แผนการสอนประจาํ สปั ดาห์ท่ี 6 วชิ า หอ้ งสมดุ กบั การรู้สารสนเทศ รหสั วิชา 3000 – 1601 จาํ นวน 1 หนว่ ยกติ การบรรยายครง้ั ที่ 6 บทที่ 6 เร่อื ง การเขยี นรายงาน แผนการสอนประจาํ สปั ดาห์ วตั ถุประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม เม่ือนกั ศกึ ษาจบบทเรียนนีแ้ ลว้ จะมีความสามารถดงั ตอ่ ไปน้ี 1. อธบิ ายความหมายของรายงานได้ 2. บอกวัตถุประสงค์ในการเขยี นรายงานได้ 3. อธิบายขั้นตอนในการเขยี นรายงานได้ 4. บอกส่วนประกอบของรายงานได้ 5. อธิบายรูปแบบในการเขียนรายงานทางวิชาการได้ 6. บอกวิธีการทาํ รายงานที่ไมถ่ ูกตอ้ งได้ สาระการเรียนรู้ 1. ความหมายของรายงาน 2. วัตถปุ ระสงค์ของการเขียนรายงาน 3. ขัน้ ตอนการเขียนรายงาน 4. ส่วนประกอบของรายงาน 5. รปู แบบของรายงานทางวิชาการ 6. การทาํ รายงานทไี่ มถ่ กู ต้อง กิจกรรมการเรยี นการสอน 1. ครูกล่าวถึงขอบเขตการเรียนการสอนเกีย่ วกับการเขยี นรายงานและบรรยายเนือ้ หาท่ี กําหนด 2. ครใู หน้ ักศึกษาอภิปรายถงึ การเขียนรายงานรูปแบบวิชาการ สือ่ การเรียนการสอน 1. เอกสารประกอบการสอนวชิ าห้องสมุดกับการรู้สารสนเทศ 2. งานนําเสนอเรื่อง การเขยี นรายงาน วิธวี ัดและประเมินผล 1. สังเกตความสนใจ การมสี ว่ นรว่ มในการอภปิ รายและการเข้าชั้นเรียน 2. การซักถามเพ่อื ทดสอบความเขา้ ใจของนกั ศกึ ษา 3. แบบทดสอบก่อนและหลงั เรียน
เอกสารประกอบการเรียนวิชาห้องสมดุ กบั การรู้สารสนเทศ บทที่ 6 การเขียนรายงาน 117 บทที่ 6 การเขยี นรายงาน การเขียนรายงานเป็นกระบวนการฝึกฝนการคิด วิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากแหล่ง สารสนเทศในรูปแบบต่างๆ เพ่ือนํามาเรียบเรียงเป็นงานเขียนของตนเอง การฝึกฝนปฏิบัติตาม กระบวนการเขียนรายงานทถี่ กู ตอ้ ง จะทาํ ให้นักศกึ ษามที กั ษะความสามารถในการนําไปประยุกต์ใช้ใน การเขียนรายงานประกอบการเรียนในรายวิชาท่ีศึกษาหรือประกอบในการจัดทําเอกสารรายงาน ในการทาํ งานในอนาคต 6.1 ความหมายของรายงาน รายงาน (Report) หมายถึง งานเขียนของนักเรียนนักศึกษาที่เกิดจากการค้นคว้าข้อมูลแล้วนํามา เรียบเรียง สรุปผลเพ่ือเสนอต่อผู้สอน นับเป็นส่วนหน่ึงในกระบวนการเรียนการสอนในรายวิชานั้นๆ โดยจะจัดทําเปน็ เอกสารตามรูปแบบที่สถาบนั กาํ หนด 6.2 วัตถปุ ระสงคข์ องการเขียนรายงาน การเขียนรายงานเพื่อเป็นส่วนหน่ึงในกระบวนการเรียนการสอนในรายวิชาใดๆ นับเป็นส่วนหน่ึง ในการประเมนิ ผลการศึกษาในรายวิชาน้นั โดยมีวัตถุประสงคด์ ังต่อไปนี้ 6.2.1 เพอื่ เปดิ โอกาสให้นกั ศึกษารู้จักการศึกษาคน้ คว้าด้วยตนเอง ทาํ ให้เห็นแนวทางในการศึกษา ในวชิ าใดวชิ าหนึ่งอย่างลกึ ซึ้ง 6.2.2 เพ่ือให้นักศึกษามีทักษะความสามารถในการวางแผนการทํางาน สามารถคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ความรู้ มีแนวความคิดกว้างไกล ลึกซ้ึง เพื่อนํามารวบรวมเรียบเรียงอย่างเป็นระบบ และมีเหตุผล 6.2.3 เพ่ือพัฒนาทักษะทางภาษาในการเรียบเรียงรายงานทางวิชาการที่ดีท้ังในด้านเน้ือหา และรปู แบบ 6.2.4 เพื่อส่งเสริมให้นักศึกษารู้จักการทํางานร่วมกันเป็นหมู่คณะ ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และความคดิ เห็นซึ่งกนั และกัน
เอกสารประกอบการเรียนวชิ าหอ้ งสมุดกบั การรสู้ ารสนเทศ บทท่ี 6 การเขยี นรายงาน 118 6.3 ขั้นตอนการเขยี นรายงาน 6.3.1 การเลอื กเร่ืองหรอื หวั ขอ้ เรอ่ื งท่ตี ้องการศึกษา 6.3.1.1 เลือกหัวข้อเรื่องท่ีน่าสนใจ กําลังอยู่ในความสนใจของบุคคลและมีคุณค่า ก่อให้เกิด ประโยชนต์ อ่ การศึกษาและสงั คม 6.3.1.2 เลอื กหวั ข้อเรอ่ื งทีส่ ามารถหาขอ้ มูลอา้ งองิ ได้งา่ ยและมากพอ 6.3.1.3 เลือกหัวข้อเรอ่ื งทีไ่ มแ่ คบหรอื กวา้ งจนเกนิ ไป 6.3.2 การสํารวจแหล่งข้อมูลทางวิชาการ ข้ันตอนน้ีอาจดําเนินการควบคู่ไปกับการเลือกหัวข้อ เร่ือง โดยสํารวจแหล่งข้อมูลว่ามีข้อมูลเพียงพอหรือไม่ พร้อมทั้งศึกษาว่ารายงานน้ันต้องการข้อมูล ในลักษณะใด รูปแบบใดและจากแหล่งข้อมูลประเภทใด เช่น จากการค้นหาในห้องสมุด การสืบค้น บนอินเทอร์เน็ต เปน็ ตน้ 6.3.3 การวางโครงเร่ือง เป็นการกําหนดทิศทางในการเขียนรายงาน โครงเร่ืองถือเป็นกรอบ ของรายงาน ทําให้ทราบหัวข้อใหญ่ๆ เพื่อแตกเป็นหัวข้อย่อยให้ละเอียดต่อไปอีก นับเป็นข้ันตอน สําคัญท่ีจะทําให้รายงานมีเอกภาพ สาระเน้ือหาสมบูรณ์ ครอบคลุม ครบถ้วน มีรายละเอียดในแต่ละ หวั ข้อพอเหมาะ เกิดคณุ คา่ นา่ อ่าน งา่ ยต่อการทําความเขา้ ใจ หลักการวางโครงเร่ืองที่ดีจะต้องกําหนดหัวข้อให้กะทัดรัด มีความสัมพันธ์กันท้ังหัวข้อใหญ่ หวั ขอ้ รอง 6.3.4 การรวบรวมสารสนเทศและจดบันทึก ในการพิจารณาเลือกใช้เอกสารเพื่อการเขียน รายงาน ดูได้จากความทันสมัยของเนื้อหา ครั้งที่พิมพ์ รูปเล่ม วิธีการพิมพ์ คุณภาพในการพิมพ์ รายการบรรณานุกรมประกอบ โดยให้ใช้เน้ือหาจากหนังสือให้มากที่สุด แล้วเพ่ิมเติมเน้ือหา จากอินเทอร์เน็ตหรือแหล่งอื่นๆ เมื่อคัดเลือกได้ตามต้องการแล้ว จดบันทึก โดยอ่านเนื้อหา อย่างละเอียด แล้วสรุปใจความสําคัญ นําไปเขียนไว้บนบัตรบันทึก ซ่ึงเป็นกระดาษขนาด 3 x 5 น้ิว หรือ 5 x 7 นิ้ว ดังมรี ายละเอียดต่อไปน้ี
เอกสารประกอบการเรียนวชิ าหอ้ งสมดุ กับการรสู้ ารสนเทศ บทที่ 6 การเขยี นรายงาน 119 1. หัวขอ้ เรือ่ งทศ่ี ึกษา 2. รายละเอยี ดของเอกสารอ้างอิง เขยี นลกั ษณะเดียวกับการเขียนบรรณานุกรม พร้อมเลขหน้าทใ่ี ช้อ้างองิ 3. ขอ้ ความท่จี ดบันทกึ ..................................................................................................................................... ..................................................................................................................................... ..................................................................................................................................... ..................................................................................................................................... ..................................................................................................................................... ..................................................................................................................................... รูปที่ 6.1 แสดงตัวอย่างโครงสร้างการจดบันทึกในบัตรรายการ แท็บเลต็ พีซี (Tablet PC) วศนิ เพ่ิมทรพั ย์ และวิโรจน์ ชยั มลู . ความรู้เบื้องตน้ เก่ียวกบั คอมพวิ เตอรแ์ ละ เทคโนโลยสี ารสนเทศ. กรงุ เทพมหานคร : โปรวิช่ัน, 2548. หนา้ 45. แท็บเล็ตพีซีเป็นคอมพิวเตอร์ท่ีมีคุณสมบัติการทํางานใกล้เคียงกับ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก แต่ข้อแตกต่างที่เห็นได้ชัดคือผู้ใช้สามารป้อนข้อมูลเข้าไปได้ โดยการเขียนบนจอภาพเหมือนการเขียนข้อความลงในไปในสมุดจดโน้ตและเครื่อง สามารถแปลข้อมูลตา่ งๆ เหลา่ น้ันเกบ็ ไวไ้ ด้ รูปท่ี 6.2 แสดงการคดั ลอกขอ้ ความจากหนังสือลงบตั รบนั ทกึ รายการ 6.3.5 การเรียบเรียงเนือ้ หารายงาน ข้ันตอนการเรียบเรยี งเนอื้ หารายงาน มีดงั ต่อไปน้ี 6.3.5.1 รวบรวมบัตรบันทึกรายการทั้งหมด แล้วจัดหมวดหมู่เน้ือหาตามหัวข้อเร่ืองของ บัตรบันทึกใหส้ อดคล้องกับโครงเรือ่ ง 6.3.5.2 อา่ นบัตรบนั ทึกท่ีเขยี นและรวบรวมเปน็ หมวดหมโู่ ดยละเอียดทลี ะหวั ขอ้
เอกสารประกอบการเรยี นวชิ าหอ้ งสมดุ กบั การรู้สารสนเทศ บทท่ี 6 การเขียนรายงาน 120 6.3.5.3 เรียบเรียงเนื้อหาแต่ละหัวข้อด้วยสํานวนภาษาของตนเอง โดยแทรกความคิดเห็น ที่ถูกต้องตามหลักการและข้อเท็จจริง หรือแทรกอัญประกาศซึ่งเป็นคําพูดหรือข้อเขียนของ ผ้ทู รงคณุ วุฒิในส่วนของเน้ือหาท่ีต้องการความนา่ เช่ือถือ ชดั เจน 6.3.5.4 จัดทําตาราง แผนภูมิ ภาพประกอบที่มีความสัมพันธ์กับเนื้อหา เพ่ือขยายความ เนอ้ื หาให้ชัดเจน กระจ่างแจ้งมากข้ึน โดยจะต้องมีหมายเลขกํากับแสดงลําดับ พร้อมคําอธิบายตาราง แผนภูมิหรือภาพประกอบด้วย และหากมีตารางหรือแผนภูมิจํานวนมาก จะต้องจัดทําสารบัญตาราง ตาราง สารบญั แผนภูมิ หรอื สารบัญภาพประกอบเพมิ่ ขึ้นด้วย 6.3.5.5 ปรับปรุงแก้ไข เป็นการอ่านทบทวนเน้ือหาท่ีเรียบเรียงขึ้นท้ังหมด อาจมีปรับปรุง โครงเร่ือง ขยายความบางตอนให้ชัดเจนขึ้น ขัดเกลาคําพูด ประโยคให้ถูกต้อง ไพเราะมากขึ้น ตรวจดู เครอื่ งหมายวรรคตอนและตัวสะกดการนั ต์ใหถ้ ูกตอ้ ง 6.3.5.6 จัดทําองค์ประกอบของรายงานให้สมบูรณ์ เป็นขั้นตอนของการจัดทํา ส่วนประกอบรายงานให้ครบถ้วนและมีรูปแบบถูกต้องตามท่ีสถานศึกษากําหนด ได้แก่ ส่วนปกนอก ปกใน คํานํา กิตติกรรมประกาศ สารบัญ บรรณานุกรม ภาคผนวก อภิธานศัพท์ ดรรชนี เพื่อรวบรวม เขา้ เล่มรายงานต่อไป 6.3.5.7 การตรวจทานรายงาน หลังจากเรียบเรียงรายงานเสร็จสิ้นแล้ว จะต้องทําการ ตรวจทานเพ่ือความถกู ตอ้ ง สมบรู ณแ์ บบ โดยจะต้องตรวจทานดังต่อไปน้ี 1) ตรวจทานเนอ้ื หาสาระ โดยการอ่านเนื้อหารายงานท้ังฉบับ ดใู นประเด็น ต่อไปนี้ (1) ความสมั พันธข์ องเน้อื หาสาระกบั หวั เร่ืองตอ้ งสอดคล้องสัมพันธก์ นั ไมม่ ี ตอนใดตอนหน่งึ ขดั แยง้ กัน (2) การจดั ลาํ ดับหวั ขอ้ เรื่องไม่ซํา้ ซอ้ น วกวน (3) ความสมบูรณข์ องเนื้อหาสาระต้องครบถว้ น ไมต่ กหล่น ผดิ พลาด บกพร่อง 2) ตรวจทานสํานวนภาษา พจิ ารณาในเรือ่ งหลักการใช้ภาษา ดังต่อไปน้ี (1)เขียนด้วยภาษาเขยี น ไมใ่ ช่ภาษาพูดหรือภาษาทอ้ งถน่ิ (2)ใจความของประโยคต้องสอื่ ความหมายชัดเจน ไมค่ ลุมเครอื (3)เลือกใช้คําใหเ้ หมาะสม ตรงความหมาย (4) ตัวสะกด การันตถ์ ูกต้องตามหลกั ภาษาไทย การพิมพไ์ ม่ฉีกคาํ (5)การใช้ภาษา สํานวนกลมกลืน ราบรื่น ไม่สะดดุ หู 3) ตรวจทานความบรู ณ์ของสว่ นประกอบตา่ งๆ ของรายงาน ดงั ต่อไปนี้ (1) ความครบถ้วนของส่วนประกอบของรายงานและการจัดลําดับถูกต้องตั้งแต่ ปกหนา้ ถงึ ปกหลัง
เอกสารประกอบการเรยี นวิชาหอ้ งสมุดกับการรูส้ ารสนเทศ บทท่ี 6 การเขียนรายงาน 121 (2)ความถูกตอ้ งของรูปแบบของส่วนต่างๆ ของรายงาน เช่น การจัดระยะขอบ การเว้นระยะ รายการต่างๆ ในแตล่ ะหนา้ 6.4 สว่ นประกอบของรายงาน รายงานมสี ว่ นประกอบทสี่ าํ คัญ 3 สว่ น ดังนี้ 6.4.1 ส่วนประกอบตอนต้นหรือส่วนหน้า ได้แก่ ปกนอก ปกใน คํานํา สารบัญ สารบัญภาพ สารบัญตาราง 6.4.2 ส่วนประกอบตอนกลางหรือส่วนเน้อื เรื่อง ถือเป็นหัวใจของรายงาน ได้แก่ บทนําหรือความ นํา เนื้อเรือ่ ง และบทสรปุ 6.4.3 สว่ นประกอบตอนท้ายของรายงาน เปน็ ส่วนเสริมของรายงาน ช่วยให้ทําความเข้าใจเนื้อหา ในรายงานได้ดีข้ึน รวดเร็วขึ้น เช่น ภาคผนวก ดรรชนี หรืออภิธานศัพท์ หรือบอกแหล่งที่มาในการ คน้ คว้ารายงาน ไดแ้ ก่บรรณานกุ รม เป็นตน้ 6.5 รปู แบบของรายงานทางวิชาการ รูปแบบของรายงานทางวิชาการเป็นส่วนที่ผู้จัดทํารายงานต้องศึกษาค้นคว้าว่ามีรูปแบบ และรายละเอียดการจัดรูปแบบเช่นใดตามแต่ละสถานศึกษาน้ันๆ กําหนดไว้ หากเป็นรายงาน ทางวิชาการโดยทั่วไปแลว้ มสี ่วนประกอบและการวางรปู แบบดังตอ่ ไปน้ี 6.5.1 ส่วนประกอบตอนต้นหรือส่วนหน้า มรี ายละเอยี ดดังตอ่ ไปนี้ 6.5.1.1 ปกนอก หมายถึง ปกหุ้มรายงานท้ังหมด มีทั้งปกหน้าและปกหลัง กระดาษที่ใช้ ควรเปน็ กระดาษแข็งพอสมควร ใช้สใี ดก็ได้ รายละเอยี ดดงั แสดงตวั อยา่ งในรูปท่ี 6.8 6.5.1.2 ปกใน หมายถึง หน้าท่ีอยู่ถัดจากปกนอก นิยมเขียนเหมือนปกนอก โดยใช้ กระดาษพิมพ์เชน่ เดยี วกับกระดาษรายงาน 6.5.1.3 คาํ นํา อยู่ถดั จากหนา้ ปกใน มหี ลักการเขียนดงั ตอ่ ไปน้ี 1) เริ่มหน้าใหม่ กลางหน้ากระดาษ พิมพ์คําว่า คํานํา ห่างจากขอบกระดาษบน 2 น้ิว ขนาดตวั อักษร 20 2) เนื้อหาประกอบด้วยวัตถุประสงค์ เหตุผล ขอบเขตของรายงาน ปัญหา และอุปสรรคในการศึกษาค้นคว้า ตลอดจนคําขอบคุณต่อผู้ให้ความช่วยเหลือในการให้ข้อมูล การรวบรวมข้อมูลหรือรายงาน (ถ้ามี) เว้นระยะห่างจากคํานํา 2 ระยะบรรทัด ห่างจากขอบซ้าย 1.5 นิ้ว ขอบขวา 1 นิ้ว ขนาดตัวอักษร 16 3) ลงช่ือ นามสกุล ผู้เขียนรายงาน หรือกรณีท่ีมีผู้เขียนรายงานมากกว่า 1 คน ใหใ้ ช้คาํ วา่ คณะผ้จู ดั ทาํ เวน้ ระยะจากสว่ นเน้ือหา 1.5 นว้ิ ขนาดตัวอกั ษร 16
เอกสารประกอบการเรียนวชิ าห้องสมดุ กบั การรสู้ ารสนเทศ บทท่ี 6 การเขียนรายงาน 122 4) ลงวนั ที่ เดือน ปี ทเี่ ขียนรายงานข้างใตช้ อ่ื นามสกลุ ผูเ้ ขยี นรายงาน รายละเอยี ดการเขียนคาํ นําดงั แสดงตวั อย่างในรูปท่ี 6.9 6.5.1.4 สารบัญ อยูถ่ ัดจากหนา้ คาํ นํา มีหลกั การเขียนดงั ต่อไปนี้ 1) กลางหน้ากระดาษ ห่างจากขอบกระดาษบน 2 น้ิว พิมพ์คําว่า สารบัญ ขนาด ตวั อกั ษร 20 2) หัวข้อเรื่องจัดไว้ซีกซ้าย ห่างจากขอบกระดาษซ้าย 1 น้ิว เลขหน้าจัดไว้ซีกขวา ห่างจากขอบกระดาษขวา 1 นิ้ว ข้อความเร่ิมจาก คํานํา หัวข้อสําคัญหรือบทของรายงานตามลําดับ และท้ายสุดเป็นบรรณานุกรม ขนาดตัวอักษร 16 กรณีมีสารบัญภาพหรือสารบัญตารางใช้หลักการ เดียวกับการเขียนสารบัญ ดังแสดงตวั อยา่ งในรปู ท่ี 6.10 6.5.2 สว่ นประกอบตอนกลางหรือส่วนเนือ้ เรอื่ ง มรี ายละเอยี ดดงั ต่อไปนี้ เน้ือเรื่อง หมายถึง รายละเอียดของเนื้อหาตามลําดับท่ีแจ้งไว้ในสารบัญ มีส่วนประกอบ ที่สําคัญ 3 ส่วน คือ บทนาํ หรอื ความนํา สว่ นเนื้อเร่ืองและส่วนบทสรปุ มีหลักการดงั ตอ่ ไปน้ี 1) บทนําหรือความนํา คือ การอธิบายเนื้อหาอย่างกว้างๆ เพ่ือนําเข้าสู่เร่ือง เน้ือหาอาจเป็น เร่ืองทวั่ ไปเกยี่ วกบั เรือ่ งใดเรอ่ื งหน่ึงต่อไปน้ี (1)ประวัตขิ องเร่ืองทเ่ี ขยี น (2) ปญั หาทก่ี าํ ลังเป็นอยู่ของเร่อื งที่เขียน (3)เรอ่ื งอนื่ ๆ ที่น่าสนใจหรอื สมั พันธ์กับเร่ืองทีเ่ ขยี น 2) เนือ้ เรื่อง มหี ลกั การเขียนดงั ต่อไปน้ี (1)เน้อื หาอาจแบง่ เปน็ ตอนหรอื บท (2) ในแตล่ ะบทหรือตอนในรายงาน ประกอบด้วยย่อหน้าตา่ งๆ รวมกัน (3)ในแต่ละย่อหน้าจะบรรจุเน้ือหาสาระเพียงหัวใดหัวข้อหนึ่ง หากมีหัวข้อเร่ืองหลาย หวั ข้อรองหรือหัวข้อยอ่ ย ให้แยกเปน็ ย่อหน้าย่อยเพิม่ ข้ึนอกี (4) ตําแหน่งของหัวข้อเรื่องของแต่ละย่อหน้าเป็นไปตามลําดับความสําคัญของหัวข้อ นั้นๆ ดงั รายละเอียดตอ่ ไปน้ี (4.1) ชื่อบทหรือชื่อเรื่อง พิมพ์กลางหน้ากระดาษ ห่างจากขอบกระดาษด้านบน 2 น้ิว ขนาดตัวอกั ษร 20 (4.2) หวั ข้อใหญ่ ตั้งโดดๆ ห่างจากขอบกระดาษซ้าย 1.5 นวิ้ ขนาดตัวอักษร 16 หัวข้อรอง ย่อหน้าประมาณ 5 – 7 ตัวอักษร การขยายความหัวข้อรองโดยเว้นวรรคแล้วเขียนต่อไป หัวข้อย่อย ยอ่ หนา้ ประมาณ 8 – 12 ตวั อักษร การขยายความหวั ขอ้ ยอ่ ยโดยเว้นวรรคแล้วเขียนต่อไป บรรทดั ตอ่ ๆ ไป ของแตล่ ะหวั ขอ้ ให้ขึน้ ชิดเส้นคน่ั หน้า
เอกสารประกอบการเรยี นวิชาห้องสมดุ กับการรู้สารสนเทศ บทท่ี 6 การเขียนรายงาน 123 (5)การให้หมายเลขและจัดระดับความสําคัญของหัวข้อเรื่อง นิยมใช้แบบตัวเลขกับจุด ทศนิยม และความลึกของย่อหน้า ดังแสดงตัวอย่างในรูปที่ 6.5 และแบบตัวเลขผสมกับตัวอักษรและ ความลกึ ของยอ่ หน้า ดงั แสดงตัวอย่างในรปู ที่ 6.6 3) บทสรุป มีลักษณะเป็นบทหรือตอนเช่นเดียวกับบทนํา เนื้อหาเป็นการประเมิน ข้ันสุดท้ายของรายงาน จากการวิเคราะห์เน้ือหาสารและข้อมูลโดยตลอดทั้งรายงาน แล้วสรุป ในเร่อื งใดเรื่องหนึ่งตอ่ ไปนี้ (1)ผลการศึกษาคน้ ควา้ ของเน้อื หารายงานท่ีเขยี น (2)คําวิจารณ์หรือขอ้ เสนอแนะ (3) ปญั หาทีค่ วรศกึ ษา 6.5.3 สว่ นประกอบตอนทา้ ยของรายงาน มรี ายละเอยี ดดงั ตอ่ ไปน้ี เป็นส่วนบอกแหล่งท่ีมาของการศึกษาค้นคว้าข้อมูลสําหรับการเขียนรายงานและเป็นส่วน เพ่ิมเติมเพื่อใหเ้ นอื้ หารายงานมีความสมบรู ณ์มากยิง่ ข้ึน มสี ่วนประกอบดงั ต่อไปนี้ 6.5.3.1 บรรณานุกรมหรือเอกสารอ้างอิง หมายถึง แหล่งท่ีมาของข้อมูลท้ังหมดท่ีนํามาใช้ เขียนในรายงานเพื่อใช้ในการตรวจสอบความน่าเชื่อถือของข้อมูล เป็นการเกียรติแก่ต้นฉบับแหล่ง อ้างองิ และเป็นขอ้ มูลสาํ หรับผู้ท่สี นใจในเนือ้ หาเพือ่ หาหนงั สือน้ันๆ มาอ่านเพิ่มเติมจากรายงานที่มีอยู่ วิธีการเขยี นบรรณานุกรมดงั แสดงในรปู ที่ 6.13 และ 6.14 6.5.3.2 ภาคผนวก หมายถึง ส่วนที่นํามาเสริมเนื้อหาให้รายงานสมบูรณ์ยิ่งข้ึน เช่น ตาราง แสดงขนาดของเหล็กเสน้ ตัวอยา่ งคําแนะนําการใชโ้ ปรแกรมท่ีมกี ารกล่าวถงึ ในเนื้อเรือ่ งรายงาน 6.5.3.3 ดรรชนี หมายถึง บัญชีคํา หรือวลีที่เป็นหัวข้อย่อยโดยละเอียดของเร่ือง จัดเรียง ตามลําดับตัวอักษร พร้อมบอกหมายเลขหน้าท่ีจะค้นเรื่องนั้นๆ กํากับไว้ สําหรับใช้ในการค้นเรื่อง ทตี่ อ้ งการอย่างสะดวก รวดเร็ว หากเป็นรายงานสั้นๆ ไม่จําเป็นต้องมดี รรชนี 6.5.3.4 อภิธานศัพท์ หมายถึง บัญชีคําศัพท์ที่ปรากฏในเน้ือหารายงาน พร้อมคําอธิบาย ความหมายของคําศพั ทน์ ้นั ๆ เรยี งลาํ ดบั ตามตวั อกั ษร มีลักษณะคล้ายกบั พจนานุกรม 6.5.3.5 ประวัติผู้เขียน หมายถึง การนําเสนอข้อมูลประวัติของผู้เขียน วัน เดือน ปีเกิด จบการศึกษาและผ่านการอบรมด้านใดมาบ้าง ประสบการณ์ในการทํางาน ผลงานทางวิชาการ หรอื การค้นควา้ วจิ ัยของผู้เขยี น เป็นต้น 6.5.4 การให้หมายเลขหน้าของรายงาน การให้หมายเลขหนา้ ของรายงานมีความแตกต่างกันในส่วนตอนต้นรายรายงานและเน้ือหา รายงานดงั ต่อไปนี้ 6.5.4.1 การให้หมายเลขหน้าในส่วนประกอบตอนต้นรายงาน ได้แก่ หน้าคํานําเป็นต้นไป มวี ธิ ีการใหห้ มายเลขหนา้ 2 วิธี คอื
เอกสารประกอบการเรียนวชิ าห้องสมุดกับการรูส้ ารสนเทศ บทที่ 6 การเขยี นรายงาน 124 (1) ใหเ้ ลขหนา้ เป็นตัวอักษรภาษาไทย ก ข ค ง จ ... (2) ให้เลขหน้าเป็นตัวเลขโรมัน i ii iii iv v vi … 6.5.4.2 การให้หมายเลขหน้าในส่วนเน้ือเร่ืองและส่วนประกอบตอนท้ายของรายงาน ให้เลขหน้าเป็นตัวเลข 1 2 3 4 5 ต่อเนื่องไปจนหน้าสุดท้าย หากหน้าใดเป็นชื่อบทหรือชื่อเร่ือง ตรงกลางหนา้ กระดาษ ไม่ตอ้ งลงหมายเลขหน้า แตใ่ ห้นบั ตอ่ เนอ่ื งกันไป 6.5.4.3 ตาํ แหนง่ ของเลขหนา้ ใหล้ งหมายเลขหน้าตรงมมุ ขวาบน ห่างจากขอบกระดาษบน และขอบกระดาษขวา 1 น้วิ 6.6 การทํารายงานทไี่ ม่ถกู ตอ้ ง การทาํ รายงานดว้ ยกระบวนการทํางานทีไ่ ม่ถูกต้อง จะทําให้นักศกึ ษาไมส่ ามารถบรรลจุ ดุ มุ่งหมาย ในการศกึ ษาคน้ คว้าด้วยตนตามวตั ถุประสงค์ของการทํารายงานอันมีเป้าหมายใหน้ กั ศกึ ษารจู้ กั ค้นควา้ วเิ คราะห์ สงั เคราะหเ์ น้ือหาจากข้อมลู ท่ีมปี รมิ าณมากและแหล่งการเรยี นรู้ท่หี ลากหลาย กระบวนการ ทาํ รายงานทไี่ มถ่ ูกวิธดี งั เชน่ 6.1 การคดั ลอกขอ้ มลู จากแหลง่ ค้นควา้ มาท้งั หมด เพราะจะทําให้นกั ศกึ ษาขาดการฝกึ ฝนการคิด วิเคราะหแ์ ละการเขียน 6.2 การคัดลอกรายงานจากผลงานการเขียนจากเล่มใดหรือหลายเล่มมารวมกันโดยการ ถ่ายเอกสารมาทั้งหมด หรือคัดลอกรายงานของผู้อื่นมาท้ังฉบับแล้วเปล่ียนปกรายงาน เพราะเป็นการ ผิดมารยาทในการคัดลอกผลงานของผู้อ่ืน ไม่ได้ฝึกฝนการคิดวิเคราะห์ ทําให้ขาดการเรียนรู้เพิ่มเติม จนไม่มีความรูใ้ นเรื่องนั้นๆ ในทสี่ ดุ 6.3 การไม่เขียนอ้างอิงหรือบรรณานุกรม เป็นการกระทําที่ผิดจรรยาบรรณ และทําให้รายงาน นัน้ ๆ ขาดคุณค่า ความนา่ เชอ่ื ถอื
เอกสารประกอบการเรียนวชิ าห้องสมดุ กับการรสู้ ารสนเทศ บทท่ี 6 การเขียนรายงาน 125 เลือกหวั เร่อื งหรอื หัวข้อเรอ่ื งทตี่ อ้ งการ ไม่เพยี งพอ สํารวจแหลง่ ขอ้ มลู เพือ่ การวางแนวโครงเรื่อง ไม่เพยี งพอ รวบรวมข้อมูลจากแหล่งสารสนเทศและจดบนั ทึก เรียบเรียงเนอื้ หารายงานเพือ่ จัดพมิ พ์ ตามรปู แบบ จดั ทาํ ตารางแผนภูมิ ตาราง ภาพประกอบ จัดทาํ องค์ประกอบของรายงานใหส้ มบรู ณ์ เช่น ปกนอก ปกใน คาํ นํา สารบญั บรรณานุกรม ตรวจทานรายงานท้ังฉบบั เขา้ เล่มสง่ ครูผสู้ อน รูปท่ี 6.3 แสดงขน้ั ตอนการเขยี นรายงาน
เอกสารประกอบการเรยี นวิชาหอ้ งสมดุ กบั การรู้สารสนเทศ บทที่ 6 การเขยี นรายงาน 126 ปกหลัง ประวตั ผิ ู้เขียนรายงาน อภิธานศพั ท์ ดรรชนี ภาคผนวก บรรณานกุ รม เนอ้ื หาบทท่ี 1 - .... สารบญั ตาราง สารบญั ภาพ สารบญั เนอ้ื หา กิตติกรรมประกาศ คาํ นาํ ปกใน ปกนอก รูปที่ 6.4 แสดงการเรียงลาํ ดับส่วนประกอบของรายงาน
เอกสารประกอบการเรยี นวชิ าห้องสมุดกบั การรู้สารสนเทศ บทที่ 6 การเขยี นรายงาน 127 2 นว้ิ กรณหี นา้ มีชอ่ื บทหรอื ตอนบนหวั กระดาษ 1.5 นว้ิ กรณีหนา้ ปกติ 1 น้ิว เสน้ คน่ั หน้า 2 1นิว้ ตาํ แหนง่ เลขหน้า 1.5 นิ้ว 1 น้ิว 1 นว้ิ รูปท่ี 6.5 แสดงการเว้นระยะขอบกระดาษในหน้ากระดาษ A4
เอกสารประกอบการเรียนวชิ าหอ้ งสมุดกบั การรสู้ ารสนเทศ บทที่ 6 การเขยี นรายงาน 128 ชอื่ เรื่องหรือช่ือบท ข้อความ ............................................................................................................................. ................................................................................................................................................................ 1. หัวข้อใหญ่ ขอ้ ความ............................................................................................................................. ................................................................................................................................................................ 1.1 หวั ขอ้ รอง 1................................................................................................................. ................................................................................................................................................................ 1.พ1ิม.1พร์ หะดัวบั ขเดอ้ ียยว่อกันยของ 1.1............................................................................................ ................................................................................................................................................................ ข้อความ............................................................................................................ ................................................................................................................................................................ 1.1.2 หัวขอ้ ยอ่ ยของ 1.1............................................................................................ ................................................................................................................................................................ 1.2 หัวขอ้ รอง 2................................................................................................................. ................................................................................................................................................................ 2. หวั ขอ้ ใหญ่ 2.1 หัวข้อรอง 2................................................................................................................. ................................................................................................................................................................ 2.2 หัวขอ้ รอง 2................................................................................................................. ................................................................................................................................................................ ฯลฯ รปู ที่ 6.6 แสดงตัวอย่างการวางลําดบั หัวขอ้ แบบตวั เลขกับตวั อกั ษรและความลึกของย่อหนา้
เอกสารประกอบการเรยี นวิชาห้องสมุดกบั การรู้สารสนเทศ บทที่ 6 การเขียนรายงาน 129 ชอ่ื เรอ่ื งหรอื ชอ่ื บท ข้อความ ............................................................................................................................. ................................................................................................................................................................ 1. หัวขอ้ ใหญ่ ขอ้ ความ............................................................................................................................. .......................พ..ิม..พ...์ร.ะ..ด..บั ..เ.ด..ีย.ว..ก..ัน................................................................................................................... 1.1 หวั ข้อรอง 1................................................................................................................. ................................................................................................................................................................ 1.1.1 หวั ขอ้ ย่อยของ 1.1 ........................................................................................... ................................................................................................................................................................ ก. ข้อความ ...................................................................................................... ................................................................................................................................................................ 1) ขอ้ ความ.................................................................................................. ................................................................................................................................................................ 2) ขอ้ ความ.................................................................................................. ................................................................................................................................................................ ข. ข้อความ....................................................................................................... ................................................................................................................................................................ 1.1.2 หวั ข้อยอ่ ยของ 1.1............................................................................................ ................................................................................................................................................................ 1.2 หัวข้อรอง 2................................................................................................................. ................................................................................................................................................................ ฯลฯ รูปท่ี 6.7 แสดงตวั อย่างการวางลําดับหวั ข้อแบบตวั เลขกบั ตวั อักษรและความลกึ ของย่อหนา้
เอกสารประกอบการเรียนวชิ าห้องสมดุ กับการรสู้ ารสนเทศ บทที่ 6 การเขยี นรายงาน 130 เวน้ จากขอบกระดาษ 2 น้ิว บทท่ี 1 เว้น 2 บรรทัด ชือ่ บทหรอื หัวเร่ือง เว้น 2 บรรทดั ขอ้ ความ............................................................................................................................. ................................................................................................................................................................ เว้น 2 บรรทดั 1. หัวข้อใหญ่ ///////ข้อความ (เวน้ จากขอบ 7 ตัวอักษร)............................................................................................ ................................................................................................................................................................ 1.1//หัวข้อรอง 1 ....................................................................................................................... ................................................................................................................................................................ 1.1.1//หวั ข้อยอ่ ยของ 1.1................................................................................................. ................................................................................................................................................................ ก. ขอ้ ความ............................................................................................................ ................................................................................................................................................................ 1) ข้อความ....................................................................................................... 2) ขอ้ ความ....................................................................................................... ................................................................................................................................................................ ข. ขอ้ ความ............................................................................................................ ................................................................................................................................................................ 1.1.2 หัวข้อย่อยของ 1.1................................................................................................... 1.2 หัวข้อรอง 2 ......................................................................................................................... ................................................................................................................................................................ ฯลฯ รปู ที่ 6.8 แสดงตวั อยา่ งการแบง่ หัวขอ้
เอกสารประกอบการเรียนวิชาห้องสมุดกบั การรสู้ ารสนเทศ บทที่ 6 การเขียนรายงาน 131 2 นิว้ เทคนิคการออกแบบการเรียนรู้ เสนอ อาจารยจ์ ิราภร คมุ้ มณี โดย นายขยนั หม่ันเพียร รหัสนักศึกษา 530001007 1.5 น้วิ รายงานน้เี ปน็ สว่ นหนึง่ ของการศกึ ษาวิชาห้องสมุดกบั การรสู้ ารสนเทศ 1 น้ิว ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2555 วิทยาลัยเทคนิคดุสติ 1 นวิ้ รูปที่ 6.9 แสดงตัวอยา่ งหนา้ ปกรายงาน
เอกสารประกอบการเรียนวิชาห้องสมุดกับการรสู้ ารสนเทศ บทที่ 6 การเขียนรายงาน 132 1 นิ้ว 2 น้วิ ก 1 น้ิว คํานาํ การพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะตามท่ีพระราชบัญญัติการศึกษา 1 นิ้ว 1.5 นิว้ แห่งชาติ พ.ศ. 2542 ได้ตั้งเป้าหมายของการพัฒนาคนไว้ คือ เก่ง ดี มีความสุข น้ัน หลักสูตร รูปแบบการจัดการเรียนการสอน และการวัดและประเมินผลเป็น กระบวนการนําไปสู่กระบวนการจัดการเรียนท่ีมีผลต่อคุณภาพและเป้าหมาย ของการศึกษาดังกลา่ ว จุดประสงค์ของการทํารายงานเรื่องนี้ นอกจากจะเป็นการศึกษาหา ความรู้ความเข้าใจท่ีถูกต้องและเป็นประโยชน์เก่ียวกับการพัฒนาผู้เรียนด้วย กระบวนการต่างๆ แล้ว ยังเป็นการฝึกการค้นคว้าและการเขียนรายงานที่ถูกวิธี และเป็นแนวทางในการเขียนรายงานครง้ั ผจู้ ัดทาํ หวงั ว่ารายงานฉบับน้ีคงจะเปน็ ประโยชนต์ ่อผ้อู า่ นบ้าง ตามสมควร ขยัน หมน่ั เพยี ร 15 พฤษภาคม 2555 รปู ที่ 6.10 แสดงตัวอย่างการเขยี นคํานาํ
เอกสารประกอบการเรยี นวชิ าห้องสมุดกับการรสู้ ารสนเทศ บทที่ 6 การเขยี นรายงาน 133 สารบญั ข เรือ่ ง หน้า คํานาํ ก สารบญั ข บทท่ี 1 เทคนคิ การออกแบบการเรียนรู้ 1 1 บทนาํ 2 การวเิ คราะหแ์ ละพัฒนาหลักสูตร 5 การออกแบบการจัดการเรียนรู้ใหส้ อดคลอ้ งกบั หลักสูตร 7 การออกแบบการวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ 9 สรุป 11 บรรณานุกรม รปู ที่ 6.11 แสดงตัวอย่างการเขยี นสารบัญ
เอกสารประกอบการเรียนวชิ าหอ้ งสมุดกบั การร้สู ารสนเทศ บทที่ 6 การเขียนรายงาน 134 2 น้ิว ไม่ตอ้ งใส่ เลขหน้า บทท่ี 1 เทคนคิ การออกแบบการเรยี นรู้เพื่อพฒั นาผู้เรียน 1.5 นว้ิ บทนํา การพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะตามท่ีพระราชบัญญัติการศึกษา แห่งชาติ พ.ศ. 2542 ได้ต้ังเป้าหมายของการพัฒนาคนไว้ คือ เก่ง ดี มีความสุข 1 นิ้ว น้ัน ในบทบาทของครูผู้สอนจะต้องมีความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับหลักสูตร รูปแบบการจัดการเรียนการสอน และการวัดและประเมินผลเพื่อนําไปสู่ กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพ สามารถพัฒนาผู้เรียนให้มี คุณลกั ษณะตรงตามเปา้ หมายท่กี ําหนด ดังต่อไปนี้ 1.1 การวเิ คราะหแ์ ละพฒั นาหลักสูตร 1.1.1 ความหมายของหลกั สูตร ธีรยุทธ์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา (2544 : 38) ได้ให้ความหมาย ของหลักสูตรไว้ 2 นัย ได้แก่ 1) หลักสูตรในความหมายแคบ หมายถึง เอกสาร ที่กําหนดโครงการศึกษาของผู้เรียน ประกอบด้วยความมุ่งหมายของการให้ การศึกษา เนื้อหาวิชาและอัตราเวลาเรียน กิจกรรมและประสบการณ์ท่ีจัด ให้กับผู้เรียน การวัดและประเมินผลการเรียนการสอน เช่น หนังสือหลักสูตร ระดับช้ันต่างๆ ท่ีกระทรวงศึกษาธิการจัดพิมพ์ข้ึน เป็นต้น และ 2) หลักสูตร ในความหมายกว้าง หมายถงึ ประมวลประสบการณ์ที่โรงเรยี นจัดให้แก่นักเรียน ท้ังในและนอกโรงเรยี น เพอ่ื พัฒนาผเู้ รยี นไปตามความมงุ่ หมายท่กี ําหนดไว้ กล่าวโดยสรุปหลักสูตร หมายถึง แนวทางในการจัดประสบการณ์ ทั้งรูปแบบของเอกสารและกิจกรรมในและนอกสถานศึกษาเพ่ือการพัฒนาผู้เรียน ใหม้ คี ุณลกั ษณะทีก่ าํ หนดไว้ 1 นวิ้ รปู ที่ 6.12 แสดงตัวอย่างการเขยี นหนา้ ช่ือบท
เอกสารประกอบการเรียนวชิ าห้องสมุดกับการร้สู ารสนเทศ บทที่ 6 การเขียนรายงาน 135 1 นวิ้ 1.5 นิ้ว 2 1 นิว้ 1.1.2 การวเิ คราะหแ์ ละพัฒนาหลกั สูตร การพัฒนาหลักสูตร หมายถึง ระบบการร่างหลักสูตร ระบบการ 1 นิ้ว นําหลักสูตรไปใช้และระบบการประเมินหลักสูตรท่ีมีความสัมพันธ์ต่อเน่ืองกัน เพื่อให้เกิดภาพรวมที่เป็นเอกภาพของกระบวนการพัฒนาหลักสูตร (มาเรียม นิลพันธ์ุ, 2543 : 6) ข้ันตอนในการพัฒนาหลักสูตรประกอบด้วย 1) ระบบการร่าง หลักสตู รมี 4 ข้ันตอน ไดแ้ ก่ สงิ่ ทก่ี าํ หนดหลกั สตู ร รปู แบบหลักสูตร การตรวจสอบ 1.5 นิ้ว คุณภาพ และปรับแก้หลักสูตรก่อนนําไปใช้ 2) ระบบการใช้หลักสูตร มี 3 ข้ันตอน ได้แก่ การขออนุมัติหลักสูตร การวางแผนการใช้และการดําเนินการใช้หลักสูตร และ 3) ระบบการประเมินหลกั สูตร เพ่ือเปรียบเทยี บระหว่างผลการใชห้ ลักสูตร สรุป การพัฒนาหลักสูตร เป็นการทําหลักสูตรท่ีมีอยู่ให้ดีข้ึน หรือพัฒนาข้ึนใหม่ เป็นกระบวนการต่อเนื่องไป ประกอบด้วยข้ันตอนการร่าง หลักสูตร การใช้หลกั สตู รและการประเมินหลกั สูตร 1.2 การออกแบบการจัดการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับหลักสูตรและบริบทของ สถานศกึ ษา พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 มุ่งเน้นให้ผู้เรียนทุกคน มีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ และถือว่าผู้เรียนมีความสําคัญท่ีสุด ผู้สอนจะต้องประยุกต์ให้เหมาะกับบริบทของตนและสถานศึกษา ในท่ีน้ีเสนอ รูปแบบการจัดการสอน 9 แนวทาง ได้แก่ 1) การจัดการเรียนรู้จากแหล่งการ เรียนรู้ 2) การจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการพหุปัญญา 3) การจัดการเรียนรู้แบบ ประสบการณ์และที่เน้นการปฏิบัติ 4) การจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน 5) การจัดการเรียนรู้แบบส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ 6) การจัดการเรียนรู้แบบ สร้างองค์ความรู้ 7) การจดั การเรยี นรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน 8) การจัดการเรียนรู้ แบบกระบวนการแก้ปญั หา และ 9) การจัดการเรียนรู้แบบพฒั นากระบวนการคิด รูปที่ 6.13 แสดงตวั อย่างการเขยี นหน้ารายงานทไี่ มใ่ ช่หนา้ บทหรอื ตอน
เอกสารประกอบการเรยี นวิชาห้องสมดุ กบั การรสู้ ารสนเทศ บทท่ี 6 การเขียนรายงาน 136 2 นิ้ว ไม่ต้องใส่ เลขหน้า บรรณานกุ รม คณะอนุกรรมการขบั เคลอ่ื นเศรษฐกิจพอเพยี ง. สาํ นกั งานคณะกรรมการพัฒนาการ เศรษฐกิจและสังคมแหง่ ชาต,ิ 2547. ทิวัตถ์ มณีโชติ. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ตามหลักสูตรการศึกษา ข้ันพื้นฐาน. กรุงเทพมหานคร : ศูนยส์ ง่ เสรมิ วิชาการ, 2549. . ระบบการเรียนการสอน Learning-teaching. พิมพ์คร้ังที่ 17, 1.5 นิ้ว กรงุ เทพมหานคร : มหาวิทยาลยั สโุ ขทยั ธรรมาธริ าช, 2544. แนวคิดและทฤษฏีเกี่ยวกับการพัฒนาหลักสูตร. [ออนไลน์] เข้าถึงเม่ือ 7 มกราคม 2555. เข้าถึงไดจ้ าก http://www.drduan.com/curriculum พนม ลม้ิ อารีย์. การแนะแนว. กรุงเทพมหานคร : โอเดียนสโตร์, 2548. มาเรียม นิลพันธุ์. การสังเคราะห์งานวิจัยทางด้านหลักสูตร. วิทยานิพนธ์ การศกึ ษามหาบณั ฑติ มหาวทิ ยาลยั ศลิ ปากร, 2543. วสนั ต์ ทองไทย. การออกแบบประเมินผลการเรียน. [ออนไลน]์ เขา้ ถึงเมือ่ 7 มกราคม 2555. เข้าถึงไดจ้ าก http://www.rossarin.com/journal/item วฒั นา ปุญญฤทธิ์. บทบาทครใู นการสร้างบรรยากาศการเรียนรู้. [ออนไลน์] เข้าถึง เมอ่ื 7 มกราคม 2555. เขา้ ถงึ ได้จาก http://www.ponnyarit.com วันทนา เมืองจันทร์. [ออนไลน์] เข้าถึงเม่ือ 7 มกราคม 2555. เข้าถึงได้จาก http://www.moe.go.th/wijai/role.htm วิทยากร เชียงกูล. [ออนไลน์] เข้าถึงเม่ือ 7 มกราคม 2555. เข้าถึงได้จาก http://witayakornclub.wordpress.com ศศิธร ชันติธรางกูร. “การจัดการชั้นเรียนของครูมืออาชีพ,” ครุศาสตร์. 1, 2 (มีนาคม 2551) หน้า 11 – 18. 1 นวิ้ รูปท่ี 6.14 แสดงตัวอย่างการเขียนหน้าบรรณานุกรม
เอกสารประกอบการเรยี นวิชาห้องสมดุ กบั การรูส้ ารสนเทศ บทที่ 6 การเขยี นรายงาน 137 1.5 นวิ้ 4 1.5 นิ้ว เศรษฐกิจพอเพียงคืออะไร?. พิมพ์ครั้งท่ี 4, กรุงเทพมหานคร : กลุ่มงานเศรษฐกิจ พอเพยี งและธนาคารสมอง. 2549. สํานักงานคณะกรรมการข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา. พระราชบญั ญัติ ระเบียบข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547. กรุงเทพมหานคร : คุรุสภาลาดพร้าว, 2548. Good, Carter V. Dictionary of Education. New York : McGraw-Hill, Book Company, 1973. รปู ท่ี 6.15 แสดงตวั อย่างการเขียนหน้าบรรณานุกรม
เอกสารประกอบการเรยี นวชิ าห้องสมดุ กับการร้สู ารสนเทศ บทที่ 6 การเขียนรายงาน 138 ใบงานบทท่ี 6 การเขียนรายงาน คําส่งั ตอบคําถามตอ่ ไปน้ี 1. อธบิ ายความหมายของรายงานมาใหเ้ ข้าใจ 2. บอกวตั ถปุ ระสงค์ในการเขยี นรายงานมาอย่างน้อย 4 ขอ้ 3. หลักการเลอื กหวั ขอ้ เร่อื งรายงานมอี ะไรบ้าง จงอธิบาย 4. สว่ นประกอบของรายงานมกี สี่ ว่ น อะไรบ้าง จงอธบิ าย 5. บอกวิธกี ารตรวจสอบรายงานเพอ่ื ความถูกต้อง 6. บอกหลกั การเขียน คํานาํ บทนํา และบทสรปุ 7. อธบิ ายข้นั ตอนการเขยี นรายงานท่ถี กู ตอ้ งมาใหเ้ ข้าใจ 8. อธบิ ายวธิ ีการใหห้ มายเลขหน้าของรายงานต่อไปน้ี - การใหห้ มายเลขหน้าของส่วนประกอบตอนตน้ รายงาน - การใหห้ มายเลขหน้าในส่วนเนื้อเร่ือง - ตําแหน่งของเลขหนา้ ในหนา้ รายงาน 9. เหตุใดนกั ศกึ ษาจึงไมค่ วรคัดลอกข้อมูลจากแหลง่ ค้นควา้ มาทั้งหมดในการเขียนรายงาน จงอธบิ าย 10. วาดรูปหน้าคํานําและหนา้ เนื้อหาตอ่ ไปนพี้ รอ้ มบอกระยะการเวน้ ขอบกระดาษในหน้ารายงานตอ่ ไปนี้ .......น้วิ เน้ือหาของรายงาน .ก...า..ร.นเว้ิขียนรายงาน5....น้ิว ทีถ่ ูกต้อง จะต้องเกดิ จากการสังเคราะห์ คาํ นํา เน้ือหา เพื่อเรียบเรียงเป็นสํานวนของ ผเู้ ขยี นรายงานเอง .......น้วิ ...นวิ้ .......นิ้ว ...นว้ิ .......นว้ิ .......นิ้ว 11. ให้นักศึกษาเขียนส่วนประกอบของรายงาน ได้แก่ หน้าปก คํานํา สารบัญ เน้ือหาอย่างน้อย 5 หน้าและบรรณานุกรมท่ีมีส่วนประกอบของรายการอ้างอิงอย่างน้อย 6 รายการ โดยเลือก หัวขอ้ เรื่องท่นี กั ศกึ ษาสนใจศกึ ษาและเรยี บเรียงเป็นสาํ นวนของนักศกึ ษาเอง ส่งในรูปเล่มรายงาน
Search
Read the Text Version
- 1 - 23
Pages: