Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การใช้น้ำอย่างรู้คุณค่าในการปลูกพืชผักพ

การใช้น้ำอย่างรู้คุณค่าในการปลูกพืชผักพ

Published by กศน.ตำบลฟ้าห่วน, 2021-05-03 07:36:02

Description: การใช้น้ำอย่างรู้คุณค่าในการปลูกพืชผักพ

Search

Read the Text Version

เอกสารคำ� แนะน�ำท่ี 4/2558 การใชน้ ำ�้ อยา่ งรคู้ ณุ คา่ ...ในการปลกู พชื ผกั และพืชสมนุ ไพร ทป่ี รึกษา : นายโอฬาร พทิ ักษ ์ อธบิ ดกี รมสง่ เสรมิ การเกษตร นายสรุ พล จารพุ งศ์ รองอธบิ ดกี รมส่งเสริมการเกษตร ฝ่ายบรหิ าร นายไพรชั หวงั ด ี รองอธิบดีกรมสง่ เสรมิ การเกษตร ฝ่ายวชิ าการ นายสงกรานต์ ภักดีคง รองอธิบดีกรมสง่ เสริมการเกษตร ฝา่ ยส่งเสรมิ และฝกึ อบรม ผู้เชยี่ วชาญกรมสง่ เสริมการเกษตร นางสกุ ญั ญา อธิปอนันต ์ ผอู้ ำ� นวยการส�ำนกั พัฒนาการถา่ ยทอดเทคโนโลยี นางดาเรศร์ กิตตโิ ยภาส ผู้อ�ำนวยการกองประสานงานโครงการพระราชด�ำรแิ ละพื้นทเ่ี ฉพาะ เรียบเรียง : กลมุ่ โครงการพระราชด�ำริ กองประสานงานโครงการพระราชดำ� ริและพื้นท่ีเฉพาะ กลมุ่ ส่งเสริมระบบการให้น้ำ� พืชและโรงเรอื นเกษตร กองสง่ เสริมวศิ วกรรมเกษตร ส�ำนกั สง่ เสริมและจัดการสินค้าเกษตร จดั ทำ� โดย : กลุม่ พัฒนาส่อื สง่ เสรมิ การเกษตร สำ� นกั พัฒนาการถ่ายทอดเทคโนโลยี กรมส่งเสริมการเกษตร พมิ พค์ ร้ังท่ี 1 : ปี 2558 จ�ำนวน 20,000 เลม่ พมิ พท์ ่ี : ชมุ นุมสหกรณ์การเกษตรแหง่ ประเทศไทย จ�ำกัด SSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSS

ค�ำน�ำ กรมส่งเสริมการเกษตร ได้จัดท�ำโครงการเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เน่ืองในโอกาสมหามงคลเฉลิม พระชนมพรรษา 87 พรรษา 5 ธันวาคม 2557 ในหวั ขอ้ “ใชน้ �ำ้ อย่าง รู้คุณคา่ ปวงประชาถวายพ่อของแผ่นดิน” เพือ่ เป็นการน้อมรำ� ลึกถงึ พระมหากรณุ าธคิ ณุ ทมี่ ตี อ่ วถิ ชี วี ติ และความเปน็ อยขู่ องประชาชน ซงึ่ เป็นผลมาจากพระอจั ฉรยิ ภาพดา้ นน�ำ้ เอกสารคำ� แนะนำ� “การใชน้ ำ้� อยา่ งรคู้ ณุ คา่ ...ในการปลกู พชื ผกั และพืชสมุนไพร” เป็นเอกสารที่จัดท�ำข้ึนเป็นส่วนหน่ึงของโครงการ เทิดพระเกียรติฯ เพ่ือให้ศูนย์เรียนรู้การเพ่ิมประสิทธิภาพการ ผลิตสินค้าเกษตรได้น�ำไปใช้เป็นแนวทางการส่งเสริม เผยแพร่ และ ถา่ ยทอดเทคโนโลยีการบรหิ ารจัดการน้�ำในรปู แบบต่าง ๆ แล้วไดน้ ำ� ไปปรบั ใชใ้ หเ้ หมาะสมกบั การดำ� เนนิ การของตนเองและพน้ื ทใ่ี กลเ้ คยี ง เพื่อให้เกษตรกรได้ตระหนักและเห็นถึงแนวทางการใช้ประโยชน์ จากนำ�้ อย่างร้คู ุณค่าและมปี ระสทิ ธภิ าพ กรมสง่ เสรมิ การเกษตรหวงั เปน็ อยา่ งยงิ่ วา่ เอกสารคำ� แนะนำ� ฉบับน้ี จะเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรท่ีได้เข้ามาเรียนรู้ด้านการเพิ่ม ประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร ซ่ึงสามารถน�ำไปปรับใช้และ ปรบั ปรงุ การด�ำเนนิ งานในอาชพี การเกษตรของตนเองตอ่ ไป กรมส่งเสริมการเกษตร พฤษภาคม 2558 SSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSกSารSใชSน้ S้ำ� SอยS่าSงรS้คู SุณSคS่า..S.ใSนกSาSรปSลSูกSพSืชผSักSแSลSะพSชืSสSมSนุ ไSพSรSS1SSSSSSSS

SSSSSSSSS2SSกSาSรใSชSน้ ำ้�SอSยา่SงSรู้คSุณSคSา่ S...SในSกSารSปSลSกู พSชื SผSกั SแSลSะพSชื SสมSุนSไพSรSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSS

สารบญั หน้า คุณค่าแหง่ นำ�้ 4 น�ำ้ ของพอ่ น้�ำของแผ่นดนิ 5 หลักการใหน้ ้�ำแก่พชื 6 การใช้น้ำ� อย่างรูค้ ณุ คา่ …ในการปลูกพืชผักและพืชสมุนไพร 7 7 ● ระบบนำ้� ท่เี หมาะสม 7 (1) ระบบมินสิ ปรงิ เกลอร ์ 8 (2) ระบบน้�ำหยด 9 ● ปรมิ าณความต้องการนำ้� ของพชื ผัก 10 ● การใหน้ ้ำ� ทีเ่ หมาะสมและสอดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการของพืช 10 (1) พชื ผกั 17 (2) พืชสมุนไพร ตัวอย่างเกษตรกรที่ประสบความสำ� เร็จ 19 19 ● กล่มุ ผลติ ผักปลอดสารพิษบ้านหนองศาลา 19 (1) นายวสันต์ จันทศร 19 (2) นายจ�ำลอง เภาพูล 23 (3) นายประหยัด สวัสด ี 27 ● การใชน้ ้�ำอย่างรู้คุณค่า...ในการท�ำไรน่ าสวนผสม 27 (1) นายประกิจ จติ รใจภักด์ ิ SSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSกSารSใชSน้ S�ำ้ SอยSา่ SงรSู้คSณุ SคSา่ ..S.ใSนกSาSรปSลSูกSพSืชผSักSแSลSะพSชืSสSมSนุ ไSพSรSS3SSSSSSSS

คุณคา่ แหง่ นำ�้ นับต้ังแต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ ทรง พระอุตสาหะเสด็จพระราชด�ำเนินเย่ียมเยียนราษฎรไทยท่ัวภูมิภาค ทรงประจักษ์แจ้งใน ทุกข์สุขของราษฎร ทรงทราบว่าราษฎรในชนบทยากจนเพราะการประกอบอาชีพ เกษตรกรรมไม่ได้ผล เนื่องจากขาดแคลนน้�ำ ทรงตระหนักดีว่า “น�้ำ” มีความส�ำคัญ ตอ่ การประกอบอาชีพและดำ� รงชีวติ ของราษฎรในชนบท ท้งั น้�ำใช้ อปุ โภคบรโิ ภค และน�ำ้ เพ่ือการเกษตร ดังพระราชด�ำรัส ณ สวนจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต เม่ือวันท่ี 17 มนี าคม พ.ศ. 2529 ความตอนหนึ่งว่า ““...หลักส�ำคัญต้องมีน�้ำบริโภค น�้ำใช้ น้�ำเพ่ือการเพาะปลูก เพราะวา่ ชวี ติ อยทู่ ่ีนน้ั ถา้ มนี ้ำ� คนอยไู่ ด้ ถ้าไมม่ นี ้ำ� คนอยูไ่ ม่ได้ ไม่มีไฟฟ้า คนอยูไ่ ด้ แตถ่ ้ามีไฟฟ้า ไมม่ นี ำ�้ คนอย่ไู ม่ได.้ ..”” ดงั นน้ั พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั จงึ ทรงทมุ่ เทพระวรกายในการศกึ ษาพฒั นา และจัดการทรัพยากรน้�ำ ด้วยทรงมีความเช่ือม่ันว่าเมื่อใดที่สามารถแก้ไขหรือบรรเทา ความเดือดร้อนในเรื่องน้�ำให้แก่ราษฎร เพ่ือให้ราษฎรมีน้�ำกิน น้�ำใช้และเพ่ือการเพาะปลูก ตลอดจนไม่มีปัญหาเกี่ยวกับน�้ำท่ีมีความเสียหายให้แก่พืชท่ีเพาะปลูกแล้ว เมื่อนั้น ราษฎรย่อมมฐี านะความเปน็ อยู่ท่ดี ขี ้นึ กวา่ เดิม SSSSSSSSS4SSกSาSรใSชSน้ ำ�้SอSยา่SงSร้คูSณุ SคS่าS...SในSกSารSปSลSกู พSืชSผSักSแSลSะพSชื SสมSุนSไพSรSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSS

น้ำ� ของพอ่ น้ำ� ของแผ่นดนิ ด้วยพระอัจฉริยภาพด้านน้�ำของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระราช กรณยี กจิ ดา้ นการแสวงหาแหลง่ นำ�้ และการบรหิ ารจดั การนำ้� กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงได้จัดท�ำโครงการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาส มหามงคลเฉลมิ พระชนมพรรษา 87 พรรษา 5 ธนั วาคม 2557 ในหวั ขอ้ “ใชน้ ำ้� อยา่ งรคู้ ณุ คา่ ปวงประชาถวายพ่อของแผ่นดิน” โดยใช้ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต สินค้าเกษตรทีม่ อี ย่ทู ว่ั ประเทศท้ัง 77 จังหวดั จำ� นวน 882 ศนู ย์ เกษตรกร 88,200 คน เป็นตัวขับเคลื่อนการด�ำเนินงานโครงการ โดยเน้นกิจกรรมการถ่ายทอดความรู้และ เทคโนโลยีการบริหารจัดการน�้ำที่เหมาะสมในการปลูกพืชที่เป็นสินค้าหลักของ แต่ละศูนย์ ออกเปน็ 4 กลุ่ม คอื 1. การใช้นำ้� อยา่ งรคู้ ุณคา่ ..ในการ “ทำ� นา” 2. การใช้น้�ำอย่างรู้คณุ ค่า..ในการ “ปลกู พืชไร่” 3. การใช้น�ำ้ อย่างรู้คุณคา่ ..ในการ “ปลูกไมผ้ ล ไมย้ นื ต้น” 4. การใช้นำ�้ อย่างรคู้ ุณคา่ ..ในการ “ปลูกพืชผัก และพชื สมนุ ไพร” SSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSกSารSใชS้นSำ�้ SอยS่าSงรSูค้ SุณSคS่า..S.ใSนกSาSรปSลSูกSพSชื ผSักSแSลSะพSชืSสSมSนุ ไSพSรSS5SSSSSSSS

หลกั การใหน้ �ำ้ พืช “นำ้� ”...เปน็ ปจั จยั หลกั สำ� หรบั การเพาะปลกู พชื ภายใตส้ ภาพการปลกู พชื ทม่ี นี ำ�้ เพียงพอ ธาตอุ าหารอดุ มสมบูรณ์ สภาพภมู ิอากาศเหมาะสมแลว้ พืชสามารถสังเคราะห์ แสง สรา้ งอาหารเพอื่ นำ� ไปใชใ้ นการเจรญิ เตบิ โต เกบ็ สะสมอาหารใหเ้ ปน็ ผลผลติ ทม่ี นษุ ย์ ต้องการไดอ้ ย่างเตม็ ท่ี การปลูกพืชจึงตอ้ งได้รับน้ำ� อย่างเพียงพอและเหมาะสมตามระยะ เวลาท่ีตอ้ งการ หลกั การใหน้ ำ้� เพอื่ การเจรญิ เตบิ โตของพชื อยา่ งมคี ณุ ภาพและใหผ้ ลตอบแทนสงู นั้น จะต้องค�ำนงึ ถงึ ว่าควรให้นำ้� แก่พืชเมอ่ื ใด และใหป้ รมิ าณน้�ำเทา่ ใด ซึง่ ในทางปฏบิ ตั ิ จะมปี ัจจัย 3 ประการทีต่ อ้ งคำ� นึงถึง คือ ดนิ น�้ำ และพชื ดังน้ี 1. ดิน...ความสามารถในการอ้มุ น�้ำของดินในเขตรากพชื 2. นำ�้ ...ปรมิ าณของน้ำ� ทีต่ อ้ งจัดหามาให้แก่พชื 3. พชื ...ปรมิ าณน้�ำที่พืชตอ้ งการในชว่ งเวลาต่าง ๆ ตลอดอายุพชื ในการอมุ้ นำ�้ ของดนิ ในเขตรากพชื และปรมิ าณนำ้� ทพ่ี ชื ตอ้ งการในแตล่ ะชว่ งเวลา ต่าง ๆ ตลอดอายุของพืชเป็นข้อมูลส�ำคัญเบื้องต้นท่ีจะต้องน�ำมาใช้ก�ำหนดความถี่ และปริมาณนำ้� ในการใหน้ ำ�้ แต่ละครั้ง SSSSSSSSS6SSกSาSรใSชS้น้�ำSอSย่าSงSร้คูSณุ SคSา่ S...SในSกSารSปSลSกู พSืชSผSักSแSลSะพSืชSสมSุนSไพSรSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSS

ในกากราปรลใชูก้นพ้�ำืชอผยกั ่าแงรล้คูะพุณืชคสา่ ม..ุน. ไพร พืชผัก และพืชสมุนไพร เป็นพืชท่ีปลูกในลักษณะการยกแปลง ท้ังในพ้ืนที่ลุ่ม และพนื้ ทด่ี อน ในพน้ื ทล่ี มุ่ นยิ มยกแปลงและมคี นู ำ้� ลอ้ มรอบเพอื่ ใชป้ ระโยชนจ์ ากแหลง่ นำ�้ ในการขนยา้ ยผลผลติ และมกี ารใหน้ ำ้� โดยการใชเ้ รอื รดนำ้� แตป่ ญั หาทเี่ กดิ คอื เมด็ นำ้� ใหญ่ กระทบใบผักท�ำให้ช�้ำหรือตายได้ ส่วนในที่ดอนเม่ือยกแปลงแล้วจะต้องใช้วิธีการ สูบน้�ำเข้าแปลงโดยวิธีการให้น�้ำทางผิวดินหรือท่วมในกรณีพ้ืนท่ีราบหรือให้น�้ำไหล ตามร่องคูในกรณี พ้ืนท่ีมีความลาดชันไม่เกิน 5% ปัจจุบันนิยมใช้ระบบให้น้�ำด้วย แรงดันจากเครอื่ งสูบน�้ำส่งน้�ำผา่ นท่อผ่านหวั ปล่อยน�้ำกระจายไปยังต้นพชื ระบบนำ้� ทเี่ หมาะสม 1. ระบบมินิสปรงิ เกลอร์ เหมาะส�ำหรับพืชผักที่ปลูกเป็นแปลงแบบหว่านหรือแบบต้นกล้า เช่น ผักกินใบ ผักหัว การติดตั้งสามารถวางระยะห่างระหว่างหัวมินิสปริงเกลอร์ ประมาณ 3–4 เมตร เชน่ ติดต้ังหวั มินิสปริงเกลอร์ อตั ราการไหล 60–120 ลิตรต่อชว่ั โมง รัศมี การกระจายนำ�้ 4 เมตร ทุกระยะ 4 x 4 เมตร ดงั ภาพ SSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSกSารSใชSน้ S�ำ้ SอยSา่ SงรSคู้ SุณSคS่า..S.ใSนกSาSรปSลSกู SพSชื ผSกั SแSลSะพSชืSสSมSนุ ไSพSรSS7SSSSSSSS

2. ระบบน้ำ� หยด เหมาะสำ� หรบั พชื ผกั ทปี่ ลกู เป็นแถวเป็นแนว เช่น ถ่ัวฝักยาว คะนา้ ผกั กาดขาว กะหลำ�่ ปลี ทม่ี รี ะยะ การปลูกระหว่างแถว 0.5-1 เมตร สามารถใช้เทปน้�ำหยดวางตามแถว ปลูกทุกแถว โดยใช้เทปน�้ำหยดที่มี ชอ่ งทางออกหา่ ง 20-30 เซนตเิ มตร จา่ ยน�้ำ 1.5-2.5 ลิตรตอ่ ช่ัวโมง ดงั ภาพ ตารางเปรียบเทยี บระบบการใหน้ �ำ้ ระบบ แรงดันน�ำ้ อตั ราการไหล ระยะเวลา ข้อดี ข้อจ�ำกัด สปริง ให้น้ำ� เกลอร์ น�ำ้ หยด สูง มาก นอ้ ย ● กระจายน�้ำเป็น ● สูญเสียน้�ำมาก (20 เมตรขึ้นไป) (250 ลิตรตอ่ วงกวา้ ง จงึ ใชอ้ ปุ กรณ์ จากการระเหยและ ชว่ั โมงข้ึนไป) นอ้ ย กระจายไปตามลม ● ไม่มีปัญหาการ ● ลงทุนสูงและใช้ อดุ ตัน ดูแลง่ายและ พลงั งานมาก ใชเ้ ครอ่ื งกรองเฉพาะ หั ว ฉี ด ข น า ด เ ล็ ก เทา่ น้ัน ตำ�่ นอ้ ย มาก ● ประหยัดน้�ำและ ● อดุ ตนั งา่ ยตอ้ งใช้ (5-10 เมตร) (2-8 ลติ รตอ่ ใช้พลงั งานนอ้ ยกว่า เครอ่ื งกรองละเอยี ดมาก ชว่ั โมง) (ขนาด 140 เมช) ต้องตรวจสอบและ ลา้ งไสก้ รองทกุ วนั ● การวางบนพน้ื ดนิ ท�ำให้ตรวจสอบการ อดุ ตนั ยาก เมอ่ื พบพชื อาจเกิดความเสีย หายแลว้ SSSSSSSSS8SSกSาSรใSชSน้ ้�ำSอSยา่SงSรคู้Sณุ SคS่าS...SในSกSารSปSลSูกพSืชSผSักSแSลSะพSชื SสมSุนSไพSรSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSS

ปรมิ าณความต้องการน้�ำของพืชผัก ลำ� ดบั ชอื่ พชื อายจุ ากวนั ปลูกถึงวนั เก็บเก่ียว ปริมาณนำ�้ ทีใ่ ช้ (ลูกบาศกเ์ มตร/ไร)่ 1 กระเทียม 75 - 150 วัน 535 2 กะหล่ำ� ดอก 100 - 120 วนั 450 3 กะหล�ำ่ ปลี 100 - 110 วนั 450 - 600 4 คะน้า 45 - 55 วนั 350 5 แตงกวา 30 - 40 วัน 350 6 ถ่ัวฝักยาว 50 - 75 วนั 400 7 ผกั ชี 45 - 50 วัน 350 8 พรกิ ต่าง ๆ 70 - 90 วนั 500 – 850 9 มะเขอื เทศตา่ ง ๆ 60 - 90 วนั 400 - 600 10 มะเขอื เทศ 60 - 75 วนั 500 – 650 11 มันฝรัง่ 100 - 129 วัน 500 - 650 12 หอมแบ่ง 40 - 50 วนั 650 13 หัวหัวใหญ่ 80 - 120 วนั 580 - 800 14 บวบต่าง ๆ 40 - 60 วัน 300 – 500 15 ผักกาดขาว 45 - 80 วัน 450 16 ผกั กาดเขียว 55 - 75 วัน 350 17 ผักกาดหอม 55 - 70 วัน 350 18 ผกั กาดหัว 42 - 65 วัน 500 19 ผกั บุ้งจีน 30 - 35 วัน 200 20 ฟกั เขยี ว 90 - 120 วัน 350 21 ฟักทอง 120 -180 วนั 333 22 แตงรา้ น 80 - 120 วนั 400 23 แตงโม 75 - 120 วนั 470 ทม่ี า : กองส่งเสรมิ วิศวกรรมเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร, 2552. SSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSกSารSใชSน้ Sำ�้ SอยSา่ SงรSู้คSณุ SคSา่ ..S.ใSนกSาSรปSลSูกSพSืชผSกั SแSลSะพSชืSสSมSนุ ไSพSรSS9SSSSSSSS

การใหน้ �ำ้ ทเ่ี หมาะสมและสอดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการของพืช 1. พืชผัก ชนิดพืช การใหน้ �้ำ กระเทียม ● รดน้ำ� หลังปลกู ทนั ที จากนัน้ ให้น้�ำ 3–5 วนั ต่อครัง้ กระเจย๊ี บเขียว ● หลงั ปลูก 30 วนั รดน�้ำทุก 7–10 วนั ตอ่ ครัง้ ● หลงั ปลูกเกินกวา่ 60 วนั ใหน้ �ำ้ ทุก 15 วนั กะหลำ่� ดอก ● งดนำ้� เมอ่ื กระเทยี มแกจ่ ดั หรอื กอ่ นเกบ็ เกยี่ ว 2–3 สปั ดาห์ ● ตอ้ งการน้ำ� เพียงพอตลอดปี เทคนิคชว่ ยรกั ษาน้�ำอยใู่ นแปลง คลุมดินหลังปลูกด้วยฟางข้าวแห้ง เศษหญ้าแห้ง หรือ เศษวสั ดทุ ีส่ ามารถผุพงั เนา่ เปือ่ ยอื่น ๆ ● อยา่ ปลอ่ ยใหด้ นิ แหง้ โดยเฉพาะชว่ งออกดอกและตดิ ฝกั ● ให้น�้ำสม่�ำเสมอ ประมาณวันละ 8 มิลลิลิตร หรือ 12.8 ลูกบาศกเ์ มตรตอ่ ไร่ ● ใหน้ ำ้� แบบเฉพาะจดุ เทคนคิ หากเปน็ ดินเหนียว ควรยกเปน็ แปลงลกู ฟูกข้นึ เพื่อช่วย ให้มีการระบายน�้ำดีและช่วยให้การหมุนเวียนถ่ายเท อากาศในดนิ ดี ● ถา้ ขาดนำ้� จะกระทบตอ่ การสรา้ งตาดอก ทำ� ใหป้ รมิ าณ และคุณภาพดอกลดลง ผลผลติ ต่�ำ เทคนคิ ปลูกในฤดูแล้งควรมีการคลุมดินด้วยฟางหรือหญ้าแห้ง จะช่วยใหร้ กั ษาความช้นื ในดินได้ดี SSSSSSSS1S0SSกSาSรใSชSน้ �ำ้SอSยา่SงSรูค้Sณุ SคS่าS...SในSกSารSปSลSูกพSชื SผSกั SแSลSะพSชื SสมSนุ SไพSรSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSS

ชนิดพืช การให้น�ำ้ กะหล�่ำปลี ● ระยะแรกควรให้น�ำ้ พอดินชื้นพอเหมาะ ขิง ● เม่อื เริม่ โตควรใหน้ �ำ้ อย่างพอเพยี งดตู ามสภาพดนิ ● การให้น้�ำแบบปล่อยไปตามร่องระหว่างแปลงให้ ทกุ 7–10 วัน ● กอ่ นเก็บเก่ียว 1 สัปดาห์ ลดการให้น้ำ� ลงเพ่อื ปอ้ งกัน หวั แตก ● ใน 1 ฤดูปลกู ใช้น้ำ� 300–450 ลกู บาศก์เมตรตอ่ ไร่ เทคนคิ ปลูกกะหล�ำ่ ปลี ควรคลมุ ดินรอบ ๆ โคนตน้ ด้วยฟางหรอื หญ้าแหง้ บาง ๆ เพ่ือชว่ ยรกั ษาความช้นื ในดิน เมอ่ื ปลูก เสร็จแล้วควรท�ำร่มบังแดดให้ในวันรุ่งข้ึนประมาณ 3-4 วนั จึงเอาออก มี 2 วธิ ี โดยมากจะใชว้ ธิ ใี หน้ ำ�้ ตามรอ่ ง หากพบวา่ หนา้ ดนิ แห้งและต้นขิงเร่ิมแสดงอาการเห่ียวควรให้น�้ำทันที ระวังอยา่ ใหน้ �้ำทว่ มขังอาจทำ� ใหห้ วั ขงิ เนา่ และการให้น้ำ� แบบมินิสปริงเกลอร์ จะมีต้นทุนสูงแต่ให้ผลผลิตสูงกว่า การให้น้ำ� ตามรอ่ ง ● ใน 1 ฤดูปลูกใชน้ �้ำ 2,000-2,500 ลูกบาศกเ์ มตรต่อไร่ เทคนิค การคลมุ ดนิ จะลดคา่ ใชจ้ า่ ยในการกำ� จดั วชั พชื ชว่ ยรกั ษา ความชื้นในแปลงปลูกโดยใช้ทางมะพร้าว ใบหญ้าคา ฟางข้าว SSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSกSารSใชS้นSำ้� SอยS่าSงรSู้คSุณSคS่า..S.ใSนกSาSรปSลSกู SพSืชผSกั SแSลSะพSืชSสSมSุนไSพSรSS1S1SSSSSSS

ชนิดพชื การให้น�้ำ คะน้า ● ให้น้�ำอย่างสม่�ำเสมอโดยเฉพาะช่วงเริ่มงอก ควรให้ แคนตาลูป วนั ละ 2 เวลา เช้า-เย็น ห้ามขาดน�้ำโดยเด็ดขาด ● ใน 1 ฤดูปลูกใช้น้ำ� 300–450 ลูกบาศกเ์ มตรตอ่ ไร่ แตงกวา เทคนิค หลงั หวา่ นเมลด็ คะนา้ กลบเมลด็ ดว้ ยดนิ ผสม หรอื ปยุ๋ คอก ท่ีสลายตัวดีแล้วให้หนาประมาณ 0.6-1 เซนติเมตร ให้คลุมด้วยฟางหรือหญ้าแห้งบาง ๆ รดน�้ำให้ชุ่มด้วย บวั ฝอย ต้นกลา้ จะงอกภายใน 7 วนั ● ใหน้ �้ำอยา่ งสมำ่� เสมอ ● ระยะแรก ให้แคเ่ พียงพอตอ่ การงอก ● ให้น้�ำเพม่ิ ข้ึนเมื่อต้นเจรญิ เติบโต ● งดน�้ำก่อนเก็บเกีย่ วผล ประมาณ 7–10 วัน ● ใน 1 ฤดูปลูกใช้น�้ำ 250–375 มิลลิเมตร หรือ 400-600 ลูกบาศก์เมตรตอ่ ไร่ หลังย้ายกล้าลงปลูกให้น้�ำทันที หม่ันตรวจดูความช้ืน ในดิน และควรให้น้�ำอย่างสม่�ำเสมอตลอดระยะการ เจริญเติบโตจนกระท่ังเก็บเกี่ยว เพราะพืชตระกูลแตง เปน็ พชื ทตี่ อ้ งการนำ�้ มากสำ� หรบั การเจรญิ ของลำ� ตน้ และ ผล แต่การให้มากเกินไปจะท�ำใหด้ ินขาดออกชิเจน และการ ท่ีมคี วามชืน้ ในแปลงมากจะท�ำให้เกดิ โรคทางใบไดง้ ่าย เทคนคิ การปลูก หยอดเมล็ดลงในหลุมปลูก 2 เมล็ดต่อหลุม คลุมด้วยฟางแล้วรดน้�ำทุกวันเช้าและเย็น หรือวันละ 1 ครัง้ ก็ได้ แล้วแต่ความเหมาะสม SSSSSSSS1S2SSกSาSรใSชSน้ �้ำSอSยา่SงSรู้คSุณSคS่าS...SในSกSารSปSลSกู พSืชSผSักSแSลSะพSชื SสมSุนSไพSรSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSS

ชนดิ พืช การให้นำ้� ถัว่ ฝักยาว ● ในระยะ 1–7 วันแรกหลังจากหยอดเมล็ด ควรใหน้ ้ำ� ผกั ชี ทกุ วนั วันละ 1 คร้ัง ● เป็นพืชท่ีต้องการน�้ำอย่างสม่�ำเสมอและเพียงพอ พริก แตไ่ มค่ วรให้มากจนดินแฉะ ● ใน 1 ฤดปู ลกู ใช้น้ำ� 500-1,500 ลกู บาศก์เมตรต่อไร่ เทคนิค หยอดเมล็ดโดยตรงลงในหลมุ ปลูก 3-4 เมลด็ แลว้ กลบ ด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักที่สลายตัวแล้วหรือดินผสมให้ หนาประมาณ 5 เซนติเมตร คลมุ ด้วยฟางหรือหญา้ แห้ง สะอาดบาง ๆ เพอื่ ช่วยเกบ็ รักษาความชืน้ ผิวหนา้ ดนิ ● เปน็ พืชที่ตอ้ งการนำ้� มาก แต่ไม่ชอบน�ำ้ ขัง ● ควรให้น้ำ� วนั ละ 2 คร้ัง เช้าและเยน็ เทคนิค ก่อนปลูกต้องรดน้�ำให้ทั่วแปลง น�ำเมล็ดท่ีเตรียมไว้ มาหว่านลงบนแปลงปลูกหรือโรยเป็นแถวบนแปลง แตล่ ะแถวหา่ ง 20-30 เซนตเิ มตร กลบดว้ ยดินละเอียด บาง ๆ แล้วคลมุ ดว้ ยฟาง รดน้�ำใหช้ ุ่ม ● ช่วงแรก ๆ หลงั เพาะกลา้ ควรใหน้ �ำ้ เช้าและเย็น ● เมื่อตน้ กล้าแข็งแรงแลว้ ให้นำ้� ทกุ 2-3 วนั ● เมือ่ ต้นพรกิ ตัง้ ตัวไดแ้ ล้ว ควรใหน้ ้�ำทุก 3-5 วนั SSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSกSารSใชS้นSำ้� SอยS่าSงรSคู้ SุณSคS่า..S.ใSนกSาSรปSลSูกSพSืชผSักSแSลSะพSืชSสSมSนุ ไSพSรSS1S3SSSSSSS

ชนดิ พชื การให้นำ�้ มะเขอื เปราะ ● รดน�้ำ เช้า–เย็น ในระยะแรกของการเพาะและ มะเขอื เทศ ยา้ ยปลูก ● รดน�้ำวันละ 1 คร้ัง เมอ่ื ต้นกล้าตงั้ ตวั ดแี ลว้ เทคนคิ พริกกับมะเขือ การเพาะกลา้ หวา่ นเมลด็ กระจายทวั่ แปลงกวา้ งประมาณ 1 เมตร ยาวตามความเหมาะสม กลบดว้ ยดนิ ผสมละเอยี ด ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมักที่สลายตัวดีแล้วคลุมด้วยฟาง ควรให้น�้ำเช้าเย็น เม่ือต้นกล้าเร่ิมเจริญแล้วให้น�้ำ วันละครั้ง หรือ ทุก 2-3 วัน และเม่ือต้นกล้ามีใบจริง 2-3 ใบ ให้เอาฟางท่ีคลุมแปลงออก เมื่อย้ายกล้าลง แปลงปลกู ควรใหน้ ้ำ� ทนั ที ● ควรให้น้�ำอย่างต่อเนื่องให้ดินชื้นพอเหมาะ ในระยะ แรก เมื่อเริม่ โตควรให้น�้ำอยา่ งพอเพยี งตามสภาพดิน ● ใน 1 ฤดูปลูกใช้น้�ำ 500–1,500 ลูกบาศกเ์ มตรตอ่ ไร่ เทคนิค คลุมด้วยพลาสติกสีเงินหรือฟางข้าว เพื่อรักษาความช้ืน ของดินและเป็นการป้องกันการชะล้างผิวหน้าดินเม่ือ ฝนตกหรอื ให้น้�ำ นอกจากน้ี ยังช่วยลดเปอร์เซน็ ต์ผลเน่า และการระบาดของโรคทางใบ ซึ่งจะช่วยให้ผลผลิตเพ่ิม สูงข้ึน 20-40% ควรคลุมห่างโคนต้น เพ่ือไม่ให้โคนต้น มคี วามชนื้ สงู เกนิ ไป SSSSSSSS1S4SSกSาSรใSชSน้ ้ำ�SอSยา่SงSรู้คSุณSคSา่ S...SในSกSารSปSลSูกพSืชSผSักSแSลSะพSชื SสมSุนSไพSรSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSS

ชนดิ พืช การใหน้ ำ้� มนั ฝร่ัง ● ใหน้ ำ�้ อย่างสมำ�่ เสมอ หอมแดง ● ระยะแรกใหแ้ ค่เพยี งพอต่อการงอก ● ให้นำ้� เพ่มิ ข้นึ เมอ่ื ต้นเริม่ เจริญเตบิ โต ● งดการให้น้�ำกอ่ นขดุ หัว ประมาณ 2 สัปดาห์ ● ใน 1 ฤดปู ลูกใช้น�ำ้ 640-800 ลูกบาศกเ์ มตรต่อไร่ ● ควรเลอื กชว่ งปลกู ในระยะทมี่ ฝี นตก เพอื่ ใหน้ ำ้� เพยี งพอ ตลอดฤดูปลูก เทคนคิ การใช้วัสดุคลุมดิน เช่น ฟางแห้ง เพ่ือป้องกันไม่ให้ อณุ หภูมิดนิ รอ้ นเกนิ ไป มีผลใหห้ ัวมนั ฝร่งั รูปร่างผดิ ปกติ ● เร่ิมปลูกจนถึง 40 วัน หลังปลูกให้รดน�้ำสม�่ำเสมอ ทุกวัน ● 40 วนั หลงั ปลกู ลดนำ้� ลง โดยใหน้ ำ�้ วนั เว้นวนั ● ภาคเหนือ ใน 1 ฤดปู ลูก ใช้น้ำ� 477 ลูกบาศก์เมตร ต่อไร่ ● ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ใน 1 ฤดูปลูก ใชน้ ำ้� 515 ลกู บาศกเ์ มตรตอ่ ไร่ เทคนคิ การคลุมดิน ใช้ฟางแห้ง หญ้าแห้ง เปลือกถั่วลิสง หรือแกลบดิบ เพื่อป้องกันการสูญเสียน�้ำ และรักษา ความชืน้ ของผิวดินไว้ SSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSกSารSใชSน้ S้ำ� SอยS่าSงรSู้คSุณSคSา่ ..S.ใSนกSาSรปSลSูกSพSชื ผSักSแSลSะพSชืSสSมSนุ ไSพSรSS1S5SSSSSSS

ชนิดพืช การให้นำ้� หอมหัวใหญ่ ● ระยะแรก ให้น้ำ� วันเว้นวนั หน่อไมฝ้ รง่ั ● หลงั จากตง้ั ตัวได้แลว้ ใหน้ �ำ้ 3-5 วันต่อครงั้ เหด็ นางรม – นางฟ้า ● วิธีการที่ให้น้�ำดีท่ีสุดคือ ปล่อยน�้ำให้เข้าตามร่อง เพ่ือให้น�้ำซึมเข้าแปลงอย่างเพียงพอ แล้วจึงระบาย น้ำ� ออกอยา่ ให้ขงั แฉะ ● ใน 1 ฤดูปลูกใช้น�้ำ 1,120-1,200 ลูกบาศก์เมตร ต่อไร่ หรือให้น�้ำประมาณ 14-15 ครั้ง แต่ละคร้ัง ให้น้�ำ 80 ลกู บาศก์เมตรต่อไร่ โดยรักษาให้มคี วามช้ืน อยู่ทรี่ ะดับ 35-60 เซนติเมตร จากหน้าดนิ เทคนิค เกษตรกรใชฟ้ างหรอื หญา้ แหง้ คลมุ แปลง เพอื่ ปอ้ งกนั การ สูญเสียน้�ำ รักษาความช้ืนของผิวดินไว้ และช่วงป้องกัน ก�ำจัดวชั พชื ● ช่วงแรกที่ย้ายกลา้ ลงแปลงปลูกจะให้นำ�้ วันเวน้ วัน ● หลงั จากกล้าต้ังตัวไดแ้ ลว้ ให้น้ำ� ทกุ 3–5 วัน ขนึ้ อยู่กับ ความชื้นในดิน ระวงั อย่าใหแ้ ฉะ ● ปริมาณน้�ำใต้ดินต้องเพียงพอกับระดับที่รากเจริญ เติบโต คอื 15-60 เซนติเมตร ● ปรมิ าณน้�ำท่ใี ช้ คอื 2.5-5 มิลลิเมตรต่อวนั ● รดน�้ำทุกวัน วันละ 2-3 ครั้ง โดยใช้หัวฉีดพ่นฝอย ในโรงเรือน ให้ละอองอยู่เหนือถุงเห็ด ไม่ให้น�้ำเข้า ในคอขวด และรักษาความช้ืนในโรงเรือนไม่น้อยกว่า 85% เวลาใหน้ ำ้� ระวงั อยา่ ให้น�ำ้ ขงั ในกอ้ นเชื้อ SSSSSSSS1S6SSกSาSรใSชSน้ ้ำ�SอSย่าSงSร้คูSุณSคS่าS...SในSกSารSปSลSกู พSชื SผSกั SแSลSะพSืชSสมSนุ SไพSรSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSS

ชนดิ พชื การใหน้ ำ้� เหด็ ฟาง ● ในวันที่ 4-5 ให้ตรวจดูความช้ืน ถ้าเห็นว่าข้างและ หลังกองแห้งให้ใชบ้ ัวรดน้ำ� รดน�้ำเบา ๆ ใหช้ น้ื แลว้ ปิด ไว้อย่างเดิม ● ตรวจดคู วามชน้ื ภายในโรงเรอื น ถา้ หนา้ กองเพาะแหง้ เกนิ ไป ใหพ้ น่ นำ�้ เปน็ ฝอยทผ่ี วิ หนา้ ใหช้ มุ่ พอสมควร แตอ่ ยา่ ใหแ้ ฉะ ● ความเปน็ กรดเปน็ ดา่ งของน้ำ� ต้องเปน็ กลาง (pH 7) ทม่ี า : กรมสง่ เสริมการเกษตร, 2556. 2. พืชสมนุ ไพร ชนดิ พชื การใหน้ �้ำ ● ขมนิ้ เปน็ พชื ทตี่ อ้ งการความชน้ื สงู แตไ่ มต่ อ้ งการสภาพ ขมนิ้ ชัน ทช่ี ้นื แฉะหลงั จากปลกู เหงา้ พันธแ์ุ ลว้ ควรรดน�้ำใหช้ ุม่ เพื่อรักษาความชื้นของดินให้เหมาะสมต่อการงอกล�ำ อย่างต่อเน่ืองในระยะเร่ิมปลูกจนถึงระยะท่ีต้นยังมี ขนาดเลก็ ควรใหน้ ำ�้ อยา่ งสมำ่� เสมอหรอื ใหน้ ำ�้ เมอื่ เหน็ วา่ ดินแห้ง โดยเม่ือพืชเริ่มโตการให้น้�ำควรลดลงหรือให้ ตามความเหมาะสม โดยท่ัวไปในฤดูฝนที่มีฝนตก สมำ�่ เสมอไมจ่ ำ� เปน็ ตอ้ งใหน้ ำ�้ เพม่ิ และควรระมดั ระวงั ไม่ให้มีน้�ำท่วมขังในแปลงปลูกนาน ๆ เพราะจะท�ำให้ ตน้ เนา่ เสยี หายไดแ้ ละหยดุ การใหน้ ำ�้ ในระยะทต่ี น้ เรมิ่ มี ใบสเี หลอื งในฤดแู ลง้ ซง่ึ เปน็ ชว่ งทขี่ มนิ้ ชนั เขา้ สรู่ ะยะพกั ตวั ● ต้องมีปริมาณน�้ำฝนประมาณ 1,000-2,000 มลิ ลิเมตรต่อปี เทคนคิ หลงั จากปลกู เหงา้ พนั ธแ์ุ ลว้ ควรใชฟ้ างขา้ วหรอื ใบหญา้ คา หรอื วสั ดอุ ยา่ งอน่ื ทม่ี คี ณุ สมบตั เิ หมอื นกนั คลมุ แปลงปลกู เพ่ือลดการระเหยของน�้ำในดิน และช่วยรักษาความช้ืน ในดนิ ซง่ึ จะมีผลดีตอ่ การงอกของขม้นิ ชนั SSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSกSารSใชSน้ S�้ำSอยS่าSงรSู้คSณุ SคS่า..S.ใSนกSาSรปSลSูกSพSืชผSกั SแSลSะพSืชSสSมSนุ ไSพSรSS1S7SSSSSSS

ชนดิ พชื การให้น�้ำ ไพล ในระยะแรกของการปลกู ต้องคอยดูแลอยา่ ใหพ้ ืชขาดน้�ำ ต้องรดน้�ำสม�่ำเสมอ จนกว่าพืชจะตั้งตัวได้หลังจากนั้น กค็ วรใหน้ ้ำ� บา้ งอยา่ งน้อย สปั ดาหล์ ะ 1 คร้งั ในพ้นื ที่ท่ี แห้งแล้ง โดยปกติในพื้นที่ปลูกภาคตะวันออก อาศัยน้�ำ ฝนจากธรรมชาตจิ ะไมม่ กี ารรดน้ำ� เทคนคิ ● ควรปลูกช่วงตน้ ฤดูฝน ในราวเดือนพฤษภาคม ● คลุมด้วยฟางหรือใบหญ้าคาตากแห้ง หนาประมาณ 2 นว้ิ รดนำ้� ทันที หลังปลูกโดยใชเ้ หง้าตัดเปน็ ท่อน ๆ ชุบด้วยสารเคมีป้องกันเช้ือราทิ้งไว้สักครู่ แล้วปลูก ลงแปลงท่ีเตรียมไว้ระยะระหว่างต้นและระหว่างแถว 25x27 เซนติเมตร และกลบดินให้มิดหนาประมาณ 2-3 เซนติเมตร ทีม่ า : ศนู ย์ศกึ ษาการพฒั นาภพู านอันเนอ่ื งมาจากพระราชดำ� ริ จงั หวดั สกลนคร, 2555. SSSSSSSS1S8SSกSาSรใSชSน้ ำ้�SอSยา่SงSรคู้SุณSคS่าS...SในSกSารSปSลSูกพSืชSผSกั SแSลSะพSืชSสมSนุ SไพSรSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSS

ตัวอยา่ งเกษตรกรทปี่ ระสบความสำ� เรจ็ ของกกาลรใ่มุ ชปน้ ลำ้� ูกอผย่าักงปรลคู้ อุณดคส่าา.ร..พ“เิษพบือ่ า้ กนาหรนปอลงกู ศผากั ลา” นายวสนั ต์ จพนั ้นื ททศี่ทร�ำกแาลระเกนษายตจร�ำใลนอทงี่ลุ่มเภหารพือูลก้นกกิจกระรทรมะ ปลกู พชื ผกั ต�ำบลบา้ นสงิ ห์ อ�ำเภอโพธาราม จงั หวัดราชบรุ ี สภาพท่วั ไป พ้ืนที่การเกษตรเป็นที่ลุ่มและที่ดอน นายวสนั ต์ นายจำ� ลอง คลา้ ยแอง่ กระทะ ใชน้ ำ�้ จากแหลง่ นำ้� ชลประทาน ท�ำการเกษตรมีการจัดการแปลงปลูกและ การให้นำ้� ในท่ลี ุ่มและทด่ี อนแตกต่างกัน ต่อมาแหล่งน�้ำได้รับผลกระทบจากฟาร์ม สุกรขนาดใหญ่ท�ำให้น�้ำเน่าเสีย ไม่เหมาะท่ีจะน�ำ ไปใช้ สมาชิกกลุ่มผลิตผักปลอดสารพิษบ้าน หนองศาลาได้ร่วมกันแก้ไขปัญหาท�ำการพัฒนา แหล่งน้�ำ โดยน�ำเทคโนโลยีการบ�ำบัดน้�ำเสีย ตามแนวพระราชด�ำริอาศัยธรรมชาติช่วยเหลือ ธรรมชาตดิ ว้ ยกนั เอง โดยปลกู วชั พชื ไดแ้ ก่ ธปู ฤาษี และผักตบชวาช่วยกรองหรอื ฟอกน้�ำใหส้ ะอาดข้ึน วัชพืชชนิดนี้จะดูดซับธาตุอาหารที่มีอยู่ในน้�ำเสีย น�ำไปใช้ในการเจริญเติบโต ประกอบกับจุลินทรีย์ SSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSกSารSใชSน้ S้�ำSอยSา่ SงรSู้คSุณSคS่า..S.ใSนกSาSรปSลSกู SพSชื ผSกั SแSลSะพSชืSสSมSุนไSพSรSS1S9SSSSSSS

ทมี่ อี ยใู่ นดนิ จะยอ่ ยสลายสารอนิ ทรยี ด์ ว้ ยซงึ่ เปน็ เทคโนโลยที ม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพในการบำ� บดั น�้ำเสยี ไดเ้ ปน็ อยา่ งดี งา่ ย สะดวก ประหยัด ลกั ษณะการปลูกพชื ปลูกพชื แบบยกร่อง ด้วยการ ขุดคันดินล้อมรอบแปลงเกษตร และ ขุดร่องเป็นร่างแหเพื่อยกแปลงด้านใน ใหส้ งู โดยร่องทข่ี ดุ จะใช้สำ� หรบั กกั เก็บ น�ำ้ และให้น�้ำแกพ่ ชื พืชท่ีนิยมปลูกดว้ ย ระบบนี้ ได้แก่ ไม้ผล และพืชผักชนิด ตา่ ง ๆ การเตรยี มดนิ การยกร่องจะท�ำการขุดคันดินบริเวณรอบแปลงเกษตรท้ังส่ีด้านให้มีความสูง ประมาณ 1-1.5 เมตร เพ่ือป้องกนั นำ�้ ทว่ ม และขดุ ร่องรอบทัง้ สดี่ ้านใหล้ ึก 0.5-1 เมตร กว้างประมาณ 1-2 เมตร ตามความเหมาะสมซึ่งจะพิจารณาระดับความลึกของร่อง ที่ต้องขุด เพ่ือให้สามารถเก็บกักน�้ำไว้ใช้ สำ� หรับพืชใหเ้ พยี งพอ น�ำดินท่ีขุดมาถมแปลง ความ กว้างของแปลงประมาณ 3-6 เมตร ความ ยาวตามความเหมาะสมของพ้ืนที่ ขณะ ท�ำการขุดถมแปลงมีการให้รถขุดบีบอัด ขอบแปลงให้แน่นทุกคร้ังเพื่อป้องกันดิน ทรุดตวั และพังลงไดง้ ่าย การดูแลรักษาร่องจะต้องท�ำการขุดลอก ร่องน้�ำด้วยการตักโคลนตมจากท้องร่องมาถมบริเวณขอบร่องทุก ๆ 1-2 ปี ควบคุม ระดับน�้ำในท้องร่องให้คงท่ี เพื่อป้องกันการเน่าเสียของน�้ำ ให้น้�ำเข้าขังในร่องอยู่ใน ระดบั ต่�ำกวา่ ขอบแปลงประมาณ 10-20 เซนตเิ มตร SSSSSSSS2S0SSกSาSรใSชSน้ ำ้�SอSย่าSงSรคู้SุณSคSา่ S...SในSกSารSปSลSกู พSชื SผSกั SแSลSะพSชื SสมSนุ SไพSรSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSS

การปรับปรงุ ดิน ใชป้ ยุ๋ หมกั หรอื ปยุ๋ คอกรว่ มกบั ปยุ๋ เคมตี าม ชนิดพืชที่ปลูกภายหลังเก็บผลผลิต แก้ไขปัญหา ของดิน เช่น กรณีดินเป็นกรด ควรปรับปรุงดิน ดว้ ยการหวา่ นวสั ดปุ นู บนสนั รอ่ งและรอ่ งนำ้� ในอตั รา 0.5-1.0 ตนั ตอ่ ไร่ หรือใส่อตั รา 5 กก.ต่อหลมุ หรือ ถ้าเป็นดินเค็ม ใช้ยิปซัมคลุกลงในดิน และใช้น�้ำล้าง เป็นต้น การป้องกันและก�ำจัดศัตรูพืช : เม่ือพบโรค แมลง และวัชพืชจะใช้แรงงานคนก�ำจัด โดยเด็ดใบ หรือถอนต้นทงิ้ เพือ่ ไมใ่ ห้เกดิ การแพรร่ ะบาด การใชน้ ำ�้ อย่างรคู้ ุณค่า ใชน้ ำ�้ เหมาะสมกบั ชนิดพชื ทป่ี ลูก ผกั ท่เี กษตรกรปลูกผกั ทุกชนดิ เช่น กวางตงุ้ คะน้า โหระพา ผกั กาดหอม บวบ แตงกวา มะระ มะเขือเทศ ฯลฯ ล้วนเป็นพืชอวบน้�ำ จึงต้องการน้�ำมาก หากขาดน้�ำ ผักจะเหี่ยวเฉาอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะ วนั ทอี่ ากาศรอ้ นและมลี มแรงพชื ตอ้ งคายนำ้� มากเปน็ พเิ ศษ ผกั จะชะงกั การเจรญิ เตบิ โต หากผักได้รับน�้ำไม่เพียงพอ ผลผลิตจะ ลดลงอยา่ งมาก ในระยะแรกเมอ่ื ผกั ยงั เล็ก ต้องการน�้ำไม่มากนัก การให้น้�ำกระท�ำ โดยการใชเ้ รอื รดน้ำ� ไปบนแปลงปลูกผกั ใชน้ ้�ำสอดคล้องกบั ความตอ้ งการนำ้� ของพชื ในแต่ละชว่ งวยั ของพืชมีความตอ้ งการน้�ำทแ่ี ตกต่างกัน เร่มิ จากการหว่านเมลด็ ให้นำ้� 3 เวลา คือ เช้า กลางวัน และเยน็ จนกวา่ เมล็ดผกั งอกใชเ้ วลาประมาณ 7 วัน หลังเมล็ดงอกและรากลงดินแล้วลดการให้น้�ำเป็น 2 เวลา คือ เช้าและบ่ายในช่วง SSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSกSารSใชS้นS�้ำSอยS่าSงรSู้คSุณSคS่า..S.ใSนกSาSรปSลSูกSพSืชผSกั SแSลSะพSชืSสSมSนุ ไSพSรSS2S1SSSSSSS

บ่าย 3 โมง หากอากาศร้อนมากต้องให้ทั้ง 3 เวลา ช่วงวิกฤต ของพชื ทข่ี าดนำ้� ไมไ่ ดค้ อื ชว่ งการเจรญิ เตบิ โตตงั้ แต่ 15 ถงึ 35 วนั ซ่ึงจะแตกต่างกันบ้างในแต่ละชนดิ ของพชื ใช้น้ำ� อย่างมีประสทิ ธภิ าพ การใช้เรือรดน้�ำท�ำให้บริหารจัดการน้�ำได้อย่างมี ประสิทธิภาพ สะดวก ประหยัดต้นทุนการให้น้�ำในระยะยาว โดยเรือมหี วั พ่นนำ้� เป็นปลอก 3 แบบ คือ ขนาด 4 หุน 6 หุน และหวั พ่นน�ำ้ ทต่ี ดิ มากับ ตัวเครื่องของเรือเกษตรกรสามารถปรับเปลี่ยนขนาดได้ตามความจ�ำเป็นของการให้น้�ำ และสามารถให้ปุย๋ ควบคไู่ ปด้วย โดยนำ� ปยุ๋ ละลายนำ�้ และพน่ ให้กับพชื ผักอาทติ ย์ละครง้ั ท�ำให้ประหยัดค่าปุ๋ยและเวลาในการดูแลพืชผัก “ประหยัดเวลา และประหยัด แรงงาน” เติมน�้ำหมักชีวภาพใส่ลงไปในน้�ำในระหว่างรดน�้ำ เพ่ือเพิ่มออกซิเจนของ น�้ำในร่องสวนท�ำให้คุณภาพของน้�ำในร่องสวนได้รับการบ�ำบัดไปด้วย น้�ำสะอาดขึ้น สามารถเล้ยี งปลาเบญจพรรณเป็นรายไดเ้ สริมอกี ดว้ ย แผนผังการใชน้ �้ำ SSSSSSSS2S2SSกSาSรใSชS้น้ำ�SอSย่าSงSรู้คSณุ SคSา่ S...SในSกSารSปSลSกู พSชื SผSกั SแSลSะพSืชSสมSุนSไพSรSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSS

ในพนื้ ที่ทำ� การเกษตรในทดี่ อน นายประหยดั สวัสดี กิจกรรมปลกู ถ่วั ฝักยาว ตำ� บลบ้านสิงห์ อำ� เภอโพธาราม จงั หวัดราชบุรี ลกั ษณะการปลกู พืช พ้นื ที่ในการปลกู ผกั เปน็ พน้ื ท่ดี อน มกี ารยกร่องแปลงให้ สงู กวา่ หน้าดินเลก็ นอ้ ยเพื่อให้หน้าดนิ รว่ นซยุ และลกึ รอ่ งแปลง นายประหยัด มีขนาดเล็กใช้สำ� หรับเปน็ ทางเดินเทา่ น้นั การปลูกถ่ัวฝักยาว สามารถปลูกได้ตลอดปีในดิน แทบทุกชนิด แม้ในดินลูกรังซ่ึงเป็นแปลงของเกษตรกรเอง แตค่ ณุ สมบตั ขิ องการเปน็ พชื ตระกลู ถวั่ สามารถชว่ ยปรบั ปรงุ ดินให้ดขี ึ้นได้ ถั่วฝักยาวต้องการแสงแดดเต็มที่ตลอดวัน ชอบ อากาศค่อนข้างร้อน ถ้าอากาศหนาวเกินไปจะท�ำให้ชะงัก การเจริญเติบโตผลผลิตต�่ำ ฝักไม่สวย ถั่วฝักยาวจะให้ ผลผลิตดใี นช่วงฤดฝู น การเตรยี มแปลง ไถพรวนความลึกประมาณ 6-8 นิ้ว ตากดินทิ้งไว้ 5-7 วนั เพื่อท�ำลายไขแ่ มลง และศตั รูพชื บางชนดิ เกบ็ เศษ วัชพืชออกจากแปลงให้หมด ถ่ัวฝักยาวเป็นพืชท่ีมีระบบ รากละเอียดอ่อน ควรยกร่องส�ำหรับปลูกถั่วฝักยาว กว้างประมาณ 1-1.2 เมตร โดยให้ความยาวเหมาะสม กับสภาพแปลง และเตรียมร่องระหว่างแปลงส�ำหรับ เข้าไปปฏบิ ัติงาน กว้างประมาณ 0.5-0.8 เมตร ตากดนิ ไว้ 7-10 วนั เพ่อื ทำ� ลายไข่แมลง และศัตรูบางชนิด SSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSกSารSใชS้นSำ้� SอยS่าSงรSูค้ SุณSคSา่ ..S.ใSนกSาSรปSลSูกSพSืชผSกั SแSลSะพSชืSสSมSนุ ไSพSรSS2S3SSSSSSS

การปรับปรุงดิน มีการวิเคราะห์ดิน เพื่อให้ทราบถึงความจ�ำเป็นและ หาขอ้ มลู ในการปรบั ปรงุ บำ� รงุ ดนิ ใหเ้ หมาะสม รวมทง้ั หาความ เปน็ กรดและดา่ งของดิน (pH) ใหม้ คี ่าระหวา่ ง 5.5-6.0 หลัง จากตากดนิ แล้ว จากนัน้ ไถคราด ไถพรวน ใส่ปุย๋ คอกหรอื ปยุ๋ หมักท่สี ลายตัวแลว้ เพ่ือปรบั ปรุงโครงสรา้ งของดินใหด้ ีขึ้น การปอ้ งกันและกำ� จดั ศัตรูพืช การใหน้ ำ้� แบบระบบมนิ สิ ปรงิ เกลอรใ์ นแปลงถว่ั ลสิ ง สามารถใหน้ ำ�้ ไดท้ วั่ ถงึ ทงั้ ตน้ ชว่ ยใหบ้ รเิ วณยอดต้นถัว่ มคี วามชุ่มชื้น ศตั รูพชื ไม่มารบกวนหรือรบกวนนอ้ ยมาก หากมี ความจำ� เป็นต้องป้องกันและก�ำจัดศตั รูพชื สามารถใช้สารก�ำจดั ศตั รูพชื พรอ้ มใหน้ ำ้� ได้ การใช้น�้ำอย่างร้คู ณุ คา่ วธิ ีการใชน้ ำ�้ เหมาะสม มแี หลง่ นำ้� ตน้ ทนุ เปน็ คลองชลประทานอยใู่ กลก้ บั พนื้ ที่ ปลูกสะดวกต่อการสูบน้�ำเขา้ ในแปลง ใช้ระบบมนิ ิสปริงเกลอร์ แบบฉดี พน่ ฝอยเหนอื หวั ดว้ ยการวางทอ่ นำ�้ จากแหลง่ นำ�้ เขา้ ไป ในแปลงปลกู มที อ่ ตงั้ ขนึ้ มา ความสงู แลว้ แตข่ นาดความสงู ของ ค้างถ่ัว ที่ปลายสุดของท่อจะเป็นหัวจ่ายน้�ำ วิธีน้ีเกษตรกร สามารถทำ� การควบคมุ และปรับแรงดันของน้�ำได้ ป้องกัน ความเสียหายของพืชท่ีเกิดจากแรงดันน้�ำท่ีแรง เกนิ ไปหากใช้วธิ ใี ช้สายยางทวั่ ไป อกี ท้งั สามารถ ให้ปุ๋ยไปพร้อมกับการให้น�้ำได้ และท่ีส�ำคัญใช้ แรงงานน้อยกวา่ วธิ อี นื่ SSSSSSSS2S4SSกSาSรใSชSน้ ้ำ�SอSยา่SงSรูค้Sณุ SคSา่ S...SในSกSารSปSลSูกพSืชSผSกั SแSลSะพSืชSสมSนุ SไพSรSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSS

การใชน้ ้ำ� สอดคลอ้ งกับความต้องการน้ำ� ของพชื ถ่ัวฝักยาวจ�ำเป็นต้องให้น�้ำอย่างสม่�ำเสมอและเพียงพอ แต่ไม่ควรแฉะเกินไป เกษตรกรจะมกี ารตรวจสอบความชนื้ ในดนิ ใหเ้ หมาะสมเพอื่ ไม่ให้ดินแห้ง แต่ก็ไม่ให้ช้ืนมากเกินไปเพราะจะท�ำให้เมล็ด อาจเนา่ ได้ เกษตรกรมีการให้น�้ำในแปลงถ่ัวฝักยาวทุกวันนับ ต้ังแต่ในระยะอาทิตย์แรกหลังหยอดเมล็ด จนถึงระยะการ เจริญเตบิ โต และติดดอกออกผล มีการใหน้ ำ�้ อย่างสม�ำ่ เสมอ วันละ 1 ครั้งในช่วงประมาณ 11.00 น. เพราะหากขาดนำ้� จะทำ� ให้ดอกร่วง และไมต่ ดิ ฝัก หรอื ฝักอาจไม่สมบรู ณ์ มีการ ควบคมุ ปรมิ าณการใชน้ ำ�้ ดว้ ยตวั เกษตรกรเอง เปดิ /ปดิ วาวลน์ ำ�้ แต่ละแถวของมินิสปริงเกลอร์ โดย ปริมาณการให้น�้ำกับแปลงถ่ัวฝักยาวของเกษตรกร แตกต่าง กันบ้าง ตามช่วงอายุของถั่ว ช่วงต้นเล็ก จะให้น�้ำปริมาณ ไมม่ ากนัก เมื่อผักโตขน้ึ จะใหน้ ้�ำมากข้นึ เกษตรกรใหน้ ำ้� ตามสภาพภมู อิ ากาศ กลา่ วคอื ถา้ เปน็ ฤดู แลง้ จะใชฟ้ างข้าวคลมุ แปลง และใหน้ �้ำในปริมาณมากข้นึ แตถ่ า้ ฝนตก เกษตรกรไมต่ ้องให้นำ้� ท้ังนี้ หากไมม่ ่ันใจว่าได้มกี ารใหน้ ำ�้ อย่างเพยี งพอแล้วหรอื ยัง โดย การสังเกตสภาพดินว่าหน้าดิน แห้งหรือไม่หรือท�ำการทดสอบ โดยใช้นิ้วมือจับดินปลูกและเจาะลงในพ้ืนดินด้วย และหากพบว่าต้นและใบถั่วเริ่มเหี่ยวเฉา แสดงว่าพืช กำ� ลงั ขาดนำ�้ เกษตรกรตอ้ งเรง่ ใหน้ ำ�้ โดยดว่ น ชว่ งวกิ ฤต ท่ีพชื ขาดน้�ำไมไ่ ดค้ ือช่วงการตดิ ดอก ติดผล SSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSกSารSใชSน้ S�้ำSอยS่าSงรSู้คSุณSคS่า..S.ใSนกSาSรปSลSกู SพSชื ผSกั SแSลSะพSชืSสSมSุนไSพSรSS2S5SSSSSSS

การใชน้ ้ำ� อย่างมีประสิทธิภาพ เดมิ ไดม้ กี ารใหน้ ำ้� ดว้ ยการใชส้ ายยาง ใช้คนลากสาย 2 คน ในพื้นที่เพียง 1 ไร่ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จึงรดน�้ำได้เสร็จ ตอ่ มาไดน้ ำ� ระบบมนิ สิ ปรงิ เกลอรแ์ บบหวั เหวย่ี ง และแบบฉีดพ่นฝอย มาใช้กับแปลงปลูก พืชผัก อาศัยแหล่งน�้ำจากคลองชลประทาน ท่ีมีน�้ำตลอดปี ใช้มอร์เตอร์ไฟฟ้าสูบน�้ำ จากคลองชลประทาน ในพ้ืนที่ 1 ไร่ ใช้เวลา เหลือเพยี ง 50 นาที ก็สามารถรดนำ�้ เสรจ็ แลว้ สามารถประหยดั นำ�้ ไดม้ ากเมอื่ เปรยี บเทยี บกบั การให้น้�ำแบบลากสาย ทั้งประหยัดเวลาและ ประหยัดแรงงานอกี ด้วย SSSSSSSS2S6SSกSาSรใSชS้น้ำ�SอSยา่SงSร้คูSณุ SคS่าS...SในSกSารSปSลSูกพSชื SผSกั SแSลSะพSืชSสมSนุ SไพSรSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSS

ตวั อยา่ งเกษตรกรท่ปี ระสบความส�ำเร็จ การใช้น้ำ� อย่างร้คู ณุ ค่า...ในการทำ� ไรน่ าสวนผสม แบบนายประกจิ จิตรใจภักดิ์ ต�ำบลนาโยงเหนอื อำ� เภอนาโยง จงั หวดั ตรงั ปญั หาการใช้นำ�้ ในอดีต นายประกิจ จิตรใจภักด์ิ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขท่ี 10 หมู่ที่ 5 ต�ำบลนาโยงเหนือ อ�ำเภอนาโยง จังหวัดตรัง จบการศึกษาช้ัน ม.6 ประกอบอาชพี เกษตรกรรมไร่นาสวนผสมในพ้ืนท่ี 34 ไร่ ท�ำนา 4 ไร่ ปาล์มนำ้� มนั 19 ไร่ ไมผ้ ล 7 ไร่ ปลกู มะนาว มะละกอ ผักเหมียง สะตอ มะพร้าวอ่อน กลว้ ย ไผ่ ดาวเรือง เล้ยี งปลา กบ หมู ไก่ และเปด็ โดยใช้หลักแนวคิด “ขยัน ซ่ือสัตย์ ประหยดั อดทน และกตัญญ”ู แอนย่าวงคมิดีค..ณุ .กคาา่รใบนรกหิ าารรทจ�ำดั ไกร่นารานส้ำ�วนผสม นายประกิจมีพ้ืนที่การเกษตรอยู่ในเขต ชลประทาน และใกล้สระน�้ำในหมู่บ้าน จึงไม่มีปัญหา การขาดแคลนน�้ำเพ่ือการเกษตร ต่อมามีแนวคิด... จะบริหารจัดการน�้ำในปริมาณท่ีมีอยู่อย่างไรให้เกิด ประโยชน์สูงสุด จึงได้เพิ่มกิจกรรมในพ้ืนท่ีการเกษตร เป็นแปลงไร่นาสวนผสมท่ีสามารถเพ่ิมมูลค่าสร้าง รายได้มากข้ึน และใช้ประโยชน์จากปริมาณน�้ำ SSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSกSารSใชS้นS�้ำSอยSา่ SงรSู้คSณุ SคS่า..S.ใSนกSาSรปSลSกู SพSืชผSกั SแSลSะพSชืSสSมSุนไSพSรSS2S7SSSSSSS

ที่มีอยู่อย่างรู้คุณค่าให้เหมาะสมและสอดคล้องตามความต้องการของพืช เช่น น�ำรูปแบบมินิสปริงเกลอร์มาใช้ในสวนปาล์ม หมุนเวียนการใช้น�้ำในการปลูกพืชผัก ไมด้ อก ไมผ้ ล เลย้ี งหมูหลมุ และเลีย้ งปลาสวยงามในบ่อซเี มนต์ พชื ผักและไมด้ อก การใช้น้ำ� อย่างรคู้ ุณค่า 1. ใชน้ ำ้� ทเ่ี หลอื จากการใหน้ ำ้� ในแปลงมะละกอ ให้เกิดประโยชน์สูงสดุ 2. ใชน้ ำ้� เพ่อื บังคับให้ผลผลิตมะนาวออกนอกฤดูท�ำให้ขายไดร้ าคาสูง องค์ความรู้และผลทไ่ี ด้ 1. การใหน้ ำ�้ แบบมินิสปรงิ เกลอร์ทกุ ๆ 15 วนั ในแปลงมะละกอพนั ธ์ุ Red lady และพนั ธุ์ Holland ท�ำใหพ้ ชื ที่ปลูกแซมในแปลง เชน่ ฟักเขยี ว บวบ ผกั บ้งุ ดาวเรอื ง ได้รับน้ำ� ไปด้วย สามารถควบคมุ วชั พืชในแปลงมะละกอ 2. การผลิตมะนาวนอกฤดูในบ่อซีเมนต์ ใช้ดินผสมในอัตรา ปุ๋ยหมัก : ดิน : ข้ีเถ้าแกลบ เท่ากับ 1 : 1 : 1 ใส่ในบ่อซีเมนต์ให้แน่น ใช้ก่ิงมะนาวพันธุ์ตาฮิติ และ พันธุพ์ จิ ติ ร 1 อายุ 1 เดือน ให้น�ำ้ แบบมนิ สิ ปรงิ เกลอร์ 3 วนั ต่อครง้ั หลังปลกู 8 เดอื น ใส่ป๋ยุ สตู ร 15-15-15 อตั รา 150 กรมั ต่อตน้ ตัดกิ่งไมส่ มบรู ณ์ออก คลุมพลาสตกิ เพ่อื ลด ปริมาณนำ้� ในฤดูฝน เมือ่ ใบเรม่ิ รว่ ง (ประมาณ 12 วนั ) ใหเ้ อาพลาสติกออก แล้วใสป่ ุ๋ย สตู ร 9-24-24 อตั รา 150 กรมั ตอ่ ตน้ ใหน้ ำ�้ จนชุม่ หลงั จากนน้ั ใหน้ �ำ้ 2 วนั ตอ่ ครงั้ ๆ ละ 10 นาที ระยะเวลา 15-20 วัน มะนาวจะเรมิ่ ออกดอก ใหน้ �ำ้ ต่ออีก 4-5 เดอื น จงึ เรมิ่ เกบ็ เก่ียวผลผลิตมะนาวนอกฤดูได้ มะนาว 1 ตน้ เก็บเก่ียวผลผลิตได้ 20 กก. SSSSSSSS2S8SSกSาSรใSชS้น�้ำSอSยา่SงSรู้คSณุ SคS่าS...SในSกSารSปSลSูกพSชื SผSักSแSลSะพSืชSสมSุนSไพSรSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSS

ปลกู ขา้ ว การใช้น้ำ� อยา่ งร้คู ุณค่า 1. การใชน้ ้�ำเพอ่ื ควบคุมวัชพืชและศัตรูพืช 2. การใช้นำ้� เพื่อเพิม่ คุณภาพผลผลติ องค์ความรแู้ ละผลทไี่ ด้ 1. การปรบั ปรงุ บำ� รงุ ดนิ โดยใชเ้ มลด็ พนั ธป์ุ อเทอื ง 5 กโิ ลกรมั หวา่ นลงในแปลง แล้วไถกลบเม่ือปอเทืองอายุครบ 60 วัน (ชว่ งออกดอก) ก่อนไถดะ ไถแปร และทำ� เทือก รอปักด�ำ 2. ใชพ้ นั ธข์ุ า้ วเลบ็ นกปตั ตานี 20 กโิ ลกรมั (พน้ื ทปี่ ลกู ขา้ ว 4 ไร)่ เมอ่ื ตน้ กลา้ อายุ 60 วัน ถอนปกั ด�ำลงในแปลงนา 3. หลังปกั ด�ำ 20 วัน ใหล้ ดระดับนำ้� ในแปลงเหลอื ประมาณ 10 เซนตเิ มตรแล้ว หว่านปุ๋ยยูเรีย เมื่อต้นกล้าเร่ิมเปล่ียนสี ให้น�ำน้�ำเข้านาระดับ 25 เซนติเมตร เป็นการ ให้น้�ำและแก้ปัญหาการระบาดของหอยเชอร์ร่ี หนู และวัชพืช หลังจากน้ัน 15 วัน และ 45 วัน หว่านปุ๋ยเคมีสูตร 16-20-0 อัตรา 5 กิโลกรัมต่อไร่ ต่อครั้งผลผลิตเฉล่ีย 400-500 กิโลกรมั ตอ่ ไร่ ปาล์มน้�ำมนั การใช้น้ำ� อยา่ งรคู้ ณุ ค่า 1. การใช้น�ำ้ เพ่ือเพม่ิ ปริมาณผลผลติ 2. การใช้นำ้� อยา่ งประหยดั ดว้ ยระบบมนิ ิสปริงเกลอร์ 3. การใชน้ ำ�้ เพอ่ื ใหเ้ กบ็ เกย่ี วผลผลติ ปาลม์ นำ�้ มนั ไดต้ ลอดทง้ั ปที ำ� ใหข้ ายไดร้ าคาสงู องค์ความร้แู ละผลทีไ่ ด้ 1. ปลกู ปาลม์ นำ้� มนั แบบยกรอ่ ง โดยใชพ้ นั ธส์ุ รุ าษฎรธ์ านี 2 ใชน้ ำ้� จากชลประทาน ท�ำให้มนี ้�ำไหลหมนุ เวยี นในแปลง SSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSกSารSใชSน้ S�้ำSอยS่าSงรSคู้ SุณSคSา่ ..S.ใSนกSาSรปSลSกู SพSชื ผSกั SแSลSะพSชืSสSมSนุ ไSพSรSS2S9SSSSSSS

2. เก็บตัวอย่างดินไปวิเคราะห์ก่อนปลูก ใส่ปุ๋ยตามผลการวิเคราะห์ แล้วปรับ สภาพดินด้วยโดโลไมท์ 1 ตันต่อไร่ รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยหมัก 3 กิโลกรัมต่อหลุม และ หนิ ฟอสเฟต 300 กรมั ต่อหลุม คลุกเคล้าให้เข้ากัน ทิ้งไว้ 2-3 วนั ก่อนปลูกปาลม์ นำ�้ มนั การใสป่ ยุ๋ จะใชป้ ยุ๋ หมกั 2 กระสอบตอ่ ตน้ ตอ่ ปี รว่ มกบั ปยุ๋ หมกั ทไี่ ดจ้ ากทางใบปาลม์ นำ�้ มนั ซึ่งใส่ไว้ใต้โคนต้น และใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 จ�ำนวน 3-4 ครั้งต่อปี และใส่โบรอน เม่อื ตน้ ปาล์มน�้ำมันแสดงอาการขาดธาตุ 3. เมอ่ื ปาลม์ นำ้� มนั เรม่ิ ออกดอก ใหต้ ดั ชอ่ ดอกทงิ้ และตดั แตง่ ทางใบปาลม์ นำ้� มนั ทีใ่ ห้ผลผลติ แล้ว 4. ให้นำ้� ปาล์มน�้ำมันดว้ ยระบบมนิ ิสปริงเกลอร์ ในชว่ งฤดแู ลง้ อัตรา 200 ลิตร ตอ่ ชวั่ โมง แทนการใหน้ ำ้� แบบเดมิ ซงึ่ ใหน้ ำ�้ ในอตั รา 800 ลติ รตอ่ ชวั่ โมง ทำ� ใหป้ าลม์ นำ้� มนั สามารถน�ำนำ�้ ไปใชไ้ ด้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ และประหยัด ส่งผลให้ปาล์มน้�ำมันมผี ลผลิต ตลอดท้ังปี ปริมาณผลผลิตเพม่ิ ขน้ึ รอ้ ยละ 30 ปาล์มนำ้� มนั อายุ 4 ปี ผลผลติ เฉลี่ย 2.5 ตนั ต่อไรต่ อ่ ปี ไม้ผล การใช้น้�ำอย่างรคู้ ณุ ค่า 1. การใช้นำ้� เพ่ือเพ่ิมประสทิ ธภิ าพการผลติ ไมผ้ ล 2. การใชน้ ำ้� ทเี่ หลือจากการใหน้ ้ำ� ในแปลงไมผ้ ล ใหเ้ กดิ ประโยชนเ์ พ่มิ ขึน้ องคค์ วามรู้และผลทไ่ี ด้ 1. การผลิตไม้ผล ได้แก่ ลองกอง ทุเรียน และมังคุด มีการดูแลรักษาไม้ผล แตล่ ะชนดิ ตั้งแต่การตัดแตง่ กิง่ การใหน้ �้ำเพอ่ื ควบคุมการออกดอก การพัฒนาคุณภาพ ผลผลิต และเพม่ิ ปรมิ าณผลผลติ การใหป้ ุ๋ย และการป้องกนั ก�ำจดั ศตั รูพชื SSSSSSSS3S0SSกSาSรใSชS้นำ้�SอSย่าSงSรูค้SุณSคSา่ S...SในSกSารSปSลSูกพSืชSผSกั SแSลSะพSืชSสมSนุ SไพSรSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSS

2. ปลกู ผักเหมียงเป็นพืชรว่ มในสวนไม้ผล จ�ำนวน 350 ต้น เป็นการน�ำน้�ำท่ีให้ กบั ไมผ้ ลมาใชป้ ระโยชน์อย่างคุม้ ค่า ท�ำการเก็บเก่ยี วผกั เหมียงไดอ้ าทิตยล์ ะ 2 คร้ัง 3. การทำ� นำ�้ ส้มควนั ไม้จากกงิ่ ไม้ในสวนและจากโรงงานเฟอรน์ ิเจอร์ เพื่อนำ� ไป ใช้เป็นสารกำ� จัดศัตรูพืชในผกั และไม้ผล ก�ำจดั เห็บหมดั ในสัตวเ์ ล้ียง ผลพลอยไดค้ ือช่วย ก�ำจดั เศษไมจ้ ากสวนไมผ้ ลและได้ถา่ นไว้ใช้แทนก๊าซหงุ ตม้ 4. การท�ำปุ๋ยหมักแห้งจากมูลสัตว์ และการท�ำปุ๋ยหมักน้�ำจากผลผลิตท่ีเหลือ จากในแปลง เพื่อนำ� กลับมาใช้ในผกั ปาลม์ น�ำ้ มนั และไม้ผล ปศุสตั ว์ การใชน้ �ำ้ อยา่ งร้คู ุณคา่ การใช้น้�ำอย่างประหยัดเพ่ือลดต้นทุนใน การเลี้ยงสัตว์ องคค์ วามรแู้ ละผลทีไ่ ด้ 1. การเลย้ี งหมหู ลุม โดยใชค้ อกขนาด 3 x 3 เมตร จ�ำนวน 6 ตัว ใส่แกลบหนา ประมาณ 20 เซนติเมตร เติมแกลบสัปดาห์ละคร้ัง เพ่ือให้อุณหภูมิในคอกสูงกว่าปกติ ชว่ ยลดปญั หาหมทู อ้ งรว่ งได้ และการเลย้ี งหมหู ลมุ ทำ� ใหไ้ มต่ อ้ งลา้ งคอก ชว่ ยประหยดั นำ�้ ลดตน้ ทนุ การผลิต ให้อาหารวนั ละ 2 กิโลกรมั ตอ่ ตวั ต่อวัน ขายได้เมอื่ อายุครบ 4 เดือน น้�ำหนักตัวละ 90-120 กิโลกรัม ซึ่งหมูหลุมจะมีน�้ำหนักและปริมาณเน้ือแดงมากกว่า หมูที่เล้ียงปกติ นอกจากน้ียังได้มูล 30-40 กิโลกรัมต่อรุ่น ก�ำจัดกลิ่น โดยใช้ EM 3 ชอ้ นโตะ๊ ผสมน้�ำ 20 ลิตร ราดในคอกที่เล้ยี ง 2. เลย้ี งไกไ่ ข่ 40 ตวั ใหอ้ าหารสำ� เร็จรปู ร่วมกบั ผกั พ้นื บ้าน ยอดมนั เทศ และ รำ� ขา้ ว ใชแ้ กลบรองพ้นื 15 กระสอบตอ่ เดอื น ได้ไขไ่ ก่ 32 ฟองต่อวนั และได้ปยุ๋ มูลไก่ เป็นผลพลอยได้ ประมง การใช้น้ำ� อยา่ งรคู้ ณุ คา่ สรา้ งสระน้�ำเพอื่ บำ� บดั น้�ำเสียจากบ่อปลา แลว้ นำ� น�ำ้ กลับมาใช้ใหม่ในสวนไมผ้ ล SSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSกSารSใชS้นSำ้� SอยS่าSงรS้คู Sณุ SคSา่ ..S.ใSนกSาSรปSลSกู SพSืชผSกั SแSลSะพSืชSสSมSุนไSพSรSS3S1SSSSSSS

องคค์ วามรูแ้ ละผลทีไ่ ด้ เลี้ยงปลาทอง ปลาหางนกยูง ปลากัด และปลาคราฟในบ่อซีเมนต์ และน�ำน�้ำเสียจาก บ่อเล้ียงไรแดง ซึ่งใช้เป็นอาหารปลา และจาก บ่อเล้ียงปลา มาบ�ำบัดก่อนน�ำกลับมาใช้ใหม่ ในสวนไม้ผล แผนผงั ศูนยเ์ รยี นรกู้ ารเพม่ิ ประสิทธภิ าพการผลติ สินคา้ เกษตร “ไรน่ าสวนผสม” นายประกจิ จติ รใจภกั ด์ิ ตำ� บลนาโยงเหนอื อ�ำเภอนาโยง จงั หวัดตรัง SSSSSSSS3S2SSกSาSรใSชSน้ ้�ำSอSยา่SงSรู้คSณุ SคS่าS...SในSกSารSปSลSูกพSืชSผSกั SแSลSะพSืชSสมSนุ SไพSรSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSS

แรงดนั : 1 เมตร เทา่ กับ ระดบั นำ�้ ในท่อแนวดิ่งสงู 1 เมตร หรอื 10 เมตร เท่ากับ 14.7 ปอนดต์ อ่ ตารางนวิ้ (psi) การเปรียบเทียบหน่วย : 1 มลิ ลิเมตร เทา่ กับ 1.6 ลูกบาศกเ์ มตรตอ่ ไร่ หรอื 1.6 คิวต่อไร่ (cubic metre per rai) SSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSS