บันทึกการอนุรักษ์สืบสานภูมิปัญญา “ทองหยิบ” วิชา ส32104 ประวัติศาสตร์ไทย4 สมาชิก 1.น.ส.สุพัทธา เสาะสืบงาน เลขที่8 2.น.ส.ฉัตรทิพย์ ถนอมทรัพย์ เลขที่34 3.น.ส.ธนวรรณ บุรีรักษ์ เลขที่35 4.น.ส.ศิวพร สีดาวัด เลขที่36 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่5/2 โรงเรียนภาชี “สุนทรวิทยานุกูล” อำเภอ ภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สำนักงานพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา พระนครศรีอยุธยา
ภูมิปัญญาไทยสาขาใด ? ภมูิปัญญาไทยสาขาศาสนาและประเพณี ศาสนา (หมายถึง ลัทธิความเชื่อของมนุษย์ เกี่ยวกับการกำเนิดและสิ้นสุดของโลก หลักศีลธรรม ตลอดจนลัทธิพิธีที่กระทำตามความ เชื่อนั้น ๆหลายศาสนามีการบรรยาย สัญลักษณ์และประวัติศาสตร์ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเจตนาอธิบายความหมายของชีวิต หรืออธิบายกำเนิด ชีวิตหรือเอกภพ จากความเชื่อของศาสนาเกี่ยวกับจักรวาลและธรรมชาติมนุษย์ คนได้รับศีลธรรม จริยศาสตร์ กฎหมายศาสนาหรือวิถี ชีวิตลำดับก่อน บางการประมาณว่า มีศาสนาราว 4,200 ศาสนาในโลก ประเพณี หมายถึง เป็นกิจกรรมที่มีการปฏิบัติสืบเนื่องกันมา เป็นเอกลักษณ์และมีความสำคัญต่อสังคม เช่น การแต่งกาย ภาษา วัฒนธรรม ศาสนา ศิลปกรรม กฎหมาย คุณธรรม ความเชื่อ ฯลฯ อันเป็นบ่อเกิดของวัฒนธรรมของสังคมเชื้อชาติต่างๆ กลายเป็น ประเพณีประจำชาติและถ่ายทอดกันมาโดยลำดับ หากประเพณีนั้นดีอยู่แล้วก็รักษาไว้เป็นวัฒนธรรมประจำชาติ หากไม่ดีก็แก้ไข เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเทศะ
ลักษณะเด่นของภูมิปัญญาไทย ? เกิดขึ้นในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชโดยมีชาวโปรตุเกสนำสูตรขนมฝอยทองมาเผยแพร่ให้ แก่คนไทยในสมัยอธุยธา ก็คือ ดอนญ่า มารี กีมาร์ เดอปิน่า (ท้าวทองกีบม้า, พ.ศ. 2202-2265) ลูกครึ่ง โปรตุเกส-ญี่ปุ่น ภริยาของเจ้าพระยาวิชาเยนทร์ (คอนสแตนติน ฟอลคอน) ท้าวทองกีบม้ามีหน้าที่เป็นหัวหน้าห้องเครื่องต้น เป็นผู้ทำอาหารเลี้ยงต้อนรับคณะราชทูตจากฝรั่งเศส ที่มาเยือนกรุงศรีอยุธยาในสมัยนั้นเดิมที่สมัยนั้นคนไทยจะไม่เอาไข่เป็นส่วนผสมในการทำขนมแต่ส่วน ใหญ่จะเป็น แป้ง กะทิ น้ำตาล มะพร้าวแต่เมื่อชาวโปรตุเกสเข้ามาค้าขายกับคนไทยในยุคนั้นก็จะพาแม่ บ้านมาด้วยเลยได้มีสอนการทำขนมเหล่านี้ให้แก่คนไทยจนเป็นที่ถูกอกถูกใจและได้ทำมาจนถึงปัจจุบัน
ลักษณะเด่นของภูมิปัญญา…ต่อชุมชน ขนมไทย “ทองหยิบ” เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นของชาวตำบลบ้านกุ่ม ซึ่งเกิดขึ้นจาก การรวมตัวของคนในชุมชนเมื่อประมาณ ๗๐ ปีที่ผ่านมา โดยได้รวบรวมบรรดา ญาติๆ พี่ ป้า น้า อา ตั้งเป็นกลุ่มไปช่วยงาน ตามงานมงคลและงานประเพณีต่างๆ โดยทางกลุ่มจะมีความชำนาญในเรื่องของขนมไทยทุกชนิด โดยเฉพาะทองหยอดนับ ได้ว่าเป็นที่นิยมภายในหมู่บ้านและตำบลใกล้เคียงว่ามีความอร่อย สวยงาม คู่ควรกับ งานมงคล
แนวทางการอนุรักษ์ภูมิปัญญา 1)หันมาเลือกทานขนมไทยกันให้มากขึ้น เพื่อที่จะขนมไทยนั้นจะได้มีการทำขายออกสู่ตลาดอยู่ตลอดเวลา 2)การนำออกมาเผยแพร่สู่ชาวบ้าน และก็ได้เป็นการถ่ายทอดกันออกมาตั้งแต่รุ่นสู่รุ่น 3)หันมาทำขนมมากขึ้นสอนลูกหลานเพื่อสามารถมาทำเป็นอาชีพในอนาคตข้างหน้า 5)จัดกิจกรรมอนุรักษ์ขนมไทยไห้คนยุคใหม่ได้เรียนรู้และรู้จักขนมไทยมากยิ่งขึ้น
ภาคผนวก
► ทำน้ำเชื่อมสำหรับหล่อขนมโดยใส่น้ำลอยดอกมะลิกับน้ำตาลทราย เปิดเตา และคนจนน้ำตาลละลาย พอเดือดดับเตาแล้วพักน้ำเชื่อมไว้จนเย็น
► ตอกไข่ใส่ในชามผสม แยกไข่แดง เอาไข่ ขาวออกจนหมดหรือให้เหลือน้อยที่สุด
► ตีไข่แดงให้เข้ากัน กรองด้วยผ้าขาวบาง
► แบ่งมาครึ่งหนึ่งทำทองหยิบ (อีกครึ่งหนึ่งเอาไว้ ทำทองหยอด) เริ่มด้วยตีไข่ให้ขึ้นฟู เตรียมไว้
► ทำน้ำเชื่อมสำหรับทำทองหยิบโดยใส่น้ำลอยดอกมะลิกับน้ำตาลทราย เปิดเตา คนจนน้ำตาลละลาย รอจนเดือด พอน้ำเชื่อมเดือดแล้ว เหยาะน้ำลงไปเล็กน้อยแล้วดับ เตา
► รอจนน้ำเชื่อมนิ่งก็หยอดไข่ลงไป พอหยอดเต็มกระทะก็เปิดเตา
► พอขนมฟูขึ้นก็พลิกอีกด้านหนึ่ง พอสีเข้มขึ้นและสุกทั้งสองด้านก็ตักขึ้นได้ค่ะ ก่อน ตักขึ้นให้แกว่ง ๆ ล้างฟองออกให้หมดก่อนนะคะ พักไว้ในน้ำเชื่อมเย็นที่เราเตรียมไว้ เหยาะน้ำลงไปแล้วดับเตา รอจนน้ำเชื่อมนิ่ง หยอดต่อได้เลยค่ะ พอหยอดเต็มกระทะ เปิดเตา รอจนสุกตักขึ้น ทำจนแป้งหมด
► แช่แผ่นทองหยิบไว้ในน้ำเชื่อมเย็นประมาณ 5-10 นาทีค่ะ พอครบ เวลาขั้นตอนต่อไป เราจะมาจับจีบกันนะคะ เอาด้านเรียบไว้ด้านนอกค่ะ จะจับ 3, 4 หรือ 5 จีบก็แล้วแต่ชอบเลยค่ะ ใส่ในถ้วยตะไลที่เตรียมไว้ จัด ทรงให้สวยงาม จากนั้นรอให้เซตตัวสัก 1 ชั่วโมง
Search
Read the Text Version
- 1 - 14
Pages: