การสือ่ สารขอ้ มลู และเครอื ขา่ ย หน่วยท่ี 1 การสือ่ สารขอ้ มูลและเครอื ข่ายจดั ทาโดยนางสาวสกุ ญั ญา แชม่ มากปวส. 2 คอมพิวเตอรธ์ ุรกจิ ม.6
การสือ่ สารขอ้ มูลและเครอื ข่ายคอมพิวเตอรเ์ บ้ืองต้น หมายถึง หลักการเบ้อื งต้นของการส่อื สารข้อมลู จงึ เป็นการทางานร่วมกันอยา่ งมปี ระสิทธิภาพระหวา่ งผู้ส่ง ข้อมูลขา่ วสาร สื่อกลางหรือชอ่ งทางการส่ือสารและผรู้ ับ เพ่ือให้ผรู้ บั รับรขู้ ้อมูลข่าวสารถูกต้องและเกิดความเข้าใจตรงกนั กบั ผสู้ ง่ นน้ั เอง1.1 ความรู้เบอื้ งตน้ เก่ียวกับเครือข่าย เครือข่ายคอมพวิ เตอร์เป็นการนาเคร่ืองคอมพิวเตอร์มาเช่อื มโยงเข้าดว้ ยกัน โดยอาศัยสือ่ กลางหรือช่องทางการสื่อสารข้อมลู เพอ่ื แลกเปล่ยี นข้อมูลขา่ วสารระหว่างเครอ่ื งคอมพิวเตอร์และใช้ทรัพยากรของระบบ ได้แก่ อปุ กรณ์คอมพิวเตอร์ชนดิ ต่างๆ ร่วมกนั โดยมอี งคป์ ระกอบดังนี้1.คอมพิวเตอรแ์ ม่ข่าย- เป็นคอมพวิ เตอรท์ ่ีทาหน้าท่เี ปน็ ผูใ้ หบ้ รกิ ารทรัพยากรตา่ งๆ เชน่ ซอฟต์แวร์ ขอ้ มลู เป็นต้น2.ชอ่ งทางการส่ือสาร- เปน็ ส่อื กลางหรือเส้นทางทีใ่ ชเ้ ป็นทางผา่ นในการรับ-สง่ ขอ้ มูล ระหว่างผู้รับและผู้สง่ ข้อมูล ซ่งึ มีหลายประเภท เชน่ สายโทรศัพท์ แบบสายบดิ คตู่ เี กลียวชนดิ มฉี นวนห้มุ และไม่มฉี นวนหมุ้ สายโคแอก็ เซยี ล เสน้ ใยแก้วนาแสง เป็นตน้3.สถานีงาน- เป็นอปุ กรณห์ รือเคร่ืองคอมพิวเตอร์ต้ังโต๊ะท่เี ช่ือมต่อกับเครือข่ายคอมพวิ เตอร์ ทาหน้าท่ีเป็นสถานปี ลายทางหรอื สถานงี าน ที่ได้รบั บริการจากเคร่อื งคอมพวิ เตอรแ์ มข่ ่ายหรือเรียกได้ว่าเครื่องลูกข่าย ทม่ี ีทง้ั แบบมหี นว่ ยประมวลผลของตนเอง ซึ่งประกอบด้วยจอภาพ และแผงแป้นอักขระ4.อุปกรณส์ ื่อสารระหว่างเชื่อมโยงเครือขา่ ยคอมพิวเตอร์- เปน็ อุปกรณส์ าหรบั เชอ่ื มโยงเครอื ข่ายชนดิ เดยี วกนั และต่างชนดิ เข้าด้วยกนั เพ่ือทาการรบั ส่งขอ้ มลู ข่าวสารเชน่ เครือข่าย1.2 ความหมายของเครอื ขา่ ยและการสอื่ สารระบบเครอื ขา่ ย คอื ระบบท่ีมีการนาคอมพิวเตอร์อย่างน้อยสองเครื่องมาเชื่อมต่อกัน โดยใช้ส่ือกลาง เพื่อใช้ในการส่ือสารข้อมูลถึงกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งทาให้ผู้ใช้คอมพิวเตอร์แต่ละเคร่ืองสามารถใช้แลกเปล่ียนข้อมูลซง่ึ กันและกันได้ นอกจากนย้ี งั สามารถใชท้ รพั ยากรร่วมกนั ทาใหป้ ระหยัดทรัพยากรในการใช้งานเชน่ printer, harddisk, CD ROM, Scanner เป็นตน้
การสอ่ื สารขอ้ มูล หมายถึง การแลกเปล่ียนข้อมูลขา่ วสารจากผูส้ ่ง ผ่านส่อื กลางไปยังผู้รับการส่ือสารข้อมลู จึงประกอบไปด้วยส่วนสาคัญ 4 ส่วนดังนี้ 1. ผสู้ ่ง - เป็นส่งิ หน้าทสี่ ่งข้อมูลขา่ วสารออกไปยังจุดหมายปลายทางทตี่ อ้ งการ ซึ่งอาจเปน็ บุคคลหรืออุปกรณ์ เชน่ เครื่องคอมพิวเตอร์ โทรศพั ท์ เปน็ ตน้ 2. ข้อมูลข่าวสาร - เปน็ ส่ิงทผ่ี ู้ส่งตอ้ งการสง่ ไปให้ผรู้ ับทอ่ี ยปู่ ลายทางซ่งึ อาจเป็นเสียง ข้อความหรือภาพ เพือ่ ส่ือสารให้เกดิ ความเขา้ ใจตรงกนั 3. ส่อื กลาง หรือช่องทางการส่อื สาร - เปน็ สิ่งท่ชี ว่ ยใหข้ อ้ มลู ข่าวสารเดนิ ทางจากผ้สู ่งไปยงั ผู้รบั ไดโ้ ดยสะดวก ซ่ึงมหี มายรูปแบบ ดังน้ี - สายสญั ญาณชนิดต่างๆ เชน่ สายโทรศัพท์ สายเคเบลิ เสน้ ใยแก้วนาแสง เปน็ ตน้ - คลืน่ สัญญาณชนิดตา่ งๆ เช่น คล่ืนวทิ ยุ คล่นื ไมโครเวฟ คลน่ื แสง คลืน่ อินฟาเรด เป็นต้น - อุปกรณ์เสริมชนิดต่างๆ เชน่ เสาอากาศวิทยุ เสาอากาศโทรทศั น์ ดาวเทียม เปน็ ตน้ 4. ผูร้ ับ - เป็นสงิ่ ทีท่ าหนา้ ทร่ี ับข้อมลู ขา่ วสารจากผู้สง่ ซงึ่ ผ่านสอื่ กลางชนดิ ตา่ งๆ เช่น เครื่องคอมพวิ เตอร์โทรศัพท์ วทิ ยุ เป็นต้น 1.3 ส่วนประกอบของระบบส่ือสารขอ้ มูล องค์ประกอบขั้นพน้ื ฐานของระบบสอ่ื สารโทรคมนาคม สามารถจาแนกออกเป็นสว่ นประกอบได้ดงั ตอ่ ไปนี้ ผู้สง่ ขา่ วสารหรือแหล่งกาเนดิ ข่าวสาร (Source) อาจจะเป็นสัญญาณตา่ ง ๆ เชน่ สญั ญาณภาพข้อมลู และเสยี งเป็นต้น ในการติดต่อสื่อสารสมัยกอ่ นอาจจะใชแ้ สงไฟ ควนั ไฟ หรือทา่ ทางต่าง ๆ กน็ บั วา่ เปน็แหล่งกาเนิดข่าวสาร จัดอย่ใู นหมวดหมนู่ เี้ ชน่ กัน ผู้รับขา่ วสารหรือจุดหมายปลายทางของข่าวสาร (Destination) ซ่ึงจะรับรจู้ ากสง่ิ ที่ผู้สง่ ขา่ วสารหรือแหลง่ กาเนิดข่าวสารส่งผา่ นมาให้ ตราบใดที่ การตดิ ต่อส่อื สารบรรลุวัตถปุ ระสงค์ ผูร้ ับสารหรือจดุ หมายปลายทางของขา่ วสารก็จะได้รับขา่ วสารนน้ั ๆ ถ้าผูร้ ับสารหรอื จดุ หมายปลายทางไม่ได้รับข่าวสาร กแ็ สดงว่าการส่ือสารน้ันไมป่ ระสบความสาเร็จ กล่าวคอื ไม่มกี ารส่อื สารเกิดข้นึ นั่นเอง
1.4 การใช้เทคโนโลยีการส่ือสาร การสอ่ื สารข้อมลู และเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ในยุคปจั จุบัน ไดต้ ะหนักถงึ ความสาคัญในการนาเทคโนโลยคี มนาคมและการสอื่ สารมาชว่ ยงานเพ่ือเพ่มิ ประสทิ ธิภาพของการดาเนินงาน ซึง้ การประยกุ ต์เทคโนโลยีการสอ่ื สารในองค์การมีดังนี้ ไปรษณียอ์ ิเลก็ ทรอนกิ ส์ การใช้อปุ กรณ์อิเล็กทรอนกิ ส์ เช่น โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ และพีดเี อ ส่งขอ้ ความอิเล็กทรอนิกส์ไปยังบุคคลอน่ื โดยการสื่อสารน้บี คุ คลทที่ าการสอื่ สารจะต้องมชี ่อื และที่อย่ใู นรูปแบบอีเมล์ แอดเดรส โทรสาร (Facsimile หรอื Fax) เปน็ การสง่ ข้อมูล ซง่ึ อาจเปน็ ข้อความท่ีเขยี นข้ึนด้วยมือหรือการพิมพ์ รูปภาพ หรอื กราฟตา่ งๆ จากเครอื่ งคอมพวิ เตอรแ์ ละอปุ กรณอ์ ิเลก็ ทรอนิกส์อ่นื ๆ ท่ีมอี ุปกรณท์ ่ีเรยี กว่าแฟกซ์-โมเด็มไปยังเครือ่ งรับโทรสารการส่งข้อความในลักษณะนี้ช่วยประหยัดค่าใชจ้ ่ายและมปี ระสทิ ธิภาพสงู กว่าการ ส่งขอ้ มูลผา่ นเครือ่ งโทรสารธรรมดา เป็นระบบระบุลักษณะของวตั ถดุ ว้ ยคลืน่ ความถีว่ ิทยุ ปจั จุบันมกี ารนา RFID ไปประยุกตใ์ ชง้ านหลากหลายประเภท เชน่ หว่ งโซอ่ ุปทาน ระบบโลจสิ ติกส์การตรวจสอบฉลากยา การใช้ในฟาร์มเล้ยี งสกุ ร บตั รทางด่วน บตั รรถไฟฟ้าใต้ดนิ ระบบหนังสือเดนิ ทางอเิ ล็กทรอนิกส์ 1.5 ประโยชน์ของเครือข่ายคอมพิวเตอร์1.เกดิ การใช้ฐานข้อมลู ร่วมกนั - โดยในเครอื ขา่ ยจะมเี ครอ่ื งใหบ้ ริการข้อมลู ข่าวสาร เพื่อให้ผใู้ ช้บรกิ ารขอดูขอ้ มูล และปรบั ปรงุ ขอ้ มูลได้ทนั ที2.เกดิ การแบ่งปันทรัพยากรในเครือข่าย - โดยผใู้ ช้ฐานข้อมลู รว่ มกัน สามารถใชอ้ ปุ กรณ์ เช่น เคร่ืองพมิ พ์ โทรสาร ฮาร์ดดสิ ก์ โมเดม็ เคร่ืองกราดตรวจรว่ มกนั ได้ จึงเปน็ การประหยัดค่าใชจ้ า่ ยในการซ้ืออุปกรณส์ านกั งานไดอ้ ีกทางหน่ึง3.เกิดการติดต่อสื่อสารและแลกเปล่ยี นขอ้ มลู กันในเครือขา่ ย - โดยเมอ่ื ผู้ใช้เชอื่ มต่อเครอื ข่ายอนิ เทอร์เนต็ จะสามารถฝากความคิดเหน็ หรอื คาถาม คาตอบ ไวบนกระดานสนทนาสง่ ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกสถ์ งึ กนั สนทนาผ่านซอฟต์แวรต์ ่างๆ ประชุมทางไกล เรียนทางไกลโอนยา้ ยขอ้ มูล โอนเงนิ ตดิ ต่อธุรกจิ และส่งั ซอื้ สนิ ค้าผ่านเว็บไซต์ได้4.ชว่ ยลดปรมิ าณการใช้ขยะในหนอ่ ยงาน - โดยเมื่อใชค้ อมพิวเตอรท์ างานเกย่ี วกับเอกสาร และสื่อประสมตา่ งๆ รวมท้ังรบั -ส่งขอ้ มูลผา่ นเครือข่ายภายในหน่วยงาน จะชว่ ยลดปริมาณการใชก้ ระดาษและค่าใชจ้ ่ายในการซอิ้ กระดาษ
5.ช่วยประหยดั เวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง - โดยเม่ือใช้คอมพิวเตอร์ซงึ่ เชือ่ มต่อกบั เครือข่ายอินเทอรเ์ นต็ ติดต่อสื่อสารถงึ กนั ได้ผ่านไปรษณีย์อเิ ล็กทรอนกิ ส์ หรอื ซอฟต์แวร์สนทนา และ สบื คน้ ข้อมูลต่างๆ จะช่วยประหยัดเวลาและคา่ ใช้จ่ายในการเดนิ ทางไดม้ าก 1.6 การสื่อสารโทรคมนาคม โทรคมนาคม (Telecommunication) หมายถงึ การติดต่อส่ือสารระหว่างกนั ในระยะทางไกล ๆ โดยอาศยั ช่องทางการสื่อสารเหมือนกับการสือ่ สารข้อมูล แตส่ ามารถสง่ ได้ทั้งข้อมลู (Data) และเสียงพดู (Voice) เนอ่ื งจาก ความเจรญิ ก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการสื่อสาร ทาให้มนษุ ย์ในปจั จบุ ันสามารถติดต่อสือ่ สารถึงกันได้แมว้ า่ จะอยหู่ า่ งไกลกัน แคไ่ หนก็ตาม จึงก่อใหเ้ กิดการประยกุ ต์ใช้เทคโนโลยีน้กี ับธุรกจิ เพือ่ สร้างทางเลือกการตดั สินใจและอานวยความสะดวกในการดาเนินธุรกจิ มากยิ่ง ขน้ึ ดังน้ันผู้อา่ นจึงควรทราบแนวโน้มทเ่ี กดิ ข้นึ กบั การส่ือสารโทรคมนาคม โดยแบ่งออกเปน็ 3 ดา้ น ได้แก่ แนวโน้มดา้ นอุตสาหกรรมการสื่อสาร แนวโนม้ ด้านเทคโนโลยีการส่ือสารและแนวโนม้ ด้านแอปพลเิ คชนั่ ธรุ กจิ 1.7 เครือขา่ ยไร้สายมาตรฐาน IEEE 802.11 มีข้อกาหนดว่า “ผลิตภัณฑ์เครือข่ายไรส้ ายในส่วนของ PHY Layer นน้ั มคี วามสามารถในการรับสง่ ข้อมูลที่ความเรว็ 1, 2, 5.5, 11 และ 54 เมกะบิตตอ่ วินาที โดยมีสือ่ นาสัญญาณ 3 ประเภทให้เลือกใช้งาน ได้แก่ คลืน่ วทิ ยุย่านความถ่ี 2.4 กิกะเฮิรตซ์, 2.5 กกิ ะเฮริ ตซ์และคลื่นอนิ ฟาเรด สว่ นในระดับชัน้ MAC Layer นั้นได้กาหนดกลไกของการทางานแบบ CSMA/CA (Carrier Sense MultipleAccess/Collision Avoidance)ซ่ึงมคี วามคล้ายคลึงกบั CSMA/CD (Collision Detection) ของมาตรฐานIEEE 802.3 Ethernet ซงึ่ นิยมใช้งานบนระบบเครือข่ายแลนใชส้ าย โดยมกี ลไกในการเข้ารหสั ข้อมูลก่อนแพรก่ ระจายสัญญาณไปบนอากาศ พร้อมกับมีการตรวจสอบผใู้ ชง้ านอีกด้วย” มาตรฐาน IEEE 802.11 ในยุคเรมิ่ แรกนนั้ ใหป้ ระสิทธภิ าพการทางานที่ค่อนข้างตา่ ทั้งไมม่ กี ารรับรองคณุ ภาพของการใหบ้ ริการทเี่ รียกวา่ QoS (Quality of Service) ซ่งึ มคี วามสาคัญในสภาพแวดลอ้ มทมี่ ีแอพพลิเคชันหลากหลายประเภทให้ใช้งาน นอกจากนน้ั กลไกในเรื่องการรักษาความปลอดภัยทน่ี ามาใชก้ ็ยังมชี ่องโหวจ่ านวนมาก IEEE จึงไดจ้ ดั ตั้งคณะทางานขึน้ มาหลายชุดดว้ ยกัน เพ่ือทาการพัฒนาและปรบั ปรงุ มาตรฐานให้มีศกั ยภาพเพ่ิมสูงข้ึน
Search
Read the Text Version
- 1 - 5
Pages: