เพศกบั วฒั นธรรมไทย วยั รุ่นเป็นช่วงท่ีเริ่มมีความรู้สึกทางเพศ มีความตอ้ งการทางเพศสูง เนื่องจากความพร้อมของร่างกาย ประกอบกบั เป็นช่วงที่มีอารมณ์อ่อนไหว ซ่ึงลกั ษณะดงั กลา่ วน้ี อาจนาไปสู่การมีเพศสมั พนั ธใ์ นวยั เรียนไดง้ ่าย
ปัญหาและผลกระทบท่ีเกดิ จากการมเี พศสัมพนั ธใ์ นวยั เรยี น ปัญหาที่เกิดจากการมีเพศสัมพนั ธ์ในวยั เรียน 1. ด้านสุขภาพกาย 1.1 การต้งั ครรภโ์ ดยไม่พงึ ประสงค์ หมายถึง การต้งั ครรภใ์ นขณะที่ยงั ไม่พร้อม และ นาไปสู่การทาแทง้ 1.2 การติดเช้ือโรค ติดต่อทางเพศสมั พนั ธ์ หมายถึง โรคท่ีเกิดข้ึนจากการมีเพศสัมพนั ธ์ เช่น ซิฟิ ลิส หนองใน 1.3 โรคเอดส์ เป็นภาวะที่เกิดภมู ิคุม้ กนั ในร่างกายบกพร่อง
2. ด้านจติ ใจ ทาใหเ้ กิดความกลวั วิตกกงั วล เสียใจ ผิดหวงั และทุกขใ์ จ ซ่ึงทาใหเ้ รียนหนงั สือ ไม่รู้เรื่อง ถา้ ไม่สามารถแกป้ ัญหาได้ อาจก่อใหเ้ กิดความเครียดจนถึงข้นั ฆ่าตวั ตายได้ 3. ผลกระทบในระยะยาว การต้งั ครรภใ์ นวยั รุ่น ก่อใหเ้ กิดผลกระทบระยะยาวหลายประการ เช่น 1) ทาใหเ้ สียอนาคต เกิดความอบั อาย ขาดโอกาสในการศึกษาตอ่ 2) อาจนาไปสู่การทาแทง้ ซ่ึงเป็นการกระทาที่ผิดศีลธรรม และเป็นอนั ตรายตอ่ ผตู้ ้งั ครรภ์ 3) เป็นปัญหาตอ่ ครอบครัวและสงั คม เนื่องจากวยั รุ่นยงั ไม่มีความพร้อมท้งั บทบาท หนา้ ที่และความรับผิดชอบในการดูแลครอบครัวและลกู ทาใหต้ อ้ งเป็นภาระของพอ่ แม่ ใน การเล้ียงดูและอาจเกิดปัญหาทารกถกู ทิ้งหลงั คลอด ซ่ึงเป็นภาระของสงั คมที่ตอ้ งดูแล 4) หากปล่อยใหม้ ีบุตร อาจมีปัญหาในการอบรมเล้ียงดู 5) ทาใหส้ ูญเสียอนาคตของชาติ
๑. ครอบครัว เจตคติตอ่ เรื่องเพศ เป็นส่ิงที่ไดร้ ับการปลูกฝังมาต้งั แต่เดก็ จากการอบรมสงั่ สอนของพอ่ แม่หรือ จากท่าทีของพอ่ แม่ที่มีตอ่ เร่ืองเพศ เช่น พอ่ แม่บางคนจะไม่พดู ถึงเร่ืองเพศกบั ลูก ถา้ ลูกซกั ถาม หรือมีความสนใจ จะถกู ดุหรือถูกลงโทษ ซ่ึงทาใหเ้ ดก็ มีเจตคติท่ีไม่ดี ในเรื่องเพศ คิดวา่ เรื่องเพศ เป็นเรื่องไม่เหมาะสม เม่ือโตข้ึนอาจจะเกิดปัญหาทางเพศได้ ดงั น้นั การอยใู่ นครอบครัวที่ปลกู ฝัง ใหค้ วามรู้ท่ีถกู ตอ้ งในเรื่องเพศ มีการพดู คุยแลกเปลี่ยนความคิดคา่ นิยม รวมท้งั การใหข้ อ้ เทจ็ จริง ในเร่ืองเพศท่ีกาลงั อยใู่ นความสนใจ จะช่วยใหเ้ ขา้ ใจธรรมชาติในเร่ืองเพศ และเรียนรู้ท่ีจะวางตวั ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ๒. วฒั นธรรม ขนบธรรมเนียม ประเพณี วฒั นธรรมไทย เป็นส่ิงที่บ่งบอกถึงความเป็นชาติไทย ไม่วา่ จะเป็นเร่ืองการแตง่ กาย ท่ีไมเ่ ปิ ดเผยเรือนร่าง การรักนวลสงวนตวั ไม่เปิ ดโอกาสใหผ้ ชู้ ายสมั ผสั แตะเน้ือตอ้ งตวั เป็นส่ิงที่ดีงามและยงั เหมาะสมกบั สงั คมปัจจุบนั
๓. เพื่อน เพือ่ นมีความสาคญั ตอ่ วยั รุ่น หากคบเพือ่ นที่ไม่ดีกม็ ีแนวโนม้ ท่ีจะประพฤติไม่ดีตามเพ่อื น เพราะวยั รุ่นมกั เชื่อและฟังความคิดเห็นของเพอื่ น และการตอ้ งการเป็นท่ียอมรับของกล่มุ เพอ่ื น ทาใหม้ ีพฤติกรรมตามเพ่ือน ๔. สื่อต่างๆ ปัจจุบนั มีส่ือที่ไม่เหมาะสมมากมาย และสามารถเขา้ ถึงวยั รุ่นไดอ้ ยา่ งรวดเร็วและเปิ ดเผย เช่น หนงั สือการ์ตูนนิยาย ท่ีแทรกภาพและเน้ือหาทางเพศที่ไม่เหมาะสมส่ืออินเทอร์เนต็ ท่ีมี ภาพโป๊ มีการดูคลิปวดิ ีโอ ผา่ นทางโทรศพั ทม์ ือถือ ซ่ึงหากวยั รุ่นเสพสื่อต่างๆ ท่ีไม่เหมาะสม กจ็ ะมีผลต่อเจตคติในเรื่องเพศดว้ ย ดงั น้นั จึงตอ้ งเลือกรับสื่อท่ีเหมาะสมกบั วยั ใหค้ วามรู้ สอดแทรก แง่คิดท่ีดีในการนาไปใชด้ าเนินชีวิต
ค่านิยม หมายถึง ความรู้สึกนึกคิด การให้คุณค่าหรือเช่ือถือท่ีมีต่อสิ่งหน่ึงค่านิยมทางเพศจึง เป็นเร่ืองของความรู้สึกการใหค้ ุณค่า ดงั น้นั วยั รุ่นจึงใหค้ วามสนใจและทาความเขา้ ใจในเร่ืองเพศและ คา่ นิยมทางเพศ อยา่ งเหมาะสม 1. เรื่องเพศเป็นเร่ืองธรรมชาติของมนุษย์ นกั เรียนจะเห็นไดว้ า่ เรื่องเพศเป็นเรื่องท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั ทุกคนต้งั แต่กาเนิด ดงั น้นั เรื่องเพศจึงไม่ใช่ เร่ืองน่ารังเกียจหรือเป็นเร่ืองเลวร้าย แต่เราควรประพฤติปฏิบตั ิตนในทางสร้างสรรค์ หลีกเลี่ยงในการ ปลุกเร้าอารมณ์ทางเพศหรือในทางลามกอนาจาร
2. เพศชายและเพศหญิง มีศกั ด์ิศรีเท่าเทียมกนั ตามหลกั สิทธิมนุษยชน ในอดีตสงั คมไทยใหค้ วามสาคญั กบั เพศชายมากกวา่ เพศหญิง เพราะบทบาทในการประกอบ สมั มาอาชีพเพอ่ื หารายไดม้ าเล้ียงครอบครัวน้นั ส่วนใหญเ่ ป็นของฝ่ ายชาย ฝ่ ายหญิงมีหนา้ ที่ดูแล ความเรียบร้อยในบา้ น จดั เตรียมอาหาร ดูแลบุตร แตใ่ นปัจจุบนั เพศหญิงมีโอกาสในการไดร้ ับ การศึกษา การประกอบอาชีพและสถานภาพทางสงั คมเท่าเทียมกบั เพศชาย ดงั น้นั เราจึงควรเคารพ ในสิทธิและศกั ด์ิศรีของตนเองเช่นเดียวกบั การเคารพในสิทธิและศกั ด์ิศรีของเพศตรงขา้ ม
3. คา่ นิยมทางเพศอาจแตกตา่ งกนั ไปตามสภาพสังคม ประเพณี และ วฒั นธรรม นกั เรียนจะเห็นไดว้ า่ ในแต่ละสงั คมจะมีขนบธรรมเนียม ประเพณี ความเชื่อ วิถีการดาเนินชีวิตและ องคป์ ระกอบอื่นๆ ของสังคมท่ีแตกตา่ ง เน่ืองจากบุคคลในสงั คมกม็ ีความแตกตา่ งกนั รวมท้งั คา่ นิยมในเร่ือง เพศค่านิยมบางอยา่ งอาจมีความเหมาะสมกบั อีกสงั คมหน่ึง แตอ่ าจไม่เหมาะสมกบั อีกสังคมหน่ึง ดงั น้นั การจะ รับค่านิยมทางสังคมและวฒั นธรรมอื่นมาใชต้ อ้ งพิจารณาไตร่ตรองใหร้ อบคอบ วา่ คา่ นิยมน้นั เหมาะสมและ เป็นการยอมรับของสงั คมไทยหรือไม่
4. ในสังคมเดียวกนั อาจมีความเช่ือ ค่านิยมทางเพศ และการแสดงออกในเรื่องเพศท่ีแตกต่างกนั การท่ีคนเรามีความแตกตา่ งระหวา่ งบุคคล รวมท้งั มีการอบรมจากครอบครัว มีสภาพแวดลอ้ ม และประสบการณ์ทางเพศที่ต่างกนั ทาใหบ้ ุคคลมีการแสดงออกทางเพศท่ีต่างกนั ดงั น้นั นกั เรียน ควรใชว้ ิจารณญาณในการปฏิบตั ิตนตามแบบอยา่ งท่ีเหมาะสมและถูกตอ้ ง 5. การแสดงออกเร่ืองอารมณ์ทางเพศของมนุษย์ ทุกคนมีการตอบสนองต่อการกระตนุ้ อารมณ์ทางเพศ แต่ควรคานึงถึงความเหมาะสม เช่น ใน บุคคลที่ยงั ไม่สมรสกไ็ ม่ควรตอบสนองการกระตุน้ โดยการมีเพศสมั พนั ธ์ เนื่องจากก่อใหเ้ กิด ผลกระทบตามมา เช่นการต้งั ครรภใ์ นเวลาท่ีไม่พึงประสงคต์ ามมา การเกิดโรคติดตอ่ ทาง เพศสัมพนั ธ์ ซ่ึงกจ็ ะทาใหต้ นเองและครอบครัวเกิดความเดือดร้อนและเป็นทุกข์ จึงควรหาทางออกท่ี จะไม่ก่อใหเ้ กิดปัญหา เช่น การเบ่ียงเบนความสนใจ โดยการเลน่ กีฬา ดูหนงั ฟังเพลง
6. การปฏิบัติตนเกยี่ วกับเร่ืองเพศและมพี ฤติกรรมทางเพศ ควรสอดคล้องกับจารีตประเพณีของ สังคมไทย ในสังคมทุกสังคมจะมีขอ้ กาหนดหรือแนวทางปฏิบตั ิตนในเร่ืองเพศตามธรรมนองครองธรรม เพ่อื ความดีงามและความสงบเรียบร้อยของสังคม เช่น ในสังคมไทยจะมีสานวนโวหารที่แสดงถึง คา่ นิยมทางเพศที่ดีในสงั คม เช่น การรักนวลสงวนตวั เขา้ ตามตรอกออกตามประตู 7. ควรตระหนกั วา่ เรื่องเพศน้นั มีความเกี่ยวขอ้ งกบั ชีวิตและมีความหมายกวา้ งขวางเก่ียวกบั คนเราใน หลายมิติ ท้งั ดา้ นสรีรวทิ ยา สังคมวทิ ยา จิตวทิ ยา และจริยธรรมเรื่องเพศมิไดห้ มายความวา่ เฉพาะเรื่อง ระบบสืบพนั ธุ์และการมีเพศสัมพนั ธ์เท่าน้นั
8. การมีพฤติกรรมทางเพศที่เหมาะสมกบั วยั จะช่วยลดความเส่ียงต่อปัญหาทางเพศ การมีพฤติกรรมทางเพศที่เกินวยั จะก่อใหเ้ กิดปัญหาและผลกระทบตามมาหลายประการ เช่น นกั เรียนหญิง ที่อยใู่ นวยั ศึกษาเลา่ เรียนควรหลีกเล่ียงการแต่งกายท่ีรัดรูปหรือเปิ ดเผยจนเห็นสดั ส่วนอยา่ งชดั เจน เช่น การใส่ เส้ือเอวลอย สวมกระโปรงหรือกางเกงเอวต่าจนเกินไป การนุ่งส้ันหรือใส่เส้ือเกาะอก เพราะการแต่งตวั เช่นน้ี เป็นการยว่ั ยอุ ารมณ์และอาจก่อใหเ้ กิดปัญหาทางเพศตามมา
การป้องกนั การลดความขดั แย้ง และแก้ปัญหาเรื่องเพศและครอบครัว การมเี พศสัมพนั ธก์ ่อนวยั อนั ควร อาจก่อให้เกดิ ปญั หาการตดิ โรคติดตอ่ ทางเพศสมั พันธ์ โรคเอดส์ หรือการต้งั ครรภโ์ ดยไมพ่ ึงประสงคไ์ ด้ ดังน้ันวยั รุ่นจงึ ควรคดิ ให้รอบคอบ และรู้จักวิธีปอ้ งกัน ตนเองไม่ให้ตกอย่ใู นสถานการณ์เสย่ี งตา่ งๆ ดังนี้ 1. การวิเคราะห์สถานการณ์เสยี่ งทางเพศ เช่น การถูกกระทาชาเรา ถกู ข่มขืน ถกู หลอกให้มี เพศสมั พนั ธ์ หรือทาใหข้ าดสติ การถูกยั่วยอุ ารมณ์ใหม้ ีเพศสมั พันธ์ด้วยความเต็มใจ 2. การหลกี เลย่ี งสถานการณ์เส่ยี ง ตอ้ งร้จู กั หลกี เลี่ยงทจ่ี ะเขา้ ไปอยใู่ นสถานการณ์เสี่ยง โดยใช้ คาพูดในการปฏิเสธที่จริงจงั อยา่ หวนั่ ไหวกบั คาพูด อย่าใจอ่อนตอ่ คาชักชวน หรอื คาทา้ ทาย อาจทาให้ เราตกเปน็ เหยอ่ื ได้โดยง่าย
3. การหลกี เลี่ยงสถานการณ์ยั่วยุอารมณ์ทางเพศ เช่น การแต่งกายทล่ี อ่ แหลม เปดิ เผยเรอื นรา่ ง หรอื แตง่ กายรัดรปู การพูดจาหรอื แสดงพฤติกรรมเชื้อเชญิ การดสู ่อื การ์ตนู หนังสือท่ยี ่วั ยอุ ารมณท์ างเพศ การเสพสารเสพตดิ ของมึนเมาทที่ าให้ขาดสติ ซง่ึ จะนาไปสูก่ ารมเี พศสมั พนั ธ์ได้ง่าย 4. การใชถ้ ุงยางอนามยั เป็นข้นั ตอนสดุ ท้าย หากตกอยูใ่ นสถานการณ์เสี่ยงและไม่สามารถ หลกี เลย่ี งได้ เพ่อื เป็นการลดปัญหาจากการตง้ั ครรภ์โดยไม่พึงประสงค์ และเพ่ือปอ้ งกนั การเกิดโรคติดตอ่ ทางเพศสมั พันธ์ และโรคเอดส์
การวางตัวอย่างเหมาะสม มนุษยเ์ ป็นสตั วส์ งั คมที่ตอ้ งมีการพ่งึ พาอาศยั กนั การทากิจกรรมหรือการใชช้ ีวิต ร่วมกนั ท้งั กบั เพศเดียวกนั และต่างเพศ ดงั น้นั การวางตวั ที่ถูกตอ้ งเหมาะสมกบั เพศเป็นสิ่ง ท่ีจาเป็นท่ีจะทาใหส้ ามารถอยรู่ ่วมกบั บุคคลอื่นไดอ้ ยา่ งมีความสุข ควรปฏิบตั ิ ดงั น้ี 1. การวางตัวต่อเพศเดยี วกนั หมายถึง การที่ชายกบั ชายหรือหญิงกบั หญิงประพฤติ ปฏิบตั ิต่อกนั เพอ่ื สร้างสมั พนั ธภาพที่ดีระหวา่ งกนั ดว้ ยการพดู จาสุภาพ ไพเราะ แสดง กิริยาท่าทางท่ีเป็นมิตรต่อกนั ใหค้ วามช่วยเหลือตามความเหมาะสม ชกั ชวนปฏิบตั ิ ในส่ิงท่ีดีมีความเอ้ืออาทรต่อกนั 2. การวางตวั ต่อเพศตรงข้าม หมายถึง การท่ีชายและหญิงประพฤติปฏิบตั ิต่อกนั เพอ่ื สร้างสมั พนั ธภาพท่ีดีระหวา่ งกนั ในสงั คมไทยจะอบรมสง่ั สอนไมใ่ หช้ ายและหญิง อยใู่ กลช้ ิดกนั มากเกินไป ซ่ึงเราควรปฏิบตั ิตามขนบธรรมเนียมประเพณีอนั ดีงามน้ี เพราะความใกลช้ ิดกนั มากเกินไป อาจนาไปสู่การมีสมั พนั ธ์ทางเพศได้
การจดั การกบั อารมณ์ทอี่ าจก่อให้เกดิ ความขดั แย้ง จะตอ้ งมีการฝึกการควบคุมอารมณ์ดงั น้ี 1. ใชส้ ติระงบั อารมณ์ที่รุนแรง 2. หลีกเล่ียงสถานการณ์ท่ีก่อใหเ้ กิดความตึงเครียด 3. พดู ปรับทุกขห์ รือเลา่ ใหผ้ ทู้ ี่ไวใ้ จได้ เพือ่ เป็นการผอ่ นคลายความตึงเครียดของตนเอง 4. ออกกาลงั กายสม่าเสมอ 5. สร้างอารมณ์ที่พึงปรารถนา เช่น อา่ นหนงั สือ ฟังหรือเล่นดนตรี ปลูกตน้ ไม้ 6. คน้ หาสาเหตขุ องอารมณ์ที่ไม่พึงปรารถนา เมื่อเขา้ ใจสาเหตกุ จ็ ะคลายความตึงเครียดลง
Search
Read the Text Version
- 1 - 15
Pages: