การเรยี นรสู้ ว่ นบคุ คล Personalized Learning รองศาสตราจารย์ ดร.วชิ ัย วงษ์ใหญ่ รองศาสตราจารย์ ดร.มารตุ พัฒผล
การเรยี นรสู้ ว่ นบคุ คล Personalized Learning รองศาสตราจารย์ ดร.วิชัย วงษใ์ หญ่ รองศาสตราจารย์ ดร.มารตุ พฒั ผล พมิ พ์ครงั้ ที่ 1 พฤษภาคม 2561 จานวน 100 เล่ม ข้อมลู ทางบรรณานุกรมของสานักหอสมดุ แหง่ ชาติ National Library of Thailand Cataloging in Publication Data รองศาสตราจารย์ ดร.วชิ ยั วงษ์ใหญ,่ รองศาสตราจารย์ ดร.มารตุ พฒั ผล. การเรียนรสู้ ว่ นบุคคล Personalized Learning. – กรุงเทพฯ: จรัลสนิทวงศก์ ารพิมพ์, 2560. 23 หน้า. 1. การเรยี นรู้. I. ช่อื เรอื่ ง ISBN 978-616-468-217-7 ราคา 100 บาท สงวนลขิ สิทธเิ์ นอ้ื หาและภาพประกอบ ตามพระราชบญั ญตั ิลิขสทิ ธิ์ พมิ พท์ ี่ บริษทั จรลั สนิทวงศก์ ารพิมพ์ จากดั 233 ซอยเพชรเกษม 102/2 แขวงบางแคเหนอื เขตบางแค กรุงเทพมหานคร 10160 โทรศพั ท์ 02-809-2281-3 แฟกซ์ 02-809-2284 www.fast-book.com e-mail: [email protected]
คานา หนังสือ “การเรียนรู้ส่วนบุคคล Personalized Learning” เล่มนี้ เรียบเรียงข้ึนจากการประมวลประสบการณ์และผลงานวิจัย ของผเู้ ขยี น ผสมผสานกับการศึกษาคน้ คว้าเอกสารต่างๆ มี ค ว า ม มุ่ ง ห ม า ย เ พื่ อ ส่ ง เ ส ริ ม ค ว า ม รู้ ค ว า ม เ ข้ า ใ จ เ กี่ ย ว กั บ การเรียนรู้ท่ีตอบสนองธรรมชาติและความแตกต่างระหว่างบุคคล หรือที่เรียกว่า การเรียนรู้ส่วนบุคคล (Personalized learning) ให้กับ นิสิต นักศึกษา อาจารย์ และผู้สอน ท่ีมีความสนใจศึกษาค้นคว้าวิจัย ตลอดจนการปรับเปล่ียนวิธีการจัดการเรียนรู้ให้มีประสิทธิภาพ มากย่ิงขน้ึ แนวทางการเขียนหนังสือเล่มน้ี มุ่งนาเสนอสาระสาคัญท่ีเป็น แก่นขององค์ความรู้โดยไม่ได้เขียนขยายรายละเอียดไว้ และผู้เขียน ห วั ง เ ป็ น อ ย่ า ง ยิ่ ง ว่ า ห นั ง สื อ เ ล่ ม จ ะ ใ ห้ ป ร ะ โ ย ช น์ ต่ อ ผู้ อ่ า น ไ ด้ ม า ก พอสมควร และขอขอบคุณคณะครูและนักเรียนทุกคนที่ได้ร่วม แลกเปลย่ี นเรียนรู้ในการเขียนหนงั สือเลม่ นีด้ ้วยดีตลอดมา รองศาสตราจารย์ ดร.วชิ ัย วงษใ์ หญ่ รองศาสตราจารย์ ดร.มารุต พัฒผล
สารบญั หัวข้อ หนา้ 1 บทนา............................................................................ 1 2 แนวคิดการเรยี นรู้สว่ นบุคคล........................................ 4 3 ลกั ษณะของการเรียนรูส้ ่วนบุคคล................................. 6 4 หลกั การเรียนร้สู ว่ นบคุ คล............................................. 7 5 ประโยชน์ของการเรียนรู้ส่วนบุคคล.............................. 9 6 ขนั้ ตอนการออกแบบการเรยี นรูส้ ว่ นบคุ คล................... 11 7 ลกั ษณะของแผนการจัดการเรียนรู้สว่ นบคุ คล.............. 14 8 บทบาทผสู้ อนในการจดั การเรียนรสู้ ่วนบุคคล............... 16 9 การประเมินผลการเรยี นรูส้ ว่ นบุคคล............................ 19 10 บทสรุป......................................................................... 20 บรรณานกุ รม................................................................ 23
บญั ชแี ผนภาพ แผนภาพ หนา้ 1 ลกั ษณะการเรยี นรู้ 3 ยคุ .............................................. 4 2 ความหลากหลายของผูเ้ รียน วธิ กี ารเรยี นรู้ และผลลัพธ์การเรยี นรู้.................................................. 5 3 ลกั ษณะการเรียนรูส้ ่วนบคุ คล....................................... 6 4 หลักการเรียนรู้ส่วนบคุ คล............................................. 8 5 ขั้นตอนการออกแบบการเรียนรสู้ ว่ นบคุ คล................... 13 6 แนวคดิ ของแผนการจดั การเรียนร้สู ่วนบุคคล................ 14 7 บทบาทผู้สอนในการจดั การเรียนรสู้ ว่ นบุคคล............... 18
1 การเรยี นรู้ส่วนบคุ คล (Personalized Learning) 1. บทนา โลกยุคใหม่มีความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีดิจิทัล (digital technology) เป็นอย่างมาก ทาให้การเรียนรู้ในปัจจุบันมีความ แตกต่างไปจากการเรียนรู้ แบบเดิมในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัล ยังไม่เจริญก้าวหน้ามากนักซึ่งยังไม่มีเครือข่ายอินเทอร์เน็ตหรือมีแต่ยัง ไมค่ รอบคลมุ ทกุ พนื้ ที่หรือการเขา้ ถงึ ทาได้ลาบาก ผู้เรียนยุคแรกใช้การเรียนรู้จากครูโดยตรง (direct teaching) เนื่องจากความรู้ท้ังหมดหรือเกือบท้ังหมดน้ันอยู่กับครูเพียงแห่งเดียว เท่าน้ัน จนต่อมาความรู้ที่มีอยู่ในตัวครูได้ถูกบันทึกและเขียนไว้ใน หนังสือและตาราตา่ งๆ มากข้ึน ด้วยเหตุน้ีการเรียนรู้ของผู้เรียนจึงมีความหลากหลายมากขึ้น โดยได้ขยายวงกว้างไปสู่การเรียนรู้ด้วยตนเอง (self-learning) ผ่านการอ่านหนังสือตาราต่างๆ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการเรียนรู้ ที่ตอบสนองธรรมชาติและความต้องการของผู้เรยี นได้มากขึน้ ความเจริญก้าวหน้าของเทคโนโลยีดิจิทัล ได้มีการพัฒนา มาอยา่ งตอ่ เนื่อง จนกระทั่งปัจจุบันความรู้ไม่ได้อยู่กับครูหรือในหนังสือ ตาราท่ีพิมพ์ออกมาเป็นเล่มๆ เท่านั้น แต่ความรู้ได้ถูกนาเสนอไว้
2 ในโลกออนไลน์มากข้ึนจนเกือบจะเรียกได้ว่า “ไม่มีความรู้ใดท่ีไม่มีอยู่ ในอนิ เทอร์เนต็ ” ผู้เรียนสามารถเข้าถึงความรู้เหล่าน้ันได้ด้วยตนเองตามความ สนใจ อีกทั้งยังใช้ศักยภาพของตนเองในการเรียนรู้และฝึกฝนทักษะ ต่างๆ ด้วยตนเองผ่านวิธีการเรียนรู้ท่ีหลากหลายท้ังการเรียนรู้ แบบออนไลน์และการเรียนรู้แบบด้ังเดิม เช่น การเรียนรู้กับผู้สอน การเรยี นร้ดู ้วยตนเองจากหนังสอื ตารา เป็นต้น Education Disruption คือโอกาสการพัฒนาการเรียนการ สอนให้ตอบโ จทย์พฤติกรรมและความต้องการของผู้เรียน Generation Z, Alpha ด้วยเหตุท่ีเทคโนโลยีเปล่ียนแปลงอย่าง รวดเร็ว ความสุขของผู้เรียนคือ เปูาหมาย ผู้เรียนต้องเป็นศูนย์กลาง เกิดพลังแห่งการเรียนรู้ เป็นการเรียนรู้เชิงลึก (deep learning) จะต้องออกแบบการเรียนรู้ (learning design) และประสบการณ์ การเรียนรู้ร่วมกัน ผู้เรียนร่วมกันออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกับ ผู้สอน วิธีการนี้จะทาให้ผู้สอนเข้าใจถึงความต้องการของผู้เรียน อยา่ งแท้จรงิ และทาหนา้ ทก่ี ารโคช้ ไดอ้ ย่างถกู ต้อง มปี ระสทิ ธภิ าพ ด้ว ยเหตุนี้การเรียน รู้ในปัจจุบัน จึงจาเป็นต้องมีการ เปลี่ยนแปลง (transform) ให้สามารถตอบสนองความต้องการของ
3 ผู้เรียนได้อย่างแท้จริง โดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลท่ีมีอยู่ ให้ได้มากท่ีสดุ และเหมาะสมกบั ผเู้ รยี นมากทส่ี ุด การเรียนรู้ท่ีสามารถตอบสนองธรรมชาติ ความต้องการและ ความแตกต่างระหว่างบุคคลของผู้เรียน เช่น รูปแบบการเรียนรู้ (learning style) รูปแบบการรู้คิด (cognitive style) ลักษณะนิสัย (habit mind) เป็นต้น คือ การเรียนรู้ที่เรียกว่าการเรียนรู้ ส่วนบุคคล (personalized learning) สรุปลักษณะการเรียนรู้ ดงั ท่ีกลา่ วมาได้ดงั แผนภาพตอ่ ไปน้ี การเรยี นรแู้ บบดง้ั เดมิ ผู้สอน ผลการเรยี นรู้ ผ้เูผร้เูผยี รเู้นยีรนยี น การเรยี นรู้ยคุ ท่ีมีเทคโนโลยกี ารพิมพ์ ผู้เผรเู้ผยี รูเ้นยีรนยี น ผู้สอน ผลการเรยี นรู้ หนังสอื
4 การเรยี นรยู้ ุคเทคโนโลยดี ิจทิ ลั ผู้สอน ผเู้ผรู้เผยี รูเ้นยีรนยี น หนังสอื ผผลลกผกาลรากเรารเรยีรเยีนรนยีรู้รนู้ รู้ ส่ือออนไลน์ แผนภาพ 1 ลักษณะการเรียนรู้ 3 ยุค 2. แนวคดิ การเรียนรสู้ ่วนบคุ คล การเรียนรู้ส่วนบุคคลมีแนวคิดสาคัญ คือ การเรียนรู้ใดๆ ก็ตาม จะเป็นการเรียนรู้ท่ีมีประสิทธิภาพเป็นการเรียนรู้เชิงลึก (deep learning) และประสบความสาเร็จ จะต้องเป็นการเรียนรู้ท่ี สอดคล้องกับธรรมชาติและความต้องการของผู้เรียนแต่ละคน โดย ถอื ว่าผู้เรยี นเป็นเจา้ ของการเรยี นรู้ของตนเอง ผู้เรียนเป็นผู้กาหนดเปูาหมายและวิธีการเรียนรู้ของตนเอง ใช้วินัยในตนเอง (self-discipline) เป็นเครื่องมือสาคัญในการกากับ
5 ควบคุมตนเองให้ใช้ความมุ่งมั่นพยายามในการเรียนรู้อย่างเต็มตาม ศักยภาพ ภ า ย ใ ต้ ส ภ า พ แ ว ด ล้ อ ม ท่ี มี ค ว า ม เ ป็ น มิ ต ร แ ล ะ ป ล อ ด ภั ย ตอบสนองความต้องการของผู้เรียนแต่ละคน ส่งเสริมและสนับสนุน ให้ผ้เู รียนแตล่ ะคนประสบความสาเร็จในการเรยี นรู้ โดยผู้เรียนแต่ละคนสามารถใช้วิธีการเรียนรู้และออกแบบ กิจกรรมที่แตกต่างกัน เพื่อการบรรลุผลลัพธ์การเรียนรู้เดียวกันหรือ เชื่อมโยงกนั แสดงได้ดงั แผนภาพตอ่ ไปน้ี ผู้เรยี น 1 วธิ กี ารเรยี นรู้ 1 ผลลัพธ์การเรยี นรู้ 1 ผู้เรยี น 2 วิธกี ารเรียนรู้ 2 ผลลพั ธก์ ารเรยี นรู้ 2 ผู้เรยี น n วิธกี ารเรียนรู้ n ผลลพั ธก์ ารเรียนรู้ n แผนภาพ 2 ความหลากหลายของผู้เรียน วิธกี ารเรียนรู้และผลลัพธก์ ารเรยี นรู้
6 3. ลักษณะของการเรียนร้สู ่วนบุคคล การเรียนรู้ส่วนบุคคลมีลักษณะสาคัญคือ มีความยืดหยุ่น ในวิธีการและเป้าหมายของการเรียนรู้ คือความสุขของผู้เรียน ผลลัพธ์การเรียนรู้ เชิงลึก (deep learning) ผู้เรียนเลือกวิธีการ เรยี นรู้ที่ดีที่สดุ สาหรับตนเองอยา่ งสอดคล้องกับผลลัพธ์การเรยี นรู้ นอกจากน้ีผู้เรียนแต่ละคนสามารถกาหนดเปูาหมายการเรียนรู้ เป็นของตนเองได้ตามระดับความสามารถของตน และยังคงสามารถ ยกระดับเป้าหมายใหส้ ูงขนึ้ ได้อกี ดว้ ย ผู้สอนทาหน้าที่เป็นโค้ช (coach) ให้กับผู้เรียน โดยการสร้าง แรงจูงใจ ให้คาชี้แนะ ให้คาแนะนา ให้ข้อคิดดีๆ กับผู้เรียน ให้ผู้เรียน ใชศ้ กั ยภาพของตนเองในการเรยี นรู้ให้มากทีส่ ุด ผผู้เรผูเ้ ยีรู้เยนีรยนี น วิธวีกธิ วกีาธิ รากี เรราเียรรเยีนรนรียู้รนู้ รู้ ผผลลกผกาลรากเรารเรยี รเยีนรนยีรู้นรู้ รู้ ผ้สู อนเป็นโค้ช แผนภาพ 3 ลักษณะการเรียนรสู้ ว่ นบุคคล
7 4. หลักการเรียนรสู้ ว่ นบคุ คล 1. ธรรมชาติและความต้องการของผู้เรียนเป็นปัจจัยสาคัญ ที่สุดของการจัดการเรียนรู้ ท่ีจะต้องตอบสนองความหลากหลาย ของผเู้ รียนไดอ้ ยา่ งแทจ้ รงิ 2. เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้กาหนดเป้าหมายและวิธีการเรียนรู้ ของตนเองไดเ้ ต็มตามศกั ยภาพที่มี 3. มีช่องทางการเรียนรู้ที่หลากหลาย ซ่ึงผู้เรียนทุกคนสามารถ เข้าถึงและเลือกได้ตามความสนใจและความถนัดเพื่อไปสู่เปูาหมาย ของการเรยี นรู้ทเ่ี ป็นการเรยี นรเู้ ชิงลกึ 4. วินัยในตนเองของผู้เรียนเป็นสิ่งสาคัญที่ผลักดันให้ใช้ กระบวนการเรยี นรจู้ นบรรลผุ ลลพั ธ์ทก่ี าหนด 5. สง่ิ แวดลอ้ มทดี่ แี ละเอื้อต่อการเรียนรู้ เป็นปจั จยั สนับสนุนให้ ผู้เรียนมีสมาธิ มคี วามมงุ่ มั่น อดทน และพยายามเรียนรู้ โดยที่ผู้สอนคือ สง่ิ แวดล้อมที่มอี ิทธพิ ลตอ่ ผเู้ รียนมากทสี่ ดุ
8 ตอบสนอง ความหลากหลายของผเู้ รียน มีสงิ่ แวดล้อม ให้ผ้เู รยี น ท่ีเอ้ือตอ่ การเรยี นรู้ ใช้ศักยภาพของตน หลกั การเรยี นร้สู ว่ นบคุ คล ผ้เู รยี นมีวินยั ในตนเอง มีชอ่ งทางการเรยี นรู้ กากบั ตนเองในการเรยี นรู้ ท่หี ลากหลายน่าสนใจ แผนภาพ 4 หลักการเรยี นรูส้ ว่ นบคุ คล
9 5. ประโยชน์ของการเรียนรสู้ ว่ นบคุ คล การเรยี นรู้สว่ นบคุ คลมีประโยชน์ตอ่ ผู้สอนและผู้เรยี นดงั นี้ ประโยชนต์ อ่ ผู้เรยี น 1. ทาให้ผู้เรียนมีโอกาสได้ใช้ศักยภาพในการคิดและเกิด พลังการเรยี นรู้ของตนเอง เพ่ือทีจ่ ะเรียนรู้ส่งิ ท่ีตนเองสนใจและต้องการ ประสบความสาเรจ็ 2. ทาให้ผู้เรียนมีแรงจูงใจในการเรียนรู้ จากการที่การ เรียนรู้ส่วนบุคคลน้ันผู้เรียนเป็นผู้กาหนดเปูาหมายและวิธีการเรียนรู้ ของตนเอง 3. ทาให้ผู้เรียนมีโอกาสบรรลุผลลัพธ์การเรียนรู้ได้มากกว่า การเรียนรู้ตามปกติท่ีผู้เรียนทุกคนต้องเรียนรู้ด้วยวิธีการเดียวกัน เนอ่ื งจากผ้เู รียนได้ใช้วิธีการเรียนรู้ตามความถนัดของตนเองซ่ึงจะทาให้ เรยี นรไู้ ดด้ กี วา่ ซ่งึ ความสุขของผู้เรียนคือเปาู หมายของการเรียนรู้ 4. ผูเ้ รยี นมโี อกาสได้ใช้วธิ ีการเรียนรู้ท่ีหลากหลายซ่ึงผู้เรียน เป็นผกู้ าหนดเอง ทาให้การเรียนรู้มีความสนุกสนาน ไม่นา่ เบื่อ 5. ช่วยเสริมสร้างคุณลักษณะรักการเรียนรู้และเป็นบุคคล แหง่ การเรียนรตู้ ลอดชวี ิต
10 ประโยชนต์ อ่ ผูส้ อน 1. ทาใหผ้ สู้ อนสามารถพัฒนาผู้เรียนให้ประสบความสาเร็จ ในการเรียนรู้ บรรลุผลลัพธ์การเรียนรู้ในลักษณะท่ีเป็นการพัฒนา รายบุคคล 2. ทาให้ผู้สอนสามารถปรับเปลี่ยนบทบาทในการจัดการ เรยี นรู้จากการถ่ายทอดความรู้ มาเป็นการโค้ชและการชแ้ี นะการเรียนรู้ 3. ทาใหผ้ ้สู อนสามารถดูแลให้ความชว่ ยเหลอื ผู้เรียนได้ตาม ความต้องการและสภาพปัญหาทางการเรียนรู้ของผู้เรียนแต่ละคน อยา่ งทนั ท่วงที 4. ทาให้ผู้สอนสามารถออกแบบการจัดการเรียนรู้ได้อย่าง หลากหลาย ไม่ตายตัว มีความยืดหยุ่น สอดคล้องกับธรรมชาติ และวิธกี ารเรยี นรขู้ องผู้เรียน บางกรณีผู้สอนกับผู้เรียนร่วมกันออกแบบ กิจกรรมการเรยี นรู้ 5. ทาให้เกิดการทรานส์ฟอร์ม (Transform) หรือการ เปลี่ยนแปลงแนวทางการจัดการเรียนรู้ให้ทันยุค ทันสมัย และการ เปลย่ี นแปลงไปของผ้เู รยี นยคุ ปัจจุบัน
11 6. ขนั้ ตอนการออกแบบการเรยี นรสู้ ว่ นบคุ คล การออกแบบการเรียนรู้ส่วนบุคคลนั้น ผู้สอนจาเป็นต้อง วิเคราะห์ธรรมชาติและความต้องการของผู้เรียน แล้วนามาออกแบบ กิจกรรมการเรียนรู้ให้มีความหลากหลาย ตอบโจทย์ผู้เรียนได้ ซ่ึงต้อง อาศยั ความรใู้ นเชงิ วิชาการ ตลอดจนความมุ่งมั่นพยายามและความคิด สร้างสรรค์ในการออกแบบกจิ กรรมการเรียนรู้ ซ่งึ มขี ั้นตอนดงั ตอ่ ไปน้ี ข้นั ท่ี 1 วิเคราะหธ์ รรมชาติและความต้องการของผู้เรียน เพื่อให้เข้าใจว่าผู้เรียนแต่ละคนจะสามารถเรียนรู้ได้ดีท่ีสุดอย่างไร ผู้เรียนใช้วิธีการเรียนรู้อย่างไร ชอบทาอะไร ถนัดอะไร การวิเคราะห์ ในข้ันน้ีจะทาให้ผู้สอนพบว่า กิจกรรมการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับผู้เรียน ควรเป็นกิจกรรมในลักษณะใด กิจกรรมเหล่าน้ันมีความหลากหลาย เป็นอย่างไร ซ่ึงเป็นข้ันตอนท่ีสาคัญท่ีสุดของการออกแบบการเรียนรู้ ส่วนบุคคล ขน้ั ที่ 2 กาหนดช่องทางการเรียนรู้ที่ตอบสนองธรรมชาติ และความต้องการของผ้เู รยี นตามท่วี ิเคราะหจ์ ากข้ันท่ี 1 ซ่ึงช่องทางการ เรียนรู้นั้นมีความหลากหลายมาก เช่น การเรียนรู้จากแหล่งออนไลน์ การเรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติด้วยตนเองหรือเรียนรู้ร่วมกับเพ่ือน (co-learning) การเรียนรูก้ ับผู้สอน เปน็ ต้น
12 ขัน้ ท่ี 3 ออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ตามช่องทางการ เรียนรู้ไว้สาหรับผู้เรียนทุกช่องทางการเรียนรู้ โดยกิจกรรมการเรียนรู้ ในแต่ละช่องทางการเรียนรู้มีความเหมาะสมกับระดับความสามารถ ของผู้เรียน เพราะถ้ายากเกินไปผู้เรียนจะหมดกาลังใจในการเรียนรู้ได้ กิจกรรมการเรียนรู้ในแต่ละช่องทางเหล่านั้น เป็นกิจกรรมท่ีน่าสนใจ ตน่ื เต้นและท้าทายความสามารถ ตอบสนองผลการเรยี นรทู้ ่ีกาหนด ขั้นที่ 4 ดาเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามช่องทาง การเรียนรู้ในลักษณะท่ีเป็นการเรียนรู้ที่มีความกระตือรือร้น หรือ Active learning ผู้เรียนใช้กระบวนการเรียนรู้ตามความถนัด อย่างหลากหลาย เลือกใช้ Apps ในการทากิจกรรม มีการแลกเปล่ียน เรียนรู้ร่วมกัน เอ้ือเฟือ้ เผ่ือแผ่แบ่งปันซ่ึงกันและกัน และผู้สอนทาหน้าที่ เป็นโค้ชการเรียนรู้ (learning coach) กระตุ้นการคิดและคุณลักษณะ ที่สง่ เสริมการเรยี นรใู้ ห้กบั ผูเ้ รยี นอย่างต่อเน่อื ง ขั้นที่ 5 ประเมินผลการเรียนรู้ โดยมุ่งประเมินว่าผู้เรียน บรรลุผลลัพธ์การเรียนรู้ตามท่ีตนเองกาหนดไว้หรือไม่ โดยใช้ แนวทางการประเมินท่ีเสริมพลังตามสภาพจริง ใช้วิธีการประเมิน หลายวิธี ใช้ผู้ประเมินหลายฝุาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการประเมินตนเอง ของผู้เรียน ทาการประเมินสอดแทรกไปกับการปฏิบัติกิจกรรม การเรยี นรอู้ ยา่ งต่อเน่ือง และผู้สอนให้ข้อมูลย้อนกลับเพ่ือการปรับปรุง และพฒั นาไปยังผู้เรียนอยา่ งตอ่ เนอ่ื งและสรา้ งสรรค์
13 วเิ คราะหธ์ รรมชาตแิ ละความตอ้ งการของผเู้ รยี น กกาหกาหานหนดนดชดชอ่ ชอ่งทอ่งทงาทงากงากางรกาเรารเรยีรเยีนรยีนรนู้รู้รู้ ออกกกาแหาบหนบนดกดชจิ ชอ่ ก่องรทงรทามงากกงาการราเเรรรเยียีรนียนนรรูู้้รู้ กจากดัหากหนิจนดกชดรอ่ชรงอ่มทงกทาางารกงเรากยีราเนรรเรยีรู้ นียนรู้รู้ กปการหาะหนเนมดดนิชช่อผอ่งลทงกทาางารกงเรกายีรานเรรเรยีรู้ ยีนนรู้รู้ แผนภาพ 5 ข้ันตอนการออกแบบการเรยี นรู้สว่ นบุคคล
14 7. ลักษณะของแผนการจัดการเรียนรสู้ ว่ นบุคคล แผนการจัดการเรียนรู้ส่วนบุคคล หมายถึง แผนการจัดการ เรี ย น รู้ที่ผู้ ส อนพั ฒ น า ข้ึน เ พ่ื อใช้ ใน การ จั ด การ เ รี ย นรู้ ให้ ต อบส น อง ธรรมชาติและความต้องการของผู้เรียนแต่ละคน โดยท่ีมีเปูาหมาย หรอื ผลลพั ธ์การเรียนรเู้ ดียวกัน แสดงได้ดงั แผนภาพต่อไปนี้ สาระและกจิ กรรม รูปแบบท่ี 1 ผลลัพธ์ สาระและกจิ กรรม การประเมนิ ผล การเรยี นรู้ รปู แบบท่ี 2 การเรยี นรู้ สาระและกจิ กรรม รปู แบบท่ี 3 สาระและกจิ กรรม รปู แบบท่ี n แผนภาพ 6 แนวคดิ ของแผนการจดั การเรยี นรู้สว่ นบคุ คล
15 จากแผนภาพจะเห็นว่า แผนการจัดการเรียนรู้ส่วนบุคคลนั้น จะมีผลลัพธ์การเรียนรู้ท่ีถูกาหนดไว้ล่วงหน้า จากนั้นจะมีกิจกรรม การเรียนรู้อย่างหลากหลายท่ีตอบสนองผลลัพธ์การเรียนรู้ เรียกว่า “หลายเส้นทางเป้าหมายเดียวกัน” ซึ่งกิจกรรมการเรียนรู้ต่างๆ จะสอดคล้องกับธรรมชาติและความต้องการของผู้เรียน ซึ่งในทาง ปฏิบัติสามารถจัดกลุ่มธรรมชาติและความต้องการของผู้เรียน ท่ีเหมือนกันเข้าด้วยกันได้ ในลักษณะ co-learning เพ่ือให้ผู้เรียนท่ีมี ธรรมชาติและความต้องการที่เหมือนกันหรือคล้ายคลึงกัน ได้ปฏิบัติ กิจกรรมร่วมกันและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน เกิดการค้นพบ ความรู้ใหม่ แนวคิดใหม่ ซึ่งเป็นการสร้างสรรค์ และยังช่วยทาให้การ จัดการชั้นเรยี นไม่ยงุ่ ยากซบั ซ้อนเกินไปอกี ดว้ ย โดยกิจกรรมการเรียนรู้ท่ีหลากหลายเหล่าน้ันมีลักษณะเป็นกิจกรรม การเรยี นรู้ตามแนวทาง active learning ทผ่ี เู้ รียนลงมือปฏิบัตกิ ิจกรรมด้วย ความกระตือรือร้น กิจกรรมท้าทายความสามารถของผู้เรียน จูงใจให้ใช้ ความพยายามในการเรยี นรู้และมคี วามสุขในการเรยี นรู้ ในสว่ นของการประเมินผลการเรยี นรนู้ ัน้ ใช้แนวทางการประเมิน ที่เสริมพลังตามสภาพจริง มีความหลากหลายในวิธีการประเมิน และผู้ประเมิน มีความยืดหยุ่นในเกณฑ์การตัดสินผลการประเมิน ท่ีเหมาะสมกับผู้เรียนแต่ละคน และเป็นเกณฑ์ท่ีสามารถปรับเปลี่ยน หรือยกระดบั ความสาเร็จในการเรียนรไู้ ด้
16 8. บทบาทผสู้ อนในการจัดการเรยี นร้สู ่วนบคุ คล บทบาทผู้สอนในการจัดการเรียนรู้ส่วนบุคคล หมายถึงแนวทาง การปฏิบัติของผู้สอนท่ีจะกระตุ้นให้ผู้เรียนใช้ศักยภาพในการเรียนรู้ เกดิ พลังการเรยี นรู้ ของตนเองให้ไดม้ ากทส่ี ุด ซ่งึ มีดงั ต่อไปน้ี 1. สร้างบรรยากาศท่ีเอ้ือต่อการเรียนรู้ให้กับผู้เรียน ทาให้ ผูเ้ รยี นเกิดความมั่นใจ เช่ือมั่น และรู้สกึ ถงึ ความปลอดภัยทางจติ ใจ 2. ใช้คาถามกระตุ้นให้ผู้เรียนคิดด้วยตนเอง แทนที่ผู้สอน จะคิดและตัดสินใจใหผ้ เู้ รยี น ซ่งึ ถอื ว่าเปน็ การปิดกัน้ โอกาสในการเรียนรู้ 3. ส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้เรียนใช้กระบวนการเรียนรู้ อย่างหลากหลาย เช่น กระบวนการสืบเสาะแสวงหาความรู้ กระบวนการคิดวิเคราะห์ เป็นต้น ซ่ึงกระบวนการเหล่านี้คือส่ิงที่จะ ตดิ ตัวผู้เรยี นไปใช้ในการเรียนรสู้ ่ิงอนื่ ต่อไปในอนาคต 4. ให้กาลังใจแก่ผู้เรียน เม่ือผู้เรียนประสบปัญหาติดขัด ในการปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้ ไม่แก้ปัญหาให้ในทันที แต่ใช้วิธีการ ตัง้ คาถามให้คิดหาทางออกและให้กาลังใจ
17 5. ดูแลช่วยเหลือให้ผู้เรียนแต่ละคนประสบความสาเร็จ ในการปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้ และให้ผู้เรียนรู้จักการถอดบทเรียน และนาไปใชพ้ ัฒนาตนเองอยา่ งตอ่ เน่ือง 6. ประสานงานเครือข่ายการเรียนรู้และแหล่งทรัพยากร การเรียนรู้ ในกรณีทีผ่ ู้เรียนใช้วิธีการเรียนรู้กับบุคคลภายนอก อาจเป็น ครูภูมิปัญญาท้องถ่ินที่อยู่ในชุมชน ซ่ึงอาจจะเชิญมาสอนท่ีโรงเรียน หรอื อนุญาตให้ผู้เรียนไปเรียนรใู้ นชมุ ชนก็ไดต้ ามความเหมาะสม 7. กากับติดตามความก้าวหน้าทางการเรียนรู้ (learning progress) ของผู้เรียนแต่ละคน และกระตุ้นให้ใช้ความพยายามให้มาก ยิ่งข้ึน กล่าวช่ืนชมเม่ือผู้เรียนมีความก้าวหน้ามากข้ึน เป็นการส่งเสริม คณุ ภาพการเรยี นร้ทู ่กี ระบวนการ ไม่ไดม้ ุง่ เน้นทผ่ี ลลัพธเ์ พียงอย่างเดยี ว 8. ประเมินและให้ข้อมูลย้อนกลับด้วยวิธีการที่เหมาะสม และสร้างสรรค์ (creative feedback) ท่ีทาให้ผู้เรียนไม่สูญเสียกาลังใจ มีพลงั ทีจ่ ะเรยี นร้ตู ่อไป 9. ตรวจสอบและปรับปรุงกิจกรรมการเรียนรู้ต่างๆ ให้มี ประสิทธภิ าพและทันสมยั อยา่ งต่อเน่ือง
18 สรุปบทบาทผ้สู อนในการจัดการเรียนรู้ส่วนบุคคลได้ดังแผนภาพ ตอ่ ไปน้ี 1. สร้างบรรยากาศทเ่ี อือ้ ต่อการเรยี นรู้ 2. ใช้คาถามกระตุ้นให้ผเู้ รยี นคดิ 3. สง่ เสรมิ ใหใ้ ชก้ ระบวนการเรียนรู้ 4. ให้กาลงั ใจ ให้คดิ หาทางออก บทบาทผู้สอน 5. ดแู ลชว่ ยเหลอื ให้ประสบความสาเรจ็ 6. ประสานงานเครือขา่ ยการเรยี นรู้ 7. กากับตดิ ตามความกา้ วหน้าการเรียนรู้ 8. ประเมนิ และใหข้ ้อมลู ย้อนกลบั 9. ปรับปรุงกจิ กรรมการเรียนรูใ้ หท้ ันสมัย แผนภาพ 7 บทบาทผู้สอนในการจัดการเรยี นรู้สว่ นบคุ คล
19 9. การประเมินผลการเรยี นรู้สว่ นบุคคล การประเมินผลการเรียนรู้สาหรับการเรียนรู้ส่วนบุคคลนั้น ใช้หลักการเดียวกันกับการประเมินผลการเรียนโดยท่ัวไป คือ การประเมินตามสภาพจริง (authentic assessment) ท่ีทาการ ประเมินไปพร้อมๆ กับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียน และให้ ข้อมลู ยอ้ นกลบั ทนั ที (immediate feedback) อย่างไรก็ตามการประเมินผลการเรียนรู้สาหรับการเรียนรู้ ส่วนบุคคลน้ัน เปิดโอกาสให้ผู้เรียนกาหนดวิธีการและเกณฑ์การ ประเมินของตนเองได้ ทั้งน้ีเน่ืองจากต้องการใช้การประเมินเป็นสิ่ง กระตุ้นแรงจูงใจในการเรยี นรู้ของผู้เรียนไปในตัว นอกจากน้ีผู้เรียนยังสามารถปรับเปลี่ยนวิธีการและเกณฑ์การ ประเมินให้เหมาะสมกับระดับความสามารถของตนเองในระหว่าง การปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้โดยไม่จาเป็นต้องใช้วิธีการและเกณฑ์ เดยี วกับกบั ผ้เู รียนทุกคน สาหรับการประเมินเพ่ือตัดสินผลการเรียนรู้นั้น ให้ความสาคัญ กับการนาผลการประเมินระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้มาเป็น ส่วนหนึ่งของการประเมิน ผสมผสานกับการประเมินสรุปในลักษณะ ของการประเมินจากการลงมือปฏิบัติ (performance - based assessment)
20 10. บทสรปุ การเรียนรู้ส่วนบุคคล (personalized learning) เป็นการ เรียนรู้ที่ช่วยทาให้ผู้เรียนทุกคนสารถเข้าถึงองค์ความรู้ต่างๆ ได้ด้วย วิธีการเรียนรู้ของตนเอง ซึ่งจะช่วยทาให้ผู้เรียนเห็นคุณค่าของการ เรยี นรไู้ ด้มากกวา่ การเรียนรู้ที่มีวิธีการเรยี นรเู้ พยี งวธิ กี ารเดยี ว ผู้สอนวิเคราะห์ผู้เรียนและนามาออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ ที่ ส า ม า ร ถ ต อ บ ส น อ ง ค ว า ม ต้ อ ง ก า ร ที่ ห ล า ก ห ล า ย ข อ ง ผู้ เ รี ย น ปรับบทบาทของตนเองจากการเป็นผู้ถ่ายทอดความรู้มาเป็นโค้ช ที่คอยกระตุ้นให้ผูเ้ รยี นใชก้ ระบวนการเรียนรู้ “หลายเส้นทางเป้าหมายเดียวกัน” คือความหลากหลายของ วิธีการเรียนรู้ท่ีผู้เรียนเป็นผู้กาหนดให้เหมาะสมกับรูปแบบการเรียนรู้ ของตนเอง และใช้วินัยในตนเองช่วยประคับประคองให้ประสบ ความสาเร็จ ใช้การประเมินท่ีเสริมพลังตามสภาพจริงในการตรวจสอบ ความก้าวหน้าของการเรียนรู้ อย่างมีความยืดหยุ่นในวิธีการและเกณฑ์ การประเมิน และสามารถปรับเปลี่ยนวิธีการและเกณฑ์น้ันตามระดับ ความสามารถของผูเ้ รียน
21 การเรยี นรสู้ ว่ นบคุ คล (personalized learning) คือการเรยี นรทู้ ี่ตอบโจทย์ความต้องการ ของผเู้ รยี นยุคปจั จุบนั
22
23 บรรณานกุ รม มารตุ พฒั ผล. (2558). “รูปแบบการพัฒนาครูประถมศึกษาด้านการโค้ช เพื่อ การรู้คิด”. วารสาร Veridian E-Journal ฉบับภาษาไทย สาขา มนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ และศิลปะ. ปีท่ี 8 ฉบับท่ี 2.พฤษภาคม – สงิ หาคม. หนา้ 593 – 612. วิชัย วงษ์ใหญ่ และมารุต พัฒผล. (2558). การโค้ชเพื่อการรู้คิด. (พิมพ์ครั้งที่ 5 ฉบับปรบั ปรงุ ). กรุงเทพฯ: จรัลสนทิ วงศ์การพิมพ.์ วิชัย วงษ์ใหญ่ และมารุต พัฒผล. (2561). ขอบฟ้าใหม่แห่งการเรียนรู้สู่การ สรา้ งสรรค์อนาคต. กรงุ เทพฯ: จรลั สนทิ วงศก์ ารพมิ พ.์ Bartle, Emma. (2015). Personalized Learning: An Overview. Australia: Institute for Teaching and Learning Innovation of The University of Queensland. New Jersey Department of Education. (2014). A Guide for Implementing Personalized Student Learning Plan (PSLP) Programs. New Jersey: New Jersey Department of Education. Noethern Arizona University. (2018). “Personalized Learning”. retrieved from https://extended.nau.edu/documents/ Personalized Learning.pdf UNESCO. (2017). Personalized Learning: Training Tools for Curriculum Development. Geneva: International Bureau of Education.
การเรยี นรู้สว่ นบุคคล Personalized Learning ไมใ่ ชก่ ารเรยี นรู้ แบบ One size fit all
Search
Read the Text Version
- 1 - 30
Pages: