Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สื่อการสอน excel2

สื่อการสอน excel2

Published by jirakook, 2022-08-19 06:50:12

Description: สื่อการสอน excel2

Search

Read the Text Version

เอกสารประกอบการสอน คอมพิวเตอร์ 2 (ง21105) หลักสูตร ไมโครซอฟตเ์ อ็กเซล 2013 (Microsoft Excel 2013) โรงเรียนสยามคอมพิวเตอร์และภาษา http://www.siamcom.co.th

หนว่ ยท่ี 1 ความรู้พน้ื ฐานเกี่ยวกับไมโครซอฟต์เอ็กเซล Microsoft Office 2013 ส่ิงแรกท่ีจะเห็นเมื่อเปิด Microsoft Office คือรูปลักษณ์ใหม่ที่เรียบ ง่าย แต่คุณลักษณะท่ีเคยใช้งานก็ยังอยู่ พร้อมด้วยบางคุณลักษณะใหม่ๆ ที่จะช่วยประหยัดเวลาได้ มหาศาล Office ใหม่ยังสามารถทางานร่วมกับสมาร์ทโฟนแท็บเล็ต และใน Cloud หรือแม้แต่บนพีซีที่ ไม่มี Office ติดต้ังอยู่ ดังน้ัน ในตอนน้ีการเข้าถึงไฟล์ สามารถทาได้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนหรือกาลังใช้อะไร อยู่ Microsoft Excel 2013 ก็เป็นหนึ่งในโปรแกรมในชุดของ Microsoft Office 2013 ซ่ึง ประกอบไปด้วย Access 2013, Word2013, OneNote 2013, Outlook 2013, PowerPoint 2013, Project 2013, Publisher 2013, Visio 2013, Excel2013เปน็ ตน้ แนะนาโปรแกรม โปรแกรม Microsoft Excel 2013 จัดเป็นหน่ึงในชุด Microsoft Office 2013 ซ่ึงเหมาะ สาหรบั งานด้านของการสร้างตาราง การคานวณ การสรุปผลข้อมูล และยังมีความสามารถด้านการเก็บ ข้อมูลในรูปแบบท่ีง่ายและสะดวก จึงเป็นท่ีนิยมในการนามาเป็นโปรแกรมในการจัดการเก็บข้อมูลด้วย นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือในการสรุปผลข้อมูลท่ีหลากหลาย น่าสนใจ เป็นท่ีนิยมใช้ในแวดวงธุรกิจ อย่างเช่น Pivot Table และ Pivot Chart ซึ่งทาให้เรื่องของการทางานกับข้อมูลปริมาณมากๆ น้ันเป็น เรื่องง่ายไปเลยทีเดยี ว ภาพที่ 1-1 แสดงหนา้ จอโปรแกรม Microsoft Excel 2013

60 บทที่ 2 สร้างเอกสารดว้ ย Microsoft Excel 2013 งานพ้นื ฐานในMicrosoft Excel2013 Microsoft Excel 2013 คือโปรแกรมท่ีเน้นการสร้างตาราง การคานวณ การสรุปผลข้อมูล และยังมีความสามารถด้านการเก็บข้อมูลในรูปแบบท่ีง่ายและสะดวก จึงเป็นที่นิยมในการนามาเป็น โปรแกรมในการจดั การเก็บขอ้ มลู ด้วย นอกจากนย้ี ังมีเครอ่ื งมือในการสรปุ ผลข้อมูลทีห่ ลากหลาย ข้ันตอนแรกของการสร้างเอกสารใน Excel 2013 คือเลือกว่าจะเริ่มต้นจากเอกสารเปล่า หรือ ใช้แม่แบบทางานให้กับคุณจากน้ันข้ันตอนพื้นฐานในการสร้างและแชร์เอกสารจะเหมือนเดิม เคร่ืองมือ ในการแก้ไขและตรวจทานอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้คุณทางานร่วมกับผู้อ่ืนเพ่ือให้เอกสารมีความ สมบรู ณ์ 1. การเลือกแมแ่ บบ (Template) เป็นการง่ายกว่าที่จะ สร้างเอกสารใหม่โดยใช้แม่แบบ แทนการเร่ิมต้นด้วยหน้าเปล่า แม่แบบ Excel พร้อมใหใ้ ชง้ านกับธมี และสไตลต์ า่ งๆ สงิ่ ท่คี ณุ ต้องทากเ็ พียงแคใ่ สเ่ นือ้ หาเทา่ นน้ั ทุกคร้ังที่คุณเริ่มใช้งาน Excel 2013 คุณสามารถเลือกแม่แบบจากแกลเลอรี คลิกที่ประเภท เพือ่ ดแู มแ่ บบทอ่ี ยใู่ นประเภทนัน้ หรอื ค้นหาแมแ่ บบออนไลนเ์ พม่ิ เตมิ 2. การวเิ คราะหข์ อ้ มลู ในทันที เครื่องมือการวิเคราะหอ์ ย่างรวดเร็ว แบบใหม่จะช่วยให้สามารถแปลงข้อมูลไปเปน็ แผนภูมิหรือ ตารางได้ภายในสองข้ันตอนหรือน้อยกว่า แสดงตัวอย่างข้อมูลด้วยการจัดรูปแบบตามเง่ือนไข เส้นประ กายไฟ หรือแผนภมู ิ และทาให้ตวั เลือกโดดเด่นขนึ้ ไดใ้ นคลกิ เดียว เม่อื ตอ้ งการใช้คุณลักษณะใหม่น้ี เอกสารประกอบการสอน คอมพวิ เตอร์ 2 (ง21105)

หน่วยท1่ี ความรู้พ้นื ฐานเกยี่ วกับไมโครซอฟต์เอก็ เซล 61 3. กรอกขอ้ มลู ท้ังคอลมั นไ์ ดอ้ ย่างรวดเรว็ การเติมแบบรวดเร็ว เป็นเสมือนผู้ช่วยด้านข้อมูลท่ีทางาน ทันทีที่ตรวจพบว่าต้องการทาอะไร การเติมแบบรวดเรว็ จะใส่ข้อมูลท่ีเหลอื ของทั้งหมดลงไปทีเดียว โดยทาตามรปู แบบทรี่ ้จู กั จากข้อมลู 4. สรา้ งแผนภูมทิ ่เี หมาะสมกับขอ้ มูล คาแนะนาแผนภูมิ Excel จะแนะนาแผนภูมิที่เหมาะสมท่ีสุดสาหรับข้อมูล ดูว่าในแผนภูมิท่ี แตกต่างกันจะแสดงข้อมูลออกมาอยา่ งไรบ้าง จากนน้ั เลอื กมาแผนภมู หิ นงึ่ ทแ่ี สดงสง่ิ ท่ีต้องการนาเสนอ โรงเรียนสยามคอมพิวเตอรแ์ ละภาษา

62 บทที่ 2 สร้างเอกสารดว้ ย Microsoft Excel 2013 5. 1 สมุดงาน (Work Book)1 หนา้ ตา่ ง ใน Excel 2013 แต่ละสมดุ งานจะมีหนา้ ตา่ งของตวั เอง จึงทาใหส้ ามารถทางานบนสองสมดุ งาน ได้พร้อมกันไดง้ ่ายขึ้น และยังทาใหง้ า่ ยขน้ึ เม่อื ตอ้ งการทางานบนจอภาพสองจอภาพ การเรยี กใชง้ านโปรแกรม Microsoft Excel2013 การเรียกใช้งานโปรแกรม Microsoft Excel 2013 ก็เหมือนกับการเรียกใช้งานโปรแกรมอ่ืนๆ ทั่วไป โดย คลิกปุ่ม Start เลือก All Programsเลือก Microsoft Office 2013คลิกเลือก Microsoft Excel2013 เลือกรูปแบบเอกสารเช่น Blank workbook หลังทาการเลือกรูปแบบเสร็จจะปรากฏหน้าต่าง การทางานของโปรแกรมMicrosoft Excel 2013 สว่ นประกอบของโปรแกรม เม่ือเข้าสู่โปรแกรม Microsoft Excel2013 แล้ว จะปรากฏหน้าต่างของโปรแกรม ซึ่งมี ส่วนประกอบตา่ งๆ ดงั ภาพ Quick Access Toolbar Title Bar Name Box Ribbon Formula Bar Active Cell Column Work Space Row Worksheet Page Layout Zoom Scroll ภาพที่ 1-2 แสดงส่วนประกอบของโปรแกรม Microsoft Excel 2013 เอกสารประกอบการสอน คอมพิวเตอร์ 2 (ง21105)

หน่วยท1ี่ ความรู้พน้ื ฐานเก่ยี วกบั ไมโครซอฟต์เอก็ เซล 63 ชื่อสว่ นประกอบ ความหมาย Quick Access Toolbar ปุ่มเครอ่ื งมือท่ีใช้งานกันบ่อยๆ ในโปรแกรม ซ่งึ สามารถกาหนดปุ่มใน Ribbon การแสดงได้ แสดงแถบป้ายคาส่ัง และปุ่มคาส่ังในการทางาน โดยการเลือกป้าย Title Bar การทางานต่างๆ ปุ่มคาสั่งในริบบอนก็จะเปลี่ยนตามป้ายการทางาน นน้ั ๆ Name box Formula Bar แสดงช่ือไฟล์ข้อมูลและชื่อโปรแกรม Microsoft Excel ท่ีเปิดใช้งาน Active Cell ขณะนั้นกรณีท่ีเป็นการเข้าสู่โปรแกรมคร้ังแรก และยังไม่มีการเปิด Worksheet โฟลเดอร์ข้อมูลใด ๆ โปรแกรมจะแสดงชื่อไฟล์ข้อมูลให้โดยเริ่มต้น Workspace จาก “Book 1\" เปน็ ตน้ ไป แสดงตาแหน่งหรอื ชื่อเซลในขณะทค่ี ลิกเลอื กเซล Column แสดงสูตรคานวณทางคณติ ศาสตร์หรือสาหรับพิมพข์ ้อความ ตวั เลข Row สถานะของเซลปจั จุบันที่กาลังทางานอยู่ Page Layout Zoom scroll ป้ายช่ือ (Sheet) เปน็ ชื่อของแผ่นงานท่เี ลือกใชง้ านอยใู่ นขณะน้นั พ้ืนท่ีใช้งานของโปรแกรม เป็นพื้นท่ีที่ใช้สาหรับพิมพ์ข้อความหรือ กรอกตวั เลขลงไปในแผน่ งาน แถวแนวตง้ั ของแผ่นงาน โดยมีช่ือหัวคอลัมนเ์ ป็นตวั อักษร A,B,C… ไป จนถึง XFD แถวแนวนอนของแผ่นงาน โดยมีช่ือหัวแถวเป็นตัวเลข 1,2,3… ไป จนถึงแถวท่ี 1,048,576 มุมมองการทางานของหนา้ ต่างโปรแกรม เคร่อื งมอื ปรับขยายหน้าจอในการดเู อกสาร การเพมิ่ ป่มุ เครอ่ื งมอื บน Quick Access Toolbar Quick Access Toolbar เป็นปุ่มเครื่องมือท่ีผู้ใช้งานมีการเรียกใช้งานบ่อยๆ ดังนั้น เพื่อให้ สะดวกกับการทางาน ผ้ใู ช้งานอาจเปดิ การแสดงเคร่ืองมอื ทใี่ ชง้ านต่างๆ ได้ โดยสามารถทาได้ดังนี้ 1. คลิกเครื่องมอื Customize Quick Access Toolbar 2. คลิกเลอื กเครือ่ งมือท่ีตอ้ งการเพ่ิม การบันทกึ ไฟล์สมดุ งาน หลังจากที่ทางานต่างๆ บนโปรแกรมเสร็จเรียบร้อยแล้ว หากต้องการบันทึกไฟล์งานเพ่ือ นามาใช้งานในภายหลังสามารถทาได้โดย คลิกปุ่ม Save หรือ เลือกเมนู File และเลือก Save จากนั้น ให้เลือกตาแหน่งของข้อมูลที่ต้องการบันทึกและต้ังช่ือไฟล์เอกสาร นอกจากน้ียังสามารถเลือกชนิดของ ไฟลเ์ อกสารทตี่ ้องการบนั ทกึ ได้ เช่น โรงเรียนสยามคอมพวิ เตอร์และภาษา

64 บทท่ี 2 สรา้ งเอกสารด้วย Microsoft Excel 2013  สมุดงาน Excel 97-2007 เม่ือต้องการให้โปรแกรม Excel เวอร์ชันต้ังแต่ 97-2003 สามารถ เปิดไฟล์งานน้ีได้หรือถ้าไม่ต้องการบันทึกแบบ Excel 97-2003 ก็ให้ทาการบันทึกไฟล์ข้อมูล โดยคลกิ ท่ีปมุ่ Save มวี ธิ ดี ังน้ี 1. คลกิ แทบ็ File เลือกคาสง่ั Save/Save Asหรือคลกิ เครอ่ื งมอื Save 2. คลกิ ปุม่ Browse 3. คลิกเลอื กแหล่งท่ีใชใ้ นการเก็บเอกสารในช่อง Save in: 4. ตงั้ ชอ่ื ไฟล์เอกสารในช่อง File name: 5. คลิกปุม่ Save 1. คลกิ ป่มุ Save หรือ เมนู File เลือกรายการSave/Save As 3. เลอื กแหลง่ จัดเก็บไฟลเ์ อกสาร 4. ต้งั ช่อื ไฟล์เอกสารในช่อง File name: 5. คลกิ ปมุ่ Save ภาพท่ี 1-3 แสดงขัน้ ตอนการบนั ทึกไฟลส์ มดุ งาน การเปิดไฟล์สมุดงาน หลังจากทาการบันทึกสมุดงานเรียบร้อยแล้ว ผู้ใช้สามารถเปิดสมดุ งานนั้นมาแก้ไขหรือเพ่ิมเติม ขอ้ มลู ได้ โดยมีข้ันตอนการเปดิ สมดุ งาน ดงั นี้ 1. คลกิ แทบ็ File เลือกคาส่ัง Open หรือคลกิ เคร่ืองมอื Open 2. คลิกท่ี Computer 3. คลิกเลอื กแหล่งที่เก็บเอกสารในชอ่ ง Look in: เอกสารประกอบการสอน คอมพิวเตอร์ 2 (ง21105)

หน่วยท1่ี ความรู้พ้นื ฐานเก่ยี วกบั ไมโครซอฟต์เอ็กเซล 65 4. คลิกเลอื กชอ่ื ไฟลเ์ อกสาร 1. เลือกคาส่ัง Open หรอื คลิกเครอ่ื งมือ Open 5. คลกิ ป่มุ Open 4. คลกิ เลอื กชือ่ ไฟลเ์ อกสาร : 5. คลิกปมุ่ Open ภาพที่ 1-4 แสดงขัน้ ตอนการเปิดไฟล์งานสมุดงาน การปิดไฟล์สมุดงาน เม่ือทางานกับไฟล์เอกสารเป็นท่ีเรียบร้อยแล้ว หากต้องการท่ีจะปิดไฟล์งานสมุดงาน ปัจจุบัน สามารถทาได้โดย คลกิ แท็บFileเลอื กคาสัง่ Close Note: ในกรณีที่ปิดไฟล์สมุดงานที่ยังไม่มีการบันทึก โปรแกรมจะขนึ้ หน้าต่างโต้ตอบ ถามว่าต้องการ จะบนั ทึกขอ้ มูลหรอื ไม่ ถา้ ตอบ Save : โปรแกรมจะทาการบันทกึ งาน Don’t Save : โปรแกรมจะไมบ่ ันทึกงาน Cancel : ยกเลกิ ทุกคาส่งั โรงเรยี นสยามคอมพวิ เตอร์และภาษา

หน่วยที่ 2 การทางานกบั แผน่ งาน (Work Sheet) ข้อมูลต่างๆ ที่ปอ้ นเข้าไปภายในแผ่นงานน้ัน บางครงั้ อาจมีจานวนมากและมีประเภทของข้อมูล ทแ่ี ตกต่างกนั จนทาให้แผ่นงานไม่เป็นระเบียบและไม่สวยงาม ดังน้ันจงึ มีการจัดการแผ่นงานท่ีเหมาะสม เพื่อความสะดวกในการใช้งาน เช่น การย้ายแผ่นงาน การเพ่ิมแผ่นงานเปล่าและการต้ังช่ือให้แผ่นงาน เป็นตน้ การเลอื กแผน่ งาน (Select) ในแต่ละสมุดงาน (Work Book) จะมีจานวนของแผ่นงานได้หลายแผ่นงานด้วยกันโดยการ ทางานนน้ั ผ้ใู ช้สามารถเลอื กทจี่ ะทางานกับแผ่นงานใดๆ ตามต้องการได้ ดังน้ี 1. นาเมาส์ไปคลิกทีช่ ื่อแผ่นงานท่ตี ้องการบริเวณดา้ นลา่ งของหน้าต่างโปรแกรม 2. แผ่นงานที่เลือกให้ทางานจะเหน็ แทบ็ สีไดช้ ัดเจนกวา่ แทบ็ อืน่ ๆ 1. คลิกท่ีชือ่ แผน่ งานที่ต้องการ 2. แผ่นงานท่ีเลอื กใหท้ างานจะเหน็ แทบ็ สีได้ชัดเจน ภาพท่ี 2-1 แสดงข้นั ตอนการเลือกแผน่ งาน Note: หากต้องการเลอื กหลายแผน่ งานพรอ้ มๆ กนั จะต้องกดปุ่มที่แปน้ พิมพ์รว่ มดว้ ย  ปุ่ม Shift กรณีต้องการเลือกแผน่ งานหลายๆ แผ่นต่อเน่ืองกัน  ปุม่ Ctrl กรณีตอ้ งการเลือกแผ่นงานหลายๆ แผ่นไมต่ ่อเนอื่ งกัน การเพิ่มแผ่นงาน (Insert Sheet) สมุดงานที่เปิดขึ้นมาใหม่โดยปกติแล้วจะมีแผ่นงานมาให้จานวน 3 แผ่นงานทุกคร้ัง แต่ถ้า ข้อมูลทปี่ อ้ นเขา้ ไปในแผน่ งานน้นั มจี านวนมาก กส็ ามารถเพ่มิ แผน่ งานเข้าไปอกี ได้ มีวิธดี งั น้ี

หนว่ ยที่ 2 การทางานกบั แผน่ งาน (Work Sheet) 67  วธิ ีท่ี 1:คลกิ ปุ่ม New Sheet คลิกปมุ่ New Sheet  วธิ ที ่ี 2: 1. คลิกที่แทบ็ HOME 2. เลอื กคาสง่ั Insert 3. เลือก Insert Sheet 2.คลกิ คาส่ัง Insert 3.เลอื ก Insert Sheet การลบแผน่ งาน (Delete Sheet) หากต้องการลบแผน่ งานทไี่ ม่ตอ้ งการใช้งาน สามารถทาได้ดังนี้  วธิ ีท่ี 1 : 1. คลกิ เมาสข์ วาที่แผน่ งานทต่ี ้องการลบ 2. คลิกเลือกคาสัง่ Delete โรงเรยี นสยามคอมพวิ เตอรแ์ ละภาษา

68 บทท่ี 2 สรา้ งเอกสารด้วย Microsoft Excel 2013 คลกิ เลือกคาสง่ั Delete  วิธีที่ 2: 1. คลกิ เลือกแผ่นงานท่ีต้องการลบ 2. คลกิ แท็บ HOME 3. เลอื กคาสั่ง Delete 4. เลอื ก Delete Sheet 2. คลกิ เลอื กคาส่ัง Delete 3.เลือก Delete Sheet ภาพท่ี 2-2 แสดงข้ันตอนการลบแผน่ งาน สาหรับการลบแผ่นงานน้ัน หากแผ่นงานท่ีต้องการลบมีข้อมูลอยู่ จะปรากฏกรอบโต้ตอบ ดังรปู ด้วย แต่หากไมม่ ขี อ้ มูล แผ่นงานที่ถูกลบกจ็ ะหายไปโดยไม่มกี รอบโต้ตอบใดๆ ภาพท่ี 2-3 แสดงหนา้ ต่างโต้ตอบการลบแผ่นงาน เอกสารประกอบการสอน คอมพิวเตอร์ 2 (ง21105)

หน่วยท่ี 2 การทางานกบั แผน่ งาน (Work Sheet) 69 การเปลี่ยนช่ือแผ่นงาน (Rename Sheet) คลกิ เลอื กคาสงั่ Rename  วธิ ีที่ 1 : 1. คลกิ เมาสข์ วาที่ชือ่ แผน่ งาน 2. เลือกคาส่ัง Rename 3. พมิ พ์ชื่อแผน่ งานทีต่ ้องการ 4. กดปุ่ม Enter ทแ่ี ปน้ พิมพ์  วธิ ีที่ 2: 1. คลิกแท็บ HOME 2. เลอื กคาสั่ง Format 3. เลอื กคาสง่ั Rename Sheet 2. เลือกคาสงั่ Format 3.เลอื ก Rename Sheet ภาพที่ 2-4 แสดงขน้ั ตอนการเปล่ยี นชอื่ แผ่นงาน การคดั ลอกและการยา้ ยแผน่ งาน (Copy and Move Sheet) การคดั ลอกแผน่ งาน (Copy Sheet) 1. คลิกเมาสข์ วาท่ีชื่อแผ่นงานท่ีต้องการคัดลอก 2. เลอื กคาส่งั Move or Copy... โรงเรียนสยามคอมพิวเตอรแ์ ละภาษา

70 บทที่ 2 สร้างเอกสารดว้ ย Microsoft Excel 2013 3. กาหนดปลายทางของแผ่นงาน 3.กาหนดตาแหนง่ ปลายทาง 4. คลกิ  Create a Copy 5. คลิกปมุ่ OK 2.เลือกคาส่งั Move or Copy… 5.คลิกปุ่ม OK 4.คลกิ เลือก Create a copy ภาพท่ี 2-5 แสดงขนั้ ตอนการคัดลอกแผน่ งาน Note: กดปุ่ม Ctrl ทีค่ ยี ์บอร์ดค้างไว้ แลว้ คลกิ เมาสล์ ากชื่อแผ่นงานออกจากตาแหน่งเดมิ การย้ายแผ่นงาน (Move Sheet) สาหรบั การย้ายแผ่นงานน้ัน มีขน้ั ตอนคล้ายกบั กับการคดั ลอกแผ่นงาน เพยี งแต่แตกต่างกัน ตรงท่ี ไมต่ อ้ งคลกิ เลือก  Create a Copy เท่านัน้ ดงั น้ี 1. คลกิ เมาส์ขวาท่ชี อื่ แผ่นงานท่ีต้องการคดั ลอก 2. เลอื กคาสงั่ Move or Copy.. 3. กาหนดปลายทางของแผน่ งาน 4. คลกิ ปุ่ม OK เอกสารประกอบการสอน คอมพวิ เตอร์ 2 (ง21105)

หนว่ ยท่ี 2 การทางานกับแผน่ งาน (Work Sheet) 71 2.เลือกคาสง่ั Move or Copy… 3.กาหนดตาแหน่งปลายทาง 4.คลกิ ปุ่ม OK ภาพท่ี 2-6 แสดงขน้ั ตอนการเคล่อื นยา้ ยแผ่นงาน การจดั การเซลล์ (Cell) 1. การเรยี กช่ือเซลล์ (Cell Name) โดยปกตแิ ล้วนั้น แต่ละเซลล์มีชอ่ื เรียกเปน็ ของตวั เอง ซ่ึงผู้ใช้อาจสังเกตจาก Name box ก็ ได้ หรือสังเกตจากแถบไฮไลท์ระหว่าง Row กับ Column โดยจะต้องเรียกช่ือ Column ตามด้วย Row ภาพท่ี 2-7 การเรียกช่ือเซลล์ 2. การเลอ่ื นเซลล์ (Move Cell) การเล่ือนไปยังเซลล์หรือกลุ่มเซลล์ท่ีต้องการใช้งานนั้นสามารถทาได้หลายวิธีด้วยกัน โดย แนะนาไว้ 3 วธิ ี คอื  คลิกเมาส์ไปยงั เซลล์ที่ต้องการ  พิมพช์ อื่ เซลลไ์ ปยงั Name Box แล้วกดปุม่ Enter ท่ีคียบ์ อรด์  ใชค้ ยี บ์ อร์ดเลือ่ นไปยังเซลลท์ ีต่ ้องการ โรงเรียนสยามคอมพิวเตอร์และภาษา

72 บทที่ 2 สรา้ งเอกสารดว้ ย Microsoft Excel 2013 แป้นพมิ พ์ การเลื่อนเซลล์ Arrow Key เลอ่ื นเซลลไ์ ปยังทิศทางท่ีระบุ ทลี ะเซลล์ Home เลื่อนไปยังเซลล์ซา้ ยสุดของแต่ละ Row Page Up เลอ่ื นหน้าจอขนึ้ ครัง้ ละ 1 หนา้ จอ Page Down เลอ่ื นหนา้ จอลงคร้งั ละ 1 หน้าจอ Ctrl + Arrow Key เลือ่ นไปยงั ตาแหน่งสดุ ท้ายของขอ้ มลู ตามทิศทางทร่ี ะบุ Ctrl + Home เลื่อนไปยงั เซลล์ A1 Alt + Page Up เลื่อนหน้าจอไปด้านซ้ายคร้ังละ 1 หน้าจอ Alt + Page Down เลอ่ื นหน้าจอไปด้านขวาครั้งละ 1 หนา้ จอ F5 เลอ่ื นไปยังเซลลท์ ่ีระบุ 3. การเลอื กเซลล์ (Select Cell) การเลอื กเซลล์เพอื่ กระทาการใดๆ นน้ั สามารถทาไดด้ งั น้ี  การเลอื กเซลลเ์ ดียว  การเลอื กกลมุ่ เซลลท์ อ่ี ย่ตู ดิ กัน  การเลอื กเซลล์หรือกลมุ่ เซลล์ท่ไี ม่ได้อยูต่ ิดกัน การเลอื กเซลล์เดยี ว ใช้วิธีการนาเมาส์ไปคลิกยังตาแหน่งเซลล์ใดๆ ที่ต้องการเลือก หรืออาจคลิกที่ Name Box แลว้ พิมพช์ อื่ เซลล์ท่ีต้องการกไ็ ด้ แล้วกดปมุ่ Enter ทีค่ ยี ์บอรด์ การเลอื กกลุ่มเซลลท์ อ่ี ยตู่ ดิ กนั ใช้วิธีการคลิกเมาส์ลากคลุมพ้ืนที่ในแนวแทยงมุม หรือใช้วิธีการคลิกเมาส์ท่ีเซลล์แรก จากน้ันกดปมุ่ Shift ท่คี ยี บอร์ดแลว้ คลกิ ทีเ่ ซลล์สดุ ทา้ ย เอกสารประกอบการสอน คอมพิวเตอร์ 2 (ง21105)

หนว่ ยที่ 2 การทางานกับแผ่นงาน (Work Sheet) 73 การเลอื กเซลล์หรือกล่มุ เซลล์ทีไ่ ม่ไดอ้ ยู่ตดิ กนั ใช้การเลือกกลุ่มเซลล์ท่ี 1 แล้วกดปุ่ม Ctrl ที่คีย์บอร์ดค้างไว้ จากน้ัน จึงใช้เมาส์ลากคลุม กลมุ่ เซลล์ท่ี 2 หรอื กลุ่มเซลลอ์ ่ืนๆ ตอ่ ไป กลุ่มที่ 1 กลุ่มท่ี 2 ภาพท่ี 2-8 แสดงวธิ ีการเลอื กเซลลแ์ บบตา่ งๆ การป้อนข้อมูล (Input Data) ชนดิ ขอ้ มลู (Data Type) สาหรับ Microsoft Excel นัน้ สามารถแบง่ ประเภทของชนดิ ขอ้ มลู ได้ ดงั นี้ ชนดิ ขอ้ มูล คาอธิบาย Text Number ขอ้ ความ ตวั อักษร สัญลกั ษณ์หรอื ตวั เลขที่ไม่ใช้ในการคานวณ เชน่ Date and Time รหสั สินคา้ , รหัสบัตรประจาตวั ประชาชน , รหัสพนักงาน เปน็ ตน้ Formula ตัวเลขทส่ี ามารถนาไปคานวณได้ เช่น เงินเดอื น, อายุ, น้าหนัก, ยอดขาย เป็นตน้ Function ตวั เลขทปี่ อ้ นในรูปแบบวนั ท่ี และ เวลา เช่น วนั เดือนปีเกดิ , วนั ผลิต, วัน เร่มิ งาน, เวลาเขา้ งาน เป็นต้น สูตรคานวณท่ีผู้ใช้งาน Excel เปน็ คดิ ขนึ้ เอง ตามรูปแบบของการคานวณ ในการแกไ้ ขปัญหาตา่ งๆ เช่น สตู รการคานวณหาภาษี ยอดขาย รายได้ ต่างๆ สูตรคานวณสาเร็จรปู ท่ีมาพร้อมกับ Excel เช่น ฟังกช์ นั SUM, Average, Count, IF, VLOOKUP เป็นตน้ วธิ ีการปอ้ นขอ้ มลู (How to input data) การป้อนข้อมูลให้ถูกตามรูปแบบของชนิดข้อมูลน้ันถือว่าจาเป็นอย่างย่ิง เพราะจะทาให้เรา สามารถนาขอ้ มูลท่ีไดไ้ ปใช้ต่อได้อยา่ งถูกตอ้ งแมน่ ยา โดยมลี กั ษณะการปอ้ นข้อมูล ดังนี้ ชนดิ ขอ้ มลู การป้อนขอ้ มูล Text สามารถพิมพ์ขอ้ ความหรอื สญั ลักษณ์ต่างๆ ลงไปในเซลล์ไดเ้ ลย โดยเมื่อ Number ปอ้ นเสร็จเรียบรอ้ ย กดปุ่ม Enter ที่คยี ์บอรด์ แล้วข้อความจะชิดซา้ ยของ เซลล์ การป้อนตัวเลขน้ัน ใหป้ ้อนจานวนเลขลงไปในเซลล์ โดยไม่จาเป็นต้องใส่ คอมมา่ (,)ในหลักพัน เช่น 1000 เป็นตน้ โรงเรียนสยามคอมพิวเตอร์และภาษา

74 บทท่ี 2 สร้างเอกสารดว้ ย Microsoft Excel 2013 ชนดิ ข้อมลู การป้อนขอ้ มลู Date and Time รปู แบบการป้อนข้อมลู ที่เปน็ แบบ Formula Date: วว/ดด/ปป หรือ วว-ดด-ปป เชน่ 22/06/1978 Function Time: ชช:นน:วว เชน่ 09:15 สาหรับสตู รคานวณนั้นมขี ้อบังคับการป้อนคือจะตอ้ งพิมพเ์ ครื่องหม่าย เทา่ กับ (=) ก่อนเสมอจึงเร่ิมป้อนสตู รคานวณท่วี างแผนไว้ เชน่ =B2-5 จะมีลักษณะการป้อนข้อมลู คล้ายๆ กนั กบั Formula คอื จะต้องเร่ิมท่ี เคร่อื งหมายเท่ากบั (=) กอ่ นน้ันเอง แล้วจึงค่อยตามด้วยช่ือฟงั ์กช์ ัน หากแตว่ ่ารปู แบบของฟงั ก์ชันแตล่ ะฟังกช์ ันจะไม่เหมอื นกัน มากบ้างน้อย บา้ ง ตามแตล่ ะฟังกช์ ัน ผู้ใชง้ านจะตอ้ งป้อนให้ถูกตามท่ีฟังก์ชันแต่ละตวั บังคบั ไว้ เชน่ = Today() การลบและการแก้ไขขอ้ มูล (Delete and Edit Cell) การลบข้อมลู (Delete) การลบขอ้ มูลภายในเซลลส์ ามารถทาได้โดยการ  วธิ ที ่ี 1 : 1. คลกิ เลอื กเซลลห์ รอื กลมุ่ เซลล์ที่ตอ้ งการลบ 2. กดปมุ่ Delete ทีค่ ียบ์ อร์ด  วธิ ที ี่ 2 : 1. คลกิ เลอื กเซลล์หรือกลุ่มเซลลท์ ีต่ อ้ งการลบ 2. คลิกแทบ็ HOME 3. เลอื กคาสงั่ Clear 4. เลือกประเภทการ Clear o Clear All : ลบทัง้ หมด o Clear Formats : ลบเฉพาะรูปแบบ o Clear Contents : ลบเฉพาะข้อความ o Clear Comments : ลบคอมเม้นท์ o Clear Hyperlinks : ลบจุดเชื่อมโยง การแกไ้ ขขอ้ มูลในเซลล์ (Editing) ขอ้ มูลทไี่ ดพ้ มิ พ์ลงในเซลล์แลว้ นนั้ หากต้องการแกไ้ ขหรอื เพิม่ เตมิ ข้อมลู สามารถทาได้ โดย  วธิ ีท่ี 1 : 1. คลกิ เมาส์ทเี่ ซลล์ทต่ี ้องการแก้ไข 2. คลกิ ท่ี Formula Bar 3. แก้ไขขอ้ มูลตามตอ้ งการ เอกสารประกอบการสอน คอมพวิ เตอร์ 2 (ง21105)

หนว่ ยท่ี 2 การทางานกับแผ่นงาน (Work Sheet) 75  วิธีท่ี 2 : 1. คลิกเมาสท์ ่เี ซลลท์ ต่ี อ้ งการแก้ไข 2. กดป่มุ F2 ทค่ี ียบ์ อร์ด 3. แก้ไขข้อมูลตามต้องการ โรงเรียนสยามคอมพิวเตอรแ์ ละภาษา

หนว่ ยที่ 3 การจดั รูปแบบเอกสาร ในหน่วยท่ี 3 นี้จะได้กล่าวถึงการสร้างงานเอกสาร และการจัดรูปแบบเอกสารด้วยโปรแกรม Microsoft Excel เช่น การสร้างตาราง การจัดรูปแบบตัวอักษร การจัดรูปแบบวันที่ การจัดรูปแบบ ตัวเลข การกาหนดเส้นตาราง เปน็ ต้น การจดั การแถวและคอลัมน์ (Row and Column) หากมีความกว้างของคอลัมน์หรือความสงู ของแถว ไม่พอดี หรือต้องการลดขนาดหรือเพิม่ ขนาด ของเซลล์ ก็จะต้องจดั การลงไปท่แี ถวหรือคอลมั นน์ ่นั เอง การเลอื กแถวและคอลมั น์ (Select Row and Column) การเลอื กแถว คลิกที่หมายเลขแถวหากเลือกไม่ต่อเน่ืองกัน ให้กดปุ่ม Ctrl หรือต้องการเลือกแบบต่อเนื่องให้ กดปมุ่ Shift (เหมือนการเลอื กเซลล)์ การเลอื กคอลมั น์ คลิกที่ชื่อคอลัมน์หากเลือกไม่ต่อเน่ืองกัน ให้กดปุ่ม Ctrl หรือต้องการเลือกแบบต่อเนื่องให้กด ปุม่ Shift (เหมือนการเลอื กเซลล์) การเลือกท้งั แผ่นงาน คลิกที่จุดสี่เหล่ียมจุดตัดระหว่างแถวและคอลัมน์ซึ่งอยู่บริเวณมุมบนด้านซ้ายของผ่นงาน เป็น การเลือเซลล์ท่ีอยู่ในแผ่นงานหรือจะใช้วิธีการกดปุ่ม Ctrl + A ท่ีคีย์บอร์ดเพื่อเป็นการเลือกทุกเซลล์ ท้ังหมดในแผน่ งาน เลอื กแถว (Select Row) เลอื กคอลมั น์ (Select Column) ภาพที่ 3-1 แสดงการเลือกแถวและคอลัมน์

หนว่ ยที่ 3 การจดั รูปแบบเอกสาร 77 เลือกท้งั แผ่นงาน (Select Work Sheet) ภาพที่ 3-2 แสดงการเลอื กทั้งแผ่นงาน การปรบั ขนาดแถวและคอลัมน์ การปรับขนาดความสงู ของแถว (Row Height)  วธิ ที ี่ 1: คลกิ เสน้ คน่ั ระหว่างแถวที่ต้องการปรบั แลว้ ลากเมาส์ขน้ึ หรือลง ตามความต้องการ  วิธที ี่ 2: 1. คลิกเลือกแถวท่ตี ้องการปรับ 2. คลิกแท็บ HOME 3. คลกิ คาสั่ง Format 4. เลอื กคาสั่ง Row Height… 5. กาหนดความสงู 6. คลิกปุ่ม Ok 3. คลิกเลอื กคาสงั่ Format 4. เลอื กคาสั่ง Row Height 5. กาหนดความสูง ภาพที่ 3-3 แสดงขั้นตอนการกาหนดความสูงของแถว Note: หากต้องการปรับให้ความสูงของแถวพอดีกับข้อมูลอาจเลือกคาส่ัง AutoFit Row Height หรอื นาเมาสช์ เ้ี สน้ คั่นระหว่างแถว แล้ว Double Click โรงเรียนสยามคอมพวิ เตอร์และภาษา

78 บทท่ี 2 สร้างเอกสารดว้ ย Microsoft Excel 2013 การปรบั ขนาดความกว้างของคอลัมน์ (Column Width)  วธิ ีที่ 1: คลกิ เส้นคนั่ ระหว่างคอลมั น์ทีต่ ้องการปรับ แล้วลากเมาสซ์ ้ายหรือขวา ตามความ ต้องการ  วธิ ีที่ 2: 1. คลกิ เลือกคอลมั น์ทีต่ อ้ งการปรับ 2. คลกิ แทบ็ HOME 3. คลกิ คาสั่ง Format 4. เลอื กคาสง่ั Column Width.. 5. กาหนดความกวา้ ง 6. คลิกปุ่ม Ok 3. คลกิ เลอื กคาสง่ั Format 4. เลอื กคาส่ัง Column Width 5. กาหนดความกว้าง ภาพท่ี 3-4 แสดงขน้ั ตอนการกาหนดความกวา้ งของคอลัมน์ Note: หากต้องการปรบั ใหค้ วามกว้างของคอลัมนใ์ หพ้ อดีกับขอ้ มูลอาจเลอื กคาสง่ั AutoFit Column Width หรือนาเมาสช์ เ้ี ส้นคนั่ ระหว่างคอลัมน์ แล้ว Double Click การแทรกแถวและคอลมั น์ (Insert Row and Column) การแทรกคอลมั น์ (Insert Column)  วธิ ที ่ี 1: 1. คลกิ เมาส์ขวาทหี่ ัวคอลัมน์ท่ตี อ้ งการแทรก 2. เลือกคาส่ัง Insert เอกสารประกอบการสอน คอมพิวเตอร์ 2 (ง21105)

หนว่ ยท่ี 3 การจดั รูปแบบเอกสาร 79 เลือกคาสงั่ Insert ภาพที่ 3-5 แสดงขนั้ ตอนการแทรกคอลัมน์ โดยคลิกเมาสข์ วา  วิธีท่ี 2: 1. คลกิ คอลัมน์ทีต่ ้องการแทรก 2. คลิกแท็บ HOME 3. คลิกคาสั่ง Insert 4. เลอื ก Insert Sheet Columns 1. คลกิ คอลมั น์ทต่ี ้องการแทรก 4. เลอื ก Insert Sheet Columns ภาพที่ 3-6 แสดงขนั้ ตอนการแทรกคอลัมน์ โดยคาสงั่ Insert Sheet Columns โรงเรียนสยามคอมพวิ เตอร์และภาษา

80 บทท่ี 2 สรา้ งเอกสารดว้ ย Microsoft Excel 2013 การแทรกแถว (Insert Row) การแทรกแถว สามารถทาได้เช่นเดียวกันกับข้ันตอนการแทรกคอลัมน์ เพียงแต่เปลี่ยนเป็นจาก คอลัมน์เป็นแถว โดยคลิกท่ีหัวแถวท่ีต้องการแทรก และไปที่คลิกแท็บ HOME  Insert  Insert Sheet Rows แทน Note: หากตอ้ งการแทรกแถวหรอื คอลัมน์อย่างรวดเร็ว อาจใช้วิธกี ารกดปุ่ม Ctrl + + การลบแถวและคอลัมน์ (Delete Row and Column) การลบคอลัมน์ (Delete Column)  วธิ ีท่ี 1: 1. คลิกเมาสข์ วาช่อื คอลมั น์ทต่ี อ้ งการลบ 2. เลอื กคาส่งั Delete  วิธที ่ี 2: 1. คลกิ คอลัมน์ท่ตี อ้ งการลบ 2. คลิกแทบ็ Home 3. คาสัง่ Delete 4. เลอื ก Delete Sheet Columns 3. คลกิ คาสั่ง Delete 4. เลอื ก Delete Sheet Columns ภาพที่ 3-7 แสดงขัน้ ตอนการลบคอลัมน์ โดยคาสง่ั Delete Sheet Columns การลบแถว (Delete Row)  วธิ ที ี่ 1: 1. คลกิ เมาส์ขวาหมายเลขแถวทีต่ ้องการลบ 2. เลือกคาสงั่ Delete  วิธีท่ี 2: 1. คลิกแถวทต่ี อ้ งการลบ เอกสารประกอบการสอน คอมพิวเตอร์ 2 (ง21105)

หน่วยท่ี 3 การจดั รปู แบบเอกสาร 81 2. คลิกแท็บ Home 3. คาส่งั Delete 4. เลอื ก Delete Sheet Rows 3. คลกิ คาสงั่ Delete 4. เลอื ก Delete Sheet Rows ภาพท่ี 3-8 แสดงขัน้ ตอนการลบคอลมั น์ โดยคาสั่ง Delete Sheet Rows Note: หากต้องการแทรกแถวหรอื คอลมั นอ์ ย่างรวดเรว็ อาจใชว้ ธิ ีการกดปุม่ Ctrl + - การจดั รูปแบบเอกสาร (Format Document) สาหรับการจัดรูปแบบเอกสารในเวอร์ชัน 2013 นี้จะไม่ค่อยมีความแตกต่างจากเวอร์ช่ันก่อน หนา้ นีม้ ากนกั ซึง่ สามารถทาได้ ดังนี้ การจดั รปู แบบตวั อักษร (Font) 1. เลือกเซลลห์ รอื กลมุ่ เซลลท์ ต่ี อ้ งการจดั รูปแบบ 2. คลิกแท็บ HOME 3. คลิกเคร่ืองมอื จดั รปู แบบในกลุ่มเครอื่ งมือ Font รปู แบบตัวอกั ษร ขนาดตัวอักษร เพ่ิม/ลดขนาดตวั อกั ษร สีตวั อักษร กาหนดลกี ษณะตวั อกั ษร สีพน้ื เซลล์ หนา/เอยี ง/ขดี เสน้ ใต้ ตเี สน้ ตาราง ภาพท่ี 3-9 แสดงเคร่อื งมือทีใ่ ชใ้ นการกาหนดรูปแบบตวั อกั ษร (Font) โรงเรยี นสยามคอมพวิ เตอรแ์ ละภาษา

82 บทท่ี 2 สรา้ งเอกสารดว้ ย Microsoft Excel 2013 การกาหนดเสน้ ตาราง (Borders) 1. คลกิ เลอื กกลุ่มเซลลท์ ่ตี อ้ งการกาหนดเสน้ ตาราง 2. คลกิ แท็บ HOME 3. คลกิ เลือกเครอื่ งมือ Border 4. เลือกประเภทการกาหนดเส้นตารางที่ต้องการ หรือหากต้องการกาหนดเองท้ังหมด ให้ คลิกเลอื ก More Borders… 5. กาหนดรายละเอยี ด 6. คลกิ ปมุ่ Ok เลือกกลุ่มเซลล์ เลือก More Borders  Border แล้วกาหนดรายละเอียดที่ตอ้ งการ ภาพที่ 3-10 แสดงขัน้ ตอนการกาหนดเส้นตาราง (Border) การจัดตาแหนง่ ข้อความ (Alignment) 1. คลกิ เลือกเซลล์หรอื กลมุ่ เซลล์ 2. คลิกแทบ็ HOME 3. จดั รูปแบบโดยใชเ้ ครื่องมอื Alignment เอกสารประกอบการสอน คอมพิวเตอร์ 2 (ง21105)

หนว่ ยที่ 3 การจดั รูปแบบเอกสาร ตดั คา 83 หมนุ /เอยี งตัวอักษร ชิดบน กลาง ลา่ ง ผสาน/รวมเซลล์ ชดิ ซา้ ย กลาง ขวา เพิม่ /ลดระยะเยื้อง ภาพที่ 3-11 แสดงข้นั ตอนการจดั ตาแหนง่ ข้อความ (Alignment) การผสานหรอื รวมเซลล์ (Merge Cell) 1. คลิกเลือกกลมุ่ เซลล์ท่ีตอ้ งการรวม 2. คลิกแท็บ Home 3. คลกิ คาสัง่ Merge & Center 2. คลกิ แท็บ HOME 3. คลกิ เลือกคาส่งั Merge & Center 1. เลือกกลุม่ เซลล์ท่ีตอ้ งการรวม ภาพท่ี 3-12 แสดงข้ันตอนการผสานหรือรวมเซลล์ (Merge Cell) การจดั รปู แบบตัวเลข (Number) 1. คลิกเลือกเซลล์หรอื กล่มุ เซลล์ตัวเลข 2. คลกิ แท็บ Home 3. จัดรูปแบบตัวเลขจากกลมุ่ เครื่องมอื Numbers โรงเรียนสยามคอมพวิ เตอร์และภาษา

84 บทที่ 2 สรา้ งเอกสารด้วย Microsoft Excel 2013 ประเภทตัวเลข ตวั เลขทางการเงนิ เพิ่ม/ลดจุดทศนยิ ม ตัวเลขเปอรเ์ ซ็นต์ ตวั เลขบัญชี ภาพท่ี 3-13 แสดงเครื่องมือทใ่ี ชใ้ นการจดั รูปแบบข้อมูลชนิดตวั เลข (Number) การจดั รปู แบบวนั ท่ี (Date) 1. คลกิ เลือกกลุ่มเซลลว์ นั ท่ี 2. คลกิ แทบ็ HOME 3. คลกิ เลือกชนดิ ตัวเลขจากกลุ่มเคร่อื งมอื Numbers 4. เลือก More Number Formats 5. เลือกชนดิ ตัวเลขเป็น Date 6. กาหนดรูปแบบที่ต้องการ 7. คลกิ ปุ่ม Ok 1. เลอื กกลุ่มเซลล์ 2. คลกิ เลือกชนิดตัวเลข 5.เลือกชนดิ เปน็ Date 6. เลอื กรปู แบบที่ตอ้ งการ 4. เลือก More Number Formats ภาพที่ 3-14 แสดงขนั้ ตอนในการจัดรูปแบบขอ้ มูลชนดิ วันทแ่ี ละเวลา เอกสารประกอบการสอน คอมพิวเตอร์ 2 (ง21105)

หน่วยที่ 3 การจัดรปู แบบเอกสาร 85 การคดั ลอกรูปแบบ (Format Painter) 1. คลิกเลือกเซลลห์ รือกลมุ่ เซลล์ต้นแบบ 2. คลิกแท็บ HOME 3. คลกิ เลือกเคร่ืองมือ Format Painter 4. คลกิ เซลล์ปลายทางทตี่ ้องการ การจัดรปู แบบตารางอตั โนมัติ (Format as Table) ตารางอัตโนมัตมิ ีรูปแบบการใชง้ านดังนี้ 1. คลกิ เลือกกลมุ่ เซลล์ทีต่ ้องการ 2. คลกิ แทบ็ HOME 3. คลิกเลอื กคาสัง่ Format as Table 4. คลกิ เลือกสีของตารางตามตอ้ งการ 5. คลิกปมุ่ OK 4. คลกิ เลอื กสีของตาราง 3. คลกิ เลอื ก Format as Table 5. คลิกป่มุ OK ภาพที่ 3-15 แสดงข้นั ตอนในการจัดรปู แบบตารางอตั โนมัติ (Format as Table) โรงเรียนสยามคอมพวิ เตอร์และภาษา

หนว่ ยท่ี 4 การคานวณและฟังกช์ นั สำหรบั Microsoft Excel นอกจำกจะสร้ำงตำรำงและนำข้อมลู ต่ำงๆ มำสรุปผลลพั ธ์แล้ว จะยัง มีควำมสำมำรถโดดเด่นเรื่องของกำรคำนวณนั่นเอง ซ่ึงในบทน้ีจะได้กล่ำวถึงเร่ืองของกำรคำนวณ และ แนะนำให้รจู้ ักกับเกณฑใ์ นกำรคำนวณ รวมถึงฟงั ก์ชันสำเร็จรปู พื้นฐำนทน่ี ำ่ ใช้งำนนั่นเอง สูตรคำนวณนั้น หำกผู้ใช้งำนคิดค้นข้ึนมำเองก็สำมำรถส่ังกำรให้ Excel สำมำรถกระทำกำร คำนวณได้ โดยกำรป้อนสูตรคำนวณนั้นจะต้องเริ่มจำกเครื่องหมำยเท่ำกับ (=) แล้วจึงค่อยป้อนสูตร คำนวณ 1. คา่ คงท่ี (Constant) คอื ตัวเลข ตวั อกั ษร หรอื ขอ้ ควำมเฉพำะตำ่ งๆ 2. ชือ่ เซลล์ (Cell Name) คือ ชอ่ื เซลล์ท่ีบรรจุขอ้ มลู อยู่ Operator เคร่ืองหมำยเทำ่ กบั Operand ภาพท่ี 4-1 การปอ้ นสตู รคานวณ Note: นอกจำกผู้ใช้สำมำรถป้อนสูตรคำนวณลงในเซลล์แล้ว ยังสำมำรถป้อนสูตรคำนวณที่บริเวณ แถบ Formula Bar ดว้ ย เครือ่ งหมายดาเนินการ (Operator) แยกตำมประเภทดังน้ี เคร่ืองหมายดาเนินการทางคณิตศาสตร์ ( Mathematics Operator) Operator ความหมาย ตัวอย่าง + บวก = A1 + A3 - ลบ = B3 – B5 * คูณ = C3 * 5 / หำร = A1/100 Operator ควำมหมำย ตัวอย่ำง ^ ยกกำลงั = 2 ^ A2 % เปอรเ์ ซน็ ต์ = A1 * 20% () วงเล็บ =( (A3+2)*20)/100

หน่วยท่ี 4 กำรคำนวณและฟังก์ชนั 87 เครอ่ื งหมายดาเนินการทางการเปรียบเทยี บ (Comparison Operator) Operator ทำงกำรเปรียบเทียบน้ันจะได้ค่ำจำกกำรคำนวณเป็น TRUE (จริง) หรือFALSE (เทจ็ ) เท่ำน้ัน โดยทั่วไปจะใชเ้ พ่ือนำไปตัดสนิ ใจหำทำงเลอื กในฟงั ก์ชัน Operator ความหมาย ตวั อย่าง = เทำ่ กับ =5=6คำ่ ที่ได้จะเป็น False เพรำะ 5ไม่เทำ่ กับ 6 > มำกกวำ่ =5>6 คำ่ ที่ไดจ้ ะเปน็ False เพรำะ 5 น้อยกว่ำ 6 < นอ้ ยกว่ำ =5<6 คำ่ ท่ีได้จะเปน็ True เพรำะ 5 น้อยกว่ำ 6 จริง >= =5>=6 คำ่ ทไี่ ด้จะเป็น False เพรำะ 5 น้อยกว่ำ 6 <= มำกว่ำหรือเทำ่ กับ =5<=6คำ่ ทีไ่ ดจ้ ะเป็น True เพรำะ 5 น้อยกวำ่ 6 จริง <> นอ้ ยกว่ำหรอื เทำ่ กับ =5<>6 ค่ำทไี่ ดจ้ ะเป็น True เพรำะ 5 ไม่เท่ำกับ 6 ไมเ่ ท่ำกับ เครือ่ งหมายดาเนนิ การทางข้อความ (Text Operation) เครื่องหมำยดำเนนิ กำรทำงข้อควำมคือเครอ่ื งหมำย& ซ่งึ ทำหนำ้ ทเี่ ชอ่ื มขอ้ ควำมหรอื สูตร คำนวณ ทำใหส้ ำมำรถแสดงผลท่ตี อ่ เนื่องกันได้ ภาพท่ี 4-2 แสดงกำรเชอ่ื มข้อควำม การอา้ งองิ เซลล์ (Reference) หำกกลำ่ วถึงเรื่องกำรคำนวณแล้ว กำรอำ้ งองิ เซลลจ์ ัดเป็นเรอ่ื งทีค่ ู่กนั กล่ำวคือหำกมกี ำรใชง้ ำน สูตรคำนวณจะต้องมีกำรอ้ำงอิงข้อมลู ที่บรรจุอยู่ในเซลลต์ ่ำงๆ กัน เพื่อให้สูตรกำรคำนวณท่ีสร้ำงขนึ้ นั้นมี ควำมยืดหยุน่ ตอ่ กำรใช้งำน มำกกวำ่ กำรระบตุ ัวเลขคำ่ คงท่ีลงไปทั้งหมดเอง เพรำะเมื่อมีกำเปล่ียนแปลง ขอ้ มลู หรือตวั เลขใดๆ ในเซลลข์ อ้ มลู ผลลัพธ์ตำ่ งๆ กจ็ ะถูกเปลย่ี นแปลงไปดว้ ย ทำใหผ้ ู้ใช้ไม่ต้องเสยี เวลำ ในกำรป้อนสูตรคำนวณอกี รอบ กำรอ้ำงอิงเซลล์นั้นสำมำรถกำหนดได้หลำยรูปแบบ ดงั นี้ การอา้ งองิ เซลลภ์ ายในแผ่นงานเดยี วกนั รปู แบบ = ชื่อเซลล์ กำรอ้ำงอิง ควำมหมำย =A1 อำ้ งอิงข้อมลู ท่ีอยู่ในเซลล์ A1 =A1:A12 อ้ำงองิ ข้อมลู ตง้ั แต่เซลล์ A1 ถึง A12 =A1,A12,A14 อำ้ งองิ ข้อมลู ในเซลล์ A1 , A12 และ A14 =A1:A12,C1:C12 อ้ำงองิ ข้อมูลตงั้ แต่เซลล์ A1 ถงึ A12 และตั้งแต่ C1 ถึง C12 =A1:A12 A1:F5 อ้ำงอิงข้อมูลเซลล์ข้อมูลตั้งแต่ A1 ถึง A12 และ A1 ถึง F5 ซงึ่ ก็คือ A1:A5 นนั้ เอง เป็นกำรอำ้ งอิงเซลลร์ ว่ มกัน โรงเรียนสยำมคอมพวิ เตอรแ์ ละภำษำ

88 บทท่ี 2 สรำ้ งเอกสำรด้วย Microsoft Excel 2013 การอ้างอิงเซลล์ทอี่ ยใู่ นแผน่ งานอืน่ กำรอ้ำงอิงเซลล์ท่ีอยู่ในแผ่นงำนอ่ืนน้ัน จะต้องมีชื่อแผ่นงำนต้นทำงแล้วตำมด้วยเครื่องหมำย อัศเจรีย์ (!) แล้วจงึ ค่อยพมิ พช์ ่อื เซลล์ ดงั นี้ รูปแบบ = ช่ือแผน่ งาน! ชื่อเซลล์ การอา้ งองิ เซลลท์ อ่ี ยู่ในสมดุ งานอื่น กำรอ้ำงอิงเซลล์ที่อยู่ในสมุดงำนอ่ืนนั้น จะต้องมีกำรอ้ำงอิงถึงช่ือของไฟล์สมุดงำนแล้วตำมด้วย ชอ่ื แผ่นงำน และชือ่ เซลลต์ ำมลำดบั รูปแบบ = [ชอ่ื ไฟลส์ มดุ งาน.XLSX] ชอื่ แผ่นงาน! ชื่อเซลล์ การอ้างอิงเซลลแ์ บบเจาะจง ด้วยควำมฉลำดของโปรแกรม Microsoft Excel เม่ือผู้ใช้ทำกำรคัดลอกสูตร เซลล์ต่ำงๆ ท่ีถูก กำหนดไว้ในสูตรจะเปลี่ยนแปลงเองอัตโนมัติ แต่ในบำงกรณีเรำไม่ต้องกำรให้เซลล์เปลี่ยน ต้องกำรระบุ เจำะจงท่ีเซลล์เดียว หรือกลุ่มเซลล์เพียงกลุ่มเดียว สำมำรถระบุได้โดยกำรใช้สัญลักษณ์ท่ี $ (Dollar Sign)ใส่ไวห้ นำ้ เซลล์ เช่น $A1, $A$1 หรือ A$1 เป็นตน้ รูปแบบ = $ชื่อเซลล์ Note: นอกจำกผู้ใช้สำมำรถพิมพ์กำหนดเองแล้ว ยังสำมำรถใช้ปุ่มฟังก์ชัน F4 ช่วยในกำรกำหนดได้ อกี ด้วย ดงั นี้ กดครง้ั ที่ 1 เป็นกำรใส่ $ ทงั้ หน้ำคอลมั น์และแถว ($A$1) กดคร้ังที่ 2 เปน็ กำรใส่ $ หนำ้ แถว (A$1) กดครง้ั ที่ 3 เป็นกำรใส่ $ หนำ้ คอลัมน์ ($A1) กดคร้งั ที่ 4 เปน็ กำรปลด $ ออกจำกท้ังหน้ำคอลมั น์และแถว (A1) การป้อนสูตรคานวณ (Formula) หำกผู้ใช้ต้องกำรใช้งำนสูตรคำนวณใน Microsoft Excel น้ัน สิ่งหน่ึงท่ีผู้ใช้ต้องระลึกถึงเสมอ คือ “จะต้องคลิกเลือกเซลล์ท่ีตอ้ งการแสดงผลลัพธ์กอ่ นแล้วจึงป้อนสตู รคานวณ” สูตรคำนวณที่ป้อนจะต้องขึ้นอยู่กับผู้ใช้จะเป็นผู้กำหนดสูตรเอง เพรำะฉะนั้นก่อนจะป้อนสูตร ในเซลล์ได้ โดยเม่อื ต้องสร้ำงสตู รคำนวณผู้ใช้จะต้องดำเนินกำรคือ 1. ผใู้ ช้จะต้องคดิ สตู รขึ้นมำเองก่อนว่ำ หำกเป็นตวั ของผู้ใช้เองน้ันจะคำนวณเองจะต้องทำ อยำ่ งไร 2. นำสูตรที่คดิ ขึน้ มำได้ป้อนลงในเซลล์ 3. กดปุ่ม Enter ที่คียบ์ อร์ดหลงั ปอ้ นสูตรเสรจ็ เอกสำรประกอบกำรสอน คอมพวิ เตอร์ 2 (ง21105)

หน่วยที่ 4 กำรคำนวณและฟงั กช์ นั 89 ตัวอยา่ ง : หำกตอ้ งกำรคำนวณหำจำนวนเงนิ ในช่องคิดเปน็ เงนิ นักเรยี นจะตอ้ งคดิ ดว้ ยตัวเอง ก่อนวำ่ จะต้องนำข้อมูลในตำรำงมำคำนวณแบบไหน เมื่อคิดไดแ้ ลว้ วำ่ ตอ้ งนำ รำคำ คณู กับ จำนวน จึงจะได้เปน็ คำตอบในช่อง คดิ เป็นเงิน จำกนั้น 1. นำเมำส์ไปคลิกทเ่ี ซลล์ D2 2. พิมพ์เคร่อื งหมำยเท่ำกบั = 3. พมิ พช์ ื่อเซลลท์ ่ีบรรจุขอ้ มลู รำคำน่ันคอื เซลล์ B2 (250.00) 4. พมิ พ์เคร่ืองหมำยทใ่ี ชส้ ำหรับกำรคูณคือเคร่ืองหมำยดอกจนั (*) 5. พิมพ์ช่อื เซลลท์ ่บี รรจุข้อมลู จำนวน น่นั คอื เซลล์ C2 (100) 6. กดป่มุ Enter ที่คยี บ์ อร์ด จะได้คำตอบแสดงอยู่ทีเ่ ซลล์ D2 มีค่ำเทำ่ กบั 2,500.00 ภาพท่ี 4-3 แสดงการปอ้ นสูตรคานวณ Note: ผู้ใช้สำมำรถใช้เมำส์คลิกท่ีตำแหน่งของเซลล์ที่บรรจุข้อมูล แทนกำรป้อนช่ือเซลล์ก็ได้ เพรำะ Excel จะนำชื่อเซลล์ท่ีคลิกมำใส่เองอัตโนมัติ แต่ผู้ใช้ จะต้องพิมพ์เครื่องหมำยเท่ำกับ (=) ใน สูตรก่อนเท่ำนนั้ จงึ จะสำมำรถใช้วิธกี ำรคลกิ เมำส์ได้ ฟงั ก์ชัน (Function) ส่วนประกอบของฟังก์ชนั รปู แบบกำรใช้งำนฟงั ก์ชันน้ัน จะคล้ำยกบั กำรป้อนสตู รคำนวณ คือจะตอ้ งเร่ิมด้วยเครอ่ื งหมำย เทำ่ กบั (=) จำกน้นั ตำมด้วยชือ่ ฟงั กช์ นั และค่ำข้อมูล รูปแบบ =ชอ่ื ฟังก์ชัน (คา่ ของข้อมูล)  คา่ คงท่ี  ชื่อเซลล์  ชื่อกลมุ่ เซลล์  ฟังก์ชัน  สตู รคานวณ ภาพท่ี 4-4 ส่วนประกอบของฟังก์ชัน โรงเรียนสยำมคอมพิวเตอร์และภำษำ

90 บทที่ 2 สรำ้ งเอกสำรด้วย Microsoft Excel 2013 ชื่อฟังกช์ ัน คอื ช่ือของฟงั กช์ นั ตำมท่ี Excel ได้กำหนดไว้ เชน่ ฟงั ก์ชนั SUM,COUNT คา่ ข้อมูล (Argument) เปน็ ต้น คือ ค่ำท่ตี ้องสง่ ให้ฟังก์ชนั ซ่งึ จะอยู่ภำยในวงเลบ็ และกำรอ้ำง Argument นัน้ อำจจะใชก้ ำรอำ้ งองิ ชอ่ื เซลลแ์ ทนก็ได้ เช่น =SUM (A1:A10) จะถอื วำ่ SUM คอื ชอื่ ฟงั ก์ชัน A1:A10 คือคำ่ ข้อมูล (Argument) ตัวอยา่ ง ตอ้ งกำรหำผลรวมของยอดขำยสินค้ำแต่ละชนิดในแต่ละเดือน ผู้ใช้ต้องเริ่มจำกกำรนำเมำส์ไป คลิกที่เซลลท์ ี่ตอ้ งกำรแสดงผลลัพธ์ 1. คลกิ ทเ่ี ซลล์ทต่ี อ้ งกำรแสดงผลลัพธ์ E4 2. พิมพ์เครื่องหมำยเทำ่ กับ = 3. พิมพช์ ่อื ฟังกช์ นั SUM 4. พิมพค์ ำ่ ของข้อมูล (ชว่ งเซลล์ B4:D4) 5. กดปุ่ม Enter ท่ีคยี บ์ อรด์ เม่อื เรียบรอ้ ยท่ีเซลล์ E4 จะได้คาตอบเปน็ 750 ภาพท่ี 4-7 แสดงกำรใช้งำนฟังกช์ ันในกำรหำผลรวม ภาพที่ 4-4 แสดงการใชง้ านฟงั กช์ ันในการหาผลรวม Note: สำหรับในเวอร์ชันน้ีกำรพิมพ์ชื่อฟังก์ชันนั้นจะปรำกฏ Formula AutoComplete เพ่อื ให้สะดวกตอ่ กำรเรียกใช้งำน ฟังก์ชนั ซึง่ เปน็ คณุ สมบัตทิ ่ีมมี ำตง้ั แต่เวอรช์ นั 2007 เอกสำรประกอบกำรสอน คอมพิวเตอร์ 2 (ง21105)

หนว่ ยท่ี 4 กำรคำนวณและฟังกช์ ัน 91 ฟงั ก์ชันที่น่าสนใจ  ฟงั กช์ นั ทางคณิตศาสตร์ (Math & Trig) ฟังก์ชนั หน้าที่ =SUM(กลมุ่ เซลล์) หำค่ำผลรวมของกลุ่มเซลล์ =PRODUCT(กล่มุ เซลล)์ หำค่ำผลคูณของกลุ่มเซลล์ ฟังกช์ นั หนา้ ท่ี =INT(ตวั เลข) คนื คำ่ จำนวนเต็มโดยปดั ทศนิยมท้ิง =TRUNC(ตวั เลข,จานวนตาแหนง่ ทศนิยม) คนื ค่ำตัวเลขและทศนยิ มตำมจำนวนที่ต้องกำร โดยปดั เศษท้ิง =ROUND(ตวั เลข,จานวนตาแหน่งทศนยิ ม) คนื คำ่ ตวั เลขและทศนิยมตำมจำนวนทต่ี ้องกำร =ROUNDUP(ตัวเลข,จานวนตาแหนง่ ทศนยิ ม) คืนคำ่ ตวั เลขและทศนยิ ม โดยบังคบั ปัดเศษข้ึน =ROUNDDOWN(ตัวเลข,จานวนตาแหนง่ ทศนยิ ม) คนื ค่ำตัวเลขและทศนยิ ม โดยบังคบั ปดั เศษลง =MOD(ตัวต้งั ,ตัวหาร) คนื ค่ำเศษทเี่ หลือจำกกำรหำร ภาพที่ 4-5 แสดงการใชง้ านฟังกช์ ันทางคณติ ศาสตร์  ฟังก์ชนั ทางวันที่และเวลา(Date & Time) ฟงั ก์ชัน หนา้ ที่ =TODAY() คนื คา่ วันท่ปี จั จบุ นั =NOW() คนื ค่าวนั ทแี่ ละเวลาปจั จบุ ัน =YEAR(วัน/เดือน/ปี) คนื ค่าปี =MONTH(วัน/เดอื น/ปี) คนื ค่าเดอื น =NETWORKDAYS(วนั ทเี่ รมิ่ ตน้ ,วันทสี่ น้ิ สุด) คืนคา่ จานวนวันจากช่วงเวลา เฉพาะวนั ทา การ =YEARFRAC(วนั ทีเ่ ร่มิ ตน้ ,วันท่ีสิ้นสดุ ) คืนค่าปีเปน็ ทศนยิ ม(หาอายุเปน็ ปี) =HOUR(เวลา) คืนคา่ เวลาเปน็ ชวั่ โมง =MINUTE(เวลา) คนื คา่ เวลาเป็นนาที โรงเรียนสยำมคอมพิวเตอร์และภำษำ

92 บทท่ี 2 สร้ำงเอกสำรด้วย Microsoft Excel 2013 ภาพที่ 4-6 แสดงการใช้งานฟังก์ชนั ทางวันที่และเวลา ตวั อย่าง ต้องกำรหำอำยขุ องพนักงำนจำกตำรำง =YEAR(TODAY())-YEAR(C3) ภาพท่ี 4-12 สตู รการหาอายขุ องพนกั งาน  ฟังก์ชันทางสถติ (ิ Statistical) หน้าท่ี คา่ สงู สดุ ในกลมุ่ เซลล์ ฟงั ก์ชนั คา่ ต่าสดุ ในกลุ่มเซลล์ =MAX(กลุ่มเซลล์) =MIN(กลุ่มเซลล์) ค่าเฉลย่ี ในกลุ่มเซลล์ =AVERAGE(กลมุ่ เซลล์) =MEDIAN(กลุ่มเซลล์) ค่ากึง่ กลางในกลุ่มเซลล์ =MODE(กล่มุ เซลล์) ค่าทเ่ี กิดซา้ หรอื เกดิ บ่อยท่ีสดุ ในกลุ่มเซลล์ =COUNT(กลุม่ เซลล์) นบั จานวนขอ้ มูลเฉพาะตัวเลข =COUNTA(กลมุ่ เซลล์) นบั จานวนขอ้ มูลท้ังตัวเลขและขอ้ ความ เอกสำรประกอบกำรสอน คอมพิวเตอร์ 2 (ง21105)

หนว่ ยที่ 4 กำรคำนวณและฟังกช์ นั 93 กลุ่มเซลล์ทีต่ อ้ งกำรคำนวณ ภาพที่ 4-7 แสดงการใช้งานฟงั ก์ชันทางสถิติ  ฟังกช์ ันทางขอ้ ความ(Text) ฟงั ก์ชัน หน้าท่ี =CHAR(ตวั เลข) แปลงตัวเลขเปน็ ตัวอักขระ =REPT(ข้อความ,จานวนครั้ง) พิมพ์ข้อความซา้ ตามจานวนครั้งทรี่ ะบุ =BAHTTEXT(ตวั เลข) แปลงตวั เลขเปน็ ขอ้ ความทางการเงนิ =CONCATENATE(ขอ้ ความ1, ขอ้ ความ2, ...) รวมข้อความหรอื ตัวเลขใหเ้ ปน็ ข้อมูลเดียวกนั เชน่ ภาพท่ี 4-8 แสดงการใชง้ านฟงั ก์ชันทางขอ้ ความ การป้อนฟงั ก์ชนั ด้วย Function Wizard สำหรับผใู้ ช้ที่สนใจศึกษำเพิ่มเติมในส่วนของกำรใช้งำนฟังก์ชันนั้น สำมำรถเข้ำไปใช้งำนได้ โดย Excelได้แยกเป็นหมวดหมู่เอำไว้ รวมถึงมีคำอธบิ ำยเก่ียวกับแต่ละฟังก์ชนั ไว้ดว้ ย ซึ่งข้ันตอนกำรใช้งำนมี ดังนี้ 1. คลิกเซลล์แสดงผลลัพธ์ 2. คลกิ แทบ็ FORMULAS 3. เลือกฟังกช์ นั ใช้งำน โรงเรยี นสยำมคอมพิวเตอรแ์ ละภำษำ

94 บทท่ี 2 สรำ้ งเอกสำรดว้ ย Microsoft Excel 2013 4. กำหนดรำยละเอียดของฟงั กช์ ัน 5. คลกิ ปมุ่ OK 2. คลิกแทบ็ FORMULAS 3. เลอื กฟังก์ชันใช้งำน 1. คลกิ เลือกเซลลผ์ ลลพั ธ์ 4. กำหนดรำยละเอยี ด 5. คลิกปุ่ม OK ภาพที่ 4-9 แสดงการเรยี กใชง้ าน Function Wizard เอกสำรประกอบกำรสอน คอมพิวเตอร์ 2 (ง21105)

หน่วยท่ี 5 การสรา้ งแผนภูมิ แผนภมู ิ คือ การสรุปผลข้อมูล การวเิ คราะห์ข้อมูลให้แสดงผลออกมาในรูปแบบของกราฟิก ทา ให้เราสามารถเข้าใจถึงข้อมูลต่างๆ ได้ง่ายข้ึน และในเวอร์ชันนี้ได้เพ่ิม เคร่ืองมือ Recommended Chart เพอื่ ให้ผ้ใู ชง้ านสรา้ ง แผนภูมิ ได้งา่ ยขน้ึ อีกด้วย ขัน้ ตอนการสร้างแผนภูมิ มีดงั นี้ 1. คลิกเลือกกลมุ่ เซลลท์ ตี่ ้องการนาไปสร้างแผนภูมิ 2. คลิกแทบ็ INSERT 3. คลิกเลือกชนดิ ของแผนภูมิ (แผนภมู ิ) ตามตอ้ งการ 2. คลิกแทบ็ INSERT 3. คลิกเลือกชนิดของแผนภมู ิ 1.คลิกเลือกกลมุ่ เซลล์ท่ตี อ้ งการ ภาพท่ี 5-1 แสดงข้นั ตอนการสร้างแผนภูมิ (Chart) การจัดรูปแบบแผนภูมิ สาหรับแผนภูมทิ สี่ ร้างข้นึ แล้วนน้ั หากต้องการปรบั แต่งสามารถทาไดด้ งั น้ี การจดั รปู แบบแผนภมู ิสาเรจ็ รูป (Chart Style) 1. คลกิ เลือกแผนภมู ิ 2. คลกิ แทบ็ DESIGN 3. เลอื กรปู แบบสาเรจ็ รปู จาก Chart Style

96 บทที่ 2 สรา้ งเอกสารด้วย Microsoft Excel 2013 3. เลอื ก Chart Style 2. คลิกแทบ็ DESIGN 1. คลิกเลือกแผนภูมิ ภาพท่ี 5-2 แสดงขนั้ ตอนการเลือกการจดั รูปแบบแผนภมู ิสาเร็จรปู (Chart Style) การเปลี่ยนชุดสแี ทง่ แผนภูมิ (Change Colors) ใน Microsoft Excel 2013 นไี้ ดเ้ พิ่มเครื่องมือในการเปลย่ี นสีแท่งของแผนภูมิ โดยเปลย่ี นเป็น ชุดสี เปลยี่ นทั้งหมดหลายแท่งแผนภมู ใิ นคร้ังเดยี ว โดยมีขั้นตอนดังนี้ 1. คลกิ เลือกแผนภมู ิ 2. คลกิ แท็บ DESIGN 3. คลกิ เลอื ก Change Colors 4. เลือกชุดสี 3. เลือก Change 2. คลิกแท็บ DESIGN Colors 4. เลือกชดุ สี ภาพที่ 5-3 แสดงขั้นตอนการเลอื กชุดสี 1..คลิกเลือกแผนภมู ิ เอกสารประกอบการสอน คอมพวิ เตอร์ 2 (ง21105)

หน่วยที่ 5 การสร้างแผนภมู ิ (Chart) 97 2. คลกิ แทบ็ DESIGN การเลอื กโครงสร้างแผนภูมิ (Quick Layout) 1. คลิกเลอื กแผนภมู ิ 2. คลิกแท็บ DESIGN 3. คลิกปุ่ม Quick Layout 4. เลอื ก Layout ตามต้องการ 3. คลิก Quick Layout 4. เลือก Layout ท่ี ต้องการ ภาพท่ี 5-4 แสดงขน้ั ตอนการเลือกโครงสร้างแผนภมู ิ (Quick Layout) การเปลีย่ นชนดิ แผนภูมิ (Change Chart Type) 1. คลิกเลือกแผนภมู ิ 2. คลิกแทบ็ DESIGN 3. คลิกคาสั่ง Change Chart Type 4. เลือกชนดิ ของ Chart 5. คลกิ ปุม่ OK โรงเรยี นสยามคอมพวิ เตอรแ์ ละภาษา

98 บทท่ี 2 สร้างเอกสารด้วย Microsoft Excel 2013 2.คลกิ แท็บ DESIGN 3.คลกิ ปุ่ม Change Chart Type 1.คลิกเลือกแผนภูมิ 4.เลือกชนดิ ของ 5.คลิกป่มุ OK Chart ภาพท่ี 5-6 แสดงข้ันตอนการเปลยี่ นชนิดแผนภูมิ (Change Chart Type) เอกสารประกอบการสอน คอมพิวเตอร์ 2 (ง21105)

หนว่ ยท่ี 6 การพมิ พ์เอกสาร (Print) การกาหนดขนาดกระดาษ (Size) ก่อนเร่มิ ส่งั พมิ พเ์ อกสารเราควรตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่า กระดาษที่เราต้องการพิมพอ์ อกไปนัน้ ถูกต้องหรือไม่ โดยการกาหนดเลอื กขนาดกระดาษดังน้ี 1. คลกิ แทบ็ PAGE LAYOUT 2. คลิกเลือกปมุ่ Size 3. คลิกเลอื กขนาดกระดาษตามต้องการ 1.คลิกแท็บ PAGE LAYOUT 2. คลิกคาสั่ง Size 3. คลิกเลือกขนาดกระดาษ ภาพท่ี 6-1 การเลือกขนาดกระดาษ การกาหนดระยะขอบกระดาษ (Margin) หลงั จากไดม้ ีการกาหนดข้อมูลทต่ี อ้ งการจะใช้พิมพ์เรยี บร้อยแล้ว หากตอ้ งการกาหนดระยะ ขอบกระดาษ เพื่อเพม่ิ หรือลดขนาดของระยะขอบ สามารถทาไดด้ ังนี้ 1. คลิกแทบ็ PAGE LAYOUT 2. คลิกปมุ่ คาสัง่ Margin 3. เลอื ก Margin ที่ตอ้ งการ

100 บทที่ 2 สรา้ งเอกสารด้วย Microsoft Excel 2013 1.คลกิ แท็บ PAGE LAYOUT 2.คลกิ คาส่งั Margin 3.เลอื กระยะขอบทต่ี อ้ งการ ภาพท่ี 6-2 การกาหนดระยะขอบกระดาษ การกาหนดแนวกระดาษ (Orientation) การวางกระดาษในแนวตงั้ หรือแนวนอนมผี ลต่อการสง่ั พิมพเ์ อกสารด้วย ดังนน้ั ควรกาหนดแนว การวางกระดาษดังน้ี 1. คลิกแท็บ PAGE LAYOUT 2. คลกิ ปุ่ม Orientation 3. เลือกแนวกระดาษ  Portrait แนวตงั้  Landscape แนวนอน เอกสารประกอบการสอน คอมพวิ เตอร์ 2 (ง21105)

หนว่ ยท่ี 6 การพิมพเ์ อกสาร (Print) 101 1.คลกิ แทบ็ PAGE LAYOUT 2.คลกิ เลอื ก Orientation 3.เลือกแนวกระดาษ ภาพที่ 6-3 การกาหนดแนวกระดาษ มุมมอง Page Layout สาหรบั มุมมอง PAGE LAYOUT เปน็ มมุ มองทีเ่ หมาะสาหรับการกาหนด Header and Footer เพราะจะทาให้เหน็ ท้ังขอบเขตของงาน และ พน้ื ทใี่ นการกาหนดสว่ นของหัวและทา้ ยกระดาษไปพร้อมๆ กัน ซึ่งสามารถเขา้ ไปใช้งานได้ดังน้ี 1. คลกิ แทบ็ VIEW 2. คลิกปมุ่ Page Layout 3. กาหนดรายละเอยี ดแตล่ ะสว่ นโดยการคลิกท่ีแตล่ ะสว่ นประกอบ (ซ้าย , กลาง , ขวา) 4. โดยจะกาหนดรายละเอยี ดท่แี ท็บ DESIGN ** หรือจะไปทแ่ี ท็บ INSERT เลอื กคาส่ัง Header &Footer ก็ไดเ้ ชน่ กนั 2.คลิก Page Layout 1.คลกิ แทบ็ VIEW โรงเรยี นสยามคอมพวิ เตอร์และภาษา

102 บทที่ 2 สรา้ งเอกสารดว้ ย Microsoft Excel 2013 3.คลกิ เลอื กแตล่ ะสว่ นของหนา้ ภาพท่ี 6-4 มมุ มอง Page Layout หวั กระดาษท้ายกรดาษสาเรจ็ รูป วันที่ เวลา ช่ือแผ่นงาน ปจั จบุ นั ปจั จบุ นั จานวนหน้าท้งั หมด ชื่อไฟลส์ มุดงาน หมายเลขหน้า โฟลเดอรเ์ ก็บงาน รปู ภาพ ภาพที่ 6-5 เคร่ืองมือ Header and Footer เอกสารประกอบการสอน คอมพวิ เตอร์ 2 (ง21105)


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook