แบบฟอรม์ ขอ้ มลู ประวตั แิ ละผลงานศลิ ปนิ OTOP กรมพฒั นาชมุ ชน ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ๑. ขอ้ มลู ทวั่ ไป ชอื่ – สกลุ นางคาพัน ออ่ นอุทยั ทอ่ี ยบู่ ้านเลขที่ ๑๖๒ หมู่ ๑ บ้านนาดี อาเภอด่านซา้ ย จงั หวดั เลย เบอร์โทร ๐๘๗-๒๑๗-๘๑๐๔ ๒. ผลติ ภณั ฑท์ ลี่ งทะเบยี น OTOP ปี ๒๕๕๗ - ๒๕๖๒ ผลิตภณั ฑ์ : นาพรกิ แจว่ ดานาผกั สะทอน ประเภท : อาหาร ลงทะเบยี น ปี พ.ศ. : พ.ศ. ๒๕๔๗ ระดบั ดาวทไ่ี ด้ : หา้ ดาว ๓. ผลงานของผถู้ กู เสนอชอื่ เปน็ ศลิ ปนิ OTOP ๓.๑ ดา้ นการศกึ ษา คน้ ควา้ การอนรุ กั ษ์ และสบื สานภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถนิ่ นางคาพนั ออ่ นอทุ ยั ประธานกลุม่ แมบ่ ้านเกษตรกรบ้านนาดี เป็นผทู้ ่ีมีพืนเพอยทู่ อี่ าเภอ ด่านซ้าย จังหวดั เลย ซง่ึ ในพนื ถ่ินแถบนี ซง่ึ ประกอบไปดว้ ย อาเภอดา่ นซ้าย อาเภอนาแห้ว จังหวัดเลย และอาเภอนคร ไทย จงั หวัดพิษณโุ ลก จะมวี ัฒนธรรมการกนิ ทมี่ ีความพเิ ศษ กล่าวคอื มีการนาใบไม้ประจาถนิ่ คอื ผกั สะทอน มาหมัก และเคย่ี ว ใชเ้ ป็นเครอื่ งปรุงรสอาหารเปน็ ทีน่ ยิ มในพนื ถนิ่ มาช้านาน นางคาพัน อ่อนอทุ ยั ไดน้ าผกั สะทอนมาแปรรูปเป็นผลติ ภณั ฑท์ ห่ี ลากหลายไมว่ ่าจะเปน็ นาผักสะทอน ปรงุ รส แจว่ ดานาผักสะทอนหลากหลายสูตร และมาประยกุ ตใ์ ช้ปรงุ รสกับอาหารชนิดต่างๆ ทงั นี ไดท้ าการศกึ ษาหา ความรเู้ กีย่ วกบั นาผักสะทอน อยา่ งเป็นระบบ ไมว่ ่าจะเปน็ การทดสอบ ทดลอง และรว่ มวิจยั กับสถาบันการศกึ ษาตา่ งๆ จนมคี วามรทู้ ่ีแตกฉาน และถอื เปน็ ผเู้ ชย่ี วชาญด้านผักสะทอน จนไดก้ ารยอมรบั จากภาคสว่ นต่างๆ ไมว่ ่าจะเปน็ ภาค ราชการ ภาคเอกชน เหน็ ไดจ้ ากรางวลั ท่ีไดร้ บั มาอยา่ งมากมาย จากการทไ่ี ด้ศึกษาและรวบรวมองคค์ วามรู้ต่างๆท่สี ัง่ สมมา จงึ ได้เปิดบา้ นใหเ้ ปน็ ศนู ยเ์ รียนรู้เกย่ี วกบั การผลิตนา ผักสะทอน การทานาพริกแจว่ ดานาผักสะทอน การประกอบอาหารพนื บา้ นจากนาผกั สะทอน และได้มกี ารเผยแพรใ่ ห้ ความรเู้ กย่ี วกับนาผักสะทอน ใหแ้ ก่ นกั เรยี น นกั ศกึ ษา บคุ คลทส่ี นใจในเรอ่ื งนาผักสะทอน ตลอดจนหน่วยงานราชการ และองค์กรต่างๆ เพอ่ื ใหภ้ ูมปิ ญั ญาท้องถิน่ ทีไ่ ดส้ บื ทอดมาจากบรรพบุรษุ ใหค้ งอย่สู ืบไป
๓.๒ ด้านการสรา้ งสรรคผ์ ลงานทม่ี าจากภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ ภมู ิปญั ญาทอ้ งถน่ิ เป็นองค์ความรู้ทีไ่ ด้รับการสั่งสมถา่ ยทอดและพัฒนาจากประสบการณ์ ความรู้ ความสามารถ จากอดตี จนถึงปัจจบุ นั โดยอาศยั ศักยภาพท่มี ีอยูท่ ังในตนเองและธรรมชาตินามาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการดารงชีวิตใน แนวทางที่สอดคล้องกบั ธรรมชาติและวถิ ีชีวิต
“นาผักสะทอน”เป็นวตั ถดุ ิบที่สบื ทอดภูมิปญั ญาท้องถนิ่ มาจากบรรพบุรษุ ซ่งึ ดงั เดมิ จะมีเพียงการนาพริกแห้งมา ตาผสมกบั กระเทียมและปรุงรสด้วยนาผักสะทอน จึงได้นามาปรบั ปรงุ และพฒั นาและตอ่ ยอดผลิตภัณฑ์ โดยนามาทาเป็น นาพริกซ่งึ มีสว่ นผสมจากนาผักสะทอนหลากหลายสูตร ได้แก่ นาพรกิ แจว่ ดานาผักสะทอนสูตรดังเดิม ,นาพริกแจ่วดานา ผักสะทอนกลิ่นแมงดา ,นาพริกแจว่ ดานาผักสะทอนสูตรเจ และนาพริกเผาแจว่ ดานาผักสะทอนสามรส นาพรกิ แจว่ ดานาผกั สะทอน เป็นนาพรกิ ทน่ี านาผักสะทอนวตั ถุดิบในท้องถนิ่ มาเป็นสว่ นประกอบในการทา นาพริก รสชาตเิ ผ็ดนา หวานน้อย มีความกลมกลอ่ ม และมกี ล่ินทเ่ี ปน็ เอกลกั ษณจ์ ากนาผักสะทอน ตาด้วยมอื นานกว่า ๒ ชวั่ โมง เนือสัมผัสมคี วามเหนยี ว สามารถเก็บไวบ้ รโิ ภคไดน้ าน นาพรกิ แจว่ ดานาผกั สะทอนกลนิ่ แมงดา เป็นนาพริกทน่ี านาผกั สะทอนวัตถดุ ิบในทอ้ งถ่ินมาเปน็ ส่วนประกอบใน การทานาพรกิ รสชาตเิ ผ็ดนา หวานน้อย มีความกลมกลอ่ ม มีกลนิ่ ทเ่ี ปน็ เอกลกั ษณจ์ ากนาผักสะทอน และตอ่ ยอดโดย เพิ่มกลน่ิ แมงดา เพ่อื ใหเ้ กิดความหลากหลาย ตาด้วยมอื นานกวา่ ๒ ชัว่ โมง เนอื สัมผสั มคี วามเหนียว สามารถเกบ็ ไว้ บรโิ ภคไดน้ าน นาพรกิ แจว่ ดานาผกั สะทอนสตู รเจ เป็นนาพริกที่คิดตอ่ ยอดสาหรับผทู้ บี่ รโิ ภคเจ หรอื มงั สวิรตั ิ เพอื่ เป็นทางเลอื ก ในการบรโิ ภค รสชาตเิ ผ็ดนา หวานนอ้ ย มีความกลมกลอ่ ม และมกี ลน่ิ ท่ีเป็นเอกลกั ษณจ์ ากนาผกั สะทอน และจากพืช สมนุ ไพร เชน่ ขา่ ตะไคร้ ตาดว้ ยมอื นานกว่า ๒ ชว่ั โมง เนอื สัมผสั มคี วามเหนยี ว สามารถเกบ็ ไว้บรโิ ภคไดน้ าน นาพรกิ เผาแจว่ ดานาผกั สะทอนสามรส เป็นนาพริกท่ีมนี าผักสะทอนวตั ถดุ ิบในท้องถ่ินมาเปน็ สว่ นประกอบในการ ทานาพริก รสชาตเิ ผ็ดน้อย หวานนา เปรยี วตาม มคี วามกลมกลอ่ ม และจดั ทาขนึ เพือ่ ขยายกล่มุ เปา้ หมายใหค้ รอบคลมุ มากย่ิงขึน เพราะนาพริกแจว่ ดานาผักสะทอน นาพริกแจว่ ดานาผกั สะทอนกลน่ิ แมงดา นาพริกแจ่วดานาผักสะทอนสตู ร เจ เปน็ นาพริกทมี่ รี สชาตเิ ผ็ดนา จงึ ไดค้ ดิ ตอ่ ยอดผลติ ภัณฑ์ เพอื่ ใหค้ รอบคลมุ ถึงกลมุ่ เป้าหมาย ทุกเพศทกุ วยั มากขนึ ไมว่ ่า จะเปน็ เดก็ ผใู้ หญ่ หรอื ชาวตา่ งชาติ ท่ีทานเผ็ดได้น้อยก็สามารถบริโภคนาพรกิ ท่ีทาจากนาผักสะทอนได้ ๓.๓ ด้านการถา่ ยทอดองคค์ วามรใู้ หก้ บั ชมุ ชนหรอื บคุ คลภายนอก การศกึ ษาในระบบ : ทาการสอนโดยบูรณาการกลมุ่ สาระการเรยี นรกู้ บั ภูมิปญั ญาท้องถ่ินร่วมกบั สถานศกึ ษาใน จงั หวัดเลย การศกึ ษานอกระบบ : เปน็ วทิ ยากรสอนและสาธติ ในดา้ นการทานาผักสะทอน นาพรกิ แจว่ ดานาผกั สะทอน และ การประกอบอาหารพืนบ้านจากนาผักสะทอน ให้กับบุคคล และหนว่ ยงานต่างๆทังในจังหวดั และตา่ งจังหวดั การศกึ ษาตามอธั ยาศยั : เปิดบา้ นเป็นศนู ยก์ ารเรียนรู้ เพอื่ อนรุ ักษภ์ ูมปิ ัญญาอาหารพืนบ้านและถ่ายทอดองค์ ความรู้การผลติ นาผักสะทอน การทานาพรกิ แจว่ ดานาผกั สะทอน โดยมแี ผนภาพขนั ตอนขนั ตอนและวธิ ีกระบวนการผลิต เอกสารแผน่ พบั วดี ีทศั น์ ไวเ้ ผยแพร่
๔. การไดร้ บั รางวลั ทยี่ กยอ่ งเชดิ ชเู กยี รติ พ.ศ.๒๕๖๓ เคร่ืองราชอิสรยิ าภรณอ์ นั เป็นที่สรรเสริญยง่ิ ดิเรกคุณาภรณ์ ประจาปี ๒๕๖๓ เนอื่ งในพระราชพิธี เฉลมิ พระชนมพรรษา วันท่ี ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๓
พ.ศ.๒๕๖๒ ผนู้ าองคก์ รดเี ด่น CEO Leader Award 2019 จาก หนงั สอื พมิ พเ์ ดลิมเิ รอ่ ร์ พ.ศ.๒๕๖๐ บุคคลตน้ แบบคณุ ธรรม ๙ ประการประกาศตามพระราชดารสั พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทร มหาภมู พิ ลอดุลยเดช “ด้านความพากเพยี รอดทน”ภายใต้โครงการ “ตามรอยคณุ ธรรม รัชกาลท่ี ๙ และเทิดพระเกียรติ รชั กาลท่ี ๑๐” จากกรมส่งเสรมิ วฒั นธรรม พ.ศ.๒๕๕๘ ตน้ แบบการทอ่ งเทยี่ วเชิงสร้างสรรค์ อาหารพนื บา้ น เมอื งด่านซ้าย จากองคก์ ารบริหารการพัฒนา พนื ที่พเิ ศษ เพอื่ การทอ่ งเทยี่ วอย่างยังยนื (องค์การมหาชน)และคณะสงั คมวทิ ยาและมนยุ วิทยา มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ พ.ศ.๒๕๕๘ ภูมปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ ดเี ดน่ ด้านอาหารและผกั พนื บ้าน จากจากสานกั งานสง่ เสริมการศกึ ษานอก ระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยจังหวัดเลย พ.ศ.๒๕๕๕ โล่สตรีไทยดเี ดน่ จาก สภาสตรแี ห่งชาตใิ นพระบรมราชินูปถมั ภแ์ ละกระทรวงการพัฒนาสงั คมและ ความม่ันคงของมนุษย์ พ.ศ.๒๕๕๕ รวมใจภกั ดิ์รักวฒั นธรรม จากสโมสรวัฒนธรรมหญงิ ในพระบรมราชนิ ูปถัมภ์ พ.ศ.๒๕๕๕ สตรีตน้ แบบ เน่ืองในวนั รวมพลงั สตรีคนดา่ นซ้าย เทิดไท้ องคร์ าชันย์ วนั สตรสี ากล จากพัฒนาชมุ ชน อาเภอดา่ นซา้ ย พ.ศ.๒๕๕๓ ผู้อนรุ กั ษว์ ัฒนธรรมไทย จากสโมสรวัฒนธรรมหญงิ ในพระบรมราชินูปถมั ภ์ พ.ศ.๒๕๕๒ รางวัลต้นแบบคนดี สาขาผ้ผู ลิตสนิ ค้าภมู ปิ ัญญาไทย(นาพริกแจว่ ดานาผกั สะทอน) จากหนงั สือพมิ พ์เส้นทางผนู้ า พ.ศ.๒๕๕๒ ผอู้ นุรักษ์ภมู ิปญั ญาแห่งแผน่ ดนิ เนอ่ื งในวนั อนุรกั ษม์ รดกไทย จากหนงั สือพมิ พ์เสน้ ทางผู้นา พ.ศ.๒๕๕๔ เกยี รตบิ ัตรเชดิ ชเู กยี รตเิ ป็นครุภมู ิปญั ญาไทยรนุ่ ท่ี ๗ ด้านโภชนาการ(นาผกั สะทอน) จากสานักงาน เลขาธิการสภาการศึกษา พ.ศ.๒๕๕๑ รางวลั ชมเชย จากการประกวดอาหารเสรมิ นานมแมส่ ายใยรกั ในงานวนั เกษตรกร จากเกษตรจังหวดั เลย พ.ศ.๒๕๕๐ มหาบัณฑติ กิตติมศกั ด์ิ ศลิ ปศาสตรมหาบณั ฑติ สาขาพัฒนาชมุ ชน จาก มหาวทิ ยาลัยราชภฎั เลย พ.ศ.๒๕๕๐ ผทู้ าคณุ ประโยชน์ต่อชมุ ชน และสงั คมดา้ นการอนุรกั ษภ์ มู ิปัญญาทอ้ งถนิ่ จากองคก์ ารบริหาร สว่ นตาบลนาดี อาเภอด่านซา้ ย จังหวัดเลย พ.ศ.๒๕๔๙ รางวลั ยกยอ่ งเชิดชเู กยี รติ ใหเ้ ปน็ บุคคลดีเดน่ ทางวัฒนธรรมในจงั หวัดเลย สาขาภมู ิปัญญาชาวบ้าน ด้านการผลติ และการบรโิ ภค จากคณะกรรมการวฒั นธรรมแหง่ ชาติ พ.ศ.๒๕๔๙ เกยี รตคิ ณุ ผทู้ าประโยชน์เพื่อแผน่ ดนิ ในโอกาสทพ่ี ระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หวั ทรงครองสริ ริ าช สมบตั ิครบ ๖๐ ปี จาก หนังสือพมิ พส์ อื่ สารธรุ กจิ พ.ศ.๒๕๔๘ รางวลั ผลิตภัณฑ์คณุ ภาพ “นาพริกแจว่ ดานาผักสะทอน” จากหนังสอื พมิ พ์ข่าวไทย พ.ศ.๒๕๔๘ ภมู ปิ ัญญาทอ้ งถน่ิ ท่ีจัดการศึกษานอกโรงเรียนจังหวัดเลยดเี ด่น จาก ศนู ย์การศกึ ษานอกโรงเรยี น พ.ศ.๒๕๔๗ รางวัลรองชนะเลิศอันดับสองสม้ ตานาผักสะทอน ในงานสมชั ชาสขุ ภาพภาคอีสาน จาก สานกั งานวิจัยศลิ ปะและวัฒนธรรมอสี าน มหาวิทยาลัยสารคาม พ.ศ.๒๕๔๗ เกยี รติบัตรแหง่ ภมู ิปญั ญาไทย เปน็ ผู้อนรุ ักษแ์ ละส่งเสริม ภมู ปิ ญั ญาท้องถ่นิ ดา้ นการแปรรปู ดเี ด่น จากสานกั งานเกษตร จงั หวดั เลย พ.ศ.๒๕๔๖ หนึง่ ตาบลหนง่ึ ผลติ ภัณฑ์ดเี ด่นระดับส่ีดาวภาคตะวันออกเฉียงเหนอื ประจาปี ๒๕๔๖ ประเภทนาพริกแจว่ ดานาผักสะทอน จาก กระทรวงมหาดไทย
๕. เรอ่ื งราวความเปน็ มาของผลติ ภณั ฑ์ วฒั นธรรมอาหารเป็นส่ิงสะท้อนใหเ้ หน็ ถึงวัฒนธรรม ประเพณี วิถชี วี ติ ของคนในชมุ ชนไดด้ ีทงั ในอดตี และปจั จบุ นั การนา ภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ ทสี่ ืบทอดจากบรรพบุรษุ มาใชใ้ ห้เกดิ ประโยชน์ แสดงใหเ้ หน็ ถงึ การอยู่รว่ มกันระหวา่ งคนกับธรรมชาติ ซ่งึ บ่งบอกถงึ ลกั ษณะของคนในวิถีชมุ ชนนนั ได้เป็นอย่างดี บา้ นนาดี อาเภอดา่ นซา้ ย จงั หวัดเลย มีลกั ษณะทางภมู ิศาสตร์อยใู่ นเขตที่ราบสูง มี ภเู ขาลอ้ มรอบ ประชากรสว่ นใหญท่ าอาชพี เกษตรกร เมอื่ วา่ งจากการทาสวน ทาไร่ จึงรวมกลุม่ เพอ่ื สร้างงานสร้างรายไดใ้ ห้กบั คนใน ชุมชน โดยการนาวัตถุดบิ และภมู ิปญั ญาของบรรพบรุ ษุ มาปรับปรงุ และพัฒนาใหเ้ ป็นผลิตภัณฑท์ ี่ชว่ ยสง่ เสรมิ รายไดใ้ หก้ บั คนใน ครัวเรอื น “ส้มตา แจ่วดา นาผักสะทอน คอื สงิ่ สะทอ้ นภูมิปญั ญาไทย นาธรรมชาตสิ ร้างความยงิ่ ใหญ่ ให้ชมุ ชนไทยได้อยยู่ งั่ ยนื เมย่ี งโคน้ อสี าน ใครได้รับประทานอรอ่ ยถกู ใจ นาพืชผกั สมุนไพรมาจากแดนไกล ไม่ใกล้ ไมไ่ กล นาดี ดา่ นซ้าย จังหวัดเลย แม่คา พัน” นางคาพัน ออ่ นอทุ ยั ประธานกลมุ่ แม่บ้านเกษตรกรบ้านนาดี ไดน้ า “นาผักสะทอน” นาปรุงรสอาหารทไี่ ด้รับสบื ทอดภมู ิ ปญั ญามาจากบรรพบุรุษ มาต่อยอดผลิตภณั ฑ์โดยการนาเอาวตั ถุดิบทมี่ ใี นทอ้ งถน่ิ พชื ผกั สมุนไพรทม่ี ใี นครวั เรอื น เชน่ พรกิ กระเทยี ม และนาผกั สะทอน มาทาเปน็ นาพริกแจว่ ดานาผกั สะทอนสตู รต่างๆ พบวา่ สามารถเกบ็ ไวไ้ ดน้ าน โดยไม่ใส่สารกันบูด และได้รบั ความนยิ มชมชอบจากผู้บรโิ ภค จนไดร้ บั การคดั สรรเปน็ ผลติ ภัณฑ์ ระดบั สีด่ าว ในปี พ.ศ. ๒๕๔๗๖ ไดร้ ับการคัดสรรเปน็ ผลิตภัณฑ์ ระดบั สีด่ าว ในปี พ.ศ. ๒๕๔๗ จากนันจงึ มกี ารพัฒนาและปรับปรุงจนได้รบั การคดั สรรเปน็ ผลติ ภณั ฑ์ ระดบั หา้ ดาว ในปี พ.ศ. ๒๕๕๒ , ผลติ ภัณฑ์ ระดับห้าดาว ในปี พ.ศ. ๒๕๕๙ และ ผลติ ภณั ฑ์ระดับห้าดาว ในปี พ.ศ.๒๕๖๒
๖. ภาพศลิ ปนิ OTOP ๗. ภาพผลติ ภณั ฑ์ OTOP
รางวลั ที่ไดร้ บั
รางวลั ที่ไดร้ บั
รางวลั ที่ไดร้ บั
รางวลั ที่ไดร้ บั
แบบฟอรม์ ขอ้ มลู ประวตั แิ ละผลงานศลิ ปนิ OTOP กรมพฒั นาชมุ ชน ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ๑. ขอ้ มลู ทวั่ ไป ชอ่ื – สกลุ นาง พสิ มยั สันหาชนานันท์ ทอี่ ย่บู า้ นเลขที่ ๑๖6 หมู่ที่ 4 บา้ นนากระเซ็ง ตาบลอาฮี อาเภอทา่ ล่ี จงั หวดั เลย เบอรโ์ ทร 0898409317 ๒. ผลติ ภณั ฑท์ ลี่ งทะเบยี น OTOP ปี ๒๕๕๗ - ๒๕๖๒ ผลติ ภณั ฑ์ : เครือ่ งเรือนหวาย ประเภท : ของใช้ ลงทะเบยี น ปี พ.ศ. : พ.ศ. ๒๕57 ระดบั ดาวทไ่ี ด้ : สี่ดาว ๓. ผลงานของผถู้ กู เสนอชอ่ื เปน็ ศลิ ปนิ OTOP ๓.๑ ดา้ นการศกึ ษา คน้ ควา้ การอนรุ กั ษ์ และสบื สานภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ นางพิสมัย สันหาชนานันท์ ประธานกลุ่มพัฒนาอาชีพหัตถกรรมหวายและผ้าทอ ผู้ริเริ่มและ ก่อตงั้ กลุ่มอาชพี การทาเครือ่ งเรือนจากหวายในหมู่บ้าน โดยเร่ิมจากครอบครัวได้ทากิจกรรมหัตถกรรม หวาย ซงึ่ มีการจกั สาน ทกั ทอ แปรรูปออกมาเปน็ ผลติ ภัณฑ์ อาทิ เก้าอ้ีหวาย ตะกร้า เม่ือเดือนเมษายน 2541 เปน็ ต้นมา โดยมชี ่างฝีมอื ร่วมทาอยู่ 2 คน เมอ่ื ผลิตภณั ฑเ์ ป็นทร่ี ู้จกั จงึ มคี วามจาเป็นท่ีจะต้องเพ่ิม แรงงาน จึงได้ชกั ชวนชาวบ้านที่วา่ งงาน เข้ามาทางานเพ่ือเปน็ การเสริมรายได้ให้กับครอบครวั อกี ทางหนึ่ง ซงึ่ นางพิสมัย สันหาชนานันท์ ได้มีการปรับรูปแบบ และประยุกต์การสาน ถักทอหวาย เป็นเครื่องใช้ ภายในบ้าน เช่น เฟอรน์ เิ จอร์ ตะกรา้ ซึ่งมีความสวยงามและโดดเด่น มีเอกลักษณ์งดงามเฉพาะตัว โดย วัตถดุ บิ ทนี่ ามาจกั สาน สามารถหาได้ในท้องถ่ิน จากการทาเครื่องใช้ไว้ใช้ในครัวเรือน ได้มีการรวมกลุ่ม อาชีพ และมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเน่ืองจนรูปแบบเป็นสินค้าหนึ่งตาบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ท่ีเป็น เอกลักษณ์โดดเดน่ ของบ้านนากระเซ็ง ตาบลอาฮี อาเภอท่าล่ี จังหวัดเลย และมีการรวมกลุ่มเพ่ือสร้าง งานสรา้ งรายได้ใหก้ บั คนในชุมชน โดยการนาวตั ถดุ ิบและภมู ิปัญญาของบรรพบุรษุ มาปรับปรุงและพฒั นา ให้เปน็ ผลติ ภณั ฑ์ท่ชี ่วยส่งเสรมิ รายไดใ้ หก้ บั คนในครัวเรือน ผลิตภัณฑ์เครื่องเรือนหวายได้รับการคัดสรร เป็นผลติ ภณั ฑ์ ระดับส่ีดาว ในปี พ.ศ. ๒๕62
๓.๒ ด้านการสรา้ งสรรคผ์ ลงานทม่ี าจากภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถนิ่ หวายเป็นพืชตระกูลปาล์มชนิดหนึ่งท่ีเป็นเถาเลื้อยไปตามต้นไม้ใหญ่ และหวายมีหนาม คณุ สมบัตใิ ช้ประโยชนใ์ นการทาเฟอรน์ ิเจอร์ งานหตั กรรมหวายของกลมุ่ พฒั นาอาชพี หัตถกรรมหวายและ ผ้าทอ เปน็ การอนุรกั ษแ์ ละสืบสานภูมิปัญญาของบรรพบุรุษที่ได้นาวัตถุดิบท่ีมีอยู่ในท้องถิ่นมาดัดแปลง ประดษิ ฐใ์ หเ้ ป็นสงิ่ ของเครอื่ งใช้ภายในบ้าน ซงึ่ ปจั จุบันความนยิ มในเฟอร์นเิ จอร์อื่น เชน่ เครอ่ื งหนัง ได้เรม่ิ เขา้ มาแทนท่ี แตด่ ว้ ยนางพิสมัย สนั หาชนานนั ท์ ได้มีการประยุกต์และสร้างสรรค์ผลงานให้มีรูปแบบท่ี ทันสมัย จึงทาให้เครือ่ งเรอื นหวายยังเป็นทนี่ ยิ มของลูกคา้ ๓.๓ ดา้ นการถา่ ยทอดองคค์ วามรใู้ หก้ บั ชมุ ชนหรอื บคุ คลภายนอก เป็นวทิ ยากรสอนการทาเครอ่ื งเรอื นหวายให้กบั ชุมชน บคุ คลทั่วไปทสี่ นใจ และหน่วยงานตา่ ง ๆ ท้งั ในจงั หวัดและต่างจงั หวดั ๔. การไดร้ บั รางวลั ทยี่ กยอ่ งเชดิ ชเู กยี รติ - แม่ดเี ด่นแห่งชาตผิ สู้ นับสนนุ การศกึ ษาดเี ด่นคนดีศรีท่าล่เี ครอื ข่ายดเี ด่น อ.พ.ม. ดีเด่น ๕. เรอื่ งราวความเปน็ มาของผลติ ภณั ฑ์ (Story) บา้ นนากระเซง็ กับงานหตั ถกรรมงามริมนา้ เหือง อาเภอท่าล่ี จังหวัดเลย หมบู่ ้านสงบงามแห่งลุ่ม น้าเหือง สบื สานหตั ถกรรมเครือ่ งเรือนหวาย ผา้ ทอมอื ลวดลายด้ังเดิม อีกทง้ั วถิ ีความเป็นอยอู่ นั นา่ คน้ หา หมบู่ า้ นรมิ ลาน้าเหือง ตดิ กบั แนวพรมแดนไทย - ลาว ดารงอยูท่ า่ มกลางบรรยากาศอันสงบสุข ยังคงสบื สานวิถชี ีวิต และวฒั นธรรมพ้นื ถิ่นไวอ้ ยา่ งเหนยี วแน่น โดยเฉพาะบ้านนากระเซง็ นอกจากความเป็นอยู่ เรยี บงา่ ยของวิถชี นบทแลว้ สมาชิกในชุมชนยังถ่ายทอดงานฝมี ือทาเฟอรน์ เิ จอร์หวาย และทาผา้ พ้ืนเมือง จนได้รับยกย่องใหเ้ ป็นทสี่ ุดในตาบล เปน็ ทเ่ี ชิดหน้าชตู าของชมุ ชน ตลอดจนชาวอาเภอท่าล่ี กลมุ่ หตั ถกรรมหวาย และผ้าทอพืน้ บ้าน ก่อตงั้ เมอ่ื ปี พ.ศ.2541 ด้วยฝีมอื ปราณีต สวยงาม และแข็งแรง หัตถกรรมจากหวายจงึ ได้รบั เลอื กใหเ้ ปน็ สนิ คา้ โอทอ๊ ป ในเวลาต่อมาหลักแหลง่ ทีต่ งั้ ของกลมุ่ พฒั นาอาชพี หตั ถกรรมหวายและผ้าทอ อย่ภู ายในอาคารไม้ 2 ชนั้ ภายในมีห้องจัดแสดงสินค้า พรอ้ มเคร่ืองหวาย นานาชนดิ ให้เลือกซ้ือ ซึ่งราคามีต้ังแตห่ ลกั สบิ ถึงหลักหมน่ื พน้ื ท่ีส่วนหนง่ึ ของอาคาร ยงั เปน็ ศนู ยร์ วมของ ช่างทางานฝมี อื ท้ังงานหวายและทอผา้ ผู้มาเยี่ยมชมจะไดเ้ หน็ ขน้ั ตอนการผลติ เฟอรน์ เิ จอร์ ตง้ั แตป่ ลอก ผิวหวาย จนประกอบเสรจ็ สมบรู ณ์
๖. ภาพศลิ ปนิ OTOP
๗. ภาพผลติ ภณั ฑ์ OTOP
แบบฟอรม์ ขอ้ มลู ประวตั แิ ละผลงานศลิ ปนิ OTOP กรมการพฒั นาชมุ ชน ประจาปงี บประมาณ พ.ศ.2564 1. ขอ้ มลู ทวั่ ไป ชอ่ื -สกลุ (นาย/นาง/นางสาว) สาลาน กรมทอง ท่อี ยบู่ า้ นเลขที่ 57/2 หมทู่ ี่ 4 ตาบล เขาแก้ว อาเภอ เชียงคาน จังหวัด เลย เบอร์โทรศพั ท์ 0860354738. 2. ผลติ ภณั ฑท์ ลี่ งทะเบยี น OTOP ปี 2557 – 2563 ผลติ ภณั ฑ์ : ผ้าฝ้ายทอมือ (ผา้ ลายนางหาญ) ประเภท : ผ้าและสงิ่ ทอ ลงทะเบยี น ปี พ.ศ. 2560 ระดบั ดาวทไ่ี ดร้ บั C กล่มุ พฒั นาสู่การแข่งขนั 3. ผลงานของผถู้ กู เสนอชอ่ื เปน็ ศลิ ปนิ OTOP 3.1 ดา้ นการศกึ ษา คน้ ควา้ การอนรุ กั ษ์ และสบื สานภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ - ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย จากศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อาเภอเชยี งคาน - ได้รับเกียรตเิ ปน็ “ภมู ิปญั ญาท้องถนิ่ ดา้ นการทอผ้าพน้ื เมอื ง” จากศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและ การศกึ ษาตามอธั ยาศัย จังหวดั เลย 3.2 ด้านการสรา้ งสรรคผ์ ลงานทม่ี าจากภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถนิ่ - ฟ้นื ฟผู า้ ลายโบราณของไทดา (ผา้ ลายนางหาญ) จนสามารถสอนคนร่นุ หลงั และผลติ จาหน่าย พรอ้ มทัง้ นาขึ้นทลู เกลา้ ฯ ถวายสมเดจ็ พระราชินแี ละพระเจ้าวรวงศเ์ ธอพระองค์เจ้าโสมสวลฯี 3.3 ดา้ นการถา่ ยทอดองคค์ วามรใู้ หก้ บั คนในชมุ ชนหรอื บคุ คลภายนอก - เป็นผดู้ แู ลเฮอื นอา้ ยเอม็ แหลง่ เรยี นรู้ภูมปิ ญั ญาชาวบ้านไทดานาป่าหนาด ซ่ึงเปน็ แหล่งรวบรวม และสบื ทอด เผยแพรภ่ มู ปิ ัญญาและวฒั นธรรมวถิ ชี ีวิตด้ังเดมิ ของไทดา 4. การไดร้ บั รางวลั ยกยอ่ งเชดิ ชเู กยี รติ (ถา้ ม)ี 1. พฒั นาสังคมท้องถน่ิ ดเี ด่น จงั หวัดเลย พ.ศ. 2551 2. รางวลั วิสาหกิจชมุ ชนดีเด่น ระดับจงั หวดั เลย 3. รางวัลวสิ าหกจิ ชมุ ชนดเี ด่น ระดบั ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ 4. รางวลั การคัดสรรสดุ ยอดหนง่ึ ตาบลหนง่ึ ผลิตภณั ฑ์ไทย ปี พ.ศ. 2553 ระดับ 5 ดาว
5. เรอ่ื งราวความเปน็ มาของผลติ ภณั ฑ์ (STORY) จากคาบอกเลา่ ของ เอมเฒ่า มีหญงิ ไทดา 3 พนี่ อ้ งตัง้ ใจทีจ่ ะทอผ้าซิ่นข้ึนมาผืนหนึ่งเพ่ือให้แปลกว่าลาย เดมิ ทีใ่ ช้อยมู่ าก เช่น ลายแตงโม โดยหญิงคนแรกเป็นผู้คิดค้นการมัดลายและทาการทอ แต่ทอยังไม่ทัน แล้วเสร็จกไ็ ด้เสียชีวิตลงอย่างไม่ทราบสาเหตุ ต่อมาหญิงคนที่สองจึงได้คิดค้นลายยกขิดและทอต่อ ใน ระหว่างทอก็เสยี ชีวิตโดยไมท่ ราบสาเหตุตามกนั ไปเป็นคนที่สอง หญิงคนท่ีสามจะทอต่อแต่ผู้เฒ่าประจา หมบู่ ้าน(เจ้าจ้า)ได้สั่งห้ามไม่ให้ทอเพราะกลัวจะเสียชีวิตเหมือนหญิงสองคนท่ีผ่านมา แต่ด้วยความกล้า หาญเดด็ เดีย่ วทจ่ี ะสานต่องานฝมี อื นางจึงไมฟ่ งั คาหา้ มของผเู้ ฒา่ แตด่ ว้ ยความฉลาดและความกตัญญูของ นาง ก่อนลงมือทอนางจึงได้เข้าไปในกะล้อห่อง(ห้องวิญญาณบรรพบุรุษ)เพ่ือบอกกล่าวผีบ้านผีเรือนว่า หากตนทอซ่ินผืนน้ีสาเร็จ เมื่อมี การเสนเรือน จะนาผ้าซ่ินผืนแรกท่ีตนทอสาเร็จใส่ สาหรับให้เป็นของเซ่นไหว้ แล้วจึงลงมือทอผ้าลายนี้ทาให้หญิงคนที่สามทอผ้าซ่ินผืนดังกล่าวได้สาเร็จ นับตั้งแตน่ ้นั มาชาวไทดาจึงตอ้ งใช้ซ่ินนางหาญในการประกอบพิธเี สนเรอื นเรอื่ ยมา จนถงึ ปัจจุบนั ซ่ึงคาว่า “นางหาญ” ท่ีชาวไทดา บา้ นนาป่าหนาด เรยี กกันน้ัน ก็หมายถงึ ความกลา้ หาญ ความเด็ดเดี่ยว ของหญิง ในตานานคนที่สาม ทกี่ ล้าทอผ้าซนิ่ ผืนดังกล่าวได้จนสาเร็จนั่นเอง ความหมาย ลายผ้าซิ่นนางหาญ ซึ่งมี ลายหม่ี 3 ลาย ลายยกขดิ 2 ลาย รวมเปน็ 5 ลายในผนื ซน่ิ 1. ลาย นาคเกย้ี วกัน สอ่ื ถึงพ่ีนอ้ งชาวไทดา กอดกันไวแ้ น่น สามคั คี กนั รวมแรงร่วมใจกัน 2. ลาย รุง้ หรอื ช่อยอดปราสาทหรือกาแลบนจ่ัวหลังคาบ้านไตดา ส่ือถึงพ่ีน้องชาวไทดา ร่าเริงสดใส สวยงาม สะเหมือนรุง่ กนิ น้า จะอยูแ่ หง่ หนใดก็เจรญิ ร่งุ เรอื ง 3. ลายพญานาคหรอื นาคเดี่ยว สอื่ ถึงความอุดมสมบรู ณ์ของนา้ ทา่ ไม่แห้งแล้งส่งผลถงึ พืชผลผลติ ผล อุดมสมบูรณ์ อกี นยั หนงึ่ เป็นการบอกใหท้ ราบว่าไตดาบ้านนาป่าหนาดอพยพจากเวยี ดนามลอ่ งผา่ นลาน้า โขงผา่ นลาวเข้าส่ไู ทย โดยตามความเชอื่ ว่าอาศัยพญานาค(เหงือก , เหงอื่ ะ) 4. ลายยกขดิ ลายโตบี้ / แมงกะเบี้ย / ผเี สอ้ื สื่อถึงวา่ พนี่ อ้ งชาวไทดา เชอ่ื กันว่าหนุ่มสาว ทร่ี กั กัน เวลาตายไปแล้วจะกลายไปเปน็ กระดมุ เสือ้ ทเ่ี กาะตดิ อยบู่ นหน้าอก เส้ือของผหู้ ญงิ 5. ลายยกขิด ลายหมากตุ้ม สอื่ ถึงว่าพี่น้องชาวไทดา จะตุ้มโหมกัน จะรักใคร่สามัคคีกัน เป็นพี่น้อง กัน ไม่ว่าจะอยู่ท่ไี หน เมืองแถง-ไทย-ลาว เมืองเลย-ราชบุรี-เพชรบุรี ไม่ว่าอยู่ท่ีไหนจะถามข่าวหากัน รัก กัน เป็นพ่กี นั น้องกนั ไม่ว่าจะอยู่ท่ไี หนก็จะรู้วา่ เปน็ ไทดา เป็นเผา่ ไทดาจะไปมาหาสกู่ นั ไม่มีการแบง่ แยก
6. ภาพศลิ ปนิ OTOP ขนาดโปสการด์ (4x6 น้ิว) 7. ภาพผลติ ภณั ฑ์ OTOP ขนาดโปสการด์ (4x6 น้วิ )
แบบฟอรม์ ขอ้ มลู ประวตั แิ ละผลงานศลิ ปนิ OTOP กรมพฒั นาชมุ ชน ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ๑. ขอ้ มลู ทว่ั ไป ชอื่ – สกลุ นายธญั ญน์ ธิ ิ ศรบี ุรินธนาภรณ์ ที่อยบู่ า้ นเลขท่ี 99 หมู่ 5 บา้ นทา่ ศาลา อาเภอภูเรอื จงั หวดั เลย เบอรโ์ ทร. 084-4048018 ๒. ผลติ ภณั ฑท์ ล่ี งทะเบยี น OTOP ปี ๒๕๕๗ - ๒๕๖๒ ผลติ ภณั ฑ์ : กาแฟควั่ บดคณุ ภาพดี (อาราบกิ า้ ) ประเภท : เครื่องดมื่ ลงทะเบยี น ปี พ.ศ. : พ.ศ. ๒๕๕๗ ระดบั ดาวทไี่ ด้ : ๓. ผลงานของผถู้ กู เสนอชอ่ื เปน็ ศลิ ปนิ OTOP ๓.๑ ดา้ นการศกึ ษา ค้นคว้า การอนุรกั ษ์ และสบื สานภูมิปญั ญาทอ้ งถ่ิน ยุทธศาสตร์กาแฟ เรม่ิ ตน้ ต้งั แตป่ ี 2552-2556 เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การลด ตน้ ทนุ การผลิต เพ่ิมมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์และเพื่อสร้างเสถียรภาพราคากาแฟ โดยความร่วมมือของหน่วยงาน ราชการต่างๆ สาหรับเป้าหมายของการจัดทายุทธศาสตร์กาแฟ คือลดต้นทุนการผลิต เพิ่ม ผลผลิตต่อไร่ เพิ่ม จานวนแปลงกาแฟท่ีได้รับรอง GAP พัฒนาการผลิต การแปรรูป การสร้างมูลค่าเพ่ิม การพัฒนาผลิตภัณฑ์จาก กาแฟแลการบรรจภุ ณั ฑ์ใหม้ ีคณุ ภาพมากย่งิ ขึ้น
นอกจากเร่ืองของยุทธศาสตร์กาแฟยังคงพัฒนาในเรื่องของการหาอัตลักษณ์ทากาแฟเฉพาะ ท้องถิ่นให้มากขึ้น แล้วใช้เอกลักษณ์นั้นมาสร้างเร่ืองราวความพิเศษให้กับกาแฟเพ่ือเตรียมตัวเข้าสู่ประชาคม เศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 ไม่เช่นน้ันประเทศไทยอาจประสบปัญหาได้เพราะหลายประเทศในกลุ่ม อาเซยี นมศี ักยภาพผลติ กาแฟไดม้ ากเชน่ กัน สภาพทัว่ ไปของจงั หวัดเลยในการพัฒนาอตุ สาหกรรมเกษตรแปรรปู สู่การเชื่อมโยงงานวจิ ัยสู่การ ผลติ เชิงพาณชิ ย์ โดยท่วั ไปจงั หวดั เลยร่วมกบั ภาคเอกชนมีการส่งเสริมการปลูกยางพาราซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจของ จังหวัดเลยและนิยมปลูกกันอยา่ งแพร่หลาย ปัจจุบนั หนว่ ยงานภาครฐั มีการส่งเสริมชาวไร่ยางพาราในจังหวัดเลย รว่ มโครงการปลกู กาแฟอาราบกิ า้ ในแปลงยางพารา ชเู ป็นพชื เศรษฐกิจชนดิ ใหม่ในจังหวัดเลย โดยมีความม่ันใจว่า สามารถสรา้ งรายได้ให้กับเกษตรกรที่ร่วมดาเนินการได้ ลดการบุกรุกป่าได้โดยเร่ิมต้นท่ีอาเภอภูเรือ เพ่ือเปิดตัว โครงการปลกู อาราบกิ า้ Organic ผสมผสานในแปลงยางพาราเพ่ือส่งเสริมให้เกษตรกรชาวจังหวัดเลยมีรายได้ท่ี ม่ันคง ลดการใชเ้ คมี ลดการบุกรุกปา่ โดยมีภาคเอกชนในการรับซอื้ เมลด็ กาแฟจากเกษตรกรทเี่ ขา้ รว่ มโครงการ ทา ใหม้ ีการสง่ เสรมิ ธรุ กิจที่เกย่ี วขอ้ งกบั กาแฟมากขน้ึ ๓.๒ ดา้ นการสรา้ งสรรคผ์ ลงานทมี่ าจากภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถนิ่ ปัจจุบันนอกจากกลมุ่ จะพฒั นาผลติ ภัณฑใ์ ห้ได้มาตรฐานแลว้ กลมุ่ ยงั ได้มกี ารพฒั นาดา้ น การตลาดหลายช่องทาง โดยการทาการตลาดแบบธรกจิ เฟรนไชส์ สนิ ค้าของกลมุ่ เปน็ สินคา้ เขา้ สรู่ ะบบเฟรนไชส์
คือกาแฟสด ซึ่งทางกลมุ่ จัดรปู แบบทาเปน็ ร้านคีออส ใหด้ ูทนั สมัยเห็นแล้วน่าสนใจ จดุ เดน่ ของสินค้าเปน็ รา้ นกาแฟ สดท่มี สี ูตรชงกาแฟรว่ มกบั สมุนไพรกระชายดา ซ่งึ จะไดร้ สชาติที่เป็นเอกลกั ษณ์ ดื่มแล้วนุม่ หอมกร่นุ หวั ใจไม่สัน่ เพราะมคี าเฟอีนต่า อยใู่ นมาตรฐานทส่ี าธารณสุขรบั รอง ด้วยจุดเดน่ ของสนิ ค้ากบั มาตรฐานสินคา้ นนั้ จงึ เปน็ ท่นี ยิ ม ของลกู ค้าทม่ี าใช้บริการและทางกลมุ่ ยงั ให้ความสาคญั เร่ืองการสรา้ งแบรนด์ สรา้ งภาพลกั ษณ์ของสินคา้ ดว้ ย จงึ ทา ให้กลมุ่ สามารถจาหนา่ ยผลติ ภณั ฑ์ได้อยา่ งตอ่ เนอื่ ง ทั้งนี้ทางกลุ่มได้ออกงานแสดงสินค้าตามภูมิภาคต่างๆ ทั้ง 4 ภาคและทาการสารวจรวบรวม ข้อมลู เร่อื งความช่นื ชอบรสชาตกิ าแฟในแต่ละภูมิภาค ทาให้กลุ่มมีข้อมูลในการปรับรสชาติกาแฟให้ถูกคอนักด่ืม กาแฟในแต่ละพื้นที่ได้เป็นอย่างดี จากการสารวจความช่ืนชอบในแต่ละพื้นท่ีทาให้ทางกลุ่มได้ข้อสรุปว่าการดื่ม กาแฟของลกู คา้ ในแต่ละภูมิภาคช่ืนชอบรสชาติกาแฟที่แตกตา่ งกนั ไป
ช่องทางการตลาด - รา้ นกาแฟคอฟฟ่บี นั บ.ทา่ ศาลา ม.5 ต.ทา่ ศาลา อ.ภเู รอื จ.เลย - จาหน่ายที่ศนู ย์ OTOP ท่วั ไป - จาหนา่ ยในงานแสดงสินคา้ OTOP ของกรมการพัฒนาชุมชนจัดขึน้ และงานอ่นื ๆ - ตลาดออนไลน์ จัดส่งถึงที่ กลุม่ มกี ารสารวจข้อมลู คู่แขง่ ทางการคา้ เพอ่ื เปรียบเทียบการจาหนา่ ยสินค้าในรปู แบบ เฟรนไชส์ วิเคราะหส์ ภาพแวดล้อม ในการดาเนินธรุ กจิ (Swot Analysis) โดยสารวจสถานการณ์ภายในและภายนอก จุดแข็ง จดุ อ่อน เพ่ือให้รู้ศักยภาพของทางกลมุ่ เรา วเิ คราะหอ์ ปุ สรรค โอกาส จงึ ทาใหท้ ราบถงึ การเปลีย่ นแปลงต่างๆ ท้งั สง่ิ ทเ่ี กดิ ขนึ้ ทผ่ี ่านไปแลว้ และสง่ิ ทม่ี แี นวโนม้ ที่จะเกิดขน้ึ ในอนาคต ดังนนั้นจึงทาใหก้ ล่มุ พร้อมทจ่ี ะปรับตวั อยเู่ สมอ เพอื่ พฒั นาตัวเองในอนาคตตอ่ ไป ๓.๓ ด้านการถา่ ยทอดองคค์ วามรใู้ หก้ บั ชมุ ชนหรอื บคุ คลภายนอก ในการถ่ายทอดองคค์ วามรจู้ ะเน้นในเร่ืองของการบรหิ ารจดั การอย่างเป็นระบบ ทง้ั กดา้ นบรหิ าร จัดการกลุ่ม การผลติ การตลาด การพฒั นาผลิตภณั ฑท์ ี่ไดร้ บั จากการแปรรปู จากชมุ ชนเพื่อการแขง่ ขนั ในตลาด เพ่ือใหส้ มาชิกและคนในชุมชนมีกระบวนการแลกเปลี่ยนเรยี นรู้มสี ว่ นร่วมในกระบสนการบรหิ ารจดั การ การพฒั นา และแกไ้ ขปัญหาของชมุ ชนรว่ มกนั อยา่ งต่อเน่ือง และพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชมุ ชนใหด้ ีขน้ึ ทง้ั ด้านรายได้ และ องค์ความรดู้ ้านปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
๔. การไดร้ บั รางวลั ทยี่ กยอ่ งเชดิ ชเู กยี รติ - ไดร้ ับการคัดสรรเปน็ ผลติ ภัณฑ์ระดับหา้ ดาว - ชนะเลิศการคดั สรรสุดยอดผลติ ภณั ฑ์ OTOP เด่น จงั หวดั (Provincial Star Otop) : ประเภทเครอ่ื งดื่ม - ได้รับเครื่องหมายผลิตภัณฑ์ OTOP กรมการพฒั นาชมุ ชน : Premium แขง่ ขนั สู่สากล - รางวลั ชมเชยการประกวดแผนธุรกจิ OTOP ดเี ดน่ ระดบั ประเทศ ปี 2558 - รางวัล OTOP เงินลา้ น (Millionaire) สถาบันวจิ ยั วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยแี หง่ ประเทศไทย (วว.)
๕. เรอ่ื งราวความเปน็ มาของผลติ ภณั ฑ์ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนรักษ์สมุนไพรไทยท่าศาลาก่อตั้งเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2544 เดิมน้ัน ชื่อกลุ่มรักษ์ สมุนไพรไทย ตอ่ มาเม่อื ปี 2549 ทางกลุ่มได้ยื่นจดทะเบียน วิสาหกิจชุมชนตามพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจ ชุมชน พ.ศ.2548 กบั สานักงานเกษตรอาเภอภเู รือ จงั หวดั เลย ออกให้เมอ่ื วนั ที่ 5 มีนาคม 2549 สถานท่ีตั้ง เลขที่ 99 หมทู่ ี่ 5 ตาบลท่าศาลา อาเภอภเู รอื จงั หวัดเลย สมาชกิ กลมุ่ มี 15 คน วตั ถุประสงค์และอุดมการณ์ของสมาชิก ท่ีมาจัดต้งั รวมกลุม่ น้ัน เพือ่ แปรรปู สมุนไพรและผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรท่ีชุมชนผลิตโดยมีการจัดการอย่างเป็น ระบบ ท้ังในดา้ นการผลติ การตลาด การพัฒนาผลิตภณั ฑ์ที่ได้จากการแปรรูปจากชุมชนเพื่อให้สามารถแข่งขันใน ตลาดได้ ซ่ึงจะทาให้สมาชกิ และคนในชุมชนมคี ุณภาพชีวิตทดี่ ีขน้ึ ชว่ งแรกผลิตภัณฑ์ที่ทางกล่มุ ไดน้ ามาแปรรปู คอื กระชายดา ซง่ึ เปน็ สมนุ ไพรทเ่ี ปน็ ภูมิปัญญาชาวบ้านท่ีใช้ รักษาอาการเจ็บป่วยมาตั้งแต่สมัยโบราณ ต่อมาทางกลุ่มได้นา ขิง ชาเขียว งา และกาแฟ นามาแปรรูปเป็น เครื่องดืม่ และไดพ้ ัฒนาผลติ ภณั ฑท์ ีท่ างกลมุ่ แปรรปู ออกมาจนได้รบั เครอ่ื งหมายรบั รองมาตรฐาน อย. จากกระทรวง สาธารณสุขและเครอ่ื งรบั รองคุณภาพมาตรฐานผลติ ภัณฑ์ชมุ ชน (มผช.) จากกระทรวงอุตสาหกรรม และทางกลุ่ม ไดส้ ง่ ผลิตภัณฑ์เข้าคัดสรรสดุ ยอดหน่งึ ตาบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ ซ่ึงกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ได้จัด โครงการขนึ้
๖. ภาพศลิ ปนิ OTOP ๗. ภาพผลติ ภณั ฑ์ OTOP
แบบฟอรม์ ขอ้ มลู ประวตั แิ ละผลงานศลิ ปนิ OTOP . กรมการพฒั นาชมุ ชน ประจาปงี บประมาณ พ.ศ.2564 1. ขอ้ มลู ทว่ั ไป ชอ่ื -สกลุ (นาย/นาง/นางสาว) นอ้ งนาง บรู ณโสภณ ที่อยู่บา้ นเลขท่ี 133 หมูท่ ่ี 2 ตาบล แสงภา อาเภอ นาแห้ว จังหวัด เลย เบอรโ์ ทรศพั ท.์ 088- 3217724 2. ผลติ ภณั ฑท์ ลี่ งทะเบยี น OTOP ปี 2557 – 2563 ผลติ ภณั ฑ์ : ไมก้ วาดดอกหญ้า . ประเภท : ของใช้ – ของที่ระลกึ ลงทะเบยี น ปี พ.ศ. 2560 ระดบั ดาวทไ่ี ดร้ บั 3 ดาว 3. ผลงานของผถู้ กู เสนอชอื่ เปน็ ศลิ ปนิ OTOP 3.1 ดา้ นการศกึ ษา คน้ ควา้ การอนรุ กั ษ์ และสบื สานภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ - ม.6 - เกิกการคน้ คว้า การย้อมสีของดอกหญา้ เพือ่ เพม่ิ สสี ัน - อนุรักษก์ ารปลกู แขม และการแยกสายพนั ธุ์ - การถ่ายทอดสทู่ ายาท – เด็กรุ่นใหม่ 3.2 ดา้ นการสรา้ งสรรคผ์ ลงานทมี่ าจากภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถนิ่ -ปรับเปลย่ี นรปู แบบจากการใชใ้ หเ้ ห็นทรี่ ะลึกของฝากจากท้องถน่ิ ซ่ึงมาจากทรัพยากรธรรมชาติ ตามวิถีของคนอยู่กับป่าแบบเก้ือกลู แบ่งปนั 3.3 ด้านการถา่ ยทอดองคค์ วามรใู้ หก้ บั คนในชมุ ชนหรอื บคุ คลภายนอก - รบั เปน็ วิทยากร สอนการทาไมก้ รวดใหค้ นในชุมชน สถานทศี่ ึกษา ของงบ อบจ.เลย, เทศบาลด่าน ซ้าย, กศน.ภาคเหนือตอนบน 4. การไดร้ บั รางวลั ยกยอ่ งเชดิ ชเู กยี รติ (ถา้ ม)ี 1. การอนุรกั ษ์ รางวลั ชุมเชยจากโครงการหมบู่ า้ นพิทกั ษป์ ่า รกั ษาสงิ่ แวดลอ้ ม 2. รางวลั ชนะเลิศ
5. เรอ่ื งราวความเปน็ มาของผลติ ภณั ฑ์ (STORY) เกดิ จากความใฝร่ ู้ และสง่ิ ท่ีมอี ย่ใู นชมุ ชน พรอ้ มการเปิดรับส่ิงใหม่ๆ จากที่มาจากสุโขทัย ที่มีการตลาด สามารถทาเปน็ ธุรกจิ ได้ จึงได้มีการต้ังกลุ่มรวมตัวกัน ตั้งแต่ปี 2553 จนถึงปัจจุบัน และยังมีการตลาด อย่างตอ่ เน่อื ง 6. ภาพศลิ ปนิ OTOP ขนาดโปสการด์ (4x6 น้วิ ) 7. ภาพผลติ ภณั ฑ์ OTOP ขนาดโปสการด์ (4x6 นิว้ )
Search
Read the Text Version
- 1 - 50
Pages: