อุตสาหกรรมยานยนต์โครงสร้ างอุตสาหกรรมยานยนต์ ปัจจุบันมีผู้ประกอบรถยนต์ 15 ราย มีผู้ประกอบรถจักรยานยนต์ 5 ราย มีผู้ผลิตชิน้ ส่วนที่ส่งชิน้ สว่ นและวสั ดใุ ห้กบั ผ้ปู ระกอบยานยนต์โดยตรง(Direct Supplier) ทงั้ สนิ ้ 709 ราย (โดยในจานวนนีเ้ป็นผ้ผู ลิตชิน้ สว่ นสาหรับรถยนต์ 386 ราย เป็นผ้ผู ลิตชิน้ สว่ นสาหรับรถจกั รยานยนต์ 201 ราย เป็นทงั้ ผ้ผู ลิตชิน้ สว่ นรถยนต์และรถจกั รยานยนต์ 122 ราย) นอกจากนี ้ยงั มีผ้ผู ลิตชิน้ ส่วนสนบั สนนุ ซงึ่ สว่ นใหญ่เป็นSMEs อีกประมาณ 1,000 ราย ทงั้ นี ้คา่ ยยานยนต์ระดบั โลกที่เข้ามา ลงทนุ ตงั้ โรงงานประกอบในประเทศไทยเพื่อใช้เป็นฐานการผลติ ในภมู ิภาค จะมีการจดั หาชิน้ สว่ นโดยใช้แนวทาง Global Sourcing ซง่ึ จะสง่ั ซือ้ชิน้ สว่ นจาก Supplier ท่ีผลิตชิน้ สว่ นให้ได้คณุ ภาพตามมาตรฐานท่ีกาหนดและมีราคาถกู ท่ีสดุ ทาให้ผ้ผู ลติชิน้ ส่วนของไทยในปัจจุบนั ต้องเผชิญกบั การแข่งขนั ท่ีรุนแรง นอกจากนี ้การประกอบยานยนต์จะใช้วิธีในการลดขนั้ ตอนการประกอบลง โดยอาศยั แนวทางที่จะพฒั นาการใช้ชิน้ ส่วนในลกั ษณะ Module มากขึน้โดยทาการผลิตชิน้ ส่วน Module ขึน้ ในโรงงานประกอบเอง หรืออาศัยผู้ผลิตชิน้ ส่วนที่อยู่ใกล้เคียงดาเนินงานให้ ดงั นนั้ ผ้ผู ลิตชิน้ ส่วนรายใหม่ที่เกิดขึน้ จะเลือกตงั้ โรงงานให้อย่ใู กล้กบั โรงงานประกอบยานยนต์ เพอ่ื จะได้สะดวก เกิดความรวดเร็ว และประหยดั คา่ ใช้จ่ายในการจดั สง่ โดยอาศยั ระบบ Logisticsมาช่วยเพม่ิ ประสทิ ธิภาพของการดาเนินงานสภาวะอุตสาหกรรมยานยนต์ ปี 2545 ในปี 2545 อตุ สาหกรรมยานยนต์ของไทยมีการขยายตวั อย่างมากทงั้ ในด้านการผลิต และการจาหน่าย อนั เน่ืองมาจาก ภาวะเศรษฐกิจของประเทศท่ีได้ฟื น้ ตวั นโยบายกระต้นุ เศรษฐกิจของรัฐที่ได้เห็นผลทาให้เกิดกาลังซือ้ เพิ่มขึน้ ภาวะดอกเบีย้ ต่า การเปิดตัวยานยนต์รุ่นใหม่ออกมากระตุ้นตลาดอย่างตอ่ เนื่อง และการจดั กิจกรรมสง่ เสริมการตลาดของคา่ ยยานยนต์ตา่ งๆ ทาให้ สภาวะอตุ สาหกรรมยานยนต์ในปี 2545 มีการผลิตรถยนต์รวมทกุ ประเภทประมาณ 595,000 คนั เพิ่มขนึ ้ จากปีที่ผา่ นมาร้อยละ 29.51มีการจาหน่ายประมาณ 400,000 คนั เพิ่มขนึ ้ จากปีท่ีผา่ นมาร้อยละ 34.66 โดยเป็นการจาหน่ายรถยนต์นง่ัร้อยละ 30 เป็นการจาหน่ายรถยนต์ปิกอพั 1 ตนั ร้อยละ 60 ท่ีเหลืออีกร้อยละ 10 เป็นการจาหน่ายรถยนต์เพ่ือการพาณิชย์อื่นๆ และมีการสง่ ออกรถยนต์ประมาณ 185,000 คนั เพิ่มขนึ ้ จากปีท่ีผ่านมาร้อยละ 5.53สาหรับรถจกั รยานยนต์มีการผลิตประมาณ 1,980,000 คนั เพ่ิมขนึ ้ จากปีท่ีผ่านมาร้อยละ 63.64 มีการจาหน่ายประมาณ 1,330,000 คนั เพ่ิมขึน้ จากปีที่ผ่านมาร้ อยละ 47.63 โดยเป็นการจาหน่ายรถจกั รยานยนต์แบบครอบครัวถึงร้อยละ 93 ท่ีเหลืออีกร้อยละ 7 เป็นการจาหน่ายรถจกั รยานยนต์แบบสปอร์ต และ มีการสง่ ออกรถจกั รยานยนต์(CBU&CKD) ประมาณ 520,000 คนั เพ่ิมขนึ ้ จากปีท่ีผ่านมาร้อยละ 90.97 ซงึ่ ได้มีการเปล่ียนรูปแบบจากการสง่ ออกรถจกั รยานยนต์สาเร็จรูป(CBU) เป็นการสง่ ออกใน 126
ลกั ษณะของชิน้ ส่วนถอดแยก(CKD) เพื่อนาไปประกอบแทน และจะเป็นลกั ษณะดงั กลา่ วเพ่ิมมากขนึ ้ เป็นลาดบัแนวโน้มของอุตสาหกรรมยานยนต์ ปี 2546 อตุ สาหกรรมยานยนต์ไทยจะยงั คงขยายตวั เพ่ิมขนึ ้ แตค่ งเป็นไปในลกั ษณะที่ไม่ขยายตวั มากเช่นปี 2545 ซึ่งในปี 2546 นี ้ คาดว่า รถยนต์จะมีการผลิตในประเทศ 665,000 คัน และมีการจาหน่ายในประเทศ 450,000 คนั ในส่วนรถจกั รยานยนต์จะมีการผลิตในประเทศ 2.5 ล้านคนั และมีการจาหน่ายในประเทศ 1.65 ล้านคนั สาหรับชิน้ ส่วนยานยนต์ สว่ นใหญ่แล้วจะขนึ ้ อยกู่ บั ภาวะการผลิตและจาหน่ายรถยนต์และรถจกั รยานยนต์ ดงั นนั้ อตุ สาหกรรมชิน้ สว่ นยานยนต์ในปี 2546 จะมีแนวโน้มที่ดีไปในทิศทางเดียวกบั อตุ สาหกรรมรถยนต์และอตุ สาหกรรมรถจกั รยานยนต์ปัญหา อตุ สาหกรรมประกอบยานยนต์ 1. ความสามารถในการผลิต : ไทยยงั ไมไ่ ด้เป็นฐานการผลิตชิน้ สว่ นในภมู ิภาคเอเซีย อย่างแท้จริง ขาดเทคโนโลยีที่เป็นแก่นแท้(Intrinsic Technology)ของตนเอง ขาดการถ่ายทอดเทคโนโลยีอย่างจริงจงั และขาดความสามารถในการออกแบบและพฒั นาผลิตภณั ฑ์ 2. ทรัพยากรและสาธารณปู โภค : การพฒั นาบคุ ลากรทางด้านเทคโนโลยี วิศวกรรม และการจดั การ ยงั ไม่สามารถสนองตอบความต้องการของภาคอตุ สาหกรรม ไม่มีทรัพยากรบคุ คลในสายวิศวกรรมท่ีเก่ียวข้องกบั อตุ สาหกรรมโดยตรงอย่างเพียงพอ ในปัจจบุ นั มีสาธารณปู โภคท่ีดี แต่ยงั ไม่มีการวางแผนโครงการในอนาคต และไม่มีศนู ย์กลางด้าน R&D 3. กฎระเบยี บภาครัฐ : ข้อมลู ของอตุ สาหกรรมมีไม่เพียงพอและขาดการประสานงานทางด้านข้อมลู ทาให้ผ้ปู ระกอบการวางแผนธุรกิจได้ยาก อตุ สาหกรรมผลิตชิน้ สว่ นยานยนต์ 1. ด้านการตลาด : ขาดความเข้มแข็งในการรวมกลมุ่ ของผ้ปู ระกอบการ เพื่อขยายตลาดและอานาจในการตอ่ รอง ตลอดจนการเข้าสู่ supply chain ของ Brand อื่นๆ ได้ยาก 2. ความสามารถในการผลติ : ไทยยงั ไม่ได้เป็นฐานการผลิตชิน้ สว่ นในภมู ิภาคเอเซีย อย่างแท้จริง ขาดเทคโนโลยีท่ีเป็นแก่นแท้ (Intrinsic Technology)ของตนเอง ยงั ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีจากตา่ งประเทศ ขาดการถ่ายทอดเทคโนโลยีอยา่ งจริงจงั ขาดการวิจยั และพฒั นา (R&D) ขาดความสามารถในการออกแบบและพฒั นาผลติ ภณั ฑ์ ขนาดของอตุ สาหกรรมไม่ก่อให้เกิดการประหยดั ในการทา R&D และมีประสทิ ธิภาพตา่ เม่ือเปรียบเทียบกบั suppliers ทว่ั โลก 127
3. ทรัพยากรและสาธารณปู โภค : การพฒั นาบคุ ลากรทางด้านเทคโนโลยีวิศวกรรม และการจัดการ ยังไม่สามารถสนองความต้องการของภาคอุตสาหกรรม บุคลากรขาดความรู้ด้านภาษาและกฎหมาย ทาให้ไมม่ ีอานาจในการตอ่ รอง เสียเปรียบด้านการทาสญั ญาการค้า ขาดความสามารถในการใช้IT และ E-Commerce ไมม่ ีศนู ย์กลางทางด้านการทาวิจยั และพฒั นา 4. กฎระเบยี บภาครัฐ : ข้อมลู ของอตุ สาหกรรมมีไมเ่ พียงพอและขาดการประสานงานทางด้านข้อมลู ทาให้ผ้ปู ระกอบการวางแผนธุรกิจได้ยาก 5. ด้านอื่นๆ : ขาดสภาพคลอ่ งทางการเงิน ขาดความรู้ด้านการบริหารการเงิน ขาดเงินทนุ ในการขยายกิจการเพอ่ื ขยายตลาด ขาดเงินลงทนุ ในการพฒั นาผลิตภณั ฑ์ และปรับปรุงประสทิ ธิภาพการผลิตมีมลู คา่ เพม่ิ ใน supply chain น้อยแผนแม่บทอุตสาหกรรมยานยนต์ ในอดีตท่ีผ่านมาการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ ได้ใช้ นโยบายและมาตรการคุ้มครองอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศ โดยการห้าม/จากัดการนาเข้า การบงั คบั ใช้ชิน้ ส่วนท่ีผลิตในประเทศ(Local Content) ซง่ึ แนวทางการดาเนินงานดงั กลา่ ว สง่ ผลให้อตุ สาหกรรมยานยนต์และชิน้ สว่ นในประเทศเจริญเตบิ โตขนึ ้ เป็นลาดบั อยา่ งไรก็ตาม จากวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขนึ ้ แนวโน้มการรวมตวั กนั ของบริษัทข้ามชาติรายใหญ่ และทิศทางการค้าเสรีท่ีเกิดขนึ ้ ทวั่ โลก ได้ส่งผลให้ประเทศไทยต้องมีการยกเลิกการบงั คบั ใช้ชิน้ ส่วนยานยนต์ท่ีผลิตในประเทศ รวมทงั้ นโยบายการปกปอ้ งอตุ สาหกรรม ทาให้เกิดสภาวะการแข่งขนั ในอตุ สาหกรรมยานยนต์ท่ีทวีความรุนแรงขนึ ้ อย่างรวดเร็ว ดงั นนั้ เพ่ือให้ทิศทางการพฒั นาอตุ สาหกรรมยานยนต์เป็นไปอยา่ งเหมาะสมและเกิดประโยชน์กบั ประเทศ จงึ ได้มีการจดั ทาแผนแม่บทอตุ สาหกรรมยานยนต์ขนึ ้ แล้วเสร็จในปี 2545 ซงึ่ ในแผนแมบ่ ทฯ ได้กาหนด VISION ไว้วา่ “ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์ในเอเซยี สามารถสร้างมลู คา่ เพิ่มในประเทศ โดยมีอตุ สาหกรรมชิน้ สว่ นยานยนต์ท่ีมีความแข็งแกร่ง” โดยมีกลยทุ ธ์หลกั คือ การสร้างสภาวะแวดล้อมในการดาเนินธุรกิจให้กบั อตุ สาหกรรมยานยนต์ไทย และการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขนั ของอตุ สาหกรรมชิน้ ส่วนยานยนต์ไทย ทงั้ นี ้หน่วยงานที่เก่ียวข้องจะต้องมีการหารือในการจดั ทาแผนปฏิบตั ิการขนึ ้ เพื่อให้มีการดาเนินงานที่สง่ ผลดีตอ่ การพฒั นาอตุ สาหกรรมยานยนต์ไทย และบรรลุ VISION ของอตุ สาหกรรมยานยนต์ดงั กลา่ วข้อเสนอแนะ จากสภาวะการแข่งขนั ท่ีรุนแรงมากขึน้ ในอตุ สาหกรรมยานยนต์ ทาให้อตุ สาหกรรมผลิตชิน้ ส่วนยานยนต์ได้รับผลกระทบอยา่ งมาก ทงั้ ในด้านของการถกู กดดนั ทางราคา และการท่ีต้องพยายามในการลดต้นทนุ ลง สาหรับอตุ สาหกรรมประกอบยานยนต์ได้รับผลกระทบไมม่ ากนกั เน่ืองจากผ้ปู ระกอบการเป็นคา่ ยยานยนต์ในระดบั โลกที่ได้ย้ายฐานเข้ามาลงทุนในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม แนวทางในการสง่ เสริมและแก้ไขปัญหาอตุ สาหกรรมยานยนต์ ท่ีสมควรหยบิ ยกขนึ ้ มาพจิ ารณาดาเนินงาน มีดงั ตอ่ ไปนี ้ 128
1. ควรมีเสถียรภาพทางด้านนโยบาย ทงั้ นี ้ในการปรับเปลีย่ นนโยบายใดๆ เชน่ การปรับเปล่ียนวิธีหรืออตั ราการจัดเก็บภาษี ย่อมเป็นส่ิงที่ภาครัฐสามารถกระทาได้ เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ของประเทศ ซ่ึงการพิจารณาควรดูในภาพรวมทัง้ ระบบ และการจะประกาศบังคับใช้ก็ควรมีระยะเวลาเตรียมการด้วย เพ่ือให้เกิดความเสมอภาคและเป็นธรรมตอ่ ผ้ปู ระกอบการทกุ ราย 2. ควรมีแนวทางที่ชัดเจน และมาตรการท่ีจะสนับสนุนส่งเสริมอุตสาหกรรมต่อเนื่องจากอตุ สาหกรรมประกอบยานยนต์ เชน่ อตุ สาหกรรมการดดั แปลงและตอ่ เติมตวั ถงั ในประเทศ 3. ควรผลกั ดนั สง่ เสริม สนบั สนนุ การดาเนินงานตามข้อตกลง AFTA และ AICO ให้เกิดผลอยา่ งเป็นรูปธรรม และควบคมุ ให้มีการปฏบิ ตั ติ ามข้อตกลงอย่างแท้จริง เพ่ือแก้ไขปัญหาประเดน็ ข้อกาหนดด้านRule of Origin ให้สอดคล้องกบั เจตนารมณ์ของความร่วมมือ ASEAN และแก้ไขปัญหาการบิดเบือนปริมาณ ASEAN Content 4. เน่ืองจาก AFTA ในสว่ นของอตุ สาหกรรมยานยนต์ได้มีผลบงั คบั ใช้แล้ว ตงั้ แตว่ นั ที่ 1 มกราคม2546 จึงควรเร่งรัดให้มีการปรับโครงสร้างภาษีขนึ ้ โดยเร็ว โดยเฉพาะรายการวตั ถดุ บิ และชิน้ สว่ นย่อยที่ไม่สามารถผลิตได้ในประเทศ ซง่ึ จาเป็นต้องนาเข้ามาใช้ในการผลิตชิน้ ส่วนยานยนต์ เพ่ือให้ต้นทุนการผลิตชิน้ สว่ นยานยนต์ในประเทศ สามารถแขง่ ขนั กบั ชิน้ สว่ นยานยนต์นาเข้าจากอาเซียนได้ 5. ควรทบทวน แก้ไข กฎ ระเบียบ ขนั้ ตอนการดาเนินธุรกรรมตา่ งๆ ของภาครัฐที่จะช่วยลดภาระการดาเนินธุรกิจของผ้ปู ระกอบการ รวมทงั้ แนวนโยบายการให้สิทธิประโยชน์ที่จะสง่ เสริมการลงทนุ เพิ่มขนึ ้ตลอดจน ส่งเสริมความเท่าเทียมกนั ในการดาเนินธุรกิจ ระหว่างผ้ปู ระกอบการไทยในปัจจบุ นั กบั นกั ลงทนุรายใหมจ่ ากตา่ งชาติ เช่น การให้สทิ ธิประโยชน์สาหรับการขยายการ ลงทนุ ในอตุ สาหกรรมชิน้ สว่ นยานยนต์ท่ีดาเนินกิจการอยแู่ ล้ว ได้รับสทิ ธิประโยชน์ด้วยกนั ทกุ เขตหรือให้ทกุ เขตได้รับสทิ ธิประโยชน์ท่ีเท่าเทียมกนั 6. ควรสนบั สนุนและเร่งรัดให้มีการจดั ตงั้ ศนู ย์ทดสอบและวิจยั พฒั นาชิน้ ส่วนยานยนต์ขึน้ ในประเทศ เพ่อื เสริมสร้างขีดความสามารถในการผลิตและการแขง่ ขนั ให้กบั ผ้ผู ลติ ชิน้ สว่ น ยานยนต์ ซง่ึสว่ นใหญ่เป็นผ้ปู ระกอบการขนาดกลางและขนาดยอ่ ม(SMEs) 7. ควรให้การสง่ เสริมและสนบั สนนุ งบประมาณการดาเนินงานของสถาบนั ยานยนต์ ในการวางแนวทางการพฒั นาบคุ ลากรในอตุ สาหกรรมยานยนต์ การพฒั นาศกั ยภาพของผ้ปู ระกอบการไทย ตลอดจนการดาเนินโครงการพฒั นาอตุ สาหกรรมยานยนต์ในด้านอื่นๆ ทงั้ นีเ้พ่ือให้สถาบนั ยานยนต์เป็นศนู ย์กลางในการพฒั นากล่มุ อตุ สาหกรรมยานยนต์(Cluster Hub) ซ่ึงจะเป็นการส่งเสริมให้เกิดการพฒั นากล่มุอตุ สาหกรรมยานยนต์ไทยให้เข้มแข็งอย่างยงั่ ยนื 129
ตาราง1 : การผลิตยานยนต์ ประเภทยานยนต์ หน่วย : คนัรถยนต์ 2543 2544 2545 % รถยนต์นง่ั (ประมาณการ) เปล่ียนแปลง รถยนต์ปิกอพั 1 ตนั 411,721 รถยนต์เพ่ือการพาณิชย์อื่นๆ 103,089 459,418 595,000 29.51 294,834 160,687 192,000 19.49รถจกั รยานยนต์ 13,798 289,349 390,000 34.79 ครอบครัว 1,125,551 13,000 38.56 สปอร์ต 1,089,304 9,382 1,980,000 63.64 36,247 1,209,995 1,900,000 65.94ท่ีมา: 1,145,001 80,000 23.09 64,994 สภาอตุ สาหกรรมแห่งประเทศไทยตาราง2 : การจาหน่ายยานยนต์ในประเทศ ประเภทยานยนต์ 2543 หนว่ ย : คนัรถยนต์ 262,189 2544 2545 % รถยนต์นง่ั 83,106 (ประมาณการ) เปล่ียนแปลง รถยนต์ปิกอพั 1 ตนั 151,703 รถยนต์เพ่ือการพาณิชย์อ่ืนๆ 27,380 297,052 400,000 34.66 788,854 104,502 120,000 14.83รถจักรยานยนต์ 759,146 168,639 240,000 42.32 ครอบครัว 29,708 23,911 40,000 67.29 สปอร์ต 900,925 1,330,000 47.63 871,077 1,240,000 42.35ที่มา: 29,848 90,000 201.53 สภาอตุ สาหกรรมแห่งประเทศไทย 130
ตาราง3 : การนาเข้ายานยนต์ ประเภทยานยนต์ หนว่ ย: ล้านบาทรถยนต์นง่ั 2543 2544 2545 %รถยนต์โดยสารและรถบรรทกุ (ประมาณการ) เปล่ียนแปลงสว่ นประกอบและอปุ กรณ์ประกอบรวมทงั้ โครงรถและตวั ถงั 11,436.6 8,534.6 8,000.0 -6.26ยางรถยนต์ 6,598.6 5,308.6 6,300.0 18.68รถจกั รยานยนต์สว่ นประกอบและอปุ กรณ์รถจกั ร- 58,242.8 70,661.6 79,000.0 11.80ยานยนต์ และรถจกั รยาน 1,538.3 2,149.6 2,300.0 7.00 12.72ท่ีมา: 9.8 842.8 950.0 2,818.8 3,011.4 2,900.0 -3.70 กรมเจรจาการค้าระหวา่ งประเทศ หนว่ ย: ล้านเหรียญสหรัฐ ประเภทยานยนต์ 2543 2544 2545 % (ประมาณการ) เปล่ียนแปลงรถยนต์นง่ั 288.3รถยนต์โดยสารและรถบรรทกุ 165.5 190.9 185.0 -3.09สว่ นประกอบและอปุ กรณ์ประกอบ 119.1 145.0 21.75รวมทงั้ โครงรถและตวั ถงัยางรถยนต์ 1,453.8 1,585.6 1,800 13.52รถจกั รยานยนต์ 38.5 48.2 50.0 3.73สว่ นประกอบและอปุ กรณ์รถจกั ร- 0.3 18.7 20.0 6.95ยานยนต์ และรถจกั รยาน 70.4 67.6 65.0 -3.85ที่มา: กรมเจรจาการค้าระหวา่ งประเทศ 131
ตาราง4 : การส่งออกยานยนต์ ประเภทยานยนต์ 2543 2544 2545 % 152,836 175,299 (ประมาณการ) เปล่ียนแปลงรถยนต์ (CBU) (คัน)มูลค่า (ล้านบาท) 185,000 5.53 รถยนต์ 63,148.28 83,894.70 84,000.00 0.13 สว่ นประกอบและอปุ กรณ์รถยนต์ (OEM) 9,531.17 11,748.57 14,000.00 19.16 เคร่ืองยนต์ 7,106.22 7,481.38 6,000.00 -19.80 ชิน้ สว่ นอะไหลร่ ถยนต์ 1,245.65 1,758.56 1,800.00รถจกั รยานยนต์ (CBU&CKD) 2.36(คัน)มูลค่า (ล้านบาท) 267,248 272,301 520,000 90.97 รถจกั รยานยนต์ สว่ นประกอบและอปุ กรณ์รถจกั ร- 7,421.04 7,833.36 7,800.00 -0.43 ยานยนต์ (OEM) ชิน้ สว่ นอะไหลร่ ถจกั รยานยนต์ 3,180.33 4,161.58 3,900.00 -6.29 188.74 761.44 1,400.00 83.86ที่มา: สภาอตุ สาหกรรมแห่งประเทศไทย 132
Search
Read the Text Version
- 1 - 7
Pages: