Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนเต็ม

แผนเต็ม

Published by Jn. T007, 2019-09-20 02:19:23

Description: แผนเต็ม

Search

Read the Text Version

บันทกึ หลงั สอน ผลการจัดการเรียนการสอน ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................. ปัญหา/อุปสรรค ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ..................................................................................................................... แนวทางแก้ไข ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ..................................................................................................................... ลงช่ือ.......................................ผู้บนั ทึก (.....................................................) ................./................/.................

บนั ทึกความเห็นของผู้ตรวจสอบแผนการเรียนรู้ ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................... ลงช่ือ..................................................ผู้ตรวจ (..................................................................) หัวหน้ากล่มุ สาระการเรียนรู้.................................................... .............../.................../................ บนั ทึกความเห็นของผู้ตรวจสอบแผนการเรียนรู้ .................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................. .................................................................................................. ลงช่ือ...................................ผู้ตรวจ (......................................................) รองผู้อานวยการกลุ่มบริหารวิชาการ......./......./........ บันทกึ ข้อเสนอแนะผู้บริหาร .................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................. .................................................................................................. ลงช่ือ......................................... (................................................) ผู้อานวยการโรงเรียน......./......./......

ใบความรู้ที่ 5 เรื่อง…พนั ธุไ์ ก่ไข่ 1. โร๊ดไอส์แลนด์แดง หรือที่เรียกส้นั ๆ วา่ ไก่โร๊ด เป็นไก่พนั ธุเ์ ก่าแก่พนั ธุห์ น่ึง มีอายกุ วา่ 100 ปี โดยการผสมและ คดั เลือกพนั ธุม์ าจากพนั ธุม์ าเลยแ์ ดง ไก่เซ่ียงไฮแ้ ดง ไก่เล็กฮอร์นสีน้าตาล ไก่ไวยนั ดอทท์ และไก่บราห์มาส์ ไก่ พนั ธุโ์ ร๊ดไอส์แลนดแ์ ดง มี 2 ชนิดคือ ชนิดหงอนกหุ ลาบและหงอนจกั ร แตน่ ิยมเล้ียงชนิดหงอนจกั ร 2. บาร์พลีมัทร็อค หรือทเ่ี รียกกนั วา่ ไก่บาร์ เป็นไก่พนั ธุพ์ ลีมทั ร็อค ผวิ หนงั สีเหลือง 3. เล็กฮอร์นขาวหงอนจักร จดั เป็ นไก่พนั ธุท์ ี่นิยมเล้ียงกนั แพร่หลายมากทีส่ ุดในบรรดาไก่เลก็ ฮอร์นดว้ ยกนั ปัจจุบนั นิยมผสมขา้ มสายพนั ธุต์ ้งั แตส่ องสายพนั ธุข์ ้นึ ไป เพอ่ื ผลิตเป็ นไก่ไขล่ ูกผสมเพอื่ การคา้

ไก่ลูกผสม เป็นไก่ทเ่ี กิดจากการผสมพนั ธุร์ ะหวา่ งไก่พนั ธุแ์ ท้ 2 พนั ธุ์ โดยมีจดุ ประสงคเ์ พอื่ ใหไ้ ดไ้ ก่ท่ีใหไ้ ก่ดก เพอ่ื เป็นการ ผลิตไข่ในราคาทถ่ี ูกทส่ี ุด ส่วนมากแลว้ การผสมไก่ประเภทน้ีลูกผสมทไี่ ดจ้ ะมีลกั ษณะบางอยา่ งท่ดี ีกวา่ พอ่ แม่ พนั ธุ์ โดยเฉพาะความทนทานตอ่ โรค ไก่ลูกผสมทย่ี งั มีผนู้ ิยมเล้ียงอยบู่ า้ ง ไดแ้ ก่ ไก่ลูกผสมระหวา่ งพอ่ โร๊ด+แม่ บาร์, พอ่ บาร์+แม่โร๊ด, เล็กฮอร์น+โร๊ด, โร๊ด+ไฮบริด และลูกผสม 3 สายเลือด คือ ลูกตวั เมียทไ่ี ดจ้ ากลูกผสมพอ่ โร๊ด+แม่บาร์ นาไปผสมกบั พอ่ ไก่อู ลกู ผสมทไี่ ดจ้ ะมีเน้ือดี โตเร็ว และไข่ดีพอสมควร เหมาะสาหรับนาไปเล้ียง เป็นรายไดเ้ สริม ไก่ไฮบรีด เป็นไก่พนั ธุไ์ ขท่ ี่มีผนู้ ิยมเล้ียงมากท่สี ุดในปัจจบุ นั เป็นพนั ธุไ์ ก่ที่ผสมข้ึนเป็ นพเิ ศษ ซ่ึงบริษทั ผูผ้ ลิตลูกไก่พนั ธุ์ จาหน่ายไดม้ ีการพฒั นาและปรับปรุงพนั ธุใ์ หไ้ ดไ้ ก่พนั ธูท์ ีใ่ หผ้ ลผลิตไข่สูง และมีคุณภาพตามความตอ้ งการของ ตลาด คอื ใหไ้ ข่ดก เปลือกไข่สีน้าตาล ไข่ฟองโตและไขท่ น ไก่ไฮบรีดจะมีลกั ษณธะเด่นประจาพนั ธุแ์ ละมีขอ้ มูล ประจาพนั ธุอ์ ยา่ งละเอียด เช่น อตั ราการเจริญเตบิ โต เปอร์เซนตก์ ารไข่ ระยะเวลาในการใหไ้ ข่ ขนาดของแม่ไก่ อตั ราการเล้ียงรอด ขนาดของฟองไข่ สีของเปลือกไข่ ปริมาณอาหารทก่ี ิน เป็ นตน้ อยา่ งไรกต็ าม ไก่ไฮบรีดน้ีตอ้ ง เล้ียงดว้ ยอาหารทม่ี ีคุณภาพสูง มีการจดั การทถี่ ูกตอ้ ง เช่น การควบคุมน้าหนกั ตวั การควบคุมการกินอาหาร การควคุมแสงสวา่ ง ตลอดท้งั การสุขาภบิ าลและการป้องกนั โรคท่ดี ี

ดว้ ยเหตนุ ้ีทไี่ ก่ไฮบรีดส่วนใหญ่มีการผสมพนั ธุท์ ่ีดาเนินการโดยบริษทั ผลิตพนั ธุไ์ ก่เป็ นการคา้ ซ่ึงจะรักษา ไก่ตน้ พนั ธุแ์ ละระบบการผสมพนั ธุไ์ วเ้ ป็ นความลบั เพอื่ ผลประโยชนใ์ นทางการคา้ ไก่ไขไ่ ฮบรีดจงึ มีช่ือแตกตา่ ง กนั ออกไปตามแต่บริษทั ผผู้ ลิตจะต้งั ข้นึ ทนี่ ิยมเล้ียงกนั ในประเทศไทย ไดแ้ ก่ ดีคาร์บ, ซุปเปอร์ฮาร์โก,้ เอ-เอบ ราวน์, เซพเวอร์สตาร์คร็อส, เมโทรบราวน์ เป็นตน้ ไก่ทด่ี ีกวา่ พอ่ แม่พนั ธุ์ โดยเฉพาะความทนทานตอ่ โรค ไก่ ลูกผสมท่ยี งั มีผนู้ ิยมเล้ียงอยบู่ า้ ง ไดแ้ ก่ ไก่ลูกผสมระหวา่ งพอ่ โร๊ด+แม่บาร์, พอ่ บาร์+แม่โร๊ด, เลก็ ฮอร์น+โร๊ด, โร๊ด+ไฮบริด และลูกผสม 3 สายเลือด คอื ลูกตวั เมียทีไ่ ดจ้ ากลูกผสมพอ่ โร๊ด+แม่บาร์ นาไปผสมกบั พอ่ ไก่อู ลูกผสมที่ไดจ้ ะมีเน้ือดี โตเร็ว และไขด่ ีพอสมควร เหมาะสาหรบั นาไปเล้ียงเป็ นรายไดเ้ สริม

ใบงานท่ี 5 เร่ือง....พนั ธุไ์ ก่ไข่ 1. ลกั ษณะไก่ไข่ทมี่ ีขนาดเล็กขนสีขาว ใหไ้ ข่เร็ว ใหไ้ ขด่ ก ไขเ่ ปลือกสีขาวมีประสิทธิภาพในการเปลี่ยนอาหาร ค่อนขา้ งสูง เพราะมีขนาดเลก็ ทนรอ้ นไดด้ ี คอื พนั ธุใ์ ด …………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………. 2.ไกล่ ูกผสมแตกต่างจากไก่พนั ธุแ์ ทอ้ ยา่ งไร …………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………. ช่ือ..............................................................................ช้นั ......................เลขที่....................

ผงั มโนทศั น์ รายวิชาการเลยี้ งไก่ไข่ รหัสวชิ า ระดับช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี 1-3 หน่วยการเรียนรู้ท่ี4 เรื่องการจัดการเล้ยี งดู จานวน 10 ช่ัวโมง : 20 คะแนน หนว่ ยการเรยี นรู้ที่4 เรอื่ งการจดั การเลยี้ งดู จานวน 10 ชั่วโมง : 20 คะแนน ชื่อเร่ือง-การจดั การเลยี้ งดู -การให้อาหารและนา้ จานวน 10 ช่ัวโมง :20 คะแนน

แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ท่ี4เรื่องการจัดการเลยี้ งดูแผนจัดการเรียนรู้ท1ี่ เร่ืองการเลีย้ งและการดูแลไก่ไข่ในระยะต่างๆ รายวิชา การเลยี้ งไก่ไข่ รหัสวิชา ง.20206ระดับช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ 1-3 ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2562น้าหนักเวลาเรียน 1.00 (นน./นก.) เวลาเรียน 2 ช่ัวโมง/สัปดาห์ เวลาทใี่ ช้ในการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ 10 ชั่วโมง .......................................................................................................................................................... 1. สาระสาคญั (ความเข้าใจทค่ี งทน) การเล้ียงไก่ไข่ตอ้ งใชค้ วามขยนั และอดทนในการเล้ียงดูเน่ืองจากไก่ไขต่ อ้ งใชร้ ะยะเวลาในการเล้ียงดูต้งั แต่ เลก็ จนถึงไก่ฟักไขไ่ ด้ โดยผเู้ ล้ียงตอ้ งดูแลรกั ษาโรงเรือนทกุ วนั สงั เกตกรณีไก่เป็ นโรคตอ้ งจบั แยกทนั ทเี พราะถา้ ปล่อยทงิ้ ไวอ้ าจเกิดโรคระบาดในโรงเรือนได้ 2. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัดช้ันปี /ผลการเรียนรู้/เป้าหมายการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ 4.นกั เรียนสามารถเล้ียงดูไก่ไขไ่ ด้ 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1.นกั เรียนสามารถอธิบายเก่ียวกบั การเล้ียงและการดูแลไก่ไขไ่ ดอ้ ยา่ งเหมาะสม (K) 2.นกั เรียนสามารถจาแนกการเล้ียงและการดูแลไก่ไข่ในแตร่ ะยะไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง (P) 3.นกั เรียนใฝ่เรียนรูแ้ ละมุ่งมนั่ ในการทางานร่วมกบั ผอู้ ื่นได้ (A) 4. สมรรถนะสาคญั ของนกั เรียน 4.2 ความสามารถในการคดิ 4.3 ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4.4 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ 5. คุณลกั ษณะของวิชา 1.ความรับผดิ ชอบ 2.ตรงตอ่ เวลา

6. คณุ ลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ 1. ซื่อสตั ยส์ ุจริต 2. มีวนิ ยั 3. ใฝ่เรียนรู้ 4. มุ่งมนั่ ในการทางาน 7. ชิ้นงาน/ภาระงาน : - ใบกิจกรรมท่ี 1 เรื่องการเล้ียงและการดูแลไกไ่ ข่ในระยะตา่ งๆ ชิ้นงาน -.ใบงาน เรื่องการเล้ียงและการดูแลไก่ไขใ่ นระยะต่างๆ ภาระงาน -ใหน้ กั เรียนไปศกึ ษาเพมิ่ เตมิ เกี่ยวกบั การเล้ียงและการดูแลไก่ไข่ในระยะตา่ งๆ 8. กจิ กรรมการเรียนรู้: เวลาทใ่ี ช้ 4 ชั่วโมง ชั่วโมงที่ 1-2 (ความสามารถในการวเิ คราะห์/ใฝ่ เรียนรู/้ เทคนิคการสืบคน้ ) - ข้ันนาเข้าสู่บทเรียน/ข้นั ต้ังคาถาม 1. ทกั ทายนกั เรียนก่อนเรียน 2. เชด็ ชื่อนกั เรียนก่อนเขา้ สู่บทเรียน ข้นั สอน 1.ทาความเขา้ ใจและช้ีแจงสาระการเรียนรูใ้ หน้ กั เรียนทราบในหน่วยการเรียนรู้เร่ืองการจดั การเล้ียงดู 2.ครูอธิบายเกี่ยวกบั การเล้ียงและการดูแลไก่ไข่ในระยะตา่ งๆ 3.ครูใหน้ กั เรียนจดบนั ทึกตามทคี่ รูอธิบาย 4.ครูเปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนซกั ถามเร่ืองท่ีไม่เขา้ ใจ 5.ครูแจกใบความรูแ้ ละใบงาน เร่ืองการเล้ียงและการดูแลไก่ไขใ่ นระยะตา่ งๆ ใหน้ กั เรียนทาในชว่ั โมง เรียน 6.ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนไปศกึ ษาคน้ ควา้ เพมิ่ เติมเกี่ยวกบั การเล้ียงและการดูแลไก่ไข่ในระยะตา่ งๆ ข้ันสรุป 1.ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปเน้ือหาที่เรียนมา 2.ครูนดั หมายการเรียนคร้ังตอ่ ไป

ช่ัวโมงที่ 3-4 (ความสามารถในการวเิ คราะห์/ใฝ่ เรียนรู้/ช่วยกนั คิดช่วยกนั เรียน) - ข้นั นาเข้าสู่บทเรียน/ข้ันต้ังคาถาม 1. ทกั ทายนกั เรียนก่อนเรียน 2. เช็ดช่ือนกั เรียนก่อนเขา้ สู่บทเรียน ข้นั สอน 1. ครูและนกั เรียนทบทวนบทเรียนท่ผี า่ นมา 2. ครูใหน้ กั เรียนมาแลกเปลี่ยนเรียนรูเ้ น้ือหาท่ีครูมอบหมายในสปั ดาห์ท่ผี า่ นมา 3. ครูอธิบายเพมิ่ เติมเก่ียวกบั การนาเสนอของนกั เรียนแตล่ ะคนทีไ่ ปศกึ ษาคน้ ควา้ เพมิ่ เตมิ มา 4.ครูใหน้ กั เรียนจดบนั ทึกลงในสมุด ข้ันสรุป 1.ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปเน้ือหาท่เี รียนมา 2.ครูนดั หมายการเรียนคร้งั ต่อไป 9. สื่อการเรียนการสอน / แหล่งเรียนรู้ 1.ใบความรูเ้ ร่ืองการเล้ียงและการดูแลไกไ่ ขใ่ นระยะตา่ งๆ 2.หอ้ งสมุด 3.อินเทอร์เน็ต 10. การวดั ผลและประเมินผล เปา้ หมาย หลักฐานการเรียนรู้ วิธวี ดั เคร่ืองมือวดั ฯ ประเดน็ / -ความถูกตอ้ ง เกณฑก์ ารให้คะแนน การเรียนรู้ ช้นิ งาน/ภาระงาน ความเข้าใจ 1.มเี น้ือหาสาระครบถว้ น และความ นักเรียนสามารถ ใบงาน ถูกต้อง สมบรู ณ์ 9-10 คะแนน อธบิ ายเกย่ี วกับการ 2.มีเน้ือหาสาระค่อนขา้ งครบถ้วน จัดการเล้ยี งดูไก่ไข่ได้ 7-8 คะแนน 3.มเี นอื้ หาสาระไม่ครบถว้ นแต่ ภาพรวมของสาระท้งั หมดอยู่ใน เกณฑป์ านกลาง 5-6คะแนน

4. มีเน้อื หาสาระไมค่ รบถ้วนแต่ ภาพรวมของสาระทัง้ หมดอยู่ใน เกณฑ์ตอ้ งพอใช้ 4-3 คะแนน 5.มีเนื้อหาเพียงเลก็ นอ้ ยแต่ภาพรวมของ สาระทงั้ หมดอยใู่ นเกณฑต์ ้องปรับปรุง 2-1 คะแนน 6.ไมม่ ีเนอื้ หาเลย 0 คะแนน 11. การบรู ณาการตามจุดเนน้ ของโรงเรียน (ตวั อยา่ ง) หลักปรัชญาเศรษฐกิจ ครู ผูเ้ รยี น พอเพยี ง 21. ความพอประมาณ พอดดี ้านการเลยี้ งไก่ไข่ พอดกี ารเล้ยี งไก่ไข่ นกั เรียนมีความรูเ้ กยี่ วกับการนาไก่ไข่ นาไก่มาเลย้ี งใหเ้ พยี งพอกับโรงเรือนท่ี มาเลี้ยง มีอยู่ 22. ความมเี หตุผล การคานึงสภาพอากาศท่จี ะนาพนั ธ์ุไก่ รถู้ งึ สภาพภมู ิอากาศที่เหมาะสมในการ ไขม่ าเลี้ยงได้ เลีย้ งพนั ธ์ุไกไ่ ข่แต่ละประเภท 23. มภี ูมิคุมกนั ในตัวท่ีดี ภูมปิ ัญญา : มคี วามรู้ รอบคอบ และ ภมู ิปัญญา : มคี วามรู้ รอบคอบ และ 24. เงอื่ นไขความรู้ ระมดั ระวัง ระมัดระวงั สร้างสรรค์ 25. เง่ือนไขคุณธรรม ความรอบรู้ เร่อื ง การเลย้ี งไกไ่ ข่ ความรอบรู้ เรือ่ ง การเล้ยี งไก่ไข่ ทเ่ี ก่ียวข้องรอบด้าน ความรอบคอบที่ นาความรูเ้ หล่านั้นมาพิจารณาให้ จะนาความร้เู หลา่ นนั้ มาพจิ ารณาให้ เช่ือมโยงกัน สามารถประยกุ ตใ์ ช้ใน เชือ่ มโยงกัน เพอ่ื ประกอบการวางแผน ชวี ติ ประจาวนั การดาเนินการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ให้กบั ผูเ้ รียน มคี วามตระหนักใน คุณธรรม มี มีความตระหนกั ใน คุณธรรม มี ความซ่ือสัตยส์ ุจรติ และมคี วามอดทน ความซื่อสัตยส์ ุจริตและมคี วามอดทน มคี วามเพียร ใชส้ ติปัญญาในการ มีความเพยี ร ใช้สตปิ ญั ญาในการ ดาเนนิ ชวี ิต ดาเนินชวี ิต

สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ครู ผูเ้ รยี น สิ่งแวดลอ้ ม ครู ผเู้ รยี น ลงชื่อ..................................................ผู้สอน (นายวิฑรู ย์ คาแสนสุข)

ใบความรู้ที่ 6 เรื่อง....การเลีย้ งและการดูแลไก่ไข่ในระยะต่างๆ วิธีเร่ิมต้นเลยี้ งไก่ไข่ 1. เร่ิมตน้ ดว้ ยการเล้ียงลูกไก่อายุ 1 วนั เป็ นวิธีทีน่ ิยมกนั มากเน่ืองจากทนุ นอ้ ย สามารถเล้ียงไก่ไดต้ ลอดเวลาดว้ ย ตวั เอง ดูแลเอาใจใส่ไดอ้ ยา่ งเตม็ ที่ ไดร้ ู้ประวตั ขิ องไก่ท้งั ฝงู แต่การเล้ียงแบบน้ีตอ้ งใชเ้ วลานานกวา่ ไก่จะใหไ้ ข่ เพราะตอ้ งเล้ียงต้งั แต่แรกเกิด และตอ้ งเส่ียงต่อการตายของไก่ในระยะแรกๆ ตอ้ งรออยา่ งนอ้ ยถึง 22 สปั ดาห์ ไก่ จงึ จะเริ่มใหไ้ ข่ 2. เร่ิมตน้ ดว้ ยการเล้ียงไก่รุ่นอายุ 2 เดือน เป็นวธิ ีท่นี ิยมกนั ในปัจจบุ นั โดยการซ้ือไก่รุ่นอายุ 6 สปั ดาห์ – 2 เดือน มาจากฟาร์มหรือบริษทั ทรี่ บั เล้ียงลูกไก่ ลูกไก่ในระยะน้ีราคายงั ไม่แพงมากนกั และสามารถตดั ปัญหาในเรื่อง การเล้ียงดูลูกไก่และการกกลูกไก่ การเล้ียงไก่รุ่นอายุ 2 เดือนน้ี มกั จะใหอ้ าหารทม่ี ีคุณภาพคอ่ นขา้ งต่า ราคาถูก การเล้ียงไม่ตอ้ งใชค้ วามชานาญมากนกั ผทู้ เ่ี ร่ิมตน้ เล้ียงไก่เป็นคร้งั แรก จึงสมควรเริ่มเล้ียงดว้ ยวธิ ีน้ี 3. เริ่มตน้ ดว้ ยการเล้ียงไก่สาว เป็ นวธิ ีทผ่ี ูเ้ ล้ียงไก่เป็ นอาชีพหรือเพอื่ การคา้ นิยมกนั มาก เนื่องจากไม่ตอ้ งเสียเวลา เล้ียงดูไก่เลก็ หรือไก่รุ่น นอกจากน้ีโรงเรือนก็สรา้ งไวเ้ ฉพาะกบั ไกไ่ ขเ่ ท่าน้นั แต่การเล้ียงไก่วธิ ีน้ีตอ้ งลงทนุ สูง ผู้ เล้ียงจะตอ้ งรู้จกั ฟาร์มท่ผี ลิตไก่สาวเป็นอยา่ งดี ตอ้ งสอบถามถึงประวตั ิของฝงู ไก่สาวท่ีนามาเล้ียงเสมอ เพราะช่วง ทีไ่ ก่ยงั เป็ นลูกไก่และไก่รุ่นผเู้ ล้ียงไม่สามารถรูป้ ระวตั ขิ องฝงู ไก่สาวท่ีจะนามาเล้ียงได้ 1.การเล้ียงดูไก่เล็ก (อายุ 1 วนั -16 สปั ดาห)์ เม่ือลูกไก่มาถึงฟาร์มตอ้ งนาเขา้ เคร่ืองกกโดยเร็วทีส่ ุด เตรียมน้า สะอาดใหก้ ินทนั ที ควรผสมยาปฏิชีวนะหรือวติ ามินใหก้ ินตดิ ตอ่ กนั 2-3 วนั แรก ถา้ ลูกไก่มีลกั ษณะนอนฟบุ อ่อนเพลียมาก ควรผสมน้าตาลทรายลงในน้าผสมยาปฏิชีวนะในอตั รา 5-10%ระยะ 12 ชว่ั โมงแรก เม่ือลูกไก่เขา้ เครื่องกก 2-3ชว่ั โมง หรือลูกไก่เร่ิมกินน้าไดแ้ ลว้ ใหอ้ าหารไก่ไขเ่ ล็ก โปรตนี 19 % ใหน้ อ้ ยๆ แต่ บอ่ ยคร้งั อยา่ งนอ้ ยวนั ละ 3-4 คร้ัง ใหแ้ สงสวา่ งในโรงเรือน 1-3 วนั แรกเท่าน้นั เพอ่ื ใหไ้ ก่คุน้ เคยกบั สถานที่ ควร เปิ ดไฟสลวั ๆ ภายในเครื่องกกตอ้ งมีแสงไฟอยตู่ ลอดเวลาในระยะ 1-3 สปั ดาห์ หมน่ั ตรวจสุขภาพไก่ อาหาร และน้า เปลี่ยนวสั ดุรองพ้นื ท่ชี ้ืน อากาศตอ้ งถ่ายเทไดส้ ะดวก ขยายวงกกใหก้ วา้ งตามความเหมาะสมทุกๆ 5-7

วนั ยกเคร่ืองกกใหส้ ูงข้นึ เล็กนอ้ ย ปรับอุณหภูมิใหต้ ่าลงสปั ดาหล์ ะ 5 องศาฟาเรนไฮด์ ทาวคั ซีนตามกาหนด ตดั ปากเม่ืออายุ 6-9 วนั เมื่อกกลูกไก่ครบ 21 วนั นาวงลอ้ มและเครื่องกกออก จดั เตรียมอุปกรณ์ ดงั น้ี – ที่ใหอ้ าหาร ใชแ้ บบถงั แขวนในอตั รา 3-4 ใบต่อไก่ 100 ตวั – ท่ีใหน้ ้า ใชแ้ บบถงั แขวน ในอตั ราตามขอบราง 1 นิ้วตอ่ ไก่ 1 ตวั ทีใ่ หอ้ าหารและน้า ตอ้ งปรบั ให้อยใู่ นระดบั ความสูงเทา่ กบั หลงั ไก่เสมอ เริ่มใหไ้ ก่กินกรวดต้งั แต่อายุ 3 สปั ดาห์ข้ึนไป ใหส้ ปั ดาห์ละคร้ังๆ ละ คร่ึงกิโลกรัมตอ่ ไก่ 100 ตวั เร่ิมชงั่ น้าหนกั ไก่จานวน 5% ของฝงู เมื่ออายุ 6 สปั ดาห์ จดบนั ทึกปริมาณอาหาร จานวนไก่ตาย คดั ทง้ิ สิ่งผดิ ปกติ การ ปฏบิ ตั งิ าน การใชย้ าและวคั ซีนเป็นประจา 2.การเล้ียงดูไก่รุ่น (อายุ 7-14 สปั ดาห)์ การเล้ียงไก่ในระยะน้ี ควรจดั เตรียมพ้นื ท่เี ล้ียงในอตั ราไก่ 5-6 ตวั ตอ่ 1 ตารางเมตร เม่ืออายุ 7 สปั ดาห์ เปลี่ยนอาหารจากไก่ไขเ่ ลก็ เป็นอาหารไกไ่ ข่รุ่น ใหอ้ าหารในอตั รา 4-5 ถงั ต่อไก่ 100 ตวั ปรับระดบั ทีใ่ หอ้ าหารใหอ้ ยรู่ ะดบั หลงั ไก่เสมอ ทาความสะอาดอยา่ งนอ้ ยสปั ดาห์ละคร้งั เตรียมน้า สะอาดใหเ้ พยี งพอ โดยใชใ้ นอตั ราตามขอบราง 1 นิ้ว ตอ่ ไก่ 1 ตวั ดูแลวสั ดุรองพ้นื อยา่ ใหแ้ ฉะ ชงั่ น้าหนกั ไก่ จานวน 5% ของฝงู ทกุ สปั ดาห์ เพอ่ื ใชเ้ ป็นขอ้ มูลในการเปรียบเทยี บกบั ค่ามาตรฐานของไก่แตล่ ะสายพนั ธุ์ เพอ่ื ลดหรือเพมิ่ ปริมาณอาหารท่ีจะให้ จดบนั ทกึ เก่ียวกบั การจดั การอ่ืนๆดว้ ย 3. การเล้ียงดูไก่สาว (อายุ 15-20 สปั ดาห)์ การเล้ียงดูไก่สาวจะใกลเ้ คียงกบั การเล้ียงดูไก่รุ่น ตอ้ งควบคุมปริมาณ อาหาร และน้าหนกั ตวั ไก่ใหอ้ ยใู่ นเกณฑม์ าตรฐานของไกไ่ ข่แตล่ ะสายพนั ธุ์ ควรจดั การดงั น้ี เม่ือไก่อายุ 15 สปั ดาห์ เปลี่ยนอาหารจากไก่ไข่รุ่นเป็ นไก่ไข่สาว ไม่ควรใหก้ ินอาหารแบบเตม็ ทีเ่ พราะไก่มกั จะ กินเกินความตอ้ งการทาใหม้ ีน้าหนกั ตวั มากเกินไป ไก่ใหไ้ ข่เร็วแตไ่ ม่ทนและสิ้นเปลืองคา่ อาหาร การควบคุมอาหารมี 3 วธิ ี 1. จากดั ปริมาณอาหารในแต่ละวนั อาหารประกอบดว้ ยโปรตีน 16-18 % พลงั งาน 2,800 แคลอร่ีตอ่ กิโลกรัม การใหอ้ าหารแบบน้ีไก่จะไม่เครียด 2. ควรใหไ้ ก่กินอาหารทมี่ ีเยอื่ ใยสูงประกอบดว้ ย โปรตีน 13% มีพลงั งาน 1,750-1,975 แคลอรี่ต่อกิโลกรมั ได้ อยา่ งเตม็ ทีไ่ ก่จะกินมากกวา่ ปกติ 50 % ซ่ึงอาจทาใหต้ น้ ทนุ สูงกไ็ ด้ จึงควรมีการชงั่ ควบคู่ไปกบั การควบคุม อาหารดว้ ย 3. การใหอ้ าหารแบบขา้ มวนั แบ่งเป็น 3 แบบคอื – ใหอ้ าหารแบบวนั เวน้ วนั , การใหอ้ าหารแบบ 2 วนั เวน้ 1 วนั ,ให5้ วนั เวน้ 2 วนั ใน 1 สปั ดาห์ หมน่ั ตรวจสุขภาพไก่ ทาวคั ซีนตามกาหนด และสุ่มชงั่ น้าหนกั ไก่จานวน 5% ของฝงู ทกุ สปั ดาห์ ในกรณีท่เี ล้ียง แบบรวมฝงู เม่ือไก่อายุ 17-18 สปั ดาห์ ติดต้งั รงั ไข่ ขนาดช่องล่ะ 8×12 น้ิว ในอตั รา 1 ช่องต่อไก่ 4 ตวั

กรณีทเี่ ล้ียงแบบกรงตบั ใหย้ า้ ยไก่ข้นึ เมื่ออายุ 18-20 สปั ดาห์ ควรมีการควบคุมดูแลอยา่ งใกลช้ ิด เพราะไก่กาลงั จะเร่ิมให้ผลผลิต ในการเล้ียงต้งั แต่แรกเกิดถึงอายุ 20 สปั ดาห์ อตั ราการตายและคดั ท้งิ ไม่ควรเกิน 10% ก่อนท่ีจะ ยา้ ยไก่ข้ึนกรงตบั ควรกาจดั เหาไร และถ่ายพยาธิก่อน ไก่เริ่มใหไ้ ขป่ ระมาณ 3-4 สปั ดาห์ 4.การเล้ียงดูไก่ไข่ (อายุ 21-72 สปั ดาห์) ไก่ไข่ระยะน้ีเป็นช่วงให้ผลผลิต ถา้ การเล้ียงดูอยา่ งถูกตอ้ งไก่จะเร่ิมให้ ไข่อายุ 20-21 สปั ดาห์ เม่ือไก่เริ่มไข่ ประมาณ 5% ของฝงู ควรเปลี่ยนอาหารจากไก่ไขส่ าวเป็ นไก่ไข่ ควรมี โปรตีน 16% อาหารตอ้ งเพยี งพอกบั ความตอ้ งการ และการใหผ้ ลผลิตของไก่ ไก่ระยะน้ีตอ้ งการแคลเซียมมาก ประมาณ 4.6 กรัม/ตวั ซ่ึงใหใ้ นอาหารหรือใหแ้ คลเซียม ความตอ้ งการแคลเซียมจะข้ึนอยกู่ บั เปอร์เซ็นตก์ ารไข่ เป็นสาคญั ถา้ เปอร์เซ็นตก์ ารไข่สูงความตอ้ งการแคลเซียมมาก ถา้ เปอร์เซ็นตก์ ารไขต่ ่าตอ้ งการแคลเซียมต่า เช่นกนั ไก่ไข่จะใหผ้ ลผลิตสูงสุดในช่วงอายุ 25-30 สปั ดาห์ และจะคอ่ ยๆ ลดลงอยา่ งชา้ ในกรณีเล้ียงแบบกรงตบั ตอ้ งจด บนั ทึกการไขท่ กุ วนั หรือถา้ เล้ียงแบบปล่อยฝงู กต็ อ้ งจดบนั ทึกจานวนไข่ทกุ วนั เพอื่ คดิ เปอร์เซ็นตก์ ารไข่ ควร เกบ็ ไขอ่ ยา่ งนอ้ ยวนั ละ 3 คร้งั เพอื่ ป้องกนั การเสียหาย การใหผ้ ลผลิตโดยทวั่ ไปจะใหไ้ ขป่ ระมาณ 52 -60 สปั ดาห์ การปลดไก่ออก ส่วนใหญ่จะทาเมื่อไก่ใหผ้ ลผลิตไม่คุม้ ทนุ เช่น ใหผ้ ลผลิตต่ากวา่ 60% ของฝงู 6. การใหผ้ ลผลิตของไข่ไก่ และคุณภาพของไขไ่ ก่ในแต่ละช่วงของการใหไ้ ข่ หลงั จากไก่เริ่มไขแลว้ จะมีการเปล่ียนแปลงหลายอยา่ ง เช่น ความถ่ีในการใหผ้ ลผลิตไข่ ขนาดไข่ ขนาดตวั ไก่ และประสิทธิภาพในการใหผ้ ลผลิต ในการใหไ้ ข่ของแม่ไก่ในรอบ 1 ปี แบง่ เป็ น 3 ระยะ คอื ระยะท่ี 1 เป็นระยะทีไ่ ก่ใหไ้ ข่สูงสุด ความถ่ีการใหไ้ ข่เพมิ่ ข้ึนอยา่ งรวดเร็ว หลงั จากฝงู ไก่เริ่มไขไ่ ด้ 5 % จนกระทงั่ ผลผลิตไข่เพม่ิ ข้ึนสูงสุดเมื่อไก่ไขไ่ ปไดป้ ระมาณ 2-3 เดือน ในระยะน้ีไก่มีการเจริญเติบโตและขนาด ของไข่เพม่ิ ข้ึน ซ่ึงอาจเปล่ียนไปตามสภาพการจดั การ การไขใ่ นระยะ น้ีส้ินสุดเม่ือไก่ อายไุ ดป้ ระมาณ 10 เดือน คร่ึง หรือไขไ่ ดป้ ระมาณ 5 เดือน ระยะท่ี 2 เริ่มต้งั แต่ไก่ไขไ่ ด้ 5 เดือนไปจนถึงไขไ่ ด้ 10 เดือน หรือเม่ือไก่ได้ อายุ 15 เดือนคร่ึง เป็ นระยะทไี่ ข่ร่างกาย ขนาดไม่โตอีกแลว้ และไก่หยดุ การเจริญเตบิ โตแตอ่ าจมีน้าหนกั เพมิ่ ข้นึ บา้ งจากการสะสมของไขมนั เป็นระยะที่ผลผลิตเริ่มลดลง ระยะที่ 3 เป็ นระยะสุดทา้ ยของการไขก่ ่อนท่จี ะหยดุ ไข่ ระยะน้ีเริ่มต้งั แต่ไก่ไข่ได้ 10 เดือนจนกระทง่ั ไก่ผลดั ขน ระยะน้ีใชเ้ วลาประมาณ 2 เดือน การใหผ้ ลผลิต ลดลงจนกระทง่ั ไก่หยดุ ไขเ่ พอ่ื ผลดั ขน แต่ขนาดของไขไ่ ม่ไดล้ ดลง หลงั จากผลดั ขนแลว้ แม่ไก่จะเร่ิมใหไ้ ขอ่ ีก การไขข่ องแม่ไก่ในรอบปี ที่ 2 และปี ถดั ๆไปจะเหมือนกบั การไขใ่ นปี แรก แต่ผลผลิตไขส่ ูงสุดน้นั จะต่ากวา่ ปี แรก ระยะเวลาในการไข่ส้นั กวา่ รอบปี แรกประมาณ 20 %ไข่ท่ีไดใ้ นรอบปี ท่ี 2 จะมีขนาดใหญ่กวา่ ปี แรก แต่ เปลือกบางกวา่

ใบงานที่ 6 เรื่อง....การเลีย้ งและการดูแลไก่ไข่ในระยะต่างๆ 1.ทาไมตอ้ งมีการกกลกู ไก่ …………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………. 2.จงอธิบายการเล้ียงดูไก่รุ่น (อายุ 7-14 สปั ดาห)์ มาพอสงั เขป …………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………. ชื่อ..............................................................................ช้นั ......................เลขที่....................

แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่4เรื่องการจัดการเลยี้ งดูแผนจดั การเรียนรู้ที่2 เรื่องอาหารและการให้อาหาร รายวชิ า การเลยี้ ง ไก่ไข่ รหัสวชิ า ง.20206ระดับช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี 1-3 ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2562น้าหนักเวลาเรียน 1.00 (นน./นก.) เวลาเรียน 2 ช่ัวโมง/สัปดาห์ เวลาทใี่ ช้ในการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ 10 ช่ัวโมง .......................................................................................................................................................... 1. สาระสาคญั (ความเข้าใจทคี่ งทน) อาหารเป็นองคป์ ระกอบที่สาคญั ท่สี ุดที่จะทาใหก้ ารเล้ียงไก่ไขม่ กี าไรหรือขาดทุน เนื่องจากตน้ ทนุ การผลิต ประมาณ 60-70 เปอร์เซนตข์ องตน้ ทุนท้งั หมดเป็นคา่ อาหาร ไกไ่ ข่น้นั นอกจากจะตอ้ งการอาหารเพอื่ การดารงชีพ การเจริญเติบโตแลว้ ยงั ตอ้ งนาไปใชใ้ นการผลิตไข่อีกดว้ ย การทีผ่ เู้ ล้ียงจะลดตน้ ทุนการผลิตในส่วนของคา่ อาหาร ลงน้นั สามารถทาไดโ้ ดยการประกอบสูตรอาหารท่มี ีราคาถูก แต่คุณภาพดี เลือกใชว้ ตั ถุดิบอาหารสตั วท์ ่ีมีราคาถูก ตามฤดูกาลและใหอ้ าหารแก่ไก่กินอยา่ งมีประสิทธิภาพ เพอื่ ใหไ้ ดไ้ ขท่ มี่ ีคุณภาพและตน้ ทุนต่า 2. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วัดช้ันปี /ผลการเรียนรู้/เป้าหมายการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ 4.นกั เรียนสามารถเล้ียงดูไก่ไขไ่ ด้ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1.นกั เรียนสามารถอธิบายเก่ียวกบั การใหอ้ าหารไก่ไขไ่ ดอ้ ยา่ งเหมาะสม (K) 2.นกั เรียนสามารถจาแนกการใหอ้ าหารไก่ไขใ่ นแตร่ ะยะไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง (P) 3.นกั เรียนใฝ่เรียนรูแ้ ละมุ่งมนั่ ในการทางานร่วมกบั ผอู้ ื่นได้ (A) 4. สมรรถนะสาคญั ของนกั เรียน 4.2 ความสามารถในการคดิ 4.3 ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4.4 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ 5. คุณลักษณะของวชิ า 1.ความรบั ผดิ ชอบ 2.ตรงต่อเวลา

6. คณุ ลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ 1. ซื่อสตั ยส์ ุจริต 2. มีวนิ ยั 3. ใฝ่เรียนรู้ 4. มุ่งมนั่ ในการทางาน 7. ชิ้นงาน/ภาระงาน : - ใบกิจกรรมท่ี 2 เร่ืองการใหอ้ าหารไก่ไขใ่ นระยะต่างๆ ชิ้นงาน -.ใบงาน เร่ืองการใหอ้ าหารไก่ไข่ในระยะตา่ งๆ ภาระงาน -ใหน้ กั เรียนไปศกึ ษาเพมิ่ เติมเกี่ยวกบั การใหอ้ าหารไก่ไข่ในระยะตา่ งๆ 8. กิจกรรมการเรียนรู้: เวลาทีใ่ ช้ 6 ช่ัวโมง ช่ัวโมงที่ 1-2 (ความสามารถในการวเิ คราะห์/ใฝ่ เรียนรู/้ เทคนิคการสืบคน้ ) - ข้ันนาเข้าสู่บทเรียน/ข้ันต้ังคาถาม 1. ทกั ทายนกั เรียนก่อนเรียน 2. เชด็ ชื่อนกั เรียนก่อนเขา้ สู่บทเรียน ข้นั สอน 1.ครูอธิบายเก่ียวกบั การใหอ้ าหารไก่ไข่ในระยะต่างๆ 2.ครูใหน้ กั เรียนจดบนั ทึกตามท่ีครูอธิบาย 3.ครูเปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนซกั ถามเรื่องทีไ่ ม่เขา้ ใจ 4.ครูแจกใบความรูแ้ ละใบงาน เร่ืองการใหอ้ าหารไก่ไขใ่ นระยะตา่ งๆ ใหน้ กั เรียนทาในชวั่ โมงเรียน 5.ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนไปศกึ ษาคน้ ควา้ เพม่ิ เติมเกี่ยวกบั การใหอ้ าหารไก่ไข่ในระยะตา่ งๆ ข้นั สรุป 1.ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปเน้ือหาที่เรียนมา 2.ครูนดั หมายการเรียนคร้งั ต่อไป

ช่ัวโมงท่ี 3-4 (ความสามารถในการวเิ คราะห/์ ใฝ่ เรียนรู้/ช่วยกนั คิดช่วยกนั เรียน) - ข้นั นาเข้าสู่บทเรียน/ข้นั ต้งั คาถาม 1. ทกั ทายนกั เรียนก่อนเรียน 2. เช็ดชื่อนกั เรียนก่อนเขา้ สู่บทเรียน ข้นั สอน 1. ครูและนกั เรียนทบทวนบทเรียนทผ่ี า่ นมา 2. ครูใหน้ กั เรียนมาแลกเปลี่ยนเรียนรูเ้ น้ือหาท่ีครูมอบหมายในสปั ดาห์ทผ่ี า่ นมา 3. ครูอธิบายเพม่ิ เติมเกี่ยวกบั การนาเสนอของนกั เรียนแตล่ ะคนทีไ่ ปศึกษาคน้ ควา้ เพม่ิ เตมิ มา 4.ครูใหน้ กั เรียนจดบนั ทึกลงในสมุด ข้ันสรุป 1.ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปเน้ือหาทเี่ รียนมา 2.ครูนดั หมายการเรียนคร้ังตอ่ ไป ชั่วโมงที่ 5-6 (ความสามารถดา้ นความรู้ความจา/นาไปใช)้ - ข้ันนาเข้าสู่บทเรียน/ข้นั ต้งั คาถาม 1. ทกั ทายนกั เรียนก่อนเรียน 2. เช็ดช่ือนกั เรียนก่อนเขา้ สู่บทเรียน ข้นั สอน 1. ครูและนกั เรียนลงปฏิบตั ใิ นการใหอ้ าหารและน้าไกไ่ ข่ในโรงเรือนไก่ไข่ 2. ครูแบ่งกลุ่มใหน้ กั กลุ่มละ 4-5 คน ในการใหอ้ าหารไก่ไขใ่ นแต่ละวนั ข้นั สรุป 1.ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปเร่ืองการปฏิบตั ิหนา้ ทข่ี องแต่ละกลุ่ม 2.ครูนดั หมายการเรียนคร้ังต่อไป 9. สื่อการเรียนการสอน / แหล่งเรียนรู้ 1.ใบความรู้เร่ืองการใหอ้ าหารไก่ไขใ่ นระยะตา่ งๆ 2.โรงเรือนไก่ไข่ 3.หอ้ งสมุด 4.อินเทอร์เน็ต

10. การวัดผลและประเมินผล เปา้ หมาย หลักฐานการเรียนรู้ วธิ วี ัด เคร่ืองมือวัดฯ ประเดน็ / -ความถกู ต้อง เกณฑ์การใหค้ ะแนน การเรียนรู้ ชน้ิ งาน/ภาระงาน ความเขา้ ใจ 1.มีเนื้อหาสาระครบถว้ น และความ สมบรู ณ์ 9-10 คะแนน นักเรยี นสามารถ ใบงาน ถูกต้อง 2.มีเนื้อหาสาระคอ่ นขา้ งครบถว้ น 7-8 คะแนน อธิบายเก่ียวกับการ 3.มีเนอื้ หาสาระไม่ครบถว้ นแต่ ภาพรวมของสาระทง้ั หมดอยูใ่ น จัดการเล้ียงดูไกไ่ ข่ได้ เกณฑ์ปานกลาง 5-6คะแนน 4. มเี นื้อหาสาระไมค่ รบถ้วนแต่ ภาพรวมของสาระทัง้ หมดอยู่ใน เกณฑต์ อ้ งพอใช้ 4-3 คะแนน 5.มีเน้ือหาเพยี งเล็กนอ้ ยแตภ่ าพรวมของ สาระทง้ั หมดอย่ใู นเกณฑต์ ้องปรบั ปรงุ 2-1 คะแนน 6.ไมม่ ีเน้ือหาเลย 0 คะแนน 11. การบรู ณาการตามจดุ เนน้ ของโรงเรยี น (ตวั อยา่ ง) หลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจ ครู ผู้เรยี น พอเพยี ง พอดกี ารเล้ยี งไก่ไข่ นกั เรียนมีความร้เู กย่ี วกบั การให้ 26.ความพอประมาณ พอดดี ้านการเล้ยี งไกไ่ ข่ อาหารและน้าไก่ไขไ่ ด้ การให้อาหารและนา้ เพยี งพอตอ่ ความ ต้องการของไกไ่ ข่ 27.ความมีเหตุผล การคานึงถงึ สภาพความต้องการ รูถ้ ึงสภาพความตอ้ งการท่เี หมาะสมใน อาหารและนา้ ของไก่ไข่ การให้อาหารและนา้ ไก่ไขแ่ ต่ละระยะ 28.มภี ูมคิ ุมกนั ในตวั ท่ดี ี ภมู ปิ ัญญา : มีความรู้ รอบคอบ และ ภูมปิ ัญญา : มคี วามรู้ รอบคอบ และ

ระมัดระวงั ระมัดระวงั สรา้ งสรรค์ 29.เง่อื นไขความรู้ ความรอบรู้ เร่อื ง การเลยี้ งไก่ไข่ ความรอบรู้ เรือ่ ง การเลยี้ งไกไ่ ข่ 30.เง่ือนไขคณุ ธรรม ทเ่ี กยี่ วขอ้ งรอบดา้ น ความรอบคอบท่ี นาความรเู้ หลา่ นนั้ มาพิจารณาให้ จะนาความรู้เหล่าน้ันมาพิจารณาให้ เช่ือมโยงกัน สามารถประยุกตใ์ ช้ใน เช่อื มโยงกัน เพือ่ ประกอบการวางแผน ชวี ิตประจาวัน การดาเนินการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ใหก้ ับผู้เรยี น มีความตระหนักใน คุณธรรม มี มีความตระหนักใน คุณธรรม มี ความซ่ือสัตยส์ ุจรติ และมีความอดทน ความซื่อสัตย์สุจริตและมีความอดทน มีความเพยี ร ใชส้ ติปญั ญาในการ มคี วามเพียร ใชส้ ตปิ ญั ญาในการ ดาเนินชวี ิต ดาเนินชีวิต สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น ครู ผู้เรียน สิ่งแวดลอ้ ม ครู ผ้เู รยี น ลงชอื่ ..................................................ผูส้ อน (นายวิฑูรย์ คาแสนสุข)

บนั ทกึ หลงั สอน ผลการจัดการเรียนการสอน ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................. ปัญหา/อุปสรรค ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ..................................................................................................................... แนวทางแก้ไข ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ..................................................................................................................... ลงช่ือ.......................................ผู้บนั ทึก (.....................................................) ................./................/.................

บนั ทึกความเห็นของผู้ตรวจสอบแผนการเรียนรู้ ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................... ลงช่ือ..................................................ผู้ตรวจ (..................................................................) หัวหน้ากล่มุ สาระการเรียนรู้.................................................... .............../.................../................ บนั ทึกความเห็นของผู้ตรวจสอบแผนการเรียนรู้ .................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................. .................................................................................................. ลงช่ือ...................................ผู้ตรวจ (......................................................) รองผู้อานวยการกล่มุ บริหารวิชาการ......./......./........ บันทกึ ข้อเสนอแนะผู้บริหาร .................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................. .................................................................................................. ลงช่ือ......................................... (................................................) ผู้อานวยการโรงเรียน......./......./......

ใบความรู้ท่ี 7 เรื่อง....อาหารและการให้อาหาร อาหารเป็ นองคป์ ระกอบทสี่ าคญั ทส่ี ดุ ทจี่ ะทาใหก้ ารเลย้ี งไกไ่ ขม่ กี าไรหรอื ขาดทนุ เนอื่ งจากตน้ ทนุ การผลติ ประมาณ 60-70 เปอรเ์ ซนตข์ องตน้ ทนุ ทงั้ หมดเป็ นคา่ อาหาร ไกไ่ ขน่ ัน้ นอกจากจะตอ้ งการ อาหารเพอื่ การดารงชพี การเจรญิ เตบิ โตแลว้ ยังตอ้ งนาไปใชใ้ นการผลติ ไขอ่ กี ดว้ ย การทผี่ เู ้ ลยี้ งจะลด ตน้ ทนุ การผลติ ในสว่ นของคา่ อาหารลงนัน้ สามารถทาไดโ้ ดยการประกอบสตู รอาหารทมี่ รี าคาถกู แต่ คณุ ภาพดี เลอื กใชว้ ตั ถดุ บิ อาหารสตั วท์ ม่ี รี าคาถกู ตามฤดกู าลและใหอ้ าหารแกไ่ กก่ นิ อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ เพอ่ื ใหไ้ ดไ้ ขท่ ม่ี คี ณุ ภาพและตน้ ทนุ ตา่ การทไี่ กจ่ ะเจรญิ เตบิ โตไดด้ ี มคี วามแขง็ แรงและใหไ้ ขม่ าก จาเป็ นจะตอ้ งไดก้ นิ อาหารทเี่ พยี งพอและกนิ อาหารไดด้ สี มา่ เสมอทกุ วนั โดยทัว่ ไปแลว้ อาหารทใ่ี ชเ้ ลยี้ งไกไ่ ขจ่ ะประกอบดว้ ยสารอาหาร 6 ประเภท ดงั ตอ่ ไปน้ี 1.โปรตนี เป็ นสารประกอบทส่ี าคัญตอ่ การเลย้ี งสตั วท์ กุ ชนดิ ประกอบดว้ ยกรดอะมโิ นชนดิ ตา่ งๆ เป็ น สารอาหารทช่ี ว่ ยในการสรา้ งเนอื้ เยอื่ ทจ่ี าเป็ นตอ่ การเจรญิ เตบิ โตของรา่ งกาย และชว่ ยในการสรา้ งและ ซอ่ มแซมรกั ษาสว่ นตา่ งๆ ของรา่ งกาย เชน่ ขน เล็บ หนัง กระดกู อวยั วะภายในตา่ งๆ เม็ดเลอื ดแดง และเป็ นสว่ นประกอบของผลผลติ เชน่ ไข่ รวมทงั้ ยังนาไปใชใ้ นการสรา้ งเนอ้ื อกี ดว้ ย โดยปกตแิ ลว้ อาหารทใี่ ชเ้ ลยี้ งไกไ่ ขจ่ ะประกอบดว้ ยโปรตนี ประมาณ 13-19% ทงั้ นขี้ นึ้ อยกู่ บั อายขุ องไก่ 2.คารโ์ บไฮเดรต เป็ นสารอาหารจาพวกแป้งและน้าตาล มหี นา้ ทใี่ หพ้ ลงั งาน ใหค้ วามอบอนุ่ และชว่ ยให ้ ไกอ่ ว้ น คารโ์ บไฮเดรต เป็ นแหลง่ ในการใหพ้ ลงั งานแกร่ า่ งกาย เพอื่ นาไปใชใ้ นการทางานของอวยั วะ ตา่ งๆ เพอื่ การดารงชพี การเจรญิ เตบิ โต และการใหผ้ ลผลติ เชน่ ไข่ ฯลฯ คารโ์ บไฮเดรตถอื เป็ นอาหาร หลกั เพราะเป็ นสว่ นประกอบในสตู รอาหารไกไ่ ขป่ ระมาณ 38-61% ขน้ึ อยกู่ บั อายไุ ก่ คารโ์ บไฮเดรต แบง่ เป็ น 2 พวกตามลกั ษณะความยากงา่ ยในการยอ่ ย คอื น้าตาล และแป้ งกบั เยอื่ ใย แหลง่ คารโ์ บไฮเดรตสว่ นใหญไ่ ดม้ าจากพชื 3.น้า เป็ นสว่ นประกอบทส่ี าคญั ของรา่ งกาย รา่ งกายไกม่ นี ้าเป็ นสว่ นประกอบประมาณ 60-70% ลกู ไก่ อายุ 1 วนั มนี ้าเป็ นองคป์ ระกอบ 85% และจะลดลงเมอื่ อายมุ ากขนึ้ น้ามหี นา้ ทส่ี าคัญตอ่ รา่ งกาย เชน่ ชว่ ยในการยอ่ ย การดดู ซมึ การรกั ษาระดบั ความรอ้ นปกตใิ นรา่ งกาย และชว่ ยในการขบั ถา่ ยของเสยี ออก นอกรา่ งกาย น้านบั เป็ นสารอาหารทจ่ี าเป็ นและมคี วามสาคัญทส่ี ดุ เพราะถา้ ไกข่ าดน้าจะทาใหไ้ กไ่ ม่ อยากกนิ อาหารและอาจถงึ ตายได ้ ดงั นัน้ เกษตรกรจะตอ้ งหาภาชนะใสน่ ้าจดื สะอาดตงั้ ไวใ้ หไ้ กก่ นิ ตลอดเวลา หากไกข่ าดน้าจะแคระแกร็น และการสญู เสยี น้าเพยี ง 10% ของรา่ งกาย ไกจ่ ะตายได ้ 4.ไขมนั เป็ นแหลง่ ใหพ้ ลงั งานแกร่ า่ งกายเชน่ เดยี วกบั คารโ์ บไฮเดรต แตใ่ หพ้ ลงั งานมากกวา่ 2.5 เทา่ และยงั ใหก้ รดไขมันบางชนดิ ทจี่ าเป็ นสาหรบั รา่ งกาย ใหค้ วามอบอนุ่ ทาใหอ้ ว้ นและชว่ ยเพมิ่ ความน่ากนิ ของอาหาร สว่ นมากจะไดจ้ ากไขมันสตั วแ์ ละน้ามันพชื หากปรมิ าณไขมนั มากเกนิ ไปจะทาใหไ้ กถ่ า่ ย เหลวหรอื ทอ้ งเสยี ทาใหพ้ นื้ เปียกแฉะ วสั ดรุ องพนื้ จะเสยี เร็ว 5.วติ ามนิ จาเป็ นตอ่ การเจรญิ เตบิ โตและการดารงชวี ติ ของไก่ ชว่ ยสรา้ งความแข็งแรงและความ กระปรก้ี ระเปรา่ แกร่ า่ งกาย สรา้ งความตา้ นทานโรค และบารงุ ระบบประสาท แตร่ า่ งกายตอ้ งการใน ปรมิ าณนอ้ ย แตข่ าดไมไ่ ด ้ เพอื่ ใหป้ ฏกิ ริ ยิ าตา่ งๆ ในรา่ งกายดาเนนิ ไปตามปกติ วติ ามนิ แบง่ ออกเป็ น 2 กลมุ่ ใหญต่ ามคณุ สมบตั ใิ นการละลาย คอื วติ ามนิ ทล่ี ะลายในไขมัน ไดแ้ ก่ วติ ามนิ เอ ดี อี เค และ วติ ามนิ ทล่ี ะลายในน้า ไดแ้ ก่ วติ ามนิ บี ซี หากไกข่ าดจะทาใหโ้ ตชา้ และเป็ นโรคขาดวติ ามนิ นัน้ ๆ 6.แรธ่ าตุ ชว่ ยในการสรา้ งโครงกระดกู สรา้ งความเจรญิ เตบิ โต สรา้ งเลอื ด สรา้ งเปลอื กไข่ และอนื่ ๆ รา่ งกายสตั วม์ แี รธ่ าตเุ ป็ นสว่ นประกอบอยปู่ ระมาณ 3% ของน้าหนักตวั แรธ่ าตทุ สี่ าคญั ไดแ้ ก่ แคลเซยี ม

ฟอสฟอรัส แมกนเี ซยี ม โซเดยี ม คลอรนี เหล็ก กามะถนั ไอโอดนี ทองแดง โคบอลต์ แมงกานสี และ สงั กะสี ชนดิ ของอาหารทใ่ี ชเ้ ลยี้ งไกไ่ ข่ 1. อาหารผสม เป็ นอาหารผสมจากวตั ถดุ บิ ทบี่ ดละเอยี ดแลว้ หลายๆ อยา่ งคลกุ เคลา้ ใหเ้ ขา้ กัน โดยมาก จะเตมิ ยาปฏชิ วี นะ, วติ ามนิ , แรธ่ าตุ และกรดอะมโิ นทจี่ าเป็ นลงไปดว้ ย อาหารนนี้ าไปเลยี้ งไกไ่ ดท้ นั ที โดยไมต่ อ้ งเสรมิ อะไรอกี 2. หัวอาหาร เป็ นอาหารเขม้ ขน้ ทผ่ี สมจากวตั ถดุ บิ พวกโปรตนี จากพชื สตั ว์ ไวตามนิ แรธ่ าตุ และยาตา่ งๆ ยกเวน้ ธญั พชื หรอื วตั ถดุ บิ บางอยา่ ง ทงั้ นเ้ี พอื่ ใหเ้ หมาะสมและลดตน้ ทนุ คา่ อาหาร แตล่ ะทอ้ งถน่ิ ทม่ี ี วตั ถดุ บิ อนื่ บางอยา่ งราคาถกู หรอื ทปี่ ลกู เก็บเกย่ี วเอง เชน่ ขา้ วฟ่ าง ขา้ วโพด เมอื่ ผสมกบั อาหารขน้ ตาม อตั ราสว่ นทกี่ าหนด ก็จะไดอ้ าหารสมดลุ ซง่ึ มโี ภชนะตา่ งๆ ครบถว้ นตามความตอ้ งการ 3. อาหารอดั เม็ด เป็ นการนาอาหารผสมสาเรจ็ รปู ทอ่ี ยใู่ นรปู ของอาหารผสมไปผา่ นกรรมวธิ กี ารอดั เม็ด ก็ จะไดอ้ าหารอดั เมด็ ขนาดตา่ งๆ ตามอายขุ องไก่ 4. อาหารเสรมิ คอื อาหารหรอื วตั ถดุ บิ ทเี่ ตมิ ไปกับสว่ นประกอบตา่ งๆ ทจ่ี ะผสมเป็ นอาหารใชเ้ ลย้ี งสตั ว์ เพอ่ื ชว่ ยเสรมิ คณุ ภาพของอาหารนัน้ ๆ ใหด้ ขี นึ้ และใหเ้ ป็ นอาหารทส่ี มดลุ สตู รอาหารไกไ่ ขร่ ะยะตา่ งๆ สตู รอาหารไกท่ ด่ี ี หมายถงึ การนาเอาวตั ถดุ บิ อาหารสตั วท์ เ่ี ป็ นแหลง่ ใหส้ ารอาหารตา่ งๆ ในสดั สว่ นที่ เหมาะสมมาผสมใหเ้ ขา้ กัน เพอื่ ใหไ้ ดส้ ารอาหารตา่ งๆ ตามทไ่ี กต่ อ้ งการ ในอตั ราสว่ นทสี่ มดลุ กัน ไก่ ชอบกนิ ไมเ่ ป็ นพษิ และไกส่ ามารถนาไปใชใ้ นการผลติ เนอื้ และไขไ่ ดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ นอกจากนัน้ วตั ถดุ บิ ทใ่ี ชก้ ็สามารถหาไดง้ า่ ยและราคาไมแ่ พงอกี ดว้ ย สตู รอาหารไกไ่ ขร่ ะยะตา่ งๆ ทผ่ี ลติ โดย กองอาหารสตั ว์ กรมปศสุ ตั ว์ ดงั ตอ่ ไปน้ี มหี ลายสตู รดว้ ยกัน เป็ น การเลอื กใชจ้ ากวตั ถดุ บิ อาหารสตั วท์ มี่ อี ยมู่ ากและนยิ มใชก้ ันมาก ในการเลอื กใชส้ ตู รใดสตู รหนง่ึ นัน้ ควร พจิ ารณาจากวตั ถดุ บิ อาหารสตั วท์ ม่ี อี ยมู่ ากในทอ้ งถนิ่ พอจะหาซอื้ ไดง้ า่ ยและราคาถกู เป็ นหลกั ในการ เลอื ดใชส้ ตู รอาหารนัน้ 1. ไกไ่ ขเ่ ล็ก ตงั้ แตอ่ ายแุ รกเกดิ จนถงึ 6 สปั ดาห์ ตอ้ งการอาหารทมี่ โี ปรตนี ประมาณ 19% 2. ไกไ่ ขร่ นุ่ ตงั้ แตอ่ ายุ 6 -14 สปั ดาห์ ตอ้ งการอาหารทมี่ โี ปรตนี ประมาณ 16% 3. ไกไ่ ขส่ าวกอ่ นไข่ ตงั้ แตอ่ ายุ 14 -20 สปั ดาห์ ตอ้ งการอาหารทม่ี โี ปรตนี ประมาณ 13% 4. ไกไ่ ขร่ ะยะใหไ้ ข่ ตงั้ แตอ่ ายุ 20 สปั ดาหข์ น้ึ ไป ตอ้ งการอาหารทมี่ โี ปรตนี ประมาณ 16%





ใบงานที่ 7 เรื่อง....อาหารและการให้อาหาร 1.สารอาหาร 6 ประเภท มีอะไรบา้ งจงอธิบายมาพอเขา้ ใจ …………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………. 2.ชนิดของอาหารทใ่ี ช้เลยี้ งไก่ไข่ มีกี่ชนิดจงอธิบาย …………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………. ช่ือ..............................................................................ช้นั ......................เลขท่ี....................

ผงั มโนทศั น์ รายวิชาการเลยี้ งไก่ไข่ รหัสวิชา ระดับช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ 1-3 หน่วยการเรียนรู้ท5ี่ เร่ืองโรคและกำรสขุ ำภิบำล จานวน 8 ชั่วโมง : 10 คะแนน หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี4 เรอ่ื งโรคและกำรสุขำภบิ ำล จานวน 8 ชว่ั โมง : 10 คะแนน ช่ือเรื่อง -โรคไก่ไข่ -การสุขาภิบาล จานวน 8 ช่ัวโมง :10 คะแนน

แผนการจดั การเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เร่ืองโรคและการสุขาภิบาล แผนจัดการเรียนรู้ท่ี1 เร่ืองโรคของไก่ไข่ รายวชิ า การเลยี้ งไก่ไข่ รหัสวชิ า ง.20206ระดับช้ันมัธยมศึกษาปี ท่ี 1-3 ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2562นา้ หนักเวลาเรียน 1.00 (นน./นก.) เวลาเรียน 2 ช่ัวโมง/สัปดาห์ เวลาทใ่ี ช้ในการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ 8 ช่ัวโมง .......................................................................................................................................................... 1. สาระสาคญั (ความเข้าใจท่ีคงทน) ในการเล้ียงไก่ไข่ใหป้ ระสบผลสาเร็จน้นั ตอ้ งเล้ียงไก่ใหม้ ีสุขภาพดี สมบูรณ์ แขง็ แรง จงึ จะใหผ้ ลผลิตสูง ดงั น้นั เราตอ้ งรู้จกั โรคและการป้องกนั โดยถือหลกั วา่ “กนั ไวด้ ีกวา่ แก”้ โดยทวั่ ไปแลว้ โรคท่มี กั จะทาความเสียหาย ใหก้ บั การเล้ียงไก่ไข่ 2. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วัดช้ันปี /ผลการเรียนรู้/เป้าหมายการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ 5.นกั เรียนสามารถรู้จกั โรคและการสุขาภิบาลไก่ไข่เบ้ืองตน้ ได้ 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1.นกั เรียนสามารถอธิบายเกี่ยวกบั โรคของไก่ไขไ่ ด้ (K) 2.นกั เรียนสามารถจาแนกชนิดของโรคของไก่ไขไ่ ดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง (P) 3.นกั เรียนใฝ่เรียนรูแ้ ละมุ่งมนั่ ในการทางานร่วมกบั ผอู้ ่ืนได้ (A) 4. สมรรถนะสาคญั ของนกั เรียน 4.2 ความสามารถในการคดิ 4.3 ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4.4 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ 5. คณุ ลักษณะของวชิ า 1.ความรบั ผดิ ชอบ 2.ตรงต่อเวลา

6. คณุ ลักษณะท่พี ึงประสงค์ 1. ซ่ือสตั ยส์ ุจริต 2. มีวนิ ยั 3. ใฝ่เรียนรู้ 4. มุ่งมน่ั ในการทางาน 7. ชิ้นงาน/ภาระงาน : - ใบกิจกรรมท่ี 1 เร่ืองโรคของไก่ไข่ ชิ้นงาน -.ใบงาน เร่ืองโรคของไก่ไข่ ภาระงาน -ใหน้ กั เรียนไปศึกษาเพม่ิ เติมเกี่ยวกบั โรคของไก่ไข่ 8. กิจกรรมการเรียนรู้: เวลาทใ่ี ช้ 4 ชั่วโมง ชั่วโมงที่ 1-2 (ความสามารถในการวเิ คราะห/์ ใฝ่ เรียนรู้/เทคนิคการสืบคน้ ) - ข้ันนาเข้าสู่บทเรียน/ข้นั ต้งั คาถาม 1. ทกั ทายนกั เรียนก่อนเรียน 2. เช็ดชื่อนกั เรียนก่อนเขา้ สู่บทเรียน ข้นั สอน 1.ทาความเขา้ ใจและช้ีแจงสาระการเรียนรู้ใหน้ กั เรียนทราบในหน่วยการเรียนรู้เรื่องโรคไก่ไข่ 2. ครูอธิบายเกี่ยวกบั โรคแตล่ ะชนิดท่เี กิดข้ึนกบั ไก่ไข่ใหน้ กั เรียนฟัง 3.ครูใหน้ กั เรียนจดบนั ทกึ ตามทคี่ รูอธิบาย 4.ครูเปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนซกั ถามเร่ืองทไ่ี ม่เขา้ ใจ 5.ครูแจกใบความรู้และใบงาน เรื่องโรคของไก่ไข่ 6.ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนไปศกึ ษาคน้ ควา้ เพม่ิ เติมเกี่ยวกบั โรคของไก่ไข่แตล่ ะชนิดแลว้ ใหม้ า แลกเปลี่ยนกนั ฟัง ข้นั สรุป 1.ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปเน้ือหาท่เี รียนมา 2.ครูนดั หมายการเรียนคร้ังตอ่ ไป

ชั่วโมงที่ 3-4 (ความสามารถในการวเิ คราะห์/ใฝ่ เรียนรู้/ช่วยกนั คิดช่วยกนั เรียน) - ข้นั นาเข้าสู่บทเรียน/ข้ันต้งั คาถาม 1. ทกั ทายนกั เรียนก่อนเรียน 2. เช็ดช่ือนกั เรียนก่อนเขา้ สู่บทเรียน ข้นั สอน 1. ครูและนกั เรียนทบทวนบทเรียนทผี่ า่ นมา 2. ครูใหน้ กั เรียนมาแลกเปลี่ยนเรียนรูเ้ น้ือหาทค่ี รูมอบหมายในสปั ดาห์ทีผ่ า่ นมา 3. ครูอธิบายเพมิ่ เตมิ เกี่ยวกบั การนาเสนอของนกั เรียนแต่ละคนที่ไปศกึ ษาคน้ ควา้ เพมิ่ เตมิ มา 4.ครูใหน้ กั เรียนจดบนั ทกึ ลงในสมุด ข้นั สรุป 1.ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปเน้ือหาท่เี รียนมา 2.ครูนดั หมายการเรียนคร้ังต่อไป 9. ส่ือการเรียนการสอน / แหล่งเรียนรู้ 1.ใบความรู้เรื่องโรคของไก่ไข่ 2.หอ้ งสมุด 3.อินเทอร์เน็ต 10. การวดั ผลและประเมนิ ผล เป้าหมาย หลกั ฐานการเรยี นรู้ วธิ ีวัด เครือ่ งมือวัดฯ ประเด็น/ การเรียนรู้ ชน้ิ งาน/ภาระงาน -ความถูกต้อง เกณฑ์การให้คะแนน ความเขา้ ใจ 1.มเี นือ้ หาสาระครบถว้ น นกั เรียนสามารถรู้จกั ใบงาน และความ ถกู ต้อง สมบรู ณ์ 9-10 คะแนน โรคและการสุขาภิบาล 2.มีเน้อื หาสาระคอ่ นขา้ งครบถว้ น ไก่ไข่เบ้ืองตน้ ได้ 7-8 คะแนน 3.มเี นื้อหาสาระไมค่ รบถ้วนแต่ ภาพรวมของสาระท้ังหมดอยู่ใน เกณฑ์ปานกลาง 5-6คะแนน

4. มีเนอื้ หาสาระไมค่ รบถว้ นแต่ ภาพรวมของสาระท้ังหมดอยใู่ น เกณฑต์ ้องพอใช้ 4-3 คะแนน 5.มีเนื้อหาเพยี งเล็กนอ้ ยแต่ภาพรวมของ สาระท้ังหมดอยใู่ นเกณฑต์ ้องปรบั ปรงุ 2-1 คะแนน 6.ไม่มีเน้ือหาเลย 0 คะแนน 11. การบูรณาการตามจุดเนน้ ของโรงเรยี น (ตวั อยา่ ง) หลักปรชั ญาเศรษฐกิจ ครู ผเู้ รยี น พอเพยี ง 31.ความพอประมาณ พอดดี า้ นการเล้ยี งไก่ไข่ พอดีการเลย้ี งไกไ่ ข่ นักเรียนมีความรู้เกี่ยวกับโรคที่อาจจะ ดูแลไก่ไข่ใหแ้ ขง็ แรงอย่างสม่าเสมอ เกดิ ขน้ึ กบั ไกไ่ ขไ่ ด้ เพื่อป้องกนั การเกดิ โรค 32.ความมเี หตุผล การคานงึ ถงึ โรคท่ีอาจจะเกดิ ขนึ้ กบั ไก่ รู้ถึงสภาพภมู ิอากาศและสิ่งแวดลอ้ มที่ ไข่ อาจจะก่อให้เกดิ โรคกับไก่ไขไ่ ด้ 33.มีภมู ิคมุ กันในตวั ท่ีดี ภูมิปญั ญา : มีความรู้ รอบคอบ และ ภมู ปิ ัญญา : มีความรู้ รอบคอบ และ 34.เงอ่ื นไขความรู้ ระมดั ระวงั ระมดั ระวงั สรา้ งสรรค์ 35.เงอ่ื นไขคุณธรรม ความรอบรู้ เรอื่ ง การเลยี้ งไกไ่ ข่ ความรอบรู้ เรอ่ื ง การเลีย้ งไก่ไข่ ท่เี ก่ยี วข้องรอบด้าน ความรอบคอบที่ นาความร้เู หล่าน้ันมาพิจารณาให้ จะนาความรเู้ หลา่ นั้นมาพจิ ารณาให้ เชื่อมโยงกนั สามารถประยุกตใ์ ช้ใน เช่อื มโยงกนั เพื่อประกอบการวางแผน ชีวิตประจาวัน การดาเนินการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ใหก้ ับผูเ้ รียน มคี วามตระหนักใน คุณธรรม มี มคี วามตระหนกั ใน คุณธรรม มี ความซื่อสัตย์สุจริตและมคี วามอดทน ความซอ่ื สตั ย์สุจริตและมีความอดทน มีความเพยี ร ใชส้ ตปิ ญั ญาในการ มคี วามเพียร ใชส้ ติปญั ญาในการ ดาเนนิ ชีวิต ดาเนนิ ชวี ติ

สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ครู ผูเ้ รียน สิ่งแวดลอ้ ม ครู ผเู้ รยี น ลงชื่อ..................................................ผ้สู อน (นายวิฑรู ย์ คาแสนสุข)

บันทกึ หลงั สอน ผลการจัดการเรียนการสอน ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................. ปัญหา/อุปสรรค ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ..................................................................................................................... แนวทางแก้ไข ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ..................................................................................................................... ลงชื่อ.......................................ผู้บันทกึ (.....................................................) ................./................/.................

บันทึกความเห็นของผู้ตรวจสอบแผนการเรียนรู้ ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................... ลงช่ือ..................................................ผู้ตรวจ (..................................................................) หัวหน้ากล่มุ สาระการเรียนรู้.................................................... .............../.................../................ บนั ทึกความเห็นของผู้ตรวจสอบแผนการเรียนรู้ .................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................. .................................................................................................. ลงชื่อ...................................ผู้ตรวจ (......................................................) รองผู้อานวยการกล่มุ บริหารวิชาการ......./......./........ บนั ทกึ ข้อเสนอแนะผู้บริหาร .................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................. .................................................................................................. ลงชื่อ......................................... (................................................) ผู้อานวยการโรงเรียน......./......./......

ใบความรู้ท่ี 8 เร่ือง....โรคของไก่ไข่ 1. โรคนิวคาสเซิล เป็ นโรคติดต่อที่ร้ายแรงท่สี ุดของไก่ในประเทศไทย เกิดจากเช้ือไวรสั ชนิดหน่ึง การแพร่ ระบาดเป็นไปอยา่ งรวดเร็ว โดยการหายใจเอาเช้ือ หรือกินน้า อาหารท่มี ีเช้ือปนเขา้ ไป จากอุจจาระ น้ามูก น้าลาย และสิ่งขบั ถ่ายอ่ืนๆ ของไก่ป่ วย ไก่ทปี่ ่ วยจะมีอาการทางระบบหายใจและระบบประสาท เช่น หายใจลาบาก มี เสียงดงั เวลาหายใจ มีน้ามูกไหล หวั สน่ั กระตกุ ขาและปี กเป็ นอมั พาต คอบดิ เดินเป็ นวงกลม หวั ซุกใตป้ ี ก สาหรับแม่ไก่ท่ีกาลงั ใหไ้ ข่จะไขล่ ดลงทนั ที่ และมกั จะตายภายใน 3-4 วนั หลงั จากแสดงอาการป่ วย การป้องกนั โดยการทาวคั ซีนลาโซตาเช้ือเป็น และลาโซตาเช้ือตาย ดูวธิ ีการใชจ้ ากตารางการทาวคั ซีนทา้ ยเล่ม 2. โรคหลอดลมอกั เสบตดิ ต่อ เป็ นโรคทางเดินหายใจที่แพร่หลายทส่ี ุด เกิดจากเช้ือไวรสั สามารถเกิดข้ึนไดก้ บั ไก่ทกุ อายุ แต่มกั จะมีความรุนแรงในลูกไก่ มอี ตั ราการตายสูงมาก ไก่ท่เี ป็ นโรคน้ีจะมีอาการ อา้ ปากและโก่งคอ เวลาหายใจ หายใจลาบาก เวลาหายใจมีเสียงครืดคราดในลาคอ ไอ น้ามกู ไหล ตาแฉะ เซ่ืองซึม เบ่อื อาหาร ในไก่ ไขจ่ ะไขล่ ดลงอยา่ งกะทนั หนั การป้องกนั โดยการทาวคั ซีนป้องกนั โรคหลอดลมอกั เสบ 3. โรคอหิวาต์ไก่ เป็ นโรคตดิ ตอ่ ทร่ี ้ายแรงชนิดหน่ึง เกิดจากเช้ือแบคทเี รีย เขา้ สู่ร่างกายทางอาหารและน้า ไก่ที่ เป็นโรคน้ีจะมีอาการหงอย ซึม เบือ่ อาหาร กระหายน้าจดั ทอ้ งร่วง อุจจาระมีสีเหลือง เหนียงมีสีคล้ากวา่ ปกติ ถา้ ไก่เป็นโรคน้ีอยา่ งรา้ ยแรง ไก่อาจตายโดยไม่แสดงอาการป่ วยใหเ้ ห็น การรกั ษา ใชย้ าปฏิชีวนะ คลอเตตร้าซยั คลิน หรือออกซีเตตร้าซยั คลิน หรือใชย้ าประเภทซลั ฟา เช่น ซลั ฟาเมอรา ซีน หรือซลั ฟาเมทธารีน การป้องกนั โดยการใหว้ คั ซีนป้องกนั โรคอหิวาต์ 4. โรคฝี ดาษไก่ เป็ นโรคทม่ี กั เป็ นกบั ลูกไก่และไก่รุ่น ซ่ึงเกิดจากเช้ือไวรสั ตดิ ต่อกนั โดยการสมั ผสั เช่น อยรู่ วม ฝงู กนั และยงุ เป็นพาหะของโรคกดั โรคน้ีไม่แสดงอาการป่ วยถึงตาย ไก่ที่เป็ นโรคน้ีจะแสดงอาการมีจดุ สีเทา พองตามบริเวณใบหนา้ หงอน เหนียง และผวิ หนงั และเม่ือจุดพองขยายตวั และแตกออกเป็ นสะเกด็ ลูกไก่จะ หงอยซึม ไม่กินอาหารและตายในท่ีสุด การป้องกนั โดยการทาวคั ซีนป้องกนั โรคฝีดาษไก่

5. โรคหวัดติดต่อหรือหวดั หน้าบวม เป็ นโรคทางเดินหายใจมกั เกิดกบั ไก่รุ่นและไก่ใหญ่ ซ่ึงเกิดจากเช้ือ แบคทีเรียทป่ี ะปนอยใู่ นเสมหะ น้ามูก และน้าตาของไก่ป่ วย ไก่ที่เป็ นโรคน้ีจะแสดงอาการอยา่ งรวดเร็ว โดยมี อาการจาม มีน้าตา น้ามูกอยใู่ นช่องจมูกและเปี ยกเปรอะถึงปาก และมีกลน่ิ เหมน็ เม่ือเป็ นรุนแรง ตาจะแฉะจน ปิ ด หนา้ บวม เหนียงบวม ไก่กินอาหารนอ้ ยลง ไก่ที่กาลงั ใหไ้ ข่จะไขล่ ด การรักษา โดยใชย้ าพวกซลั ฟา ไดแ้ ก่ ซลั ฟาไธอาโซล ซลั ฟาไดเมทอ๊ กซิน ส่วนยาปฏิชีวนะ ไดแ้ ก่ ออกซ่ีเตตร้า ซยั คลิน อิริโธมยั ซิน และสเตรปโตมยั ซิน การป้องกนั การจดั การสุขาภบิ าล และการเล้ียงดูทด่ี ี การถ่ายเทอากาศในโรงเรือนที่ดี และการฉีดวคั ซีนป้องกนั โรคหวดั หนา้ บวมREPORT THIS AD 6. โรคกลองเสียงอกั เสบตดิ ต่อ เป็ นโรคทางเดินหายใจ มกั เป็ นกบั ไก่ใหญ่ อายุ 3-4 เดือนข้ึนไป ซ่ึงเกิดจากเช้ือ ไวรสั ไก่ที่เป็ นโรคน้ีจะแสดงอาการหายใจไม่สะดวก ยน่ื คอและศรี ษะตรงไปขา้ งหนา้ อา้ ปากเป็นระยะๆ และ หลบั ตา ไก่จะตายเพราะหายใจไม่ออก การป้องกนั การจดั การสุขาภบิ าลทีด่ ี และป้องกนั ไม่ใหล้ มโกรก และการใหว้ คั ซีนป้องกนั โรคกล่องเสียงอกั เสบ ติดตอ่ 7. โรคมาเร็กซ์ เป็ นโรคทีม่ กั เป็ นกบั ไก่รุ่น ไก่สาว ซ่ึงเกิดจากเช้ือไวรัส ท่สี ะสมอยทู่ ่หี นงั ไก่บริเวณโคนขนของ ไก่ป่ วยเป็ นแผน่ เลก็ ๆ คลา้ ยข้ีรังแค ไก่ทเ่ี ป็ นโรคน้ีจะแสดงอาการหงอยซึม การเจริญเตบิ โตไม่ไดข้ นาด ในกรณี ทีเ่ ป็นอมั พาต ไก่จะอ่อนเพลีย กินน้ากินอาหารไม่ได้ การทรงตวั ไม่ปกติ เดินขาลาก แลว้ เป็ นอมั พาตเดินไม่ได้ การป้องกนั การสุขาภิบาล และการเล้ียงดูทด่ี ีไม่ใหไ้ ก่เครียด และการใหว้ คั ซีนป้องกนั โรคมาเร็กซ์

ใบงานที่ 8 เร่ือง....โรคของไก่ไข่ 1.โรคติดต่อทร่ี ้ายแรงที่สุดของไก่ในประเทศไทย คอื โรคอะไรจงอธิบาย …………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………. 2. . โรคหวดั ติดต่อหรือหวัดหน้าบวม เกิดจากอะไร …………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………….. ชื่อ..............................................................................ช้นั ......................เลขที่....................

แผนการจดั การเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ท5ี่ เร่ืองโรคและกำรสขุ ำภิบำล แผนจดั การเรียนรู้ท่ี2 เร่ืองการสุขาภบิ าลเบือ้ งต้น รายวิชา การเลยี้ งไก่ไข่ รหัสวิชา ง.20206ระดับช้ันมัธยมศึกษาปี ท่ี 1-3 ภาคเรียนท่ี 1 ปี การศึกษา 2562น้าหนักเวลาเรียน 1.00 (นน./นก.) เวลาเรียน 2 ช่ัวโมง/สัปดาห์ เวลาทใ่ี ช้ในการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ 8 ชั่วโมง .......................................................................................................................................................... 1. สาระสาคญั (ความเข้าใจทค่ี งทน) ในการเล้ียงไก่ไขใ่ หป้ ระสบผลสาเร็จน้นั ตอ้ งเล้ียงไก่ใหม้ ีสุขภาพดี สมบรู ณ์ แขง็ แรง จงึ จะใหผ้ ลผลิตสูง ดงั น้นั เราตอ้ งรู้จกั โรคและการป้องกนั โดยถือหลกั วา่ “กนั ไวด้ ีกวา่ แก”้ โดยทว่ั ไปแลว้ โรคทมี่ กั จะทาความเสียหาย ใหก้ บั การเล้ียงไก่ไข่ 2. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัดช้ันปี /ผลการเรียนรู้/เป้าหมายการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ 5.นกั เรียนสามารถรู้จกั โรคและการสุขาภิบาลไกไ่ ขเ่ บ้อื งตน้ ได้ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1.นกั เรียนสามารถอธิบายเก่ียวกบั การสุขาภบิ าลไก่ไข่เบ้อื งตน้ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม (K) 2.นกั เรียนสามารถจาแนกการสุขาภิบาลไกไ่ ข่ในแตร่ ะยะของการเจริญเตบิ โตไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง (P) 3.นกั เรียนใฝ่เรียนรูแ้ ละมุ่งมนั่ ในการทางานร่วมกบั ผอู้ ่ืนได้ (A) 4. สมรรถนะสาคญั ของนกั เรียน 4.2 ความสามารถในการคดิ 4.3 ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4.4 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ 5. คณุ ลกั ษณะของวิชา 1.ความรับผดิ ชอบ 2.ตรงต่อเวลา

6. คณุ ลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์ 1. ซื่อสตั ยส์ ุจริต 2. มีวนิ ยั 3. ใฝ่เรียนรู้ 4. มุ่งมนั่ ในการทางาน 7. ชิ้นงาน/ภาระงาน : - ใบกิจกรรมที่ 2 เรื่องการทาวคั ซีนไก่ไข่ ชิ้นงาน -.ใบงาน เร่ืองการทาวคั ซีนไก่ไข่ ภาระงาน -ใหน้ กั เรียนไปศึกษาเพมิ่ เติมเกี่ยวกบั การสุขาภิบาลไก่ไข่เบ้ืองตน้ ในระยะของการเจริญเตมิ โต 8. กิจกรรมการเรียนรู้: เวลาที่ใช้ 4 ช่ัวโมง ชั่วโมงท่ี 1-2 (ความสามารถในการวเิ คราะห/์ ใฝ่ เรียนรู้/เทคนิคการสืบคน้ ) - ข้ันนาเข้าสู่บทเรียน/ข้นั ต้งั คาถาม 1. ทกั ทายนกั เรียนก่อนเรียน 2. เชด็ ชื่อนกั เรียนก่อนเขา้ สู่บทเรียน ข้นั สอน 1.ครูอธิบายเกี่ยวกบั การทาวคั ซีนของไก่ไข่ 2.ครูใหน้ กั เรียนจดบนั ทกึ ตามที่ครูอธิบาย 3.ครูเปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนซกั ถามเร่ืองทีไ่ ม่เขา้ ใจ 4.ครูแจกใบความรู้และใบงาน เรื่องการทาวคั ซีนไก่ไข่ ใหน้ กั เรียนทาในชว่ั โมงเรียน 5.ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนไปศกึ ษาคน้ ควา้ เพมิ่ เตมิ เกี่ยวกบั การสุขาภบิ าลไก่ไข่เบ้อื งตน้ ในระยะของการ เจริญเตมิ โต ข้ันสรุป 1.ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปเน้ือหาทเ่ี รียนมา 2.ครูนดั หมายการเรียนคร้ังต่อไป

ชั่วโมงที่ 3-4 (ความสามารถในการวเิ คราะห์/ใฝ่ เรียนรู้/ช่วยกนั คดิ ช่วยกนั เรียน) - ข้ันนาเข้าสู่บทเรียน/ข้นั ต้งั คาถาม 1. ทกั ทายนกั เรียนก่อนเรียน 2. เช็ดช่ือนกั เรียนก่อนเขา้ สู่บทเรียน ข้นั สอน 1. ครูและนกั เรียนทบทวนบทเรียนที่ผา่ นมา 2. ครูใหน้ กั เรียนมาแลกเปล่ียนเรียนรูเ้ น้ือหาทคี่ รูมอบหมายในสปั ดาหท์ ผ่ี า่ นมา 3. ครูอธิบายเพม่ิ เตมิ เกี่ยวกบั การนาเสนอของนกั เรียนแตล่ ะคนที่ไปศกึ ษาคน้ ควา้ เพมิ่ เตมิ มา 4.ครูใหน้ กั เรียนจดบนั ทึกลงในสมุด ข้ันสรุป 1.ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปเน้ือหาท่ีเรียนมา 2.ครูนดั หมายการเรียนคร้ังต่อไป 9. สื่อการเรียนการสอน / แหล่งเรียนรู้ 1.ใบความรู้เรื่องการทาวคั ซีนไก่ไข่ 2.หอ้ งสมุด 3.อินเทอร์เน็ต 10. การวดั ผลและประเมินผล เป้าหมาย หลักฐานการเรียนรู้ วิธีวดั เครอื่ งมือวดั ฯ ประเด็น/ การเรียนรู้ ชิน้ งาน/ภาระงาน -ความถูกตอ้ ง เกณฑ์การใหค้ ะแนน ความเขา้ ใจ 1.มีเนือ้ หาสาระครบถว้ น นกั เรียนสามารถรู้จกั ใบงาน และความ ถูกตอ้ ง สมบูรณ์ 9-10 คะแนน โรคและการสุขาภิบาล 2.มเี นือ้ หาสาระคอ่ นข้างครบถว้ น ไก่ไข่เบ้ืองตน้ ได้ 7-8 คะแนน 3.มีเนอ้ื หาสาระไม่ครบถว้ นแต่ ภาพรวมของสาระทงั้ หมดอยู่ใน เกณฑ์ปานกลาง 5-6คะแนน

4. มเี นอ้ื หาสาระไมค่ รบถ้วนแต่ ภาพรวมของสาระทงั้ หมดอย่ใู น เกณฑ์ต้องพอใช้ 4-3 คะแนน 5.มเี นอ้ื หาเพยี งเล็กนอ้ ยแต่ภาพรวมของ สาระทงั้ หมดอยใู่ นเกณฑต์ ้องปรับปรุง 2-1 คะแนน 6.ไมม่ ีเน้ือหาเลย 0 คะแนน 11. การบรู ณาการตามจดุ เนน้ ของโรงเรยี น (ตวั อย่าง) หลักปรชั ญาเศรษฐกิจ ครู ผเู้ รยี น พอเพยี ง 36.ความพอประมาณ พอดดี า้ นการเล้ียงไกไ่ ข่ พอดีการเล้ียงไก่ไข่ ดูแลไกไ่ ขใ่ หแ้ ข็งแรงอย่างสมา่ เสมอ นักเรียนมคี วามรู้เบอ้ื งต้นเกีย่ วกบั การ เพอ่ื ป้องกนั การเกิดโรคและการทา สุขาภิบาล วัคซีน 37.ความมีเหตุผล การคานึงถงึ โรคท่อี าจจะเกดิ ข้ึนกบั ไก่ ร้ถู ึงการสุขาภบิ าลเบอ้ื งต้นทีเ่ หมาะสม ไขแ่ ละการทาวคั ซีนป้องกันโรค 38.มีภมู คิ ุมกนั ในตัวทีด่ ี ภมู ิปัญญา : มีความรู้ รอบคอบ และ ภูมปิ ญั ญา : มีความรู้ รอบคอบ และ ระมดั ระวัง ระมดั ระวงั สร้างสรรค์ 39.เง่อื นไขความรู้ ความรอบรู้ เรื่อง การเลย้ี งไกไ่ ข่ ความรอบรู้ เรอ่ื ง การเลี้ยงไก่ไข่ ที่เกยี่ วขอ้ งรอบด้าน ความรอบคอบท่ี นาความรเู้ หล่าน้นั มาพิจารณาให้ จะนาความร้เู หล่าน้ันมาพิจารณาให้ เช่ือมโยงกนั สามารถประยุกต์ใช้ใน เชื่อมโยงกนั เพ่ือประกอบการวางแผน ชวี ติ ประจาวัน การดาเนินการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ให้กบั ผู้เรียน

40.เง่อื นไขคุณธรรม มีความตระหนักใน คุณธรรม มี มีความตระหนักใน คุณธรรม มี ความซ่อื สตั ยส์ ุจริตและมีความอดทน ความซอ่ื สตั ย์สุจรติ และมีความอดทน มีความเพียร ใชส้ ตปิ ญั ญาในการ มีความเพียร ใช้สตปิ ัญญาในการ ดาเนนิ ชวี ติ ดาเนินชีวติ สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น ครู ผู้เรยี น สิง่ แวดล้อม ครู ผู้เรยี น ลงชอื่ ..................................................ผ้สู อน (นายวิฑูรย์ คาแสนสุข)

บันทกึ หลงั สอน ผลการจัดการเรียนการสอน ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................. ปัญหา/อุปสรรค ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ..................................................................................................................... แนวทางแก้ไข ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ..................................................................................................................... ลงช่ือ.......................................ผู้บนั ทึก (.....................................................) ................./................/.................

บนั ทึกความเห็นของผู้ตรวจสอบแผนการเรียนรู้ ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................... ลงช่ือ..................................................ผู้ตรวจ (..................................................................) หัวหน้ากล่มุ สาระการเรียนรู้.................................................... .............../.................../................ บนั ทึกความเห็นของผู้ตรวจสอบแผนการเรียนรู้ .................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................. .................................................................................................. ลงช่ือ...................................ผู้ตรวจ (......................................................) รองผู้อานวยการกลุ่มบริหารวิชาการ......./......./........ บันทกึ ข้อเสนอแนะผู้บริหาร .................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................. .................................................................................................. ลงชื่อ......................................... (................................................) ผู้อานวยการโรงเรียน......./......./......

ใบความรู้ที่ 9 เรื่อง....การสุขาภิบาลเบือ้ งต้น วคั ซีน วคั ซีนเป็นผลิตภณั ฑท์ ่เี ตรียมข้นึ จากส่วนของเช้ือโรคหรือเช้ือทท่ี าใหเ้ กิดโรค ซ่ึงเมื่อฉีดเขา้ ร่างกายสตั วก์ ็สามาร รถทาใหส้ ตั วส์ รา้ งภมู ิคุม้ กนั โรคได้ และภูมิคุม้ กนั โรคน้นั สามารถทจี่ ะป้องกนั สตั วไ์ ม่ใหป้ ่ วยเป็ นโรคน้นั ชนิด ของวคั ซีนแบ่งออกได้ 2 ชนิดใหญๆ่ คือ 1. วัคซีนเชื้อเป็ น เป็ นวคั ซีนทเี่ ตรียมจากเช้ือทม่ี ีความรุนแรงแตถ่ ูกทาใหอ้ ่อนแอลง หรือถูกทาใหเ้ กิดการ เปล่ียนแปลงไปเป็นจลุ ชีพทไ่ี ม่มีความรุนแรง ซ่ึงไม่สามารถทาใหเ้ กิดโรคได้ จลุ ชีพเหล่าน้ีสามารถแบง่ ตวั เพม่ิ จานวนไดเ้ ม่ือเขา้ สู่ร่างกาย ทาใหเ้ กิดความเครียดหรือเกิดอาการแพว้ คั ซีน วคั ซีนเช้ือเป็นสามารถใหไ้ ก่ไดท้ ีละตวั โดยการหยอดตาหรือหยอดจมูก หรือใหไ้ ก่เป็ นกลุ่มโดยการละลายในน้าดื่ม หรือการสเปรย์ ทาใหป้ ระหยดั แรงงาน วคั ซีนเช้ือเป็นสามารถถูกทาลายไดง้ ่ายโดยภมู ิคุม้ กนั ท่ีถ่ายทอดมาจากแม่แต่ใหค้ วามคุม้ โรคสูง อาจทา ใหส้ ตั วเ์ กิดโรคได้ แต่การเกบ็ รักษายงุ่ ยากกวา่ วคั ซีนเช้ือตาย และมีราคาถูก 2. วคั ซีนเชื้อตาย เป็ นวคั ซีนทมี่ กั เตรียมจากเช้ือทค่ี วามรุนแรงท่ถี ูกทาใหต้ ายโดยทางเคมีหรือฟิ สิกส์ จุลชีพ เหล่าน้ีไม่สามารถแบง่ ตวั เพมิ่ จานวนไดเ้ ม่ือเขา้ สู่ร่างกาย จงึ มีความปลอดภยั แตใ่ หค้ วามคุม้ โรคต่า วคั ซีนเช้ือตาย จะใหโ้ ดยวธิ ีการฉีดเทา่ น้นั สารทใ่ี ชผ้ สมกบั วคั ซีนจะเป็ นน้ามนั หรืออลูมินม่ั ไฮดร็อกไซด์ สามารถกระตนุ้ ให้ เกิดภูมิคุม้ กนั ไดด้ ี วคั ซีนเช้ือตายมีราคาแพงแตเ่ ก็บรักษางา่ ย

การทาวัคซีน การทาวคั ซีนไก่สามารถทาไดห้ ลายวธิ ีท้งั น้ีข้ึนอยกู่ บั ชนิดของวคั ซีนที่ใชแ้ ละชนิดของโรค 1. การหยอดตาหรือหยอดจมูก เป็ นการสรา้ งภมู ิคุม้ กนั เฉพาะที่ เพอื่ ป้องกนั โรคที่เกิดข้ึนกบั ระบบทางเดิน หายใจ เช่น โรคนิวคาสเซิล และหลอดลมอกั เสบ โดยละลายวคั ซีนในน้ายาละลายวคั ซีน (น้ากลน่ั ที่ อุณหภมู ิหอ้ ง) การใชน้ ้าเยน็ จดั อาจทาใหเ้ ยอ่ื บุอกั เสบ ขวดทใ่ี ชห้ ยอดวคั ซีนควรเป็นขวดมาตรฐาน เพอ่ื ใหล้ ูกไก่ ไดร้ บั วคั ซีนครบโดส๊ การหยอดตาใหห้ ยอดวคั ซีน 1-2 หยดต่อไก่ 1 ตวั ตาแหน่งทีจ่ ะหยอดวคั ซีนก็คอื ที่บริเวณ มุมตาดา้ นใน รอจนกระทง่ั วคั ซีนเขา้ ไปในตาจึงปล่อยไก่ การหยอดจมูกจะใหผ้ ลดีกวา่ การหยอดตา การหยอด โดยใชน้ ้ิวมือปิ ดรูจมูกไวข้ า้ งหน่ึงแลว้ จงึ หยอดวคั ซีนในรูจมูกอีกขา้ งหนึง การทาวคั ซีนโดยการหยอดตาและ หยอดจมูกทาใหไ้ ก่ทุกตวั ไดร้ ับปริมาณวคั ซีนที่ใกลเ้ คยี งกนั ทกุ ๆ ตวั ดงั น้นั ภูมิคุม้ โรคท่เี กิดจึงมีระดบั ใกลเ้ คยี ง กนั เพยี งแต่วิธีการทายงุ่ ยาก เสียเวลา และเสียแรงงานมากกวา่ เท่าน้นั 2. การแทงปี ก เป็ นการสร้างภมู ิคุม้ กนั เฉพาะท่ี คอื บริเวณใตผ้ ิวหนงั เช่น วคั ซีนป้องกนั โรคฝีดาษ เป็ นวคั ซีนท่ีมี ความเขม้ ขน้ มาก เนื่องจากใชน้ ้ายาละลายวคั ซีนเพยี งเล็กนอ้ ย และใชเ้ ขม็ จุ่มวคั ซีนคร้ังละ 0.01 ซี.ซี. โดยสงั เกต จากการทีว่ คั ซีนเตม็ รูเขม็ ท้งั สองขา้ ง แลว้ แทงเข็มจากทางดา้ นลา่ งผา่ นทะลุผนงั ของปี กไก่ ระวงั อยา่ ใหแ้ ทงผา่ น ขน กลา้ มเน้ือ หรือกระดูก ภายใน 7-10 วนั หลงั จากทาวคั ซีนจะเกิดรอยสะเก็ดแผลท้งั ดา้ นบนและดา้ นล่างของ ผนงั ปี กไก่ซ่ึงเกิดจากการแทงเขม็ ผา่ น 3. การฉีดเข้าใต้ผวิ หนัง เป็นวธิ ีทีน่ ิยมใชใ้ นการทาวคั ซีนป้องกนั โรคมาเร็กซ์ โดยฉีดเขา้ ใตผ้ วิ หนงั บริเวณทา้ ย ทอยหรือฐานคอ ทาใหก้ ารสรา้ งภมู ิคุม้ กนั เกิดข้นึ อยา่ งชา้ ๆ แตใ่ หผ้ ลในการคุม้ กนั โรคนาน 4. การฉีดเข้ากล้ามเนื้อ เป็ นวธิ ีทนี่ ิยมใชก้ บั วคั ซีนชนิดเช้ือตาย ซ่ึงจะฉีดเขา้ กลา้ มเน้ือหนา้ อก การฉีดเขา้ กลา้ มเน้ือจะกระตนุ้ การสรา้ งภมู ิคุม้ กนั ดีกวา่ การหยอดตาและจมูก เพราะจะไปกระตนุ้ ระบบภมู ิคุม้ กนั ดว้ ยสาร นาข้นึ ในกระแสเลือดและเกิดการหมุนเวยี นไปทว่ั ร่างกาย ทาให้ภมู ิคุม้ กนั เกิดข้นึ อยา่ งรวดเร็ว ไดแ้ ก่ การฉีด วคั ซีนป้องกนั โรคอหิวาตไ์ ก่ เป็ นตน้ 5. การละลายนา้ ด่ืม เป็ นวธิ ีท่ที าไดง้ า่ ย ประหยดั แรงงาน และเหมาะสาหรบั ไก่จานวนมากๆ แต่การสร้าง ภมู ิคุม้ กนั จะมีความผนั แปรคอ่ นขา้ งมาก เน่ืองจากไก่แตล่ ะตวั ไดร้ บั วคั ซีนในปริมาณท่แี ตกตา่ งกนั ดงั น้นั จะตอ้ งหยดุ ใหน้ ้าไก่เป็นเวลาอยา่ งนอ้ ย 2 ชว่ั โมงก่อนทาวคั ซีน เพอื่ กระตุน้ ใหไ้ ก่กระหายน้าและกินน้าผสม วคั ซีนใหห้ มดภายใน 2 ชว่ั โมง ระยะเวลาในการอดน้าจะข้ึนอยกู่ บั สภาพอากาศ อุปกรณ์ใหน้ ้าตอ้ งเพยี งพอ

สาหรบั ไก่จานวน 2 ใน 3 ของคอกสามารถเขา้ ไปกินน้าไดพ้ ร้อมๆ กนั ถา้ ไม่พออาจเพม่ิ อุปกรณ์ใหน้ ้าข้นึ มา ชว่ั คราวสาหรับการน้ีโดยเฉพาะ จดุ น้ีถือวา่ เป็ นส่วนที่สาคญั ทีส่ ุด เพราะการลม้ เหลวจากการใหว้ คั ซีนน้ีมกั เกิด จากระบบน้าไมถ่ ูกตอ้ งและอุปกรณ์ไม่เพยี งพอ สาหรบั ปริมาณน้าทใ่ี ชล้ ะลายวคั ซีนจะผนั แปรไปตามอายขุ องไก่ ดงั น้ี อายุ 1 สปั ดาห์ ใชน้ ้า 2-5 ลิตรตอ่ ไก่ 1,000 ตวั อายุ 2-3 สปั ดาห์ ใชน้ ้า 9-11 ลิตรต่อไก่ 1,000 ตวั อายุ 5-7 สปั ดาห์ ใชน้ ้า 14-18 ลิตรตอ่ ไก่ 1,000 ตวั อายมุ ากกวา่ 7 ใชน้ ้า 20-23 ลิตรต่อไก่ 1,000 ตวั สปั ดาห์ 6. การสเปรย์ เป็ นวธิ ีที่นิยมมากสาหรับการทาวคั ซีนคร้ังแรกในลูกไก่อายุ 1 วนั เพอื่ ป้องกนั โรคตดิ เช้ือจาก ไวรัสในระบบทางเดินหายใจ อาจสเปรยต์ ้งั แต่ในโรงฟักหรือโรงเรือนท่ีเล้ียง โดยสเปรยใ์ ส่ลูกไก่ท่อี ยใู่ นกล่อง เลย ลูกไก่จะไดร้ บั วคั ซีนผา่ นทางลูกตาหรือจมูก เป็นวธิ ีทท่ี าไดร้ วดเร็ว สามารถให้วคั ซีนแก่ไก่จานวนมากๆ ใน ระยะเวลาอนั ส้นั แตป่ ระมาณวคั ซีนทีไ่ ดร้ บั อาจแตกต่างกนั ไป การสเปรยค์ วรสเปรยใ์ หพ้ อหมาดๆ ไม่ควรใหต้ วั ลูกไก่เปี ยกโชก และควรทง้ิ ลูกไก่ไว้ 10-15 นาที เพอ่ื ใหต้ วั แห้

ใบงานที่ 9 เรื่อง....การสุขาภบิ าลเบื้องต้น 1.วธิ ีท่นี ิยมมากสาหรบั การทาวคั ซีนคร้ังแรกในลูกไก่อายุ 1 วนั คอื วคั ซีนใด แลว้ ทาวคั ซีนน้ีเพอ่ื อะไร จงอธิบาย …………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………. 2. . การทาวคั ซีนใด ที่ทาไดง้ ่าย ประหยดั แรงงาน และเหมาะสาหรบั ไก่จานวนมากๆ จงอธิบาย …………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………. ชื่อ..............................................................................ช้นั ......................เลขที่....................


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook