Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Interative e book 30-6-62 pdf

Interative e book 30-6-62 pdf

Published by siripuk jirapong, 2019-06-30 03:37:36

Description: Interative e book 30-6-62 pdf

Search

Read the Text Version

แฟม้ สะสมผลงานดิจิทลั Digital portfolio นางสิรภิ คั จราพงษ ์ โรงเรยี นวดั พลมานีย ์ สานกั งานเขตลาดกระบงั กรุงเทพมหานคร

วตั ถปุ ระสงคข์ องบทเรยี น objective อธิบายลกั ษณะของประโยคสมการ สมการที่เป็นจริง สมการท่ีเป็นเท็จได้ อธิบายลกั ษณะของสมการท่ีมีตวั ไม่ทราบค่าได้ อธิบายวิธีการหาคาตอบของสมการได้ อธิบายสมบตั ขิ องการเทา่ กนั เกี่ยวกบั การบวกหรือการลบได้ อธิบายวิธีการแก้สมการโดยใช้สมบตั ขิ องการเทา่ กนั เกี่ยวกบั การบวกหรือ การลบได้

เนือ้ หาของบทเรยี น comtent สมการ สมการท่ีเป็นจริง สมการท่ีเป็นเท็จ สมการท่ีมีตวั ไม่ทราบค่า คาตอบของสมการ สมบตั ขิ องการเท่ากนั เกี่ยวกบั การบวก และการลบ การแก้สมการโดยใช้สมบตั ขิ องการเทา่ กนั เก่ียวกบั การบวก และการลบ

แผนการจดั การเรียนรู้ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่กี ลุม่ สาระคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนวดั พลมานีย์ แผนท่ี 1 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 เรอื่ ง สมการและการแก้สมการ เวลา 1 ช่วั โม 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ัด มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ค 4.2 ใชน้ พิ จน์ สมการ อสมการ กราฟ และตวั แบบเชิงคณติ ศาสตร์ mathematical model อน่ื ๆ แทนสถานการณ์ต่างๆ ตลอดจนแปลความหมายและนาไปใชแ้ ก้ปญั หา ตัวชี้วัด มฐ. ค 4.2 ป.6/1 เขียนสมการจากสถานการณห์ รือปญั หา และแก้สมการ พร้อมท้ัง ตรวจคาตอบ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 6.1 มคี วามสามารถในการแกป้ ญั หา การให้เหตผุ ล การสอ่ื สาร การสื่อความหมาย ทางคณิตศาสตรแ์ ละการนาเสนอ การเชือ่ มโยงความรตู้ า่ ง ๆ ทางคณติ ศาสตร์ และเชอ่ื มโยงคณติ ศาสตร์กบั ศาสตร์อน่ื ๆ และมคี วามคิดรเิ ริม่ สรา้ งสรรค์ ตัวช้ีวัด มฐ. ค 6.1 ป.6/1-5 2. สาระสาคญั สมการ คือประโยคสัญลกั ษณ์ที่มีเครื่องหมาย = สมการซงึ่ มจี านวนท่อี ยู่ทางซา้ ยมือของเคร่อื งหมาย = เท่ากนั กบั จานวนทีอ่ ย่ทู างขวามือ เปน็ สมการท่ีเปน็ จรงิ สว่ นสมการซึ่งมีจานวนทางซ้ายมอื และขวามอื ของ เครื่องหมาย = ไม่เท่ากนั เปน็ สมการทีเ่ ป็นเท็จ

แผนการจดั การเรยี นรู้ 3.จุดประสงค์การเรยี นรู้ 3.1 ด้านความรู้ - อธบิ ายลักษณะของประโยคสมการ สมการที่เปน็ จริง สมการทเ่ี ป็นเทจ็ ได้ 3.2 ด้านทกั ษะ/กระบวนการ - จาแนก บอกและเขียนประโยคสมการ สมการท่เี ปน็ จรงิ สมการท่ีเปน็ เท็จได้ 3.3 ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ - ใฝเ่ รยี นรู้ ตง้ั ใจ เพยี รพยายามในการเรยี นและเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ 4. สาระการเรียนรู้ - สมการ - สมการท่ีเปน็ จรงิ - สมการทีเ่ ป็นเท็จ 5. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. นกั เรียนทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 2 เรอ่ื ง สมการและการแกส้ มการ จานวน 10 ขอ้ เวลา 20 นาที 2. ครูติดแถบประโยคสัญลักษณท์ ีม่ ีเครื่องหมาย =, > หรอื < บนกระดานและให้นักเรยี น อา่ นประโยคสญั ลักษณ์ พร้อมๆ กนั ทีละประโยค ดงั น้ี 10+8=18 6x5 < 6x7 77+ 8 > 45 3x4= 12

แผนการจดั การเรยี นรู้ นกั เรียนร่วมกนั สงั เกตประโยคสญั ลกั ษณ์ท่ีกาหนดให้ จากนนั้ ครูใช้คาถามเพื่อกระต้นุ ความคิดของนกั เรียน ดงั นี ้ • ในแต่ละประโยคสัญลกั ษณ์มีเคร่อื งหมายอะไรบา้ ง (=, , <, > ) • ประโยคสัญลกั ษณใ์ นขอ้ ใดทีม่ ีเครื่องหมาย = (ข้อท่ี 1, 3, 5) • ประโยคสัญลกั ษณใ์ นขอ้ ใดทไ่ี มม่ ีเคร่อื งหมาย = (ขอ้ ท่ี 2, 4, 6) 3. ครเู ลอื กแถบประโยคสัญลกั ษณ์มเี ครอื่ งหมาย = มาติดบนกระดาน และแนะนานกั เรยี นว่า ประโยคสัญลักษณ์ท่ี 1, 3, 5 เรยี กว่า สมการ 4. นักเรียนรว่ มกนั อภปิ รายจนได้ขอ้ สังเกตและขอ้ สรุปว่า ประโยคสญั ลกั ษณ์ที่มีเครื่องหมาย = เรียกวา่ สมการ 5. ครูนาประโยคสัญลักษณ์ทนี่ ักเรยี นชว่ ยกันเขยี นมา 2 ประโยค เช่น 1) 12 ÷ 3 = 4 2) 9 × 3 = 21 จากนนั้ ครูใช้คาถามกระตนุ้ ความคิดของนักเรียน ดังน้ี • จากประโยคสัญลกั ษณ์ 12 ÷ 3 ไดผ้ ลหารเท่าไร (4) • ผลลัพธเ์ ทา่ กบั จานวนท่ีอย่ทู างขวามือของเครื่องหมาย = หรือไม่ (เทา่ กัน) • จากประโยคสญั ลักษณ์ 9 × 3 ได้ผลคูณเทา่ ไร (27) • ผลลพั ธท์ ไี่ ด้เท่ากบั จานวนทอี่ ยู่ทางขวามือของเครือ่ งหมาย = หรือไม่ (ไมเ่ ท่ากนั ) ครูและนักเรียนรว่ มกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง จากน้ันครูถามคาถาม ดงั น้ี • ประโยคสัญลักษณข์ อ้ 1) เปน็ สมการทเ่ี ปน็ จรงิ หรอื ไม่ เพราะอะไร (เป็นจรงิ เพราะจานวนทางขวามอื ของเคร่ืองหมาย = เท่ากบั จานวนทางซ้ายมอื ) • ประโยคสญั ลักษณ์ข้อ 2) เปน็ สมการทเ่ี ปน็ จริงหรือไม่ เพราะอะไร (ไม่เปน็ จริง เพราะจานวนทางขวามือของเครื่องหมาย = ไมเ่ ท่ากบั จานวนทางซ้ายมอื ) • นกั เรยี นจะเรยี กประโยคสัญลกั ษณข์ ้อ 2) ว่าอะไร (ตัวอย่างคาตอบ สมการทีเ่ ปน็ เทจ็ )

แผนการจัดการเรยี นรู้ 6. ครูแบง่ นักเรียนออกเป็น 2 กลุ่มเทา่ ๆ กนั โดยสมาชกิ ในกล่มุ ร่วมกนั ยกตวั อย่างสมการ ทงั้ สมการท่ีเป็นจริงและสมการท่เี ป็นเท็จกลุ่มละ 10 สมการ จากนนั้ ครใู หแ้ ต่ละกล่มุ สง่ ผแู้ ทนกลุ่ม นาสมการท่เี ขียนใส่กระดาษมาตดิ บนกระดาน แต่ละกลมุ่ ผลัดกนั พิจารณาว่าสมการของอีกกล่มุ เป็นจริงหรือเป็นเทจ็ ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง 7. ใหน้ ักเรียนและครูร่วมกันสรุปความรู้ ดังน้ี • สมการ คอื ประโยคสัญลักษณ์ที่มเี ครื่องหมาย = สมการซึ่งมจี านวนท่อี ย่ทู างซ้ายมอื ของเคร่ืองหมาย = เทา่ กนั กบั จานวนท่อี ยทู่ างขวามอื เป็นสมการที่เป็นจริง สว่ นสมการซ่ึงมี จานวนทางซ้ายมอื และขวามอื ของเครอ่ื งหมาย = ไมเ่ ท่ากนั เป็นสมการทเ่ี ป็นเท็จ เราสามารถ นาความรู้นไี้ ปใช้เปน็ พื้นฐานในการแก้สมการตอ่ ไปได้ และทาแบบฝึกเสริมทกั ษะ 6. สือ่ /แหลง่ การเรียนรู้ 1. แบบทดสอบก่อนเรียนหนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 เรอื่ ง สมการและการแก้สมการ 2. บตั รประโยคภาษา บตั รประโยคสัญลักษณ์ 3. หนังสือแบบฝกึ ทกั ษะคณิตศาสตร์ของ สสวท. 7. การวัดและประเมินผล 7.1 ด้านความรู้ - สงั เกตพฤติกรรมการตอบคาถามระหวา่ งเรียนอธบิ ายลกั ษณะของประโยคสมการ สมการท่ี เปน็ จรงิ สมการท่ีเปน็ เทจ็ ได้ 7.2 ดา้ นทักษะ / กระบวนการ - ตรวจแบบฝึกทกั ษะสามารถทาได้ถกู ต้องรอ้ ยละ 50 ขน้ึ ไป ผ่านเกณฑ์ 7.3 ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ - การประเมนิ พฤติกรรมผา่ นต้ังแต่ 3-5 รายการ ถอื ว่าผา่ น ผ่าน1-2 รายการ ถือวา่ ไม่ผา่ น นการแก้สมการต่อไปได้ และทาแบบฝึกเสริมทกั ษะ

แบบทดสอบก่อน-หลงั เรยี น แบบทดสอบก่อน-หลังเรยี น หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 เรื่อง สมการและการแกส้ มการ ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 6 คาช้แี จง 1. แบบทดสอบจานวน 15 ขอ้ ขอ้ ละ 1 คะแนน คะแนนเตม็ 15 คะแนน เวลา 20 นาที 2. ใหน้ กั เรยี นกากบาท (X) ทบั อกั ษร ก ข ค หรือ ง ทถ่ี กู ที่สดุ เพยี งข้อเดยี ว 1. ประโยคใดต่อไปนเี้ ปน็ สมการ 6. สมการในขอ้ ใดมตี วั ไมท่ ราบคา่ ก. 17 + 32 > 86 ข. 27 + 38 = 82 – 21 ก.5  12 = 60 ข. 4  B = 4 ค. 27  6  100 ง. 37  24 < 37  32 ค.7  6 = 42 ง. 9  6 = 54 2. ประโยคใดเป็นสมการ ข. 7  6 > 3 7. สมการในขอ้ ใดแทนตัวไมท่ ราบค่าดว้ ยจานวนใน ก. 9 – 0  0 ง. 5  4 = 20 วงเล็บแลว้ ทาให้สมการเปน็ จริง ค. 9  9 > 14 ก. ม – 7 = 8 (1) ข. 14 – ว = 6 (21) ค. 12 + 11 = ส (20) ง. ป  8 = 72 (9) 3. ข้อใดเป็นสมการทีเ่ ปน็ จรงิ 8. สมการในขอ้ ใดแทนคา่ จ ด้วย 5 แลว้ สมการเป็นจริง ก. 7  200 = 1400 ข. 300  6 = 15 ก. 9  จ = 45 ข. 45  จ = 5 ค. 30  30 = 90  100 ง. 400  20 = 380 ค. 29 + จ = 40 ง. 40 – จ = 31 4. ขอ้ ใดเปน็ สมการที่เป็นจริง 9. การแกส้ มการ 35 = 5  ท ควรทาอยา่ งไร ก. 92– 29 = 29– 81 ข. 70 + 20 = 20 + 70 ก. นา 5 ลบท้ังสองขา้ ง ข. นา 5 บวกทง้ั สองข้าง ค. 72  9 = 9  72 ง. 30  40 = 40 + 30 ค. นา 5 คูณทัง้ สองข้าง ง. นา 5 หารทง้ั สองขา้ ง 5. สมการในขอ้ ใดมีตวั ไม่ทราบคา่ 10. ขอ้ ใดเป็นคาตอบของสมการ ป  9 = 117 ก. 50 + 30 = 80 ข. 40  50 = 2,000 ค. 60 – 40 = 20 ง. 40  จ = 80 ก. 21 ข. 19 ค. 13 ง. 12

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน - หลังเรยี น เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น - หลงั เรียน หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 2 เรอ่ื ง สมการและการแกส้ มการ ข้อ คาตอบ ข้อ คาตอบ 1. ข 6. ข 2. ง 7. ง 3. ก 8. ก 4. ข 9. ง 5. ง 10. ค


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook