Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore B - net ม.ต้น ภาษาบาลี

B - net ม.ต้น ภาษาบาลี

Published by paisinpongpha, 2019-12-01 22:54:57

Description: B - net ม.ต้น ภาษาบาลี

Keywords: B - net ม.ต้น ภาษาบาลี

Search

Read the Text Version

รหสั วิชา 383 ภาษาบาลี เน้ือหาหลกั เน้ือหารอง จานวนขอ้ มธั ยมศึกษาปี ท่ี ๑ ๒๕ ๑) ความหมายของบาลไี วยากรณ์ ๑ ๑.ความหมายของภาษาบาลตี ามรูปวิเคราะหว์ ่า พุทฺธวจน ปาเลตีติ ปาลี (ภาสา) ตรงกบั ขอ้ ใด ๑. ภาษามคธ ๒. ภาษาของชาวอนิ เดีย ๓. ภาษาท่ีเป็นแบบแผน ๔. ภาษาท่ีรกั ษาพุทธพจน์ ๒) จาแนกประเภทของนามศพั ท์ ๓ ๒. นามศพั ทใ์ นขอ้ ใดไดช้ ื่อว่าเป็นคุณนาม ๑. มนุษย์ ๒. บณั ฑิต ๓. เทวดา ๔. พระเจา้ พิมพสิ าร ๓. คุณนามช้นั วิเสสมีลกั ษณะตามขอ้ ใด ๑. ใหญ่ท่ีสุด ๒. เป็นบณั ฑิต ๓. เป็นบาปกว่า ๔. เลวท่ีสุด ๔. ความหมายของสาธารณนามคืออะไร ๑. นามที่ทวั่ ไป ๒. นามที่ไมท่ วั่ ไป ๓. นามที่ใชน้ บั นามนาม ๔. นามท่ีแสดงลกั ษณะของนามนาม ๓) บอกและจาแนกเพศเครื่องหมายรูปแบบของนามศพั ทค์ าพดู ที่เปลง่ ออกมาในภาษาบาลี ๓ ๕. ปเทโส (ประเทศ) จดั เป็นลิงคป์ ระเภทใด ๑. ปุงลงิ ค์ ๒. อติ ถลี ิงค์ ๓. นปุงสกลงิ ค์ ๔. เป็นไดท้ ้งั ๒ ลงิ ค์ คือปุงลิงคแ์ ละ นปุงสกลิงค์ ๖. ลิงคต์ ามกาเนิดตรงกบั ขอ้ ใด ๑. ปุริโส = ชาย ๒. ทาโร = เมีย ๓. ปเทโส = ประเทศ ๔. ภูมิ = แผน่ ดิน ๗. ศพั ทใ์ ดเป็นเอกวจนะอยา่ งเดียว ๑. อรหนฺตา ๒. ภควนฺตา ๓. ปุริสา ๔. อตฺตา ๔) อา่ น การเขียน แจกจาแนกวิภตั ตินามและคาเชื่อมอายตนิบาต ๒ ๘. ขอ้ ใดคือความหมายของอายตนิบาต ๑. คาบอกใหร้ ู้จานวนของนามนาม ๒. คาท่ีแสดงลกั ษณะของนานาม ๓.คาเชื่อมคาต่อนามกบั กิริยาใหเ้ น่ืองใหเ้ น่ืองกนั ๔. คาท่ีใชแ้ ทนนามนามเพอื่ ไม่ใหเ้ ป็นการซ้าซาก

รหสั วิชา 383 ภาษาบาลี ๙. ขอ้ ใดเป็นคาแปลของ เสฏฺฐิน ๓. แก่เศรษฐี ๔. แห่งเศรษฐี ๑. อ.เศรษฐี ๒. ซ่ึงเศรษฐี ๕) อา่ น การเขียน วิเคราะห์การผสมวภิ ตั ติ และแปลสงั ขยา การนบั นามนามใหร้ ู้จานวนของนาม ๓ ๓ ๑๐. ภิกษุ ๕ รูป ตรงกบั สงั ขยาขอ้ ใด ๔ ๒ ๑. เทว ภิกขู ๒. ตโย ภิกฺขู ๓. จตุโร ภกิ ฺขู ๔. ปญฺจ ภิกฺขู ๑๑. “ อ.พระสาวก ท. ๘๐ ” เขียนภาษาบาลวี ่าอยา่ งไร ๑. วสี ติ สาวกา ๒. สตฺตติ สาวกา ๓. อสีติ สาวกา ๔. นวตุ ิ สาวกา ๑๒. เอกูนสต ตรงกบั จานวนสงั ขยาขอ้ ใด ๑. ๖๙ ๒. ๗๙ ๓. ๘๙ ๔. ๙๙ ๖) อธิบาย และจาแนกอพั ยยศพั ทท์ ่ีแจกผสมวภิ ตั ตินามได้ ๑๓. นิบาตในอพั ยยศพั ทม์ ีวธิ ีใชอ้ ยา่ งไร ๑. ลงทา้ ยนามศพั ท์ ๒. ประกอบหลงั นามศพั ท์ ๓. ลงในระหว่างนามศพั ท์ ๔. นาหนา้ นามและกิริยาใหว้ เิ สสข้ึน ๑๔. คาวา่ ปจฺจาคจฺฉติ ยอ่ มกลบั มา ลงอปุ สคั ตามขอ้ ใด ๑. ป ๒. ปฏิ ๓. ปรา ๔. ปริ ๑๕. อนิจฺจา วต สงฺขารา อุปฺปาทวยธมฺมโิ น ศพั ทใ์ ดเป็นนิบาต ๑. อนิจฺจา ๒. วต ๓. สงฺขารา ๔. อุปฺปาทวยธมฺมโิ น ๗) บอกอกั ขรวธิ ีในภาษาบาลี และสามารถนาไปใชไ้ ดถ้ กู ตอ้ งตามหลกั ไวยากรณ์ ๑๖. เสียงกด็ ี ตวั หนงั สือก็ดี มคี วามหมายตรงกบั ขอ้ ใด ๑. อนุสาร ๒. นิคคหิต ๓. พยญั ชนะ ๔. อกั ขระ ๑๗. สระที่มีเสียงหนกั คือขอ้ ใด ๑. ทีฆะ ๒. ครุ ๓. ลหุ ๔. รัสสะ ๑๘. ขอ้ ใดเป็นรัสสะสระเสียงส้นั ท้งั หมด ๑. อ อา ๒. อุ อู ๓. อ อิ อุ ๔. อา อิ อุ ๑๙. ขอ้ ใดเป็นพยญั ชนะอวรรค ๑. ก ข ค ฆ ง ๒. จ ฉ ช ฌ ญ ๓. ต ถ ท ธ น ๔. ย ร ล ว ส ๘) อธิบายฐานท่ีต้งั ท่ีเกิด และกรณ์อวยั วะทาเสียง ๒๐. อุ อู ป ผ พ ภ ม เกิดที่ฐานใด ๑. คอ ๒. ฟัน ๓. เพดาน ๔. ริมฝีปาก ๒๑. พยญั ชนะคือ ต ถ ท ธ น ล ส จดั เป็นกรณ์ใด ๑. ปลายลิน้ ๒. ท่ามกลางลิ้น ๓. ฐานของตน ๔. ถดั ปลายลน้ิ เขา้ มา

