Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การใช้น้ำอย่างรู้คุณค่าในการปลูกพืชไร่

การใช้น้ำอย่างรู้คุณค่าในการปลูกพืชไร่

Published by กศน.ตำบลฟ้าห่วน, 2021-05-03 07:37:34

Description: การใช้น้ำอย่างรู้คุณค่าในการปลูกพืชไร่

Search

Read the Text Version

เอกสารค�ำแนะนำ� ท่ี 2/2558 การใชน้ ำ้� อยา่ งรคู้ ณุ คา่ ...ในการปลกู พชื ไร่ ทีป่ รึกษา : นายโอฬาร พทิ กั ษ ์ อธิบดกี รมสง่ เสรมิ การเกษตร นายสรุ พล จารพุ งศ์ รองอธบิ ดีกรมสง่ เสรมิ การเกษตร ฝา่ ยบริหาร นายไพรัช หวงั ด ี รองอธิบดกี รมสง่ เสริมการเกษตร ฝ่ายวิชาการ นายสงกรานต์ ภกั ดคี ง รองอธบิ ดกี รมสง่ เสริมการเกษตร ฝา่ ยส่งเสริมและฝกึ อบรม ผ้เู ชย่ี วชาญกรมสง่ เสรมิ การเกษตร นางสุกญั ญา อธปิ อนนั ต ์ ผู้อำ� นวยการสำ� นักพฒั นาการถา่ ยทอดเทคโนโลยี นางดาเรศร์ กิตติโยภาส ผอู้ �ำนวยการกองประสานงานโครงการพระราชดำ� รแิ ละพ้ืนทเ่ี ฉพาะ เรียบเรยี ง : กลุ่มโครงการพระราชดำ� ริ กองประสานงานโครงการพระราชดำ� ริและพนื้ ทีเ่ ฉพาะ กล่มุ สง่ เสรมิ ระบบการให้นำ้� พชื และโรงเรือนเกษตร กองสง่ เสริมวิศวกรรมเกษตร สำ� นักสง่ เสริมและจดั การสนิ คา้ เกษตร จดั ทำ� โดย : กลุ่มพัฒนาสอื่ ส่งเสรมิ การเกษตร สำ� นกั พัฒนาการถ่ายทอดเทคโนโลยี กรมส่งเสริมการเกษตร พิมพค์ รัง้ ท่ี 1 : ปี 2558 จ�ำนวน 10,000 เลม่ พิมพ์ท่ี : ชุมนุมสหกรณก์ ารเกษตรแห่งประเทศไทย จ�ำกัด SSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSS

คำ� นำ� กรมส่งเสริมการเกษตร ได้จัดท�ำโครงการเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เน่ืองในโอกาสมหามงคลเฉลิม พระชนมพรรษา 87 พรรษา 5 ธนั วาคม 2557 ในหวั ขอ้ “ใชน้ ้�ำอยา่ ง รู้คุณคา่ ปวงประชาถวายพ่อของแผ่นดิน” เพอ่ื เป็นการนอ้ มรำ� ลึกถึง พระมหากรณุ าธคิ ณุ ทม่ี ตี อ่ วถิ ชี วี ติ และความเปน็ อยขู่ องประชาชน ซงึ่ เป็นผลมาจากพระอัจฉริยภาพด้านนำ�้ เอกสารคำ� แนะนำ� “การใชน้ ำ�้ อยา่ งรคู้ ณุ คา่ ...ในการปลกู พชื ไร”่ เป็นเอกสารที่จัดท�ำขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของโครงการเทิดพระเกียรติฯ เพื่อให้ศูนย์เรียนรู้ด้านการเพ่ิมประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร ได้น�ำไปใชเ้ ป็นแนวทางการสง่ เสริม เผยแพร่ และถ่ายทอดเทคโนโลยี การบรหิ ารจดั การน�้ำในรปู แบบตา่ ง ๆ แล้วไดน้ ำ� ไปปรับใช้ใหเ้ หมาะสม กับการด�ำเนินการของตนเองและพ้ืนท่ีใกล้เคียง เพื่อให้เกษตรกร ได้ตระหนักและเห็นถึงแนวทางการใช้ประโยชน์จากน�้ำอย่างรู้คุณค่า และมีประสิทธิภาพ กรมสง่ เสรมิ การเกษตรหวงั เปน็ อยา่ งยง่ิ วา่ เอกสารคำ� แนะนำ� ฉบับน้ี จะเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรท่ีได้เข้ามาเรียนรู้ด้านการเพ่ิม ประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร ซ่ึงสามารถน�ำไปปรับใช้และ ปรับปรงุ การดำ� เนนิ งานในอาชพี การเกษตรของตนเองตอ่ ไป กรมส่งเสริมการเกษตร พฤษภาคม 2558 SSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSกSารSใชS้นS้�ำอSยSา่ SงรSู้คSุณSคา่S.S..ใSนกSาSรปSลSกู SพSชื ไSร่SS1SSSSSSSS

SSSSSSSSS2SSกSาSรใSชS้น�้ำSอSย่าSงSร้คูSุณSคSา่ S...SในSกSารSปSลSูกพSืชSไรS่ SSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSS

สารบญั หนา้ คุณคา่ แห่งน้�ำ 4 น้ำ� ของพ่อ น้ำ� ของแผ่นดนิ 5 หลกั การใหน้ ำ้� แก่พืช 6 การใช้น้�ำอย่างรู้คณุ ค่า…ในการปลกู พชื ไร่ 7 7 ระบบการให้นำ�้ 7 (1) การให้น�้ำแบบฉีดฝอย โดย ระบบมินสิ ปริงเกลอร์ 8 (2) การให้น้�ำแบบเฉพาะจดุ โดย ระบบนำ้� หยด 10 การให้นำ้� ทเ่ี หมาะสมและสอดคลอ้ งกบั ความต้องการของพืชไร่ 10 (1) การใหน้ �ำ้ ขา้ วโพดเลย้ี งสัตว์ 11 (2) การให้นำ้� มันสำ� ปะหลัง 12 (3) การใหน้ �้ำอ้อย 14 (4) การให้นำ้� พชื ไร่อื่น ๆ ตวั อย่างเกษตรกรที่ประสบความส�ำเร็จ 18 (1) นายจีระศักด์ิ ประทุมศรี SSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSกSารSใชS้นSำ้� อSยS่าSงรSู้คSุณSค่าS.S..ใSนกSาSรปSลSกู SพSชื ไSร่SS3SSSSSSSS

คุณคา่ แห่งน�้ำ นับต้ังแต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ ทรงพระอุตสาหะเสด็จพระราชด�ำเนินเย่ียมเยียนราษฎรไทยท่ัวภูมิภาค ทรงประจักษ์ แจ้งในทุกข์สุขของราษฎร ทรงทราบว่าราษฎรในชนบทยากจนเพราะการประกอบอาชีพ เกษตรกรรมไม่ได้ผล เน่ืองจากขาดแคลนน�้ำ ทรงตระหนักดีกว่า “น้�ำ” มีความส�ำคัญ ต่อการประกอบอาชีพและด�ำรงชีวิตของราษฎรในชนบท ท้ังน้�ำใช้ อุปโภคบริโภค และน�้ำเพ่ือการเกษตร ดังพระราชด�ำรัส ณ สวนจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต เมอื่ วันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2529 ความตอนหน่ึงว่า ““...หลักส�ำคัญต้องมีน�้ำบริโภค น�้ำใช้ น�้ำเพื่อการเพาะปลูก เพราะวา่ ชีวติ อยทู่ ี่นน้ั ถา้ มนี �้ำคนอยไู่ ด้ ถา้ ไมม่ นี ้�ำคนอยูไ่ ม่ได้ ไมม่ ีไฟฟ้า คนอยู่ได้ แต่ถา้ มีไฟฟา้ ไม่มีนำ้� คนอยไู่ มไ่ ด้...”” ดงั นนั้ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั จงึ ทรงทมุ่ เทพระวรกายในการศกึ ษาพฒั นา และจัดการทรัพยากรน้�ำ ด้วยทรงมีความเช่ือม่ันว่าเม่ือใดที่สามารถแก้ไขหรือบรรเทา ความเดอื ดรอ้ นในเรอ่ื งนำ�้ ใหแ้ กร่ าษฎร เพอ่ื ใหร้ าษฎรมนี ำ้� กนิ นำ�้ ใชแ้ ละเพอ่ื การเพาะปลกู ตลอดจนไม่มีปัญหาเกี่ยวกับน�้ำที่มีความเสียหายให้แก่พืชท่ีเพาะปลูกแล้ว เมื่อน้ัน ราษฎรยอ่ มมีฐานะความเปน็ อย่ทู ด่ี ีข้นึ กว่าเดิม SSSSSSSSS4SSกSาSรใSชS้น�ำ้SอSย่าSงSรคู้SุณSคSา่ S...SในSกSารSปSลSูกพSชื SไรS่ SSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSS

นำ้� ของพ่อ น้ำ� ของแผ่นดนิ ด้วยพระอัจฉริยภาพด้านน�้ำของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระราช กรณยี กจิ ดา้ นการแสวงหาแหลง่ นำ�้ และการบรหิ ารจดั การนำ�้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงได้จัดท�ำโครงการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาส มหามงคลเฉลมิ พระชนมพรรษา 87 พรรษา 5 ธนั วาคม 2557 ในหวั ขอ้ “ใชน้ ำ้� อยา่ งรคู้ ณุ คา่ ปวงประชาถวายพ่อของแผ่นดิน” โดยใช้ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต สินคา้ เกษตรทม่ี ีอย่ทู ว่ั ประเทศทง้ั 77 จงั หวดั จำ� นวน 882 ศูนย์ เกษตรกร 88,200 คน เป็นตัวขับเคล่ือนการด�ำเนินงานโครงการ โดยเน้นกิจกรรมการถ่ายทอดความรู้และ เทคโนโลยีการบริหารจัดการน้�ำท่ีเหมาะสมในการปลูกพืชท่ีเป็นสินค้าหลักของ แต่ละศูนย์ ออกเป็น 4 กลุ่ม คือ 1. การใชน้ ำ้� อยา่ งรูค้ ุณคา่ ..ในการ “ท�ำนา” 2. การใชน้ ้ำ� อยา่ งรู้คณุ ค่า..ในการ “ปลกู พืชไร่” 3. การใชน้ ำ้� อยา่ งรคู้ ุณคา่ ..ในการ “ปลกู ไม้ผล ไมย้ นื ตน้ ” 4. การใช้น�ำ้ อย่างรคู้ ณุ ค่า..ในการ “ปลูกพชื ผัก และพชื สมนุ ไพร” SSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSกSารSใชS้นSำ้� อSยS่าSงรSู้คSุณSคา่S.S..ใSนกSาSรปSลSกู SพSชื ไSร่SS5SSSSSSSS

หลกั การใหน้ ้ำ� พชื “น้�ำ”...เป็นปัจจัยหลักส�ำหรับการเพาะปลูกพืช ภายใต้สภาพการปลูกพืช ที่มีน�้ำเพียงพอ ธาตุอาหารอุดมสมบูรณ์ สภาพภูมิอากาศเหมาะสมแล้วพืชสามารถ สังเคราะห์แสง สร้างอาหารเพื่อน�ำไปใช้ในการเจริญเติบโต เก็บสะสมอาหารให้เป็น ผลผลิตที่มนุษย์ต้องการได้อย่างเต็มท่ี การปลูกพืชจึงต้องได้รับน้�ำอย่างเพียงพอและ เหมาะสมตามระยะเวลาท่ีต้องการ หลักการให้น้�ำเพ่ือการเจริญเติบโตของพืชอย่างมีคุณภาพและให้ผลตอบแทน สงู นน้ั จะตอ้ งคำ� นงึ ถงึ วา่ ควรใหน้ ำ้� แกพ่ ชื เมอื่ ใด และใหป้ รมิ าณนำ้� เทา่ ใด ซงึ่ ในทางปฏบิ ตั ิ จะมปี ัจจัย 3 ประการทตี่ ้องคำ� นงึ ถงึ คือ ดนิ น้ำ� และพชื ดงั นี้ 1. ดิน...ความสามารถในการอุ้มน้ำ� ของดินในเขตรากพชื 2. นำ้� ...ปริมาณของน�ำ้ ทีต่ อ้ งจดั หามาใหแ้ กพ่ ชื 3. พืช...ปริมาณน้ำ� ทีพ่ ืชตอ้ งการในช่วงเวลาต่างๆ ตลอดอายุพืช ในการอมุ้ นำ�้ ของดนิ ในเขตรากพชื และปรมิ าณนำ�้ ทพี่ ชื ตอ้ งการในแตล่ ะชว่ งเวลา ต่าง ๆ ตลอดอายุของพืชเป็นข้อมูลส�ำคัญเบื้องต้นที่จะต้องน�ำมาใช้ก�ำหนดความถี่และ ปรมิ าณน�้ำในการใหน้ ำ้� แตล่ ะคร้งั SSSSSSSSS6SSกSาSรใSชSน้ �้ำSอSยา่SงSรู้คSณุ SคSา่ S...SในSกSารSปSลSกู พSชื SไรS่ SSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSS

การใช้น�้ำอย่างร้คู ณุ ค่า...ในการปลูกพชื ไร่ พืชไร่ เป็นพืชที่ปลูกเป็นแปลงมีระบบการปลูกเป็นแถวประมาณ 1-2 เมตร จึงสามารถให้น้�ำได้หลายวิธี ในพ้ืนที่ซ่ึงมีความสม่�ำเสมอและความลาดชันไม่มากเกิน ไปสามารถให้น�้ำด้วยระบบการให้น�้ำบนผิวดินท่ีเรียกว่า การให้น้�ำแบบร่องคู โดยให้ น้�ำไหลไปตามร่องซึ่งปรับระดับความลาดชันให้สม�่ำเสมอน้�ำจะซึมทางด้านข้าง ไปยังรากพืช แต่วิธีนี้ค่อนข้างส้ินเปลืองน�้ำเพราะเกิดการสูญเสียไปได้มาก ปัจจุบัน มีระบบให้น้�ำทีม่ ปี ระสทิ ธิภาพโดยการให้น้ำ� ทางทอ่ ด้วยแรงดัน ระบบการใหน้ ้�ำท่เี หมาะสม 1. การให้น้�ำแบบฉีดฝอย โดยระบบมินสิ ปริงเกลอร์ เป็นการให้น้�ำโดยฉีดน้�ำขึ้นไปบนอากาศเหนือต้นพืชกระจายเป็นฝอยแล้ว ให้เม็ดน้�ำตกลงมาบนพ้นื ท่ีเพาะปลูก โดยมีเคร่ืองสูบน�้ำเป็นอุปกรณ์ส่งน้�ำผ่านระบบท่อ ด้วยแรงดันสูงเพื่อให้น้�ำฉีดเป็นฝอยออกทางหัวปล่อยน้�ำท่ีเรียกกันว่าระบบสปริงเกลอร์ หรือฝนโปรยซ่ึงเป็นระบบที่ใช้แรงดันต้ังแต่ 20 เมตรข้ึนไป และมีอัตราการไหล ของหัวปล่อยน�้ำต้ังแต่ 250 ลิตรต่อช่ัวโมงขึ้นไป เหมาะส�ำหรับการให้น�้ำในบริเวณกว้าง ครอบคลุม พื้นทไ่ี ด้มาก เชน่ พชื ไร่ และพชื ผกั ระบบสปริงเกลอร์เหมาะกับสภาพ แหล่งน�้ำที่มีปริมาณน�้ำมากเพียงพอ คุณภาพน้�ำ ปานกลาง การดูแลง่าย ปัญหาการอุดตันน้อย อาจไมจ่ ำ� เปน็ ตอ้ งมรี ะบบการกรองแตห่ ากคณุ ภาพนำ้� ตำ่� มีสิ่งเจือปนมากก็จ�ำเป็นต้องมีระบบการกรอง แรงดนั ทใ่ี ชใ้ นระบบตอ้ งคอ่ นขา้ งสงู ทำ� ใหก้ ารลงทนุ ดา้ นเครอื่ งสบู นำ้� และคา่ ใชจ้ า่ ยดา้ นพลงั งานสงู ทส่ี ดุ เมือ่ เปรยี บเทียบกับระบบน้�ำชนดิ อน่ื ๆ SSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSกSารSใชSน้ S�้ำอSยSา่ SงรSู้คSณุ Sคา่S.S..ใSนกSาSรปSลSูกSพSืชไSร่SS7SSSSSSSS

ระบบสปรงิ เกลอรเ์ หมาะสำ� หรบั พชื ไร่ เช่น มันสำ� ปะหลงั ออ้ ย ขา้ วโพด และสบั ปะรดเปน็ ตน้ ระยะระหวา่ งทอ่ ยอ่ ย และระยะระหว่างหัวสปริงเกลอร์ ต้ังแต่ 10 เมตรขึน้ ไป เช่น ตดิ ตง้ั หัวสปรงิ เกลอร์ อัตราการไหล 1 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง รศั มีการกระจายน�ำ้ 10-12 เมตร ทกุ ระยะ 10 x 10 เมตร 2. การใหน้ ำ้� แบบเฉพาะจดุ โดยระบบน�ำ้ หยด เป็นระบบที่ใช้แรงดัน 5-10 เมตร และอัตราการไหลของหัวปล่อยน�้ำ 2-8 ลิตรต่อช่ัวโมง ปล่อยน้�ำจากหัวปล่อยน้�ำสู่ดินโดยตรง แล้วซึมผ่านดินไปในบริเวณ เขตรากพืชด้วยแรงดูดซับของดินเหมาะส�ำหรับพืชไร่ พืชผัก ท่ีปลูกเป็นแถวชิดหรือ ไมผ้ ลบางชนดิ ระบบนำ�้ หยดเหมาะสมกบั สภาพแหลง่ นำ�้ ทม่ี ปี รมิ าณนำ้� จำ� กดั คณุ ภาพนำ้� ดี รูปล่อยน้�ำมีขนาดเล็กมากจึงต้องมีระบบการกรองที่ดีเพื่อไม่ให้เกิดการอุดตัน ผู้ใช้ ต้องหม่นั ตรวจสอบและลา้ งกรองอย่างสม�ำ่ เสมอทุกวนั ระบบน้�ำหยดเหมาะสมการให้น้�ำกับพืชไร่ที่มีการปลูกเป็นแถวชิด เช่น มนั สำ� ปะหลงั อ้อย ข้าวโพด สามารถใชเ้ ทปน�ำ้ หยดวางตามแถวปลกู ทกุ แถวโดยใชเ้ ทป นำ�้ หยดท่ีมีอัตรา 1.5–2.5 ลิตรต่อชว่ั โมง ทกุ ช่องทางออกระยะ 20-30 เซนติเมตร SSSSSSSSS8SSกSาSรใSชS้นำ�้SอSย่าSงSรคู้Sณุ SคSา่ S...SในSกSารSปSลSกู พSชื SไรS่ SSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSS

ตัวอย่าง ลักษณะการตดิ ตงั้ ระบบนำ�้ หยดส�ำหรบั ขนาดพน้ื ท่ี กว้าง 40 เมตร ยาว 80 เมตร ตารางเปรยี บเทียบระบบการให้น�้ำ ระบบ แรงดันนำ�้ อตั ราการไหล ระยะเวลา ข้อดี ขอ้ จ�ำกดั สปริง ใหน้ ำ้� เกลอร์ สงู มาก นอ้ ย ● กระจายน�้ำเป็น ● สูญเสียน้�ำมาก น�้ำหยด (20 เมตรขึน้ ไป) (250 ลติ รตอ่ วงกวา้ ง จงึ ใชอ้ ปุ กรณ์ จากการระเหยและ ช่ัวโมงข้นึ ไป) น้อย กระจายไปตามลม ● ไม่มีปัญหาการ ● ลงทุนสูงและใช้ อดุ ตนั ดูแลงา่ ยและ พลังงานมาก ใช้กรองเฉพาะ หั ว ฉี ด ข น า ด เ ล็ ก เท่านน้ั ต่ำ� ต�่ำ มาก ● ประหยัดน�้ำและ ● อดุ ตนั งา่ ยตอ้ งใช้ (5-10 เมตร) (2-8 ลติ รตอ่ ใชพ้ ลงั งานนอ้ ยทส่ี ดุ เครอ่ื งกรองละเอยี ดมาก ชว่ั โมง) (ขนาด 140 เมช) ต้องตรวจสอบและ ลา้ งไสก้ รองทกุ วนั ● การวางบนพนื้ ดนิ ท�ำให้ตรวจสอบการ อดุ ตนั ยาก เมอ่ื พบพชื อาจเกิดความเสีย หายแล้ว SSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSกSารSใชS้นS้ำ� อSยSา่ SงรSู้คSณุ Sคา่S.S..ใSนกSาSรปSลSกู SพSืชไSร่SS9SSSSSSSS

การให้น้�ำทีเ่ หมาะสมและสอดคล้องกบั ความตอ้ งการของพืชไร่ 1. การใหน้ ำ�้ ข้าวโพดเล้ียงสัตว์ ข้าวโพดใช้ระยะปลูกระหว่างแถว 75 เซนติเมตร ระหว่างต้น 25 เซนติเมตร เหมาะกับระบบเทปน�้ำหยดซึ่งมักวางเทปน�้ำหยดตามแถวปลูกให้น้�ำกระจายไปทั่วแถว ปลกู ข้าวโพดต้องการนำ้� ใน 1 ฤดูปลกู 720-960 ลกู บาศกเ์ มตร/ไร่ การปลกู ในฤดแู ล้ง ต้องให้น�้ำคร้ังแรกหลังการปลูกทันทีเพื่อให้เมล็ดงอก และให้น�้ำสม่�ำเสมอในช่วงตลอด ฤดูปลูกใหน้ ำ�้ เฉลยี่ 4-5 มลิ ลเิ มตรตอ่ วัน ชว่ งการเจรญิ เติบโต ปริมาณการให้น้�ำตอ่ วนั 1-20 วนั 2 มม. หรือ 3.2 ลบ.ม. /ไร่ 21-50 วัน 4 มม. หรือ 6.4 ลบ.ม. /ไร่ 51-90 วนั 5.75 มม. หรือ 9.2 ลบ.ม. /ไร่ 91-120 วัน 3.5 มม. หรอื 5.6 ลบ.ม./ไร่ SSSSSSSS1S0SSกSาSรใSชSน้ ้�ำSอSย่าSงSรู้คSณุ SคSา่ S...SในSกSารSปSลSกู พSืชSไรS่ SSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSS

2. การให้น้ำ� มนั สำ� ปะหลัง มันส�ำปะหลังใช้ระยะปลูกระหว่างแถว 0.8-1 เมตร ระหว่างต้น 0.8-1 เมตร เหมาะกับระบบเทปน้�ำหยด มันส�ำปะหลังต้องการน�้ำใน 1 ฤดูกาลปลูก ไม่น้อยกว่า 800 มลิ ลิเมตร หรือ 1,280 ลูกบาศก์เมตรตอ่ ไร่ ต้องให้น้ำ� ครง้ั แรกหลงั การปลกู เพอ่ื ให้ ตน้ พนั ธตุ์ งั้ ตวั ได้ และตลอดฤดปู ลกู เฉลย่ี 3.6-4.5 มลิ ลเิ มตร การขาดนำ้� ในชว่ งเจรญิ เตบิ โต อายุ 1-5 เดือนจะทำ� ให้ผลผลติ ลดลง ชว่ งการเจริญเตบิ โต ปรมิ าณการใหน้ ้�ำตอ่ วนั 1-45 วนั 2 มม. หรือ 3.2 ลบ.ม./ไร่ 46-110 วนั 3.6 มม. หรือ 5.76 ลบ.ม./ไร่ 5.2 มม. หรอื 8.32 ลบ.ม./ไร่ 111-190 วนั 3.6 มม. หรือ 5.76 ลบ.ม./ไร่ ต้งั แต่ 190 วัน SSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSกSารSใชS้นS�้ำอSยSา่ SงรSู้คSุณSค่าS.S..ใSนกSาSรปSลSกู SพSชื ไSร่SS1S1SSSSSSS

3. การใหน้ �ำ้ อ้อยโรงงาน อ้อยโรงงานใช้ชักร่องปลูกให้มีระยะระหวา่ งร่อง 1.0-1.5 เมตร ควรใหน้ ้ำ� ให้ดนิ มคี วามชืน้ กอ่ นวางทอ่ นพันธ์ุ ออ้ ยโรงงานตอ้ งการน้�ำใน 1 ฤดกู าลใชน้ ำ�้ 2,400 ลกู บาศก์ เมตรต่อไร่ การใช้น้�ำระยะต้ังตัว (30 วัน) 4 มิลลิเมตรต่อวัน ระยะเติบโตทางล�ำต้น (140 วัน) 4.5 มิลลิเมตรต่อวัน ระยะสร้างน�้ำตาล (125 วัน) 5 มิลลิเมตรต่อวันและ ระยะแก่ (35 วัน) ต้องการน้�ำ 4 มลิ ลิเมตรตอ่ วนั การขาดน้ำ� ในช่วง 1-6 เดอื น จะท�ำให้ การเจริญเตบิ โตช้า ผลผลิตต�ำ่ ช่วงการเจรญิ เติบโต ปริมาณการให้น้ำ� ต่อวัน 1-30 วัน 4 มม. หรอื 6.4 ลบ.ม./ไร่ 31-170 วัน 4.5 มม. หรือ 7.2 ลบ.ม. /ไร่ 5 มม. หรอื 8 ลบ.ม./ไร่ 171-295 วนั 4 มม. หรอื 6.4 ลบ.ม. /ไร่ 296-330 วัน SSSSSSSS1S2SSกSาSรใSชSน้ ำ�้SอSย่าSงSรคู้Sณุ SคS่าS...SในSกSารSปSลSกู พSชื SไรS่ SSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSS

เปรยี บเทียบอายุการเจรญิ เติบโต ความตอ้ งการน�้ำตลอดฤดแู ละช่วงวิกฤต พชื อายกุ ารเจรญิ ความตอ้ งการน้�ำ ชว่ งวิกฤตทขี่ าดนำ�้ ไม่ได้ ขา้ วโพดเลย้ี งสตั ว์ เตบิ โต ตลอดฤดู 120 วนั มนั สำ� ปะหลงั 450-600 มม. หรอื ● ชว่ งออกดอกสรา้ งเมลด็ อ้อยโรงงาน 240-360 วนั 720-960 ลบ.ม/ไร่ อายปุ ระมาณ 45-55 วัน 420 วัน หากขาดนำ้� ผลผลติ ลดลง ประมาณ 50 % ● ชว่ งระยะนำ�้ นมถงึ ระยะ ฝักอ่อน 18-28 วัน หลังออกไหมเข้ม ช่วง สร้างเมล็ด 60 วนั ข้ึนไป หากขาดน�้ำ ผลผลิตจะ ลดลงประมาณ 15-20 % 800 มม. 1,280 ในช่วงอายุ 1-5 เดือน ลบ.ม./ไร่ ผลผลิตจะลดลง 60% หากขาดน้�ำในช่วง 5-11 เดือน ผลผลิตจะลดลง 17-19 % 1500 มม.หรือ ช่วงการเจริญเติบโตอายุ 2,400 ลบ.ม. /ไร่ 1-6 เดอื น ไม่ควรขาดน�ำ้ เกิน 20 วัน และช่วง ส ะ ส ม น้� ำ ต า ล ไ ม ่ ค ว ร ขาดนำ�้ เกิน 30 วนั SSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSกSารSใชSน้ S้ำ� อSยS่าSงรSูค้ Sณุ Sคา่S.S..ใSนกSาSรปSลSูกSพSืชไSร่SS1S3SSSSSSS

4. การใหน้ �ำ้ พชื ไร่อนื่ ๆ ชนิดพชื การให้น้�ำ ● ชว่ งต้นกล้าไมท่ นตอ่ สภาพน้�ำขัง ข้าวฟ่าง ● ช่วงทก่ี ำ� ลงั ตั้งทอ้ งถึงช่วงออกดอก หากขาดนำ้� จะมีผลกระทบตอ่ ผลผลติ ยาสบู ● ใน 1 ฤดูปลกู ใชน้ �้ำ 512-800 ลกู บาศกเ์ มตร/ไร่ ถั่วเหลอื ง ● หลังจากปลูก 3-5 วัน ให้น�้ำเพียง เล็กน้อย ● อายุ 25-30 วัน เริม่ ใหน้ �้ำครั้งแรกหรือ หลงั จากให้ปุ๋ยครัง้ ท่ี 2 หลังจากน้นั ใหท้ กุ 10-15 วนั ● ใน 1 ฤดูปลูกใชน้ ้�ำ 400-600 ลูกบาศก์เมตร/ไร่ ● สภาพไร่ อาศยั นำ้� ฝน ต้องไมใ่ หข้ าดน้ำ� ช่วงติดฝักและเมล็ด 60 วันหลังปลูก ในสภาพนา ให้น้�ำทุก 7-15 วัน ต้อง ไมใ่ หข้ าดนำ�้ ชว่ งตดิ ฝกั และเมลด็ 60 วนั หลงั ปลูก ● ใน 1 ฤดูปลกู ใชน้ �้ำ 400-450 ลกู บาศก์เมตร/ไร่ SSSSSSSS1S4SSกSาSรใSชS้น�ำ้SอSย่าSงSรคู้SุณSคSา่ S...SในSกSารSปSลSกู พSืชSไรS่ SSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSS

ชนิดพืช การใหน้ ้�ำ ถ่วั ลิสง ● ควรใหน้ ้�ำทกุ 7 วนั ในเดอื นแรก หลังจากนั้นทุก 10 วัน สูงถึงระดับ ถั่วเขียว เศษ 3 ส่วน 4 ของความลึกร่องน�้ำ และห้ามขาดนำ้� ในช่วงอายุ 30-60 วัน งา หลงั งอก ● ใน 1 ฤดปู ลกู ใชน้ �้ำ 400-600 ลกู บาศกเ์ มตร/ไร่ ● ควรให้น้�ำทันทีหลังปลูก และหลังการ ใส่ปุ๋ยทุกครั้ง หลังจากนั้นให้น้�ำทุก 10-14 วนั อยา่ ใหถ้ ว่ั เขยี วขาดนำ�้ ในชว่ ง ปลายระยะออกดอกจนถึงติดฝัก (35-40 วัน) ในกรณีที่มีน�้ำจ�ำกัด ควรใช้วัสดุ เช่น ฟางข้าว คลุมดิน เพือ่ ลดความรนุ แรง ● ใน 1 ฤดปู ลูกใช้นำ้� 300-400 ลกู บาศกเ์ มตร/ไร่ ● การปลูกช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือน มีนาคม ให้น�้ำหลังงอกทุก 7-15 วัน จนถึงอายุ 45 วนั หลงั ปลกู ● ใน 1 ฤดูปลกู ใช้น้�ำ 150-250 ลูกบาศกเ์ มตร/ไร่ SSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSกSารSใชSน้ S�้ำอSยSา่ SงรSคู้ Sณุ Sคา่S.S..ใSนกSาSรปSลSกู SพSชื ไSร่SS1S5SSSSSSS

ชนิดพชื การให้น�้ำ ทานตะวนั ● เร่ิมให้น�้ำเม่ืออายุ 10-15 วัน และ หลังจากนั้นให้นำ�้ ทุก 20 วัน จนกระท่ัง ฝา้ ย ถึงระยะติดเมล็ด (ทานตะวันอายุ ปอแกว้ ประมาณ 70 วัน) หยุดการให้น้�ำ ควร ให้น�้ำพอดินชุ่มแต่ไม่แฉะขังและ สับปะรด ไม่ควรปล่อยให้ดินแห้งมาก ปริมาณ น้ำ� ฝนท่ีต้องการ ประมาณ 800-1,200 มลิ ลิเมตร/ปี ● ใน 1 ฤดูปลูกใช้น�้ำ 500-800 ลกู บาศก์เมตร/ไร่ ● เป็นพืชต้องการน�้ำน้อย แต่ต้องการ น้�ำสม�่ำเสมอตลอดระยะเวลาของการ เจรญิ เติบโต ● ใน 1 ฤดูปลกู ใช้นำ้� 550-700 ลกู บาศก์เมตร/ไร่ ● ใหน้ ำ�้ ในชว่ งแลง้ สปั ดาหล์ ะ 1-2 ลติ ร/ตน้ และควรให้น้�ำก่อนและหลังการออกดอก และหยดุ ใหน้ �้ำกอ่ นเกบ็ เกย่ี ว 15-30 วนั ● ใน 1 ฤดูปลูกใชน้ ้ำ� 1,400 ลกู บาศก์เมตร/ไร่ SSSSSSSS1S6SSกSาSรใSชS้น�ำ้SอSยา่SงSรคู้Sณุ SคSา่ S...SในSกSารSปSลSกู พSชื SไรS่ SSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSS

ชนดิ พืช การใหน้ ้ำ� ข้าวโพดหวาน ● ให้น�้ำทันทีหลังปลูกและหลังการใส่ปุ๋ย ทุกคร้ัง จากน้ัน 7-10 วัน ขึ้นอยู่กับ ขา้ วโพดฝกั อ่อน ความชนื้ ของดนิ และสภาพอากาศ และ ถั่วเหลอื งฝกั สด หยุดให้น�้ำก่อนเก็บเก่ียว 2-3 วัน ท่ีมา : กรมส่งเสรมิ การเกษตร, 2556. การให้น�้ำแบบสปริงเกลอร์ ควรให้ แต่ละคร้ังประมาณ 35-40 มิลลิเมตร ตามชนิดของดนิ และสภาพภมู ิอากาศ ● ใน 1 ฤดูปลกู ใชน้ ำ�้ 500 ลกู บาศกเ์ มตร/ไร่ ● ใหน้ ำ้� ครง้ั แรกใหห้ ลงั จากปลกู ครง้ั ตอ่ ไป ขึ้นอยู่กับความช้ืนของดินและสภาพ ภูมิอากาศ วิธีการโดยปล่อยตามร่อง หรือแบบพน่ ฝอย ● เร่ิมให้น้�ำเมื่อมีอายุ 7-10 วันหลังงอก คร้ังต่อไปการให้น�้ำให้พิจารณาจาก ความชุ่มช้ืนของดินในแปลงปลูก และ ต้องใหน้ ้�ำทุกคร้งั หลังจากใสป่ ยุ๋ เคมี SSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSกSารSใชSน้ S�้ำอSยSา่ SงรSู้คSุณSค่าS.S..ใSนกSาSรปSลSกู SพSืชไSร่SS1S7SSSSSSS

ตวั อย่างเกษตรกรทป่ี ระสบความสำ� เรจ็ เรือ่ งมนั สำ� ปะหลัง กในากรใาชร้นปำ้�ลอกู ยม่าันงรสคู้ �ำณุปะคห่าล..ัง. เพ่อื เพม่ิ ปนระาสยิทจีรธะิภศาักพดกิ์ าปรรผะลทิตมุ มศนัรีสำ� ปะหลัง ต�ำบลลาดบวั ขาว อ�ำเภอสีควิ้ จงั หวดั นครราชสีมา ระบบน้ำ� หยด ในมนั ส�ำปะหลงั นายจีระศักดิ์ ประทุมศรี อยู่บ้านเลขท่ี 22/3 หมู่ 1 บ้านหนองบัว ต�ำบลลาดบัวขาว อ�ำเภอสีค้ิว จังหวัดนครราชสีมา อายุ 47 ปี จบการศึกษา ปวส. สาขาเทคนิคเคร่ืองยนต์ สถาบนั เทคโนโลยรี าชมงคล วทิ ยาเขตภาคตะวนั ออก เฉียงเหนือ นครราชสีมา เป็นวิทยากรประจ�ำ ศูนย์เรียนรู้การเพ่ิมประสิทธิภาพการผลิตสินค้า เกษตร บา้ นดอนวัว ต�ำบลลาดบัวขาว อ�ำเภอสคี ิว้ จังหวัดนครราชสีมา SSSSSSSS1S8SSกSาSรใSชSน้ �้ำSอSยา่SงSรู้คSุณSคS่าS...SในSกSารSปSลSกู พSชื SไรS่ SSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSS

เรยี นรู้การให้น้�ำในแปลงปลกู มนั สำ� ปะหลงั ... กรณีมีปรมิ าณนำ้� จ�ำกัด นายจรี ะศกั ด์ิ ไดย้ ดึ อาชพี ปลกู มนั สำ� ปะหลงั เปน็ อาชพี หลกั และพงึ่ พานำ�้ ฝนหลอ่ เลย้ี งแปลงปลกู มนั ส�ำปะหลงั มาตลอด พูดง่าย ๆ คอื “อาศยั เทวดา เลี้ยง” เน่ืองจากปริมาณน้�ำในแหล่งน�้ำสาธารณะ ท่อี ยู่ใกลแ้ ปลงมคี อ่ นข้างจ�ำกดั โดยเฉพาะช่วงฤดูแลง้ มักไม่เพียงพอต่อความต้องการของเกษตรกรในพื้นท่ี เกิดปัญหาขาดแคลนน้�ำแทบทุกปี และเมื่อ 3 ปี ทผ่ี า่ นมา ไดม้ โี อกาสไปศกึ ษาเรยี นรเู้ กยี่ วกบั การใชร้ ะบบ น�้ำหยดในการผลิตมันส�ำปะหลังกับหน่วยงานราชการ ประกอบกับตัวเองเรยี นจบเทคนิคจึงมพี ้ืนฐานความรู้เรื่องช่าง ได้น�ำความรู้เรื่องระบบน�้ำหยดท่ีได้จากแหล่งต่าง ๆ มาปรับใช้ในแปลงปลูก มันส�ำปะหลังของตนเองโดยใช้พนั ธหุ์ ว้ ยบง 80 พืน้ ท่ี 4 ไร่ ลงทนุ ประมาณ 26,000 บาท (วางระบบท่อไร่ละ 4,000 บาทและปั๊มน�้ำ 10,000 บาท) พบว่าผลผลิตที่ได้เพ่ิมข้ึน ร้อยละ 75-100 (เดิม 4 ตันต่อไร่ เป็น 7-8 ตัน ตอ่ ไร่) จึงได้ขยายระบบนำ�้ หยดครอบคลมุ พ้ืนทีป่ ลูก มันส�ำปะหลังแล้วกว่า 50 ไร่ เรยี กวา่ “แปลงพ่ี เลย้ี งน้อง” คือ การนำ� ก�ำไรท่ีได้จากการผลิต แปลงแรกมาวางระบบ ใ ห ้ น�้ ำ ใ น พื้ น ท่ี ป ลู ก มันส�ำปะหลังเพมิ่ SSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSกSารSใชS้นS�้ำอSยSา่ SงรSู้คSุณSค่าS.S..ใSนกSาSรปSลSกู SพSืชไSร่SS1S9SSSSSSS

ส�ำหรับปีที่แห้งแล้งจัด ก่อนส้ินฤดูฝนนายจีระศักดิ์จะเร่งสูบน้�ำจากฝายน้�ำล้น มากักเก็บไว้ในบ่อพักน�้ำขนาด 2 ไร่ เพ่ือส�ำรองน้�ำไว้ใช้ในแปลงช่วงฤดูแล้งด้วยระบบ นำ�้ หยด มกี ารบรหิ ารจดั การนำ้� ไมฟ่ มุ่ เฟอื ย หมน่ั ตรวจสอบระบบนำ้� หยดใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพ และมคี วามพรอ้ มอยู่เสมอ เทคนิคการใช้นำ�้ อยา่ งร้คู ุณค่า...ระบบนำ้� หยด เพอ่ื เพม่ิ ประสิทธิภาพการผลติ มันส�ำปะหลงั ให้น�้ำในปริมาณท่ีเหมาะสมและ สอดคล้องกับความต้องการในแต่ละช่วงอายุ ของมนั สำ� ปะหลงั ตามสภาพอากาศ และสภาพ ดนิ เนน้ “ใชน้ ำ้� อยา่ งประหยดั ” เพราะนำ้� ตน้ ทนุ มีค่อนขา้ งจำ� กดั ลดการให้น้�ำผ่านระบบน�้ำหยด ในแปลงปลูกมันส�ำปะหลังในช่วงฤดูแล้ง จากเดิมให้เดือนละ 4 คร้ัง เหลือ 2-3 ครั้ง ต่อเดอื น ครง้ั ละ 2-3 ช่ัวโมง เป็นแนวทางใชน้ ำ้� อย่างประหยดั และคมุ้ คา่ ตรวจสอบระบบนำ�้ หยดใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพ และความพร้อมอยู่เสมอ SSSSSSSS2S0SSกSาSรใSชS้น�้ำSอSยา่SงSรคู้Sณุ SคSา่ S...SในSกSารSปSลSูกพSืชSไรS่ SSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSS

ปรมิ าณการใหน้ ำ�้ ทเ่ี หมาะสมแต่ละช่วงเวลา ในการเพมิ่ ประสทิ ธิภาพการผลติ มันส�ำปะหลงั เหตุวิกฤตในช่วงหน้าแล้ง มีน�้ำน้อย นายจีระศักดิ์ได้ทดลองลดปริมาณการให้น�้ำเป็น 2-3 คร้ังต่อเดือน จากเดิม 4 คร้ังต่อเดือนเป็น ระยะเวลา 9 เดือน พบว่าผลผลติ ของมันส�ำปะหลัง ที่ได้ไม่มีความแตกต่างกัน จึงได้น�ำมาเป็นแนวทาง ในการให้น�้ำในปริมาณท่ีเหมาะสมสอดคล้องกับ ความต้องการน�้ำในแต่ละช่วงการเจริญเติบโตของ มันสำ� ปะหลัง ดงั น้ี ชว่ งเริม่ ปลูก 1 - 5 เดอื น ใหน้ ำ้� 2-3 ครง้ั ตอ่ เดอื น ครง้ั ละ 2-3 ชวั่ โมง ช่วงเจรญิ เตบิ โต 5 - 9 เดือน ให้น�้ำลดลงเหลือ 1 คร้งั ตอ่ เดือน ชว่ งรอเกบ็ เกีย่ ว 9 - 12 เดอื น งดใหน้ �้ำจนถึงเก็บเก่ียวผลผลติ SSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSกSารSใชS้นS�ำ้ อSยS่าSงรS้คู Sณุ Sค่าS.S..ใSนกSาSรปSลSูกSพSชื ไSร่SS2S1SSSSSSS

ผังการใหน้ �ำ้ ระบบนำ�้ หยดในการผลติ มันส�ำปะหลัง ชว งเรมิ่ ปลกู 1 - 5 เดือน ใหคนรำ้ ั้ง2ล-ะ32ค-3รง้ั ชตั่วอ โมเดงอื น ชว งรอเก็บเกี่ยว 9 - 12 เดือน ชว งเจริญเตบิ โต 5 - 9 เดอื น งดใหน ้ำจนถงึ เกบ็ เกี่ยวผลผลิต ใหน ำ้ ลดลงเหลือ 1 คร้ังตอเดอื น ผลทไี่ ด้ การใช้น�้ำอย่างรู้คุณค่าในการปลูกมันส�ำปะหลัง…..แบบระบบน�้ำหยดของ นายจีระศักดิ์ “เน้นใช้น�้ำอย่างประหยัด ใช้น้�ำทุกหยดอย่างมีประสิทธิภาพ” ตรงตาม ความต้องการของการเจริญเติบโตของพืช สามารถปลูกมันส�ำปะหลังในฤดูแล้งได้ ผลผลิตต่อไร่เพ่ิมข้ึน ส่งผลให้มีรายได้เพิ่มขึ้นจนสามารถขยายระบบน�้ำหยดในพื้นที่ ปลูกมนั ไดม้ ากข้ึน เรียกวา่ “แปลงพเี่ ลย้ี งน้อง” พรอ้ มทง้ั นอ้ มนำ� หลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มาเป็นแนวทางปฏิบัติ ท�ำให้ประสบ ความสำ� เร็จ คอื SSSSSSSS2S2SSกSาSรใSชS้น้�ำSอSย่าSงSรูค้SุณSคS่าS...SในSกSารSปSลSูกพSืชSไรS่ SSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSS

สามารถปลูกมันสำ� ปะหลงั ไดต้ ลอดทัง้ ปี ลดการปลูกซ่อม หลังการปลูกมันส�ำปะหลัง เพราะระบบน้�ำหยดสร้าง ความชุ่มชื้นในแปลงปลูกท�ำให้มันส�ำปะหลังท่ีปลูกใหม่แตกรากดี ต้ังตัวได้เร็ว ต้นแขง็ แรง แตกทรงพมุ่ สวยและเจริญเตบิ โตได้ดี ต้นทุนค่าใช้จ่ายในการปั๊มน�้ำเข้าสู่ระบบการให้น้�ำในแปลงผลิตลดลง เพราะสามารถลดการให้น้�ำผ่านระบบน�้ำหยดลงเหลือ 2-3 คร้ังต่อเดือน จากเดิมให้ เดือนละ 4 ครงั้ ต่อเดือน ลดความยุ่งยากในการใส่ปุ๋ย ในแปลงปลูกมันส�ำปะหลัง เพราะสามารถ ให้ปุย๋ ผ่านระบบนำ้� หยดตรงตามความต้องการ ของมันสำ� ปะหลงั ได้ SSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSกSารSใชSน้ S้ำ� อSยS่าSงรSู้คSุณSค่าS.S..ใSนกSาSรปSลSูกSพSืชไSร่SS2S3SSSSSSS

ลดการเจริญเติบโตของวัชพืชในพ้ืนที่ว่าง ในแปลงปลูกและลดการใช้สารเคมีในการก�ำจัดวัชพืช เพราะระบบนำ�้ หยดเปน็ การใหน้ ำ้� เฉพาะจดุ บรเิ วณรากพชื มนั ส�ำปะหลงั เท่านน้ั ท�ำใหม้ ันส�ำปะหลงั มคี วามสมบรู ณ์ แข็งแรงทนตอ่ โรคและแมลงไดด้ ี ผลผลติ เพ่ิมขน้ึ ร้อยละ 75-100 จากเดิม 4 ตันต่อไร่ เพมิ่ เป็น 7-8 ตันตอ่ ไร่ ผลผลิตมีคณุ ภาพสงู ข้ึน เปอร์เซน็ ต์แปง้ สูงขายไดร้ าคาสูง SSSSSSSS2S4SSกSาSรใSชSน้ �้ำSอSยา่SงSรคู้Sณุ SคSา่ S...SในSกSารSปSลSกู พSืชSไรS่ SSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSS

แรงดนั : 1 เมตร เทา่ กับ ระดบั นำ�้ ในท่อแนวดิ่งสงู 1 เมตร หรอื 10 เมตร เท่ากับ 14.7 ปอนดต์ อ่ ตารางนวิ้ (psi) การเปรียบเทียบหน่วย : 1 มลิ ลิเมตร เทา่ กับ 1.6 ลูกบาศกเ์ มตรตอ่ ไร่ หรอื 1.6 คิวต่อไร่ (cubic metre per rai) SSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSS


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook