มาตรการรักษาความปลอดภัยของโรงเรียนบ้านร (1)

ก คานา เอกสารมาตรการรักษาความปลอดภยั การดแู ลชว่ ยเหลอื และคุม้ ครองนักเรยี น โรงเรยี น บา้ นรูสะมแิ ล เลม่ น้ี จัดทาข้ึนเพอ่ื ใช้เป็นแนวทางในการดแู ลความปลอดภัยนักเรียนทุกคนในโรงเรยี น บ้านรสู ะมแิ ล ด้านภยั ทเ่ี กิดจากการใช้ความรนุ แรงของมนุษย์ (Violence) ภัยทเี่ กดิ จากอุบัติเหตุ (Accident) ภัยทเี่ กดิ จากการถูกละเมิดสทิ ธ์ิ (Right) และภยั ท่เี กดิ จากผลกระทบทางสขุ ภาวะทางกายและจิตใจ (Unhealthiness) เนือ่ งจากความปลอดภยั ของนักเรยี น เปน็ เร่อื งที่มีความสาคัญต่อการพฒั นาการศกึ ษา นอกจากจะทาใหน้ ักเรยี นได้เรียนรู้อยา่ งเต็มความสามารถ ยังมผี ลต่อพัฒนาการในด้านอื่นๆ ของนักเรยี น ท้งั เปน็ ปจั จยั ทีจ่ ะสร้างความเชอื่ มัน่ ตอ่ ผู้ปกครองนักเรียนท่ีจะสง่ บุตรหลานมาเรียนท่ีโรงเรียนอีกด้วย การดาเนินงาน อาศัยนโยบายตามคู่มือการดาเนินงานความปลอดภัยสถานศึกษา ของสานักงาน คณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ขอขอบคุณผู้ทีเ่ กี่ยวขอ้ งทุกฝุายทที่ าใหก้ ารจัดทามาตรการรักษาความปลอดภัย การดูแลชว่ ยเหลือ และค้มุ ครองนักเรียนเลม่ น้ี สาเรจ็ ลุลว่ งด้วยดี ผจู้ ดั ทาหวังเป็นอย่างยง่ิ วา่ มาตรการรักษาความปลอดภัยฯ จะเปน็ แนวทางใหส้ ถานศึกษาและหนว่ ยงานทเ่ี กย่ี วข้องดาเนนิ การจัดการเรื่องความปลอดภัยใหก้ ับนกั เรยี น และบคุ ลากรในได้อย่างมีประสิทธภิ าพต่อไป โรงเรยี นบ้านรูสะมิแล

ข สารบัญ หนา้ เรื่อง ก ข คานา 1 สารบญั - นโยบายและการวางแผนการรกั ษาความปลอดภยั การดแู ลช่วยเหลอื 2 และค้มุ ครองนักเรียนของโรงเรยี นบ้านรสู ะมิแล 3 - การวางแผนรักษาความปลอดภัยของโรงเรยี นบา้ นรูสะมแิ ล 4 - ความไม่ปลอดภัยในแต่ละดา้ นของโรงเรยี นบา้ นรูสะมแิ ล - มาตรการความปลอดภัยที่เกดิ จากภัยท่เี กดิ จากการใช้ 6 ความรนุ แรงของมนุษย์ (Violence) ๑0 - มาตรการความปลอดภัยทเี่ กดิ จากภยั ทเ่ี กิดจากอบุ ัตเิ หตุ (Accident) ๑1 - มาตรการความปลอดภยั ท่ีเกิดจากการถกู ละเมิดสทิ ธ์ิ (Right) - มาตรการความปลอดภัยที่เกดิ จากผลกระทบทาง สุขภาวะทางกายและทางจิต (Unhealthiness)

๑ มาตรการรักษาความปลอดภยั การดแู ลช่วยเหลือและคมุ้ ครองนกั เรยี น โรงเรียนบ้านรสู ะมแิ ล สานกั งานเขตพ้นื ทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษาปตั ตานี เขต ๑ 1. นโยบายและการวางแผนการรักษาความปลอดภัย การดูแลช่วยเหลอื และคุ้มครองนักเรยี น ของโรงเรียนบา้ นรสู ะมิแล สานักงานเขตพ้ืนทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษาปัตตานี เขต ๑ นกั เรียน คือ หวั ใจของการจัดการศึกษา โรงเรยี นบา้ นรูสะมิแลมคี วามตระหนักในความสาคญั และเลง็ เห็นความจาเป็นเร่งด่วนที่ผทู้ มี่ ีส่วนเกี่ยวขอ้ งทกุ ฝุาย จะตอ้ งรว่ มกันหาแนวทางท่ีเปน็ รปู ธรรม ในการ ดแู ลชว่ ยเหลือนกั เรียนใหไ้ ด้เรียนรอู้ ย่างมีความสุข เป็นไปตามหลักสูตร มีทักษะชีวิตท่จี ะดแู ลตนเองให้ ปลอดภยั ท่ามกลางสภาพแวดลอ้ มทางสังคม อุบัติเหตุ และอุบตั ิภยั ท่จี ะก่อให้เกดิ ความเสยี หายแก่นักเรียน ดงั น้นั โรงเรยี นบา้ นรสู ะมิแลซึ่งมีภารกจิ และความรบั ผิดชอบในการจัดการศึกษา ต้องดาเนนิ การอย่างทวั่ ถึง มคี ุณภาพ ๑) เปา้ ประสงค์ (๑) เพื่อใหม้ รี ูปแบบแนวทางการรักษาความปลอดภัยของโรงเรยี นบ้านรสู ะมแิ ลด้านความ ปลอดภยั ทเ่ี กดิ จากการใชค้ วามรุนแรงของมนุษย์, อุบตั ิเหตุ, การถกู ละเมดิ สิทธิ์ และผลกระทบทางสขุ ภาวะ ทางกายและจิตใจ โดยอาศยั แนวคดิ เชงิ สรา้ งสรรค์ภายใต้หลักการกระจายอานาจ การมีสว่ นร่วม และยึด ประโยชนส์ ูงสดุ ของนักเรียนเปน็ สาคญั (๒) เพ่ือสร้างความเข้มแข็งระบบการรกั ษาความปลอดภัยของโรงเรียนบ้านรสู ะมิแลใหม้ คี วามพร้อม สามารถปูองกนั และแก้ไขสถานการณ์ปัญหาของนักเรียน ทั้งด้านความปลอดภัยที่เกิดจากการใช้ความรุนแรง ของมนุษย์, อุบัติเหตุ, การถูกละเมิดสิทธ์ิ และผลกระทบทางสุขภาวะทางกายและจิตใจ ท่ีจะเกิดขึ้นกับ นักเรยี นอย่างมีประสิทธภิ าพ (๓) เพื่อให้นักเรียนทุกคนได้รับการปกปูอง การดูแลช่วยเหลือ และคุ้มครองความปลอดภัย ทั้งด้านความปลอดภัยท่ีเกิดจากการใช้ความรุนแรงของมนุษย์, อุบัติเหตุ, การถูกละเมิดสิทธิ์ และผลกระทบ ทางสุขภาวะทางกายและจิตใจ โดยนักเรียนจะได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด และสามารถอยู่ในสังคมได้อย่าง ปลอดภยั และมีความสขุ (๔) เพ่ือสรา้ งความตระหนกั ในการรกั ษาความปลอดภยั ของโรงเรยี นบ้านรสู ะมิแล โดยการให้ ความรู้ ความเข้าใจ แกผ่ ทู้ ี่รบั ผิดชอบ และผทู้ ี่มีส่วนเก่ยี วข้องกับการรักษาความปลอดภัยในโรงเรียน ๒) เปา้ หมาย (๑) นักเรียนทกุ คนในโรงเรียนบ้านรูสะมิแลไดร้ ับการคุ้มครองดแู ลความปลอดภัย (๒) ผู้บริหารสถานศึกษา ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ผู้ปกครองนักเรียน และผ้มู ีส่วนเก่ยี วข้องมีแนวทางในการปูองกันและรักษาความปลอดภยั นักเรียน (๓) เครือข่ายหน่วยงานภาครัฐและเอกชน มีส่วนร่วมในการดูแลความปลอดภัยให้แก่ นกั เรยี น

๒ ๓) ยุทธศาสตร์ (๑) โรงเรยี นบา้ นรูสะมแิ ลจดั ระบบการรักษาความปลอดภัยของนักเรยี น โดยการมีส่วนร่วม ของ ครู ผปู้ กครอง ผู้มสี ว่ นเก่ียวข้อง และเครือข่ายท้ังภาครัฐและเอกชนอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ (๒) กาหนดมาตรการรกั ษาความปลอดภยั ของนักเรียนในโรงเรยี นบา้ นรูสะมิแล (๓) มีการกากับ ติดตาม ประเมนิ ผลและรายงาน ๒. การวางแผนรกั ษาความปลอดภยั ของโรงเรียนบา้ นรูสะมิแล แนวทางการวางแผนการรักษาความปลอดภัยให้แก่นักเรียน เน้นการมีส่วนร่วมระหว่างนักเรียน ครู ผู้ปกครอง ชุมชน ผู้มีส่วนเก่ียวข้อง และเครือข่าย โดยร่วมกันวางแผนปูองกัน แก้ไข ควบคุม กากับ ติดตาม ประเมินผลและรายงาน จึงจาเป็นต้องมีมาตรการและกิจกรรมเพ่ือให้รับประโยชน์สูงสุดตามเจตนารมณ์ของ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๔๒ และท่ีแก้ไขเพ่ิมเติม (ฉบับท่ี ๒ ) พ.ศ.๒๕๔๕ และ พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.๒๕๔๖ พร้อมทั้งนโยบายของสานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน ดังนี้ ขน้ั ตอน ภารกจิ 1. ประเมนิ สภาพความเส่ียง ศกึ ษาสภาพทวั่ ไปของโรงเรยี น ชุมชน เพอื่ วิเคราะห์ความเส่ียงจากการเกิด ด้านความปลอดภยั และจัดลาดับ อบุ ัติเหตุ อบุ ัติภัย ภัยจากสภาพแวดล้อม และภยั อนื่ ๆ และประเมนิ ความเสย่ี ง ความเสย่ี ง พร้อมทงั้ จัดลาดบั ความเส่ยี ง 2. จดั ทาแผนการดาเนินการ จัดทาแผนการดาเนินการความปลอดภัย กาหนดเวลาและผู้รับผดิ ชอบอยา่ ง ความปลอดภัย ชดั เจน และสามารถปฏิบัติได้ โดยเน้นมาตรการท่เี ขม้ งวดในมาตรการ 3 ป ดงั นี้ - ป การปอู งกนั - ป การปลูกฝงั - ป การปราบปราม 3. ดาเนินการตามมาตรการ ดาเนินงานตามมาตรการท่กี าหนดในแผนการดาเนินงานความปลอดภยั ฯ 4. ดาเนนิ การตามขอบขา่ ย ดาเนินการตามขอบข่ายความปลอดภยั ท้งั 4 ดา้ นอยา่ งเปน็ ข้ันตอนและ ความปลอดภัย ถูกต้องตามกจิ กรรม 3 ป ทกี่ าหนดไว้ 5. กากับ ตดิ ตามและ กากับ ตดิ ตามและประเมินผลการดาเนินการตามขอบข่ายความปลอดภยั ประเมนิ ผล อยา่ งตลอดการดาเนนิ การ

๓ ความไม่ปลอดภัยในแต่ละดา้ นของโรงเรียนบ้านรูสะมแิ ล 1) ภัยทเ่ี กดิ จากการใชค้ วามรนุ แรงของมนุษย์ (Violence) - การทะเลาะวิวาท - การกลน่ั แกลง้ รงั แก 2) ภัยทเี่ กดิ จากอุบัตเิ หตุ (Accident) - ภยั ธรรมชาติ - ภยั จากอาคารเรียน สิง่ ก่อสรา้ ง - ภัยจากยานพาหนะ - ภยั จากเครื่องมือ อปุ กรณ์ 3) ภยั ทีเ่ กดิ จากการถกู ละเมิดสทิ ธ์ิ - การถกู ปลอ่ ยปละละเลย 4) ภัยที่เกิดจากผลกระทบทางสขุ ภาวะทางกายและจติ ใจ - ตดิ เกม - โรคระบาดในมนุษย์ - ภยั ไซเบอร์ - ภาวะทพุ โภชนาการ

๔ แนวทางปฏิบัติ

ปญั หา ๑. มาตรการความปลอดภยั ทเี่ กิดจากภยั ๑. การทะเลาะวิวาท การปอ้ งกนั 1. จัดทาขอ้ มูลนกั เรียนรายบุคคล 2. จัดทาคู่มอื นักเรยี นเกี่ยวกับ กฎระเบียบของโรงเรียน 3. ประชมุ ช้ีแจงทาความเข้าใจในก ปฏิบัตติ นตามระเบยี บ 4. กาหนดขอ้ ตกลงในการปฏิบตั ิตน หอ้ งเรยี น และการอยู่ร่วมกันใน โรงเรียน 5. ให้การอบรมและให้ความรู้แก่ นักเรียน โดยใชห้ ลักการทางศาสนา อิสลามเป็นพื้นฐาน เชน่ ใหร้ กั ระห เพื่อนด้วยกัน มีความสามคั คี ช่วยเหลือซงึ่ กนั และกัน ในชว่ั โมงโฮ รูม แนะแนว และการอบรมหน้าเส 6. ขอความรว่ มมือผ้ปู กครองอบรม ดูแลนกั เรียน และเป็นแบบอย่างทด่ี ขณะอย่ทู ่ีบ้าน 7. จดั ระบบติดต่อส่อื สารเพื่อตดิ ตา พฤติกรรมนักเรียนอย่างต่อเน่ือง

๕ ยท่ีเกดิ จากการใชค้ วามรุนแรงของมนษุ ย์ (Violence) แนวทางปฏิบตั ิ การปลูกฝัง การปราบปราม ๑. จดั กจิ กรรมอบรมคุณธรรมจรยิ ธรรม ๑. แตง่ ตั้งคณะทางานเพื่อระงับเหตุใน ๒. สง่ เสรมิ ให้นกั เรียนละหมาดวนั ศกุ ร์ โรงเรยี น เพือ่ ได้ฟังบรรยายธรรมก่อนละหมาด ๒. ดาเนินการตามข้อตกลงเมื่อนกั เรยี น การ (คตุ บะห์) กระทาผดิ หรือก่อปญั หา เพื่อเปน็ ๓. ขอความรว่ มมือผ้ปู กครองอบรมดูแล แบบอย่างให้กบั คนอนื่ นใน นกั เรียน และเปน็ แบบอย่างที่ดีขณะอยู่ ๓. เยี่ยมเยียน ให้กาลังใจผู้ถูกกระทา ท่ีบ้าน และสรา้ งความเขา้ ใจกบั ผกู้ ระทา ๔. จัดเวทใี หน้ ักเรยี นแสดงออกตาม ความสามารถอย่างเหมาะสม เช่น เวที า เด็ก หวา่ ง ฮม สาธง ม ดี าม

ปญั หา ๑. มาตรการความปลอดภัยที่เกิดจากภัยทเี่ ๒. การกล่นั แกลง้ รังแก การปอ้ งกนั ๑. ใหก้ ารอบรมและใหค้ วามรู้แก่ นกั เรยี น โดยใชห้ ลักการทางศาสนา อสิ ลามเป็นพน้ื ฐาน เชน่ ให้รักระห เพ่อื นด้วยกนั มคี วามสามคั คี ช่วยเหลอื ซงึ่ กันและกนั ในชัว่ โมงโฮ รูม แนะแนว และการอบรมหน้าเส ๒. กาหนดขอ้ ตกลงในการปฏิบตั ติ น ห้องเรียน และการอยรู่ ่วมกนั ใน โรงเรยี น ๓. ขอความรว่ มมือผปู้ กครองอบรม ดแู ลนกั เรียน และเปน็ แบบอย่างท่ีด ขณะอยู่ที่บ้าน ๔. จัดระบบติดตอ่ สอ่ื สารเพ่ือติดตา พฤติกรรมนักเรยี นอย่างต่อเน่ือง

๖ เกดิ จากการใช้ความรุนแรงของมนษุ ย์ (Violence) (ต่อ) แนวทางปฏบิ ตั ิ การปลูกฝงั การปราบปราม ๑. จัดกิจกรรมอบรมคุณธรรม จริยธรรม ๑. แต่งตัง้ คณะทางานเพื่อระงับเหตุใน า ๒. ส่งเสริมให้นักเรยี นละหมาดวันศกุ ร์ โรงเรยี น หว่าง เพอ่ื ได้ฟงั บรรยายธรรมก่อนละหมาด ๒. ดาเนนิ การตามข้อตกลงเม่ือนกั เรยี น (คุตบะห)์ กระทาผดิ หรือก่อปญั หา เพ่อื เป็น ฮม ๓. ขอความร่วมมือผู้ปกครองอบรมดแู ล แบบอยา่ งให้กับคนอนื่ สาธง นกั เรียน และเป็นแบบอยา่ งท่ีดขี ณะอยู่ ๓. เยย่ี มเยอื น ใหก้ าลังใจผู้ถูกกระทา นใน ที่บา้ น และสร้างความเขา้ ใจกับผกู้ ระทา ๔. จัดเวทใี หน้ ักเรียนแสดงออกตาม ความสามารถอย่างเหมาะสม เชน่ ม บทบาทสมมติ ดี าม

ปัญหา ๒. มาตรการความปลอดภยั ท่เี 3. ภยั ธรรมชาติ การป้องกนั (นา้ ทว่ ม, น้าทะเลหนุน) 1. สารวจขอ้ มลู ความเสีย่ งท่เี กดิ ข้นึ เปน็ ประจา เชน่ ชว่ งเดือนที่จะมีพาย ทาใหเ้ กิดนา้ ท่วม วนั เวลาทีน่ ้าทะเล หนนุ 2. ตดิ ตามข่าวสารการพยากรณ์ อากาศจากแหล่งข้อมลู ต่าง ๆ เชน่ วิทยุ โทรทศั น์ โทรศพั ท์ อืน่ ๆ 3. ยกสิง่ ของให้อยู่ท่สี งู ในชว่ งฤดูฝน และเตรยี มน้าดื่ม เครื่องอุปโภค บริโภค ไฟฉาย แบตเตอรี่ เรอื เพอื่ การคมนาคมให้พร้อม 4. ไม่ลงเล่นนา้ ไม่ขบั รถผ่านน้าทีม่ ี การไหหลากแม้อยูบ่ นถนน 5. ถา้ มีน้าทว่ มขังเปน็ เวลานาน ควร ระวังโรคระบาดท่มี าจากน้า รบั ประทานอาหารและน้าทสี่ ะอาด และปรุงสกุ 6. ปรบั ปรงุ ทางไหลของน้าให้อยใู่ น สภาพทใ่ี ช้งานได้ตลอดเวลา

๗ เกิดจากภัยทีเ่ กิดจากอบุ ัตเิ หตุ (Accident) แนวทางปฏิบัติ การปลกู ฝงั การปราบปราม 1. การสร้างจิตสานกึ และความตระหนกั ใน 1. การช่วยเหลอื เยียวยา ฟ้ืนฟู จติ ใจ ยุ การรบั รแู้ ละเขา้ ใจดา้ นความปลอดภยั ผปู้ ระสบเหตคุ วามไม่ปลอดภัย โดยการ ล ใหก้ บั ผเู้ รียนโดยสอดแทรกลงในกลุม่ สาระ บรจิ าคส่งิ ของท่ีมีความจาเป็นเบ้ืองตน้ การเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ หรืออื่น ๆ เพอ่ื เช่น อาหารและนา้ ดื่ม สามารถนาไปใช้ไจริงเม่ือเกิดเหตุการณ์ขึน้ ๒. ประสานความร่วมมือกบั หนว่ ยงานท่ี 2. จัดกจิ กรรมใหค้ วามรเู้ กย่ี วกบั การดูแล เกยี่ วขอ้ งเพื่อส่งตอ่ ในกรณีทีเ่ กดิ ความ และปอู งกนั ตนเองจากอันตรายและโรคท่ี รุนแรง เกิดขึ้นเมื่อมีน้าท่วมขังในชุมชน โดย 3. จัดชอ่ งทางการส่อื สารท่สี ะดวก ร่วมกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจา รวดเร็วเม่อื เกิดปัญหา ตาบล 4. ตดิ ตามผลการดาเนินงานอยา่ ง ต่อเนื่อง

ปัญหา 2. มาตรการความปลอดภัยท่เี กิด ๔. ภัยจากอาคารเรยี น ส่ิงก่อสร้าง การป้องกนั ๑. จัดต้งั คณะกรรมการตรวจสอบ สภาพอาคารต่างๆ ให้อยใู่ นสภาพ ปลอดภัย ๒. บารุงรักษาอาคารให้อยู่ในสภาพท ปลอดภัยพรอ้ มใช้ ๓. จัดทาปาู ยแจง้ เตือนห้ามมิให้ใช้ เม่อื สภาพอาคารชารดุ ๔. ใหค้ วามรู้นักเรยี นในการปฏบิ ตั ิตน ทเ่ี หมาะสมเม่ือเจอสภาพอาคารท่อี ย ในสภาวะชารดุ ๕. ซักซ้อมแผนเผชญิ เหตเุ พอื่ ให้ นักเรยี นได้เรยี นรู้วิธีการแก้ปัญหาเมื่อ เกิดเหตุ ๖. จัดเตรยี มอปุ กรณ์ปฐมพยาบาลให พร้อมใช้

๘ ดจากภยั ทเ่ี กิดจากอุบตั ิเหตุ (Accident) (ต่อ) แนวทางปฏบิ ัติ การปลูกฝงั การปราบปราม ๑. สอดแทรกความรู้ ความเข้าใจผ่าน ๑. จดั ช่องทางการส่ือสารทีส่ ะดวก การบูรณาการในการจดั การเรียนการสอน รวดเร็วเมื่อเกดิ ปญั หา และในกิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น ๒. ประสานความรว่ มมือกับหนว่ ยงานท่ี ท่ี 3. จดั กิจกรรมฝกึ ทักษะการเอาตวั รอดเม่อื เกยี่ วข้องเพื่อส่งตอ่ ในกรณีท่เี กิดความ ประสบภยั จากอาคารเรยี น และสงิ่ ก่อสร้าง รนุ แรง ๓. ติดตามผลการดาเนนิ งานอย่าง ตอ่ เน่ือง น ยู่ อ ห้

ปัญหา ๒. มาตรการความปลอดภยั ท่ีเกิดจา 5. ภัยจากยานพาหนะ การปอ้ งกนั ๑. สถานศึกษา ผูป้ กครอง และชมุ ชน รว่ มมือกันกาหนด มาตรการรับ-สง่ นกั เรียนตอนเช้าและเลกิ เรยี น ๒. ใหค้ วามร้นู กั เรยี นในการปฏิบตั ติ น ทเ่ี หมาะสมในการขับข่ียานพาหนะ การโดยสารสญั จร และการปูองกัน อบุ ตั เิ หตจุ ากการจราจร ๓. กาหนดเวรรับผิดชอบประจาวนั เพอื่ ให้การดูแลนักเรียนในขณะ เดินทางไป-กลบั โรงเรียน ๔. ซักซ้อมแผนเผชญิ เหตเุ พ่อื ให้ นักเรียนได้เรยี นรวู้ ธิ กี ารแก้ปัญหา ๕. จัดเตรยี มอปุ กรณป์ ฐมพยาบาลให พรอ้ มใช้

๙ ากภยั ท่เี กดิ จากอบุ ตั ิเหตุ (Accident) (ต่อ) การปราบปราม แนวทางปฏิบัติ ๑. จดั ช่องทางการส่ือสารทีส่ ะดวก การปลกู ฝงั รวดเร็วเมื่อเกดิ ปญั หา น ๑. จัดกิจกรรมใหค้ วามรเู้ ร่ืองการใช้รถ ใช้ ๒. ประสานความรว่ มมือกับหนว่ ยงานท่ี ถนนและเคร่ืองหมายจราจร เกย่ี วขอ้ งเพื่อส่งตอ่ ในกรณีท่เี กิดความ ๒. สอดแทรกความรู้ ความเข้าใจผ่าน รุนแรง น การบรู ณาการในการจัดการเรียนการสอน ๓. ติดตามผลการดาเนนิ งานอย่าง และในกิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น ตอ่ เนอ่ื ง ห้

ปญั หา ๒. มาตรการความปลอดภัยท่ีเกิดจา 6. ภัยจากเคร่อื งมอื อปุ กรณ์ การป้องกนั 1. หมั่นตรวจสอบสภาพเคร่ืองมอื และ บารงุ รกั ษาเครื่องมอื อปุ กรณ์ให้พร้อม ใช้งานเสมอ 2. การฝกึ อบรมใหน้ ักเรียนได้ใช้งาน จากเครื่องมืออุปกรณ์ได้อย่างถูกต้อง 3. ปฏิบัติตามกฎระเบียบ เช่น กติก ขอ้ ตกลงของการทางานอยา่ ง เคร่งครัด 4. การมปี ูายห้าม ปูายเตือนอุปกรณ ทม่ี อี ันตราย

๑๐ ากภยั ท่ีเกิดจากอุบตั เิ หตุ (Accident) (ตอ่ ) การปราบปราม 1. ดาเนนิ การ จดั การแก้ปัญหา โดยมี แนวทางปฏบิ ตั ิ ครทู ่ีปรกึ ษา เช่น ครูเกษตร,ครปู ระจาช้นั การปลกู ฝัง ครูแนะแนว, ผ้ปู กครอง ฯลฯ เพ่ือความ ะ 1. สร้างความตระหนกั ความสาคัญถึง ปลอดภัย ม ผลเสยี ของการใชว้ สั ดุอปุ กรณ์การเกษตร เชน่ จอบ,มดี ,กรรไกร ,ฯลฯ น 2.สร้างความร้คู วามเขา้ ใจเกี่ยวกบั การใช้ ง เคร่ืองมอื อปุ กรณ์ ในกล่มุ สาระการงาน กา อาชีพและฐานการเรียนรู้ 3. ฝกึ ทักษะการใช้ การบารุงรกั ษา การ จดั เกบ็ เครื่องมือ อปุ กรณ์ จากกจิ กรรม ณ์ ชมุ นุม กจิ กรรมฐานการเรยี นรู้

ปัญหา ๓. มาตรการความปลอดภัยท 7. การถกู ปล่อยปละ ละเลย ทอดท้ิง การป้องกนั 1. ครรู จู้ กั เด็กนกั เรยี นเป็นรายบุคคล โดยการเยี่ยมบา้ น การคัดกรอง การ ปอู งกนั การแก้ปัญหา และการให้ คาปรกึ ษา 2. ผู้บรหิ ารสถานศกึ ษากากบั ให้ครูท ปรึกษา ครผู สู้ อนหมน่ั สงั เกตสภาพ รา่ งกายเด็กนกั เรยี นทุกคร้งั ก่อนทา การสอน 3. การส่งเสรมิ พัฒนาเดก็ นักเรยี น ดา้ นความสามารถตามความถนดั ความสนใจ และความตอ้ งการของ เดก็ นักเรยี น ตลอดจนคณุ ลักษณะที่ จะชว่ ยเสริมสรา้ งให้เดก็ นักเรียนมี คุณภาพ และมีภมู คิ ุ้มกนั การดาเนนิ ชวี ิต 4. หนว่ ยงานของรฐั ใหค้ วามสาคญั กับปัญหา และรว่ มมือกนั แก้ปญั หา อย่างจริงจงั

๑๑ ท่ีเกิดจากการถูกละเมดิ สิทธ์ิ (Right) แนวทางปฏบิ ตั ิ การปลกู ฝงั การปราบปราม ล 1. จดั กจิ กรรมส่งเสริมความตระหนักรแู้ ละ 1. แต่งตัง้ คณะทางานให้ความชว่ ยเหลอื เหน็ คณุ ค่าในตนเอง เรง่ ด่วน ท่สี ามารถให้ความชว่ ยเหลือได้ 2. จัดกิจกรรมพฒั นาชีวิตอย่างรอบดา้ น ทันเหตกุ ารณ์ 3. ฝึกทกั ษะการปฏิเสธการเอาตวั รอด 2. แต่งต้ังคณะทางานใหค้ วามช่วยเหลือ ที่ และการขอความชว่ ยเหลอื ด้านกฎหมาย 3. ประสานภาคีเครือข่ายเพ่ือร่วม แกป้ ัญหา 4. ตดิ ตามเยีย่ มเยียนใหก้ าลงั ใจอยา่ ง สมา่ เสมอ 5. ใหค้ วามช่วยเหลอื เบอื้ งตน้ ได้แก่ เงิน ทุนการศึกษา ปจั จยั พืน้ ฐานในการ ดารงชวี ิต ฯลฯ 6. เมื่อสถานการณเ์ ด็กนักเรยี นดขี ึ้น สถานศึกษาตอ้ งดาเนินการปูองกนั และ พฒั นาในสภาพปญั หาต่อไป เช่น การ กาหนดบรเิ วณปลอดภัย การเสรมิ ทักษะ การดแู ลเด็กนักเรยี น ทักษะการจดั การ กับปญั หา และทกั ษะทางสังคมใหก้ บั ผูป้ กครองหรือผู้ทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง

ปญั หา ๔. มาตรการความปลอดภัยท่เี กิดจากผลกระท 8. ตดิ เกม การปอ้ งกนั 1. สารวจขอ้ มูลนักเรียนกลุ่มเส่ยี ง 2. กาหนดมาตรการกากับดูแล กรณ นกั เรยี นติดเกมเพ่ือปฏบิ ัติรว่ มกัน 3. สรา้ งความตระหนัก ให้ความรู้ ความเขา้ ใจ ประโยชนแ์ ละโทษของ การเลน่ เกม 4. จัดบรรยากาศและสภาพแวดลอ้ ม ในโรงเรียนใหเ้ อื้อต่อการเรียนรู้ 5. ขอความร่วมมือจากผ้ปู กครอง ช่วยดูแลนักเรยี นเร่ืองการเล่นเกม 6. จดั กจิ กรรมสรา้ งภูมิคุ้มกนั เพ่ือ พัฒนาทกั ษะชีวติ รว่ มกนั ระหวา่ ง บา้ น โรงเรียน และชมุ ชน

๑๒ ทบทางสุขภาวะทางกายและทางจิต (Unhealthiness) แนวทางปฏบิ ตั ิ การปลกู ฝัง การปราบปราม 1. ให้คาแนะนา ปลกู ฝัง ให้ร้ผู ลดี ผลเสยี 1. จัดต้ังคณะทางานเพ่ือดูแล ติดตาม ณี ในด้านต่างๆของการเล่นเกมมากเกินไป พฤติกรรมนักเรยี นรว่ มกนั ระหวา่ ง เช่น ขาดประสบการณ์ ขาดทักษะ ไม่ได้ โรงเรยี นกบั ชุมชน ทากจิ กรรมในด้านอน่ื ๆ 2. เชิญผู้ปกครองพบปะพูดคุยปัญหา ง 2. สง่ เสรมิ หรือกาหนดกจิ กรรมใหน้ กั เรียน หรอื เย่ียมบา้ น เพ่อื สบื เสาะหา ได้ใช้คอมพวิ เตอรแ์ ละอนิ เตอร์เน็ตเปน็ ขอ้ เทจ็ จริง หาแนวทางแก้ไขเพ่ือสร้าง ม เคร่ืองมือในการใชป้ ระโยชนด์ ้าน สมั พนั ธภาพอันดีระหว่างนักเรียน การศกึ ษา หาแหล่งเรียนรู้ โดยคน้ งาน ผูป้ กครอง และโรงเรียน จากอินเตอรเ์ น็ตมานาเสนอ แสวงหา 3. ปรับพฤติกรรม สง่ เสรมิ การจัด ความรู้ทที่ ้าทา้ ย เสรมิ สรา้ งความรสู้ ึกมี กจิ กรรมสรา้ งแรงจงู ใจ และการ คณุ ค่าในตนเอง เสริมแรงอย่างเหมาะสมและต่อเน่ือง 4. ประสานกับพ่อแม่ผปู้ กครองและ หน่วยงานท่เี กีย่ วข้องร่วมกนั ออกไป ตรวจสอบแก้ปญั หา เพ่อื ปูองกนั ไม่ให้ เด็กนกั เรยี นเข้าไปมั่วสุมตามร้านเกม หรอื รา้ นอินเทอร์เน็ตต่างๆ จนเด็กติด เกม

๔. มาตรการความปลอดภยั ทเ่ี กิดจากผลกระทบท ปญั หา การป้องกนั 9. โรคระบาดในมนุษย์ 1. สารวจข้อมูลด้านสุขภาพขอ นักเรยี นเปน็ รายบุคคล 2. จดั ทาแผนการเฝูาระวังในกา ปอู งกนั โรคระบาดในมนุษย์ 3. เชิญวทิ ยากรจากหนว่ ยงาน สาธารณสขุ มาให้ความร้เู กย่ี วกับโรค วิธกี ารปูองกนั โรค และการเฝูาระวัง โรค 4. แนะนาวธิ ีการดูแลสขุ อนามัยสว่ น บุคคลเพ่ือปูองกัน และลดการแพร่ เชื้อ 5. บริการวัสดอุ ุปกรณ์ในการปูองกัน โรคระบาด 6.ร่วมประสานงานกบั หน่วยงาน สาธารณสุขเพื่อเฝาู ระวงั ใน สถานศึกษาและชมุ ชน 7. ใชร้ ะบบไลน์หรอื ใช้ โทรศพั ท์เคล่ือนที่ติดต่อสื่อสารเพือ่ ติดตามข้อมูลด้านสุขภาพอนามยั อย่างต่อเนื่อง

๑๓ ทางสุขภาวะทางกายและทางจิต (Unhealthiness) (ตอ่ ) แนวทางปฏิบตั ิ การปลกู ฝัง การปราบปราม อง 1. จัดบอรด์ ใหค้ วามรูค้ วามเข้าใจเรือ่ งการ 1. แต่งตงั้ คณะทางานเพ่ือเฝูาระวงั โรค อยู่รว่ มกนั ในสงั คมและผลกระทบทเ่ี กดิ ระบาดในสถานศึกษาและชมุ ชน าร จากการโรคท่ีกาลังระบาด 2. ประสานเครือขา่ ยการมสี ่วนรว่ มเพื่อ 2. เชิญวทิ ยากรจากหน่วยงานสาธารณสุข ร่วมแกป้ ัญหาโรคระบาดอย่างจริงจัง เพ่อื ใหค้ วามร้แู ละการปฏบิ ตั ติ นอยา่ ง 3. ร่วมเดนิ รณรงคแ์ ละเฝูาระวังอย่าง ถกู ต้องเกดิ ทักษะเพ่ือสรา้ งความปลอดภัย เข้มงวด จากโรค 4. การวางแผนการเยยี วยาโดย 3. จดั กิจกรรมหนา้ เสาธงเพื่อสร้าง มอบหมายให้ผู้เกยี่ วข้องประสานกบั น จติ สานึกให้นกั เรียนเกิดความรบั ผิดชอบตอ่ ผู้ปุวยมารบั ค่าเยยี วยาเพื่อเป็นขวญั ตนเองและสังคมอย่างหมาะสม กาลงั ใจ 4. จดั กจิ กรรมเสรมิ สรา้ งทกั ษะ 5. การส่งต่ออาการท่ีควรส่งต่อโดย น ประสบการณ์ และสมรรถนะดา้ นความ สังเกตจากอาการมีพฤตกิ รรมและนิสยั ปลอดภยั ให้นกั เรียน เชน่ การปฐมพยาบาล เปล่ยี นไปจากเดิม เบ้ืองตน้

๔. มาตรการความปลอดภัยทเ่ี กิดจากผลกระทบท ปญั หา การปอ้ งกัน 10. ภยั ไซเบอร์ 1. ครปู ระจาชน้ั สารวจข้อมูลการใช้ งานระบบไซเบอร์ของนักเรียน รายบคุ คล เช่น LINE, Facebook, TikTok เปน็ ตน้ 2. ครูประจาชนั้ และนักเรยี นร่วมกัน กาหนดข้อตกลงเก่ยี วกบั การใชง้ าน ระบบไซเบอร์ เพ่อื ปฏิบัตริ ่วมกนั 3. โรงเรยี นสรา้ งเครือข่ายเฝาู ระวัง โดยมบี ุคคลภายในและภายนอก เป็น สมาชกิ ของเครือขา่ ย 4. โรงเรียนจัดตั้งระบบสื่อสารเพือ่ ให เครือข่ายเฝาู ระวงั รายงานพฤตกิ รรม การใชง้ านระบบไซเบอร์ของนักเรียน รายบุคคลอยา่ งตอ่ เน่อื ง

๑๔ ทางสขุ ภาวะทางกายและทางจติ (Unhealthiness) (ต่อ) แนวทางปฏิบตั ิ การปลูกฝงั การปราบปราม 1. สมาชิกในเครือข่ายเฝูาระวัง สรา้ ง 1. แตง่ ตง้ั คณะทางานโดยมคี าสง่ั ท่ี ความรูค้ วามเข้าใจถึงผลกระทบจากการใช้ ชัดเจน เพอื่ เฝาู ระวังและระงับเหตทุ ั้งใน งานระบบไซเบอร์โดยขาดวิจารณญาณใน และนอกโรงเรยี น ชวั่ โมงพัฒนาคุณธรรม จรยิ ธรรม ของ 2. ประสานเครือข่ายเฝาู ระวัง เพอ่ื รว่ ม น นกั เรยี น แกป้ ัญหาหากตรวจพบปญั หา 2. จดั กจิ กรรมส่งเสริมการคดิ วิเคราะห์ 3. ดาเนินการเอาผดิ ผทู้ ีท่ าความผดิ ตาม และใช้เวลาวา่ งให้เป็นประโยชน์ ภาคเรียน ขอ้ ตกลงที่ไดท้ ารว่ มกนั ละ 1 ครั้ง โดยจัดเป็นฐานเวยี นเพ่ือเรยี นรู้ 4. ตดิ ตาม เย่ยี มเยยี น เพื่อสรา้ งขวัญ น 3. จดั กิจกรรมเสริมหลักสตู รท่สี นองต่อ และกาลงั ใจให้กับนักเรียนและสมาชิกใน ความสนใจของนกั เรียนอย่างหลากหลาย เครือข่าย อย่างต่อเน่ือง ห้ ม น

๔. มาตรการความปลอดภัยทเ่ี กดิ จากผลกระทบท ปญั หา การปอ้ งกัน 11. ภาวะทุพโภชนาการ 1. สารวจนักเรียนกลุ่มเสี่ยง และกลมุ่ ที่มีภาวะทุพโภชนาการ 2. เสรมิ สรา้ งความร่วมมอื ระหวา่ ง โรงเรียน ครอบครัว ชุมชนและผู้มี สว่ นเกีย่ วข้อง เช่น กิจกรรมประชุม ผปู้ กครอง, ประสานร่วมมือกับ โรงพยาบาลสง่ เสรมิ สุขภาพ 3. จดั ทาปาู ยนิเทศ สอื่ ประชา สมั พันธ์ใหค้ วามรเู้ กย่ี วกับภาวะ โภชนาการและการปูองกัน 4. จดั กจิ กรรมโฮมรูมใหค้ วามรู้ แนะนานกั เรยี นเรอื่ งสุขภาพ ภาวะโภชนาการ 5. จัดทาข้อมูลสารสนเทศ นา้ หนัก สว่ นสงู ติดตามความก้างหน้าในการ ลดภาวะทพุ โภขนาการ การดแู ลอาหารกลางวนั อาหารเสริม และอาหารวา่ งทถ่ี ูกต้องตามหลกั โภชนาการ

๑๕ ทางสุขภาวะทางกายและทางจิต (Unhealthiness) (ตอ่ ) แนวทางปฏบิ ตั ิ การปลูกฝัง การปราบปราม ม 1. จัดกจิ กรรมใหค้ วามรู้ด้านโภชนาการแก่ 1. การเผยแพรป่ ระชาสัมพนั ธ์ชอ่ งทาง นักเรยี น ในชัว่ โมงกจิ กรรมโฮมรมู , ในการขอความช่วยเหลือ กจิ กรรมหน้าเสาธง ฯลฯ 2. แต่งตง้ั คณะทางานด้านภาวะทุพ 2. จัดกิจกรรมออกกาลังกาย To be โภชนาการ เพื่อดแู ลช่วยเหลือ number one และวธิ กี ารดูแลรกั ษา 3. ประสานภาคีเครือข่ายเพ่ือสง่ ตอ่ ที่ สขุ ภาพให้นกั เรียน เหมาะสม 3. การบูรณาการความรู้ดา้ นโภชนาการใน การจดั การเรยี นการสอน ร ม