รหสั วิชา 383 ภาษาบาลี ๙) จาแนกเสียงอกั ขระในภาษาบาลแี ละสามารถออกเสียงอกั ขระ ๒ ๒๒. ขอ้ ใดมีเสียงมาตราเดียว ๒ ๑. สระส้นั ๒. สระยาว ๓. พยญั ชนะ ๔. พยญั ชนะสงั โยค ๔๕ ๒ ๒๓. พยญั ชนะขอ้ ใดเป็น โฆสาโฆสวมิ ตุ ติ ๑๓ ๑. ก ๒. จ ๓. ค ๔. อ ๑๐) อธิบายการเขียนพยญั ชนะสงั โยค ๒๔. ขอ้ ใดเป็นการซอ้ นของพยญั ชนะท่ี ๑ ซอ้ นหนา้ พยญั ชนะที่ ๑ และที่ ๒ ในวรรคของตน ๑. ทุกฺโข ๒. สมุทโย ๓. นิโรโธ ๔. มคฺโค ๒๕. คาวา่ “ อนุกมฺปโก ” เป็นการซอ้ นพยญั ชนะในวรรคใด ๑. ก วรรค ๒. จ วรรค ๓. ต วรรค ๔. ป วรรค มธั ยมศึกษาปี ท่ี ๒ ๑) อธิบายการยอ่ บทสมาสและจาแนกประเภทของสมาสท้งั โดยยอ่ และพสิ ดาร ๒๖. การยอ่ ศพั ทใ์ หน้ อ้ ยลงตรงตามความหมายขอ้ ใด ๑. สมาส ๒. สนธิ ๓. อาขยาต ๔. ตทั ธิต ๒๗. วิเคราะหใ์ ดเป็นลุตตสมาส ๑. อุรสิ โลโม = อุรสิโลโม ๒. กฐินสฺสส ทุสฺส = กฐินทุสฺส ๓. ปญฺจ ผลานิ = ปญฺจผลานิ ๔. ทูเร นิทาน = ทูเรนิทาน ๒) อธิบายปัจจยั ที่ใชแ้ ทนปัจจยั กมั มธารยฯ ทคิ ุ ตปั ปุริส ทวนั ทว อพั ยยี พหุพหิหิสมาส ฯ ๒๘. วิเสสโนปมบท สงั เกตอยา่ งไร ๑. มบี ทวเิ สสนเป็นอุปมา ๒. มีบทวเิ สสนอยหู่ ลงั ประธานอยหู่ นา้ ๓. มบี ทวิเสสนอยหู่ นา้ บทประธานอยหู่ ลงั ๔. มีบทวเิ สสนอยหู่ นา้ และหลงั ๒๙. พหุพพหิ ิสมาส มหี ลกั สงั เกตอยา่ งไร ๑. สมาสท่ียอ่ นาม ๒ บทข้ึนไป ๒. สมาสท่ีมีบทอืน่ เป็นประธาน ๓. สมาสที่มสี งั ขยาอยหู่ นา้ ๔. สมาสที่มอี ปุ สคั และนิบาตในรูปวเิ คราะห์ ๓๐. สมถวปิ สฺสน (สมถะดว้ ย วิปัสสนาดว้ ย ชื่อสมถวิปัสสนา ) เป็นสมาสชนิดใด ๑. พหุพพหิ ิสมาส ๒. อพั ยยภี าวสมาส ๓.สมาหารทวนั ทวสมาส ๔. อสมาหารทวนั ทวสมาส ๓๑. กมั มธารยสมาสมีหลกั สงั เกตอยา่ งไร ๑. มบี ทอน่ื เป็นประธาน ๒. มวี จนะและวภิ ตั ติเสมอกนั ๓. มีอุปสคั และนิบาตอยหู่ นา้ ๔. มีสงั ขยานามอยขู่ า้ งหนา้ ๓๒. นโร สีโห อิว = นรสีโห เป็นวิเคราะหข์ องสมาสอะไร ๑. อุปมาบุพพบท ๒. อปุ มานุตตรบท ๓. สมั ภาวนบุพพบท ๔. อวธารณบุพพบท

