1ความสำคัญของโภชนาการบทที่๑

ความสาคญั ของโภชนาการ และ โภชนบาบดั นางสาวธมารินทร์ เงนิ ทพิ ย์,CDT นักโภชนาการชานาญการ โรงพยาบาลมะเร็งอดุ รธานี

คาถาม อาหารหลกั คนไทย คือ อาหารประเภทใด?

อาหารหลกั ๕ หมู่ ๑. ข้าว แป้ง และผลติ ภณั ฑ์จากข้าว ๒. เนื้อสัตว์ ไข่ นม และถ่วั เมลด็ แห้ง ๓. ผกั ๔. ผลไม้ ๕. นา้ มนั

อาหาร(FOOD) หมายถงึ ส่ิงทเ่ี รากนิ และดื่มหรือรับเข้าสู่ร่างกาย เพื่อช่วยให้ร่างกายเจริญเตบิ โต ซ่อมแซม เนื้อเยื่อของร่างกายและช่วยให้อวยั วะ ต่างๆของร่างกายทางานได้ปกติ (รวโี รจน์,2542)

อาหาร กนิ ……….เจริญเตบิ โต เกบ็ ………ยามวกิ ฤติ ขาย………สร้างรายได้

สารอาหาร(Nutrients) หมายถึง สารเคมที ม่ี อี ยู่ในอาหาร แบ่ง เป็ น 6 หมวด 1.โปรตีน 2.คาร์โบไฮเดรต 3.ไขมัน 4.วติ ะมนิ 5.เกลือแร่ 6.นา้ 3.

โภชนาการกบั ความสาคญั ในการดารงชีวติ 1.โภชนาการมีผลต่อการเจริญเตบิ โต 2.ช่วยในการเจริญเตบิ โตของสมองและสตปิ ัญญา 3.โภชนาการมีผลให้มนุษย์มีอายุยืนขนึ้ 4.โภชนาการทดี่ ชี ่วยชะลอความเสื่อมของโทรมของเซลล์ 5.โภชนาการมีผลช่วยให้สมรรถภาพในการทางานดขี นึ้ 6.โภชนาการช่วยในการป้องกนั โรค 7.โภชนาการมผี ลต่อสุขภาพจติ และอารมณ์ 8.โภชนาการช่วยให้พลงั งานและความอบอ่นุ ต่อร่างกาย

ข้อกาหนดสารอาหารทีค่ วรได้รับประจาวนั (Recommended dietary allowances:RDA) หมายถึง การกาหนดปริมาณสารอาหารชนิดต่างๆท่ี จาเป็ นต้องได้รับจากอาหารทบี่ ริโภค ประจาวนั อย่างพอเพยี งกบั ความต้องการของ ร่างกายของบุคคลปกตทิ ว่ั ไป 6.

วตั ถุประสงค์(RDA) 1.เพ่ือประเมินความเพยี งพอของอาหารท่ีได้รับ 2.เพ่ือการวางแผนการผลติ อาหารเพื่อประชาชน 3.เพื่อแปรผลการสารวจอาหารทบ่ี ริโภค 4.เพ่ือประยุกต์ใช้ข้อกาหนดRDAเป็ นแนวทางการให้โภชนศึกษา 5.ใช้ในการกาหนดมาตรฐานควบคุมคุณภาพอาหารและผลติ ภณั ฑ์ 7.

โภชนบญั ญตั ิ 9 ประการ 1.กนิ อาหารให้ครบ 5 หมู่และให้หลากหลายและหมน่ั ดูแลนา้ หนักตัว 9. 2.กนิ ข้าวเป็ นอาหารหลกั สลบั กนิ อาหารประเภทแป้งเป็ นบางมื้อ 3.กนิ พืชผกั ให้มากแลกนิ ผลไม้เป็ นประจา 4.กนิ ปลา เนื้อสัตว์ไม่ตดิ มัน ไข่ และถ่ัวเมลด็ แห้งเป็ นประจา 5.ด่ืมนมให้เหมาะสมกบั วยั 6.กนิ อาหารทม่ี ีไขมนั พอควร 7.หลกี เลย่ี งการกนิ อาหารรสหวานจัด และเคม็ จดั 8.กนิ อาหารทส่ี ะอาด ปราศจากการปนเปื้ อน 9.งดหรือลดเคร่ืองดื่มทมี่ แี อลกอฮอล์

ปัญหาโภชนาการจากการบริโภคอาหาร 1.ผู้หญงิ ออกทางานนอกบ้านเพื่อมากขนึ้ 2.ธุรกจิ ขายอาหารเพม่ิ ขนึ้ 3.การแปรรูปอาหาร 4.ความก้าวหน้าของการส่ือสาร 11.

โรคท่เี กดิ จากการบริโภคอาหาร โรคขาดสารอาหาร(food deficiency disease) 1.โรคขาดโปรตีนและพลงั งาน(Protein energy malnutrition:PEM) 2.โรคขาดวติ ามนิ เอหรือโรคตาฟางกลางคืน(Night blindness) 3.โรคขาดวติ ามินบีหนึ่งหรือโรคเหน็บชา(Beriberi) 4.โรคขาดวติ ามนิ บีสองหรือโรคปากนกกระจอก(Angular stomatitis) 5.โรคท่ีเกดิ จากการขาดไอโอดีนหรือโรคคอพอก(Simple goitre) 6.โรคโลหิตจาง(Anemia) 7.โรคน่ิวในกระเพาะ 12.

โรคท่ีเกดิ จากการบริโภคอาหาร(ต่อ) โรคภาวะโภชนาการเกนิ โรคอาหารเป็ นพษิ 13.

พฒั นาการของมนุษย์ ระยะในครรภ์มารดา (The prenatal period) 10. วยั ทารก (Infancy) วยั เดก็ และวยั รุ่น (Childhood and adolescence) วยั ผู้ใหญ่และวยั ผู้สูงอายุ (Adulthood and older adulthood)

13.