Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยที่ 5 วางแผนชีวิตดีมีสุข

หน่วยที่ 5 วางแผนชีวิตดีมีสุข

Published by Nantaporn Bamrungphol, 2020-06-07 05:33:50

Description: หน่วยที่ 5 วางแผนชีวิตดีมีสุข

Search

Read the Text Version

การวางแผนดชี ีวติ มสี ุข ค ว า ม ห ม า ย ก า ร ว า ง แ ผ น ค ร อ บ ค รั ว การวางแผนครอบครัว คือ การท่ีสามี -ภรรยาวางแผนล่วงหน้าว่าจะมีลูกเม่ือใด และจะมีจานวนกี่คน หากยังไม่พร้อมที่จะมีบุตรควรใช้วิธีคุมกำเนิดแบบช่ัวครำวไว้ ก่อน หำกมีบุตรครบตำมควำมต้องกำรแล้ว ควร ใช้วิธีคุมกาเนิดแบบถาวร หรื อการทา หมันถาวร ท้ังน้ีสามี-ภรรยา ควรปรึ กษาหารื อร่ วมกันหากคู่สามี-ภรรยาไม่คิดวางแผน เม่ือเกิดการต้ังครรภ์แล้ว เราอาจจะดูแลบุตรได้ไม่เต็มท่ี ชีวิตครอบครัวจะเกิดปั ญหา และอาจส่ งผลกระทบต่อประเทศชาติได้

การวางแผนดชี ีวติ มสี ุข เราจะทาใหค้ รอบครัวมีความสุขไดอ้ ยา่ งไร? หากไม่มีลูกหละ่ ครอบครัวเราจะเป็นอยา่ งไร? และหากมีลูกคนเดียว จะเพยี งพอหรือไม่? ลูกเป็นของขวญั ไม่ใช่เป็นภาระ หรือห่วงผกู คอ บางคนมีลูกหวั ปี ทา้ ยปี จนทาใหไ้ ม่มีเวลาในการดูแลเขาไดอ้ ยา่ งดี และสร้างแรงกดดนั ใหก้ บั ครอบครัว และไม่ควรจะปล่อยใหม้ ีลกู โดยที่เราไม่วางแผน เพราะบางครอบครัว เม่ือไม่วางแผน พอมีลูก อาจจะทาให้ รู้สึกเครียดเวลาเล้ียงลูก เพราะไม่พร้อม เช่น ภรรยาตอ้ งลาออกจากงานมาเล้ียงลกู หรือสามี - ภรรยา อายุ ยงั นอ้ ยไม่พร้อมท่ีจะเล้ียงลูก ฯลฯ

ความสาคญั ของการวางแผนครอบครัว – ช่วยใหค้ ู่สมรสท่ีเพงิ่ แตง่ งาน ไดม้ ีโอกาสปรับตวั เพ่ืออยรู่ ่วมกนั ก่อนการมีลูก – หากครอบครัวมีสภาพความเป็นอยทู่ ่ีดี ลูกกม็ ีโอกาสไดร้ ับการศึกษาท่ีสูง – คูส่ มรสสามารถเวน้ ระยะการมีลูกหรือจากดั ขนาดของครอบครัวได้ – คู่สมรสมีโอกาสสร้างฐานะการเงินใหม้ น่ั คง ก่อนการมีลกู – การเวน้ ระยะในการมีลกู ทาใหส้ ุขภาพของผเู้ ป็นมารดาไม่ทรุดโทรม สามารถดูแลลูกและครอบครัวได้ อยา่ งเตม็ ที่

ทารกในครรภ์ การใส่ใจดูแลสุขภาพของแมท่ อ้ งในช่วงต้งั ครรภ์ หมายถึงความกา้ วหนา้ ของการต้งั ครรภ์ พฒั นาการท่ีดีของลูกในทอ้ ง รวมไปถึงสุขภาพที่ดีของคุณและลกู นบั ต้งั แตช่ ่วงน้ีไปจนถึงหลงั คลอดดว้ ย 3 เดือนแรก แม่ท้อง : น้าหนกั ตวั ไม่เปลี่ยนแปลงมากนกั จะมีอาการ คล่ืนไส้ อาเจียน วงิ เวยี น เพราะแพท้ อ้ ง มีอาการต้งั แต่ช่วงที่ ประจาเดือนขาดไปได้ 2 สปั ดาห์ และเรื่อยมาตลอดช่วง 3 เดือนน้ี ทารกในครรภ์ : หวั ใจเร่ิมเตน้ เม่ืออายคุ รรภ์ 6 สปั ดาห์ เร่ิมดิ้นเม่ืออายคุ รรภ์ 8-9 สปั ดาห์ แตก่ วา่ คุณแมจ่ ะรู้สึกไดก้ ็เม่ือ 18 สปั ดาห์คร่ึง

ทารกในครรภ์ เดือนท่ี 4 แม่ท้อง : หนา้ ทอ้ งเร่ิมขยายใหญ่ มีเส้นดาที่ก่ึงกลางทอ้ ง หวั นมคล้าและเสน้ เลือดดาที่บริเวณเตา้ นมเห็นชดั ข้ึน ช่วง ปลายของเดือนจะรู้สึกวา่ ลูกดิ้น ทารกในครรภ์ : สดั ส่วน รูปร่างเร่ิมเหมือนทารกมากข้ึน กระดูกคอ่ ย ๆ แขง็ แรง อาจมองเห็นอวยั วะเพศไดช้ ดั เจนในบาง คน ทารกเริ่มไดย้ นิ เสียงพูดของพอ่ แม่

ทารกในครรภ์ เดือนท่ี 5 แม่ท้อง : หายใจไม่สะดวกเพราะน้าหนกั ทอ้ งที่ตอ้ งแบกมากข้ึน เอวขยาย ทอ้ งลาย แสบหนา้ อก เพราะน้ายอ่ ยจากกระเพาะไหลยอ้ นข้ึนมา ทารกในครรภ์ : ระบบประสาท กระดูกและกลา้ มเน้ือแขง็ แรงข้ึน เริ่มไดย้ นิ เสียง ลาตวั เริ่มมีขนออ่ น มีผม คิ้ว และไขเกาะตามตวั แยกรสขมกบั หวานได้

ทารกในครรภ์ เดือนที่ 6 แม่ท้อง : น้าหนกั ข้ึนสปั ดาหล์ ะ 1/2 กิโลกรัม จุดศูนยถ์ ว่ งของร่างกายเร่ิมเปล่ียน ทาใหป้ วดชายโครง ปวดหลงั เสียดทอ้ งนอ้ ยหากรีบเปล่ียนอิริยาบถ ทารกในครรภ์ : ขนาดลาตวั เร่ิมไดส้ ัดส่วนกบั ศีรษะ ดิ้นแรงมากข้ึน โดยเฉพาะเวลาท่ีไดย้ นิ เสียงพอ่ แม่หรือเสียงเพลงท่ีคุน้ เคย ถุงลมในปอดเพ่ิมข้ึนเร่ือยๆ รูจมูกเริ่มเปิ ด เร่ิมฝึกการหายใจ

ทารกในครรภ์ เดือนที่ 7 แม่ท้อง : ทอ้ งขยายใหญ่จนอุย้ อา้ ย อึดอดั ไม่วา่ จะลกุ ยนื เดิน นงั่ นอน จะปวดปัสสาวะบ่อยข้ึน ข้ีร้อน เหนื่อยง่าย บวมตามมือ หนา้ ขอ้ เทา้ หลงั เทา้ ทารกในครรภ์ : อวยั วะตา่ ง ๆ ครบสมบูรณ์ น้าหนกั ตวั ประมาณ 1,000 กรัม ยาว 35 ซม. เริ่มลืมตา เร่ิมฝึกการมอง การหายใจเป็นจงั หวะมากข้ึน

ทารกในครรภ์ เดือนท่ี 9 แม่ท้อง : น้าหนกั ตวั เพ่ิมไม่คอ่ ยมากหรือไม่เพมิ่ เลย มดลูกหดรัดตวั แรงและบ่อยข้ึน มีตกขาวและ น้านมน้าเหลืองออกมามากข้ึน ทารกในครรภ์ : อวยั วะทุกส่วนสมบูรณ์เตม็ ที่ ตวั ทารกอว้ นกลมเตม็ โพรงมดลูกมารดา น้าหนกั ตวั ประมาณ 3,000 กรัม ความยาวประมาณ 50 ซม.

ทารกในครรภ์ เดือนท่ี 8 แม่ท้อง : ปวดหน่วงเชิงกรานเวลาเดินหรือเปลี่ยนท่า ทอ้ งตึงเพราะมดลูกซอ้ มหดรัดตวั ทารกในครรภ์ : น้าหนกั ประมาณ 1,500 กรัม ยาวประมาณ 40 ซม. ตาเร่ิมกะพริบถ่ี และเพง่ มอง จุดสนใจ อวยั วะต่างๆ พฒั นาเกือบเตม็ ที่ เหลือแตป่ อดที่ตอ้ งรออีก 1 เดือน ทารกเริ่มกลบั ศีรษะลงเตรียม คลอด

วยั ทารก -การเปลี่ยนแปลงทางดา้ นร่างกาย วยั ทารกเป็นวยั ที่มีการเจริญเติบโตทางร่างกายอยา่ งรวดเร็วมากกวา่ วยั อ่ืนๆของชีวิต อวยั วะที่สาคญั ท่ีสุดคือ “สมอง” ถา้ การเจริญเติบโตหยดุ ชะงกั สมองกจ็ ะไม่ดีดว้ ย และเป็นการยากท่ีจะแกไ้ ขใหป้ กติ วยั ทารกเป็นวยั ที่มีการติดเช้ือโรคง่าย เพราะระบบภมู ิคุม้ กนั โรคยงั ไม่สมบูรณ์ พฒั นาการของทารกแต่ละ คนไม่เท่ากนั ข้ึนอยกู่ บั การเจริญเติบโตของสมองและระบบประสาทซ่ึงเป็นผลมาจากพนั ธุกรรมและ ส่ิงแวดลอ้ ม

วยั ทารก -การเปล่ียนแปลงทางดา้ นอารมณ์และจิตใจ ทารกท่ีไดร้ ับการเล้ียงดูโอบอมุ้ เอาใจใส่ ไดร้ ับการตอบสนองที่เหมาะสมจะทาใหเ้ ป็นเดก็ ท่ีมีอารมณ์ ดี เป็นมิตร ในทางตรงกนั ขา้ ม ถา้ ทารกถูกทอดทิ้งจะมีลกั ษณะที่เงียบเหงา เฉยเมย ไม่สนใจใคร ฉะน้นั การ เสริมสร้างพฒั นาการดา้ นอารมณ์และจิตใจของเดก็ ควรใหม้ ีการสมั ผสั โอบอมุ้ พดู คุยดว้ ยท่าทีท่ีเป็นมิตร ร้องเพลงใหฟ้ ัง เป็นตน้ -การเปล่ียนแปลงทางดา้ นสงั คม เดก็ ในวยั น้ีถา้ ไดร้ ับความรัก ความอบอุ่น การเล้ียงดูเอาใจใส่ท่ีดี จะทาใหเ้ ดก็ รู้สึกไวว้ างใจตอ่ คนรอบ ขา้ ง มีทศั นคติท่ีดี ทาใหเ้ ดก็ อยรู่ ่วมกบั ผอู้ ่ืนในสังคมไดด้ ี วยั ทารกเป็นวยั เร่ิมตน้ ของพฒั นาการทางสังคม ของมนุษย์ ถา้ เดก็ ไดร้ ับการเล้ียงดูที่ดีจะทาใหเ้ ขาเป็นสมาชิกท่ีดีของสังคมตอ่ ไป ที่จะส่งเสริมใหเ้ ดก็ ไดม้ ีโอกาสแสดงพฤติกรรมต่างๆ ที่ตอบสนองความตอ้ งการในทางสร้างสรรค์

วยั ทารก -การเปล่ียนแปลงทางดา้ นสติปัญญา เดก็ วยั ทารกเริ่มเรียนรู้และสร้างความสมั พนั ธ์จากส่ิงแวดลอ้ มรอบตวั ไดจ้ ากการใชอ้ วยั วะสมั ผสั ตา่ งๆ โดยทารกจะมีพฤติกรรมซ้าๆ ในระยะแรกและมีการลองผิดลองถกู ไปเรื่อยๆ จนทาใหเ้ ดก็ เกิดการ เรียนรู้และสามารถแกป้ ัญหาตา่ งๆได้ ท้งั น้ีพฒั นาการทางดา้ นสติปัญญาของวยั ทารกจะมีพ้ืนฐานเป็น อยา่ งไรน้นั ข้ึนอยกู่ บั พอ่ แม่ ผใู้ กลช้ ิด



พฒั นาการ 4 ด้าน 1. พฒั นาการทางกาย 2. พฒั นาการทางสติปัญญา 3. พฒั นาการทางอารมณ์ 4. พฒั นาการทางสังคม

พฒั นาการทางกาย * เดก็ จะมีพฒั นาการด้านต่างๆ เปลย่ี นแปลงไปมาก ทางด้าน ร่างกาย เดก็ จะ เร่ิมมีรูปร่างผอมและแขนขายาวขนึ้ *การ เคลื่อนไหวท่คี ล่องแคล่วและเข็งแรงมากขึน้ *เดก็ สามารถที่จะตอบสนองความต้องการของตนในด้านต่างๆ และสามารถ ปรับตวั ให้เข้ากบั สภาพแวดล้อมได้ *เดก็ วยั นีม้ คี วามอยากรู้อยากเห็นในสิ่งต่างๆ รอบตวั เขา พดู ได้ มากขนึ้ สนใจในความสัมพนั ธ์ระหว่างบุคคล *รู้ถงึ ความแตกต่างระหว่างเพศหญิงและเพศชาย วยั นีเ้ ดก็ มีอารมณ์รุนแรง เอาแต่ใจตวั เริ่มรู้จักอจิ ฉาน้องหรือคนอ่ืน

การเจริญเติบโต นา้ หนักและส่วนสูงโดยประมาณ อายุ 3 ปี นา้ หนักประมาณ 14 กโิ ลกรัม สูงประมาณ 92 เซนตเิ มตร อายุ 4 ปี นา้ หนักประมาณ 16 กโิ ลกรัม สูงประมาณ 100 เซนตเิ มตร อายุ 5 ปี นา้ หนักประมาณ 18 กโิ ลกรัม สูงประมาณ 108 เซนตเิ มตร อายุ 6 ปี นา้ หนักประมาณ 20 กโิ ลกรัม สูงประมาณ 115 เซนตเิ มตร

การเจริญเติบโตของฟัน ฟันนา้ นม เมื่อเดก็ อายุ 2 ปี 6 เดือน จะมฟี ันนา้ นมงอกมาครบ 20 ซี่ อายุ 3 – 4 ปี ฟันนา้ นมจะเร่ิมหลดุ และจะมฟี ันแท้ขนึ้ มาแทนท่ี อายุ 4 – 5 ปี ฟันแท้จะเริ่มขนึ้ ซี่แรกท่ีขนึ้ มาเป็ นฟันกรามซี่ล่าง

พฒั นาการด้านจิตใจและอารมณ์ *เดก็ วยั นีเ้ ริ่มมพี ฒั นาการทางอารมณ์มากขนึ้ เดก็ จงึ มกั แสดงอาการ ไม่พอใจ เมื่อถูกห้าม หรือแสดงความโกรธบุคคลรอบข้าง อารมณ์ รุนแรงจะเกดิ ขึน้ เพยี งชั่วครู่แล้ว หายไป เพราะเดก็ มชี ่วงความ สนใจส้ัน *อารมณ์ของเด็กวยั นีจ้ ะเปลย่ี นแปลงง่ายมากและแสดงอารมณ์อย่าง เตม็ ทไ่ี ม่ปิ ดบังมกั แสดงออก ทางพฤตกิ รรมทเี่ ห็นได้ชัด เช่น ชกต่อย เพื่อนร้องไห้เสียงดงั หรือขว้างปาสิ่งของ

พฒั นาการด้านจิตใจและอารมณ์ 1. ความโกรธ 2. ความกลวั 3. ความอจิ ฉา 4. ความสนุกสนาน 5. ความโศกเศร้าเสียใจ

พฒั นาการด้านสังคม * เล่นคนเดยี ว โดยเล่นกบั ของเล่นไม่สนใจเดก็ ที่เล่นอยู่ ใกล้เคยี ง * เฝ้ามองดูการเล่นของเพื่อน * อาจพูดคุย ถามคาถาม แนะนา แต่ไม่เล่นร่วมกบั เพ่ือน

พฒั นาการดา้ นสงั คม * พฤตกิ รรมทางสังคมทพ่ี บในเดก็ วัย 3-5 ปี - การปฏเิ สธหรือต่อตา้ นอานาจของผู้ใหญ่ - การเลียนแบบ - การแขง่ ขนั ความตอ้ งการทจี่ ะแขง่ ขันของเดก็ นั้นจะเร่ิม เม่ือเดก็ อายุได้ 4 ปี เดก็ อยากใหต้ นเองไดร้ ับการยอมรับ มากกว่าคนอน่ื - การทะเลาะวิวาท เดก็ จะแสดงออกดว้ ยการเตะ การตี หรือการกัด ร้องไห้ หรือแย่งชงิ ของเล่นกลับคนื - ความเหน็ ใจหรือรู้สกึ สงสาร - การยดึ ตนเองเป็ นศูนยก์ ลาง เดก็ ตอ้ งการใหต้ น เป็ นใหญ่ ต้องการจะได้ทุกสิ่ง

พฒั นาการด้านสติปัญญา ควรเน้นเรื่องทเ่ี กยี่ วข้องกับความคดิ และความเข้าใจ ของเดก็ สามารถพัฒนาใหเ้ พม่ิ มากขนึ้ โดยการ *ส่งเสริมดา้ นสงิ่ แวดล้อม *การจดั กจิ กรรมทเ่ี หมาะสม *การเรยี นรู้ดา้ น คาศัพทแ์ ละภาษามากขนึ้

พฒั นาการด้านสตปิ ัญญา *การจัดกิจกรรมที่เหมาะสม *เรียนรู้ด้าน คาศัพท์ *ด้านภาษา *เด็กวยั นีช้ ่างซักถาม อยากรู้อยากเห็น *เรียนรู้สิ่งต่างๆ จากการกระทาและการใช้ประสาทสัมผสั ของเด็ก คือ ตา หู จมูก ลิน้ และผิวหนัง *มคี วามคิดและเหตุผล ที่ยงั ไม่สมบูรณ์

พฒั นาการด้านสตปิ ัญญา ***เดก็ ต้องเรียนรู้จากของจริง พ่อแม่หรือ ผู้เลยี้ งดูเดก็ ต้องพยายามให้เดก็ ได้ลงมือทากจิ กรรมต่างๆ ด้วยตนเอง เพื่อให้เดก็ พฒั นาการคดิ และการแก้ปัญหา

วยั รุ่น วยั น้ีจึงครอบคลมุ อายโุ ดยประมาณ คือ เดก็ หญิง ระหวา่ งอายุ 10 – 20 ปี และเดก็ ชายระหวา่ ง อายุ 12 – 22 ปี เน่ืองจากช่วงวยั ดงั กลา่ วค่อนขา้ งยาว ทางการแพทยแ์ ละจิตวทิ ยาพฒั นาการจึงแบ่งช่วง ดงั กล่าว ออกเป็น 2 – 3 ระยะ (แลว้ แต่หลกั เกณฑข์ องผเู้ ชี่ยวชาญ) เนื่องจากระยะตน้ กบั ระยะปลาย ของวยั เดก็ จะมีการเจริญเติบโต ท้งั กายและจิตใจ อารมณ์ แตกตา่ งกนั มาก ในท่ีน้ีจะแบ่งเป็น 3 ระยะ คือ

วยั รุ่นตอนตน้ เดก็ ผหู้ ญิงอยใู่ นช่วงอายุ 10 – 14 ปี เดก็ ผชู้ ายอยใู่ นช่วงอายุ 12 –16 ปี ในระยะน้ีมีการเปลี่ยนแปลง คือ มีการเปล่ียนแปลงของร่างกายอยา่ งรวดเร็ว เช่น เดก็ หญิงจะมีเตา้ นมใหญ่ข้ึน มีประจาเดือนมีการสร้าง ฮอร์โมนอีสโตรเจน และโปรเจสเตอโรน มีขนตามรักแร้และอวยั วะเพศภายนอกมีรูปร่างสูงใหญ่ คอ่ นขา้ งหลงตวั เอง (Narcissistic phase) มีความเพอ้ ฝัน (Magical Thinking) มีความเป็นอิสระ (Emancipation) แตย่ งั ตอ้ งพ่ึงพาพอ่ แม่ ยงั สนใจเพศเดียวกนั

วยั รุ่นตอนกลาง เดก็ ผหู้ ญิงอยใู่ นช่วง 14 –18 ปี เดก็ ผชู้ ายในช่วงอายุ 16 – 20 ปี ในระยะน้ีมีการเปลี่ยนแปลงท่ีสาคญั คือ เป็นระยะที่ด้ือร้ัน โมโหง่าย มกั จะมีความขดั แยง้ กบั พอ่ แม่สูง เพื่อนมีอิทธิพลสูง เริ่มสนใจเพศตรงขา้ ม การเปล่ียนแปลงทางร่างกายเร่ิมสมบูรณ์เตม็ ท่ี เป็นระยะที่เร่ิมทดลองเกี่ยวกบั เพศ ซ่ึงถา้ ขาดความรู้และ การป้องกนั จะก่อใหเ้ กิดปัญหาต้งั ครรภท์ ี่ไม่พึงปรารถนา หรือโรคติดต่อทางเพศสมั พนั ธ์ รวมท้งั โรคเอดส์ ยงั คงมีความคิดเพอ้ ฝัน วยั รุ่นระยะน้ีจึงมีปัญหามากและบ่อยที่สุด

วยั รุ่นตอนปลาย เดก็ หญิงอยใู่ นช่วงอายรุ ะหวา่ ง 18 – 20 ปี เดก็ ผชู้ ายอยใู่ นช่วง 20 – 22 ปี เป็นระยะท่ีเจริญเติบโต เขา้ สู่วยั ผใู้ หญเ่ ตม็ ท่ี ดงั น้นั ระยะน้ีจึงมีลกั ษณะ รู้จกั บทบาทของเพศเองเตม็ ที่ มีความเป็นอิสระเตม็ ท่ีในการดารงชีวิต และการประกอบอาชีพ คอ่ นขา้ ง ยอมรับการใหค้ าแนะนาไดง้ ่ายกวา่ วยั ตน้ ๆใหค้ วามสนใจต่อคาแนะนาตา่ งๆ รวมท้งั เรื่องการป้องกนั ปัญหา การมีเพศสัมพนั ธ์ท่ีไม่เหมาะสม เมื่อยา่ งเขา้ สู่วยั รุ่น จะมีการเปล่ียนแปลงท้งั ดา้ น ร่างกาย ดา้ นจิตใจหรือ อารมณ์ ดา้ นสังคม และดา้ นสติปัญญา ซ่ึงพอจะกล่าวได้ ดงั น้ี

การเปลี่ยนแปลงดา้ นร่างกาย ในช่วงวยั รุ่นเดก็ หญิง เดก็ ชาย จะเกิดการเปลี่ยนแปลง ดา้ นร่างกายท้งั รูปร่าง เสียง ความสูง และน้าหนกั กลา่ วคือ ท้งั สองเพศจะมีความสูงและน้าหนกั เพิม่ ข้ึนอยา่ งรวดเร็ว อยา่ งเห็นไดช้ ดั เดก็ หญิงจะเร่ิมมี ประจาเดือน สะโพกขยายออก เอวคอด หนา้ อกโตข้ึน เสียงหวานแหลม มีขนข้ึนท่ีอวยั วะเพศ ส่วนเดก็ ชายจะเร่ิมมีน้าอสุจิ มีการสาเร็จความใคร่ดว้ ยตนเอง มีหนวดเครา มีขนข้ึนที่อวยั วะเพศ รักแร้ เสียงแตกพร่า กลา้ มเน้ือแขง็ แรง หนา้ อกและไหลก่ วา้ งข้ึน วยั รุ่นชาย จะตวั สูงข้ึนและน้าหนกั เพิ่มข้ึนอยา่ ง รวดเร็ว กลา้ มเน้ือแขง็ แรง หนา้ อกและไหล่กวา้ งข้ึน มีหนวดเครา มีขนข้ึนท่ีอวยั วะเพศและรักแร้ วยั รุ่น หญิง จะตวั สูงข้ึนและ น้าหนกั เพ่มิ ข้ึนอยา่ งรวดเร็ว สะโพกขยาย เอวคอด และ หนา้ อกโตข้ึน

การเปลี่ยนแปลงดา้ นจิตใจและอารมณ์ จากการเปล่ียนดา้ นร่างกายท่ีเกิดข้ึนอยา่ งรวดเร็ว ทาใหว้ ยั รุ่นเกิดความรู้สึกวิตกกงั วล ในรูปร่างหนา้ ตา ของตน และยงิ่ เกิดปัญหาสิวหนุ่มสิวสาว ความวติ กกงั วลกจ็ ะยง่ิ มีมากข้ึน พอ่ แม่ ผปู้ กครองควรให้ คาแนะนาเก่ียวกบั วธิ ีการดูแลรักษา ความสะอาดใบหนา้ สาหรับลูกสาววยั รุ่น แม่ควรแนะนา วิธีดูแลรักษา ความสะอาดในช่วงของการมีประจาเดือนดว้ ย ลกั ษณะทางอารมณ์ที่สาคญั อีกอยา่ งหน่ึงของวยั รุ่น คือ การมี อารมณ์ท่ีเรียกวา่ พายบุ ุแคม คือ มีความรุนแรงแต่ ออ่ นไหวไม่มนั่ คง ถา้ ตอ้ งการจะทาอะไรกต็ อ้ งทาใหไ้ ด้ ถา้ ถูกขดั ขวางจะตอบโตอ้ ยา่ งรุนแรง แตค่ วามตอ้ งการน้นั จะเปลี่ยนแปลงไดง้ ่าย หนั เหไปสู่ความตอ้ งการ ความสนใจ ใหม่ ๆ อยเู่ สมอ พอ่ แม่ตอ้ งรู้เท่าทนั อารมณ์ของวยั รุ่น รู้จกั โอนออ่ นผอ่ นตามอยา่ งเหมาะสม เม่ือเห็นน้าเชี่ยวกอ็ ยา่ เอาเรือ ไปขวาง แตจ่ งใชค้ วามเขา้ ใจ ความเห็นอกเห็นใจ เป็นเคร่ืองค้าจุน ใหว้ ยั รุ่น สามารถผา่ น พน้ อนั ตราย อนั เกิดจากลกั ษณะทางอารมณ์ ของวยั น้ีไปไดอ้ ยา่ งปลอดภยั

ความตอ้ งการทางเพศ ความต้องการทางเพศ ทาให้วัยรุ่ นเกิดความสนใจในเพ่ือนต่างเพศ ต้องการให้ตนเป็ นที่รู้จัก เป็ นท่ีสนใจของต่างเพศ ตอ้ งการความรู้เพศศึกษา และการแนะนาในการเตรียมตวั เขา้ สังคมวยั รุ่นชาย และหญิง

การเปลี่ยนแปลงทางสติปัญญา ความเปล่ียนแปลงทางสติปัญญาของวยั รุ่น จะพฒั นาข้ึน อยา่ งรวดเร็วเช่นเดียวกบั ดา้ นร่างกาย ขนาด ของมนั สมองจะ ขยายออกมากข้ึน วยั รุ่นจึงเป็นผชู้ อบคิด อยากรู้อยากเห็น ช่างซกั ถาม ใชเ้ หตผุ ล และ แสดงความคิดเห็นวิพากษว์ ิจารณ์ตา่ ง ๆ วยั รุ่นจะชอบ แกป้ ัญหา และตดั สินใจทาส่ิงตา่ ง ๆ ดว้ ยตนเอง มีความรับผิดชอบ บิดามารดาตอ้ งใหก้ ารสนบั สนุน ปลอ่ ยใหล้ ูกไดใ้ ชค้ วามคิดเป็นของตนเอง และความคิด สร้างสรรคก์ จ็ ะสูงข้ึนได้

ปัญหาของวยั รุ่น วยั รุ่นเป็นวยั ท่ีมีปัญหาสุขภาพจิตไดม้ ากที่สุดวยั หน่ึง ซ่ึงแสดงออกเป็นปัญหาพฤติกรรมไดห้ ลายประการ เช่น ด้ือ ไม่เชื่อฟัง ละเมิดกฎเกณฑ์กติกาต่างๆ มีแฟนและมีเพศสัมพันธุ์ ใช้ยาเสพติด ทาผิด กฎหมาย ปัญหาพฤติกรรมบางอยา่ งมกั เกิดข้ึนมานาน จนทาใหก้ ารแกไ้ ขมกั ทาไดย้ าก การป้องกนั ปัญหา จึงมีความจาเป็ น และสาคญั มากกว่าการแกไ้ ขปัญหาที่เกิดข้ึนแลว้ การป้องกนั ดงั กล่าว ควรเริ่มต้งั แต่ การส่งเสริมสุขภาพจิตต้งั แตเ่ ดก็ เดก็ ท่ีมีพฒั นาการของบุคลิกภาพดี จะมีภูมิตา้ นทานโรคทางจิตเวชต่างๆ และช่วยป้องกันปัญหาสุขภาพจิตในวยั รุ่นได้อย่างมากเช่นกนั พ่อแม่และครูอาจารยแ์ ละผูท้ ่ีทางาน เก่ียวขอ้ งกบั เด็กท้งั หลาย จึงควรใหค้ วามสาคญั กบั การส่งเสริมสุขภาพจิตต้งั เด็กจนถึงวยั รุ่นเป็ นอยา่ งย่ิง นอกจากน้ี สงั คมและสิ่งแวดลอ้ มกค็ วรมีส่วนร่วมในการส่งเสริมพฒั นาการเดก็ และวยั รุ่นเช่นเดียวกนั

วยั รุ่นกบั การขาดความมั่นใจในตนเอง คุณเป็นคนหน่ึงหรือเปล่าคะท่ีไม่ค่อยมีความมนั่ ใจในตวั เอง จะทาอะไรกต็ อ้ งคอย ตามเพ่ือน จะแตง่ ตวั กต็ อ้ งตามแฟชนั่ ไม่กลา้ ท่ีจะทาอะไรแตกตา่ งจากคนอ่ืน ท้งั ๆ ท่ีรู้วา่ ส่ิงท่ีคุณอยาก ทาน้นั เป็นส่ิงดี –หรือบางที กต็ อ้ งจาใจทาตามเพ่ือนท้งั ๆ ที่รู้วา่ ส่ิงที่เพื่อนทา

วยั รุ่นกบั ยาเสพติด เรื่องการลองยาเสพยาในหมู่วยั รุ่นเป็นเร่ืองท่ีฮิตมาก เป็นมาทุกยคุ ทุกสมยั และผใู้ หญ่จานวนมากทีเดียวท่ีมกั เหมา เอาวา่ เป็นเพราะความอยากรู้อยากลองและเป็นหนีออกจากบา้ น/ไม่อยากอยบู่ า้ น วยั รุ่นหนีออกจากบา้ น / ไม่อยากอยบู่ า้ น มกั มีสาเหตุหลกั ๆ อยา่ งนอ้ ย 2 ประการ คือ 1. บา้ นไม่เป็นสุข 2. ติดเพอื่ น ทางช่วยเหลือแกไ้ ขท่ีดีกค็ ือ แกต้ ามเหตุ 2 ประการน้นั ท้งั น้ีอยา่ ไดด้ ่วนวติ ก และต่ืนตระหนก จนเกินไป คิดมากและกงั วลบ่อยๆ ปัญหาของเดก็ วยั รุ่นท่ีมีลกั ษณะคิดมากและกงั วลใจบ่อย ๆ น้นั โดยทว่ั ไปวยั รุ่น จะเป็นวยั ที่ช่างคิดช่างฝันและช่าง จินตนาการ ซ่ึงในบางคนจะมีลกั ษณะ คิดมากกวา่ ทา หรือผดิ แลว้ มิไดพ้ ดู คุยใหใ้ ครทราบ แต่จะคิดวนในเร่ืองเดิมซ้า ๆ หรือบางคนจะครุ่นคิดเก่ียวกบั ปัญหาใด

วยั ผใู้ หญ่ -การเปลยี่ นแปลงทางด้านร่างกาย บุคคลในวยั ผใู้ หญ่ตอนตน้ มีการพฒั นาทางร่างกายอยา่ งเตม็ ท่ีท้งั เพศหญิงและเพศชาย ร่างกายสมบูรณ์ มีการพฒั นา ความสูงมาจากวยั รุ่นและจะมีความสูงที่สุดในวยั ผใู้ หญ่ตอนตน้ น้ี รวมท้งั กลา้ มเน้ือและเน้ือเยอื่ ไขมนั มีการพฒั นาอยา่ งเตม็ ท่ี เช่นกนั ในวยั น้ีร่างกายจะมีพลงั คลอ่ งแคลว่ วอ่ งไว การรับรู้ต่าง ๆ จะมีความสมบูรณ์เตม็ ท่ี จนกระทง่ั เขา้ สู่วยั กลางคน ความสามารถตา่ ง ๆ เหลา่ น้ีจะลดลง -การเปลย่ี นแปลงทางด้านอารมณ์ วยั ผใู้ หญ่จะมีการควบคุมอารมณ์ไดด้ ีข้ึน มีความมน่ั คงทางจิตใจดีกวา่ วยั รุ่น คานึงถึงความรู้สึกของผอู้ ่ืน รู้สึกยอมรับ ผอู้ ่ืนไดด้ ีข้ึน มีพฒั นาการดา้ นอารมณ์รัก ไดใ้ นหลายรูปแบบ การเกบ็ กด (Impulsiveness) นอ้ ยลง แตจ่ ะใชก้ าร ตอบสนองดว้ ยเหตุผลท้งั กบั ตนเองและผอู้ ่ืนมากข้ึน

วยั ผใู้ หญ่ การเปลีย่ นแปลงทางด้านสังคม วยั น้ีจะใหค้ วามสาคญั กบั กล่มุ เพอ่ื นร่วมวยั ลดลง จานวนสมาชิกในกลุ่มเพ่ือนจะลดลง แตส่ ัมพนั ธภาพ ในเพ่ือนท่ีใกลช้ ิดหรือเพ่ือนรักยงั คงอยแู่ ละจะมีความผกู พนั กนั มากกวา่ ความผกู พนั ในลกั ษณะของคู่รักและ พบวา่ มกั เป็นในเพื่อนเพศเดียวกนั การสมั พนั ธ์กบั บุคคลในครอบครัวจะเพม่ิ ข้ึน เน่ืองจากเป็นวยั ที่เริ่มใช้ ชีวติ ครอบครัวกบั คูข่ องตนเอง และเกิดการปรับตวั กบั บทบาทใหม

วยั ผใู้ หญ่ การเปลย่ี นแปลงทางสติปัญญา วยั ผใู้ หญ่มีพฒั นาการทางความคิดสติปัญญาอยใู่ นระดบั Formal operations ซ่ึงเป็นข้นั สูง ท่ีสุดของพฒั นาการ มีความสามารถทางสติปัญญาสมบูรณ์ท่ีสุดคือคุณภาพของความคิดจะเป็ นระบบ ผใู้ หญ่จะมีความคิดเปิ ดกวา้ ง ยดื หยนุ่ มากข้ึน และรู้จกั จดจาประสบการณ์ที่ไดเ้ รียนรู้ ทาใหส้ ามารถ ปรับตวั เขา้ กบั สถานการณ์ต่

วยั สูงอายุ -การเปลี่ยนแปลงทางดา้ นร่างกาย การเปลี่ยนแปลงทางดา้ นร่างกายโดยทวั่ ไปของวยั น้ีจะเป็นไปในทิศทางของความเส่ือม อยา่ งไรกต็ าม จะมีความแตกตา่ งระหวา่ งบุคคลเป็นอยา่ งมากในสภาพในสภาพของความเสื่อมแมแ้ ตใ่ นคนเดียวกนั กย็ งั มี ความแตกต่างในอตั ราของความเสื่อมของอวยั วะต่าง ๆ ด้งั น้ี 1.1 โฉมภายนอก มีการเปล่ียนแปลงตามวยั เช่น ผวิ หนงั เหี่ยวยน่ มีจุดตกกระเพิ่มข้ึน ผมจะบางและจะ เปลี่ยนเป็นสีเทาหรือสีขาว หลงั โกง การเคล่ือนไหวเชื่องชา้ พละกาลงั นอ้ ยลง 1.2 อวยั วะเก่ียวกบั การรับความรู้สึก ดูเหมือนหนา้ ที่ไดร้ ับความรู้สึกจะเป็นอวยั วะหน่ึงท่ีเส่ือมเป็นอนั ดบั แรกในระยะเริ่มชรา ผนงั เสน้ โลหิตแดงในหูจะแขง็ ตวั ทาใหไ้ ดย้ นิ เสียงไม่ชดั เจน เสียงที่มกั ไม่ไดย้ นิ ก่อน คือเสียงแหลมหรือเสียงท่ีมีความถ่ีสูง

วยั สูงอายุ 1.3 เสียง การเปล่ียนแปลงของเสียงมีสาเหตุหน่ึงมาจากการแขง็ ตวั และการขาดความยดื หยนุ่ ของกระดูก ออ่ นบริเวณกลอ่ งเสียงทาใหม้ ีน้าเสียงสูงแต่ไม่มีพลงั และเปล่ียนแปลงไดน้ อ้ ย 1.4 ฟัน ฟันธรรมชาติในผสู้ ูงอายจุ ะเปลี่ยนไป โดยเฉพาะส่วนมากมกั จะมีเหงือกร่น รากฟันโพลพ่ น้ ขอบ เหงือก ซ่ึงอาจทาใหม้ ีอาการเสียวหรือผไุ ดง้ ่าย 1.5 ภาวะสมดุลร่างกาย (homeostasis) โดยปกติร่างกายของมนุษยจ์ ะพยายามปรับอณุ หภมู ิและ สภาพทางชีวเคมีใหเ้ กิดความสมดุลตลอดเวลา 1.6 ระบบประสาท เซลลป์ ระสาทจะมีอายไุ ดน้ าน แตเ่ ม่ือมีอาการเส่ือมสลายแลว้ จะไม่มีการแทนทีใหม่ อตั ราการเสื่อมสลายหรือการตายของเซลลป์ ระสาทโดยเฉลี่ยมีประมาณ 1 ตอ่ ปี หลงั อายุ 50 ปี ไปแลว้

วยั สูงอายุ 1.7 กระดูกกระดูกในผสู้ ูงอายแุ ละผกุ ร่อน เป็นผลใหก้ ระดูกหกั ไดง้ ่าย 1.8 กลา้ มเน้ือ กลา้ มเน้ือจะเลก็ และลีบลง จะมีไขมนั เขา้ ไปแทรกในกลา้ มเน้ือ 1.9 ระบบทางเดินอาหาร อาหารที่ทานเขา้ ไปจะยอ่ ยและดูดซึมไดช้ า้ ลง 1.10 ระบบการไหลเวยี นโลหิต ผนงั เส้นโลหิตแดงแขง็ และขาดความยดื หยนุ่

การเปลี่ยนแปลงทางดา้ นอารมณ์ โดยธรรมชาติแลว้ วยั สูงอายเุ ป็นวยั ที่มีความสงบเยอื กเยน็ หมดความกระตือรือร้นในชีวติ เป็นวยั ที่ตอ้ งการ ความสงบ ตอ้ งการพกั ผอ่ น แต่สภาพสงั คมในปัจจุบนั ผสู้ ูงอายตุ อ้ งเชิญกบั เหตกุ ารณ์ที่บีบค้นั ประสาทและ จิตใจมากข้ึน จึงเป็นสิ่งท่ีควรทราบเก่ียวกบั การเปลี่ยนแปลงทางจิตใจของคนวยั น้ี วยั น้ีเป็นวยั ที่ตอ้ งปรับตวั ตอ่ โลกภายนอกและปรับตวั ต่อการสูญเสียตามวยั เช่น สูญเสียความสามารถทางร่างกาย สูญเสียมรรควิธีใน การปลดปล่อยแรงขบั พน้ ฐาน สูญเสียในวฒั นธรรมท่ีสนใจแตอ่ นาคตของคนหนุ่มสาว ผสู้ ูงอายมุ กั หวาดกลวั ความเจบ็ ไขไ้ ดป้ ่ วย กลวั ความตาย กลวั ความสูญเสียเพอ่ื น ฉะน้นั จึงเป็นการยากท่ีจะใหผ้ สู้ ูงอายุ เหลา่ น้ีแสดงความแจ่มใสร่าเริงเป็นนิจสินไดใ้ นเมื่อจิตใจของเขาเตม็ ไปดว้ ยความวติ กกงั วล นอกจากน้ี ผสู้ ูงอายมุ กั จะยดึ ถือตนเองเป็นส่วนใหญน่ ิยมชมชอบแต่เร่ืองและความคิดสมยั ตนเอง จึงทาใหเ้ ขา้ กบั วยั อ่ืน ๆ ไดย้ ากโดยเฉพาะกบั วยั รุ่น ซ่ึงเป็นสาเหตหุ น่ึงที่ผสู้ ูงอายเุ กิดความอา้ งวา้ ง ยงิ่ ถา้ ถกู ทอดทิ้ง หรือปล่อยให้ อยตู่ ามลาพงั สามีภรรยา เพราะลูกหลานตา่ งแยกยา้ ยไปมีครอบควั หรือไปประกอบอาชีพตามความถนดั พฒั นาการดา้ นอารมณ์ของผสู้ ูงอายจุ ะข้ึนอยกู่ บั ลกั ษณะและรูปแบบที่เป็นมาต้งั แต่เดิมของบุคลิกภาพจะยงั คงไวไ้ ด้ รูปแบบบุคลิกที่มนุษยป์ รับตนเองเม่ือเขา้ สู่วยั สูงอายแุ บ่งไดด้ งั น้ี

การเปลี่ยนแปลงทางดา้ นอารมณ์ 1. บุคลิกแบบผสมผสาน (integrated) เป็นลกั ษณะของบุคคลที่ยงั รักษาความเป็นตวั ของตวั เองได้ เสมอ พอใจในชีวติ ท่ีผา่ นมาและพอใจในสิ่งท่ีตนมีอยยู่ อมรับสภาพความจริงและบงั คบั ตวั เองได้ ปรับตวั ใหเ้ หมาะสมกบั ส่ิงแวดลอ้ ม 2.บุคลิกแบบต่อตา้ น (armoured หรือ defended) เป็นลกั ษณะของความสูงอายทุ ี่พยายามตอ่ สู้ กบั ความเส่ือมถอยหวาดหวนั่ ของชีวติ แบบเป็นลกั ษณะต่าง ๆ 3.บุคลิกภาพเฉยชาและพ่ึงพาบุคคลอ่ืน กลุม่ น้ีตอ้ งการใหค้ วามตอ้ งการทางอารมณ์ของตนไดร้ ับการ ตอบสนอง รู้สึกวา่ ตนเองไม่สามารถช่วยตนเองไดถ้ า้ ปราศจากผชู้ ่วยเหลือ 4.บุคลิกภาพแบบการผสมผสาน (unintegrated or disorganized) จะมีความเส่ือมท้งั ดา้ น ร่างกายและจิตใจ ขาดการควบคุมอารมณ์ แสดงออกถึงความบกพร่องทางดา้ นความคิดอ่านและภาวะจิตใจ อยา่ งเห็นไดช้ ดั จะยงั คงอยใู่ นสงั คมได้ แตจ่ ะมีพฤติกรรมและความพ่ึงพอใจตอ่ ชีวติ อยใู่ นระดบั ต่า

การเปลี่ยนแปลงทางดา้ นสงั คม การเปล่ียนแปลงท่ีมีผลต่อการใชช้ ีวิตทางสังคมของคนวยั น้ีคือ การมีเวลาวา่ งมากข้ึนทาให้สามารถกระทากิจกรรมเพื่อการพกั ผ่อนหยอนใจได้ มากข้ึน เช่น การเดินทางท่องเท่ียว การปลูกตน้ ไม้ เขา้ กลุ่มศึกษาและปฏิบตั ิธรรม เป็ นตน้ แต่จะมีขอ้ จากดั ในการมีสัมพนั ธภาพกบั ผอู้ ื่น เนื่องจาก บทบาททางสังคมลดลง เช่น การหยุดประกอบอาชีพ การตายของญาติ เพื่อนฝูงคู่สมรส และการเส่ือมของสุขภาพ ประกอบกับวยั สูงอายุจะ มีความสนใจตนเองเพ่ิมข้ึน จะสนใจบุคคลอ่ืนลดลง ในวยั น้ีอาจจะมีการยา้ ยที่อยดู่ ้วยเหตุผลต่าง ๆ กนั บางคนอาจจะรู้สึกว่าบา้ นที่อย่ปู ัจจุบนั น้ีหลงั ใหญ่ไป ทาความสะอาดลาบาก บางคนก็ขายบา้ นแลว้ ยา้ ยไปอยใู่ กล้ ๆ กบั ลูกคนใดคนหน่ึง บางคนก็ยา้ ยออกไปอยใู่ นสถานที่อากาศดีกว่าเดิม หรือยา้ ย ไปอยทู่ ่ีสถานสงเคราะห์คนชรา การยา้ ยท่ีอยตู่ อ้ งการปรับตวั เสมอ ผสู้ ูงอายตุ อ้ งเรียนรู้อาศยั ในการอาศยั อยใู่ นเมืองใหม่ ผสู้ ูงอายทุ ี่ไมไ่ ดอ้ าศยั อยบู่ า้ พกั คนชรา มกั ตอ้ งอาศยั ลูกหลานเก้ือกูล ยงิ่ อายเุ พิม่ มากข้ึนกต็ อ้ งพ่งึ พิงครอบครอบมากข้ึน ดว้ ยความสมั พนั ธภาพ กบั บตุ รหลานจะราบรื่นหรือไมข่ ้ึนอยอู่ ยา่ งมากกบั สมั พนั ธภาพที่เขาใหก้ บั ลูกเม่ือลูกยงั เลก็ ถา้ สมั พนั ธภาพเคยเป็นมาแลว้ ดว้ ยดีกไ็ ม่สูจ้ ะยากลาบาก มากนกั ภาวะการเป็นหมา้ ยพบไดเ้ สมอในวยั ผสู้ ูงอายุ โดยเฉพาะในสตรี เน่ืองจากชายมกั อายสุ ้นั กวา่ หญิง การปรับตวั ตอ่ การตายของคูส่ มรสน้นั ยาก เป็นพเิ ศษในวยั สูงอายุ

การเปล่ียนแปลงทางดา้ นสติปัญญา เม่ือเขา้ สู่วยั สูงอายุ สมองฝ่ อและมีน้าหนกั ลดลง มีเลือดมาเล้ียงสมองนอ้ ยลง เซลลป์ ระสาทตายเพ่ิมข้ึนและจานวนเซลล์ ลดลงตามอายุ ทาใหส้ มองเส่ือม ความจาเส่ือมโดยเฉพาะความจาในเหตุการณ์ปัจจุบนั (recent memory) และ ความจาเฉพาะหนา้ (immediate memory) แต่ความจาในอดีต (remote memory) จะไม่เสีย แตก่ าร ประสานงานระหวา่ งประสาทสมั ผสั กบั ความคิดอา่ นจะเช่ืองชา้ ลง ผสู้ ูงอายจุ ึงมีประสิทธิภาพในอนั ท่ีจะใส่ใจตอ่ ส่ิงเร้าไม่ไว หรือดีเท่าคนอายนุ อ้ ย และมีลกั ษณะความคิดไม่ยดื หยนุ่ การแกป้ ัญหาของผสู้ ูงอายมุ ีแนวโนม้ ที่จะใหค้ วามสนใจกบั ส่ิงท่ี ไมใ่ ช่ขอ้ มลู หรือส่วนท่ีไม่ตรงเป้าหมายของปัญหาน้นั ๆ ผสู้ ูงอายมุ ีความยงุ่ ยากลาบากในการทาความเขา้ ใจกบั ส่ิงที่จะตอ้ งเรียน และบกพร่องในดา้ นท่ีจะเก็บขอ้ มูลไวใ้ นความจา ระยะส้นั ใหย้ าวนานเพียงพอ เพ่ือฝังรอยเป็นความจาถาวร การใหอ้ ยใู่ นสภาพแวดลอ้ มท่ีคุน้ เคยใหช้ ่วงเวลาท่ีเหมาะสมเพ่ือ ทาความเขา้ ใจกบั ขอ้ มลู จะช่วยไดม้ าก จะเห็นวา่ ผสู้ ูงอายมุ กั หนั มาสนใจทางศาสนา


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook