รายวชิ าประวัติศาสตรช์ าตไิ ทย สมยั ธนบรุ ี กลุ่ม D ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 5/2 โรงเรยี นภาชี “สนุ ทรวิทยานุกูล” ปีการศกึ ษา 2564
กอ่ นจะเรียน ทาํ ความรู้จกั สมาชิกกอ่ นนะ - นายเจษฎาภรณ์ รงุ่ รจุ ี เลขท่ี 2 -นายเจษฎาพร คาํ หอม เลขที่ 17 -นางสาวจิดาภา งามสมบัติ เลขที่ 25 -นางสาวจุฑาทิพย์ โสภากุล เลขท่ี 26 -นางสาวนนั ทน์ภสั ศักด์คิ ะทศั น์ เลขที่ 31 ครพู ิกุล มใี จเจอื (ครผู ู้สอน)
สมเดจ็ พระเจ้ากรุงธนบุรี สมเด็จพระเจ้ากรงุ ธนบรุ ี หรือ สมเดจ็ พระเจา้ ตากสินมหาราช พระราชสมภพ : 22 มีนาคม พ.ศ.2277 สวรรคต : 6 เมษายน พ.ศ.2325 (48 พรรษา) มีพระนามเดมิ วา่ สิน เปน็ คนไทยเชอื้ สายจนี เป็นพระมหากษัตรยิ ์ ผู้ก่อตงั้ อาณาจกั รธนบุรี และเปน็ พระมหากษตั รยิ พ์ ระองค์เดียว ของราชอาณาจักรธนบุรี
ประวตั ขิ องพระองค์ สมเดจ็ พระเจา้ ตากสินมหาราช หรอื พระเจา้ กรุงธนบรุ ี มีพระนามเดมิ วา่ สิน เปน็ บุตรของขนุ พฒั น์ และ นางนก เอ้ียง ( กรมพระเทพามาตย์ ) เกิดเม่อื วนั ท่ี 22 มีนาคม พ.ศ. 2277 ในแผ่นดิน สมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ ัวบรมโกศ แห่งกรงุ ศรีอยธุ ยา เจ้าพระยาจักรี ผมู้ ตี ําแหนง่ สมุหนายกเหน็ บคุ ลิกลักษณะ จึงขอไปเล้ยี งไวเ้ หมือนบตุ ร บญุ ธรรม ครง้ั ยงั เยาว์วัยไดร้ บั การศึกษาขั้นตน้ จากสํานักวัดโกษาวาส (วัดคลงั ) และ บรรพชาเปน็ สามเณร เม่อื อายุ 13 ขวบ ท่ีวดั สามพหิ าร หลังจากสึกออกมาแล้ว ได้เข้ารับราชการเป็นมหาดเลก็ และอุปสมบทเมือ่ อายุ ครบ 21 ปี หลงั จากศึกออกมา รับราชการกรมมหาดไทยท่ศี าลหลวงในกรมวงั ต่อมาในแผน่ ดินพระเจา้ อย่หู วั พระทน่ี ่งั สรุ ิยาศน์อมรินทร์ (พระเจา้ เอกทศั น์) ครั้นพัฒนา กไ็ ดไ้ ปถวายตัวทําราชการกับสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ ัว มี ความดคี วามชอบจนได้รบั เล่อื นราชการไปเปน็ ผูป้ กครองหัวหนา้ เมอื งตาก และเรียกตดิ ปากมาว่า พระยา ตากสนิ สมเดจ็ พระเจ้าตากสินมหาราชครองราชยส์ มบตั ิกรุงธนบุรไี ด้ 15 ปีเศษ ก็สน้ิ พระชนมม์ ชี นมายุ 48 พรรษา กรุงธนบรุ มี ีกําหนดอายกุ าลได้ 15 ปีจงึ ไดร้ บั บรรดาศกั ดเิ์ ป็นหลวงยกกระบัตรเมอื งตากจนไดเ้ ปน็ พระยาตาก
ภาพแผนท่ีสมัยธนบุรี เกร็ดเพิมเตมิ เลก็ น้อย เมื่อพระเจา้ ตากสนิ มหาราชทรงปราบชุมนุมต่างๆ แลว้ พระองค์ไดท้ รงสถาปนาเมืองธนบรุ ี ขึน้ ราชธานแี หง่ ใหม่ ทรงสรา้ งพระราชวังขน้ึ ทางทศิ ใตข้ องกรุงธนบรุ ี ขนาบ ข้างดว้ ยวัดแจ้ง หรือวดั มะกอก (ปัจจบุ ันคือ วดั อรุณ ราชวรารามราชวรวิหาร) และวัดทา้ ยตลาด (ปจั จบุ นั คือวัด โมลโี ลกยารามราชวรวหิ าร) เมื่อวันท่ี 4 ตุลาคม พ.ศ.2313 พระราชทานนามวา่ “กรุงธนบุรีศรมี หาสมุทร”
พระราชกรณยี กจิ ท่ีโดดเดน่ 1.การกูเ้ อกราช เมอ่ื ปี พ.ศ. 2309 พมา่ ยกทัพมาตีกรุง ศรอี ยธุ ยา ในสมัยพระเจา้ เอกทัศ และได้เสียกรงุ แกพ่ มา่ เป็นครง้ั ที่ 2 ใน พ.ศ. 2310 ทัพของพระยาตากสามารถตพี มา่ จนแตกพ่าย ไป พระยาตากสามารถรวบรวมผูค้ นกอบกู้กรงุ ศรอี ยธุ ยากลบั คืนมาจากพมา่ ไดภ้ ายในเวลา 7 เดือน 2. การสร้างและสถาปนากรุงธนบุรีเปน็ เมอื งหลวง หลงั จากได้ กอบกู้กรุงศรอี ยุธยากลบั คนื จากพมา่ ไดแ้ ล้วพระองค์ทรงเหน็ ว่า ทางกรุงศรอี ยธุ ยาถูกพม่าเผาผลาญเสียหายมากและยากทีจ่ ะ ฟ้นื ฟใู หเ้ จริญเหมือนเดิมได้ พระองค์จึงยา้ ยเมืองหลวงมาอยู่ที่ กรุงธนบรี แลว้ ทรงปราบดาภเิ ษกข้นึ เปน็ พระมหากษตั ริย์
พระราชกรณียกจิ ท่โี ดดเด่น 3.พระองคย์ ังได้ขยายอาณาเขตโดยตีเวยี งจนั ทน์ได้และอญั เชิญพระ แกว้ มรกต มาประดษิ ฐานไว้ที่เมืองหลวง ทรงทาํ นบุ ํารงุ ศาสนาและ ทรงส่งเสริมให้คนแต่งหนังสอื ต่าง ๆ ขน้ึ ทรงเอาใจใสด่ ูแลทกุ ขส์ ขุ ของ ราษฎรเป็นอย่างดแี มว้ า่ จะต้องทาํ สงครามกบั พมา่ ตลอดเวลาก็ตาม
พระราชกรณยี กิจทีโ่ ดดเด่นในแตล่ ะดา้ น ดา้ นการปกครอง ด้านการเศรษฐกิจ ยังคงใช้ระบบการปกครองแบบ สมเดจ็ พระเจา้ ตากสินมหาราช กรงุ ศรอี ยธุ ยา ด้านกฎหมาย ทรงทํานุบํารงุ การคา้ ขายทางเรือ และเปน็ การแกไ้ ขเพื่อให้ อยา่ งเตม็ ท่ี ทรงแตง่ สําเภา ราษฎรได้รบั ผลประโยชนม์ าก หลวงออกไปค้าขายทางด้าน ขนึ้ เปดิ โอกาสให้ราษฎรได้ ตะวนั ออกไปถงึ เมอื งจนี ทาง เฝ้าตามรายทาง โดยไม่ต้องมี ด้านตะวนั ตกเฉียงเหนอื ถึง พนักงานตาํ รวจแมน่ ปืนคอยยิง อินเดียตอนใต้ ผลท่ีไดร้ บั จาก ราษฎร การคา้ ของหลวงช่วยบรรเทา ภาระภาษขี องราษฎรไปไดม้ าก
พระราชกรณยี กจิ ทโ่ี ดดเด่นในแต่ละดา้ น ดา้ นการเศรษฐกจิ (ตอ่ ) ทรงสง่ เสริมการนําสินคา้ พื้น เมอื งไปขายทางเรอื ซง่ึ อํานวยผลประโยชนอ์ ย่าง ใหญ่หลวงตอ่ งานสรา้ งชาติ ทาํ ใหร้ าษฎรมีงานทํา มรี ายได้ ท้งั ยงั ฝกึ ใหค้ นไทยเช่ียวชาญ การค้าขาย ป้องกนั มใิ ห้การค้า ตกไปอย่ใู นมือตา่ งชาติ ภาพเศรษฐกจิ สมยั ธนบรุ ี
พระราชกรณียกิจทีโ่ ดดเด่นในแตล่ ะด้าน ดา้ นการคมนาคม ยามว่างจากศกึ สงคราม จะโปรดให้ น่คี ือภาพสมัยธนบรุ ีนะคะ ตัดถนนและขุดคลองมากขึ้น เพื่อ ประโยชน์ในทางคา้ ขาย ฤดหู นาว หากว่างจากศึกสงคราม กจ็ ะโปรด ใหต้ ัดถนน และขุดคลอง จะเห็นได้ จากแนวถนนเก่า ๆ ในเขตธนบรุ ี ซึ่งมีอยู่มากสาย สว่ นการขดุ ชาํ ระ คลองมักมีวตั ถปุ ระสงค์เบ้ืองตน้ เพือ่ ประโยชน์ทางยทุ ธศาสตร์
ด้านศลิ ปกรรม ภาพตวั อยา่ งงการละครท่ีรุ่งเรืองสมัยนั้นนาํ มาเล่นปจั จุบนั ทรงหาโอกาสฟนื้ ฟู และบํารงุ ศิลปกรรมไทย โดยเฉพาะ อย่างย่งิ ทางดา้ นนาฏดรุ ยิ างค์ และวรรณกรรม ด้านนาฏ ดรุ ิยางค์โปรดใหฟ้ น้ื ฟอู ย่างเตม็ ที่ เพอ่ื สรา้ งบรรยากาศที่ ร่นื เริงครกึ ครน้ื เหมอื นคร้งั กรุงเกา่ นบั เปน็ วิธี บาํ รงุ ขวัญท่ี ใกล้ตวั ราษฎรที่สุด มกั จะโปรดให้มีละครและการละเลน่ อย่างมโหฬารในงานสมโภชอย่เู นือง ๆ
ดา้ นศลิ ปกรรม (ตอ่ ) เลม 1 เลม 2 เลม 3 เลม 4 สมเด็จพระเจา้ ตากสินกรุงธนบุรี ทรงพระราชนพิ นธ์บทละคร รามเกยี รต์ไิ ว้ 4 เล่ม สมดุ ไทยแบ่งเป็นตอนไว้ 4 ตอน คอื เล่ม 1 ตอนพระมงกุฎ เล่ม 2 ตอนหนมุ านเกี้ยววานรินจนท้าวมาลวี ราชมา เล่ม 3 ตอนทา้ วมาลีวราชพิพากษา จนทศกรรฐเ์ ข้า เมือง เล่ม 4 ตอนทศกรรฐต์ งั้ พิธีทรายกรด, พระลกั ษณ์ต้อง หอกกบิลพสั ตร์ จนผกู ผมทศกรรฐก์ ับนางมณโฑ
ดา้ นศาสนา เกรด็ เพิมเตมิ โปรดให้ปฏสิ งั ขรณว์ ัดวาอารามตา่ ง ๆ ท่ีรกรา้ งปรกั หัก สมเดจ็ พระเจา ตากสินมหาราช ทรงปฏิสังขรณว ดั ในชมุ ชนธนบรุ ี พังตัง้ แตค่ รั้งพมา่ เขา้ เผาผลาญทาํ ลายและกวาดต้อน ดังนี้ คือ วดั บางยี่เรือเหนือหรือวัดราชคฤหวรวิหาร วดั บางยี่เรือใต ทรพั ยส์ นิ หรือวดั อินทารามวรวิหาร วัดหงสอ าวาสวิหารหรือวดั หงสร ตั นาราม ราชวรวิหาร วัดแจงหรือวดั อรณุ ราชวรารามวรมหาวิหาร และทรง แลว้ โปรดให้อาราธนาพระภิกษุสงฆเ์ ขา้ จาํ วัดตา่ ง ๆ พระราชทานที่ดินในยานชุมชนธนบรุ ีสรา งวดั ซางตาครสู ซึง่ เปน วดั สว่ นพระไตรปฎิ กยังเหลือตกคา้ งอยทู่ ี่ใด กโ็ ปรดใหค้ ดั ลอก คริสตศ าสนา นิกายโรมนั คาทอลิก เมื่อ พ.ศ. 2312 สรา้ งเปน็ ฉบับหลวง แลว้ สง่ คนื กลบั ไปท่เี ดมิ เร่ืองสงั ฆมณฑล พระเจ้าตากสินกรงุ ธนบรุ ี พระราชทานเสรีภาพในการนบั ถือ ศาสนา แตต่ อ่ มาขา้ หลวงทีเ่ ข้ารีต ไดพ้ ยายามห้ามปรามชาว ไทยปฏบิ ัตพิ ธิ ีการทางศาสนา
นโยบายสําคญั ในการแก้ปญั หาเศรษฐกิจ 1.ทรงแกป้ ัญหาเฉพาะหน้าเกย่ี วกบั การอดอยาก และขาดแคลนด้วยการพระราชทานขา้ วสารให้แก่ บรรดาข้าราชการ ทหาร พลเรอื นท้งั ไทยและจีน คนละ 1 ถัง ตอ่ 20 วัน 2.ในระยะแรกทข่ี ึน้ ครองราชย์ เปน็ ภาวะทเ่ี พงิ่ พ้นการอลเวงว่นุ วายจากศึกสงครามจึงยังไมม่ ผี ู้คนจะ ทาํ ไรน่ า พระองคท์ รงแกป้ ญั หาขาดแคลนเฉพาะหน้าดว้ ย การซอ้ื ขา้ วสารจากพ่อคา้ สาํ เภาจีนใน ราคาที่แพง คือ ถงั ละ 2-4-5 บาท เพอ่ื แจกจ่ายคนไทยท้งั ปวง เมื่อข่าวขายข้าวสารได้ราคาแพงใน กรุงธนบรุ แี พรอ่ อกไป 3.โปรดใหข้ ้าราชการผใู้ หญ่และผู้นอ้ ยทํานาปลี ะ 2 คร้ัง ใน พ.ศ.2311 เป็นการแก้ปญั หาความ ขาดแคลน เพราะข้าวสารราคาสงู ถึงเกวยี นละ 2 ชงั่ ราษฎรจึงได้รับความเดือดรอ้ นกนั มาก
นโยบายสาํ คัญในการแก้ปัญหาเศรษฐกจิ 4.ทรงใชก้ ารส่งเสรมิ การค้าขายกบั ตา่ งประเทศ เพื่อเพ่ิมพูนรายได้ใหก้ บั ทอ้ งพระคลัง และพอ่ คา้ ทม่ี ี บทบาทสําคัญในช่วงนีส้ ่วนใหญ่เป็นพอ่ ค้าจีน 5.เพ่มิ พนู รายได้แผน่ ดนิ ดว้ ยการเปดิ โอกาสให้มีการประมลู ผูกขาดเกบ็ ค่าภาคกลางขุดทรพั ย์ทีม่ คี น มาฝังใช้ในกรงุ ศรอี ยธุ ยาท้งั นเี้ พราะในยามบ้านเมอื งจลาจล เพ่มิ เตมิ เสริมร้:ู สมเด็จพระเจา้ ตากสนิ มหาราช (พ.ศ.2310-2325) ทรงเปน็ พระมหา กษัตริยท์ ีย่ ง่ิ ใหญ่ พระองคห์ น่ึงในประวัติศาสตรไ์ ทย ท้ังไดท้ รงบําเพ็ญพระราช กรณยี กจิ อันเป็นประโยชน์ต่อชาติบา้ นเมืองและพสกนกิ รชาวไทยเปน็ อันมาก
แบบอยา่ งความดีนําไปสกู่ ารปฏิบตั ิตน 1.ทรงเปน็ ชาวพทุ ธตวั อย่างในดา้ นความกล้าหาญและความมีศรัทธา มั่นคงในพระพุทธศาสนา 2.ทรงเปน็ กษัตรยิ ท์ ่ีมีพระปรชี าสามารถ มีความกลา้ หาญ เด็ดเดยี่ ว มุ่งม่ัน และอดทน 3.ทรงตั้งใจศึกษาหาความรู้(ทา่ นพดู ไดห้ ลายภาษา) 4.ทรงมคี วามเมตตาตอ่ ประชาชน เนือ่ งจากตอนท่ตี ้ังกรงุ ธนบรุ ีใหม่ๆ บา้ นเมืองเกิดปัญหา ทรงแก้ปญั หารบั ฟงั ปัญหาดว้ ยตวั ของพระองค์ เอง
แบบอยา่ งความดนี ําไปสู่การปฏิบตั ิตน 5.พระองค์ทรงทนทานแก่ความเหน็ดเหน่ือย ท้งั ทรงกล้าหาญและพระปญั ญาก็ เฉียบแหลม มีพระนสิ ัยกล้าได้กลา้ เสยี และพระทยั เร็ว 6.ทรงพระเกษมสําราญและทรงเปน็ กันเองกับประชาชน โปรดเกล้าฯ ใหค้ ณะมชิ ชนั นารเี ข้าเฝ้าแลว้ “…จึงได้ลงประทบั กับเสอื่ ธรรมดา…” นั่งเสมอกับพวก ทมี่ าเข้าเฝา้ อย่างไมถ่ อื พระองคเ์ ลย
สรปุ แบบอยา่ งความดนี าํ ไปสู่การปฏิบัตติ น 1.ความศรัทธา :ศรัทธาในศาสนาท่ตี นเองเคารพนบั ถือ ใส่ใจรว่ มรกั ษา ทํานุบาํ รงุ ศาสนาทีศ่ รัทธาไมท่ ําใหเ้ ส่อื มเสยี เชน่ หมัน่ รกั ษาประเพณีทาง ศาสนาทีต่ นเองนบั ถือไม่ให้ถูกลมื เลือน นายเจษฎาภรณ รงุ รุจี เลขที่ 2 “เอ็งกลัวดาบของขา ศึกแตเอ็งไมกลวั คมดาบของขาหรือ” สมเด็จพระเจา ตากสินมหาราช
สรุปแบบอยา่ งความดนี าํ ไปสูก่ ารปฏิบัติตน น.ส.นันทนภสั ศักดิ์คะทัศน เลขที่ 31 2.ความม่งุ ม่นั ความสามารถ : เม่อื มีเป้าหมายความมุง่ มน่ั น้นั สําคญั ทจี่ ะ นําพาไปสคู่ วามสาํ เร็จ เชน่ มุ่งม่นั พัฒนาตัวเองใหเ้ ก่งข้ึนแลว้ ทาํ ประโยชน์ ในกบั องคก์ ร “มีคาํ จารึกไววา”อันตวั พอ ชื่อวา พระยาตากทนทกุ ขยาก กูชาติ พระศาสนา ถวายแผนดิน ใหเปน พุทธบูชา แดพระศาสนา สมณะ พระพุทธโคดม” สมเด็จพระเจา ตากสินมหาราช
สรุปแบบอยา่ งความดีนาํ ไปสกู่ ารปฏบิ ัตติ น 3.ความเมตตากรณุ า : มคี วามมเี มตตาต่อโลก ต่อสัตว์โลกและมุ่งชว่ ย เหลอื ผู้อื่นทเ่ี ดือดร้อนเม่ือตนมีกําลงั มีความปรารถนาดี คิดสงสารใหผ้ ู้ อ่ืนพน้ ทุกข์ เชน่ ชว่ ยปล่อยสตั ว์ ไถ่ชีวติ ช่วยคณุ ยายข้ามถนน นายเจษฎาพร คาํ หอม เลขที่ 17 เปนความสัตยแ หง ขา ขาทาํ ความเพียรมิไดคิดแคก ายและชีวิต ทั้งนี้จะปรารถนาสมบัติ พัสถานอันใดหามิได ปรารถนาแตจ ะใหส มณะชีพราหมณสตั วโ ลกเปนสุข อยาใหเ บียดเบียน สว นหนึง่ ของประโยคพระราชดํารัส สมเดจ็ พระเจาตากสินมหาราช
สรปุ แบบอย่างความดีนาํ ไปสู่การปฏิบัตติ น น.ส.จุฑาทิพย โสภากุล เลขที่ 26 4.ความเท่าเทยี ม : ทกุ คนเป็นมนษุ ย์เป็นประชาชนความไม่ทะนงถือตนเอง สูงสง่ กว่าใครเป็นสง่ิ พืน้ ฐานท่มี นษุ ยท์ กุ คนพงึ ตอ้ งมี เช่น หากมตี าํ แหน่ง สูงกว่ากไ็ ม่ควรข่มเหงผทู้ ีม่ ีตําแหน่งดอ้ ยกวา่ เปนไพร เขาใกลพ ระเจาแผนดินไมไ ด ขา จะปรึกษาหาฤากับใครเลา สมเดจ็ พระเจา ตากสินมหาราช
สรุปแบบอย่างความดีนาํ ไปส่กู ารปฏบิ ัตติ น 5.ปัญญา ความเพียร : ใช้ความเพยี รพยายาม ใช้ปญั ญาความฉลาด หลกั แหลมให้เกิดประโยชนต์ อ่ ตนเองและผูอ้ นื่ เช่น หม่ันเพยี รตัง้ ใจศึกษา หาความรูเ้ พอื่ ไปพฒั นาชมุ ชน น.ส.จิดาภา งามสมบัติ เลขที่ 25 เราตง้ั ใจวา จะใหพ ระสงฆของเราเปน เชนนน้ั เหมือนกนั เพราะฉะนัน้ ตอไปเมื่อพระ สงฆไ ดบวชแลว หามมิใหสึกและหามมีเมีย สมเดจ็ พระเจาตากสินมหาราช
บทสรปุ ของพระเจา้ ตากสินมหาราช “ พระองคท์ รงเปน็ วรี บรุ ุษทรงกอบกู้เอกราชและอธปิ ไตยของชนชาติไทยให้พ้นจาก การตกเปน็ เมืองข้นึ ของพม่า พระองคท์ รงมีพระวิจารณญาณทชี่ าญฉลาดในการ ย้ายเมืองราชธานจี ากกรงุ ศรีอยธุ ยามาอยธู่ นบรุ ีซงึ่ เหมาะสมกบั สภาพการณ์อยา่ งยงิ่ ตลอดพระชนมช์ พี ได้ทรงสร้างราชอาณาจักรไทยให้เจรญิ กา้ วหนา้ ท้ังทางด้าน การเมอื ง การปกครอง เศรษฐกิจ สังคม วฒั นธรรม การทหาร จนสังคมไทยฟืน้ ตวั ได้อย่างรวดเรว็ หลงั จากทที่ รดุ โทรมมาจากการสงครามเสยี กรุงศรอี ยุธยาเมอื่ พ.ศ.2310 ดังนน้ั จึงเปน็ การสมควรที่ประชาชนชาวไทยไดพ้ ร้อมใจกนั ถวายพระนามพระองค์ว่า “สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช” โดยมพี ระบรมราชานสุ าวรยี ์ของพระองค์เปน็ เครื่องนอ้ มราํ ลกึ ถึงพระราชกรณียกิจอนั ย่งิ ใหญ่ไพศาลของพระองคท์ ีบ่ ริเวณวง เวยี นใหญ่ เขตธนบุรี กรงุ เทพมหานคร ”
สมยั ธนบุรี Goup D ขอบคณุ ครบั /ค่ะ
Search
Read the Text Version
- 1 - 24
Pages: