เวียงชยั อติรัตนวงษ : การพฒั นาการคิดวเิ คราะหสําหรบั นักเรียนชนั้ มัธยมศกึ ษาปท ี่ 4 โรงเรยี นขามแกน นคร อําเภอเมือง จงั หวดั ขอนแกน ปรญิ ญาครุศาสตรมหาบัณฑติ สาขาวิชาวจิ ัยและประเมินผลการศึกษา มหาวทิ ยาลัยราชภฏั เลย ปก ารศึกษา 2553 ทป่ี รึกษาวทิ ยานพิ นธ : ผชู ว ยศาสตราจารย ดร.ประจวบ สุขสมบูรณ และ ผชู วยศาสตราจารย ดร.พงษศ ักดิ์ ศรีจนั ทร 191 หนา บทคัดยอ การวิจยั คร้ังนีเ้ ปน การวจิ ยั เชงิ ปฏิบัตกิ ารมวี ตั ถปุ ระสงคของการวจิ ยั เพือ่ 1) เพอื่ ศกึ ษาสภาพ niversityและความคาดหวงั การพัฒนาการคดิ วิเคราะหของนกั เรียน 2) เพอื่ ศกึ ษาแนวทางการพัฒนาการคดิ วเิ คราะหของนักเรยี น 3) เพ่อื ศกึ ษาผลการพฒั นากจิ กรรมการเรยี นรดู า นการคดิ วเิ คราะหข องนกั เรียน Loei RajabhยaาtลUัยราชภฏั เลย4) เพอื่ เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ดานการคดิ วเิ คราะหข องนกั เรยี น ระหวางกอ นและหลงั การจดั กิจกรรม การเรียนรู 5) เพ่อื ศกึ ษาความพึงพอใจทม่ี ตี อ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรขู องนกั เรยี นชนั้ มธั ยมศึกษาปท่ี 4/1 โรงเรยี นขามแกน นคร กลุมเปา หมายคอื นกั เรยี นชน้ั มัธยมศกึ ษาปที่ 4/1 โรงเรียนขามแกน นคร อาํ เภอเมอื ง จงั หวัดขอนแกน ท่กี ําลงั เรียนอยใู นภาคเรยี นท่ี 2 ปการศกึ ษา 2552 จํานวน 35 คน เครอื่ งมือทใ่ี ชใ นการวจิ ยั ประกอบดว ย 1) แผนการจัดการเรยี นรูกลมุ สาระการเรียนรูวทิ ยาศาสตร (รายวชิ าชวี วทิ ยา) เรื่อง ระบบหมุนเวยี นเลือด ระบบน้ําเหลอื งกับการรกั ษาดลุ ยภาพของรา งกาย าวิท2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธด์ิ านการคิดวเิ คราะหประกอบดวย 3 ดาน คือ วเิ คราะหค วามสําคัญ มหวิเคราะหค วามสัมพันธและวเิ คราะหหลักการ 3) แบบสอบถามความพงึ พอใจของนักเรียนทีม่ ตี อ การจัดกจิ กรรมการเรียนรูก ารพัฒนาการคดิ วเิ คราะห สถติ ิท่ีใชในการวเิ คราะหขอ มลู ขอ มูลเชิง คณุ ภาพใชเทคนิคการตรวจสอบสามเสา ดา นขอ มลู และการตรวจสอบสามเสาดา นวธิ ีการรวบรวม ขอ มูล ขอมูลเชิงปริมาณโดยหาคารอ ยละ คาเฉลีย่ สว นเบยี่ งเบนมาตรฐาน และการทดสอบหาคา ที ผลการวจิ ัยสรปุ ไดด ังน้ี 1. สภาพและความคาดหวงั การพัฒนาการคิดวเิ คราะหของนักเรียนชั้นมธั ยมศึกษาปท ่ี 4/1 โรงเรียนขามแกน นคร ครสู ว นใหญจ ะสอนโดยการบรรยายยดึ ตดิ กบั รปู แบบการสอนแบบเดิม ๆ ไมไดใชก จิ กรรมการเรียนรแู ละสอื่ การเรยี นรทู ่ีหลากหลาย สื่อการเรียนรูม ีไมเ พยี งพอและยงั เกา เกนิ ไป ไมก ระตุนหรือไมฝ ก ใหนกั เรียนคิดวเิ คราะห ไมฝ กการสงั เกต การตั้งสมมตฐิ านและการ ตอบคาํ ถามดว ยตนเอง ไมสงเสริมใหนกั เรยี นไดแ สดงความคดิ เหน็ อยางสรา งสรรคท างความคดิ
ค ทําใหน กั เรียนไมกลา แสดงความคดิ เหน็ ขาดความมน่ั ใจในตนเอง ขาดการแยกแยะสงิ่ ท่จี รงิ กบั ไม จริง ความคาดหวังการพฒั นาการคดิ วเิ คราะหใ หนกั เรียนรจู กั คดิ เปน แกป ญ หาเปน นําความรูไปใช ในชวี ิตประจาํ วันได และอยใู นสังคมรว มกนั อยา งมีความสขุ 2. แนวทางการพฒั นาการคดิ วิเคราะหของนกั เรยี นชน้ั มัธยมศึกษาปท ่ี 4/1 โดยจัดกจิ กรรมการ เรยี นรูที่เนน ทกั ษะการคิดวเิ คราะห ศกึ ษาจากแหลงเรียนรูท ่หี ลากหลายทง้ั โรงเรียนและนอกโรงเรยี น ศึกษารูปแบบวธิ กี ารจดั กจิ กรรมการเรยี นรแู ละสอ่ื การเรยี นรทู ีห่ ลากหลาย นักเรยี นมสี ว นรว มในกิจกรรม การเรยี นรไู ดแ สดงความคิดเหน็ อยา งหลากหลาย และจดั บรรยากาศในการเรียนรทู ่ีเอ้ือตอ นกั เรยี น 3. ผลการพัฒนากิจกรรมการเรียนรดู านการคิดวเิ คราะหของนกั เรยี นชั้นมัธยมศกึ ษาปท ี่ 4/1 โรงเรยี นขามแกนนคร พบวา ตามวงจรปฏบิ ตั กิ ารที่ 1 พบวามีจํานวนนักเรยี นท่ผี า นเกณฑค ิดเปน รอ ยละ 42.86 นักเรยี นที่ไมผ านเกณฑค ดิ เปนรอยละ 57.14 ตามวงจรปฏบิ ตั ิการท่ี 2 พบวา มีจาํ นวน niversityนกั เรียนทีผ่ านเกณฑค ิดเปนรอยละ 68.51 นักเรยี นทีไ่ มผ านเกณฑคดิ เปน รอยละ 31.43 ตามวงจร ปฏิบัตกิ ารที่ 3 พบวา มีจาํ นวนนกั เรยี นที่ผา นเกณฑคดิ เปนรอยละ 85.71 นักเรียนท่ีไมผ า นเกณฑ คดิ เปนรอยละ 14.29 Loei RajabhยaาtลUยั ราชภัฏเลย4. นกั เรยี น มคี ะแนนผลสมั ฤทธด์ิ า นการคดิ วเิ คราะห หลงั การจดั กจิ กรรมการเรยี นรสู ูงกวา กอ นการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู อยางมีนัยสาํ คัญทางสถติ ิท่รี ะดับ .01 5. ความพงึ พอใจท่ีมีตอการจดั กจิ กรรมการเรียนรู ดานการคดิ วิเคราะหข องนกั เรยี นอยู มหาวทิในระดบั มาก
Search
Read the Text Version
- 1 - 2
Pages: