Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วิจัย R_D

วิจัย R_D

Published by Aj Ople Narak, 2021-03-02 04:33:41

Description: วิจัย R_D

Search

Read the Text Version

การวจิ ยั และการพฒั นา (Research and Development) ผศ.ดร.วาโร เพ็งสวัสด์ิ

(Reseaกrcาhรวanจิ dัยแDลeะvกelาoรpพmฒั eนntา) ผศ.ดร.วาโร เพง็ สวัสด์ิ 1 การวิจัยและพัฒนาเป็นกระบวนการในการพัฒนาและตรวจสอบคุณภาพของผลิตภัณฑ์ (Product) โดยทำการทดสอบในสภาพจริงและดำเนนิ การปรับปรงุ ผลิตภัณฑ์หลายๆ รอบ จนได้ผลิตภัณฑ์ที่มคี ณุ ภาพ ดังน้ัน เปา้ หมายหลักหรือผลลัพธท์ ไ่ี ด้จากการวจิ ัยและพัฒนา คือ ผลิตภัณฑ์นนั่ เอง ความหมายของการวจิ ยั และพัฒนา ได้มีผใู้ ห้ความหมายของการวจิ ยั และพัฒนา ดังน้ี ทิศนา แขมมณี (2540 : 5) ได้กลา่ วว่าการวิจัยและพฒั นา หมายถงึ การวิจยั ท่มี ่งุ นำเอาความรจู้ ากการ วิจัยบริสุทธ์ไิ ปวิจัยต่อโดยพัฒนาเป็นเทคนิคหรือวิธีการท่สี ามารถนำไปใช้แก้ปัญหาและทดลองใช้จนได้ผลเป็น ทีน่ ่าพอใจแล้วจงึ นำไปเผยแพรใ่ ช้ในวงกว้างเพื่อพฒั นางานให้มปี ระสิทธภิ าพยิ่งขน้ึ ส่วน วัญญา วศิ าลาภรณ์ (2540:24) ไดก้ ลา่ ววา่ จดุ ประสงคข์ องการวจิ ยั และพฒั นาไมใ่ ชอ่ ยทู่ ก่ี ารสรา้ งหรอื ทดสอบทฤษฎแี ตอ่ ยทู่ ก่ี ารพฒั นา ผลติ ภณั ฑอ์ ย่างมีประสิทธิภาพเพื่อใช้ในโรงเรียน ผลติ ภณั ฑท์ เ่ี กดิ จากการวจิ ัยและพัฒนา เชน่ อุปกรณ์การฝึก อบรม อปุ กรณก์ ารเรยี น สอ่ื การเรยี น ระบบการจดั การ เปน็ ตน้ ผลติ ภณั ฑท์ พ่ี ฒั นาขน้ึ มานน้ั จะตอ้ งตรงกบั ความตอ้ งการทีม่ ีรายละเอยี ดโดยเฉพาะ เมอ่ื พฒั นาผลติ ภณั ฑข์ ้ึนแลว้ จะต้องนำไปทดลองใชแ้ ละปรับปรงุ จนถงึ ระดับทีม่ ปี ระสทิ ธิภาพซ่งึ สอดคลอ้ งกบั แนวคิดของผ่องพรรณตรยั มงคลกูลและสภุ าพฉตั ราภรณ์(2543:174- 174) ท่ีกลา่ ววา่ การวจิ ัยและพัฒนาเปน็ การวิจัยท่ีมีจุดหายเพื่อสรา้ งหรือค้นหาแนวคิด แนวทาง วิธปี ฏิบัตหิ รอื สง่ิ ประดษิ ฐท์ น่ี ำไปใชเ้ พอ่ื พฒั นากลมุ่ คน หนว่ ยงานหรอื องคก์ ร จดุ หมายปลายทางทค่ี าดหวงั จงึ เปน็ การมงุ่ ใหเ้ กดิ การเปลยี่ นแปลงดา้ นต่างๆ เช่น แนวคดิ พฤติกรรม วธิ ปี ฏบิ ตั ทิ ค่ี าดวา่ จะดขี ึ้น จึงมักเก่ียวข้องกบั การทดลอง ตวั อยา่ งของงานวิจัยและพฒั นา เช่น การพัฒนาหลักสูตรการเรยี น ซึง่ ผลท่ไี ด้จากการวจิ ัยอาจจะอย่ใู นรปู ของหลกั การโครงสรา้ งและแนวทางของหลกั สตู ร ชดุ ฝกึ อบรมครูสอื่ และชดุ การเรยี นแนวทางการประเมนิ และ ระบบในการบริหารจัดการหลักสูตร สิ่งเหล่านีไ้ ดม้ กี ารทดสอบด้วยกระบวนการวิจยั เพ่อื ยนื ยันประสิทธภิ าพ แล้ว จากความหมายท่ีกล่าวมาสรุปไดว้ า่ การวิจยั แะพฒั นาหมายถงึ กระบวนการศกึ ษาค้นคว้าอย่างมีระบบ มีจุดมงุ่ หมายเพอ่ื พฒั นาและตรวจสอบคุณภาพของผลติ ภณั ฑซ์ ่งึ มี2ลกั ษณะได้แก่ ผลิตภณั ฑ์ประเภทสือ่ วัสดุ อุปกรณ์ (Material) และผลิตภัณฑ์ประเภทวิธีการหรือกระบวนการ (Process) โดยดำเนินการทดสอบใน สภาพจรงิ และทำการปรับปรงุ ผลติ ภัณฑห์ ลายๆ รอบ จนได้ผลติ ภณั ฑท์ ่ีมีคณุ ภาพ เพอ่ื นำไปใชใ้ นการพัฒนา กลมุ่ คน หน่วยงานหรือองคก์ ารให้มปี ระสทิ ธิภาพย่งิ ข้นึ 1 ผูช้ ่วยอธกิ ารบดี ฝ่ายประกนั คณุ ภาพการศึกษา มหาวทิ ยาลัยราชภฏั สกลนคร 2 วารสารมหาวทิ ยาลัยราชภัฏสกลนคร; ปที ี่ 1 ฉบบั ที่ 2 : กรกฎาคม – ธันวาคม 2552 Sakon Nakhon Rajabhat University Journal; 1(2) : July – December 2009

กระบวนการวจิ ัยและพฒั นา วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร กระบวนการวิจยั และพฒั นามขี นั้ ตอน ดงั น้ี 3 1. การสำรวจ สังเคราะห์สภาพปัญหาและความตอ้ งการ เป็นการดำเนินการวิจัยเชิงสำรวจ (Survey research) หรือการสังเคราะห์เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องเพื่อหาคำตอบเกี่ยวกับสภาพปัญหาความต้องการ เกย่ี วกบั ผลติ ภณั ฑ์รวมท้งั ลักษณะท่เี หมาะสมของผลิตภณั ฑท์ ตี่ ้องการใหพ้ ฒั นา ผลการดำเนินการในขน้ั ตอนนี้ จะทำให้ผู้วิจัยสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้สอดคล้องเหมาะสมกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายที่จะใช้ ผลติ ภณั ฑ์ทพี่ ฒั นาขึน้ 2. การออกแบบพฒั นาผลติ ภณั ฑ์ เปน็ การดำเนินการโดยการนำความรแู้ ละผลการวิจยั ท่ไี ด้จากขน้ั ตอนท่ี 1 มาพฒั นาผลติ ภณั ฑ์ ซง่ึ จะเร่ิมจากการวางแผนพัฒนาผลติ ภณั ฑโ์ ดยการกำหนดวัตถปุ ระสงค์เฉพาะของ การพัฒนาผลติ ภณั ฑ์ การกำหนดวธิ ีที่จะพฒั นาผลติ ภัณฑ์ และทรัพยากรท่ตี ้องการเพ่อื การพฒั นาผลติ ภัณฑ์ ทงั้ ในดา้ นกำลังคน งบประมาณ วัสดุ ครภุ ณั ฑ์ และระยะเวลา หลงั จากนัน้ จงึ ดำเนินการพัฒนาผลติ ภณั ฑ์ให้มี ลักษณะหรือรูปแบบตาม ความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ส่วนผลิตภัณฑ์ที่จะพัฒนามีลักษณะอย่างไร หรือส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์มีอะไรบ้างจะขึ้นอยู่กับชนิดของผลิตภัณฑ์นั้นๆ ในขั้นตอนของการ พัฒนาผลิตภัณฑ์นี้จะต้องใช้บุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางในการสรา้ งผลติ ภัณฑ์แต่ละชนิด 3. การทดลองใชผ้ ลติ ภัณฑ์ เมื่อสร้างผลิตภัณฑ์เสร็จแล้วจะต้องนำไปตรวจสอบความเหมาะสม และประสทิ ธภิ าพของผลติ ภณั ฑ์ ถา้ หากผลการตรวจสอบความเหมาะสมและประสทิ ธภิ าพยงั ไมเ่ ปน็ ทพ่ี งึ พอใจ หรือมีบางส่วนที่ไม่สมบูรณ์จะต้องดำเนินการปรับปรุงแก้ไขจนกระทั่งผลิตภัณฑ์มีความเหมาะสมและมี ประสิทธิภาพตามเกณฑ์ทีก่ ำหนด สำหรบั การทดลองใชผ้ ลิตภัณฑจ์ ะดำเนนิ การ ดังนี้ 3.1 การทดลองกบั กลมุ่ เปา้ หมายขนาดเลก็ เปน็ การทดลองเบอ้ื งตน้ โดยมวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอ่ื รวบรวม ผลประเมนิ เชงิ คณุ ภาพเบอ้ื งตน้ ของผลติ ภณั ฑ์ มกั นยิ มทดลองใชผ้ ลติ ภณั ฑใ์ นโรงเรยี น 1 - 3 โรง เดก็ นกั เรยี น 6 - 12 คน เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู โดยสงั เกต สมั ภาษณ์ สอบถาม แลว้ นำขอ้ มลู ไปวเิ คราะหเ์ พอ่ื ปรบั ปรงุ รปู แบบของ ผลติ ภณั ฑ์ 3.2 การทดลองกบั กลุ่มเป้าหมายขนาดใหญ่ เปน็ การนำผลติ ภณั ฑไ์ ปทดลองกบั กลมุ่ เปา้ หมายท่ีมี ขนาดใหญ่ หรือเรยี กว่ากลุม่ นำร่อง (Pilot group) ซงึ่ ได้แกก่ ารนำไปใชใ้ นโรงเรยี น 5-15 โรง มจี ำนวนนกั เรียน 30 - 100 คน โดยมกี ารทดสอบกอ่ นและหลงั การใชผ้ ลติ ภณั ฑ์ นำผลทป่ี ระเมนิ เปรยี บเทยี บกบั วตั ถปุ ระสงคห์ รอื กลมุ่ ควบคมุ ทเ่ี หมาะสม วตั ถปุ ระสงคห์ ลกั ของการทดลองใชผ้ ลติ ภณั ฑใ์ นกลมุ่ ขนาดใหญ่ เพอ่ื ตอ้ งการทจ่ี ะบง่ ชว้ี า่ ผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาขึ้นเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการพัฒนาหรือไม่ ระเบียบวิธีวิจัยที่ใช้ในการดำเนินการ ของขัน้ ตอนนีจ้ ะใช้การวิจัยเชิงทดลอง (Experimental design) แล้วนำผลการวจิ ัยมาแก้ไขปรับปรงุ ผลิตภณั ฑ์ 3.3 การทดลองความพรอ้ มนำไปใช้ หลังจากปรับปรงุ รูปแบบผลติ ภณั ฑ์จนมีความมนั่ ใจในดา้ น คณุ ภาพ ผวู้ จิ ยั จงึ นำรปู แบบไปทดลองใช้ เพอ่ื ตรวจสอบความพรอ้ มสกู่ ารปฏบิ ตั ิ โดยนำไปใชใ้ นโรงเรยี น 10 - 30 โรง นักเรียน 40 - 200 คน รวบรวมข้อมูลโดยการสมั ภาษณแ์ ละสังเกต เพ่อื ตรวจสอบวา่ ผลิตภณั ฑท์ างการศกึ ษา ที่พัฒนาขึ้นมีความพร้อมที่จะนำไปใช้ในโรงเรียนได้หรือไม่เพียงใด แล้วนำสารสนเทศที่ได้จากขั้นตอนนี้ มาแก้ไขปรับปรุงผลิตภัณฑ์ เช่น คู่มือในการใช้ผลิตภัณฑมีความชัดเจนหรือไม่ เป็นต้น การดำเนินการ วารสารมหาวิทยาลยั ราชภฏั สกลนคร; ปีท่ี 1 ฉบบั ที่ 2 : กรกฎาคม – ธันวาคม 2552 Sakon Nakhon Rajabhat University Journal; 1(2) : July – December 2009

ในขั้นตอนนี้เป็นการประเมินผลการใช้ผลิตภัณฑ์ในภาพรวมทั้งหมด ซึ่งจะประเมินทั้งตัวผลิตภัณฑ์ กระบวนการใชผ้ ลติ ภณั ฑ์ ผลที่ไดร้ ับจากการใช้ผลติ ภณั ฑ์ปญั หาและอุปสรรคตา่ งๆ เปน็ ต้น ผลทไ่ี ด้จากการ ประเมินจะนำไปสู่การตัดสินใจปรับปรุงผลิตภัณฑ์นั้นๆ หากพิจารณาแล้วพบว่าไม่คุ้มค่าหรือเสี่ยงอันตราย กจ็ ะยตุ กิ ารใชผ้ ลติ ภณั ฑน์ น้ั แตถ่ า้ หากผลการประเมนิ พบวา่ ผลติ ภณั ฑท์ พ่ี ฒั นาขน้ึ สามารถนำไปใชไ้ ดเ้ ปน็ อยา่ งดี กจ็ ะนำไปสกู่ ารดำเนินการข้ันต่อไปคอื การจดลิขสิทธ์ิ การเผยแพร่ และการประชาสมั พนั ธใ์ นวงกวา้ ง 4. การเผยแพร่ผลติ ภณั ฑ์ เป็นการนำผลการวิจัยและผลิตภัณฑ์ไปเผยแพร่ เช่น การนำเสนอในที่ ประชุมสัมมนาทางวิชาการหรอื วชิ าชพี การตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารทางวชิ าการ การตดิ ต่อกับหนว่ ยงาน ทางการศึกษาเพื่อจัดทำผลิตภัณฑ์ทางการศึกษาเผยแพร่ไปในโรงเรียนต่างๆ หรือติดต่อกับบริษัทเพื่อผลิต จ ำหนา่ ยและเผยแพรใ่ นวงกวา้ งตอ่ ไป ข้นั ตอนของการวจิ ัยและพัฒนาสามารถสรปุ เปน็ ภาพประกอบได้ ดังน้ี การวิจัย 1. การสำรวจ การดำเนินการวิจัยเชิงสำรวจหรือการสังเคราะห์ (research) สังเคราะห์ เอกสารและงานวิจยั ทเี่ ก่ยี วข้อง เพือ่ หาคำตอบเก่ียวกับ สภาพปญั หา สภาพปญั หา ความต้องการเกย่ี วกับผลิตภัณฑ์ รวมทัง้ และความตอ้ งการ ลักษณะที่เหมาะสมของผลิตภัณฑ์ท่ีต้องการให้พัฒนา เพ่ือให้สอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย 2. การออกแบบ นำความรแู้ ละผลการวจิ ยั ทไ่ี ดจ้ าก ขน้ั ตอนท่ี 1 มาพฒั นา พัฒนาผลิตภณั ฑ์ ผลิตภัณฑ์ โดยให้มีลักษณะและรูปแบบตามความ ต้องการของกลมุ่ เป้าหมาย การพฒั นา 3. การทดลอง ดำเนนิ การตรวจสอบความเหมาะสมและประสทิ ธภิ าพ (development) ใชผ้ ลิตภัณฑ์ ของผลติ ภัณฑโ์ ดยจะดำเนินการทดลอง 3 ครั้ง ได้แก่ การทดลองกบั กลมุ่ เลก็ การทดลองกับกลมุ่ ใหญแ่ ละ การทดลองความพรอ้ มนำไปใช้ 4. การเผยแพร่ การนำเสนอผลการวจิ ยั และพฒั นาผลติ ภณั ฑใ์ นทป่ี ระชมุ ผลติ ภณั ฑ์ สัมมนาทางวิชาการหรือวิชาชีพ การตพี ิมพ์เผยแพร่ใน วารสารทางวิชาการการติดต่อกับหน่วยงานทางการ ศึกษาเพ่ือจัดทำผลิตภัณฑ์ทางการศึกษาหรือติดต่อกับ บรษิ ัทเพ่ือผลติ จำหนา่ ย และเผยแพร่ในวงกว้าง ภาพท่ี 1 กระบวนการวิจยั และพฒั นา 4 วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร; ปีท่ี 1 ฉบับที่ 2 : กรกฎาคม – ธนั วาคม 2552 Sakon Nakhon Rajabhat University Journal; 1(2) : July – December 2009

กระบวนทัศน์การประเมนิ ผลติ ภัณฑ์ วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร 1. การประเมนิ ผลิตภัณฑ์ทางการศกึ ษา 5 กระบวนทัศน์การประเมินผลิตภณั ฑท์ างการศกึ ษามี 13 ประการ ดงั น้ี (Scriven. 1967 อ้างถงึ ใน Worthen and Sauder. 1987 : 88 - 90) 1.1 ความจำเป็น ได้แก่ จำนวนคนที่จะได้รับผลกระทบ ความสำคัญในทางสังคมและหลักฐาน แสดงความต้องการจำเปน็ 1.2 การตลาด แผนการนำผลิตภัณฑ์ไปจำหน่าย ขนาดของตลาด (Market share) และความสำคัญ ของตลาดท่คี าดหวงั 1.3 ผลประกอบการจากการทดลอง หลักฐานแสดงถงึ ประสิทธผิ ลของผลิตภัณฑ์ 1.4 ผลประกอบการจากผู้บริโภคจรงิ 1.5 ผลประกอบการจากการเปรยี บเทียบกบั คูแ่ ขง่ 1.6 ผลประกอบการในระยะยาว เช่น 1 เดือน หรอื 1 ปี หลังจากใช้ผลติ ภณั ฑ์ 1.7 ผลขา้ งเคยี งทเี่ กิดข้ึน 1.8 ผลประกอบการในเชงิ กระบวนการ ซง่ึ ไดแ้ ก่ หลกั ฐานยนื ยนั ผลของผลติ ภณั ฑต์ ามคำพรรณนา สรรพคุณ ความเปน็ เหตุเป็นผลตามทก่ี ลา่ วอา้ ง และความสอดคลอ้ งกับเกณฑด์ า้ นศลี ธรรมจรรยา 1.9 ความเป็นเหตุเป็นผลของผลที่เกิดขึ้นจากการใช้ผลิตภัณฑ์ซึ่งแสดงถึงหลักฐานของ ประสิทธผิ ลของผลติ ภณั ฑ์ ซงึ่ เป็นผลจากการวจิ ัยเชงิ ทดลอง การวจิ ัยเชิงกง่ึ ทดลอง การศึกษายอ้ นหลังหรือ การวจิ ัยเชงิ สหสมั พนั ธ์ 1.10 ผลประกอบการในเชิงความมีนัยสำคัญทางสถิติ กล่าวคือ มีหลักฐานในเชิงสถิติที่แสดงถึง ประสิทธิผลของผลติ ภณั ฑ์ โดยใช้เทคนคิ วิเคราะหท์ เ่ี หมาะสม ระดับนยั สำคัญและการแปลความหมายอยา่ ง ถูกตอ้ ง 1.11 ผลประกอบการในเชิงความสำคัญทางการศึกษา กล่าวคือ ความสำคัญทางการศึกษาที่เป็น ผลจากการตดั สนิ ใจโดยผเู้ ชย่ี วชาญ ผลการตดั สนิ ใจจากการวเิ คราะหร์ ายขอ้ และคะแนนดบิ ทว่ี ดั ได้ ผลขา้ งเคยี ง ผลในระยะยาว และการเปรยี บเทยี บคะแนนทเ่ี พม่ิ ขน้ึ ตลอดจนการใชผ้ ลติ ภณั ฑท์ างการศกึ ษาดงั กลา่ วอยา่ งสม เหตุสมผล 1.12 ค่าใช้จ่ายและประสิทธิผล แสดงโดยการวิเคราะห์ค่าใช้จ่ายอันเป็นผลการตัดสินของผู้เชี่ยว ชาญ และการเปรยี บเทียบคา่ ใชจ้ า่ ยกบั คู่แข่งขันในการพัฒนาผลิตภัณฑด์ งั กลา่ ว 1.13 การบริการหลังการขาย โดยพิจารณาจากแผนบริการหลังการขายและการพัฒนาการอบรม พนกั งานประจำการ การใหค้ วามช่วยเหลืออยา่ งทนั ทว่ งทแี ละการศกึ ษาการใชผ้ ลติ ภณั ฑใ์ หมต่ ลอดจนศกึ ษาขอ้ มลู เกย่ี วกบั ผบู้ รโิ ภค 2. การวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ทางการศึกษาที่เป็นหลักสูตรระบบการวิเคราะห์เอกสารหลักสูตร (The curriculum materials analysis system : CMAS) ประกอบด้วยขนั้ ตอน 6 ประการ ดงั น้ี (Morrisett & Stevens. 1967 อา้ งถงึ ใน สมหวงั พธิ ิยานุวฒั น์. 2541 : 246) วารสารมหาวิทยาลยั ราชภฏั สกลนคร; ปีที่ 1 ฉบับท่ี 2 : กรกฎาคม – ธนั วาคม 2552 Sakon Nakhon Rajabhat University Journal; 1(2) : July – December 2009

2.1 บรรยายคุณลักษณะของผลิตภัณฑ์ ได้แก่ สื่อ วัสดุอุปกรณ์ เวลาที่ต้องการ สไตล์ ค่าใช้จ่าย ขอ้ มูลประกอบการทีม่ อี ยู่ เน้อื หาวิชา เอกลักษณ์ของหลกั สูตร 2.2 วเิ คราะหห์ ลกั การและเหตผุ ล ตลอดจนวตั ถปุ ระสงคข์ องหลกั สตู รโดยการบรรยายและประเมนิ หลักการและเหตผุ ลของหลกั สูตร วัตถุประสงค์ทัว่ ไปของหลักสตู ร และวัตถปุ ระสงค์เชิงพฤติกรรม 2.3 พิจารณาเงื่อนไขในการใช้ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ คุณลักษณะของนักเรียน นักศึกษา สมรรถภาพ ของครอู าจารย์ คณุ ลกั ษณะของโรงเรยี นและชมุ ชน การจดั หลักสูตรและหลักสตู รทใ่ี ช้อยูใ่ นปจั จบุ ัน 2.4 พจิ ารณาเน้ือหาสาระของหลักสตู รท้ังในดา้ นพุทธพิ ิสยั ทักษะพิสัย และจติ พสิ ัย 2.5 พิจารณาด้านการเรียนการสอนและกลยุทธ์การสอนที่ใช้ในหลักสูตร โดยกล่าวถึงความ เหมาะสมของกลยุทธก์ ารสอน รูปแบบ วธิ กี าร ส่ือ และกระบวนการเรียนการสอนแบบตา่ งๆ 2.6 การตัดสินคุณค่าโดยรวม โดยพิจารณาให้ครอบคลุมทั้งข้อมูลเชิงบรรยายอื่นๆ รายงาน และ ประสบการณ์ทีใ่ ช้หลกั สตู ร ผลการทดลองใชห้ ลกั สตู รและข้อแนะนำต่างๆ 3. การประเมินผลติ ภณั ฑป์ ระเภทสอ่ื การเรียนการสอน กระบวนการประเมนิ ผลิตภัณฑ์ส่ือการเรียนการสอนมี 2 ขน้ั ตอน ดังนี้ (วชริ าพร อัจฉริยโกศล. 2536 : 13-31) 3.1 การตรวจสอบโครงสรา้ งภายในสื่อ ซ่ึงประกอบดว้ ย 3.1.1 ลักษณะสื่อ ประกอบด้วย ลักษณะเฉพาะตามประเภทสื่อ มาตรฐานการออกแบบ มาตรฐานทางเทคนคิ วิธี และมาตรฐานความมีสนุ ทรียข์ องสอื่ 3.1.2 เนื้อหาสาระ โดยอาศัยผู้เชี่ยวชาญอย่างน้อย 3 คนเป็นผู้ตรวจสอบเนื้อหาสาระท่ี ปรากฏในสือ่ โดยแสดงความเหน็ เพื่อการปรบั ปรงุ ในสว่ นที่ควรปรบั ปรงุ หรือให้ความเหน็ ชอบเพ่อื ดำเนนิ การต่อไป 3.2 การตรวจสอบคุณภาพสือ่ โดยปกติดำเนินการโดยทดลองใชส้ อ่ื กบั ตวั แทนกลมุ่ เปา้ หมายใน สภาพการณจ์ ริง ซ่ึงแบง่ เป็น 3 ขั้นตอนคือ 3.2.1 การทดสอบหนง่ึ ต่อหนึง่ 3.2.2 การทดสอบกลุ่มเลก็ 3.2.3 การทดสอบกลุม่ ใหญ่ โดยเปรียบเทยี บผลการทดลองใช้ส่อื กบั เกณฑ์มาตรฐาน กลา่ วคอื สื่อการเรียนการสอนทีป่ ระเมินมี คณุ ภาพมาตรฐานในระดบั 90/90 ในท่นี ้ี 90 ตวั แรกหมายถงึ คะแนนรวมเฉล่ียของกล่มุ คดิ เปน็ รอ้ ยละ 90 ส่วน 90 ตวั หลงั หมายถงึ รอ้ ยละ 90 ของผเู้ รยี นท่บี รรลุวตั ถปุ ระสงคแ์ ตล่ ะข้อของสือ่ การเรยี นการสอน ลักษณะของการวิจยั และพฒั นา การวิจยั และพัฒนามลี ักษณะสำคญั ดงั นี้ 1. เปน็ การนำความร้หู รอื ความเข้าใจใหมท่ ี่สรา้ งขึ้นมาพฒั นาเป็นตวั แบบใช้งาน เปน็ การทำวจิ ัยเพ่อื แสวงหาหรอื สรา้ งสรรคภ์ มู ปิ ญั ญาใหม่ แลว้ ทำการพฒั นาดว้ ยการคดิ คน้ ตอ่ ยอดความรคู้ วามเขา้ ใจดงั กลา่ วใหอ้ ยู่ 6 วารสารมหาวิทยาลัยราชภฏั สกลนคร; ปีท่ี 1 ฉบบั ท่ี 2 : กรกฎาคม – ธันวาคม 2552 Sakon Nakhon Rajabhat University Journal; 1(2) : July – December 2009

ในรปู ตน้ แบบการพัฒนาทส่ี ามารถนำไปใชป้ ระโยชนใ์ นวงกว้างได้ เชน่ ผลผลติ กระบวนการหรือการบรกิ าร วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร ใหม่ๆ ทต่ี อบสนองความตอ้ งการจำเปน็ ของผู้ใชแ้ ละสงั คม 2. เป็นการศึกษาค้นคว้าอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง เนื่องจากจุดแข็งของการวิจัยและพัฒนามี 3 กระบวนการหลกั ไดแ้ ก่ การวจิ ยั การพฒั นา และการเผยแพร่ ดงั นน้ั การศกึ ษาคน้ ควา้ เพอ่ื ใหไ้ ดค้ วามรหู้ รอื ความเขา้ ใจในแง่มุมใหม่สำหรับนำไปพัฒนาผลิตภณั ฑ์ และถา่ ยทอดไปสผู่ ้ใู ชใ้ นวงกว้าง จึงตอ้ งกระทำอย่าง เปน็ ระบบและตอ่ เนือ่ ง ท่ีกลา่ วว่า “อย่างเปน็ ระบบ” เปน็ การดำเนนิ งานทเี่ ป็นไปตามขัน้ ตอนของกระบวนการ วิจัยและพฒั นา ส่วนทก่ี ล่าวว่า “อย่างตอ่ เนอื่ ง” เปน็ กระบวนการดำเนินงานทจ่ี ะตอ้ งกระทำติดตอ่ กนั โดยใช้ ระยะเวลาในการทำกจิ กรรมการวจิ ัยและพฒั นา และเผยแพรผ่ ลผลติ ไปสู่ผ้ใู ชอ้ ยา่ งกวา้ งขวางและเป็นรูปธรรม ค่อนขา้ งยาวนานมาก 3. มกี ารดำเนนิ งานวิจยั อย่างเป็นวัฏจักรด้วยวิธการที่เชอื่ ถือได้ การทำการวิจยั และพัฒนาทกุ ข้นั ตอน จะต้องกระทำอยา่ งพิถพี ถิ นั ภายใตก้ ารกำกับตดิ ตม และตรวจสอบซำ้ หลายครงั้ เพอื่ ใหเ้ กิดความม่ันใจว่าผลผลิต ข้นั สดุ ทา้ ย (End of product) ของกระบวนการวจิ ัยและพฒั นาที่อยใู่ นรูปของผลิตภัณฑ์มีความถกู ตอ้ งและ เชอื่ ถือได้ตรงตามระดับมาตรฐานกอ่ นการเผยแพรไ่ ปสผู่ ู้ใชห้ รือสังคม 4. มักใชว้ ิธกี ารผสมผสานวิธกี ารเชิงปริมาณและชงิ คณุ ภาพในการวิจัย การวิจยั และพฒั นาโดยทั่วไป นักวิจัยมักใช้การผสมผสานวิธีการเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพตามฐานคติท่ีอยู่ภายใต้กระบวนทัศน์ แบบปฏิบัตินิยม / ประโยชน์นิยมเป็นหลัก เช่น ผสมผสานวิธีการเชิงปริมาณ ได้แก่ การวิจัยเชิงสำรวจ ในขั้นตอนการรวบรวมข้อมูลที่จำเป็นต่อการออกแบบผลิตภัณฑ์ และการวิจัยเชิงทดลองในขั้นตอนทดสอบ คุณภาพของผลติ ภณั ฑแ์ ละวิธกี ารวจิ ยั เชงิ คุณภาพ ไดแ้ ก่ การศกึ ษาเฉพาะกรณใี นขน้ั ตอนการเผยแพร่ผลิตภัณฑ์ สู่กลุ่มผ้ใู ช้หรือชมุ ชนใดชมุ ชนหน่ึง 5. มงุ่ เน้นการตอบสนองต่อผู้ตอ้ งการใชผ้ ลการวิจัยและพฒั นา จุดเนน้ สำคญั ของการวิจัยและพฒั นา คือการดำเนนิ การวิจยั ทจี่ ะต้องตอบสนองความตอ้ งการของบุคคล หรือกลมุ่ บุคคลผู้ประสงค์จะนำผลติ ภัณฑ์ ทเี่ ป็นวทิ ยาการสมัยใหมไ่ ปใช้งาน และ/หรือประกอบการตดั สินใจแก้ปญั หาทม่ี ีอยู่ในหนว่ ยงาน องคก์ ารหรอื ชุมชน ดังนั้น ในการออกแบบการวิจัยและพัฒนา นักวิจัยมักกำหนดให้ผู้ที่คาดว่าจะนำผลการวิจัยไปใช้ ประโยชนม์ สี ่วนรว่ มในการกำหนดเป้าหมายของการวิจยั และพฒั นา ต้ังคำถามหรือโจทยก์ ารวจิ ัย รวมทัง้ การ สนับสนนุ งบประมาณ เป็นต้น ทั้งนนี้ อกจากจะเปน็ การสรา้ งความรู้สกึ เป็นห้นุ ส่วนในการทำวิจัยและพัฒนา รว่ มกับนกั วจิ ยั แลว้ ยงั จะสง่ ผลดีต่อการยอมรบั และการนำผลิตภัณฑไ์ ปใช้อีกดว้ ย 6. ผลของการวจิ ยั และพฒั นาทมี่ ีคุณคา่ และมลู คา่ สงู สามารถจดทะเบยี นเปน็ สิทธบิ ตั รได้ ผลของการ วิจัยและพัฒนาโดยเฉพาะท่ีอยู่ในรูปผลิตภัณฑ์ท่ีเป็นภูมิปัญญาท่ีเกิดจากการสร้างสรรค์และการลงทุน ลงแรงของนกั วจิ ยั อาจจะมคี ณุ ค่า (Value) และมูลค่า (Worth) เชงิ พาณชิ ย์หรือเป็นประโยชน์ในแงก่ ารทำ กำไรสงู นกั วจิ ยั สามารถจดทะเบยี นเพอ่ื คมุ้ ครองสทิ ธใ์ิ หเ้ ปน็ ไปตามพระราชบญั ญตั ลิ ขิ สทิ ธ์ิ และพระราชบญั ญตั ิ สทิ ธบิ ตั รทง้ั ในประเทศและนานาชาติได้ วารสารมหาวทิ ยาลยั ราชภัฏสกลนคร; ปที ่ี 1 ฉบับท่ี 2 : กรกฎาคม – ธนั วาคม 2552 7 Sakon Nakhon Rajabhat University Journal; 1(2) : July – December 2009

ขอ้ ดแี ละขอ้ จำกดั ของการวิจัยและพฒั นา 1. ขอ้ ดีของการวจิ ัยและพัฒนา 1.1 ทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ซึ่งนำไปใช้ในการพัฒนาบุคลากรหรือองค์การ การวิจัยและพัฒนามี เป้าหมายเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์นี้เป็นเสมือนเครื่องมือที่ใช้ในการพัฒนาบุคลากรให้มีคุณภาพและ พฒั นาองค์การให้มปี ระสทิ ธภิ าพ ซึง่ การพัฒนาดังกล่าวสอดคล้องกบั ความต้องการของบุคลากรและองค์การ 1.2 ได้ผลติ ภณั ฑ์ทม่ี ีความหมายและตรงกับความตอ้ งการของผ้ใู ช้ เนอ่ื งจากกระบวนการวจิ ัยและ พัฒนาเปิดโอกาสให้ผู้ท่ีคาดหมายว่าจะนำผลิตภัณฑ์ไปใช้ประโยชน์เข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดเป้าหมาย โจทยก์ ารวจิ ยั และสนบั สนนุ การวจิ ยั ดงั นน้ั จงึ มแี นวโนม้ ทเ่ี ปน็ ไปไดส้ งู ทจ่ี ะทำใหไ้ ดผ้ ลติ ภณั ฑท์ ม่ี คี วามหมาย เชอื่ มโยงกับสภาพวิถกี ารดำเนนิ ชีวิตและการทำงานอยา่ งสอดคล้องกลมกลืน รวมทง้ั ตอบสนองความต้องการ จำเปน็ ในการใชง้ านของผู้ใชอ้ ยา่ งแท้จริง 1.3 มีส่วนส่งเสริมชื่อเสียงและรายได้แก่นักวิจัยผู้สร้างสรรค์งานวิจัย ในการทำวิจัยและพัฒนา ถ้าผู้วิจัยใช้ความรู้และภูมิปัญญาของตนในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ท่ีมีคุณค่าทางสังคมและมีมูลค่าทางการ ตลาดก็จะมีส่วนส่งเสริมให้ผู้วิจัยมีช่ือเสียงและรายได้จากการเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์หรือสิทธิบัตรในผลิตภัณฑ์ ที่ได้พฒั นาขนึ้ 2. ข้อจำกัดของการวจิ ัยและพฒั นา การวิจัยและพัฒนาจะใช้ระยะเวลา พลังสติปัญญาและจิตใจ รวมทั้งค่าใช้จ่ายจำนวนมาก การวิจัย ประเภทนส้ี ว่ นมากมกั ตอ้ งการระยะเวลาในการทำวจิ ยั รวมทง้ั บคุ ลากรทางการวจิ ยั ทม่ี สี ตปิ ญั ญาดเี ยย่ี ม มจี ติ ใจ ทม่ี งุ่ มน่ั และทุม่ เทตอ่ การทำงานวิจัยอย่างตอ่ เน่อื ง นอกจากน้ยี งั ต้องใช้งบประมาณในการลงทนุ ค่อนข้างสูง ตัวอยา่ งงานวจิ ยั และพัฒนา งานวิจัยเรื่อง การพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมเรื่องการประเมินผลตามสภาพจริงสำหรับครูโรงเรียน ประถมศกึ ษา (ชีวนิ จนิ ดาโชติ. 2547) วัตถปุ ระสงคข์ องการวจิ ัย 1. เพอ่ื ศึกษาขอ้ มูลพ้นื ฐานเกยี่ วกบั การพัฒนาหลกั สูตรฝกึ อบรม เร่ือง การประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ ของครโู รงเรยี นประถมศึกษา 2. เพอื่ พฒั นาหลักสตู รฝึกอบรม เรื่อง การประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ ของครูโรงเรียนประถมศกึ ษา 3. เพือ่ ทดลองใช้หลกั สตู รฝึกอบรม เรื่อง การประเมินผลตามสภาพจริงของครโู รงเรียนประถมศกึ ษา 4. เพอ่ื ประเมนิ ผลและปรบั ปรงุ หลกั สตู รฝกึ อบรม เรอ่ื ง การประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ ของครโู รงเรยี น ประถมศึกษา ด้านความรู้ความเข้าใจ ความคิดเห็นและความสามารถในการประเมินผลตามสภาพจริงใน โรงเรยี นประถมศึกษา วิธดี ำเนินการวิจยั การพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรม เร่อื ง การประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ สำหรบั ครโู รงเรยี นประถมศกึ ษา เป็นการวิจัยและพฒั นา โดยมีข้นั ตอนการวิจยั ดังนี้ 8 วารสารมหาวิทยาลยั ราชภฏั สกลนคร; ปที ่ี 1 ฉบับท่ี 2 : กรกฎาคม – ธันวาคม 2552 Sakon Nakhon Rajabhat University Journal; 1(2) : July – December 2009

ขน้ั ตอนท่ี 1 การวจิ ยั สำรวจขอ้ มลู พน้ื ฐานเรอ่ื งหลกั สตู รฝกึ อบรม และการประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร ของครวู ิชาการโรงเรียนประถมศึกษา จำนวน 436 คน หวั หนา้ การประถมศกึ ษาอำเภอ สงั กดั สำนกั งาน การประถมศกึ ษาจังหวดั กาญจนบรุ ี อำเภอละ 1 คน รวม 13 คน และผู้เชยี่ วชาญดา้ นการวัดและประเมินผล ตามสภาพจรงิ จำนวน 13 คน รวมทั้งหมด 452 คน นำมาเป็นข้อมูลในการพัฒนาหลักสูตร ขั้นตอนที่ 2 การพัฒนา พฒั นาโครงร่างของหลกั สตู รภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ โดยผู้วจิ ยั อาจารย์ ทีป่ รกึ ษา ผูเ้ ชี่ยวชาญด้านการพฒั นาหลักสูตร ด้านการฝกึ อบรม และดา้ นการวัดและประเมนิ ผล ข้ันตอนที่ 3 การวิจัย ทดลองใช้หลักสูตร คือการนำหลักสูตรที่พัฒนาไปทดลองใช้กับครูวิชาการ โรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดกาญจนบุรี จำนวน 41 คน โดยฝึกอบรม ภาคทฤษฎแี ละภาคปฏบิ ัติ ขั้นตอนที่ 4 การพฒั นา ประเมนิ ผลและปรบั ปรงุ หลกั สตู ร เปน็ ขน้ั ตอนการประเมนิ ผลการใชห้ ลกั สตู ร ในระหวา่ งการใช้หลกั สตู รโดยทดสอบความรู้ ความเข้าใจกอ่ นและหลังการใช้หลักสูตรด้วยแบบทดสอบ และ สอบถามความคิดเห็นต่อการใชห้ ลกั สูตร รวมไปถงึ การติดตามผลหลังการฝกึ อบรมดว้ ยแบบสอบถามผ้เู ขา้ รับ การอบรม โดยทั้ง 4 ข้นั ตอนสามารถสรปุ เปน็ ภาพประกอบได้ ดังภาพท่ี 2 การวจิ ยั การพฒั นา การวจิ ัย การวจิ ัยประเมนิ และ ศกึ ษาขอ้ มลู พ้นื ฐาน พัฒนาหลกั สตู ร ทดลองใชห้ ลกั สูตร ปรบั ปรุงหลกั สตู ร 1. วเิ คราะหน์ โยบายแนวทางการ 1. พัฒนาหลักสูตรฝึกอบรม นำหลักสูตรทั้งภาคทฤษฎแี ละ 1. ประเมนิ ความรู้ ความเข้าใจ ดำเนนิ งาน การประเมินผลตาม (ฉบับรา่ ง) ประกอบด้วย ภาคปฏิบัติไปใช้ โดยการจดั อบรม เก่ียวกบั การประเมนิ ผลตาม สภาพจรงิ ในโรงเรยี นของ หลกั การ วัตถุประสงค์ ครวู ชิ าการโรงเรยี นประถมศึกษา สภาพจริง สปช. สปจ. สปอ. เนอื้ หา กจิ กรรม สอ่ื และ สังกดั สำนกั งานการประถมศึกษา การวดั และการประเมินผล จงั หวัดกาญจนบรุ ี จำนวน 41 คน 2. ประเมนิ ความคดิ เห็นท่ีมีต่อ 2. ศกึ ษาแนวทฤษฎี เอกสารและ 2. ตรวจสอบโครงสรา้ ง โดยการทดสอบกอ่ นและหลัง หลักสูตรหลงั จากเสร็จสิ้นการ งานวิจยั ทเ่ี ก่ยี วข้องในการ หลักสูตรฝึกอบรมโดย การฝึกอบรม ฝึกอบรม พฒั นาหลกั สตู รฝึกอบรม และ อาจารยท์ ี่ปรกึ ษา และ การประเมินผลตามสภาพจรงิ ผเู้ ชีย่ วชาญ 3. ประเมินความสามารถในการ ประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ จาก 3. ศกึ ษาความต้องการในการ 3. ปรับปรงุ แก้ไขโครงสรา้ ง การปฏบิ ตั ิเกย่ี วกบั การ ฝกึ อบรมเรือ่ งการประเมินตาม หลักสตู รฝกึ อบรม ประเมินตามสภาพจริงของครู สภาพจรงิ จากครวู ชิ าการ วิชาการ เกยี่ วกบั ขอบข่ายเนอื้ หา วิธกี าร รูปแบบ ระยะเวลา ปรับปรงุ แกไ้ ข ปรบั ปรงุ หลกั สตู ร การติดตามผล ไม่ผ่าน 4. ศึกษาความคดิ เหน็ เกี่ยวกับ ผา่ น ขอบขา่ ยเนื้อหา วธิ กี าร รูปแบบ ระยะเวลา การติดตาม ผลการฝึกอบรม การประเมินผลตามสภาพจรงิ จากหวั หนา้ การประถมศึกษา อำเภอ และผเู้ ช่ียวชาญ หลกั สูตรฝกึ อบรม ฉบับสมบรู ณ์ ภาพที่ 2 ข้นั ตอนการวิจยั เรอ่ื งการพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมเร่ืองการประเมินผลตามสภาพจริง สำหรับครูโรงเรียนประถมศึกษา (ชีวนิ จนิ ดาโชติ. 2547 : 13) วารสารมหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สกลนคร; ปที ่ี 1 ฉบบั ท่ี 2 : กรกฎาคม – ธันวาคม 2552 9 Sakon Nakhon Rajabhat University Journal; 1(2) : July – December 2009

สรปุ ผลการวจิ ยั การวจิ ยั ครง้ั นเ้ี ปน็ การพฒั นาหลกั สตู รฝกึ อบรม เรอ่ื ง การประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ สำหรบั ครโู รงเรยี น ประถมศึกษา โดยมผี ลการวิเคราะห์ข้อมลู ตามข้ันตอนการวิจัย สรปุ ไดด้ งั น้ี 1. ผลการศกึ ษาขอ้ มลู พน้ื ฐานสำหรบั การพฒั นาหลกั สตู รฝกึ อบรม เรอ่ื ง การประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ สำหรับครูโรงเรยี นประถมศกึ ษา พบวา่ นโยบาย แนวคิด ทฤษฎีการวดั และประเมนิ ผลการเรียนรูต้ อ้ งตอบสนอง เป้าประสงค์ของหลักสูตร สอดคล้องกับความเป็นอยู่ของสังคม โดยประเมินให้สอดคล้องกับหลักสูตร ประเมินเพื่อปรับปรุงแก้ไขการเรียนการสอน ประเมินความสามารถของผู้เรียนทั้งระดับคุณภาพและความ สามารถ การประเมนิ ต้องสะท้อนใหเ้ หน็ การปฏบิ ตั ิจริงในสภาพการณจ์ รงิ หรือคล้ายจริงโดยใช้เทคนิควธิ ีการ เครอ่ื งมอื ทเ่ี หมาะสมและหลากหลาย หลกั สตู รฝกึ อบรม เรอ่ื ง การประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ สำหรบั ครโู รงเรยี น ประถมศกึ ษาที่พัฒนาขึ้นต้องให้การฝึกอบรมตามรูปแบบเชิงปฏิบัติการ ให้ผู้เข้ารับการอบรมได้ร่วมกิจกรรม อยา่ งหลากหลาย ทง้ั ศกึ ษาเอกสาร ถามตอบ ฝกึ ปฏบิ ตั จิ รงิ นำเสนอผลงาน เพอ่ื วพิ ากษว์ จิ ารณร์ ว่ มกนั และสรปุ ผล สามารถนำไปใชว้ ดั ผลประเมนิ ผลกบั นกั เรยี นไดโ้ ดยตรง ควรมรี ปู แบบการวดั ผลประเมนิ ผลการอบรมทช่ี ดั เจน สื่อทใ่ี ชใ้ นการอบรมควรเปน็ สื่อท่ที นั สมัย ระยะเวลาในการฝึกอบรม 3 วันและนำไปทดลองใช้ทโี่ รงเรยี น ของตนประมาณ 1 เดอื น การติดตามผลการฝึกอบรมอยา่ งน้อยภาคเรียนละ 1 ครั้งโดยใชก้ ระบวนการนเิ ทศ 2. ผลการพัฒนาหลักสตู รฝกึ อบรมพบว่า หลกั สตู รฝกึ อบรมเรื่องการประเมินผลตามสภาพจรงิ สำหรบั ครโู รงเรยี นประถมศึกษา มีสาระประกอบด้วย หลักการ จุดมุ่งหมาย โครงสรา้ งเน้ือหา คำแนะนำ การใช้หลักสตู รฝกึ อบรม กิจกรรมการฝึกอบรม สื่อ และการวัดประเมินผล ซึ่งมเี นอื้ หาจำนวน 6 หน่วยคือ 1) พระราชบญั ญตั ิการศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ทีเ่ กย่ี วข้องกบั การวัดและประเมนิ ผล 2) ความหมาย หลักการ และลกั ษณะสำคัญของการประเมนิ ผลตามสภาพจริง 3) เทคนิค วธิ กี าร และเครอ่ื งมือการประเมนิ ผลตาม สภาพจรงิ 4) การจดั ทำแบบประเมนิ ค่า (Rubric) 5) ธรรมชาต/ิ ลกั ษณะเฉพาะของกล่มุ สาระการเรยี นรู้ แผนการ จดั การเรยี นรู้ และการประเมินผล 6) การประเมินโดยใชแ้ ฟ้มสะสมงาน ซ่ึงประกอบไปด้วย ภาคทฤษฏีเกยี่ วกบั ความร้คู วามเขา้ ใจในหลักการ องคป์ ระกอบของการประเมินผลตามสภาพจริง และภาคปฏบิ ัติเกย่ี วกบั ความ สามารถในการประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ โดยใชแ้ บบฝกึ ใบงานและการรายงานสรปุ ผลจากชน้ิ งาน ซง่ึ ผเู้ ชย่ี วชาญ มคี วามเหน็ วา่ มคี วามสอดคลอ้ งเหมาะสมโดยเสนอแนะใหส้ รปุ ใบความรใู้ หส้ น้ั และกระชบั และตดั สาระหนว่ ย ที่ 7 เรื่องภาระงานออกเนอ่ื งจากปรากฏอยู่ในหน่วยท่ี 4, 5 และ 6 แล้ว พร้อมเสนอให้เนน้ การปฏบิ ัติจริง ตามสภาพจรงิ ในทุกขนั้ ตอนของการฝกึ อบรม 3. ผลการทดลองใช้หลักสตู รฝึกอบรม เรื่อง การประเมนิ ผลตามสภาพจริงสำหรบั ครโู รงเรียนประถม ศกึ ษา โดยการนำหลกั สูตรฝกึ อบรมไปทดลองใช้กับครูโรงเรยี นประถมศกึ ษา สังกดั สำนกั งานการประถมศกึ ษา จังหวดั กาญจนบรุ ี จำนวน 41 คน เป็นเวลา 3 วัน โดยดำเนินการทดสอบความรคู้ วามเข้าใจก่อนการฝึกอบรม (Pre - test) การดำเนนิ การอบรม ทดสอบความรคู้ วามเขา้ ใจหลงั การฝึกอบรม (Post - test) พร้อมท้ังสอบถาม ความคิดเห็นที่มีต่อการเรียนรู้และความเหมาะสมของหลักสูตรฝึกอบรม โดยให้ครูวิชาการนำความรู้ที่ได้ ไปปฏบิ ัติ 1 เดอื น และทำการประเมนิ ความสามารถในการประเมินผลตามสภาพจรงิ พบว่า ผู้เข้ารับการอบรม ทุกคนมีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ศึกษาหาความรู้จากใบความรู้ เอกสารประกอบการฝึกอบรม มกี ารอภปิ รายกนั อยา่ งกวา้ งขวางโดยเฉพาะเรอ่ื งเกณฑก์ ารประเมนิ คณุ ลกั ษณะ ความสามารถในการปฏบิ ตั โิ ดยมี 10 วารสารมหาวทิ ยาลัยราชภัฏสกลนคร; ปีท่ี 1 ฉบับท่ี 2 : กรกฎาคม – ธนั วาคม 2552 Sakon Nakhon Rajabhat University Journal; 1(2) : July – December 2009

บรรยากาศ ความเปน็ กนั เอง สนกุ สนานทจี่ ะเรียนรู้ และพบวา่ ในหนว่ ยท่ี 2 ความหมาย หลักการ และลกั ษณะ วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร สำคัญของการประเมนิ ผลตามสภาพจริง ใช้เวลาในการศกึ ษาใบความรคู้ อ่ นขา้ งมาก และการนำเสนอผลงาน ที่คล้ายกันในหลายกลุ่มทำให้เสียเวลา และเอกสารบางอย่างมีไม่เพียงพอกับความต้องการของผู้เข้ารับการ ฝกึ อบรม เชน่ ตวั อย่างแฟม้ สะสมงาน เป็นต้น 4. ผลการประเมนิ ความรู้ความเข้าใจ เรอ่ื ง การประเมนิ ผลตามสภาพจริงสำหรบั ครูโรงเรยี นประถม ศึกษาพบวา่ ความรู้ความเข้าใจ เร่อื ง การประเมินผลตามสภาพจริงกอ่ นและหลังการฝกึ อบรมแตกต่างกันอยา่ ง มนี ัยสำคัญทางสถติ ิท่ีระดับ 01 โดยความรคู้ วามเขา้ ใจ เรอ่ื งการประเมินผลตามสภาพจริงสำหรับครูโรงเรยี น ประถมศึกษาหลงั การฝึกอบรมสูงกว่ากอ่ นการฝึกอบรม ผลการเรยี นรู้ของตนเองของผ้เู ขา้ อบรมหลงั เสรจ็ ส้นิ การฝึกอบรม พบว่า มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดบั มาก ได้แก่ ความหมาย หลกั การ และลักษณะสำคัญของ การประเมินผลตามสภาพจริงและพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ที่เกี่ยวข้องกับการวัดและ ประเมินผล ความคดิ เหน็ ทม่ี ตี อ่ หลกั สูตร พบวา่ ในภาพรวมเหน็ วา่ หลักสูตรฝกึ อบรมอยใู่ นระดบั เหน็ ดว้ ยมาก ความคดิ เหน็ ท่ีอยใู่ นระดับมากเป็นลำดับต้นๆ ไดแ้ ก่ เนอ้ื หา และเอกสารประกอบการฝึกอบรม สว่ นความคิด เห็นทีม่ คี า่ เฉล่ียอยใู่ นระดับมากเปน็ ลำดบั สุดทา้ ยคือ ระยะเวลาในการฝกึ อบรม และการตดิ ตามผลการฝกึ อบรม ความสามารถในการประเมินผลตามสภาพจริงพบว่าในภาพรวมครูวิชาการมคี วามสามารถในการประเมินผล ตามสภาพจรงิ อยใู่ นระดบั พอใช้ ไดแ้ ก่ มเี คร่ืองมอื ในการประเมนิ ผล และการจัดกิจกรรมการเรยี นรูอ้ ยู่ใน ระดับดี แตแ่ ผนการจดั การเรียนรู้ เกณฑก์ ารประเมินผลและช้ินงาน แฟม้ สะสมงานอยใู่ นระดบั พอใช้ ซง่ึ พบวา่ ยังขาดการมีส่วนร่วมของนักเรียนในการจัดทำแผนการเรียนรู้ การกำหนดประเด็นและเกณฑ์การประเมินผล และการรว่ มวางแผนกำหนดชิน้ งาน แฟ้มสะสมงาน สรุป การวิจยั และพฒั นา หมายถงึ กระบวนการศึกษาคน้ คว้าอย่างมีระบบ มีจดุ มุ่งหมายเพอ่ื พฒั นาและ ตรวจสอบคณุ ภาพของผลติ ภณั ฑ์ ซึง่ มี 2 ลกั ษณะ ได้แก่ ผลิตภณั ฑ์ประเภทสอื่ วสั ดอุ ปุ กรณ์ และผลติ ภัณฑ์ ประเภทกระบวนการหรือวิธีการ โดยดำเนินการทดสอบในสภาพจริงและทำการปรับปรุงผลิตภัณฑ์หลายๆ รอบ จนได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคณุ ภาพเพื่อนำไปใช้ในการพัฒนากลมุ่ คน หน่วยงานหรือองค์การให้มีประสิทธิภาพ ยิ่งขน้ึ กระบวนการวิจัยและพฒั นาประกอบดว้ ย 1) การสำรวจ สงั เคราะหส์ ภาพปัญหาและความตอ้ งการ 2) การออกแบบพัฒนาผลิตภณั ฑ์ 3) การทดลองใชผ้ ลิตภณั ฑซ์ ง่ึ ดำเนนิ การทดลอง 3 ครงั้ ได้แก่ การทดลอง กับกลมุ่ เป้าหมายขนาดเลก็ การทดลองกบั กลุม่ เปา้ หมายขนาดใหญ่ และการทดลองความพร้อมนำไปใช้ และ 4) การเผยแพร่ผลติ ภัณฑ์ การวิจยั และพฒั นามีลักษณะสำคญั ได้แก่ เปน็ การนำความรหู้ รือความเขา้ ใจใหม่ ทีส่ รา้ งข้ึนมาพัฒนาเปน็ ตวั แบบใช้งาน เป็นการศึกษาคน้ คว้าอย่างเปน็ ระบบและต่อเนื่อง มีการดำเนินงานวจิ ัย อยา่ งเป็นวฏั จักรดว้ ยวธิ ีการทเ่ี ชือ่ ถือได้ มักใชว้ ธิ ีการผสมผสานวธิ ีการเชงิ ปรมิ าณและเชิงคุณภาพในการวจิ ัย มุ่งเน้นการตอบสนองตอ่ ผู้ต้องการใชผ้ ลการวิจยั และพัฒนา นอกจากนี้ ผลของการวิจัยและพฒั นาที่มีคุณค่า และมลู คา่ สูงสามารถจดทะเบียนเปน็ สทิ ธบิ ัตรได้ วารสารมหาวทิ ยาลัยราชภฏั สกลนคร; ปีท่ี 1 ฉบับที่ 2 : กรกฎาคม – ธนั วาคม 2552 11 Sakon Nakhon Rajabhat University Journal; 1(2) : July – December 2009

เอกสารอา้ งองิ ชวี นิ จนิ ดาโชต.ิ (2547). การพฒั นาหลกั สตู รฝึกอบรมเร่ืองการประเมินผลตามสภาพจริงของครูโรงเรียน ประถมศกึ ษา. วิทยานพิ นธ์ศึกษาศาสตรมหาบณั ฑติ มหาวิทยาลยั ศลิ ปากร. (อดั สำเนา). ทศิ นา แขมมณี. (2540). การวจิ ยั ทางการศกึ ษา (Educational Research). ใน ทิศนา แขมมณี และสร้อยสน สกลรตั น(์ บก.). แบบแผนและเครื่องมอื การวิจัยทางการศกึ ษา. (หนา้ 1-12). กรงุ เทพฯ: สำนกั พมิ พ์ จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย. ผ่องพรรณ ตรัยมงคลกลู และสุภาพ ฉตั ราภรณ์. (2543). การออกแบบการวิจยั . พิมพ์คร้งั ที่ 3. กรุงเทพฯ: สำนักพมิ พม์ หาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์. วญั ญา วิศาลาภรณ.์ (2540). การวิจยั ทางการศึกษา : หลักการและแนวทางการปฏิบัติการ. กรุงเทพฯ: ต้นออ้ แกรมมี.่ วชริ าพร อจั ฉรยิ โกศล. (2536). การประเมินผลสอื่ การเรยี นการสอน. วารสารครศุ าสตร.์ 21(3), 13-31. วาโร เพง็ สวสั ด.์ิ (2551). วธิ ีวิทยาการวจิ ยั . กรงุ เทพฯ: สุวีรยิ าสาสน์ . สมหวงั พธิ ยิ านวุ ตั น.์ (2541). วธิ วี ทิ ยาการประเมนิ ทางการศกึ ษา. กรงุ เทพฯ: สำนกั พมิ พจ์ ฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั . Charles, C.M. and Merler, C.A. (2002). Introduction to Educational Research. 4th ed. Boston: Allyn and Bacon. McMillan, J. H. (2000). Educational Research : Fundamentals for the Consumer. 3rd ed. New York: Longman. Worthen, B.R. and Sauder, J.R. (1987). Educational Evaluation. New York: Longman. 12 วารสารมหาวิทยาลยั ราชภฏั สกลนคร; ปที ี่ 1 ฉบบั ที่ 2 : กรกฎาคม – ธันวาคม 2552 Sakon Nakhon Rajabhat University Journal; 1(2) : July – December 2009


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook