Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายงานกรมเจ้าท่า

รายงานกรมเจ้าท่า

Published by กฤษดา จันปาม, 2022-03-24 12:58:59

Description: รายงานกรมเจ้าท่า

Search

Read the Text Version

ศึกษาระบบงานของสำนักงานพฒั นาและบำรุงรกั ษาทางน้ำท่ี 5 จันทบรุ ี จัดทำโดย นายกฤษดา จนั ปาม เลขท่ี 1 นางสาวณฐั วี ปัญญสกุลพนู ศริ ิ เลขท่ี 6 เสนอ ครูจิรวรรณ มะลาไสย รายงานเล่มน้เี ปน็ ส่วนหนง่ึ ของวิชาการวิเคราะห์และออกแบบระบบเชิงวัตถุ รหัสวชิ า 3204-2006 สาขาวชิ าเทคโนโลยธี ุรกิจดิจทิ ัล ระดับชั้นประกาศนยี บัตรวิชาชีพชัน้ สงู (ปวส.) วิทยาลัยเทคนคิ จันทบรุ ี ประจำปีการศกึ ษาท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2564

ศึกษาระบบงานของสำนักงานพฒั นาและบำรงุ รกั ษาทางน้ำท่ี 5 จันทบรุ ี จัดทำโดย นายกฤษดา จนั ปาม เลขท่ี 1 นางสาวณฐั วี ปัญญสกุลพนู ศริ ิ เลขท่ี 6 เสนอ ครูจิรวรรณ มะลาไสย รายงานเล่มน้เี ปน็ ส่วนหนง่ึ ของวิชาการวิเคราะห์และออกแบบระบบเชิงวัตถุ รหัสวชิ า 3204-2006 สาขาวชิ าเทคโนโลยธี ุรกิจดิจทิ ัล ระดับชั้นประกาศนยี บัตรวิชาชีพชัน้ สงู (ปวส.) วิทยาลัยเทคนคิ จันทบรุ ี ประจำปีการศกึ ษาท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2564

ก คำนำ รายงานฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชาการวิเคราะห์และการออกแบบระบบเชิงวัตถุ ชั้น ปวส. 1/1 แผนกเทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล โดยมีจุดประสงค์ เพื่อศึกษาระบบงานของสำนักงานพัฒนาและ บำรุงรักษาทางน้ำที่ 5 จันทบุรี โดยนำเอาข้อมูลที่ได้มาทำการวิเคราะห์และออกแบบระบบงานของ สำนักงานพฒั นาและบำรุงรกั ษาทางนำ้ ที่ 5 จนั ทบรุ ี ซง่ึ สามารถนำไปใช้ประกอบการเรียนการสอนได้ คณะผู้จัดทำหวังว่ารายงานฉบับนี้คงมีประโยชน์ต่อผู้ที่นำไปใช้ให้เกิดผลสัมฤทธิ์ตามความ คาดหวัง และให้ความรู้ เป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านทกุ ๆ ท่าน หากมีข้อผิดพลาดประการใดคณะผู้จัดทำ ข้ออภัยมา ณ ท่ีน้ีด้วย คณะผจู้ ัดทำ

ข สารบญั หน้า ก คำนำ ข สารบญั ค สารบัญ(ต่อ) ง สารบัญตาราง จ สารบญั รปู ภาพ ฉ สารบัญรปู ภาพ(ต่อ) 1 บทที่ 1 บทนำ 1 1 1.1 หลักการและเหตผุ ล 1 1.2 วตั ถปุ ระสงค์ของการวเิ คราะหแ์ ละออกแบบระบบ 2 1.3 เป้าหมาย 2 1.4 การติดตามผลและการประเมนิ 2 1.5 ประโยชนท์ คี่ าดว่าน่าจะไดร้ บั 3 1.6 ระยะเวลาท่ใี ช้ในการวเิ คราะหแ์ ละออกแบบระบบ 3 บทท่ี 2 เอกสารและงานวิจยั ทเ่ี กี่ยวขอ้ ง 4 2.1 ความหมายของสำนักงาน 4 2.2 ประโยชนข์ องการวเิ คราะหร์ ะบบ 5 2.3 การวิเคราะหร์ ะบบ 6 2.4 การออกแบบระบบ 7 2.5 การพัฒนาระบบ 8 2.6 การนำไปใช้และบำรุงรักษา 10 2.7 ระบบฐานข้อมลู 10 บทที่ 3 วธิ ีดำเนนิ งาน 10 3.1 รวบรวมข้อมูล 12 3.2 วเิ คราะหโ์ ดยใช้ DFD 14 3.3 ออกแบบ ER-Model 3.4 ออกแบบฐานข้อมูลและสร้างความสมั พันธโ์ ดยใช้ Microsoft Access

สารบญั (ต่อ) ค บทท่ี 4 ผลการดำเนินงาน หน้า 4.1 การออกแบบหนา้ จดั ซื้อทำการขุดลอกร่องนำ้ 18 4.2 การจดั เก็บข้อมลู 18 23 บทที่ 5 สรุปผลการวเิ คราะห์ออกแบบระบบและข้อเสนอแนะ 27 5.1 วตั ถุประสงค์ของการวิเคราะห์และออกแบบระบบ 27 5.2 การเก็บรวบรวมข้อมลู 27 5.3 สรุปผลการวเิ คราะห์และออกแบบระบบ 27 5.4 ข้อเสนอแนะ 27 28 บรรณานุกรม 29 ภาคผนวก ก 30 31 Context Diagram Level 0 ระบบพฒั นาและบำรงุ รักษาทางน้ำที่ 5 32 ภาคผนวก ข 33 34 DataFlow Diagram Level 1 ระบบพฒั นาและบำรงุ รักษาทางน้ำท่ี 5 35 ภาคผนวก ค 36 37 ER-Model ระบบพฒั นาและบำรงุ รกั ษาทางนำ้ ที่ 5 38 ภาคผนวก ง 40 43 Entity Relationship Diagram ภาคผนวก จ คำถาม 9 ข้อ คำถาม 15 ข้อ สรุปการสมั ภาษณ์

สารบัญตาราง ง ตารางท่ี หน้า 1.1 ระยะเวลาท่ีใช้ในการวเิ คราะหแ์ ละออกแบบระบบ 2

สารบญั ภาพ จ ภาพที่ หน้า 3.1 Context Diagram Level 0 11 3.2 Context Diagram Level 1 12 3.3 Chen ER-Model 13 3.4 การออกแบบตารางข้อมูล 14 3.5 การออกแบบตารางข้อมลู Customer 15 3.6 การออกแบบตารางข้อมลู Products 15 3.7 การออกแบบตารางข้อมลู Employee 15 3.8 การออกแบบตารางข้อมลู Order 15 3.9 การออกแบบตารางข้อมลู Order Details 16 3.10 การออกแบบตารางฐานข้อมลู Category 16 3.11 การออกแบบตารางข้อมลู Receipt 16 3.12 ความสมั พันธ์หรอื Entity Relationship Diagram 17 4.1 หน้าจอจัดซ้ือ 18 4.2 หนา้ จอการสง่ั ขุดลอกร่องน้ำ 19 4.3 หน้าจอขอ้ มลู จังหวดั ที่สั่งขุดลอกร่องน้ำ 20 4.4 หนา้ จอขอ้ มลู พนกั งาน 21 4.5 หน้าจอใบเสร็จ 22 4.6 แสดงขอ้ มูลลกู ค้ามุมมองออกแบบ 23 4.7 แสดงข้อมลู ลกู คา้ มุมมองแผน่ ขอ้ มูล 23 4.8 แสดงข้อมูลสนิ ค้ามุมมองออกแบบ 23 4.9 แสดงขอ้ มูลสนิ คา้ มุมมองแผ่นขอ้ มลู 23 4.10 แสดงขอ้ มูลรายการขายสนิ ค้ามมุ มองออกแบบ 24 4.11 แสดงขอ้ มูลรายการขายสนิ คา้ มมุ มองแผน่ ขอ้ มลู 24 4.12 แสดงข้อมูลการส่งั ซื้อมุมมองออกแบบ 24 4.13 แสดงข้อมูลการสงั่ ซื้อมุมมองแผน่ ข้อมูล 24

สารบัญภาพ(ตอ่ ) ฉ ภาพที่ หน้า 4.14 แสดงข้อมูลประเภทสนิ คา้ มุมมองออกแบบ 25 4.15 แสดงข้อมูลประเภทสนิ ค้ามุมมองแผน่ ขอ้ มูล 25 4.16 แสดงข้อมูลใบเสรจ็ มุมมองออกแบบ 25 4.17 แสดงขอ้ มูลใบเสร็จมุมมองแผ่นขอ้ มลู 25 4.18 แสดงข้อมูลพนักงานมุมมองออกแบบ 26 4.19 แสดงขอ้ มลู พนักงานมุมมองแผน่ ข้อมลู 26

บทท่ี 1 บทนำ 1.1 หลักการและเหตุผล สำนักงานพัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 5 จันทบุรีเป็นสาขาย่อยเหมือนลูก ทำหน้าที่ขุด ลอกร่องน้ำใหม่ ตามแผนงบประมาณในทุกๆ ปีที่ทางกรมเจ้าท่าสาขาใหญ่ที่เป็นเหมือนแม่จัดทำไว้ และส่งมาไปยังจังหวัดต่าง ๆ ที่มีหน้าท่ีเกี่ยวข้องแต่อีกกรณีหน่ึงคือ ขุดลอกร่องน้ำเก่าตามคำร้องของ ประชาชนที่เรยี กรอ้ งกับผู้ใหญ่บา้ น และ ผู้ใหญ่บ้าน ณ หมู่บ้านนั้น ๆ จะส่งหนังสอื มายังสำนกั งานใน จังหวัดที่เกี่ยวข้อง เช่น งานขุดลอกร่องน้ำคลองสน (เกาะช้าง) อำเภอเกาะช้าง จังหวัดตราด มี เป้าหมายในการขุดลอกคือ แก้ไขความตื้นเขินของร่องน้ำจากตะกอนทราย เศษวัสดุที่สะสมกีดขวาง แนวร่องน้ำ เพื่อความสะดวกและปลอดภัยในการเดินเรือ ส่งเสริมอาชีพประมง เพื่อเพิ่มรายได้ใน ชุมชน และชว่ ยในการระบายน้ำ ปัจจุบันสำนักงานพัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 5 จันทบุรี มีพนักงานข้าราชการภายใน สำนักงานการให้สำรวจหลายคน ทำให้มีการให้สำรวจที่ทั่วถึงจึงเกิดการสำรวจที่รวดเร็ว จึงได้พัฒนา และวิเคราะห์ระบบสำนักงานพัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 5 จันทบุรี ให้มีประสิทธิภาพในการ ทำงานมากขึน้ ดังนั้น คณะผู้จัดทำได้มีแนวคิดในการทำระบบของสำนักงานพัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำท่ี 5 จนั ทบรุ ีน้ี ขึ้นมาเพอื่ ประยุกต์ให้สำนักงานพัฒนาและบำรุงรักษาทางนำ้ ท่ี 5 จันทบุรี ให้มีระบบและ ประสิทฺธิภาพในการทำงานที่ดีขึ้น โดยมีเทคโนโลยีต่าง ๆ มาช่วยในการวิเคราะห์ในส่วนของระบบ ภายในและระบบภายนอกใหอ้ อกมาอยา่ งมีระบบ 1.2 วตั ถปุ ระสงคข์ องการวิเคราะหแ์ ละออกแบบระบบ 1.2.1 เพ่อื วิเคราะห์และออกแบบระบบศึกษาระบบงานของสำนักงานพฒั นาและบำรุงรักษาทาง น้ำที่ 5 จนั ทบุรี 1.2.2 เพอื่ สำรวจระบบงานของสำนกั งานพัฒนาและบำรุงรกั ษาทางนำ้ ท่ี 5 จนั ทบรุ ี 1.2.3 เพอ่ื เรียนร้แู ละเกบ็ ประสบการณจ์ ากการทำธรุ กิจของผู้ประกอบการ 1.3 เป้าหมาย 1.3.1 สามารถนำระบบที่ศึกษาและสำรวจมาใช้งานได้จรงิ 1.3.2 เรียนร้กู ารทำงานของระบบกบั สำนักงานเพอ่ื นำไปใช้ในอนาคต

2 1.4 การติดตามผลและการประเมนิ 1.4.1 การติดตามผลและระบบในทุก ๆ ครั้ง 1.4.2 รายงานสรุปผลการศกึ ษาระบบงาน 1.5 ประโยชน์ทคี่ าดว่าน่าจะไดร้ บั 1.5.1 ได้ระบบสารสนเทศทีม่ ีลกั ษณะของสารสนเทศทดี่ คี รบถ้วน 1.5.2 สำนักงานหรอื นักศกึ ษามคี วามพอใจในการนำระบบท่ีมกี ารศึกษาและสำรวจในระดับดถี งึ ดมี าก 1.5.3 สามารถนำความรู้เก่ียวกบั การศึกษาและสำรวจระบบนำไปใช้ในอนาคตได้ 1.6 ระยะเวลาทใี่ ชใ้ นการวิเคราะหแ์ ละออกแบบระบบ ตารางในการวเิ คราะหแ์ ละออกแบบระบบครั้งน้ใี ช้ระยะเวลา ตงั้ แต่เดอื นพฤศจิกายน พ.ศ 2564 ถงึ เดือนมีนาคม พ.ศ 2565 ดังตารางที่ 1.1 ตารางที่ 1.1 ระยะเวลาที่ใช้ในการวิเคราะห์และออกแบบระบบ ขน้ั ตอน สปั ดาหท์ ่ี การดำเนนิ งาน 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 1. กำหนดโครงงาน 2. เสนอโครงงาน 3. ศึกษา รายละเอียดข้อมูล 4. ออกแบบระบบ 5. ดำเนนิ การทำ ระบบ 6. นำเสนอระบบ 7. ประเมนิ ผลและ สรปุ ผล 8. จดั ทำเอกสาร โครงงาน

บทท่ี 2 เอกสารและงานวจิ ยั ท่ีเกี่ยวข้อง คณะผ้จู ดั ทำ ได้ทำการวเิ คราะห์และออกแบบระบบสำนกั งานพัฒนาและบำรงุ รักษาทางน้ำท่ี 5 จนั ทบุรี ออกมาได้อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ โดยศึกษาหลกั การและทฤษฎี ดังหัวข้อต่อไปน้ี 2.1 ความหมายของสำนักงาน 2.2 ประโยชนข์ องการวเิ คราะหร์ ะบบ 2.3 การวิเคราะห์ระบบ 2.4 การออกแบบระบบ 2.5 การพัฒนาระบบ 2.6 การนำไปใช้และบำรงุ รักษา 2.7 ระบบฐานข้อมูล 2.1 ความหมายของสำนักงาน สำนกั งาน (Workplace) หมายถึง ท่ีต้ังของหนว่ ยงานหรือสถานทท่ี ำงาน ซง่ึ เป็นส่วนหน่ึงของ องค์กร มีหน้าที่สำคัญในการเป็นศูนย์กลางของข้อมูล การให้บริการ การวิเคราห์ข้อมูล การตัดสินใจ และการเป็นทปี่ รึกษา มีขนาดใหญ่หรอื เลก็ ขน้ึ อยูก่ ับภาระหน้าทข่ี องสำนักงานน้นั ๆ เปน็ สำคัญ ปัจจุบันสำนักงานมีพัฒนาการที่ทันสมัย เพราะอาศัยเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการบริหาร จดั การ ทำใหภ้ ารกจิ ของสำนกั งานมคี วามสำเร็จลลุ ่วงอย่างมีประสิทธิภาพ และมีรูปแบบที่แตกต่างกัน ออกไป องค์กรธุรกิจที่มีเจ้าของคนเดียว มักจะมีความรู้จักและคุ้นเคยกับพนักงาน การสั่งการจึง อาศัยประสบการณ์ในการทำงาน ทำให้การสื่อสารภายในสำนักงานและภายนอกมีความเชื่อมโยงกัน แต่เมื่อธุรกิจพัฒนาขึ้นมาเป็นขนาดกลางหรือขนาดใหญ่ การสื่อสารกันจึงต้องมีการจดบันทึก มีการ จัดพิมพ์เป็นรายงาน และส่งต่อระหว่างกันในหน่วยงาน ทำให้สำนักงานมักถูกมองเป็นตัวแทนของ เอกสารที่มีแต่กระดาษ เป็นศูนย์รวมของเอกสารและข้อมูลจากหน่วยงานต่าง ๆ จนอาจกล่าวได้ว่า งานสำนักงานเป็นงานเกี่ยวกับขอ้ มูล และมบี ทบาทที่สำคญั

4 2.2 ประโยชน์ของการวเิ คราะหร์ ะบบ 2.2.1 ช่วยให้ฝ่ายบริหารเขา้ ใจ วธิ ปี ฏบิ ตั กิ ระบวนการปฏบิ ัติและระบบตา่ งๆ และ หาหนทางปรบั ปรงุ แก้ไขใหก้ ารปฏบิ ัตงิ านต่าง ๆ เป็นไปอยา่ งมีประสิทธิภาพ 2.2.2 ช่วยใหเ้ กดิ การใชท้ รพั ยากรอยา่ งประหยดั 2.2.3 ช่วยใหก้ ารควบคุมการปฏบิ ัติงานเปน็ ไปตามแผนขององค์การ 2.2.4 ประสานงานทด่ี ีต่อกันทำใหก้ ารวิเคราะหส์ ถานการณ์มคี วามน่าเช่ือถือ 2.2.5 ทำใหผ้ วู้ เิ คราะห์ได้ทำงานอยา่ งเป็นระบบ 2.2.6 ทำใหผ้ ูร้ ับสารไดร้ ับข้อมลู การวิเคราะห์ที่ครบถ้วนและมขี ้อมูลอา้ งองิ 2.2.7 ทำใหเ้ กดิ องค์ความรใู้ หม่ทส่ี ามารถนำไปต่อยอดได้ 2.2.8 สามารถจัดทำแนวทางการพิจารณาจดั อบรมพนักงานในสำนกั งาน 2.2.9 ใชเ้ ปน็ ข้อมูลในการกำหนดแผนงานเพื่อพัฒนาศักยภาพพนักงานในสำนักงาน 2.2.10 ใชเ้ ป็นแนวทางกำหนดมาตรฐานการปฏิบัติงาน 2.2.11 ใชป้ ระโยชน์ในการบรรจพุ นกั งานตามทักษะของแต่ละบุคคล 2.2.12 ใชเ้ ป็นกรอบในการพิจารณาคา่ ตอบแทนในการทำงานให้เปน็ ไปอย่างยุตธิ รรม 2.3 การวิเคราะหร์ ะบบ การวิเคราะห์ระบบ (System Analysis) เป็นขั้นตอนการวิเคราะห์ระบบงานปัจจุบันหรือ ระบบงานเดิม ซึ่งอาจเป็นระบบที่ใช้คอมพิวเตอร์อยู่หรือไม่ก็ได้ เพื่อให้ทราบถึงรายละเอียดของ ระบบงานที่ใช้อยู่ ข้อดี ข้อเสีย ทรัพยากร และความเหมาะสมของระบบงานในแต่ละส่วน เพ่ือ เตรยี มการปรบั เปลย่ี นใหเ้ ปน็ ระบบสารสนเทศใหม่ ส่งิ ทีจ่ ะตอ้ งวิเคราะหร์ ะบบมีดังนี้

5 2.3.1 วิเคราะห์ถงึ ปัญหาหลกั และปญั หารองทเี่ กิดขนึ้ ในระบบ (Redefine the Problem) 2.3.2 ทำความเข้าใจถงึ ระบบงานเดิม (Understand Existing System) 2.3.3 กำหนดความต้องการของผู้ใชร้ ะบบ และข้อจำกดั ในการใชร้ ะบบงานใหม่ (User Requirements and Constrains) 2.3.4 เสนอทางเลือกในการออกแบบระบบ โดยการสร้างแบบจำลองเชิงตรรกะ (Logical Model) เชน่ Database Model Diagram, ER Source Model และ ORM Diagram ในการวเิ คราะห์ ข้อมูลโดยส่วนใหญ่มักวิเคราะห์ออกมาในรูปของแผนภาพการไหลของข้อมูล (DFD : Data Flow Diagram) ซึ่งเป็นแผนภาพที่แสดงการไหลของข้อมูลทั้งระบบ และช่วยในการสื่อสารระหว่าง นักวเิ คราะหร์ ะบบกับผใู้ ช้ระบบ 2.4 การออกแบบระบบ การออกแบบ หมายถึง การนำเอาความต้องการของระบบมาเปน็ แบบแผน หรือเรียกว่า พมิ พ์ เขียวในการสร้างระบบสารสนเทศให้ใช้งานได้จริงความต้องการของระบบ เช่น สามารถติดตามยอก ขายไดเ้ ป็นระยะ เพ่ือให้ฝ่ายบรหิ ารสามารถปรับปรุงการขายได้ทนั ทว่ งที นกั วเิ คราะหร์ ะบบ (System Analysis)เมอ่ื ได้ทำความรจู้ ักและเขา้ ใจถึงความหมายของการวเิ คราะห์และออกแบบระบบแล้วก็ต้อง มาทำความรู้จักกบั ผู้ท่ีจะมาทำการวเิ คราะห์และออกแบบระบบท่ีได้กล่าวถึงมาตัง้ แต่ต้นให้ดีก่อนท่ีจะ ไปเริ่มการทำการวิเคราะห์และออกแบบระบบต่อไป นักวิเคราะห์ระบบ (System Analysis) คือ บุคคลที่ศึกษาปัญหาซับซ้อนที่เกิดขึ้นในระบบและแยกแยะปัญหาเหล่านั้นอย่างมี หลักเกณฑ์ นักวิเคราะห์ระบบหรือที่เราเรียกกันว่า SA จะทำหน้าที่หาวิธีการแก้ไขปัญหาที่แยกแยะเหล่าน้ัน พรอ้ มทงั้ ใหเ้ หตุผลดว้ ยการวเิ คราะห์ระบบนนั้ นักวิเคราะห์ระบบจะต้องกำหนดขอบเขตของการวิเคราะห์ และต้องกำหนดจุดมุง่ หมายหรือ เป้าหมายในการวิเคราะห์นั้นด้วย นอกจากนี้ยังต้องทำความเข้าใจโครงสร้างลักษณะขององค์การน้ัน ในด้านต่าง ๆ นักวิเคราะห์ระบบ (System Analysis) คือ บุคคลที่มีหน้าที่วิเคราะห์และออกแบบ ระบบ ซง่ึ ปกติแลว้ นักวเิ คราะห์ระบบควรจะอยู่ในทีมระบบสารสนเทศขององค์กรหรือของธุรกิจนั้น ๆ นักวิเคราะห์ระบบ (System Analysis) คือ บุคคลที่มีหน้าที่ในการออกแบบและพัฒนาระบบงานใน ระบบการประมวลผลข้อมูล ด้วยระบบและวิธีการต่าง ๆ เพื่อให้ระบบงานบรรลุถึงเป้าหมายตาม ต้องการของผู้ใช้ระบบ เริ่มตั้งแต่การวิเคราะห์ระบบข้อมูล การออกแบบระบบการปฏิบัติงานในการ ประมวลผลข้อมูล การสร้างขั้นตอนการปฏิบัตงิ าน การพัฒนาโปรแกรม และการเขียนเอกสารต่าง ๆ ประกอบการปฏบิ ัตงิ านของระบบ

6 จากความหมายข้างต้น จะเห็นได้ว่านักวิเคราะห์ระบบงานเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับระบบงานใน การวิเคราะห์และออกแบบระบบการประมวลผล นอกจากนนั้ นกั วิเคราะห์ระบบยังต้องรับผิดชอบงาน ในส่วนที่เกี่ยวกับการจัดหาอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ผู้ที่จะใช้ระบบแฟ้มข้อมูลหรือ ฐานข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลเดิมที่จะป้อนเข้าสู่ระบบอีกสิ่งหนึ่งที่จะต้องศึกษา คือ ลักษณะ โครงสร้างข้อมูลที่มีอยู่ในการทำงานของระบบที่ทำการวิเคราะห์นั้นและที่สำคัญที่นักวิเคราะห์ระบบ จะมองข้ามไปไม่ได้ นั่นคือ คนหรือบุคลากรที่ทำงานอยู่กับระบบที่ทำการวเิ คราะห์ ต้องทำการศึกษา ว่าคนเกี่ยวข้องกับระบบอย่างไร เกี่ยวข้องตรงไหน ทำอะไร เพราะคนเป็นปัจจัยทีส่ ำคัญที่สุด ถ้าขาด ความร่วมมือจากบุคลากรที่ทำงานอยู่ในระบบที่จะศึกษาก็ถือว่าล้มเหลวไปแล้วครึ่งหนึ่งดังนั้นจะ มองข้ามคนไปไมไ่ ด้ 2.5 การพฒั นาระบบ การพัฒนาระบบ เป็นการสร้างระบบงานใหม่หรือปรับเปลี่ยนระบบงานเดิมที่มีอยู่แล้วให้ สามารถทำงานเพื่อแก้ปัญหาการดำเนินงานทางธุรกิจได้ตามความต้ องการของผู้ใช้งานโดยอาจนำ คอมพิวเตอร์เข้าช่วยในการนำข้อมูลเข้าสู่ระบบเพื่อประมวลผลเรียบเรียง เปลี่ยนแปลงและจัดทำให้ ไดผ้ ลลพั ธต์ ามตอ้ งการความจำเป็นในการพัฒนาระบบสารสนเทศ มดี ังต่อไปน้ี 2.5.1 การเปลี่ยนแปลงกระบวนการบริหารและการปฏิบัติงาน ระบบเดิมไม่สามารถให้ข้อมูล หรือทำงานได้ตามต้องการ มกี ารดำเนินงานหลายข้ึนตอน ยุ่งยากในการรวบรวมขอ้ มลู เพอ่ื นำมาจัดทำ ข้อมูลสรุปสำหรับการติดตามการปฏิบัติงานโดยรวมขององค์การ จึงจำเป็นต้องพัฒนาหรือปรับปรุง ระบบสารสนเทศที่สามารถช่วยให้ขั้นตอนการปฏิบัติงานภายในและกระบวนการบริหารมี ประสทิ ธิภาพมากข้นึ 2.5.2 การเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี เทคโนโลยีที่ใช้อยู่ในระบบสารสนเทศปัจจุบันล้าสมัย ค่าใช้จา่ ยในการบำรงุ รักษาระบบมรี าคาสูง จงึ ต้องรับเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ มาประยุกต์ใช้ซ่ึงทำให้มีการ เปลี่ยนแปลงระบบการทำงานทม่ี อี ยเู่ ดมิ 2.5.3 การปรับองค์การและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน ระบบปัจจุบันไม่สามารถรองรับ การเปลย่ี นแปลงในอนาคตได้วิธกี ารพฒั นาระบบวธิ ีการพฒั นาระบบสารสนเทศมี 5 วิธี ดังต่อไปนี

7 2.5.3.1 การพฒั นาระบบงานแบบดงั้ เดมิ (Traditional SDLC Methodology) 2.5.3.2 การสรา้ งตน้ แบบ (Prototyping) เปน็ การสรา้ งระบบตน้ แบบข้นึ มาเพ่อื ให้ เป็นการพัฒนาระบบสารสนเทศตามวงจรการพัฒนาระบบที่มีขั้นตอนที่แน่นอน วิธีนี้เป็นวิธีเก่าแก่ ทส่ี ุดและนยิ มเรียกย่อๆ วา่ SDLC (System Development Life Cycle: SDLC) ผใู้ ช้ ทดลองใช้งาน ซึ่งนอกจากผู้ใช้จะได้แนวคิดเกี่ยวกับสารสนเทศที่ต้องการแล้วยังช่วยให้มองเห็นภาพของระบบที่จะ พัฒนาได้ชัดเจนขึน้ 2.5.3.3 การพัฒนาระบบโดยผู้ใช้ (End-user Development) 2.5.3.4 การใช้บริการจากแหล่งภายนอก (Outsourcing) เนื่องจากองค์การไม่มีบุคลากร ที่มีทักษะความชำนาญ การจ้างหน่วยงานหรือบริษทั ภายนอกทีม่ ีความชำนาญด้านนี้มาทำการพัฒนา ระบบให้ ซึ่งการทำสัญญาจ้างให้หน่วยงานภายนอกมาทำงานเกี่ยวกับการดำเนินงานของฝ่าย คอมพวิ เตอร์นเี้ รยี กว่า IT Outsourcing ในที่น้จี ะเรยี กสนั้ ๆ วา่ Outsourcing 2.5.3.5 การใชซ้ อฟแวร์สำเรจ็ รูปประยกุ ต์ (Application Software Package) เป็น ทางเลือกหนึ่งในการพัฒนา เช่น ระบบงานเงินเดือน ระบบบัญชีลูกหนี้ หรือระบบควบคุมสินค้าคล คลัง หากซอฟต์แวร์สำเร็จรูปสามารถสนองต่อความต้องการระบบงานขององค์การได้ องค์การก้ไม่ จำเป็นต้องพัฒนาขึ้นเอง เนื่องจากโปรแกรมสำเร็จรปู ได้รับการออกแบบและผ่านการทดสอบแล้ว จึง ช่วยลดค่าใช่จ่ายและเวลาในการพัฒนาระบบใหม่และยังช่วยให้การทดสอบ การติดตั้ง และการ บำรุงรกั ษาระบบเป็นไปได้ง่ายขึน้ 2.6 การนำไปใชแ้ ละบำรุงรกั ษา เมื่อได้ดำเนินงานตั้งแต่ระยะแรกจนถึงระยะสุดท้าย นั่นคือตั้งแต่ระยะของการวางแผน โครงการ การวิเคราะห์ และการออกแบบ ในระยะถัดไปก็คือ ระยะของการนำระบบไปใช้และ บำรุงรักษาเป็นระยะสุดท้ายของการพัฒนาระบบที่จะกล่าวถึงในบทนี้ ประกอบด้วยกิจกรรมย่อย ๆ คือ การพัฒนา การทดสอบ การนำไปใช้โดยการติดตัง้ พร้อมทั้งติดตามการใช้งานการจัดทำคู่มือและ ฝกึ อบรม และการบำรงุ รกั ษา จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม สามารถบอกนำวธิ ีการใช้ตดิ ตั้งระบบไปประยุกตใ์ ช้งานไดส้ ามารถบอกข้อดี และข้อเสียของการติดตั้งระบบด้วยวิธีต่าง ๆบอกรายละเอียดเกี่ยวกับประเภทของการฝึกอบรมได้ บอกแนวทางในการประเมนิ ผลได้อย่างถูกตอ้ งสามารถนำวิธกี ารบำรุงรกั ษาระบบไปประยุกต์ใชง้ านได้ เมื่อนักวิเคราะห์ระบบได้ดำเนินการผ่านขั้นตอนการวิเคราะห์และออกแบบระบบงานเป็นที่ เรยี บรอ้ ยแลว้ คร้ันระบบงานถกู พัฒนาข้ึนและมีการทดสอบการใชง้ าน จนได้รบั การยอมรับจากผใู้ ช้

8 ระบบสามารถตอบสนองการใช้งานแก่ผู้ใชไ้ ด้เป็นอยา่ งดี ดังนั้นขั้นตอนตอ่ ไปก็คอื การติดตั้งระบบงาน ท่จี ะไดร้ บั การตดิ ตั้งและใช้งานเปน็ ทเ่ี รยี บร้อยแล้วก็ตาม ใชว่ า่ จะไม่มกี ารปรับแก้ซง่ึ ต้องเข้าใจว่า คงไม่ มีระบบใดในโลกท่ีจะสมบูรณร์ ้อยเปอรเ์ ซน็ ต์ 2.6.1 การบำรุงรักษาระบบด้วยการปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้องถึงแม้ว่าระบบงานจะได้รับการ ทดสอบเปน็ ท่ีเรียบร้อยแลว้ กต็ าม แตใ่ น บางครั้งขอ้ ผิดพลาดท่ีเกิดขน้ึ อาจไมส่ ามารถถูกค้นพบได้ในอีก ทัง้ ความตอ้ งการทีเ่ พิ่มข้ึนของผใู้ ช้ก็อาจมเี พิม่ ขึ้นในวันขา้ งหน้าได้ รวมถงึ เทคโนโลยมี ีการเปล่ียนแปลง ส่งผลถึงความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ฮารด์ แวร์ ดังนั้นการบำรุงรักษาระบบจึงถูกนำมาใช้เพือ่ รองรับกับเหตุการณ์นี้ซึ่งการบำรุงรักษาระบบจะมีอยู่ 4 วิธีด้วยกันก็คือ ระยะการทดสอบ ดังนั้น กรณที พี่ บข้อผดิ พลาดทเ่ี พิ่งคน้ พบใหม่กจ็ ะต้องปรับปรงุ แก้ไขโปรแกรมใหถ้ ูกตอ้ ง 2.6.2 การบำรุงรักษาระบบด้วยการดัดแปลงการบำรุงรักษาระบบด้วยการดัดแปลงนี้ มัก เกย่ี วข้องกบั การเปลยี่ นแปลงดา้ นสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ ทจี่ ำเปน็ ต้องมีการเพิ่มคุณสมบัติหรือความ ตอ้ งการใหม่ ๆ เพ่มิ เขา้ ไปในระบบ 2.6.3 การบำรุงรักษาระบบด้วยการปรับประสิทธิภาพเป็นการบำรุงรักษาระบบด้วยการ เปลี่ยนแปลงระบบที่ใช้งานอยู่ ให้มีประสิทธิภาพสูงข้ึนกว่าเดิม เช่น การปรับเปลี่ยนยูสเซอร์อินเตอร์ เฟซที่เดิมเป็นแบบข้อความ มาเป็นแบบกราฟิกเพื่อให้ให้การโต้ตอบกับระบบมีความสะดวก และง่าย ข้นึ กวา่ เดมิ 2.6.4 การบำรังรักษาระบบด้วยการป้องกัน เป็นการบำรุงรักษาระบบ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่จะ เกิดขึ้นในวันข้างหน้า เช่น การปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นเพื่อรองรับ เหตุการณข์ ้างหน้า เช่น การเพิ่มความจุฮาร์ดดสิ ก์ เพื่อรองรับข้อมลู ที่เพิม่ ขึน้ ในอนาคต เปน็ ตน้ 2.7 ระบบฐานข้อมูล ระบบฐานข้อมูล (Database System) หรือ ฐานข้อมูล คือ กลุ่มของข้อมูลที่ถูกเก็บรวบรวม ไว้ โดยมีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน โดยไม่ได้บังคับว่าข้อมูลทั้งหมดนี้จะต้องเก็บไว้ในแฟ้มข้อมูล เดียวกันหรือแยกเก็บหลาย ๆ แฟ้มข้อมูลหมายถึง โครงสร้างสารสนเทศที่ประกอบด้วยรายละเอียด ของขอ้ มูลท่ีเกี่ยวข้องกนั ที่จะนำมาใชใ้ นระบบต่าง ๆ รว่ มกนั ฐานข้อมูลเป็นการจัดเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบ ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องใน ระบบงานต่าง ๆ ร่วมกันได้ โดยที่จะไม่เกิดความซ้ำซ้อนของข้อมูล และยังสามารถหลีกเลี่ยงความ ขัดแย้งของข้อมูลด้วย อีกทั้งข้อมูลในระบบก็จะถูกตอ้ งเชื่อถือได้ และเป็นมาตรฐานเดียวกัน โดยจะมี การกำหนดระบบความปลอดภยั ของข้อมูลข้ึน

9 2.7.1 ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ (Relational Database) เป็นการเก็บข้อมูลในรูปแบบที่เป็นตาราง (Table) หรือเรียกว่า รีเลชั่น (Relation) มีลักษณะเป็น 2 มิติ คือเป็นแถว (row) และเป็นคอลัมน์ (column) การเชอื่ มโยงข้อมูลระหว่างตาราง จะเชอื่ มโยงโดยใช้แอททรบิ ิวต์ (attribute) หรือคอลัมน์ ที่เหมือนกันท้ังสองตารางเป็นตัวเชื่อมโยงขอ้ มูล ฐานข้อมูลเชงิ สัมพันธ์นีจ้ ะเป็นรูปแบบของฐานข้อมูล ทนี่ ยิ มใชใ้ นปัจจบุ ัน 2.7.2 ฐานข้อมูลแบบเครือข่าย (Network Database)ฐานข้อมูลแบบเครือข่ายจะเป็นการรวม ระเบยี นต่าง ๆ และความสมั พันธร์ ะหวา่ งระเบยี นแต่จะตา่ งกับฐานข้อมูลเชิงสัมพนั ธ์ คอื ในฐานข้อมูล เชิงสมั พนั ธจ์ ะแฝงความสัมพันธ์เอาไว้ โดยระเบียนที่มีความสัมพนั ธก์ ันจะต้องมีค่าของข้อมูลในแอทท ริบิวต์ใดแอททริบิวต์หนึ่งเหมือนกัน แต่ฐานข้อมูลแบบเครือข่าย จะแสดงความสัมพันธ์อย่างชัด เจน ตัวอย่างเช่น 2.7.3 ฐานข้อมูลแบบลำดับชั้น (Hierarchical Database)ฐานข้อมูลแบบลำดับชั้น เป็น โครงสร้างที่จัดเก็บข้อมูลในลักษณะความสัมพันธ์แบบพ่อ-ลูก (Parent-Child Relationship Type : PCR Type) หรือเป็นโครงสร้างรูปแบบต้นไม้ (Tree) ข้อมลู ทจ่ี ดั เก็บในที่นี้ คอื ระเบียน (Record) ซ่ึง ประกอบด้วยค่าของเขตข้อมูล (Field) ของเอนทิตี้หนึ่ง ๆ ฐานข้อมูลแบบลำดับชั้นนี้คล้ายคลึงกับ ฐานข้อมูลแบบเครือข่าย แต่ต่างกันที่ฐานข้อมูลแบบลำดับชั้น มีกฎเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งประการ คือ ใน แต่ละกรอบจะมีลูกศรวิ่งเข้าหาได้ไม่เกิน 1 หัวลูกศร องค์ประกอบของระบบฐานข้อมูล ระบบ ฐานข้อมูลเป็นเพียงวิธีคิดในการประมวลผลรูปแบบหนึ่งเท่านั้น แต่การใช้ฐานข้อมูลจะต้องประกอบ ไปดว้ ยองค์ประกอบหลักดงั ตอ่ ไปนี้ 2.7.3.1 แอพลิเคชนั ฐานข้อมูล (Database Application) 2.7.3.2 ระบบจดั การฐานขอ้ มลู (Database Management System หรอื DBMS) 2.7.3.3 ดาตา้ เบสเซริ ฟ์ เวอร์ (Database Server) 2.7.3.4 ข้อมลู (Data) 2.7.3.5 ผู้บริหารฐานขอ้ มูล ((Database Administrator หรือ DBA) 2.7.3.6 แอพพลิเคชันฐานข้อมลู เป็นแอพพลเิ คชันท่สี ร้างไว้ให้ผใู้ ชง้ านสามารถตดิ ต่อ กับฐานข้อมูลได้อย่างสะดวก ซึ่งมีรูปแบบการติดต่อกับฐานข้อมูลแบบเมนูหรือกราฟฟิก โดยผู้ใช้ไม่ จำเป็นต้องมคี วามรู้เกี่ยวกบั ฐานข้อมูลเลยก็สามารถเรยี กใชง้ านฐานขอ้ มลู ได้เช่น บริการเงินสด ATM

บทท่ี 3 วิธีการดำเนินงาน ในการดำเนินงานวิเคราะหแ์ ละศึกษาระบบงานของสำนกั งานพัฒนาและบำรุงรักษาทางนำ้ ท่ี 5 จันทบุรี คณะผู้จัดทำได้มีการรวบรวมข้อมูลและนำมาวิเคราะห์ระบบและกำหนดกระแสข้อมูลต่าง ๆ โดยมีหวั ขอ้ ดังนี้ 3.1 รวบรวมขอ้ มลู 3.2 วิเคราะห์โดยใช้ DFD 3.3 ออกแบบ ER-Model 3.4 ออกแบบฐานข้อมูลและสรา้ งความสัมพนั ธโ์ ดยใช้ Microsoft Access 3.1 รวบรวมข้อมูล คณะผ้จู ดั ทำได้มกี ารรวบรวมขอ้ มูลจากผู้ประกอบการหรอื เจ้าของร้าน โดยมีการตั้งคำถาม ต่าง ๆ และได้ดำเนนิ การรวบรวมข้อมูลเพื่อใช้ในการดำเนินงาน ดังน้ี 3.1.1 คณะผจู้ ดั ทำ ทำการวางแผนเกบ็ ขอ้ มลู เพือ่ ดำเนนิ กจิ กรรม 3.1.2 คณะผ้จู ดั ทำ ได้ทำการสร้างคำถามขึน้ จำนวน 24 ขอ้ เพ่ือสัมภาษณ์สำนักงานที่ศกึ ษา 3.1.3 คณะผจู้ ัดทำ ไดท้ ำการสัมภาษณ์สำนกั งานโดยใช้คำถามท่ีสรา้ งข้ึน จำนวน 24 ขอ้ โดยการ ไปสอบถามสำนกั งานพฒั นาและบำรุงรักษาทางนำ้ ที่ 5 จันทบรุ ี 3.1.4 นำข้อมลู ท่ีได้จากการสัมภาษณ์กับสำนักงานมาเรียบเรยี งและวิเคราะหเ์ พื่อนำมาออกแบบ ระบบ 3.2 วิเคราะห์ระบบโดยใช้ DFD คณะผู้จัดทำได้ทำการวเิ คราะห์ระบบโดยใช้ DFD โดยมีรปู แบบดงั น้ี

11 3.2.1 Context Diagram Level 0 ระบบสำนกั งานพัฒนาและบำรุงรกั ษาทางนำ้ ท่ี 5 จันทบุรี ภาพที่ 3.1 Context Diagram Level 0 จากภาพท่ี 3.1 Context Diagram Level 0 มีขบวนการทำงานดงั นี้ โดยระบบน้ีมีการติดต่อ กับประชาชนที่มาใช้บริการสำนักงานพัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำท่ี 5 จันทบุรี ตัวแทนจำหน่ายและ สำนักงานโดยประกอบด้วย Process คือ ระบบงานกรมเจา้ ทา่ Data Flow In คือ ความต้องการขยายร่องน้ำเดิม, ข้อมูลแบบสอบถามความคิดเห็นและความพึง พอใจ, ร่องน้ำท่ีเสร็จสมบรู ณ์, แผนการขุดลอกร่องนำ้ , รายงานแผนการขุดลอกร่องน้ำ, แผนที่สถานท่ี ทีจ่ ะขดุ ลอกร่องน้ำ Data Flow Out คอื ผลการขุดลอกรอ่ งน้ำ

12 3.2.2 Context Diagram Level 1 ระบบสำนักงานพฒั นาและบำรุงรักษาทางนำ้ ที่ 5 จันทบรุ ี ภาพท่ี 3.2 Context Diagram Level 1 จากภาพที่ 3.2 Context Diagram Level 1 มีขบวนการทำงานดงั น้ี โดยเรม่ิ ต้นจะมกี าร ตรวจสอบข้อมูลของประชาชนก่อนจึงจะสามารถวางแผนการขุดลอกร่องน้ำได้ เมื่อได้รับข้อมูลแล้วก็ จะมกี ารบันทึกขอ้ มลู และวางแผนในการขดุ ลอกร่องน้ำ เขา้ มาจะมีการตรวจสอบข้อมลู การขดุ ลอกร่อง น้ำ จากนั้นจะรายงานการขุดลอกร่องน้ำให้กับสำนักงาน และนำรายการขุดลอกร่องน้ำไปให้งาน การเงิน งานการเงินจะนำข้อมูลการขุดลอกร่องน้ำไปท่ีงานธุรการ และเมื่อได้วางแผนแล้วก็จะ ตรวจสอบข้อมูลก่อนส่งไปให้ผู้อำนวยการ เมื่อผู้อำนวยการได้รับข้อมูลเรียบร้อยแลว้ จะมีการบันทึก ในคอมพิวเตอรเ์ พอื่ ดำเนินการการขดุ ลอกรอ่ งนำ้ 3.3 ออกแบบ ER-Model เมื่อคณะผู้จดั ทำได้ทำการวเิ คราะหร์ ะบบในสว่ นของ DFD เรยี บร้อยแลว้ หลังจากน้ันคณะ ผู้จดั ทำได้ทำการออกแบบ ER-Model ขึน้ มา ได้ดงั นี้

13 3.3.1 Chen ER-Model ระบบสำนกั งานพฒั นาและบำรุงรักษาทางนำ้ ที่ 5 จนั ทบรุ ี เม่ือคณะผู้จดั ทำไดท้ ำการวเิ คราะห์ระบบในส่วนของ DFD เรียบร้อยแล้วหลังจากน้นั คณะผู้จัดทำ ไดท้ ำการออกแบบ ER-Model ขนึ้ มาโดยมีดงั นี้ ภาพท่ี 3.3 Chen ER-Model

14 3.4 ออกแบบฐานข้อมูลและสรา้ งความสัมพนั ธ์โดยใช้ Microsoft Access หลังจากทค่ี ณะผ้จู ัดทำได้ทำการศกึ ษาและวิเคราะหร์ ะบบ ได้ทำการออกแบบตารางข้อมูล และสร้างความสมั พันธ์หรือ Entity Relationship Diagram ของระบบฐานข้อมลู การขายสินคา้ 3.4.1 การออกแบบตารางข้อมลู ภาพที่ 3.4 การออกแบบตารางข้อมูล

15 3.4.1.1 การออกแบบตารางข้อมูล Customer ภาพที่ 3.5 การออกแบบตารางขอ้ มูล Customer 3.4.1.2 การออกแบบตารางข้อมูล Products ภาพที่ 3.6 การออกแบบตารางข้อมลู Products 3.4.1.3 การออกแบบตารางข้อมูล Employee ภาพท่ี 3.7 การออกแบบตารางขอ้ มลู Employee 3.4.1.4 การออกแบบตารางข้อมูล Order ภาพท่ี 3.8 การออกแบบตารางข้อมลู Order

16 3.4.1.5 การออกแบบตารางข้อมลู Order Detail ภาพที่ 3.9 การออกแบบตารางขอ้ มูล Order Details 3.4.1.6 การออกแบบตารางฐานข้อมลู Category ภาพท่ี 3.10 การออกแบบตารางฐานข้อมูล Category 3.4.1.7 การออกแบบตารางข้อมูล Receipt ภาพที่ 3.11 การออกแบบตารางข้อมูล Receipt 3.4.2 การสร้างความสมั พันธ์ หรือ Entity Relationship Diagram หลังจากที่คณะผูจ้ ัดทำได้ทำการออกแบบตารางข้อมลู เรยี บร้อยแลว้ ก็จะมา ดำเนินการสรา้ งความสมั พนั ธ์หรอื Entity Relationship Diagram

17 ภาพที่ 3.12 ความสมั พนั ธ์หรือ Entity Relationship Diagram

บทท่ี 4 ผลการดำเนนิ งาน 4.1 การออกแบบหน้าจัดซือ้ ทำการขุดลอกร่องนำ้ 4.1.1 ออกแบบหนา้ จอจดั ซ้ือ ภาพที่ 4.1 หน้าจอจัดซ้ือ

19 4.1.2 ออกแบบหนา้ จอการสัง่ ขดุ ลอกร่องน้ำ ภาพท่ี 4.2 หน้าจอการส่งั ขุดลอกรอ่ งนำ้

20 4.1.3 ออกแบบหน้าจอข้อมูลจงั หวดั ที่ส่งั ขุดลอกร่องน้ำ ภาพที่ 4.3 หนา้ จอข้อมูลจงั หวัดท่ีสง่ั ขดุ ลอกรอ่ งน้ำ

21 4.1.4 ออกแบบหน้าจอข้อมูลพนักงาน ภาพท่ี 4.4 หนา้ จอขอ้ มลู พนกั งาน

22 4.1.5 ออกแบบหนา้ จอใบเสร็จ ภาพที่ 4.5 หน้าจอใบเสร็จ

23 4.2 การจัดเก็บข้อมูล 4.2.1 แสดงขอ้ มลู ลูกคา้ ภาพที่ 4.6 แสดงข้อมลู ลูกค้ามุมมองออกแบบ ภาพท่ี 4.7 แสดงข้อมลู ลกู คา้ มมุ มองแผน่ ข้อมลู 4.2.2 แสดงข้อมูลข้อมูลสนิ คา้ ภาพที่ 4.8 แสดงข้อมูลสนิ ค้ามมุ มองออกแบบ ภาพท่ี 4.9 แสดงข้อมูลสินคา้ มุมมองแผน่ ข้อมู

24 4.2.3 แสดงขอ้ มลู รายการขายสนิ ค้า ภาพที่ 4.10 แสดงข้อมลู รายการขายสินค้ามมุ มองออกแบบ ภาพท่ี 4.11 แสดงข้อมูลรายการขายสนิ คา้ มุมมองแผน่ ขอ้ มูล 4.2.4 แสดงข้อมลู การสงั่ ซื้อสินคา้ ภาพท่ี 4.12 แสดงขอ้ มลู การส่งั ซ้ือมมุ มองออกแบบ ภาพท่ี 4.13 แสดงขอ้ มูลการสง่ั ซอื้ มมุ มองแผน่ ข้อมูล

25 4.2.5 แสดงขอ้ มลู ประเภทสินคา้ ภาพท่ี 4.14 แสดงขอ้ มูลประเภทสินค้ามมุ มองออกแบบ ภาพท่ี 4.15 แสดงขอ้ มลู ประเภทสินค้ามมุ มองแผน่ ข้อมลู 4.2.6 แสดงขอ้ มลู ใบเสรจ็ ภาพที่ 4.16 แสดงข้อมลู ใบเสร็จมุมมองออกแบบ ภาพที่ 4.17 แสดงข้อมลู ใบเสร็จมุมมองแผน่ ข้อมูล

26 4.2.7 แสดงขอ้ มูลพนักงาน ภาพที่ 4.18 แสดงข้อมูลพนักงานมมุ มองออกแบบ ภาพท่ี 4.19 แสดงขอ้ มูลพนกั งานมุมมองแผน่ ข้อมลู

บทท่ี 5 สรปุ ผลการวเิ คราะหอ์ อกแบบระบบและข้อเสนอแนะ การวิเคราะห์และออกแบบระบบพัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 5 จันทบุรี ซึ่งการวิเคราะห์ และออกแบบระบบในคร้ังนม้ี ีวัตถปุ ระสงค์ ดงั น้ี 5.1 วตั ถุประสงค์ของการวเิ คราะห์และออกแบบระบบ 5.1.1 เพอ่ื วเิ คราะห์และออกแบบระบบพฒั นาและบำรงุ รักษาทางน้ำท่ี 5 จันทบรุ ี 5.1.2 เพ่อื ศึกษาและสำรวจระบบพัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 5 จันทบรุ ี 5.1.3 เพ่ือเรียนรแู้ ละเก็บประสบการณจ์ ากการทำธรุ กิจของผู้ประกอบการ 5.2 การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู 5.2.1 คณะผจู้ ัดทำทำการเก็บวางแผนและรวบรวมข้อมลู เพื่อดำเนินกจิ กรรม 5.2.2 คณะผู้จัดทำได้ทำการสร้างคำถามขึ้นจำนวน 24 ข้อเพื่อสัมภาษณ์กับเจ้าของร้านที่จะไป ศกึ ษา 5.2.3 คณะผู้จัดทำได้ทำการสัมภาษณ์กับเจ้าของโดยใช้คำถามที่สร้างขึ้นจำนวน 24 ข้อ กับ เจ้าของร้านโดยการไปสอบถามถงึ สำนักงานพัฒนาและบำรุงรกั ษาทางน้ำที่ 5 จนั ทบุรีดว้ ยตนเอง 5.2.4 นำข้อมูลที่ได้จากการสัมภาษณ์กับเจ้าของร้านมาเรียบเรียงและวิเคราะห์เพื่อนำมา ออกแบบระบบ 5.3 สรปุ ผลการวิเคราะหแ์ ละออกแบบระบบ คณะผู้จัดทำได้ทำการศึกษาวิเคราะห์และออกแบบระบบพัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 5 จันทบุรี โดยได้ใช้ DFD, ER-Model ในการวิเคราะห์ ข้อมูลและ Microsoft Access ในการจัดการ ฐานขอ้ มลู และออกแบบหนา้ จอของระบบซึ่งได้ทำการทดลองระบบแลว้ ได้ผลสรุปออกมาอยู่ในระดับดี 5.4 ขอ้ เสนอแนะ 5.4.1 ข้อเสนอแนะสำหรับการนำไปใช้ 5.4.1.1 ควรมกี ารตกแตง่ ใหด้ นู า่ สนใจ 5.4.1.2 ควรมเี นอ้ื หาขอ้ มูลร้านค้ามากกว่าน้ี 5.4.2 ข้อเสนอแนะในการวจิ ัยครงั้ ต่อไป 5.4.2.1 รวบรวมข้อมูลทไ่ี ด้มาใหล้ ะเอยี ดกวา่ นี้ 5.4.2.2 ตรวจสอบเชค็ ข้อมูลทไี่ ดม้ าให้ถูกตอ้ ง

28 บรรณานุกรม สุภาวรรณ วะสตั ย์ (2557) ความหมายสำนกั งาน [ออนไลน์] สบื ค้นจาก https://sites.google.com/site/chatchawanza57/bth-thi1/khwam- hmay-khxng-sanakngan นาปซี ะห์ ปาโอะ (2556) การวิเคราะห์ระบบ [ออนไลน์] สบื คน้ จาก https://sites.google.com/site/napeesah2222/bth-thi1 อิทธกิ ร แท่นมงคลมาศ (2561) การพัฒนาระบบ [ออนไลน์] สบื คน้ จาก https://sites.google.com/site/ooad5605110042/sdlc/kar-phathna- rabb-system-development

29 ภาคผนวก ก Context Diagram Level 0 ระบบพฒั นาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 5 จันทบุรี

30 ภาพ Context Diagram Level 0 ระบบพัฒนาและบำรุงรักษาทางนำ้ ที่ 5 จนั ทบรุ ี

31 ภาคผนวก ข Context Diagram Level 1 ระบบพฒั นาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 5 จันทบุรี

32 ภาพ Context Diagram Level 1 ระบบพัฒนาและบำรุงรักษาทางนำ้ ที่ 5 จนั ทบรุ ี

33 ภาคผนวก ค ER-Model ระบบพัฒนาและบำรงุ รักษาทางนำ้ ท่ี 5 จันทบุรี

34 ภาพ Chen ER-Model ระบบพัฒนาและบำรุงรักษาทางนำ้ ท่ี 5 จนั ทบรุ ี

35 ภาคผนวก ง Entity Relationship Diagram

36 ภาพEntity Relationship Diagram

37 ภาคผนวก จ เอกสารประกอบการดำเนนิ งาน

38 คำถาม 9 ขอ้ 1.วัตถปุ ระสงคข์ องระบบงาน ตอบ วางแผนการขดุ ลอกร่องนำ้ ให้ประชาชน 2.องคป์ ระกอบของระบบงาน ตอบ การจดั สดั ส่วนพน้ื ทแ่ี ละบคุ ลากรตามลักษณะการทำงาน ได้แก่ 1. สำนกั งาน 2. พนักงาน 3.ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งองคป์ ระกอบในระบบงาน ตอบ แต่ละแผนกมีหน้าทจ่ี ดั การวางแผน และการทำงานน้ีให้ได้ประสิทธภิ าพมากที่สดุ 4.ขอบเขตของระบบงาน ตอบ รา้ นมขี อบเขตเปน็ สถานท่ีจัดการขุดลอกรอ่ งนำ้ 5.สภาพแวดลอ้ มของระบบงาน ตอบ มตี น้ ไม้รอบ ๆ อยู่หลายต้น ด้านหลงั มเี ข่อื นขนาดใหญ่ 6.ส่วนตอ่ ประสาน (วธิ กี ารปฏิสมั พนั ธ์กบั สภาพแวดล้อมของระบบงาน) ตอบ มพี นักงานทำความสะอาด

39 7.สิ่งทนี่ ำเขา้ ไปในระบบงาน (หรือข้อมลู นำเข้า) ตอบ รายการวางแผนการขดุ ลอกร่องนำ้ 8.ผลลพั ธ์ท่อี อกมาจากระบบงาน ตอบ ประชาชนไดร้ บั ส่ิงแวดล้อมท่ีดีและมีคลองที่เป็นธรรมชาติ 9.ขอ้ จำกัดของระบบงาน ตอบ ทกั ษะการทำงานของพนักงาน เช่น การเรม่ิ ทำงานต้องมีความพร้อมเสมอ

40 คำถาม 15 ขอ้ 1. ห้องท้างานท้ังหมดภายในสำนักงาน ตอบ มีทง้ั หมด 8 ห้อง 1. ห้องงานธุรการ 2. หอ้ งเวรรักษาการณ์ 3. หอ้ งประชุม 4. หอ้ งงานโยธาฯ 5. ห้องผู้อ้านวยการ 6. หอ้ งงานซ่อมบา้ รงุ 7. ห้องงานการเงินฯ 8. หอ้ งงานอา้ นวยการฯ 2. ความทนั สมยั ของขอ้ มูลและขา่ วสาร ตอบ มีหน้าเพจใน Facebook ไว้สำหรับอัพเดทข่าวสารเกี่ยวกับการขุดลอกร่องน้ำในเขตต่าง ๆ และมีกลมุ่ LINE ไวป้ ระชาสมั พันธ์ให้ข้อมูลแกบ่ คุ ลากร 3. ช่องทางการตดิ ตอ่ สำนกั งาน ตอบ มที ง้ั หมด 5 ช่องทาง 1. ท่ีอยู่ : 26 หมู่ 10 ถนน ซอย เปรมประชา ตำบล บางกะจะ อำเภอเมอื งจนั ทบรุ ี 22000 2. Facebook : สำนกั งานพฒั นาและบ้ารุงรกั ษาทางน้ำท่ี 5 3. เ บ อ ร ์ โ ท ร ศ ั พ ท ์ : 039 391 003 4. อ ี เ ม ล : [email protected] 5. เ ว ็ บ ไ ซ ต ์ : https://md.go.th/ 4. การแจ้งคำสั่งและรายงานผลการทำงานประจ้าวนั ตอบ มีค้าสั่งของหัวหน้าควบคุมงานส่งผ่านแชท LINE ไปถึงเจ้าหน้าที่เรือขุด แบบ Real-Time และมีบอท LINE ทไี่ ดต้ ้ังค่าให้สง่ รายงานอัตโนมตั ใิ นห้องแชท LINE 5. การรายงานความคืบหนา้ ของการทำงานของเจา้ หน้าท่เี รือขุด ตอบ ถ่ายรูปเป็นหลักฐานการทำงานและส่งรายงานในกลุ่ม LINE ตามห้องแชทที่ตนสังกัดอยู่และ เขียนหน้าท่ี การทำงานของตนเองที่ไดท้ ำลงสมุดบนั ทกึ ทำแบบนี้ ทุก ๆ วัน และรวบรวมเป็นรายงาน ประจ้าเดือน

41 6. ตำแหนง่ ของบุคลากรเจ้าหน้าทีเ่ รอื ขุด ตอบ 1. งานอำนวยการ 2. งานพฒั นาและบ้ารุงรักษาทางน้ำ 3. งานซอ่ มบ้ารงุ และรกั ษา 4. งานโยธาและสำรวจ 7. ตำแหนง่ ของบุคลากรภายในสำนักงาน ตอบ 1. ผู้อ้านวยการสำนักงานพัฒนาและบา้ รุงรกั ษาทางน้ำท่ี 5 2. งานธุรการ 3. งานการเงนิ 8. ขอบเขตพ้ืนทก่ี ารขดุ ลอกร่องน้ำ ตอบ ดำเนินงานขุดลอกร่องน้ำชายฝัง่ ทะเล ภาคตะวันออก 9. ปจั จยั เลือกพ้ืนทคี่ ดุ ลอกร่องน้ำ ตอบ 1. เปน็ แผนงบประมาณของทกุ ๆ ปี 2. ความต้องการของประชาชน 10. เอกสารท่ีเกีย่ วขอ้ งภายในหน่วยงาน ตอบ 1. แบบสอบถามความพึงพอใจของประชาชนที่มตี ่อโครงการขุดลอกรอ่ งน้ำ(ก่อนการขุดลอก) 2. รายงานผลการสำรวจความคิดเห็นและความพึงพอใจระหวา่ งปฏบิ ัตงิ านคุดลอกร่องนำ้ 3. หนงั สอื ระบุวันเวลาการขุดลอกร่องนำ้ 4. หนังสอื อนมุ ตั ิการขดุ รอ่ งน้ำ 5. แบบสอบถามความพงึ พอใจของประชาชนทม่ี ีต่อโครงการขุดลอกร่องน้ำ (หลงั การขดุ ลอก) 11. วิธีการจัดเก็บเอกสารทเี่ กี่ยวขอ้ ง ตอบ มีอยู่ 4 วธิ ี 1. เกบ็ ใส่แฟม้ ปกหนา แยกตามปี พ.ศ. เรยี งใส่ช้ันวางแฟม้ 2. เก็บใส่แฟ้มปกบาง แยกตามปี พ.ศ. เรยี งใสล่ ้ินชัก 3. เก็บไว้ใน Flash Drive แยกเปน็ หมวดหมู่ชดั เจน 4. บนั ทึกไว้ในคอมพวิ เตอร์ตั้งโตะ๊ สำหรับเอกสารท่ีตอ้ งใช้บอ่ ย ๆ

42 12. ระบบรักษาความปลอดภัยภายในสำนกั งาน ตอบ มีห้องสำหรับเวรยามตอนกลางวันและตอนกลางคืน ภายในห้องมีจอแสดงภาพจากกล้อง วงจรปิด ซึ่งเช่ือมต่อกบั กลอ้ งวงจรปิดภายนอก โดยตัวกล้องวงจรปิดจะอยรู่ อบ ๆ อาคาร 13. ล้าดบั ข้ันตอนในการปฏบิ ตั งิ านภายในสำนกั งาน ตอบ สำนักงานรับแผนการขุดลอกจากทางกรม ➢ เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สอบถามความคิดเห็นและ ความพึงพอใจ ของชาวบ้าน ➢ สำนักงานส่งรายงานผลการสำรวจความคิดเห็นและแบบสอบถาม ความพึงพอใจของชาวบ้านไป ทางกรม ➢ สำนักงานสง่ หนังสอื ระบุวนั เวลาการขุดลอกรอ่ งน้ำไปทาง กรม ➢ กรมส่งหนังสืออนุมัติการขุดร่องน้ำตามวันที่ระบุไว้มาถึงสำนักงาน ➢ เจ้าหน้าที่ดำเนินการ ขดุ ลอกร่องน้ำ ➢ ขดุ รอ่ งนำ้ เสร็จสิ นตามกำหนดการ 14. เคร่อื งมอื หรือเทคโนโลยที ใ่ี ชใ้ นระบบงานสำนักงาน ตอบ ภายในหอ้ งสำนกั งาน 1. คอมพิวเตอร์ต้ังโตะ๊ 2. เครอ่ื งพมิ พ์และถ่ายเอกสารขนาดใหญ่ 3. เครื่องพมิ พ์และถา่ ยเอกสารขนาดเล็ก 4. เครื่องแฟกซ์ 5. กล่อง Wi-Fi 6. ตู้กระจายสญั ญาณขนาดเล็ก 7. ต้กู ระจายสญั ญาณขนาดใหญ่ 8. จอแสดงภาพจากกลอ้ งวงจรปิด 9. เครื่องปรับอากาศ 10. โทรศัพทข์ องสำนกั งาน 11. โปรเจคเตอรฉ์ ายภาพภายนอกบริเวณอาคารสำนักงาน 12. กลอ้ งวงจรปดิ 15. เครอ่ื งมอื หรอื เทคโนโลยที ี่ใชใ้ นระบบงานเรือขดุ ตอบ 1. เรอื เจา้ ท่า ข.17 2. เรือเจา้ ทา่ ข.23 3. เรอื เจา้ ทา่ 217 4. เรือเจา้ ท่า 223 5. รถขุด จบ.2


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook