ ผลการทดลอง คาํ ชแี จง เขยี นระดับคะแนนลงในช่องผลการตรวจสอบ โดยใช้เกณฑ์ การให้คะแนนดงั นี 1 คะแนน หมายถึง ถกู ต้องเป็ นส่ วนน้อย ขาดแหล่งข้อมลู หรอื ข้อเท็จจรงิ สนบั สนุน 2 คะแนน หมายถงึ ถกู ต้อง แตข่ าดแหล่ งขอ้ มูล หรือข้อเทจ็ จริงสนบั สนุน 3 คะแนน หมายถึง ถกู ต้อง และมแี หล่ งขอ้ มูล หรือข้อเท็จจรงิ สนับสนนุ อย่างเพียงพอ ผลการต รว จส อบ ชือ - สกุล คณุ สมบัติ คุณสมบัติ คณุ สมบัติ สรุปผลการ ของแสง ข องนาํ การนาํ แสง ทดลอง รวม ของนาํ มารตุ พฒั ผล : 2554
105 แบบสังเกตพฤติกรรมการคดิ วิเคราะห์ คาํ ชีแจง 1. แบบสังเกตนีใช้สงั เกตพฤตกิ รรมการคดิ วเิ คราะห์ของผู้เรียน 2. เขียนคะแนนในช่องผลการสงั เกต โดยใช้เกณฑ์การให้คะแนนต่อไปนี 1 คะแนน หมายถงึ ปฏิบตั ิได้เมอื ได้รบั ความช่วยเหลือจากครู 2 คะแนน หมายถึง ปฏบิ ัตไิ ด้เมือศกึ ษาความรู้เพิมเตมิ ด้วยตนเอง และมีความถูกต้ อง 3 คะแนน หมายถงึ ปฏิบัติได้ด้วยตนเองในทันที และมีความถกู ต้ อง ผลการสงั เกต ชือ - สกลุ การ การจัด การสรุปอย่าง การประยกุ ต์ใช้ การคาดการณ์ รวม จําแนก หม วด หมู่ สมเหตุสมผล ในสถานการณ์ใหม่ บนพืนฐานข้อมลู มารุต พฒั ผล : 2554 แบบสังเกตพฤตกิ รรมใฝ่ เรียนรู้ คาํ ชีแจง 1. แบบสังเกตนมี ีผู้สงั เกต 3 ฝ่ าย คอื ตนเอง เพอื น และครู ข้อมูลการสังเกตมาจาก 3 ฝ่ าย 2. เขยี นระดับคะแนนลงในช่องผลการสงั เกต โดยใช้เกณฑ์การให้คะแนนดงั นี 1 คะแนน หมายถงึ ปฏิบัติเมือได้รับคําสงั จากครู 2 คะแนน หมายถึง ปฏบิ ัตเิ มือได้รับการกระตุ้นจากครู 3 คะแนน หมายถงึ ปฏิบัติด้วยตนเอง ชือ - สกุล ผลการสงั เกต รวม การค้นคว้า การจดบันทึก การสอบถาม การรบั ฟัง ลงชอื ผ้สู ังเกต ............... ................................................... (ตนเอง เพอื น ผู้สอน) มารตุ พฒั ผล : 2554
106 มารตุ พัฒผล : 2554 สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์ ระดับชัน ป. 2 ภาคเรียนที 1 หน่วยการเรยี นรู้ที 1 เรอื ง ภาพปะติดสร้างสรรค์ เวลา 2 ชวั โมง 1. ผลการเรียนรู้ (Learning Outcome) สร้างภาพปะติดโดยการตัดหรือฉีกกระดาษโดยใช้กระบวนการวิจัย มีคิดรเิ ริมสร้ างสรรค์ และมีความวนิ ัย 2. ความคิดรวบยอดหลัก (Main Concept) ภาพปะติด มีวินยั การตัดกระดาษ ภาพปะติด สร้ างสรรค์ การคดิ สร้างสรรค์ กร ะบว นการวิ จัย การฉีกกระดาษ มารตุ พฒั ผล : 2554
107 3. หัวข้อสาระการเรียนรู้ 3.1 ภาพปะติด 3.2 ภาพปะติดโดยการตดั กระดาษ 3.3 ภาพปะติดโดยการฉกี กระดาษ 4. สมรรถนะ มคี วามสามารถในการคิดสร้างสรรค์ 5. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ มีวินัย 6. จุดประสงค์การเรียนรู้ 6.1 สามารถสร้างภาพปะติดโดยการตัดหรอื ฉีกกระดาษได้ 6.2 มคี วามคิดสร้างสรรค์ในการสร้างภาพปะตดิ 6.3 มีวินยั ในการปฏบิ ัติกจิ กรรมการเรยี นรู้ มารุต พฒั ผล : 2554 7. กิจกรรมการเรียนรู้ 7.1 ขันกําหนดปัญหา 1) ผู้เรียนร่วมกนั ออกแบบภาพทีต้องการสร้างภาพปะติด 2) ผเู้ รียนเลือกกระดาษแล้วตัดหรือฉีกให้เป็ นภาพทตี ้องการ 3) ผเู้ รียนปะตดิ ภาพทตี ดั หรือฉีกให้ เป็ นภาพทอี อกแบบไว้ 4) ผู้เรียนตกแตง่ ภาพให้สวยงาม 5) ผู้เรียนกาํ หนดปัญหาว่าภาพใดเป็ นภาพทีเป็ นทีชนื ชอบของกลุ่มเพือนในชันเรียน 7.2 ขนั เกบ็ รวบรวมขอ้ มูล 6) ผเู้ รียนร่วมกันแสดงภาพปะติดของตนเองหน้าชันเรยี น 7) ผู้เรียนแต่ละคนออกเสียงว่าตนเองชืนชอบภาพปะติดของเพือนภาพใดมากทีสดุ เพยี ง 1 ภาพ 8) ผเู้ รยี นร่วมกนั จดบนั ทกึ คะแนนเสยี งของแต่ละภาพ มารตุ พฒั ผล : 2554
108 7.3 ขันวเิ คราะห์ ข้อมูล 9) ผเู้ รียนร่วมกันเรยี งลําดับคะแนนเสยี งของภาพปะตดิ แต่ละภาพ 7.4 ขันสรปุ ผล 10) ผู้เรยี นร่วมกันสรุปอนั ดับภาพปะติดทเี ป็ นทชี นื ชอบของกลมุ่ เพอื นในชันเรยี น 7.5 ขนั แลกเปลียนเรียนรู้ 11) ผู้เรยี นร่วมกนั แลกเปลยี นความคิดเห็นทีมีตอ่ ภาพปะติดของเพอื นๆ 8. สือการเรียนรู้ / แหล่งเรยี นรู้ 8.1 กระดาษแข็งขนาด A4 8.2 กระดาษสี 8.3 กรรไกร 8.4 กาว มารตุ พฒั ผล : 2554 9. การวดั และประเมนิ ผล วิ ธีการ วดั เครอื งมือวัด เกณฑ์ แหล่งข้อมูล (ร้อยละของ จุดประสงค์การเรยี นรู้ คะแ นนเต็ ม) 1. สามารถสร้างภาพปะติดโดยการ การสั งเกต แบบสงั เกต ผู้เรียน 80% ตัดหรือฉกี กระดาษได้ 2. มีความคดิ สร้างสรรค์ในการสร้ าง การตรวจ แบบตรวจ ชินงาน 80% ภาพปะตดิ ชินงาน ชิ นงาน 3. มีวินยั ในการปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้ การสังเกต แบบสงั เกต ผ้ ูเรี ยน 80% มารุต พัฒผล : 2554
109 10. บันทกึ หลังการจดั การเรียนรู้ 1. สาระสําคัญ …………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………… 2. สมรรถนะ …………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………… 3. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ………………………………………………………….………………………………… …………………………………………………………………………………………… 4. ทักษะการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการวิจัย …………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………… 5. สิงทีผู้สอนต้องพฒั นา …………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………… มารุต พัฒผล : 2554 แบบสังเกตพฤติกรรมการสร้ างภาพ ปะติด คําชีแจง เขยี นระดับคะแนนลงในช่องผลการประเมนิ โดยใช้ เกณฑ์การให้คะแนนดังนี 1 คะแนน หมายถึง ปฏิบัติได้เมอื ศึกษาจากตัวอย่างและได้รับความช่วยเหลือจากครู 2 คะแนน หมายถึง ปฏิบตั ิได้เมอื ศึกษาศึกษาจากตัวอย่าง หรือมผี ู้ชีแนะ 3 คะแนน หมายถึง ปฏบิ ัติได้ดว้ ยตนเอง สามารถเป็ นตัวอย่างของเพือนได้ ผลการป ระ เมิ น ชือ - สกลุ การออกแบบ การตัด การปะติดภาพ การแสดง ภาพปะตดิ หรือฉีกกระดาษ ตามแบบ ความคิดเหน็ รวม มารุต พัฒผล : 2554
110 แบบวดั ความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างภาพปะติด คําชีแจง เขยี นระดับคะแนนลงในช่องผลการประเมนิ โดยใช้ เกณฑ์การใหค้ ะแนนดังนี 1 คะแนน หมายถึง น้อย 2 คะแนน หมายถงึ ปานกลาง 3 คะแนน หมายถงึ มาก ผลการป ระ เมิ น ชือ - สกลุ แนวความคิด ความแปลกใหม่ ความเหมาะสม ในการสร้ างภาพ ของภาพ ข องภ าพ รวม มารตุ พัฒผล : 2554 แบบสังเกตพฤติกรรมความมวี ินัย คํา ชี แจ ง 1. แบบสังเกตนีมีผู้สงั เกต 3 ฝ่ าย คอื ตนเอง เพือน และครู 2. เขยี นระดับคะแนนลงในช่องผลการสงั เกต โดยใช้เกณฑ์การให้คะแนนดังนี 1 คะแนน หมายถึง แสดงพฤติกรรมเมือได้รบั คาํ สงั จากครู 2 คะแนน หมายถึง แสดงพฤติกรรมเมอื ได้รบั การกระตุ้นจากครู 3 คะแนน หมายถงึ แสดงพฤตกิ รรมด้วยตนเอง ชือ - สกุล ผลการสังเกต รับผดิ ชอบ รวม ตังใจ ปฏิบัตงิ าน อดทน ตอ่ ตนเอง ในการเรียนรู้ บรรลุเป้ าหมาย ต่ อสิงยัวยุ แ ละส่ วนรวม ลงชอื ผ้สู ังเกต ............... ................................................... (ตนเอง เพือน ผู้สอน) มารตุ พัฒผล : 2554
111 แนวทางที 4 ผู้สอนทําวิจัยควบคู่กับการจัดการเรียนรู้ มารุ ต พฒั ผล : 2554 การวิจยั ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงตังโจทย์ คอื 1. ทกุ ข์ ปัญหา , แนวทางพฒั นา 2. สมุทัย เหตุปัจจยั SWOT 3. นิโรธ ตังเป้ าประสงค์ Target 4. มรรค วธิ ีทํา ทางเลอื ก 2 - 4 ทาง ด้วยกระบวนการ PDCA วชิ ยั วงษใ์ หญ่ : 2554
112 โครงการพระราชดาํ ริ โครงการพระราชดาํ ริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่ล้มเหลวเพราะพระองค์ทรงใช้หลกั อริยสจั สชี ัดเจน สอดคล้องกบั หลกั ภูมสิ ังคม หมายถงึ ภมู ปิ ระเทศและสิงแวดล้อม ภูมศิ าสตร์ ดิน นาํ ลม ไฟ ป่ า เขา สังคมศาสตร์ คน ครอบครัว ชุมชน ขนบธรรมเนียม ประเพณี ภาษา วัฒนธรรม ความเชือ ค่านิยม วชิ ัย วงษ์ใหญ่ : 2554 วางแผน (Plan) สะท้อนผล (Reflection) ปฏบิ ตั ิ (Action) ตรวจสอบ (Observe) วางแผน (Plan) สะท้อนผล (Reflection) ตรวจสอบ (Observe) ปฏิบตั ิ (Action) วางแผน (Plan) วชิ ัย วงษใ์ หญ่ : 2554
113 การวางแผน (Plan) คือ การกาํ หนดวัตถุประสงค์ วิธีดําเนนิ การ และวิธีการตรวจสอบ ทีเป็ นระบบครบวงจร มารุต พฒั ผล : 2554 การปฏบิ ัติ (Action) คอื การนาํ แผนไปสู่การปฏิบัติ ตามขันตอนและกระบวนการ ตามทีกาํ หนดไว้ มารตุ พฒั ผล : 2554
114 การสะท้อนผล (Reflection) คอื การยนื ยันความถูกต้อง ความเชือถือได้ของการปฏบิ ัติ โดยวธิ ีการอภิปราย ให้ข้อสังเกต จากผู้มีส่ วนเกียวข้ อง มารตุ พฒั ผล : 2554 การวิจัยปฏิบัติการในชันเรียนภาคปฏิบตั ิ ขับเคลือนจากงานประจํา อย่างพอเพียงและยังยืน มารุต พฒั ผล : 2554
115 ความเข้ าใจใหม่ นําไปสู่ การเรียนรู้ใหม่ 1. การจัดการเรียนรู้และการวิจัยเป็ นเรอื งเดียวกัน 2. การวิจัยทีมุ่งแก้ปัญหาพัฒนาผู้เรียนรายบุคคล กลุ่มย่อย ทังชันเรียน 3. กระชับ รวดเร็ว ประหยดั ใช้ผลได้ทันที 4. ไม่ยึดติดตาํ รา และสถติ ิขันสูง เน้นทกี ารปฏบิ ัติได้จรงิ 5. เน้นความถูกต้องของผลวิจยั 6. นําไปสู่การพัฒนาผู้เรยี น และปรบั ปรุงการจัดการเรียนรู้ มารตุ พฒั ผล : 2554 ศึกษาใบงานทัง 5 ใบงาน และตวั อย่าง แล้วคิดเชือมโยง (Linked Thinking) ไปสู่ปัญหาทเี กดิ ขนึ ในชันเรียนของตนเอง จะทําให้เข้าใจได้รวดเร็วและชัดเจนมากขึน มารตุ พฒั ผล : 2554
116 ใบงานที 1 การวเิ คราะห์ ปัญหา วัตถปุ ระสงค์ เพอื วเิคราะห์ปัญหาและสังเคราะห์วธิ ีการแก้ปัญหาหรือวธิ กี ารพัฒนา คําชีแจง ก) ระบุปัญหาหรือสงิ ทีต้องการพัฒนาผูเ้ รียนทที ่านเหน็ วา่ มีความสําคัญและจําเป็ นตอ้ งดาํ เนนิ การโดยการวิจยั ข) หาความรู้ทจี ะนาํ มาใช้แก้ไขปัญหาหรอื พฒั นา โดยการศึกษาจากเอกสารหรืองานวิจัย การขอคําแนะนาํ จากเพือนครู หรือการใช้ประสบการณ์ของตนเอง และสังเคราะห์เป็นวิธกี ารแก้ปญั หาหรือวิธกี ารพัฒนา 1. สาระการเรียนรู้ .......................................................... หวั ขอ้ ทสี อน ........................................ .. จดั การเรียนรู้วันที .............. 2. ปัญหาทพี บ คือ .............................................................................................................................................................................. 3. สาเหตุของปัญหา คือ ...................... ..................................... ...................................... ................................................................. 4. วิธกี ารแก้ปญั หา วธิ ีการแก้ปญั หาจากเอกสารหรืองานวิจยั วิธกี ารแก้ปญั หาจากคาํ แนะนาํ ของเพือนครู วิธีแก้ปัญหาจากประสบการณ์ของตนเอง 5. สรุปวิธีการแก้ปัญหาทจี ะใช้ในครังนี ................................ ....................................................... ...................................... ............ มารตุ พฒั ผล : 2554 ใบงานที 2 การวางแผนการวิจยั วัตถปุ ระสงค์ เพือวางแผนการวิจัยทีสมบูรณ์ คาํ ชแี จง โปรดวางแผน (Plan) การวจิ ัยปฏิบัตกิ ารในชันเรียนทีสอดคล้องกบั ปัญหาทีเกิดขึน ลงในพิมพเ์ ขียวการวจิ ัยต่อไปนี วตั ถุประสงค์ ตัวแปรต้ น ตั วแ ปร ตา ม สมมตฐิ านการวิจัย เครืองมือทใี ช้ การเกบ็ แหล่ง การวิเคราะห์ การวิจยั (วธิ ีการแก้ปัญหา) (ปญั หาของผู้เรยี น) (ผลทคี าดว่าจะเกิด ในการวจิ ยั รวบรวม ขอ้ มูล ข้อมูล ภายหลงั กาแก้ปัญหา) ขอ้ มูล มารตุ พฒั ผล : 2554
117 แนวทางการเขียนวัตถุประสงค์การวจิ ยั การเขียนวัตถปุ ระสงค์การวิจัยมีโครงสร้างดังนี เพือ + กริยา + ปัญหาของผู้เรียน + ส่วนขยายอนื ๆ เช่น - เพอื พฒั นาความสามารถในการอ่านตามมาตราตัวสะกดของเด็กหญิงปราณี - เพอื พัฒนาความสามารถในการบวกเลขสามหลักของนกั เรยี นก่อนและหลัง การใช้แบบฝึ กเสรมิ ทักษะของนกั เรียนชัน ป.3 จาํ นวน 4 คน - เพอื พฒั นาทักษะการสบื ค้นของนกั เรยี นชัน ป.5 ก่อน ระหว่าง และหลงั การใช้กิจกรรมการเรยี นรู้ตามสภาพจริง มารตุ พฒั ผล : 2554 แนวท างการเขี ยนตัวแป รที ใช้ ในการวิจัย ตัวแปรต้น (บางครังเรียกว่าตวั แปรอสิ ระ) คอื วิธกี ารทใี ช้แก้ปัญหาหรือพัฒนาผู้เรียน ตวั แปรตาม คือ ปัญหาหรือสิงทตี ้องการพฒั นาของผู้เรียน การเขยี นตัวแปรทังตัวแปรจัดกระทําและตัวแปรตาม จะมีลกั ษณะเป็ นคาํ นาม มารุต พฒั ผล : 2554
118 แนวทางการเขียนสมมติฐานการวิจัย คือ ผลทีคาดว่าจะเกดิ ขึน เมอื ทาํ วจิ ัยเสร็จแล้ว ลักษณะการเขยี นจะต้อง สอดคล้องกับวัตถุประสงค์การวิจัย มารตุ พฒั ผล : 2554 แนวทางการเขียนเครืองมือทีใช้ในการวจิ ัย เครืองมือทีใช้ในการวจิ ัย มี 2 กลุ่ม ได้แก่ 1. กลุ่มทใี ช้สําหรับแกไ้ ขปญั หาของผู้เรียน เช่น แบบฝึกเสริมทักษะ ใบความรู้ เทคนิคการจัดการเรียนรู้ สือ วสั ดุ แผนการจัดการเรียนรู้ 2. กลุ่มทใี ช้สําหรับวัดตัวแปรตามของการวจิ ัย เช่น แบบทดสอบ แบบสังเกตพฤติกรรม แบบรายงานตนเอง แบบประเมินชินงาน แบบประเมินทกั ษะ ผู้สอนต้องเขียนระบเุ ครืองมอื ทีใช้ในการวจิ ยั ให้ครบถ้วนทัง 2 กลุ่ม มารุต พฒั ผล : 2554
119 แนวทางการเขียนการเก็บรวบรวมข้อมูล ระบุ วธิ ีการ และ ช่วงเวลา ทใี ช้ในการเกบ็ รวบรวมข้อมูล เช่น - ทดสอบความสามารถในการอ่านตามมาตราตวั สะกดของเด็กหญงิ ปราณีหลงั การเรยี น - ทดสอบความสามารถในการบวกเลขสามหลกั ของนักเรยี นก่อนและหลงั การใช้แบบฝึ กเสริมทกั ษะของนักเรยี นชัน ป.3 จํานวน 4 คน - สงั เกตทกั ษะการสืบค้นของนักเรยี นชัน ป.5 ก่อน ระหว่าง และหลัง การใช้กิจกรรมการเรียนรู้ตามสภาพจรงิ มารุต พฒั ผล : 2554 แนวทางการเขียนแหล่งข้อมูล แหล่งข้อมูล หมายถึง บุคคล เอกสาร สถานที ฯ ทีสามารถให้ข้อมูลเกียวกับการวิจัย เช่น ถ้าทดสอบผ้เู รียน : ผเู้ รียนเป็ นแหล่งข้อมูล ถ้าสังเกตพฤติกรรมผู้เรียน : ผเู้ รียนเป็ นแหล่งข้อมูล ถ้าให้ผู้เรียนรายงานตนเอง : ผู้เรียนเป็ นแหลง่ ข้อมูล ถ้าตรวจสอบชินงาน : ชินงานเป็ นแหลง่ ข้อมูล มารุต พฒั ผล : 2554
120 แนวทางการเขยี นการวิเคราะห์ข้อมูล เขียนให้สอดคล้องกับการเกบ็ รวบรวมข้อมูล เช่น - เปรยี บเทียบความสามารถในการอ่านตามมาตราตัวสะกดของเดก็ หญิงปราณี กับเกณฑ์ร้อยละ 80 - เปรียบเทียบความสามารถในการบวกเลขสามหลกั ของนักเรียนก่อนและหลงั การใช้แบบฝึ กเสรมิ ทักษะของนกั เรียนชัน ป.3 จาํ นวน 4 คน - เปรียบเทียบทกั ษะสังเกตของนักเรยี นชัน ป.5 ก่อน ระหว่าง และหลงั การใช้กิจกรรมการเรียนรู้ตามสภาพจริง มารุต พฒั ผล : 2554 ใบงานที 3 การพฒั นาเครืองมือทีใช้ในการวิจัย วัตถุประสงค์ เพอื สร้างเครืองมือทีใช้ในการวจิ ัย คาํ ชีแจง ดาํ เนินการพัฒนาเครืองมือทีใช้ในการวจิ ัย ให้ตรงกบั พิมพ์เขียวการวิจัย ตามวงจรการพฒั นา พฒั นาเครืองมอื ทใี ช้ในการวจิ ยั ตรวจสอบคุณภาพโดยเพือนครู ประเดน็ การตรวจสอบ 1. ตรงกับปัญหา 2. เหมาะสมกบั ผู้เรียน 3. เป็ นไปได้ เชงิ ปฏิบตั ิ พัฒนาเครืองมอื ทีใช้ในการวจิ ัย มารุต พฒั ผล : 2554
121 แบบประเมินคุณภาพเครืองมือทีใช้ในการวจิ ัย คําชีแจง ทําเครืองหมาย ลงในช่อง และระบขุ ้ อเสนอแนะ (ถ้ามี) เครอื งมอื ชนดิ ที 1 .................................................................. เครืองมือชนิดที 2 .................................................................. ตรงกบั ปัญหา เหมาะสมกับผู้เรยี น นําไปปฏบิ ัตไิ ด้จริง ตรงกบั ปัญหา เหมาะสมกบั ผูเ้ รียน นําไปปฏิบตั ิไดจ้ ริง มาก มาก มาก มาก มาก มาก ปานกลาง ปานกลาง ปานกลาง ปานกลาง ปานกลาง ปานกลาง น้ อย น้ อย น้ อย น้ อย น้ อย น้ อย ข้อเสนอแนะ ข้อเสนอแนะ ขอ้ เสนอแนะ ขอ้ เสนอแนะ ข้ อเส นอแ นะ ข้อเสนอแนะ .......... ............ .. ................... . .................. ... ...................... ................ ..... ...................... .......... ............ .. ................... . .................. ... ...................... ................ ..... ...................... ...................... ................ ..... ...................... .......... ............ .. ................... . .................. ... เกณฑ์การประเมนิ มาก หมายถงึ มีคุ ณภาพต ามประเดน็ ที ประเมินอย่ างสมบูรณ์ หรอื เสนอให้ ปรบั ปรุ งเพียงเลก็ น้อยซึงผู้วิจยั จะปรับต ามหรอื ไมก่ ไ็ ด้ (3 คะแนน) ปานกลาง หมายถึ ง มคี ุณภาพตามประเด็นทีประเมนิ ยังไมส่ มบู รณ์ ต้ องปรั บปรุ งตามข้ อกาํ หนดของผูต้ รวจสอบเท่ านั นจึงจะนําไปใช้ ได้ (2 คะแนน) น้อย หมายถึง ตอ้ งปรบั ปรุ งแก้ ไขเป็ นส่ วนมากและตอ้ งนํา มาให้ผู้ ตรวจสอบพจิ ารณาซํ าอกี ครั งก่อนจะนําไปใช้ (1 คะแนน) ลงชือผตู้ รวจสอบ ....... ....... ......... ......... ....... ......... ......... ........ . วนั ที ...... ......... ......... ....... ....... มารตุ พฒั ผล : 2554 แบบสรุปผลประเมนิ คุณภาพเครืองมือทใี ช้ในการวิจัย (กรณีทีตรวจมากกว่า 1 คน) คาํ ชีแจง สรุปคุณภาพเครอื งมือทใี ช้ในการวจิ ยั โดยทาํ เครืองหมาย ลงในช่อง และบันทกึ ข้อเสนอแนะของเพือนครู ทตี รวจสอบคุณภาพ สรปุ คุณภาพเครืองมือชนิดที 1 .............................................. สรุปคณุ ภาพเครืองมือชนดิ ที 2 .............................................. ตรงกบั ปัญหา เหมาะสมกับผู้เรียน นําไปปฏบิ ัตไิ ดจ้ รงิ ตรงกบั ปัญหา เหมาะสมกบั ผเู้ รียน นาํ ไปปฏิบตั ิได้จริง มาก มาก มาก มาก มาก มาก ปานกลาง ปานกลาง ปานกลาง ปานกลาง ปานกลาง ปานกลาง น้ อย น้ อย น้ อย น้ อย น้ อย น้ อย ข้อเสนอแนะ ขอ้ เสนอแนะ ข้อเสนอแนะ ขอ้ เสนอแนะ ข้ อเส นอแ นะ ข้อเสนอแนะ .......... ............ .. ................... . .................. ... ...................... ................ ..... ...................... .......... ............ .. ................... . .................. ... ...................... ................ ..... ...................... ...................... ................ ..... ...................... .......... ............ .. ................... . .................. ... รายชือเพือน ครูผตู้ รวจสอบ ....... ......... ........ ........ .......... ....... ......... ......... ...... ตาํ แหน่ง ....... ........ ......... ......... ....... ......... . รายชือเพือน ครูผู้ตรวจสอบ ....... ......... ........ ........ .......... ....... ......... ......... ...... ตาํ แหน่ง ....... ........ ......... ......... ....... ......... . รายชือเพือน ครูผตู้ รวจสอบ ....... ......... ........ ........ .......... ....... ......... ......... ....... ตาํ แหนง่ ...... ........ ......... ......... ....... ......... . มารตุ พฒั ผล : 2554
122 ตัวอย่างเครื องมือทีใช้ ในการ สําหรับเก็บรวบรวมข้อมูล มารุต พฒั ผล : 2554 แบบประเมินความมีวนิ ัย คาํ ชแี จง 1. แบบประเมินนีมผี ู้ประเมนิ 3 ฝ่ าย คือ ตนเอง เพือน และครู ข้อมูลการประเมนิ มาจาก 3 ฝ่ าย เพอื พจิ ารณาในการตดั สินผลการประเมิน 2. จงเขยี นระดบั คะแนนลงในชอ่ งผลการประเมนิ ดงั นี 1 คะแนน หมายถึง แสดงพฤตกิ รรมทปี ระเมนิ เมอื ได้รับคาํ สัง 2 คะแนน หมายถึง แสดงพฤติกรรมทีประเมินเมอื ไดร้ ับการกระตุ้น 3 คะแนน หมายถึง แสดงพฤติกรรมทีประเมินได้ด้วยตนเอง ผลการประเมิน ชือ - สกุล ตังใจ ปฏิบัติงาน อดทน รับผิดชอบ รวม ในการเรียนรู้ บรรลุเป้ าหมาย ต่ อสิงยวั ยุ ต่อตนเอง แ ละ ส่ วนร วม ลงชอื ผ้ปู ระเมนิ ............................. ..................................... (ตนเอง เพือน ผสู้ อน) มารตุ พฒั ผล : 2554
123 แบบประเมินจิตอาสา คาํ ชีแจง 1. แบบประเมนิ นีมีผู้ประเมนิ 3 ฝ่ าย คอื ตนเอง เพือน และครู ข้อมูลการประเมินมาจาก 3 ฝ่ าย เพือพจิ ารณาในการตดั สินผลการประเมนิ 2. จงเขียนระดับคะแนนลงในชอ่ งผลการประเมิน ดงั นี 1 คะแนน หมายถึง แสดงพฤติกรรมทีประเมนิ เมือได้รับการร้องขอ 2 คะแนน หมายถึง แสดงพฤตกิ รรมทีประเมนิ เมือได้รบั การกระตุ้น 3 คะแนน หมายถึง แสดงพฤตกิ รรมทปี ระเมนิ ดว้ ยตนเอง ผลการประเมนิ ชือ - สกลุ แบ่งปัน ใ ห้ ควา ม ใ ห้ คาํ ให้ คว าม รู้ สึกที ดี รวม สิงของ ช่ วย เหลือ แนะนาํ ความคิดทางบวก ลงชือผู้ประเมิน ................................................................... (ตนเอง เพือน ผู้สอน) มารุต พฒั ผล : 2554 แบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธทิ างการเรียน เรือง สมบตั ิของจาํ นวนนับ คําชีแจง จงวงกลมล้อมรอบตัวเลือกทสี ุดเพียงตัวเลือกเดียว 1. จํานวนในข้อใดต่อไปนีเป็ นตัวประกอบของ 10 ก. 2 ข. 4 ค. 6 ง. 8 2. จํานวนในข้อข้อใดต่อไปนีเป็ นจํานวนเฉพาะทมี ากทสี ุด ก. 3 ข. 5 ค. 7 ง. 9 3. จาํ นวนในข้อใดต่อไปนีไมเ่ ข้าพวก ก. 11 ข. 12 ค. 14 ง. 15 มารุต พฒั ผล : 2554
124 4. มีเชอื กอยู่ 3 เส้น ยาวเส้ นละ 16 , 32 และ 72 เซนติเมตร ตามลําดับ ถ้ าจะแบ่งเป็ นท่อนสันๆให้เท่าๆกัน และยาวทีสุดเทา่ ทีจะยาวได้ จะได้ เชอื กท่อนละกีเซนตเิ มตร ก. 4 เซนตเิ มตร ข. 6 เซนตเิ มตร ค. 8 เซนติเมตร ง. 10 เซนติเมตร 5. ถ้ากําหนดปญั หาวา่ “นักวิงมาราธอนสองคนวิงรอบสนามใช้เวลา 60 และ 72 วินาที ตามลําดบั อยากทราบวา่ อกี กีนาที นกั วิงทังสองคน จะถึงจดุ เริมตน้ พร้อมกนั ” การแก้ปัญหาโจทย์ข้อนีควรใช้วิธกี ารใดและได้คําตอบเป็ นเท่าใด ก. หา ค.ร.น. ของ 60 และ 72 แล้วหารด้วย 60 ได้ คําตอบ 6 นาที ข. หา ห.ร.ม. ของ 60 และ 72 แล้วหารด้วย 60 ได้ คาํ ตอบ 6 นาที ค. หา ค.ร.น. ของ 60 และ 72 แล้วคูณด้ วย 60 ได้คาํ ตอบ 12 นาที ง. หา ห.ร.ม. ของ 60 และ 72 แล้วคูณด้วย 60 ได้คาํ ตอบ 12 นาที มารุต พฒั ผล : 2554 แบบทดสอบเรืองสิงแวดล้อมในท้องถิน คําชีแจง จงตอบคาํ ถามและให้เหตุผลเกยี วกับการทํางานบ้านดงั ต่อไปนี 1. จงวิเคราะห์ข้อมูลจากการสํารวจและอธิบายความสัมพันธ์ขององค์ประกอบ ทีสาํ คญั ของสงิ แวดล้อม ....................................................................................................................................... ........................................................................................................................................ 2. ระบบนเิ วศมีความสาํ คัญและจาํ เป็ นต่อสิงมีชีวติ อย่างไรบา้ ง ........................................................................................................................................ ........................................................................................................................................ 3. สงิ มีชี วิตทีดํารงชีวิตในดนิ และในนํามีความสมั พนั ธ์กนั หรือไม่อย่างไร ........................................................................................................................................ ........................................................................................................................................ 4. สิงใดบ้างทีทาํ ให้สงิ มชี ี วิตดํารงชีวติ อยูไ่ ด้ในบรเิ วณทีสํารวจพบ ........................................................................................................................................ ........................................................................................................................................ มารุต พฒั ผล : 2554
125 แบบประเมินความสามารถในการแก้ปัญหา คาํ ชีแจง เขียนคะแนนความสามารถในการแก้ ปญั หาแต่ละด้านลงในช่ องผลการประเมนิ 1 คะแนน หมายถึง มีความสามารถในรายการทปี ระเมนิ เมอื ได้รับการช่วยเหลือ 2 คะแนน หมายถึง มีความสามารถในรายการทีประเมนิ เมือได้รับคาํ แนะนาํ 3 คะแนน หมายถึง มีความสามารถในรายการทปี ระเมินได้ดว้ ยตนเอง ชือ - สกลุ ความ สา มา รถในการ แก้ ปั ญหา รวม วเิ คราะห์ วางแผน ดําเนินการ ตรวจสอบผล ปัญหา การแก้ปัญหา แก้ปัญหา การแก้ปัญหา มารุต พัฒผล : 2554 ใบงานที 4 ดาํ เนนิ การแก้ปัญหา เก็บข้อมูล และบันทกึ ผล วัตถุประสงค์ ดาํ เนนิ การแก้ปัญหา หรือพฒั นาผู้เรยี น แล้วบันทกึ ผลการวจิ ยั คําชีแจง ก) ดําเนนิ การแก้ปญั หาโดยใช้วธิ กี ารและเครืองมือทไี ด้จากการทําใบงานที 3 ข) บนั ทกึ ผลการแก้ปัญหา แนวทางการนาํ ผลการวจิ ัยไปใช้ และบทเรยี นทไี ดร้ ับจากการทําวจิ ยั ให้สมบูรณ์ 1. ดําเนนิ การแก้ปัญหา (Action) โดยใช้วธิ ีการและเครืองมือ เมือวันที.................... ถงึ วนั ที ............. เวลา ....... ................. 2. บนั ทกึ ผลการแก้ปัญหาจากเก็บขอ้ มูล (Observe) โดยนําเสนอเป็นแผนภาพ ตาราง หรือเขียนบรรยาย ....................................................................................................................................................................... ............................... ....................................................................................................................................................................... ............................... 3. การสะท้อนผลหลงั การวิจยั (Reflection) 3.1 การวจิ ัยครังนสี ามารถแก้ปญั หาทีเกดิ ขนึ ไดส้ ําเร็จหรือไม่ สําเร็จ (ระบุเหตุผล) ............ ............................................................................ .............................................. ไมส่ าํ เร็จ (ระบุเหตุผล) ............. ............................................................................ ............................................. 3.2 สิงทไี ดเ้ รียนร้จู ากการทําวจิ ยั ครังนี ไดค้ วามรู้ทีเป็นประโยชน์ตอ่ การจัดการเรียนรู้ (ระบุ) .............................. ...................................... ........................... ได้ความรู้ทางวิชาการเกียวกบั การวิจยั ปฏบิ ัติการในชันเรียน (ระบุ) .......................................................................... ไดค้ วามรู้อืนๆ (ระบุ) .............................................. ...................................... ....................................................... ..... 3.3 การนําผลการวิจยั ไปประยุกต์ใช้พัฒนาคณุ ภาพการจัดการเรยี นรู้ สามารถนําไปประยกุ ตใ์ ช้ได้ (ระบุแนวทาง) ................ ...................................... ................................................. ไมส่ ามารถนําไปประยุกตใ์ ช้ได้ (ระบุเหตุผล) ........................................................................................................... มารุต พฒั ผล : 2554
126 ใบงานที 5 การเขียนรายงานผลการวิจยั (แบบไม่เป็ นทางการ) วตั ถปุ ระสงค์ เพือเขยี นรายงานการวจิ ยั คาํ ชแี จง โปรดเขยี นนาํ เสนอรายงานผลการวิจยั ทที ่านดําเนนิ การเสร็จเรียบร้ อยแล้วตามประเด็นทกี ําหนดให้ 1. ชอื เรอื งการวิจยั / ชอื ผ้วู ิจัย ....................................................................................................... ...................................... .......... 2. สภาพปัญหา (สรปุ ใบงานที1) ......................................................... .......................................................................................... 3. การวางแผนแก้ไขปญั หา (plan) (สรุปใบงานที 2 และ 3) .......................... ................................................................................ 4. การดาํ เนนิ การแก้ไขปัญหา (action) (สรปุ ใบงานที 4 ขอ้ 1) ......... ...................................... ..................................................... 5. ผลการแกป้ ญั หา (observe) (สรุปใบงานที 4 ขอ้ 2) ...................... ...................................... ..................................................... 6. การสะทอ้ นผลการวจิ ัย (reflect) (สรุปใบงานที 4 ขอ้ 3) 6.1 สงิ ทีไดเ้ รียนรู้จากการทําวจิ ยั ครังนี ..................................................................................... ...................................... .......... 6.2 แนวทางการนาํ ผลการวจิ ยั ไปประยกุ ต์ใช้พัฒนาคณุ ภาพการจดั การเรียนรู้ 6.3 ความถูกต้องและเชอื ถอื ได้ของผลการวจิ ยั (ทีเพือนครูร่วมพิจารณา) มีความถกู ต้องและเชือถือได้ ควรปรับปรุงแก้ไข .................................................................................................. ...................................... ....... ขอ้ เสนอแนะเพิมเตมิ .............................................................................................. .............................................. มารตุ พฒั ผล : 2554 ตัวอย่างการวจิ ัย ทีทําควบคู่กบั การจัดการเรียนรู้ (ของจริงจากพนื ที) มารตุ พฒั ผล : 2554
127 รายงานการวจิ ัย (กลุ่มสาระคณติ ศาสตร์) 1. ชือเรืองการวจิ ยั / ชือผวู้ จิ ยั การพฒั นาผลสัมฤทธทิ างการเรียน เรือง การคูณและการหารเศษส่วน ของผเู้ รียนชันประถมศกึ ษาปี ที 5 โดยใช้แบบฝึ กหดั ผสมผสานกบั เกมและรู ปการ์ตูน 2. สภาพปัญหา ผเู้ รยี นชัน ป. 5 ไม่สามารถคณู และหารเศษส่ วนทกี าํ หนดให้ได้ 3. การวางแผนแก้ไขปญั หา (Plan) 3.1 วตั ถุประสงค์การวจิ ัย เพือเปรียบเทยี บผลสัมฤทธิทางการเรียนเรืองการคณู และการหารเศษส่วน ก่อนและหลังการจัดการเรยี นรู้ 3.2 กลุ่มเป้ าหมาย ผ้เู รียนชันประถมศกึ ษาปี ที 5 จาํ นวน 9 คน มารตุ พฒั ผล : 2554 3.3 ตัวแปรต้น การใช้แบบฝึ กหดั ทีมกี จิ กรรมให้ผู้เรยี นปฏบิ ตั ิอยา่ งหลากหลายผสมผสาน กบั เกมและรูปการ์ตนู 3.4 ตัวแปรตาม ผลสัมฤทธิทางการเรยี น เรอื ง การคณู และการหารเศษส่วน 3.5 สมมติฐานการวิจยั ผเู้ รียนมีผลสัมฤทธิทางการเรียนเรืองการคณู เศษส่ วนหลงั เรยี น สู งกว่าก่อนเรียน มารุต พฒั ผล : 2554
128 3.6 นวัตกรรม / เครืองมอื ทใี ช้เก็บรวบรวมข้อมูล - แบบฝึ กหัด เรอื ง การคูณและการหารเศษส่ วน มคี วามตรงกับปัญหา ความเหมาะสมกับผู้เรยี น และความเป็ นไปได้เชิงปฏิบัติอยู่ในระดับมาก - แบบทดสอบ เรอื ง การคูณและการหารเศษส่วน มคี วามตรงกบั ปัญหา ความเหมาะสมกับผู้เรียน และความเป็ นไปได้เชงิ ปฏบิ ตั ิ อยูใ่ นระดับมาก 3.7 การเกบ็ รวบรวมข้อมูล ทดสอบผลสัมฤทธทิ างการเรียนเรอื ง การคณู เศษส่วน ก่อนเรียน และหลังเรียน 3.8 การวิเคราะห์ ขอ้ มูล เปรียบเทยี บผลสัมฤทธิทางการเรียนเรอื งการคูณและการหารเศษส่ วน ก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้ มารุต พฒั ผล : 2554 4. การดําเนินการแกไ้ ขปัญหา (Do) ดาํ เนินการเมอื วนั ที 7 มิ.ย. 2554 เวลา 07.30 – 08.00 น. 5. ผลการแก้ปัญหา (Check) ผลการใช้ แบบฝึ กหดั “คู่หนูอยู่ไหน” เป็ นดังกราฟแท่งต่อไปนี 5 4.11 มารตุ พฒั ผล : 2554 4 ค่าเฉลีย 3 หลงั เรยี น 2 1.89 1 0 ค่าเฉลีย ก่อนเรียน
129 แบบฝึ กหัด “คู่หนอู ยู่ไหน” คาํ ชีแจง ลากเส้นเชือมระหว่างโจทยท์ ีกาํ หนดใหก้ บั คําตอบทีถกู ต้อง แล้วลากเส้นเชือมอีกเส้นไปยงั รูปภาพ ทีเป็ นคําแปลของคาํ ศัพทท์ ีถกู ต้อง แบบทดสอบ เรือง การคูณและการหารเศษส่วน คําชแี จง วงกลมล้อมรอบตัวเลือกทถี ูกต้องทสี ดุ เพยี งตวั เลอื กเดียว
131 รายงานการวจิ ัย (กลุ่มสาระวิทยาศาสตร์) 1. ชือเรืองการวิจยั / ชอื ผู้วจิ ยั การพฒั นาความสามารถในการจําแนกสารเนือเดียว และสาร เนอื ผสม ของผู้เรยี นชันมัธยมศึกษาปี ที 1 โดยใช้สอื ของจรงิ และการแลกเปลียนเรยี นรู้ 2. สภาพปัญหา ผู้เรียนจํานวน 5 คน ไม่สามารถจําแนกได้ว่าสารใด เป็ นสารเนือเดียว และสารใดเป็ นสารเนือผสม 3. การวางแผนแก้ไขปญั หา (Plan) มารุต พฒั ผล : 2554 3.1 วตั ถปุ ระสงค์การวิจยั เพอื เปรยี บเทยี บความสามารถในการจาํ แนกสารเนือเดียว และสารเนือผสม ของผ้เู รียนชันมธั ยมศกึ ษาปี ที 1 จาํ นวน 5 คน 3.2 กล่มุ เป้ าหมาย ผู้เรยี นชันมัธยมศึกษาปี ที 1 จาํ นวน 5 คน 3.3 ตัวแปรต้น การใช้ตัวอย่าง สารเนอื เดียว และสารเนอื ผสม ทีเป็ นของจรงิ ให้ผู้เรียนศกึ ษา และแลกเปลยี นเรียนรู้กบั เพือน และผู้สอน 3.4 ตัวแปรตาม ความสามารถในการจําแนกสารเนอื เดยี วและสารเนอื ผสม 3.5 สมมตฐิ านการวิจยั ผู้เรียนจําแนกสารเนือเดียวและสารเนอื ผสมหลังเรียนสู งกว่าก่อนเรียน มารตุ พฒั ผล : 2554
132 3.6 นวตั กรรม / เครืองมอื ทใี ช้เก็บรวบรวมข้อมูล - ใบความรู้ เรอื งสารเนือเดยี วและสารเนือผสม มีความตรงกบั ปัญหา ความเหมาะสมกับผู้เรยี น และความเป็ นไปได้เชิงปฏิบตั ิอยู่ในระดบั มาก - กิจกรรมฝึ กจาํ แนกสารเนือเดียวและสารเนอื ผสม มคี วามตรงกับปัญหา ความเหมาะสมกบั ผู้เรียน และความเป็ นไปได้เชิงปฏบิ ัติ อยูใ่ นระดับมาก - แบบทดสอบเรืองสารเนอื เดยี วและสารเนอื ผสม มีความตรงกบั ปัญหา ความเหมาะสมกับผู้เรียน และความเป็ นไปได้เชงิ ปฏบิ ัติอยู่ในระดบั มาก 3.7 การเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล ทดสอบความสามารถในการจาํ แนกสารเนือเดียวและสารเนอื ผสม ก่อนเรียนและหลังเรียน 3.8 การวิเคราะห์ ขอ้ มูล เปรียบเทยี บค่าเฉลยี ความสามารถ ในการจาํ แนก สารเนือเดยี ว และสารเนอื ผสม ก่อนและหลงั การดําเนนิ การจดั การเรียนรู้ มารุต พฒั ผล : 2554 4. การดําเนินการแก้ไขปญั หา (Do) ดําเนนิ การเมอื วันที 6 ก.ย. 2553 เวลา 10.30 – 12.00 น. 5. ผลการแก้ปัญหา (Check) ผลการดาํ เนนิ การปรากฏดงั ตารางต่อไปนี ที ชือ – นามสกุล คะแนน คะแนน คะแนน ก่อนเรียน หลงั เรียน พฒั นาการ 1 เด็กหญงิ ทิพวรรณ บญุ สุข 2 เด็กหญงิ ปิ ยะดา ตะเวียงน่าน 8 17 9 3 เด็กชายนรมนธ์ จนั ทร์ สะอาด 5 18 13 4 เดก็ ชายพนา สร้อยคํา 4 17 13 5 เด็กชายยอดรัก แกว้ ตุ้ม 4 17 13 7 17 10 เฉลีย 5.6 17.2 11.6
133 6. สะท้อนผลการวิจยั (Reflection) 6.1 สิงทไี ด้เรยี นรู้จากการทําวิจยั ครังนี การจดั การเรียนรู้ ให้ผูเ้ รยี นสามารถจําแนกสารเนือเดียวและสารเนอื ผสมได้ ผูส้ อนควรใช้สือทเี ป็ นสารเนอื เดยี ว และสารเนอื ผสมทเี ป็ นของจรงิ มาสอนผ้เู รยี น ควบคู่กับการให้ศึกษาใบความรู้ 6.2 แนวทางการนาํ ผลการวิจยั ไปประยกุ ต์ใช้พัฒนาคุณภาพการจดั การเรียนรู้ การใช้สือการเรียนรู้ควรเลือกใช้ สอื ทีเป็ นของจริง จะช่วยทําให้ผูเ้ รียน สามารถเรยี นรู้ได้ อย่างมปี ระสิทธิภาพ เกิดความรู้ความเข้าใจทถี ูกตอ้ ง มารตุ พฒั ผล : 2554 6.3 ความถกู ตอ้ งและเชอื ถอื ได้ของผลการวิจัย (ให้เพือนครูตรวจสอบ) มคี วามถกู ตอ้ งและเชอื ถอื ได้ ควรปรับปรงุ แก้ไข ข้อเสนอแนะเพมิ เติม .............................................. 7. รายชือเพือนครูทีตรวจสอบและร่วมแลกเปลียนเรียนรู้ ครู ปราณี จิตเมตตา ครู วชิ าญ ความรู้ดี) ครู สมศรี นาํ ใจงาม 8. ผู้วิจัย ครู วนิ ัย ใจบุญ มารุต พฒั ผล : 2554
134 การถอดบทเรียน เป็ นการเรียนรู้เกยี วกบั การปฏิบตั ิไปแล้ว เพือรักษาจุดแขง็ ของการปฏิบัตกิ ารไว้ศึกษาแนวทางทีเป็ นนวตั กรรม เพือส่งเสริมให้มีแนวทางในการกําหนดเป็ นแบบปฏิบตั ทิ ดี ี ไปประยุกต์ใช้หรือนาํ ไปเรียนรู้ต่อยอด เครืองมือถอดบทเรียน หรือองค์ความรู้มพี ลวัตเสมอ เครืองทนี ิยมใช้คอื “เครอื งมอื การวิเคราะห์หลงั การปฏบิ ตั ิ” (After Action) หรือ AAR มารุต พัฒผล : 2554 หลักการถอดบทเรียนเครืองมือการวเิ คราะห์หลังการปฏบิ ัติ คอื เปิ ดใจกว้าง รับฟังความคดิ เหน็ ของผู้อืน และพร้อมทีจะเรยี นรู้ร่วมกนั ซึงไม่ได้หมายถงึ การหาทางแก้ไขปัญหาหรือการตาํ หนิในสิงทีเกิดขึน บทเรียนซึงจะเกดิ ขึนจากการถอดบทเรียนนไี มได้มุ่งเน้นการแลกเปลี ยนเรียนรู้ แต่ หมายรวมถงึ การจัดทําองค์ความรู้ทเี กิดจากการสั งเคราะห์ในรูปแบบเอกสาร ซึงแตกต่างจากการรวบรวม (compile) ข้อมูลหรือรายงานคาํ ให้การ หรือรายงานการประชุ มซึงจะไม่นาํ ไปสู่การเปลียนแปลงพฤตกิ รรมใดๆ (A lesson is not Learned unless something changed) มารุต พัฒผล : 2554
135 วิธีการถอดบทเรียนด้วยเครืองมือการวิเคราะห์หลักการปฏบิ ตั ิ 1. จัดประชุมให้เกดิ ขึนอยา่ งรวดเรว็ เท่าทจี ะทาํ ได้ภายในระยะเวลา 2 – 3 ชวั โมง หรอื 2 – 3 วัน ขึนอยกู่ บั ความเหมาะสมของโครงการ และเลอื กบคุ คล ทเี หมาะสมเข้าร่วมประชุม 2. สร้ างบรรยากาศทเี หมาะสมทเี ออื ตอ่ การเรียนรู้ จุดเน้นการประชุมเพอื การเรียนรู้ ไม่ใช่ประชุมเพือตาํ หนิความล้มเหลวของผอู้ นื 3. กาํ หนดบคุ คลทีจะเป็ นผ้อู ํานวยความสะดวกในการประชุม คือ ผู้ทรี ู้ และเข้าใจ ธรรมชาตขิ องกิจกรรม / โครงการและไม่มีส่วนได้ส่ วนเสียกับโครงการ 4. ทบทวนวตั ถปุ ระสงค์ โครงการ เช่น เรมิ ด้วยคําถาม - เราได้กาํ หนดหรอื วางแผนไวว้ ่าจะทาํ อะไรบ้างและเราได้ทาํ อะไรให้เกิดขึนมาบ้างแล้ว มารุ ต พฒั ผล : 2554 5. ตังคําถาม - มีสิงใดบา้ งทที าํ ดีแล้ว - ช่วยกนั หาเหตุผลอย่างชัดเจนว่าทาํ ไมจงึ เกิดขึน 6. คําถามต่ อไป - มีอะไรบ้างทีควรทาํ ให้ดีกว่ านี - ในครังต่ อไปเราจะทําอะไรให้แตกต่ างกว่าทีเคยทํามาแล้ว 7. มันใจว่ าผู้ร่วมประชุมทุกคนมีความร้สู ึ กได้รับรู้ทกุ ประเด็นอย่ างครบถ้วน กอ่ นสิ นสุ ดการประชุ ม 8. บนั ทกึ การประชุมและสังเคราะห์องค์ความรู้ใหม่ 9. แบ่งปันความรู้ให้ทีม พจิ ารณา ทบทวนให้ชัดเจน มารุต พัฒผล : 2554
136 การแลกเปลียนเรยี นรู้ (Interactive Learning) กระบวนการเรียนรู้ทีเปิ ดโอกาสให้สมาชิกของกลุ่ม มสี ่วนร่วมในกิจกรรมทุกขันตอน สามารถแสดงผลงาน และความคดิ เห็น แลกเปลยี นประสบการณ์ซึงกนั และกัน โดยมีผู้นาํ กลุ่มสรุปสาระสําคญั เพือสร้างสรรค์องค์ความรู้ การแลกเปลยี นเรียนรู้จะก่อให้เกิดคุณลกั ษณะ ความเคารพในความเป็ นมนุษย์ของผู้อืน มารุต พฒั ผล : 2554 ขอบคุณและสวัสดี
137 ใบงานการจดั ทาํ หน่วยการเรียนรู้ โดยใช้วจิ ยั เป็ นฐาน วตั ถุประสงค์ เพือให้ผู้สอนวางแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิจัยเป็ นฐานตามลําดับ ขันตอนทีกําหนดให้แล้วดําเนินการจัดการเรียนรู้และบันทึกผลหลงั การจัดการ เรียนรู้ คาํ ชีแจง โปรดวางแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิจัยเป็ นฐานตามลําดับขันตอน ทีกํ าหนดให้ แล้ วดําเนินการจัดการเรี ยนร้ ู และบันทึกผลหลังการจัดการเรี ยนร้ ู ให้สมบรู ณ์
138
139 หน่วยการเรียนรู้โดยใช้วจิ ัยเป็ นฐาน ชือหน่วยการเรียนรู้ ................................................................................................................... ระดับชัน ............. ภาคเรียนที ........... ปี การศกึ ษา ........................... จาํ นวน ...........ชัวโมง 1. ผลการเรียนรู้ (Learning Outcome) เขียนเป็นความเรียงให้สะท้อนองค์ประกอบ 3 ด้าน คือ 1) ความคิดรวบยอดหลกั 2) กระบวนการเรียนรู้ และ 3) สมรรถนะและคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. 2. สาระสาํ คัญ (Main Concept) เขียนในลกั ษณะผงั ความคดิ รวบยอด (concept mapping) ทีสอดคล้องกบั ผลการเรียนรู้ทีคาดหวงั (นําความเรียงมาเขียนเป็นภาพ)
140 3. หวั ข้อสาระการเรียนรู้ (Sub Concept และ Topic) ระบหุ วั ข้อสาระการเรียนรู้ของแตล่ ะ main concept ในหนว่ ยการเรียนรู้นีโดยเขียนเป็นข้อๆ อยา่ งเป็นระบบ .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ (Learning Objectives) ระบใุ ห้สอดคล้องกบั ผลการเรียนรู้ทีคาดหวงั และ concept mapping จะเขียนแยกเป็นด้านๆ (ความรู้ ทกั ษะ สมรรถนะและคณุ ลกั ษณะ) หรือเขียนผสมผสานหลายด้านในข้อเดยี วกนั ก็ได้) .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. 5. กจิ กรรมการเรียนรู้ (Learning Activity) ระบกุ ิจกรรมหลกั ๆ ทีผ้เู รียนต้องปฏิบตั ติ ามขนั ตอน โดยใช้ “กระบวนการวิจัย” เป็นขนั ตอนหลกั และมีกิจกรรมการเรียนรู้ทีสอดรับกบั แตล่ ะขนั ตอน และสอดคล้องกบั จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 5.1 ขนั กําหนดปัญหา ....................................................................................................................................... ....................................................................................................................................... 5.2 ขนั เก็บรวบรวมข้อมลู ....................................................................................................................................... ....................................................................................................................................... 5.3 ขนั วเิ คราะห์ข้อมลู ....................................................................................................................................... ....................................................................................................................................... 5.4 ขนั สรุปผล ....................................................................................................................................... ....................................................................................................................................... 5.5 ขนั แลกเปลียนเรียนรู้ ....................................................................................................................................... .......................................................................................................................................
141 6. สือการเรียนรู้ / แหล่งการเรียนรู้ สือ คือ ตวั กลางทีชว่ ยให้ผ้เู รียนเกิดการเรียนรู้ได้รวดเร็ว และมีประสทิ ธิผล แหลง่ การเรียนรู้ คือ แหลง่ ข้อมลู ขา่ วสาร สารสนเทศ ความรู้ทางวิทยาการ และประสบการณ์ทีสง่ เสริมให้ผ้เู รียนใฝ่ รู้ ใฝ่ เรียน แสวงหาความรู้และเรียนรู้ด้วยตนเอง .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. 7. การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ ออกแบบการวดั และประเมินผลทีสอดคล้องกบั จดุ ประสงค์ การเรียนรู้ แล้วนําสิงทีได้ออกแบบไว้ไปสร้างเครืองมือวดั ทีสมบรู ณ์ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ วธิ ีการวดั เครืองมือวดั แหลง่ ข้อมลู เกณฑ์ (คดั ลอกมาจากข้อ 4) การประเมนิ หมายเหตุ หลักการวัดและประเมนิ ผลตามสภาพจริง (Authentic Assessment) 4 ข้อ 1. ใช้ผ้ปู ระเมินหลายๆ คน เชน่ ผ้เู รียน เพือน ผ้สู อน ผ้เู กียวข้อง 2. ใช้วิธีการและเครืองมือวดั หลายๆ ชนิด เชน่ การสงั เกต การปฏิบตั ิ การทดสอบ การรายงานตนเอง 3. วดั หลายๆ ครังในแตล่ ะชว่ งเวลาของการเรียนรู้ เชน่ ก่อนเรียน ระหวา่ งเรียน หลงั เรียน ตดิ ตามผล 4. สะท้อนผลการประเมินส่กู ารพฒั นาผ้เู รียน
142 8. บันทกึ หลังการจัดการเรียนรู้ (ใช้จดุ ประสงค์การเรียนรู้เป็นกรอบการบนั ทกึ ในแตล่ ะประเด็น) 8.1 ความรู้ในสาระสําคญั (main concept) ...................................................................................................................................... ...................................................................................................................................... ...................................................................................................................................... 8.2 ทกั ษะการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการวจิ ยั ของผ้เู รียน ...................................................................................................................................... ...................................................................................................................................... ...................................................................................................................................... 8.3 สมรรถนะทีกําหนดไว้ในจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ...................................................................................................................................... ...................................................................................................................................... ...................................................................................................................................... 8.4 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ทีกําหนดไว้ในจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ...................................................................................................................................... ...................................................................................................................................... ...................................................................................................................................... 8.5 จดุ ทีต้องพฒั นาในการจดั การเรียนรู้ครังตอ่ ไป ...................................................................................................................................... ...................................................................................................................................... ...................................................................................................................................... ลงชือ ................................................................... ผ้สู อน วนั ที .......... เดือน ....................... พ.ศ. .................
143 ใบงานการเขียนรายงานการวจิ ัย จากหน่วยการเรียนรู้โดยใช้วจิ ัยเป็ นฐาน ใช้ในกรณีทผี ู้สอนนําปัญหาการเรียนรู้ของผู้เรียน ทเี กดิ ขึนหลังดาํ เนินการจัดการเรียนรู้ มาทาํ วิจัยเพอื แก้ปัญหานัน อาจทาํ วิจัยเป็ นรายบุคคล กลุ่มเล็ก หรือทงั ชันเรียนกไ็ ด้
144
145 ใบงานที 1 การวเิ คราะห์ปัญหา วัตถุประสงค์ เพือให้ผ้สู อนวิเคราะห์ปัญหาการเรียนรู้ของผ้เู รียน คาํ ชีแจง ก) ระบปุ ัญหาของผ้เู รียนทีทา่ นเห็นวา่ มีความสําคญั และจําเป็นต้องดําเนินการแก้ไข (อาจเป็นปัญหารายบคุ คล กลมุ่ บคุ คล หรือทงั ชนั เรียนก็ได้) ข) หาความรู้ทีจะนํามาใช้แก้ไขปัญหาโดยการศกึ ษาจากเอกสารหรืองานวิจยั การขอคาํ แนะนําจากเพือนครู หรือการใช้ประสบการณ์ของตนเอง 1. กลมุ่ สาระ ............................................................................................................................... หวั ข้อ ................................................................. การจดั การเรียนรู้วนั ที ............................ 2. ปัญหาทีพบ คือ ............................................................................................................................................... 3. สาเหตขุ องปัญหา คือ ............................................................................................................................................... 4. วิธีการแก้ปัญหา วิธีการแก้ปัญหาจากเอกสาร วิธีการแก้ปัญหาจาก วิธีการแก้ปัญหาจาก หรืองานวิจยั คําแนะนําของเพือนครู ประสบการณ์ของตนเอง ................................................. .......................................... ........................................ ................................................. .......................................... ........................................ ................................................. .......................................... ........................................ ................................................. .......................................... ........................................ ................................................. .......................................... ........................................ ................................................. .......................................... ........................................ ................................................. .......................................... ........................................ ................................................. .......................................... ........................................ 5. สรุปวธิ ีการแก้ปัญหาทีจะใช้ในครังนี ...............................................................................................................................................
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188