Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ม.ล. SAR โรงเรียนวัดโมคลาน 2563

ม.ล. SAR โรงเรียนวัดโมคลาน 2563

Description: SAR โรงเรียนวัดโมคลาน 2563

Search

Read the Text Version

รายงานประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา Self-Assessment Report (SAR) โรงเรียนวัดโมคลาน 2563ประจาปี การศกึ ษา

บทสรุปสำหรับผบู้ ริหำร โรงเรียนวัดโมคลาน ต้ังอยู่หมู่ที่ 12 ตาบลโมคลาน อาเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช สังกดั สานกั งานเขตพน้ื ท่ีการศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 4 สานกั งานคณะกรรมการการศึกษา ขนั้ พนื้ ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ เปดิ สอนตง้ั แต่ชน้ั อนบุ าล ๑ ถงึ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 6 มีบคุ ลากรรวมทั้งสน้ิ ๑๔ คน มจี านวนนกั เรียนท้งั หมด ๑๓๔ คน ได้ดาเนนิ การประเมนิ คุณภาพภายในโดยคณะกรรมการประเมิน คุณภาพภายในสถานศึกษา 30 กันยายน พ.ศ. 256๓ ทาการประเมินคุณภาพภายในตามมาตรฐาน การประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษาแต่ละระดับประเด็นพิจารณาตามมาตรฐานการศึกษาเพ่ือการ ประกันคณุ ภาพภายใน ระดับปฐมวัย จานวน 3 มาตรฐาน 14 ประเดน็ พจิ ารณา ระดับการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน 3 มาตรฐาน 13 ประเด็นพิจารณา โดยใช้เกณฑ์การประเมินตามแนวทางการประเมินคุณภาพตาม มาตรฐานการศึกษาของสานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน ผลการประเมนิ ภาพรวมสรุปดงั นี้ ๑

คำนำ รายงานการประเมินตนเอง (Self-Assessment Report : SAR) ประจาปีการศึกษา ๒๕๖๓ เปน็ เอกสารสรปุ ผลการจัดการศกึ ษาทีส่ ะท้อนผลการพัฒนาคณุ ภาพของโรงเรยี นวดั โมคลาน เปน็ ผลสาเร็จจาก การบริหารจัดการศึกษา ที่สอดคล้องกับมาตรฐานการศึกษาข้ันพื้นฐาน เพ่ือประกันคุณภาพภายใน ๓ มาตรฐาน ซึ่งเป็นส่วนหน่ึงของการบรหิ ารศึกษาที่ต้องดาเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยโรงเรียนต้องทารายงาน ประจาปเี สนอต่อหนว่ ยงานตน้ สงั กัด หนว่ ยงานที่เก่ยี วข้อง และเปิดเผยต่อสาธารณชน เพื่อนาไปสกู่ ารพฒั นา คณุ ภาพมาตรฐานการศึกษาและเพอื่ รองรับการประเมนิ คุณภาพภายนอก รายงานการประเมินตนเอง (Self-Assessment Report : SAR) ประจาปีการศึกษา ๒๕๖๓ แบ่ง ออกเป็น ๔ ส่วน คอื ส่วนที่ ๑ ข้อมลู พ้ืนฐาน สว่ นที่ ๒ ผลการประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา สว่ นท่ี ๓ สรปุ ผล จุดเด่น จุดควรพฒั นา แผนการพัฒนาคณุ ภาพเพ่อื ยกระดบั ใหส้ ูงขึน้ และสว่ นที่ ๔ ภาคผนวก ผลงานดเี ดน่ ใน รอบปี ที่ผ่านมา ผลการจัดการเรียนรตู้ ามหลักสตู รสถานศึกษา คาสั่ง คณะทางาน ประกาศโรงเรยี น เรอื่ ง การแต่งต้ังคณะกรรมการประเมินภายในของโรงเรียนและบันทึกให้ความเห็นชอบของคณะกรรมการ สถานศกึ ษา ขอขอบคุณคณะครู คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ผู้ปกครอง ชุมชนและผู้เก่ียวข้องทกุ ฝา่ ย ทม่ี ีส่วนร่วมดาเนนิ งานในการพัฒนาการศึกษาของโรงเรยี นใหม้ คี ณุ ภาพสูงขนึ้ อย่างต่อเนอ่ื ง หวงั เปน็ อย่างยิง่ วา่ เอกสารฉบับนี้จะเป็นประโยชน์ในการนาไปเป็นฐานข้อมูล สารสนเทศเพ่ือการยกระดับคุณภาพการศึกษา ของโรงเรียน และการสง่ เสริม สนบั สนุนของหน่วยงาน องคก์ รตา่ ง ๆ รวมท้ังหนว่ ยงานต้นสงั กัดในการพัฒนา คุณภาพการจัดการศึกษาต่อไป โรงเรียนวดั โมคลาน ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๖๔ ๒

สำรบญั เร่ือง หน้ำ บทสรปุ สำหรับผู้บริหำร ๔ ๒๐ คานา ๒๕ สารบัญ ๒๕ ส่วนท่ี 1 ข้อมูลพนื้ ฐาน ๒๕ ส่วนท่ี 2 ผลการประเมินตนเองของสถานศึกษา ๒๖ ระดบั การศึกษาปฐมวัย มาตรฐานที่ 1 คณุ ภาพเดก็ มาตรฐานท่ี 2 กระบวนการบรหิ ารและการจัดการ มาตรฐานที่ 3 การจัดประสบการณท์ ีเ่ น้นเดก็ เป็นสาคญั ระดับการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน ๒๖ มาตรฐานท่ี 1 คุณภาพผ้เู รียน ๒๗ มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบรหิ ารและการจดั การ ๒๗ มาตรฐานที่ 3 กระบวนการจดั การเรยี นการสอนทเ่ี นน้ ผ้เู รยี นเป็นสาคัญ ๒๘ สว่ นที่ 3 สรปุ ผล จุดเด่น จุดควรพัฒนา แผนการพฒั นาคุณภาพเพือ่ ยกระดับให้สงู ขนึ้ 30 ส่วนที่ 4 ภาคผนวก ๕๑ บันทกึ ใหค้ วามเห็นชอบของคณะกรรมการสถานศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน ๕๒ ประกาศโรงเรยี น เร่ืองการแตง่ ตัง้ คณะกรรมการประเมนิ ภายในของโรงเรียนผลการประเมนิ ๕๓ ความสามารถด้านการอา่ น (RT) ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ ๕๔ ๕๔ ผลการประเมนิ คุณภาพผเู้ รียน (NT) ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ ๕๕ ผลการจัดการเรยี นรู้ตามหลกั สูตรสถานศึกษา ๓

สว่ นที่ 1 ขอ้ มลู พน้ื ฐำนของสถำนศึกษำ 1.1 ขอ้ มูลพนื้ ฐำนของโรงเรียน ชอื่ โรงเรยี น โมคลาน Mokkalan School รหัสโรงเรียน 1080210233 ระดบั ชั้นท่ีเปิดสอน ระดับชน้ั อนุบาล 1 ถงึ ระดับชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 6 อีเมล์ [email protected] โทรศพั ท์ 075 – ๔๔๕๔๐๒ โทรศพั ท์ที่ตดิ ต่อได้ ๐๘๑๓๙๗๘๒๗๓ เวบ็ ไซต์ - เฟสบุค Mokkhalan Mokkhalan กำหนดกำรเปิดเรียน ๑ มถิ ุนายน ๒๕๖๔ ท่อี ยู่ ตงั้ อย่เู ลขท่ี 151 หมูท่ ี่ 12 ตาบลโมคลาน อาเภอท่าศาลา พิกัดแผนที่ จงั หวัดนครศรธี รรมราช รหสั ไปรษณยี ์ 80160 ๘.๕๘๐๒๕๕ เลขตัวหลัง ๙๙.๙๓๐๖๔๑ ๔

แผนท่ีแสดงท่ีตั้งโรงเรยี น ๕

ผู้อำนวยกำรโรงเรียน นายสุธรรม บุญตดิ นายสุธรรม บญุ ตดิ ผอู้ านวยการโรงเรียนวดั โมคลาน ปี พ.ศ. 255๖ – ปัจจบุ ัน โทรศัพท์ ๐๘๑-๓๙๗๘๒๗๓ 1.2 ประวัตสิ ถำนศกึ ษำ โรงเรียนวดั โมคลานตั้งข้นึ เมือ่ วันที่ 6 พฤษภาคม 2486 โดยทา่ นเจ้าคุณศรี สมประศาสน์เปน็ ประธานในการก่อสร้าง ผู้ใหญข่ า พรหมรักษ์ ได้นาประชาชนในชมุ ชนบ้านโมคลานและใกลเ้ คยี งร่วมกนั สรา้ งอาคารเรียนหลังแรก การเปิดทาการสอนคร้งั แรก โดยนายลภ ดารกั ษ์ ศกึ ษาธกิ ารอาเภอทา่ ศาลาเปน็ ประธานในพธิ เี ปิดเรียน มนี ักเรียน 46 คน ครู 1 คน คือ นายเคลอื่ น จนั ทรมณี และในเดือนมถิ นุ ายน พ.ศ. 2486 ทางราชการไดแ้ ตง่ ต้งั ให้ นายแปลก วรรณเหวก มาดารงตาแหนง่ ครูใหญ่คนแรก ต่อมาได้ ย้ายสถานท่จี ากเดมิ ซ่ึงเปน็ ทรี่ กร้างมาสร้างใกลถ้ นน เปน็ อาคารช่ัวคราว 2 หลัง ใช้ งบประมาณ 2,384 บาท โรงเลือ่ ยจกั รอู่ตะเภาเปน็ ผู้ออกค่าใช้จา่ ย เจา้ ของโรงเลือ่ ย คือ นายบุญธรรม ชือ่ เสยี ง โดยมนี ายช่าง รา่ น รตั นโชติ นายชว่ ง ปลอดชแู ก้ว นายรมุ่ รัตนโชติและนายหรน ฉนั ทา พรอ้ มกบั ชาวบ้าน เปน็ ผู้กอ่ สร้าง ใช้งานตั้งแต่ วนั ท่ี 9 พฤษภาคม 2486 โมคลานเปน็ แหลง่ ประวัติศาสตร์ทสี่ าคัญยง่ิ แห่งหน่ึงในจังหวัดนครศรธี รรมราช หลักฐาน ทางดา้ นโบราณสถานและโบราณวตั ถุ เป็นเคร่ืองบง่ ชวี้ า่ ชุมชนโบราณทโ่ี มคลานมีความเจริญและม่นั คงในการ ดารงชพี เป็นชมุ ชนทีห่ นาแนน่ มีพลังแห่งศรทั ธาในการสร้างสรรคว์ ัฒนธรรมการอยรู่ ่วมกนั รอ่ งรอยแหง่ อารยธรรมได้ปรากฏเปน็ รปู ธรรม ลกั ษณะภูมปิ ระเทศเป็นที่ราบ โดยมแี หล่งน้า คือ คลองมะยิง คลองโต๊ะเนง็ ๖

คลองอู่ตะเภา และมีจุดทไ่ี หลมาบรรจบกันท่ีบริเวณปากโพธ์ิ การประกอบอาชีพ ประชากรส่วนใหญ่ประกอบ อาชีพการเกษตร ทานา ทาไร่ ทาสวน รบั จา้ ง นอกจากนยี้ งั มอี าชพี ทเ่ี ปน็ เอกลกั ษณข์ องทอ้ งถิ่นคอื โรงอิฐ มอญ และหัตถกรรมพน้ื บ้านเครอ่ื งปั้นดินเผา รายไดส้ ว่ นใหญม่ าจากการเกษตรและการรบั จ้าง การคมนาคม มีถนนลาดยาง 12 กโิ ลเมตร ถนนคอนกรีตและถนนลกู รงั ปจั จบุ นั โรงเรยี นวดั โมคลานจัดการศกึ ษา ๒ ระดับ คือ ระดบั การศกึ ษาปฐมวยั ระดบั การศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐาน มเี ขตบริการ 5 หมบู่ า้ น คือ หมู่ที่ 11 ตาบลโมคลาน (บา้ นโคกยารว่ ง) หมู่ท่ี 12 ตาบลโมคลาน (บา้ นโมคลาน) หมทู่ ่ี 13 ตาบลโมคลาน (บา้ นอตู่ ะเภา) หมทู่ ่ี 6 ตาบลโพธ์ิทองและหมทู่ ่ี 7 ตาบลโพธท์ิ อง ผู้อานวยการโรงเรยี น คือ นายสุธรรม บญุ ติด มีครูจานวน ๗ คน บุคลากรทางการ ศกึ ษา ๒ คน วทิ ยากรสอนอิสลามศึกษา ๑ คน ครูอตั ราจ้าง ๒ คน และมีนกั เรยี นทง้ั หมด ๑๓๘ คน ๗

1.3 โครงสร้ำงกำรบรหิ ำร กระทรวงศกึ ษาธิการ สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศกึ ษา ประถมศกึ ษานครศรธี รรมราช เขต 4 ผอู้ านวยการโรงเรียน นายสุธรรม บุญตดิ คณะกรรมการสถานศกึ ษา งานบริหารวิชาการ งานบรหิ ารบคุ คล งานบริหารงบประมาณ งานบริหารทัว่ ไป นางวนดิ า โสภาวัจน์ นางพรพิมล นวลแปน้ นางชัชจิรา สทุ ธพิ ันธ์ นางจิราภรณ์ หตั ประดิษฐ์ 1.4 สภำพชุมชน สภาพชุมชนรอบบรเิ วณโรงเรยี นมลี กั ษณะชุมชนไมห่ นาแนน่ นัก มีประชากรประมาณ 4,000 คน บรเิ วณใกล้เคียงโดยรอบโรงเรยี นได้แก่ วัดโมคลาน โบราณสถานโมคลาน อาชีพหลกั ของชุมชน คือ ทาสวน รบั จ้าง ส่วนใหญน่ บั ถอื ศาสนา อิสลาม ประเพณ/ี ศลิ ปวฒั นธรรมทอ้ งถ่นิ ทเี่ ป็นทรี่ จู้ ักโดยทั่วไป คือ ละหมาด วนั ศุกร์ ผปู้ กครองสว่ นใหญจ่ บการศึกษาระดบั ประถมศกึ ษา – มัธยมศึกษา อาชีพหลกั คอื เกษตร รบั จ้าง ประมง ส่วนใหญ่นบั ถือศาสนา อิสลาม ฐานะทางเศรษฐกิจ/รายไดโ้ ดยเฉล่ียตอ่ ครอบครวั ตอ่ ปี 30,000 บาท จานวนคนเฉลี่ยต่อครอบครวั 6 คน โอกาสและขอ้ จากัดของโรงเรียน โรงเรียนอยูใ่ นบริเวณวดั และโบราณสถานโมคลาน พื้นทีท่ ี่ ในสว่ นโบราณสถานอยู่ในความรับผิดชอบของกรมศิลปากร โรงเรยี นไดร้ บั ความรว่ มมอื จากปราชญช์ าวบ้าน และภมู ปิ ญั ญาท้องถิน่ นกั เรยี นบางสว่ นมีปญั หาครอบครัว อาศยั อยู่กับปูย่ า่ ตายาย ประชำกร มปี ระชากรประมาณ 4,000 คน จานวนหมู่บา้ นท่ีใชบ้ รกิ าร คือหมทู่ ่ี ๖ หมู่ท่ี ๗ ตาบล โพธ์ิทอง หมู่ท่ี ๑๑ หมทู่ ี่ ๑๒ และหมทู่ ี่ ๑๓ ตาบลโมคลาน มีประชากรประมาณ 4,000 คน จานวน ครวั เรอื น จานวนประชากร ศำสนำ นบั ถอื ศาสนาอสิ ลาม รอ้ ยละ ๙๐ นบั ถอื ศาสนาพทุ ธ ร้อยละ ๑ ๘

อำชพี ประชากรร้อยละ ๙๕ อาชีพเกษตรกรรมและรบั จ้าง รำยได้เฉลย่ี ต่อครวั เรือน ๓๕๐๐๐/ปี สภำพชุมชนโดยรวม สภาพชุมชนรอบรเิ วณโรงเรยี นมลี กั ษณะชมุ ชนไม่หนาแน่นนัก มีประชากรประมาณ 4,000 คน บริเวณใกลเ้ คยี งโดยรอบโรงเรยี นได้แก่ วดั โมคลาน โบราณสถานโมคลาน อาชีพหลกั ของชุมชน คือ ทาสวน รับจ้าง ส่วนใหญ่นับถือศาสนา อิสลาม ประเพณ/ี ศิลปวัฒนธรรมท้องถ่ินท่ีเป็นที่รู้จกั โดยท่วั ไป คือ ละหมาดวนั ศุกร์ ผู้ปกครองส่วนใหญจ่ บการศึกษาระดบั ประถมศึกษา – มัธยมศึกษา อาชพี หลัก คอื เกษตร รับจ้าง ประมง ส่วนใหญ่นับถือศาสนา อิสลาม ฐานะทางเศรษฐกิจ/รายได้โดยเฉลี่ยต่อครอบครัวต่อปี 30,000 บาท จานวนคนเฉลยี่ ตอ่ ครอบครัว 6 คน โอกาสและข้อจากัดของโรงเรยี น โรงเรียนอยใู่ นบรเิ วณวดั และโบราณสถานโมคลาน พื้นท่ที ี่ ในส่วนโบราณสถานอยู่ในความรบั ผิดชอบของกรมศิลปากร โรงเรยี นไดร้ บั ความรว่ มมอื จากปราชญ์ชาวบ้าน และภมู ปิ ัญญาทอ้ งถ่นิ นักเรียนบางสว่ นมีปัญหาครอบครัว อาศัยอยกู่ บั ปู่ยา่ ตายาย 1กา.5รวิเกคำรราะวหเิ คส์ รภำาพะหแวส์ ดภลำ้อพมขแอวงดชลมุ ้อชมนของชมุ ชน จุดเด่น ด้ำนสังคม (Social) เนื่องจากสภาพทางสงั คมของชมุ ชนรอบโรงเรียนขาดความรู้ อตั ราการหยา่ รา้ งสงู ไมก่ ระตอื รือรน้ ตอ่ การศกึ ษาของบตุ รหลาน มปี ัญหาดา้ นการเอาใจใสด่ แู ลสขุ ภาพ มรี ายนอ้ ยไม่ เพียงพอต่อการดารงชีพ ส่วนดา้ นโอกาสก็มีบ้าง เช่น การรกั ษาวัฒนธรรม ประเพณีทอ้ งถ่ิน การ ช่วยเหลือซึ่งกนั และกนั ยงั คงปรากฏใหเ้ ห็น ปัญหายาเสพตดิ ยงั พบอยู่ และมีแนวโนม้ มากขนึ้ ด้ำนเศรษฐกจิ (Economic) เป็นชมุ ชนท่ีมเี ศรษฐกิจไมค่ อ่ ยดี ปัญหาและอปุ สรรคตอ่ การจดั การ เรียนการสอนของโรงเรียน ประชาชนสว่ นใหญ่มีอาชีพรบั จา้ ง ในครอบครวั จะทางานหารายไดเ้ พียงผนู้ า ครอบครวั คนเดียวเป็นส่วนใหญ่ แมก้ ารคมนาคมสะดวกมากขนึ้ แตค่ นวา่ งงานมาก รายไดไ้ มเ่ พียงพอ ตอ่ การดารงชีพ ขาดความกระตือรือรน้ ในการฝึกฝนอาชีพ และการหางานทา ด้ำนสิ่งแวดล้อม (Environment) ชุมชนโมคลานเป็นแหล่งประวัติศาสตร์ที่สาคัญย่ิงแห่งหน่ึงใน จงั หวัดนครศรีธรรมราช หลักฐานทางด้านโบราณสถานและโบราณวัตถุ เปน็ เครื่องบ่งช้ีว่า ชมุ ชนโบราณที่ ๙

โมคลานมีความเจริญและม่ันคงในการดารงชีพ เป็นชุมชนที่หนาแน่น มีพลังแห่งศรัทธาในการสร้างสรรค์ วัฒนธรรมการอยู่ร่วมกัน ร่องรอยแห่งอารยธรรมได้ปรากฏเป็นรูปธรรม ลักษณะภูมิประเทศ เป็นท่ีราบ โดยมีแหล่งน้า คือ คลองมะยงิ คลองโต๊ะเน็ง คลองอู่ตะเภา และมีจดุ ที่ไหลมาบรรจบกันทีบ่ รเิ วณปาก โพธิ์ การประกอบอาชีพ ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพการเกษตร ทานา ทาไร่ ทาสวน รับจ้าง นอกจากนี้ยังมีอาชีพท่ีเป็นเอกลักษณ์ของท้องถ่ินคือ โรงอิฐมอญ และหัตถกรรมพ้ืนบ้านเคร่ืองป้ันดินเผา รายได้ส่วนใหญม่ าจากการเกษตรและการรบั จา้ ง การคมนาคม มีถนนลาดยาง 12 กโิ ลเมตร ถนนคอนกรีต และถนนลูกรัง จดุ ท่คี วรพฒั นำ ดำ้ นสงั คม (Social) ด้านการดูแลสุขภาพของนกั เรยี นโดยใหค้ วามรู้ด้านการดุแลสขุ ภาพแกผ่ ูป้ กครอง และให้ความสาคัญของการสรา้ งความอบอนุ่ ในครอบครวั หาวิธกี ารลดการหย่าร้างของผ้ปู กครอง ด้ำนเศรษฐกิจ (Economic) ดา้ นการสร้างอาชพี ในชุมชน โดยใหผ้ ้นู าชมุ ชนเห็นความสาคัญของการ สร้างรายไดใ้ นชุมชน ด้ำนสง่ิ แวดล้อม (Environment) ความรว่ มมือในการชว่ ยกันอนรุ กั ษ์ทรพั ยากรของชมุ ชนโดยเฉพาะ โบราณสถานและพัฒนาใหเ้ ปน็ แหล่งเรียนรูแ้ ละสถานท่ีท่องเท่ยี วเพือ่ เปน็ การสร้างรายได้ในชุมชนได้ การวเิ คราะหส์ ภาพแวดล้อม (SWOT Analysis) สภำพแวดล้อมภำยใน - จุดแขง็ (Strengths) - ผู้เรียน รักการมาโรงเรียน สามารถให้การศึกษาได้ทุกกลุ่มเป้าหมาย นักเรียนในเขต บริการได้เขา้ เรยี นทกุ คน -การบริหารจดั การ มีการบริหารงานอย่างเป็นระบบ ระดมทรัพยากรบุคคลใหม้ ีส่วนร่วม มอบหมายงานตรงตามความถนัด ใช้หลกั ธรรมาภบิ าลในการบริหารจดั การ มีการตรวจสอบ นิเทศ ติดตามอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง - บุคลากร บุคลากรมีความตั้งใจ และมุ่งมั่นในการปฏิบัติงาน มีอัตรากาลังพอดีเกณฑ์ท่ี ก.ค. กาหนด มีการศึกษาถึงระดับปรญิ ญาตรี ร้อยละ ๘0 บุคลากรมกี ารพัฒนาตนเองโดยการ ฝกึ อบรม สมั มนาเพม่ิ พูนความรอู้ ยา่ งสมา่ เสมอ - หลกั สูตร และการสอนโครงสรา้ งพื้นฐาน มหี ลักสูตรการจดั การเรยี นการสอนของโรงเรยี นที่ ชัดเจน ตามโครงสร้างพ้ืนฐาน สามารถจัดการเรียนการสอนได้ตรงตามเป้าหมาย และหลักสูตรท่ี กาหนด - จดุ อ่อน (Weaknesses) - ผ้เู รียน ทักษะดา้ นการคิด วเิ คราะห์ คดิ สงั เคราะห์ ๑๐

- การบริหารจัดการ ด้าน งบประมาณมีจานวนจากัด ไม่เพียงพอต่อการปรับปรุงพัฒนา การศึกษา ขาดแคลนอุปกรณ์ดาเนินงาน การระดมทรัพยากรเพื่อการศึกษาในชุมชนยังมีน้อย รวมทง้ั ความขาดแคลนในดา้ นต่าง ๆ ของนักเรียนมสี ูง - บุคลากร การเปล่ียนแปลง โยกย้าย ทาให้การจัดการเรียนการสอนในบางรายวิชาท่ี ครูผู้สอนไม่ตรงตามวิชาเอก ต้องอาศัยการฝึกพัฒนาตนเองเพิ่มเติม อาจทาให้เกิดอุปสรรคใน ชว่ งแรกๆ ของการเปลย่ี นแปลง - หลกั สูตร และการสอนโครงสรา้ งพ้ืนฐาน โรงเรียนมีหลักสตู รและการสอนโครงสร้างพน้ื ฐาน ทีร่ องรบั แต่เน่อื งจากการเปลย่ี นแปลงทงั้ จานวนเดก็ การโยกย้าย เปล่ียน ลดจานวนครผู ้สู อน ทาให้ เกดิ การปรับเปลีย่ นเพ่ือให้เหมาะสมกับสถานการณ์ อยู่เร่อื ยๆ สภำพแวดลอ้ มภำยนอก โอกำส (Opportunities) - ด้านสงั คม (Social) ผลการวิเคราะห์ปรากฏว่าเปน็ จุดแข็งของโรงเรยี น มกี ารบรหิ ารงานอยา่ งเป็น ระบบ ระดมทรัพยากรบุคคลให้มีส่วนร่วม มอบหมายงานตรงตามความถนัด ใช้หลักธรรมาภิบาลในการ บรหิ ารจดั การ มีการตรวจสอบ นเิ ทศ ตดิ ตามอย่างตอ่ เนอื่ ง - ดา้ นเศรษฐกิจ (Economic) การระดมทุน ทรพั ยากร จากบคุ คลภายนอกใหม้ ีสว่ นร่วม - ดา้ นสิง่ แวดล้อม (Environment) มแี หล่งเรยี นรทู้ ี่เอ้อื ประโยชน์ต่อการจัดการเรียนรู้ให้กับนกั เรยี น อปุ สรรค (Threats) - ด้านสังคม (Social) ชุมชนรอบโรงเรียนขาดความรู้ มีปัญหาครอบครัว ปัญหายาเสพติด ขาดการ ตระหนักถึงความสาคญั ของการศกึ ษา - ด้านเศรษฐกจิ (Economic) ชุมชนบริเวณรอบโรงเรยี นมีสภาพเศรษฐกิจไม่ดี ฐานะยากจน รายได้ ต่าไม่เพยี งพอต่อการดารงชีพ ขาดแคลนปัจจัยพ้ืนฐาน - ด้านสิ่งแวดล้อม (Environment) สภาพภูมิประเทศไม่เหมาะสมต่อการลงทุน มีการพัฒนาด้าน การคมนาคมแต่ยงั ไม่ดเี ท่าทคี่ วร ๑๑

1.6 คบรุคแู ลละำบกคุรลากรทางการศกึ ษา ท่ี ชอ่ื -สกุล ตำแหนง่ ระดับ วฒุ ิ วิชำเอก 1 นายสุธรรม บุญติด ผู้บริหารโรงเรียน 2 นางพรพมิ ล นวลแปน้ คศ.3 ศศ.ม รัฐศาสตรก์ ารปกครอง 3 นางชัชจิรา สุทธิพนั ธ์ ครู 4 นางจริ าภรณ์ หตั ถประดิษฐ์ ครู คศ.3 ศศ.บ. 5 นางวนดิ า โสภาวจั น์ 6 นางอภญิ ญา แก้วสุกใส คศ.3 ค.บ ๗ นางสาวภัทรวรรณ บุญพศิ 8 นางสาวจันทรวมิ ล ขนานขาว ครู ชานาญการ ค.บ ๙ นางสาวพรรณวลัย ศรพี เิ ชยี ร 10 นางสาววรวิ รรณ ช่วยชู ครู ชานาญการ ศศ.บ. ๑๑ นายอภชิ าติ ศรีสุวรรณ ๑๒ นางสาวพัชนี ไชยเพส ครู ชานาญการ ค.บ ๑๓ นางสาวบัณฑดิ า ดาราวรรณ ๑๔ นางสาวพิไลวรรณ จนั ทเลข ครู ชานาญการ ค.บ ๑๔ นางนุสรา มะหมัด ครผู ชู้ ่วย ค.บ ๑๕ นายชชั วาล ทรพั ยย์ าสาร - ครผู ชู้ ว่ ย - ค.บ ครผู ูช้ ่วย - ค.บ ลกู จา้ งชั่วคราว - ค.บ วทิ ยากรอสิ ลาม - ศศ.บ. ครอู ัตราจา้ ง - ค.บ ครูอัตราจ้าง - พธ.บ. เจา้ หน้าท่ีธุรการ บธ.บ นกั การภารโรง ม.๓ ๑๒

ท่ีปรกึ ษา ตำแหน่ง หมำยเหตุ คณะกรรมกำรสถำนศึกษำ ประธาน รองประธาน มรณภาพ ที่ ช่อื – สกลุ กรรมการ ๐๘๑๓๙๗๘๒๗๓ 1 นายจรญั ปลอดชูแก้ว กรรมการ 2 นายวิษนุ คงสมทอง กรรมการ 3 นายวชั ระ สงั ขณี กรรมการ 4 นายอนชุ ติ พจิ ติ บรรจง กรรมการ 5 นางจริ าภรณ์ หตั ถประดษิ ฐ์ กรรมการ 6 นางสายสุนยี ์ โตะ๊ อิสอ กรรมการและเลขานกุ าร 7 นางฉววี รรณ ทพิ ยม์ ุนี 8 พระครพู พิ ฒั นวรกจิ 9 นายสธุ รรม บญุ ตดิ 1.7 นกั เรียน จานวนนักเรียน (แยกรายชนั้ ) ระดบั ชัน้ ห้อง รวม เพศ สญั ชาติ ศาสนา ชาย หญงิ ไทย อื่น ๆ พุทธ คริสต์ อสิ ลาม อื่น ๆ อนุบาล 1 1 ๑๕ 9 6 ๑๕ - - - ๑๕ - อนบุ าล 2 1 ๘ 35 ๘ - ๒ - ๖ - อนบุ าล 3 1 ๑๓ ๗ ๖ ๑๓ - ๑ - ๑๒ - ประถมศึกษาปีท่ี 1 1 ๑๘ ๑๔ ๔ ๑๘ - ๑ - ๑๗ - ๑๓

ประถมศึกษาปที ี่ 2 1 ๒๐ ๘ ๑๒ ๒๐ - - - ๒๐ - ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 1 ๑๕ ๑๑ ๔ ๑๕ - ๒ - ๑๓ - ประถมศึกษาปที ี่ 4 1 ๑๒ ๔ ๘ ๑๒ - ๑ - ๑๑ - ประถมศกึ ษาปที ่ี 5 1 ๒๑ ๘ ๑๓ ๒๑ - ๒ - ๑๙ - ประถมศึกษาปีท่ี 6 1 ๑๖ ๔ ๑๒ ๑๖ - ๑ - ๑๕ - รวม ๙ ๑๓๘ ๖๘ ๗๐ ๑๓๘ - - - 1.8 โครงสร้ำงพน้ื ฐำน ๑๔

จานวนหอ้ ง อปุ กรณป์ ระกอบ ความจุ (คน) ชื่อห้อง Compu TV/Projector LAN Internet ความเร็ว ขนาด (ม x ม) ter (Mb) ประถมศกึ ษา ปที ่ี 1 ประถมศกึ ษา ปที ่ี 2 1 1   100/100 6x9 30 ประถมศกึ ษา ปที ่ี 3 ประถมศกึ ษา ปที ่ี 4 1 1   100/100 6x9 30 ประถมศึกษา ปที ี่ 5 ประถมศึกษา ปที ี่ 6 1 1   100/100 6x9 30 ห้องปฏิบตั กิ าร วทิ ยาศาสตร์ - - - - - 6x9 30 ห้องปฏิบตั กิ าร คอมพวิ เตอร์ - - - - - 6x9 30 ห้องเรยี น อนุบาล ๑ หอ้ งเรียน อนบุ าล 2 1 1   100/100 6x9 30 ห้องเรียน อนบุ าล 3 หอ้ งสมดุ 1 1   100/100 6x18 30 9 1   100/100 6x18 30 ๑ ๑   100/100 6x18 30 1 1 -  100/100 6x9 30 1 1 -  100/100 6x9 30 1 1   100/100 6x18 ระบบสาธารณปู โภค  ไม่มี กระแสไฟฟ้าตกบ่อยหรือไม่ ใช่  ไมใ่ ช่ ไฟฟา้  มี  ไม่มี นา้ ดม่ื สะอาด  มี  ไม่มี นา้ ใช้  มี ๑๕ ระบบอินเทอรเ์ นต็ มีระบบอนิ เตอรเ์ นต็  มี  ไมม่ ี ของบริษทั TOT ความเรว็ 100/100 mb คา่ ใช้จา่ ยตอ่ เดอื น ๒๐๐๐ บาท

ระบบเครอื ขา่ ยภายใน ใชง้ านไดท้ ั่วถงึ  ใช่  ไม่ใช่ ทอ้ งถิ่น (LAN)  มี  ไม่มี ใชง้ านได้ทัว่ ถงึ  ใช่  ไมใ่ ช่ ไร้สาย (Wireless)  มี  ไมม่ ี อุปกรณไ์ อซีที เพื่อการศกึ ษา จานวน (เครอื่ ง) ใช้งานได้ (เคร่อื ง) ใชง้ านไม่ได้ (เคร่อื ง) คอมพวิ เตอร์ ๒๒ - ประเภท -- - คอมพิวเตอรเ์ พื่อการบรหิ ารจัดการ Desktop คอมพวิ เตอรต์ งั้ โตะ๊ Laptop คอมพิวเตอร์โน้ตบกุ๊ Server คอมพิวเตอรเ์ พื่อการจัดการเรียนรู้ ๕ ๕ - ในห้องคอมพวิ เตอร์ (นบั รวมทกุ หอ้ ง) - - - Desktop คอมพวิ เตอรต์ งั้ โต๊ะ Laptop คอมพิวเตอร์โน้ตบกุ๊ - - - Server ๑๒ ๑๒ - คอมพวิ เตอรเ์ พื่อการจัดการเรียนรู้ - - - ในห้องเรียน Desktop คอมพิวเตอร์ตงั้ โต๊ะ Laptop คอมพิวเตอร์โน้ตบกุ๊ Server รวม 19 19 - ๑๖

คอมพิวเตอรบ์ รกิ ารทว่ั ไป มี  ไม่มี โรงเรียนมี Laptop (คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก) หรือ Tablet (แท้ปแลต) ให้นักเรียนใช้ภายในห้องเรียนเพ่อการ เรยี นรู้หรอื การเข้าถงึ แหลง่ ความร้อู อนไลนห์ รอื ไม่ หมายรวมถงึ คอมพิวเตอร์สว่ นตัว/สมารทโฟนทนี่ ามาใช้เปน็ ประจา *หมายเหตุ* ห้องเรียนและคอมพิวเตอรใ์ นที่น้ี ไม่ได้หมายถึงห้องคอมพิวเตอร์และคอมพิวเตอร์ทอ่ี ยู่ในหอ้ ง คอมพิวเตอร์ 1.9 แหลง่ เรยี นรู้ แหล่งเรยี นรู้ ลำดบั แหล่งเรยี นรู้ ประเภทแหล่งเรียนรู้ ระดับชัน้ กลุม่ สำระกำรเรียนรู้ สำระกำรเรียนรู้ 1 โบราณสถานโมคลาน แหล่งเรียนรภู้ ายในโรงเรยี น อนบุ าล ทุกกลุ่มสาระฯ ทกุ สาระ ป.1-6 ๒ แปลงเกษตร แหล่งเรียนรภู้ ายในโรงเรยี น ป.1-6 การงานอาชีพฯ งานเกษตร ทกุ กลุ่มสาระฯ วิทยาการคานวณ ๓ ห้องคอมพิวเตอร์ + แหลง่ เรียนรภู้ ายในโรงเรยี น ป.1-6 อนิ เตอร์เน็ต ๔ หอ้ งสมดุ แหลง่ เรยี นรู้ภายในโรงเรยี น อนบุ าล ทุกกลุ่มสาระฯ ทุกสาระ ป.1-6 ๕ ห้องปฏบิ ตั ิการ แหลง่ เรยี นรภู้ ายในโรงเรียน ป.1-6 วิทยาศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ สขุ ศกึ ษา พลศึกษา ๖ ศนู ยอ์ อกกาลงั กาย แหล่งเรยี นรภู้ ายในโรงเรยี น ป.1-6 การงานอาชีพฯ งานศลิ ปะ สุขภาพ การงานอาชีพฯ งานอาชพี ๗ เคร่อื งป้นั ดินเผาบา้ นมะ แหล่งเรียนร้ภู ายนอกโรงเรียน ป.1-6 ทกุ กลุ่มสาระ ทกุ สาระ ยิง ๘ โรงอฐิ บ้านมะยงิ แหลง่ เรยี นรู้ภายนอกโรงเรียน ป.1-6 ๙ พชื สมุนไพรพืน้ บา้ น แหล่งเรียนรภู้ ายนอกโรงเรยี น ป.1-6 ๑๗

1.10 ผลงำนของสถำนศกึ ษำ ผลงานและความสาเรจ็ ของสถานศึกษา (รวมบุคลากร เช่น วทิ ยฐานะ) ลาดับ ช่อื ผลงาน / ของ ปี พ.ศ. ระดับ หน่วยงาน ๑ดาว ๑ โรงเรยี นคณุ ธรรม/สพฐ ๒๕๖๓ ชมเชย สพป.นศ.๔ ๒ แขง่ ขันจรวดขวดน้าประเภทแม่นยาและยงิ ๒๕๖๓ อบจ. ไกลระดบั ประถมศกึ ษา/นายอภชิ าติ ศรี นครศรีธรรมราช สุวรรณ.นางสาวจันทรวมิ ล ขนานขาว ผลงานและความสาเร็จของนกั เรยี น ลาดบั ชือ่ (ผลงาน /นักเรียน/ชั้น) ปี พ.ศ. ระดับ หนว่ ยงาน ๑ สอบแข่งขนั วดั ความรู้ ระดบั ป.๔-๖โรงเรยี น ๒๕๖๓ ระดบั เหรียญทอง รอง โรงเรียนโมคลาน โมคลานประชาสรรค์/เด็กหญงิ ญารีนา่ ดารา ชนะเลศิ อันดับ ๑ ประชาสรรค์ ไกร ๒ สอบแขง่ ขันวัดความรู้ ระดบั ป.๔-๖โรงเรียน ๒๕๖๓ ระดบั เหรยี ญทองแดง โรงเรียนโมคลาน โมคลานประชาสรรค์/เด็กหญิงวริศรา กุล รางวัลชมเชย ประชาสรรค์ เหลม็ ๑๘

1.11 ข้อเสนอแนะกำรพฒั นำจำกปกี กำรศกึ ษำทผี่ ำ่ นมำ จากผลการดาเนนิ งานของโรงเรียน การประเมินคุณภาพโดยรวม ในปีการศกึ ษา 2563 อย่ใู นระดับ ดี โรงเรียนได้ดาเนินการตามแผนปฏิบัติการ ร่วมกันจดั ทาโครงการ กิจกรรมต่าง ๆ เพื่อให้เกิดผลบรรลตุ าม เป้าหมาย นักเรียนมีคุณลักษณะตรงตามปรัชญาของโรงเรียน ในระดับคุณภาพที่โรงเรียนกาหนด ได้รับการ ช่วยเหลอื ปลูกฝงั ดา้ นสทิ ธิ หน้าที่ ยกระดบั ผลสัมฤทธ์ิ พฒั นาทกั ษะด้านการคดิ คานวณ อา่ นเขยี นคลอ่ ง การ สอื่ สารภาษาอังกฤษ มกี ารนาเสนอผลงานแก่ผู้ปกครอง ชุมชน เพ่ือสรา้ งความภาคภูมิใจ ผู้บริหาร คณะครู บุคลากร กรรมการสถานศึกษา ร่วมกันกาหนดแนวทางในการบริหารจัดการ โรงเรียน นาไปสู่การปฏิบตั ิ ปรับปรงุ แกไ้ ขสว่ นทบ่ี กพรองสม่าเสมอ จัดสภาพแวดลอ้ ม วัสดุ อุปกรณท์ ่ีเอ้ือต่อ การเรยี นรขู้ องนกั เรียน นิเทศ ติดตาม ประเมินผลเพอ่ื การพัฒนาอยูเ่ สมอ พัฒนาบคุ ลากรเพ่ือเพม่ิ ประสิทธิภาพในการจดั การเรยี นการสอน ให้ ก้าวทนั เทคโนโลยโี ดยการจัดหา สื่อเทคโนโลยี คอมพิวเตอร์ จากบุคคลภายนอกร่วมบริจาค นอกจากนี่ได้พัฒนาชุมชนแห่งการเรียนรู้ด้าน ประวตั ิศาสตรค์ ือจดั อบรมมคั คเุ ทศก์นอ้ ยโมคลานโบราณสถาน เพ่ือเป็นแหล่งเรียนรู้และท่องเทย่ี ว นอกจากน้ี นักเรียนได้พฒั นาการเรยี นรู้ของตนเองอย่างตอ่ เนือ่ ง ๑๙

สว่ นที่ 2 ทศิ ทำงกำรพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำ 1. วิสยั ทศั น์ พันธกจิ เป้ำหมำย วิสยั ทศั น์ (Vision) โรงเรยี นวดั โมคลานจัดการศึกษามีคุณภาพตามมาตรฐาน เปน็ โรงเรียนน่าอยู่ ศูนยก์ ลางการเรียนรู้ สู่สงั คมพฒั นาย่ังยนื พนั ธกิจ (Mission) 1. พฒั นาครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา 2. จดั หลักสูตรและกระบวนการเรียนรูท้ เ่ี น้นผูเ้ รยี นเปน็ สาคัญ 3. พฒั นาระบบการบรหิ ารจดั การศึกษาโดยใช้โรงเรยี นเป็นฐาน 4. จัดกจิ กรรมสง่ เสรมิ และพฒั นาคณุ ภาพ สุนทรียภาพ และลกั ษณะนสิ ยั 5. จดั กิจกรรมปลูกฝังคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และคา่ นยิ มทพ่ี ึงประสงค์ 6. จัดระบบเครอื ขา่ ยการบรหิ าร และการจัดการเรยี นรโู้ ดยใช้เทคโนโลยี 7. พัฒนาโรงเรยี นใหม้ ีบรรยากาศทางกายภาพ และทางวชิ าการ เป้ำหมำย (Goal) 1. ครมู ีความสามารถในการจดั การเรียนการสอนอยา่ งมีประสทิ ธิภาพ และเน้นผเู้ รยี นเปน็ สาคญั 2. ครมู ีคุณวุฒิ ความรู้ความสามารถตรงกบั งานที่รบั ผิดชอบ และมีครเู พียงพอ 3. สถานศกึ ษามีหลักสตู รทเี่ หมาะสมกบั ผเู้ รียน และทอ้ งถ่นิ มสี ื่อการสอนทเ่ี ออื้ ตอ่ การเรียนรู้ 4. จัดโครงสร้างองคก์ ร และบรหิ ารงานอยา่ งเป็นระบบ 5. จดั กิจกรรมการเรียนการสอนที่เนน้ ผูเ้ รียนเปน็ สาคญั 6. ผู้บรหิ ารมีภาวะผนู้ า และมคี วามสามารถในการบรหิ ารจดั การ 7. ผเู้ รียนมสี นุ ทรียภาพ และลกั ษณะนสิ ัยด้านศิลปะ ดนตรีและกีฬา 8. ผู้เรียนมสี ุขนิสยั สุขภาพกายและจิตท่ีดี 9. ผู้เรยี นมคี ุณธรรมและคา่ นิยมท่ีพงึ ประสงค์ ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ คิดสังเคราะห์ มี วจิ ารณญาณ คดิ สร้างสรรค์ คิดไตรต่ รองและมีวิสัยทศั น์ มคี วามรแู้ ละทกั ษะที่จาเปน็ แกห่ ลักสตู ร มที กั ษะในการทางานรว่ มกับผู้อืน่ 10.ผเู้ รยี นมที กั ษะในการแสวงหาความรดู้ ้วยตนเองอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง 11.ส่งเสริมความสมั พันธ์ ความรว่ มมือกบั ชุมชนในการพฒั นา ๒๐

2. อตั ลกั ษณ์ ไปลา มาไหว้ 3. เอกลกั ษณ์ สร้างความดี มสี ัมมาคารวะ 4. มำตรฐำนกำรศกึ ษำขนั้ พื้นฐำนของสถำนศกึ ษำ ๒๑

ประกาศโรงเรียนวัดโมคลาน เรอ่ื ง ให้ใชม้ าตรฐานการศึกษา ระดับปฐมวัยและระดบั การศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อการประกันคณุ ภาพภายในของสถานศึกษา ..................................................................... โดยทม่ี ีประกาศใช้กฎกระทรวงการประกนั คุณภาพการศกึ ษา พ.ศ. 2561 นโยบายการปฏิรปู การศึกษา ในทศวรรษ ท่สี องทก่ี าหนดเป้าหมายและยทุ ธศาสตร์การพฒั นาคุณภาพคนไทยและการศึกษาไทยในอนาคต ประกอบกบั มีนโยบายปฏิรูป ระบบการประเมินและการประกันคุณภาพทั้งภายในและภายนอกของทุกระดับก่อน จะมีการประเมินคุณภาพในรอบต่อไป จาเปน็ ต้องปรับปรงุ มาตรฐานการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐานให้สอดคล้องกัน กับพระราชบัญญตั กิ ารศึกษาแหง่ ชาติ พ.ศ. 2542 และท่ี แก้ไขเพิ่มเตมิ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 มาตรา 9 (3) ได้กาหนดการจัดระบบ โครงสร้าง และกระบวนการจดั การศึกษาให้ยึด หลักสาคัญข้อหน่ึง คือมีการกาหนด มาตรฐานการศึกษา และจัดระบบการประกันคุณภาพการศึกษาทุกระดบั และประเภท การศึกษา โดยมาตรา 31 ให้กระทรวงมีอานาจหน้าท่ีกากับดูแลการศึกษาทุกระดับและทุกประเภท กาหนดนโยบาย แผน และมาตรฐาน การศึกษาและมาตรา 48 ให้หน่วยงานต้นสังกัดและสถานศึกษาจัดให้มีระบบประกันคุณภาพภายใน สถานศึกษา และใหถ้ ือวา่ การประกนั คุณภาพภายในเป็นส่วนหนง่ึ ของการบริหารการศึกษาท่ตี ้องดาเนินการอยา่ งต่อเน่ือง โดย มี การจัดทารายงานประจาปีเสนอต่อหน่วยงานต้นสังกัดหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง และเปิดเผยต่อสาธารณชน เพ่ือนาไปสู่การ พัฒนาคุณภาพมาตรฐานการศึกษา และเพ่ือการรองรับการประกันคุณภาพภายนอก และเพื่อให้สอดคลอ้ งกับนโยบายและ จุดเน้นการดาเนินงานของสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศกึ ษานครศรีธรรมราช เขต 4 ปงี บประมาณ 2563 เพื่อมุ่งสู่ เปา้ หมาย “4 คุณภาพ” ของสานักงานเขตพ้ืนทก่ี ารศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราชเขต 4 อีกทัง้ เปน็ การแกป้ ญั หาท่ีเกิด จากผลกระทบจากสถานการณ์ โรคระบาดร้ายแรง (covid-19) ตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ท่ัว ราชอาณาจักร เมือ่ ๒๕ มีนาคม ๒๕๖๓ และท่ปี ระกาศเพิม่ เตมิ เพ่อื นาไปสูก่ ารพฒั นาคุณภาพการศกึ ษาตามมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐานการ ประเมินคุณภาพภายในและรองรับ การประเมินคณุ ภาพภายนอก โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการสถานศึกษา ข้ันพื้นฐาน ในการประชมุ ครั้งที่ 1 / 2563 เม่ือวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 โรงเรียนวัดโมคลาน จึงประกาศให้ใช้มาตรฐานการศึกษา ระดับปฐมวัยและระดับ การศึกษาขนั้ พื้นฐานเพื่อ การประกนั คุณภาพภายในของสถานศึกษา ตามเอกสารแนบท้ายประกาศนี้ เพื่อเปน็ เปา้ หมายในการ พัฒนา คุณภาพการศึกษา ระดับปฐมวัย ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานและการประเมินคุณภาพภายใน ในปีการศึกษา 2563 ต่อไป ประกาศ ณ วันท่ี 18 พฤษภาคม พ.ศ. 25๖๓ (นายสุธรรม บุญติด) ผู้อานวยการโรงเรียนวัดโมคลาน ๒๒

ประกาศโรงเรยี นวัดโมคลาน เรือ่ ง มาตรการการแก้ปญั หาการจัดการศกึ ษาทไี่ ดร้ บั ผลกระทบจากโรคระบาดร้ายแรง (covid-19) ..................................................................... โดยที่มีประกาศกระทรวงศึกษาธิการเรอื่ งการเปิดเรียนของสถานศึกษาในสงั กัดและในกากบั ของ กระทรวงศึกษาธิการ เม่ือวันที่ ๙ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๓ ให้สถานศึกษาเปิดเรียนในวันท่ี ๑ กรกฏาคม ๒๕๖๓ อีกทั้งเปน็ การแก้ปัญหาท่เี กิดจากผลกระทบจากสถานการณ์ โรคระบาดรา้ ยแรง(covid-19)และ การจัดการเรยี นการสอนให้สอดคล้องกับประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินสืบเน่ืองจากการระบาดของโรคตดิ เชื้อไวรสั โคโรนา ๒๐๑๙ หรอื โควดิ ๑๙ เพื่อนาไปสู่การพัฒนาคุณภาพการศกึ ษาตามมาตรฐานการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน การประเมนิ คุณภาพ ภายในและรองรับการประเมินคุณภาพภายนอก โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการสถานศึกษาข้ัน พื้นฐาน ในการประชุม คร้ังที่ 1 / 2563 เม่ือวันท่ี 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 โรงเรียนวัดโมคลาน จงึ ประกาศให้ใช้มาตรฐานการศึกษา ระดับปฐมวัยและระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อ การประกันคุณภาพ ภายในของสถานศึกษา ตามเอกสารแนบท้ายประกาศนเ้ี พ่ือเปน็ เปา้ หมายในการพฒั นา คณุ ภาพ การศึกษา ระดับปฐมวยั ระดบั การศึกษาขนั้ พน้ื ฐานและการประเมนิ คณุ ภาพภายใน ตั้งแต่ปีการศกึ ษา 2563 เป็นต้น ไป ประกาศ ณ วันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 (นายสุธรรม บญุ ตดิ ) ผอู้ านวยการโรงเรียนวัดโมคลาน ๒๓

มำตรกำรแกป้ ญั หำที่เกิดจำกโรคระบำด covid-19 โรงเรยี นวัดโมคลำน ที่ มำตรกำร แกป้ ัญหำด้ำน กระบวนกำร เป้ำหมำย ผลทคี่ ำดหวงั มอบหมำย - มอบหมาย (บุคคล/ ครูออก เยยี่ ม กลมุ่ บา้ น สลบั กัน บคุ คล) ปฏิบัตงิ าน 1. ปฏิบตั ติ าม - คุณภาพเดก็ / ท่ี โรงเรยี น 1. เพอื่ 1. แกป้ ัญหา ครู - นัดหมาย แก้ปญั หา นักเรียน กอ่ น มาตรฐาน ผ้เู รยี น ประชุม การแพร่ ะบาด การแพร่เช้ือ ผปู้ กครอง จดั หา ของ เช้ือโรค ได้ รอ้ ยละ เปิด กระทรวง - คณุ ภาพการ หน้ากาก Covid 100 เรยี น ศกึ ษา ธิ บรหิ ารจัดการ อนามยั เจ 19 - คุณภาพการ ลลา้ ง มือให้ 2. สนับสนนุ การ จดั แนกั เรยี น - 2. เพอื่ เตรียม ออกเย่ียม ดา้ นการ ประสบการณ์ บ้าน ความพร้อมใน เรียน ของ สารวจความ การ เรยี นของ นักเรียน ฯ/จัดการเรียน พร้อม - นักเรียน ใน ประชมุ สถานการณ์ ร้อยละ 60 การสอนฯ ช้แี จง การแพร่ระบาด ผปู้ กครองเรอ่ื ง 3. สรา้ ง - รายการ เรยี นออนไลน์ ของเชือ้ โรค ความ เขา้ ใจ ตง้ั จดุ คักรอง ระหวา่ ง ครู เพ่มิ เติม นั่งห่างกนั 2 ม. Covid 19 กับ (ระบ)ุ ………. ผูป้ กครอง รอ้ ย ละ 100 ลงนาม …………………………………………………… (นายสธุ รรม บญุ ตดิ ) ผอู้ านวยการโรงเรียนวัดโมคลาน ๒๔

มำตรฐำนกำรศกึ ษำ ระดับปฐมวัย แนบทา้ ยประกาศโรงเรยี นวัดโมคลาน เร่ือง ให้ใชม้ าตรฐานการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน ระดับปฐมวัย และ ระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐานเพื่อการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา ฉบับลงวันที่ 18 พฤษภาคม 2563 มาตรฐานการศกึ ษา ระดับปฐมวยั เพื่อการประกันคณุ ภาพภายในของสถานศกึ ษา พ.ศ. 2561 มจี านวน 3 มาตรฐาน ไดแ้ ก่ มาตรฐานท่ี 1 คุณภาพของเด็ก มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบรหิ ารและการจัดการ มาตรฐานที่ 3 การจัดประสบการณ์ทเี่ น้นเดก็ เป็นสาคญั แต่ละมาตรฐานมีรายละเอียดดงั นี้ มำตรฐำนท่ี 1 คุณภำพของผู้เรยี น 1.1 ผลสัมฤทธทิ์ างวชิ าการของผเู้ รยี น 1) นักเรียนมีความสามารถในการอ่าน การเขียน การส่ือสารตามเกณฑ์ท่ี สถานศึกษากาหนด 2) นกั เรยี นมคี วามสามารถคิดคานวณไดต้ ามเกณฑ์ทสี่ ถานศกึ ษากาหนด 3) นักเรียนมคี วามสามารถในการวิเคราะหแ์ ละคิดอย่างมีวจิ ารณญาณ อภิปราย แลกเปลี่ยน ความคดิ เหน็ และแก้ปัญหาไดต้ ามเกณฑ์ 4) นักเรียนมีผลงานหรือชิ้นงานจากการทางานกลุ่มหรือเด่ียวได้ และสามารถอธิบาย หลกั การ แนวคิด ขนั้ ตอนการทางาน และปัญหาอุปสรรคของการทางานได้ 5) นักเรียนสามารถใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศในการสบื คน้ ข้อมลู ได้ 6) นกั เรียนมผี ลสัมฤทธิท์ างการเรยี นตามหลักสูตรสถานศกึ ษา 8) นกั เรียนมคี วามรู้ ทักษะพนื้ ฐานและเจตคตทิ ดี่ ีพรอ้ มทีจ่ ะศึกษาตอ่ ในระดับชัน้ ที่สูงข้นึ 1.2 คุณลกั ษณะทพี่ งึ ประสงคข์ องผู้เรียน 1) นักเรียนมคี ุณลกั ษณะและค่านิยมท่ดี ีตามเกณฑท์ ่ีสถานศกึ ษากาหนด 2) นักเรยี นมสี ่วนรว่ มในกิจกรรมประเพณีของท้องถ่นิ และมีความภูมิใจในความเปน็ ไทย 3) นักเรียนอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขบนความแตกต่างทางวัฒนธรรมและ ความหลากหลาย 4) นักเรียนมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์และ แสดงออกอย่างเหมาะสมตามช่วงวยั มำตรฐำนที่ ๒ กระบวนกำรบรหิ ำรและกำรจดั กำร 2.1 โรงเรยี นกาหนดเปา้ หมายวิสยั ทัศน์ และพันธกิจทช่ี ดั เจน 2.2 โรงเรียนมีระบบบริหารจัดการคุณภพาของสถานศึกษาตามระบบ PDCA (หรืออ่ืนๆ เช่น มาตรฐานสากล, โรงเรียนประชารัฐ ฯลฯ) ๒๕

2.3 โรงเรยี นมีการพัฒนาวิชาการตามคุณภาพผ้เู รยี นตามหลักสูตรสถานศึกษาทุก กลมุ่ เปา้ หมาย 2.4 โรงเรียนส่งเสรมิ และสนับสนนุ พฒั นาครูและบคุ ลากรให้มีความ เชี่ยวชาญทางวชิ าชพี 2.5 โรงเรยี นจัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพและสภาพแวดลอ้ มทางสังคมทเ่ี อื้อตอ่ การ จดั การเรียนรู้ อยา่ งมคี ุณภาพ 2.6 โรงเรียนจัดระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศเพอื่ สนบั สนุนการบรหิ ารจดั การและการจัดการเรียนรู้ มำตรฐำนท่ี 3 กระบวนกำรจัดกำรเรยี นกำรสอนทเ่ี นน้ ผู้เรียนเป็นสำคญั 3.1 ครูสามารถจัดการเรยี นรใู้ ห้นักเรียนเกดิ กระบวนการคิดและคิดสรา้ งสรรคโ์ ดยการ ปฏิบัติจรงิ และ สามารถนาไปประยุกตใ์ ชใ้ นชีวติ ได้ 3.2 ครูสามารถใช้สือ่ เทคโนโลยีสารสนเทศ และแหลง่ เรียนรู้ที่หลากหลายทเ่ี ออื้ ต่อการเรยี นรู้ 3.3 ครมู ีการบริหารจัดการช้นั เรียนเชงิ บวก 3.4 ครมู ีการตรวจสอบและประเมินผู้เรยี นอยา่ งเปน็ ระบบและนาผลมาพัฒนาผู้เรียน 3.5 ครูมีการแลกเปลยี่ นเรยี นรแู้ ละให้ข้อมลู สะท้อนกลบั เพ่ือพัฒนาและปรับปรุงการ จัดการเรียนรู้ มำตรฐำนกำรศึกษำ ระดบั กำรศึกษำขัน้ พื้นฐำน แนบท้ายประกาศโรงเรยี นโรงเรยี นวัดโมคลาน เร่ือง ให้ใช้มาตรฐานการศึกษาข้ันปฐมวัยและ ระดบั การศึกษาขัน้ พ้ืนฐานเพอ่ื การประกนั คณุ ภาพภายในของสถานศึกษา ฉบบั ลงวนั ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 มาตรฐานการศึกษาข้ันพื้นฐาน เพ่ือการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา พ.ศ. 2561 มีจานวน 3 มาตรฐาน ดังนี้ มำตรฐำนท่ี 1 คณุ ภำพของผู้เรียน 1.1 ผลสัมฤทธิท์ างวิชาการของผู้เรียน 1.2 คณุ ลักษณะท่ีพงึ ประสงคข์ องผเู้ รยี น มำตรฐำนท่ี 2 กระบวนกำรบริหำรและกำรจัดกำร มำตรฐำนที่ 3 กระบวนกำรจัดกำรเรียนกำรสอนท่ีเน้นผูเ้ รียนเป็นสำคัญ ๒๖

แต่ละมาตรฐานมรี ายละเอียดดังนี้ มำตรฐำนท่ี 1 คณุ ภำพของผู้เรียน 1.1 ผลสมั ฤทธทิ์ างวิชาการของผู้เรียน 1) นกั เรียนมคี วามสามารถในการอา่ น การเขยี น การสอ่ื สารตามเกณฑ์ทส่ี ถานศกึ ษากาหนด 2) นักเรยี นมีความสามารถคิดคานวณไดต้ ามเกณฑท์ สี่ ถานศกึ ษากาหนด 3) นักเรยี นมีความสามารถในการวิเคราะหแ์ ละคดิ อย่างมีวิจารณญาณ อภิปราย แลกเปลย่ี น ความ คิดเห็น และแกป้ ัญหาไดต้ ามเกณฑ์ 4) นกั เรียนมผี ลงานหรอื ช้ินงานจากการท างานกลุ่มหรอื เดย่ี วได้ และสามารถอธบิ าย หลกั การ แนวคิด ขน้ั ตอนการทางาน และปญั หาอปุ สรรคของการทางานได้ 5) นกั เรยี นสามารถใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการสบื คน้ ข้อมูลได้ 6) นกั เรียนมีผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี นตามหลกั สูตรสถานศึกษา 7) นักเรียนมคี วามรู้ ทักษะพื้นฐานและเจตคตทิ ี่ดพี รอ้ มทจ่ี ะศกึ ษาต่อในระดบั ชน้ั ขึ้น 1.2 คณุ ลักษณะทพี่ งึ ประสงคข์ องผเู้ รยี น 1) นักเรียนมคี ณุ ลักษณะและค่านยิ มที่ดีตามเกณฑ์ทสี่ ถานศกึ ษากาหนด 2) นักเรียนมสี ว่ นร่วมในกจิ กรรมประเพณขี องท้องถิ่นและมคี วามภูมิใจในความเป็นไทย 3) นกั เรยี นอย่รู ว่ มกันอยา่ งมีความสขุ บนความแตกตา่ งทางวัฒนธรรมและความหลากหลาย 4) นักเรียนมีสุขภาพร่างกายทแี่ ขง็ แรงสมบูรณแ์ ละแสดงออกอยา่ งเหมาะสมตามช่วงวัย มำตรฐำนท่ี 2 กระบวนกำรบริหำรและกำรจดั กำร 2.1 โรงเรียนกาหนดเป้าหมายวสิ ยั ทัศน์ และพนั ธกจิ ท่ีชดั เจน 2.2 โรงเรียนมรี ะบบบรหิ ารจดั การคุณภาพของสถานศึกษาตามระบบ PDCA 2.3 โรงเรียนมกี ารพฒั นาวชิ าการตามคุณภาพผเู้ รยี นตามหลกั สูตรสถานศึกษาทุกกลมุ่ เป้าหมาย 2.4 โรงเรยี นสง่ เสริมและสนบั สนุนพฒั นาครแู ละบคุ ลากรให้มีความเชี่ยวชาญทางวชิ าชพี ๒๗

2.5 โรงเรยี นจดั สภาพแวดลอ้ มทางกายภาพและสภาพแวดล้อมทางสงั คมทเ่ี ออ้ื ต่อการจัดการเรยี น อย่างมคี ณุ ภาพ 2.6 โรงเรียนจัดระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศเพอ่ื สนบั สนุนการบรหิ ารจดั การและการจัดการเรยี นรู้ มำตรฐำนท่ี 3 กระบวนกำรจัดกำรเรยี นกำรสอนทเี่ น้นผเู้ รียนเป็นสำคญั 3.1 ครสู ามารถจัดการเรยี นรู้ให้นักเรยี นเกิดกระบวนการคิดและคิดสรา้ งสรรค์โดยการปฏบิ ตั ิ สามารถนาไปประยกุ ตใ์ ช้ในชีวิตได้ 3.2 ครูสามารถใช้สือ่ เทคโนโลยีสารสนเทศ และแหลง่ เรยี นรู้ทห่ี ลากหลายทีเ่ ออื้ ตอ่ การเรยี น 3.3 ครมู ีการบริหารจัดการช้นั เรียนเชิงบวก 3.4 ครมู ีการตรวจสอบและประเมินผเู้ รยี นอยา่ งเปน็ ระบบและนาผลมาพัฒนาผ้เู รยี น 3.5 ครูมีการแลกเปลยี่ นเรียนรแู้ ละให้ข้อมูลสะทอ้ นกลบั เพื่อพัฒนาและปรับปรงุ การจัดการจัดการ เรียนรู้ 5. งำน/โครงกำร/กจิ กรรม (ระบชุ ื่องำน/โครงกำร/กิจกรรม ทีด่ ำเนนิ กำรในปีกำรศึกษำทร่ี ำยงำน) 1. โครงการบา้ นนกั วทิ ยาศาสตรน์ อ้ ย 2. โครงการห้องสมุดสามดี 3. โครงการพัฒนาการอา่ นออกเขียนได้ 4. โครงการยกระดบั ผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี น 5. โครงการพัฒนาผูเ้ รยี นระดับปฐมวยั 6. โครงการศกึ ษาแหลง่ เรียนรเู้ พอ่ื พฒั นาความรูข้ องผเู้ รยี น 7. โครงการยกระดับผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี นคณิตศาสตร์ 8. โครงการพฒั นาการสอนและสง่ เสรมิ ความสามารถทางภาษาอังกฤษ 9. โครงการการคุณธรรมนาชวี ิต ๒๘

10. โครงการปรบั ปรงุ สภาพแวดลอ้ มและภูมทิ ศั น์ 11. โครงการพัฒนาห้องปฏิบตั ิการคอมพวิ เตอร์ 12. โครงการสง่ เสรมิ สุขภาพ 13. โครงการนิเทศภายใน 14. โครงการประชุมคณะกรรมการสถานศึกษาและ ผปู้ กครองนักเรยี น 15. โครงการจัดระบบดูแลช่วยเหลอื นกั เรียน 16. โครงการเพม่ิ ประสทิ ธภิ าพและประสิทธผิ ลในการทางานของครู 17. จัดระบบประกนั คณุ ภาพภายในสถานศึกษา 18. โครงการเศรษฐกิจพอเพยี ง 19. โครงการประชาธิปไตยในโรงเรียน ๒๙

ส่วนที่ 3 สรุปผล จดุ เด่น จดุ ท่ีควรพฒั นำ แผนกำรพฒั นำคณุ ภำพเพือ่ ยกระดบั ใหส้ ูงขนึ้ ผลการประเมินตนเองของสถานศึกษาเป็นข้อมูลสารสนเทศสาคัญท่ีสถานศึกษาจะต้องนาไป วเิ คราะห์ สังเคราะหเ์ พ่อื สรุปนาไปสกู่ ารเชื่อมโยงหรือสะท้อนภาพความสาเรจ็ กบั แผนพฒั นาการจดั การศกึ ษา ของสถานศึกษา ดังน้ัน จากผลการดาเนินงานของสถานศึกษา สามารถสรุปผลการประเมินในภาพรวมของ จุดเด่น จุดควรพัฒนาของแต่ละมาตรฐาน พร้อมทั้งแนวทางการพัฒนาในอนาคตและความต้องการการ ชว่ ยเหลอื ได้ดังน้ี สรุปมำตรฐำนกำรศกึ ษำ ระดบั ปฐมวัย มำตรฐำนที่ 1 คณุ ภำพเด็ก 1. ระดบั คุณภำพ ......ยอดเย่ียม....... 2. วิธกี ำรพฒั นำ ขอ้ มลู หลกั ฐำน เอกสำรเชงิ ประจักษ์ ท่สี นับสนุนผลกำรประเมินตนเอง เด็กปฐมวัยได้รับการส่งเสริมให้มีพัฒนาการทางการสื่อสารได้ 2 ภาษา ได้แก่ ภาษาไทย และ ภาษาอังกฤษ โดยการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ในรูปกิจกรรม ทาให้เด็กมีพัฒนาการทั้ง ๔ ด้านดีขึ้น เด็กเกิดความสนใจใฝ่เรียนรู้ต่าง ๆ รอบตัว สนใจซักถามอย่างตั้งใจเรียนรู้ พร้อมท้ังมีทักษะทางภาษาที่ เหมาะสมกับวัยเด็กจึงควรได้รับการส่งเสริมให้มีการพัฒนาต่อยอดทั้ง ๒ ภาษาโดยจัดให้มีกิจกรรมที่ หลากหลายเพิ่มมากข้ึนและต่อเน่ือง ซ่ึงอาจทาให้เด็กสามารถพูดได้ท้ัง ๒ ภาษา และจะนาไปสู่การเป็น แบบอย่างทีด่ ีใหก้ บั สถานศกึ ษา อืน่ ๆ ต่อไป 3. จดุ เด่น จุดท่คี วรพัฒนำ แผนกำรพัฒนำคุณภำพเพ่ือยกระดับใหส้ ูงขึน้ จุดเดน่ ๑. เด็กมสี ุขภาพกาย สุขภาพจิตทด่ี ี มีร่างกายแขง็ แรงสมวัย ปฏิบตั กิ ิจกรรมประจาวันด้วยตนเอง ได้มี การส่งเสรมิ และรักษาสขุ ภาพอนามยั ท่ดี ี และมีการบนั ทกึ การตรวจสขุ ภาพ ๒. เดก็ รจู้ กั การเกบ็ ออมและประหยัด ๓. เด็กมสี ขุ ภาพดี มนี ้าหนกั ส่วนสูงตามเกณฑ์ แขง็ แรง มีการเคลื่อนไหวคลอ่ งแคล่ว การทรงตวั ได้ดี รา่ เริง แจม่ ใส อารมณด์ ี จดุ ควรพัฒนำ ๑. เด็กบางส่วนยังไม่คอ่ ยกล้าแสดงออก และการพดู จาไมม่ หี างเสียง ๒. เดก็ บางส่วนยงั ไมไ่ ดใ้ ชค้ วามสามารถในการคิด และแกป้ ญั หาได้ดว้ ยตนเอง ๓๐

แผนกำรพฒั นำคุณภำพเพือ่ ยกระดบั ใหส้ งู ข้นึ ๑. เด็กควรได้รับการพฒั นาในด้านกิจกรรม และเกม การละเล่นท่ีเปิดโอกาสให้เด็กได้คิดค้นวิธกี าร เล่น และแก้ปัญหาในขณะเล่นท้ังรายบคุ คลและรายกลมุ่ ๒. กจิ กรรมและเกม การเล่น เพ่ือส่งเสรมิ กลา้ มเน้ือมัดเลก็ กล้ามเนือ้ มดั ใหญ่ ความคิดริเร่มิ สร้างสรรค์ และจินตนาการใหส้ ามารถสรา้ งสรรคผ์ ลงานศิลปะ การเล่าเรอื่ ง การเลียนแบบ การเล่นบทบาทสมมติ ทดลอง ใชส้ ิ่งของหรอื เลน่ ด้วยวธิ ีการทแ่ี ตกต่างหลากหลาย ตามความคดิ จนิ ตนาการของตนเองได้ ๓. เดก็ ควรไดร้ บั การใชค้ าพูดตอ้ งมีหางเสียง เชน่ ครับ คะ่ โดยการชน้ี าและยา้ เตือนบ่อย ๆ เวลาตอบ คาถามครู เปน็ ต้น มำตรฐำนที่ 2 กระบวนกำรบริหำรและกำรจัดกำร 1. ระดบั คณุ ภำพ ......ยอดเยยี่ ม......... 2. วิธีกำรพัฒนำ ขอ้ มูล หลกั ฐำน เอกสำรเชิงประจกั ษ์ ท่ีสนบั สนุนผลกำรประเมนิ ตนเอง สถานศึกษาต้องพัฒนาระบบการบริหารจดั การใหม้ คี วามชัดเจน และดาเนินการอย่างเปน็ ระบบตาม กระบวนการบริหารคณุ ภาพ PDCA กลา่ วคอื มกี ารกาหนดเป้าหมายให้ชัดเจน มีแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา ท่ีครอบคลุมทกุ ๆ ปี มีแผนปฏิบัติการประจาปที ี่ต่อเน่ือง มีการดาเนินการตามแผนให้เป็นไปตามกิจกรรมท่ี กาหนด มกี ารจดบนั ทึกรอ่ งรอยการดาเนินการทส่ี ามารถตรวจสอบติดตามได้ มีการนิเทศติดตามงานทช่ี ัดเจน มกี ารประเมินตามแผนงานโครงการทย่ี ึดวัตถปุ ระสงค์ และเปา้ หมายให้ครอบคลุมทุก ๆโครงการ มรี ะบบการ นาแผนไปสู่การปฏิบัติที่ชัดเจน เช่น มีการประชุมก่อนนาแผนไปปฏิบัติ มีการนิเทศติดตาม และสร้างความ เข้าใจร่วมกันอย่างตอ่ เน่ือง มีระบบการนิเทศตดิ ตามที่ตอ่ เน่ือง และมรี ะบบการแลกเปลยี่ นเรยี นรู้ซ่งึ กันและกนั ทีเ่ ป็นระบบ (PDCA) การดาเนินการตามที่กล่าวอาจนาไปส่นู วัตกรรมหรือเปน็ แบบอยา่ งที่ดี 3. จุดเด่น จดุ ท่ีควรพัฒนำ แผนกำรพฒั นำคุณภำพเพอ่ื ยกระดบั ใหส้ งู ขน้ึ จดุ เด่น ๑. ผู้บรหิ ารมวี สิ ยั ทศั นใ์ นการบริหารท่ีชดั เจน มีความมุ่งม่ันในการปฏบิ ัตงิ าน ใชว้ กิ ฤตเป็นโอกาสที่จะ สรา้ งความเช่อื ถือให้กับชุมชนท้องถิน่ ในการสร้างเกียรติภมู ชิ อื่ เสียงใหเ้ หมอื นอดตี ทีผ่ ่านมา ๒. ครูมีวามตระหนักในความเป็นครู จัดการเรียนการสอนเต็มความรู้ ความสามารถ เอาใจใส่ดูแล ผเู้ รยี นอยา่ งท่ัวถึง และพฒั นาตนเองอยา่ งตอ่ เนือ่ ง ๓. คณะกรรมการสถานศึกษา ผปู้ กครองให้ความร่วมมือในกิจกรรมตา่ ง ๆ ของโรงเรียนเป็นอยา่ งดี จุดควรพัฒนำ ๑. ปรับปรงุ และพัฒนาหลักสูตรใหเ้ หมาะสม เป็นไปตามความตอ้ งการของทอ้ งถ่นิ ทุก ๆ ปี ๒. มีแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา ให้ครอบคลุมทุกช่วงปี มีแผนปฏิบัติการประจาปที ่ีสอดคล้องกบั กบั แผนพฒั นาคณุ ภาพการศึกษาทุก ๆ ปี ๓. มีการดาเนินการตามแผนงาน โครงการให้เป็นไปตามกิจกรรมท่ีกาหนด ทั้งบันทึกร่องรอยการ ดาเนนิ การให้ชดั เจนสามารถตรวจตดิ ตามได้ ๓๑

๔. มีการประเมนิ ตนแผนงานโครงการท่ีเป็นระบบ ให้มีผลการประเมินท่ีเหมาะสม เป็นไปได้และนา ผลการประเมินไปปรับปรงุ พฒั นางาน โครงการใหเ้ หมาะสม ๕. กาหนดค่าเป้าหมายความสาเร็จ ตามมาตรฐาน ประเด็กพิจารณาให้ชัดเจนและการกาหนด คา่ เป้าหมายตามประเด็นพิจารณา ทงั้ เชงิ ปริมาณและเชิงคุณภาพ ๖. มีระบบการประเมินคุณภาพตามมาตรฐาน ประเด็กพิจารณาที่ดาเนินการเป็นขั้นตอนที่ชัดเจน และให้มผี ลการประเมนิ ทีเ่ หมาะสม เป็นไปได้และน่าเชือ่ ถอื ๗. ด้านการจัดให้มีครูครบช้ัน ครบห้อง และมีความเชี่ยวชาญในการจัดประสบการณ์ เห็นว่า สถานศึกษามีครจู านวนท่ีเหมาะสมกับจานวนนักเรยี น แตเ่ พื่อใหก้ ารจดั ประสบการณ์แก่เด็กท่มี ีประสิทธิภาพ สถานศกึ ษาควรพัฒนาครใู หม้ ีประสบการณ์เพมิ่ ข้ึนและไดร้ บั การนิเทศการสอนท่ตี อ่ เน่อื ง แผนกำรพฒั นำคุณภำพเพ่ือยกระดับใหส้ งู ขึ้น ๑. สร้างปฏิทินการดาเนินงานให้มคี วามชดั เจนตลอดทงั้ ปี ๒. มีระบบการนาแผนไปสู่การปฏิบัติทชี่ ัดเจน เช่น มีการประชุมก่อนนาแผนไปปฏิบตั ิ มีระบบการ ประสานงานท่ชี ัดเจน เช่น การประชุม มกี ารนเิ ทศติดตาม และสรา้ งความเข้าใจร่วมกนั อย่างตอ่ เน่อื ง ๓. มรี ะบบการนเิ ทศตดิ ตามท่ีต่อเนอื่ ง และมรี ะบบการแลกเปล่ยี นเรยี นรู้ซึ่งกันและกันทเี่ ปน็ ระบบ (PLC) ๔. วิธีการอน่ื ๆ ที่เหมาะสม ๕. ด้านการจัดครูครบชั้น ครบห้อง และมีความเชี่ยวชาญในการจัดประสบการณ์ สถานศึกษาควร พฒั นาครูใหม้ ปี ระสบการณ์เพ่ิมข้นึ เป็นไปอยา่ งต่อเนอื่ งและไดร้ บั การนิเทศอยเู่ สมอ ๆ มำตรฐำนท่ี 3 กำรจดั ประสบกำรณ์ท่เี นน้ เด็กเป็นสำคัญ 1. ระดบั คณุ ภำพ .........ยอดเยยี่ ม.......... 2. วธิ กี ำรพฒั นำ ขอ้ มลู หลกั ฐำน เอกสำรเชงิ ประจกั ษ์ ทสี่ นับสนนุ ผลกำรประเมินตนเอง ครูควรจดั ประสบการณ์การเรยี นรู้ตามแผนการจัดประสบการณก์ ารเรียนการสอนโดยใชแ้ บบท่ี สพฐ. กาหนด และจัดประสบการณ์ในแต่ละหน่วยการเรียนรู้ให้เป็นไปตามแผนและควรมีการนิเทศการจัดการ ประสบการณท์ ่ีเป็นระบบ หากผบู้ ริหารสถานศึกษาไม่ว่างหรอื ติดราชการไม่มโี อกาสนิเทศ ครคู วรศึกษาแนว การจดั ประสบการณก์ ารเรียนรู้จากส่อื ตา่ งประเทศ นามาเพอื่ เป็นแนวทางการจดั ประสบการณ์การเรยี นรู้ และ พฒั นากระบวนการจดั ประสบการณก์ ารเรยี นรจู้ นกว่าจะชานาญและอาจพัฒนาไปสู่นวตั กรรมหรอื แบบอยา่ งท่ี ดีได้ 3. จดุ เดน่ จดุ ท่ีควรพัฒนำ แผนกำรพัฒนำคณุ ภำพเพื่อยกระดบั ให้สงู ข้นึ จุดเด่น ๑. ครูมคี วามตระหนกั ในความเปน็ ครู ยดึ มน่ั ในจรรยาบรรณวชิ าชพี ครู มีความรคู้ วามสามารถในการ จัดการเรยี นการสอน มคี วามรับผดิ ชอบ เอาใจใส่ดแู ลเด็กเป็นอยา่ งดี ๓๒

๒. ครูมีการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ท่ีเน้นเด็กเป็นสาคัญ เพ่ือให้พัฒนาท้ัง ๔ ด้าน ได้แก่ ด้าน รา่ งกาย ด้านอารมณแ์ ละจิตใจ ดา้ นสงั คมและด้านสติปญั ญา รวมไปถงึ การสร้างความสมั พนั ธอ์ ันดรี ะหวา่ งครู กบั เด็กและผปู้ กครอง สง่ เสริมความสมั พนั ธ์ทางบวกกับเดก็ และครอบครวั ๓. ครมู ีการใชส้ อ่ื อุปกรณ์ ในการจัดกิจกรรมการเรยี นรูท้ เ่ี หมาะสมกับเดก็ และสอดคล้องกบั กจิ กรรม ท่ีจัด เลือกใช้ส่ือท่ีหลากหลายท้ังสื่อที่จดั ทาเอง สื่อธรรมชาติ และส่ือท่ีจัดซ้อื มีการดูแลสอื่ ให้มีความสะอาด และปลอดภัยกับเด็ก จดุ ควรพัฒนำ ๑. ครูดาเนินการจัดทาวิจยั ในชั้นเรยี นที่ยังไม่สอดคลอ้ งกับผลการประเมินพัฒนาการเด็กตามสภาพ จริงและขาดความต่อเน่ือง ๒. การนเทศการสอนของครูขาดการเปน็ ระบบ มเี พียงการตรวจเยย่ี มชน้ั เรยี น ๓. การจัดครูให้เพียงพอกับชั้นเรียน ส่งเสริมให้ครูมีความเชี่ยวชาญด้านการจัดประสบการณ์การ เรยี นรู้ จดั สภาพแวดล้อมและส่ือเพื่อการเรยี นรอู้ ยา่ งเพียงพอ และปลอดภัย แผนกำรพฒั นำคุณภำพเพื่อยกระดบั ให้สงู ข้นึ ๑. ครูควรมกี ารดาเนินการจดั ทาวจิ ยั ในชน้ั เรียนเพอื่ แก้ปญั หาของเด็กเป็นรายบุคคลใหส้ อดคล้องและ เหมาะสมกับผลการเรียนรู้ท่ีเกิดกบั เด็กตามสภาพจริง โดยการนาผลการประเมินพัฒนาการเด็กมาวิเคราะห์ เพือ่ ใช้เปน็ ข้อมูลในการทาวจิ ัยในช้ันเรยี นตอ่ ไป ๒. ครูควรได้รับการนิเทศการสอนที่เป็นระบบ อย่างต่อเนื่อง ปีการศึกษาละ ๒ ครั้ง มีคาสั่งนิเทศ มีตารางนิเทศการสอนออกเป็นรายภาคเรียน มีผู้นิเทศการสอนชัดเจน และต้องมีแบบบันทึกการนนิเทศที่ ชัดเจน ๓. ครูควรออกประชาสัมพันธ์โรงเรียน ชี้แจงให้ผู้ปกครองรอบสถานศึกษา เห็นถึงนโยบาย การจัดการศึกษาให้เด็กเข้ามาเรียนมากขึ้น เมื่อเด็กก็สามารถจัดครูให้เพียงพอกับช้ันเรียน ส่งเสริมให้ครู มีความเชี่ยวชาญด้านการจดั ประสบการณ์ จดั สภาพแวดลอ้ มและส่ือเพอ่ื การเรยี นรู้อยา่ งพอเพยี งและปลอดภัย สรปุ มำตรฐำนกำรศกึ ษำของสถำนศกึ ษำ ระดบั ปฐมวยั โดยภำพรวม 1. ระดับคณุ ภำพ .....ยอดเยย่ี ม......... 2. วิธกี ำรพัฒนำ ข้อมูล หลักฐำน เอกสำรเชิงประจักษ์ ท่สี นบั สนนุ ผลกำรประเมินตนเอง เด็กปฐมวัยได้รับการส่งเสริมให้มีพัฒนาการทางการส่ือสารได้ 2 ภาษา ได้แก่ ภาษาไทย และ ภาษาอังกฤษ โดยการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ในรูปกิจกรรม ทาให้เด็กมีพัฒนาการทั้ง ๔ ด้านดีขึ้น เด็กเกิดความสนใจใฝ่เรียนรู้ต่าง ๆ รอบตัว สนใจซักถามอย่างต้ังใจเรียนรู้ พร้อมท้ังมีทักษะทางภาษาท่ี เหมาะสมกับวัยเด็กจึงควรได้รับการส่งเสริมให้มีการพัฒนาต่อยอดท้ัง ๒ ภาษาโดยจัดให้มีกิจกรรมที่ หลากหลายเพ่ิมมากข้ึนและต่อเน่ือง ซึ่งอาจทาให้เด็กสามารถพูดได้ทั้ง ๒ ภาษา และจะนาไปสู่การเป็น แบบอย่างที่ดใี หก้ บั สถานศกึ ษา อ่นื ๆ ต่อไป ๓๓

สถานศึกษาต้องพัฒนาระบบการบริหารจัดการให้มีความชัดเจน และดาเนินการอย่างเป็นระบบ ตามกระบวนการบริหารคุณภาพ PDCA กล่าวคือ มีการกาหนดเป้าหมายให้ชัดเจน มีแผนพัฒนาคุณภาพ การศึกษาที่ครอบคลุมทุก ๆ ปี มีแผนปฏิบัติการประจาปีท่ีต่อเน่ือง มีการดาเนินการตามแผนให้เป็นไปตาม กจิ กรรมท่ีกาหนด มกี ารจดบันทึกรอ่ งรอยการดาเนินการท่ีสามารถตรวจสอบติดตามได้ มกี ารนเิ ทศติดตามงาน ที่ชัดเจน มีการประเมินตามแผนงานโครงการท่ียึดวัตถุประสงค์ และเป้าหมายให้ครอบคลมุ ทุก ๆ โครงการ มีระบบการนาแผนไปสกู่ ารปฏิบัติที่ชัดเจน เช่น มีการประชุมก่อนนาแผนไปปฏิบัติ มีการนิเทศติดตาม และ สร้างความเข้าใจร่วมกันอย่างต่อเนอ่ื ง มรี ะบบการนิเทศติดตามที่ต่อเนื่อง และมรี ะบบการแลกเปลย่ี นเรยี นรซู้ งึ่ กันและกันทเี่ ปน็ ระบบ (PDCA) การดาเนนิ การตามทก่ี ลา่ วอาจนาไปสู่นวัตกรรมหรือเป็นแบบอยา่ งที่ดี ครูควรจดั ประสบการณก์ ารเรียนร้ตู ามแผนการจดั ประสบการณ์การเรยี นการสอนโดยใชแ้ บบท่ี สพฐ. กาหนด และจัดประสบการณ์ในแต่ละหน่วยการเรียนรู้ให้เป็นไปตามแผนและควรมีการนิเทศการจัดการ ประสบการณ์ทเี่ ป็นระบบ หากผบู้ รหิ ารสถานศึกษาไม่วา่ งหรือติดราชการไม่มีโอกาสนิเทศ ครูควรศึกษาแนว การจัดประสบการณก์ ารเรยี นร้จู ากสอื่ ตา่ งประเทศ นามาเพ่อื เป็นแนวทางการจดั ประสบการณก์ ารเรยี นรู้ และ พฒั นากระบวนการจัดประสบการณ์การเรยี นรจู้ นกวา่ จะชานาญและอาจพัฒนาไปสู่นวตั กรรมหรอื แบบอยา่ งท่ี ดไี ด้ 3. จดุ เด่น จุดที่ควรพัฒนำ แผนกำรพัฒนำคุณภำพเพื่อยกระดบั ให้สูงข้นึ จดุ เดน่ ๑. เด็กมีสุขภาพกาย สุขภาพจิตท่ีดี มีร่างกายแข็งแรงสมวัย ปฏิบัติกิจกรรมประจาวันด้วยตนเอง ไดม้ ีการสง่ เสริมและรักษาสขุ ภาพอนามยั ทด่ี ี และมกี ารบนั ทึกการตรวจสุขภาพ ๒. เด็กรจู้ ักการเกบ็ ออมและประหยดั ๓. เดก็ มีสขุ ภาพดี มนี ้าหนกั ส่วนสูงตามเกณฑ์ แข็งแรง มีการเคลื่อนไหวคลอ่ งแคลว่ การทรงตัวได้ดี ร่าเริง แจม่ ใส อารมณ์ดี ๔. ผู้บริหารมีวิสัยทัศน์ในการบริหารท่ีชัดเจน มีความมุ่งมั่นในการปฏิบัติงาน ใช้วิกฤตเป็นโอกาส ทจี่ ะสร้างความเชือ่ ถือให้กบั ชุมชนทอ้ งถิน่ ในการสร้างเกียรตภิ มู ิช่ือเสยี งใหเ้ หมอื นอดตี ท่ผี ่านมา ๕. ครูมีความตระหนักในความเปน็ ครู จัดการเรยี นการสอนเต็มความรู้ ความสามารถ เอาใจใส่ดูแล ผู้เรยี นอยา่ งทว่ั ถงึ และพัฒนาตนเองอยา่ งตอ่ เน่อื ง ๖. คณะกรรมการสถานศึกษา ผปู้ กครองให้ความรว่ มมือในกิจกรรมต่าง ๆ ของโรงเรียนเป็นอย่างดี ๗. ครูมีความตระหนักในความเป็นครู ยึดม่ันในจรรยาบรรณวิชาชีพครู มีความรู้ความสามารถ ในการจดั การเรยี นการสอน มคี วามรับผิดชอบ เอาใจใสด่ แู ลเด็กเป็นอยา่ งดี ๘. ครูมีการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ที่เน้นเด็กเป็นสาคัญ เพื่อให้พัฒนาทั้ง ๔ ด้าน ได้แก่ ด้าน รา่ งกาย ดา้ นอารมณแ์ ละจติ ใจ ด้านสังคมและด้านสตปิ ญั ญา รวมไปถึงการสร้างความสมั พนั ธอ์ ันดีระหว่างครู กบั เดก็ และผปู้ กครอง สง่ เสรมิ ความสมั พนั ธท์ างบวกกบั เดก็ และครอบครัว ๙. ครมู กี ารใชส้ ื่อ อุปกรณ์ ในการจดั กจิ กรรมการเรียนรทู้ ่ีเหมาะสมกบั เด็ก และสอดคลอ้ งกับกิจกรรม ที่จัด เลือกใช้สื่อท่ีหลากหลายทง้ั สื่อที่จัดทาเอง ส่ือธรรมชาติ และสื่อที่จดั ซอ้ื มีการดูแลสื่อใหม้ ีความสะอาด และปลอดภัยกับเด็ก ๓๔

จดุ ควรพัฒนำ ๑. เด็กบางส่วนยงั ไม่คอ่ ยกลา้ แสดงออก และการพดู จาไม่มหี างเสยี ง ๒. เด็กบางส่วนยังไมไ่ ด้ใชค้ วามสามารถในการคิด และแกป้ ัญหาได้ดว้ ยตนเอง ๓. ปรับปรงุ และพฒั นาหลักสูตรใหเ้ หมาะสม เป็นไปตามความต้องการของทอ้ งถ่นิ ทุก ๆ ปี ๔. มีแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา ให้ครอบคลมุ ทุกช่วงปี มีแผนปฏิบัติการประจาปที ี่สอดคล้องกบั กบั แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาทกุ ๆ ปี ๕. มีการดาเนินการตามแผนงาน โครงการให้เป็นไปตามกิจกรรมท่ีกาหนด ท้ังบันทึกร่องรอย การดาเนินการให้ชัดเจนสามารถตรวจตดิ ตามได้ ๖. มกี ารประเมินตามแผนงานโครงการทเ่ี ป็นระบบ ให้มผี ลการประเมนิ ท่ีเหมาะสม เป็นไปได้และนา ผลการประเมินไปปรบั ปรุงพฒั นางาน โครงการให้เหมาะสม ๗. กาหนดค่าเป้าหมายความสาเร็จ ตามมาตรฐาน ประเด็กพิจารณาให้ชัดเจนและการกาหนด ค่าเปา้ หมายตามประเด็นพิจารณา ท้ังเชงิ ปรมิ าณและเชงิ คณุ ภาพ ๘. มีระบบการประเมินคุณภาพตามมาตรฐาน ประเด็กพิจารณาที่ดาเนินการเป็นข้ันตอนท่ีชัดเจน และ ให้มีผลการประเมนิ ที่เหมาะสม เปน็ ไปได้และนา่ เชอื่ ถือ ๙. ด้านการจัดให้มีครูครบช้ัน ครบห้อง และมีความเช่ียวชาญในการจัดประสบการณ์ เห็นว่า สถานศกึ ษามคี รจู านวนท่ีเหมาะสมกบั จานวนนักเรียน แตเ่ พื่อให้การจดั ประสบการณ์แก่เดก็ ทม่ี ปี ระสทิ ธิภาพ สถานศึกษาควรพฒั นาครูใหม้ ปี ระสบการณเ์ พิ่มข้นึ และไดร้ ับการนเิ ทศการสอนทต่ี อ่ เนือ่ ง ๑o. ครูดาเนนิ การจัดทาวิจัยในช้นั เรยี นที่ยงั ไมส่ อดคลอ้ งกับผลการประเมนิ พฒั นาการเด็กตามสภาพ จรงิ และขาดความต่อเนอื่ ง ๑๑. การนิเทศการสอนของครูขาดการเปน็ ระบบ มีเพียงการตรวจเยย่ี มชั้นเรยี น ๑๒. การจัดครูให้เพียงพอกับชั้นเรียน ส่งเสริมให้ครมู ีความเชี่ยวชาญด้านการจัดประสบการณก์ าร เรียนรู้ จัดสภาพแวดล้อมและส่ือ เพอ่ื การเรยี นรู้อยา่ งเพียงพอ และปลอดภัย แผนกำรพฒั นำคุณภำพเพ่อื ยกระดับใหส้ งู ขึน้ ๑. เด็กควรได้รับการพัฒนาในด้านกิจกรรม และเกม การละเล่นท่ีเปิดโอกาสให้เด็กได้คิดค้นวิธีการ เล่น และแกป้ ญั หาในขณะเล่นทงั้ รายบคุ คลและรายกลมุ่ ๒. กจิ กรรมและเกม การเลน่ เพ่ือสง่ เสรมิ กลา้ มเนอ้ื มัดเลก็ กล้ามเนอ้ื มัดใหญ่ ความคดิ ริเริ่มสรา้ งสรรค์ และจินตนาการให้สามารถสร้างสรรคผ์ ลงานศิลปะ การเล่าเรอื่ ง การเลยี นแบบ การเลน่ บทบาทสมมติ ทดลอง ใชส้ ่งิ ของหรือเล่นด้วยวิธกี ารท่แี ตกต่างหลากหลาย ตามความคดิ จนิ ตนาการของตนเองได้ ๓. เดก็ ควรได้รบั การใช้คาพดู ต้องมหี างเสียง เชน่ ครับ คะ่ โดยการชีน้ าและย้าเตือนบอ่ ย ๆ เวลาตอบ คาถามครู เป็นตน้ ๔. สร้างปฏทิ ินการดาเนนิ งานให้มีความชัดเจนตลอดท้ังปี ๕. มีระบบการนาแผนไปสู่การปฏิบัติทช่ี ัดเจน เช่น มีการประชุมก่อนนาแผนไปปฏิบตั ิ มีระบบการ ประสานงานทีช่ ดั เจน เช่น การประชุม มีการนิเทศติดตาม และสรา้ งความเขา้ ใจรว่ มกันอยา่ งตอ่ เนือ่ ง ๓๕

๖. มีระบบการนิเทศติดตามท่ีต่อเนื่อง และมีระบบการแลกเปล่ียนเรียนร้ซู ่ึงกันและกันที่เป็นระบบ (PLC) ๗. วิธีการอ่นื ๆ ทีเ่ หมาะสม ๘. ด้านการจัดครูครบช้ัน ครบห้อง และมีความเช่ียวชาญในการจัดประสบการณ์ สถานศึกษาควร พฒั นาครูใหม้ ปี ระสบการณเ์ พิม่ ขึ้น เปน็ ไปอย่างต่อเนอ่ื งและได้รับการนเิ ทศอย่เู สมอ ๆ ๙. ครูควรมกี ารดาเนินการจดั ทาวิจยั ในชนั้ เรียนเพ่อื แกป้ ญั หาของเด็กเป็นรายบคุ คลให้สอดคลอ้ งและ เหมาะสมกับผลการเรียนรู้ทีเ่ กิดกับเด็กตามสภาพจรงิ โดยการนาผลการประเมินพฒั นาการเด็กมาวิเคราะห์ เพอื่ ใช้เป็นขอ้ มูลในการทาวิจยั ในชั้นเรียนต่อไป ๑0. ครูควรได้รบั การนิเทศการสอนที่เปน็ ระบบ อย่างต่อเนื่อง ปีการศึกษาละ ๒ ครั้ง มีคาสั่งนเิ ทศ มีตารางนิเทศการสอนออกเป็นรายภาคเรียน มีผู้นิเทศการสอนชัดเจน และต้องมีแบบบันทึกการนนิเทศท่ี ชดั เจน ๑๑. ครูควรออกประชาสัมพันธ์โรงเรียน ช้ีแจงให้ผู้ปกครองรอบสถานศึกษา เห็นถึงนโยบาย การจดั การศกึ ษาให้เดก็ เข้ามาเรยี นมากข้ึน เม่อื เดก็ กส็ ามารถจัดครูใหเ้ พยี งพอกับชั้นเรยี น สง่ เสรมิ ให้ครมู คี วาม เชย่ี วชาญด้านการจดั ประสบการณ์ จดั สภาพแวดล้อมและส่ือเพ่อื การเรียนรอู้ ยา่ งพอเพียงและปลอดภัย ผลกำรประเมินคุณภำพมำตรฐำนกำรศึกษำเพ่ือกำรประกันคุณภำพภำยในของสถำนศึกษำ เปรียบเทยี บกับค่ำเป้ำหมำยตำมประกำศของสถำนศกึ ษำ ระดบั กำรศกึ ษำปฐมวยั ค่ำเปำ้ หมำย ผลกำร ผลกำร ดีเลศิ ประเมนิ เปรียบเทยี บ มำตรฐำนกำรศกึ ษำของสถำนศึกษำ ดีเลศิ มำตรฐำน/ประเด็นพิจำรณำ ดเี ลิศ ยอดเยี่ยม สงู กวำ่ คำ่ ดีเลศิ เป้ำหมำย มำตรฐำนท่ี 1 คุณภำพเด็ก ดี ยอดเยี่ยม สงู กวา่ คา่ เปา้ หมาย 1.1มกี ารพฒั นาดา้ นร่างกาย แข็งแรง มีสขุ นสิ ัยท่ดี ี และดแู ลความปลอดภยั ของ ยอดเยยี่ ม สูงกว่าคา่ เปา้ หมาย ตนเองได้ ยอดเยี่ยม สงู กวา่ คา่ เปา้ หมาย 1.2มีการพฒั นาดา้ นอารมณ์ จติ ใจ ควบคุม ดเี ลิศ สงู กว่าคา่ เปา้ หมาย และแสดงออกทางอารมณ์ได้ 1.3มีการพฒั นาการดา้ นสงั คม ช่วยเหลอื ตนเอง และเปน็ สมาชิกที่ดขี องสงั คม 1.4มีพัฒนาการดา้ นสตปิ ัญญา สือ่ สารได้ มีทกั ษะการคิดพืน้ ฐานและแสวงหาความรู้ ได้ ๓๖

มำตรฐำนท่ี 2 กระบวนกำรบรหิ ำรและจดั กำร ดี ยอดเย่ียม สงู กวำ่ ค่ำ ดี เปำ้ หมำย 2.1 มหี ลกั สตู รครอบคลมุ พัฒนาการทง้ั ๔ ดา้ น ดี ยอดเยี่ยม สอดคล้องกบั บรบิ ทของท้องถ่นิ ดี ยอดเยี่ยม สงู กว่าคา่ เป้าหมาย 2.2 จดั ครใู หเ้ พียงพอกบั ชั้นเรยี น ดี ยอดเยย่ี ม 2.3 สง่ เสริมใหค้ รมู ีความเชย่ี วชาญดา้ นการจดั สงู กว่าค่าเปา้ หมาย ดี ประสบการณ์ สงู กว่าคา่ เป้าหมาย 2.4 จดั สภาพแวดล้อมและส่ือเพ่ือการเรียนรู้ ดีเลิศ ยอดเยย่ี ม สงู กวา่ คา่ เปา้ หมาย อยา่ งปลอดภยั และเพียงพอ ดี 2.5 ใหบ้ รกิ ารส่อื เทคโนโลยีสารสนเทศและสอื่ ยอดเยี่ยม สูงกวา่ ค่าเป้าหมาย ดี การเรียนรเู้ พอ่ื สนบั สนุนการจดั ดี ยอดเยย่ี ม สูงกวา่ ค่าเป้าหมาย ประสบการณ์ ดี 2.6 มีระบบบรหิ ารคณุ ภาพทเ่ี ปดิ โอกาสให้ ยอดเยี่ยม สูงกว่ำค่ำ ดี เปำ้ หมำย ผเู้ ก่ียวขอ้ งทกุ ฝา่ ยมสี ่วนรว่ ม มำตรฐำนท่ี ๓ กำรจดั ประสบกำรณ์ท่เี น้น ดีเลิศ ยอดเยี่ยม สงู กว่าคา่ เป้าหมาย เดก็ ยอดเยย่ี ม สงู กว่าค่าเป้าหมาย เป็นสำคัญ 3.1 จดั ประสบการณท์ ี่สง่ เสรมิ ใหเ้ ดก็ มกี าร ยอดเยย่ี ม สูงกว่าคา่ เปา้ หมาย พฒั นาการทกุ ด้านอยา่ งสมดลุ เตม็ ศักยภาพ ยอดเยี่ยม สูงกว่าค่าเป้าหมาย 3.2 สร้างโอกาสใหเ้ ดก็ ได้รบั ประสบการณ์ตรง ยอดเยย่ี ม สูงกวำ่ ค่ำ เล่นและปฏิบัตอิ ยา่ งมีความสขุ เป้ำหมำย 3.3 จดั บรรยากาศทเี่ อือ้ ต่อการเรียนรูใ้ ชส้ ่อื เทคโนโลยที ่ีเหมาะสมกบั วยั 3.4 ประเมนิ พฒั นาการเด็กตามสภาพจรงิ และนาผลประเมนิ พฒั นาการเด็กไปปรบั ปรุง การจัดประสบการณ์และพัฒนาเด็ก สรปุ ผลกำรประเมนิ ในภำพรวมของ สถำนศึกษำ ๓๗

ผลกำรประเมินคุณภำพภำยในของสถำนศึกษำระดับกำรศกึ ษำข้ันพื้นฐำน มำตรฐำนกำรศกึ ษำ ดำ้ น ระดบั คุณภำพ ระดบั กำรศกึ ษำขั้นพ้ืนฐำน มาตรฐานท่ี ๑ คณุ ภาพเด็ก ดี กระบวนการบริหารจัดการ ดี มาตรฐานท่ี ๒ การจดั ประสบการณท์ ีเ่ น้นเด็กเปน็ สาคญั ดี มาตรฐานท่ี ๓ จดุ เด่นมำตรฐำนท่ี ๑ คุณภำพเดก็ ๑. ผู้เรียนส่วนใหญ่มีนิสัยพอเพียง สถานศึกษาส่งเสริมการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง โดยสถานศึกษาได้รับคัดเลือกให้เป็นสถานศึกษาแบบอย่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และบริหาร จดั การ ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง สถานศกึ ษาพอเพยี ง ปี ๒๕๖๑ จากกระทรวงศึกษาธกิ าร ๒. ผู้เรียนมีความประพฤติดี รู้จักรับผิดชอบหน้าท่ีที่ได้รับมอบหมาย และไม่ปล่อยตนให้เป็นทาส อบายมุขตา่ ง ๆ โดยโรงเรียนไดร้ บั รางวลั “การสรา้ งชมุ ชนแห่งการเรียนรดู้ ว้ ยกระบวนการสร้างสุขดว้ ยสติ ๓. ผ้เู รียนสว่ นใหญ่มีมารยาท มีความยม้ิ แยม้ แจม่ ใส มกี ารไหวท้ ส่ี วยงามตามอตั ลกั ษณส์ ถานศกึ ษา จุดที่ควรพฒั นำมำตรฐำนท่ี ๑ คุณภำพเด็ก ๑. พัฒนาผเู้ รียนมีผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นตามหลกั สตู รสถานศึกษาให้สูงข้นึ ๒. พัฒนาผ้เู รยี นใหม้ ผี ลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นใหม้ ีคะแนนเฉลี่ยจากผลการทดสอบระดบั ชาติ (O-Net) ทุกระดบั ช้ันท่สี ูงขึน้ อยา่ งต่อเนอื่ งทุกกลุ่มสาระ ๓. พฒั นาผู้เรยี นให้สามารถผา่ นการสอบระดับชาติขนั้ พื้นฐาน (NT) ใหม้ คี ะแนนเฉลย่ี ที่สงู ข้ึน ๔. พัฒนาผู้เรียนให้ยกระดับความสามารถทางการอ่านของนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๑ (RT)ให้ สงู ข้ึน ๕. พัฒนาผเู้ รยี นใหม้ คี วามสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร ตลอดจนการสรา้ ง นวตั กรรมใหส้ งู ขึน้ ๖. พัฒนาผู้เรยี นใหม้ ีความร้ทู ักษะพ้นื ฐานและเจตคตทิ ี่ดีต่องานอาชพี ท่ีเพ่ิมข้ึนต่อเนือ่ ง และสามารถ พัฒนาไปสคู่ วามเป็นเลิศ เป็นแบบอย่างแก่สถานศกึ ษาอ่นื ไดใ้ นอนาคต จดุ เดน่ มำตรฐำนที่ ๒ กระบวนกำรบรหิ ำรและกำรจดั กำร ๑. ผู้บริหารมีวิสยั ทัศน์ในการบริหารทก่ี ว้างไกล มีความมุ่งม่ันในการทางาน วิกฤตให้เปน็ โอกาสที่จะ สร้างความเชื่อถือให้กบั ชมุ ชน ท้องถิ่น ในการสรา้ งเกยี รตภิ มู ิชอ่ื เสยี งให้กลับมาเหมือนเดมิ ในอดตี ๒. ครูมีความตระหนักในความเป็นครู จัดการเรียนการสอนเต็มความรู้ เต็มความสามารถ เอาใจใส่ ดแู ลผ้เู รยี นอย่างทวั่ ถึง และพัฒนาตนเองงอย่างตอ่ เนื่อง ๓. คณะกรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครอง และชุมชนให้ความรว่ มมอื ในกิจกรรมต่าง ๆ ของโรงเรียน เป็นอยา่ งดี จดุ ท่คี วรพฒั นำมำตรฐำนท่ี ๒ กระบวนกำรบรหิ ำรและกำรจัดกำร ก ดำ้ นแผนงำน โครงการทใ่ี หบ้ รรลตุ ามเปา้ หมาย คือ ๓๘

๑. จัดให้มแี ผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา ให้ครอบคลมุ ทกุ ช่วงปี มีแผนปฏิบตั ิการประจาปีที่ สอดคล้องกับแผนพฒั นาคุณภาพการศึกษาทุก ๆ ปี ๒. จัดให้มีการดาเนินการตามแผนงาน โครงการให้เป็นไปตามกิจกรรม ที่กาหนดทั้งบนั ทึก ร่องรอย การดาเนนิ งานให้ชดั เจน สามารถตรวจตดิ ตามได้ ๓. จัดให้มีการประเมนิ ตามแผนงาน โครงการท่ีเป็นระบบ ให้มีผลการประเมินที่เหมาะสม เป็นไปได้ และนาผลการประเมินไปปรับปรงุ พัฒนางาน โครงการใหเ้ หมาะสม ข ดำ้ นกระบวนกำรพัฒนำ โครงการที่ใหบ้ รรลตุ ามมาตรฐานและประเด็นพจิ ารณา ๑. กาหนดคา่ เปา้ หมายความสาเร็จ ตามมาตรฐาน ประเด็นพจิ ารณาและกาหนดค่าเปา้ หมาย ความสาเร็จตามประเด็นพจิ ารณา ทงั้ เชงิ ปรมิ าณและเชิงคณุ ภาพให้ชดั เจน ๒. มีระบบการประเมินคณุ ภาพตามมาตรฐาน ตัวบ่งชี้ ท่ดี าเนนิ การอย่างเป็นระบบทช่ี ัดเจน และ ให้มีผลการประเมนิ ที่เหมาะสมและเปน็ ไปได้ จดุ เด่นมำตรฐำนที่ ๓ กระบวนกำรจัดกำรเรียนกำรสอนทีเ่ น้นผเู้ รียนเปน็ สำคัญ ๑. ครูมีการจัดทาแผนการจัดการเรียนรู้ทส่ี อดคล้องกบั หลักสตู รสถานศึกษา และกิจกรรม การเรยี น การสอนทสี่ อดคล้องกบั แผนการจดั การเรียนรู้ ๒. ครูใช้ส่ือเทคโนโลยีและสื่อการเรียนรู้อ่ืน ๆ ทั้งที่จัดหามาและผลติ ข้ึนเองอย่างเหมาะสม และ มกี ารจดั บรรยากาศในหอ้ งเรยี นใหเ้ อือ้ ต่อการเรียนร้ขู องผ้เู รยี น ๓. ครูมีการประเมินผลการจดั การเรยี นรทู้ ี่สอดคล้องกับมาตรฐานตัวช้ีวดั ของหลกั สูตร และ ใช้เคร่ืองมือวัดผลประเมินผลที่สอดคลอ้ งกับมาตรฐานตัวช้ีวัดตามหลักสูตร กิจกรรมทว่ี ัด และเหมาะสมกับ ผ้เู รยี น จุดท่ีควรพฒั นำมำตรฐำนที่ ๓ กระบวนกำรจัดกำรเรยี นกำรสอนที่เนน้ ผเู้ รียนเปน็ สำคัญ ๑. ส่งเสริมให้ครูจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ผ่านกระบวนการคิดและปฏิบัติจรงิ ตามมาตรฐาน การเรียนรู้ตัวชี้วัดของหลักสูตรสถานศึกษา มีแผนการจัดการเรียนรู้ท่ีสามารถนาไปจัดกิจกรรมได้จริง และ สามารถนาไปประยุกตใ์ ชใ้ นชีวิตได้ มีนวตั กรรมในการจดั การเรยี นรู้และมกี ารเผยแพร่ ๒. พัฒนาครูให้ใช้สอ่ื เทคโนโลยีสารสนเทศและแหล่งเรยี นรู้ รวมท้ังภูมิปัญญาท้องถน่ิ ทีเ่ ออ้ื ตอ่ การเรยี นรู้ โดยสร้างโอกาสให้ผเู้ รียนไดแ้ สวงหาความรดู้ ว้ ยตนเอง ๓. จัดให้มีการนิเทศการจัดการเรียนการสอนของครูเพื่อให้ครูได้รับการพัฒนาให้มีความ เช่ียวชาญทางวิชาชีพมากขึน้ ๓๙

สรปุ มำตรฐำนกำรศกึ ษำ ระดบั กำรศกึ ษำขนั้ พน้ื ฐำน มำตรฐำนท่ี 1 คณุ ภำพผเู้ รียน 1. ระดับคณุ ภำพ ปำนกลำง 2. วธิ กี ำรพัฒนำ ขอ้ มลู หลักฐำน เอกสำรเชิงประจักษ์ ทส่ี นบั สนุนผลกำรประเมนิ ตนเอง 2.1 วธิ กี ำรพฒั นำ คณะครูทุกคนเข้ารับการพัฒนาตัวเองในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนด้วยกระบวนการ Active Learning และนามาใช้ในการจัดการเรยี นการสอนด้วยวิธีการดังกลา่ ว มีการวางแผนการสอนแบบงา่ ยๆหนา้ เดียว นาแผนการสอนไปใช้จรงิ เน้นกระบวนการกลุ่มใหน้ ักเรยี นได้ปฏิบตั ิจรงิ ค้นหาข้อมูล จัดกระทาข้อมลู ค้นหาความรจู้ ากแหล่งตา่ งๆ เช่นหนงั สอื เรยี น หอ้ งสมดุ และจากสือ่ อิเล็กทรอนคิ ส์ นามาสรุปองค์ความร้เู ป็น ของตนเองหรือของกลุ่ม มีการนาเสนอองค์ความรู้ให้เพื่อนๆรับทราบและครูบันทึกหลังการสอนทุกครัง้ ทกุ แผนการสอน มีการปรับปรุงพัฒนานักเรียนท่ีไมผ่ ่านการประเมนิ ในแต่ละตัวชี้วัด นอกจากน้ันยังจัดกิจกรรม พัฒนาผเู้ รียน ตามโครงการและกิจกรรมทที่ างโรงเรยี นจดั ขึ้น มีทั้งกจิ กรรมเพ่ือการแก้ปญั หาและกิจกรรมเพอื่ การพัฒนา เช่น กิจกรรมส่งเสริมการอ่านการเขียนสาหรับนักเรียนอา่ นเขียนไม่ออก ไม่คล่อง กิจกรรมสอน ซ่อมเสรมิ O-net N.T. กิจกรรมภาษาอังกฤษ กิจกรรมลดเวลาเรียนเพ่มิ เวลารู้ กิจกรรมวันสาคัญ กิจกรรม ทศั นศกึ ษาแหล่งเรยี นรู้ โครงการเรียนร้จู ากภมู ิปัญญาท้องถนิ่ โครงการลกู เสอื เนตรนารี โครงการค่ายคุณธรรม โครงการประชาธปิ ไตย โครงการสง่ เสรมิ สุขภาพ โครงการแข่งขันกีฬากรฑี า กิจกรรมการรกั ษาความสะอาด โครงการอาหารกลางวัน อาหารเสริม (นม) ฯลฯ นอกจากน้ันยังได้รับการสนบั สนุนจากผูป้ กครองในการช่วย พัฒนานักเรยี นท้ังทางด้านวชิ าการและดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ด้านความปลอดภยั ในการเดินทางมาโรงเรยี น 2.2 ข้อมูล หลกั ฐำน เอกสำรเชงิ ประจักษ์ ที่สนับสนุนผลกำรประเมินตนเอง ผู้เรยี นมีความสามารถในการอา่ น การเขียน ระดับดี และการคิดคานวณ ระดับพอใช้ ไม่บรรลุตาม เป้าหมายท่ีโรงเรียนกาหนด มีความสามารถในการคิดอย่างเป็นระบบ คิดสร้างสรรค์ผลงานและแก้ปัญหา อย่างมีเหตุผล ระดับพอใช้ ไม่บรรลุเป้าหมายที่โรงเรียนกาหนด มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีในการ เรียนรแู้ ละนามาพัฒนาตนเอง ไม่ผ่านเกณฑท์ ี่โรงเรยี นกาหนด ผู้เรียนมีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนแต่ละกลุ่มสาระ ปีการศึกษา 2562 บรรลุเป้าหมายท่ีโรงเรียน กาหนด นกั เรยี นช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๖เรยี นไม่ได้เขา้ ทดสอบระดับชาติ( O-net) นักเรียนไม่ผา่ นเกณฑท์ ่ี กลมุ่ สาระ ผู้เรียนมีด้านความรู้ ทักษะและเจตคติทด่ี ี พร้อมที่จะศึกษาต่อในระดบั ทีส่ ูงขึ้นและเจตคติทด่ี ตี อ่ การ ประกอบอาชพี บรรลุตามเปา้ หมายที่โรงเรยี นกาหนด ผู้เรียนร้อยละ 7๖.80 มีคุณธรรม จริยธรรม เคารพในกฎกติกา มีค่านิยมและจิตสานึกทีด่ ี มีความ ภมู ิใจในทอ้ งถ่นิ เห็นคุณคา่ ของความเปน็ ไทย มีส่วนรว่ มในการอนุรกั ษว์ ัฒนธรรม ประเพณี และภมู ิปัญญาไทย บรรลุเปา้ หมายทีก่ าหนด ๔๐

ผู้เรียนยอมรับและอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างท้ังทางด้านเพศ วัย ศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี เป็นไปตามเป้าหมายที่โรงเรียนกาหนดกาหนด รู้จักรักษาสุขภาพกาย สุขภาพจิต อารมณ์และสังคม มีการ แสดงออกอยา่ งเหมาะสม สามารถอยู่ร่วมกับผอู้ ่ืนไดอ้ ย่างมคี วามสขุ เขา้ ใจผูอ้ ่ืน ไมม่ คี วามขัดแย้ง 3. จุดเด่น จุดท่ีควรพัฒนำ และแผนกำรพฒั นำคุณภำพใหส้ งู ขึ้น 3.1 จุดเดน่ - นักเรยี นมคี วามกลา้ แสดงออก เป็นผนู้ าและผู้ตามท่ดี ี - นักเรยี นรักการออกกาลงั กาย ชอบเลน่ กีฬา และด้านศิลปะ ดนตรที ต่ี นเองชอบ 3.2 จดุ ควรพฒั นำ - นกั เรียนควรไดร้ บั การพัฒนาดา้ นทกั ษะการคดิ คานวณ การอา่ นคล่องเขยี นคลอ่ ง และการสื่อสาร ด้วยภาษาอังกฤษ - ควรมกี ารนาเสนอผลงานนักเรียนทเ่ี กิดขนึ้ ในแตล่ ะปี แต่ละสาระให้ผปู้ กครองและชุมชนทราบ - การชว่ ยเหลอื นักเรยี นรายบุคคล ทบ่ี กพร่องทางการเรยี นรู้ ควรมีความชัดเจนในการปฏิบัติ - ผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี นควรยกระดบั ใหส้ ูงข้นึ ทัง้ ระดบั โรงเรยี นและการทดสอบระดับชาติ 3.3 แผนกำรพัฒนำคุณภำพทย่ี กระดับใหส้ ูงข้ึน 1) โครงการวัดผลประเมินผล 2) การประเมนิ ผลการอ่าน-การเขยี น 3) ลดเวลาเรยี น เพมิ่ เวลารู้ 4) สอนซ่อมเสริม 5) โครงการยกระดบั ผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี น มำตรฐำนที่ 2 กระบวนกำรบริหำรและกำรจัดกำร 1. ระดับคณุ ภำพ ดี 2. วธิ ีกำรพัฒนำ ขอ้ มลู หลักฐำน เอกสำรเชิงประจักษ์ ที่สนับสนุนผลกำรประเมนิ ตนเอง 2.1 วิธกี ำรพัฒนำ ศึกษาเอกสารทเ่ี กย่ี วขอ้ งกับการเปลีย่ นแปลงทางการศกึ ษา หนังสอื สง่ั การ ตลอดจนเอกสาร นโยบาย ของรัฐบาล แผนการศึกษาแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการ สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา ร่วมกับคณะครูและคณะกรรมการสถานศึกษาของโรงเรียน ประชุมปรึกษา กาหนดแนวทางในการบรหิ ารจัดการโรงเรียน ทั้งวสิ ยั ทศั น์ เป้าหมายและพนั ธกจิ จดุ เนน้ ดา้ นต่างๆ สอดคลอ้ ง กับนโยบายต่างๆนาไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม มีการปรับปรุงแก้ไขส่วนที่บกพร่องอย่างสม่าเสมอ ดาเนินการประชุมครูเพ่ือร่วมกันรบั ทราบการดาเนินการและการบริหารงานต่างๆ เดือนละ 1 คร้ัง ประชุม คณะกรรมการสถานศกึ ษาอย่างนอ้ ยภาคเรยี นละ 1 ครง้ั ประชมุ ผู้ปกครองนกั เรยี นอย่างน้อย ปลี ะ 1 ครง้ั ๔๑

จดั สภาพแวดลอ้ มภายในโรงเรยี น ใหส้ วยงาม ปลอดภยั มอบหมายให้นักเรียนแตล่ ะชั้นมสี ว่ นร่วมใน การทาความสะอาดทุกชั้นเรียน ดูแลความปลอดภัยของสนามเด็กเล่น ห้องเรียน อาคารประกอบ และพ้ืนที่ ทุกๆส่วนภายในโรงเรียน รวมทั้งความปลอดภัยเกี่ยวกับสถานการณ์ยาเสพติดทุกชนิด ความปลอดภัยจาก อบุ ตั ภิ ัยบนท้องถนน พัฒนาครใู หม้ คี วามเชีย่ วชาญในการจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอนโดยกระบวนการ Active Learning และมีการนิเทศ ติดตามผล ประเมินผลในการนาไปใช้ รวมท้ังประเมินผลเพื่อพิจารณาให้ความความดี ความชอบในการปฏบิ ัตงิ านดว้ ย จัดหา ปรับปรุง ซ่อมแซม ระบบส่ือเทคโนโลยี สารสนเทศ ให้สามารถใช้งานเพื่อการเรยี นการสอน และการบริหารงานอยู่เสมอ 2.2 ข้อมลู หลกั ฐำน เอกสำรเชิงประจกั ษ์ ท่ีสนับสนุนผลกำรประเมินตนเอง ร่วมกับคณะครูกาหนดเป้าหมายวิสัยทัศน์ และพันธกิจไว้อย่างชัดเจน สอดคล้องกับบริบทของ สถานศกึ ษา ตรงตามความตอ้ งการของชุมชน ท้องถิน่ วัตถุประสงคข์ องแผนการศกึ ษาชาติ นโยบายรัฐและต้น สงั กดั ทันตอ่ การเปลย่ี นแปลงของสังคม มีความเปน็ ไปได้ในทางปฏิบัติ จัดระบบจัดการบริหารคุณภาพสถานศึกษาที่ชัดเจน มีประสิทธิผล ส่งผลต่อคุณภาพตามมาตรฐาน การศึกษาของสถานศึกษา โดยความร่วมมือของทุกฝ่ายที่เก่ียวข้อง นาข้อมูลย้อนกลับมาใช้ในการปรับปรงุ พฒั นาอย่างต่อเน่อื ง ปีละคร้ัง พัฒนางานวิชาการ ที่เน้นพัฒนาคุณภาพผเู้ รยี นรอบด้านตามหลักสูตรสถานศึกษาทุกกลุ่มเปา้ หมาย เชอ่ื มโยงกับชีวติ จริง พัฒนาครูและบุคลากรให้มีความเช่ียวชาญทางวิชาชีพตรงกับความต้องการของครูและสถานศึกษา และจัดให้มชี มุ ชนการเรียนรทู้ างวชิ าชพี เพ่ือพัฒนางาน แตย่ งั ไม่ตอ่ เนอื่ งและเป็นแบบอย่างแก่ผู้อื่น จัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคมที่เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพและมีความ ปลอดภัย จัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่อื สนับสนุนการบรหิ ารจัดการและการจดั การเรยี นรทู้ ่ีเหมาะสมกบั สภาพของสถานศึกษา มีการปรบั ปรงุ อยูเ่ สมอ 3. จุดเดน่ จดุ ทคี่ วรพัฒนำ และแผนกำรพฒั นำคุณภำพให้สูงขึน้ 3.1 จุดเด่น - ชมุ ชนมีแหล่งเรียนรทู้ หี่ ลากหลาย สามารถนาไปใช้ประโยชน์เป็นแหลง่ เรยี นรู้ไดอ้ ยา่ งดี - นักเรียนไดเ้ รยี นรจู้ ากแหล่งเรยี นรูค้ ือ โบราณสถานโมคลาน เครอื่ งปนั้ ดนิ เผาบ้านมะยงิ การทา นา้ ตาลมะพร้าว และวิถชี วี ติ ชาวประมงพื้นบ้าน บา้ นทงุ่ น้าเค็ม - จดั สภาพแวดล้อมทางกายภาพ สวยงาม สะอาด เออื้ ต่อการเรียนรู้ - ผู้บริหารเน้นการพัฒนาคณุ ภาพผเู้ รียนรอบดา้ นตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา 3.2 จุดท่คี วรพัฒนำ - ควรปรับปรงุ รูปแบบกจิ กรรมชุมชนการเรยี นรทู้ างวิชาชพี เพอื่ พัฒนางานใหม้ คี วามชัดเจนและเกดิ ประโยชนต์ อ่ นกั เรยี นและการเรยี นการสอนของครู ๔๒

- ควรนาขอ้ มลู ย้อนกลบั ในการทางาน/กจิ กรรม/โครงการ มาใช้ในการปรบั ปรุงพฒั นาอย่างตอ่ เนอ่ื ง - ความปลอดภัยในการใชร้ ถใชถ้ นนของนกั เรียนและผปู้ กครอง 3.3 แผนกำรพัฒนำคุณภำพทยี่ กระดบั ให้สูงข้นึ 1) โครงการชุมชนการเรียนรทู้ างวิชาชพี เพื่อพฒั นางาน 2) เสรมิ สร้างความปลอดภัยแก่นักเรียนทงั้ ภายในและภายนอกโรงเรียน 3) โครงการพฒั นาประเมินผลการปฏบิ ตั ิงาน/กจิ กรรม/โครงการ มำตรฐำนท่ี 3 กระบวนกำรจัดกำรเรยี นกำรสอนทเ่ี น้นผเู้ รียนเป็นสำคัญ 1. ระดบั คณุ ภำพ ดี 2. วิธกี ำรพฒั นำ ข้อมลู หลกั ฐำน เอกสำรเชงิ ประจักษ์ ท่สี นับสนุนผลกำรประเมินตนเอง 2.1 วิธีกำรพฒั นำ คณะครูทุกคนเข้ารับการพัฒนาตัวเองในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนตามแนวทางศาสตร์ พระราชาด้วยกระบวนการ Active Learning และนามาใช้ในการจัดการเรยี นการสอนด้วยวิธีการดังกล่าว มี การวางแผนการสอนแบบง่ายๆหน้าเดียว ตรงตามมาตรฐานและตัวช้ีวัด นาแผนการสอนไปใช้จริง เน้น กระบวนการกลุ่มใหน้ ักเรียนได้ปฏิบัติจริง ค้นหาข้อมูลจากแหล่งต่างๆ เช่น จากหนังสือเรียน จากห้องสมดุ และจากสื่ออเิ ลก็ ทรอนกิ นามาสรปุ องคค์ วามรเู้ ปน็ ของตนเองหรอื ของกลมุ่ มกี ารนาเสนอองคค์ วามรู้ให้เพอื่ นๆ รับทราบและครูบันทึกหลังการสอนทุกคร้ังทุกแผนการสอน มีการปรับปรุงพัฒนานักเรียนที่ไม่ผ่านการ ประเมินในแตล่ ะตวั ชีว้ ดั นอกจากนัน้ ยังจัดกจิ กรรมพัฒนาผูเ้ รียน ตามโครงการและกิจกรรมทที่ างโรงเรยี นจดั ขึ้น มที ้งั กิจกรรมเพ่อื การแก้ปัญหาและกจิ กรรมเพื่อการพัฒนา เชน่ กิจกรรมสง่ เสรมิ การอา่ นการเขียนสาหรบั นักเรียนอ่านเขียนไม่ออก ไม่คล่อง กิจกรรมสอนซอ่ มเสริม RT NT. กิจกรรมภาษาอังกฤษ กิจกรรมลดเวลา เรียนเพิ่มเวลารู้ กิจกรรมวันสาคัญ กิจกรรมทัศนศึกษาแหล่งเรียนรู้ โครงการเรียนรู้จากภูมิปญั ญาทอ้ งถน่ิ โครงการลกู เสือเนตรนารี โครงการค่ายคุณธรรม โครงการประชาธิปไตย โครงการสง่ เสริมสุขภาพ โครงการ แข่งขันกีฬากรีฑา กิจกรรมการรักษาความสะอาด โครงการอาหารกลางวัน อาหารเสริม(นม) ฯลฯ นอกจากน้ันยังได้รับการสนับสนุนจากผู้ปกครองในการช่วยพัฒนานักเรียนทั้งทางด้านวิชาการและด้าน คณุ ธรรม จริยธรรม รวมทงั้ ด้านความปลอดภัยในการเดินทางมาโรงเรียน 2.2 ข้อมูล หลักฐำน เอกสำรเชิงประจักษ์ ทสี่ นับสนุนผลกำรประเมินตนเอง ครูจัดการเรียนรู้ผ่านกระบวนการคิดและปฏิบัติจริง ตรงตามมาตรฐานและตัวชี้วัดของหลักสูตร สถานศกึ ษา ดว้ ยวธิ กี าร Active Learning มแี ผนการจดั การเรยี นรูห้ นา้ เดยี วทสี่ ามารถนาไปจัดกิจกรรมการ เรียนการสอนได้จรงิ และสามารถนาไปใช้ในชีวิตจรงิ ได้ ครูมีการใช้ส่ือ เทคโนโลยีสารสนเทศและแหล่งเรียนรู้ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน รวมทั้งภูมิ ปัญญาท้องถนิ่ ท่ีเออื้ ตอ่ การเรียนรู้ ครูได้ตรวจสอบและประเมินผู้เรียนอย่างเป็นระบบ มีขั้นตอนโดยใช้เครื่องมือและวิธีการวัดและ ประเมินผลทเ่ี หมาะสมกับเป้าหมายในการจดั การเรยี นรู้ ให้ข้อมลู ยอ้ นกลับแกผ่ ู้เรยี น มีการบรหิ ารจัดการช้นั เรยี นเชงิ บวก เด็กรักท่จี ะเรยี นรู้ และเรียนรรู้ ว่ มกนั อย่างมคี วามสุข มีช้ินงานนักเรียนที่เกิดจากกระบวนการเรียนการสอน ทั้งผลงานรายบุคคลและผลงานกลุ่ม เป็น ตัวอยา่ งท่ดี ีทง้ั ครแู ละนกั เรยี น มชี ุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพระหว่างครแู ละผู้เกยี่ วขอ้ งเพื่อพฒั นาและปรับปรงุ การจัดการเรยี นรู้ ๔๓

3. จุดเด่น จดุ ทคี่ วรพัฒนำ และแผนกำรพัฒนำคุณภำพให้สงู ขึน้ 3.1 จุดเดน่ - ครจู ัดกระบวนการสอนผา่ นกระบวนการคดิ และปฏบิ ัติจรงิ ตรงตามมาตรฐานและตวั ชี้วดั ของ หลักสูตรสถานศกึ ษา ดว้ ยวธิ ีการ Active Learning - ครูนานกั เรียนไปใชแ้ หลง่ เรียนรูท้ ง้ั ภายในและภายนอกโรงเรยี น - ครูใช้ภมู ปิ ัญญาทอ้ งถิน่ มาสง่ เสรมิ การเรียนรู้ ทาใหม้ ีความสมบรู ณใ์ นบางตัวชว้ี ดั - มีกจิ กรรมการสอนเสริมนกั เรียนที่อา่ นไมไ่ ม่คลอ่ งทกุ วนั จนั ทร์ – วนั พฤหัสบดี เวลา 14.30 น- 15.30น.และมกี ารประเมนิ ผลการอา่ น การเขียน ภาคเรยี นละ 2 ครงั้ - กระบวนการเรยี นการสอนเนน้ การปฏบิ ตั ิ นักเรียนไดค้ ดิ และลงมอื ปฏบิ ตั ิ สรุปความรู้ด้วยตนเอง โดยครเู ปน็ ผูช้ ว่ ยคอยแนะนา - การจดั การเรียนการสอนมีความหลากหลายนักเรยี นไดเ้ รยี นรู้และลงมือปฏิบัตจิ รงิ 3.2 จุดทค่ี วรพัฒนำ - ควรพัฒนากจิ กรรมชมุ ชนแห่งการเรียนรทู้ างวิชาชพี - ครคู วรใช้เทคโนโลยใี นการเรยี นรู้ ใหค้ รบถว้ นทุกช้ัน - ควรมกี ารนาผลหลงั การสอนมาพฒั นาอยา่ งตอ่ เน่ือง - ผู้บริหารควรมกี ารนิเทศ กากบั ติดตามอยา่ งต่อเน่ืองและมีกาหนดทชี่ ัดเจน 3.3 แผนกำรพัฒนำคุณภำพทย่ี กระดบั ให้สงู ขึน้ 1) โครงการส่งเสริมพฒั นาครดู ้วยนวตั กรรมชุมชนแหง่ การเรียนรทู้ างวิชาชพี 2) โครงการสง่ เสริมการใช้สื่อเทคโนโลยี 3) โครงการการสง่ เสรมิ การใชห้ อ้ งสมุด 4) โครงการนเิ ทศ ติดตาม กากบั ประเมนิ ผลการปฏบิ ัติงาน มำตรฐำนกำรศกึ ษำของสถำนศึกษำ โดยรวม 1. ระดับคุณภำพ ดี 2. วธิ กี ำรพัฒนำ ข้อมลู หลักฐำน เอกสำรเชงิ ประจักษ์ ทส่ี นับสนุนผลกำรประเมินตนเอง 2.1 วิธกี ำรพฒั นำ ศกึ ษาเอกสารทเี่ ก่ยี วขอ้ งกบั การเปลย่ี นแปลงทางการศึกษา หนงั สือสง่ั การ ตลอดจนเอกสาร นโยบาย ของรัฐบาล แผนการศึกษาแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการ สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา ร่วมกับคณะครูและคณะกรรมการสถานศึกษาของโรงเรียน ประชุมปรึ กษา กาหนดแนวทางในการบริหารจัดการโรงเรยี น ทั้งวสิ ัยทัศน์ เป้าหมายและพันธกจิ จุดเนน้ ด้านต่างๆ สอดคล้อง กับนโยบายต่างๆนาไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม มีการปรับปรุงแก้ไขส่วนที่บกพร่องอย่างสม่าเสมอ ดาเนินการประชุมครูเพื่อรว่ มกันรับทราบการดาเนินการและการบริหารงานต่างๆ เดือนละ 1 คร้ัง ประชุม คณะกรรมการสถานศึกษาอย่างน้อยภาคเรียนละ 1 ครัง้ ประชุมผ้ปู กครองนกั เรียนอย่างน้อย ปีละ 1 ครัง้ จดั สภาพแวดลอ้ มภายในโรงเรยี น ให้สวยงาม ปลอดภยั มอบหมายใหน้ กั เรยี นแต่ละชั้นมีสว่ นร่วมใน ๔๔

การทาความสะอาดทุกชั้นเรียน ดูแลความปลอดภัยของสนามเด็กเล่น ห้องเรียน อาคารประกอบ และพ้ืนที่ ทุกๆส่วนภายในโรงเรียน รวมท้ังความปลอดภัยเกี่ยวกับสถานการณ์ยาเสพติดทุกชนิด ความปลอดภัยจาก อบุ ัติภยั บนท้องถนน พฒั นาครใู หม้ คี วามเชยี่ วชาญในการจดั กจิ กรรมการเรียนการสอนโดยกระบวนการ Active Learning และมีการนิเทศ ติดตามผล ประเมินผลในการนาไปใช้ รวมท้ังประเมินผลเพื่อพิจารณาให้ความความดี ความชอบในการปฏิบัติงานดว้ ย จัดหา ปรับปรุง ซ่อมแซม ระบบส่ือเทคโนโลยี สารสนเทศ ให้สามารถใช้งานเพื่อการเรียนการสอน และการบรหิ ารงานอยเู่ สมอ คณะครทู กุ คนเขา้ รบั การพัฒนาตัวเองในการจดั กจิ กรรมการเรียนการสอนตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียง ด้วยกระบวนการ Active Learning และนามาใช้ในการจัดการเรยี นการสอนด้วยวิธีการดังกล่าว มี การวางแผนการสอนแบบง่ายๆหน้าเดียว ตรงตามมาตรฐานและตัวชี้วัด นาแผนการสอนไปใช้จริง เน้น กระบวนการกลุ่มใหน้ ักเรียนได้ปฏิบัติจริง ค้นหาข้อมูลจากแหล่งต่างๆ เช่น จากหนังสือเรียน จากห้องสมุด และจากส่อื อิเลคทรอนกิ นามาสรุปองคค์ วามร้เู ปน็ ของตนเองหรอื ของกลุม่ มกี ารนาเสนอองคค์ วามรู้ใหเ้ พอื่ นๆ รับทราบและครบู ันทึกหลังการสอนทุกครงั้ ทกุ แผนการสอน มีการปรบั ปรงุ พฒั นานักเรียนทไ่ี มผ่ า่ นการประเมนิ ในแต่ละตวั ชีว้ ดั นอกจากนนั้ ยังจัดกจิ กรรมพฒั นาผ้เู รยี น ตามโครงการและกิจกรรมที่ทางโรงเรียนจดั ข้นึ มีทงั้ กิจกรรมเพ่อื การแก้ปัญหาและกิจกรรมเพื่อการพัฒนา เช่น กจิ กรรมส่งเสรมิ การอา่ นการเขียนสาหรับนักเรียน อ่านเขียนไม่ออก ไม่คล่อง กิจกรรมสอนซอ่ มเสริม O-net RT N.T. กิจกรรมภาษาอังกฤษ กิจกรรมลดเวลา เรียนเพ่ิมเวลารู้ กิจกรรมวันสาคัญ กิจกรรมทัศนศึกษาแหล่งเรียนรู้ โครงการเรียนรู้จากภูมิปญั ญาทอ้ งถ่ิน โครงการลูกเสือเนตรนารี โครงการค่ายคุณธรรม โครงการประชาธิปไตย โครงการสง่ เสริมสขุ ภาพ โครงการ แข่งขันกีฬากรีฑา กิจกรรมการรักษาความสะอาด โครงการอาหารกลางวัน อาหารเสริม (นม) ฯลฯ นอกจากน้ันยังได้รับการสนับสนุนจากผู้ปกครองในการช่วยพัฒนานักเรียนท้ังทางด้านวิชาการและด้าน คณุ ธรรม จรยิ ธรรม รวมท้ังด้านความปลอดภัยในการเดินทางมาโรงเรียน 2.2 ขอ้ มลู หลักฐำน เอกสำรเชิงประจักษ์ ท่สี นับสนุนผลกำรประเมนิ ตนเอง ร่วมกับคณะครูกาหนดเป้าหมายวิสัยทัศน์ และพันธกิจไว้อย่างชัดเจน สอดคล้องกับบริบทของ สถานศกึ ษา ตรงตามความต้องการของชุมชน ทอ้ งถ่ิน วตั ถปุ ระสงค์ของแผนการศกึ ษาชาติ นโยบายรฐั และต้น สังกัด ทันต่อการเปลยี่ นแปลงของสงั คม มคี วามเป็นไปไดใ้ นทางปฏบิ ตั ิ จัดระบบจัดการบริหารคุณภาพสถานศึกษาที่ชัดเจน มีประสิทธิผล ส่งผลต่อคุณภาพตามมาตรฐาน การศึกษาของสถานศึกษา โดยความร่วมมือของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง นาข้อมูลย้อนกลับมาใช้ในการปรับปรุง พฒั นาอยา่ งต่อเน่ือง ปลี ะครงั้ พัฒนางานวิชาการ ที่เน้นพัฒนาคุณภาพผู้เรียนรอบด้านตามหลกั สูตรสถานศึกษาทุกกลมุ่ เปา้ หมาย เชื่อมโยงกบั ชวี ิตจรงิ พัฒนาครูและบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพตรงกับความต้องการของครูและสถานศกึ ษา และจดั ให้มีชมุ ชนการเรียนรทู้ างวิชาชพี เพอ่ื พฒั นางาน แตย่ ังไมต่ อ่ เน่อื งและเป็นแบบอย่างแก่ผอู้ ืน่ จัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคมที่เอ้ือต่อการจัดการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพและมีความ ปลอดภัย ๔๕

จัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพือ่ สนับสนุนการบริหารจัดการและการจัดการเรียนรู้ที่เหมาะสมกบั สภาพของสถานศกึ ษา มกี ารปรับปรุงอยเู่ สมอ ครูจัดการเรียนรู้ผ่านกระบวนการคิดและปฏิบัติจริง ตรงตามมาตรฐานและตัวช้ีวัดของหลักสูตร สถานศกึ ษา ด้วยวธิ กี าร Active Learning มีแผนการจดั การเรยี นรู้หนา้ เดยี วทีส่ ามารถนาไปจัดกจิ กรรมการ เรียนการสอนไดจ้ ริง และสามารถนาไปใชใ้ นชีวิตจริงได้ ครูมีการใช้สื่อ เทคโนโลยีสารสนเทศและแหล่งเรียนรู้ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน รวมท้ังภูมิ ปัญญาท้องถนิ่ ทีเ่ ออื้ ต่อการเรยี นรู้ ครูได้ตรวจสอบและประเมินผู้เรียนอย่างเป็นระบบ มีข้ันตอนโดยใช้เคร่ืองมือและวิธีการวัดและ ประเมนิ ผลที่เหมาะสมกับเป้าหมายในการจดั การเรียนรู้ ใหข้ ้อมูลยอ้ นกลบั แก่ผ้เู รียน มีการบริหารจดั การช้ันเรยี นเชงิ บวก เด็กรกั ทีจ่ ะเรียนรู้ และเรียนรู้ร่วมกนั อย่างมีความสุข มีช้ินงานนักเรียนท่ีเกิดจากกระบวนการเรียนการสอน ทั้งผลงานรายบุคคลและผลงานกลุ่ม เป็น ตวั อย่างทีด่ ที งั้ ครแู ละนกั เรียน มีชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพระหว่างครูและผู้เก่ียวข้องเพ่ือพัฒนาและปรับปรุงการจัดการเรียนรู้ ส่งผลให้ ผู้เรียนมีความสามารถในการอา่ น การเขียน ระดับพอใช้ และการคิดคานวณ ระดับพอใช้ ไมบ่ รรลุ ตามเป้าหมายทโ่ี รงเรยี นกาหนด มีความสามารถในการคดิ อยา่ งเปน็ ระบบ คดิ สร้างสรรค์ผลงานและแก้ปัญหา อย่างมีเหตุผล ระดับพอใช้ ไม่บรรลุเป้าหมายที่โรงเรียนกาหนด มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีในการ เรยี นรแู้ ละนามาพฒั นาตนเอง ไม่ผ่านเกณฑ์ทีโ่ รงเรียนกาหนด ผู้เรียนมีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนแต่ละกลุ่มสาระ ปีการศึกษา 2562 บรรลุเป้าหมายที่โรงเรียน กาหนด ผู้เรียนมีผลการทดสอบระดับชาติ O-net ช้ันประถมศึกษาปีท6่ี นักเรียนไม่ผา่ นเกณฑท์ ี่สถานศึกษา กาหนดคือ ลดลง ร้อยละ 1.72 จากปีการศึกษาท่ีผ่าน ผลปรากฏว่าไม่บรรลุเป้าที่วางไว้ 4 กลุ่มสาระ คือ ภาษาไทยร้อยละ 45.44 ลงลง 4.28 ภาษาอังกฤษร้อยละ 26.76 ลดลง 3.92 วิทยาศาสตร์ ร้อยละ 32.75 ลดลง ๑.34 คณิตศาสตร์ ร้อยละ 27.65 เพิ่มขึ้น 2.65 แต่ยังต่ากว่าค่าเฉล่ียระดับประเทศทงั้ 4 กลุ่มสาระ ผู้เรียนมีด้านความรู้ ทักษะและเจตคติทีด่ ี พร้อมท่ีจะศึกษาต่อในระดบั ที่สูงข้ึนและเจตคติท่ีดตี ่อการ ประกอบอาชีพ บรรลตุ ามเป้าหมายท่ีโรงเรยี นกาหนด ผู้เรียนร้อยละ 72.80 มีคุณธรรม จริยธรรม เคารพในกฎกติกา มีค่านิยมและจติ สานึกทด่ี ี มีความ ภูมิใจในทอ้ งถ่ิน เหน็ คุณคา่ ของความเป็นไทย มสี ว่ นรว่ มในการอนุรกั ษ์วฒั นธรรม ประเพณี และภูมิปญั ญาไทย บรรลุเปา้ หมายทก่ี าหนด ผู้เรียนยอมรับและอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างทั้งทางด้านเพศ วัย ศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี เป็นไปตามเป้าหมายที่โรงเรียนกาหนดกาหนด รู้จักรักษาสุขภาพกาย สุขภาพจิต อารมณ์และสังคม มีการ แสดงออกอยา่ งเหมาะสม สามารถอยูร่ ่วมกับผูอ้ ืน่ ไดอ้ ย่างมคี วามสขุ เข้าใจผ้อู ่ืน ไม่มคี วามขดั แยง้ ๔๖

3. จดุ เด่น จดุ ทีค่ วรพัฒนำ และแผนกำรพฒั นำคณุ ภำพให้สูงขึ้น 3.1 จดุ เดน่ - นกั เรยี นมีความกลา้ แสดงออก เปน็ ผู้นาและผู้ตามทด่ี ี - นกั เรียนรกั การออกกาลงั กาย ชอบเล่นกีฬา และด้านศลิ ปะ ดนตรที ่ีตนเองชอบ - ชมุ ชนมีแหลง่ เรียนร้ทู หี่ ลากหลาย สามารถนาไปใช้ประโยชน์เป็นแหลง่ เรียนรู้ไดอ้ ย่างดี ๔๗

- นักเรียนไดเ้ รยี นรจู้ ากแหลง่ เรยี นรู้คอื ขนมไทยพน้ื บ้าน การเลีย้ งปลาสวยงามและการทาตัวหนงั ตะลงุ - จัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพ สวยงาม สะอาด เอ้อื ตอ่ การเรยี นรู้ - ผู้บริหารเน้นการพัฒนาคณุ ภาพผู้เรยี นรอบดา้ นตามหลกั สูตรสถานศึกษา - ครูจัดกระบวนการสอนผ่านกระบวนการคิดและปฏิบัติจริง ตรงตามมาตรฐานและตัวชี้วัดของ หลกั สตู รสถานศกึ ษา ด้วยวิธีการ Active Learning - ครูนานกั เรียนไปใช้แหลง่ เรยี นรทู้ ั้งภายในและภายนอกโรงเรยี น - ครูใชภ้ มู ิปัญญาทอ้ งถ่ิน มาสง่ เสรมิ การเรียนรู้ ทาใหม้ ีความสมบูรณ์ในบางตัวชวี้ ัด - มีกิจกรรมการสอนเสริมนักเรียนท่ีอ่านไม่ไม่คล่องทุกวันจันทร์ – วันพฤหัสบดี เวลา 14.30 น- 15.30น.และมีการประเมนิ ผลการอา่ น การเขยี น ภาคเรยี นละ 2 ครง้ั - กระบวนการเรียนการสอนเน้นการปฏบิ ัติ นักเรยี นได้คิดและลงมือปฏิบัติ สรุปความรดู้ ้วยตนเองโดย ครูเป็นผู้ช่วยคอยแนะนา - การจัดการเรียนการสอนมคี วามหลากหลายนกั เรียนไดเ้ รียนรูแ้ ละลงมือปฏบิ ตั ิจรงิ 3.2 จดุ ท่ีควรพัฒนำ - นกั เรยี นควรไดร้ บั การพฒั นาด้านทกั ษะการคิดคานวณ การอา่ นคล่องเขียนคลอ่ ง และการสอ่ื สาร ด้วยภาษาอังกฤษ - ควรมีการนาเสนอผลงานนกั เรยี นท่ีเกดิ ขนึ้ ในแตล่ ะปี แต่ละสาระใหผ้ ู้ปกครองและชุมชนทราบ - การช่วยเหลอื นักเรียนรายบุคคล ที่บกพร่องทางการเรยี นรู้ ควรมีความชดั เจนในการปฏิบตั ิ - ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี นควรยกระดับให้สงู ข้นึ ท้งั ระดบั โรงเรยี นและการทดสอบระดบั ชาติ - ควรปรับปรุงรปู แบบกิจกรรมชุมชนการเรยี นรู้ทางวิชาชพี เพื่อพฒั นางานใหม้ ีความชัดเจนและเกดิ ประโยชนต์ ่อนักเรียนและการเรยี นการสอนของครู - ควรนาขอ้ มลู ยอ้ นกลบั ในการทางาน/กิจกรรม/โครงการ มาใช้ในการปรับปรุงพัฒนาอยา่ งตอ่ เนือ่ ง - ความปลอดภยั ในการใชร้ ถใชถ้ นนของนกั เรยี นและผปู้ กครอง - ควรพัฒนากิจกรรมชุมชนแหง่ การเรียนรทู้ างวชิ าชีพ - ครูควรใชเ้ ทคโนโลยีในการเรยี นรู้ ใหค้ รบถ้วนทุกชั้น - ควรมกี ารนาผลหลงั การสอนมาพัฒนาอย่างตอ่ เนอื่ ง - ผบู้ ริหารควรมีการนิเทศ กากบั ติดตามอย่างตอ่ เนือ่ งและมีกาหนดทีช่ ดั เจน ผลกำรประเมินคณุ ภำพมำตรฐำนกำรศกึ ษำเพื่อกำรประกนั คณุ ภำพภำยในของสถำนศกึ ษำ เปรยี บเทยี บกับคำ่ เปำ้ หมำยตำมประกำศของสถำนศกึ ษำ ระดับกำรศกึ ษำขั้นพ้ืนฐำน มำตรฐำนกำรศกึ ษำของสถำนศึกษำ คำ่ เป้ำหมำย ผลกำร ผลกำร มำตรฐำน/ประเด็นพจิ ำรณำ ประเมิน เปรยี บเทียบ ๔๘

มำตรฐำนที่ 1 คุณภำพเดก็ ดี ดี ได้ตำมค่ำ ๑.๑ผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียน ปานกลาง เปำ้ หมำย ๑.๑) มีความสามารถในการอ่าน การเขยี น การ ปานกลาง ปานกลาง ได้ตามคา่ เปา้ หมาย ปานกลาง สอ่ื สารและการคดิ คานวณ ปานกลาง ได้ตามคา่ เปา้ หมาย ปานกลาง ปานกลาง ไดต้ ามค่าเปา้ หมาย ๑.2) มีความสามารถในการวิเคราะห์และคดิ ปานกลาง ไดต้ ามเปา้ หมาย อยา่ งมีวิจารณญาณ อภิปราย แลกเปล่ียนความ คิดเห็น และแกป้ ัญหา ๑.3) มคี วามสามารในการสร้างนวัตกรรม ๑.๔) มคี วามสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี ปานกลาง ดี ไดต้ ามคา่ เปา้ หมาย ดี ไดต้ ามคา่ เปา้ หมาย สารสนเทศ และการส่ือสาร ดี ดี ได้ตามคา่ เปา้ หมาย ๑.๕มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามหลักสตู ร ดี ดี ไดต้ ามเป้าหมาย สถานศึกษา ดี ดี ได้ตามคา่ เปา้ หมาย ๑.๖มคี วามรู้ ทักษะพ้ืนฐานและเจตคตทิ ่ีดตี ่องาน ดี ดี ดี ได้ตามค่าเปา้ หมาย อาชพี ดี ดี ดี ไดต้ ำมคำ่ 1.๒คุณลกั ษณะทีพ่ งึ ประสงคข์ องผู้เรียน ดี เป้ำหมำย ดี ๑.๑ การมคี ุณลักษณะและคา่ นิยมทดี่ ตี ามท่ี ดี ดีเลศิ สงู กวา่ ค่าเปา้ หมาย สถานศึกษากาหนด ปานกลาง ปานกลาง ดเี ลิศ สงู กว่าคา่ เปา้ หมาย ๑.๒ความภมู ิใจในท้องถิน่ และความเป็นไทย ดี ๑.๓การยอมรับท่ีจะอยรู่ ว่ มกันบนความแตกต่างและ ดี ได้ตามค่าเป้าหมาย หลากหลาย ดเี ลศิ สงู กว่าคา่ เปา้ หมาย ๑.๔สุขภาวะทางรา่ งกายและลักษณะจติ สงั คม ดีเลศิ สูงกว่าคา่ เปา้ หมาย มำตรฐำนที่ 2 กระบวนกำรบรหิ ำรและจดั กำร ดีเลศิ สงู กว่าคา่ เปา้ หมาย 2.1 มีหลกั สูตรครอบคลมุ พัฒนาการทง้ั ๔ ดา้ น สอดคล้องกบั บรบิ ทของทอ้ งถ่นิ ๔๙ 2.2 จัดครใู หเ้ พียงพอกบั ช้นั เรียน 2.3 ส่งเสรมิ ใหค้ รูมคี วามเช่ียวชาญด้านการจัด ประสบการณ์ 2.4 จัดสภาพแวดลอ้ มและสื่อเพ่ือการเรียนรู้ อย่างปลอดภยั และเพยี งพอ 2.5 ใหบ้ รกิ ารสื่อเทคโนโลยสี ารสนเทศและสือ่ การเรยี นรู้เพอื่ สนับสนนุ การจดั ประสบการณ์ 2.6 มรี ะบบบรหิ ารคุณภาพทเี่ ปดิ โอกาสให้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook