วัฏจักรชีวิตสัตว์

หากวฏั จกั รชีวิตของสัตว์มรี ะยะ ใดระยะหนึ่งถูกทาลายไป จะสง่ ผลต่อสัตวอ์ ยา่ งไร?

คอื การเปล่ียนแปลงรปู รา่ งของสตั วต์ ง้ั แตแ่ รกเกดิ จนพฒั นาไปเปน็ ระยะตัวเต็มวยั วัฏจักรชีวติ ของสัตว์ สามารถสบื พนั ธอุ์ อกลูก หลานได้ และจะเกดิ การหมนุ เวยี นแบบนีต้ อ่ ไปเรอื่ ย ๆ วัฏจักรชวี ติ ของสัตว์ แบง่ ได้ 2 แบบ 1. วฏั จักรชีวติ ของสตั วอ์ อกลูกเปน็ 2. วัฏจักรชวี ิตของสตั ว์ออกลูกเป็นตัว ตัวอยา่ ง ไข่ ตวั อยา่ ง จระเข้ เต่า ผีเส้ือ โลมา สนุ ขั

1. วัฏจกั รชวี ิตของสตั ว์ออกลูกเป็นไข่ เมื่อสตั ว์ตัวเมยี วางไข่ ตัวอ่อนจะฟักออกจากไข่ สตั วอ์ อกลกู เป็นไขท่ ีม่ ี 3 ระยะ สัตว์ออกลูกเป็นไข่ทีม่ ี 4 ระยะ ระยะที่ 1 ระยะท่ี 1 ระยะที่ 4 ไข่ ไข่ ตัวเตม็ วัย ระยะที่ 3 ตวั เต็มวยั ตวั อ่อน ระยะท่ี 2 ตัวออ่ น ระยะท่ี 2 ดกั แด้ ระยะที่ 3

1.1 วฏั จักรชวี ติ ของสัตว์ออกลูกเป็นไข่ ที่มี 3 ระยะ ระยะที่ 1 ไข่ คือ ระยะท่ีเซลล์สบื พนั ธ์ุเพศเมยี (เซลลไ์ ข)่ ไดร้ บั การปฏสิ นธกิ บั เซลล์สืบพนั ธุ์เพศผู้ (อสจุ )ิ ไข่ ระยะท่ี 3 ตวั เตม็ วยั ตวั อ่อน ระยะท่ี 2 ตวั อ่อน คือ ระยะท่ลี กู สตั ว์ ฟักออกจากไขเ่ ป็นตัวออ่ น คอื ระยะท่ลี กู สตั วเ์ จรญิ เติบโตเตม็ ท่ี ตัวเตม็ วยั พร้อมทีจ่ ะสืบพันธแ์ุ ละขยายพนั ธุ์

ตัวอยา่ ง วัฏจักรชีวิตของสตั วอ์ อกลกู เป็นไข่ ทม่ี ี 3 ระยะ ระยะที่ 1 ระยะที่ 1 ไข่ ไข่ ระยะที่ 3 (ไขไ่ ก่) ระยะที่ 2 (ไข่เต่า) ตัวเตม็ วยั ตวั อ่อน ระยะที่ 3 ระยะท่ี 2 ตัวเตม็ วัย ตวั ออ่ น (ลูกเจ๊ยี บ) (ลูกเต่า) (ไก่) (เตา่ ) วฏั จกั รชีวิตของเตา่ วฏั จกั รชีวิตของไก่

1.2 วฏั จักรชวี ิตของสตั วอ์ อกลูกเปน็ ไข่ ท่มี ี 4 ระยะ ระยะที่ 1 ไข่ คือ ระยะทเี่ ซลลส์ บื พันธ์ุเพศเมีย (เซลล์ไข)่ ท่ไี ด้รบั การปฏสิ นธิกับเซลล์สบื พนั ธเุ์ พศผู้ (อสุจ)ิ ระยะที่ 4 ตัวเตม็ วัย ไข่ ตวั อ่อน ระยะที่ 2 ตัวออ่ น คอื ระยะทล่ี กู สัตว์ คือ ระยะสุดท้ายท่สี ัตว์ ตวั เต็มวยั เจรญิ เตบิ โตเตม็ ที่ พรอ้ มทจ่ี ะ ฟักออกจากไขเ่ ป็นตวั อ่อน สบื พันธแุ์ ละขยายพนั ธ์ุได้ ดักแด้ ระยะท่ี 3 ดักแด้ คอื ตัวอ่อนระยะสดุ ทา้ ยของสตั วท์ ี่ รอการลอกคราบ เพือ่ เจริญเติบโตไปเป็นตวั เต็มวัย อย่างสมบรู ณ์

ตัวอยา่ ง วัฏจกั รชีวิตของสัตวอ์ อกลกู เปน็ ไข่ ทมี่ ี 4 ระยะ ระยะท่ี 1 ระยะที่ 1 ไข่ ไข่ ระยะที่ 4 (ไขแ่ มลงปอ) ระยะท่ี 2 ระยะที่ 4 (ไข่แมลงวนั ) ระยะท่ี 2 ตวั เต็มวยั ตวั ออ่ น ตวั เตม็ วัย ตัวอ่อน ระยะที่ 3 ระยะที่ 3 (หนอน) ดกั แด้ ดกั แด้ วัฏจกั รชวี ิตของแมลงปอ วัฏจกั รชีวติ ของแมลงวัน

แบบฝกึ ทกั ษะ คาส่ัง:ให้นักเรยี นวาดวฏั จักรชวี ติ ของสัตว์ออกลูกเป็นไข่ วฏั จักรชีวิตของสตั ว์ออกลกู เป็นไข่ ทม่ี ี 3 ระยะ วัฏจกั รชวี ิตของสตั ว์ออกลกู เป็นไข่ ทม่ี ี 4 ระยะ ระยะท่ี 1 ระยะท่ี 1 ไข่ ไข่ ระยะท่ี 4 ระยะที่ 2 ตวั เต็มวยั ตวั ออ่ น ระยะที่ 3 ระยะท่ี 2 ตวั เตม็ วัย ตวั ออ่ น วฏั จักรชวี ติ ของ............ ระยะท่ี 3 ดกั แด้ วัฏจกั รชีวิตของ............

2. วัฏจักรชวี ิตของสตั ว์ออกลูกเปน็ ตวั เมอื่ สัตวต์ ัวเมียต้งั ทอ้ งแลว้ ถงึ เวลาคลอดลูกจะออกลกู มาเป็นตัว (ตวั ออ่ น) และตวั อ่อนจะพฒั นาต่อไปเป็นตวั เตม็ วยั สัตวอ์ อกลกู เป็นตัว มี 2 ระยะ ระยะท่ี 2 ตวั เต็มวัย ตวั อ่อน ระยะท่ี 1

2. วฏั จักรชวี ติ ของสตั ว์ออกลกู เปน็ ตัว (ตอ่ ) ระยะที่ 2 ตัวเต็มวัย คอื ระยะท่ี ตัวเต็มวัย ระยะท่ี 1 ตัวอ่อน คือ ระยะที่ลูกของ ตัวอ่อนมีการเจริญเติบโตไป สัตว์ (ตัวอ่อน) เมื่อคลอดออกจาก เป็นตัวเต็มวัย โดยมีหน้าตา ตวั อ่อน ท้องแม่จะมีลักษณะรูปร่างคล้ายคลึง เหมือนพ่อแม่ และพร้อมท่ีจะ กับพ่อแม่ แต่มีขนาดตัวเล็กกว่า สบื พนั ธแุ์ ละขยายพนั ธ์ุ อวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายยังเจริญ เตบิ โตไมเ่ ตม็ ที่

ตวั อย่าง วัฏจักรชีวติ ของสตั วอ์ อกลกู เปน็ ตวั มี 2 ระยะ ระยะที่ 2 ระยะที่ 1 ระยะที่ 2 ตัวเต็มวยั ตวั อ่อน ตวั เต็มวัย ระยะท่ี 1 ตัวอ่อน วฏั จักรชีวิตของม้า วัฏจกั รชีวิตของคน

ตัวอยา่ งการดแู ลวัฏจกั รชวี ิตของสัตว์ ไม่ทาลายแหล่งท่อี ยู่ โดยไมท่ าให้วัฏจกั รชวี ติ ของสัตว์เกิดการเปล่ยี นแปลง อาศยั ของสตั ว์ ไมจ่ บั ตัวออ่ นมาเป็นอาหาร ไมล่ า่ สัตว์เพ่อื การกฬี า ไม่จบั สัตวใ์ นฤดูวางไข่ และการคา้

หากวัฏจกั รชีวติ ของสตั ว์มีระยะ ใดระยะหน่งึ ถูกทาลายไป จะสง่ ผลต่อสัตวอ์ ย่างไร? หากวัฏจักรชีวิตของสัตว์ระยะใด ระยะหน่ึงถกู ทาลายไป อาจส่งผลทา ให้ไม่เกิดวัฏจักรชีวิตของสัตว์ชนิด นั้น ซึ่งจะทาให้การเจริญเติบโตของ สัตว์ไม่ครบวงจร และทาให้สัตว์ ชนิดน้ันไม่สามารถออกลูก ออก หลานได้ จงึ อาจเกดิ การสูญพนั ธไ์ุ ป

วฏั จกั รชวี ติ วัฏจักรชวี ติ ของสตั ว์ ของสตั ว์ ออกลกู เป็นตวั วัฏจักรชีวิตของสตั ว์ ออกลูกเปน็ ไข่ วฏั จักรชีวิตของสตั ว์ วฏั จกั รชวี ติ ของสัตว์ วัฏจักรชวี ติ ของสตั ว์ ออกลูกเปน็ ไข่ ท่ีมี 3 ออกลกู เป็นไข่ ที่มี 4 ออกลกู เปน็ ตวั มี 2 ระยะ ระยะ ระยะ

คาสง่ั : ให้นกั เรียนวาดภาพวัฏจกั รชวี ติ ของสตั วอ์ อกลูกเป็นตัวมา 2ชนดิ ระยะท่ี 2 ระยะที่ 1 ระยะท่ี 2 ตัวเตม็ วยั ตัวอ่อน ตัวเต็มวัย ระยะที่ 1 ตวั ออ่ น วฏั จักรชวี ติ ของ.......... วฏั จกั รชีวติ ของ.........

วฏั จกั รชวี ติ วัฏจักรชวี ติ ของสตั ว์ ของสตั ว์ ออกลกู เป็นตวั วัฏจักรชีวิตของสตั ว์ ออกลูกเปน็ ไข่ วฏั จักรชีวิตของสตั ว์ วฏั จกั รชวี ติ ของสัตว์ วัฏจักรชวี ติ ของสตั ว์ ออกลูกเปน็ ไข่ ท่ีมี 3 ออกลกู เป็นไข่ ที่มี 4 ออกลกู เปน็ ตวั มี 2 ระยะ ระยะ ระยะ



ค จ ก ง ค

ไข่ ลูกออ๊ ด กบ

ไข่ ลูกปลา ปลา

ตัวออ่ นต๊กั แตน ไข่ ตั๊กแตน

ไข่ ลกู นา้ ยุง ตวั โม่ง

ไข่ ตัวหนอน ผีเสื้อ ดักแด้

เสือ ทารก ลูกเสือ ผู้ใหญ่







ตัวอย่างการดแู ลวฏั จักรชีวิตของสตั ว์ ไม่ทาลายแหล่งทีอ่ ยู่ โดยไม่ทาให้วัฏจกั รชวี ติ ของสัตวเ์ กดิ การเปลย่ี นแปลง อาศัยของสตั ว์ ไม่ใช้อวนตาถท่ี าการ ไม่ลา่ สัตว์เพ่ือการกีฬา ประมงจับตัวออ่ นมาเป็น และการคา้ อาหาร ไมจ่ ับสตั ว์ในฤดวู างไข่ หรือฤดูผสมพันธุ์

หากวัฏจกั รชีวติ ของสตั ว์มีระยะ ใดระยะหน่งึ ถูกทาลายไป จะสง่ ผลต่อสัตวอ์ ย่างไร? หากวัฏจักรชีวิตของสัตว์ระยะใด ระยะหน่ึงถกู ทาลายไป อาจส่งผลทา ให้ไม่เกิดวัฏจักรชีวิตของสัตว์ชนิด นั้น ซึ่งจะทาให้การเจริญเติบโตของ สัตว์ไม่ครบวงจร และทาให้สัตว์ ชนิดน้ันไม่สามารถออกลูก ออก หลานได้ จงึ อาจเกดิ การสูญพนั ธไ์ุ ป

1. คาสง่ั : ตอบคาถามตอ่ ไปน้ี ลงในสมดุ รายการเปรยี บเทยี บ ปลาหางนกยงู ผเี สอ้ื การออกลกู วฏั จักรชีวติ ตัวอ่อนกบั ตัวเต็มวยั แหลง่ ทอ่ี ยอู่ าศยั

คาสงั่ : ตอบคาถามตอ่ ไปน้ลี งในสมดุ 2. หากวัฏจกั รชีวิตของสตั วร์ ะยะใดระยะหนึ่งถกู ทาลายไป จะสง่ ผลกระทบต่อสัตวอ์ ยา่ งไร ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... 3. บอกวธิ ดี แู ลวัฎจกั รชวี ติ ของสตั ว์ โดยไม่ทาให้วฏั จกั รชวี ิตของสตั ว์ เกิดการเปล่ยี นแปลงมา 3 วิธี 1. .......................................................................................................................... 2. .......................................................................................................................... 3. ..........................................................................................................................