รหสั วิชา 383 ภาษาบาลี ๓๓. ทิคุสมาสมีหลกั สงั เกตอยา่ งไร ๑. มวี ภิ ตั ติและวจนะตรงกนั ๒. มสี งั ขยาอยหู่ นา้ ๓. มีอปุ สคั หรือนิบาตอยหู่ นา้ ๔. มีวภิ ตั ติและวจนะเสมอกนั ๓๔. ตปั ปุริสสมาสมหี ลกั สงั เกตอยา่ งไร ๑. มสี งั ขยาอยหู่ นา้ ๒. มสี าเนียงวิภตั ติท้งั ๗ ๓. มอี ุปสคั หรือนิบาตอยหู่ นา้ ๔. มวี ิภตั ติและวจนะเสมอกนั ๓๕. สูข ปตฺโต สุขปตฺโต (ปุริโส) เป็นรูปวิเคราะห์ตามขอ้ ใด ๑. ทุติยาตปั ปุริสสมาส ๒. ตติยาตปั ปุริสสมาส ๓. จตุตถีตปั ปุริสสมาส ๔. ปัญจมตี ปั ปุริสสมาส ๓๖. คาว่า “ กฐินทุสฺส ” ( ผา้ เพื่อกฐิน) มลี กั ษณะรูปวเิ คราะห์ตามขอ้ ใด ๑. ทุติยาตปั ปุริสสมาส ๒. ตติยาตปั ปุริสสมาส ๓. จตุตถตี ปั ปุริสสมาส ๔. ปัญจมตี ปั ปุริสสมาส ๓๗. คาว่า จนฺทิมา จ สุริโย จ จนฺทิมสุริยา เป็นรูปวิเคราะห์ในขอ้ ใด ๑. สมาหารทิคุสมาส ๒. อสมาหารทิคุสมาส ๓. สมาหารทวนั ทวสมาส ๔. อสมาหารทวนั ทวสมาส ๓๘. คาว่า ปณฺ ณญฺจ ปุปฺผญฺจ ผลญฺจ ปณฺณปุปฺผผลานิ จดั เป็นสมาสอะไร ๑. สมาหารทิคุ ๒. อสมาหารทิคุ ๓. สมาหารทวนั ทวะ ๔. อสมาหารทวนั ทวะ ๓๙. อพั ยยภี าวสมาสคือสมาสเช่นไร ๑. มอี ปุ สคั หรือนิบาตอยหู่ ลงั ๒. มีอปุ สคั หรือนิบาตอยหู่ นา้ ๓. มอี ปุ สคั หรือนิบาตเป็นวเิ สสนะ ๔. มีอปุ สคั หรือนิบาตเป็นอญั ญบท ๔๐. คาวา่ นครฺสส พหิ พหินคร เป็นรูปวเิ คราะห์ในขอ้ ใด ๑. อปุ สคั ปุพพกะ ๒. นิบาตปุพพกะ ๓. สมาหารทวนั ทวสมาส ๔. อสมาหารทวนั ทวสมาส ๓) วเิ คราะห์และแปลศพั ทก์ มั มธารยฯ ทิคุ ตปั ปุริส ทวนั ทว อพั ยยี พหุพหิหิสมาส ฯ ๙ ๔๑. คาว่า กต ปุญฺญ เยน โส กตปุญฺโญ ( ปุริโส) เป็นสมาสใด ๑. ทุติยาพหุพพหิ ิสมาส ๒. ตติยาพหุพพิหิสมาส ๓. จตุตถีพหุพพิหิสมาส ๔. ปัญจมพี หุพพิหิสมาส ๔๒. ขอ้ ใดเป็นรูปวเิ คราะห์ น บุพพบท พหุพพหิ ิสมาส ๑. น วสโล อวสโล ๒. นตฺถิ ตสฺส สโมติ อสโม ๓. สห ปุตฺเตน โย วตฺตตีติ สปุตฺโต ๔. สุวณฺ ณสฺส วณโณ อวิ วณฺ โณ ยสฺส โส สุวณฺณวณฺโณ ๔๓. คาว่า นีล อุปฺปล นีลปุ ฺปล จดั เป็นกมั มธารยสมาสประเภทใด ๑. วิเสสนบุพพบท ๒. วเิ สสนุตตรบท ๓. วิเสสโนภยบท ๔. วิเสสโนปมบท

รหสั วิชา 383 ภาษาบาลี ๔๔. วเิ สสโนปมบท มีหลกั การสงั เกตอยา่ งไร ๑. มบี ทวเิ สสนะอยหู่ นา้ บทประธานอยหู่ ลงั ๒. มบี ทวเิ สสนะอยหู่ ลงั บทประธานอยหู่ นา้ ๓. มบี ทวิเสสนะเป็นอุปมาจดั เป็น ๒ ตามวเิ สสนะอยหู่ นา้ และอยหู่ ลงั ๔. มบี ทท้งั ๒ เป็นวิเสสนะ มีบทอื่นเป็นประธาน ๔๕. คาว่า จตฺตาโร มคฺคา จตุมคฺคา เป็นรูปวิเคราะหต์ ามขอ้ ใด ๑. สมาหารทิคุสมาส ๒. อสมาหารทิคุสมาส ๓. ทุติยาตปั ปุริสสมาส ๔. ตติยาตปั ปุริสสมาส ๔๖. สสาเร ทุกฺข สสารทุกฺข เป็นรูปวิเคราะห์ของสมาสใด ๑. จตุตถตี ปั ปุริสสมาส ๒. ปัญจมตี ปั ปุริสสมาส ๓. ฉฏั ฐีตปั ปุริสสมาส ๔. สตั ตมีตปั ปุริสสมาส ๔๗. สมโณ จ พฺราหฺมโณ จ สมณพฺราหฺมณา เป็นรูปวิเคราะหส์ มาสใด ๑. อสมาหารทวนั ทวสมาส ๒. สมาหารทวนั ทวสมาส ๓. อสมาหารทิคุสมาส ๔. สมาหารทิคุสมาส ๔๘. ขอ้ ใดเป็นอปุ สคฺคปุพพกะ อพั ยยภี าวสมาส ๑. ปาการสฺส ติโร = ติโรปการ ๒. สุขสฺส ยตฺตโก ปริจฺเฉโท = ยาวชีว ๓. พลสฺส ปฏปิ าฏิ = ยถาพล ๔. ทรถสฺส อภาโว = นิทฺทรถ ๔๙. รูปวิเคราะห์ใดจดั เป็นฉฏั ฐีพหุพพหิ ิสมาส ๑. หตฺถา ฉินฺนา เยน โส หตฺถฉินฺโน (ปุริโส) ๒. หตฺถา ฉินฺนา ยสฺมา โส หตฺถฉินฺโน (ปุริโส) ๓. หตฺถา ฉินฺนา ยสฺส โส หตฺถฉินฺโน (ปุริโส) ๔. หตฺถา ฉินฺนา ยสฺมึ โส หตฺถฉินฺโน (ปุริโส) ๔) อธิบายการยอ่ บทตทั ธิตและจาแนกประเภทของตทั ธิตท้งั โดยยอ่ และพิสดาร ๖ ๕๐. คาว่า ตทั ธิต คือปัจจยั หมู่หน่ึงเป็นประโยชนเ์ ก้ือกลู แก่เน้ือความยอ่ สาหรับแทนอะไร ๑. ศพั ท์ ๒. ธาตุ ๓. วาจก ๔. วภิ ตั ติ ๕๑. ขอ้ ใดไมจ่ ดั อยใู่ นประเภทของสามญั ญตทั ธิต ๑. ภาวตทั ธิต ๒. โคตตตทั ธิต ๓. ชาตาทิตทั ธิต ๔. ราคาทิตทั ธิต ๕๒. คาวา่ โมคฺคลฺลายโน ลงปัจจยั อะไร ๑. ณ ปัจจยั ๒. ณว ปัจจยั ๓. ณาน ปัจจยั ๔. ณายน ปัจจยั ๕๓. ตทั ธิตที่ใชป้ ัจจยั แทนศพั ทท์ ว่ั ไปท้งั นามนาม คุณนามและกิริยา หมายถึงขอ้ ใด ๑. ภาวตทั ธิต ๒. อพั ยยตทั ธิต ๓. สามญั ญตทั ธิต ๔. ตทสั สตั ถติ ทั ธิต ๕๔. คาวา่ ปุเร ชาโต ปุริโม (ชโน) เป็นตทั ธิตอะไร ๑. ชาตาทิตทั ธิต ๒. ราคาทติ ทั ธิต ๓. ตรัตยาทิตทั ธิต ๔. ตทสั สตั ถิตทั ธิต ๕๕. มนุสฺสาน สมโุ ห มานุโส (หมู่แห่งมนุษย)์ เป็นตทั ธิตอะไร ๑. สมหุ ตทั ธิต ๒. ราคาทิตทั ธิต ๓. ชาตาทิตทั ธิต ๔. ตรัตยาทติ ทั ธิต

รหสั วิชา 383 ภาษาบาลี ๕) อธิบายปัจจยั สามญั ญตทั ธิต ภาวตทั ธิต และ อพั ยยตทั ธิต ๑๐ ๕ ๕๖. ในวิภาคตทั ธิตลงปัจจยั อะไร ๑. ติย ถ ๒. ตฺต ณ ๓. ธา โส ๔. ถา ถ ๕๗. ขอ้ ใดเป็นวเิ คราะหส์ มหุ ตทั ธิต ๑. มคเธ ชาโต มาคโธ (ชโน) ๒. ปุเร ชาโต ปุริโม (ชโน) ๓. ปจฺฉา ชาโต ปจฺฉิโม (ชโน) ๔. มนุสฺสาน สมุโห มานุโส ๕๘. ขอ้ ใดเป็นปัจจยั ของฐานตทั ธิต ๑. อยี ๒. ตม ๓. อาลุ ๔. มนฺตุ ๕๙. ในโคตตตทั ธิตใชศ้ พั ทใ์ ดแทนปัจจยั ๑. ชาต ๒. ตรติ ๓. นิสฺสิต ๔. อปจฺจ ๖๐. ขอ้ ใดเป็นรูปวิเคราะหข์ องภาวตทั ธิต ๑. จนฺทสฺส ภาโว = จนฺทตฺต ๒. ปเทน วภิ าเคน = ปเทโส ๓. ทฺวินฺน ปูรโณ = ทุติโย ๔. อยสา ปกต = อโยมย ๖๑. ขอ้ ใดคือปัจจยั ในภาวตทั ธิต ๑. ติย ถ ฐ ๒. ตฺต ณฺ ย ๓. ตร ตม ๔. วี ส สี ๖๒. สหายสฺส ภาโว สหายตา ลงปัจจยั ในตทั ธิตตามขอ้ ใด ๑. ตร ปัจจยั ในสมุหตทั ธิต ๒. ตม ปัจจยั ในเสฏฐตทั ธิต ๓. ตา ปัจจยั ในภาวตทั ธิต ๔. วนฺตุ ปัจจยั ในตทสั สตั ถิตทั ธิต ๖๓. ขอ้ ใดเป็นรูปวเิ คราะหข์ องอพั ยยตทั ธิต ๑. เยน ปกาเรน ยถา ๒. สมณสฺส ภาโว สามญฺญ ๓. ปุริสสฺส ภาโว โปริสฺส ๔. พนฺธนสฺส ฐาน พนฺธนีย ๖๔. ขอ้ ใดลง “ ถา ” ปัจจยั ท่ีประกอบเป็นตติยาวภิ ตั ติ ๑. ต ปการ = ยถา ๒. เตน ปกาเรน = ตถา ๓. ตสฺมา ปกาเรน = ตถา ๔. ตสฺมึ ปกาเรน = ตถา ๖๕. โย ปกาโร = ยถา เป็นตทั ธิตใด ๑. ปูรณตทั ธิต ๒. วภิ าคตทั ธิต ๓. ภาวตทั ธิต ๔. อพั ยยตทั ธิต ๖) วิเคราะห์ และแปลศพั ทส์ ามญั ญตทั ธิต ภาวตทั ธิต และ อพั ยยตทั ธิต ๖๖. ในสงั ขยาตทั ธิตลงปัจจยั อะไร ๑. ก ๒. ณ ๓. อีย ๔. อาลุ ๖๗. ในตรตั ยาทิตทั ธิตลงปัจจยั อะไร ๑. มย ปัจจยั ๒. ตยิ ปัจจยั ๓. อกิ ปัจจยั ๔. ณิก ปัจจยั

รหสั วิชา 383 ภาษาบาลี ๖๘. ภาวตทั ธิต มีปัจจยั ท่ีมาใชแ้ ทน ภาวศพั ทซ์ ่ึงมคี าแปลวา่ อยา่ งไร ๑. ประชุมแห่ง ๒. โดยส่วน ๓. เป็นวิการ ๔. ความเป็น ๖๙. ภาวตทั ธิต ในรูปวิเคราะหบ์ ทหนา้ ตอ้ งประกอบดว้ ยวภิ ตั ติใด ๑. ปฐมา ๒. ตติยา ๓. ฉฏั ฐี ๔. สตั ตมี ๗๐. ยถา วาริวหา ปูรา ปริปูเรนฺติ สาคร ฯลฯ คาขีดเสน้ ใตเ้ ป็นตทั ธิตอะไร ๑. ชาตาทิตทั ธิต ๒. ราคาทติ ทั ธิต ๓. อพั ยยตทั ธิต ๔. ตรัตยาทติ ทั ธิต มธั ยมศึกษาปี ท่ี ๓ ๓๐ ๘ ๑) อธิบาย แปล เขียนวาจก อนั เป็นตวั ประธานของกิริยาในแต่ละวาจก ๖ ๗๑. ในประโยคว่า สามเิ กน สูเทน โอทโน ปาจาปิ ยเต คาใดจดั เป็นประธานของประโยค ๑. สามเิ กน ๒. สูเทน ๓. โอทโน ๔. ปาจาปิ ยเต ๗๒. ประโยควา่ ธมฺมจารี สุข เสติ ผปู้ ระพฤติธรรมยอ่ มอยเู่ ป็นสุข เหตุใดจึงเป็นกตั ตุวาจก ๑. เพราะบ่งผทู้ ายกข้ึนเป็นประธานในประโยค ๒.เพราะบ่งผถู้ กู ทายกข้ึนเป็นประธานในประโยค ๓. เพราะบ่งเพียงความมคี วามเป็น ๔. เพราะบ่งผใู้ ชใ้ หท้ ายกข้ึนเป็นประธานในประโยค ๗๓. บ่งผถู้ กู ทา ยกข้ึนเป็นประธานในประโยคจดั เป็นวาจกใด ๑. กตั ตวุ าจก ๒. กมั มวาจก ๓. เหตุกตั ตุวาจก ๔. เหตุกมั มวาจก ๗๔. ผทู้ ่ีบงั คบั ผอู้ น่ื ใหท้ าและกิริยากเ็ ป็นของผใู้ ชใ้ หท้ าเป็นวาจกในขอ้ ใด ๑. กตั ตวุ าจก ๒. เหตุกตั ตุวาจก ๓. กมั มวาจก ๔. เหตกุ มั มวาจก ๗๕. คาวา่ กตั ตา (ผทู้ า) ในประโยคที่เป็นภาววาจกประกอบดว้ ยวภิ ตั ติหมวดใด ๑. ตติยาวภิ ตั ติ ๒. ปฐมาวภิ ตั ติ ๓. จตุตถีวภิ ตั ติ ๔. ปัญจมวี ิภตั ติ ๗๖. ขอ้ ใดเป็นโครงสร้างของประโยคกมั มวาจก ๑. ประธาน + อนภิหิตกตั ตา + กิริยา ๒. ประธาน + การิตกมั ม + กิริยา ๓. ประธาน + กรรม + กิริยา ๔. อนภิหิตกตั ตา + กิริยา ๗๗. โครงสร้างวา่ ประธาน + กรรม + กิริยา เป็นวาจกในขอ้ ใด ๑. กมั มวาจก ๒. กตั ตวุ าจก ๓. เหตุกมั มวาจก ๔. เหตกุ ตั ตวุ าจก ๗๘. คาว่า “ อนภิหิตกตั ตา (อนั ) ” จดั อยโู่ ครงสร้างขอ้ ใด ๑. กตั ตวุ าจก เหตุกตั ตุวาจก ๒. กมั มวาจก เหตุกมั มวาจก ๓. เหตุกตั ตุวาจก ๔. กตั ตุวาจกเท่าน้นั ๒) วเิ คราะห์ปัจจยั ของวาจกถกู ตอ้ งตามหลกั บาลีไวยากรณ์ ๗๙. ณาปย ปัจจยั ลงในวาจกขอ้ ใด ๑. กตั ตวุ าจก ๒. กมั มวาจก ๓. ภาววาจก ๔. เหตุกตั ตุวาจก

รหสั วิชา 383 ภาษาบาลี ๘๐. กริยเต ทาอยู่ บอกใหร้ ู้วาจกใด ๑. กตั ตวุ าจก ๒. กมั มวาจก ๓. เหตุกตั ตวุ าจก ๔. เหตุกมั มวาจก ๘๑. คาวา่ สกฺโกนฺติ (ยอ่ มอาจ) ลงปัจจยั อะไร ๑. ณ ๒. โอ ๓. เณ ๔. อ ๘๒. ประโยควา่ “ ลทุ ฺทโก หตฺถึ มาเรติ นายพราน ยงั ชา้ ง ใหต้ ายอย”ู่ คาทีข่ ดี เสน้ ใตล้ งปัจจยั ตวั ใด ๑. เณ ๒. ณย ๓. ณาเป ๔. ณาปย ๓) อธิบาย แปลหลกั การแปลเรื่องกิริยาในระหวา่ ง บทขยายกิริยาในระหวา่ ง กิริยาคมุ พากย์ บทขยาย ฯ ๕ ๘๓. ประโยคใด ลง ย ปัจจยั ในกมั มวาจก ๑. สามเณโร มยุ ฺหติ ๒. สทฺโท วสิ าขาย สุยฺยติ ๓. โสโก เปเมน ชายติ ๔. เสฏฺฐี วหิ าร การาปยติ ๘๔. ทิพฺพติ แยกศพั ทไ์ ดอ้ ยา่ งไร ๑. ทิว + ย = พฺพ + ติ ๒. ทิว + ย = พฺพ + เต ๓. ทิว + ย = พฺพ + ณาเป + ติ ๔. ทิว + ย = พฺพ + ณาปย + เต ๘๕. ศพั ทใ์ ดใชเ้ ป็นกิริยาในระหว่าง ๑. คนฺตฺวา ๒.กโรติ ๓. ปสฺสามิ ๔. กตฺตพฺพ ๘๖. สตฺถา ภตฺตกิจฺจ กโรนฺโต เชตวน อคมาสิ. ศพั ทใ์ ดทาหนา้ ที่บทขยายกิริยาในระหวา่ ง ๑. ภตฺตกิจฺจ ๒.เชตวน ๓. กโรนฺโต ๔. อคมาสิ ๘๗. บทที่แปลและสมั พนั ธเ์ ขา้ กบั กริ ิยาในระหว่าง หมายถงึ บทใด ๑. กิริยาในระหวา่ ง ๒. บทขยายกริ ิยาในระหวา่ ง ๓. บทกิริยาคุมพากย์ ๔. บทขยายกริ ิยาคุมพากย์ ๔) อธิบาย แปลตามโครงสร้างของประโยควาจกท้งั ๕ วาจก ๗ ๘๘. ปัจจยั ใดต่อไปน้ีใชเ้ ป็นกิริยาคุมพากยไ์ ด้ ๑. มาน ๒. ต ๓. ตูน ๔. อนฺต ๘๙. ประโยควา่ เอว สตฺถา เตส ธมฺม เทเสสิ. คาที่ขีดเสน้ ใตท้ าหนา้ ที่ใดในประโยค ๑. บทขยายสตั ตมี ๒. บทขยายประธาน ๓. บทขยายกริ ิยาในระหว่าง ๔. บทขยายกิริยาคุมพากย์ ๙๐. สูโท โอทน ปจติ เป็นวาจกอะไร ๑. กตั ตุวาจก ๒. กมั มวาจก ๓. ภาววาจก ๔. เหตุกตั ตุวาจก ๙๑. ลภิยเต จดั เป็นกิริยาของวาจกใด ๑. กตั ตวุ าจก ๒. กมั มวาจก ๓. ภาววาจก ๔. เหตุกตั ตุวาจก ๙๒. ประโยคใดเป็นภาวววาจก ๑. สูโท โอทน ปจติ ๒. สูเทน โอทโน ปจิยเต ๓. เตน ภูยเต ๔. สามโิ ก สูท โอทน ปาเจติ

รหสั วิชา 383 ภาษาบาลี ๙๓. วาจกที่บ่งถงึ ผใู้ ชใ้ หท้ า หมายถงึ วาจกอะไร ๑. กตั ตุวาจก ๒. กมั มวาจก ๓. เหตุกตั ตุวาจก ๔. เหตุกมั มวาจก ๙๔. ขอ้ ใดลงปัจจยั ในเหตุกมั มวาจก ๑. ภูยเต ๒. โจเรติ ๓. ขียติ ๔. ปาจาปิ ยเต ๕) อธิบาย การแปลประโยคแทรก ประโยคอนาทรและลกั ขณะ ประโยคเลขนอกเลขใน ๖ ๑๐๐ ๙๕. ประโยคแทรกมีสาเนียงการแปลตามขอ้ ใด ๑. ซ่ึง ๒. แก่ ๓. เมอ่ื ๔. ใน ๙๖. ขอ้ ใดจดั เป็นประโยคอนาทร ๑. สตฺถโุ น ภตฺต อทาสิ ๒. รญฺโญ สาสน เปเสสิ ๓. ภิกฺขุ คาม ปวฏิ ฺโฐ ๔. เถรสฺส นิทฺท อโนกฺกมนฺตสฺส ๙๗. สตั ตมวี ิภตั ติท่ีใชเ้ ป็นประธานในประโยค เรียกว่าอะไร ๑. ลกั ขณะ ๒. อนาทร ๓. กตั ตา ๔. กมั มะ ๙๘. ประโยคอนาทร ประกอบดว้ ยวภิ ตั ติหมวดใด ๑. จตุตถวี ิภตั ติ ๒. ปัญจมวี ภิ ตั ติ ๓. ฉฏั ฐีวภิ ตั ติ ๔. สตั ตมวี ภิ ตั ติ ๙๙. ปุณโณ “ อห ปพฺพชิสฺสามีติ ” จินเตสิ คาท่ีขดี เสน้ ใตเ้ ป็นประโยคอะไร ๑. เลขนอก ๒. เลขใน ๓. อนาทร ๔. ลกั ขณะ ๑๐๐. ภิกขุ “ คาม ปิ ณฺ ฑาย คมิสฺสามีติ ” จินฺเตสิ ฯ ขอ้ ความที่ขีดเสน้ ใตจ้ ดั เป็นประโยคอะไร ๑. อนาทร ๒. ลกั ขณะ ๓. เลขใน ๔. เลขนอก รวม


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook