หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

หน่วยท่ี ๘ หลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ ของพอเพยี ง

หน่วยที่ ๘ หลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง หัวข้อศึกษา แนวคดิ ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ความเป็ นมาของปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง พระราชดารัสเกย่ี วกบั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง องค์ประกอบของปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง การน้อมนาปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งสู่การปฏิบัิั ิ

ความเป็ นมาของปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง

ความเป็ นมาของปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง เกดิ จากพระราชดาริของพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัวทรง ชี้แนะแนวทางการดาเนินชีวติ แก่พสกนิกรชาวไทยมาโดย ตลอดนานกว่า ๓๕ ปี ต้ังแต่ก่อนเกดิ วกิ ฤตการณ์ทาง เศรษฐกจิ และเมื่อภายหลงั ได้ทรงเน้นยา้ แนวทางการแก้ไข เพ่ือให้รอดพ้น และสามารถดารงอยู่ได้อย่างมน่ั คงและยง่ั ยืน ภายใต้กระแสโลกาภวิ ตั น์และความเปลย่ี นแปลงต่างๆ

ความเป็ นมาของปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัวทรงยดึ หลกั การทรงงานในลกั ษณะ เน้นการพฒั นา “คน” ด้วยปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งโดยไม่ ทรงเลือกว่าเขาเหล่าน้ันเป็ นใครจึงมไิ ด้มีแต่เพยี งปวงชนชาวไทย เท่าน้ันที่ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอนั หาทเี่ ปรียบมไิ ด้ แต่ยงั เป็ นที่ประจกั ษ์แก่นานาประเทศทั่วโลกต่างยกย่องสรรเสริญพระ เกยี รตคิ ุณและได้น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายรางวลั เกยี รติคุณ มากมาย

ความเป็ นมาของปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง เม่ือวนั ที่ ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๔๙ นายโคฟี อนั นัน เลขาธิการองค์กร สหประชาชาติ ได้ขอพระราชทานวโรกาสเข้าเฝ้าและทูลเกล้า ทูลกระหม่อมถวายเหรียญ “Lifetime Achievement Award on Human Development” ซึ่งเป็ นรางวลั ความสาเร็จสูงสุดด้านการ พฒั นามนุษย์ และกราบบังคมทูลว่า “ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ไม่ได้เป็ นประโยชน์เฉพาะกบั ประเทศไทยแต่เป็ นประโยชน์กบั ทุก ประเทศท่ีต้องการสร้างความเข้มแขง็ อย่างย่ังยืน”

ความเป็ นมาของปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง นอกจากนี้ สานักงานโครงการพฒั นาแห่งสหประชาชาตปิ ระจา ประเทศไทย (UNDP)ได้จดั ทารายงานการพฒั นาคนของประเทศ ไทยปี ๒๕๕๐ เร่ือง “เศรษฐกจิ พอเพยี งกบั การพฒั นาคน” และ เผยแพร่ ไปท่ัวโลก เพื่อเทิดพระเกยี รติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสมหามงคลสมัยทรงครองสิริราชสมบัตคิ รบ ๖๐ ปี

พระราชดารัสเกยี่ วกบั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง

พระราชดารัสเกยี่ วกบั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง “...เศรษฐกจิ พอเพยี ง เป็ นเสมือนรากฐานของชีวติ รากฐานความมั่นคงของแผ่นดนิ เปรียบเสมือนเสาเขม็ ทถ่ี ูกตอกรองรับบ้านเรือนตวั อาคารไว้นั่นเอง ส่ิงก่อสร้างจะมนั่ คงได้กอ็ ยู่ทเี่ สาเขม็ แต่ คนส่ วนมากมองไม่เห็นเสาเขม็ และลืมเสาเขม็ เสียด้วยซ้าไป...” พระราชดารัสจากวารสารชัยพฒั นา

พระราชดารัสเกย่ี วกบั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง “...ความพอเพยี งนีไ้ ม่ได้หมายความว่า ทุกครอบครัว จะต้องผลติ อาหารของตวั จะต้องทอผ้าใส่เอง. อย่างน้ันมนั เกนิ ไป แต่ว่าในหมู่บ้านหรือในอาเภอ จะต้องมคี วามพอเพยี งพอสมควร. บางสิ่งบางอย่างท่ีผลติ ได้มากกว่าความต้องการ กข็ ายได้ แต่ขายในท่ไี ม่ห่างไกลเท่าไหร่ ไม่ต้องเสียค่าขนส่งมากนัก...” พระราชดารัสพระราชทานแก่คณะบุคคลต่างๆ เน่ืองในโอกาสวนั เฉลมิ พระชนมพรรษา ๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๐

พระราชดารัสเกย่ี วกบั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง “...ให้พอเพยี งนีก้ ห็ มายความว่า มกี นิ มอี ยู่ ไม่ฟ่ ุมเฟื อย ไม่หรูหรากไ็ ด้ แต่ว่าพอ. แม้บางอย่างอาจจะดูฟ่ ุมเฟื อย แต่ถ้าทาให้มคี วามสุข ถ้าทาได้กส็ มควรทีจ่ ะทา สมควรทจี่ ะปฏบิ ตั ิ. อนั นีก้ ค็ วามหมายอกี อย่างของเศรษฐกจิ หรือระบบพอเพยี ง... คนเราถ้าพอในความต้องการ กม็ คี วามโลภน้อย เม่ือมคี วามโลภน้อยกเ็ บียดเบียนคนอ่ืนน้อย. พระราชดารัสพระราชทานแก่คณะบุคคลต่างๆ เนื่องในโอกาสวนั เฉลมิ พระชนมพรรษา ๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๑

พระราชดารัสเกย่ี วกบั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ถ้าทุกประเทศมคี วามคดิ อนั นีไ้ ม่ใช่เศรษฐกจิ มีความคดิ ว่าทาอะไรต้องพอเพยี ง หมายความว่า พอประมาณ ไม่สุดโต่ง ไม่โลภอย่างมาก คนเรากอ็ ยู่เป็ นสุข... พอเพยี งนีอ้ าจจะมมี าก อาจจะมขี องหรูหรากไ็ ด้ แต่ว่าต้องไม่เบยี ดเบียนคนอ่ืน. ต้องให้พอประมาณตามอตั ภาพ พูดจากพ็ อเพยี ง ทาอะไรกพ็ อเพยี ง ปฏบิ ตั ติ นกพ็ อเพยี ง...” พระราชดารัสพระราชทานแก่คณะบุคคลต่างๆ เน่ืองในโอกาสวนั เฉลมิ พระชนมพรรษา ๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๑

พระราชดารัสเกยี่ วกบั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง “...เศรษฐกจิ พอเพยี ง แปลว่า Sufficiency Economy ...คาว่า Sufficiency Economy นี้ ไม่มใี นตาราเศรษฐกจิ . จะมไี ด้อย่างไร เพราะว่าเป็ นทฤษฎใี หม่ ...Sufficiency Economy น้ัน ไม่มใี นตารา หมายความว่าเรามคี วามคดิ ใหม่... และท่านผู้เชี่ยวชาญสนใจ กห็ มายความว่า เรากส็ ามารถทจ่ี ะไปปรับปรุงหรือไปใช้หลกั การ เพื่อท่ีจะให้เศรษฐกจิ ของประเทศและของโลกพฒั นาดขี นึ้ ...” พระราชดารัสพระราชทานแก่คณะบุคคลต่างๆ เน่ืองในโอกาสวนั เฉลมิ พระชนมพรรษา ๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๒

หลกั การปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

แนวคดิ หลกั การของปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง องค์ประกอบ ทางสายกลาง เงื่อนไข จุดประสงค์ พอประมาณ มเี หตุผล มภี ูมคิ ุ้มกนั ท่ีดี ความรู้ คุณธรรม ระมดั ระวงั รอบรู้ รอบคอบ ซ่ือสัตย์ สุจริต อดทน เพยี ร ในหลกั วชิ าการ มีสติ ปัญญา สร้างสมดุล / มนั่ คง / เป็ นธรรม / ยงั่ ยืน พร้อมรับการเปลยี่ นแปลงในด้านเศรษฐกจิ ด้านสังคม สิ่งแวดล้อม วฒั นธรรม

แนวคดิ ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง เป็ นปรัชญาท่ีชี้ถงึ แนวการดารงอยู่และปฏิบัตติ นของ ประชาชนในทุกระดบั ต้งั แต่ระดบั ครอบครัว ระดับ ชุมชน จนถงึ ระดบั รัฐ ท้งั ในการพฒั นาและบริหาร ประเทศให้ดาเนินไปในทางสายกลาง โดยเฉพาะการ พฒั นาเศรษฐกจิ เพ่ือให้ก้าวทนั ต่อโลกยุคโลกาภวิ ตั น์

องค์ประกอบัของปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ความพอประมาณ หมายถงึ ความพอดตี ่อความจาเป็ น และเหมาะสมกบั ฐานะของตนเอง สังคม ส่ิงแวดล้อม รวมท้งั วฒั นธรรมในแต่ละท้องถิ่นไม่มากเกนิ ไป ไม่น้อย เกนิ ไป และต้องไม่เบยี ดเบียนตนเองและผู้อ่ืน

องค์ประกอบัของปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ความมเี หตุผล หมายถงึ การตัดสินใจดาเนินการอย่างมี เหตุผลตามหลกั วชิ าการ หลกั กฎหมาย หลกั คุณธรรม และวฒั นธรรมที่ดงี าม โดยคานึงถงึ ปัจจยั ที่เกยี่ วข้อง อย่างถ้วนถี่ “รู้จุดอ่อน จุดแขง็ โอกาส อุปสรรค” และ คาดการณ์ผลท่จี ะเกดิ ขนึ้ อย่างรอบคอบ “รู้เขา รู้เรา รู้จกั เลือกนาสิ่งทด่ี แี ละเหมาะสมมาประยุกต์ใช้”

องค์ประกอบัของปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง การมภี ูมคิ ุ้มกนั ในตวั ทดี่ ี หมายถงึ การเตรียมตวั ให้ พร้อมรับผลกระทบและการเปลย่ี นแปลงด้านเศรษฐกจิ สังคม ส่ิงแวดล้อม และวฒั นธรรมจากท้งั ในและ ต่างประเทศเพื่อให้สามารถบริหารความเส่ียงปรับตัว และรับมือได้อย่างทันท่วงที

ภายใต้เง่ือนไข เงื่อนไขความรู้ ประกอบด้วยความรอบรู้เกย่ี วกบั วชิ าการต่างๆ ที่ เกยี่ วข้องอย่างรอบด้าน ความรอบคอบทจี่ ะนาความรู้เหล่าน้ันมา พจิ ารณาให้เชื่อมโยงกนั เพ่ือประกอบการวางแผนและความ ระมัดระวงั ในข้นั ปฏิบัติ

ภายใต้เง่ือนไข เง่ือนไขคุณธรรม ประกอบด้วยความตระหนักในคุณธรรม มี ความชื่อสัตย์สุจริต มคี วามอดทน มคี วามพากเพยี ร ใช้ สตปิ ัญญาในการดาเนินชีวติ

จุดประสงค์ สร้างสมดุล / ม่ันคง / เป็ นธรรม / ยง่ั ยืนพร้อมรับการ เปลยี่ นแปลงในด้านเศรษฐกจิ ด้านสังคม สิ่งแวดล้อม วฒั นธรรม โดยการ การน้อมนาปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง สู่การปฏิบตั ิ

มิติปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมี 4 ด้าน 1. มติ ิด้านเศรษฐกจิ เป็ นเศรษฐกจิ แบบพออยู่พอกนิ ให้มี ความขยนั หมนั่ เพยี รประกอบด้วย สัมมาอาชีวะ เพ่ือให้พง่ึ ตนเองได้ ให้พ้น จากความยากจน การปฏิบตั ติ ามทฤษฎใี หม่เป็ นตวั อย่างในมิตดิ ้านเศรษฐกจิ

ตัวอย่าง อาชีพสุจริต ผกั สวนครัว ทาบญั ชีครัวเรือน

มิติปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมี 4 ด้าน 2. มิติด้านจิตใจ เป็ นเศรษฐกจิ ทเี่ น้นจิตใจให้รู้จักพอ คือ พอดี พอประมาณและพอใจในส่ิงท่ี มี ยนิ ดใี นสิ่งทไ่ี ด้ ไม่โลภ จะต้องเร่ิมที่ ตนเอง ถือว่าเป็ นรากฐานที่สาคญั การปฏบิ ัตติ ามทางสายกลางเป็ นตัวอย่างในมติ ดิ ้านจติ ใจ

มิติปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมี 4 ด้าน ทางสายกลาง มชั ฌิมาปฏปิ ทา ศีล สมาธิ ปัญญา 3.วาจาชอบ 6.ความเพยี รชอบ 1.ความเห็นชอบ 4.การงานชอบ 7.ระลกึ ชอบ 2.ความดาริชอบ 5.เลยี้ งชีพชอบ 8.ต้งั มน่ั ชอบ

มิติปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมี 4 ด้าน 3. มติ ดิ ้านสังคม เป็ นเศรษฐกจิ ทมี่ ุ่งให้สังคมทคี่ วามสุข สงบ มีความเมตตาเอือ้ อาทรช่วยเหลือซ่ึง กนั และกนั มีความสามคั ครี ่วมกนั ไม่เอา รัดเอาเปรียบ ทาร้ายกนั เรื่องสามัคคเี ภทคาฉันท์เป็ นตวั อย่างในมิตดิ ้านสังคม

มติ ปิ รัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมี 4 ด้าน 4. มิตดิ ้านวฒั นธรรม เป็ นเศรษฐกจิ ทม่ี ุ่งให้เกดิ วถิ ชี ีวติ ที่ ประหยดั เกบ็ ออม มีชีวติ เรียบง่าย ไม่ ฟุ้งเฟ้อ ฟ่ ุมเฟื่ อย ไม่นิยมวตั ถุและบริโภค นิยม เฉลมิ ชัย โฆษติ พพิ ฒั น์เป็ นตวั อย่างในมติ ดิ ้านวฒั นธรรม

การน้อมนาปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งสู่การปฏิบัิั ิ

การน้อมนาปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งสู่การปฏิบัิั ิ ทุกคนสามารถน้อมนาหลกั ปรัชญาฯ มาเป็ นหลกั ปฏบิ ัติในการดาเนินชีวติ ได้ โดย ต้อง “ระเบิดจากข้างใน” คือ การเกดิ จติ สานึกมีความศรัทธา เช่ือม่ัน เห็นคุณค่า และนาไปปฏบิ ตั ดิ ้วยตนเอง แล้วจงึ ขยายไปสู่ครอบครัว ชุมชน องค์กร สังคม และประเทศชาตติ ่อไป

การน้อมนาปรัชญา ความพอเพยี งระดบั บุคคลและครอบครัว เศรษฐกจิ พอเพยี งสู่ ความพอเพยี งสาหรับนักเรียนนักศึกษา ความพอเพยี งในชุมชน การปฏิบัิั ิ ความพอเพยี งในภาคธุรกจิ เอกชน ความพอเพยี งระดบั ประเทศ

ความพอเพยี งระดบั บุคคลและครอบครัว แนวทางปฏิบัติ ๑. ฝึ กจติ ข่มใจตนเองกนิ อยู่ตามอตั ภาพ พงึ่ พาตนเองอย่างเต็มความสามารถ ไม่ทาอะไรเกนิ ตวั ดาเนินชีวติ โดยไม่เบยี ดเบียนตนเองและผู้อ่ืน ๒. ใฝ่ รู้ ใฝ่ ศึกษาและมกี ารพฒั นาตนเองอย่างต่อเน่ือง เพื่อความมั่นคงในอนาคต และเป็ นที่พง่ึ ให้ผู้อ่ืนได้ ๓. จดั ทาบญั ชีรายรับรายจ่าย รู้จกั ประหยดั รู้จกั ออมเงนิ แต่ไม่ใช่ตระหนี่ ลด ละ เลกิ อบายมุข เห็นคุณค่าของสิ่งของเคร่ืองใช้ต่าง ๆ

ความพอเพยี งระดบั บุคคลและครอบครัว แนวทางปฏบิ ัติ ๔. รักษาวฒั นธรรมประเพณี และการอยู่ร่วมกบั ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละ ส่ิงแวดล้อมได้อย่างเหมาะสม ๕. มีการแบ่งปันภายในครอบครัว ชุมชน และสังคมรอบข้าง

ตวั อย่าง ต้องการคอมพวิ เตอร์

พอประมาณ มเี หตุผล มเี งนิ เท่าไร สารวจราคา พจิ ารณาอย่าง พจิ ารณาอนาคต สเปค เครื่องและ รอบคอบตาม ถงึ ปัญหาท่ี บริการหลงั ขาย ข้อมูลไม่ซื้อตาม อาจจะเกดิ ขนึ้ กบั เคร่ือง สารวจความพร้อม กระแส ตดั สินใจซื้อตรงตามวตั ถุประสงค์ มคี วามรู้ มคี อมพวิ เตอร์ใช้ในราคาทเี่ หมาะสม คุณธรรม และมเี งนิ เหลือ ต้องแสวงหาความรู้เรื่องคอมพวิ เตอร์ อย่าง ใช้เคร่ืองอย่างคุ้มค่า มวี นิ ัยในการใช้เคร่ือง รอบคอบ ท้งั ราคา สเปค ความคุ้มค่า และ ภูมคิ ุ้มกนั ทดี่ ี คอมพวิ เตอร์อย่างเป็ นประโยชน์ บริการหลงั ขาย

ความพอเพยี งสาหรับนักเรียนนักศึกษา แนวทางปฏิบตั ิ ๑. รู้จกั แบ่งเวลาเรียน เวลาเล่น และดาเนินชีวติ อย่างเหมาะสม และพอประมาณกบั ตนเอง ๒. ใฝ่ หาความรู้ ใช้หลกั วชิ าและความรู้ในการตดั สินใจลงมือกระทาส่ิงต่าง ๆ ๓. คบเพ่ือนดเี ป็ นกลั ยาณมติ ร รู้รักสามคั คี แบ่งปัน เอือ้ เฟื้ อ ช่วยเหลือ เสมอต้นเสมอปลาย

ความพอเพยี งสาหรับนักเรียนนักศึกษา แนวทางปฏิบัติ ๔. รู้จกั ใช้จ่ายเงนิ อย่างมเี หตุผล รอบคอบ รู้จกั ประหยดั อดออม ๕. สร้างภูมคิ ุ้มกนั ทางศีลธรรมให้แก่ตนเอง เช่น ไม่ลกั ขโมย ไม่พดู ปด ไม่สูบบุหรี่ และไม่ด่ืมสุรา

ตวั อย่าง พอเพยี งสาหรับนักเรียนนักศึกษา

พอประมาณ มเี หตุผล สารวจการเรียน รู้จุดเด่น จุด ใช้หลกั เหตุผล ตัดสินปัญหาที่ ของตนเอง ด้อยของตนเอง ในการดาเนิน อาจจะเกดิ ขนึ้ อย่างรอบคอบ ชีวติ รู้จักตนเอง ตดั สินใจอย่างมเี หตุผล มคี วามรู้ สร้างภูมคิ ุ้มกนั ทางคุณธรรม คุณธรรม ต้องแสวงหาความรู้อยู่เสมอ นาหลกั ภูมคิ ุ้มกนั ทีด่ ี ยดึ ถือคุณธรรม มคี วามซื่อสัตย์ มวี นิ ัย มี วชิ าการมาประยกุ ต์ใช้ในการดาเนินชีวติ ความอดทน มีสติปัญญา

ความพอเพยี งในชุมชน แนวทางปฏบิ ตั ิ ๑. รวมกลุ่มกนั ทาประโยชน์เพื่อส่วนรวม ช่วยเหลือเกือ้ กลู กนั ภายในชุมชน บนหลกั ของความรู้รัก สามัคคี ๒. สร้างเป็ นเครือข่ายเช่ือมโยงกนั ในชุมชนและนอกชุมชน ให้มสี ุขสงบ มีความเป็ นระเบยี บเรียบร้อย ๓. นาภูมปิ ัญญาท้องถนิ่ ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดล้อมในชุมชน มาสร้างประโยชน์สุขให้กบั ชุมชนได้อย่างเหมาะสม

ตวั อย่าง พอเพยี งในชุมชน

พอประมาณ มเี หตุผล รู้จุดด้อยของ รู้จุดเด่นของ ศึกษาวเิ คราะห์ วเิ คราะห์ ชุมชน ชุมชน วางแผนการใช้ แยกแยะปัญหา ทรัพยากรชุมชน อุปสรรคโดย อย่างคุ้มค่า คานึงถึงผลท่ี คาดว่าจะเกดิ ขึน้ รู้จกั ชุมชนของ ประชุมตดั สินใจอย่างมี ตนเอง เหตุผล มคี วามรู้ รู้รักสามคั คี ประหยดั อดออม คุณธรรม ต้องแสวงหาความรู้อยู่เสมอ นาหลกั ภูมคิ ุ้มกนั ที่ดี ยดึ ถือคุณธรรม มคี วามซื่อสัตย์ มวี นิ ัย มี วชิ าการมาประยกุ ต์ใช้ในการดาเนินชีวติ ความอดทน มสี ตปิ ัญญา

ความพอเพยี งในภาคธุรกจิ เอกชน แนวทางปฏิบตั ิ ๑. มุ่งมนั่ ในการดาเนินธุรกจิ ทห่ี วงั ผลประโยชน์บนพืน้ ฐานของการแบ่งปัน หรือกาไรในระยะยาวมากกว่าระยะส้ัน ๒. การขยายธุรกจิ ต้องทาอย่างค่อยเป็ นค่อยไป ไม่ลงทุนเกนิ ขนาด ไม่ค้ากาไร เกนิ ควรแสวงหาผลตอบแทนทเ่ี หมาะสมและเป็ นธรรม ๓. มคี วามรู้และเข้าใจธุรกจิ ของตนเอง รู้จกั ลูกค้า ศึกษาคู่แข่ง และเรียนรู้ การตลาดอย่างถ่องแท้ ผลติ ในส่ิงที่ถนัดและทาตามกาลงั

ความพอเพยี งในภาคธุรกจิ เอกชน แนวทางปฏบิ ัติ ๕. สร้างเอกลกั ษณ์ทแี่ ตกต่างและพฒั นาคุณภาพผลติ ภณั ฑ์อย่าง ต่อเนื่อง ๖. มีความซื่อสัตย์ รับผดิ ชอบต่อสังคมและป้องกนั ผลกระทบต่อ ส่ิงแวดล้อม ๗. ต้องสร้างเสริมความรู้และจดั สวสั ดกิ ารให้แก่พนักงาน อย่างเหมาะสม ๘. เตรียมความพร้อมต่อการเปลย่ี นแปลงท่ีอาจเกดิ ขนึ้

ตวั อย่าง พอเพยี งในภาคธุรกจิ

พอประมาณ มเี หตุผล รู้จกั ตลาด และ รู้จุดเด่นจุด ใช้หลกั เหตุผลใน พจิ ารณาผลที่ คู่แข่งขนั การตดั สินใจ คาดว่าจะเกดิ ขึน้ ด้อยทางธุรกจิ เร่ืองต่างๆโดย อย่างรอบคอบ ทางการตลาด ของตนเอง พจิ ารณาจากเหตุ ตดั สินใจอย่างมเี หตุผล ปัจจัย ดาเนินธุรกจิ ทตี่ ้งั อยู่ บนพืน้ ฐานของ ทางสายกลาง มคี วามรู้ เตรียมตวั ให้พร้อมรับต่อผลกระทบท่ี คุณธรรม เกดิ ขนึ้ จากการเปลย่ี นแปลงรอบตวั ต้องแสวงหาความรู้ใหม่ๆ ทส่ี ามารถนามา ยดึ ถือคุณธรรม มุ่งต่อประโยชน์ส่วนรวม พฒั นากระบวนการดาเนินธุรกจิ อยู่เสมอ ภูมคิ ุ้มกนั ทดี่ ี และการแบ่งปัน รับผดิ ชอบต่อสังคม

ความพอเพยี งในองค์กรภาครัฐ แนวทางปฏิบตั ิ ๑. ยดึ มน่ั ในจรรยาบรรณข้าราชการทดี่ ี ยดึ หลกั ธรรมาภิบาล โปร่งใสมคี ุณธรรม ประหยดั คุ้มค่า ๒. ปรับขนาดองค์กรให้เหมาะสม และจดั กาลงั คนตามสมรรถนะ ความรู้ ความสามารถ ๓. พฒั นาตนเองใฝ่ หาความรู้อยู่เสมอปฏบิ ัติหน้าท่ีด้วยความรับผดิ ชอบ รอบรู้ รอบคอบ ระมดั ระวงั ซ่ือสัตย์สุจริต ๔. ยดึ ประโยชน์สุขของส่วนรวม รู้รักสามคั คี แบ่งปัน ให้บริการและช่วยเหลือ ประชาชนด้วยนา้ ใจไมตรี อย่างรวดเร็ว เสมอภาค และสัมฤทธ์ิผล

ตวั อย่าง พอเพยี งระดบั ประเทศ

พอประมาณ มเี หตุผล รู้จุดด้อยของ รู้จุดเด่นของ วางแผนและ วเิ คราะห์ผลท่ี ประเทศ ประเทศ วเิ คราะห์อย่าง จะเกดิ ขนึ้ ระยะ รอบคอบ ส้ัน ยาว การพฒั นาทส่ี มดุลใน ทุก ๆ ตดั สินใจอย่างมเี หตุผล ด้านทตี่ ้งั อยู่บนพืน้ ฐานของ ทางสายกลาง มคี วามรู้ ส่งเสริมให้พลเมืองดาเนินชีวติ แบบ คุณธรรม พอเพยี ง ต้องแสวงหาความรู้ทท่ี นั สมยั เพื่อการ ยดึ ถือคุณธรรม มุ่งต่อประโยชน์ส่วนรวม พฒั นาประเทศอย่างเท่าทนั ประเทศอ่ืน ภูมคิ ุ้มกนั ทดี่ ี และการแบ่งปัน รับผดิ ชอบต่อสังคม

คาถาม วนั นี้ประเทศไทย พร้อมที่จะเดนิ หน้าสู่ ไทยแลนด์ ๔.๐ แล้วหรือยงั ?