เอกสารประกอบการเรียน รายวชิ านวัตกรรมและเทคโนโลยดี จิ ิทลั เพอื่ การเรยี นรอู้ ย่างสร้างสรรค์ รหัสวชิ า 1032103 เรอ่ื ง หลักการ แนวคิด ทฤษฎี ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั นวตั กรรมและ เทคโนโลยสี ารสนเทศทางการศกึ ษา 1. หลักการ แนวคิด ทฤษฎี นวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ ทางการศึกษา 2. ความหมายของนวตั กรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศทาง การศึกษา 3. ประเภทของนวัตกรรมและเทคโนโลยสี ารสนเทศทาง การศึกษา 4. กรอบพัฒนาผเู้ รยี นในศตวรรษที่ 21 อาจารย์ ดร.วีณัฐ สุกลหอม คณะครศุ าสตร์ พ.ศ. 2563
หลักการ แนวคิด ทฤษฎี ทเี่ ก่ียวข้องกบั นวตั กรรมและเทคโนโลยสี ารสนเทศทางการศกึ ษา การพัฒนาประเทศในกรอบแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการศึกษา (ฉบับท่ี 3 ของ ประเทศไทย) พ.ศ. 2557-2561 ได้รวบรวม ศึกษาและวิเคราะห์บริบทด้านเทคโนโลยสี ารสนเทศและ การสื่อสารที่กำหนดไว้ในประเด็นยทุ ธศาสตร์ของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2555-2559) และแผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2574 ซึ่งเป็นแผนระยะยาว 15 ปี ที่ใช้ เป็นแผนแม่บทสำหรับหน่วยงานการศึกษาที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระทรวงศึกษาธิการที่ดูแล รับผิดชอบการศึกษาของประเทศโดยตรง ได้วางกรอบเป้าหมายและทิศทางการจัดการศึกษาของ ประเทศในการพัฒนาศักยภาพและขีดความสามารถของคนไทยทุกช่วงวัยให้เต็มตามศักยภาพ สามารถแสวงหาความรู้และเรียนรู้ได้ด้วยตนเองอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต โดยการขับเคลื่อนภายใต้ วิสัยทัศน์ให้คนไทยทุกคนได้รับการศึกษาและเรียนรู้ตลอดชวี ติ อย่างมีคุณภาพ ดำรงชีวิตอยา่ งเป็นสุข สอดคล้องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และการเปลี่ยนแปลงของโลกศตวรรษที่ 21 (กระทรวงศึกษาธิการ, 2560) ซึ่งมีความสอดคล้องกับนโยบายการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและ สังคม ทีก่ ำหนดวสิ ัยทัศน์ไว้วา่ “เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารหรอื ไอซีทีเปน็ พลังขับเคลื่อน สำคัญในการนำพาคนไทยสู่ความรู้และปัญญาเศรษฐกิจไทยสู่การเติบโตอย่างย่ังยืน สังคมไทยสู่ ความเสมอภาค” (กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, 2559) จากข้อมูลดังกล่าวพบประเทศ ไทยให้ความสำคัญกับการพัฒนาทุนมนุษย์อย่างต่อเนื่องอีกทั้งยังพัฒนาคนสู่สังคมแห่งการเรียนรู้ ตลอดชีวิตอย่างยั่งยืนด้วยการสนับสนุนการรับรู้ข่าวสารของประชาชน การส่งเสริมประชาชนให้มี ความรู้และทักษะในการใช้สารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพ มีวิจารณญาณ มั่นคง ปลอดภัยและรู้เท่า ทัน นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญในด้านการนำเทคโนโลยีสารสนเทศไปช่วยพัฒนาในภาคส่วนต่างๆ ได้แก่ การสร้างความเข้มแข็งภาคเกษตร การผลิต การค้า การบริการ การบริหาร การแพทย์ การ สาธารณสุข การศึกษา การคมนาคม การทหาร เป็นต้น รวมไปถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้มี ความทันสมัยและเพียงพอเพื่อให้ประชากรมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นสามารถพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้า ตอ่ ไปเพ่ือประโยชน์สุขท่ยี ่ังยนื ของสงั คมไทย ความหมายของนวตั กรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา การศกึ ษาความหมายและความสำคญั ของนวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา จำเป็นต้องมีความเข้าใจถึงความหมายและคำจำกัดความของคำว่า นวัตกรรม หรือนวกรรม
(Innovation) ราชบัณฑิตยสถาน (2550) ได้ให้ความหมายคำว่า นวัตกรรม หมายถึง สิ่งที่ทำขึ้นใหม่ หรือแปลกจากเดมิ ซึง่ อาจจะเปน็ ความคดิ วิธกี าร หรืออุปกรณ์ สมนึก เออ้ื จิระพงษ์พันธ์ และคณะ (2553) ไดใ้ ห้ความหมายคำว่า นวัตกรรม หมายถึง “สิ่งใหม่ ที่เกิดขน้ึ จากการใช้ความรู้ ทกั ษะประสบการณ์ และความคิดสรา้ งสรรค์ ในการพฒั นาขน้ึ ซึ่งอาจจะมี ลักษณะเป็นผลิตภณั ฑ์และบริการใหม่ หรอื กระบวนการใหม่ทก่ี ่อให้เกิดประโยชน์ในเชิงเศรษฐกิจและ สังคม” สุคนธ์ สินธพานนท์ (2553) ให้ความหมายคำว่า นวัตกรรม หมายถึง สิ่งใหม่ๆ ที่สร้างขึ้นมา เพื่อช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนหรือพัฒนาให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้อย่างมี ประสิทธภิ าพ ได้แก่ แนวคดิ รูปแบบ วิธีการ กระบวนการ ส่อื ตา่ ง ๆ ทเี่ ก่ียวกบั การศึกษา สูติเทพ ศิริพิพัฒนกุล (2561) ได้ให้ความหมายว่า นวัตกรรม หมายถึง แนวคิด หรือการ สร้างสรรค์วิธีการหรือหนทางใหม่ๆ นำมาปฏิบัติทั้งที่ยังไม่เคยมีมาก่อนหรือมีอยู่แล้วและนำมา ดัดแปลงให้มีความทันสมัย โดยมีการพัฒนาอย่างเป็นขั้นตอน จากการคิดค้น พัฒนา และผ่านการ ทดลองใช้งานก่อนนำไปปฏิบตั จิ ริงซ่ึงจะมีความแตกต่างไปจากการปฏิบัตเิ ดิมทเ่ี คยปฏบิ ัตมิ า กล่าวโดยสรุป นวัตกรรม หมายถึง แนวคิด วิธีการนำสิ่งประดิษฐ์ที่คิดค้นขึ้นมาใหม่หรือ พัฒนาต่อยอดจากของเดิมที่มีอยู่ โดยผ่านกระบวนการประเมินผล เผยแพร่ และได้รับการยอมรับว่า สามารถนำมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งนวัตกรรมเป็นเครื่องมือที่มีความสำคัญต่อการบริหาร การเปลี่ยนแปลง ยังผลทำให้เกิดความเจริญก้าวหน้าทั้งภาคเศรษฐกิจและสังคมไทยเนื่องจาก นวัตกรรมมีความสำคัญต่อมนุษย์ในรูปแบบที่แตกต่าง เช่น นวัตกรรมทางการศึกษา นวัตกรรมทาง การแพทย์ นวัตกรรมทางการเงิน และนวัตกรรมทางการเกษตร ฯลฯ และที่สำคัญยงั พบว่านวัตกรรม ที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพ่ือให้มนุษย์เปน็ ฐานกำลงั สำคญั ในการพฒั นาประเทศ เรียกกันว่า “นวตั กรรมทางการศกึ ษา”หรือ “นวัตกรรมและเทคโนโลรสารสนเทศทางการศกึ ษา” ปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามามีบทบาทต่อชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก มีการใช้ คอมพิวเตอร์ในการทำงาน ใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อสืบค้นข้อมูล หรือรับขนส่งข้อมูลระหว่างกัน ตลอดใช้ โทรศัพทเ์ คลอื่ นทห่ี รือโทรศัพทม์ ือถือในการติดตอ่ ส่ือสาร องคก์ รทง้ั ภาครัฐและเอกชนได้นำเทคโนโลยี สารสนเทศ และการสื่อสารเข้ามาใช้งานในทุกระดับชั้นขององค์กร คำว่า เทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology: IT) เรียกย่อว่า “ไอที” ประกอบด้วยคำว่า “เทคโนโลยี” และคำว่า “สารสนเทศ” นำมารวมกันเป็น “เทคโนโลยีสารสนเทศ” และปัจจุบันนักวิชาการบางท่านได้เปลีย่ น ชื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นคำว่า เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Information and Communication Technology: ICT) หรือเรียกย่อว่า “ไอซีที” คือ การนำความรู้ทางด้าน วิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้เพื่อสร้างหรือจัดการสารสนเทศอย่างเป็นระบบและรวดเร็วเพื่อเพ่ิม ประสิทธภิ าพในการจัดการเรยี นการสอน ขณะเดยี วกันทางองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรม
แห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก (UNESCO) กลับเรียกเทคโนโลยีเหล่านี้ว่า “Informatics” หรือ สนเทศศาสตร์ ซึ่งหมายถึง วิชาที่ศึกษาเกี่ยวกับสารสนเทศ และการคำนวณเพื่อคาดการณ์เหตกุ ารณ์ ในอนาคต (ทกั ษิณา สวนานนท์ และฐานศิ รา เกยี รตบิ ารมี, 2546) จิมบา (Jimba, 1999) ให้นิยามความหมายของคำว่า นวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศทาง การศึกษา ว่าเป็นเทคโนโลยีต่างๆ ที่ใช้ในการสร้างสรรค์ (Creation), จัดหา (Acquisition), จัดเก็บ (Storage), เผยแพร่ (Dissemination), ค้นคืน (Retrieval), จัดการ (Manipulation), และถ่ายทอด (Transmission) ขอ้ มลู หรอื สารสนเทศ สูติเทพ ศิริพิพัฒนกุล (2552) ได้ให้ความหมายคำว่า นวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ ทางการศึกษา (Information Technology: IT) หมายถึง วิทยาการที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีโดย นำมาช่วยในการประมวลผลข้อมูล (Data Processing) เพื่อให้ได้สารสนเทศ (Information) โดยที่ เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างเทคโนโลยีการสื่อสาร (Communication Technology) กับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ (Computer Technology) เพื่อช่วยในการติดต่อสื่อสาร การถ่ายโอนข้อมูลและนำสารสนเทศไปใช้งานได้ง่ายหรือเพื่อการตัดสินใจได้สะดวกรวดเร็ว ซึ่งใน ปัจจุบันให้ความสำคัญกับการสื่อสาร (Communication) อย่างมาก จึงได้เรียกให้ครอบคลุมมากขึ้น เป็นเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Information Communication and Technology : ICT) นิพนธ์ บริเวธานนท์ (2562) ได้ให้ความหมายของคำว่า นวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ ทางการศึกษา หมายถึง เทคโนโลยีท่ีมีการนำคอมพวิ เตอร์ การส่อื สาร โทรคมนาคม มาทำงานร่วมกัน โดยนำขอ้ มูลปอ้ นเข้าสเู่ ครอื่ งคอมพวิ เตอร์ แล้วทำการประมวลผลเพื่อใหไ้ ดผ้ ลลัพธต์ ามต้องการ กล่าวโดยสรุป ความหมายคำว่า นวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา หมายถึง การจัดกิจกรรมการเรียนการสสอน โดยมีการบูรณาการร่วมกันระหว่างเทคโนโลยีระบบคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยสี ื่อสารโทรคมนาคมทผ่ี นวกเขา้ ดว้ ยกัน เพือ่ ใชใ้ นกระบวนการจัดหา จัดเก็บ สร้าง และ เผยแพร่สารสนเทศในรูปต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสารสนเทศในรูปแบบ ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว เสียง ข้อความ ตัวเลขหรอื ตัวอักษร โดยมรี ะบบการประมวลผลท่ีรวดเรว็ ถูกตอ้ ง และแมน่ ยำ ตามหลักการ ดำเนนิ งานของเทคโนโลยสี ารสนเทศ ความสำคญั ของนวตั กรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา จากแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2557-2559 ที่เน้นการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์ใช้งานกับผู้เกี่ยวข้องทางการศึกษา ทุกฝ่าย เช่น ผู้บริหาร ผู้สอน บุคลากรทางการศึกษา ผู้เรียน ประชาชนทุกภาคส่วน ผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส ตลอดจนถึงผู้สูงอายุ ที่ต้องการข้อมูลและองค์ความรู้ด้านต่างๆ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อ
การสร้างฐานความรู้เพื่อการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจให้เจริญก้าวหน้าต่อไป ซึ่งเทคโนโลยี สารสนเทศทางการศึกษา มีความเกี่ยวข้องกับการวางแผนและการตัดสินใจของผู้บริหาร การดำเนินงานของหนว่ ยงานต่างๆ การปฏิบตั งิ านของบุคลากรทางการศึกษา การเรยี นการสอนทั้งใน และนอกหอ้ งเรียน การจัดทำหลักสูตรและแผนการเรยี นการสอน การจัดทำสือ่ การเรียนการสอนและ สาระความรู้ และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้อย่างสรา้ งสรรค์ (กระทรวงศึกษาธกิ าร, 2554) รวมไปถึงการ สนับสนุนการใชเ้ ทคโนโลยีเพ่ือจัดเกบ็ ข้อมูล หรอื เทคโนโลยมี ัลตมิ เี ดีย ไดแ้ ก่ เทคโนโลยีทนี่ ำมาใช้ด้าน การจัดการศึกษา ท้ังน้ี กระทรวงศกึ ษาธิการ (2554) ไดใ้ หค้ วามหมายของคำว่าเทคโนโลยีสารสนเทศ ทางการศึกษา หมายถึง เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับระบบคอมพิวเตอร์ ระบบซอฟต์แวร์ ระบบข้อมูล สารสนเทศ ระบบเครือข่าย ระบบโทรคมนาคม วทิ ยุโทรทัศน์ ที่ใชเ้ พอื่ การศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ (2543) ได้ให้ความหมายของเทคโนโลยี สารสนเทศทางการศึกษา หมายถึง การนำเอาเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งประกอบด้วยเทคโนโลยีทาง คอมพิวเตอร์ และเครือข่ายโทรคมนาคมที่เชื่อมต่อกันสำหรับใช้ในการส่งและรับข้อมลู และมัลตมิ ีเดยี เกี่ยวกับความรู้ โดยผ่านกระบวนการประมวลหรือจัดทำให้อยู่ในรูปแบบที่มีความหมายและ ความสะดวกมาใช้ประโยชนส์ ำหรบั การศึกษาในระบบ นอกระบบ และการศกึ ษาตามอัธยาศัย เพ่ือให้ คนไทยสามารถเรยี นรู้และพัฒนาตนเองได้อย่างต่อเนื่องตลอดชวี ิต พงษ์ศักดิ์ ผกามาศ (2553) ได้ให้ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา หมายถึง ระบบการศึกษาท่ีได้นำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาช่วยในการพฒั นาการศึกษาให้ดียิง่ ข้ึน โดยนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใชใ้ นการสนบั สนุนการศึกษาเพ่ือใหผ้ ู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้มาก รวดเรว็ และมีประสทิ ธิภาพ เทคโนโลยจี ึงมผี ลต่อระบบการศึกษาโดยตรง ซึง่ สว่ นใหญ่จะเกี่ยวข้องกับ การรวบรวมข้อมูล ข่าวสาร ความรู้ การจัดระบบประมวลผล การส่งผ่านและสื่อสารด้วยความเร็วสูง และปริมาณมาก นำเสนอและแสดงผลด้วยระบบสื่อต่างๆ ทั้งทางด้านข้อมูล รูปภาพ เสียง ภาพเคลื่อนไหว และวิดีโอ อีกทั้งยังสามารถสร้างระบบการมีปฏิสัมพันธ์ที่จะทำให้การเรียนรู้ใน ยุคใหม่ประสบผลสำเร็จด้วยดี ซึ่งอาจจะเรียกสถานศึกษาในปัจจุบันว่าสถานศึกษาอิเล็กทรอ นิกส์ (e-Education) ถ้าหากเป็นระดบั มหาวทิ ยาลัยอาจเรียกว่า e-University จากความหมายข้างต้นจะเห็นได้ว่าเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษามีบทบาท และ ความสำคัญในการปรับเปลี่ยนรูปแบบการศึกษาให้มีความทันสมัยและรวดเร็วด้วยการผสมผสาน ศาสตร์ทางเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีโทรคมนาคมเข้าดว้ ยกัน ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ในรูปแบบการพัฒนาการศึกษาที่ดีขึ้น พระราชบัญญัติเกี่ยวกับเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2542 หมวดที่ 9 เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา กล่าวถึงความสำคัญในการสนับสนุนการผลิตและพัฒนาสื่อการ เรียนการสอน การพัฒนาบุคลากร ด้านการผลิตและการจัดสรรคลื่นความถี่เพื่อการศึกษา รวมถึงการ วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีเพ่ือการศึกษา การจัดต้งั กองทุนเพ่ือการพฒั นาไว้ ดังน้ี
มาตรา 63 รัฐต้องจัดสรรคลื่นความถี่ สื่อตัวนำและโครงสร้างพื้นฐานอื่นที่จำเป็นต่อการส่ง วิทยุ กระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ วิทยุโทรคมนาคม และการสื่อสารในรูปอ่ืน เพื่อใช้ประโยชน์สำหรับ การศึกษาในระบบการศึกษาตามอัธยาศัย การศึกษานอกระบบ การทะนุบำรุงศาสนา ศิลปะและ วฒั นธรรมตามความจำเปน็ มาตรา 64 รัฐสนับสนุนให้มีการผลิต และมีการพัฒนาแบบเรียน หนังสือทางวิชาการ ตำรา สื่อสิ่งพิมพ์อื่น วัสดุอุปกรณ์ และเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาอื่นโดยเร่งพัฒนาขีดความสามารถในการ ผลิต จดั ให้มีเงนิ สนบั สนุนในการผลิตและมแี รงจงู ใจแกผ่ ผู้ ลติ และพัฒนาเทคโนโลยเี พอื่ การศึกษา ทง้ั น้ี โดยเปดิ ให้มกี ารแข่งขันโดยเสรีอยา่ งเป็นธรรม มาตรา 65 ให้มีการพัฒนาบุคลากรทั้งด้านผู้ผลิตและผู้ใช้เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา การใช้ เทคโนโลยีที่เหมาะสม มีคุณภาพและประสิทธิภาพ เพื่อให้มีความรู้ ความสามารถและทักษะใน การผลิต มาตรา 66 ผู้เรียนมีสิทธิได้รับการพัฒนาขีดความสามารถในการใช้เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา ในโอกาสแรกที่ทำได้ เพื่อให้มีความรู้และทักษะเพียงพอที่จะใช้เทคโนโลยีเพื่อการศึกษาในการ แสวงหาความรดู้ ้วยตนเองได้อยา่ งต่อเนือ่ งตลอดชวี ติ มาตรา 67 รัฐส่งเสริมให้มีการวิจัยและพัฒนา การผลิตและการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อ การศึกษา เพื่อให้เกิดการใช้ที่คุ้มค่าและเหมาะสมกับกระบวนการเรียนรู้ของคนไทย รวมทั้งการ ตรวจสอบ ติดตาม และประเมินผลการใช้เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา เพื่อใหเกิดกาใช้ที่คุ้มค่าและ เหมาะสมกบั กระบวนการเรยี นรู้ของคนไทย มาตรา 68 ให้มีการระดมทุน เพื่อจัดตั้งกองทุนพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาจากเงินอุดหนุน ของรฐั ค่าสมั ปทาน และผลกำไรที่ได้จากการดำเนินกิจการด้านสื่อสารมวลชน เทคโนโลยีสารสนเทศ และ โทรคมนาคมจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรประชาชน รวมทั้งให้มีอัตราลด ค่าบริการเป็นพิเศษในการใช้เทคโนโลยีดังกล่าวเพื่อการพัฒนาคนและสังคม หลักเกณฑ์และวิธีจัดสรร เงินกองทนุ เพื่อการผลิต การวิจัย และการพฒั นาเทคโนโลยีเปน็ ไปตามในกฎกระทรวง มาตรา 69 รัฐต้องจดั ให้มีหน่วยงานกลางทำหนา้ ท่ีพิจารณาเสนอนโยบาย การพฒั นาและการ ใช้ รวมท้ังการประเมินคุณภาพและประสิทธิภาพของการผลิตและการใช้เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา แผน ส่งเสริมและประสานการวจิ ัย จากพระราชบัญญตั ิเกย่ี วกับเทคโนโลยีเพ่ือการศึกษา พ.ศ. 2542 หมวดที่ 9 ดังที่กล่าวมาจะ เห็นได้ว่าแต่ละมาตราได้ให้ความสำคัญและตระหนักถึงการนำเทคโนโลยีมาช่วยพัฒนาการศึกษาในการ แสวงหาความรู้ด้วยตนเองได้อย่างต่อเนือ่ งตลอดชีวิต ดังนั้นเทคโนโลยีสารสนเทศจึงมีบทบาทในดา้ น การจัดการศึกษาเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการประยุกต์เทคโนโลยีทางด้านคอมพิวเตอร์และการสื่อสาร โทรคมนาคม ทีเ่ ข้ามามีบทบาทสำคญั ตอ่ การพฒั นาการศกึ ษา อาทิ
1. นวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามามีส่วนชว่ ยในเรอื่ งการเรยี นรู้ ปัจจบุ นั มเี ครื่องมือ อุปกรณ์ที่ช่วยในการเรียนรู้หลายอย่าง มีระบบการประชุมทางไกล (Video Conference) อินเทอร์เน็ต (Internet) ระบบคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) ระบบมัลติมีเดีย (Multimedia) นอกจากน้ันยังมรี ะบบใหบ้ ริการด้านต่างๆ เช่น การสืบค้นหนังสือในหอ้ งสมุด การยืม-คืนหนงั สือ เป็น ต้น ซึ่งระบบเหล่านี้เป็นระบบสนับสนุนการรับรู้ข่าวสารและการค้นหาข้อมูลข่าวสารเพื่อการเรียนรู้ ดงั ภาพการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการประชุมทางไกล ภาพการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการประชุมทางไกล ท่มี า : วนั ทูออล (2556) 2. นวตั กรรมและเทคโนโลยสี ารสนเทศท่ีเข้ามาสนับสนุนการจัดการศึกษา ในการจัดการศึกษา สมยั ใหม่จำเป็น ต้องอาศัยข้อมูลขา่ วสารเพ่ือการวางแผน ดำเนินการ การติดตาม และประเมินผล ทีส่ ำคัญ ได้แก่ การบริหารงานบัญชี งานพัสดุ ฯลฯ บทบาทสำคัญในการสนับสนุนการจัดการศึกษา เช่น ระบบ สารสนเทศทะเบียนนักศึกษา ระบบสารสนเทศทรัพยากรบุคคล และระบบสารสนเทศการสอน เป็นตน้ ดงั ภาพที่ 2.29 การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศในการจัดการศึกษา ภาพการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศในการจดั การศกึ ษา
ทมี่ า : ประชาสัมพนั ธ์ สาขาการศึกษาปฐมวัย คณะครศุ าสตร์ มหาวิทยาลยั สวนดสุ ติ 3. เทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาช่วยในการสื่อสารระหว่างบุคคล ในลักษณะเป็นเทคโนโลยี ระบบเครือข่ายการใช้งานคอมพิวเตอร์ในองค์กรปจั จบุ ันมีแนวโน้มไปสู่ระบบเครือข่าย คือ จัดให้ผู้ใช้ สามารถติดต่อและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันได้ ระบบเครือข่ายเป็นเครื่องมือที่จำเปน็ สำหรับช่วย ให้หน่วยงานติดต่อกันได้สะดวก ในด้านการเรียนการสอนจำเป็นต้องอาศัยการสื่อสารระหว่างผู้สอน กับผู้เรียน ผู้เรียนกับผู้เรียน ซึ่งสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการเรียนการสอนและในการ ดำเนินงานในหลายด้านโดยอาศัยเทคโนโลยีการสื่อสารระหว่างบุคคล เช่น การใช้โทรศัพท์ การ ประชุมทางไกล ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น ดังภาพ การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการสื่อสาร ระหว่างบคุ คล (E-Office มหาวทิ ยาลยั สวนดสุ ิต) ภาพการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการส่ือสารระหว่างบคุ คล (E-Office มหาวิทยาลัยสวนดสุ ติ ) ทีม่ า : วีณัฐ สกุลหอม 4. เทคโนโลยีสารสนเทศเขา้ มาชว่ ยจดั การสำนกั งานอัตโนมตั ิ (Office Automation: OA) ใน หน่วยงานต่างๆ ล้วนใช้คอมพิวเตอร์ในการทำงาน ซึ่งเป็นจุดหนึ่งที่สามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยี สารสนเทศในการจัดการสำนักงานอัตโนมัติได้ เช่น การจัดแฟ้มระบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic File) การประชุมทางไกล (Teleconference) การนัดหมาย (Appointment and Scheduling) เป็นต้น ดงั ภาพการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศในการจัดแฟ้มระบบอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์
ภาพการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศในการจัดแฟ้มระบบอิเล็กทรอนิกส์ ทีม่ า : วณี ฐั สกลุ หอม กล่าวโดยสรุปได้ว่านวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา ประกอบด้วย เทคโนโลยที ีเ่ กี่ยวข้องกับระบบคอมพวิ เตอร์ ระบบซอฟต์แวร์ ระบบขอ้ มลู สารสนเทศ ระบบเครือข่าย ระบบโทรคมนาคม วิทยุโทรทัศน์ ที่ใช้เพื่อการศึกษาอย่างเป็นระบบในรูปแบบรูปภาพ เสียง ภาพเคลื่อนไหว และมคี วามสำคญั ตอ่ การพฒั นาการศกึ ษาให้ดียิง่ ข้นึ โดยเฉพาะด้านการสนบั สนุนการ ผลิตและพัฒนาสื่อการเรียนการสอน การพัฒนาบุคลากร รวมถึงการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อ การศึกษา ประเภทของนวตั กรรมและเทคโนโลยสี ารสนเทศทางการศึกษา ไชยยศ เรืองสุวรรณ (2533, อ้างถึงใน ชัยวัฒน์ สุทธิรัตน์, 2552) ได้แบ่งประเภทของ นวัตกรรมและเทคโนโลยรสารสนเทศทางการศกึ ษาเอาไว้ 5 ประเภท ดังนี้ 1. นวัตกรรมทางด้านหลักสูตร เป็นการใช้วิธีการใหม่ๆ ในการพัฒนาหลักสูตรให้สอดคล้อง กับสภาพแวดล้อมในท้องถิ่นและตอบสนองความต้องการสอนบุคคลให้มากยิ่งขึ้น เนื่องจากหลักสูตร จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอเพื่อให้สอดคล้องกับความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีของโลก นอกจากนี้การพัฒนาหลักสูตรยังมีความจำเป็นที่จะต้องอยู่บนฐานของแนวคิดทฤษฎีและปรัชญา ทางการจัดการสมั มนาอีกด้วย นวัตกรรมทางด้านหลักสตู รในประเทศไทย ได้แก่ การพัฒนาหลักสตู ร ดังตอ่ ไปน้ี 1.1 หลักสูตรแบบบูรณาการ หมายถึง การบูรณาการส่วนประกอบของหลักสูตรเข้า ด้วยกันทางด้านวิทยาการในสาขาต่างๆ เช่น การศึกษาทางด้านจริยธรรมและสงั คม โดยมุ่งให้ผู้เรยี น
เป็นคนดีสามารถใช้ประโยชน์จากองค์ความรู้ในสาขาต่างๆ ให้สอดคล้องกับสภาพสังคมอย่างมี จริยธรรม เชน่ 1. 1. 1 หลักสูตรคณิตศาสตร์การจัดการ ( Management Mathematics) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หลักสูตรปริญญาตรีและปริญญาโท เป็นหลักสูตรแรกในประเทศไทยและ ในอาเซียน เปน็ หลักสูตรทศ่ี ึกษาเกีย่ วกับการจัดการการดำเนินงานอยา่ งเป็นระบบ ผสมผสานระหว่าง ความรู้ทางการวิจัยดำเนินการ (Operations Research) โดยใช้วิธีการทางคณิตศาสตร์ และความรู้ ทางเทคโนโลยีการจัดการซึ่งเน้นหลักพื้นฐานทางวิทยาการการจัดการ (Management Science) ตลอดจนเพ่มิ ทกั ษะสหวทิ ยาการและภาษาอังกฤษในการปฏิบตั งิ านทางด้านการจัดการ 1.1.2 หลักสตู รของโรงเรียนรุง่ อรณุ ซึ่งเลือกคลองแหง่ การพัฒนาปัญญาเป็นแม่บทใน การจัดกระบวนการศึกษาที่ชัดเจน เพื่อให้ครู นักเรียน และบุคคลที่แวดล้อม ได้ร่วมกันแสวงหา เป้าหมายสูงสุดคือ ความจริง ความดี ความงามอันประณีตด้วยตนเอง โดยมี สัมมาทิฏฐิ เป็นที่ตั้งและใช้ สติสัมปชัญญะ กำกับโดยตลอด ทั้งนี้กระบวนการดังกล่าวจะอาศัย 2 ปัจจัยหลัก คือ กัลยาณมิตร และโยนิโสมนสิการ กัลยาณมิตร ได้แก่ พ่อแม่ ครู และบุคคลแวดล้อมผู้มีเมตตา รวมทั้ง สภาพแวดล้อมตา่ งๆ ทเี่ อ้ือแก่การเรยี นรจู้ รงิ 1.1.3 หลักสูตรของโรงเรียนดรุณสิกขาลัย โรงเรียนนวัตกรรมแห่งการเรียนรู้ ของ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี พัฒนาขึ้นบนรากฐานของทฤษฎีการเรียนรู้ Constructionism ที่ให้ความสำคัญกับการสร้างองค์ความรู้ผ่านประสบการณ์จริงของตนเอง ตาม หลกั การพนื้ ฐานของการจัดการเรียนรู้ 3 กระบวนการ คือ (1) การคิด (2) การลงมือทำ และ (3) การ สะท้อนความคดิ มลี กั ษณะเปน็ การเรียนผ่านโครงงาน (Project Based Learning) 1.2 หลักสูตรรายบุคคล หมายถึง แนวทางการพัฒนาของหลักสูตร เพื่อตอบสนอง แนวความคิดในการจัดการศึกษารายบุคคล ซึ่งจะต้องออกแบบระบบเพื่อรองรับความก้าวหน้าของ เทคโนโลยีด้านต่างๆ เป็นการศึกษาด้วยตนเองตามความพร้อมของแต่ละคน โดยไม่ต้องมีผู้สอน แต่ อาศัยบทเรียนที่สร้างขึน้ มาเป็นพิเศษ ที่การจัดเนื้อหาและลำดับการเรียนไวอ้ ย่างเหมาะสม ที่เรียกวา่ บทเรียนโปรแกรมการศึกษาจากของแต่ละบุคคล ซึ่งเป็นวิธีหนึ่งของการศึกษาตามปกติวิสยั สื่อการสอน และนวัตกรรมการศึกษารายบุคคล เช่น คอมพิวเตอร์ช่วยสอน การสอนผ่านเว็บและสื่อสิ่งพิมพ์ หน่วย การเรยี นสอ่ื ประสม 1.3 หลักสูตรกิจกรรมและประสบการณ์ หมายถึง การช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ตาม เป้าหมายโดยให้ผู้เรียนได้รับประสบการณ์ (Experience) ที่จำเป็นต่อการเรียนรู้ในเรื่องที่เรียนร้กู ่อน แล้วจึงให้ผู้เรียนย้อนไปสังเกต ทบทวนสิ่งที่เกิดข้ึนและนำส่ิงที่เกดิ ขึ้นมาคิดพิจารณาไตรต่ รองร่วมกนั จนกระทั่งผู้เรียนสามารถสร้างสมมติฐานต่างๆ หรือสมมติฐานเหล่านั้นไปทดลองหรือประยุกต์ใช้ใน สถานการณ์ใหม่ๆ ต่อไป (ทิศนา แขมมณี, 2550) เป็นหลักสูตรที่มุ่งเน้นกระบวนการในการจัด
กิจกรรม เช่น ประสบการณ์การเรียนรู้จากการสืบค้นด้วยตนเอง เป็นหลักสูตรที่เกิดขึ้นจากความ พยายามที่จะแกไ้ ข การเรยี นรูแ้ บบครเู ป็นผสู้ อนเพยี งฝา่ ยเดยี ว โดยไมค่ ำนงึ ถงึ ความต้องการและความ สนใจของผู้เรียน ซึ่งเป็นข้อบกพร่องของหลักสูตรแบบเนื้อหาวิชา หลักสูตรแบบนี้ยึดหลักการที่ว่ า “การเรียนรูเ้ กิดจากประสบการณ์ และประสบการณ์สามารถเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมได้” เป็นรูปแบบ การเรียนแบบการเรยี นรูด้ ้วยการกระทำ (Learning by Doing) 1.4 หลกั สูตรทอ้ งถ่นิ หมายถึง การพัฒนาหลักสูตรที่ต้องการกระจายการบริหารจัดการมี การออกสู่ท้องถิ่นเพื่อให้สอดคล้องกับศิลปวัฒนธรรมสิ่งแวดล้อม แทนที่หลักสูตรในแบบเดิมที่ใช้ วิธีการรวมศูนย์การพัฒนาอยู่ในส่วนกลาง สอดคล้องกับชวลิต ชูกำแพง (2551) ที่กล่าวว่า หลักสูตร ระดับท้องถิ่นเป็นหลักสูตรที่เหมาะกับสภาพชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชนนั้น สาระการเรียนรู้จะ สอดคล้องสัมพันธ์กับท้องถิ่น มุ่งการเรียนรู้ที่จะนำไปใช้ประโยชน์จริง ตัวอย่างหลักสูตร ได้แก่ หลักสูตรอบรมต่างๆ ที่จัดขึ้นโดยหน่วยงานของรัฐเพื่อส่งเสริมความสามารถของคนในชุมชน และ สอดคล้องกับลักษณะของท้องถิ่น เช่น หลักสูตรการแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรของชุมชน เป็นตน้ 2. นวัตกรรมการเรียนการสอน เป็นการใช้วิธีระบบคิดค้นวิธีสอนแบบใหม่ ที่สามารถ ตอบสนองการเรียนรายบคุ คล การสอนแบบผ้เู รยี นเป็นศนู ย์กลาง การเรียนแบบมสี ว่ นรว่ ม การเรยี นรู้ แบบแก้ปัญหา การพัฒนาวิธสี อนจำเป็นต้องอาศัยวิธีการและเทคโนโลยีใหม่ เข้ามาจัดการและสนับสนุน การเรียนการสอน ตัวอย่างนวัตกรรมที่ใช้ในการเรียนการสอน ได้แก่ การเรียนแบบร่วมมือ การสอน แบบ 4MAT การสอบแบบปฏิบัติ การเรียนผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต กระบวนการเรียนรู้ในรูปแบบ แบบจินตวิศวกรรม นวัตกรรมการเรยี นการสอนสำหรับการศึกษาปฐมวัย เช่น การจัดการศึกษาแบบ วอลดอร์ฟ การสอนแบบโครงงาน การสอนตามทฤษฎีพหุปญั ญา การสอนแบบมอนเตสซอรี เป็นต้น 3. นวัตกรรมสื่อการสอน เนื่องจากมีความกา้ วหน้าของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และเครือขา่ ย ทำให้นักการศึกษาพยายามนำศักยภาพของเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้ในการผลิตสื่อการเรียนการสอน แบบใหม่ที่มีจำนวนมาก ทั้งการเรียนด้วยตนเอง และการเรียนแบบมวลชน ตลอดจนสื่อที่ใช้เพื่อ สนับสนุนการฝึกอบรมผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ตัวอย่างนวัตกรรมสื่อการสอน ได้แก่ คอมพิวเตอร์ ช่วยสอน มัลติมีเดีย การประชุมทางไกล E-learning การสอนออนไลน์ หรือการเรียนการสอน ออฟไลน์ เป็นตน้ 4. นวัตกรรมทางด้านการประเมิน เป็นนวัตกรรมที่ใช้เป็นเครื่องมือเพื่อการวัดผลและ ประเมินผลอย่างมีประสิทธิภาพและทำได้อย่างรวดเร็ว รวมไปถึงการวิจัยทางการศึกษา การวิจัย สถาบัน ด้วยการประยุกต์ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์มาสนับสนุนการวัดผล ได้แก่ การพัฒนาคลังข้อสอบ
การจัดสอบออนไลน์ การลงทะเบียนผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การใช้บัตรสมาร์ทการ์ดเพื่อการใช้ บริการของสถาบนั การศึกษา 5. นวัตกรรมการบริหารจัดการ เป็นการใช้นวตั กรรมที่เกี่ยวข้องกับการใช้สารสนเทศมาช่วย ในการบริหารจัดการ เพื่อการตัดสินใจของผู้บริหารการศึกษาให้มีความรวดเร็ว ทันเหตุการณ์ นวตั กรรมทน่ี ำมาใชท้ างดา้ นการบรหิ ารจะเก่ียวข้องกับระบบและบคุ ลากรในสถานศึกษา ด้านการเงิน บัญชี พัสดุ และครุภณั ฑ์ มนสิช สิทธิสมบูรณ์ (2557) ได้แบ่งประเภทของนวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศทาง การศกึ ษาไว้ 5 ประเภท ไดแ้ ก่ 1. นวัตกรรมด้านสื่อการสอน จากความก้าวหน้าของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์ เครือข่ายและเทคโนโลยีโทรคมนาคม ทำให้นักการศึกษาพยายามนำศักยภาพของเทคโนโลยีเหล่าน้ี มาใช้ในการผลิตสื่อการเรียนการสอนในการเรียนด้วยตนเอง ตลอดจนนวัตกรรมส่ือการสอนที่ใชเ้ พอ่ื สนับสนุนการฝึกอบรม ผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ได้แก่ บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน ชุดฝึกอบรม หนังสอื อเิ ล็กทรอนกิ ส์ เป็นต้น 2. นวตั กรรมดา้ นวธิ กี ารจัดการเรียนการสอน การใช้วิธีระบบในการคิดค้น วธิ ีสอนแบบใหม่ๆ เพื่อให้ตอบสนองการเรียนรู้ได้ในรูปแบบการสอนรายบุคคล การสอนแบบผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง การ เรียนแบบร่วมมือ การเรียนรู้แบบแก้ปัญหา ได้แก่ การสอนแบบร่วมมือร่วมใจ (Cooperative Learning) การสอนแบบโครงสร้างความรู้ (Graphic Organizer) การสอนแบบศูนย์การเรียน (Learning Center) การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Based) การสอนแบบบูรณาการ (Integrate Teaching) การสอนดว้ ยรปู แบบซิปปา (CIPPA Model) การสอนแบบโครงงาน (Project Method) เป็นต้น 3. นวัตกรรมทางด้านหลักสูตร เป็นการนำวิธีการใหม่ๆ ในการพัฒนาหลักสูตรให้มีความ สอดรับกับสภาพแวดล้อมในท้องถิ่น นอกจากนี้การพัฒนาหลักสูตรยังมีความจำเป็นที่จะต้องอยู่บน ฐานของแนวคิดทฤษฎี การพัฒนาหลักสูตรตามหลักการและวิธีการดังกล่าวต้องอาศัยแนวคิดและ วิธีการใหม่ๆ ที่เป็นนวัตกรรมการศึกษาเข้ามาช่วยเหลือจัดการให้เป็นไปในทิศทางที่ต้องการ ได้แก่ หลักสตู รสาระเพมิ่ เติม หลกั สตู รท้องถ่ิน และหลักสตู รกจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น 4. นวัตกรรมด้านการวัดและการประเมินผล เป็นนวัตกรรมที่ใช้เป็นเครื่องมือเพื่อการวัดผล และประเมินผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึง การวิจัยสถาบัน ด้วยการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์มา สนับสนุน ตัวอย่าง นวัตกรรมทางด้านการประเมินผล ได้แก่ การสร้างแบบวัด การสร้างเครื่องมือ การประยกุ ต์ใชโ้ ปรแกรมคอมพวิ เตอร์ 5. นวัตกรรมด้านการบริหารจัดการ เป็นการใช้นวัตกรรมทีเ่ กีย่ วข้องกับการใช้สารสนเทศมา ช่วยในการบริหารจัดการเพื่อการตัดสินใจ ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกนวัตกรรมการศึกษาท่ี
นำมาใช้ทางด้านการบริหาร ไดแ้ ก่ ฐานขอ้ มูล นักเรียน นักศึกษา ดา้ นการเงนิ พสั ดุ บัญชี และครุภัณฑ์ ฐานข้อมูลเหล่านี้ต้องการออกระบบที่สมบูรณ์มีความปลอดภัยของข้อมูลสูง นอกจากนี้ยังมีความ เกี่ยวขอ้ งกบั สารสนเทศภายนอกหน่วยงาน เช่น ระเบยี บปฏิบัติ กฎหมาย พระราชบัญญัติ ที่เกี่ยวกับ การจัดการศึกษา ซึ่งจะต้องมีการอบรม เก็บรักษาและออกแบบระบบการสืบค้นที่ดีพอซึ่งผู้บริหาร สามารถสืบค้นข้อมูลมาใช้งานได้ทันทีตลอดเวลา การใช้นวัตกรรมแต่ละด้านอาจมีการผสมผสานท่ี ซอ้ นทับกนั ในบางเรอ่ื ง กล่าวโดยสรุป นวัตกรรมการศึกษามีการจำแนกไว้ 5 ประเภท ได้แก่ (1) นวัตกรรมทางด้าน หลักสูตร เพื่อให้สอดคล้องกับความก้าวหน้าทางดา้ นเทคโนโลยีหลักสูตรจึงต้องมกี ารเปลี่ยนแปลงอยู่ เสมอและที่สำคัญต้องสอดรับกับสภาพท้องถิ่น (2) นวัตกรรมการเรียนการสอน เป็นระบบคิดค้นวิธี สอนแบบใหม่ๆ ที่สามารถตอบสนองการเรียนรู้ได้ในรูปแบบการสอนรายบุคคล การสอนแบบผู้เรียน เป็นศูนย์กลาง การเรียนแบบร่วมมือ การเรียนรูแ้ บบแก้ปัญหา (3) นวัตกรรมสื่อการสอน เป็นการนำ ศักยภาพของเทคโนโลยีมาใช้ในการผลิตสื่อการเรียนการสอนใหม่ๆ เพื่อการเรียนรู้ด้วยตนเอง และ การเรียนแบบมวลชน (4) นวัตกรรมทางด้านการวดั และประเมินผล ดว้ ยการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ มาสนับสนุน ตัวอย่าง นวัตกรรมทางด้านการประเมินผล เช่น การสร้างแบบวัด การสร้างเครื่องมือ ฯลฯ (5) นวัตกรรมการบริหารจัดการโดยนำสารสนเทศมาช่วยในการบริหารจัดการ เพื่อง่ายต่อการ ตัดสินใจของผบู้ ริหาร เชน่ ฐานข้อมลู นักเรียน การบญั ชี พสั ดุ เปน็ ต้น กรอบพฒั นาผเู้ รยี นในศตวรรษที่ 21 ในศตวรรษที่ 21 เทคโนโลยีสารสนเทศต่างๆ เข้ามามีความสำคัญในการดำเนินชีวิต ดังนั้น ครูผู้สอนต้องก้าวให้ทันพร้อมทั้งศึกษาความเปลี่ยนแปลงบนโลกในยุคดิจิทัล ได้นำมาสร้าง กระบวนการจัดการเรียนการสอน เพื่อสร้างประโยชน์ และนำผู้เรียนไปสู่การเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ วิจารณ์ พานิช (2555) ได้กล่าวว่า การค้นคว้าจากการเรียนของนักเรียน โดยมีครูช่วยแนะนำแนวทางทำให้ ผู้เรียนสามารถประเมินความก้าวหนา้ ในการเรียนรูข้ องตนเองได้ และสอดแทรกทกั ษะแห่งศตวรรษที่ 21 เขา้ ไปในทกุ วิชาแกนหลัก ดังน้ี 1. ด้านการเรียนรู้และนวัตกรรม กำหนดความพร้อมของนักเรียนเข้าสู่โลกการทำงานที่มี ความซับซ้อนมากขึ้นในปัจจุบัน ได้แก่ การคิดอย่างมีวิจารณญาณและการแก้ปัญหา ความริเริ่ม สร้างสรรค์และนวตั กรรม และการส่ือสารและการรว่ มมือ 2. ทักษะด้านสารสนเทศ สื่อและเทคโนโลยี ได้มีการเผยแพร่ข่าวสารผ่านทางสื่อและ เทคโนโลยีมากมาย การคิดอย่างมีวิจารณญาณและปฏิบัติงานได้หลากหลาย โดยอาศัยความรู้ ได้แก่ ความร้ดู ้านสารสนเทศ ความรเู้ ก่ียวกบั ส่อื และความรดู้ ้านเทคโนโลยี
3. ทักษะดา้ นชวี ิตและอาชีพ ในการดำเนนิ ชวี ติ ในปัจจุบนั ทีท่ ำใหป้ ระสบความสำเร็จจะต้องมี การพัฒนาทักษะชีวิตที่สำคัญ ประกอบด้วยภาวะผู้นำและความรับผิดชอบ การปรับตัว สังคม วฒั นธรรม การเปน็ ผ้สู รา้ งหรอื ผผู้ ลิต และความรับผดิ ชอบเช่ือถือได้ ภาพท่ี 1.2 การจดั การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ทมี่ า : Jay P. Greene (2014) การจดั การเรยี นรู้ในศตวรรษที่ 21 เป็นการส่งเสริมใหผ้ ู้เรยี นอยูใ่ นบรบิ ททส่ี อดคล้องกับสังคม ทีม่ ีความร้รู อบตวั ผู้เรียนสามารถถา่ ยทอดความคิดเหน็ และมีความสามารถในการติดต่อส่ือสารเพ่ือให้ เกิดการเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนมีความสามารถในลักษณะดังกล่าว ชรัม และเลอวิน (Schrum and Lewin, 2009) ได้นำเสนอการจัดการเรียนการสอนที่เน้นทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ประกอบดว้ ยด้วยความรแู้ ละทกั ษะ 4 ด้านหลกั ได้แก่ 1. วชิ าหลัก (Core subjects) ได้แก่ ภาษาองั กฤษ การอ่าน ศลิ ปะการใช้ภาษา คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาต่างประเทศ หน้าที่พลเมือง การปกครอง เศรษฐศาสตร์ ศิลปะ ประวัติศาสตร์ และภูมิศาสตร์เพื่อให้ผู้เรียนได้เรียนรู้เนื้อหาที่จำเป็นและตอบสนองต่อเป้าหมายการสร้างคนให้มี คุณภาพ มีค่าเป็นที่ยอมรับ สามารถทำงานและใช้ชีวิตในศตวรรษที่ 21 ได้ จึงต้องรู้ในลักษณะ สหวทิ ยาการ ไดแ้ ก่ เศรษฐกิจ การเงิน การประกอบธุรกจิ สุขภาพ และส่ิงแวดล้อม เปน็ ต้น 2. ลักษณะอาชีพและทักษะชีวิต (Life and Career Skills) ความรู้อย่างเดียวไม่สามารถ ดำรงชีวติ ได้อย่างปกติสุขจึงจำเป็นต้องมีทักษะหรืออาชีพเสริม ไดแ้ ก่ การเข้ากับผู้อื่นและการปรับตัว
การริเริ่มและการนำตนเอง การผลิตผลงานและการยอมรับการตรวจสอบ ภาวะผู้นำและความ รับผดิ ชอบ 3. ทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม (Learning and Innovation Skills) การเรียนรู้ต้องเรียน ตลอดชีวิตต้องมีการฝึกฝนและพัฒนาผู้เรียนให้เกิดทักษะโดยเน้นการเรียนรู้ด้วยการปฏิบัติเพื่อ ตอบสนองความคิดอย่างสร้างสรรค์ มีทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณสามารถการแก้ปัญหาได้ และ มที ักษะการสื่อสารทีด่ สี ามารถทำงานร่วมกันผู้อ่นื ได้ 4. ทักษะด้านสารสนเทศ สื่อ และเทคโนโลยี (Information, Media and Technology Skills) คือ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยีเพื่อพฒั นาความรู้และทักษะแหง่ ศตวรรษที่ 21 ในบริบท ของการเรียนรู้แบบเนื้อหาและทักษะที่ผู้เรียนจะได้เรียนรู้วิธกี ารคิดเชิงวิพากษ์ การแก้ปัญหา การใช้ ข้อมูลขา่ วสาร การสอื่ สาร การผลิตนวัตกรรมและการทำงานรว่ มกัน จะเห็นไดว้ า่ การจัดการเรียนการสอนทเ่ี นน้ ทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 นั้น จำเป็นต้อง ออกแบบการเรียนรู้ด้วยนวัตกรรมอย่างมีระบบ ซึ่งจะช่วยเพิ่มพูนความรู้ ทักษะ ความสามารถ และ เจตคตขิ องผูเ้ รยี นไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธิภาพ คุณลักษณะจำเปน็ 8 ประการของผเู้ รียนในศตวรรษท่ี 21 ถนอมพร เลาหจรัสแสง (2550) กล่าวว่าผู้เรียนในยุคปัจจุบันเกิดมาพร้อมกับคอมพิวเตอร์ อินเทอรเ์ นต็ เคร่อื งมือส่อื สาร โทรศพั ท์มอื ถอื และเครื่องมอื อิเล็กทรอนิกสเ์ หล่านัน้ ได้เข้ามาเป็นส่วน หน่ึงในชวี ิตประจำวนั ดังนั้นผู้เรยี นในยคุ ศตวรรษที่ 21 ควรจะมคี ณุ ลักษณะสำคัญ 8 ประการ ไดแ้ ก่ 1) สิ่งที่ต้องรับผิดชอบและพึ่งพาตนเอง (Autonomous Learning) หมายถึง ความสามารถ ในการวางแผนการเรยี นร้ขู องตนเอง โดยทไี่ มต่ ้องใหม้ ผี ู้ใดมาบงั คับ อกี ทั้งการมคี วามเป็นผ้ใู หญ่ภายใน ตนเอง ประการแรกน้ี มีความสำคญั มากเป็นอันดับแรกและเป็นทักษะที่สงั คมต้องการ 2) ทักษะดา้ นการคดิ (Thinking Skills) หมายถึง ผู้เรยี นมีความสามารถพฒั นาการคดิ อย่างมี ระบบ และสามารถคิดอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การพัฒนาทักษะการคิดอย่างสร้างสรรค์ การคิด วเิ คราะห์ การคดิ ไตรต่ รอง และทกั ษะในการคดิ แก้ปัญหา 3) ทักษะในการทำงานร่วมกับผู้อื่นอย่างมีประสิทธิภาพ (Effective Collaborators) หมายถึง ผู้เรียนประสานงานกับผู้อื่นได้ดี มีความเป็นผู้นำและเป็นผู้ตามได้ อีกทั้งยังมีความสามารถในการ ถ่ายทอดความรู้ให้กับผู้ร่วมงานอื่นได้ และพร้อมเป็นผู้ฟังและผู้ปฏิบัติงานที่ดี ผู้เรียนมีทักษะในการ เรียนรู้แบบมสี ว่ นรว่ ม และมที กั ษะพนื้ ฐานดา้ นการสื่อสารอย่างมปี ระสิทธิภาพทด่ี ี
4) ทักษะในการสืบเสาะค้นหา (Enquirers) หมายถึง การที่ผู้เรียนมีคุณลักษณะเป็นนัก สำรวจท่ีดี ตอ้ งศึกษาคน้ ควา้ ส่ิงตา่ งๆ ให้มากขึน้ โดยสงั เกตความแตกต่างและการเปรียบเทียบ รวมทั้ง สบื ค้นเพอื่ การคน้ ควา้ ศึกษาความรู้ ขอ้ มูล และสามารถคดั เลือกกลนั่ กรองสารสนเทศท่ีเหมาะสมได้ 5) ความกระตือรือร้น (Active Learners) หมายถึง ผู้เรียนในลักษณะเชิงรุก โดยผู้เรียนต้อง ใส่ใจและให้ความร่วมมือในการเรียนรู้ ด้วยการศึกษาเนื้อหาต่างๆ และสามารถตั้งคำถามและตอบ คำถามได้ มีทักษะดา้ นการแสดงออก และแสดงความคดิ เห็นได้อยา่ งถกู ต้องและเหมาะสม 6) ทักษะพื้นฐานด้านไอซีที (ICT Skills) หมายถึง ที่ผู้เรียนดูแลรักษาเครื่องมือ ระบบต่างๆ ได้ในระดับพื้นฐาน มีความสามารถในการใช้คอมพิวเตอร์ และสามารถใช้ระบบสารสนเทศในการ สืบค้นได้อย่างมปี ระสิทธิภาพ อีกทัง้ ยังมที กั ษะในการเลอื กใชซ้ อฟตแ์ วร์ทีเ่ หมาะสม เปน็ ตน้ 7) ทกั ษะในด้านการใชภ้ าษาสากล (Second Language Skills) หมายถึง การที่ผู้เรียนมีการ พัฒนาความสามารถ และมคี วามรู้ในการใช้ภาษาทีส่ อง สามารถติดต่อสอ่ื สารกบั ผูอ้ ่นื ไดเ้ ป็นอยา่ งดี 8) ความสนใจในวฒั นธรรม (Engaged With Cultures) หมายถึง การใหผ้ ู้เรยี นใสใ่ จและเห็น ถึงคุณค่าของวัฒนธรรมที่ดีงามของตนเอง ทำให้สังคมนั้นได้เปรียบกว่าสังคมที่ไม่เห็นคุณค่าใน วัฒนธรรมของตนเอง กล่าวโดยสรุปได้ว่า คุณลักษณะจำเป็น 8 ประการ มีสำคัญต่อผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 ซึ่งนอกจากตัวผู้เรียนแล้วผู้สอนหรือผู้ที่เกี่ยวข้องในการจัดการศึกษา เช่น ครอบครัว และชุมชน ควรให้ ความสำคัญกับคุณลักษณะดังกล่าว เช่น ผู้เรียนต้องสามารถพึ่งพาตนเองได้ โดยมีกระบวนการคิดอย่าง เป็นระบบสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ มีความกระตือรือร้นในการเรียนรู้และมีความสามารถด้านการใช้ คอมพิวเตอร์ ภาษาสากล และมคี วามสนใจในวฒั นธรรม คณุ ลกั ษณะจำเป็น 8 ประการของผสู้ อนในศตวรรษที่ 21 ถนอมพร เลาหจรัสแสง (2550) กล่าวว่า นอกจากคุณลักษณะผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 ที่มีความสำคัญและมีความจำเป็น ผู้สอนในศตวรรษที่ 21 ก็ควรมีคุณลักษณะจำเป็น 8 ประการ เช่นกัน เนื่องจากผู้สอนต้องมีการถ่ายทอดเนื้อหาในบทเรียน องค์ความรู้จากประสบการณ์ หรือ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมระหว่างผู้เรียนกับผู้สอนเพื่อให้ได้องค์ความรู้ใหม่ จึงต้องมีทักษะที่สำคัญ เรียกว่า C-Teachers C-Teachers หมายถึง คุณลักษณะต่างๆ ที่มีความสำคัญและมีความจำเป็นต่อผู้สอนใน ศตวรรษที่ 21 เพื่อใช้ประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ หรือการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพ เช่น Content, Computer, Constructionist เป็นต้น ดังนั้น “C-Teachers” จึงประกอบด้วย คุณลักษณะท่ีจำเป็น 8 ประการ ไดแ้ ก่
1) Content หมายถึง ผู้สอนต้องเป็นผู้ท่ีเชี่ยวชาญ และมีเนื้อหาที่รับผิดชอบในการสอนถือเป็น ลักษณะทส่ี ำคญั ทส่ี ุด ถา้ ผู้สอนขาดซึง่ ความเชี่ยวชาญในเน้ือหาของตน ผู้เรียนจะไม่สามารถเรียนรู้จาก กิจกรรมที่เกดิ ข้ึนจากผสู้ อนไดเ้ ลย หรือไม่เขา้ ใจในสิ่งท่ผี ้สู อนพยายามถา่ ยทอดสง่ ผ่านใหแ้ กผ่ ู้เรียน 2) Computer หมายถึง ทักษะในการใช้คอมพิวเตอร์ในการบูรณาการ การเรียนการสอนใน ชั้นเรียน ซึ่งถือว่าเปน็ เครื่องมือสำคญั ในการจดั การเรียนการสอน การออกแบบกิจกรรม และส่งเสริม ทักษะกระบวนการคิดของผ้เู รยี นได้เปน็ อยา่ งดี 3) Constructionist หมายถึง ผู้สอนเป็นผู้สร้างสรรค์ และมีความเข้าใจเกี่ยวกับแนวคิด ซึ่งมุ่งเน้นว่า การเรียนรู้ที่เกิดขึ้นได้เป็นเรื่องภายในของตัวบุคคลที่ได้ลงมือทำกิจกรรมใดๆ ที่มี เช่อื มโยงกบั ประสบการณ์หรือความรู้เดมิ ทีอ่ ยู่ในตวั บุคคลนนั้ มาก่อน ผูส้ อนไม่เพียงแตไ่ ด้ใช้ทักษะนี้ใน การพฒั นาในด้านเน้ือหาความรู้ใหม่สำหรับผ้เู รียน หากยังสามารถส่งเสริมใหผ้ ูเ้ รยี นเป็นผู้สร้างความรู้ ขน้ึ ดว้ ยตนเอง ผา่ นการลงมือผลติ ช้นิ งานตา่ งๆ เช่น งานศลิ ปะ เป็นต้น 4) Connectivity หมายถึง ผู้สอนมีทักษะการจัดกิจกรรมที่สามารถเชื่อมโยงระหว่างผู้เรียน กับผู้สอน ผู้สอนในสถานศึกษาเดียวกันและตา่ งสถานศกึ ษา สามารถเชื่อมโยงกนั ได้ บ้านและชุมชนก็ สามารถเชื่อมโยงกันได้เชน่ กัน เมื่อสิ่งที่เรียนรู้ได้มีความสัมพันธ์โดยตรงและเกี่ยวข้องกับความสนใจ ประสบการณ์ ความเชอ่ื สังคม และวฒั นธรรมของผู้เรยี น ก็ทำใหผ้ ูเ้ รียนเกิดการเช่ือมโยงระหว่างสิ่งที่ เรยี นรูก้ บั ประสบการณต์ รงไดม้ ากขนึ้ 5) Collaboration หมายถงึ การท่ีผสู้ อนมคี วามสามารถในการเรียนรแู้ บบรว่ มมอื กนั กับผูเ้ รยี นได้ อย่างมีประสิทธิภาพ กล่าวคือ ผู้สอนจะต้องมีทักษะในบทบาทของการเป็นที่ปรึกษาที่ดีในการเรียนรู้ รวมทั้งการเป็นผู้เรียนเองในบางครั้ง ทักษะสำคัญของการเป็นโค้ชหรือที่ปรึกษาที่ดีนั้น ได้แก่ การสรา้ งฐานการเรียนรูใ้ หก้ ับผเู้ รียนเป็นระยะอย่างเหมาะสม อำนวยให้ผู้เรียนเกิดฐานการเรียนรู้ท่ีจะ ตอ่ ยอดการเรียนรูแ้ บบมีส่วนร่วมขึน้ ได้ ทง้ั นกี้ ารเรียนรจู้ ะเกดิ ข้นึ ในผู้เรยี นได้อยา่ งจำกดั หากปราศจาก ซึ่งฐานการเรียนรทู้ เี่ หมาะสมจากผู้สอน 6) Communication หมายถึง การที่ผู้สอนมีทักษะในการสื่อสารกับผู้เรียนได้อย่างมี ประสิทธิภาพ ซึ่งมิใช่เฉพาะการพัฒนาให้เกิดทักษะของเทคนิคการสื่อสารที่ดี เช่น ข้อความ การยกตัวอย่าง และการอธิบายด้วยคำพูด ฯลฯ เท่านั้น หากยังหมายรวมถึงการเลือกใช้สื่อ (Media) ท่ีหลากหลายท่ีชว่ ยให้ผูส้ อนสามารถส่งผ่านเน้ือหาสาระที่ต้องการจะนำเสนอ หรอื สร้างสิ่งแวดล้อมที่ เออ้ื ให้ผูเ้ รยี นเกิดการเรียนร้ดู ว้ ยตนเองไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 7) Creativity หมายถงึ การทีผ่ ู้สอนได้มคี วามคิดที่สรา้ งสรรค์ เพราะบทบาทผสู้ อนในยุคสมัย หนา้ น้นั ไม่ได้เนน้ การเปน็ ผู้ป้อนและส่งผ่านความร้ใู ห้กับผู้เรียนโดยตรง แต่จะมุง่ ไปสู่บทบาทของการ สร้างสรรคแ์ ละออกแบบส่ิงแวดล้อมการเรียนรู้ท่ีเอื้อ ทำให้ผูเ้ รียนมีการเรยี นรู้ด้วยตนเอง ผู้สอนได้รับ การคาดหวงั ให้สามารถท่ีจะรงั สรรคก์ ิจกรรมใหมๆ่ ต่างๆ ท่สี ง่ เสริมการเรียนรขู้ องผู้เรยี น
8) Caring หมายถึง การที่ผู้สอนจะต้องมีความปรารถนาและความห่วงใย ความรัก อย่างจริงใจแก่ผู้เรียน ในคุณลักษณะทั้งหมดที่ได้กล่าวมานั้น Caring นับว่าเป็นคุณลักษณะที่สำคัญ ที่สุด ทั้งนี้เพราะความมีมุทิตา รัก ปรารถนาดีกับผู้เรียน ทำให้ผู้เรียนมีความเชื่อใจต่อผู้สอน และ ส่งผลให้เกิดสิ่งแวดล้อมการเรียนรู้ในลักษณะการตื่นตัวอย่างผ่อนคลาย ถือว่าเป็นสิ่งแวดล้อมท่ี เหมาะสมท่ีสดุ ท่จี ะทำให้สมองเกดิ การเรียนรู้ไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพอนั แท้จรงิ กล่าวโดยสรุปว่าคุณลักษณะจำเป็น 8 ประการของผู้สอนในศตวรรษที่ 21 ควรประกอบไป ด้วยคุณลักษณะที่มีความจำเป็น ประกอบด้วย ความเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้อหาพื่อความแม่นยำใน การถ่ายทอดองค์ความรู้อย่างสร้างสรรค์ สามารถจัดกิจกรรมเชื่อมโยงผู้ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาได้ โดยผูส้ อนต้องมีบทบาทเป็นทป่ี รึกษาไดด้ ีสามารถส่ือสารกับผู้เรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความ ปรารถนาดกี บั ผเู้ รียน สรปุ ภาพรวมบทที่ 1 นวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา เป็นการบูรณาการร่วมกันระหว่าง เทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งประกอบด้วย 2 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ และ เทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคม ที่ผนวกเข้าด้วยกันเพื่อใช้ในกระบวนการจัดหา จัดเก็บ สร้าง และ เผยแพร่สารสนเทศในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสารสนเทศในรูปแบบ ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว เสียง ขอ้ ความ ตวั เลขหรอื ตัวอกั ษร และจากแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารเพ่ือการศึกษา ที่เน้นการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์ใช้งานกับผู้เกี่ยวข้องทางการศึกษาทุกฝ่าย เช่น ผู้บริหาร ผู้สอน บุคลากรทางการศึกษา ผู้เรียน ประชาชนทุกภาคส่วน ผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส ตลอด จนถึงผู้สูงอายุ จึงทำให้การศึกษามีการพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้น ปัจจุบันได้นำเทคโนโลยีเพ่ือ การศึกษามาใช้ในการพัฒนาทุนมนุษย์อยา่ งต่อเนื่อง โดยนำมาชว่ ยพฒั นาในภาคสว่ นต่างๆ ได้แก่ การ บริหาร การแพทย์ การสาธารณสุข การศึกษา เป็นต้น เพื่อนำไปสู่สังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต อยา่ งย่ังยนื คำถามทบทวน 1. จงอธิบายคำว่า “นวตั กรรมและเทคโนโลยสี ารสนเทศทางการศึกษา” มาพอสังเขป 2. จงยกตวั อยา่ งสอื่ นวตั กรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษาทน่ี กั ศึกษารจู้ กั มา3 ชนิดพร้อมอธบิ าย 3. เทคโนโลยคี อมพวิ เตอร์และการส่ือสารโทรคมนาคมในปัจจบุ นั มคี วามสำคัญต่อการพัฒนา การศึกษาอยา่ งไร 4. จงยกตวั อย่างเทคโนโลยีสารสนเทศท่ีเหมาะสมกับการเรียนทางไกลมา 1 ตัวอยา่ งพร้อม ทัง้ อธบิ ายพอสงั เขป
5. นกั ศกึ ษาสามารถประยกุ ต์ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศในการจัดการศกึ ษาไดอ้ ย่า เอกสารอา้ งอิง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม. (2559). สาระสำคัญแผนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและ สังคม. สืบค้นเมื่อ 3 กุมภาพันธ์ 2560 จาก http://ict.dld.go.th/th2/images/stories/ procure/2559/2-590613_1DE_27-5-593Drkasititorn.pdf. กระทรวงศึกษาธิการ. (2554). แผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2554-2556). สำนักงานปลดั กระทรวงศกึ ษาธิการ กระทรวงศึกษาธิการ. . (2542). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช 2542. กรุงเทพฯ : บริษัทสยาม สปอรต์ ซนิ ดเิ คท จำกดั . . (2560). แผนการศึกษา พ.ศ.2560-2574. สืบค้นเมื่อ 20 พฤศจิกายน 2560 จาก http:22www.onec.go.th/index.php/page/view/Outstand/2532. กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร. (2557). ร่างแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและ การสื่อสาร (ฉบับที่3) ของประเทศไทย พ.ศ. 2557-2561. กรุงเทพฯ : สำนักงาน ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและ การสอื่ สาร. ชัยวัฒน์ สุทธิรัตน์. (2552). 80 นวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ. กรุงเทพฯ : แดเนก็ ซ์อินเตอรค์ อรป์ อเรช่ัน. ชวลติ ชกู ำแพง. (2551). การพฒั นาหลักสูตร. มหาสารคาม : สำนักพมิ พ์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. ไชยยศ เรอื งสวุ รรณ. (2533). เทคโนโลยกี ารสอน : การออกแบบและพัฒนา. กรงุ เทพฯ : โอเดยี นสโตร์. ทิศนา แขมมณี. (2550). ศาสตร์การสอน : องค์ความรู้เพื่อกระบวนการจัดการเรียนรู้ที่มี ประสิทธิภาพ. (พมิ พ์คร้ังที่ 6). กรุงเทพฯ : สำนกั พิมพจ์ ฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั . บุญเกื้อ ควรหาเวช. (2542). นวัตกรรมการศึกษา. (พิมพค์ รงั้ ท่ี 3). กรงุ เทพฯ : หจก. SR Printing. ถนอมพร เลาหจรัสแสง. (2550). “การเรียนรู้ในยุคสมัยหน้า 1 : ตอน คุณลักษณะที่จำเป็นของ ผเู้ รียนทวินนี่ (Tweenies) ”. e-magazine, Information Technology Service, Chiang Mai University. นิพนธ์ บริเวธานนท์. (2562). เอกสารประกอบการสอนรายวิชา นวัตกรรมและเทคโนโลยี สารสนเทศทางการศึกษา. คณะครุศาสตร์ : มหาวิทยาลยั ราชภัฏภูเก็ต.
มนสิช สิทธิสมบูรณ์. (ม.ป.ป.). การพัฒนานวัตกรรมการศึกษา. สืบค้นเมื่อ 26 มกราคม 2557 จาก http://office.nu.ac.th/edu_teach/ASS/Download/vchk-การพัฒนานวัตกรรม-มนสิช. pdf. ราชบัณฑิตยสถาน. (2550). นวตั กรรม. สบื คน้ เม่ือ 4 พฤศจกิ ายน 2556 จาก http://www.royin.go.th. วิจารณ์ พานิช. (2555). วิถีสร้างการเรียนรู้เพื่อศิษย์ ในศตวรรษที่ 21. กรุงเทพฯ : มูลนิธิสดศรี- สฤษด์วิ งศ์. วันทูออล. (2556). Video Conference & Collaboration. สืบค้นเมื่อ 26 มีนาคม 2563 จาก https://www.1-to-all.com/video-conference-th. สมนกึ เออ้ื จิระพงษ์พันธ์ และคณะ. (2553). นวตั กรรม: ความหมาย ประเภท ความสำคัญต่อการเป็น ผู้ประกอบการ. วารสารบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. ปีที่ 33 ฉบับที่ 128 ตลุ าคม-ธนั วาคม 2553. สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ. (2560). แผนพัฒนาเศรษฐกิจและ สงั คมแห่งชาติ ฉบบั ที่ 12 (พ.ศ. 2560-2564). กรงุ เทพฯ. สุคนธ์ สินธพานนท์. (2553). นวัตกรรมการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาคุณภาพของเยาวชน. กรุงเทพฯ : ศูนย์หนังสอื จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย. สูติเทพ ศิริพิพัฒนกุล. (2561). นวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา. กรุงเทพฯ : วสิ ตา้ อนิ เตอรป์ ริน้ ท.์ . Jay P. Greene. (2014). Shakespeare’s Birthday and the Death of Humanities. Retrieved January 6, 2020, from : https://www.educationnext.org/ shakespeares-birthday- death-humanities/. Jimba, S.W. (1999). Information Technology and underdevelopment in third world. Library Review. Schrum, Lynne and Lewin, Barbara. (2009). B.Leading 21st century school : harnessing technology for engagement and achievement. Thousand Oaks, CA: Corwin
Search
Read the Text Version
- 1 - 21
Pages: