ประวัติศาสตร์โลกตะวันตกสมัยโบราณ

มรดกทางอารยธรรมของกรีก (7) นบั ถือเทพเจ้าหลายองค์ อพอลโล เทพเจ้าดวงอาทติ ย์ ซีอสุ หรอื ซสุ เทพเจ้าสงู สดุ เฮร่า เทพเจ้าแห่งสตรี โพไซดอน เทพเจ้าท้องทะเล

อารยธรรมโรมนั

แหลง่ กา้ เนดิ ของอารยธรรมโรมัน คอื คาบสมทุ รอติ าลที างตอนใตข้ องทวปี ยโุ รป จากหลกั ฐานทางประวัตศิ าสตร์และ โบราณคดที า้ ใหเ้ ชือ่ ว่า กรงุ โรมแต่เดิม มีชนพนื เมืองอาศัยอยูก่ อ่ นแลว้ เรยี กว่า ชาวละตนิ (Latin) ซ่งึ เปน็ บรรพบุรษุ ของชาวโรมนั ต่อมามีชนเผ่าอที รสั กนั เข้ามารุกราน และครอบครองดินแดน ชาวอีทรัสกัน ยอมรบั อารยธรรมกรกี และนา้ เขา้ มา เผยแพร่ในแหลมอิตาลี

สมยั สาธารณรฐั ระยะแรกๆ โรมมีการปกครองระบบ King จนกระท่ังเมอื่ 509 ปกี ่อนคริสตศ์ กั ราช พวกชนชันสงู ซง่ึ เป็นชาวละตนิ ไดข้ บั ไลอ่ า้ นาจ King ซง่ึ เป็นชาวอที รัสกันออกจากบลั ลังก์ และเปลย่ี นการปกครองโรม ให้เปน็ สาธารณรฐั เกดิ ความขดั แยง้ ทางการเมอื งระหวา่ ง กลมุ่ คน 2 ชนชัน คอื ชนชันสงู เรยี กวา่ พวกพาทรีเชยี น ราษฎรสามัญชน เรียกว่า พวกเพลเบยี น เปน็ กลุ่มชนทไ่ี ม่มีสิทธิทางการเมือง แต่พยายามขอเขา้ มามีสว่ นรว่ มในการปกครอง

ชัยชนะของราษฎรสามัญชน เมือ่ ประมาณ 494 ปกี อ่ นคริสตศ์ ักราช ข้อเรยี กรอ้ งของ พวกเพลเบียนหรือกลมุ่ ราษฎรประสบผลสา้ เรจ็ พวกเพลเบยี นมสี ทิ ธิออกกฎหมายร่วมกับพวก พาทรีเชียนได้ ท้าให้เกิดประมวลกฎหมายท่ี เปน็ ลายลักษณอ์ ักษรของโรมนั เรียกวา่ กฎหมายสบิ สองโตะ๊ กฎหมายสบิ สองโต๊ะ ประกอบด้วยมาตราตา่ งๆ จารึกลงบนแผน่ โลหะสา้ รดิ 12 แผน่ ความสา้ คัญของกฎหมายฉบับนคี ือ ชาวโรมนั ทกุ คนทงั ชนชนั สงู และราษฎรสามญั ชน ตอ้ งอยู่ภายใตก้ ฎหมายเดียวกัน

โรมนั ขยายอ้านาจ ระหว่าง 264-146 ปีกอ่ นคริสต์ศกั ราช เกดิ สงครามพวิ นิก กองทัพโรมนั ท้าสงครามกับชนชาตฟิ นิ ิเชีย ซง่ึ ปกครองอาณาจกั รคาเทจ ทางตอนเหนอื ของทวปี แอฟรกิ าร โรมนั ชนะ ต่อมาโรมันขยายอา้ นาจ ครอบครองดินแดนต่างๆ รวมทังผูกขาดอ้านาจ ทางการค้าในทะเล เมดเิ ตอรเ์ รเนยี น กลายเปน็ รฐั ทม่ี อี ้านาจ และความมั่งคัง่ มาก ทส่ี ดุ ในสมยั นัน

สมยั จักรวรรดิ เกดิ การแย่งชิงอ้านาจระหวา่ งชนชันปกครอง กับนายทหาร โดยออคตาเวยี นสามารถปราบ มาร์ค แอนโทนลี งได้ ท้าใหเ้ ขากลายเปน็ ผู้มี อา้ นาจสงู สุดในโรม ออคตาเวียนไดร้ บั สมญานามออกัสตัส สภาโรมนั ยกย่องใหเ้ ขาเปน็ จักรพรรดิ หรือซซี าร์องคแ์ รกของจักรวรรดิ โรมนั เจริญสูงสดุ และมีอิทธพิ ลไปทัว่ ยโุ รป ประติมากรรมรูปจกั รพรรดิออกสั ตสั

สมยั จักรพรรดอิ อกสั ตสั จกั รวรรดิโรมันเจริญรุ่งเรืองสูงสุด มีดนิ แดนกว้างใหญ่ไพศาล มีการสร้างถนนเชอื่ มกับดนิ แดนในจกั รวรรดิ เพ่อื ขนส่งสินคา้ เสบียงอาหาร และเคลอื่ น ก้าลงั ทหาร เป็นปจั จยั ส้าคัญท้าให้อารยธรรม โรมัน ได้เผยแพร่ไปยงั ดินแดนทวปี ยุโรป เอเชยี และแอฟริกา ระหวา่ ง ค.ศ. 96-180 เปน็ สมยั ท่เี รียกวา่ สันติภาพแหง่ โรม (Pax Romana) พลเมอื งพดู ภาษาเดียวกนั คือภาษาละตนิ อยู่ภายใตก้ ฎหมายเดียวกนั และจกั รพรรดิ องคเ์ ดยี วกัน

ในสมยั จักรพรรดิคอนสแตนติน ทรงยอมรับ คริสตศ์ าสนาเป็นศาสนาประจา้ จกั รวรรดิ ทรงสร้างกรุงคอนสแตนติโนเปิล ต่อมาเรยี กว่า จกั รวรรดโิ รมันตะวันออก หรอื จักรวรรดิ ไบแซนไทน์ ปลายสมยั โรมนั เผชญิ กบั ปญั หาภายใน โรมนั ตะวันตกถกู อนารยชนเข้าปลน้ สะดม จักรพรรดถิ ูกขบั ออกจากบัลลังก์ ถอื เป็นการสินสดุ จักรวรรดิโรมันตะวันตก และประวตั ิศาสตร์สมยั โบราณ สว่ นจกั รวรรดโิ รมันตะวันออกยังมีจักรพรรดิ ปกครองต่อมาจนถกู พวกเติรก์ รกุ ราน และถูกรวมเขา้ เปน็ ส่วนหนงึ่ ของจกั รวรรดอิ อตโตมนั ประตมิ ากรรมรูปพระเศยี รจกั รพรรดิคอนสแตนตนิ

มรดกของอารยธรรมโรมนั (1) โคลอสเซียม สถาปตั ยกรรม เนน้ ความใหญ่โต แข็งแรง ไม่นยิ มสรา้ งศาสนสถาน หรอื วหิ ารบูชาเทพเจา้ อย่างกรกี ดดั แปลง สถาปตั ยกรรมจากกรีก เช่น ใชป้ ระตโู คง้ ใชห้ ลงั คาโดม แท่นจวั่ สิ่งก่อสรา้ งสว่ นใหญ่ ม่งุ ให้เกดิ ประโยชน์ สนองความตอ้ งการของ ประชาชน สถานท่ีส้าคญั เช่น โคลอสเซียม วหิ ารแพนธอี อน ท่ีอาบนา้ สาธารณะ วิหารแพนธีออน

มรดกของอารยธรรมโรมนั (2) วศิ วกรรม สรา้ งถนนคอนกรีต สองข้างทาง ถนนมีท่อระบายนา้ และมีหลัก บอกระยะทาง และสร้างสะพาน สง่ นา้ จากภเู ขาไปยงั เมือง

มรดกของอารยธรรมโรมัน (3) ประตมิ ากรรม ดัดแปลงมาจากกรีก เนน้ ความสมจรงิ เช่น ภาพแกะสลกั คร่งึ ทอ่ นบน และภาพสลักนนู ตา้่ การแพทย์ รเิ ร่มิ การท้าคลอดหนา้ ทอ้ ง และการใชย้ าสลบ ก่อนผ่าตดั

มรดกของอารยธรรมโรมัน (4) วรรณกรรม มหากาพยเ์ รอ่ื ง อิเนียด ประพันธ์โดย เวอรจ์ ลิ กล่าวถงึ ประวัติความเปน็ มาของกรุงโรม โดยสอดแทรกคตสิ อนใจให้ชาวโรมนั ส้านึก ในหน้าที่ของพลเมอื งทม่ี ีต่อจักรวรรดิ และมีความจงรกั ภกั ดตี อ่ จกั รวรรดิ งานประพันธ์รอ้ ยแกว้ ของซิเซโร ใช้ส้านวนโวหาร เสียดสแี ละประชดประชนั ชนชนั ปกครองในดา้ น ศลี ธรรมจรรยาและการใชอ้ า้ นาจรฐั ทไี่ มเ่ ป็นธรรม

มรดกของอารยธรรมโรมัน (5) ปฏทิ ิน จเู ลยี ส ซีซาร์ เปน็ แม่ทพั โรมนั ทีย่ ่ิงใหญ่ ไดป้ ระกาศใหใ้ ช้ปฏทิ นิ แบบสรุ ิยคติ เรียกว่า ปฏิทินจเู ลยี น โดยปหี นงึ่ มี 12 เดือน แตล่ ะปมี ี 365 วัน และทกุ 4 ปี ให้เพมิ่ วนั ในเดอื นกมุ ภาพนั ธ์ อีก 1 วนั ท้าให้เปน็ ปที ี่มี 366 วัน