Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายงานการค้นคว้าวิจัย ปี2563

รายงานการค้นคว้าวิจัย ปี2563

Published by minton_noom, 2022-07-31 07:07:56

Description: รายงานการค้นคว้าวิจัย ปี2563

Search

Read the Text Version

คำนำ รายงานการศึกษาค้นควา้ ผลการวิจัยเลม่ นีจ้ ดั ทาข้ึนเพื่อเป็นการแสวงหาองค์ความร้ใู นด้านต่าง ๆ เพ่ือ นามาประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการสถานศึกษาและการพัฒนาแนวทางสาหรับการขับเคลื่อนการดาเนินงาน ของสถานศกึ ษาเพื่อความเป็นเลศิ ทางด้านกระบวนการบรหิ ารจดั การสถานศึกษา คณุ ภาพผเู้ รยี น คณุ ภาพครู ซึ่งเน้ือหาภายในรายงานเล่มน้ีประกอบไปด้วย ชื่องานวิทยานิพนธ์หรืองานวิจัย ภูมิหลังหรือท่ีมาและ ความสาคญั ของงานวจิ ยั วตั ถุประสงคก์ ารวจิ ัย ขอบเขตของการวจิ ยั เอกสารหรอื วรรณกรรมท่เี ก่ยี วขอ้ ง วิธีดาเนินการวิจัย สรุปผลการวิจัย สรุปข้อเสนอแนะของงานวิจัยเร่ืองนี้ และการนางานวิจัยช้ินน้ีไปใช้ ประโยชน์อย่างไร ซึ่งผู้ศึกษาค้นคว้ามีความมุ่งมั่น ต้ังใจในการศึกษาค้นคว้างานวิจัยเป็นอย่างย่ิงเพ่ือให้ได้ สารสนเทศที่มีความน่าเช่ือถือและสามารถใช้เป็นแหล่งความรู้ และอ้างอิงในการประยุกต์ใช้ในการบริหาร จัดการสถานศึกษา อีกท้ังทาให้ผู้ค้นคว้าได้เรียนรู้ แนวคิด ทฤษฎี หลักการบริหารจัดการสถานศึกษาท่ีมีความ หลากหลาย เพ่ือนามาพัฒนาตนเองให้เป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ สามารถให้คาแนะนา คาปรึกษา แก่คณะครู และบคุ ลากรทางการศกึ ษา ตลอดจนผ้ทู ี่ขอรบั คาแนะนาในอนาคตตอ่ ไป จักรกฤษณ์ อนุฤทธิ์ พฤษภาคม 2563

สำรบญั เรอ่ื ง หนำ้ คำนำ .................................................................................................................................................. ก สำรบัญ ............................................................................................................................................... ข 1. ชือ่ งานวทิ ยานพิ นธ์ .................................................................................................................... 1 2. ภมู ิหลงั ........................................................................................................................................ 1 3. คาสาคญั ..................................................................................................................................... 2 4. คาถามการวจิ ยั ........................................................................................................................... 2 5. วตั ถปุ ระสงคก์ ารวจิ ยั .................................................................................................................. 2 6. ขอบเขตของการวจิ ัย ................................................................................................................... 3 7. วรรณกรรมทีเ่ ก่ยี วข้อง ................................................................................................................ 4 8. วธิ ดี าเนนิ การวจิ ัย ....................................................................................................................... 4 9. สรปุ ผลการวจิ ยั ........................................................................................................................... 5 10. สรปุ ข้อเสนอแนะของงานวิจยั เร่ืองนี้ ........................................................................................ 7 11. การนางานวิจัยชน้ิ น้ีไปใช้ประโยชน์อย่างไร .............................................................................. 8

การศึกษาค้นควา้ ผลการวิจยั 1. ช่ืองานวิทยานพิ นธ์ วไิ ล ปรกึ ษากร. (2561). นวัตกรรมการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน. วิทยานพิ นธ์ ปร.ด. : มหาวทิ ยาลยั ศลิ ปากร นครปฐม, ถ่ายเอกสาร. 2. ภมู หิ ลัง จากกระแสโลกาภิวัตนแ์ ละความเปลยี่ นแปลงของโลกท่เี กิดขน้ึ อยา่ งรวดเร็ว ทง้ั ด้านวิทยาการ ความกา้ วหนา้ ทางเทคโนโลยี เปน็ สงั คมทตี่ ้องอาศยั ความรู้ (Knowledge Based Society) ซึง่ มผี ลใหก้ าร บริหารการศึกษาไทยต้องอยู่ภายใตเ้ ง่อื นไขของการแข่งขัน ตอ้ งเรยี นร้แู ละปรับตัวให้ทนั กบั การเปลยี่ นแปลง ตลอด เวลา การเปล่ียนแปลงและความท้าทายดังกลา่ ว ได้แก่ คุณภาพคน การพัฒนาคนให้มีคุณภาพ ต้องเร่ิมตน้ ดว้ ยการพัฒนาคุณภาพการศึกษา เพอ่ื ทาให้ศักยภาพท่ีมีอยู่ในตัวตนของคนได้รับการพฒั นาอยา่ ง เต็มท่ี ทาให้คนรูจ้ กั คดิ วเิ คราะหร์ จู้ กั แก้ปัญหา มีความคดิ ริเริ่มสร้าง สรรค์ รูจ้ ักเรียนรูด้ ว้ ยตนเอง มีความ ปลอดภยั ของร่างกาย จิตใจ ไม่ตกอยใู่ นสภาพเส่ยี งสามารถอย่ใู นสังคมได้อย่างมีความสขุ เน่อื งจากปัญหา อุปสรรคหลายประการ เช่นความซา้ ซอ้ นของโปรแกรมท่ีใชจ้ ัดเกบ็ ข้อมูล ปัญหาทางดา้ นฮาร์ดแวร์ และ ซอฟทแ์ วร์ ปรมิ าณของข้อมูลท่ีมจี านวนมาก เป็นปัญหาต่อการจัดเก็บ ประมวลผล และรายงานขอ้ มลู ขาดแคลนบุคลากรท่ีรับผิดชอบ ขาดแคลนบคุ ลากรที่มคี วามรู้ ความชานาญและประสบการณ์ ทาให้การเก็บ รวบรวมข้อมลู ไมส่ มบูรณ์ ไม่ครบถว้ น และบางคร้ังขาดการตรวจสอบข้อมลู ขาดเครื่องมือและอปุ กรณใ์ นการ จดั การระบบข้อมลู และสารสนเทศท่ีทันสมัย ใช้เปน็ แนวทางการพฒั นาระบบงานข้อมูลและสารสนเทศของ สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาชลบุรี เขต 2 ให้มปี ระสิทธิภาพ สามารถสง่ เสริม สนับสนุนการบรกิ าร สถานศกึ ษาตามบทบาทหน้าท่ใี ห้บรรลเุ ปา้ หมาย อนั จะส่งผลให้เกิดประโยชน์อย่างยิ่งต่อผบู้ ริหาร ครู ชุมชน นกั เรียนและเยาวชนที่เป็นอนาคตของชาติ การจดั การศึกษาขนั้ พืน้ ฐานตอ้ งจดั ให้สอดคล้องกบั ความ เปลีย่ นแปลงทางเศรษฐกิจสงั คมและความเจริญกา้ วหน้าทางวิทยาการ เป็นการสรา้ งกลยุทธ์ใหม่ในการพฒั นา คุณภาพการศึกษาใหส้ ามารถตอบสนองความต้องการของบคุ คล และสังคมไทยเปน็ ไปตามพระราชบัญญัติ การศึกษาแหง่ ชาติ พ.ศ. 2542 แก้ไขเพ่ิมเตมิ (ฉบบั ที่ 2) พ.ศ. 2545 และ (ฉบบั ที่ 3) พ.ศ. 2553 ซ่งึ กาหนด หลกั การจัดการเรยี นรู้ไว้ ในมาตราท่ี 8 ว่าดว้ ยการจดั การศึกษาใหย้ ึดหลักดังน้ี (1) เป็นการศกึ ษาตลอดชวี ติ สาหรับประชาชน (2) ใหส้ งั คมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา (3) การพัฒนาสาระและกระบวนการเรียนรใู้ ห้ เปน็ ไปอยา่ งตอ่ เน่ืองและมีการกระจายอานาจการบริหารและการจัดการ ศกึ ษาทงั้ ด้าน (1) วชิ าการ (2) งบประมาณ(3) การบริหาร งานบคุ คลและ (4) ด้านการบริหารงานทวั่ ไป ไปยังสานกั งานเขตพ้นื ทก่ี ารศึกษา และสถานศึกษาในเขตพน้ื ที่การศึกษาโดยตรงจากหลักการดังกลา่ ว ทาให้สถานศกึ ษาตอ้ งจดั การศึกษาให้เกดิ ประสทิ ธิภาพและประสบผลสาเรจ็ ผ้บู รหิ ารสถานศกึ ษาต้องถอื เอางานวิชาการมาเปน็ อันดับแรก เพราะหน้าท่ี ของสถานศกึ ษาคือ การจดั กระบวนการเรยี นรู้ให้ผู้เรยี นเกิดประสิทธภิ าพสูงสดุ ซึ่งสอดคลอ้ งกบั หลักเกณฑ์ และวิธกี ารกระจายอานาจการบริหารงานและการจัดการศึกษา พ.ศ. 2550 ซึง่ มีการกาหนดขอบ ขา่ ยงาน

2 วิชาการไว้ 17 ข้อดงั นี้ (1) การพฒั นาหรอื การดาเนนิ การเก่ียวกบั การใหค้ วามเห็นการพัฒนาสาระหลกั สตู ร ท้องถน่ิ (2) การวางแผนงานด้านวชิ าการ (3) การจดั การเรียนการสอนในสถานศึกษา (4) การพฒั นาหลักสูตร ของสถานศึกษา (5) การพัฒนากระบวนการเรยี นรู้ (6) การวดั ผลประเมนิ ผลและดาเนินการเทยี บโอนผล การเรียน (7) การวิจยั เพื่อพัฒนาคณุ ภาพการศึกษาในสถานศกึ ษา (8) การพฒั นาและส่งเสริมให้มแี หลง่ เรียนรู้ (9) การนิเทศการศึกษา (10) การแนะแนว (11) การพฒั นาระบบประกนั คุณภาพ ภายในและมาตรฐาน การศกึ ษา (12) การสง่ เสริมชุมชนใหม้ ีความเขม้ แขง็ ทางวิชาการ (13) การประสานความรว่ มมอื ในการพฒั นา วิชาการกับสถานศึกษาและองค์กรอ่ืน (14) การสง่ เสรมิ และสนับสนนุ งานวชิ าการแกบ่ ุคคลครอบ ครัว องค์กร หนว่ ยงาน สถานศึกษาประกอบการและสถาบันอื่นทจี่ ัดการศกึ ษา (15) การจัดทาระเบยี บและแนวปฏบิ ัติ เก่ยี วกบั งานด้านวิชาการของสถานศึกษา (16) การคดั เลอื กหนงั สอื แบบเรยี นเพ่ือใช้ในสถานศกึ ษาและ (17) การพัฒนาและใชส้ ื่อเทคโนโลยเี พ่ือการศึกษางานวชิ าการ จึงเปน็ บทพิสจู นค์ วามสาเรจ็ ของผู้บริหาร สถานศึกษา โดยวดั จากคณุ ภาพของนักเรยี น ผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นเปน็ ไปตามมาตรฐานการศกึ ษาผ่านการ ประเมนิ จากทกุ หน่วยงานด้านการศึกษาน่นั เองด้วยความสาคญั ในการจัดการศกึ ษาและตอ้ งผา่ นเกณฑ์การ ประเมนิ จากองคก์ รภายนอกเพอื่ รับรองมาตรฐานการจัดการศกึ ษาใหเ้ ปน็ ไปตามเกณฑ์กาหนด ผู้วจิ ยั จงึ มี ความสนใจท่จี ะศึกษานวตั กรรมการบรหิ ารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพนื้ ฐานซ่งึ ผลการวิจัย จะเป็นประโยชน์สาหรับผูบ้ รหิ ารสถานศกึ ษานาไปส่กู ารบริหารสถาน ศกึ ษาท่มี ปี ระสทิ ธิภาพ เกิดประสิทธผิ ล ตามหลักการจดั การศึกษาและทนั ต่อสภาพการณ์ทเ่ี ปลีย่ นแปลงไปตามแนวทางการปฏริ ปู การศึกษาใน ทศวรรษทส่ี อง (พ.ศ. 2552 - 2561) เตรยี มความพรอ้ มและพัฒนาผู้เรียนให้สอดคลอ้ งกับสงั คมโลกในศตวรรษ ท่ี 21 คอื มที ักษะ มคี วามถนัด มคี วามชานาญในด้านท่ีตนเองสนใจ และพร้อมทจ่ี ะขบั เคล่อื นและยกระดับการ พฒั นาประเทศในระดบั ทีส่ ูงข้ึน 3. คาสาคญั นวัตกรรมการบรหิ ารงานวิชาการของผู้บรหิ ารสถานศึกษาข้ันพน้ื ฐาน 4. คาถามการวิจัย 1. นวตั กรรมการบริหารงานวิชาการของผบู้ รหิ ารสถานศึกษาขน้ั พื้นฐานมีนวัตกรรมใดบ้าง 2. นวัตกรรมการบริหารงานวิชาการทีเ่ หมาะสมของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษาข้ันพนื้ ฐานมีลักษณะอย่างไร 5. วัตถุประสงคก์ ารวจิ ัย 1. เพ่อื ศึกษานวัตกรรมการบริหารงานวชิ าการของผบู้ ริหารสถานศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน 2. เพอ่ื ศึกษานวตั กรรมการบริหารงานวชิ าการทเ่ี หมาะสมของผู้บรหิ ารสถานศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน

3 6. ขอบเขตของการวจิ ัย การวจิ ัยครั้งนี้ ผู้วจิ ยั ม่งุ ศกึ ษานวตั กรรมการบรหิ ารงานวชิ าการของผบู้ ริหารสถานศึกษาข้นั พื้นฐาน และนวัตกรรมการบรหิ ารงานวิชาการท่ีเหมาะสมของผบู้ รหิ ารสถานศึกษาขนั้ พื้นฐาน โดยมีรายละเอยี ดดังนี้ 1. ขอบเขตด้านประการกรและกลุ่มตัวอย่าง 1.1 ประชากร ได้แก่ สถานศึกษาสังกัดสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษามัธยมศึกษา จานวน 2,361 สถานศึกษา และสถานศึกษาสงั กัดสานกั งานเขตพื้นทีก่ ารศึกษาประถมศึกษา จานวน 28,566 สถานศกึ ษา รวม 30,927 สถานศกึ ษา 1.2 กลุ่มตัวอย่าง ไดแ้ ก่ สถานศกึ ษาสงั กดั สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา จานวน 50 สถานศึกษา และสถานศึกษาสังกดั สานักงานเขตพ้นื ท่ีการศกึ ษาประถมศึกษา จานวน 50 สถานศึกษา รวม 100 สถานศึกษา กาหนดผู้ให้ขอ้ มลู สถานศึกษาละ 3 คน คือ 1) ผู้อานวยการสถานศึกษา จานวน 1 คน 2)รองผู้อานวยการสถานศกึ ษาหรอื ครูวิชาการ จานวน 1 คน และ 3) ครูผรู้ ับผดิ ชอบกล่มุ สาระการเรยี นรู้ จานวน 1 คน การได้มาซง่ึ กลุ่มตวั อยา่ งใชว้ ธิ ี การเลือกตวั อยา่ งแบบหลายข้ันตอน (Multi-Stage Sampling โดยการเลือกแบบ Cluster Sampling และ Matching Cases โดยใชส้ ถานศกึ ษาสังกดั สานักงานเขตพืน้ การศึกษามธั ยมศกึ ษา 2. ตัวแปรทศ่ี กึ ษา การวจิ ัยครั้งนีผ้ ้วู ิจัยไดก้ าหนดตัวแปรทใี่ ชใ้ นการวิจัยครั้งนปี้ ระกอบดว้ ยตัวแปรพนื้ ฐาน และตวั แปรทศี่ กึ ษา ซ่งึ มีรายละเอยี ด ดังน้ี 2.1 ตัวแปรที่ศกึ ษา คือ ตัวแปรทเ่ี ก่ยี วข้องกับนวตั กรรมการบรหิ ารงานวชิ าการของ ผู้บรหิ ารสถานศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน โดยการวิเคราะหจ์ ากเอกสาร งานวิจัย ตามขอบขา่ ยวิชาการท้งั 17 ขอบข่าย คือ 1) การพฒั นาสาระหลักสูตรท้องถน่ิ 2) การวางแผนบงานด้านวิชาการ 3) การจดั การเรียนการ สอนในสถานศึกษา 4) การพัฒนาหลักสตู ร ของสถานศกึ ษา 5) การพฒั นากระบวนการเรียนรู้ 6) การวจิ ัยเพ่ือ พฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษาในสถานสึกษา 7) การวจิ ยั เพ่ือพัฒนาคุณภาพการศึกษาในสถานศกึ ษา 8) การพฒั นา และส่งเสรมิ ให้มีแหล่งเรียนรู้ 9) การนเิ ทศการศกึ ษา 10) การแนะแนว 11) การพฒั นาระบบประกนั คุณภาพ ภายในและมาตรฐานการศึกษา 12) การส่งเสรมิ ชุมชนให้มีความเขม้ แข็งทางวิชาการ 13) การประสานความ รว่ มมอื ในการพฒั นาวชิ าการกับสถานศึกษาและองค์กรอน่ื 14) การส่งเสรมิ และสนบั สนุนงานวิชาการแกบ่ ุคคล ครอบครวั องคก์ ร หน่วยงาน สถานประกอบการและสถาบันอ่นื ท่ีจัดการศกึ ษา 15) การจัดทาระเบยี บและ แนวปฏิบัตเิ กี่ยวกบั งานดา้ นวิชาการของสถานศึกษา 16) การคัดเลอื กหนงั สอื แบบเรียนเพ่อื ใชใ้ นสถานศึกษา และ 17) การพฒั นาและใชเ้ ทคโนโลยเี พือ่ การศึกษา

4 3. เคร่อื งมือท่ีใชใ้ นการวจิ ยั เครอ่ื งมือท่ีใช้ในการวิจยั ครัง้ นี้ประกอบด้วย 1. แบบ เกี่ยวกับนวัตกรรมการบริหารงานวิชาการของผู้บรหิ ารสถานศึกษาขั้นพ้ืนฐานตาม ขอบข่ายงานวิชาการ 17 ขอบขา่ ย โดยแบบสอบถามความคิดเห็นแบง่ ออกเป็น 3 ตอน คอื ตอนที่ 1 การสอบถามเกี่ยวกับข้อมลู ทว่ั ไปเกย่ี วกับผู้ตอบแบบสอบถามความคิดเหน็ ได้แก่ เพศ อายุ ระดับการศึกษา ตาแหน่ง วทิ ยฐานะ สงั กัดของหนว่ ยงาน ขนาคของสถานศกึ ษาและ ประสบการณ์ ในการทางาน โดยกาหนดการตอบเป็นแบบเลือกตอบ (Check List) ตอนที่ 2 แบบสอบถามเป็นแบบปลายปิดและปลายเปิด มีเนื้อหาเกยี่ วกับนวัตกรรมการ บริหารงานวชิ าการของผบู้ ริหารสถานศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน ซ่งึ เปน็ แบบสอบถามความคิดเหน็ ให้เลอื กตอบจาก รายการนวัตกรรมท่ีกาหนดให้ โดยเลอื กนวตั กรรมใหต้ รงกับขอบข่ายงานวิชาการในสถานศึกษา ตอนท่ี 3 ข้อเสนอแนะเพมิ่ เติมเกย่ี วกับนวัตกรรมการบรหิ ารงานวชิ าการของผู้บริหาร 7. วรรณกรรมทีเ่ ก่ียวขอ้ ง 7.1 นวตั กรรมการบริหารงานวชิ าการของผู้บริหารสถานศึกษาข้ันพน้ื ฐาน 7.2 นวัตกรรมการบรหิ ารการศึกษาของประเทศไทย 7.3 หลักการและแนวคดิ ในการบริหารการศึกษา 7.4 ทฤษฎี แนวคดิ กระบวนการบรหิ ารการศึกษา 7.4.1 งานวิจัยภายในประเทศ 7.4.2 งานวิจัยต่างประเทศ 8. วิธีดาเนนิ การวิจัย ขน้ั ตอนที่ 1 ศกึ ษา/วเิ คราะห์ วรรณกรรมแนวคดิ ทฤษฎี ขั้นตอนที่ 2 การสรา้ งและพฒั นาเครอื่ งมอื ขั้นตอนที่ 3 การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู และวเิ คราะห์ข้อมูล ข้นั ตอนท่ี 4 การเกบ็ รวบรวมข้อมลู

5 9. สรุปผลการวิจัย การวจิ ัยครัง้ เปน็ การวจิ ัยทใ่ี ช้ระเบียบวธิ ีการวจิ ัยแบบผสมผสาน โดยมีวตั ถุประสงค์ 1) เพ่ือทราบ นวัตกรรมการบริหารงานวชิ าการของผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพ้นื ฐาน 2) เพอื่ ทราบนวตั กรรมการบรหิ ารงาน วิชาการท่ีเหมาะสมของผบู้ รหิ ารสถานศึกษาข้นั พนื้ ฐาน ซ่ึงสรุปผลการวิจยั ได้ ดังน้ี 9.1 วัตถปุ ระสงค์ของการวิจยั ผู้ดาเนนิ การวจิ ยั ได้กาหนดวัตถปุ ระสงคไ์ ว้ดงั น้ี 9.1.1 เพอื่ ศึกษานวัตกรรมการบริหารงานวชิ าการของผู้บริหารสถานศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน 9.1.2 เพ่ือศึกษานวตั กรรมการบรหิ ารงานวิชาการที่เหมาะสมของผู้บรหิ ารสถานศึกษาข้ัน พืน้ ฐาน 9.2 สรปุ ผลการวจิ ัยเรื่อง นวัตกรรมการบรหิ ารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน สรุปผลการวจิ ยั ตามวัตถุประสงค์ของการวิจยั ไดด้ ังน้ี สรปุ ผลการวิจัย 1. นวัตกรรมการบริหารงานวิชาการของผู้บรหิ ารสถานศึกษาขัน้ พ้นื ฐานผลการวิเคราะห์ เอกสาร แนวคดิ ทฤษฎี และงานวิจยั ทเ่ี ก่ยี วข้อง พบวา่ มนึ วัตกรรมการบรหิ ารงานวชิ าการของผบู้ รหิ าร สถานศึกษาขนั้ พื้นฐานท้ังหมด ร0 นวัตกรรม ดงั นี้ (1) นวัตกรรมการบรหิ ารโดยใชโ้ รงเรียนเปน็ ฐาน (School- Based Management) (2)นวัตกรรมการบรหิ ารแบบมีสว่ นร่วม (Participation) (3)นวตั กรรมการบรหิ าร แบบอสิ ระ (Independent) (4)นวตั กรรมการบรหิ ารแบบการสอนงาน (Coaching) (5) นวัตกรรมการบริหาร แบบมีพีเ่ ลย้ี ง(Mentor) (6นวัตกรรมการบริหารแบบยดึ พนื้ ทเ่ี ป็นที่ตง้ั (Area- Based Management) (7) นวัตกรรมการบรหิ ารแบบโครงการ (Project management) (8) นวัตกรรมการบริหารแบบเครอื ข่าย ครู (Teacher Network) (9) นวตั กรรมการบริหารแบบวงจรเดมิง่ (PDCA) (10) นวตั กรรมการบริหารแบบ โรงเรยี นวิถีพุทธ (Buddhist school ) (11)นวัตกรรมการบรหิ ารแบบคละชั้นเรยี น(Multi-grade teaching) (12) ขวัตกรรมการบริหารแบบแผนภมู ิการปฏิบตั ิงานของ Gantt Chart (13)นวตั กรรมการบริหารแบบไม่มชี ั้น (Non-graded school) (14) นวตั กรรมการบรหิ ารแบบเปิด(Open School) (15) นวดั กรรมการบรหิ ารแบบ การจัดการเรยี นการสอน ในศูนยก์ ารเรยี นชุมชน (Teaching Community Center) (16) นวัตกรรมการ บรหิ ารแบบสถานศึกษาพอเพียง (Education suffice) (17) นวตั กรรมการบรหิ ารแบบการเรยี นทาง อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (E-Leaning) (18) นวัตกรรมการบริหารแบบภมู ปิ ัญญาชว่ ยสอน (teaching wisdom) (19) นวตั กรรมการบริหารตามแนวคดิ ของแมสชีและดักลาส (20) นวตั กรรมการบรหิ ารแบบเครือขา่ ยความ รว่ มมือของกลมุ่ โรงเรยี น (Cooperation between school) (21) นวตั กรรมการบริหารแบบบูรณาการชว่ งช้นั (Multigrade Teaching) (22) นวัตกรรมการบรหิ ารแบบบูรณาการหลักสตู ร (Integrated curriculum) (23) นวตั กรรมการบริหารแบบระดมทรัพยากรทุกภาคส่วน (Mobilizing all sectors) (24) นวตั กรรม การบริหารแบบการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม (Distance Learning Foundation:DLTV) (25) นวตั กรรมการบริหารตามหลักธรรมาภบิ าล (good governance)(26) นวตั กรรมการบรหิ ารแบบ

6 โปรแกรม (Programmed Instruction) (27) นวตั กรรมการบรหิ ารแบบการบริหารจัดการท่มี ีประสิทธิภาพ (Effective Management)(28) นวตั กรรมการบริหารการสอนเป็นคณะ (Team Teaching) (29) นวัตกรรม การบริหารการสอนโดยใชช้ ดุ การสอนจลุ บท (Minicourse Teaching) (30) การสอนนักเรยี นเปน็ รายบคุ คล (Individual Teaching) (31) นวตั กรรมการบรหิ ารแบบบทเรยี น โปรแกรมแบบเส้นตรง (Programmed straight line ) (32) นวัตกรรมการบริหารแบบระบบสานกั งานอตั โนมตั ิ (E- Office) (33)นวตั กรรมการ บรหิ ารตามแบบ CIPP Model ของสตฟั เฟลิ บมี (34)นวตั กรรมการบรหิ ารดว้ ยการวางแผนกลยุทธ์ (Strategic planning) (35)นวตั กรรมการบรหิ ารแบบครูพ่ีศษิ ย์น้อง (Mentoring) (36) นวัตกรรมการบรหิ ารตามหลักการ ประกันคุณภาพการศึกษา(Quality assurance) (37) นวตั กรรมการบริหารแบบผสมผสาน (Mixed Management) (38)นวัตกรรมการบริการแบบเรยี นรวมบางชัน้ เรียน (classes include) (39) นวตั กรรมการ บริหาร โดยใช้เทคโนโลยแี ละการสอ่ื สาร(Information Communication Technology : ICT) (40) นวัตกรรมการบริหารตามหลักการเรยี นรู้ผ่านระบบการฝึกอบรมออนไลน์ (E-Training: กระทรวงศกึ ษาธิการ) (41) นวัตกรรมการบรหิ ารด้วยการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสารเพ่ือพฒั นาคุณภาพผ้เู รียน (ระบบ E-School) (42) นวตั กรรมการบริหาร โดยใชภ้ าคเี ครอื ขา่ ย (Associate network) (43) การใชโ้ ครงสรา้ งซที (Seat Framework) (44) นวัตกรรมการบริหารแบบเครือข่าย\"กัลยาณมิตรเรียนรวม\" ( Friendly Management) (45) นวัตกรรมการบริหารแบบเรยี นรวมตามแนวคดิ ของ PaTCoT (46) นวัตกรรมการบรหิ าร แบบทีมงาน (Team Work) (47) นวตั กรรมการบรหิ ารโดยใช้โปรแกรมระบบบรหิ ารจัดการขอ้ มลู สารสนเทศ ของสถานศกึ ษา (School Management information system: MIS) (48) นวัตกรรมการบริหารตามแนว Tip Co (Teamwork, Integration, Participation, Continuous, Improvement (49)นวตั กรรมการบรหิ าร แบบพัฒนาคุณภาพศกึ ษาทางไกลผา่ นเทคโนโลยสี ารสนเทศ (Distance Learning information Technology :DLIT) และ(50) นวตั กรรมการบรหิ ารแบบศูนย์การเรยี นรู้คอมพิวเตอร์ (office station unit) 2. นวัตกรรมการบริหารงานวิชาการทีเ่ หมาะสมของผู้บรทิ ารสถานศึกษาข้นั พน้ื ฐานผลการ วิเคราะห์นวดั กรรมการบริหารงานวิชาการที่เหมาะสมของผ้บู ริหารสถานศึกษาข้ันพื้นฐาน พบวา่ มี 12 นวัด กรรมทเ่ี หมาะสม ตามลาดบั ดงั น้ี 2.1 ด้านการพัฒนาสาระหลักสูตรทอ้ งถ่นิ , ดา้ นการพัฒนาหลกั สูตรของสถานศึกษา และดา้ นการส่งเสรมิ ชมุ ชนให้มคี วามเข้มแข็งทางวชิ าการ ส่วนใหญ่เลอื ก นวัตกรรมท่ี 1 คือ นวตั กรรมการ บรหิ าร โดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน (School- Based Management) คิดเป็นร้อยละ 67.69 2.2 ด้านการจดั การเรยี นการสอนในสถานศึกษา พบวา่ ส่วนใหญ่เลอื ก นวัตกรรมที่ 48 คือ นวัตกรรมการบริหารตามแนว Tip Co (Teamwork, Integration, Participation, Continuous, Improvement ) คดิ เปน็ รอ้ ยละ 63.95 2.3 ด้านการนเิ ทศการศึกษาและดา้ นการแนะแนว พบวา่ ส่วนใหญเ่ ลอื ก นวัตกรรม ท่ี 4 คือ นวัตกรรมการบรหิ ารแบบการสอนงาน (Coaching) คิดเป็นรอ้ ยละ 59.52

7 2.4 ดา้ นการวางแผนงานด้านวชิ าการ พบวา่ สว่ นใหญ่เลอื ก นวัตกรรมท่ี 37 คอื นวตั กรรมการบริหารแบบผสมผสาน (Mixed Management) คดิ เปน็ ร้อยละ 59.52 2.5 ดา้ นการพัฒนากระบวนการเรยี นรู้ พบว่า ส่วนใหญ่เลอื ก นวตั กรรมท่ี 49 คอื นวัตกรรมการบริหารแบบพฒั นาคณุ ภาพศึกษาทางไกลผ่านเทคโนโลยสี ารสนเทศ (Distance learning information technology : DLIT) คดิ เปน็ ร้อยละ 57.48 2.6 ดา้ นการวิจยั เพื่อพฒั นาคุณภาพการศกึ ษาในสถานศึกษาและดา้ นการพัฒนา ระบบประกนั คุณภาพภายในและมาตรฐานการศึกษา พบว่า สว่ นใหญ่เลอื ก นวัตกรรมท่ี 36 คือ นวตั กรรมการ บรหิ ารตามหลกั การประกนั คุณภาพการศึกษา (Quality assurance) คดิ เป็นร้อยละ 56.46 2.7 ดา้ นการคัดเลือกหนังสือ แบบเรยี นเพื่อใช้ในสถานศึกษา พบว่า สว่ นใหญเ่ ลือก นวัตกรรมท่ี 42 คือ นวัตกรรมการบรหิ ารโดยใชภ้ าคเี ครือขา่ ย (Associate network) คดิ เปน็ รอ้ ยละ 55.78 2.8 ดา้ นการพฒั นาและใชเ้ ทคโนโลยีเพ่ือการศึกษา พบว่า ส่วนใหญเ่ ลอื ก นวัตกรรม ท่ี 39 คือ นวตั กรรมการบริหาร โดยใช้เทคโนโลยีและการส่ือสาร (Information Communication Technology : ICT) คดิ เป็นร้อยละ 55.44 2.9 ดา้ นการจัดการเรยี นการสอนในสถานศึกษา พบว่า ส่วนใหญ่เลอื กนวัตกรรมที่ 30 คอื นวัตกรรมการสอนนกั เรียนเปน็ รายบุคคล (Individual Teaching) คดิ เป็นร้อยละ 54.76 2.10 ดา้ นการสง่ เสริมและสนับสนุนงานวิชาการแก่บคุ คล ครอบครัว องคก์ รหน่วยงาน สถานประกอบการและสถาบันอื่นทีจ่ ัดการศึกษา พบว่า ส่วนใหญเ่ ลอื ก นวัตกรรมที่ 46 คือ นวัตกรรมการ บรหิ ารแบบทีมงาน (Team Work) คิดเป็นร้อยละ 49.32 2.1 1 ดา้ นการประสานความร่วมมอื ในการพัฒนาวชิ าการกบั สถานศึกษาและองค์กร อ่นื พบวา่ สว่ นใหญ่เลอื กนวตั กรรมท่ี 2 คือ นวตั กรรมการบรหิ ารแบบมสี ่วนรว่ ม (Participation) คดิ เปน็ ร้อยละ 47.95 2.12 ด้าน การพัฒนาและสง่ เสรมิ ใหม้ ีแหลง่ เรียนรู้ พบวา่ ส่วนใหญเ่ ลือกนวัตกรรมที่ 50 คือ นวตั กรรมการบริหารแบบศนู ย์การเรยี นรู้คอมพวิ เตอร์ (office station unit) คิดเปน็ ร้อยละ 47.62 10. สรุปขอ้ เสนอแนะของงานวิจยั เร่ืองนี้ จากการวิจยั เรอื่ ง นวัดกรรมการบรหิ ารงานวิชาการของผ้บู ริหารสถานศึกษาข้ันพ้ืนฐาน ได้ขอ้ ค้นพบ ท่เี ป็นประโยชน์ ทีเ่ ป็นองคค์ วามรู้ ด้านการบรหิ ารงานวชิ าการของสถานศึกษาขน้ั พื้นฐาน และได้นวตั กรรม การบริหารงานวชิ าการที่เหมาะสมตามคณุ ลักษณะของสถานศึกษาซ่งึ ผู้วิจัยมีข้อเสนอแนะดังน้ี 10.1 ข้อเสนอแนะท่ัวไป ในการศึกษาวิจัยครั้งน้ี ผวู้ จิ ัยมีข้อเสนอแนะเพ่ือนาผลการวิจยั ไปใช้ ประโยชนใ์ นการพฒั นาคุณภาพของการศึกษา ดังนี้

8 1. หน่วยงานตน้ สังกัดทม่ี ีส่วนเก่ียวขอ้ งและรบั ผิดชอบ ควรนาข้อมลู ทไ่ี ดร้ ับจากการวจิ ยั ครง้ั น้ี ไปศกึ ษารายละเอยี ดนวตั กรรมทีถ่ ูกเลือกตามขอบข่ายงานวชิ าการ และตามคุณลักษณะของสถานศกึ ษา พิจารณาตัดสนิ ใจเลอื กใชน้ วัตกรรมการในการบรหิ ารงานวิชาการใหเ้ หมาะกับงาน ซึง่ จะทาใหส้ ถานศึกษา ไดร้ ับการปรบั ปรุงและพัฒนาได้จริง 2. ผู้รบั ผดิ ชอบเก่ียวกบั การพัฒนา และกระดบั คุณภาพผู้บรหิ าร คุณภาพการศึกษาควรนาข้อ ค้นพบท่ีได้จากการศกึ ษาครงั้ นี้ คือ นวัตกรรมการบริหารงานวิชาการของผบู้ ริหารสถานศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน ไปประยุกต์ใช้ในการบรหิ ารงานตามขอบขา่ ยการบรหิ ารงานวิชาการในสถานศึกษา ท่เี หมาะสมกับสภาพบริบท ของแตล่ ะสถานศกึ ษา และคานงึ ถึงนโยบายขอหน่วยงานต้นสงั กัด พร้อมท้ังการสร้างองค์ความรู้ ความเขา้ ใจ ใหก้ ับผปู้ ฏบิ ัติงานทุกฝ่ายท่ีเก่ียวข้อง พร้อมท้ังมีการตดิ ตามประเมนิ ผลในการนาไปใช้เปน็ ระยะๆ เพื่อปรับปรุง และพฒั นาคณุ ภาพสถานศึกษาให้ได้ตามมาตรฐานท่ีกาหนด 11. การนางานวจิ ยั ชิน้ น้ไี ปใชป้ ระโยชน์อย่างไร 11.1 ใช้เพอ่ื เป็นแนวทางในบรหิ ารจดั ดา้ นงานวิชาการภานในสถานศึกษา 11.2 ใช้เพ่อื เปน็ แหลง่ เรยี นร้แู ละการศึกษาคน้ คว้าของตนเอง เพือ่ พฒั นาองค์ความรู้ ทกั ษะและ นวัตกรรมทีส่ ามารถนามาประยกุ ต์ใชใ้ นการบริหารจดั การสถานศึกษาใหเ้ ปน็ เลศิ ในงานดา้ นวิชาการ 11.3 ใช้เพื่อเปน็ ข้อมูลสารสนเทศให้กับผบู้ ริหารและครู ใช้เป็นขอ้ มูลพืน้ ฐาน และเป็นแนวทางในการ บริหารงานวชิ าการของโรงเรียนอนบุ าลวาปปี ทมุ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook