Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ปัญญาประดิษฐ์และการประยุกต์ใช้งาน

ปัญญาประดิษฐ์และการประยุกต์ใช้งาน

Published by ajtong1, 2020-07-20 01:16:08

Description: ปัญญาประดิษฐ์และการประยุกต์ใช้งาน

Search

Read the Text Version

ปัญญาประดษิ ฐ์ (Introduction to Artificial Intelligence)

ปัญญาประดิษฐแ์ ละการประยุกต์ใช้งาน ปจั จุบนั ระบบงานและเทคโนโลยีถกู พฒั นาขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกและสนับสนนุ การทำงานหลาย ๆ ดา้ นให้กับ มนษุ ย์ ถ้าระบบงาน หรือเทคโนโลยีนั้นสามารถคดิ วิเคราะห์อยา่ งมเี หตุผล ตดั สินใจ และเรยี นรู้เองได้ จะนำไปสู่การ ประยกุ ตใ์ ชแ้ ก้ปญั หาตา่ ง ๆ ซง่ึ จะมปี ระโยชน์ต่อมนุษยอ์ ย่างมาก สง่ิ เหลา่ น้ีเป็นเรือ่ งท้าทายความคดิ ของมนษุ ยใ์ นการสรา้ ง “ความฉลาด” ใหก้ บั เทคโนโลยีมากกว่า 50 ปี กบั แนวคดิ ท่ีจะสรา้ งสมองหรอื ปัญญาเทียม ทมี่ คี วามฉลาดเทียบเท่ากับมนุษย์ ทำให้เกิดศาสตร์แขนงหนงึ่ ทางด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ขนึ้ มาเรยี กว่า “ปัญญาประดษิ ฐ์ (Artificial Intelligence; AI)” 1.1 ความหมายของปัญญาประดษิ ฐ์ ในยุคแรกเครอื่ งคอมพิวเตอรส์ ว่ นใหญจ่ ะมีหน้าทคี่ ำนวณ และประมวลผลโปรแกรมของระบบงานตามท่มี นุษย์ ต้องการโดยมีมนุษยเ์ ปน็ ผคู้ วบคุม ปอ้ นคำสั่ง และรอผลลพั ธจ์ ากเครอื่ งคอมพวิ เตอรก์ ารตดั สนิ ใจในส่งิ ต่าง ๆ ยังคงอยู่บน พืน้ ฐานการสงั เคราะหข์ องมนุษย์ ทำให้มีแนวคดิ ทจ่ี ะพัฒนาให้เครอื่ งคอมพิวเตอรม์ ปี ระสทิ ธิภาพสงู ขน้ึ เพียงพอทจี่ ะอำนวย ความสะดวกและลดกำลงั การสนับสนุนจากมนุษยล์ งใหน้ ้อยท่สี ุด ดังนัน้ จึงจำเปน็ ต้องพัฒนาเคร่อื งคอมพิวเตอรใ์ หม้ คี วามคิด มี หลกั การทีส่ มเหตุสมผลเทยี บเคยี งกบั สมองมนุษย์ เพอ่ื ให้เคร่ืองคอมพิวเตอรส์ ามารถวิเคราะห์ข้อมลู เพ่ือตัดสินใจวา่ สิ่งใด ถูกตอ้ งตามจดุ ประสงคใ์ นการทำงาน ด้วยเหตุนจี้ งึ เป็นท่ีมาของการพัฒนาสมองของเครื่องคอมพวิ เตอรใ์ หม้ ีกระบวนการคิดที่ สมบูรณแ์ บบแทนการคดิ ของมนุษย์ ท่ีเรียกกันว่า “ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence)” ปญั ญาประดิษฐ์ หรือเรียกสนั้ ๆ วา่ AI (Artificial Intelligence) เปน็ แนวทางการพัฒนาทางด้านคอมพวิ เตอร์อีกรูปแบบ หน่งึ ซ่งึ ทำให้เครื่องคอมพวิ เตอร์คิดและตดั สินใจได้ใกล้เคียงกบั มนุษย์ โดยอาศัยหลกั การจากการศกึ ษาวธิ คี ิด การตดั สนิ ใจ หรอื หลกั ของเหตผุ ลจากมนุษย์ เพอ่ื นำไปใชใ้ นการพัฒนาศักยภาพของเครือ่ งคอมพิวเตอร์ใหส้ ามารถตอบสนองการทำงานที่ มากกวา่ เป็นเพียงเครอ่ื งจักรกลหรือโปรแกรมท่วั ไป โดยเรมิ่ จากการนำแนวคดิ ดงั กล่าวมากำหนดเปน็ ข้ันตอนให้เคร่อื ง คอมพวิ เตอร์ทำงาน แกป้ ัญหา ตัดสินและเรยี นรู้ได้ด้วยตนเอง สง่ ผลให้เครอื่ งคอมพิวเตอร์มคี วามฉลาดมากขึน้ สามารถทำงาน ในระบบท่ีมคี วามซับซอ้ นไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธิภาพโดยไมต่ ้องอาศยั แรงงานจากมนุษย์ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) เป็น ศาสตร์แขนงหนึง่ ของวทิ ยาการคอมพิวเตอร์ท่ีตอ้ งการพัฒนาเครื่องจกั รกลต่าง ๆ เช่น เครื่องคอมพวิ เตอร์หรอื ห่นุ ยนต์ เป็น ตน้ ใหม้ ีความสามารถทางดา้ นความคิด การตดั สินใจ และพฤตกิ รรมทค่ี ลา้ ยกบั มนุษย์มากทส่ี ุด เพอ่ื การแก้ปัญหาหรอื หา เหตุผลจากขอ้ มูลหรอื องคค์ วามรู้ทีม่ ีอยู่แล้วนามาวิเคราะห์ และแปลความหมายให้ได้ผลสรปุ หรอื ผลู้ ลัพธ์ทถ่ี กู ตอ้ งและมีความ ใกลเ้ คยี งกับการตดั สินใจดว้ ยมนุษย์ ปัญญาประดษิ ฐเ์ ป็นศาสตร์ทชี่ ่วยสนบั สนนุ ระบบงานทอ่ี าศัยกานทำงานของเคร่อื งจักร หรเื คร่ืองงคอมพวิ เตอร์ได้เป็นอย่างดี เมอ่ื มกี ารพัฒนาปัญญาประดษิ ฐ์ทีม่ ีประสทิ ธิภาพการทำงานต่าง ๆ จะเกดิ ข้อผดิ พลาด นอ้ ย มีการแก้ไขปัญหาและตัดสนิ ใจที่เร็วกว่าการใชส้ มองมนษุ ยเ์ น่อื งจากมนษุ ย์ยังตอ้ งอาศัยพ้ืนฐานทางกายภาพหรือร่างกาย ทำใหก้ ารทำงานอาจเกิดความผิดพลาดข้ึนได้เสมอ Russell และNorvig ได้จำแนกปญั ญาประดษิ ฐ์ออกเป็น 4 ลกั ษณะ โดย สามารถสรปุ ไดด้ ังน้ี

1. ระบบความคดิ ท่ีเลียนแบบมนษุ ย์ ปัญญาประดษิ ฐท์ ่ีถกู พัฒนาข้ึน ทำใหเ้ คร่ืองจักรมีสติปญั ญาสามารถคิดเองได้ และแสดงการกระทำออกมาได้โดยอตั โนมตั ิ ซ่งึ เปน็ การคิดท่อี าศยั รูปแบบแนวคดิ ของมนษุ ย์ จงึ สง่ ผลตอ่ การกระทำในด้าน การตัดสินใจ การแกป้ ญั หา และการเรียนรทู้ ี่คลา้ ยคลงึ กบั มนษุ ย์อย่างมาก 2. ระบบการกระทำท่เี หนอื มนุษย์ การกระทำท่ีเกดิ ข้ึนจากปญั ญาประดษิ์ ฐ์ ซึ่งอาศัยพ้นื ฐานการคิดที่เลียนแบบจาก มนษุ ย์ ส่งผลให้การแสดงออกและการกระทำต่าง ๆ เต็มเป่ียมไปด้วยรูปแบบการทำงานของมนษุ ยอ์ ยา่ งชดั เจน โดยมี ประสทิ ธภิ าพเทยี บเทา่ หรืออาจมากกวา่ การกระทำของมนุษย์ 3. ระบบความคิดอย่างมเี หตุผลกระบวนการคดิ ของมนุษย์ตั้งอยบู่ นพื้นฐานของเหตแุ ละผล ดังน้ันเมอื่ ปัญญาประดิษฐ์ ถูกสรา้ งข้นึ เพ่อื คดิ แทนมนุษยร์ ะบบส่ติปญั ญาต่าง ๆ จึงตอ้ งอาศยั แบบจำลองการคำนวณท่ีจะช่วยให้ปญั ญาประดิษฐ์สามารถ เขา้ ใจหลักของเหตุและผลสามารถคำนวนเหตุการณ์ตา่ ง ๆ ตามความเป็นไปไดแ้ ละที่คาดการณ์ไว้ลว่ งหนา้ ได้ 4. ระบบการกระทำอย่างมีเหตุผลด้วยกระบวนการคิดอย่างมีเหตุผลของปัญญาประดษิ์ ฐ์ สง่ ผลให้การแสดงออกและ การกระทำต่าง ๆ สอดคล้องกนั อย่างสมเหตุสมผล ซึ่งกระบวนการคำนวณท่ีมปี ระสทิ ธิภาพจะแสดงถงึ ความชาญฉลาดของ ปัญญาประดษิ ฐท์ กี่ ำหนดการกระทำหรือพฤติกรรมทแี่ สดงออกมาได้อยา่ งชัดเจน การกระทำอยา่ งมเี หตผุ ลนยี้ ังเปน็ แนวทางใน การออกแบบ “ตวั แทนปัญญา (Intelligent Agent)” ด้วยแม้วา่ มผี ู้กำหนดคำนิยามของคำว่า“ปัญญาประดิษฐ์” ไวม้ ากมาย แต่ โดยสรุปแล้วปัญญาประดิษฐ์ เปน็ ศาสตร์แขนงหนง่ึ ของวิทยาการคอมพวิ เตอร์ท่ใี ช้สำหรับพัฒนาให้เครอื่ งคอมพวิ เตอรห์ รื เครอื่ งงจกั รมีกระบวนการคิดเทยี บเทา่ กบั มนุษย์ เช่น การพฒั นาให้คอมพวิ เตอร์หรอื ห่นุ ยนตส์ ามารถคิดและมีพฤตกิ รรม เลียนแบบมนษุ ย์ ต้ังแตก่ ระบวนการตดั สินใจแก้ปัญหาวินิจฉยั หาเหตุผล จากความรทู้ จ่ี ดั เกบ็ ไว้ และนำความรนู้ ้ันมารวมกนั เพอื่ หาข้อสรุปหรอื ผลู้ ลพั ธข์ องปญั หาไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธิภาพ คณุ ลักษณะของปัญญาประดิษฐ์ คณุ ลักษณะการทำงานของปัญญาประดิษฐแ์ ล้วอาจเขา้ ใจไดค้ อ่ นข้างยากเนื่องจากเปน็ การมองภาพรวมเกี่ยวกบั การ สรา้ งเคร่ืองคอมพิวเตอร์ใหม้ ีความสามารถและฉลาดขึ้นเทียบเทา่ กบั มนษุ ยห์ รอื มากกว่าสำหรบั ความสามารถของ ปัญญาประดษิ ฐ์ เมอื่ ไดร้ บั การพฒั นาแลว้ จะมีคุณสมบัตดิ ังน้ี ความสามารถในการเรียนรูแ้ ละทำความเขา้ ใจประสบการณ์ท่ี ผา่ นมา ความสามารถในการทำความเข้าใจกับเนอื้ หา และข้อมูลท่คี ลมุ เครือหรอื มีความขัดแยง้ ความสามารถในการใชห้ ลัก ของเหตุและผล โดยนามาใชแ้ ก้ปญั หาต่าง ๆ พรอ้ มทงั้ แนะนำวิธีการหรือแนวทางได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพี ความสามารถในการ ทำความเข้าในปัญหาหาท่ีมีความซบั ซ้อน และวนิ ิจฉัยเพ่ือหาขอ้ สรุปีท่ีเหมาะสมที่สดุ ได้ ความสามารถในการนำองคค์ วามรูม้ า ประยกุ ต์ใช้ไดอ้ ยา่ งเหมาะสมกบั สถานการณ์ และสภาพแวดลอ้ มแบบต่าง ๆ ความสามารถในการจำแนกความสำคญั ของ ข้อมลู ปญั หา หรือองค์ประกอบท่แี ตกต่างกนั ตามสถานการณไ์ ด้ ความสามารถในการรตอบสนองท่ีรวดเรว็ ถูกตอ้ ง และ แมน่ ยำ จากทก่ี ล่าวมาเป็นความสามารถหรือคณุ สมบตั ขิ องปญั ญาประดิษฐบ์ างส่วนเท่าน้นั ซึง่ ในความเป็นจรงิ เมอ่ื นำไป พฒั นาและประยกุ ต์ใชง้ านแลว้ จะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไปตามลักษณะงานที่นำไปใช้ ความสามารถส่วนใหญข่ อง ปญั ญาประดษิ ฐม์ กั ต้องพึง่ พาการทำงานของเครือ่ งคอมพวิ เตอร์ทมี่ ีประสทิ ธิภาพสงู เพ่อื ใช้เปน็ ตัวควบคมุ และสนบั สนนุ การ ทำงานในด้านต่าง ๆ ให้มคี วามถกู ตอ้ งได้อย่างท่ตี ้องการเมื่อเปรยี บเทยี บปญั ญาประดษิ ฐ์กับแรงงานมนุษยแ์ ล้ว สามารถสรปุ หนา้ ท่ขี องปญั ญาประดษิ ฐ์ได้ดงั น้ี

ระบบการคำนวณ โดยทัว่ ไปนิยมนำเคร่อื งคอมพิวเตอร์มาใชใ้ นการประมวลผลและคำนวณขอ้ มูลหรือตวั เลขที่ ซับซอ้ นเกินกวา่ สมองมนุษย์จะคำนวณได้ ปญั ญาประดษิ ฐ์มีสว่ นชว่ ยให้วิเคราะหข์ นั้ ตอนการคำนวณได้อยา่ งถูกต้องและ แมน่ ยำข้ึน นอกจากน้ียงั สามารถประมวลผลการคำนวณในปรมิ าณมาก ๆ ได้อยา่ งรวดเรว็ อีกท้งั ยังเกดิ ข้อผิดพลาดน้อยด้วย หนา้ ที่นีจ้ งึ มักเป็นหน้าทที่ ี่สำคัญอันดบั แรกของการใช้งานปัญญาประดษิ ฐ์ ซ่ึงจะชว่ ยประหยดั ตน้ ทุนและเวลาได้เป็นอยา่ งมาก ระบบการจัดเกบ็ ข้อมูล เมื่อในระบบมีขอ้ มลู มากข้ึน การจดจำดว้ ยสมองมนุษย์ย่อมไมใ่ ชท่ างเลอื กทด่ี ีอยา่ งแน่นอน เคร่ืองคอมพวิ เตอรจ์ ึงมสี ว่ นสำคญั อย่างมากในการเก็บข้อมูลเหลา่ นเ้ี ม่อื มกี ารนำปัญญาประดษิ ฐ์เข้ามาใชใ้ นระบบจัดเกบ็ ข้อมูล จึงชว่ ยใหเ้ ครอื่ งคอมพวิ เตอรม์ คี วามสามารถมากขึ้น ไม่ได้เปน็ เพียงพ้ืนทจี่ ัดเก็บข้อมลู เทา่ นั้น ปัญญาประดิษฐ์จะชว่ ยเพมิ่ ประสทิ ธิภาพในการเรยี นรู้ จดจำหรือจำแนกขอ้ มูลตา่ งๆ สง่ ผลให้เครอ่ื งคอมพวิ เตอรส์ ามารถจดั ระเบยี บการจดั เก็บข้อมูลได้ ด้วยตอนเอง โดยไม่ตอ้ งอาศยั แรงงานมนุษยเ์ พือ่ ควบคุมการทำงาน แต่ในกรณีทขี่ อ้ มลู เหลา่ นั้นเปน็ ความร้หู รือประสบการณ์ท่ี ตอ้ งอาศัยการตคี วามก่อน เครอื่ งคอมพิวเตอรจ์ ะไมส่ ามารถทำความเข้าใจไดอ้ ย่างลึกซึง้ คงทำได้แค่เพยี งจัดเก็บสงิ่ เหล่านีใ้ น ลกั ษณะของข้อมลู เท่าน้นั ระบบการทำแบบวนซ้ำ การทำงานทีม่ ีรปู แบบเดิม ๆ วนซำ้ ไปซำ้ มา อาจส่งผลต่อการทำงานและการตัดสนิ ใจของ มนุษยไ์ ดเ้ นื่องจากมนษุ ย์มีข้อจำกัดทางร่างกาย เมื่อทำงานเดมิ ๆ ในระยะเวลาหน่ึงอาจเกิดขอ้ ผดิ พลาด เกิดความเหน่อื ยล้า ทางร่างกายและความเบ่อื หน่ายทางจติ ใจ ซง่ึ สง่ ผลเสียต่อระบบการทำงานทำให้ขาดความต่อเนอื่ ง เพราะต้องใชร้ ะยะเวลาใน การทำงานเพ่มิ มากขนึ้ แต่สำหรบั เครื่องคอมพิวเตอรท์ ีม่ ีปญั ญาประดิษฐ์เหล่านม้ี กั นำไปใชก้ บั เครื่องจกั รกลในสายการผลติ ดา้ น ต่าง ๆ เช่น อุปกรณ์อิเลก็ ทรอนิกส์ รถยนต์และอุตสาหกรรมอาหาร เป็นตน้ นอกจากน้คี ณุ ภาพงานที่ได้ ยังมคี วามสม่ำเสมอ ด้วยไม่แปรผนั เหมือนการใช้แรงงานมนุษย์ ถงึ แมว้ า่ การใชป้ ัญญาประดิษฐ์ในลักษณะนอี้ าจต้องลงทนุ สงู แต่เมอ่ื เทียบกับผลที่ ไดใ้ นระยะยาวถือว่าค้มุ คา่ กับการลงทุน นอกจากหน้าทข่ี องปัญญาประดิษฐท์ ่มี ีจุดเด่นในการน ามาใช้แทนแรงงานมนุษยแ์ ลว้ ยงั มีความสามารถของ ปัญญาประดษิ ฐ์ทแ่ี ตกต่างจากเครอื่ งคอมพวิ เตอร์ทั่วไป ซ่ึงเป็นส่วนหนึ่งท่ีทำให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่า เหตุใดปัญญาประดิษฐ์จงึ มีความสำคญั และมีประสิทธิภาพมากกว่าและการใช้เครอื่ งคอมพิวเตอร์ ข้อเปรยี บเทยี บระหวา่ งเคร่อื งคอมพวิ เตอร์ท่ัวไปกบั ปัญญาประดิษฐ์แสดงในตาราง ตารางท่ี 1 ขอ้ เปรยี บเทยี บระหว่างคอมพวิ เตอร์ปญั ญาประดิษฐแ์ ละคอมพิวเตอร์ทัว่ ไป ขอ้ เปรียบเทียบ คอมพิวเตอรป์ ญั ญาประดิษฐ์ คอมพิวเตอรท์ วั่ ไป การประมวลผล ประมวลผลด้วยวธิ ีการวเิ คราะห์ ประมวลผลตาม Algorithm ทส่ี ร้างไว้ รูปแบบสญั ลกั ษณ์ ขอ้ มลู นำเข้า ขอ้ มลู นำเข้าไม่จำเปน็ ตอ้ งสมบรู ณ์ ข้อมูลนำเข้าต้องมคี วามสมบูรณ์ วธิ ีการค้นหา ใช้วธิ ีการทไ่ี มอ่ าศัยกฎเกณฑ์ตายตัวที่ ใชว้ ิธกี ารตามรปู แบบของ Algorithm เรยี กวา่ Heuristic จุดม่งุ หมาย การไดม้ าซงึ่ องคค์ วามรู้ การไดม้ าซึง่ ข้อมลู และสารสนเทศ การใหเ้ หตผุ ล สามารถให้เหตุผลได้ ไมส่ ามารถหาเหตผุ ลได การตดั สนิ ใจ สามารถตัดสินใจได้ด้วยตนเอง ต้องอาศยั มนุษยช์ ว่ ยในการตัดสนิ ใจ หากอยูน่ อกเหนือ Algorithm

การวิเคราะห์ข้อมูล วิเคราะห์ขอ้ มลู อย่างสมเหตสุ มผล วเิ คราะห์ข้อมลู ตาม Algorithm การเรยี นรู้ สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง ไม่สามารถเรยี นรู้ไดด้ ว้ ยตนเอง จากตารางขา้ งตน้ เปน็ การเปรยี บเทยี บการทำงานของปัญญาประดิษฐ์กบั มนษุ ย์ และคอมพวิ เตอร์ทั่วไป ซ่งึ ในความ เป็นจริงยงั มีปจั จัยอกี หลายอยา่ งที่ปญั ญาประดษิ ฐไ์ ม่สามารถตอบสนองได้ดีเท่ากับมนษุ ย์ เนอื่ งจากมนษุ ย์แต่ละคนมีความรู้ ความสามารถและประสบการณ์ทแี่ ตกตา่ งกนั ในบางกรณผี ู้ทม่ี ีประสบการณม์ ากอาจเขา้ ใจปัญหาบางอย่างได้ลกึ ซ้ึง และหา วิธีแก้ไขไดอ้ ย่างรวดเร็ว อยา่ งไรก็ตามปัญญาประดษิ ฐย์ งั มขี อ้ จำกัดในการทำงานหลายๆด้าน ดังนี้ 1. ปญั ญาประดิษฐไ์ มม่ ีความคดิ ริเร่ิมสร้างสรรค์ จึงไมส่ ามารถคิดค้นหรอื สร้างสงิ่ ตา่ งๆ โดยปราศจากองคค์ วามรู้ หรือขอ้ มูลได้ แต่มนุษยม์ จี ินตนาการที่เป็นตัวขับเคลอ่ื นให้คดิ ค้นสง่ิ ใหม่ๆ ทีอ่ ยู่นอกเหนอื จากข้อมูลหรอื องค์ความรูไ้ ด้อีกทง้ั ยงั มีสภาพแวดลอ้ มท่ีเป็นแรงผลกั ดนั และแรงบันดาลใจ ในขณะทีป่ ัญญาประดษิ ฐไ์ มส่ ามารถตอบสนองต่อสง่ิ เหล่านีไ้ ด้ 2. ปัญญาประดษิ ฐ์อาศัยขอ้ มูล และสารสนเทศเปน็ องค์ความร้ใู นการตดั สนิ ใจโดยต้องแปลขอ้ มูลกอ่ นนำไปใช้งานแต่ มนุษย์สามารถเข้าใจข้อมลู หรือสารสนเทศนน้ั ได้เลย เน่ืองจากมีประสบการณใ์ นการเรยี นรู้ขอ้ มูล ทำให้เขา้ ใจไดง้ า่ ยกวา่ ใน บางกรณสี ญั ชาตญาณหรือความคุน้ เคยกเ็ ปน็ อกี ปัจจัยหน่งึ ทที่ ำใหก้ ารรับรู้ของมนุษย์สามารถตอบสนองตอ่ ขอ้ มูลไดอ้ ยา่ ง รวดเรว็ 3. ปญั ญาประดษิ ฐ์จะถูกพัฒนาให้มหี น้าทเ่ี ฉพาะด้านใดด้านหนงึ่ หากเป็นการทำงานท่ีนอกเหนอื จดุ ประสงคแ์ ลว้ การให้เหตผุ ลอาจมีประสิทธิภาพไม่เทยี บเทา่ กับมนุษย์ ในขณะทมี่ นษุ ย์สามารถรับรูร้ ะบบการทำงานในหลายๆดา้ นได้ตาม ประสบการณ์ ถงึ แม้จะมขี ้อจำกดั เรื่องความจำก็ตาม ประโยชนข์ องปัญญาประดิษฐ์ การนำปัญญาประดษิ ฐม์ าใช้ในระบบงานต่าง ๆ ขององค์กร นอกจากจะช่วยเพมิ่ ประสทิ ธภิ าพของระบบงานท่ี ตอ้ งการไดแ้ ล้ว ปัญญาประดิษฐ์ยังส่งผลต่อการทำงานในภาพรวมขององค์กรได้เปน็ อย่างดี และยงั สร้างประโยชน์ในด้านตา่ ง ๆ อีกมากมาย ได้แก่ ชว่ ยให้กระบวนการแก้ไขปัญหาที่ได้อยา่ งรวดเรว็ และมีความสอดคล้องกันมากขึน้ ี ช่วยแกไ้ ขปญั หาต่าง ๆ ในกรณที ่ยี ากเกนิ ความสามารถของมนษุ ย์ และเคร่ืองคอมพิวเตอร์ทั่วไป รองรบั ขอ้ มลู และองคค์ วามรจู้ ำนวนมากได้ สามารถ จดั เก็บขอ้ มูล และองคค์ วามรู้ไดแ้ บบถาวรี การเผยแพร่องค์ความรภู้ ายในองค์กรทำไดง้ า่ ยและทว่ั ถงึ ี การวเิ คราะหป์ ัญหาทำได้ ละเอียดรอบคอบ โดยเฉพาะปัญญาประดิษฐท์ ่ถี กู พัฒนามาใช้งานเฉพาะด้านี มคี วามยดื หย่นุ ตอ่ สถานการณ์และตอบสนองได้ อย่างมีประสทิ ธภิ าพ การควบคมุ เครอื่ งจกั รกลและเครอ่ื งคอมพิวเตอรท์ ำได้ง่ายขึน้ คณุ สมบัติ ข้อจำกัด และประโยชนข์ อง ปัญญาประดษิ ฐเ์ ป็นอีกสงิ่ หน่งึ ทแ่ี สดงใหเ้ หน็ ว่าประสทิ ธิภาพการทำงานของปัญญาประดษิ ฐ์น้ันมีความสำคัญต่อระบบงานใน องค์กรมากเพยี งใด อีกทง้ั ยังเปน็ ปัจจัยสำคญั ทีช่ ้ีให้เหน็ ไดอ้ ย่างชัดเจนว่าการนำปัญญาประดิษฐม์ าสนบั สนุนงานในด้านตา่ ง ๆ จะชว่ ยให้ทราบถงึ ทศิ ทางความกา้ วหนา้ ขององคก์ รได้ในระดบั หน่งึ ดว้ ย นอกจากนีย้ งั เป็นแนวทางในการพัฒนปัญญาประดิษฐ์ ใหม้ คี วามสามารถมากขน้ึ และนำไปประยกุ ตใ์ ช้งานร่วมกบั แขนงวชิ าตา่ ง ๆ ได้อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ การนำปญั ญาประดษิ ฐ์มาประยกุ ตใ์ ชง้ าน ขอบเขตในการประยกุ ต์ใช้งานทางปัญญาประดิษฐ์ไม่ได้จำกัดเฉพาะเพียงในสาขาที่เก่ียวข้องกับปญั ญาประดิษฐ์ เทา่ น้ันแตย่ ังขยายไปถงึ สิ่งทเ่ี กี่ยวข้องกบั พฤติกรรมความชาญฉลาด ในหัวข้อนจ้ี ะนำเสนอสาขาต่าง ๆ ทป่ี ระสบผลสำเร็จใน การพฒั นาและการประยุกต์ใชง้ าน ดงั ต่อไปนี้

เกม (Game) เปน็ การนำปญั ญาประดิษฐไ์ ปใชใ้ นซอฟต์แวร์ดานูบนั เทงิ โดยสว่ นใหญ่จะเปน็ การนำไปใช้ในการเพม่ิ ความเสมือนจรงิ ใหก้ ับระบบการทำงานของเกมใหม้ ีระดับความยากมากขนึ้ เปน็ การเพ่ิมความท้าทายใหก้ บั ผูเ้ ลน่ ซ่งึ การเพม่ิ ประสทิ ธิภาพในด้านนจ้ี ะชว่ ยใหผ้ เู้ ล่นรสู้ กึ เหมือนกบั เกมมีระบบการคดิ เป็นของตนเอง โต้ตอบ ตอบสนองการส่งั การของผใู้ ช้ โดยราวกบั มีตัวตน หรอื มมี นุษยค์ วบคุมอยู่ การพฒั นาของปัญญาประดิษฐอ์ าจพัฒนาไปพรอ้ ม ๆ กบั การพัฒนาเกมเนือ่ งจาก เป็นการนำเสนอลกั ษณะทเ่ี กี่ยวเนอื่ งกบั ปญั หาขนาดเล็ก และมกี ฎที่ชัดเจนงา่ ยต่อการนำเสนอดว้ ยรูปแบบของสัญลกั ษณ์ ซึง่ คุณลกั ษณะท่กี ล่าวมาน้ี ทำให้เกมเป็นแบบทดสอบท่ีดีเยี่ยมทางปัญญาประดษิ ฐท์ ้ังในแงแ่ นวคดิ และแงเทคนิค สง่ ผลใหเ้ กม และปัญญาประดิษฐต์ ่างพัฒนาตนเองไปอย่างมาก Deep Blue เป็นโปรแกรมของ IBM ตัวแรกท่พี ิชิต Garry Kasparov (แชมป์โลก หมากรุกในปี 1997ด้วยคะแนน 3.5 ตอ่ 2.5 โดย Kasparov ยงั กลา่ วยอมรับว่า “นี่เปน็ ความฉลาดชนิดใหม่” ท่ีโปรแกรมเหลา่ น้ี สามารถเรียนร้แู ละหาทางแก้ไขสถานการณ์ตา่ ง ๆ ได้อย่างดีเย่ียมในปจั จบุ นั วงการของซอฟต์แวรเ์ กมจำเป็นต้องมรี ะบบ ปัญญาประดษิ ฐ์ทด่ี ี เพื่อใชเ้ ป็นจุดเด่นในการนำเสนอความนา่ สนใจของเกม เพื่อให้อารมณใ์ นการเลน่ เกมมีความเสมอื นจรงิ ราวกบั ผเู้ ล่นกำลังแขง่ ขันกบั สิ่งท่ีหยั่งรแู้ ละตัดสนิ ใจได้รวดเร็วเทยี บเคยี งกับมนษุ ย์ส่งั ผลใหเ้ กมมคี วามสนุกสนานมากข้ึนด้วย ตัวอยา่ งของเกมทีใ่ ช้ปญั ญาประดิษฐ์ เกม Hide and Seek เกม Pacman ภาพที่ 1 ตัวอยา่ งเกมทนี่ ำปญั ญาประดิษฐม์ าประยกุ ตใ์ ชเ้ พ่ือเพ่มิ ความน่าสนใจ ระบบผ้เู ชี่ยวชาญ (Expert System : ES) เป็นอกี ระบบหนึ่งท่ีพัฒนามาจากปญั ญาประดิษฐ์ ซึง่ รู้จักกนั อย่าง กว้างขวางและนำไปใช้งานอย่างแพร่หลาย โดยระบบจะช่วยในการตัดสนิ ใจเกย่ี วกบั ปญั หาหรือขอ้ มูลทซี่ บั ซอ้ น จึงตอ้ งอาศัย องค์ ความรูต้ า่ ง ๆ ทเ่ี กี่ยวข้อง เพือ่ ใชเ้ ปน็ ขอ้ มูลสนบั สนุนในการแก้ไขปัญหาท่ีเกดิ ขึ้น จนไดค้ ำต่อบทด่ี ที ่สี ดุ และเหมาะสมกับ สถานการณ์ ระบบผู้เชีย่ วชาญเปน็ การนำปัญญาประดิษฐ์มาใช้ในอีกรปู แบบหน่งึ โดยใหเ้ ครือ่ งคอมพวิ เตอรท์ ำหน้าทีเ่ สมอื น เป็นท่ีปรึกษา ซึ่งเดมิ ทีอาจใช้แรงงานมนษุ ย์ แต่เนอื่ งจากปญั หามคี วามซับซอ้ น ขอ้ มลู แวดล้อมมปี ริมาณมาก การอาศยั แรงงานมนษุ ยอ์ าจทำไดล้ า่ ช้างบประมาณที่ใชส้ ำหรับจา้ งผเู้ ช่ยี วชาญกค็ ่อนขา้ งสูง การนำปญั ญาประดษิ ฐม์ าประยุกตใ์ ช้เปน็ ระบบผู้เช่ยี วชาญจึงเปน็ อกี หนทางเลอื กหน่งึ ท่ีสามารถแก้ไขปัญหาดงั กล่าวได้ดว้ ยเหตผุ ลนจี้ งึ มกี ารพฒั นาระบบการจัดการูอ้ งค์ ความรู้ ที่เรยี กว่า ระบบฐานองคค์ วามรู้ (Knowledge Base System) เพื่อนำมาใชส้ นับสนุนด้านการจัดการูอ้ งคค์ วามรทู้ ี่มอี ยู่ จำนวนมาก ซง่ึ เปน็ ตัวสนบั สนุนผู้เชี่ยวชาญให้สามารถตดั สินใจแก้ปัญหาที่ซบั ซอ้ นได้ โดยมปี ัญญาประดษิ ฐ์เป็นตวั ขับเคลอื่ นให้ ระบบผูเ้ ช่ียวชาญสามารถแสดงศกั ยภาพในการตัดสนิ ใจจากฐานความรทู้ ี่มไี ดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและแน่นอน ซ่งึ สามารถทดแทน แรงงานมนุษย์ไดเ้ ป็นอยา่ งดี ระบบผู้เชย่ี วชาญถกู นำไปใช้ในสาขาวชิ าชพี ต่าง ๆ เช่น ระบบผู้เชยี่ วชาญในการวิจัยทาง การแพทย์ (MYCIN) และเคร่ืองมือวเิ คราะหท์ างธรณีวิทยา (PROSPECTOR) เปน็ ตน้

ภาพท่ี 2 แสดงตัวอยา่ งกระบวนการทำงานของระบบผู้เชยี่ วชาญภายในองค์กร การให้เหตผุ ลเชงิ กรณศี กึ ษา ( Case-based Reasoning) หรอื เรียกสนั้ ๆว่า CBR เปน็ การประยกุ ตใ์ ช้งาน ปญั ญาประดษิ ฐ์อีกวิธีหน่งึ ท่อี าศยั พน้ื ฐานทางความคดิ และการเรียนรูจ้ ากประสบการณ์ของมนษุ ย์ เพื่อเป็นแนวทางในการ พฒั นา โดยจะอา้ งอิงวิธีการแก้ไขปัญหาต่างจากกรณศี ึกษาท่ีเคยผา่ นมา CBR เปน็ ระบบทมี่ กี ระบวนการแกไ้ ขปัญหาด้วยการ สรปุ ความ และหาเหตุผลจากปัญหาหรอื กรณศี กึ ษาเดิมทเ่ี คยผา่ นมา กรณีศึกษาเหลา่ น้ีจะถูกจดั เก็บเปน็ องค์ความรู้ไว้ เมื่อ ระบบตอ้ งเผชญิ กับปัญหา จะนำกรณีศกึ ษาท่มี คี วามใกล้เคยี งกันมาเปน็ แนวทางในการแก้ไขปัญหาดงั กลา่ ว โดยกรณีศึกษาที่ จดั เกบ็ ไวอ้ าจนำมาใช้แก้ปัญหาได้โดยตรง หรอื อาจต้องดัดแปลง และเรียนรู้เพ่ือหาวิธีการแกไ้ ขปญั หา ดังกล่าวโดยกรณศี กึ ษา มากทส่ี ุด หลังจากระบบแก้ไขปัญหาเรียบรอ้ ยแลว้ จึงด าเนินการจัดเก็บไว้ในฐานกรณีศึกษาทุกครงั้ โดยเฉพาะกรณีศกึ ษา ใหมๆ่ เพื่อเป็นแหล่งองคค์ วามรูส้ ำหรับใชง้ านในอนาคตต่อไป กลไกการเรียนรู้ (Machine Learning) เป็นการนำปัญญาประดิษฐ์มาประยุกตใ์ ชใ้ นดา้ นการเรียนรู้ เพือ่ เพมิ่ ประสทิ ธิภาพให้เครื่องจักรกลและเครื่องคอมพิวเตอร์มคี วามรใู้ นระบบงานทีม่ ีหน้าที่รับผิดชอบ ซ่ึงเปน็ การเรยี นร้จู าก สถานการณ์ หรอื องค์ความรใู้ หมท่ ่เี กิดขึน้ ตามสภาพแวดล้อมต่าง ๆ โดยอาจเปน็ สง่ิ ทเ่ี คร่อื งคอมพิวเตอร์ไม่เคยพบมาก่อน ทำ ให้การทำงานมปี ระสทิ ธภิ าพมากขึ้น อีกท้งั ยดั ลดความผิดพลาดลงไดอ้ กี ทางหนง่ึ เนอื่ งจากเคร่อื งคอมพิวเตอร์หรเื ครอื่ งงจกั รมี องค์ความรู้ใหม่ท่มี ขี ้อมลู ครอบคลุมทุกสถานการณห์ รอื ปญั หา ปัญญาประดิษฐเ์ ปน็ ตวั ช่วยให้ระบบของเครอื่ งคอมพวิ เตอรห์ รื เครอื่ งงจกั รเกดิ การเรยี นรูส้ ง่ิ ต่าง ๆ ไดด้ ว้ ยตนเองโดยไมต่ ้องอาศยั การสง่ั จากมนษุ ย์ กลไกการเรยี นรมู้ จี ุดมหุ่ มายเพอ่ื อค้นคว้า และเข้าถึงฐานความรู้ เพอ่ื เพ่มิ ความร้จู ากสถานการณท์ ่เี กดิ ข้นึ ได้ เช่น การเรียนร้ใู นโปรแกรมหมากรกุ ใหส้ ามารถคาดคะเน เกมการเล่นได้ ทำใหม้ ีรปู แบบการเลน่ บนกระดานท่ีนา่ สนใจมากขน้ึ คอื มีรูปแบบในการแก้ไขสถานการณ์ท่ีหลากหลายมากขึ้น ทัง้ แบบทีเ่ พม่ิ โอกาสชนะใหส้ ูงขึน้ หรือลดโอกาสแพใ้ หน้ ้อยลง ลกั ษณะน้เี ปน็ เพียงกลยุทธพ์ น้ื ฐาน การวิจยั ทางด้านนีจ้ ึงมี ลักษณะทีเ่ รียนรจู้ ากผลสำเร็จท่ผี า่ นมาเพ่อื ค้นหารูปแบบหรอื ทฤษฎีทด่ี ีขน้ึ ตอ่ ไป ภาพที่ 3 การนำปัญญาประดิษฐ์มาใชพ้ ัฒนาการเรียนรู้ใหก้ บั เคร่ืองจักรกล

การคำนวณเชิงวิวฒั นาการ (Evolutionary Computation) เป็นการเรียนรอู้ ีกชนิดหนง่ึ ทปี่ ระยุกตใ์ ชง้ านกบั เครอื่ งจักร หรือเคร่อื งคอมพิวเตอร์ เพ่ือเพม่ิ ประสิทธิภาพในการเรยี นรู้ให้สูงข้ึน โดยเลยี นแบบวิวฒั นาการของส่ิงมีชวี ิต การเรียนรู้รูปแบบ น้ีทำงานอยู่บนพ้ืนฐานทฤษฎีววิ ัฒนาการของ Charles Darwin ท่นี ำเสนอเมือ่ ปี ค.ศ.1858 โดยนำมาประยุกต์ใชก้ ับการเรยี นรขู้ อง เคร่ืองจกั ร เชน่ ข้นั ตอนวิธเี ชงิ พนั ธุกรรม (Genetic Algorithm: GA) และ โปรแกรมเชิงพันธุกรรม (Genetic Programming: GP) เป็นต้น เป็นทฤษฎกี ารดำรงอยขู่ องสงิ่ มีชีวิตทีเ่ กดิ การเปลยี่ นแปลงตลอดเวลา ส่งผลให้สง่ิ มีชีวติ มีวิวฒั นาการ (Evolution) โดย ปรับเปล่ยี นลกั ษณะตา่ งๆท้ังทางกายภาพ และพฤตกิ รรมให้มคี วามเหมาะสม เพอื่ ใหส้ ามารถอย่รู อดในสภาพแวดล้อมขณะน้นั ได้ ระบบโครงข่ายใยประสาท (Neural Network) เปน็ การประยกุ ต์ใชป้ ญั ญาประดษิ ฐอ์ ีกแขนงหน่ึงท่มี ีสถาปตั ยกรรมท่ี แตกตา่ งจากแขนงอน่ื ๆ โดยเป็นสาขาที่พยายามใชโ้ ครงสร้างการทำงานทม่ี ลี ักษณะเลยี นแบบระบบประสาทในสมองของ มนษุ ย์ ซ่ึงแต่ละส่วนของโครงขา่ ยใยประสาทจะเชือ่ มต่อเขา้ ด้วยกนั และทำงานคล้ายกบั ระบบประสาททีม่ กี ารประมวลผลได้ อย่างรวดเรว็ การประมวลผลองคค์ วามรู้น้เี รียกวา่ การประมวลผลแบบขนาน (Parallel Processing) ซงึ่ มคี วามสามารถในการ ประมวลองคค์ วามรู้จำนวนมากไดใ้ นเวลาเดียวกัน ระบบโครงข่ายใยประสาทน้สี ามารถเรียนรู้และจดจำสารสนเทศในรูปแบบที่ ปญั ญาประดษิ ฐท์ ่วั ไปไม่สามารถทำได้ ซึ่งกค็ อื “ประสบการณ”์ เน่ืองจากมีการเลียนแบบจากโครงข่ายประสาทของมนษุ ยท์ ำ ให้สามารถเชื่อมโยงข้อเทจ็ จรงิ เขา้ ด้วยกัน เพ่ือใชห้ าขอ้ สรุปโดยอาศยั ประสบการณ์ทไ่ี ด้จดั เก็บไวม้ าเปน็ ขอ้ มูลในการเรยี นรู้ และทำความเขา้ ใจจนไดค้ วามเก่ยี วข้องสมั พันธก์ ันระหวา่ งองคค์ วามรทู้ ้งั หมด ซึ่งสามารถนำไปปรบั ปรงุ องค์ความรเู้ ดิมให้มี ประสิทธภิ าพมากย่ิงข้นึ เพื่อความทนั สมัยและรองรับสถานการณ์ท่จี ะเกดิ ขนึ้ ในอนาคต ตัวแทนปญั ญา (Intelligent Agent) เปน็ อีกหนงึ่ เทคโนโลยขี องปัญญาประดษิ ฐท์ ไี่ ด้รับการพฒั นาอย่างกวา้ งขวาง โดยน าปัญญาประดิษฐ์มาประยุกต์ใช้งาน ในอนาคตจะกลายเป็นเทคโนโลยีท่ีสำคัญทางด้านระบบสารสนเทศ และงานด้าน การวิจยั ทเ่ี ก่ยี วกบั คอมพิวเตอร์ เน่อื งจากเป็นการพฒั นาตัวแทนปัญญาท่สี ามารถแกไ้ ขปัญหาตา่ งๆ และเพิม่ ประสิทธิภาพใน การทำงานได้ ตัวแทนในทน่ี ้ีอาจเรียกว่า“Agent (เอเจนต์)” หรือ “โปรแกรมตวั แทน” ซึ่งหมายถึง ผู้ท่ีได้รับมอบหมายใหท้ ำ หน้าทีต่ ามทีม่ นุษย์ต้องการ ซง่ึ Agent สามารถรับขอ้ มูลต่างๆ ไดอ้ ย่างเปน็ ลำดับจากสภาพแวดล้อมผ่านทางตัว Sensors หรอื ระบบทสี่ รา้ งไวเ้ พื่อการรบั รู้ โดยสามารถตองสนองกลบั ดว้ ยการกระทำแบบต่างๆ ตามรูปแบบของการโต้ตอบทรี่ ะบบกำหนด ไว้ การประมวลผลภาษาธรรมชาติ (Natural Language Processing : NLP) การประมวลผลภาษาธรรมชาติ คือ รปู แบบ การประมวลผลภาษาดว้ ยการวเิ คราะหจ์ ากเคร่อื งคอมพวิ เตอร์ โดยมีจุดประสงค์ใหผ้ ูใ้ ช้สามารถโต้ตอบกบั คอมพวิ เตอรไ์ ดโ้ ดย ใชภ้ าษาธรรมชาติ ซ่ึงผูใ้ ช้เข้าใจเป็นอยา่ งดโี ดยเครอ่ื งคอมพิวเตอร์จะมีการจดั เก็บองค์ความรทู้ ีจ่ าเป็นส าหรบั วิเคราะห์และ แปลเสยี งไวเ้ รียบร้อยแลว้ การประมวลผลภาษาธรรมชาติแบ่งเปน็ 2 ประเภท ไดแ้ ก่ 1) การทำความเข้าใจภาษาธรรมชาติ (Natural Language Understanding) เปน็ กระบวนการทีท่ ำให้คอมพิวเตอรส์ ามารถ วิเคราะหค์ ำสั่งหรอื เสยี งของผู้ใช้ และแปลเป็นข้อมูลท่ีคอมพิวเตอรจ์ ะเขา้ ใจได้ จากนัน้ จึงดำเนินตามคำสั่งดงั กลา่ ว พร้อมท้งั โตต้ อบดว้ ยวิธกี ารแสดงผลแบบตา่ งๆ ซึง่ คอมพิวเตอรจ์ ะแบ่งการทำงานของกระบวนการนอี้ อกเป็น 2 ส่วน คอื ส่วนแรกจะทำ หน้าท่ใี นการจดจำเสยี ง และจำแนกคำพดู ออกตามรปู แบบของคำน้นั โดยไมต่ ้องเขา้ ใจความหมาย ส่วนที่สองจะดำเนินการตอ่ จากการจดจำ ซงึ่ จะทำหน้าทีท่ ำความเข้าใจกบั คำทจ่ี ำแนกออกมาจากสว่ นแรก เพื่อให้เขา้ ใจความหมายของคำดงั กลา่ วและ สามารถตอบสนองได้อย่างถกู ตอ้ ง

2) การสร้างภาษาธรรมชาติ (Natural Language Generation) เปน็ กระบวนการที่คอมพวิ เตอรใ์ ช้สำหรบั การสรา้ ง ภาษาธรรมชาตจิ ากองคความรู้ทรี่ วบรวมไว้ เพือ่ ใชโ้ ตต้ อบดว้ ยภาษาที่ผู้ใช้เขา้ ใจ โดยสามารถโต้ตอบได้หลายรูปแบบ เชน่ ข้อความและคำพดู เป็นต้น เทคโนโลยกี ารสร้างภาษาธรรมชาตทิ ่ีสามารถสงั เคราะหเ์ สียงได้ เรยี กว่า “กระบวนการสังเคราะห์ เสยี ง (Voice Synthesis)” ซ่งึ เป็นการสรา้ งเสียงข้ึนใหม่จากคำพดู ใหก้ ลายเป็นเสียงอเิ ลก็ ทรอนิกส์ ทมี่ ีเอกลักษณแ์ ละคล้ายเสียง ของมนุษย์มากท่ีสดุ โดยสามารถนำมาใชแ้ ปลงเสียงจากเสียงคนหนง่ึ เป็นอกี เสียงคนหนึง่ ไดด้ ้วยการประมวลผลภาษาธรรมชาติ สามารถนำไปประยกุ ต์ใช้กับโปรแกรมอ่นื ๆ ไดห้ ลากหลาย เช่น การแปลงจากตัวอักษรเปน็ คำพูดท่เี ปล่งออกมาเป็นภาษา ให้กับคนตาบอดเขา้ ใจได้ เป็นต้น ทงั้ น้ีขึ้นอยู่กบั จดุ ประสงค์ในการนำไปใชง้ าน จากท่ีกล่าวมาจะเห็นว่าปญั ญาประดษิ ฐม์ สี ว่ น สำคญั ในระบบงานประเภทนี้ ทัง้ ในการจดจำ เรียนรู้ และการจดั เก็บองคค์ วามรู้เสมอื นักบั คอมพิวเตอร์สามารถโตต้ อบกบั มนุษยไ์ ด้โดยตรง หุ่นยนต์ (Robotic) เปน็ การประยกุ ต์ใช้งานปัญญาประดิษฐ์สำหรับพฒั นาเครือ่ งจักรกลใหม้ คี วามสามารถ และฉลาดพอทจ่ี ะทำหน้าท่ีแทนมนุษยไ์ ดอ้ ย่างสมบูรณ์ ซง่ึ เปน็ การสร้างเครอื่ งจกั รให้มรี ะบบการทำงานแบบอัตโนมัติที่มคี วาม ใกล้เคยี งกบั แรงงานมนษุ ย์ โดยทวั่ ไปนิยมใช้กบั เคร่ืองจักรในโรงงานอตุ สาหกรรม สำหรับทำงานในด้านต่างๆ แทนมนุษย์ เพ่อื ความปลอดภัยจากงานท่เี ส่ียงอันตราย หรือเพ่ือเพิม่ ปริมาณการผลิต การประยกุ ต์ใชป้ ญั ญาประดิษฐก์ ับเครื่องจกั ร ถือเป็น ศาสตรท์ ีเ่ กีย่ วข้องกบั การควบคมุ พฤตกิ รรมของหนุ่ ยนต์ หรอื เครือ่ งจักรในรปู แบบตา่ งๆ เชน่ การวางแผน การเคลอื่ นที่ การ ประกอบวัตถุ และการมองเห็วัตถุ เป็นต้น ซง่ึ จะนำไปสูก่ ารบรรลเุ ปา้ หมายท่ตี ้องการ โดยการควบคมุ หุ่นยนตท์ ่ีมปี ระสทิ ธิภาพ และถูกต้องจะอาศยั องค์ความรู้ทสี่ ร้างขน้ึ ผนวกเขา้ กบั ระบบปัญญาประดิษฐ์ เชน่ การเคล่ือนทไ่ี ปหาเปา้ หมายจะต้องคำนงึ ถงึ ความรู้ในด้านกลศาสตร์ จลศาสตร์ และการมองเหน็ เป็นตน้ หากมีวตั ถกุ ีดขวางเสน้ ทาง หนุ่ ยนต์จะใช้องคค์ วามรู้ดังกลา่ วเพ่ือ หลบหลกี และหาเส้นทางที่เหมาะสม ภาพที่ 4 ห่นุ ยนต์ ASIMO ท่ีใชป้ ัญญาประดิษฐ์ในการควบคมุ สรปุ ปญั ญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) หรอื ทีเ่ รยี กส้นั ๆ ว่า “AI” เปน็ ศาสตรแ์ ขนงหน่ึงของวทิ ยาการคอมพิวเตอร์ทใ่ี ช้ ในการพัฒนาเครอ่ื งจักรกล ใหส้ ามารถเรียนรเู้ พ่ือแกป้ ญั หา โดยหาเหตุผลจากองค์ความรทู้ ่มี ีอยู่ แล้วนำไปวิเคราะห์ จนได้ ผลสรุปหรอื ผลู้ ลพั ธ์ทตี่ อ้ งการปญั ญาประดษิ ฐจ์ งึ เปน็ ศาสตรท์ ี่มีวตั ถุประสงค์เพ่อื ใช้พฒั นาให้เครอ่ื งจักรมสี มองและกระบวนการ คิดเสมือนมนุษย์ มปี ระสิทธภิ าพในการดำเนนิ งานตา่ ง ๆ ลดข้อผิดพลาดให้น้อยลง แกไ้ ขปญั หาและตัดสนิ ใจด้วยความรวดเรว็ เทียบเทา่ หรอื มากกว่ามนษุ ย์ ระบบการกระทำทเี่ หมือนมนุษย์ ระบบความคดิ อยา่ งมีเหตุผล และระบบการกระทำอยา่ งมี เหตุผลววิ ัฒนาการของปญั ญาประดษิ ฐต์ ามยคุ สมัยจะเริ่มตั้งแต่การคิดคน้ ศาสตร์ในแขนงน้ี ซง่ึ ทำใหม้ กี ารพฒั นาของรูปแบบ ของเทคโนโลยใี หม่ ๆ ขน้ึ มากมาย ตั่งแต่การนำปัญหามาใช้ทดสอบกับระบบปญั ญาประดิษฐ์ เพือ่ วัดความสามารถและ ประสทิ ธิภาพตอ่ มาจึงมีการประยกุ ตใ์ ชก้ ับฐานองคค์ วามรทู้ ี่ชว่ ยใหป้ ัญญาประดิษฐ์สามารถเรียนรไู้ ด้ใกลเ้ คียงกับมนุษยม์ ากขน้ึ

มกี ารเข้าใจถึงปญั หาและเรียนรู้จากประสบการณท์ ผ่ี ่านมาได้ ด้วยการพัฒนาอย่างต่อเนือ่ งทำให้ธรุ กจิ และอตุ สาหกรรมตา่ ง ๆ ต่นื ตัวและหนั มาสนใจในการพัฒนาปัญญาประดิษฐม์ ากขึ้นจนถึงปจั จุบนั


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook