Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ติวสบายเคมี (เพิ่มเติม) บทที่ 07 สมดุลเคมี (2)

ติวสบายเคมี (เพิ่มเติม) บทที่ 07 สมดุลเคมี (2)

Published by pornnapat mangsungnurn, 2022-08-26 16:25:21

Description: ติวสบายเคมี (เพิ่มเติม) บทที่ 07 สมดุลเคมี (2)

Search

Read the Text Version

ติวสบายเคมี เลม่ 3 http://www.pec9.com บทที่ 7 สมดลุ เคมี บ ท ที่ 7 ส ม ดุ ล เ ค มี 7.1 การเปลย่ี นแปลงทผี่ นั กลบั ได้ การเปลย่ี นแปลงทผี่ ันกลบั ได้ คือการเปลี่ยนแปลงที่ เมื่อเปล่ียนไปแลว้ สามารถเปล่ียนกลบั คืนสู่สภาพเดิมได้ เช่น การระเหยของน้ากลายเป็นไอน้าในภาชนะปิ ด ไอน้าที่เกิดข้ึน สามารถควบแน่นกลบั มาเป็ นน้าเหมือนเดิมได้ เป็นตน้ น้า  ไอน้า ปฏิกิริยาเคมีหลายปฏิกิริยาสามารถผนั กลบั ได้ เช่นการเผา CaCO3(s) ในภาชนะปิ ด CaCO3(s) ปฏิกิริยาไปขา้ งหนา้ CaO(s) + CO2(g) ปฏิกิริยายอ้ นกลบั CaCO3(s) จะเกิดการสลายตวั เป็ น CaO(s) กบั CO2(g) ซ่ึงผลิตภัณฑ์ท้ังสองน้ีสามารถทา ปฏิกิริยากนั เองแลว้ กลบั มาเป็ น CaCO3(s) ไดเ้ หมือนเดิม ปฏิกิริยาเช่นน้ีจึงเรียกปฏิกริ ิยาที่ผัน กลับได้ โดยท่ีปฏิกิริยาเปลี่ยนสารต้งั ต้นไปเป็ นผลิตภณั ฑ์เรียกปฏิกิริยาไปข้างหน้า ส่วน ปฏิกิริยาเปล่ียนผลิตภณั ฑก์ ลบั มาเป็นสารต้งั ตน้ จะเรียกปฏกิ ริ ิยาย้อนกลบั ( หมายเหตุ ปฏิกิริยาเผา CaCO3(s) น้ี ตอ้ งทาในภาชนะปิ ดจึงจะผนั กลบั ได้ หากทาในภาชนะเปิ ดจะไม่ผนั กลบั เพราะแก๊ส CO2 จะหนีหายหมด ) 1. การเปล่ียนแปลงในขอ้ ใดตอ่ ไปน้ี เป็นการเปลี่ยนแปลงท่ีผนั กลบั ได้ ก) น้าระเหยกลายเป็นไอ ในภาชนะปิ ด ข) เกลด็ ไอโอดีนละลายน้า ค) เน้ือหมูถูกทิ้งไว้ 3 วนั แลว้ เน่า ง) ลูกเหมน็ ระเหิดในที่โล่งแจง้ จ) CO32  (aq) + 2H+(aq)  H2O(l) + CO2(g) ( ทาในภาชนะเปิ ด ) 1. ก. เทา่ น้นั 2. ก. และ ข. 3. ก. ข. และ จ. 4. ก. และ จ. 1

ติวสบายเคมี เลม่ 3 http://www.pec9.com บทที่ 7 สมดลุ เคมี 7.2 การเปลย่ี นแปลงทภ่ี าวะสมดุล 7.2.1 สมดุลในปฏกิ ริ ิยาเคมี พิจารณาตวั อย่างปฏิกิริยาท่ีเกิดจากการผสม FeSO4 เขา้ กบั AgNO3 ที่มากเกินพอจะ เกิดปฏิกิริยาดงั น้ี Fe2+ (aq) + Ag+ (aq)  Fe3+ (aq) + Ag (s) ปฏิกิริยาน้ีเป็นปฏิกิริยาท่ีผนั กลบั ได้  ในตอนแรกปฏิกิริยาไปขา้ งหนา้ จะเกิดเร็ว เพราะสารต้งั ตน้ มีความเขม้ ขน้ สูง แตป่ ฏิกิริยายอ้ นกลบั จะเกิดชา้ เพราะผลิตภณั ฑม์ ีความเขม้ ขน้ ต่า  ต่อมาปฏิกิริยาไปขา้ งหนา้ จะเกิดชา้ ลง เพราะความเขม้ ขน้ สารต้งั ตน้ ลดลง แตป่ ฏิกิริยายอ้ นกลบั จะเกิดเร็วข้ึน เพราะความเขม้ ขน้ ผลิตภณั ฑเ์ พ่ิมข้ึน  ในที่สุด อตั ราการเกิดปฏิกิริยาไปขา้ งหนา้ = อตั ราการเกิดปฏิกิริยายอ้ นกลบั ซ่ึงจะส่งผลทาให้ปริมาณสารทุกตวั ในปฏิกิริยามีปริมาณคงที่ เพราะอตั ราการเกิด และการสลายตวั มีค่าเท่ากนั นั่นเอง ภาวะเช่นน้ีจึงเรียกเป็ นภาวะสมดุล และเนื่องจากสมดุล แบบน้ีระบบยงั คงมีการหมุนเวยี นอยตู่ ลอดเวลา จึงเรียกอีกอยา่ งหน่ึงวา่ สมดุลไดนามิก หมายเหตุ : 1) ที่ภาวะสมดุลปริมาณสารทุกตวั จะมีปริมาณคงที่ แต่ไม่จาเป็ นวา่ ปริมาณสาร ทุกตวั ตอ้ งเท่ากนั ทุกสาร สารบางตวั อาจมีมาก บางตวั อาจมีน้อยก็ได้ แต่ปริมาณที่มีน้ัน ตอ้ งคงที่ไม่เปลี่ยนแปลง 2) สารทุกตวั ในระบบจะไม่หมดไปจากระบบแม้ว่าจะทิ้งไวน้ านเท่าใดก็ตาม เพราะเมื่อสลายไปก็จะผนั กลบั มาเกิดใหมไ่ ด้ 2. จากปฏิกิริยา Fe2+ (aq) + Ag+ (aq)  Fe3+ (aq) + Ag(s) ขอ้ ใดตอ่ ไปน้ีผดิ 1. ในช่วงแรกปฏิกิริยาไปขา้ งหนา้ จะเกิดข้ึนเร็ว แตป่ ฏิกิริยายอ้ นกลบั จะเกิดชา้ 2. เม่ือทิง้ ไวป้ ฏิกิริยาไปขา้ งหนา้ จะชา้ ลง แต่ปฏิกิริยายอ้ นกลบั จะเร็วข้ึน 3. ในภาวะสมดุลระบบจะนิ่งไม่มีการเกิดปฏิกิริยาเคมี 4. ในภาวะสมดุล อตั ราการเกิดปฏิกิริยาไปขา้ งหนา้ = อตั ราการเกิดปฏิกิริยายอ้ นกลบั 2

ติวสบายเคมี เลม่ 3 http://www.pec9.com บทที่ 7 สมดลุ เคมี 3. ขอ้ ใดต่อไปน้ีถูก 1. ในภาวะสมดุล ปริมาณสารต้งั ตน้ และผลิตภณั ฑจ์ ะมีค่าคงตวั 2. ในภาวะสมดุล ปริมาณสารต้งั ตน้ = ปริมาณผลิตภณั ฑ์ 3. หากทิง้ ระบบไวน้ านๆ สารต้งั ตน้ จะหมดไปเหลือแต่ผลิตภณั ฑ์ 4. ถูกทุกขอ้ 7.2.2 กราฟของภาวะสมดุล กราฟแสดงอตั ราการเกดิ ปฏิกริ ิยา เน่ืองจากในตอนแรกปฏิกิริยาไปขา้ งหน้าจะเกิดเร็วแต่ปฏิกิริยายอ้ นกลบั จะเกิดช้า ต่อมาปฏิกิริยาไปขา้ งหน้าจะเกิดช้าลงขณะท่ีปฏิกิริยายอ้ นกลบั จะเกิดเร็วข้ึน ในที่สุดอตั ราการ เกิดปฏิกิริยาไปขา้ งหน้าจะเท่ากบั อตั ราการเกิดปฏิกิริยายอ้ นกลบั ดงั น้นั เม่ือเขียนกราฟอตั รา การเกิดปฏิกิริยาท้งั ไปขา้ งหนา้ และยอ้ นกลบั จึงไดด้ งั รูป อตั ราการเกิดปฏิกิริยา อตั ราการเกิดปฏิกิริยาไปขา้ งหนา้ อตั ราการเกิดปฏิกิริยายอ้ นกลบั เวลา กราฟแสดงปริมาณสารต้งั ต้นและผลติ ภัณฑ์ เน่ืองจากในตอนแรกปริมาณสารต้งั ตน้ จะลดลงส่วนผลิตภณั ฑ์จะเพ่ิมข้ึนอยา่ งรวดเร็ว และเมื่อเขา้ สู่ภาวะสมดุลปริมาณสารทุกตวั จะคงท่ี แต่ปริมาณสารแต่ละตวั ไม่จาเป็ นตอ้ งมีค่า เท่ากนั สารต้งั ตน้ และผลิตภณั ฑ์อาจมีค่ามากกวา่ กนั หรือน้อยกวา่ กนั หรือเท่ากนั ก็ได้ ดงั น้ัน กราฟแสดงปริมาณสารจึงเป็นได้ 3 รูปแบบดงั น้ี 3

ติวสบายเคมี เลม่ 3 http://www.pec9.com บทที่ 7 สมดลุ เคมี แบบที่ 1 สารต้งั ตน้ เหลือนอ้ ยกวา่ ผลิตภณั ฑ์ ปริมาณสาร ผลิตภณั ฑ์ สารต้งั ตน้ แบบที่ 3 สารต้งั ตน้ เหลือเทา่ กบั ผลิตภณั ฑ์ เวลา ปริมาณสาร แบบท่ี 2 สารต้งั ตน้ เหลือมากกวา่ ผลิตภณั ฑ์ ปริมาณสาร สารต้งั ตน้ สารต้งั ตน้ ผลิตภณั ฑ์ ผลิตภณั ฑ์ เวลา เวลา 4(แนว En) ปฏิกิริยาเคมี N2O4(g)  2 NO2(g) ดาเนินไปจนสู่ภาวะสมดุล ถา้ สร้างกราฟ อตั ราการเกิดปฏิกิริยากบั เวลาควรไดก้ ราฟอยา่ งไรเม่ือเร่ิมตน้ ปฏิกิริยาดว้ ย N2O4 ตวั เดียว 1. อตั ราการเกิดปฏิกิริยา 2. อตั ราการเกิดปฏิกิริยา N2O4(g)  2NO2(g) N2O4(g)  2NO2(g) 2 NO2(g)  N2O4(g) 2 NO2(g)  N2O4(g) เวลา เวลา 3. อตั ราการเกิดปฏิกิริยา 4. อตั ราการเกิดปฏิกิริยา 2 NO2(g)  N2O4(g) 2 NO2(g)  N2O4(g) N2O4(g)  2NO2(g) N2O4(g)  2NO2(g) เวลา เวลา 4

ติวสบายเคมี เลม่ 3 http://www.pec9.com บทที่ 7 สมดลุ เคมี 5(แนว มช) จากปฏิกิริยา Q(s)  S(g) ความเขม้ ขน้ เปล่ียนแปลงตามเวลาตามรูปกราฟใด 1. ความเขม้ ขน้ 2. ความเขม้ ขน้ S (g) S (g) Q (s) Q (s) เวลา เวลา 3. ความเขม้ ขน้ 4. ความเขม้ ขน้ Q (s) Q (s) S (g) S (g) เวลา เวลา 6(แนว En) กราฟท่ีแสดงต่อไปน้ีสอดคลอ้ ง ความเขม้ ขน้ (mol/dm3) เวลา (นาที) กบั ปฏิกิริยาในขอ้ ใด 1. 2A  B 0.20 2. 2A  2B 3. A  B 0.10 AB 4. A  2B 5 10 15 5

ติวสบายเคมี เลม่ 3 http://www.pec9.com บทท่ี 7 สมดลุ เคมี เนื่องจากภาวะสมดุลไดนามิกปฏิกิริยาจะมีการหมุนเวียนกลบั ไปกลบั มาสม่าเสมอ ดงั น้นั ที่ภาวะสมดุลปริมาณสารทุกตวั ยงั คงมีอยไู่ ม่อาจหมดไปได้ เช่นสมดุลของปฏิกิริยาขา้ งตน้ ท้งั สารต้งั ตน้ และผลิตภณั ฑจ์ ะยงั คงมีอยใู่ นระบบตลอดเวลา สามารถพิสูจน์ดงั น้ี Fe2+ (aq) + Ag+ (aq) Fe3+(aq) + Ag(s) ทดสอบโดย ทดสอบโดย เติมสาร เหลืออยแู่ น่เพราะ เติมสาร เป็นตะกอน NH4SCN มองเห็นได้ K3[Fe(CN)6] ใชม้ ากเกินพอ เกิดเป็น KFe[Fe(CN)6] เกิดเป็น Fe(SCN)2+ เป็ นตะกอนสี น้ าเงิน ทาใหส้ ารละลายมีสีน้าตาล 7. จากปฏิกิริยา Fe2+ (aq) + Ag+ (aq)  Fe3+(aq) + Ag(s) หากตอ้ งการทดสอบวา่ ที่ภาวะสมดุลจะเหลือ Fe2+ อยหู่ รือไม่ สามารถทาไดโ้ ดย 1. ใช้ K3Fe(CN)6 ถา้ มีตะกอนสีน้าเงินแสดงวา่ มี Fe2+ 2. ใช้ K3Fe(CN)6 ถา้ มีตะกอนสีน้าตาลแสดงวา่ มี Fe2+ 3. ใช้ Cu(NH3)4SO4 ถา้ สารละลายมีสีน้าตาลแสดงวา่ มี Fe2+ 4. ใช้ Cu(NH3)4SO4 ถา้ สารละลายมีสีน้าเงินแสดงวา่ มี Fe2+ 6

ติวสบายเคมี เลม่ 3 http://www.pec9.com บทท่ี 7 สมดลุ เคมี 7.3 การเปลยี่ นแปลงภาวะสมดุล การเปลี่ยนแปลงภาวะสมดุล คือการทาให้ปริมาณสารต่างๆ ในภาวะสมดุลซ่ึงแต่เดิมคงท่ี ใหม้ ีปริมาณเปล่ียนไป ปัจจยั ที่ทาใหภ้ าวะสมดุลเปลี่ยนมี 3 ประการคือ 1. การเพ่มิ หรือลดความเขม้ ขน้ ของสารต้งั ตน้ และผลิตภณั ฑ์ 2. การเพ่มิ หรือลดความดนั หรือปริมาตรของระบบ 3. การเพ่ิมหรือลดอุณหภูมิของระบบ การเปลี่ยนแปลงภาวะสมดุลจะเป็นไปตามหลกั ของ “ เลอร์ซาเตอริเยร์ ” ซ่ึงกล่าววา่ “ เม่ือระบบท่ีอยู่ในภาวะสมดุลถูกรบกวนโดยมีปัจจัยท่ีมีผลต่อภาวะสมดุลของระบบ ตวั ระบบจะเปลย่ี นแปลงไปในทศิ ทางทจี่ ะลดผลรบกวนน้ันแล้วเข้าสู่สมดุลใหม่อกี คร้ังหนึ่ง ” จาง่ายๆ ว่า ถา้ เราเพิ่มอะไรกต็ ามใหแ้ ก่ระบบ ระบบจะพยายามลดสิ่งน้นั ลง ถา้ เราลดอะไรของระบบลง ระบบจะพยายามสร้างส่ิงน้นั ชดเชยกบั ส่ิงที่สูญเสียไป 7.3.1 การเพมิ่ หรือลดความเข้มข้นของสารต้ังต้นและผลิตภัณฑ์ ตัวอย่าง จากปฏิกิริยา Fe2+(aq) + Ag+(aq) Fe3+(aq) + Ag(s) ถา้ เราเพมิ่ ความเขม้ ขน้ ของ Fe2+ จะเกิดการเปลี่ยนแปลงดงั น้ี  ปฏิกิริยาไปขา้ งหนา้ จะเกิดมากข้ึน เพราะความเขม้ ขน้ สารต้งั ตน้ เพ่ิมข้ึน เรียกวา่ สมดุลเลื่อนไปทางขวา  เม่ือทิง้ ไวส้ กั พกั ระบบจะปรับตวั เขา้ สู่สมดุลคร้ังที่ 2 โดย อตั ราการเกิดปฏิกิริยาไปขา้ งหนา้ = อตั ราการเกิดปฏิกิริยายอ้ นกลบั อีกคร้ัง  ท่ีสมดุลใหม่ [Fe2+] เพ่มิ เพราะใส่เขา้ ไปตอนแรก และจะใชใ้ นการเกิดปฏิกิริยาไปขา้ งหนา้ ไมห่ มด ส่วนท่ีเหลือตกคา้ งเม่ือไปรวมกบั ของเดิมจึงทาใหม้ ีปริมาณเพม่ิ ข้ึน [Ag+] ลดลง เพราะถูกใชไ้ ปในการเกิดปฏิกิริยาไปขา้ งหนา้ [Fe3+] เพม่ิ เพราะเม่ือเกิดปฏิกิริยาไปขา้ งหนา้ มากข้ึนผลิตภณั ฑจ์ ะเพ่ิมตาม Ag เพ่ิม เพราะเม่ือเกิดปฏิกิริยาไปขา้ งหนา้ มากข้ึนผลิตภณั ฑจ์ ะเพม่ิ ตาม 7

ติวสบายเคมี เลม่ 3 http://www.pec9.com บทท่ี 7 สมดลุ เคมี ตัวอย่าง จากปฏิกิริยา Fe2+(aq) + Ag+(aq) Fe3+(aq) + Ag(s) ถา้ เราเพิม่ ความเขม้ ขน้ ของ Ag+ จะเกิดการเปล่ียนแปลงดงั น้ี  ปฏิกิริยาไปขา้ งหนา้ จะเกิดมากข้ึน เพราะความเขม้ ขน้ สารต้งั ตน้ เพิ่มข้ึนเรียกวา่ สมดุลเลื่อนไปทางขวา  เมื่อทิ้งไวส้ ักพกั ระบบจะปรับตวั เขา้ สู่สมดุลคร้ังที่ 2 โดย อตั ราการเกิดปฏิกิริยาไปขา้ งหนา้ = อตั ราการเกิดปฏิกิริยายอ้ นกลบั อีกคร้ัง  ท่ีสมดุลใหม่ [Fe2+] ลดลง เพราะถูกใชไ้ ปในการเกิดปฏิกิริยาไปขา้ งหนา้ [Ag+] เพิ่ม เพราะใส่เขา้ ไปตอนแรก และจะใชใ้ นการเกิดปฏิกิริยาไปขา้ งหนา้ ไม่หมด ส่วนท่ีเหลือตกคา้ งเมื่อไปรวมกบั ของเดิมจึงทาใหม้ ีปริมาณเพิ่มข้ึน [Fe3+] เพิ่ม เพราะเม่ือเกิดปฏิกิริยาไปขา้ งหนา้ มากข้ึนผลิตภณั ฑจ์ ะเพิ่มตาม Ag เพม่ิ เพราะเมื่อเกิดปฏิกิริยาไปขา้ งหนา้ มากข้ึนผลิตภณั ฑจ์ ะเพม่ิ ตาม ตัวอย่าง จากปฏิกิริยา Fe2+(aq) + Ag+(aq) Fe3+(aq) + Ag(s) ถา้ เราเพ่มิ ความเขม้ ขน้ ของ Fe3+ จะเกิดการเปล่ียนแปลงดงั น้ี  ปฏิกิริยายอ้ นกลบั จะเกิดมากข้ึน เพราะความเขม้ ขน้ ผลิตภณั ฑ์เพ่ิมข้ึน เรียกว่า สมดุลเลื่อนไปทางซา้ ย  เม่ือทิง้ ไวส้ กั พกั ระบบจะปรับตวั เขา้ สู่สมดุลคร้ังท่ี 2 โดย อตั ราการเกิดปฏิกิริยาไปขา้ งหนา้ = อตั ราการเกิดปฏิกิริยายอ้ นกลบั อีกคร้ัง  ท่ีสมดุลใหม่ [Fe2+] เพ่มิ เพราะเม่ือเกิดปฏิกิริยายอ้ นกลบั มากข้ึนสารต้งั ตน้ จะเพ่มิ ตาม [Ag+] เพมิ่ เพราะเมื่อเกิดปฏิกิริยายอ้ นกลบั มากข้ึนสารต้งั ตน้ จะเพิ่มตาม [Fe3+] เพม่ิ เพราะใส่เขา้ ไปตอนแรก และจะใชใ้ นการเกิดปฏิกิริยายอ้ นกลบั ไม่ หมด ส่วนท่ีเหลือตกคา้ งเมื่อไปรวมกบั ของเดิมจึงทาใหม้ ีปริมาณเพม่ิ ข้ึน Ag ลดลง เพราะถูกใชไ้ ปในการเกิดปฏิกิริยายอ้ นกลบั 8

ติวสบายเคมี เลม่ 3 http://www.pec9.com บทที่ 7 สมดลุ เคมี ฝึ กทา จงเติมคาลงในช่องวา่ งตอ่ ไปน้ีถูกตอ้ งและไดใ้ จความ จากปฏิกิริยา Fe2+ (aq) + Ag+ (aq)  Fe3+ (aq) + Ag(s) 1) เม่ือเติม Fe2+ สมดุลจะเล่ือนไปทาง ................... ปริมาณ Fe2+............. Ag+............ Fe3+............ Ag............. 2) เม่ือเติม Ag+ สมดุลจะเลื่อนไปทาง ................... ปริมาณ Fe2+............. Ag+............ Fe3+............ Ag............. 3) เมื่อเติม Fe3+ สมดุลจะเล่ือนไปทาง ................... ปริมาณ Fe2+............. Ag+............ Fe3+............ Ag............. 8. จากปฏิกิริยา Fe3+(aq) + SCN–(aq)  FeSCN2+(aq) สีเหลือง ไม่มีสี สีแดง ค. เติม FeSCN2+(aq) ก. เติม Fe3+(aq) ข. เติม SCN–(aq) ขอ้ ใดที่ทาใหส้ มดุลเลื่อนไปทางขวาแลว้ ไดส้ ีแดงเขม้ ข้ึน 1. ก. เทา่ น้นั 2. ข. เท่าน้นั 3. ก. และ ข. 4. ถูกทุกขอ้ 9. 2 Fe+3 (aq) + 2 I– (aq)  2 Fe2+ (aq) + I2 (s) จากปฏิกิริยาท่ีกาหนดใหห้ ากเติมสารต่อไปน้ี สมดุลจะเลื่อนไปทางใด ก) เติม Li I ข) เติม NH4 I 1. ก) เล่ือนซา้ ย ข) เลื่อนขวา 2. ก) เล่ือนขวา ข) เลื่อนซา้ ย 3. ก) เล่ือนซา้ ย ข) เลื่อนซา้ ย 4. ก) เล่ือนขวา ข) เลื่อนขวา 9

ติวสบายเคมี เลม่ 3 http://www.pec9.com บทท่ี 7 สมดลุ เคมี 10. 2 Fe+3 (aq) + 2 I– (aq)  2 Fe2+ (aq) + I2 (s) จากปฏิกิริยาท่ีกาหนดใหห้ ากเติมสารตอ่ ไปน้ี สมดุลจะเล่ือนไปทางใด ก) เติม FeCl2 ข) เติม Fe(NO3)3 1. ก) เล่ือนซา้ ย ข) เลื่อนขวา 2. ก) เล่ือนขวา ข) เลื่อนซา้ ย 3. ก) เลื่อนซา้ ย ข) เล่ือนซา้ ย 4. ก) เล่ือนขวา ข) เล่ือนขวา 11. 2 Fe+3 (aq) + 2 I– (aq)  2 Fe2+ (aq) + I2 (s) จากปฏิกิริยาที่กาหนดใหห้ ากเติม NaCl ลงไป สมดุลจะเล่ือนไปทางใด 1. ทางขวา 2. ทางซา้ ย 3. ไมเ่ ปลี่ยนแปลง 4. ขอ้ มูลไม่เพยี งพอ 12. หากเติม Ag(s) ลงในสมดุลของปฏิกิริยา 4. ขอ้ มูลไมเ่ พยี งพอ Fe2+ (aq) + Ag+ (aq)  Fe3+ (aq) + Ag(s) สมดุลจะเลื่อนไปทางใด 1. ทางขวา 2. ทางซา้ ย 3. ไม่เปล่ียนแปลง 13. เติมกอ้ นน้าตาลลงในน้าเช่ือมท่ีอิ่มตวั ที่มีผลึกของน้าตาลอยู่ จะทาใหส้ มดุลเลื่อนไปทางใด 1. ทางขวา 2. ทางซา้ ย 3. ไม่เปลี่ยนแปลง 4. ขอ้ มูลไม่เพยี งพอ 10

ติวสบายเคมี เลม่ 3 http://www.pec9.com บทที่ 7 สมดลุ เคมี ตวั อย่าง จากปฏิกิริยา Fe2+(aq) + Ag+(aq) Fe3+(aq) + Ag(s) ถา้ เราลดความเขม้ ขน้ ของ Fe2+ จะเกิดการเปลี่ยนแปลงดงั น้ี  ปฏิกิริยายอ้ นกลบั จะเกิดมากข้ึน เพ่ือสร้างสารต้งั ตน้ ชดเชยกบั ที่สูญเสียไปเรียก วา่ สมดุลเลื่อนไปทางซา้ ย  เมื่อทิง้ ไวส้ กั พกั ระบบจะปรับตวั เขา้ สู่สมดุลคร้ังที่ 2 โดย อตั ราการเกิดปฏิกิริยาไปขา้ งหนา้ = อตั ราการเกิดปฏิกิริยายอ้ นกลบั อีกคร้ัง  ที่สมดุลใหม่ [Fe2+] ลดลง เพราะถูกนาออกมาต้งั แต่แรก แมก้ ารเกิดปฏิกิริยายอ้ นกลบั จะมีการ สร้างชดเชย แตช่ ดเชยไดไ้ มเ่ ทา่ กบั ท่ีเสียไป จึงทาใหป้ ริมาณที่เหลืออยลู่ ดลง [Ag+] เพ่มิ เพราะเมื่อเกิดปฏิกิริยายอ้ นกลบั มากข้ึนสารต้งั ตน้ จะเพ่มิ ตาม [Fe3+] ลดลง เพราะถูกใชไ้ ปในการเกิดปฏิกิริยายอ้ นกลบั Ag ลดลง เพราะถูกใชไ้ ปในการเกิดปฏิกิริยายอ้ นกลบั ตวั อย่าง จากปฏิกิริยา Fe2+(aq) + Ag+(aq) Fe3+(aq) + Ag(s) ถา้ เราลดความเขม้ ขน้ ของ Ag+ จะเกิดการเปลี่ยนแปลงดงั น้ี  ปฏิกิริยายอ้ นกลบั จะเกิดมากข้ึน เพื่อสร้างสารต้งั ตน้ ชดเชยกบั ท่ีสูญเสียไปเรียกวา่ สมดุลเล่ือนไปทางซา้ ย  เมื่อทิง้ ไวส้ กั พกั ระบบจะปรับตวั เขา้ สู่สมดุลคร้ังที่ 2 โดย อตั ราการเกิดปฏิกิริยาไปขา้ งหนา้ = อตั ราการเกิดปฏิกิริยายอ้ นกลบั อีกคร้ัง  ที่สมดุลใหม่ [Fe2+] เพ่มิ เพราะเม่ือเกิดปฏิกิริยายอ้ นกลบั มากข้ึนสารต้งั ตน้ จะเพม่ิ ตาม [Ag+] ลดลง เพราะถูกนาออกมาต้งั แตแ่ รก แมก้ ารเกิดปฏิกิริยายอ้ นกลบั จะมีการ สร้างชดเชย แตช่ ดเชยไดไ้ ม่เท่ากบั ท่ีเสียไป จึงทาใหป้ ริมาณท่ีเหลืออยลู่ ดลง [Fe3+] ลดลง เพราะถูกใชไ้ ปในการเกิดปฏิกิริยายอ้ นกลบั Ag ลดลง เพราะถูกใชไ้ ปในการเกิดปฏิกิริยายอ้ นกลบั 11

ติวสบายเคมี เลม่ 3 http://www.pec9.com บทที่ 7 สมดลุ เคมี ตวั อย่าง จากปฏิกิริยา Fe2+(aq) + Ag+(aq) Fe3+(aq) + Ag(s) ถา้ เราลดความเขม้ ขน้ ของ Fe3+ จะเกิดการเปล่ียนแปลงดงั น้ี  ปฏิกิริยาไปขา้ งหน้าจะเกิดมากข้ึน เพ่ือสร้างผลิตภณั ฑ์ชดเชยกบั ที่สูญเสียไป เรียกวา่ สมดุลเล่ือนไปทางขวา  เม่ือทิ้งไวส้ ักพกั ระบบจะปรับตวั เขา้ สู่สมดุลคร้ังท่ี 2 โดย อตั ราการเกิดปฏิกิริยาไปขา้ งหนา้ = อตั ราการเกิดปฏิกิริยายอ้ นกลบั อีกคร้ัง  ที่สมดุลใหม่ [Fe2+] ลดลง เพราะถูกใชไ้ ปในการเกิดปฏิกิริยาไปขา้ งหนา้ [Ag+] ลดลง เพราะถูกใชไ้ ปในการเกิดปฏิกิริยาไปขา้ งหนา้ [Fe3+] ลดลง เพราะถูกนาออกมาต้งั แต่แรก แมจ้ ะมีการสร้างชดเชย แต่ชดเชยไดไ้ ม่เทา่ กบั ที่เสียไป จึงทาใหป้ ริมาณที่เหลืออยลู่ ดลง Ag เพิม่ เพราะเม่ือเกิดปฏิกิริยาไปขา้ งหนา้ มากข้ึนผลิตภณั ฑจ์ ะเพ่มิ ตาม ฝึ กทา. จงเติมคาลงในช่องวา่ งตอ่ ไปน้ีใหถ้ ูกตอ้ งและไดใ้ จความ จากปฏิกิริยา Fe2+ (aq) + Ag+ (aq)  Fe3+ (aq) + Ag(s) 1) เม่ือลด Fe2+ สมดุลจะเลื่อนไปทาง ................... ปริมาณ Fe2+............. Ag+............ Fe3+............ Ag............. 2) เมื่อลด Ag+ สมดุลจะเลื่อนไปทาง ................... ปริมาณ Fe2+............. Ag+............ Fe3+............ Ag............. 3) เม่ือลด Fe3+ สมดุลจะเลื่อนไปทาง ................... ปริมาณ Fe2+............. Ag+............ Fe3+............ Ag............. 14. HA + H2O  H3O+ + A– จากสมการที่กาหนดให้ สมดุลจะเลื่อนไปทางใดหาก เราลดความเขม้ ขน้ ของสารตอ่ ไปน้ี ข) ลด H3O+ ก) ลด HA 1. ก) เลื่อนซา้ ย ข) เล่ือนขวา 2. ก) เลื่อนขวา ข) เล่ือนซา้ ย 3. ก) เล่ือนซา้ ย ข) เลื่อนซา้ ย 4. ก) เล่ือนขวา ข) เลื่อนขวา 12

ติวสบายเคมี เลม่ 3 http://www.pec9.com บทที่ 7 สมดลุ เคมี 15. ในการเติม CaCl2 ( เป็ นสารดูดความช้ืน ) ลงในปฏิกิริยา 4. ขอ้ มูลไมเ่ พียงพอ 4 A(s) + O2 (g)  2 H2O(g) + ความร้อน จะส่งผลใหส้ มดุลเลื่อนไปทางใด 1. ทางขวา 2. ทางซา้ ย 3. ไม่เปล่ียนแปลง 16. 2 Fe3+ + 2 I–  2 Fe2+ + I2 จากปฏิกิริยาท่ีกาหนดให้ หากเติมสารต่อไปน้ี สมดุลจะเล่ือนไปทางใด ก) เติม Pb(NO3)2 ข) เติม AgNO3 1. ก) เลื่อนซา้ ย ข) เลื่อนขวา 2. ก) เลื่อนขวา ข) เล่ือนซา้ ย 3. ก) เล่ือนซา้ ย ข) เล่ือนซา้ ย 4. ก) เล่ือนขวา ข) เล่ือนขวา 17(แนว มช) จากผลการทดลองตอ่ ไปน้ี 2CrO24 + 2 H+  Cr2O72 + H2O สีเหลือง สีส้ม ถ้าเติม NaOH 6 โมล/ลิตร 10 หยด ลงในสารผสมของปฏิกิริยา ผลคือปฏิกิริยาจะ ดาเนินไปทางดา้ นขวาหรือดา้ นซา้ ย และสารละลายจะมีสีอะไร 1. ขวา , สีส้ม 2. ซา้ ย , สีเหลือง 3. ขวา , ไมม่ ีสี 4. ซา้ ย , ไมม่ ีสี 13

ติวสบายเคมี เลม่ 3 http://www.pec9.com บทที่ 7 สมดลุ เคมี 18. CaCO3(s)  Ca2+(aq) +CO32 (aq) หากเติมน้าลงไป สมดุลจะเล่ือนไปทางใด 1. ทางขวา 2. ทางซา้ ย 3. ไม่เปล่ียนแปลง 4. ขอ้ มูลไมเ่ พยี งพอ 7.3.2 การเพมิ่ หรือลดความดันหรือปริมาตรของระบบ การเปลี่ยนแปลงความดนั หรือปริมาตรของระบบ จะส่งผลต่อสารที่มีสถานะเป็ นแก๊ส เท่าน้นั เมื่อความเพ่ิมความดันสมดุลจะเลื่อนจากด้านท่ีมีโมลแก๊สมากไปหาด้านที่มีโมลแก๊ส น้อยของสมการเคมี ท้งั น้ีเพราะเมื่อเพ่ิมความดนั จะทาให้ปริมาตรแก๊สลดลง โมเลกุลแก๊สจะ เบียดชิดกนั มากยง่ิ ข้ึน ทาให้ความเขม้ ขน้ มากข้ึนดว้ ย และเนื่องจากดา้ นที่มีโมลแก็สมากความ เขม้ ขน้ ก็จะเพ่ิมข้ึนมากกวา่ ดา้ นที่มีโมลแก๊สนอ้ ย ดงั น้นั สมดุลจึงเลื่อนจากดา้ นท่ีมีโมลแก๊สมาก ไปหาดา้ นท่ีมีโมลแก๊สนอ้ ยดงั กล่าวน้นั เอง ส่วนการลดความดนั จะส่งผลในทางตรงกนั ขา้ มกบั การเพิ่มความดนั คือทาให้สมดุล เลื่อนจากดา้ นที่มีโมลแกส๊ นอ้ ยไปหาดา้ นท่ีมีโมแก๊สมากนน่ั เอง สารที่มีสถานะเป็ นของแข็ง ของเหลวหรือสารละลายน้นั เม่ือเพ่ิมหรือลดความดนั ปริมาตรจะไม่เปลี่ยนแปลงความเขม้ ขน้ จึงคงที่เสมอไม่เปลี่ยนแปลง ดงั น้นั ความดนั จึงไม่ส่งผล ต่อสารที่มีสถานะเหล่าน้ี ตัวอย่าง จากสมการ 2 NO2 (g)  N2O4 (g) จะเห็นวา่ สารต้งั ตน้ มีโมลแก๊ส (g) 2 โมล ส่วนผลิตภณั ฑม์ ีโมลแก๊ส (g) 1 โมล ( ดูจากสมั ประสิทธ์ิหนา้ สารที่เป็นแก๊สแตล่ ะตวั ในสมการ ) เมื่อเพม่ิ ความดนั สมดุลจะเลื่อนไปทางขวา ( คือเล่ือนจากดา้ นที่มีโมลแกส๊ มากไปหาดา้ นที่มีโมลแก๊สนอ้ ย ) เม่ือลดความดนั จะเลื่อนไปทางซา้ ย ( คือส่งผลตรงกนั ขา้ มกบั การเพมิ่ ความดนั ) 14

ติวสบายเคมี เลม่ 3 http://www.pec9.com บทที่ 7 สมดลุ เคมี ตัวอย่าง จากสมการ 2 NH3 (g)  N2(g) + 3 H2 (g) จะเห็นวา่ สารต้งั ตน้ มีโมลแก๊ส (g) 2 โมล ส่วนผลิตภณั ฑม์ ีโมลแก๊ส (g) รวมท้งั สิ้น 4 โมล คือ N2 1 โมล และ H2 3 โมล ( ดูจากสมั ประสิทธ์ิหนา้ สารที่เป็นแก๊สแตล่ ะตวั ในสมการ ) เมื่อเพม่ิ ความดนั สมดุลจะเล่ือนไปทางซา้ ย เมื่อลดความดนั จะเล่ือนไปทางขวา ตัวอย่าง จากสมการ N2 (g) + O2 (g)  2 NO (g) จะเห็นวา่ สารต้งั ตน้ มีโมลแก๊ส (g) รวมท้งั สิ้น 2 โมล คือ N2 1 โมล และ O2 1 โมล ส่วนผลิตภณั ฑม์ ีโมลแกส๊ (g) 2 โมลเช่นกนั ปฏิกิริยาน้ีการเพม่ิ หรือลดความดนั จะไมท่ าใหส้ มดุลเปลี่ยน เพราะ โมลแก๊สสารต้งั ตน้ = โมลแกส๊ ผลิตภณั ฑ์ ตัวอย่าง จากสมการ BiCl3 (aq) + H2O (g)  BiOCl (s) + 2 HCl (aq) จะเห็นวา่ สารต้งั ตน้ มีโมลแก๊ส (g) 1 โมล คือ H2O (g) ส่วนผลิตภณั ฑไ์ ม่มีสารท่ีเป็ น แกส๊ เลย ( สารท่ีมีสถานะของแขง็ ( s ) ของเหลว ( l ) สารละลาย ( aq ) ไมต่ อ้ งพจิ ารณา ) เมื่อเพมิ่ ความดนั สมดุลจะเล่ือนไปทางขวา เม่ือลดความดนั จะเล่ือนไปทางซา้ ย ตวั อย่าง จากสมการ 3 Fe (s) + 4 H2O (g)  Fe3O4 (s) + 4 H2 (g) จะเห็นวา่ สารต้งั ตน้ มีโมลแก๊ส (g) 4 โมล คือ H2O (g) ส่วนผลิตภณั ฑม์ ีโมลแก๊ส (g) 4 โมล คือ H2 (g) ปฏิกิริยาน้ีการเพ่ิมหรือลดความดนั จะไมท่ าใหส้ มดุลเปล่ียน เพราะ โมลแกส๊ สารต้งั ตน้ = โมลแกส๊ ผลิตภณั ฑ์ ฝึ กทา. จงเติมคาลงในช่องวา่ งต่อไปน้ีใหถ้ ูกตอ้ งและไดใ้ จความ 1. จากสมการ 2 NO2 (g)  N2O4 (g) เม่ือความดนั เพม่ิ สมดุลจะเล่ือนไปทาง......... เมื่อลดความดนั จะเลื่อนไปทาง........ 2. จากสมการ 2 NH3 (g)  N2(g) + 3H2 (g) เม่ือความดนั เพมิ่ สมดุลจะเล่ือนไปทาง......... เม่ือลดความดนั จะเลื่อนไปทาง........ 15

ติวสบายเคมี เลม่ 3 http://www.pec9.com บทที่ 7 สมดลุ เคมี 3. จากสมการ N2 (g) + O2 (g)  2NO(g) เมื่อความดนั เพิม่ สมดุลจะเล่ือนไปทาง......... เม่ือลดความดนั จะเล่ือนไปทาง........ 4. จากสมการ BiCl3 (aq) + H2O(g)  BiOCl(s) + 2HCl (aq) เม่ือความดนั เพม่ิ สมดุลจะเล่ือนไปทาง......... เมื่อลดความดนั จะเล่ือนไปทาง........ 5. จากสมการ 3Fe(s) + 4 H2O(g)  Fe3O4(s) + 4H2(g) เม่ือความดนั เพ่มิ สมดุลจะเลื่อนไปทาง......... เม่ือลดความดนั จะเล่ือนไปทาง........ 19. จากปฏิกิริยา A(g) + B(g)  C(s) + D(g) เม่ือเพมิ่ ความดนั จะส่งผลใหส้ มดุลเลื่อนไป ทางใด 1. ทางขวา 2. ทางซา้ ย 3. ไมเ่ ปลี่ยนแปลง 4. ขอ้ มูลไม่เพยี งพอ 20(แนว มช) ถา้ เพ่ิมความดนั ใหแ้ ก่ระบบแลว้ ปฏิกิริยาขอ้ ใดที่จะเล่ือนไปทางดา้ นขวา 1. 2 CO(g) + 2 NO(g)  2 CO2(g) + N2(g) 2. C2H4(g)  C2H2(g) + H2(g) 3. C(s) + O2(g)  CO2(g) 4. 3 Fe(s) + 4 H2O(g)  Fe3O4(s) + 4 H2(g) 16

ติวสบายเคมี เลม่ 3 http://www.pec9.com บทท่ี 7 สมดลุ เคมี 21(แนว En) กาหนดปฏิกิริยาตอ่ ไปน้ี ก. N2O4(g)  2 NO2(g) ข. N2(g) + O2(g)  2 NO(g) ค. 2 HBr(g) + Cl2(g)  2 HCl(g) + Br2(g) ง. H2(g) + I2(s)  2 HI (g) การเปลี่ยนแปลงความดนั จะไม่มีผลต่อภาวะสมดุลของปฏิกิริยาในขอ้ ใด 1. ก. และ ค. 2. ก. และ ง. 3. ข. และ ค. 4. ข. ค. และ ง. 22(แนว En) สมดุลของปฏิกิริยาในขอ้ ใด เมื่อลดปริมาตรแลว้ สมดุลจะเลื่อนไปทางดา้ นซา้ ย 1. AB(s)  A+ (aq) + B-(aq) 2. A2(g) + B2(g)  2 A2B(l) 3. A(s) + B(l)  C(g) 4. A2(g) + C(s)  CA2(l) 17

ติวสบายเคมี เลม่ 3 http://www.pec9.com บทที่ 7 สมดลุ เคมี 23(แนว มช) ปฏิกิริยาท่ีภาวะสมดุลที่อุณหภูมิคงท่ีต่อไปน้ีปฏิกิริยาใด หากมีการขยายปริมาตร จากเดิมเป็นสองเท่า จะมีการเปลี่ยนแปลงทิศทางของปฏิกิริยาไปทางขวามือ 1. H2(g) + CO2(g)  H2O(g) + CO(g) 2. PCl5(g)  PCl3(g) + Cl2(g) 3. H2(g) + Cl2(g)  2 HCl(g) 4. N2(g) + 3H2(g)  2 NH3(g) 7.3.3 การเพม่ิ หรือลดอุณหภูมขิ องระบบ 1. สาหรับปฏิกิริยาดูดความร้อน เช่น 2 NH3(g) + 92 kJ  N2(g) + 3 H2(g) จากสมการของปฏิกิริยาที่ดูดความร้อน จะเห็นไดว้ ่าความร้อนเปรียบเสมือนสาร ต้งั ตน้ ตวั หน่ึง ดงั น้นั เม่ือเพิ่มอุณหภูมิปฏิกิริยาจะเล่ือนไปทางขวา และเมื่อลดอุณหภูมิปฏิกิริยา จะเล่ือนไปทางซา้ ย 2. สาหรับปฏิกิริยาคายความร้อน เช่น 2NO2(g)  N2O4 (g) + 58.1 kJ จากสมการของปฏิกิริยาที่คายความร้อน จะเห็นได้ว่าความร้อนเปรียบเสมือน ผลิตภณั ฑ์ตวั หน่ึง ดงั น้ันเม่ือเพ่ิมอุณหภูมิปฏิกิริยาจะเล่ือนไปทางซ้าย และเม่ือลดอุณหภูมิ ปฏิกิริยาจะเล่ือนไปทางขวา 18

ติวสบายเคมี เลม่ 3 http://www.pec9.com บทที่ 7 สมดลุ เคมี ฝึ กทา. ก) จากปฏิกิริยา A + B  C + D + ความร้อน เมื่อเพมิ่ อุณหภูมิทาใหส้ มดุลเล่ือนไปทาง............. ดว้ ยอตั ราการเกิดปฏิกิริยา............. เม่ือลดอุณหภูมิทาใหส้ มดุลเลื่อนไปทาง........ .... ดว้ ยอตั ราการเกิดปฏิกิริยา.............. ข) จากปฏิกิริยา A + B + ความร้อน  C + D เมื่อเพิ่มอุณหภูมิทาใหส้ มดุลเล่ือนไปทาง............. ดว้ ยอตั ราการเกิดปฏิกิริยา............ เม่ือลดอุณหภูมิทาใหส้ มดุลเลื่อนไปทาง............. ดว้ ยอตั ราการเกิดปฏิกิริยา........... 24. จากปฏิกิริยา N2(g) + 3 H2(g)  2 NH3(g) + ความร้อน ถา้ เพม่ิ อุณหภูมิของปฏิกิริยาน้ีใหส้ ูงข้ึน ความเขม้ ขน้ ของสารใดบา้ งจะลดลง 1. N2 2. H2 3. NH3 4. ถูกทุกขอ้ 25(แนว En) CH3OH (g) + 12 O2 (g)  CH2O (g) + H2O(g) เป็ นปฏิกิริยาคาย ความร้อน หากตอ้ งการจะเพมิ่ ผลิตภณั ฑค์ วรทาอยา่ งไร 1. ใชต้ วั เร่งปฏิกิริยา 2. เพิ่มอุณหภูมิ 3. ลดอุณหภูมิ 4. เพมิ่ ความดนั 19

ติวสบายเคมี เลม่ 3 http://www.pec9.com บทที่ 7 สมดลุ เคมี 26(แนว En) เมื่อปฏิกิริยาต่อไปน้ีอยใู่ นสมดุล 2 A(g) + B(g)  2 C(g) + พลงั งาน วธิ ีใดบา้ งท่ีจะทาใหส้ มดุลเล่ือนไปทางผลิตภณั ฑ์ อณุ หภูมิ ความดัน ปริมาณสาร 1. ลด เพิ่ม เพมิ่ A 2. เพมิ่ ลด ลด B 3. เพ่ิม ลด คงเดิม 4. เพิ่ม คงท่ี คงเดิม 27(แนว En) ปฏิกิริยา 2 SO3(g)  2 SO2(g) + O2(g) เป็ นปฏิกิริยาดูดความร้อน ถา้ ระบบน้ีอยใู่ นภาวะสมดุล มีวธิ ีใดท่ีจะเพิ่มปริมาณของ SO3 ได้ ก. เพ่ิมอุณหภูมิ ข. เพ่ิมความดนั ค. ลดอุณหภูมิ ง. ลดความดนั 1. ก และ ข 2. ข และ ค 3. ก และ ค 4. ข และ ง 20

ติวสบายเคมี เลม่ 3 http://www.pec9.com บทท่ี 7 สมดลุ เคมี 28(แนว มช) ปฏิกิริยาในการผลิตแก๊สแอมโมเนีย N2(g) + 3 H2(g)  2 NH3(g) + 92 kJ ขอ้ ใดต่อไปน้ีผดิ 1. ปฏิกิริยาน้ีเป็นปฏิกิริยาคายความร้อน 2. การลดอุณหภูมิทาใหเ้ กิดแกส๊ แอมโมเนียมากข้ึน 3. การเพิ่มความดนั ทาใหเ้ กิดแก๊สแอมโมเนียนอ้ ยลง 4. การผลิตแกส๊ แอมโมเนียสามารถใชเ้ หลก็ เป็นตวั เร่งปฏิกิริยาได้ ข้อต้องรู้เกยี่ วกบั การเปลยี่ นแปลงสมดุล ตวั เร่งปฏิกิริยาจะทาใหป้ ฏิกิริยาไปขา้ งหนา้ เพ่ิมข้ึน แตป่ ฏิกิริยายอ้ นกลบั ก็จะเพ่ิมข้ึนดว้ ย อตั ราเร็วท่ีเทา่ กนั ดงั น้นั ตวั เร่งปฏิกิริยาจึงไมท่ าใหส้ มดุลเปล่ียนไป 29(แนว En) ผลของตวั เร่งปฏิกิริยาท่ีมีต่อปฏิกิริยาที่ผนั กลบั ได้ ปฏิกิริยาหน่ึงจะเป็ นดงั ขอ้ ใด ในแง่ของอตั ราของปฏิกิริยา และการเปล่ียนแปลงภาวะสมดุลของระบบ อตั ราของปฏกิ ริ ิยาไปข้างหน้า อตั ราของปฏกิ ิริยาย้อนกลบั ภาวะสมดุลของระบบ เคล่ือนไปทางขวา 1. เร็วข้ึน ไม่เปล่ียนแปลง ไมเ่ ปล่ียนแปลง เคล่ือนไปทางซา้ ย 2. เร็วข้ึน เร็วข้ึน ไมเ่ ปล่ียนแปลง 3. ไมเ่ ปล่ียนแปลง เร็วข้ึน 4. เร็วข้ึน ไม่เปลี่ยนแปลง 21

ติวสบายเคมี เลม่ 3 http://www.pec9.com บทที่ 7 สมดลุ เคมี 7.4 ความสัมพนั ธ์ระหว่างความเข้มข้นของสารต่างๆ ณ ภาวะสมดุล 7.4.1 ค่าคงทส่ี มดุลกบั สมการเคมี ในปฏิกิริยาเคมีหน่ึงๆ อตั ราส่วนระหวา่ งผลคูณของความเขม้ ขน้ ของสารผลิตภณั ฑ์แต่ ละชนิดยกกาลงั ดว้ ยสัมประสิทธ์ิของผลิตภณั ฑ์น้นั ๆ ต่อผลคูณของความเขม้ ขน้ ของสารต้งั ตน้ แตล่ ะชนิดยกกาลงั ดว้ ยสมั ประสิทธ์ิของสารต้งั ตน้ น้นั ๆ จะมีคงที่เสมอ เมื่ออุณหภูมิคงท่ี ตวั อยา่ งเช่น 2 H I (g)  H2(g) + I2(g) จะไดว้ า่ K = [H[H2I]][2I2] เรียกสมการน้ีวา่ กฎภาวะสมดุลทางเคมี เรียกคา่ K วา่ ค่าคงที่สมดุล ข้อต้องรู้เก่ยี วกบั ค่าคงทส่ี มดุล ( K ) 1. กรณีของปฏิกิริยาเน้ือผสม ค่า K จะข้ึนกบั ความเขม้ ขน้ ของสารที่เป็นแก๊ส (g) และสาร ละลาย (aq) เท่าน้นั ( จาง่าย ๆ การคิดค่าคงที่สมดุลจะคิดเฉพาะแก๊สกบั สารละลายเท่าน้นั ไมค่ ิดของแขง็ , ของเหลว ) ตวั อย่าง CO2(g) + H2(g)  CO(g) + H2O(l) K = [CO] [CO2 ][H2 ] ไมต่ อ้ งคิด H2O ( l ) เพราะเป็นของเหลว ตวั อย่าง Fe2+(aq) + Ag+ (aq)  Fe3+ (aq) + Ag(s) Kc = [Fe3  ] [Fe2  ][Ag  ] ไมต่ อ้ งคิด Ag ( s ) เพราะเป็นของแขง็ ตัวอย่าง CaCO3(s)  CaO(s) + CO2(g) Kc = [CO2] ไมต่ อ้ งคิด CaCO3(s) กบั CaO(s) เพราะเป็ นของแขง็ 2. คา่ K ที่ไดจ้ ากการใชค้ วามเขม้ ขน้ ของสารมาคานวณ อาจเรียกชื่อเฉพาะวา่ Kc 22

ติวสบายเคมี เลม่ 3 http://www.pec9.com บทท่ี 7 สมดลุ เคมี 3. ถา้ เป็นปฏิกิริยาของแกส๊ ความดนั ต่า อาจใชค้ วามดนั หาค่า K ก็ได้ ค่าที่ไดเ้ รียก KP เช่น N2 (g) + 3 H2 (g)  2 NH3 (g) PN2H 3 จะไดว้ า่ KP = PN2 . PH3 2 ความสัมพนั ธ์ระหวา่ ง Kc ก( บRั TK)p n คือ Kp = Kc เมื่อ R = 0.0821 Lit. atm / mol . K T = อุณหภูมิ ( เคลวิน ) n = จานวนโมลของผลิตภณั ฑ์ – จานวนโมลของสารต้งั ตน้ 4. กรณีของสารท่ีละลายน้าไดน้ อ้ ย เช่น Mg(OH)2 (s)  Mg2+(aq) + 2 OH–(aq) Ksp = [Mg2+] [OH–]2 จะไดว้ า่ เนื่องจากเป็นคา่ คงที่ของการละลาย จึงอาจเรียก Ksp (Solubility Product Constant) 5. หากนาจานวนจริง n ใดๆ คูณสมการเคมีโดยตลอด จะไดว้ า่ Kใหม่ = Kเnดิม เช่น สมมุติ A+B C มีคา่ คงท่ีสมดุล = K1 เมื่อนา 2 คูณตลอด 2 A + 2B  2C จะได้ ค่าคงท่ีสมดุลใหม่ = K12 เมื่อนา 12 คูณตลอด 12 A + 12 B  12 C จะได้ คา่ คงที่สมดุลใหม่ = K112 = K1 6. ถา้ เขียนสมการกลบั ดา้ น จะไดว้ า่ Kใหม่ = Kเ1ดิม เช่น สมมุติ A+B C มีคา่ คงท่ีสมดุล = K1 จะมีค่าคงที่สมดุล = K11 ดงั น้นั สมการ C  A+B 23

ติวสบายเคมี เลม่ 3 http://www.pec9.com บทที่ 7 สมดลุ เคมี 7. ถา้ นาสมการ 2 สมการมาบวกกนั คา่ Kรวม จะเทา่ กบั คา่ K ของแตล่ ะสมการคูณกนั เช่น สมมุติ AB+C มีค่าคงท่ีสมดุล = K1 C+D E มีคา่ คงที่สมดุล = K2 ถา้ นาสมการ 1 + 2 เป็น A + C + D  B + C + E จะไดว้ า่ Kรวม = K1  K2 ถา้ นาสมการ 1 - 2 เป็น A – C – D  B + C – E จะไดว้ า่ Kรวม = K1  K2 ฝึ กทา. จงเขียนกฎภาวะสมดุลทางเคมีของปฏิกิริยาเคมีต่อไปน้ี 1. N2 (g) + 3 H2 (g) Mg22+N(Haq3) (g) (aq) 2. MFeg2(O+(Haq)2) (s)  + 2 OH– + Ag(s) 3. + Ag+ (aq)  Fe3+ (aq) 30(แนว Pat2) ปฏิกิริยาในขอ้ ใดมีคา่ Kc เทา่ กบั Kp 1. N2(g) + 3 H2(g)  2 NH3(g) 2. CaCO3(s)  CaO(s) + CO2(g) 3. H2(g) + F2(g)  2 HF(g) 4. 2 O3(g)  3 O2(g) 24

ติวสบายเคมี เลม่ 3 http://www.pec9.com บทท่ี 7 สมดลุ เคมี 31(แนว En) ถา้ NOCl (g)  12 N2(g) + 12 O2(g) + 12 Cl2(g) มีค่า K = 3.00 แลว้ ปฏิกิริยา 2 NOCl (g)  N2(g) + O2(g) + Cl2(g) มีค่าคงที่สมดุลเทา่ กบั ขอ้ ใด 1. 3 2. 3.00 3. 9.00 4. 27.00 32(แคน่าคว1ง.Eทn่ีส1)มxคด1่าุล0คข6งอทงี่สปมฏดิกุลิริขยาอง2ป.NฏO2ิก(ิรxgิย)1า0+6212NOO2(g(g))+O32.(Ng2)Ox2(1g0)122เทN่ากOบั2(ขgอ้ )ใด4เท. า่ ก1บัx 4 x 1012 1024 33(แนว มช) กาหนดค่าคงที่สมดุลของปฏิกิริยา Ag+ (aq) + 2 NH3(aq)  Ag(NH3)2+(aq) คือ 1 x 102 จงหาคา่ คงที่สมดุลปฏิกิริยาต่อไปน้ี 12 Ag(NH3)2+(aq)  12 Ag+(ag) + NH3(aq) 25

ติวสบายเคมี เลม่ 3 http://www.pec9.com บทท่ี 7 สมดลุ เคมี 34. กาหนดปฏิกิริยาท่ีสภาวะสมดุล 4. 45 A + 2B  C + D K1 = 3 K2 = 5 C  B+E K3 = ? 3. 15 A + B  D +E ค่าของ K3 คือขอ้ ใด 1. 3 2. 5 7.4.2 การคานวณเกี่ยวกบั ค่าคงทสี่ มดุล ข้นั ตอนการคานวณเกย่ี วกับค่าคงทส่ี มดุล ข้นั 1 ตอ้ งเปลี่ยนปริมาณสารที่ตอ้ งใชเ้ ป็นความเขม้ ขน้ หน่วยโมล/ลิตร โดยใชส้ มการ c = จานวนโมล และ n= g = 6.02 xN1023 = 22V.4 ปริ มาตรสารละลาย(ลิตร) M เม่ือ n คือจานวนโมล g คือมวลสารที่มีอยู่ (กรัม) M คือมวลโมเลกลุ หรือมวลอะตอม N คือจานวนโมเลกลุ V คือปริมาตรแก๊ส ( ลิตร , dm3 ) ข้นั 2 ตอ้ งหาความเขม้ ขน้ ของสารท่ีจะใชห้ ลงั สมดุล ข้นั 3 เขียนสูตรหาค่าคงที่สมดุล แลว้ แทนคา่ ความเขม้ ขน้ ของสารต่างๆ ลงไป 26

ติวสบายเคมี เลม่ 3 http://www.pec9.com บทที่ 7 สมดลุ เคมี 35(แนว มช) เม่ือผสมแก๊ส A และแกส๊ B เขา้ ดว้ ยกนั ในภาชนะขนาด 0.5 ลิตร ท่ี 70oC เม่ือ เขา้ สู่ภาวะสมดุล พบวา่ มีแก๊ส A , B และ C เท่ากบั 2 , 2.5 และ 4 โมล ตามลาดบั จงคานวณหาค่าคงท่ีสมดุลของปฏิกิริยาที่ 70oC กาหนด A + 2 B  2 C 36. จากปฏิกิริยา A (s) + 2 B (g) + 2 C(g)  5 D (g) + 2 E (s) ท่ีสมดุลในภาชนะ 2 ลิตร มีสาร A = 2 โมล , B = 3 โมล , C = 4 โมล , D = 2 โมล , E = 1 โมล จงหาคา่ คงท่ี ส ม ดุ ล 27

ติวสบายเคมี เลม่ 3 http://www.pec9.com บทท่ี 7 สมดลุ เคมี 37(แนว มช) ปฏิกิริยาในปฏิกรณ์ขนาด 5 ลิตร ที่อุณหภูมิ 1000oC เป็น 3 Fe (s) + 4 H2O (g)  Fe3O4 (s) + 4 H2 (g) และพบวา่ ในปฏิกรณ์มี H2 1.00 กรัม และไอน้า 36.00 กรัม ค่าคงที่สมดุลเป็นเทา่ ใด 1. 4 2. 1 3. 116 4. 2156 38. ปฏิกิริยา N2 (g) + O2 (g)  2 NO (g) เกิดท่ี 1000oC หากท่ีภาวะสมดุลมี N2 28.0 กรัม NO 30.0 กรัม และออกซิเจน 200 โมล ในภาชนะ 2.0 ลิตร จงหา ค่าคงที่สมดุล 1. 2 x 10–2 2. 2 x 10–3 3. 5 x 10–2 4. 5 x 10–3 28

ติวสบายเคมี เลม่ 3 http://www.pec9.com บทที่ 7 สมดลุ เคมี 39. ระบบหน่ึงประกอบด้วย PCl5 , PCl3 , Cl2 เมื่อทาการทดลองท่ีอุณหภูมิ 250oC สมการเป็ นดงั น้ี PCl5 (g)  PCl3 (g) + Cl2 (g) ที่ภาวะสมดุลพบ PCl5 เข้มข้น 1.5 โมล/ลิตร , PCl3 เข้มข้น 0.2 โมล/ลิตร และ Cl2 เข้มข้น 0.3 โมล/ลิตร จงหา ค่าคงท่ีสมดุล 40. จากปฏิกิริยา Y(s) + 2 W(g)  2 Z (g) ท่ีสมดุลความเข้มขน้ ของ Y = 0.10 โมล/ลิตร ความเขม้ ขน้ ของ W = 0.50 โมล/ลิตร จงคานวณหาความเข้มขน้ ของ Z ถ้า ค่าคงท่ีของสมดุล (K) มีคา่ เท่ากบั 0.64 29

ติวสบายเคมี เลม่ 3 http://www.pec9.com บทที่ 7 สมดลุ เคมี 41. พิจารณาสมการ H2 + I2  2 H I มีค่าคงที่สมดุลเท่ากบั 4.5 ที่ 28oC เม่ือแก๊ส ผสมเขา้ สู่สมดุลแล้ว พบว่ามี H I = 0.3 โมล/ลิตร และ I2 = 0.1 โมล/ลิตร จะมี H2 ก่ี โมล/ลิตร 42(แนว มช) ที่อุณหภูมิที่กาหนด ใหป้ ฏิกิริยา H2(g) + I2(g)  2 H I (g) มีค่าคงท่ีสมดุล เท่ากับ 9.0 ท่ีอุณหภูมิน้ีพบว่าที่ภาวะสมดุลมี H I 0.30 โมล และ H2 0.20 โมล ใน ปริมาตร 1.0 ลิตร จงหาจานวนโมลของ I2 ที่ภาวะสมดุลน้ี 1. 0.04 2. 0.05 3. 0.10 4. 0.085 30

ติวสบายเคมี เลม่ 3 http://www.pec9.com บทที่ 7 สมดลุ เคมี 43. ถา้ ปฏิกิริยา N2O4(g)  2 NO2(g) มีค่าคงที่ของสมดุลเท่ากบั 0.1 จงคานวณว่าจะมี NO2 กี่กรัม ในภาวะสมดุลท่ีมี N2O4 18.4 กรัม ในภาชนะจุ 2 dm3 1. 0.46 2. 0.92 3. 4.6 4. 9.2 44(แนว En) สมดุล I2 (g) + Br2 (g)  2 IBr (g) มีคา่ คงท่ีสมดุล K = 64 ที่ 100oC ถา้ เร่ิมดว้ ย I2 และ Br2 ปริมาณเท่ากนั ในภาชนะปิ ดสนิทที่ 100oC ณ. สมดุลมี IBr(g) อยู่ 4.0 mol.dm–3 จงหาความเขม้ ขน้ ของ I2 (g) ท่ีเหลือในหน่วย mol.dm–3 31

ติวสบายเคมี เลม่ 3 http://www.pec9.com บทท่ี 7 สมดลุ เคมี 45. ในสารละลายของ AgCl (s) ท่ีสมดุล พบวา่ มี Ag+ อิออน และ Cl– อิออนอยา่ งละ 1.34 x 10–5 โมล/ลิตร จงหาคา่ Ksp ของ AgCl 1. 9 x 10–9 2. 9 x 10–10 3. 1.8 x 10–9 4. 1.8 x 10–10 46(แนว En) กาหนดใหป้ ฏิกิริยาเกิดตามสมการ 2 A  B + C ถา้ เร่ิมตน้ มีสาร A เขม้ ขน้ 2.00 mol/dm3 เม่ือถึงสมดุลพบวา่ สาร A หายไป 0.60 mol/dm3 ค่าคงท่ีสมดุลของ ปฏิกิริยาน้ีเป็นไปตามขอ้ ใด 3. 4.59 x 10–2 4. 6.43 x 10–2 1. 0.73 2. 0.18 32

ติวสบายเคมี เลม่ 3 http://www.pec9.com บทท่ี 7 สมดลุ เคมี 47. ในสมดุลของปฏิกิริยา 2 HI(g)  H2(g) + I2(g) เร่ิมตน้ จากการเติมแก๊ส HI จานวน 2 โมล/ลิตร ปรากฏว่า HI สลายตวั ไป 20% ค่าคงท่ี ของสมดุลของปฏิกิริยามีคา่ เทา่ กบั ขอ้ ใดต่อไปน้ี 1. 1.8 x 10–4 2. 1.6 x 10–2 3. 1.3 x 10–2 4. 1.2 x 10–1 48(แนว มSชเOห)2ลกือเาปห0็ นน.2ด0mส.5มolก/dาmmรo3l/dSmจOง32หาแ+คล่าะNคOงNท2O่ีส2มดเปุล็ นSO03.6+mNolO/dm3และเมใ่ือหป้คฏวิากมิรเิยขาม้ สขิ้นน้ สเรุด่ิมลตงน้มี ของ NO2 33

ติวสบายเคมี เลม่ 3 http://www.pec9.com บทที่ 7 สมดลุ เคมี 49(แนว En) ปฏิกิริยา 2 A(g) + B(g)  C(g) ถา้ ปริมาณเร่ิมตน้ ของ A = 1.20 โมล/ลิตร B = 0.80 โมล/ลิตร และพบวา่ ท่ีภาวะสมดุลมี A เหลืออยู่ 0.90 โมล/ลิตร ปฏิกิริยาน้ีจะมี ค่าคงท่ีสมดุลเทา่ กบั เท่าใด 1. 0.15 2. (0.900).21x5 0.65 3. 0.15 4. (0.900).21x5 0.15 (0.30)2 x 0.65 0.90 x 0.65 50(แนว En) จากปฏิกิริยา PCl5(g)  PCl3(g) + Cl2(g) ท่ีภาวะเร่ิมตน้ ความเขม้ ขน้ ของ PCl5(g) และ PCl3(g) มีค่าเท่ากบั 0.84 mol/dm3 และ 0.18 mol/dm3 ตามลาดบั ถา้ ท่ีภาวะสมดุล PCl5(g) มีความเขม้ ขน้ เท่ากบั 0.72 mol/dm3 ค่าคงที่สมดุลของปฏิกิริยา น้ีจะมีคา่ เท่าไร 1. 0.150 2. 0.050 3. 0.030 4. 0.015 34

ติวสบายเคมี เลม่ 3 http://www.pec9.com บทท่ี 7 สมดลุ เคมี 51. ปฏิกิริยา H2(g) + I2 (g)  2 HI(g) เมื่อเติม H2 และ I2 อยา่ งละ 2 โมล ลงใน ภาชนะขนาด 2 ลิตร ที่อุณหภูมิ 52oC เมื่อถึงสมดุล พบวา่ เหลือ H2(g) 1.8 โมล จงหา คา่ KC 52(En) ปฏิกิริยา A + B  C + D จะมีค่าคงที่สมดุลเทา่ กบั 9 ถา้ ผสม A 2 โมลตอ่ ลูกบาศก์ เดซิเมตร และ B 2 โมลต่อลูกบาศก์เดซิเมตร เขา้ ดว้ ยกนั จะมี B และ C อยูอ่ ย่างละก่ี โมลต่อลูกบาศกเ์ ดซิเมตร ที่ภาวะสมดุล 1. 0 , 2 2. 0.5 , 1.5 3. 1 , 1 4. 0.3 , 0.8 35

ติวสบายเคมี เลม่ 3 http://www.pec9.com บทที่ 7 สมดลุ เคมี ประโยชน์ของค่า K เน่ืองจาก K = [ผลิ ตภั ณฑ์ ] [สารตั ้ งต้ น] ดงั น้นั ถา้ ค่า K > 1 แสดงวา่ [ผลิตภณั ฑ]์ > [สารต้งั ตน้ ] คือ เกิดปฏิกิริยาไปขา้ งหนา้ ไดด้ ี ถา้ ค่า K < 1 แสดงวา่ [ผลิตภณั ฑ์] < [สารต้งั ตน้ ] คือ เกิดปฏิกิริยาไปขา้ งหนา้ ไดน้ อ้ ย 53(มช 37) ปฏิกิริยา Cl2(g)  2 Cl(g) มีค่า K = 1.21 x 10–6 ท่ี 1000oC ถา้ ใส่ Cl2 1.0 โมล ในภาชนะขนาด 1 ลิตร ที่ภาวะสมดุล Cl2 จะสลายตวั ไปกี่โมล 1. 1.1 x 10–3 2. 1.21 x 10–6 3. 1.1 x 10–6 4. 5.5 x 10–4 36

ติวสบายเคมี เลม่ 3 http://www.pec9.com บทท่ี 7 สมดลุ เคมี 7.4.3 การเปลย่ี นค่าคงทส่ี มดุล 1. กรณเี พมิ่ หรือลดความเข้มข้นของสารต้งั ต้นหรือผลติ ภณั ฑ์ จากปฏกิ ริ ิยาสมมุติ สารต้งั ตน้  ผลิตภณั ฑ์ จะไดว้ า่ K= [ผลิตภณั ฑ]์ [ สารต้งั ตน้ ] เม่ือเพิ่มความเขม้ ขน้ สารต้งั ตน้ จะทาให้สมดุลเลื่อนไปทางขวา เมื่อระบบเขา้ สู่สมดุล คร้ังใหม่ความเขม้ ขน้ ของผลิตภณั ฑ์จะเพิ่มข้ึน แต่ความเขม้ ขน้ ของสารต้งั ตน้ ก็จะเพ่ิมข้ึนเช่นกนั เม่ือแทนค่าหาค่าคงท่ีสมดุล ( K ) ของสมดุลคร้ังหลงั จะได้ค่าเท่ากบั ค่าคงที่สมดุล ( K ) ของ สมดุลตอนก่อนเพ่ิมความเขม้ ขน้ สรุปไดว้ า่ การเพ่ิมหรือลดความเขม้ ขน้ ของสารต้งั ตน้ หรือผลิตภณั ฑ์ อาจทาใหส้ มดุล เปล่ียน ( เลื่อนซา้ ย หรือเลื่อนขวา ) ได้ แต่จะไม่เปลี่ยนคา่ คงที่สมดุล ( K ) 2. กรณเี พม่ิ หรือลดความดันหรือปริมาตรของระบบ การเพิ่มหรือลดความดนั หรือปริมาตรของระบบ จะส่งผลให้ความเขม้ ขน้ ของสารต้งั ตน้ หรือผลิตภณั ฑท์ ี่เป็ นแก๊สเกิดการเปลี่ยนแปลง ซ่ึงการเปลี่ยนความเขม้ ขน้ น้นั อาจทาใหส้ มดุล เปลี่ยน ( เลื่อนซา้ ย หรือเลื่อนขวา ) ได้ แตจ่ ะไม่เปล่ียนค่าคงที่สมดุล ( K ) สรุปไดว้ า่ การเพ่ิมหรือลดความดนั หรือปริมาตรของระบบ อาจทาใหส้ มดุลเปล่ียน ( เล่ือนซา้ ย หรือเลื่อนขวา ) ได้ แตจ่ ะไม่เปลี่ยนคา่ คงท่ีสมดุล ( K ) 3. กรณเี พม่ิ หรือลดอุณหภูมิของระบบ การเพ่ิมหรือลดอุณหภูมิของระบบ จะเป็ นเพียงปัจจยั เดียวเท่าน้นั ท่ีอาจทาให้สมดุล เปลี่ยน ( เลื่อนซ้าย หรือเล่ือนขวา ) ได้ และยงั อาจเปลี่ยนค่าคงที่สมดุล ( K ) ไดอ้ ีกด้วย แต่ สาหรับปฏิกิริยาดูดความร้อน และคายความร้อน จะเกิดผลแตกต่างกนั ดงั น้ี สาหรับปฏิกริ ิยาดูดความร้อน K เช่น สารต้งั ตน้ + ความร้อน  ผลิตภณั ฑ์ K= [ผลิตภณั ฑ์] [ สารต้งั ตน้ ] T 37

ติวสบายเคมี เลม่ 3 http://www.pec9.com บทที่ 7 สมดลุ เคมี กรณี น้ีเม่ืออุณหภูมิเพ่ิมข้ึน สมดุลจะเล่ือนไปทางขวา ผลิตภัณฑ์จะเพิ่มข้ึน เม่ือ คานวณหาค่าคงที่สมดุล ( K ) จะไดค้ ่าเพิ่มข้ึน เมื่อเขียนกราฟแสดงความสัมพนั ธ์ของค่าคงท่ี สมดุล ( K ) เทียบกบั อุณหภูมิ ( T ) จะไดด้ งั รูป สาหรับปฏิกิริยาคายความร้อน K เช่น สารต้งั ตน้  ผลิตภณั ฑ์ + ความร้อน K= [ผลิตภณั ฑ]์ [ สารต้งั ตน้ ] T กรณีน้ีเม่ืออุณหภูมิเพ่ิมข้ึน สมดุลจะเล่ือนไปทางซา้ ย ผลิตภณั ฑ์จะลดลง เมื่อ คานวณหาค่าคงที่สมดุล ( K ) จะไดค้ ่าลดลง เมื่อเขียนกราฟแสดงความสัมพนั ธ์ของค่าคงท่ี สมดุล ( K ) เทียบกบั อุณหภูมิ ( T ) จะไดด้ งั รูป สรุป กระบวนการ การเปลย่ี นแปลงสมดุล การเปลยี่ นแปลง ค่าคงทส่ี มดุล (K) เพม่ิ ลดความเขม้ ขน้  เพิ่มลดความดนั   เพิ่มลดอุณหภูมิ   คะตะไลต์     คือ มีการเปลี่ยนแปลง  คือ ไมม่ ีการเปลี่ยนแปลง 54(แนว มช) ปฏิกิริยาต่อไปน้ี 4 NH3(g) + 3 O2(g)  2 N2(g) + 6 H2O(g) มีค่าคงท่ี สมดุลท่ี 25oC เท่ากบั 1 x 1028 ถ้าเพิ่มความดันของปฏิกิริยาน้ีที่ 25oC ขอ้ ความใด ต่อไปน้ีถูกตอ้ ง 1. ผลิตภณั ฑเ์ พ่มิ ข้ึน คา่ คงท่ีสมดุลเพม่ิ ข้ึน 2. ผลิตภณั ฑเ์ พิ่มข้ึน คา่ คงที่สมดุลคงที่ 3. ผลิตภณั ฑล์ ดลง คา่ คงท่ีสมดุลลดลง 4. ผลิตภณั ฑล์ ดลง ค่าคงที่สมดุลคงที่ 38

ติวสบายเคมี เลม่ 3 http://www.pec9.com บทที่ 7 สมดลุ เคมี 55(แนว มช) ปฏิกิริยา C(s) + H2O(g)  CO(g) + H2O(g) เป็นปฏิกิริยาดูดความร้อน สภาวะใดท่ีจะทาใหค้ า่ คงท่ีสมดุลเพิม่ ข้ึน 1. เพม่ิ H2O(g) 2. CO(g) 3. เพม่ิ อุณหภูมิ 4. เพ่มิ ความดนั 56(แนว มช) ปฏิกิริยา ที่N525Oo4C(g)จะ+เปพ็นลขงัอ้ งใาดน  2 NO2(g) มีค่า K ที่ 45oC เทา่ กบั 2.4 x 10–2 คา่ K 1. 8.3 x 10–1 2. 2.4 x 10–2 3. 1.6 x 10–2 4. 5.4 x 10–3 57(แนว En) พิจารณากราฟระหวา่ งคา่ คงท่ีสมดุลกบั อุณห- คา่ คงที่สมดุล ภูมิต่อไปน้ี กราฟเส้นใดไดจ้ ากปฏิกิริยาดูดความร้อน 1. กราฟ A A 2. กราฟ B 3. ท้งั สองเส้น B 4. ไมใ่ ช่ท้งั สองเส้น อุณหภูมิ 39

ติวสบายเคมี เลม่ 3 http://www.pec9.com บทท่ี 7 สมดลุ เคมี 58. ในภาชนะขนาด 2 ลิตร ณ ภาวะสมดุลของปฏิกิริยา A2(g) + B2(g)  2 AB(g) จะมี ความจานวนโมลของ A2 , B2 และ 2AB เท่ากบั 2 , 8 และ 8 โมล ตามลาดบั ถา้ เอา B2 ออกไป 6 โมล จงหาความเขม้ ขน้ ของ AB ท่ีภาวะสมดุลใหม่ (โมลตอ่ ลิตร) เม่ือทาการ ทดลองท่ีอุณหภูมิคงที่ 1. 2 2. 3 3. 6 4. 7 40

ติวสบายเคมี เลม่ 3 http://www.pec9.com บทท่ี 7 สมดลุ เคมี แผนภาพสรุป บทที่ 7 สมดุลเคมี 7.1 การเปลยี่ นแปลงทผี่ นั กลบั ได้ 7.2 การเปลยี่ นแปลงทภี่ าวะสมดุล 7.2.1 สมดุลในปฏิกริ ิยาเคมี 41

ติวสบายเคมี เลม่ 3 http://www.pec9.com บทท่ี 7 สมดลุ เคมี 7.2.2 กราฟของภาวะสมดุล 42

ติวสบายเคมี เลม่ 3 http://www.pec9.com บทท่ี 7 สมดลุ เคมี 7.3 การเปลยี่ นแปลงภาวะสมดุล 7.3.1 การเพมิ่ หรือลดความเข้มข้นของสารต้ังต้นและผลติ ภณั ฑ์ 43

ติวสบายเคมี เลม่ 3 http://www.pec9.com บทท่ี 7 สมดลุ เคมี 7.3.2 การเพม่ิ หรือลดความดันหรือปริมาตรของระบบ 7.3.3 การเพม่ิ หรือลดอุณหภูมขิ องระบบ 44

ติวสบายเคมี เลม่ 3 http://www.pec9.com บทที่ 7 สมดลุ เคมี 7.4 ความสัมพนั ธ์ระหว่างความเข้มข้นของสารต่างๆ ณ ภาวะสมดุล 7.4.1 ค่าคงทสี่ มดุลกบั สมการเคมี 45

ติวสบายเคมี เลม่ 3 http://www.pec9.com บทท่ี 7 สมดลุ เคมี 7.4.2 การคานวณเกย่ี วกบั ค่าคงทส่ี มดุล 46

ติวสบายเคมี เลม่ 3 http://www.pec9.com บทท่ี 7 สมดลุ เคมี 7.4.3 การเปลย่ี นค่าคงทสี่ มดุล 47

ติวสบายเคมี เลม่ 3 http://www.pec9.com บทที่ 7 สมดลุ เคมี 48

ติวสบายเคมี เลม่ 3 http://www.pec9.com บทที่ 7 สมดลุ เคมี 1. ตอบข้อ 2. เ ฉ ล ย บ ท ที่ 7 ส ม ดุ ล เ ค มี 4. ตอบข้อ 1. 5. ตอบข้อ 2. 9. ตอบข้อ 4. 10. ตอบข้อ 1. 2. ตอบข้อ 3. 3. ตอบข้อ 1. 13. ตอบข้อ 3. 14. ตอบข้อ 1. 7. ตอบข้อ 1. 8. ตอบข้อ 3. 17. ตอบข้อ 2. 18. ตอบข้อ 1. 11. ตอบข้อ 3. 12. ตอบข้อ 3. 21. ตอบข้อ 3. 22. ตอบข้อ 3. 15. ตอบข้อ 1. 16. ตอบข้อ 3. 25. ตอบข้อ 3. 26. ตอบข้อ 1. 19. ตอบข้อ 1. 20. ตอบข้อ 1. 29. ตอบข้อ 2. 30. ตอบข้อ 3. 23. ตอบข้อ 2. 24. ตอบข้อ 3. 33. ตอบ 0.1 34. ตอบข้อ 3. 27. ตอบข้อ 2. 28. ตอบข้อ 3. 37. ตอบข้อ 4. 38. ตอบข้อ 4. 31. ตอบข้อ 3. 32. ตอบข้อ 2. 41. ตอบ 0.2 42. ตอบข้อ 2. 35. ตอบ 0.64 36. ตอบ 0.11 45. ตอบข้อ 4. 46. ตอบข้อ 3. 39. ตอบ 0.04 40. ตอบ 0.40 49. ตอบข้อ 2. 50. ตอบข้อ 2. 43. ตอบข้อ 4. 44. ตอบ 0.50 53. ตอบข้อ 4. 54. ตอบข้อ 4. 47. ตอบข้อ 2. 48. ตอบ 8 57. ตอบข้อ 1. 58. ตอบข้อ 1. 51. ตอบ 0.049 52. ตอบข้อ 2. 55. ตอบข้อ 3. 56. ตอบข้อ 1.  49


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook