Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ประเพณีแห่ผีตาโขน....

ประเพณีแห่ผีตาโขน....

Published by st37279, 2019-09-20 02:06:43

Description: ประเพณีแห่ผีตาโขน....

Search

Read the Text Version

ประเพณแี หผ่ ตี าโขน

จดั ทำโดย ด.ญ. โชติกำ รุ่งเรื่อง เลขที่ 1 ม.3/4 ด.ญ. เมธำวี ผิวอ่อน เลขที่ 18 ม.3/4 ด.ญ. รุจริ ำ เคร่ือพลบั เลขที่ 36 ม.3/4 โรงเรยี นรำชนิ บี ูรณะ อ.เมือง จ. นครปฐม

ประวัติส่วนตัว •ด.ญ.โชตกิ ำ รุง่ เรอื ง เลขท่ี 1 ม.3/4 •ชื่อเล่น อีฟ มพี ี่นอ้ ง 2 คน •เกดิ วนั ที่ 14 มถิ ุนำยน พ.ศ.2547 •อำยุ 15 ปี กรุ๊ปเลอื ด ( o ) •นำหนัก 49 กก. ส่วนสูง 153 ซม. •เชื่อเชำติ ไทย สญั ชำติ ไทย •ศำสนำ พุทธ •น้องชอื่ ด.ช. พงศกร รงุ่ เรอ่ื ชอื่ เล่น ไอซ์ •เบอร์โทร 080-102-9480

ประวัติส่วนตัว •ด.ญ.เมธำวี ผิวออ่ น เลขที่ 18 ม.3/4 •ช่ือเล่น ตงั มีพ่ีน้อง - คน •เกิดวนั ที่ 12 ตลุ ำคม พศ.2547 •อำยุ 14 ปี กรู๊ปเลอื ด ( ab ) •นำหนัก 59 กก. ส่วนสูง 153 ซม. •เชอื ชำติ ไทย สัญชำติ ไทย •ศำสนำ พทุ ธ •เบอร์โทร 062-317-1025

ประวตั สิ ว่ นตัว •ด.ญ.รจุ ิรำ เครอื พลับ เลขท่ี 36 ม.3/4 •ช่อื เลน่ ออม มีพี่นอ้ ง – คน •เกิดวนั ท่ี 1 มถิ นุ ำยน พ.ศ.2547 •อำยุ15 ปี กรปุ๊ เลือด ( o ) •นำหนกั 66 กก. สว่ นสงู 163 ซม. •เชือชำติ ไทย สัญชำติ ไทย •ศำสนำ พุทธ •เบอร์โทร 085-428-4923

คำนำ •ในฐำนะทีบ่ ้ำนของดฉิ นั อยู่ใกล้อำเภอด่ำนซ้ำย จ.เลย ดฉิ ันก็มีโอกำสได้ไปเท่ยี วประเพณีผีตำโขน ซง่ึ มี ประชำชนไปเที่ยวชมงำนทังคนไทยและชำวตำ่ งชำติ เปน็ จำนวนมำก เป็นประเพณีท่ีสบื ทอดกนั มำตังแต่ บรรพบรุ ุษ ภำยในงำนมขี บวนงำนผตี ำโขนเปน็ จำนวนมำก มีทงั หน้ำกำกผตี ำโขนของเดก็ และ ผูใ้ หญ่ เป็นสินคำ้ จำหน่ำย มคี นสอนทำหนำ้ กำกผีตำ โขน ของท่ีระลกึ เพ่ือเป็นของฝำก สนกุ มำก ๆ ถำ้ มโีั อกำสอยำกใหท้ ุกคนไปเทีย่ วกนั ดนู ะคะ่ รับรองไม่ ผดิ หวงั ดิฉนั อยำกใหค้ นไทยได้รจู้ ักประเพณีดๆี ดิฉนั จึงขอนำประเพณีผีตำโขน มำเป็นเกร็ดควำมรู้ เลก็ ๆ นอ้ ย แกผ่ ู้ท่ีสนใจ

สำรบญั •ตำนำนเร่ืองเล่ำ •ประวตั สิ ่วนตัวสมำชกิ •ประเพณรผี ีตำโขน •ประเพณีผีตำโขนชุมชน •องค์ประกอบของผตี ำโขน •ผตี ำโขนใหญ่ •ผตี ำโขนเลก็ •หมำกกะแหลง่ •ดำบไม้

ตำนำนเรอ่ื งเลำ่ ประเพณแี ห่ผตี ำโขน เปน็ งำนประเพณเี ล็ก ๆ ท่เี ลน่ กันอยูใ่ น ขอบเขตอำเภอเล็ก ๆ คอื อำเภอดำ่ นซ้ำย จังหวดั เลย แตด่ ้วยรูปแบบและเนือหำ ของงำนที่เป็นเรือ่ งผี ๆ แตเ่ ป็นผนี ำ่ รักนำ่ สนุกจงึ นำ่ สนใจย่งิ สำหรบั มนษุ ย์ งำนเลก็ จำกอำเภอเลก็ ๆ งำนนี สุดท้ำยจึงก้ำวออกไปเป็น งำนประเพณที ี่เชดิ หน้ำชตู ำของภูมภิ ำคอีสำน และกลำยเป็นงำนประเพณรี ะดบั ชำติ ทกุ ปีจะมีชำว ตำ่ งประเทศจำกทวั่ โลกเดินทำงไปเท่ียวชงำนผี ๆ งำนนี กนั ปีละไมใ่ ชน่ ้อย งำนประเพณแี หผ่ ตี ำโขน เปน็ กำร รวมงำนสำคัญของทอ้ งถ่ินสำมงำเขำ้ ดว้ ยกันคอื งำนบุญ ผะเหวด หรอื บญุ พระเวส อันเปน็ งำนฉลองกำรฟงั เทศนม์ หำชำติ งำนแห่ผีตำโขน และงำนบุญบังไฟ เข้ำ ดว้ ยกนั

ตำนำนเรื่องเลำ่ แตด่ ้วยควำมที่เป็นผี เม่อื ชำวเมืองไปพบเขำ้ จงึ ตกใจกลัว สัญชำตญำณผีก็อดทม่ี ำของผตี ำโขนพระเอกของงำนนี นับเป็นอุบำยอนั แยบคำยเฉพำะของบรรพบรุ ษุ เมืองดำ่ นซำ้ ย ให้เดก็ ๆ ในเมืองเล่นสนุกกนั เปน็ กำรส่งท้ำยงำนบญุ โดยจบั เอำ เวสสันดรชำดก พระชำตทิ ่ี 10 ทสี่ ำคัญทส่ี ดุ ของ พระพทุ ธเจ้ำในตอนทีพ่ ระเวสสันดรจะได้กลับคนื พระนคร บรรดำผีป่ำทังหลำยต่ำงพำกันมำส่งเสดจ็ จนถงึ ในเมือง เมอื่ เข้ำเมอื งดว้ ยควำมเปน็ ผีปำ่ ไมเ่ คยเข้ำเมือง ก็เลยออพำ กันตระเวณเท่ียวเมือง โดยไมไ่ ด้ทำอนั ตรำยใคร ที่จะ แลบลินปลินตำหลอกชำวบำ้ นไม่ไดเ้ มื่อไดเ้ วลำบรรดำผี ป่ำก็จะพำกันออกนอกเมอื งกลับคนื สปู่ ่ำ พร้อม ๆ กบั นำพำควำมโชครำ้ ยและทกุ ขโ์ ศกโรคภัยทังปวงออกจำก เมอื งไปดว้ ย

ประเพณผี ีตำโขน ต่อ. •ผตี ำโขน เป็นเทศกำลที่จดั ขึนในอำเภอดำ่ นซ้ำย จงั หวัด เลย ซึง่ ตังอยทู่ ำงภำคอีสำน ของประเทศไทย เปน็ เทศกำลทเ่ี กิดขึนในเดอื น 7[1] ซึง่ มกั จดั มำกกวำ่ สำมวนั ใน บำงชว่ งระหว่ำงเดือนมนี ำคม และกรกฎำคม โดยจัดขนึ ใน วันทไี่ ดร้ ับเลอื กให้จดั ขนึ ในแตล่ ะปโี ดยคนทรงประจำเมือง ซ่ึงงำนบุญประเพณีพนื บำ้ นนีมีชื่อเรียกวำ่ บญุ หลวง[2] โดย แบง่ ออกเป็นเทศกำล ผตี ำโขน, ประเพณีบญุ บังไฟ และ งำนบุญหลวง (หรือ บุญผะเหวด)[3]

ประเพณีผีตำโขน ต่อ. •ผตี ำโขน นนั เดมิ มีชื่อเรยี กว่ำ ผตี ำมคน เป็นเทศกำลที่ ได้รบั อิทธิพลมำจำกมหำเวสสนั ดรชำดก ชำดกในทำง พระพุทธศำสนำ ทีว่ ่ำถงึ พระเวสสันดร และพระนำงมัทรี จะเดนิ ทำงออกจำกป่ำกลับสเู่ มืองหลวง บรรดำสัตว์ปำ่ รวมถงึ ภตู ิผที ีอ่ ำศยั อยู่ในป่ำนนั ได้ออกมำส่งเสด็จดว้ ย อำลยั [4] •ซ่ึงวนั แรกจะเปน็ เทศกำลผตี ำโขน ซึ่งเรยี กวันนีว่ำ วนั รวม (วนั โฮม) โดยจะมีพธิ ีเบิก พระอุปคุตต์ ในบรเิ วณ ระหวำ่ งลำนำหมันกับลำนำศอก ส่วนวนั ทสี่ องของเทศกำล ดงั กลำ่ วจะมีพิธจี ุดบงั ไฟบชู ำ พรอ้ มด้วยเคร่ืองแตง่ กำยท่ี หลำกหลำย รวมถึงกำรแขง่ ขันเต้นรำตลอดจนขบวน พำเหรด สว่ นในวนั ที่สำมและวนั สดุ ทำ้ ยจะมีกำรใหช้ ำวบำ้ น ฟงั เทศน์[3] ทังนี ผตี ำโขนยงั ได้รับกำรนำมำใชเ้ ป็น สญั ลกั ษณ์ และฉำยำประจำทมี สโมสรฟตุ บอลเลย ซติ ี เช่นกัน[5]

ประเพณผี ีตำโขน ตอ่ . •และประเพณยี ังคงมคี วำมเชอ่ื กนั วำ่ สำหรบั คนท่เี ลน่ หรอื มี กำรแต่งตัวเป็นผีตำโขนใหญ่ ตอ้ งถอดเครอื่ งแตง่ กำยผตี ำ โขนใหญ่ออกให้หมดและนำไปทงิ ในแมน่ ำหมัน หำ้ มนำเขำ้ บำ้ น เป็นกำรทิงควำมทุกข์ยำกและสง่ิ เลวรำ้ ยไป และรอ จนถงึ ปหี น้ำจึงค่อยทำเลน่ กันใหม่

ประเพณผี ตี ำโขนชมุ ชน • ประเพณีผีตำโขนกับขนบธรรมเนียมประเพณีและ ศำสนำ จำกกำรท่ีชำวอำเภอดำ่ นซำ้ ยจะตอ้ งกระทำ พธิ กี รรมเกย่ี วกับองค์พระธำตศุ รสี องรัก และพิธกี รรม เกยี่ วกับวิญญำณผี เจำ้ นำย ทำใหไ้ ม่สำมำรถปฏบิ ตั ิ ตำมฮตี 12 อันได้แก่ ฮตี เดือน 4 บุญพระเวส ฮี ตเดอื น 5 บุญแหพ่ ระวนั สงกรำนต์ ฮตี เดือน 6 บญุ บังไฟ และฮตี เดอื น 7 บุญซำฮะ กำรละเลน่ ผตี ำโขน จึงมสี ่วนสง่ เสรมิ ใหน้ ำฮตี ทขี่ ำดไป มำจดั หลอมรวมเป็น บญุ เดยี วกันเรียกว่ำ บญุ หลวง โดยอำศัย ควำม สนุกสนำนช่วยผ่อนคลำยควำมตึงเครยี ด จงึ ทำใหบ้ ุญที่ เกดิ จำกกำรรวมกนั นีสำเร็จลลุ ว่ งด้วยดี ส่วนผลทีเ่ กิด กับศำสนำ มสี ่วนสง่ เสรมิ ให้ศำสนำเขำ้ มำมีอทิ ธิพลต่อ ชมุ ชน ในแงท่ ำงธรรมะและกำรปฏิบัตทิ ำงศำสนำ เสรมิ สร้ำงใหม้ ีกำรผสมผสำนกำรนบั ถอื พทุ ธศำสนำกบั ควำมเชื่อในวิญญำณของบรรพชนใหเ้ กิดกำรบรู ณำกำร เป็นอนั หน่ึงอนั เดียวกนั ทำใหช้ ุมชนไมม่ คี วำมขดั แย้ง ทังยงั เปน็ กลไกอยำ่ งหนึง่ ทีช่ ว่ ยควบคมุ สงั คมใหเ้ กิด ควำมสงบเรียบร้อย

ประเพณีผตี ำโขนชุมชน ต่อ. •ประเพณีผีตำโขนกับสงั คมวฒั นธรรม จำกกำรละเลน่ ผีตำ โขน ทีเ่ กิดจำกควำมเช่อื ในวญิ ญำณผเี จ้ำนำยอนั เปน็ ควำม เชื่อโดยกำรส่ังสมมำแต่สงั คมบุพกำล ได้ก่อใหเ้ กิดผลดแี ก่ สังคมอำเภอด่ำนซำ้ ยในทกุ ๆ ด้ำน เช่น กอ่ ให้เกิดกำร รวมกลุม่ กัน ทำให้ชุมชนมีบรรทัดฐำนและ ค่ำนิยมร่วมกนั รู้ว่ำคนในสงั คมมีสถำนภำพและบทบำททแ่ี ตกตำ่ งกัน และมี สว่ นในกำรอบรม ขดั เกลำจิตใจคนในสังคม ส่งผลให้ วัฒนธรรมไทด่ำนซำ้ ย เช่น ภำษำทอ้ งถนิ่ จำรีตประเพณี วถิ ีชีวติ ไม่เปลย่ี นแปลงสูญหำยไป ทำให้รจู้ ักรำกเหง้ำและ วฒั นธรรมของตนเอง และกอ่ ให้เกิดควำมภมู ิใจและผูกพัน กับทอ้ งถนิ่

ประเพณผี ตี ำโขนชมุ ชน ตอ่ . •ประเพณผี ตี ำโขนกบั เศรษฐกิจและกำรทอ่ งเทย่ี ว หลงั จำก ท่ไี ด้รับกำรบรรจุให้เขำ้ ในแผนกำรท่องเทย่ี วแหง่ ประเทศ ไทย กำรละเลน่ ผีตำโขน ได้ส่งผลทำงเศรษฐกจิ อยำ่ งสูง ตอ่ ชำวอำเภอด่ำนซ้ำย โดยทำใหเ้ กิดรำยไดจ้ ำกกำรจำ้ ง งำน กำรบริกำรอำหำรทีพ่ ักอำศยั กำรบรกิ ำรขนส่ง และ กำรจำหน่ำยสนิ คำ้ หตั ถกรรมพนื เมือง แตก่ ็มีขอ้ เสยี คือทำ ให้สนิ ค้ำและบรกิ ำรตำ่ งๆ ในเวลำตอ่ มำมีรำคำสูงขึน กว่ำเดมิ สว่ นในดำ้ นกำรท่องเท่ยี ว ได้ส่งผลใหเ้ กดิ กำร ท่องเท่ียวแบบ โฮมสเตย์ขนึ และยงั สนบั สนุนกำร ทอ่ งเทย่ี วในด้ำนอน่ื ๆ ท่วั ทังจังหวัดเลย

ประเพณผี ตี ำโขนชมุ ชน ตอ่ . •- เชน่ ทอ่ งเทยี่ วเชิงนิเวศที่ ภูเรอื ภหู ลวง ภกู ระดงึ กำรท่องเท่ียวทำงศลิ ปวัฒนธรรม เชน่ จิตรกรรมฝำผนงั วหิ ำรวัดโพธช์ิ ยั พระธำตุดินแทนอำเภอนำแห้ว พระธำตุ สัจจะอำเภอท่ำล่ี เปน็ ต้น ประเพณีผตี ำโขน เม่ือเป็นกำร ท่องเที่ยว อย่ำงไรก็ตำมแมจ้ ะมปี ระโยชนน์ ำนปั กำร แตก่ ม็ ี ผลเสยี คอื ก่อเกิดกำรเปล่ียนแปลงทำงวัฒนธรรมของ ท้องถิน่ มีควำมขดั แย้งระหว่ำงวัฒนธรรมท้องถนิ่ และ วัฒนธรรมกำรทอ่ งเที่ยว ทำให้ คำ่ นิยมของชำวอำเภอด่ำน ซ้ำยเจำ้ ของประเพณผี ตี ำโขนเกิดกำรเปลย่ี นแปลงตำมไป ดว้ ย

องค์ประกอบของผตี ำ โขน •องคป์ ระกอบทส่ี ำคัญของผีตำโขน •๑. หวดนึ่งขำ้ วเหนยี ว หักพับขึนทำเปน็ หมวก •๒. หนำ้ กำกผีตำโขน ซึง่ จะทำจำกส่วนโคนของ กำ้ นมะพรำ้ ว เจำะรูตำใหม้ องเห็นได้ ต่อจมกู เขียนปำก เขยี นสหี น้ำกำกใหน้ ่ำเกลยี ดนำ่ กลัว •๓. ผ้ำเกำ่ ๆ ซ่ึงจะเยบ็ ต่อจำกหน้ำกำกผีตำโขน มำคลมุ ร่ำงของผ้เู ล่นให้มิดชดิ •๔. อำวุธ เปน็ ดำบทท่ี ำจำกไมเ้ นอื อ่อน หรอื ทำงมะพรำ้ ว ส่วนดำ้ มมักจะทำเปน็ รปู อวัยวะเพศชำย •๕. เคร่ืองดนตรีท่ที ำให้เกดิ เสียงดัง ผตี ำโขนทกุ ตวั จะมี หมำกกะแหลง่ หรอื กระป๋องแขวนไวท้ เ่ี อว เวลำเดนิ จะทำ ให้เกดิ เสยี งดัง •จดุ ประสงค์ของกำรเลน่ ผตี ำโขน

องคป์ ระกอบของผีตำ โขน ตอ่ . •จุดประสงค์ของกำรเล่นผีตำโขนของชำวอำเภอดำ่ นซ้ำย จงั หวัดเลย มีจดุ ประสงค์ ดังนี •๑. เลน่ เพรำะเปน็ ประเพณี และเป็นกำรเลน่ เพอ่ื ถวย (ถวำย) เจ้ำนำย (ผีบรรพบุรษุ ทเ่ี คยเปน็ ผมู้ ีอำนำจสงู สดุ ในเมืองดำ่ นซ้ำย) เนอ่ื งจำกชำวบ้ำนเชอ่ื ว่ำ กำรเล่นผตี ำโขนเป็นควำมประสงคข์ องเจำ้ นำย หำกไม่ ปฏบิ ัติตำมก็จะถือวำ่ เปน็ กำรทำผิดประเพณี และจะทำให้ เจำ้ นำยไม่พอใจ ซึ่งจะทำให้เกิดควำม เดือดรอ้ นและเกิดภยั พบิ ัตติ ่ำง ๆ แก่สังคมได้ •๒. เล่นเพอื่ เปน็ กำรแห่พระเวสสันดรเขำ้ เมือง •๓. เล่นเพ่ือเปน็ กำรแหบ่ ังไฟและเพ่ือขอฝน •๔. เลน่ เพอื่ ควำมสนกุ เพลิดเพลิน มกี ำรเลน่ กระเซำ้ เยำ้ แหย่ประชำชนทวั่ ไปและเดก็ ๆ ให้เกดิ ควำมกลัวเปน็ ที่ สนุกสนำน โดยเฉพำะเดก็ วัยรุ่นอำจจะมี ควำมอำยในกำรแสดง กำรละเลน่ ตำ่ ง ๆ เมื่อสวมหน้ำกำก แล้วจะไมม่ ีใครจำได้ จงึ กลำ้ ท่ีจะแสดงออกไดอ้ ยำ่ งเต็มท่ี

องคป์ ระกอบของผีตำ โขน ต่อ. •๕. เลน่ เพอ่ื ขอแผ่ของ (ขอรับบรจิ ำค) โดยท่ใี นสมัยก่อน กำรคมนำคมลำบำกเม่ือมีกำรจดั งำนประเพณีบญุ หลวง จะ มีประชำชนจำกถน่ิ อนื่ มำรว่ มในงำนดว้ ย ฉะนันเจ้ำภำพจะต้องเตรียมหำอำหำร หมำกพลู เหลำ้ ยำ ไว้คอยตอ้ นรับแขกท่จี ะมำในงำน จึงต้องมกี ำรออกไป ขอรบั บริจำคส่ิงของเหล่ำนี มำไวท้ ี่วัด หรอื คมุ้ บำ้ นของเจ้ำภำพ แตเ่ น่อื งจำกผู้ทอ่ี อกไปขอรับบรจิ ำค อำจจะเกิดควำมอำย ซ่งึ โดยเฉพำะพวกวัยรุ่น จงึ ได้ แต่งตัวสวมหน้ำกำกผตี ำโขนออกไปขอรับบริจำค

ผตี ำโขนใหญ่ •ผตี ำโขนใหญ่ ทำเป็นหุ่นรูปผที ำจำกไมไ้ ผ่สำนมีขนำดใหญ่กวำ่ คนธรรมดำ ประมำณ 2 เทำ่ ประดับตกแตง่ รูปรำ่ งหน้ำตำดว้ ยเศษ วสั ดุท่ีหำได้ในท้องถน่ิ เวลำแห่ คนเลน่ จะต้องเขำ้ ไปอยขู่ ำ้ ง ในตัวหุ่น แตล่ ะปีจะทำผตี ำโขนใหญ่เพียง 2 ตัวผีตำโขน ชำย1ตวั หญงิ 1ตวั สังเกตจำกเครื่องเพศปรำกฏชดั เจนท่ี ตัวหนุ่ ผ้มู หี น้ำที่ทำผีตำโขนใหญจ่ ะมเี ฉพำะกลมุ่ เท่ำนัน คน อืน่ ไมม่ ีสทิ ธทิ์ ำตอ้ งไดร้ บั อนญุ ำตจำกผหี รอื เจ้ำกอ่ นซงึ่ ต้อง ทำทุกปีหรือทำตดิ ตอ่ กนั อยำ่ งนอ้ ยเปน็ เวลำ3ปี

ผตี ำโขนเล็ก •ผตี ำโขนเลก็ ทกุ คนไม่วำ่ เดก็ ผใู้ หญ่ หญงิ หรอื ชำย มีสิทธท์ิ ำและเขำ้ รว่ ม สนกุ ไดท้ กุ คน แตผ่ หู้ ญงิ ไม่คอ่ ยเข้ำรว่ มเพรำะเปน็ กำรเลน่ ค่อนข้ำงผำดโผนและซุกซน

หมำกกะแหลง่ •หมำกกะแหลง่ คอื เครอ่ื งดนตรีรูปร่ำงคลำ้ ยกระดงิ่ หรอื กระดงึ แขวนคอวัว ผตี ำโขนจะใชห้ มำกกะแหลง่ แขวนติด บนั เอวเมอ่ื เดนิ โยกตัวหรอื เต้นเป็นจงั หวะ ขยม่ ตวั สำย สะโพกเสยี งหมำกกะแหลง่ กจ็ ะดังเสียงน่ำฟงั และนำ่ สนกุ สนำน

ดำบไม้ • ดำบไม้ เป็นอำวธุ ประจำกำยผตี ำโขนไมไ่ ดเ้ อำไว้รบ กนั แตเ่ อำไวค้ วงหลอกลอ่ และไล่จิมกน้ สำวๆ ซึ่งกจ็ ะ ร้องว๊ดิ วำ้ ยหนีกันจ้ำละหว่นั ทงั อำยทงั ขำ แตไ่ มม่ ใี ครถอื สำ เพรำะเปน็ ประเพณที ่ีปฏิบัตกิ นั มำ เหตุท่ีว่งิ หนเี พรำะปลำย ดำบนนั แกะสลกั เปน็ รูปอวัยวะเพศชำยแถมทำสีแดงใหเ้ หน็ อยำ่ งเด่นชดั กำรเลน่ แบบนไี มถ่ อื เป็นเร่อื งหยำบ หรือ ลำมกเพรำะมีควำมเชอ่ื กนั วำ่ หำกเล่นตลกและนำอวัยวะเพศ ชำยหญงิ มำเลน่ มำโชวใ์ นพธิ ีแหแ่ ละงำนบุญบังไฟจะทำให้ พญำแถนพอใจ ฝนจะตกตอ้ งตำมฤดกู ำล พืชพันธุ์ ธัญญำหำรจะอุดมสมบูรณ์

ขอจบการนาเสนอคะ่


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook