เนอื้ หา ประวตั ิ ....................................................................................................................................................... 3 พระตำหนกั เขำค้อ.................................................................................................................................... 5 วดั มหำธำตุ............................................................................................................................................. 6 วดั วเิ ชียรบำรุง ......................................................................................................................................... 7 อทุ ยำนแหง่ ชำติทงุ่ แสลงหลวง (หนองแมน่ ำ).................................................................................................8 แกง่ บำงระจนั ........................................................................................................................................11 วดั ช้ำงเผอื ก ..........................................................................................................................................13 หอวฒั นธรรมนครบำลเพชรบรู ณ์...............................................................................................................14 อทุ ยำนแหง่ ชำติตำดหมอก ......................................................................................................................15 อทุ ยำนประวตั ศิ ำสตร์ศรีเทพ ....................................................................................................................17 ภทู บั เบกิ ..................................................................................................................................................22 อทุ ยำนแหง่ ชำตภิ หู ินร่องกล้ำ .......................................................................................................................25 ด้ำนประวตั ิศำสตร์ .....................................................................................................................................26 ด้ำนธรรมชำติ ...........................................................................................................................................28 ผำชธู ง .................................................................................................................................................29 เนินมหศั จรรย์........................................................................................................................................32 นำ้ ตกศรีดษิ ฐ์ ........................................................................................................................................32 วดั ไตรภมู ิ .............................................................................................................................................33 ศำลเจ้ำพอ่ หลกั เมืองเพชรบรู ณ์.................................................................................................................34 ฐำนอทิ ธิ (พิพธิ ภณั ฑ์อำวธุ )......................................................................................................................37 สวนสำธำรณะเทศบำลตำบลพเุ ตย............................................................................................................38 สถำนที ดลองเกษตรทส่ี งู เขำค้อ.................................................................................................................44 กำรเดินทำง ..............................................................................................................................................48
ประวตั ิ เมืองเพชรบรู ณ์น้ีสนั นิษฐานวา่ สร้างมา 2 ยคุ ยคุ แรกสมยั สุโขทยั หรือพิษณุโลก เป็นเมืองหลวงสงั เกตตามแนวกาแพงเมือง ซ่ึงเอาลาน้าไวก้ ลางเมือง และยคุ สองสมยั สมเดจ็ พระนารายณ์มหาราช มีป้ อมและกาแพงก่อดว้ ยอิฐปนศิลา สณั ฐานคลา้ ยเมือง นครราชสีมาแต่เลก็ และเต้ียกวา่ เอาแมน่ ้าไวก้ ลางเมืองเหมือนกนั เมืองเพชรบรู ณ์ท่ี สร้างท้งั สองยคุ น้ีสาหรบั ป้ องกนั ขา้ ศึกซ่ึงจะยกทพั มาจาก ฝ่ ายเหนือ เพชรบูรณ์เดิมมี ช่ือวา่ \"เพชรบุร\" หรือ \"พชื ปุระ\"อนั หมายถึงเมืองแห่งพชื พนั ธุ์ธญั ญาหาร ตวั เมืองต้งั อยหู่ ่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 346 กิโลเมตร อยสู่ ูงจากระดบั น้าทะเล โดยเฉล่ีย 114 เมตร ลกั ษณะภูมิประเทศเป็นท่ีลุ่มแบบทอ้ งกะทะ พ้ืนท่ีของจงั หวดั มี ลกั ษณะลาดชนั จากทิศเหนือไปใต้ ตอนเหนือเป็นทิวเขาสูง ตอนกลางเป็นท่ีราบ ขนาบ ดว้ ยเทือกเขาเพชรบรู ณ์ทางทิศตะวนั ออกและทิศตะวนั ตก มีแม่น้าสาคญั ไหลผา่ นคือ แม่น้าป่ าสกั สถานทที่ ่องเทย่ี วท่นี ่าสนใจ
เขาค้อ เป็นช่ือเรียกรวมทิวเขานอ้ ยใหญ่ของเทือกเขาเพชรบูรณ์ ในเขตอาเภอเขาคอ้ เหตุ ที่เรียกกนั วา่ \"เขาค้อ\"เพราะป่ าบริเวณน้ีเดิมมีตน้ คอ้ ซ่ึงเป็นไมต้ ระกลู ปาลม์ ข้ึนอยมู่ าก ภูมิอากาศบนเขาคอ้ เยน็ สบายตลอดปี แมใ้ นฤดรู ้อน และค่อนขา้ งเยน็ จดั ในฤดูหนาว รวมท้งั มีทศั นียภาพสวยงาม จึงเป็นแหลง่ ท่องเท่ียวท่ีไดร้ ับความนิยมมากท่ีสุดแห่ง หน่ึงของเพชรบูรณ์ เขาคอ้ ประกอบดว้ ยภูเขาสลบั ซบั ซอ้ นมากมาย ยอดเขาคอ้ มีความสูงประมาณ 1,174 เมตร เหนือระดบั น้าทะเล เขายา่ สูง 1,290 เมตรและเขาใหญ่ สูง 865 เมตร นอกจากน้นั ยงั มีเขาตะเคียนโง๊ะ เขาหินต้งั บาตร เขาหว้ ยทรายและเขาอุม้ แพ ลกั ษณะ ป่ าไมใ้ นแถบน้ีเป็นป่ าเตง็ รังหรือป่ าไมส้ ลดั ใบ ป่ าสน และป่ าดิบ ท่ีน่าสนใจกค็ ือ พนั ธุ์ ไมต้ ระกลู ปาลม์ ลกั ษณะคลา้ ยตน้ ตาล แต่ออกผลเป็นทะลายคลา้ ยหมาก แมป้ ัจจุบนั ป่ า จะถูกถางไปมากกต็ าม แต่กย็ งั มีใหเ้ ห็นอยบู่ า้ ง จุดท่องเท่ียวที่น่าสนใจบริเวณเขาคอ้ มี หลายแห่งโดยเฉพาะที่เก่ียวกบั ประวตั ิศาสตร์การสูร้ บกบั คอมมิวนิสต์ ไดแ้ ก่ อนุสาวรียจ์ ีนฮ่อ พพิ ิธภณั ฑอ์ าวธุ อนุสรณ์สถานผเู้ สียสละเขาคอ้ นอกจากน้ียงั มีพระ บรมธาตุเจดีย์ ตาหนกั เขาคอ้ น้าตก และรีสอร์ทที่สวยงามน่าพกั มากมาย
การเดนิ ทาง ทส่ี ะดวกมี 2 เส้นทาง คอื ... เสน้ ทางท่ี 1. จากเพชรบรู ณ์ไปเขาคอ้ ใชท้ างหลวงหมายเลข 21 เสน้ เพชรบรู ณ์- หล่มสกั ถึงสามแยกนางวั่ ระยะทางประมาณ 13 กิโลเมตร เล้ียวซา้ ยไปตามทางหลวง หมายเลข 2258 อีก 30 กิโลเมตร เสน้ ทางที่ 2 จากทางหลวงหมายเลข 12 เสน้ พิษณุโลก-หล่มสกั บริเวณหลกั กิโลเมตรที่ 100 บา้ นแคมป์ สน เล้ียวเขา้ เขาคอ้ ตามทางหลวงหมายเลข 2196 อีก ประมาณ 33 กิโลเมตร เสน้ ทางน้ีจะผา่ นที่พกั รีสอร์ทหลายแห่ง หมายเหตุ : พาหนะที่จะข้ึนเขาคอ้ ไม่ควรใชร้ ถบสั ขนาดใหญ่ เพราะมีทางโคง้ มาก ถนนค่อนขา้ งแคบและลาดชนั ควรใชร้ ถปิ คอพั หรือรถตสู้ ภาพดี และควรขบั ขี่ ดว้ ยความระมดั ระวงั นกั ท่องเท่ียวที่เดินทางโดยรถประจาทางสามารถติดต่อรถสอง แถวข้ึน เขาคอ้ ไดท้ ี่ บริษทั เขาคอ้ เดินรถ จากดั โทร. 08 1886 1811 ราคาเช่าเหมา ประมาณ 1,000-1,500 บาท โดยมีคิวรถอยทู่ ่ีบริเวณแคม้ ป์ สน กม.100 และท่ีบา้ นนางวั่ พระตาหนักเขาค้อ
ต้งั อยบู่ นเขายา่ สร้างข้ึนเพื่อนอ้ มเกลา้ ฯ ถวายแด่องคส์ มเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ใน วโรกาสที่เสดจ็ พระราชดาเนินทอดพระเนตรงานโครงการในพระราชดาริและทรง ตรวจ เยยี่ มราษฎรอาเภอเขาคอ้ และอาเภอใกลเ้ คียง เป็นอาคารคอนกรีตคร่ึงวงกลมมี ท้งั หมด 15 หอ้ ง รูปทรงแปลกตาไปจากพระตาหนกั อ่ืน สามารถขออนุญาตเจา้ หนา้ ที่ เขา้ ชมบริเวณโดยรอบพระตาหนกั ได้ บริเวณใกลก้ นั มีบา้ นพกั ทหารมา้ ซ่ึงเปิ ดให้ นกั ท่องเท่ียวพกั คา้ งแรมได้ มีร้านคา้ สวสั ดิการต้งั อยู่ นอกจากน้ียงั มีเสน้ ทางเดินข้ึน ยอดเขายา่ ซ่ึงสามารถมองเห็นทิวทศั นเ์ ขา คอ้ โดยรอบไดส้ วยงาม การเดินทาง จากส่ีแยกสะเดาพงษ์ ใชเ้ สน้ ทางหมายเลข 2258 ทางไปหนองแม่นา ตรงไปประมาณ 1 กิโลเมตร จะพบสามแยกใหเ้ ล้ียวซา้ ย ไปประมาณ 1 กิโลเมตร เสน้ ทางชนั มาก ควรขบั รถอยา่ งระมดั ระวงั วดั มหาธาตุ ต้งั อยบู่ นถนนนิกรบารุง ในเขตเทศบาลเมืองเพชรบรู ณ์ เป็นวดั เก่าแก่ ค่บู า้ นคเู่ มืองเพชรบูรณ์ มีพระเจดียท์ รงพุม่ ขา้ วบิณฑแ์ บบสุโขทยั สูงประมาณ 3 วา สมเดจ็ กรมพระยาดารงราชานุภาพ ทรงสนั นิษฐานวา่ สร้างมาต้งั แต่สมยั กรุงสุโขทยั ภายในพระอุโบสถประดิษฐานพระพุทธรูปหลวงพอ่ งาม ภายในวหิ ารประดิษฐาน
พระพทุ ธรูปหลวงพอ่ เพชร วดั วเิ ชียรบารุง วดั วิเชียรบารุง ต้งั อยทู่ ี่ตาบลท่าโรง ใชเ้ สน้ ทางหลวงหมายเลข 21 และมีทางแยก เขา้ ตวั อาเภออีก 7 กิโลเมตร มีทางแยกซา้ ยขา้ งที่วา่ การอาเภอไปอีก 200 เมตร ภายใน บริเวณวดั มองเห็นพระนอนสีทององคใ์ หญ่อยกู่ ลางแจง้ นามวา่ พระพทุ ธไสยาสน์ วิเชียรบุรีศรีรัตนม่ิงมงคล มีความยาวประมาณ 50เมตร สูง 5 เมตร หนั พระพกั ตร์ไป ทางทิศตะวนั ออก องคพ์ ระหล่อดว้ ยปูนทาสีทอง ภายในองคพ์ ระเป็นท่ีบรรจุพระบรม สารีริกธาตุส่วนพระรากขวญั (ไหปลาร้า) ดา้ นหลงั องคพ์ ระมีพระบรมราชานุสาวรีย์ ของสมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช พระสุพรรณกลั ยาและสมเดจ็ พระเอกาทศรถ นอกจากน้ียงั มีเรือมาด (เรือขดุ ที่มีประทุน) ท่ีขดุ แต่งจากไมต้ ะเคียนท้งั ตน้ อายใุ นราว สมยั อยธุ ยา ที่พบในแมน่ ้าป่ าสกั อาเภอวเิ ชียรบุรีต้งั แสดงอยทู่ ี่วดั น้ี
ศาลสมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช ศาลสมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช ต้งั อยทู่ ่ีตาบลท่าโรง ห่างจากแยกทางหลวง หมายเลข 21 ตามเสน้ ทางเขา้ ตวั อาเภอวิเชียรบรุ ีเป็นระยะทางประมาณ 8กิโลเมตร เป็น สถานที่ประดิษฐานพระบรมรูปของสมเดจ็ พระนเรศวรมหาราชซ่ึงชาวอาเภอ วิเชียร บุรีร่วมใจกนั ก่อสร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์เมื่อคร้งั ที่เสดจ็ ยกกองทพั ไปตีทพั เขมรที่เมือง วิเชียรบุรีแห่งน้ี พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั และสมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชินีนาถไดเ้ สดจ็ มาทาพิธีบวงสรวงดวงพระวิญญาณ เม่ือวนั ที่ 25 กรกฎาคม 2518 ทางอาเภอจดั งานเฉลิมฉลองศาลสมเดจ็ พระนเรศวรมหาราชข้ึนในวนั กองทพั ไทย ราวเดือนมกราคมของทุกปี อุทยานแห่งชาตทิ ุ่งแสลงหลวง (หนองแม่นา) ต้งั อยทู่ ี่ตาบลหนองแม่นา อาเภอเขาคอ้ จงั หวดั เพชรบรู ณ์ และอยหู่ ่างจากท่ีทา การอุทยานฯ ดา้ นจงั หวดั พิษณุโลกประมาณ 6 กิโลเมตร จุดทอ่ งเที่ยวหลกั ของอุทยาน แห่งชาติทงุ่ แสลงหลวงดา้ นจงั หวดั เพชรบรู ณ์ คือ ป่ าสนธรรมชาติ และทุ่งหญา้ สะวนั นา ซ่ึงมีทิวทศั นแ์ ละพรรณไมด้ อกท่ีงดงามโดยเฉพาะช่วงปลายฤดูฝนถึงฤดูหนาว เหมาะแก่กิจกรรมเดินป่ า กางเตน็ ทพ์ กั แรม และป่ันจกั รยานเสือภเู ขา
สถานท่นี ่าสนใจในเขตอทุ ยานฯ ได้แก่ ... ทุ่งแสลงหลวง เป็นทุ่งหญา้ แบบสะวนั นา และทุ่งหญา้ สลบั กบั ป่ าสนสองใบ ดา้ นหนา้ ท่ีทาการหน่วยพิทกั ษอ์ ุทยานฯ มองเห็นเป็นพ้นื ท่ีโล่งกวา้ งใหญ่ เน้ือท่ี ประมาณ ตารางกิโลเมตร ตามเสน้ ทางจะตดั ผา่ นป่ าเบญจพรรณจะพบสตั วป์ ่ าออกมา หากินตามขา้ งทาง และมีพนั ธุ์ไมด้ อกมากมาย ทุ่งนางพญา อยู่ ทางทิศใตข้ องท่ีทาการหน่วยพิทกั ษอ์ ุทยานฯ หนองแม่นา ประมาณ 4 กิโลเมตร เป็นทุ่งหญา้ ท่ีแวดลอ้ มดว้ ยป่ าสนสองใบสลบั กบั ป่ าดิบแลง้ และ ป่ าเตง็ รงั ตามกิ่งสนจะพบกลว้ ยไมป้ ่ าท่ีสวยงาม เช่น เอ้ืองชะนีและเอ้ืองคาปากไก่ ซ่ึง ออกดอกในฤดูร้อน บริเวณป่ าสนมีพ้ืนท่ีสาหรบั กางเตน็ ทพ์ กั แรม ในช่วงปลายฝนตน้ หนาว จะมีสายหมอกลอยออ้ ยอิ่งปกคลุมไปทว่ั บริเวณ แก่งวงั นา้ เยน็ ห่าง จากที่หน่วยพิทกั ษอ์ ุทยานฯ หนองแม่นาประมาณ 7 กิโลเมตร เสน้ ทางเดียวกบั ทุ่งโนนสน และแยกเขา้ ไปอีก 500 เมตร ระหวา่ งเสน้ ทาง
เดินสภาพป่ าจะค่อย ๆ เปลี่ยนไปจากทุ่งหญา้ สู่ป่ าเตง็ รังสลบั ดว้ ยป่ าสนและป่ าเบญจ พรรณ แก่งวงั น้าเยน็ เป็นแก่งหินขนาดใหญ่ยาวหลายร้อยเมตร ในระหวา่ งแก่งแต่ละ แก่งเป็นวงั น้าลึกขนาดใหญ่ ซ่ึงเป็นสถานท่ีคน้ พบแมงกะพรุนน้าจืด และมีผเี ส้ือใหช้ ม เช่น ผเี ส้ือถงุ ทองป่ าสูง ผเี ส้ือหนอนคืบสไบแดง นอกจากน้ี บริเวณป่ าริมลาธารมี โอกาสพบนกมากมายหลายชนิด ทุ่งโนนสน เป็น ทุ่งหญา้ แบบสะวนั นาสลบั กบั ป่ าสนเขา ต้งั อยใู่ จกลางอุทยานฯ บนยอดเขาโคกสน ในช่วงปลายฝนตน้ หนาวจะมีดอกไมห้ ลายชนิดผลดั ใบ เช่น ดอกดุ สิตา เอ้ืองมา้ วงิ่ กระดุมเงิน ยโ่ี ถปี นงั หมอ้ ขา้ วหมอ้ แกงลิง ทงุ่ โนนสนห่างจากท่ีทาการ หน่วยพิทกั ษอ์ ุทยานฯ หนองแมน่ าประมาณ 32 กิโลเมตร สามารถเดินทางโดยรถ ทอ้ งถ่ินจากหน่วยพิทกั ษอ์ ุทยานฯ ประมาณ 7 กิโลเมตร แลว้ เดินเทา้ เขา้ ไปอีก 5 กิโลเมตร เหมาะแก่การเดินป่ ากางเตน็ ทพ์ กั แรม ใชเ้ วลาท่องเท่ียวรวม 3 วนั 2 คืน อตั ราค่าเขา้ อุทยานฯ นกั ท่องเท่ียว ชาวไทย ผใู้ หญ่ 40 บาท เดก็ 20 บาท ชาว ต่างประเทศ ผใู้ หญ่ 400 บาท เดก็ 200 บาท สถานที่พกั บริเวณหน่วยพิทกั ษอ์ ุทยาน สล.8 (หนองแม่นา) มีบริการบา้ นพกั ไว้ สาหรับนกั ท่องเท่ียว จานวน 7 หลงั ราคา 2,000 – 5,000 บาท เตน็ ทใ์ หเ้ ช่า ราคา 200- 600 บาท สอบถามขอ้ มลู เพ่ิมเติมไดท้ ่ี อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ตู้ ปณ. 64 อาเภอ เมือง จงั หวดั พิษณุโลก 65200 โทร. 0 5526 8019 หรือสานกั อุทยานแห่งชาติ กรม อุทยานแห่งชาติสตั วป์ ่ าและพนั ธุพ์ ืช กรุงเทพฯ โทร.0 2562 0760 หรือ www.dnp.go.th
การเดินทาง สามารถใชเ้ สน้ ทางได้ 2 เสน้ ทาง คือ เสน้ ทางแรก จากจงั หวดั เพชรบูรณ์ใชเ้ สน้ ทางหลวงหมายเลข 2 ไป ทางอาเภอหล่มสกั ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ถึงบา้ นนางว่ั แลว้ เล้ียวซา้ ย ตามเสน้ ทางหลวงหมายเลข 2258 ข้ึนเขาคอ้ ผา่ นสี่ แยกบา้ นสะเดาพงษผ์ า่ นพระตาหนกั เขาคอ้ ตรงไปจนถึงบา้ นทานตะวนั เล้ียวขวาไปอีก ประมาณ 4 กิโลเมตรจะถึงหน่วยพิทกั ษอ์ ุทยาน สล.8 (หนองแมน่ า) เสน้ ท่ีสองจาก จงั หวดั พิษณุโลกใชเ้ สน้ ทางหลวงหมายเลข 2 เสน้ พิษณุโลก-หล่มสกั ประมาณ กิโลเมตร เล้ียวขวาเขา้ สู่เขาคอ้ ผา่ นหนา้ อาเภอเขาคอ้ ถึงสี่แยกบา้ นสะเดาพงษแ์ ลว้ เล้ียว ขวาเขา้ ทางหลวงหมายเลข 2258 ผา่ นพระตาหนกั เขาคอ้ ตรงไปบา้ นทานตะวนั เล้ียว ขวาไปอีกประมาณ 4 กิโลเมตร จะถึงหน่วยพิทกั ษอ์ ุทยาน สล. 8 (หนองแมน่ า) ส่วนการเดินทางโดยรถประจาทาง สามารถโดยสารรถประจาทางมาลงท่ีจงั หวดั เพชรบูรณ์ และต่อรถสองแถวรับจา้ งมายงั หน่วยพิทกั ษอ์ ุทยาน สล. 8 (หนองแ ม่นา) คา่ เหมารถประมาณ 700 บาท ในช่วงหนา้ หนาวซ่ึงเป็นฤดูกาลท่องเท่ียวทุ่งแสลงหลวง สามารถแจง้ ใหท้ างอุทยานฯติดต่อรถทอ้ งถ่ินและลกู หาบได้ แก่งบางระจนั ต้งั อยทู่ ี่หมู่ 6 บา้ นหนองแม่นา เป็นแหล่งท่องเท่ียวท่องเที่ยวเชิงนิเวศในแหล่ง ธรรมชาติ ซ่ึงมีกิจกรรมพายเรือท่องป่ า ตามหาแมงกะพรุนน้าจืด ในช่วงหนา้ แลง้ ราว
เดือนมีนาคมถึงพฤษภาคมทุกปี โดยมีกลุ่มชุมชนทอ้ งถิ่นเป็นผบู้ ริหารจดั การกิจกรรม ท่องเท่ียวในบริเวณน้ี กิจกรรมการท่องเที่ยว มีใหเ้ ลือกหลายแบบ ท้งั แบบคา้ งแรมในป่ า 2 วนั 1 คืน หรือแบบเชา้ ไปเยน็ กลบั นอกจากน้ี ยงั สามารถทากิจกรรมระยะส้นั โดยนง่ั เรือเรือแจว จากแก่งบางระจนั ไปยงั แก่งสอง ไปกลบั ใชเ้ วลาประมาณ 1 - 2 ชว่ั โมง นกั ท่องเท่ียวจะ ไดส้ มั ผสั ความสวยงามเงียบสงบของป่ าตน้ น้าเขก็ ซ่ึงอยรู่ ะหวา่ งพ้ืนที่รอยต่อจงั หวดั พิษณุโลกและเพชรบูรณ์ โดยการนงั่ เรือแจวหรือเรืออีโปงของชาวบา้ นที่ใชส้ ญั จรหรือ ทามาหากินในอดีต ถึงปัจจุบนั เร่ิมจากแก่งบางระจนั เป็นจุดแรกล่องเรือไปตามลาน้า เขก็ ที่ไหลเยน็ แต่ไม่ เช่ียวกราก ซ่ึงถือเป็นแม่น้าบนภูเขาที่ไหลนิ่งและมีน้าอยใู่ นระดบั สม่าเสมอตลอดปี โดยจะมีน้ามากและไหลแรงในช่วงฤดูฝนเทา่ น้นั ระหวา่ งทางมีจุดสาคญั ท่ีพลาดไม่ไดค้ ือ การชมแมงกะพรุนนา้ จดื (Freshwater Jellyfish) ทพี่ บในประเทศไทยเป็ นประเทศที่ 5 ของโลก หลงั จากที่พบที่ สหรัฐอเมริกา รัสเซีย องั กฤษ และญี่ป่ ุน สายพนั ธุท์ ่ีพบคือ Crasapedacusta Sowerbyi แมงกะพรุนจะปรากฏตวั ใหเ้ ห็นในช่วงกลางวนั แดดจดั ต้งั แต่เวลา 10.00-16.00 น. นอกจากน้ี บริเวณแก่งสองยงั มีผเี ส้ือพนั ธุห์ ายากหลายพนั ธุ์ อาทิ ไกเซอร์ดา ผเี สือ จนั ทรา เหลืองหนานแฟ้ นฉาน ถงุ ทองป่ าสูง จรกา หนอนกะหล่า เหลืองหนามใหญ่ โคนปี กดา สะพายฟ้ า หางติ่งปารีส หางดาบ หางพลิ้ว แผนท่ี หนอนจาปี ฯลฯ ซ่ึงผเี ส้ือ มกั จะออกมาใหเ้ ห็นในช่วงที่มีแดดจดั เวลา 09.00-14.00 น.
การเดินทาง จากจงั หวดั เพชรบูรณ์ ใชท้ างหลวงหมายเลข 21 (หล่มสกั -สระบุรี) ไปทาง อ.หล่มสกั เม่ือถึงส่ีแยกบา้ นนางวั่ (ประมาณ กม.ท่ี 238) จะพบทางแยกอยดู่ า้ น ซา้ ยมือเป็นทางข้ึนสู่อาเภอเขาคอ้ เป็นทางหลวงหมายเลข 2258 ผา่ นทางแยกบา้ น สะเดาะพงษไ์ ปหนองแม่นา ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร จะพบท่ีทาการกลุ่มฯ อยู่ ใกลก้ บั หน่วยพิทกั ษอ์ ทุ ยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวงหน่วยหนองแม่นา ซ่ึงบริเวณหน่วย พิทกั ษม์ ีท่ีกางเตน๊ ทพ์ กั แรม บา้ นพกั และร้านอาหารมีบริการท่ีบริเวณหมู่บา้ น ทานตะวนั นกั ท่องเที่ยวท่ีสนใจสามารถสอบถามรายละเอียดไดท้ ่ี กลุ่มชุมชนคนรักป่ า หนองแม่นา-ทานตะวนั คุณสมพงษ์ ตุม้ คา โทร. 08 1046 2166 คุณอดิศกั ด์ิ ฟ้ อน ประเสริฐ โทร. 08 4813 7638 คุณมานะ มีสุข โทร. 08 7198 6488 วดั ช้างเผอื ก ต้งั อยทู่ ี่ตาบลวงั ชมภู ก่อนถึงตวั เมืองเพชรบรู ณ์ประมาณ 24 กิโลเมตร บริเวณ ปากทางเขา้ วดั จะเห็นรูปป้ันชา้ งเผอื กเป็นสญั ลกั ษณ์ ภายในวดั เกบ็ รกั ษาสรีระท่ีไม่เน่า เป่ื อยของพระครูพชั ราจารย์ หรือหลวงพ่อทบ บรรจุศพอยใู่ นโลงแกว้ เป็นท่ีเคารพ สกั การะของชาวจงั หวดั เพชรบรู ณแ์ ละผทู้ ี่เดินทางผา่ นไปมา ตามประวตั ิเล่าวา่ หลวง
พอ่ ทบไดศ้ ึกษาวิชาอาคมมาจากเขมร จนเป็นที่เลื่องลือทางดา้ นเครื่องรางของขลงั โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ ช่ือเสียงในดา้ นแคลว้ คลาดจากภยนั ตราย อยยู่ งคงกะพนั ในเดือน มีนาคมจะมีการจดั งานประจาปี ครบรอบวนั มรณภาพของหลวงพอ่ ทบเป็นประจาทุก ปี นอกจากน้ี บริเวณลานกลางแจง้ ยงั มีรูปป้ันหลวงพอ่ ทบใหส้ กั การะบูชา และซาก โบสถเ์ ก่าแก่สมยั อยธุ ยา อายกุ วา่ 300 ปี การเดินทาง จากตวั เมืองเพชรบูรณ์ใชเ้ สน้ ทางหลวงหมายเลข 21 ลงมาทางทิศใต้ ถึงสามแยกวงั ชมพเู ล้ียวซา้ ยไปตามเสน้ ทางอาเภอหนองไผ่ อยรู่ ะหวา่ งกิโลเมตรที่ 118 ก่อนถึงสามแยกบา้ นนายม ซา้ ยมือจะมีป้ ายบอกทางเขา้ วดั ไปอีกประมาณ 700 เมตร หอวฒั นธรรมนครบาลเพชรบูรณ์ ต้งั อยตู่ รงขา้ มกบั ศาลหลกั เมืองเพชรบรู ณ์ หอวฒั นธรรมแห่งน้ีสร้างข้ึนเมื่อปี พ.ศ.2546 เพ่ือเป็นอนุสรณ์ \"นครบาลเพชรบูรณ์\" เน่ืองจากในระหวา่ ง พ.ศ.2486-2488 จอมพล ป.พิบูลสงครามไดอ้ อกพระราชกาหนดเพอ่ื ยา้ ยเมืองหลวงมาอยทู่ ่ี เพชรบรู ณ์ โดยใช้ ชื่อวา่ \"นครบาลเพชรบรู ณ์\" ดา้ นนอกอาคารจะมีรูปป้ันฝักมะขามยกั ษส์ ีทอง โดดเด่นเป็นสญั ลกั ษณ์ ภายในตวั อาคารเป็นหอประชุมขนาดใหญ่ และมีการจดั แสดง ภาพถา่ ยและโบราณวตั ถุที่เกี่ยวกบั ความเป็นมา ประวตั ิศาสตร์ ประเพณี และ
ศิลปวฒั นธรรมของจงั หวดั เพชรบูรณ์ อุทยานแห่งชาตติ าดหมอก ต้งั อยหู่ ่างจากตวั เมืองเพชรบรู ณ์ไปทางตะวนั ออก 37 กิโลเมตร มีพ้ืนที่ท้งั สิ้น ประมาณ 290 ตารางกิโลเมตร ประกอบดว้ ยผนื ป่ าอุดมสมบูรณ์บนเทือกเขาสูง สลบั ซบั ซอ้ น เป็นแหล่งตน้ น้าที่สาคญั ของลาน้าป่ าสกั และลาน้าชีและเป็นพ้นื ที่ป่ ากนั ชน ใหก้ บั ผนื ป่ าสามแห่ง คือ อุทยานแห่งชาติน้าหนาว เขตรักษาพนั ธุ์สตั วป์ ่ าภเู ขียว และเขตรักษาพนั ธุ์สตั วป์ ่ าตะเบาะ-หว้ ยใหญ่ ประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติเม่ือ พ.ศ. 2541 จดั เป็นอุทยานฯ ลาดบั ที่ 87 ของประเทศ ภายในบริเวณมีจุดทอ่ งเที่ยวท่ีน่าสนใจ ไดแ้ ก่ … จุดชมววิ บริเวณกิโลเมตร 3 มองเห็นทิวทศั น์ตวั เมืองเพชรบรู ณ์เบ้ืองลา่ ง และ เป็นจุดชมพระอาทิตยต์ ก นา้ ตกตาดหมอก อยหู่ ่างจากที่ทาการอุทยานฯ 7 กิโลเมตร ตามทางรถยนตแ์ ละ เดินเทา้ อีก 1,800 เมตร ตามทางเดินเลียบธารลาธาร ช่วงสุดทา้ ยของทางเดินเป็นทาง ข้ึนเขาชนั เป็นน้าตกขนาดใหญ่ช้นั เดียวไหลลงมาจากหนา้ ผาสูงเด่น มีความสูง 750 เมตร สภาพป่ าโดยรอบเป็นป่ าสมบูรณ์เตม็ ไปดว้ ยตน้ ไมใ้ หญ่นานาชนิด สายน้าท่ีไหล
จากตาด (หนา้ ผา) สูง กระทบสู่พ้ืนลา่ งกลายเป็นละอองน้า เป็นที่มาของ ช่ือ \"น้าตก ตาดหมอก\" ระหวา่ งทางเดินพบพรรณไมท้ ่ีน่าสนใจ นา้ ตกสองนาง อยหู่ ่างจากลานจอดรถตามเสน้ ทางเดินเทา้ ทางเดียวกบั น้าตกตาด หมอก เป็นระยะทาง 2,000 เมตร เป็นน้าตกขนาดใหญ่ท่ีน่าชมอีกแห่งหน่ึง มีความสูง ท้งั หมด 12 ช้นั นกั ท่องเท่ียวสามารถเดินข้ึนไปชมน้าตกไดท้ ุกช้นั ภายในหน่ึงวนั แต่ ละช้นั มีความสูงระหวา่ ง 5–100 เมตร อตั ราคา่ เขา้ อุทยานฯ นกั ท่องเท่ียว ชาวไทย ผใู้ หญ่ 20 บาท เดก็ 10 บาท ชาวตา่ งชาติ ผใู้ หญ่ 100 บาท เดก็ 50 บาทสถานท่ีพกั และบริการอ่ืน ๆ อุทยานฯ มี บริการบา้ นพกั ไวส้ าหรับนกั ท่องเที่ยว จานวน 3 หลงั พกั หลงั ละได้ 5 คน ราคาหลงั ละ 1,000 บาท และมีเตน็ ทใ์ หเ้ ช่าพกั แรม พกั ได้ 2-6 คน ราคา 200–600 บาท สอบถาม ขอ้ มลู เพ่ิมเติมไดท้ ่ี อุทยานแห่งชาติตาดหมอก ตู้ ป.ณ.4 อาเภอเมือง จงั หวดั เพชรบูรณ์ 67000 โทร. 08 9703 8855 หรือท่ี สานกั อุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติสตั วป์ ่ า และพนั ธุ์พืช กรุงเทพฯโทร. 0 2562 0760 หรือ www.dnp.go.th การเดินทาง จากศาลากลางจงั หวดั เพชรบูรณ์ไปทางทิศตะวนั ออกตามทางหลวง จงั หวดั หมายเลข 2271 ถึงบา้ นเฉลียงลบั ระยะทาง 12 กิโลเมตร ถึงสามแยกเล้ียวขวาไป ทางบา้ นน้าร้อน ตามทางหลวงจงั หวดั หมายเลข 2275 ประมาณ 200 เมตร เล้ียวซา้ ยข้ึน อุทยานแห่งชาติตาดหมอก ตามเสน้ ทาง รพช. (บา้ นเฉลียงลบั - ตาดหมอก) ระยะทาง 12 กิโลเมตร ถึงศนู ยบ์ ริการนกั ท่องเที่ยว เดินทางตอ่ อีก 7 กิโลเมตร ถึงลานจอดรถ ทางลาดยางตลอดสาย บางช่วงข้ึนเขาสูงชนั จากน้นั เดินเทา้ ตามทางเลียบลาหว้ ยอีก 2 กิโลเมตร เพื่อชมความงามน้าตกตาดหมอก และน้าตกสองนาง
อทุ ยานประวตั ศิ าสตร์ศรีเทพ เป็นโบราณสถานสาคญั ท่ีน่าสนใจศึกษาหาความรู้มากท่ีสุดแห่งหน่ึงของ เพชรบรู ณ์ ไดร้ ับรางวลั Thailand Tourism Award ประจาปี 2543 ประเภทแหล่ง ท่องเท่ียวทางวฒั นธรรมโบราณสถานยอดเยยี่ ม อุทยานฯมีพ้ืนท่ีครอบคลุม โบราณสถานในเมืองเก่าศรีเทพ ซ่ึงมีชื่อเดิมวา่ \"เมืองอภยั สาลี\" สร้างข้ึนในยคุ ขอม เรืองอานาจ มีอายไุ ม่ต่ากวา่ 1,000 ปี เมืองโบราณศรีเทพมีคูน้าและคนั ดินลอ้ มรอบ พ้ืนที่ท้งั หมดประมาณ 2,889 ไร่ แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ เมืองส่วนใน มีพ้นื ท่ี 1,300 ไร่ มีลกั ษณะเป็นรูปเกือบกลม ขนาดเสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลางประมาณ 1.5 กิโลเมตร มีช่อง ทางเขา้ ออก 6 ช่องทาง พ้ืนท่ีภายในเป็นที่ราบลอนคลื่น มีสระน้า หนองน้ากระจายอยู่ ทวั่ ไป พบซากโบราณสถานกวา่ 70 แห่ง บางแห่งไดร้ ับการขดุ แต่งบรู ณะแลว้ และ เมืองส่วนนอก มีพ้ืนที่ 1,589 ไร่ มีลกั ษณะเป็นรูปส่ีเหลี่ยมผนื ผา้ ต่อกบั เมืองส่วนใน ขนาดเป็น 2 เท่าของเมืองส่วนใน มีช่องทางเขา้ ออก 6 ช่องทาง มีสระน้ากระจายอยู่ ทวั่ ไป และพบโบราณสถานกระจายอยแู่ บบเดียวกนั โบราณสถานและสถานท่ีสาคญั ในอทุ ยานฯ สาหรับเส้นทางการท่องเท่ยี ว และการศึกษาภายในเขตอทุ ยานฯ ได้เรียงลาดบั ให้
ง่ายต่อการเดนิ ชม ดงั นี…้ . ศูนย์บริการข้อมูล เป็นอาคารจดั แสดงโบราณสถาน และนิทรรศการเก่ียวกบั ประวตั ิศาสตร์และโบราณคดีของเมืองโบราณศรีเทพ ภายในประกอบดว้ ยหอ้ งประชุม หรือบรรยายสรุปก่อนการเขา้ ชมนิทรรศการ อาคารหลมุ ขดุ ค้นทางโบราณคดี เป็นอาคารจดั แสดงโครงกระดูกมนุษยแ์ ละ โครงกระดูกชา้ งที่ไดจ้ ากการขดุ คน้ ทางโบราณคดี เม่ือปี พ.ศ. 2531 ปรางค์สองพน่ี ้อง ลกั ษณะเป็นปรางค์ 2 องค์ ต้งั อยบู่ นฐานศิลาแลงขนาดใหญ่ หนั หนา้ ไปทางทิศตะวนั ตก มีประตทู างเขา้ ทางเดียว จากการขดุ แต่งทางโบราณคดี พบ ทบั หลงั ท่ีมีจาหลกั เป็นรูปพระอิศวรอุม้ นางปารพตีประทบั นง่ั อยเู่ หนือ โคอศุภราช ลกั ษณะของทบั หลงั และเสาประดบั กรอบประตูเป็นส่ิงกาหนดอายขุ องปรางค์ โดยอยู่ ในราวพุทธศตวรรษท่ี 16-17 เป็นศิลปะขอมแบบบาปวนต่อนครวดั และมีการสร้าง
ปรางคอ์ งคเ์ ลก็ เพิ่ม โดยพบร่องรอยการสร้างทบั บนกาแพงแกว้ ที่ลอ้ มรอบปรางคอ์ งค์ ใหญ่ และยงั มีการก่อปิ ดทางข้ึนโดยเสริมทางดา้ นหนา้ ใหย้ น่ื ออกมา และก่อสร้าง อาคารขนาดเลก็ ทางทิศเหนือเพิ่มข้ึน ปรางค์ศรีเทพ เป็นสถาปัตยกรรมแบบศิลปะเขมรหนั หนา้ ไปทางทิศตะวนั ตก สร้างดว้ ยอิฐและศิลาแลง ฐานล่างก่อดว้ ยศิลาแลงเป็นฐานบวั ลูกฟักแบบเดียวกบั สถาปัตยกรรมเขมรทว่ั ไป เรือนธาตุก่อดว้ ยอิฐ ในการขดุ คน้ บริเวณน้ี พบชิ้นส่วนทบั หลงั รูปลายสลกั อายรุ าวพุทธศตวรรษที่ 16-17 ซ่ึงน่าจะเป็นการสร้างเพิ่มหลงั จาก โบราณสถานเขาคลงั ใน ต่อมาประมาณพุทธศตวรรษที่ 18 มีการพยายามจะปรับปรุง เปล่ียนแปลงใหมแ่ ต่ไม่สาเร็จ โดยสนั นิษฐานจากการคน้ พบชิ้นส่วนทิ้งกระจดั กระจาย ระหวา่ งปรางคส์ องพนี่ อ้ งและปรางคศ์ รีเทพมีกาแพงลอ้ มรอบและมีอาคารปะราพิธี ขนาดเลก็ กระจดั กระจายอยทู่ ว่ั ไป แสดงใหเ้ ห็นถึงลกั ษณะการวางผงั ในรูปของศาสน สถานศิลปะเขมรแบบเดียวกบั ท่ีพบ ในภาคอีสานของประเทศไทย
โบราณสถานเขาคลงั ใน ต้งั อยเู่ กือบก่ึงกลางเมือง สร้างประมาณพทุ ธศตวรรษที่ 11-12 ผงั เป็นรูปสี่เหลี่ยมผนื ผา้ หนั หนา้ ไปทางทิศตะวนั ออก ผงั เมืองและศิลปะการก่อสร้างมี ลกั ษณะคลา้ ยเมืองทวารวดีอ่ืน ๆ ไดแ้ ก่ นครปฐม และเมืองโบราณคบู วั มีการใชศ้ ิลา แลงเป็นวสั ดุหลกั ในการก่อสร้าง ท่ีฐานมีรูปปนู ป้ันบุคคลและสตั วป์ ระดบั เป็นศิลปะ แบบทวารวดี เชื่อกนั วา่ เป็นท่ีเกบ็ อาวธุ และทรพั ยส์ มบตั ิจึงเรียกวา่ \"เขาคลงั \" ศาลเจ้าพ่อศรีเทพ อยบู่ ริเวณดา้ นในประตูแสนงอน (ประตดู า้ นทิศตะวนั ตก) ศาลเจา้ พอ่ ศรีเทพเป็นศาลที่เคารพสกั การะของชาวบา้ นทวั่ ไป โดยทุกปี จะมีงาน บวงสรวง ในราวเดือนกมุ ภาพนั ธ์ วนั ข้ึน 2-3 ค่า เดือน 3 นอกจากโบราณสถานดงั กล่าวขา้ งตน้ แลว้ ยงั มีโบราณสถานยอ่ ย ๆ กระจดั กระจายอยทู่ ว่ั ไป ทิศใตข้ องเขาคลงั ในพบโบสถก์ ่อดว้ ยศิลาแลง มีการพบใบเสมาหิน บริเวณใกลห้ ลุมขดุ คน้ และพบโบราณสถานรูปสี่เหลี่ยมจตั ุรัสสมยั ทวารวดี ซ่ึงไดม้ ี การก่อสร้างทบั ในระยะท่ีรับเอาศาสนาพราหมณ์เขา้ มา แสดงใหเ้ ห็นวา่ บริเวณเมือง ช้นั ในเดิมน่าจะเป็นเมืองแบบทวารวดี และมีการสร้างสถาปัตยกรรมเขมรในระยะหลงั เพิ่มข้ึน นอกจากน้ี ทางทิศใตย้ งั พบอาคารมณฑปแบบทวารวดีขนาดใหญ่ และมีการ เปล่ียนแปลงใหเ้ ป็นเทวาลยั ประมาณตน้ ศตวรรษท่ี 18 แต่ยงั ไม่สาเร็จ เช่นเดียวกบั ปรางคศ์ รีเทพ นอกจากน้ี ยงั พบสระน้าโบราณ เรียกวา่ สระแกว้ อยนู่ อกเมืองไปทาง ทิศเหนือ และยงั มี สระขวญั อยใู่ นบริเวณเมืองส่วนนอก ท้งั สองสระน้ีมีน้าขงั ตลอดปี เชื่อกนั วา่ เป็นน้าศกั ด์ิสิทธ์ิ และมีการนาไปประกอบพิธีถือน้าพิพฒั นส์ ตั ยาต้งั แต่สมยั โบราณมาจนถึงปัจจุบนั เวลาเปิ ด-ปิ ด : อทุ ยานประวตั ิศาสตร์ศรีเทพ เปิ ดใหเ้ ขา้ ชมทุกวนั เวลา 08.00–
16.30 น. อตั ราคา่ เขา้ ชมไดแ้ ก่ ชาวไทย 20 บาท ชาวต่างชาติ 100 บาท เดก็ เขา้ ชมฟรี รถยนตน์ าเขา้ อุทยาน คนั ละ 50 บาท สาหรับผทู้ ี่สนใจเขา้ ชมเป็นหมู่คณะและตอ้ งการ ติดต่อวทิ ยากรบรรยาย ติดต่อโดยตรงไดท้ ่ีอุทยานประวตั ิศาสตร์ศรีเทพ อาเภอศรีเทพ จงั หวดั เพชรบรู ณ์ 67170 โทร. 0 5692 1322, 0 5692 1317 การเดินทาง เมืองศรีเทพอยหู่ ่างจากตวั เมืองเพชรบูรณ์ประมาณ 130 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 21 เสน้ สระบุรี-หล่มสกั ถึงหลกั กิโลเมตรที่ 102 แลว้ แยกเขา้ ทางหลวงหมายเลข 2211 ไปอีกประมาณ 9 กิโลเมตรจะเห็นป้ ายบอกทางเขา้ อุทยาน ประวตั ิศาสตร์ศรีเทพอยดู่ า้ นขวามือ รถโดยสารประจาทาง มีท้งั รถธรรมดาและรถ ปรับอากาศออกจากสถานีขนส่งหมอชิต กรุงเทพฯ มาลงที่ตลาดอาเภอศรีเทพ (บา้ น กลาง) แลว้ ต่อรถรับจา้ งเขา้ สู่อุทยานฯ
ภูทบั เบิก ต้งั อยทู่ ี่บา้ นทบั เบิก ตาบลวงั บาล ห่างจากอาเภอหล่มเก่า 40 กิโลเมตร ตาม เสน้ ทางจากหล่มเก่าไปภหู ินร่องกลา้ หรือห่างจากตวั จงั หวดั เพชรบรู ณ์ประมาณ 90 กิโลเมตร ภูทบั เบิกมีความสูงจากระดบั น้าทะเลประมาณ 1,768 เมตร เป็นจุดท่ีสูงท่ีสุด ของเพชรบรู ณ์ มีสภาพภมู ิประเทศที่สวยงามดว้ ยธรรมชาติแบบทะเลภเู ขา มีอากาศ บริสุทธ์ิ สภาพภมู ิอากาศเยน็ สบายตลอดปี เนื่องจากร่องลมเยน็ จากเทือกเขาหิมาลยั และอยบู่ นท่ีสูง จึงสามารถมองเห็นทิวทศั น์ไดก้ วา้ งไกล โดยช่วงเชา้ จะมองเห็นกลุ่ม เมฆ และทะเลหมอกตดั กบั ยอดเทือกเขาเพชรบูรณ์ นอกจากน้ี ภทู บั เบิกยงั เป็นสถานที่ ที่สาคญั ของจงั หวดั เพชรบูรณ์ คือเป็นจุดรองรับน้าฟ้ ากลางหาว (เมื่อวนั ท่ี 9 กนั ยายน
2542) เพื่อนาไปรวมเป็นน้าเพชรนอ้ มเกลา้ ถวายเป็นน้าพระพทุ ธมนตศ์ กั ด์ิสิทธ์ิ ใน พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ ในวนั ที่ 5 ธนั วาคม 2542 ปัจจุบนั ภูทบั เบิกเป็นที่ต้งั ของหมู่บา้ นชาวไทยภเู ขาเผา่ มง้ ซ่ึงไดอ้ พยพมาอาศยั อยทู่ ่ีบา้ นทบั เบิก หมู่ท่ี 14 และหมู่ที่ 16 โดยอยใู่ นความดูแลของศนู ยพ์ ฒั นาสงเคราะห์ ชาวเขาจงั หวดั เพชรบรู ณ์ ประกอบดว้ ยอาชีพทาการเกษตรแบบข้นั บนั ไดตามเชิงเขา ในช่วงปลายฝนตน้ หนาวจะพบเห็นไร่กะหล่าปลีอยสู่ องขา้ งถนนสู่ทบั เบิกสวยงาม ใน ราวเดือนธนั วาคม-มกราคม จะมีดอกซากรุ ะหรือนางพญาเสือโครงสีชมพบู านสะพร่ัง ไปท้งั ภเู ขา นอกจากน้ี ในยามค่าคืนยงั มองเห็นแสงไฟระยบิ ระยบั จากบา้ นเรือนในอาเภอ หล่มสกั ที่อยเู่ บ้ืองล่าง เปรียบไดก้ บั \"ดาวบนดิน\" จากสภาพดงั กล่าว ทาใหภ้ ูทบั เบิก เป็นแหล่งท่องเท่ียวที่น่าสนใจ และดึงดูดนกั ท่องเที่ยวท่ีนิยมสมั ผสั บรรยากาศท่ีหนาว เยน็ วิถีชีวิตชาวเขา และแหล่งธรรมชาติที่บริสุทธ์ิ ภายใตค้ ากล่าวที่วา่ \"นอนทบั เบกิ สัมผสั ความหนาว ดูดาวบนดนิ \" ส่ิงอานวยความสะดวก บริเวณหม่บู า้ นทบั เบิกและจุด ชมวิว มีบา้ นพกั เตน็ ท์ และร้านอาหารเปิ ดบริการแก่นกั ท่องเท่ียว
สาหรับนกั ท่องเที่ยวท่ีอยากจะสมั ผสั กบั ธรรมชาติอยา่ งใกลช้ ิดโดยการนอน เตน็ ท์ ที่ภูทบั เบิกกม็ ีลานกางเตน็ ทไ์ วร้ องรับนกั ท่องเท่ียวอยทู่ ี่บริเวณอาคารหอดู ดาว และท่ีวดั อุณหภูมิ จุดชมววิ ภูทบั เบิก ซ่ึงเป็นการบริการของวสิ าหกิจชุมชนท่องเท่ียวภู ทบั เบิก ค่าบารุงรักษาสถานที่หลงั ละ 50 บาท ไม่เสียค่าจอดรถ ถา้ ไมม่ ีเตน็ ทส์ ่วนตวั ทางวิสาหกิจชุมชนทอ่ งเที่ยวภูทบั เบิกกม็ ีบริการให้ เช่าเตน็ ท์ โดยจะไดร้ ับเตน็ ท์ 1 หลงั พกั ได้ 4 ท่าน พร้อมหมอน ผา้ ห่ม และเส่ือ ราคาหลงั ละ 700 บาท มีหอ้ งน้าหยอด เหรียญคร้ังละ 5 บาท เปิ ดใหบ้ ริการอยใู่ กลเ้ คยี งกบั พ้ืนท่ีกางเตน็ ท์ สอบถาม รายละเอียดเพ่ิมเติมไดท้ ี่วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวภทู บั เบิก โทร. 08 5733 9737 การเดินทาง สู่ภทู บั เบิกจากเพชรบูรณ์ ใชท้ างหลวงหมายเลข 21 ประมาณ 40 กิโลเมตร ถึงส่ีแยกหลม่ สกั ตรงไปตามทางหลวงหมายเลข 203 อีก 13 กิโลเมตร พบ ป้ ายบอกทางไปอุทยานแห่งชาติภหู ินร่องกลา้ ตามทางหลวง 2011 และทางหลวง หมายเลข 2331 อีก 40 กิโลเมตร ถึงด่านเกบ็ ค่าธรรมเนียมของอุทยานแห่งชาติภูหิน ร่องกลา้ จากตรงน้ีมีทางแยกขวาเขา้ หม่บู า้ นทบั เบิกไปอีก 6 กิโลเมตร เสน้ ทางจาก หล่มเก่ามาภทู บั เบิกจะสูงชนั และคดเค้ียวมาก รถบสั ไม่สามารถข้ึนได้ ผทู้ ่ีใชร้ ถยนต์ หรือรถตู้ ควรขบั รถดว้ ยความระมดั ระวงั อีกเสน้ ทางหน่ึงใชเ้ สน้ ทางดา้ นอาเภอนคร ไทย จงั หวดั พษิ ณุโลก ผา่ นอุทยานแห่งชาติภหู ินร่องกลา้ เลยท่ีทาการอุทยานฯมา ประมาณ 24 กิโลเมตร จะถึงภูทบั เบิก หากขบั รถต่อไปจะมาบรรจบกบั เสน้ ทางที่จะลง ไปยงั อาเภอหล่มเก่า
อทุ ยานแห่งชาตภิ ูหินร่องกล้า ต้งั อยบู่ นรอยตอ่ ของสามจงั หวดั คือ อาเภอหล่มสกั อาเภอหล่มเก่า จงั หวดั เพชรบูรณ์ อาเภอด่านซา้ ย จงั หวดั เลย และอาเภอนครไทย จงั หวดั พิษณุโลก มีเน้ือที่ ประมาณ 191,875 ไร่ ประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ เม่ือวนั ที่ 26 กรกฎาคม 2527 เป็น พ้ืนท่ีท่ีมีธรรมชาติแปลกตาและสวยงาม ท้งั ยงั เป็นสถานท่ีประวตั ิศาสตร์ เป็นยทุ ธภมู ิ สาคญั ในอดีตของพรรคคอมมิวนิสตแ์ ห่งประเทศไทย (พคท.) ภหู ินร่องกลา้ มีลกั ษณะภมู ิอากาศคลา้ ยกบั ภูเขาสูงของจงั หวดั เลย เช่น ภกู ระดึง และภเู รือ เนื่องจากมีความสูงในระดบั ไล่เล่ียกนั อากาศจะหนาวเยน็ เกือบตลอดปี โดยเฉพาะในฤดูหนาว อุณหภูมิจะต่าประมาณ 4 องศาเซลเซียส แมใ้ นฤดูร้อนอากาศก็ ยงั เยน็ สบาย อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปี ประมาณ 18-25 องศาเซลเซียส แหล่งท่องเท่ียวท่ี น่าสนใจในเขตอุทยานฯ มีท้งั ดา้ นประวตั ิศาสตร์และดา้ นธรรมชาติ ดงั น้ี ...
ด้านประวตั ศิ าสตร์ ได้แก่ พพิ ธิ ภณั ฑ์การสู้รบ เป็นที่ต้งั ของศนู ยบ์ ริการนกั ท่องเท่ียว ใกลก้ บั ท่ีทาการ อุทยานฯ จดั แสดงนิทรรศการเกี่ยวกบั การสูร้ บในอดีต มีสภาพแผนภมู ิขอ้ มูล อุปกรณ์ การแพทย์ อาวธุ เอกสารเผยแพร่ลทั ธิคอมมิวนิสต์ รวมท้งั นิทรรศการดา้ นธรรมชาติ วทิ ยาภหู ินร่องกลา้ นอกจากน้ี ยงั มีหอ้ งประชุมสาหรับบรรยายสรุปหรือ ประชุมสมั มนา โรงเรียนการเมอื งการทหาร ต้งั อยบู่ ริเวณหลกั กิโลเมตรท่ี 4 เป็นหม่อู าคารไม้ ภายใตร้ ่มเงาของป่ ารกคร้ึม เป็นท่ีต้งั ของคณะกรรมการเขต 3 จงั หวดั คือ จงั หวดั เลย จงั หวดั เพชรบูรณ์ และจงั หวดั พิษณุโลกเม่ือปี พ.ศ.2513 และต่อมาในปี พ.ศ.2520 ได้ ก่อต้งั เป็นโรงเรียนซ่ึงใหก้ ารศึกษาตามแนวทางลทั ธิคอมมิวนิสต์ กงั หันนา้ อยตู่ รงขา้ มกบั โรงเรียนการเมืองการทหาร เป็นกงั หนั น้าขนาดใหญ่ ถูก สร้างข้ึนจากการผสมผสานความคิดกา้ วหนา้ ทางวชิ าการกบั การนาประโยชนจ์ าก ธรรมชาติมาใชง้ าน โดยนกั ศึกษาวิศวะที่เขา้ ร่วมกบั พรรคคอมมิวนิสตแ์ ห่งประเทศ ไทย (พคท.) หลงั เหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519
สานักอานาจรัฐ อยทู่ างทิศตะวนั ตกเฉียงใตข้ องอุทยานฯ ประมาณ 3 กิโลเมตร เป็นสถานท่ีดาเนินการดา้ นปกครอง มีการพิจารณาและลงโทษผกู้ ระทาผดิ หรือละเมิด ต่อกฎลทั ธิ มีคุกสาหรบั ขงั ผกู้ ระทาความผดิ มีสถานที่ทอผา้ และโรงซ่อมเคร่ืองจกั รกล หลงเหลืออยู่ โรงพยาบาลรัฐ อยหู่ ่างจากสานกั อานาจรัฐไปทางทิศเหนือ ประมาณ 2 กิโลเมตร เคยเป็นโรงพยาบาลกลางป่ าท่ีมีอุปกรณ์ในการรักษาพยาบาลครบครัน มีหอ้ งปรุงยา หอ้ งพกั ฟ้ื น และหอ้ งผา่ ตดั โรงพยาบาลแห่งน้ีก่อต้งั เม่ือปี พ.ศ. 2519 สามารถทาการ รักษาพยาบาลและผา่ ตดั อวยั วะไดท้ ุกส่วน ยกเวน้ หวั ใจ มีหมอและพยาบาลที่ผา่ นการ อบรมหลกั สูตรเร่งรัดจากประเทศจีน ในปี พ.ศ.2522 ไดเ้ พ่ิมแผนกทาฟัน และวิจยั ยา เคร่ืองมือที่ใชส้ ่วนใหญ่ไดจ้ ากในเมือง มีการรักษาดว้ ยวิธีฝังเขม็ และใชส้ มุนไพรดว้ ย ลานอเนกประสงค์ เป็นบริเวณลานหินกวา้ งใหญ่ อยกู่ ่อนถึงสานกั อานาจรัฐ ใช้ เป็นท่ีพกั ผอ่ นและสงั สรรคใ์ นหม่สู มาชิกพรรคคอมมิวนิสตใ์ นโอกาสสาคญั ต่าง ๆ สุสาน ทปท. เป็น สถานที่ฝังศพของนกั รบทหารปลดแอกแห่งประเทศไทย (ทปท.) ที่เสียชีวติ จากการสูร้ บกบั ทหารฝ่ ายรัฐบาล ส่วนใหญ่จะอยใู่ กลบ้ ริเวณลาน อเนกประสงค์ ทห่ี ลบภยั ทางอากาศ เป็น สถานท่ีหลบซ่อนตวั จากการทิง้ ระเบิดทางอากาศของ ทหารฝ่ ายรัฐบาล ลกั ษณะพ้ืนที่เป็นหลืบหินหรือโพรงถ้าใตแ้ นวตน้ ไมใ้ หญ่ ทาใหย้ าก ต่อการตรวจการณ์ทางอากาศ สถานที่หลบภยั มีอยหู่ ลายแห่งแต่เปิ ดใหน้ กั ท่องเท่ียวเขา้ ชมได้ 2 แห่ง คือ บริเวณห่างจากโรงเรียนการเมืองการทหารราว 200 เมตร ลกั ษณะ เป็นโพรงถ้าขนาดใหญ่ มีซอกหลืบสลบั ซบั ซอ้ น จุคนไดถ้ ึง 500 คน และอีกแห่งหน่ึง
บริเวณทางเขา้ สานกั อานาจรัฐ เป็นหลืบขนาดใหญ่สามารถจุคนไดป้ ระมาณ 200 คน หมู่บ้านมวลชน เป็นที่อยอู่ าศยั ของกลุ่มมวลชนแนวร่วมพรรคคอมมิวนิสต์ มีอยู่ หลายหมู่บา้ น เช่น หม่บู า้ นดาวแดง หมู่บา้ นดาวชยั แต่ละหม่บู า้ นมีบา้ นประมาณ 40- 50 หลงั เรียงรายอยใู่ นป่ ารกริมถนนที่ตดั มาจากอาเภอหล่มเก่า ลกั ษณะบา้ นเป็นบา้ น ไมห้ ลงั เลก็ ๆ ไม่ยกพ้ืน หลงั คามุงดว้ ยไมก้ ระดานแผน่ บาง ๆ กนั น้าฝนไดอ้ ยา่ งดี และ มีหลุมหลบภยั ทางอากาศอยดู่ ว้ ย ด้านธรรมชาติ ได้แก่ ... ลานหินแตก อยู่ ห่างจากฐานพชั รินทร์ ประมาณ 300 เมตร ลกั ษณะเป็นลานหิน ที่มีอาณาบริเวณประมาณ 40 ไร่ ลานหินมีรอยแตกเป็นแนวเป็นร่องเหมือนแผน่ ดิน แยก รอยแตกน้ีบางรอยกม็ ีขนาดแคบพอคนกา้ วขา้ มได้ แต่บางรอยกก็ วา้ งจนไม่ สามารถจะกระโดดขา้ มไปถึง สาหรับความลึกของร่องหินแตกน้นั ไม่สามารถจะคะเน ได้ ลกั ษณะเช่นน้ีสนั นิษฐานวา่ อาจจะเกิดจากการโก่งตวั หรือเคล่ือนตวั ของผวิ โลก จึง ทาใหพ้ ้นื หินน้นั แตกออกเป็นแนว นอกจากน้ีบริเวณลานหินแตกยงั ปกคลุมไปดว้ ย มอส ไลเคน ตะไคร่ เฟิ ร์น และกลว้ ยไมช้ นิดตา่ ง ๆ ลานหนิ ป่ ุม อยหู่ ่างจากท่ีทาการอุทยานฯ ประมาณ 4 กิโลเมตร อยรู่ ิมหนา้ ผา ลกั ษณะเป็นลานหินซ่ึงมีหินผดุ ข้ึนมาเป็นป่ ุม เป็นปม ขนาดไล่เลี่ยกนั คาดวา่ เกิดจาก
การสึกกร่อนตามธรรมชาติของหิน ในอดีตบริเวณน้ีใชเ้ ป็นท่ีพกั ฟ้ื นคนไขข้ อง โรงพยาบาล เนื่องจากอยบู่ นหนา้ ผา มีลมพดั เยน็ สบาย ผาชูธง อยหู่ ่างจากลานหินป่ ุมประมาณ 500 เมตร เป็นหนา้ ผาสูงชนั สามารถ เห็นทิวทศั น์ไดก้ วา้ งไกล จะสวยงามมากในยามพระอาทิตยต์ กดิน บริเวณน้ีเคยเป็น สถานท่ีซ่ึง ผกค. ข้ึนไปชูธงแดงรูปคอ้ นเคียวทุกคร้ังที่รบชนะฝ่ายรัฐบาล นา้ ตกร่มเกล้า-นา้ ตกภราดร ห่างจากโรงเรียนการเมืองการทหารและกงั หนั น้า ประมาณ 600 เมตร มีทางแยกเดินลงน้าตกร่มเกลา้ ประมาณ 400 เมตร หากเดินลงไป อีก 200 เมตร จะเป็นน้าตกภราดรซ่ึงมีลกั ษณะคลา้ ยกนั และอยบู่ นลาธารเดียวกนั น้าตกภราดรมีความสูงนอ้ ยกวา่ แต่กระแสน้าแรงกวา่ นา้ ตกศรีพชั รินทร์ ต้งั ชื่อเป็นอนุสรณ์แก่ทหารคา่ ยศรีพชั รินทร์ จงั หวดั ขอนแก่น ซ่ึงเป็นทหารหน่วยแรกท่ีข้ึนมาบนภูหินร่องกลา้ น้าตกศรีพชั รินทร์มีความสูงประมาณ 20 เมตร บริเวณน้าตกมีแอ่งขนาดใหญ่ สามารถลงเล่นน้าได้
นา้ ตกหมันแดง เป็นน้าตกที่มีความสูง 32 ช้นั ในหว้ ยน้าหมนั ซ่ึงมีน้าตลอดปี ตน้ น้าเกิดจากยอดเขาภหู มนั น้าตกแต่ละช้นั ต้งั ช่ือคลอ้ งจองกนั ตามสภาพลกั ษณะท่ี สวยงามแปลกตา หอ้ มลอ้ มดว้ ยป่ าดงดิบอนั สมบรู ณ์ การเดินทาง จากท่ีทาการอุทยานฯ ใชเ้ สน้ ทางสายภูหินร่องกลา้ -หล่มเก่า ถึงหลกั กิโลเมตรที่ 18 มีทางแยกซา้ ยเป็นทางเดิน เทา้ เขา้ สู่น้าตก ระยะทาง 3.5 กิโลเมตร เสน้ ทางผา่ นป่ าร่มคร้ึมมีกลว้ ยไมป้ ่ า ตน้ เมเปิ้ ล และทุ่งหญา้ นา้ ตกผาลาด ต้งั อยดู่ า้ นล่างของหน่วยพิทกั ษห์ ว้ ยน้าไซ ทางเขา้ จะผา่ นหม่บู า้ น ชาวเขาเผา่ มง้ บา้ นหว้ ยน้าไซ เขา้ สู่เขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้ าพลงั น้าของกรมพฒั นาและ ส่งเสริมพลงั งาน จากทางแยกประมาณ 2 กิโลเมตร จะถึงทางแยกซา้ ยมือ เดินลงไปอีก ประมาณ 50 เมตร กจ็ ะถึงตวั น้าตก เป็นน้าตกซ่ึงไม่สูงนกั แต่มีน้าตลอดปี นา้ ตกตาดฟ้ า เป็นน้าตกที่สูงมาก ทางเขา้ ยงั ไม่สะดวกนกั ตอ้ งเดินทางไปตาม ถนนลูกรังประมาณ 1 กิโลเมตร จากน้นั จึงไปตามทางเดินในป่ าอีกประมาณ 300 เมตร ถึงดา้ นบนของน้าตก และตอ้ งไต่ลงไปตามทางเดินเลก็ ๆ จึงจะมองเห็นความสวยงาม ของน้าตกตาดฟ้ าหรือเรียกชื่อพ้ืนเมืองวา่ “น้าตกด่าน-กอซาง” ซ่ึงหมายถึงด่านตรวจ ของ ผกค.ที่มีกอไมไ้ ผซ่ าง ธารพายุุ เป็นจดุ ชมวิวบริเวณกิโลเมตรที่ 32 เสน้ ทางภูหินร่องกลา้ -หล่มเก่า สามารถมองเห็นทิวทศั น์ของภูเขาและทะเลหมอกไดอ้ ยา่ งสวยงาม มีสวนรัชมงั คลา ภิเษกสาหรับพกั ผอ่ นหยอ่ นใจ อตั ราค่าเขา้ อุทยานฯ นกั ท่องเท่ียว ชาวไทย ผใู้ หญ่ ราคา 40 บาท เดก็ ราคา 20 บาท ชาวต่างชาติ ผใู้ หญ่ ราคา 400 บาท เดก็ ราคา 200 บาท สถานท่ีพกั ทางอทุ ยานฯ มีบา้ นพกั ไวส้ าหรับนกั ท่องเที่ยว ประมาณ 23 หลงั ราคา 800-2,400 บาท ค่ายพกั แรมพกั ได้ 15 คน ราคา 1,500 บาท และมีเตน็ ทใ์ ห้
เช่า ราคา 200-600 บาท สอบถามรายละเอียดไดท้ ่ี อุทยานแห่งชาติภหู ินร่องกลา้ โทร.0 5523 3527 หรือสานกั อุทยานแห่งชาติ กรมอทุ ยานแห่งชาติสตั วป์ ่ าและพนั ธุพ์ ืช กรุงเทพฯ โทร. 0 2562 0760 หรือ www.dnp.go.th การเดนิ ทาง ไปยงั อทุ ยานแห่งชาตภิ ูหนิ ร่องกล้ามสี องเส้นทาง คอื 1. จากพิษณุโลกใชท้ างหลวงหมายเลข 12 สายพิษณุโลก-หล่มสกั ถึงสามแยก บา้ นแยง แยกเขา้ ทางหลวงหมายเลข 2013 มีป้ ายบอกทางแยกขวาไปอาเภอนครไทย ก่อนถึงตวั อาเภอนครไทย มีทางแยกขวาเขา้ ทางหลวงหมายเลข 2331 ผา่ นบา้ นหว้ ยตีน ตง่ั -บา้ นหว้ ยน้าไซ-ฐานพชั รินทร์ สู่ที่ทาการอทุ ยานแห่งชาติภูหินร่องกลา้ สภาพ เสน้ ทางสูงชนั คดเค้ียวเป็นบางช่วง รวมระยะทางจากพษิ ณุโลก 120 กิโลเมตร 2. จากเพชรบรู ณ์ตามทางหลวงหมายเลข 21 ผา่ นอาเภอหล่มสกั อาเภอหล่มเก่า บา้ นวงั บาล บา้ นเหมืองแบ่ง บา้ นแมว้ ทบั เบิก ถึงอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกลา้ รวม ระยะทางประมาณ 104 กิโลเมตร เป็นทางลาดยาง คอ่ นขา้ งสูงชนั กวา่ เสน้ ทางแรกและ คดเค้ียวมาก ควรใชร้ ถสภาพดีมีกาลงั สูงและใชค้ วามระมดั ระวงั อยา่ งมาก ท่ีอาเภอนครไทย จงั หวดั พิษณุโลก มีรถสองแถวบริการข้ึนภหู ินร่องกลา้ รถจะ จอดอยบู่ ริเวณตลาดสมใจ มีรถข้ึนภูหินร่องกลา้ เวลา 08.00 น., 10.00 น. และ 14.00 น. ค่าเช่าเหมาไป-กลบั (คา้ งคืน) 1,300 บาท ค่าเช่าเหมาไป-กลบั (ไม่คา้ งคืน ) 800-900 บาท
เนินมหศั จรรย์ เนินมหศั จรรยอ์ ยทู่ ี่บริเวณกิโลเมตรท่ี 17.5 ถนนสายนางวั่ -สะเดาพงษ์ ทาง หมายเลข 2258 เมื่อขบั รถมาถึงตรงน้ี และดบั เคร่ืองรถจะถอยหลงั ข้ึนเนินไดเ้ อง ปรากฎการณ์ดงั กลา่ วเกิดจากภาพลวงตา เพราะในความเป็นจริงเมื่อวดั ระดบั ความสูง ของพ้ืนท่ีสองจุดแลว้ ความสูงของเนินจะมีระดบั ต่ากวา่ ช่วงท่ีเป็นทางข้ึนเนิน นา้ ตกศรีดษิ ฐ์ เป็นน้าตกหินช้นั ขนาดใหญ่ มีน้าไหลตลอดท้งั ปี เคยเป็นที่อยขู่ อง ผกค. มาก่อน สิ่งท่ีน่าสนใจคือ ครกตาขา้ วพลงั งานน้าตกที่ ผกค.สร้างไว้ การเดินทาง ใชเ้ สน้ ทาง หมายเลข 2196 ถึงหลกั กิโลเมตรท่ี 17 แลว้ แยกเขา้ ทางหลวงหมายเลข 2325 อีก
ประมาณ 10 กิโลเมตร แลว้ แยกขวาเขา้ น้าตก วดั ไตรภูมิ ต้งั อยบู่ นถนนเพชรรัตน์ ในตวั เมือง เป็นวดั เก่าแก่ ประดิษฐาน \"พระพุทธมหา ธรรมราชา\" พระพุทธรูปคบู่ า้ นคเู่ มืองของจงั หวดั เพชรบูรณ์ ลกั ษณะเป็นพระพุทธรูป ทรงเครื่องศิลปสมยั ลพบุรี ชาวบา้ นพบบริเวณหนา้ วดั ในแม่น้าป่ าสกั จึงไดอ้ ญั เชิญมา ประดิษฐานไวท้ ่ีวดั แห่งน้ี ต่อมาพระพทุ ธรูปองคน์ ้ีไดห้ ายไปและมีผพู้ บอยใู่ นแมน่ ้า บริเวณที่พบคร้ังแรก จึงถือกนั เป็นประเพณีของจงั หวดั เพชรบรู ณ์วา่ เม่ือถึงเทศกาล สารทไทย จะมีการแห่ทาพิธีอุม้ พระดาน้าเพ่ือความเป็นสิริมงคล ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั ตอ้ งนาไปประกอบพิธีอุม้ พระดาน้าเป็นประจาทุกปี ในช่วง เทศการสารทไทย เพ่ือ ความอุดมสมบูรณ์ของพืชพนั ธุธ์ ญั ญาหาร สมดงั ชื่อจงั หวดั ท่ีวา่ \"เพชรบรู ณ์\" ซ่ึงมาจาก คาวา่ \"พืชปุระ\" หรือเมืองแห่งพืชพนั ธุ์ธญั ญาหาร โดยพระพทุ ธมหาธรรมราชา จะมี ชื่อแสียงทางดา้ นการขอพรเพ่ือรักษาโรคภยั และความสมบูรณ์ของพชื พนั ธุธ์ ญั ญาหาร บทสวดบูชา พทุ ธมะหาธมั มะราชา วะชิระปรู ะณะมะหิทธิกา สพั เพ เต อะนุรัก ขนั ตุ อะโรคะเยนะ สุเขนะ จะ เอเตนะ สจั จะวชั เชนะ โสตถิ เม โหตุ สพั พะทาฯ
ศาลเจ้าพ่อหลกั เมืองเพชรบูรณ์ อยทู่ ี่ถนนหลกั เมือง ใจกลางเมืองเพชรบรู ณ์ เสาหลกั เมืองเป็นเสาหินที่สมเดจ็ กรมพระยาดารงราชานุภาพทรงนามาจากเมืองศรี เทพ เมื่อปี พ.ศ.2447 เมืองศรีเทพ เป็นเมืองโบราณแบบทวารวดีและขอม คาดวา่ มีอายตุ ้งั แต่พทุ ธศตวรรษท่ี 11–12 ลงมา จนถึงพทุ ธศตวรรษท่ี 17–18 จึงนบั วา่ เป็นเสาหลกั เมืองที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย เจดยี ์พระบรมสารีริกธาตุเขาค้อ ต้งั อยบู่ นเขาคอ้ ติดกบั หอสมุดนานาชาติเขาคอ้ บา้ นกองเนียม หม่ทู ี่ 4 ตาบลเขา คอ้ ท่ียอดเจดียบ์ รรจุพระบรมสารีริกธาตุที่อญั เชิญมาจากประเทศศรีลงั กา เป็นเจดียท์ ่ีมี สถาปัตยกรรมผสมผสานท้งั แบบสุโขทยั อยธุ ยา และรตั นโกสินทร์ เจดียแ์ ห่งน้ีชาว เพชรบรู ณ์สร้างข้ึนเพอ่ื ถวายเป็นพระราชกศุ ลแด่พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ใน วโรกาสทรงครองราชย์ 50 ปี และเป็นท่ีสกั การะบูชาของพุทธศาสนิกชน ในวนั สาคญั ทางศาสนาจะมีประชาชนและนกั ท่องเที่ยวร่วมกนั ประกอบพิธีทางศาสนา เช่น พิธี เวยี นเทียน อนุสาวรีย์พ่อขนุ ผาเมือง ต้งั อยบู่ ริเวณสี่แยกพ่อขนุ ผาเมือง (จุดตดั ของทางหลวงหมายเลข 21 กบั ทาง
หลวงหมายเลข 12) บริเวณบา้ นน้าชุน ห่างจากท่ีวา่ การอาเภอหล่มสกั ประมาณ 3 กิโลเมตร พระรูปทาดว้ ยโลหะในอิริยาบถยนื พระหตั ถข์ วาทรงดาบปักลงดิน พระ หตั ถซ์ า้ ยช้ีลงพ้ืน พอ่ ขนุ ผาเมือง (เจา้ เมืองราด) ผทู้ รงร่วมสถาปนาราชอาณาจกั ร สุโขทยั เมื่อประมาณพทุ ธศตวรรษที่ 1800 ไดท้ รงร่วมมือกบั พอ่ ขนุ บางกลางหาว เจา้ เมืองบางยางพระสหายนาไพร่พลทาสงครามขจดั อานาจการปกครองของขอมใหพ้ น้ จาก ดินแดนสุโขทยั และไดท้ รงสถาปนาพ่อขนุ บางกลางหาว ข้ึนเป็นกษตั ริยค์ รองกรุง สุโขทยั ถวายพระนามวา่ \"ศรีอินทรบดินทราทิตย\"์ อนุสาวรียแ์ ห่งน้ีเป็นท่ีสกั การะของ ชาวเพชรบูรณ์และผเู้ ดินทางผา่ นไปมาบน เสน้ ทางน้ี หอสมุดนานาชาตเิ ขาค้อ หอสมุดนานาชาติเขาคอ้ ต้งั อยทู่ ่ีหมู่ 4 บนเขาคอ้ ที่บา้ นกองเนียม ตาบลเขาคอ้ เป็นหอสมุดขนาดใหญ่ออกแบบเป็นรูปเพชรคว่า สร้างดว้ ยกระจกสะทอ้ นแสง ภายใน เกบ็ รักษาหนงั สือท้งั ภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ ในเดือนธนั วาคมของทุกปี จะมี การจดั งาน \"วนั นดั พบเอกอคั รราชทูต ณ เขาคอ้ \" โดยเชิญเอกอคั รราชทูตจากประเทศ ต่าง ๆ มาร่วมชมการแสดงศิลปวฒั นธรรมของจงั หวดั หอสมุดฯ เปิ ดใหเ้ ขา้ ชมทุกวนั ค่าธรรมเนียมเขา้ ชมหอสมุดนานาชาติเขาคอ้ 10 บาท/คน การเดินทาง จากส่ีแยกสะเดาพงษ์ ไปตามทางหลวงหมายเลข 2196 ประมาณ 2 กิโลเมตร จะเห็นทางเขา้ หอสมุด ใหเ้ ล้ียวขวาเขา้ ไปประมาณ 500 เมตร สอบถาม รายละเอียดเพิ่มเติมได่ที่ : ป้ าแจ่มจนั ทร์ โทร 08 9048 5412, 08 10452384 ภูเขาหินปะการัง ภูเขาหินปะการัง หรือชาวบา้ นเรียกกนั วา่ เขาหน่อ ต้งั อยใู่ นเขตพ้ืนท่ีหมู่ 8 บา้ น
เขาเพิ่มพฒั นา ตาบลซบั พุทรา อาเภอชนแดน อยใู่ นเทือกเขาชนแดน เป็นภูเขาหินสูง จากระดบั น้าทะเลราว 1,200 เมตร มี ความลาดชนั ราว 45 องศาฯ ลกั ษณะแปลกตา แตกต่างจากภูเขาที่อยขู่ า้ งเคียง เตม็ ไปดว้ ยหินแหลมคมสีเทาโผล่ข้ึนมาทวั่ บริเวณ มองดูคลา้ ยปะการัง หินบางลกู เมื่อใชว้ ตั ถุเป็นไม้ หรือเหลก็ เคาะจะมีเสียงดงั กอ้ ง กงั วานคลา้ ยเสียงระฆงั พบอยโู่ ดยรอบครอบคลุม ภูเขาท้งั ลูก มีตน้ ไมข้ ้ึนสลบั หลาย ชนิด โดยเฉพาะตน้ จนั ทน์ผาที่เป็นไมม้ งคลหายาก ข้ึนอยทู่ ่ามกลางป่ าเบญจพรรณ บน ยอดเขาสามารถชมทิวทศั น์ได้ ติดต่อ องคก์ ารบริหารส่วนตาบลซบั พทุ รา โทร. 0 5681 1003 การเดินทาง จากกรุงเทพฯ สามารถใชเ้ สน้ ทางหลวงหมายเลข 21 ไปจนถึงแยก นาเฉลียง แลว้ เล้ียวซา้ ยไปตาบลซบั พุทธา ประมาณ 16 กิโลเมตร จนถึงสามแยกแลว้ เล้ียวขวาไปทางอาเภอชนแดน ประมาณ 5 กิโลเมตร มีทางแยกซา้ ยไปเขาหินปะการัง ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร อนุสรณ์สถานผู้เสียสละเขาค้อ ภูเขาหินปะการงั หรือชาวบา้ นเรียกกนั วา่ เขาหน่อ ต้งั อยใู่ นเขตพ้ืนที่หมู่ 8 บา้ น เขาเพ่ิมพฒั นา ตาบลซบั พุทรา อาเภอชนแดน อยใู่ นเทือกเขาชนแดน เป็นภเู ขาหินสูง จากระดบั น้าทะเลราว 1,200 เมตร มี ความลาดชนั ราว 45 องศาฯ ลกั ษณะแปลกตา แตกต่างจากภเู ขาท่ีอยขู่ า้ งเคียง เตม็ ไปดว้ ยหินแหลมคมสีเทาโผล่ข้ึนมาทวั่ บริเวณ มองดูคลา้ ยปะการัง หินบางลกู เมื่อใชว้ ตั ถุเป็นไม้ หรือเหลก็ เคาะจะมีเสียงดงั กอ้ ง กงั วานคลา้ ยเสียงระฆงั พบอยโู่ ดยรอบครอบคลุม ภเู ขาท้งั ลกู มีตน้ ไมข้ ้ึนสลบั หลาย ชนิด โดยเฉพาะตน้ จนั ทนผ์ าที่เป็นไมม้ งคลหายาก ข้ึนอยทู่ ่ามกลางป่ าเบญจพรรณ บน ยอดเขาสามารถชมทิวทศั น์ได้ ติดต่อ องคก์ ารบริหารส่วนตาบลซบั พทุ รา โทร. 0 5681 1003
การเดินทาง จากกรุงเทพฯ สามารถใชเ้ สน้ ทางหลวงหมายเลข 21 ไปจนถึงแยก นาเฉลียง แลว้ เล้ียวซา้ ยไปตาบลซบั พุทธา ประมาณ 16 กิโลเมตร จนถึงสามแยกแลว้ เล้ียวขวาไปทางอาเภอชนแดน ประมาณ 5 กิโลเมตร มีทางแยกซา้ ยไปเขาหินปะการัง ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ฐานอทิ ธิ (พพิ ธิ ภณั ฑ์อาวุธ) ฐานอิทธิ (พพิ ิธภณั ฑอ์ าวธุ ) ต้งั อยบู่ นเขาคอ้ อยเู่ ลยกิโลเมตรท่ี 28 ทางหลวง หมายเลข 2196 ไปเลก็ นอ้ ย แลว้ แยกขวาเขา้ ทางหลวงหมายเลข 2323 ไปประมาณ 3 กิโลเมตร เป็นจุดหน่ึงที่เห็นทิวทศั น์สวยงามและเคยเป็นฐานสาคญั ทางยทุ ธศาสตร์ใน อดีต ปัจจุบนั เป็นพพิ ิธภณั ฑอ์ าวธุ จดั แสดงปื นใหญ่ ซากรถถงั และอาวธุ ที่ใชส้ ูร้ บกนั บนเขาคอ้ มีหอ้ งบรรยายสรุปแก่ผเู้ ขา้ ชมเป็นหมู่คณะ เปิ ดใหเ้ ขา้ ชมทุกวนั คา่ เขา้ ชมคน ละ 10 บาท อนุสรณ์จนี ฮ่อ ต้งั อยบู่ นเขาคอ้ อยเู่ ลยกิโลเมตรท่ี 23 ของทางหลวงหมายเลข 2196 ไปเลก็ นอ้ ย เป็นอนุสาวรียท์ หารอาสาจากหน่วยรบกองพลท่ี 93 ซ่ึงมาช่วยรบในพ้ืนท่ีเขาคอ้ และ เสียชีวิตในการสูร้ บ
สวนสาธารณะเทศบาลตาบลพเุ ตย ต้งั อยใู่ นเขตเทศบาลตาบลพเุ ตย ริมทางหลวงหมายเลข 21 ระหวา่ งทางจาก อาเภอศรีเทพไปวเิ ชียรบุรี เป็นสวนสาธารณะขนาดเลก็ ภายในมีบ่อน้าแร่ ตกแตง่ บริเวณสวนสวยงาม ท่ีสาคญั คือ มี \"พเุ ตยสปา\" ซ่ึงเป็นสปาท่ีดาเนินการโดยเทศบาล ตาบลพุเตย มีหอ้ งแบ่งเป็นสดั ส่วนแยกชายหญิง มีบริการนวดตวั นวดหนา้ นวดเทา้ และแช่น้าแร่ร้อนในอ่างจากซุ ซ่ี ที่สะอาดและทนั สมยั สอบถามรายละเอียดติดต่อ โทร 0 5679 7650, 0 5679 7837 พทุ ธธรรมสถานพระธาตุผาซ่อนแก้ว เป็นสถานท่ีปฎิบตั ิธรรมซ่ึงมีทิวทศั น์สวยงามรอบดา้ น มองเห็นผาซ่อนแกว้ และ ทิวเขาสลบั ซบั ซอ้ น มีศาลาปฎิบตั ิธรรมประดิษฐานพระพุทธรูปหยกงดงามภายใน ตกแต่งดว้ ยภาพวาดศิลปะ สวยงามแปลกตา สวนภูพนา
ต้งั อยทู่ ่ีตาบลน้าหนาว เป็นแหลง่ ท่องเท่ียวเชิงเกษตรที่น่าสนใจของอาเภอน้า หนาว อยเู่ ลยที่วา่ อาเภอน้าหนาวทางไปอาเภอหล่มเก่าประมาณ 3 กิโลเมตร ดา้ น ซา้ ยมือ ดา้ นหนา้ สวนมีร้านกาแฟสดในสวนไมด้ อกร่มร่ืน ภายในสวนมีแปลงปลกู พนั ธุ์ไมต้ ่าง ๆ ท่ีเด่นที่สุดคือ ดอกหนา้ ววั ซ่ึงมีหลากหลายสายพนั ธุ์ เช่น พลายชุมพล (ดอกสีแดง) และทองคา (ดอกสีสม้ ) โดยเฉพาะดอกหนา้ ววั พนั ธุ์พลายชุมพลจากสวน ภูพนาแห่งน้ีไดร้ ับรางวลั ชนะเลิศ การประกวดไมด้ อกไมป้ ระดบั ในงานมหกรรมพืช สวนโลกท่ี จงั หวดั เชียงใหม่ จึงนบั วา่ เป็นแหลง่ ท่องเที่ยวเชิงเกษตรอีกแห่งหน่ึงที่น่า ศึกษาคน้ ควา้ เปิ ดใหเ้ ขา้ ชมระหวา่ ง เวลา 08.00-18.00 น. ไม่เกบ็ ค่าเขา้ ชม ติดตอ่ สอบถามไดท้ ่ี โทร.0 5677 9128 ศูนย์บริการท่องเที่ยวเชิงเกษตร อ.นา้ หนาว ต้งั อยใู่ นอาเภอน้าหนาวมีแหล่งท่องเท่ียวเชิงเกษตร ใหน้ กั ท่องเที่ยวไดส้ มั ผสั การท่องเที่ยวในรูปแบบเชิงเกษตร ในอาเภอน้าหนาวแห่งน้ี มีสวนทอ่ งเที่ยวเชิงเกษตร มากมาย อาทิ เช่น ไร่ธนลาภ ปลกู ผกั เมืองหนาว สวนภนู ้าหนาว แหล่งเรียนรู้ดา้ นการ จดั การเกษตรเชิงอนุรักษ์ สวนภพู นา ปลูกดอกหนา้ ววั ปลูกไมด้ อกไมป้ ระดบั สวนน้า หนาว ผลิตไมด้ อกไมป้ ระดบั เช่น กหุ ลาบเงิน เบญจมาศ วา่ นส่ีทิศ สวนเนินไผ่ ปลูก ผกั เมืองหนาว เป็นตน้ สอบถามรายละเอียดเพม่ิ เติมไดท้ ี่ สานกั งานเกษตรอาเภอน้าหนาว โทร 0 5677 9028 หมู่บ้านท่องเทย่ี วชาวดอย (ม้ง) เล่าลอื หม่บู า้ นชาวดอย (ชาวมง้ ) บา้ นเล่าลือ เป็นแหล่งท่องเท่ียวอีกแห่งของเขาคอ้ ซ่ึง
มีชาวมง้ อาศยั อยมู่ าก ในอดีตชาวมง้ นิยมปลกู ฝิ่นกนั มาก แต่ทางการไดเ้ ขา้ มารณรงค์ ใหเ้ ลิกปลูกฝิ่น และหาอาชีพเกษตรอื่น ๆ มาทดแทน ปัจจจุบนั ชาวเขาเผา่ มง้ ประกอบ อาชีพปลกู ขา้ วโพด ขา้ วไร่ แปรรูปผลิตภณั ฑไ์ มไ้ ผ่ ซ่ึงทาใหช้ าวเขาเผา่ มง้ มีอาชีพท่ี สามารถสร้างรายไดใ้ หก้ บั ชุมชนได้ เมื่อเขา้ มาในหม่บู า้ นจะไดพ้ บเห็นบา้ นเรือนและ วถิ ีชีวติ ชาวมง้ ยงั พบเห็นชาวเขาที่แต่งกายดว้ ยผา้ ที่ทอข้ึนเอง มีครกไมต้ าขา้ ว และสตั ว์ เล้ียงต่าง ๆ ในบริเวณหม่บู า้ น การเดินทาง ใชเ้ สน้ ทางเดียวกบั ทางไปน้าตกศรีดิษฐ์ ทางหลวงหมายเลข 2325 โดยบา้ นเล่าลืออยบู่ ริเวณกิโลเมตร 16 นกั ท่องเท่ียวสามารถ ขบั รถเท่ียวในบริเวณหมู่บา้ นได้ หมู่บ้านวฒั นธรรมชาวเขาบ้านเขก็ น้อย ต้งั อยทู่ ่ี ตาบลเขก็ นอ้ ย อาเภอเขาคอ้ จงั หวดั เพชรบูรณ์ เดินทางจากพิษณุโลกมา ตามเสน้ ทางหมายเลข 12 เล้ียวซา้ ยระหวา่ งกิโลเมตรที่ 92 - 93 เป็นหมู่บา้ นมง้ ที่ใหญ่ ที่สุดในประเทศไทยและมีกิจกรรมท่องเท่ียวซ่ึงหาดู ไดย้ าก อาทิ เช่น ชมการจาลองวิถี ชีวิตชาวมง้ ชมการแสดงทางวฒั นธรรม อาทิ วิถีชีวิต 12 เดือนของมง้ ราแคน ระบา กระดงั ระบาขลุ่ย เดินแบบชุดมง้ และเลือกซ้ือผลิตภณั ฑข์ องชาวมง้ อาทิ ผา้ ปักลาย พืชผกั การเกษตร เปิ ดทุกวนั เสาร์ - อาทิตย์ ค่าเขา้ ชมคนละ 10 บาท นอกจากน้ี ยงั สามารถเช่ือมโยงกบั แหล่งท่องเที่ยวใกลเ้ คียง เช่น ภูทบั เบิก เขาคอ้ ทุ่งแสลงหลวง เป็นตน้ สอบถามรายละเอียดเพ่ิมเติมไดท้ ี่ : อบต.เขก็ นอ้ ย โทร 0 7839 2880 บงึ สามพนั ต้งั อยทู่ ี่ตาบลซบั สมอทอด ห่างจากท่ีวา่ การอาเภอบึงสามพนั ประมาณ 5 กิโลเมตร มีเน้ือที่ประมาณ 323 ไร่ มีลกั ษณะเป็นลาคลองยาวประมาณ 3 กิโลเมตร มี น้าใสตลอดท้งั ปี เป็นบึงท่ีใชป้ ระโยชนใ์ นการทาเกษตรกรรม แหลง่ เพาะพนั ธุป์ ลา ที่
บริเวณริมบึงมีร้านอาหารไวบ้ ริการดว้ ย และในเดือนพฤศจิกายนของทุกปี ทางอาเภอ บึงสามพนั จดั ใหม้ ีการแขง่ ขนั เรือยาว ประเพณีชิงถว้ ยพระราชทานสมเดจ็ พระบรม โอรสาธิราชฯ สยามมกฎุ ราชกมุ าร การเดินทาง จากจงั หวดั เพชรบรู ณ์ใชท้ างหมาย หลวงเลข 21 ผา่ นบา้ นวงั ชมภู ผา่ นอาเภอหนองไผ่ สู่อาเภอบึงสามพนั ตรงส่ีแยกไฟ แดง บริเวณกิโลเมตรที่ 340-341 มีป้ ายบอกทางใหเ้ ล้ียวซา้ ยเขา้ บึงสามพนั ไปอีก ประมาณ 3 กิโลเมตร ทุ่งทานตะวนั ท่ีบงึ สามพนั ทุ่งทานตะวนั ท่ีบึงสามพนั มีพ้ืนที่ครอบคลุมอยทู่ ี่บา้ นเขาหลวง บา้ นป่ ายาง ตาบลสระแกว้ มีการปลูกทานตะวนั บนภูเขาหลวง ครอบคลุมพ้ืนท่ีกวา่ หม่ืนไร่ เมื่อ ดอกทานตะวนั บานในตอนเชา้ ภเู ขาบริเวณน้ีจะกลายเป็นทุง่ ทานตะวนั มีสีเหลืองอร่าม สวยงาม ในช่วงเดือนธนั วาคมทางอาเภอบึงสามพนั ไดจ้ ดั งาน \"ตะวนั บานบนภทู ่ีบึง สามพนั \" ภายในงานมีการจดั ประกวดดอกทานตะวนั ที่ใหญ่ที่สุด การประกวดธิดา ตะวนั การแปรรูปเมลด็ ทานตะวนั และการจาหน่าย ผลผลิตทางการเกษตร การเดินทาง จากจงั หวดั เพชรบูรณ์ใชเ้ สน้ ทางหลวงหมายเลข 21ผา่ นอาเภอ หนองไผ่ ไปจนถึงสี่แยกราหุลใหเ้ ล้ียวซา้ ยเขา้ ทางหลวงหมายเลข 225ไปทางจงั หวดั ชยั ภูมิอีก 18 กิโลเมตร ถึงส่ีแยกซบั บอนใหเ้ ล้ียวซา้ ยไปอีก 14 กิโลเมตร ถึงบริเวณบา้ น ป่ ายางซ่ึงทาไร่ทานตะวนั สวนรุกขชาตซิ ับชมภู ต้งั อยทู่ ่ีบา้ นซบั ชมภู หม่ทู ี่ 8 ตาบลบา้ นโภชน์ อยใู่ นเขตป่ าสงวนแห่งชาติท่ีมี พ้ืนท่ี 180 ไร่ เป็นแหล่งความรู้ทางพฤกษศาสตร์มีท้งั ป่ าไมเ้ บญจพรรณ สมุนไพรนานา
ชนิด ภายในสวนรุกขชาติตกแตง่ ดว้ ยไมด้ อกไมป้ ระดบั ท่ีสวยงาม มีน้าตก 3แห่ง ไดแ้ ก่ น้าตกหินงาม น้าตกไทรงาม และน้าตกธารงาม การเดินทาง จากจงั หวดั เพชรบูรณ์ใช้ เสน้ ทางหลวงหมายเลข 21 ผา่ นบา้ นวงั ชมภทู างไปอาเภอหนองไผ่ ประมาณกิโลเมตร ที่ 156 แลว้ แยกขวาเขา้ ทางสายบา้ นโภชน์-วงั ปลาไปอีกประมาณ 7 กิโลเมตร สอบถาม รายละเอียดเพิ่มเติมไดท้ ี่ สานกั งานป่ าไมจ้ งั หวดั เพชรบูรณ์ โทร.0 5671 1446 ดงรอยเท้าไดโนเสาร์ อุทยานแห่งชาติน้าหนาว พบรอยเทา้ ไดโนเสาร์บนหนา้ ผาหินทราย บริเวณเชิง เขาในเขตป่ าสงวนแห่งชาติเขตรอยต่อกบั ป่ าอุทยานแห่งชาติน้าหนาว หม่ทู ี่ 5 บา้ นนา สอพอง ต.น้าหนาว พบรอยเทา้ ประมาณ 300 รอย มึความลึกประมาณ 1-3 เซนติเมตร มีระยะระหวา่ งกา้ วเดิน 70 เซนติเมตร และระยะห่างระหวา่ งแถวประมาณ 80 เซนติเมตร แสดงใหเ้ ห็นวา่ มีไดโนเสาร์ไม่นอ้ ยกวา่ 2 ตวั วดั ขนาดรอยเทา้ ยาวประมาณ 12 นิ้ว กวา้ ง 6 นิ้ว เป็นรอบที่มี 3 นิ้ว ในขณะท่ีส่วนปลายมีร่องรอยของเลบ็ ท่ีแหลมคม ซ่ึงเป็นลกั ษณะของไดโนเสาร์กินเน้ือ เดินดว้ ยสองขาหลงั เป็นหลกั การเดินทางใชเ้ สน้ ทางหลวงหมายเลข 2216 หว้ ยสนามทราย-น้าหนาว-กกกะ ทอน ถึงระหวา่ งหลกั กิโลเมตรท่ี 19-20 จะมีทางแยกขา้ งหน่วยป้ องกนั รักษาป่ าท่ี พช.5 (นาพอสอง) เป็นถนนลูกรังซ่ึงเป็นเสน้ ทางเขา้ น้าตกตาดพรานบา เขา้ ไปราว 3 กิโลเมตร จะมีถนนแยกดา้ นซา้ ยระยะทางราว 2 กิโลเมตร จากน้นั ตอ้ งเดินเทา้ ลดั เลาะ ไปตามสนั ไหล่เขาเขา้ ไปอีกราว 1 กิโลเมตรจึงจะถึงแหลง่ รอยเทา้ ไดโนเสาร์ รถยนตร์ ควรเป็นชนิดขบั เคล่ือนส่ีลอ้ และหลีกเลี่ยงเดินทางเขา้ ไปหากมีฝนตก เพราะเสน้ ทาง ขณะน้ีอยรู่ ะหวา่ งการสารวจและบุกเบิก อาจเกิดอนั ตรายได้ วดั ศรีมงคล (วดั นาทราย)
ต้งั อยหู่ ม่ทู ่ี 3 บา้ นนาทราย ตาบลวงั บาล บนเสน้ ทางสี่แยกวงั บาล-โจะโหวะ เป็น วดั เก่าแก่ของจงั หวดั เพชรบรู ณ์ ความน่าสนใจของวดั น้ีอยทู่ ี่ภาพจิตรกรรมฝาผนงั ภายในอุโบสถ ซ่ึงมีภาพเขียนสวยงามตามแบบโบราณ เกี่ยวกบั ประวตั ิพระเจา้ สิบชาติ ภาพนรก-สวรรค์ และภาพที่สะทอ้ นใหเ้ ห็นชีวิตของสงั คมทอ้ งถ่ินในอดีต เช่น การ ประกอบอาชีพ การคา้ ขายทางเรือ การเดินทาง ใชท้ างหลวงสายหล่มเก่า-วงั บาล ระยะทางจากอาเภอหล่มเก่าประมาณ 3 กิโลเมตร มีทางแยกซา้ ยเขา้ หมู่บา้ นนาทรายอีก ประมาณ 1 กิโลเมตร หลกั เมอื งหล่มเก่า ต้งั อยทู่ ี่สี่แยกบุ่งน้าเตา้ ตาบลบุ่งน้าเตา้ หลกั เมืองน้ีสร้างข้ึนเมื่อปี พ.ศ. 2487 เป็น หลกั เมืองท่ีทาดว้ ยซีเมนต์ ฯพณฯ จอมพล ป. พิบูลยส์ งคราม เป็นประธานทาพิธีฝัง หลกั เมืองเม่ือวนั ท่ี 23 เมษายน 2487 การเดินทาง ใชเ้ สน้ ทางเดียวกบั ทางไปถ้าฤาษี สมบตั ิแต่อยทู่ างแยกขวามือปากทางเขา้ สนาม บินเพชรบูรณ์ ถา้ ฤาษสี มบัติ ถ้าฤาษีสมบตั ิ ต้งั อยทู่ ี่บา้ นถ้าสมบตั ิ ตาบลบุ่งน้าเตา้ อยหู่ ่างจากจงั หวดั เพชรบูรณ์ ประมาณ 36 กิโลเมตร เมื่อคร้ังสมยั จอมพล ป. พิบูลสงคราม ดารงตาแหน่ง นายกรัฐมนตรี ไดป้ ระกาศพระราชกาหนดระเบียบบริหารนครบาลเพชรบรู ณ์ พ.ศ. 2487 และไดต้ ้งั กระทรวงการคลงั ข้ึนท่ีถ้าฤาษีสมบตั ิซ่ึงใชเ้ ป็นท่ีเกบ็ สมบตั ิของ แผน่ ดินในสมยั น้นั ในปัจจุบนั สิ่งก่อสร้างท่ีเป็นอาคารไม่ปรากฏ นอกจากถ้าซ่ึง มองเห็นเป็นร่องรอยการก่อสร้าง การเดินทาง จากจงั หวดั เพชรบรู ณ์ใชเ้ สน้ ทางหลวง หมายเลข 21 ระหวา่ งกิโลเมตรที่ 251-252 จะมีป้ ายบอกทางเขา้ ถ้าฤาษีสมบตั ิตรงทาง
แยกซา้ ยมือตรงขา้ มกบั ทางเขา้ สนามบิน เพชรบูรณ์ เขา้ ไปประมาณ 6.5 กิโลเมตร อ่างเกบ็ นา้ รัตนัย อ่างเกบ็ น้ารัตนยั หรืออ่างเกบ็ น้าบา้ นรัตนยั 1 อยบู่ นทางหลวงหมายเลข 2325 เลยกิโลเมตรท่ี 5 ไปประมาณ 100 เมตร จะเห็นทางเขา้ อ่างเกบ็ น้าทางดา้ นซา้ ยมือ เขา้ ไปตามทางเดินอีกประมาณ 400 เมตร อ่างเกบ็ น้ารัตนยั เป็นอ่างเกบ็ น้าความจุ 2,020,000 ลูกบาศกเ์ มตร บนเน้ือที่ 1,600 ไร่ มีอาคารระบายน้าลน้ กวา้ ง 15 เมตร พร้อมทานบดิน สูง 15 เมตร ยาว 250 เมตร ในบริเวณอ่างเกบ็ น้ามีลกั ษณะคลา้ ย ทะเลสาบ ในตอนเยน็ จะมีลมพดั เยน็ สบายเหมาะสาหรับนง่ั พกั ผอ่ น สถานีทดลองเกษตรทส่ี ูงเขาค้อ ต้งั อยทู่ ่ี 51 หมู่ 3 ตาบลสะเดาพงษ์ เป็นสถานท่ีทดลองปลกู ไมเ้ มืองหนาวจาก สถาบนั วจิ ยั พืชสวน กรมวิชาการเกษตร ภายในสถานีไดป้ ลกู ไมเ้ มืองหนาวนานาชนิด เช่น พลบั ฝาด พลบั เนคตาซีน แมคคาเดเมียนทั กาแฟ มะกอกน้า นกั ทอ่ งเท่ียวท่ีมีความ
ประสงคจ์ ะเขา้ ชมภายในสถานีทดลองการเกษตรท่ีสูงเขา คอ้ จะตอ้ งติดต่อเจา้ หนา้ ท่ี ก่อนล่วงหนา้ 1 สปั ดาห์ และสามารถจองเตน็ ทไ์ ดใ้ นราคา 250 บาท พกั ได้ 4 คน สอบถามรายละเอียดไดท้ ี่ โทร.0 5672 3056 ศูนย์กลางวตั ถดุ บิ และผลติ ภณั ฑ์ภูมิปัญญาเพอ่ื การพง่ึ ตนเอง (ศวต.) หรือ เขาค้อทะเล ภู ศนู ยก์ ลางวตั ถุดิบและผลิตภณั ฑภ์ ูมิปัญญาเพื่อการพ่ึงตนเอง (ศวต.) หรือ เขาคอ้ ทะเลภู สถานีเพาะเล้ียงสตั วป์ ่ าเขาคอ้ เพชรบูรณ์มีบา้ นพกั ไวส้ าหรับนกั ท่องเที่ยว จานวน 3 หลงั พกั ไดห้ ลงั ละ 10 คน หากผทู้ ี่เขา้ ชมเป็นหม่คู ณะตอ้ งการเจา้ หนา้ ท่ี บรรยายและนาชมใหค้ วามรู้ เกี่ยวกบั สตั วป์ ่ า ตอ้ งทาหนงั สือล่วงหนา้ ถึง หวั หนา้ สถานี เพาะเล้ียงสตั วป์ ่ าเขาคอ้ อาเภอเขาคอ้ จงั หวดั เพชรบูรณ์ 67270 โทร.08 6887 7373 และ สอบถามขอ้ มลู เพ่ิมเติมไดท้ ่ี กลุ่มวจิ ยั การเพาะเล้ียง สานกั อนุรักษส์ ตั วป์ ่ า กรมอุทยาน แห่งชาติสตั วป์ ่ าและพนั ธุ์พืช บางเขน กรุงเทพ โทร.0 25614292ต่อ 713, 0 2579 9630 การเดินทาง ใชเ้ สน้ ทางเดียวกบั น้าตกศรีดิษฐ์ เม่ือถึงกิโลเมตรท่ี 7 แยกซา้ ยเขา้ ไปอีก ประมาณ 3.5 กิโลเมตร สถานีเพาะเลยี้ งสัตว์ป่ าเขาค้อเพชรบูรณ์ (สวนสัตว์เปิ ดเขาค้อ) ดาเนินโครงการโดยกองอนุรักษส์ ตั วป์ ่ า ส่วนอนุรักษส์ ตั วป์ ่ า กรมป่ าไม้ เพอ่ื ให้ เป็นไปตามพระราชดาริเมื่อคร้ังท่ีพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ฯ และสมเดจ็ พระนาง เจา้ ฯ พระบรมราชินีนาถไดท้ รงเสดจ็ มา อ่างเกบ็ นา้ ชลประทานห้วยป่ าแดง
อ่างเกบ็ น้าชลประทานหว้ ยป่ าแดง อยหู่ ่างจากตวั เมืองไปทางทิศตะวนั ตก ตาม ทางหลวงหมายเลข 2006 ประมาณ 8 กิโลเมตร เป็นแหลง่ พกั ผอ่ นริมน้าที่มีความ สวยงามอีกแห่งหน่ึง เกิดจากการสร้างเข่ือนก้นั หว้ ยป่ าแดงในเขตตาบลป่ าเล่า อ่างเกบ็ น้าน้ีแวดลอ้ มดว้ ยทศั นียภาพของขนุ เขาและสายน้าที่งดงามโดยเฉพาะใน ยามเชา้ ตรู่ และยามเยน็ ช่วงที่พระอาทิตยข์ ้ึน-ลง ประชาชนนิยมมาพกั ผอ่ นหยอ่ นใจ นง่ั รับประทานอาหาร สงั สรรคก์ บั เพื่อนฝงู ในบริเวณมีร้านขายอาหารบริการ อาหารที่ข้ึน ชื่อคืออาหารจาพวกปลาน้าจืด เช่น ปลาเผา ปลาทอด สวนรุกขชาตหิ นองนารี สวนรุกขชาติหนองนารี ต้งั อยรู่ ิมถนนนารีพฒั นา หมู่ที่5 ตาบลสะเดียง ขา้ ง สนามกีฬาเทศบาลจงั หวดั เพชรบูรณ์ ห่างจากตวั เมืองประมาณ 2กิโลเมตร บริเวณสวน เป็นบึงบวั ขนาดใหญ่เหมาะแก่การพกั ผอ่ นหยอ่ นใจ สามารถขบั รถเท่ียวรอบบึง บรรยากาศร่มรื่น มีร้านอาหารบริการ เขารัง เป็นจุดชมววิ ที่มองเห็นทิวทศั นไ์ ดก้ วา้ งไกล อยบู่ นเสน้ ทางสายเพชรบรู ณ์- ตะพานหิน ถนนสายน้ีสร้างข้ึนในสมยั สงครามโลกคร้ังที่ 2 เพื่อเปิ ดสู่เมืองเพชรบรู ณ์ การก่อสร้างถนนเตม็ ไปดว้ ยความยากลาบาก ผคู้ นที่สร้างทางจานวนมากเสียชีวติ ดว้ ย โรคไขม้ าลาเรีย วดั พระแก้ว ต้งั อยทู่ ่ีตาบลในเมือง เดิมมีสามวดั ต้งั อยเู่ รียงกนั คือวดั พระสิงห์อยทู่ างทิศเหนือ
วดั พระแกว้ อยตู่ รงกลาง และวดั พระเสืออยทู่ างทิศใต้ โบราณสถานสาคญั ท่ีน่าชมคือ พระเจดียใ์ นวดั พระสิงห์ และพระปรางคก์ ลีบมะเฟื องท่ีวดั พระแกว้ มีการขดุ พบ พระพทุ ธรูปที่กรมศิลปากรสนั นิษฐานวา่ สร้างมานานกวา่ เจด็ ร้อยปี นอกจากน้ียงั พบ กรุ โอ่ง พระพุทธรูปและของสาคญั ต่าง ๆ เช่น เคร่ืองป้ันดินเผา พระพทุ ธรูปทองคา เน้ือสมั ฤทธ์ิ เน้ือเงิน แผน่ ทองคา และพระผงดินเผา แบบสุโขทยั จุดชมววิ พระอาทิตย์ตก (ถา้ ผาหงษ์) เป็นสถานที่ชมววิ พระอาทิตยต์ ก บนหลงั ถ้าเป็นผาหินสลบั ซบั ซอ้ นกนั อยดู่ ูแลว้ คลา้ ยประติมากรรมทางธรรมชาติ ถา้ ใหญ่นา้ หนาว (ภูนา้ ริน) ถ้าใหญ่น้าหนาวหรือ ภูน้าริน มีความสูงประมาณ 955 เมตร ภายในมีลกั ษณะ เป็นถ้า ที่มีความวิจิตรสวยงามตามธรรมชาติดว้ ยหินงอกหินยอ้ ย วนอทุ ยานนา้ ตกธารทพิ ย์ (ปิ ดช่ัวคราว) มีพ้ืนท่ีอยใู่ นทอ้ งที่ตาบลบุ่งน้าเตา้ ตาบลบุ่งคลา้ ครอบคลุมพ้ืนท่ีป่ าสงวน แห่งชาติเขาโปลกหล่นและป่ าสงวนแห่งชาติป่ าเขาป่ าก่อ -วงั ชมภู เป็นตน้ น้าลาธาร ของแม่น้าป่ าสกั
การเดนิ ทาง รถยนต์ เสน้ ทางที่ 1 จากกรุงเทพฯ ใชเ้ สน้ ทางหลวงหมายเลข 1 ถึงจงั หวดั สระบุรีเลยไป จนถึงสวนพฤกษศาสตร์พุแค ตรงกิโลเมตรที่ 125 แยกขวามือเขา้ ทางหลวงหมายเลข 21 ผา่ นอาเภอชยั บาดาล อาเภอศรีเทพ อาเภอวิเชียรบุรี ต่อไปอีกประมาณ 221 กิโลเมตร ถึงจงั หวดั เพชรบรู ณ์ รวมระยะทางประมาณ 346 กิโลเมตร ใชเ้ วลาเดินทาง ประมาณ 5 ชว่ั โมง เสน้ ทางท่ี 2 จากกรุงเทพฯ ใชเ้ สน้ ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน ถึง อาเภอวงั นอ้ ยแลว้ แยกเขา้ เสน้ ทางหลวงหมายเลข 32 ผา่ นจงั หวดั พระนครศรีอยธุ ยา อ่างทอง สิงห์บุรี ชยั นาท เขา้ นครสวรรคแ์ ลว้ ใชเ้ สน้ ทางหมายเลข 117 ตรงเขา้ จงั หวดั พิษณุโลก จากน้นั ใชท้ างหมายเลข 12เสน้ พิษณุโลก-หล่มสกั ผา่ นเขาคอ้ -หล่มสกั เขา้
จงั หวดั เพชรบรู ณ์ รวมระยะทาง 547 กิโลเมตร รถโดยสารประจาทาง บริษทั ขนส่ง จากดั มีบริการเดินรถปรับอากาศช้นั 2 และรถธรรมดากรุงเทพฯ- เพชรบรู ณ์-หล่มสกั ออกจากสถานีขนส่งหมอชิต 2 สอบถามขอ้ มูลเพม่ิ เติม โทร.0 2936 2852–66 สาขาเพชรบูรณ์ โทร.0 5672 1581 นอกจากน้ี ยงั มีบริษทั เอกชนบริการ เดินรถปรับอากาศช้นั 1 ในเสน้ ทางเดียวกนั ไดแ้ ก่ เพชรทวั ร์ โทร.0 2936 3230 สาขา เพชรบรู ณ์ โทร.0 5672 2818 และถิ่นสยามทวั ร์ โทร.0 2936 0500, 0 2513 9077 (จาก กรุงเทพฯ มีรถประมาณ 8 เท่ียวต้งั แต่เวลา 09.30 น. - 23.30 น.) สาขาเพชรบูรณ์ โทร.0 5672 1913 สาขาหล่มสกั โทร.0 5670 1613 (จากหล่มสกั มีรถประมาณ 7 เท่ียว ต้งั แต่ เวลา 08.30 น. - 24.00 น.) ถ้าคดิ จะพกั กาย พกั ใจ กอ็ ย่าลมื คดิ ถงึ \"จงั หวดั เพชรบูรณ์\" นะคะ...
Search
Read the Text Version
- 1 - 49
Pages: