Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore พีระมิดกับความเชื่อของชาวอียิปต์

พีระมิดกับความเชื่อของชาวอียิปต์

Published by Sasithon06112547, 2022-10-01 00:42:40

Description: พีระมิดกับความเชื่อของชาวอียิปต์

Search

Read the Text Version

พีระมิดกับความเชื่อของ ชาวอียิปต์

คำนำ หนังสือเล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา คอมพิวเตอร์ มัลติมีเดีย ( ว33251) จัดทำขึ้นเพื่อเป็นแนวทางใน การศึ กษาเรื่ องราวและรายละเอียดเกี่ยวกับพีระมิดและ ความเชื่ อของชาวอียิปต์ว่ามีความเป็นมาอย่างไร หากมี ข้อผิดพลาดประการใดผู้จัดทำขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย นางสาวศศิธร ไชยแสง เลขที่ 31

สารบัญ 1 พีระมิด 2 3 สิ่งก่อสร้างทรงพีระมิด 10 พีระมิดที่มีชื่ อเสียง 13 การออกแบบและการสร้างพีระมิด 15 พีระมิดตรง และพีระมิดเอียง 24 วิธีสร้างพีระมิด 25 จุดเริ่มต้นการสร้างพีระมิด ความเชื่ อของชาวอียิปต์ ที่ส่งผล ต่อการสร้างพีระมิด และการทำ มัมมี่

พีระมิด พีระมิด ( อังกฤษ : pyramid ) เป็นสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ ที่มีฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยม มีจุดยอดรวมอยู่ที่เดียวกัน โดยแต่ละด้านจะมี ลักษณะเป็นสามเหลี่ยมประกอบประกอบแต่ละด้าน นางสาวศศิธร ไชยแสง เลขที่ 31

สิ่งก่อสร้างทรงพีระมิด เป็นอารยธรรมในยุคโบราณหลายแห่งในโลกมีสิ่ง ก่อสร้างรูปพีระมิด โดยพีระมิดที่มีชื่ อเสียงมากที่สุดคือ พีระมิดในอียิปต์ ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเป็นสุสานของฟาโรห์ โดย พีระมิดที่ใหญ่ที่สุดคือ มหาพีระมิดแห่งกิซ่า ซึ่งเป็นหนึ่งใน เจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ และเป็นสิ่งเดียวที่ยัง อยู่มาจนถึงยุคปัจจุบัน องค์ประกอบพื้นฐานที่สำคัญของ พีระมิดคือหินทราย ซึ่งหินทรายดังกล่าวจะมีขนาดใหญ่ และมีน้ำหนักมาก ต้องใช้แรงงานคนนับแสนในการสร้าง พีระมิดแต่ละองค์ โดยใช้เวลาในการสร้างไม่ต่ำกว่า 10 ปี นอกจากนี้ยังมีพีระมิดของชาวนูเบียซึ่งขนาดเล็กกว่าและ อยู่ทางใต้ของอียิปต์ และชาวเมโสโปเตเมียมีพีระมิดในรูป แบบของตนเองที่เรียกว่า ซิกกุรัต ในยุคปัจจุบันมีสิ่งก่อสร้างรูปพีระมิดเช่นกัน เช่น พีระมิด กระจกที่อยู่ด้านหน้าของพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ในปารีส นางสาวศศิธร ไชยแสง เลขที่ 31

พีระมิดที่มีชื่อเสี ยง พีระมิดโจเซอร์ (Djoser's Pyramid) พีระมิดโจเซอร์ (Djoser's Pyram id) หรือ พีระมิดแห่งซักการา (The Pyramid of Saqqara) นับเป็นพีระมิดแห่งแรกของอียิปต์ ที่ ฟาโรห์โจเซอร์ (Djoser หรือ Zoser) แห่งราชวงศ์ที่ 3 เป็นผู้สร้างขึ้น โดยมี อิมโฮเทป (Imhotep) ที่ปรึกษาประจำองค์ฟาโรห์เป็นสถาปนิกผู้ ออกแบบ ลักษณะที่สำคัญคือเป็น พีระมิดขั้นบันได (Step Pyramid) ซ้อนกันรวม 6 ชั้น เปรียบเสมือนบันไดไปสู่สวรรค์ ส่วนพีระมิดรุ่นหลังที่ เป็นแบบมหาพีระมิดที่แต่ละด้านของพีระมิดลาดเอียงลงประมาณ 51 องศามีความชันน้อยกว่าและไม่เป็นขั้นบันได ก็ถือว่าเป็นการลาดของลำแสง ดวงอาทิตย์เช่นกัน ในขณะที่พีระมิดยุคต่อมาจะไม่มีลักษณะของขั้นบันไดให้ เห็น ก่อนหน้านี้สุสานของฟาโรห์จะสร้างอยู่ใต้ดินโดยปิดทับด้วยสิ่งก่อสร้าง ที่ไม่สูงมากนักเรียกว่า มัสตาบา (Mastaba) นางสาวศศิธร ไชยแสง เลขที่ 31

พีระมิดไมดุม (Meidum Pyramid) พีระมิดไมดุม สร้างโดยฟาโรห์สนอฟรู (Snofru) หรืออีก พระนามหนึ่งคือ สเนฟรู (Sneferu) ผู้ก่อตั้งราชวงศ์ที่ 4 ของอียิปต์โบราณ เป็นพีระมิดที่พยายามพัฒนารูปแบบต่อจาก พีระมิดขั้นบันไดของฟาโรห์โซเซอร์ โดยตั้งใจจะก่อสร้างให้มีรูป ร่างเป็นพีระมิดที่สมบูรณ์ แต่เกิดปัญหาพังทลายลงระหว่าง การก่อสร้างเนื่องจากพื้นทรายด้านล่างรองรับน้ำหนักพีระมิด ไม่ไหว นักประวัติศาสตร์ส่วนหนึ่งเชื่ อว่า ฟาโรห์สนอฟรูสร้างพี ระมิดไมดุมนี้ให้กับ ฟาโรห์ ฮูนิ (Huni) ฟาโรห์องค์สุดท้าย ของราชวงศ์ที่ 3 ผู้เป็นพระราชบิดาของพระองค์ นางสาวศศิธร ไชยแสง เลขที่ 31

พีระมิดหักงอ (Bent Pyramid) พีระมิดหักงอ (Bent Pyramid) หรือพีระมิดเบี้ยว สร้างขึ้นโดย ฟาโรห์สนอฟรู (Snofru) หลังจากการก่อสร้างพีระมิดไมดุมประสบความล้มเหลว เดิมมีเป้าหมายจะ สร้างให้มีรูปร่างเป็นแบบพีระมิดที่สมบูรณ์ แต่เกิดปัญหาในระหว่างการก่อสร้าง เนื่องจากแต่ละด้านของพีระมิดทำมุมชันมากเกินไปคือชันถึง 54 องศาทำให้ต้องเปลี่ยน แบบการก่อสร้างกลางคัน กลายเป็นพีระมิดที่แต่ละด้านหักมุมเปลี่ยนความชันที่ ประมาณระหว่างกลางความสูงของพีระมิดเหลือความชัน 43 องศา นับเป็นพีระมิดที่ มีชื่ อเสียงอีกแห่งหนึ่งเนื่องจากรูปร่างที่แปลกตาอย่างเห็นได้ชัดและแสดงถึงความ สามารถของผู้สร้างที่สามารถแก้ไขปัญหาการก่อสร้างที่เกิดขึ้นเมื่อกว่า 4,600 ปีมา แล้ว ประสบการณ์จากพีระมิดหักมุมนี้เอง ทำให้การก่อสร้างพีระมิดแห่งต่อมาประสบความ สำเร็จ และส่งผลให้มีการสร้าง มหาพีระมิดแห่งกิซ่า ที่กลายเป็นหนึ่งเดียวของ เจ็ดสิ่ง มหัศจรรย์ของโลก ที่ยังคงอยู่มาจนถึงปัจจุบัน นางสาวศศิธร ไชยแสง เลขที่ 31

พีระมิดแดง (Red Pyramid) พีระมิดแดง (Red Pyramid) สร้างโดยฟาโรห์สนอฟรู หลังจาก พีระมิดเมดุม และพีระมิดหักงอ นับเป็นพีระมิดที่มีรูปร่างสมบูรณ์แบบ แห่งแรกของโลก ด้านทั้ง 4 ของพีระมิดแดงทำมุมเอียง 43 องศา เท่ากับมุมเอียงในส่วนบนของพีระมิดหักงอ ซึ่งเท่ากับมีการนำบทเรียน จากการสร้างพีระมิดครั้งก่อนมาใช้นั่นเอง พีระมิดแดงมีความสูงถึง 104 เมตร (341 ฟุต) หรือประมาณ อาคารสูง 30 ชั้น (เมื่อคิดความสูงที่ชั้นละ 3.5 เมตร) ฐานพีระมิด แต่ละด้านยาว 220 เมตร (722 ฟุต) หรือมีขนาดฐานเกือบเท่ากับ มหาพีระมิดคูฟูแห่งกิซ่า นับเป็นพีระมิดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในพีระมิด 3 แห่งที่เมืองดาชูร์ (Dahshur) และในยุคสมัยที่ก่อสร้างแล้วเสร็จยัง นับเป็นสิ่งก่อสร้างสูงที่สุดในโลกในขณะนั้นอีกด้วย และเนื่องจาก พีระมิดนี้สร้างโดยปิดผิวนอกด้วยหินแกรนิตสีแดงทำให้ได้ชื่ อว่าพีระมิด แดงจากสี หินแกรนิต นางสาวศศิธร ไชยแสง เลขที่ 31

พีระมิด : Chichen Itza Chichen Itza ชีเชนอิตซา (อังกฤษ: Chichen Itza; สเปน: Chichén Itzá) เป็นแหล่งโบราณคดี ขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นโดยชาวมายาในเขตวัฒนธรรมเมโส อเมริกัน ตั้งอยู่ในคาบสมุทรยูกาตัง รัฐยูกาตัง ทางภาค ตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศเม็กซิโก ชีเชนอิตซาเป็น ส่ วนหนึ่งของเมืองจำนวนมากมายซึ่ งพวกมายาได้สร้าง ขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ของเทพเจ้าผู้ทรงกระหายพระโลหิต นางสาวศศิธร ไชยแสง เลขที่ 31

พีระมิด : The Red Pyramid The Red Pyramid พีระมิดแดง (Red Pyramid) สร้างโดยฟาโรห์สนอฟรู หลังจากพีระมิดเมดุม และพีระมิด หักงอ นับเป็นพีระมิดที่มีรูปร่างสมบูรณ์แบบแห่งแรกของ โลก นางสาวศศิธร ไชยแสง เลขที่ 31

พีระมิด : Teotihuacan Teotihuacan ชาวเมืองเตโอติอัวกัน (Teotihuacan) ได้ร่วมกันสร้างวิหารหลายแห่งขึ้น ที่ใจกลางเมือง ระหว่างคริสตศักราชที่ 300 – คริสต ศักราชที่ 600 นครหลวงแห่งสำคัญของ จักรวรรดิ แอซเทกส์ (Aztecs) คือ เมืองเตโอติอัวกัน (Teotihuacan) นางสาวศศิธร ไชยแสง เลขที่ 31

การออกแบบและการสร้างพีระมิด โครงสร้างที่ดูโดดเด่นและพิเศษมากนี้ นักคณิตศาสตร์ได้พิจารณา รูปทรงของพีระมิดและพบว่า มันเป็นรูปทรงสามมิติที่ประกอบไป ด้วยฐาน และด้านหลายด้าน โดยด้านเหล่านั้นจะไปเชื่ อมกันที่จุดๆ หนึ่ง (อาจเรียกว่าจุดยอด หรือ Apex) นางสาวศศิธร ไชยแสง เลขที่ 31

พิจารณาส่วนประกอบต่างๆ ได้ดังรูปต่อไปนี้ พีระมิดนี้ตั้งตรง (เรียกว่า พีระมิดตรง) ด้านของพีระมิดนี้มี 4 ด้าน ซึ่งเท่ากับ 4 ด้านที่ฐาน ด้านเหล่านี้วางตัวใน แนวตั้งลาดชันลู่เข้าหากัน จนไปพบกันที่จุดยอดแหลมด้านบนสุด หาก เราลากเส้นจากจุดยอดนั้น ลงมาตั้งฉากกับฐาน จะได้ความสูงตรง (h) ในบางครั้งเราอาจจะต้องสนใจความสูงเอียงของพีระมิดด้วย ซึ่งวัดได้ จากจุดยอด ลงมาตามพื้นผิวด้านใดด้านหนึ่งมาตั้งฉากที่ขอบฐาน (h เอียง) แต่รูปทรงของพีระมิดไม่ได้จำกัดว่าต้องมีหน้าตาแบบนี้เท่านั้น เราลองดู ตัวอย่างอื่นๆ ตามตารางข้างล่างนี้กัน นางสาวศศิธร ไชยแสง เลขที่ 31

ชื่อเรียก (พีระมิด) รูปร่างของฐาน รูปทรงของพีระมิด ฐานสามเหลี่ยม (Triangular pyramid) ฐานสี่ เหลี่ยม (Square p yramid) ฐานห้าเหลี่ยม (Pentagona l pyramid) ฐานหกเหลี่ยม (Hexagonal pyramid) ฐานไม่ปกติ (Irregular pyramid)

พีระมิดตรง และพีระมิดเอียง การที่จะแยกว่าพีระมิดอันไหนตรงหรือเอียง ให้ดูจากตำแหน่ง ของจุดยอด ถ้ามันตรงกับจุดศูนย์กลางของฐาน จะเรียกว่า พีระมิดตรง (Right pyramid) ดังรูปต่อไปนี้ นางสาวศศิธร ไชยแสง เลขที่ 31

แต่ถ้าไม่ใช่ เราจะเรียกมันว่าพีระมิดเอียง (Oblique pyramid) ดังรูปต่อไปนี้ นางสาวศศิธร ไชยแสง เลขที่ 31

วิธีสร้างพีระมิด ภูมิปัญญาของคนโบราณนั้นมีสูงกว่าที่คนปัจจุบันจะคาดคิด นัก ทฤษฎีที่เคยเชื่ อว่าชาวอียิปต์ใช้กองทัพคนงานจำนวมหา ศาลในการสร้างพีระมิดอาจเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่ง ชาวอียิปต์ ไม่ได้ยกหินที่หนักมหาศาลเหล่านี้ด้วยตัวเอง แต่มีเครื่องทุ่น แรงช่วยในแบบที่คุณคาดไม่ถึง นางสาวศศิธร ไชยแสง เลขที่ 31

น้ำ เป็นปัจจัยหลัก ที่ช่วยให้ชาวอียิปต์ใช้ขนย้ายหินก้อนใหญ่ จากคลองไปยังจุดหมาย ทั้งหมดที่พวกเขาทำคือการตัด เหลี่ยมและมุมของหินและขุดคลองเพื่อใช้ขนย้าย ดังนั้น วัสดุ อุปกรณ์ทุกอย่าง ถูกขนย้ายผ่านคลองนี้หมด นางสาวศศิธร ไชยแสง เลขที่ 31

หินจะถูกผูกติดกับทุ่นลอยในน้ำ ดังนั้นพวกเขาสามารถขนย้ายหิน ไปได้อย่างง่ายดาย แพหนังแพะถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้ยกและขนย้ายหินเหล่านี้ นางสาวศศิธร ไชยแสง เลขที่ 31

ไกลออกไป บรรดาคนงานเตรียมวัสดุพร้อมไว้ในคลอง โดยใช้คูน้ำที่ทำไว้ วัดเหลี่ยมมุมของหินแต่ละก้อน และยกมันออกมาเพื่อนำขึ้นไปวางบนพีระมิด นางสาวศศิธร ไชยแสง เลขที่ 31

ภาพของคลองโบราณที่ใช้ในการสร้างพีระมิด ที่ถูกถ่ายในปัจจุบัน แล้ววิธียกหินขึ้นไปบนพีระมิดล่ะ ? แน่นอนว่าใช้น้ำเหมือนเดิม นางสาวศศิธร ไชยแสง เลขที่ 31

ชาวอิยิปต์สร้างอุโมงค์ขนาดใหญ่และสูบน้ำเข้าไป ส่งหินที่ ผูกติดกับทุ่นลอยเข้าไปในอุโมงค์ส่ งขึ้นไปบนยอดพีระมิด เมื่อมีน้ำเป็นเครื่องทุ่นแรง หินที่ผูกทุ่นก็ลอยขึ้นที่สูงได้สบาย นางสาวศศิธร ไชยแสง เลขที่ 31

มุมมองจากด้านบน พีระมิดในช่วงการก่อสร้าง จะถูกล้อมรอบ ด้วยน้ำทั้้งข้างนอกและข้างใน หินจะถูกน้ำส่งมายังพื้นที่ๆ พวกเขาคำนวนเอาไว้ นางสาวศศิธร ไชยแสง เลขที่ 31

ชาวอียิปต์ คำนวนมุมปีรามิดที่ถูกต้องเอาไว้ ซึ่งก็คือ 53 องศา แผนภาพด้านล่างแสดงให้เห็นว่า หากวางมุมผิด น้ำก็จะเท ไหลออกมา ดังนั้น การวางองศาการคำนวนจะถูกวัดด้วยน้ำ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก นางสาวศศิธร ไชยแสง เลขที่ 31

และนี่ก็คือความมหัศจรรย์ของชาวอียิปต์ ที่คำนวนวิธีสร้าง พีระมิดได้อย่างสุดยอดจริงๆ นางสาวศศิธร ไชยแสง เลขที่ 31

จุดเริ่มต้นการสร้างพีระมิด ในประเทศอียิปต์เองนั้นมีพีระมิดกระจายอยู่มากมายทั่ว ประเทศนับ 100 แห่ง หน้าที่หลักของมันก็คือเป็นที่ฝัง พระศพของกษัตริย์อียิปต์โบราณ หรือ ฟาโรห์ และเพื่อให้ แน่ใจว่าองค์ฟาโรห์จะมีข้าวของเครื่องใช้ และทรัพย์สินเงิน ทองที่เพียงพอสำหรับโลกหน้าอย่างสุขสบาย (ถึงตรงนี้ ให้จำคำว่า \"โลกหน้า\" ไว้ก่อน) นอกจากนั้นยังรวมถึง อาหาร เครื่องเรือน เครื่องดนตรี อาวุธ อุปกรณ์ล่าสัตว์ ไป จนกระทั่งรถศึ กเทียมม้า นางสาวศศิธร ไชยแสง เลขที่ 31

ความเชื่อของชาวอียิปต์ ที่ส่ งผลต่อการสร้างพีระมิด และการทำมัมมี่ ชาวอียิปต์นั้นมีความเชื่ อว่า คนที่ตายไปแล้วจะกลับคืนชีพ เหมือนดวงอาทิตย์ที่หายลับขอบฟ้าในยามเย็น และกลับขึ้นมา ใหม่ในวันรุ่งขึ้น ฟาโรห์ทุกพระองค์ก็ล้วนถือว่าเป็นโอรสแห่ง สุริยเทพที่ถูกส่งมาปกครองโลกมนุษย์ หลังจากฟาโรห์ สิ้นพระชนม์ลงแล้ว พระองค์ก็จะไปประทับอยู่ในสถานที่ที่เรียก ว่า \"Duat\" (ดุ-อัต) หรือโลกหลังความตาย และมีเพียง ฟาโรห์เท่านั้นที่จะสามารถออกจากโลกหลังความตายกลับมาจุติ ใหม่ในร่างเดิมที่จัดเตรียมไว้อย่างดี คือ \"มัมมี่\" (แต่ในสมัย ต่อๆมาการทำมัมมี่ก็แพร่หลายสู่ขุนนาง ชนชั้นสูง สามัญชน แม้กระทั่งสัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของพระเจ้าอย่างเช่น แมว ด้วย จึงมีการทำมัมมี่กันเป็นปกติ ไม่เฉพาะฟาโรห์)

ส่ วนการที่ต้องเก็บรักษาร่างไว้ในรู ปแบบของการทำมัมมี่ นั้น ก็เพราะเมื่อตายแล้ว วิญญาณ หรือ “คา” (ka) เป็น สิ่งที่ไม่ดับสูญ จะกลับเข้าร่างฟื้ นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง แต่ หากร่างสูญหาย หรือถูกทำลายไปก็เหมือนไม่มีภาชนะให้ \"คา\" กลับไปได้นั่นเอง ไม่ใช่แค่ร่าง ยังรวมถึงอวัยวะ ภายในต่างๆ ที่จะถูกเอาออกมาจากร่าง แล้วเก็บรักษาไว้ใน ภาชนะอย่างดี ฝังไว้ในที่เดียวกันกับศพครับ เรียกได้ว่า หากองค์ฟาโรห์กลับมาเกิดใหม่แล้ว ก็พร้อมจะ เริ่มต้นชีวิตใหม่อย่างยิ่งใหญ่ได้ทันที นางสาวศศิธร ไชยแสง เลขที่ 31


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook