Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore BV020 9-3-62

BV020 9-3-62

Published by kengkung4514, 2019-03-11 09:01:06

Description: เอกสาร proposal งานวิจัย

Search

Read the Text Version

1 บ.020 บัณฑิตวทิ ยาลัย มจพ. แบบฟอรม์ เสนอโครงการวิทยานิพนธ์ บณั ฑติ วทิ ยาลยั มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยพี ระจอมเกล้าพระนครเหนือ ชื่อเร่ือง (ภาษาไทย) ระบบพยากรณอ์ าชพี ดิจิทัลอจั ฉรยิ ะฐานเทคโนโลยีเชงิ ปัญญาเพอ่ื การเปน็ มหาวิทยาลยั สมรรถนะสูงด้านการผลติ บณั ฑิต ชื่อเร่อื ง (ภาษาอังกฤษ) Intelligent Digital Career Prediction System Using Cognitive Technology for High Performance University to Graduate Production ผเู้ สนอ นายพงศธร ปาลี รหัสประจาตวั นักศึกษา 6002052910025 สาขาวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สารเพอ่ื การศึกษา อักษรย่อ DICT อาจารย์ท่ีปรกึ ษาหลัก ................................................ อาจารย์ท่ปี รึกษารว่ ม ................................................ (โปรดพลกิ )

2 1.1 ความเปน็ มาและความสาคญั ของปัญหา การศึกษาเป็นกระบวนการพัฒนาคนในสังคมให้มคี วามสามารถ ระบบการศึกษาถือเป็นปัจจัยหนงึ่ ที่ สาคัญต่อการเจริญเติบโตและการพัฒนาประเทศ โดยที่ปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศมีการเปล่ียนแปลงและ พัฒนาข้ึนมาก โลกกาลังก้าวเข้าสู่ยุคของการสร้างกาลังคนดิจิทัล สถาบันการศึกษาโดยเฉพาะมหาวิทยาลยั มี ส่วนสาคัญในการผลิตบัณฑิตที่ตอบโจทย์ตลาดแรงงาน ให้ทันสมัย สิ่งที่มหาวิทยาลัยจาเป็นต้องปรบั ตัวยงั คง ประกอบไปดว้ ย 1. การพัฒนาหลักสูตรท่ีทันยุคทันสมัยและที่สาคัญทันต่อเทคโนโลยที ่ีเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถี ชวี ติ ของคนในสังคม 2. เทคโนโลยีเคร่ืองมือประกอบการเรียนการสอน การสอนในภาคปฏิบัติเพื่อให้นักศึกษา ไดล้ งมือทางานจรงิ ไดเ้ รยี นรู้การทางานเปน็ ทมี และการแกไ้ ขปญั หาเฉพาะหนา้ 3. บคุ ลากรทางการศึกษาตอ้ ง ทาหนา้ ที่เป็นโค้ชใหแ้ นวทางใหค้ าแนะนาเพ่ือให้นักศึกษาเป็นศนู ยก์ ลางของการเรียนรู้ 4. มหาวิทยาลยั ไม่ควร มีเครือข่ายเฉพาะสถาบันการศึกษาเท่านั้น แต่ต้องสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับภาคธุรกิจเอกชนเพื่อสร้าง โอกาสให้กับนักศึกษา ช่วยให้เข้าใจความต้องการของตลาดแรงงาน และนาไปสู่การปรับปรุงหลักสูตรใหต้ รง กับความต้องการของตลาดมากทีส่ ดุ ความเจริญกา้ วหน้าของวิทยาการตา่ ง ๆ ส่งผลให้การเรยี นการสอนต้องมี การปรับตัวให้ก้าวทันกับนวัตกรรมและเทคโนโลยีท่ีจะเกิดข้ึน การเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้อย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร จึงมีบทบาทอย่างมากในการดารงชีวิตของมนุษย์มากขึ้น โดยเฉพาะ อย่างยิ่งในด้านการศึกษา เทคโนโลยีสารสนเทศกลายเป็นแหล่งเรียนรู้ท่ีมีความสาคัญ อาจารย์ต้องรู้ทัน ข่าวสารสาคัญใหม่ๆ และทันสมัยอยู่เสมอ ด้วยการแสวงหาข้อมูลความรู้ด้วยตนเองผ่านข้อมูล ข่าวสารและ สารสนเทศสมัยใหม่อยู่ตลอดเวลา เพราะอาจารย์ต้องเป็นฝ่ายอานวยการเรียนรใู้ ห้นกั ศึกษา พัฒนาผู้เรียนให้ เต็มตามศักยภาพ มีทักษะในการแสวงหาความรู้ จากแหล่งเรียนรู้ท่ีหลากหลาย และสามารถนาวธิ ีการเรยี นรู้ ไปใชใ้ นชวี ิตประจาวนั เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารเข้ามาเป็นส่วนหน่งึ ของการจัดการเรียนรู้ ซ่ึงชว่ ย อานวยความสะดวกในการเข้าถึงแหล่งข้อมูลต่างๆ ทาให้การเช่ือมต่อระหว่างอาจารย์และนักศึกษาดีขึ้น (สถาบันคณุ วฒุ ิวชิ าชีพ องคก์ ารมหาชน, 2561) กรอบยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560 - 2579) และกรอบทิศทางของแผนพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคม แหง่ ชาติ ฉบบั ที่ 12 (พ.ศ. 2560 - 2564) ความจาเปน็ ในการจัดทาแผนการศึกษาแห่งชาติ ความท้า ทายท่ีเป็นพลวัตของโลกศตวรรษที่ 21 ท้ังในส่วนท่ีเป็นแรงกดดันภายนอก ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงของบริบท เศรษฐกิจและสังคมโลก อันเน่ืองมาจากการปฏิวัติดิจิทัล (Digital Revolution) การเปลี่ยนแปลงสู่ อุตสาหกรรม 4.0 (The Fourth Industrial Revolution) การดาเนินงานเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาท่ี ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ 2573 (Sustainable Development Goals : SDGs 2030) ที่ประเทศไทย ได้ให้สัตยาบัน รวมท้ังผลกระทบของการเป็นประชาคมอาเซียน และความต้องการกาลังคนท่ีมีทักษะใน ศตวรรษที่ 21 ประกอบกับแรงกดดันจากภายในประเทศจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรที่ส่งผลให้ ประเทศเข้าสู่สังคมสูงวยั อย่างสมบูรณใ์ นอนาคตอันใกล้ แผนการศกึ ษาชาติ พ.ศ. 2560 – 2579 ยุทธศาสตร์ท่ี 2 การผลิตและพฒั นากาลงั คน การวจิ ยั และนวตั กรรรม เพอ่ื สรา้ งขีดความสามารถในการแขง่ ขันของประเทศ ว่าต้องมกี ารสรา้ งกาลงั คนมีทักษะที่สาคญั จาเป็นและมีสมรรถนะตรงตามความต้องการของตลาดงานและการ พฒั นาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ มีตัวชวี้ ัดทส่ี าคัญ เชน่ มีฐานขอ้ มูล ความตอ้ งการกาลงั คน (Demand) จาแนกตามกลุ่มอุตสาหกรรมอย่างครบถ้วน สัดส่วนผู้เรียน อาชีวศึกษาสูงขึ้นเมื่อเทียบกับผู้เรียนสามญั ศึกษา และสัดส่วนผู้เรียนวิทยาศาสตร์สุขภาพ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีสูงขึ้นเม่ือเทียบกับผู้เรียนสังคมศาสตร์ กาลังแรงงานในสาขาอาชพี ตา่ งๆ ทไ่ี ดร้ บั การยกระดับคุณวฒุ วิ ชิ าชพี เพ่ิมขึ้น

3 กรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2552 (กระทรวงศึกษาธิการ, 2552) รวมถึง ประกาศคณะกรรมการการอุดมศึกษา เร่ือง แนวปฏิบัติตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒริ ะดับอุดมศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2552 (สานกั งานคณะกรรมการการอุดมศกึ ษา, 2552 ก) ได้กาหนดนโยบายการพฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษา และส่งเสริมการนามาตรฐานอุดมศึกษาไปสู่การปฏบิ ัติในสถาบันการศกึ ษาอย่างเปน็ รูปธรรม ผลกั ดันให้มีการ พัฒนาหลกั สตู ร ปรบั เปล่ียนกลยุทธ์วธิ ีการสอนการวัดประเมนิ ผลของอาจารย์ให้สามารถวัดผลการเรียนรู้ของ ผู้เรียนตามท่ีคาดหวัง (Learning Outcomes) ตามท่ีกรอบ มคอ. ได้กาหนดไว้ในแต่ละสาขาวิชา ซ่ึงเป็น มาตรฐานขั้นต่าเชิงคุณภาพ เพื่อให้หน่วยงานและผู้ท่ีเกี่ยวข้องได้เข้าใจและมั่นใจถึงกระบวนการผลิตบัณฑติ กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่จะส่งเสริมให้บัณฑิตบรรลุถึงมาตรฐานผลการเรียนรู้อย่างสอดคล้องกัน อยา่ งเปน็ ระบบ เน้นการจดั การเรยี นการสอนแบบผลลพั ธ์การเรยี นรู้ทไี่ ด้ด้วยวิธกี ารเรยี นรู้แบบใช้ผลลพั ธ์เป็น ฐาน ( Outcomes-based approaches) (ไพฑูรย์, 2554) และ ส่ง เสริมให้คุณวุ ฒิหรือ ปริญ ญ าของ สถาบนั อดุ มศึกษาของไทยเป็นที่ยอมรับและเทยี บเคียงกันไดก้ บั ถาบันอุดมศึกษาทดี่ ีทง้ั ในและต่างประเทศ เปดิ โอกาสให้สถาบันอุดมศึกษาสามารถจัดหลักสูตร ออกแบบกระบวนการเรยี นการสอนได้อย่างหลากหลายโดย มั่นใจถึงผลผลิตสุดท้ายของการจัดการศึกษา คือ คุณภาพของบัณฑิตตามมาตรฐานข้ันต่าของกรอบ มคอ. ที่ กาหนดไว้ ดังนั้นเพ่ือให้การบริหารหลักสูตรของสถาบันการอุดมศึกษาทั่วประเทศเป็นไปตามมาตรฐาน เดียวกันจึงมีขั้นตอนการปฏิบัติตามกรอบ มคอ. ดังนี้ (1) พัฒนามาตรฐานคุณวุฒิสาขา/สาขาวิชาต่างๆในแต่ ละระดับคุณวุฒิ หรือ มคอ. 1 จัดทาโดยสานักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (2) จัดทา มคอ. 2 รายละเอียดของหลักสูตร จดั ทาโดยคณาจารย์คณะกรรมการหลักสูตรของสถาบนั อุดมศกึ ษาต่าง ๆ (3) จดั ทา มคอ. 3 รายละเอียดของรายวิชา และ มคอ. 4 รายละเอียดรายวชิ าประสบการณภ์ าคสนาม จัดทาโดยอาจารย์ ผู้รับผิดชอบรายวิชา ซ่ึงจะต้องจัดทาให้แล้วเสร็จก่อนเปิดภาคการศึกษา (4) ขออนุมัติหลักสูตรต่อสภา สถาบันอุดมศึกษา (5) เสนอหลักสูตรต่อสานักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (6) บริหารหลักสูตรและการ จัดการเรียนการสอน (7) จัดทา มคอ. 5 รายงานผลการดาเนนิ การของรายวิชา และ มคอ. 6 รายงานผลการ ดาเนินการของประสบการณ์ภาคสนาม จัดทาโดยอาจารย์ผู้สอนซึ่งจะต้องรายงานทุกภาคการศึกษาเพื่อให้ ทราบถงึ ผลการจดั การเรียนการสอนท่ไี ดอ้ อกแบบวางแผนไว้ใน มคอ. 3 หรอื มคอ. 4 เพอ่ื เปน็ ประโยชน์ในการ ปรับปรุงกระบวนการจัดการเรียนรู้ในภาคการศึกษาถัดไป (8) จัดทา มคอ. 7 รายงานผลการดาเนินการของ หลกั สตู ร จดั ทาโดยประธานหลกั สตู รหรอื ผู้บริหารหลกั สูตร ซงึ่ จะต้องจดั ทาทุกๆ สิ้นปกี ารศกึ ษา เพอ่ื ใหท้ ราบ ถึงปัญหาและอุปสรรคในภาพรวมของการจัดการหลักสูตร ซึ่งเป็นประโยชน์ ต่อการปรับปรุง มคอ. 2 ในรอบของการดาเนินการปรบั ปรุงหลักสูตรถัดไป (9) การประกันคุณภาพหลักสูตรและการจัดการเรียนการ สอน (10) การเผยแพรห่ ลักสูตรที่มคี ุณภาพและมาตรฐานตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒฯิ ซึ่งบันทึกในฐานข้อมลู หลักสูตรเพื่อการเผยแพร่ (11) กากับดูแลติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษาโดยคณะกรรมการการ (สานักงานคณะกรรมการการอดุ มศกึ ษา, 2552) ความท้าทายที่สาคัญของประเทศไทย คือ กาลังคนด้านดิจิทัลชองไทยมีปริมาณมาก แต่กาลังคนที่มีคุณภาพสูงที่สามารถทางานได้จริงมีปริมาณน้อย ทาให้ดูเหมือนประเทศไทยขาดกาลังคน ด้านดิจิทัล โดยในปี 2560 มีผู้จบการศึกษาระดับปริญญาตรี เฉพาะสาขาคอมพิวเตอร์ เกือบ 20,000 คน (ไม่รวมผู้จบการศึกษาในสาขาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น วิศวกรรมโทรคมนาคม) และมีผู้ว่างงานที่จบ การศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาคอมพิวเตอร์เกือบ 7,000 คน ขณะที่ความต้องการกาลังคนด้านดิจิทัล ในภาคธุรกิจเพิ่มขึ้นประมาณ 14,000 คน และภาคธุรกิจมักสะท้อนปัญหาการขาดแคลนกาลังคนด้าน ดิจิทัลที่มีคุณภาพและสามารถทางานได้จริง

4 จากปัญหาดงั กล่าวท่ีได้อธิบายไปข้างต้น ผูว้ จิ ยั จึงมีความสนใจท่ีจะพัฒนาระบบพยากรณ์อาชีพดิจทิ ลั อจั ฉรยิ ะฐานเทคโนโลยเี ชงิ ปญั ญาเพอ่ื การเป็นมหาวิทยาลยั สมรรถนะสงู ดา้ นการผลิตบณั ฑิต เพอ่ื ใชใ้ นการพยา กรณ์อาชีพของนักศึกษาท่ีกาลังจะสาเร็จการศึกษาที่มีความสนใจในการประกอบอาชีพทางด้านดิจิทัล ให้ วางแผนและเตรียมการในการประกอบอาชีพดังกล่าว โดยยังส่งผลให้มหาวิทยาลัยมีการพัฒนาหลักสูตรใหม้ ี ความทันสมยั เพื่อรองรับกับกาลงั คนดิจิทัลในอนาคต โดยมีวัตถุประสงค์การเรียนรู้และได้มาตรฐาน เช่ือถือได้ มีความยืดหยุ่น โดยเฉพาะระบบพยากรณ์อาชีพ ที่สามารถวิเคราะห์อาชีพทางด้านกาลังคนดิจิทัลและยัง สามารถวิเคราะห์ว่านักศึกษาในอาชีพดิจิทัลดังกล่าวต้องมีความสามารถทางด้านใดเพื่อรองรับกับกาลังคน ดจิ ทิ ลั ในอนาคตท่ีจะเกดิ ขึ้นต่อไป 1.2 วัตถปุ ระสงค์ของการวจิ ัย 1.2.1 เพื่อวิเคราะห์ปัจจัยในระบบพยากรณ์อาชีพดิจิทัลอัจฉริยะฐานเทคโนโลยีเชิงปัญญาเพ่ือการเป็น มหาวิทยาลยั สมรรถนะสูงด้านการผลติ บณั ฑติ 1.2.2 เพ่อื พัฒนาแบบจาลองในระบบพยากรณอ์ าชพี ดิจิทัลอจั ฉริยะฐานเทคโนโลยเี ชิงปญั ญาเพ่ือการเป็น มหาวทิ ยาลยั สมรรถนะสูงดา้ นการผลติ บณั ฑติ 1.2.3 เพื่อออกแบบสถาปัตยกรรมของระบบพยากรณ์อาชีพดิจิทัลอัจฉริยะฐานเทคโนโลยีเชิงปัญญาเพอื่ การเป็นมหาวิทยาลยั สมรรถนะสงู ด้านการผลติ บัณฑิต 1.2.4 เพื่อพัฒนาระบบพยากรณ์อาชีพดิจิทัลอัจฉรยิ ะฐานเทคโนโลยีเชิงปัญญาเพ่ือการเป็นมหาวทิ ยาลัย สมรรถนะสงู ด้านการผลติ บณั ฑิต 1.2.5 เพ่ือศึกษาผลการพัฒนาระบบพยากรณ์อาชีพดิจิทัลอัจฉริยะฐานเทคโนโลยีเชิงปัญญาเพ่ือการเป็น มหาวิทยาลยั สมรรถนะสูงด้านการผลิตบัณฑิต 1.3 สมมติฐานในการวจิ ัย 1.3.1 ผลของระบบพยากรณ์อาชีพดิจิทัลอัจฉริยะฐานเทคโนโลยีเชิงปัญญาเพ่ือการเป็นมหาวิทยาลัย สมรรถนะสงู ดา้ นการผลติ บัณฑิต มีความแม่นยาในการพยากรณ์ร้อยละ 80 1.3.2 ประสิทธิภาพของระบบพยากรณ์อาชีพดิจิทัลอัจฉริยะฐานเทคโนโลยีเชิงปัญญาเพ่ือการเป็น มหาวิทยาลัยสมรรถนะสูงด้านการผลิตบัณฑิต อยู่ในระดับมาก มีความสะดวกในการตัดสินใจเลือกแรงงานท่ี ทางานได้ตรงตามคุณสมบัติ ลดการใช้แรงคน เวลา ทรัพยากร และช่วยในการบริหารจัดการข้อมูลได้อย่าง รวดเรว็ 1.4 ขอบเขตของการวิจัย 1.4.1 กรอบแนวคิด (Conceptual Framework) 1.4.1.1 ตัวแปรต้น คือ คุณลักษณะข้อมูลรายบุคคลของบัณฑิตที่ใช้ในการระบบพยากรณ์อาชีพ ซงึ่ ประกอบไปด้วย 1.4.1.2 ตัวแปรกลาง คือ ขั้นตอนระบบพยากรณ์อาชีพดิจิทัลอัจฉริยะฐานเทคโนโลยีเชิงปัญญา เพอื่ การเปน็ มหาวิทยาลัยสมรรถนะสงู ดา้ นการผลิตบัณฑิต 1.4.1.3 ตวั แปรตาม คอื ผลของระบบพยากรณ์อาชีพดิจิทัลอัจฉริยะฐานเทคโนโลยีเชงิ ปัญญาเพ่ือ การเป็นมหาวิทยาลยั สมรรถนะสูงดา้ นการผลติ บณั ฑิต ซ่งึ ประกอบดว้ ย 2 ดา้ น ดงั นี้

ก) ผลระบบพยากรณ์อาชีพดิจทิ ัลอัจฉริยะฐานเทคโนโลยีเชงิ ปญั ญาเพื่อการเปน็ มหาวิทยาลัย สมรรถนะสงู ดา้ นการผลติ บณั ฑติ ข) ผลคุณลักษณะของบัณฑิตท่ีผ่านระบบพยากรณ์อาชีพดิจิทัลอัจฉริยะฐานเทคโนโลยีเชิง ปญั ญาเพื่อการเป็นมหาวทิ ยาลัยสมรรถนะสงู ด้านการผลติ บัณฑติ 1.4.2 ประชากรและกลุม่ ตวั อย่างในการวจิ ัย 1.4.2.1 ประชากร คือ นักศึกษาสาขาวิชาทางด้านคอมพิวเตอร์ ของสถาบันอุดมศึกษาของรัฐและ มหาวิทยาลัยในกากับของรัฐ มหาวิทยาลัยเอกชน ท่ีอยู่ในเขตระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก ประกอบไปด้วย 1. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (วิทยาเขตระยอง) จังหวัดระยอง 2. มหาวิทยาลัยบูรพา จังหวดั ชลบุรี 3. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (วิทยาเขตศรีราชา) จงั หวดั ชลบรุ ี 4. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ภาคตะวันออก (บางพระ) จงั หวัดชลบรุ ี 5. มหาวิทยาลัยศรีปทุม (วทิ ยาเขตชลบรุ ี) จงั หวดั ชลบรุ ี 6. มหาวิทยาลัย ราชภฏั ราชนครนิ ทร์ จังหวัดฉะเชิงเทรา 1.4.2.2 กลุ่มตัวอย่าง คือ นักศึกษาสาขาวิชาทางด้านคอมพิวเตอร์ ของสถาบันอุดมศึกษาของรัฐและ มหาวทิ ยาลัยในกากบั ของรัฐ มหาวทิ ยาลยั เอกชน ทีอ่ ยู่ในเขตระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวนั ออก (EEC) โดยใชว้ ิธีการ สมุ่ แบบเจาะจง (Purposive Sampling) จานวน 300 คน โดยสามารถกาหนดแอททริบวิ ต์อินพุตและแอททริบวิ ตเ์ อาต์พตุ เป้าหมายในการสรา้ งแบบ จาลองการพยากรณ์อาชีพฯ ไวด้ งั ภาพที่ 1-1

Intelligent Digital Career Prediction System (I-DCPS) ตัวแปรตน้ ตวั แปรตาม Intelligent Digital Career Prediction System (I-DCPS) 1. ข้อมลู พืน้ ฐานท่ัวไปของบณั ฑติ ผลของระบบพยากรณอ์ าชพี (Student Portfolio Analysis) อัจฉรยิ ะโดยใชฐ้ านเทคโนโลยเี ชิง ปญั ญาเพ่อื การเปน็ มหาวิทยาลยั 1.1 สาขาวิชาท่เี รียน สมรรถนะสงู ด้านการผลิตบัณฑติ 1.2 ขอ้ มลู ผลการเรยี นของ นักศึกษา ผ้ใู ชบ้ ณั ฑิต (สถานประกอบการ) 1.3 ความสามารถในตัวเอง - บัณฑิตที่ผ่านการคัดเลือกจาก 2. ข้อมูลโครงสร้างหลักสูตรสาขา ระบบพยากรณอ์ าชพี อัจฉริยะโดยใช้ คอมพวิ เตอร์ ฐานเทคโนโลยีเชิงปัญญาเพื่อการ 2.1 รายวชิ าท่เี รียนวิชาทางด้าน เป็นมหาวิทยาลัยสมรรถนะสูงด้าน คอมพิวเตอร์ในหลกั สูตร การผลิตบัณฑิต 2.2 ขอ้ มูลคุณลกั ษณะบัณฑิต แบ่ง ผผู้ ลิตบัณฑิต (สถานศึกษา) ออกเป็น 3 ทักษะ - เป็นองคก์ รสมรรถนะสงู ดา้ นการ - ทักษะหลกั ทางวชิ าชพี (Hard Skills) ผลิตบัณฑิต - ทกั ษะส่งเสริมการทางาน (Soft - นาข้อมูลไปพัฒนารายวิชาใน Skills) ห ลั ก สู ต ร ใ น ส า ข า ท า ง ด้ า น - ทักษะสว่ นบุคคล (Personal Skills) คอมพิวเตอร์และดิจิทัลให้มีความ 3. ข้อมูลอาชพี ดิจทิ ัล ทั น ส มั ย เ พ่ื อ ต อ บ โ จ ท ย์ ส ถ า น ประกอบการ - การแนะแนวอาชีพใหก้ ับบัณฑิต ภาพท่ี 1-1 ปจั จยั ที่ใช้ในการสร้างแบบจาลองการพยากรณ์ จากภาพที่ 1-1 สามารถอธิบายรายละเอยี ดของตัวแปรต้นที่จะใช้ในการสรา้ งแบบจาลองระบบพยากรณ์ อาชีพดิจิทัลอัจฉริยะฐานเทคโนโลยีเชิงปัญญาเพื่อการเป็นมหาวิทยาลัยสมรรถนะสูงด้านการผลิตบัณฑิต ซ่ึง สามารถอธิบายจากตารางที่ 1-1 ตอ่ ไปน้ี 1.5 วิธกี ารวิจัย การวิจัยเร่ือง “ระบบพยากรณ์อาชีพดิจิทัลอัจฉริยะฐานเทคโนโลยีเชิงปัญญาเพ่ือการเป็นมหาวิทยาลัย สมรรถนะสูงด้านการผลิตบัณฑิต” เป็นการวิจัยและพัฒนา (Quantitative and Development) ทั้งนี้ผู้วิจัยได้ ศึกษาข้อมูลจากเอกสาร ตารา ทฤษฎี และงานวิจัยท่ีเก่ียวข้อง โดยการดาเนินการวิจัยแบ่งออกเป็น 5 ระยะ ตามวัตถุประสงค์ของการวิจัย ดงั นี้

ระยะท่ี 1 วิเคราะห์และสังเคราะห์กระบวนการของระบบพยากรณ์อาชีพดิจิทัลอัจฉริยะฐานเทคโนโลยีเชิง ปญั ญาเพื่อการเป็นมหาวิทยาลัยสมรรถนะสูงดา้ นการผลติ บณั ฑิต 1. ศึกษาค้นควา้ ข้อมลู รวบรวมเอกสาร ทบทวนทฤษฎแี ละงานวิจยั ท่เี ก่ียวขอ้ ง 2. สังเคราะห์ แนวคิด กระบวนการ จากเอกสาร ทบทวนทฤษฎีและงานวิจัยท่ีเกี่ยวข้อง เพื่อสร้าง กรอบแนวความคิดระบบพยากรณ์อาชีพฯ 3. ประเมินผลจากผู้เชี่ยวชาญ ระยะท่ี 2 พัฒนาแบบจาลองในระบบพยากรณ์อาชีพดิจิทัลอัจฉริยะฐานเทคโนโลยีเชิงปัญญาเพ่ือการเป็น มหาวิทยาลยั สมรรถนะสูงด้านการผลิตบณั ฑติ 1. การวิเคราะห์ข้อมูลปัจจัยและการสร้างตัวแบบ โดยการใช้เทคนิคท่ีสังเคราะห์จากงานวิจัย ทฤษฎี การศึกษามาทาการทดสอบความแม่นยาของระบบพยากรณ์อาชพี ฯ 2. การแปลผลและการประเมินความแม่นยา โดยทาการประเมินผลความแม่นยาตัวแบบจากแต่ละ เทคนิค 3. การนาตัวแบบไปประยุกต์ใช้ในการสร้างระบบ ระยะที่ 3 ออกแบบสถาปัตยกรรมของระบบพยากรณ์อาชีพดิจิทัลอัจฉริยะฐานเทคโนโลยีเชิงปัญญาเพอื่ การ เปน็ มหาวิทยาลัยสมรรถนะสงู ดา้ นการผลิตบณั ฑิต 1. สังเคราะหส์ ถาปัตยกรรมระบบพยากรณ์อาชีพดิจิทัลอจั ฉรยิ ะฐานเทคโนโลยีเชงิ ปัญญาเพ่ือการเป็น มหาวิทยาลัยสมรรถนะสูงด้านการผลติ บณั ฑิต 2. ประเมินสถาปัตยกรรมของระบบฯ โดยผู้เช่ียวชาญ และผู้วิจัยสรุปผลการประเมินและทาการ ปรับปรุงตามคาแนะนาของผเู้ ชี่ยวชาญ ระยะท่ี 4 พัฒนาระบบพยากรณ์อาชีพดิจิทัลอัจฉริยะฐานเทคโนโลยีเชิงปัญญาเพ่ือการเป็นมหาวิทยาลัย สมรรถนะสงู ดา้ นการผลิตบัณฑิต 1. การวิเคราะห์ วางแผน ลงมือพัฒนา ประเมิน เรียนรู้ และผลตอบกลับไปในขั้นตอนของการ วิเคราะห์ 2. ประเมินระบบฯ โดยผู้เชี่ยวชาญ และผู้วิจัยสรุปผลการประเมินและทาการปรบั ปรุงตามคาแนะนา ของผเู้ ชยี่ วชาญ ระยะท่ี 5 ศึกษาผลการทดลองใช้งานระบบพยากรณ์อาชีพดิจิทัลอัจฉริยะฐานเทคโนโลยีเชิงปัญญาเพื่อการ เปน็ มหาวทิ ยาลยั สมรรถนะสงู ด้านการผลิตบณั ฑิต 1. เพ่ือประเมินประสิทธิภาพของระบบระบบพยากรณ์อาชีพดิจิทัลอัจฉริยะฐานเทคโนโลยีเชิงปญั ญา เพ่ือการเปน็ มหาวิทยาลยั สมรรถนะสูงดา้ นการผลิตบณั ฑิต ผู้เช่ียวชาญที่ทาการประเมินระบบ คือ ผู้เช่ียวชาญทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร จานวน 10 คน โดยแบ่งเป็นผู้เช่ียวชาญทางด้านเทคนิค 5 คน และผู้เชี่ยวชาญทางด้านการพัฒนาระบบ 5 คน ทาการทดสอบระบบระบบพยากรณ์อาชีพดิจิทัลอัจฉริยะฐานเทคโนโลยีเชิงปัญญาเพื่อการเป็นมหาวิทยาลัย สมรรถนะสูงด้านการผลิตบัณฑิต จากน้ันนาผลที่ได้จากการทาแบบประเมินมาทาการวิเคราะห์ผลทางสถิติแล้ว สรุปผลเพื่อประเมินว่าระบบทีไ่ ด้ทาการพัฒนาขนึ้ มีประสทิ ธิภาพด้านต่างๆ อยู่ในระดบั ใด

2. เพ่ือศึกษาความพึงพอใจของผู้ใช้ระบบพยากรณ์อาชีพดิจิทัลอัจฉริยะฐานเทคโนโลยีเชิงปัญญาเพ่ือ การเป็นมหาวิทยาลัยสมรรถนะสูงด้านการผลิตบัณฑิต จุดประสงค์การดาเนินการวิจัยเพื่อศึกษาผลการทดลองใน การใชร้ ะบบพยากรณอ์ าชีพดิจิทัลอัจฉริยะฐานเทคโนโลยีเชงิ ปัญญาเพ่ือการเป็นมหาวทิ ยาลัยสมรรถนะสูงดา้ นการ ผลติ บัณฑติ แบง่ ออกเป็น 2 ขั้นตอน ดังตอ่ ไปน้ี ข้ันตอนที่ 1 เก็บรวบรวมขอ้ มลู ของกลมุ่ เป้าหมายจากการนาระบบพยากรณ์อาชีพดจิ ิทัลอัจฉริยะฐาน เทคโนโลยีเชงิ ปัญญาเพอ่ื การเปน็ มหาวิทยาลยั สมรรถนะสงู ด้านการผลิตบัณฑติ ท่ีพฒั นาขึน้ ไปทาการทดลองใช้งาน ระบบ โดยทาการคัดเลอื กกลมุ่ เปา้ หมายแบบเจาะจง จานวน 30 คน ขนั้ ตอนที่ 2 วเิ คราะห์ และสรุปผลการทดลองใช้ระบบ และนาระบบระบบพยากรณ์อาชพี ฯ

1.6 กรอบแนวคิดการวิจัย ในการทาวจิ ยั คร้ังนผี้ ูว้ ิจัยได้กาหนดกรอบแนวคิดการทาวจิ ัยไว้ดงั ภาพที่ 1-2 (Concept and Theory about . . 2552 (Digital Career (Digital Manpower Career Choice) Path Model) Development) (DEPA, 2018) ( , 2561) (ACS Foundation, 2018) Factors Analysis in Intelligence 1. ( ) Digital Career Prediction Modeling) 2. - 1. 3. - (Student Portfolio Analysis) 4. 1.1 1.2 1.3 2. 2,1 2.2 3. (Prediction Career System) 5. () 1. (User - management) 6. 2. (Prediction Data Management) 7. - 3. (Prediction Management system) 4. (Prediction display system) (Cognitive Technology) (Population and Sample) - 4 - (EEC) - - - - ภาพท่ี 1-2 กรอบแนวคิดการวิจัย

1.7 นยิ ามศัพท์เฉพาะ 1.7.1 ระบบพยากรณ์อาชีพดจิ ิทัลอัจฉริยะ หมายถึง ระบบปัญญาประดษิ ฐ์ฐานเทคโนโลยีเชิงปัญญาที่ใช้ ในการหาคาตอบหรือตัวแปรตามจากปัจจัย ตัวแปรต้นหลายๆ ตัว ที่ทาการวิเคราะห์จากแฟม้ สะสมผลงานที่เกบ็ รวบรวมข้อมูลพ้ืนฐานของนักศึกษา โครงสร้างของหลักสูตรคอมพิวเตอร์ และอาชีพดิจิทัลที่ได้จาก เอกสาร มคอ. 2 สาหรับการพยากรณ์อาชีพดิจิทัลที่กาลังจะเกิดขึ้น เพื่อให้มีการวางระบบการจัดการโครงสร้างของห หลักสูตร โดยมปี จั จัยขอ้ มูลในการวเิ คราะหข์ อ้ มูลคุณลักษณะสว่ นบุคคลของบัณฑติ จุดเน้นของผลลพั ธใ์ นการวิจัย สามารถคน้ หาข้อมลู ไดอ้ ย่างอัตโนมัติด้วยเทคนิคจักรกลการเรยี นรผู้ ่านระบบพยากรณ์อาชีพดจิ ิทัล โดยลดข้ันตอน ของการสัมภาษณ์งาน โดยให้สถานประกอบการได้บัณฑิตที่มีคุณลักษณะตรงตามสายงานดิจิทัล โดยสามารถ คัดเลือกบัณฑิตได้ตามสาขาอาชีพดิจิทัลท่ีมีในระบบพยากรณ์ เป็นสารสนเทศสนับสนุนการบริหารจัดการข้อมูล ภาวะการมงี านทาของบัณฑิตได้อย่างมปี ระสิทธิภาพ การเขา้ ถงึ สบื คน้ และออกรายงานไดอ้ ย่างรวดเร็ว ลดการใช้ แรงคน ทรพั ยากรและเวลาในการประมวลผล 1.7.1.1 ผใู้ ชง้ านระบบพยากรณ์อาชีพดจิ ิทัล ของผใู้ ชง้ านออกเป็น 4 กลุ่ม ดงั ตอ่ ไปน้ี ผู้ใช้ระบบ สทิ ธิ์การใชง้ าน 1. นักศกึ ษา (Students) - จดั การขอ้ มูลประวตั สิ ว่ นตวั ผลการเรียน ขอ้ มลู ประสบการณ์ การศึกษา แฟ้มสะสมผลงาน ขอ้ มูลอ่ืน ๆ ท่ีสร้างขนึ้ จากระบบพยากรณ์อาชีพโดยใช้ จักรกลการเรยี นรดู้ ้วยการวิเคราะหข์ ้อมูลรายบุคคลเพอื่ จาแนกคุณลกั ษณะบณั ฑติ สกู่ าลังคนดิจทิ ัล - ตรวจสอบคาแนะนาจากผู้ประกอบการ 2. อาจารย์ (Teacher) - ตรวจสอบขอ้ มลู นาเข้าภาพรวมของนักศกึ ษาท่ผี ่านการ คดั เลือกจากระบบพยากรณ์อาชีพโดยใช้จกั รกลการเรยี นรู้ ดว้ ยการวิเคราะหข์ ้อมลู รายบุคคลเพอ่ื จาแนกคุณลักษณะ บัณฑติ สกู่ าลังคนดิจิทลั - ตรวจสอบผลการคดั เลอื กเข้าทางาน 3. ฝ่ายบุคคลของสถานประกอบการ - จัดทาขอ้ มูลความสามารถของอาชีพดจิ ทิ ัล (Human Resource Corporation) - จดั ทาขอ้ มูลตาแหนง่ งาน - ตรวจสอบขอ้ มูลของผู้สมัครงาน 4. ผดู้ ูแลระบบ (Administrators) - จัดการบญั ชีผ้ใู ชง้ าน - กาหนดสิทธิ์การใชง้ าน - จัดการงานอื่นๆ 1.7.2 การวิเคราะห์ข้อมูลรายบุคคล หมายถึง แนวปฏิบัติในการสร้างแบบจาลองปัจจัยที่ใช้ในการสร้าง แบบจาลองการระบบพยากรณ์อาชีพ ซึง่ ประกอบไปดว้ ย

1.7.2.1 ข้อมูลคุณลักษณะรายบุคคลพื้นฐาน สาหรับใช้ในการสร้างแบบจาลองในการพยากรณ์ ได้แก่ สาขาวชิ าที่เรียน ผลการเรยี นเฉล่ียรวม ผลการเรียนวิชาคอมพวิ เตอร์ ความสามารถในตวั เอง 1.7.2.2 ข้อมูลคุณลกั ษณะของบัณฑติ ท่พี งึ ประสงคท์ ัง้ 3 ด้าน ประกอบด้วย 1. ทักษะหลกั ทาง วิชาชีพ (Hard Skills) 2. ทักษะสง่ เสริมการทางาน (Soft Skills) 3. ทกั ษะสว่ นบคุ คล (Personal Skills) โดยมีคา รายละเอียดดงั ต่อไปน้ี คุณลกั ษณะของบณั ฑติ คาอธิบาย 1. ทักษะหลักทางวิชาชพี (Hard Skills) มีมุมมองท่ีดใี นการทางาน รว่ มกันกับผู้อื่นเพือ่ การพฒั นา 1.1 การทางานเป็นทีม ความคิด การแบง่ ปัน ความรู้รว่ มกบั ผู้อน่ื (Teamwork) 1.2 การใช้เครอื่ งมือทางดา้ นฮาร์ดแวร์ ทางด้านฮาร์ดแวร์ มีพืน้ ฐานการใชอ้ ุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ บนั ทกึ และซอฟต์แวร์ ขอ้ มลู อปุ กรณ์ต่อพ่วงประเภท ตา่ ง ๆ การดูแลรักษาเครื่อง ทางด้านซอฟตแ์ วร์ มพี ้นื ฐาน Programming skills มที ักษะ การใช้ Software และ Tool เปน็ ตน้ 1.3 การทดสอบและนาเสนอ มีทกั ษะการติดตอ่ ส่ือสารกับลูกค้าเพอ่ื การรวบรวม Requirement ของลูกค้า ทักษะการทางานร่วมกับผอู้ ่นื ได้ เปน็ ทีมงาน และทักษะในการแก้ไขปัญหาเชิงธรุ กจิ 2. ทกั ษะส่งเสรมิ การทางาน (Soft Skills) มที กั ษะความสามารถเฉพาะบคุ คลในการแก้ปญั หา 2.1 ลกั ษณะสว่ นบุคคลที่สง่ ผลต่อ ควรศกึ ษาหา ความรทู้ างเทคโนโลยีเพิม่ เติมอย่างสมา่ เสมอ ความสาเร็จของงาน 2.2 การส่อื สารทางดา้ นภาษา มีความรูความสามารถในการใชภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เปน็ อย่างดี 2.3 คณุ ธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณ มีความซือ่ สตั ยสุจรติ การตรงเวลา ความมีระเบียบ วชิ าชีพ วินยั ความขยันหม่นั เพยี ร ความรบั ผดิ ชอบตอหนาที่ และมี จรรยาบรรณในวิชาชพี 2.4 การมีเจตคติท่ีดีตอ่ องค์กรและเพ่อื น มคี วามสามารถในการทางานรวมกับผูอื่น/การทางาน ร่วมงาน เปน็ ทมี ความมีนา้ ใจ เสียสละ เอือ้ เฟื้อเผ่อื แผตอผูอ่ืน ความสุ ภาพ ออนนอมถอมตนและมสี มั มาคารวะ 3. ทักษะสว่ นบุคคล (Personal Skills) มีความรพู้ ้นื ฐานในการใชค้ อมพิวเตอร์ ได้แก่ การมคี วามรู้ 3.1 ความรู้ ความสามารถพ้นื ฐาน ความเข้าใจ ในการใช้เครอ่ื งคอมพิวเตอร์, คอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีสารสนเทศและดิจิทัล งานมลั ติมีเดยี กราฟฟกิ เป็นต้น 3.2 ทกั ษะทางด้านปญั ญา มคี วามรูความสามารถทางวชิ าการทางด้านเทคโนโลยี สารสนเทศและดิจทิ ัลหรือทเ่ี ก่ยี วของ 3.3 ทักษะการวเิ คราะห์เชิงตวั เลข มีความสามารถในการสอื่ สารและการประสานงาน การส่อื สารและการใชเ้ ทคโนโลยี ความสามารถในการวเิ คราะหเชงิ ตัวเลขและ วิเคราะหปญั หาที่เกิดข้นึ ในงาน

1.7.2.3 ข้อมูลอาชีพดิจิทัล สาหรับอาชีพที่ใช้ในการสร้างแบบพยากรณ์ ประกอบด้วย 4 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มที่ 1 Multimedia /Digital Content กลุ่มท่ี 2 Web & Mobile Design กลุ่มท่ี 3 Computer Science กลุ่มท่ี 4 Network & Communication (ACS Foundation, 2018) ดงั รายละเอียดตารางท่ี 1-1 ตารางที่ 1-1 รายละเอียดของสาขาอาชีพดิจิทัล รายละเอียดของสาขาอาชีพดจิ ทิ ัล กลุ่มอาชพี 1.1 Digital Media Manager กลมุ่ ที่ 1 Multimedia /Digital Content 1.2 Animator / Illustrator 1.3 Graphics Designer กล่มุ ท่ี 2 Web & Mobile Design 2.1 Webmaster/Web Designer กลุ่มท่ี 3 Computer Science 2.2 Mobile Application Developer 2.3 Digital Marketer กลมุ่ ท่ี 4 Network & Communication 3.1 Data Scientist 3.2 System Analyst 3.3 Programmer 4.1 Network / Systems Administrator 4.2 Robotics Process Analyst 4.3 System Designer 1.7.3 เทคโนโลยีเชิงปัญญา (Cognitive Technology) คือ เคร่ืองมือที่ใช้ในการสนับสนุนส่งเสริมและแนะ แนวรวมทั้งขยายฟังก์ชัน การกระทางาน กระบวนการรู้คิด (Cognitive Processes) ของมนุษย์โดยใช้ระบบ ปัญญาประดิษฐ์ หรือจักรกลการเรียนรู้ เข้ามาช่วยในการคิด แก้ปัญหา และการเรียนรู้ โดยผู้เรียนเป็นผู้ควบคุม แกป้ ัญหา และการเรยี นรู้ โดยการใช้ Cognitive Tools ในลกั ษณะของการสรา้ งความรู้มากกว่าการจดจาความรู้ จักรกลการเรียนรู้ หมายถึง การทาให้เคร่อื งเรียนร้ไู ด้จากข้อมูลตัวอย่าง หรือจากสภาพแวดล้อม จุดมุ่งหมาย คือการพัฒนาหรอื ปรับปรงุ ประสิทธภิ าพการทางานของระบบให้ดีขึ้น เมื่อเรียนรู้แล้วความร้ทู ่ีเรียนได้จะเก็บไว้ใน ฐานความรู้ดว้ ยรปู แบบการแทนความรอู้ ยา่ งใดอย่างหน่ึง คือ กฎ ฟังก์ชนั เขา้ ใจและปรับปรุง การเรยี นรูข้ องมนุษย์ อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ใช้ปรับปรุงวิธีการต่างๆ เกณฑ์ที่ไม่สมบูรณ์เก่ียวกับขอบเขตท่ีกว้าง จักรกลการเรียนรู้ เป็นหน่ึงในระบบปัญญาประดิษฐ์ที่มีความซับซ้อนไม่สามารถถูกทาให้สมบูรณ์ได้ โดยใช้มือและต้องการการ ปรับปรุงอย่ตู ลอดเวลา ในการสร้างระบบพยากรณ์อาชีพใช้การเรยี นรู้แบบมผี ู้สอน (Supervised Learning) เป็น อลั กอรธิ ึม สรา้ งฟังกช์ ันท่ีเชือ่ มระหว่างข้อมูลเข้ากับผลทีต่ ้องการ ซงึ่ มรี ายละเอยี ดดังน้ี 1.7.3.1 เป็นเทคนิคหน่ึงของการเรียนรู้ของเคร่ืองซ่ึงสร้างฟังก์ชันจากข้อมูลสอน (Training data) ข้อมูลปจั จัยของระบบการพยากรณ์อาชพี ฯ ประกอบดว้ ยวัตถเุ ขา้ และผลทต่ี ้องการ 1.7.3.2 การเรียนรู้แบบมีผู้สอนนั้น คือการทาให้คอมพิวเตอร์สามารถหาคาตอบของปัญหาได้ด้วย ตัวเอง หลงั จากเรยี นรู้จากชุดข้อมลู ตวั อย่างไปแลว้ ระยะหน่ึง

1.7.3.3 ผลจากการเรียนรู้จะเปน็ ฟงั กช์ ันที่อาจจะให้ค่าตอ่ เนื่อง ใช้พยากรณป์ ระเภทของข้อมลู ในระบบ การพยากรณ์อาชีพฯ ทาใหเ้ กิดการแบง่ ประเภทจากการจัดหมวดหม่ขู องขอ้ มลู (Data Classification) 1.7.4 กาลังคนดิจิทัล หมายถึง การส่งเสริมให้บัณฑิตทางานตรงตามสาขาวิชาชีพ มุ่งเน้นไปที่การพัฒนา บัณฑิตสู่อุตสาหกรรมดิจิทัล ส่งเสริมให้กับสถานประกอบการได้แรงงานที่เป็นบัณฑิตจบใหม่ ที่ตรงตาม คุณลักษณะและส่งเสริมให้บัณฑิตมีงานทา โดยระบบทาหน้าที่การคัดเลือกบัณฑิตที่มีคุณลักษณะตรงตาม ความต้องการของสถานประกอบการดิจิทัล เพื่อให้ตอบสนองต่อความต้องการของกาลังคนดิจิทัลในเขต ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกที่จะเกิดขึ้น โดยในการพัฒนาระบบพยากรณ์อาชีพนี้ยังช่วยส่งเสริมให้ บัณฑิตทางานได้ตรงตามสาขาอาชีพทางด้านเทคโนโลยีดิจิทัล 1.8 ประโยชน์ของการวจิ ัย 1.8.1 ได้ระบบพยากรณอ์ าชีพดิจิทัลอัจฉรยิ ะฐานเทคโนโลยเี ชิงปญั ญาเพอ่ื การเปน็ มหาวิทยาลัยสมรรถนะสูง ดา้ นการผลติ บัณฑติ 1.8.2 ได้บัณฑิตท่ีตรงตามคุณลักษณะท่ีผ่านระบบพยากรณ์อาชีพโดยใช้จักรกลการเรียนรู้ด้วยการวิเคราะห์ ขอ้ มูลรายบุคคลเพือ่ ตอบโจทยส์ ถานประกอบการดิจิทัลที่กาลังจะเกิดขึน้ 1.8.3 เป็นเครือ่ งมือท่ีช่วยให้สถานประกอบการลดขนั้ ตอนในสัมภาษณง์ านโดยสามารถคัดเลอื กบัณฑติ ได้ตรง ตามการปฏิบัติงานจรงิ 1.8.4 เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้สถานประกอบการสามารถตอบแบบสารวจความต้องการคุณลักษณะบัณฑิตที่ พึงประสงค์ และแบบสอบถามประเมินความพอใจในการใช้บัณฑิต รวมถึงความคิดเห็นที่มีต่อหลักสูตรต่างๆ ได้ออนไลน์ 1.8.5 เป็นเครือ่ งมอื ท่ีช่วยในการพัฒนาและปรับปรุงหลกั สูตรให้มีความทันสมยั เพื่อตอบโจทย์กาลงั คนดิจิทัลใน อนาคตตอ่ ไป สามารถดาวน์โหลดเอกสารอเิ ล็กทรอนกิ ส์ ออนไลน์ (E-Book) โดยทาการ Scan QR Code


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook