Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

ch1

Published by kengkung4514, 2019-02-19 10:52:49

Description: ch1

Search

Read the Text Version

บทท่ี 1 บทนำ 1.1 ควำมเปน็ มำและควำมสำคัญของปัญหำ กรอบยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560 - 2579) และกรอบทิศทางของแผนพัฒนา เศรษฐกิจและสังคม แห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560 - 2564) ความจาเป็นในการจัดทาแผนการ ศึกษาแห่งชาติ ความท้าทายที่เป็นพลวัตของโลกศตวรรษที่ 21 ท้ังในส่วนท่ีเป็นแรงกดดันภายนอก ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงของบริบทเศรษฐกิจและสังคมโลก อันเนื่องมาจากการปฏิวัติดิจิทัล (Digital Revolution) การเปล่ียนแปลงสู่อุตสาหกรรม 4.0 (The Fourth Industrial Revolution) การดาเนนิ งานเพือ่ บรรลุเปา้ หมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ 2573 (Sustainable Development Goals : SDGs 2030) ที่ประเทศไทยได้ให้สัตยาบัน รวมท้ังผลกระทบของการเป็น ประชาคมอาเซียน และความต้องการกาลังคนท่ีมีทักษะในศตวรรษที่ 21 ประกอบกับแรงกดดันจาก ภายในประเทศจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรท่ีส่งผลให้ ประเทศเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่าง สมบูรณ์ในอนาคตอันใกล้ แผนการศึกษาชาติ พ.ศ. 2560 – 2579 ยุทธศาสตร์ที่ 2 การผลิตและ พัฒนากาลังคน การวิจัย และนวัตกรรรม เพื่อสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ว่าต้องมีการสรา้ งกาลงั คนมีทักษะที่สาคญั จาเป็นและมีสมรรถนะตรงตามความต้องการของตลาดงาน และการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ มีตัวช้ีวัดท่ีสาคัญ เช่น มีฐานข้อมูล ความต้องการ กาลังคน (Demand) จาแนกตามกลุ่มอุตสาหกรรมอย่างครบถ้วน สัดส่วนผู้เรียน อาชีวศึกษาสูงข้ึน เม่ือเทียบกับผู้เรียนสามญั ศกึ ษา และสัดสว่ นผู้เรียนวิทยาศาสตร์สุขภาพ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี สงู ขึ้นเม่ือเทียบกับผเู้ รียนสังคมศาสตร์ กาลงั แรงงานในสาขาอาชีพต่างๆ ทไี่ ด้รบั การยกระดับคุณวุฒิ วิชาชีพเพ่ิมข้ึน การศึกษาเป็นกระบวนการพัฒนาคนในสังคมให้มีความสามารถ ระบบการศึกษาถือเป็น ปัจจัยหน่ึงท่ีสาคัญต่อการเจริญเติบโตและการพัฒนาประเทศ โดยที่ปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศมี การเปล่ียนแปลงและพัฒนาขึ้นมาก โลกกาลังก้าวเข้าสู่ยุคของการสร้างกาลังคนดิจิทัล สถาบันการศึกษาโดยเฉพาะมหาวิทยาลัยมีส่วนสาคัญในการผลิตบัณฑิตที่ตอบโจทย์ตลาดแรงงาน ให้ทนั สมัย ส่ิงที่มหาวทิ ยาลัยจาเป็นต้องปรบั ตัวยังคงประกอบไปด้วย 1. การพัฒนาหลักสูตรท่ีทันยุค ทันสมัยและที่สาคัญทันต่อเทคโนโลยีท่ีเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของคนในสังคม 2. เทคโนโลยี เครื่องมือประกอบการเรียนการสอน การสอนในภาคปฏิบัติเพื่อให้นักศึกษาได้ลงมือทางานจริง ได้เรียนรู้การทางานเป็นทีม และการแก้ไขปัญหาเฉพาะหนา้ 3. บคุ ลากรทางการศกึ ษาต้องทาหน้าท่ี เปน็ โค้ชใหแ้ นวทางให้คาแนะนาเพ่ือให้นกั ศึกษาเป็นศูนยก์ ลางของการเรยี นรู้ 4. มหาวิทยาลัยไม่ควรมี เครือข่ายเฉพาะสถาบันการศึกษาเท่านั้น แต่ต้องสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับภาคธุรกิจเอกชน เพอ่ื สร้างโอกาสให้กับนักศึกษา ช่วยใหเ้ ข้าใจความต้องการของตลาดแรงงาน และนาไปสูก่ ารปรบั ปรุง หลักสูตรให้ตรงกับความตอ้ งการของตลาดมากที่สุด ความเจริญก้าวหน้าของวิทยาการต่าง ๆ ส่งผล

2 ให้การเรียนการสอนต้องมีการปรับตัวให้ก้าวทันกับนวัตกรรมและเทคโนโลยีท่ีจะเกิดขึ้น การเข้าถึง ข้อมูลข่าวสารได้อย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร จึงมีบทบาทอย่างมากในการ ดารงชีวิตของมนุษย์มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการศึกษา เทคโนโลยีสารสนเทศกลายเป็น แหล่งเรียนรู้ท่ีมีความสาคัญ อาจารย์ต้องรู้ทันข่าวสารสาคัญใหม่ๆ และทันสมัยอยู่เสมอ ด้วยการ แสวงหาข้อมูลความรู้ด้วยตนเองผ่านข้อมูล ข่าวสารและสารสนเทศสมัยใหม่อยู่ตลอดเวลา เพราะอาจารย์ต้องเปน็ ฝ่ายอานวยการเรียนรู้ให้นักศึกษา พัฒนาผู้เรยี นให้เต็มตามศักยภาพ มีทักษะ ในการแสวงหาความรู้ จากแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย และสามารถนาวิธีการเรียนรู้ไปใช้ใน ชีวิตประจาวนั เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สารเข้ามาเป็นส่วนหนึง่ ของการจัดการเรียนรู้ ซึ่งช่วย อานวยความสะดวกในการเขา้ ถึงแหลง่ ข้อมูลต่าง ๆ ทาใหก้ ารเชื่อมต่อระหวา่ งอาจารย์และนกั ศึกษาดี ข้ึน (สถาบันคณุ วฒุ ิวิชาชพี องคก์ ารมหาชน, 2561) สานักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) และสถาบันวิจัยเพ่ือการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ได้มีการประชุมสัมมนาทางวิชาการ ในหัวข้อเรื่อง “แนวทางการสร้างกาลังคนด้านดิจิทัล ของไทย : จากปริมาณสู่คุณภาพ” ว่า ภายใต้นโยบาย Thailand 4.0 กลไกหนึ่งท่ีสาคัญในการ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพื่ออนาคต (new engine of growth) คือ การพัฒนา 10 อุตสาหกรรม เป้าหมาย ซึ่งประกอบด้วยการต่อยอด 5 อุตสาหกรรมเดิมที่มีศักยภาพ ( First S-Curve) ประกอบด้วย อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ อุตสาหกรรม ท่อง เที่ยว ก ลุ่มร ายไ ด้ดีและก าร ท่อง เ ที่ยวเชิง สุขภาพ อุตสาหกร ร มการ เก ษตร และ เทคโนโลยีชีวภาพ และอุตสาหกรรมการแปรรูปอาหาร และการเติม 5 อุตสาหกรรมอนาคต (New S-Curve) ประกอบด้วย อุตสาหกรรมหุ่นยนต์และเคร่ืองจักรอัตโนมัติ อุตสาหกรรมการ บินและโลจิสติกส์ อุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ อุตสาหกรรมดิจิทัล และ อุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร รฐั บาลมงุ่ เน้นท่ีจะพัฒนาเขตระเบยี งเศรษฐกจิ พเิ ศษภาคตะวนั ออก (อีอีซี) มีแผนยทุ ธศาสตร์ ภายใต้ไทยแลนด์ 4.0 ด้วยการพัฒนาเชิงพื้นท่ีท่ีจะต่อยอดความสาเร็จมาจากแผนพัฒนาเศรษฐกิจ ภาคตะวันออกหรอื Eastern Seaboard ซงึ่ ดาเนนิ มาตลอดกวา่ 30 ปที ีผ่ ่านมา โดยในครั้งน้สี านักงาน เพื่อการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (สกรศ) มีเป้าหมายในการส่งเสริมการพัฒนา บุคลากร การศึกษา การวิจัย และเทคโนโลยีในพ้ืนท่ีระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ในอุตสาหกรรมใหม่ (New S-Curve) ซ่ึงประกอบไปด้วย อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ อุตสาหกรรมการบิน และโลจิสติกส์ อุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร อุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ และกาลังคนดิจิทัล การลงทุนซึ่งจะเป็นการยกระดับอุตสาหกรรมของประเทศเพิ่มความสามารถใน การแข่งขัน และทาให้เศรษฐกิจของไทยเติบโตได้ในระยะยาว โดยในระยะแรกจะเป็นการยกระดับ พื้นท่ีในเขต 3 จังหวัด คือ ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา ให้เป็นพ้ืนที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาค ตะวันออกเพ่ือรองรับการขับเคล่ือน เศรษฐกิจอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ (โครงการพัฒนา ระเบยี งเศรษฐกิจ พิเศษภาคตะวนั ออก, 2561) ความท้าทายที่สาคัญของประเทศไทย คือ กาลังคนด้านดิจิทัลชองไทยมีปริมาณมาก แต่กาลังคนที่มีคุณภาพสูงที่สามารถทางานได้จริงมีปริมาณน้อย ทาให้ดูเหมือนประเทศไทยขาด กาลังคนด้านดิจิทัล โดยในปี 2560 มีผู้จบการศึกษาระดับปริญญาตรี เฉพาะสาขาคอมพิวเตอร์

3 เกือบ 20,000 คน (ไม่รวมผู้จบการศึกษาในสาขาอ่ืน ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น วิศวกรรมโทรคมนาคม) และมีผู้ว่างงานที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาคอมพิวเตอร์เกือบ 7,000 คน ขณะที่ความ ต้องการกาลังคนด้านดิจิทัลในภาคธุรกิจเพิ่มขึ้นประมาณ 14,000 คน และภาคธุรกิจมักสะท้อน ปัญ ห า ก า ร ข า ด แ ค ล น กา ลัง ค น ด้า น ดิจิทัล ที่มีคุณ ภ า พ แ ล ะ ส า ม า ร ถ ทา ง า น ไ ด้จ ร ิง สาเหตุหนึ่งของสถานการณ์ดังกล่าว คือ หลักสูตรสาขาคอมพิวเตอร์ที่สอนอยู่ในปัจจุบัน ส่วนหน่ึง ยังไม่ได้ปรับให้ทันต่อเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมทั้งบางหลักสูตรไม่ได้ บรรจุวิชาหลักที่จาเป็นต่อการเป็นนักวิชาชีพด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ดังนั้นหากประเทศไทย ต้องการเพิ่มกาลังคนด้านดิจิทัลเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของอุตสาหกรรมเป้าหมายใน พื้นที่ EEC ได้จริง ประเทศไทยจาเป็นต้องปรับคุณภาพของกาลังคนด้านดิจิทัลอย่างเร่งด่วน อย่างไรก็ดีมาตรการสาคัญในการการยกระดับคุณภาพกาลังคนด้านดิจิทัลเพื่อตอบสนองต่อ อุตสาหกรรมเป้าหมายในพื้นที่ EEC คือ ภาครัฐควรดาเนินการเป็นโครงการนาร่อง (pilot project) โดยมีแนวทางดาเนินการในระยะสั้นคือ ภาครัฐควรร่วมมือกับภาคเอกชนและภาค การศึกษาที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเป้าหมายในพื้นที่ EEC ในการจัดโปรแกรมหรือหลักสูตร ฝึกอบรมระยะสั้นด้านเทคโนโลยีดิจิทัลที่เกิดข้ึนใหม่ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และอินเทอร์เน็ต ข อ ง ส ร ร พ สิ่ง ( Internet of Things) แ ล ะ ภ า ค รัฐ ค ว ร ส่ง เ ส ริม ก า ร เ ชื่อ ม โ ย ง ร ะ ห ว่า ง สถาบันการศึกษาและภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเป้าหมายในพื้นที่ EEC เพื่อให้ สามารถผลิตบุคลากรด้านดิจิทัลที่ตอบสนองต่อความต้องการของภาคอุตสาหกรรมได้จริง และ สุดท้าย ภาครัฐควรอานวยความสะดวกและสร้างแรงจูงใจในการเข้ามาทางานของนักวิชาชีพ ดิจิทัลที่มีทักษะสูงให้มากข้ึน (สานกั งานสง่ เสรมิ เศรษฐกิจดิจทิ ัล, 2561) จากปัญหาดังกล่าวท่ีไดอ้ ธิบายไปข้างต้น ผู้วจิ ัยจึงมีความสนใจที่จะพัฒนาระบบทานายอาชีพ โดยใช้จักรกลการเรียนรู้เพื่อจาแนกคุณลักษณะบัณฑิตสู่กาลังคนดิจิทัล เพ่ือใช้ในการทานายอาชีพ ของนักศึกษาท่ีกาลังจะสาเร็จการศึกษาท่ีมีความสนใจในการประกอบอาชีพทางด้านดิจิทัล ให้ วางแผนและเตรียมการในการประกอบอาชีพดังกล่าว โดยยังส่งผลให้มหาวิทยาลัยมีการพัฒนา หลักสูตรใหม้ ีความทันสมัยเพ่ือรองรับกับกาลังคนดิจิทลั ในเขตระเบียงเศรษฐกจิ พเิ ศษภาคตะวันออก โดยมีวัตถุประสงค์การเรียนรู้และได้มาตรฐาน เช่ือถือได้ มีความยืดหยุ่น โดยเฉพาะระบบทานาย อาชีพ ท่ีสามารถวเิ คราะห์อาชีพทางดา้ นกาลังคนดิจทิ ัลและยังสามารถวเิ คราะห์ว่านักศึกษาในอาชีพ ดิจิทัลดังกล่าวต้องมีความสามารถทางด้านใดเพื่อรองรับกับกาลังคนดิจิทัลในเขตระเบียงเศรษฐกิจ พิเศษภาคตะวนั ออกที่จะเกิดข้นึ ตอ่ ไป 1.2 วตั ถุประสงคข์ องกำรวจิ ยั 1.2.1 เพื่อวิเคราะห์ปัจจัยในระบบทานายอาชีพโดยใชจ้ ักรกลการเรียนรู้เพื่อจาแนกคุณลักษณะ บณั ฑิตสกู่ าลงั คนดิจทิ ัล 1.2.2 เพ่ือพัฒนาแบบจาลองในระบบทานายอาชีพโดยใช้จักรกลการเรียนรู้เพ่ือจาแนก คณุ ลักษณะบัณฑิตสู่กาลงั คนดจิ ทิ ัล 1.2.3 เพ่ือออกแบบสถาปัตยกรรมของระบบทานายอาชีพโดยใช้จักรกลการเรียนรู้เพื่อจาแนก คณุ ลักษณะบัณฑติ สกู่ าลังคนดจิ ทิ ลั

4 1.2.4 เพ่ือพัฒนาระบบทานายอาชีพโดยใช้จักรกลการเรียนรู้เพ่ือจาแนกคุณลักษณะบัณฑิตสู่ กาลังคนดจิ ทิ ลั 1.2.5 เพ่ือศกึ ษาผลการระบบทานายอาชีพโดยใช้จักรกลการเรียนรู้เพ่ือจาแนกคุณลักษณะบัณฑิต สู่กาลงั คนดจิ ทิ ัล 1.3 สมมตฐิ ำนในกำรวิจัย 1.3.1 ผลของระบบทานายอาชีพโดยใช้จักรกลการเรียนรู้เพ่ือจาแนกคุณลักษณะบัณฑิตสู่ กาลังคนดิจิทัล มีความแมน่ ยาในการทานายร้อยละ 80 1.3.2 ประสิทธิภาพของระบบทานายอาชีพโดยใชจ้ ักรกลการเรียนรเู้ พ่ือจาแนกคุณลักษณะบัณฑิต สู่กาลังคนดิจิทัล อยู่ในระดับมาก มีความสะดวกในการตัดสินใจเลือกแรงงานท่ีทางานได้ตรงตาม คณุ สมบัติ ลดการใชแ้ รงคน เวลา ทรพั ยากร และชว่ ยในการบรหิ ารจัดการข้อมูลได้อยา่ งรวดเรว็ 1.4 ขอบเขตของกำรวิจยั 1.4.1 กรอบแนวคดิ (Conceptual Framework) 1.4.1.1 ตัวแปรต้น คือ คุณลักษณะข้อมูลรายบุคคลของบัณฑิตท่ีใช้ในการระบบทานาย อาชพี ซึง่ ประกอบไปด้วย 1.4.1.2 ตัวแปรกลาง คอื ข้ันตอนระบบทานายอาชีพโดยใช้จักรกลการเรียนร้เู พ่อื จาแนก คณุ ลักษณะบัณฑิตสู่กาลังคนดจิ ิทลั 1.4.1.3 ตัวแปรตาม คือ ผลของระบบทานายอาชีพโดยใช้จักรกลการเรียนรู้เพ่ือจาแนก คณุ ลกั ษณะบัณฑิตสกู่ าลงั คนดิจทิ ลั ซึง่ ประกอบด้วย 2 ดา้ น ดังนี้ ก) ผลระบบทานายอาชีพโดยใช้จกั รกลการเรียนรู้เพื่อจาแนกคณุ ลักษณะบณั ฑิต สกู่ าลงั คนดจิ ิทัล ข) ผลคุณลักษณะของบัณฑิตที่ผ่านระบบทานายอาชีพโดยใช้จักรกลการเรียนรู้ เพอ่ื จาแนกคุณลกั ษณะบัณฑติ สู่กาลังคนดิจทิ ัล 1.4.2 ประชากรและกลมุ่ ตัวอย่างในการวิจยั 1.4.2.1 ประชากร คอื นักศึกษาสาขาวิชาทางดา้ นคอมพวิ เตอร์ ของสถาบนั อุดมศึกษาของ รฐั และมหาวิทยาลัยในกากับของรัฐ มหาวิทยาลัยเอกชน ท่ีอยูใ่ นเขตระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก ประกอบไปด้วย 1. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (วิทยาเขตระยอง) จังหวัด ระยอง 2. มหาวิทยาลัยบูรพา จังหวัดชลบุรี 3. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (วิทยาเขตศรีราชา) จังหวัด ชลบุรี 4. มหาวิ ทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลภาคตะวันออก (บางพระ) จังหวั ดชลบุรี 5. มหาวิทยาลัยศรีปทุม (วิทยาเขตชลบุรี) จังหวัดชลบุรี 6. มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ จงั หวดั ฉะเชิงเทรา 1.4.2.2 กลุ่มตัวอย่าง คือ นักศึกษาสาขาวชิ าทางด้านคอมพวิ เตอร์ ของสถาบันอุดมศึกษา ของรัฐและมหาวิทยาลัยในกากับของรัฐ มหาวิทยาลัยเอกชน ท่ีอยู่ในเขตระเบียงเศรษฐกิจภาค ตะวนั ออก (EEC) โดยใชว้ ธิ ีการสมุ่ แบบเจาะจง (Purposive Sampling) จานวน 1,200 คน

5 โดยสามารถกาหนดแอททรบิ ิวตอ์ นิ พุตและแอททรบิ วิ ตเ์ อาต์พุตเป้าหมายในการสรา้ งแบบ จาลองการทานายอาชีพฯ ไวด้ ังภาพที่ 1-1 ตวั แปรต้น ตวั แปรตำม Intelligent Career Prediction System (I-CPS) Intelligent Career Prediction System (I-CPS)1. ขอ้ มูลพ้นื ฐำนทั่วไปของบณั ฑิต ผลของระบบทำนำยอำชีพโดยใช้ 2. ตั ว แ ป ร ที่ ใ ช้ ใ น ก ำ ร ท ำ น ำ ย จักรกลกำรเรยี นรเู้ พือ่ จำแนก คุณลักษณะบัณฑิตสู่กำลังคนดิจิทัล แบ่งออกเป็น 3 ทกั ษะ คณุ ลกั ษณะบณั ฑิตสกู่ ำลงั คนดิจิทัล 1.1 ทกั ษะหลักทางวชิ าชพี ผใู้ ชบ้ ณั ฑิต (สถำนประกอบกำร) (Hard Skills) - บัณฑิตท่ีผ่านการคัดเลือกจาก ร ะ บบท าน ายอ าชีพ ที่ต ร ง ตา ม 1.2 ทกั ษะสง่ เสริมการทางาน คุ ณ ลั ก ษ ณ ะ ข อ ง ต า แ ห น่ ง ง า น (Soft Skills) ทางด้านดิจทิ ัล ผผู้ ลิตบัณฑิต (สถำนศกึ ษำ) 1.3 ทกั ษะส่วนบคุ คล - นาข้อมูลไปพัฒนารายวิชาใน (Personal Skills) ห ลั ก สู ต ร ใ น ส า ข า ท า ง ด้ า น 3. อำชีพทำงด้ำนดิจิทลั คอมพิวเตอร์และดิจิทัลให้มีความ ทั น ส มั ย เ พื่ อ ต อ บ โ จ ท ย์ ส ถ า น ประกอบการ - การแนะแนวอาชพี ให้กบั บัณฑิต ภำพที่ 1-1 ปัจจยั ที่ใช้ในการสร้างแบบจาลองการทานาย จากภาพที่ 1-1 สามารถอธิบายรายละเอียดของตัวแปรต้นท่ีจะใช้ในการสร้างแบบจาลอง ระบบทานายอาชีพโดยใช้จักรกลการเรียนรู้เพื่อจาแนกคุณลักษณะบัณฑิตสู่กาลังคนดิจิทัล ซึ่ง สามารถอธิบายจากตารางที่ 1-1 ตอ่ ไปนี้

6 1.5 วิธกี ำรวจิ ัย การวิจัยเร่ือง “ระบบทานายอาชีพโดยใช้จักรกลการเรียนรู้เพ่ือจาแนกคุณลักษณะบัณฑิตสู่ กาลังคนดิจิทัล” เป็นการวิจัยและพัฒนา (Quantitative and Development) ทั้งนี้ผู้วิจัยได้ศึกษา ข้อมูลจากเอกสาร ตารา ทฤษฎี และงานวิจัยที่เก่ียวข้อง โดยการดาเนินการวิจัยแบ่งออกเป็น 5 ระยะ ตามวัตถุประสงค์ของการวิจัย ดงั นี้ ระยะที่ 1 วิเคราะห์และสังเคราะห์กระบวนการของระบบทานายอาชีพโดยใช้จักรกลการเรยี นรู้ เพอ่ื จาแนกคณุ ลกั ษณะบัณฑิตสู่กาลงั คนดิจิทลั 1. ศกึ ษาคน้ คว้าข้อมูล รวบรวมเอกสาร ทบทวนทฤษฎแี ละงานวจิ ยั ท่เี กี่ยวข้อง 2. สงั เคราะห์ แนวคิด กระบวนการ จากเอกสาร ทบทวนทฤษฎีและงานวิจัยท่ีเกี่ยวข้อง เพ่อื สร้างกรอบแนวความคิดระบบทานายอาชพี ฯ 3. ประเมินผลจากผู้เชี่ยวชาญ ระยะท่ี 2 พัฒนาแบบจาลองในระบบทานายอาชีพโดยใช้จักรกลการเรียนรู้เพื่อจาแนก คณุ ลักษณะบณั ฑิตสูก่ าลงั คนดิจิทัล 1. การวิเคราะห์ข้อมูลปัจจัยและการสร้างตัวแบบ โดยการใช้เทคนิคที่สังเคราะห์จาก งานวจิ ัย ทฤษฎี การศกึ ษามาทาการทดสอบความแมน่ ยาของระบบทานายอาชพี ฯ 2. การแปลผลและการประเมินความแม่นยา โดยทาการประเมินผลความแม่นยาตัวแบบ จากแต่ละเทคนคิ 3. การนาตวั แบบไปประยกุ ต์ใช้ในการสร้างระบบ ระยะท่ี 3 ออกแบบสถาปัตยกรรมของระบบทานายอาชีพโดยใช้จักรกลการเรียนรู้เพื่อจาแนก คณุ ลักษณะบัณฑติ สกู่ าลงั คนดจิ ิทลั 1. สังเคราะห์สถาปัตยกรรมระบบทานายอาชีพโดยใช้จักรกลการเรียนรู้เพื่อจาแนก คุณลกั ษณะบณั ฑติ สกู่ าลงั คนดิจทิ ัล 2. ประเมินสถาปัตยกรรมของระบบฯ โดยผู้เชี่ยวชาญ และผูว้ ิจัยสรุปผลการประเมินและ ทาการปรับปรงุ ตามคาแนะนาของผเู้ ช่ยี วชาญ ระยะที่ 4 พัฒนาระบบทานายอาชีพโดยใช้จักรกลการเรียนรู้เพ่ือจาแนกคุณลักษณะบัณฑิตสู่ กาลังคนดจิ ิทัล 1. การวิเคราะห์ วางแผน ลงมือพัฒนา ประเมิน เรียนรู้ และผลตอบกลับไปในข้ันตอน ของการวเิ คราะห์ 2. ประเมินระบบฯ โดยผู้เชี่ยวชาญ และผู้วิจัยสรุปผลการประเมินและทาการปรับปรุง ตามคาแนะนาของผู้เชย่ี วชาญ ระยะที่ 5 ศึกษาผลการทดลองใช้งานระบบทานายอาชีพโดยใช้จักรกลการเรียนรู้เพื่อจาแนก คุณลกั ษณะบัณฑติ ส่กู าลงั คนดจิ ทิ ลั 1. เพื่อประเมินประสิทธิภาพของระบบระบบทานายอาชีพโดยใช้จักรกลการเรียนรู้เพื่อ จาแนกคุณลักษณะบัณฑิตสู่กาลังคนดจิ ิทัล

7 ผูเ้ ชี่ยวชำญท่ีทำกำรประเมินระบบ คือ ผู้เช่ียวชาญทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการ สื่อสาร จานวน 10 คน โดยแบ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านเทคนิค 5 คน และผู้เช่ียวชาญทางด้านการ พัฒนาระบบ 5 คน ทาการทดสอบระบบระบบทานายอาชีพโดยใช้จักรกลการเรียนรู้เพ่ือจาแนก คุณลักษณะบัณฑิตสู่กาลังคนดิจิทัล จากนั้นนาผลที่ได้จากการทาแบบประเมินมาทาการวิเคราะห์ผล ทางสถติ ิแลว้ สรปุ ผลเพื่อประเมินว่าระบบท่ไี ดท้ าการพฒั นาขนึ้ มปี ระสิทธิภาพดา้ นต่างๆ อยใู่ นระดับใด 2. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของผู้ใช้ระบบทานายอาชพี โดยใช้จักรกลการเรียนรูเ้ พื่อจาแนก คุณลักษณะบัณฑิตสู่กาลังคนดิจิทัล จุดประสงค์การดาเนินการวิจัยเพื่อศึกษาผลการทดลองในการใช้ ระบบระบบระบบทานายอาชีพโดยใช้จักรกลการเรียนรู้เพ่ือจาแนกคุณลักษณะบัณฑิตสู่กาลังคน ดจิ ิทัล แบ่งออกเปน็ 2 ข้ันตอน ดังตอ่ ไปน้ี ข้ันตอนท่ี 1 เก็บรวบรวมข้อมูลของกลุ่มเป้าหมายจากการนาระบบทานายอาชีพโดยใช้ จกั รกลการเรียนรเู้ พ่ือจาแนกคุณลักษณะบัณฑติ สู่กาลังคนดิจิทัลท่ีพัฒนาขนึ้ ไปทาการทดลองใช้งาน ระบบ โดยทาการคดั เลือกกลุม่ เปา้ หมายแบบเจาะจง จานวน 30 คน ขน้ั ตอนท่ี 2 วเิ คราะห์ และสรุปผลการทดลองใชร้ ะบบ และนาระบบระบบทานายอาชีพฯ

8 1.6 กรอบแนวคิดกำรวจิ ัย ในการทาวิจัยครั้งนีผ้ ู้วิจัยไดก้ าหนดกรอบแนวคิดการทาวิจัยไว้ดงั ภาพท่ี 1-2 (Concept and Theory about . . 2552 (Digital Career (Digital Manpower Career Choice) Path Model) Development) (DEPA, 2018) ( , 2561) (ACS Foundation, 2018) Factors Analysis in Career 1. ( ) Prediction Modeling) 2. - 1. 3. 2. 4. 3 - (Hard Skills) - (Soft Skills) - (Personal Skills) 3. (Prediction System) 5. () 1. (User 6. - management) 2. 7. - (Prediction Data Management) 3. (Prediction Management system) 4. (Prediction display system) (Machine Learning) (Population and Sample) - 4 - (EEC) - - - -

9 ภำพท่ี 1-2 กรอบแนวคดิ การวิจัย 1.7 นยิ ำมศพั ทเ์ ฉพำะ 1.7.1 ระบบทานายอาชีพ หมายถึง ระบบเว็บท่ีใช้สาหรับการทานายอาชีพดิจิทัลที่กาลังจะ เกิดข้นึ โดยมีปัจจัยขอ้ มูลในการวเิ คราะหข์ ้อมูลคุณลักษณะส่วนบุคคลของบณั ฑติ จดุ เน้นของผลลพั ธ์ ในการวจิ ัย สามารถค้นหาข้อมูลได้อย่างอตั โนมัติด้วยเทคนิคจกั รกลการเรียนร้ผู า่ นระบบทานายอาชีพ ดจิ ิทัล โดยลดขั้นตอนของการสัมภาษณ์งาน โดยให้สถานประกอบการได้บัณฑิตท่ีมีคุณลักษณะตรง ตามสายงานดิจิทัล โดยสามารถคัดเลือกบัณฑิตได้ตามสาขาอาชีพดิจิทัลที่มีในระบบทานาย เปน็ สารสนเทศสนบั สนุนการบรหิ ารจัดการข้อมลู ภาวะการมีงานทาของบัณฑติ ได้อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ การเข้าถึง สืบค้นและออกรายงานได้อย่างรวดเร็ว ลดการใช้แรงคน ทรัพยากรและเวลาในการ ประมวลผล 1.7.1.1 ผใู้ ช้งานระบบทานายอาชีพดจิ ิทัล ของผ้ใู ช้งานออกเป็น 4 กลมุ่ ดังตอ่ ไปน้ี ผใู้ ช้ระบบ สทิ ธิก์ ำรใชง้ ำน 1. นกั ศกึ ษา (Students) - จดั การขอ้ มูลประวัติสว่ นตวั ผลการเรยี น ข้อมูล ประสบการณ์ การศึกษา แฟ้มสะสมผลงาน ข้อมลู อน่ื ๆ ที่สร้างข้นึ จากระบบทานายอาชพี โดยใช้ จกั รกลการเรยี นรู้ด้วยการวิเคราะหข์ ้อมลู รายบุคคลเพ่อื จาแนกคณุ ลักษณะบณั ฑติ สูก่ าลงั คนดิจทิ ัล - ตรวจสอบคาแนะนาจากผู้ประกอบการ 2. อาจารย์ (Teacher) - ตรวจสอบข้อมลู นาเข้าภาพรวมของนกั ศกึ ษาท่ผี ่านการ คดั เลอื กจากระบบทานายอาชพี โดยใช้จกั รกลการเรยี นรู้ ด้วยการวเิ คราะหข์ ้อมลู รายบุคคลเพ่อื จาแนกคุณลกั ษณะ บณั ฑิตสู่กาลังคนดจิ ิทัล - ตรวจสอบผลการคัดเลอื กเข้าทางาน 3. ฝ่ายบุคคลของสถานประกอบการ - จัดทาขอ้ มูลความสามารถของอาชีพดิจิทัล (Human Resource Corporation) - จัดทาข้อมูลตาแหนง่ งาน - ตรวจสอบข้อมูลของผู้สมคั รงาน 4. ผู้ดแู ลระบบ (Administrators) - จัดการบญั ชีผ้ใู ชง้ าน - กาหนดสิทธ์ิการใช้งาน - จดั การงานอ่ืนๆ 1.7.2 การวิเคราะห์ข้อมูลรายบุคคล หมายถึง แนวปฏิบัติในการสร้างแบบจาลองปัจจัยท่ีใช้ใน การสรา้ งแบบจาลองการระบบทานายอาชพี ซ่ึงประกอบไปดว้ ย 1.7.2.1 ข้อมูลคุณลักษณะรายบุคคลพ้ืนฐาน สาหรับใช้ในการสร้างแบบจาลองในการ ทานาย ได้แก่ ข้อมูลเพศ สาขาวิชาท่ีเรียน ผลการเรียนเฉลี่ยรวม ผลการเรียนวิชาคอมพิวเตอร์ ความสามารถในตัวเอง

10 1.7.2.2 ขอ้ มูลคุณลักษณะของบัณฑิตท่พี งึ ประสงค์ทั้ง 3 ดา้ น ประกอบด้วย 1. ทกั ษะหลกั ทาง วชิ าชพี (Hard Skills) 2. ทกั ษะส่งเสรมิ การทางาน (Soft Skills) 3. ทักษะสว่ นบคุ คล (Personal Skills) โดยมคี ารายละเอียดดงั ตอ่ ไปนี้ คุณลกั ษณะของบณั ฑติ คำอธบิ ำย 1. ทักษะหลกั ทำงวิชำชีพ (Hard Skills) มีมุมมองท่ีดีในการทางาน ร่วมกันกับผู้อืน่ เพ่อื การพฒั นา 1.1 การทางานเป็นทมี ความคดิ การแบง่ ปัน ความรรู้ ว่ มกับผอู้ ื่น (Teamwork) 1.2 การใช้เคร่ืองมือทางดา้ นฮาร์ดแวร์ ทางดา้ นฮารด์ แวร์ มีพืน้ ฐานการใชอ้ ปุ กรณ์ฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ บันทึกข้อมูล อปุ กรณ์ตอ่ พ่วงประเภท ตา่ ง ๆ การดูแล รกั ษาเครอ่ื ง เปน็ ตน้ ทางดา้ นซอฟต์แวร์ มีพนื้ ฐาน Programming skills มที กั ษะ การใช้ Software และ Tool เป็นตน้ 1.3 การทดสอบและนาเสนอ มที กั ษะการตดิ ตอ่ สือ่ สารกับลูกค้าเพื่อการรวบรวม Requirement ของลูกค้า ทักษะการทางานรว่ มกับผูอ้ ่นื ได้เป็นทีมงาน และทักษะในการแก้ไขปัญหาเชิงธรุ กจิ 2. ทักษะส่งเสริมกำรทำงำน (Soft มที ักษะความสามารถเฉพาะบุคคลในการแกป้ ญั หา Skills) ควรศึกษาหา ความรู้ทางเทคโนโลยเี พ่มิ เตมิ อย่าง 2.1 ลกั ษณะสว่ นบุคคลท่ีสง่ ผลต่อ สม่าเสมอ ความสาเรจ็ ของงาน 2.2 การสือ่ สารทางด้านภาษา มคี วามรูความสามารถในการใชภาษาไทยและ ภาษาอังกฤษเป็นอย่างดี 2.3 คณุ ธรรม จรยิ ธรรม และ มคี วามซอื่ สัตยสุจรติ การตรงเวลา ความมีระเบียบ จรรยาบรรณวิชาชพี วนิ ยั ความขยันหม่ันเพยี ร ความรับผดิ ชอบตอหนาท่ี และมีจรรยาบรรณในวชิ าชีพ 2.4 การมเี จตคติท่ีดตี ่อองค์กรและ มีความสามารถในการทางานรวมกับผูอื่น/การทางาน เพอื่ นรว่ มงาน เป็นทมี ความมนี า้ ใจ เสยี สละ เอื้อเฟ้อื เผือ่ แผตอผูอ่ืน ความสุภาพ ออนนอมถอมตนและมีสมั มาคารวะ 3. ทกั ษะส่วนบคุ คล (Personal Skills) มีความรพู้ นื้ ฐานในการใชค้ อมพวิ เตอร์ ไดแ้ ก่ การมี 3.1 ความรู้ ความสามารถพนื้ ฐาน ความรู้ ความเข้าใจ ในการใชเ้ ครอื่ งคอมพิวเตอร์, เทคโนโลยีสารสนเทศและดิจิทัล คอมพิวเตอร์ งานมลั ติมเี ดีย กราฟกิ เป็นตน้ 3.2 ทักษะทางดา้ นปญั ญา มีความรูความสามารถทางวิชาการทางดา้ นเทคโนโลยี สารสนเทศและดิจทิ ลั หรอื ท่ีเกย่ี วของ 3.3 ทกั ษะการวเิ คราะหเ์ ชงิ ตวั เลข มคี วามสามารถในการสอื่ สารและการประสานงาน การสอื่ สารและการใชเ้ ทคโนโลยี ความสามารถในการวเิ คราะหเชิงตวั เลขและ

11 วิเคราะหปัญหาที่เกดิ ขน้ึ ในงาน 1.7.2.3 ข้อมลู อาชีพดิจทิ ัล สาหรบั อาชีพที่ใช้ในการสร้างแบบทานาย ประกอบด้วย 4 กลุ่มประกอบด้วย กลุ่มที่ 1 Multimedia /Digital Content กลุ่มท่ี 2 Web & Mobile Design กลุ่มท่ี 3 Computer Science กลุ่มท่ี 4 Network & Communication (ACS Foundation, 2018) ดงั รายละเอียดตารางที่ 1-1 ตำรำงท่ี 1-1 รายละเอียดของสาขาอาชีพดิจิทัล รำยละเอียดของสำขำอำชพี ดิจิทัล กลุ่มอำชพี 1.1 Digital Media Manager กลุ่มที่ 1 Multimedia /Digital Content 1.2 Animator / Illustrator 1.3 Graphics Designer กลุ่มที่ 2 Web & Mobile Design 2.1 Webmaster/Web Designer กลุ่มท่ี 3 Computer Science 2.2 Mobile Application Developer 2.3 Digital Marketer กล่มุ ที่ 4 Network & Communication 3.1 Data Scientist 3.2 System Analyst 3.3 Programmer 4.1 Network / Systems Administrator 4.2 Robotics Process Analyst 4.3 System Designer 1.7.3 จักรกลการเรียนรู้ หมายถึง การทาให้เครื่องเรียนรู้ได้จากข้อมูลตัวอย่าง หรือจาก สภาพแวดล้อม จุดมุ่งหมายคือการพัฒนาหรือปรับปรุงประสิทธิภาพการทางานของระบบให้ดีข้ึน เมื่อเรียนรู้แล้วความรู้ท่ีเรยี นได้จะเก็บไวใ้ นฐานความรู้ด้วยรูปแบบการแทนความรู้อย่างใดอย่างหน่ึง คือ กฎ ฟังก์ชนั เขา้ ใจและปรับปรุง การเรยี นรู้ของมนษุ ยอ์ ย่างมีประสทิ ธิภาพ เช่น ใช้ปรับปรุงวิธกี าร ตา่ งๆ เกณฑ์ที่ไมส่ มบูรณ์เก่ียวกับขอบเขตที่กว้าง จกั รกลการเรียนรเู้ ป็นหน่ึงในระบบปัญญาประดิษฐ์ ที่มีความซับซ้อนไม่สามารถถูกทาให้สมบูรณ์ได้ โดยใช้มือและต้องการการปรับปรุงอยู่ตลอดเวลา ในการสร้างระบบทานายอาชีพใช้การเรียนรู้แบบมีผู้สอน (Supervised Learning) เป็นอัลกอริธึม สรา้ งฟงั ก์ชนั ท่ีเชอ่ื มระหว่างขอ้ มลู เข้ากบั ผลทต่ี อ้ งการ ซ่งึ มีรายละเอยี ดดังนี้ 1.7.3.1 เป็นเทคนิคหนึ่งของการเรียนรู้ของเคร่ืองซ่ึงสร้างฟังก์ชันจากข้อมูลสอน (Training data) ขอ้ มลู ปัจจัยของระบบการทานายอาชีพฯ ประกอบด้วยวตั ถเุ ข้าและผลทีต่ อ้ งการ 1.7.3.2 การเรียนรู้แบบมผี สู้ อนนน้ั คอื การทาใหค้ อมพวิ เตอร์สามารถหาคาตอบของปัญหา ได้ดว้ ยตวั เอง หลังจากเรยี นรจู้ ากชดุ ข้อมูลตวั อย่างไปแลว้ ระยะหนึ่ง 1.7.3.3 ผลจากการเรียนรู้จะเป็นฟังก์ชันท่ีอาจจะให้ค่าต่อเนื่อง ใช้ทานายประเภทของ ข้อมูลในระบบการทานายอาชีพฯ ทาให้เกิดการแบ่งประเภทจากการจัดหมวดหมู่ของข้อมูล (Data Classification)

12 1.7.4 กาลงั คนดิจิทลั หมายถงึ การสง่ เสรมิ ให้บัณฑิตทางานตรงตามสาขาวิชาชีพ มุ่งเน้นไปที่ การพัฒนาบัณฑิตสู่อุตสาหกรรมดิจิทัล ส่งเสริมให้กับสถานประกอบการได้แรงงานท่ีเป็นบัณฑิต จบใหม่ที่ตรงตามคุณลักษณะและส่งเสริมให้บัณฑิตมีงานทา โดยระบบทาหน้าที่การคัดเลือก บัณฑิตที่มีคุณลักษณะตรงตามความต้องการของสถานประกอบการดิจิทัล เพ่ือให้ตอบสนองต่อ ความต้องการของกาลังคนดิจิทัลในเขตระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกที่จะเกิดขึ้น โดยในการ พัฒนาระบบทานายอาชีพนี้ยังช่วยส่งเสริมให้บัณฑิตทางานได้ตรงตามสาขาอาชีพทางด้าน เทคโนโลยีดิจิทัล 1.8 ประโยชน์ของกำรวิจัย 1.8.1 ได้ระบบทานายอาชีพโดยใช้จักรกลการเรียนรู้เพื่อจาแนกคุณลักษณะบัณฑิตสู่กาลังคน ดจิ ทิ ลั 1.8.2 ได้บัณฑิตท่ีตรงตามคุณลักษณะที่ผ่านระบบทานายอาชีพโดยใช้จักรกลการเรียนรู้ดว้ ยการ วิเคราะห์ขอ้ มูลรายบุคคลเพื่อตอบโจทย์สถานประกอบการดจิ ิทัลท่กี าลังจะเกดิ ข้ึน 1.8.3 เป็นเครื่องมอื ทช่ี ่วยให้สถานประกอบการลดขั้นตอนในสัมภาษณ์งานโดยสามารถคัดเลือก บัณฑิตได้ตรงตามการปฏบิ ัติงานจรงิ 1.8.4 เป็นเคร่ืองมือท่ีช่วยในการพัฒนาและปรับปรุงหลักสูตรให้มีความทันสมัยเพ่ือตอบโจทย์ กาลังคนดจิ ทิ ัลในอนาคตต่อไป สามารถดาวนโ์ หลดเอกสารอิเลก็ ทรอนกิ ส์ ออนไลน์ (E-Book) โดยทาการ Scan QR Code


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook