sum_actDebt2558

สรปุ สาระสําคัญของพระราชบัญญตั ิการทวงถามหน้ี พ.ศ. 2558 รางพระราชบญั ญตั นิ ี้ แบงเปน 3 หมวด ดังนี้ หมวด 1 การทวงถามหน้ี หมวด 2 การกํากบั ดแู ลและตรวจสอบ หมวด 3 บทกาํ หนดโทษ แบง ออกเปนโทษทางปกครองและโทษอาญา และบทเฉพาะกาล โดยมีสาระสําคญั ดังน้ี 1. ขอบเขตการใชบังคบั กฎหมายน้ีกํากับดูแลการทวงถามหน้ีท้ังในระบบและนอกระบบ โดยคุมครองเฉพาะลูกหน้ีท่ีเปน บคุ คลธรรมดาเทา น้นั 2. การจดทะเบยี นการประกอบธรุ กิจทวงถามหน้ี ผปู ระกอบธุรกิจทวงถามหนจี้ ะตองจดทะเบยี นกบั นายทะเบียนทรี่ ฐั มนตรีวาการกระทรวงมหาดไทยแตงตงั้ ขึ้น โดยหาก ผูประกอบธุรกิจเปนทนายความหรือสํานักงานทนายความใหจดทะเบยี นกับคณะกรรมการสภาทนายความ 3. ขอ หา มในการทวงถามหน้ี 3.1 หา มทวงถามหน้ีกบั บุคคลอ่นื ทไี่ มใชล กู หน้ี 3.2 การตดิ ตอกับบุคคลอืน่ ทาํ ไดเ พอื่ สอบถามสถานท่ตี ิดตอ ลูกหนเี้ ทาน้ัน โดยผูทวงถามหนี้ตองแจงชือ่ ตวั ชื่อสกลุ ไมใชภ าษา สัญลกั ษณ หรือช่อื ทางธรุ กิจบนซองจดหมายหรือในหนังสือหรอื ในสือ่ อ่นื ใดทีท่ ําใหเขา ใจวา ติดตอมาเพื่อทวงถามหน้ี ไมติดตอ หรอื แสดงตนที่ทาํ ใหเ ขาใจผดิ เพื่อใหไดข อมูลเก่ยี วกับสถานทต่ี ิดตอของลกู หนี้ และไมแ จงความเปน หนี้ของลูกหน้ี เวนแต บุคคลอน่ื น้ันเปนสามี ภริยา บุพการี หรือผสู ืบสนั ดานของลูกหนี้ และได สอบถามถงึ สาเหตขุ องการตดิ ตอ 3.3 การติดตอกบั ลูกหน้ี ตองติดตอตามสถานท่ีที่ไดแจง ไว ในวันจันทรถ ึงวันศุกร ติดตอไดในเวลา 08.00 น. ถงึ 20.00 น. และในวันหยุดราชการ เวลา ๐๘.๐๐ น. ถึง ๑๘.๐๐ น. โดยแจงใหลูกหน้ีทราบถึงช่ือผูใหสินเชื่อ และจํานวนหน้ีท่ีลูกหน้ีเปน หน้ี แสดงหลกั ฐานการรบั มอบอํานาจใหร ับชําระหน้จี ากผใู หสินเชอ่ื ตอลูกหนี้ดว ย และ เมอ่ื ลกู หน้ชี ําระหนีแ้ ลว ใหผูทวงถามออกหลักฐานการชําระหน้แี กล ูกหน้ี 3.4 ไมก ระทําการในลักษณะขมขูใชความรุนแรง ใชว าจาหรอื ภาษาทเ่ี ปนการดูหมิ่น ลูกหนี้หรือบคุ คลอนื่ เปดเผยความเปนหน้แี กผ อู น่ื ท่ไี มเก่ียวของ ติดตอ ลูกหน้เี ก่ียวกับหน้ีโดยใชไปรษณียบัตร เอกสารเปด ผนึกหรือ โทรสาร หรือใชภาษา สัญลักษณ ช่ือทางธุรกิจบนซองจดหมายหรือในหนังสือที่ทําใหเขาใจวาติดตอมาเพื่อทวง ถามหนี้ และทวงถามหนีใ้ นลักษณะอืน่ ตามคณะกรรมการประกาศกาํ หนด 3.5 หามทวงถามหนี้ในลักษณะท่ีเปน เทจ็ หรือทําใหเกดิ ความเขาใจผิด โดยแสดงหรือใชเ ครื่องหมาย เคร่ืองแบบ หรอื ขอ ความท่ีทาํ ใหเช่ือวาการทวงถามหนีน้ ัน้ ทาํ โดยทนายความ สํานักงานกฎหมาย แสดงหรอื มีขอ ความทท่ี ําให เชอื่ วาจะถูกดาํ เนินคดี ถูกอายดั ทรพั ยหรอื เงินเดือน ตดิ ตอหรอื แสดงใหเ ชื่อวา จะถูกดําเนินคดี ถูกยึดหรืออายดั ทรัพย หรอื เงินเดือน หรอื ดาํ เนนิ การใหแกบ ริษัทขอมลู เครดิต 3.6 หา มทวงถามหน้ีในลักษณะไมเปนธรรม โดยเรียกเก็บคา ธรรมเนยี มหรือคาใชจ า ยเกนิ กวา อัตราท่ี คณะกรรมการประกาศกาํ หนด หรือการเสนอหรือจูงใจใหล ูกหนีอ้ อกเชค็ ท้ังทรี่ อู ยวู า ลูกหนีอ้ ยูในฐานะทไ่ี มส ามารถ ชําระหนไี้ ด 3.7 หามเจาหนาท่ขี องรัฐประกอบธุรกจิ ทวงถามหนี้ รวมถึงหามทวงถามหนี้ หรอื สนบั สนนุ การทวงถามหน้ี เวน แตเปนการทวงถามหนขี้ องตน สามี ภรรยา บุพการี หรือผูสืบสันดานของตน

-2- 4. การกํากบั ดูแลผทู วงถามหน้ี 4.1 คณะกรรมการกาํ กับการทวงถามหนี้ มอี ํานาจหนา ท่ี เชน ออกประกาศหรือคาํ สงั่ เพื่อปฏิบตั กิ ารให เปนไปตามพระราชบญั ญตั ินี้ ออกขอบงั คบั กําหนดหลกั เกณฑและวิธีการพจิ ารณาเรอ่ื งรองเรียนของคณะกรรมการ กาํ กับการทวงถามหนีป้ ระจําจงั หวดั และคณะกรรมการกํากบั การทวงถามหนีป้ ระจํากรุงเทพมหานคร พิจารณา วินิจฉัยอทุ ธรณค าํ สง่ั ใหชาํ ระคา ปรบั ทางปกครองและส่งั เพิกถอนการจดทะเบียนการประกอบธรุ กจิ เสนอแนะ คณะรัฐมนตรี หรอื รฐั มนตรีเก่ียวกบั มาตรการคมุ ครองหรือชว ยเหลอื ลกู หนใี้ นดา นอื่นๆ เปน ตน 4.2 คณะอนกุ รรมการเพ่ือพจิ ารณาหรือปฏบิ ตั ิการเก่ียวกับการกํากบั ดแู ลการทวงถามหนข้ี องผูใหส นิ เชอื่ ซึ่งเปนนติ บิ คุ คล มอี าํ นาจหนาทร่ี ับเรอ่ื งรองเรยี นเพอ่ื เสนอตอ คณะกรรมการกํากับการทวงถามหน้ีประจําจังหวัด และคณะกรรมการกํากบั การทวงถามหนี้ประจาํ กรุงเทพมหานคร ติดตามสอดสองพฤติการณข องผทู วงถามหน้ีที่เปน นิตบิ คุ คล ประสานกับหนว ยงานของรัฐที่มอี ํานาจหนาทใ่ี นการกํากบั ดแู ลหรือตรวจสอบผูทวงถามหน้ีหรอื บุคคล อืน่ ใดทเ่ี ก่ียวของ เปน ตน 4.3 คณะกรรมการกํากับการทวงถามหนป้ี ระจาํ จังหวัด มอี าํ นาจหนาท่ีในพืน้ ทที่ ร่ี บั ผดิ ชอบ เชน พจิ ารณา วนิ ิจฉัยเร่ืองรองเรยี น สัง่ เพิกถอนการจดทะเบียนของผปู ระกอบธุรกิจทวงถามหน้ี รายงานการปฏิบตั ิหนา ท่ี รวมทัง้ ปญหา อุปสรรค และขอเสนอแนะ ตอ คณะกรรมการทุกสามเดือน และปฏบิ ตั หิ นา ท่ีอ่ืนตามทค่ี ณะกรรมการ มอบหมาย ใหท ่ีทําการปกครองจังหวัด รบั ผิดชอบงานธรุ การของคณะกรรมการกาํ กับการทวงถามหนี้ประจําจังหวดั เปนสํานกั งานรับจดทะเบียนการประกอบธรุ กจิ ทวงถามหนี้ รับเรอ่ื งรองเรียนเก่ยี วกบั การทวงถามหนี้ เพอ่ื เสนอตอ คณะกรรมการดังกลาว ติดตามสอดสอ งพฤติการณข องผูทวงถามหนี้หรอื กํากบั ดูแลการปฏบิ ัตขิ องผูประกอบธุรกจิ ทวงถามหนี้ ประสานกับหนว ยงานของรัฐหรือบคุ คลอ่นื ใดทเี่ กี่ยวของกับการทวงถามหน้ี รณรงค ประชาสัมพนั ธ และอบรมวธิ กี ารทวงถามหนี้ทถ่ี กู ตองและเหมาะสม 4.4 คณะกรรมการกํากับการทวงถามหนป้ี ระจาํ กรุงเทพมหานคร มีอํานาจหนา ทใี่ นพ้ืนทีท่ ีร่ ับผดิ ชอบ เชน พิจารณาวินจิ ฉยั เรื่องรองเรยี น สง่ั เพกิ ถอนการจดทะเบยี นของผปู ระกอบธรุ กิจทวงถามหน้ี รายงานการปฏบิ ัตหิ นา ที่ รวมท้งั ปญ หา อุปสรรค และขอเสนอแนะ ตอคณะกรรมการทุกสามเดือน และปฏิบตั ิหนา ที่อน่ื ตามทีค่ ณะกรรมการ มอบหมาย ใหก องบัญชาการตาํ รวจนครบาลรบั ผิดชอบในงานธรุ การของคณะกรรมการกาํ กับการทวงถามหนี้ ประจาํ กรงุ เทพมหานคร เปน สาํ นักงานรับจดทะเบียนการประกอบธุรกิจทวงถามหน้ี รับเรอ่ื งรองเรียนเกี่ยวกบั การทวงถามหนเ้ี พ่ือเสนอตอคณะกรรมการดังกลาว ตดิ ตามสอดสอ งพฤติการณของผูทวงถามหนห้ี รือกาํ กบั ดูแล การปฏบิ ัติของผูป ระกอบธรุ กิจทวงถามหนี้ ประสานกบั หนว ยงานของรัฐหรือบุคคลอน่ื ใดทเ่ี กย่ี วของกับการทวงถามหน้ี รณรงค ประชาสมั พนั ธ และอบรมวิธีการทวงถามหน้ีท่ีถกู ตองและเหมาะสม 5. การรองเรยี นก่ียวกับการทวงถามหน้ี สามารถรอ งเรยี นไดท่กี รมการปกครอง สํานกั งานเศรษฐกิจการคลงั ทีท่ ําการปกครองจังหวัด กองบัญชาการตาํ รวจนครบาล ทวี่ าการอําเภอและสถานีตํารวจท่ัวประเทศ

-3- 6. บทกําหนดโทษ 6.1 โทษทางปกครอง เชน การติดตอกับบุคคลอื่นหรอื ตดิ ตอกบั ลูกหนโ้ี ดยไมแ สดงตน ติดตอนอกเวลาที่ กําหนด เรียกคาธรรมเนียมเกินอัตรา โดยผูท่ีฝาฝนจะมีปรับทางปกครองไมเกิน 1 แสนบาท โดยคาํ นึงถึง ความรายแรงแหง พฤติกรรมท่ีกระทําผดิ ทง้ั น้ี คณะกรรมการกาํ กับการทวงถามหนี้ประจําจังหวดั และคณะกรรมการ กาํ กบั การทวงถามหน้ีประจาํ กรุงเทพมหานคร มอี ํานาจสัง่ เพกิ ถอนการจดทะเบียนของผูประกอบธุรกจิ ทวงถามหนี้ ได เมอ่ื ปรากฏวา ผูป ระกอบธุรกจิ ทวงถามหนี้เคยถูกลงโทษปรบั ทางปกครองและถกู ลงโทษซ้ําอีกจากการกระทาํ ความผิดอยา งเดยี วกนั หรอื กระทําการฝาฝน บทบัญญตั ิทมี่ ีโทษทางอาญาตามพระราชบัญญตั นิ ้ี 6.2 โทษอาญา (1) จาํ คกุ ไมเ กิน 1 ป ปรับไมเ กิน 1 แสนบาท หรอื ทัง้ จําท้ังปรับ (ประกอบธุรกิจโดยไมจ ดทะเบียน เปดเผยความเปนหนก้ี ับบุคคลอ่นื ใชวาจาดหู มนิ่ จูงใจใหล ูกหนี้ออกเชค็ ) (2) จําคกุ ไมเกนิ 3 ป ปรบั ไมเกิน 3 แสนบาท หรอื ท้ังจาํ ทง้ั ปรบั (ทาํ ใหเ ชื่อวา เปนการกระทําของ ทนายความ ทําใหเ ขาใจวาจะถูกดาํ เนินคดจี ะถูกยึดหรืออายัดทรพั ยหรอื เงินเดือน) (3) จาํ คกุ ไมเกิน 5 ป ปรับไมเ กนิ 5 แสนบาท หรอื ทงั้ จําท้ังปรับ (ขม ขู ใชค วามรุนแรง ใชข อความ เคร่ืองหมาย สัญลกั ษณ เครื่องแบบท่ที ําใหเขา ใจวา เปนการกระทาํ ของศาลหรือเจาหนา ท่ีของรฐั เจา หนา ท่ีของรัฐ ประกอบธุรกจิ ทวงถามหน้ีหรือทวงถามหนี้ท่ีไมใชห นข้ี องตน) 7. บทเฉพาะกาล ผูประกอบธุรกิจทวงถามหน้ีอยกู อนวนั ที่ พ.ร.บ. นมี้ ีผลใชบงั คับ ใหย ่ืนขอจดทะเบียนภายใน 90 วนั นับแตวนั ที่ พ.ร.บ. นีม้ ผี ลใชบ งั คับ สํานักงานเศรษฐกิจการคลงั กระทรวงการคลงั มถิ ุนายน 2558