ความหมายของคอมพิวเตอร์
รู้จกั กบั คอมพวิ เตอร์คอมพิวเตอร์ คือ เคร่ืองคานวณในรูปของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ท่ีสามารถรบั ข้อมลู และคาสงั่ ผ่านอุปกรณ์รับข้อมลู แล้วนาข้อมลู และคาสงั่นนั้ ไปประมวลผลด้วยหน่วยประมวลผลเพื่อให้ได้ผลลพั ธ์ท่ีต้องการและแสดงผลผ่านอปุ กรณ์แสดงผล ตลอดจนสามารถบนั ทกึ รายการตา่ งๆไว้เพ่ือใช้งานได้ด้วยอปุ กรณ์บนั ทกึ ข้อมลู สารอง
คอมพิวเตอร์ คือ ... • อุปกรณ์ทางอิเลก็ ทรอนิกส์ (electronic device) • มนุษยใ์ ชเ้ ป็นเครื่องมือช่วยในการจดั การกบั ขอ้ มลู - ขอ้ มลู เป็นได้ ท้งั ตวั เลข ตวั อกั ษร หรือสญั ลกั ษณ์อืน่ ที่ใชแ้ ทน ความหมายในส่ิงต่างๆ • คุณสมบตั ิสาคญั : สามารถกาหนดชุดคาสง่ั หรือ โปรแกรม (programmable) ล่วงหน้าได้ คอมพิวเตอร์ มีวงจรการทางานอยา่ งไร?? 3
ความหมายของคอมพวิ เตอร์• คอมพิวเตอร์มาจากภาษาละตนิ วา่ Computare ซงึ่ หมายถงึ การนบั หรือ การคานวณ พจนานกุ รม ฉบบั ราชบณั ฑติ ยสถาน พ.ศ. 2525 ให้ความหมายของคอมพวิ เตอร์ไว้วา่ \"เคร่ืองอเิ ล็กทรอนิกส์แบบ อตั โนมตั ิ ทาหน้าทเ่ี หมือนสมองกล ใช้สาหรบั แก้ปัญหาต่างๆ ท่งี ่ายและซบั ซ้อนโดยวธิ ีทางคณิตศาสตร์\"• สรุปได้วา่ คอมพวิ เตอร์ หมายถงึ อปุ กรณ์ทางอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ทมี่ นษุ ย์ใช้เป็ นเคร่ืองมอื ในการจดั เก็บข้อมลู ทงั้ ตวั เลข ตวั อกั ษร หรือสญั ลกั ษณ์
ประวตั ิความเป็นมาของคอมพวิ เตอร์• คอมพิวเตอร์ท่เี ราใช้กนั อย่ทู กุ วนั นเี ้ป็ นผลมาจากการประดษิ ฐ์คดิ ค้นเคร่ืองมือในการคานวณซง่ึ มี ววิ ฒั นาการนานมาแล้ว เร่ิมจากเครื่องมอื ในการคานวณเคร่ืองแรกคือ \"ลกู คดิ \" (Abacus) ทสี่ ร้างขนึ ้ ใน ประเทศจีน เมือ่ ประมาณ 2,000-3,000 ปี มาแล้ว• จนกระทงั่ ในปี พ.ศ. 2376 นกั คณติ ศาสต์ชาวองั กฤษ ชอื่ ชาร์ล แบบเบจ (Charles Babbage) ได้ ประดิษฐ์เคร่ืองวิเคราะห์ สามารถคานวณค่าของตรีโกณมติ ิ ฟังก์ชนั่ ตา่ งๆ ทางคณิตศาสตร์
• การทางานของเครื่องนแี ้ บง่ เป็ น 3 สว่ น คอื ส่วนเก็บข้อมลู ส่วนคานวณ และสว่ น ควบคมุ ใช้ระบบพลงั เคร่ืองยนต์ไอนา้ หมนุ ฟันเฟื อง มีข้อมลู อย่ใู นบตั รเจาะรู คานวณได้โดยอตั โนมตั ิ และเกบ็ ข้อมลู ในหนว่ ยความจา ก่อนจะพิมพ์ออกมาทาง กระดาษ ด้วยหลกั การนเี ้องเราจงึ ยกยอ่ งให้แบบเบจ เป็ น “บดิ าแหง่ เครื่อง คอมพิวเตอร์”
บคุ คลสาคญั ในวงการคอมพิวเตอร์ Charles Babbage ชาร์ลส์ แบบเบจ บิดาแห่งคอมพวิ เตอร์ (1791-1871) ผลงาน : เคร่ืองคานวณหาผลต่าง differential machine และเคร่ือง วเิ คราะห์ analytical machine
ยคุ ของคอมพวิ เตอร์• หลงั จากน้นั เป็นตน้ มา ไดม้ ีผปู้ ระดิษฐเ์ ครื่องคอมพิวเตอร์ข้ึนมามากมายหลายขนาด ทาใหเ้ ป็นการเริ่มยคุ ของ คอมพิวเตอร์อยา่ งแทจ้ ริง โดยสามารถจดั แบง่ คอมพวิ เตอร์ออกไดเ้ ป็น 5 ยคุ ดงั น้ี• ยคุ ที่หน่ึง (First Generation Computer) พ.ศ. 2489-2501• ยคุ ที่สอง (Second Generation Computer) พ.ศ. 2502-2506• ยคุ ที่สาม (Third Generation Computer) พ.ศ. 2507-2512• ยคุ ที่สี่ (Fourth Generation Computer) พ.ศ. 2513-2532• ยคุ ที่หา้ (Fifth Generation Computer) พ.ศ. 2533 - ปัจจุบนั
ยคุ ท่ี 1 (พ.ศ. 2489 - 2501)• คอมพิวเตอร์ในยคุ นใี ้ ช้หลอดสญู ญากาศ (Vacuum tube) เป็ นวงจรอิเล็กทรอนกิ ส์ เคร่ืองยงั มขี นาด ใหญ่มาก ใช้กระแสไฟฟ้ าจานวนมาก ทาให้เครื่องมคี วามร้อนสงู จงึ มกั เกดิ ข้อผิดพลาดง่าย
ยคุ ท่ี 1 (พ.ศ. 2489 - 2501) (ตอ่ )• จอห์น ดบั ลวิ มอชลีย์ (John W. Mauchly) และ เจ เพรสเพอร์ เอคเกริ ต (J. Prespern Eckert) ได้รบั ทนุ อดุ หนนุ จากกองทพั สหรฐั อเมริกา ในการสร้างเคร่ืองคานวณ ENIAC ย่อมาจากคา ว่า”Electronics Numerical Integrator and Compute” เม่อื ปี 1946 นบั วา่ เป็ น \"เคร่ือง คานวณอเิ ล็กทรอนกิ ส์เครื่องแรกของโลก หรือคอมพิวเตอร์เคร่ืองแรกของโลก\"
คอมพวิ เตอร์เคร่ืองแรกของโลก
ยคุ ท่ี 2 (พ.ศ. 2502 – 2506)• คอมพวิ เตอร์ยคุ นีใ้ ช้ทรานซิสเตอร์ (Transistor) เป็ นวงจรอิเล็กทรอนกิ ส์ และใช้วงแหวนแมเ่ หล็กเป็ น หนว่ ยความจา คอมพวิ เตอร์มขี นาดเล็กกว่ายคุ แรก ต้นทนุ ตา่ กวา่ ใช้กระแสไฟฟ้ าและมคี วามแมน่ ยา มากกว่า
ยคุ ท่ี 2 (พ.ศ. 2502 – 2506) (ตอ่ )• [ พ.ศ.2506] ประเทศไทยเริ่มมีคอมพวิ เตอร์ใช้เป็ นครงั้ แรก โดยทีค่ อมพวิ เตอร์เครื่องแรกในประเทศไทย ได้ติดตงั้ ที่ ภาควิชาสถติ ิ คณะพานิชยศาสตร์และการบญั ชีจฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั เคร่ืองคอมพวิ เตอร์ เคร่ืองนคี ้ ือ IBM 1620 ซง่ึ ได้รับมอบจากมลู นธิ ิเอไอดี และบริษทั ไอบเี อ็ม แหง่ ประเทศไทยจากดั ปัจจบุ นั หมดอายกุ ารใช้งานไปแล้ว จงึ ได้มอบให้แกศ่ นู ย์บริภณั ฑ์การศกึ ษาท้องฟ้ าจาลองกรุงเทพฯ• [ พ.ศ.2507] เครื่องคอมพิวเตอร์เคร่ืองทสี่ องของประเทศไทยติดตงั้ ทส่ี านกั งานสถิตแิ หง่ ชาติ ในเดือน มนี าคม 2507
คอมพิวเตอร์เครื่องแรกของประเทศไทย IBM 1620
คอมพิวเตอร์เครื่องแรกของประเทศไทย IBM 1620
ยคุ ท่ี 3 (พ.ศ. 2507 – 2512)• คอมพิวเตอร์ในยคุ นเี ้ร่ิมต้นภายหลงั จากการใช้ทรานซิสเตอร์ได้เพียง 5 ปี เนอื่ งจากได้มีการประดิษฐ์คดิ ค้น เกี่ยวกบั วงจรรวม (Integrated-Circuit) หรือเรียกกนั ยอ่ ๆ ว่า \"ไอซี\" (IC) ซงึ่ ไอซนี ที ้ าให้ สว่ นประกอบและวงจรต่างๆ สามารถวางลงได้บนแผ่นชปิ (chip) เลก็ ๆ เพยี งแผ่นเดียว จงึ มีการนาเอา แผ่นชิปมาใช้แทนทรานซสิ เตอร์ทาให้ประหยดั เนอื ้ ท่ไี ด้มาก
ยคุ ท่ี 4 (พ.ศ. 2513 - 2532)• เป็ นยคุ ท่นี าสารกงึ่ ตวั นามาสร้างเป็ นวงจรรวมความจสุ งู มาก ซง่ึ สามารถย่อส่วนไอซธี รรมดาหลายๆ วงจร เข้ามาในวงจรเดียวกนั และมีการประดษิ ฐ์ ไมโครโพรเซสเซอร์ (Microprocessor) ขนึ ้ ทาให้เคร่ืองมี ขนาดเลก็ ราคาถกู ลง และมคี วามสามารถในการทางานสงู และรวดเร็วมาก จงึ ทาให้มีคอมพวิ เตอร์สว่ น บุคคล ถอื กาเนิดขนึ ้ มาในยคุ นี ้
ยคุ ที่ 5 (พ.ศ. 2533 - ปัจจบุ นั )• ในยคุ นี ้ได้มงุ่ เน้นการพฒั นา ความสามารถในการทางานของระบบคอมพิวเตอร์ และ ความสะดวกสบายใน การใช้งานเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ อยา่ งชดั เจน มีการพฒั นาสร้างเคร่ืองคอมพิวเตอร์แบบพกพาขนาดเลก็ ขนาด เล็ก (Portable Computer) ขนึ ้ ใช้งานในยคุ นี ้
คุณสมบตั ิของคอมพิวเตอร์ • ความเร็ว (speed) : ในการทางานตามคาสงั่ ในหน่ึงวนิ าที • ความเช่ือถอื ได้ (reliable) : เชื่อถือไดว้ า่ ทางานทุกคาสงั่ ทุกเวลาที่สง่ั • ความถกู ตอ้ งแม่นยา (accurate) : ผลลพั ธข์ องการทางาน จะคงท่ี เป็นเช่นเดิมเสมอ ไม่เปลย่ี นแปลง • เก็บขอ้ มลู จานวนมากๆ ได้ (store massive amounts of information) : ความตอ้ งการพ้นื ฐานในการทางาน • ยา้ ยขอ้ มลู จากที่หน่ึงไปยงั อกี ท่ีหน่ึงได้ (move information) : Disk, CD, Network 19
1. คณุ ลกั ษณะเด่นของคอมพวิ เตอร์4’s Special ของเคร่ืองคอมพวิ เตอร์• ความจา (Storage)• ความเร็ว (Speed)• การปฏิบัตงิ านอัตโนมัติ (Self Acting)• ความน่าเช่อื ถอื (Sure)
1. คณุ ลกั ษณะเด่นของคอมพวิ เตอร์ (ต่อ) ความจา (Storage) เป็นความสามารถในการเกบ็ ข้อมลู จานวนมาก และเป็ นระยะ เวลานาน ซง่ึ ถือได้ว่าเป็ น \"หวั ใจ\" ของการทางานแบบอตั โนมตั ขิ อง เคร่ืองคอมพวิ เตอร์ แบ่งได้ 2 ระบบคือ • หนว่ ยความจาหลกั (Primary Storage) • หนว่ ยความจารอง (Secondary Storage)
1. คุณลกั ษณะเด่นของคอมพวิ เตอร์ (ต่อ) ความเร็ว (Speed) เป็ นความสามารถในการประมวลผลข้อมลู ภายในเวลาท่ีสนั้ ท่ีสดุ โดยความเร็วของการประมวลผล พิจารณาจากความสามารถในการ ประมวลผลซา้ ๆ ในช่วงเวลาหน่งึ ๆ เรียกว่า \"ความถ่ี (Frequency)\" โดยนบั ความถี่เป็น \"จานวนคาสง่ั \" หรือ \"จานวนครัง้ \" หรือ \"จานวนรอบ\" ในหน่ึงนาที และเรี ย กหน่วยนี ว้ ่ า Hz (Hertz = Cycle/Second)
1. คุณลกั ษณะเด่นของคอมพวิ เตอร์ (ต่อ) การปฏิบัตงิ านอตั โนมัติ (Self Acting) เป็ นความสามารถของเครื่องคอมพิวเตอร์ ในการประมวลผล ข้อมลู ตามลาดบั คาสงั่ ได้อย่างถกู ต้อง และต่อเนื่อง โดยอตั โนมตั ิ ตาม คาสง่ั และขนั้ ตอนที่นกั คอมพวิ เตอร์ (มนษุ ย์) ได้กาหนดไว้
1. คณุ ลกั ษณะเด่นของคอมพวิ เตอร์ (ต่อ) ความน่าเช่ือถอื (Sure) เป็ นความสามารถในการประมวลผลที่ส่งผลให้เกิดผลลัพธ์ที่ ถูกต้อง โดยนับได้ว่าเป็ นสิ่งสาคัญที่สุดในการทางานของเครื่ อง คอมพวิ เตอร์ โดยความสามารถนีเ้กี่ยวข้องกบั โปรแกรมคาสง่ั และข้อมลู ท่ีนกั คอมพวิ เตอร์ได้กาหนดให้กบั เคร่ืองคอมพวิ เตอร์
บทบาทของคอมพวิ เตอร์1. การใช้คอมพวิ เตอร์ในวงธุรกจิ ท่วั ไป2. การใช้งานคอมพวิ เตอร์ในวงการธนาคาร3. การใช้คอมพิวเตอร์กับธุรกจิ โรงแรม4. การใช้คอมพวิ เตอร์ในวงการแพทย์5. คอมพิวเตอร์กับการศกึ ษา
ประโยชน์ของคอมพิวเตอร์• 1. ทนั สมยั / ทนั เหตกุ ารณ์ / ทนั ข้อมลู ข่าวสาร / ทนั โลก ช่วยให้เราสามารถ ตดิ ต่อสือ่ สารกนั ได้ทว่ั โลก• 2. ชว่ ยให้การเรียน การทางาน ทนั สมยั และได้รับความสะดวกมากย่ิงขนึ ้• 3. เป็ นแหล่งการเรียนรู้ท่ดี เี ย่ียม ชว่ ยในการค้นคว้าหาความรู้เป็ นห้องสมดุ ขนาดใหญ่• 4. ช่วยรบั - สง่ ขา่ วสารได้อย่างรวดเร็ว• 5. ช่วยผ่อนคลายความตงึ เครียด เช่น เกม ดภู าพยนตร์ ฟังเพลง ร้องเพลง• 6. ช่วยสร้างงานศิลปะ ออกแบบชิน้ งานได้อยา่ งสร้างสรรค์ สวยงาม
ประโยชน์ของคอมพิวเตอร์ มี 2ประเภท1. ประโยชน์ทางตรง• ช่วยให้มนษุ ย์ทางานได้โดยตรงคอื คอมพิวเตอร์ทางานได้เทย่ี งตรง รวดเร็ว ไมเ่ หนด็ เหนอ่ื ย ชว่ ยผ่อนแรง มนษุ ย์ ในด้านตา่ ง ๆ เชน่ ด้านการคานวณ พิมพ์งาน บนั ทกึ ข้อมลู ประมวลผล2. ประโยชน์ทางอ้อม• คอมพิวเตอร์ชว่ ยพฒั นาคณุ ภาพชีวิต เชน่ ชว่ ยในการเรียนรู้ให้ความบนั เทงิ ความรู้ ชว่ ยงานบนั เทิงพฒั นา งานด้านตา่ ง ๆ เพ่ือพฒั นาเทคโนโลยอี นั ส่งผลให้ความเป็ นอย่ขู องมนษุ ย์ดขี นึ ้ เป็ น
Search
Read the Text Version
- 1 - 27
Pages: