กำแพงเมืองจีน 1ใน7สิ่งมหัศจรรย์ของ โลก LIVE IN CHINA
คำนำ หนังสือเล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชา ระเบียนหนังสือเพื่อให้ ศึกษาเล่าเรียนเกี่ยวกับกำแพงเมืองจีน โดยศึกษาผ่านแหล่งความ รู้ต่างๆ เช่น ตำรา หนังสือ หนังสือพิมพ์ วารสาร ห้องสมุด และ แหล่งความรู้เว็บไซต์ต่างๆ โดยหนังสือเล่นนี้ต้องมีเนื้อหาเกี่ยวกับ ประวัติกำแพงเมืองจีน ผู้ก่อตั้งกำแพงเมืองจีน และสิ่งก่อสร้าง ของกำแพงเมืองจีน ผู้จัดทำคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่า หนังสือฉบับนี้จะเป็นข้อมูลที่ เป็ นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจศึกษาเกี่ยวกับเรื่ องของกำแพงเมืองจีน และผู้ที่ต้องการเรียนรู้ก่อนไปเยี่ยมเยี่ยนกำแพงเมืองจีน 1
สาระบัญ หน้า เรื่อง 3 4-5 1.กำแพงเมืองจีน 6-8 2.ส่วนประกอบของกำแพงเมืองจีน 9 3.ประวัติกำแพงเมืองจีน 10 4.ความสูง,อาณาเขต 11 5.ผู้ก่อตั้ง,วัสดุที่ใช้ก่อสร้าง 12 6.แรงงาน,วัตถุประสงค์ของกำแพงเมืองจีน 13-17 7.ต้นแบบกำแพงเมืองจีน 8.ด่านต่างๆของกำแพงเมืองจีน 2
กำ แ พ ง เ มื อ ง จี น สิ่งก่อสร้างในสมัยโบราณของจีนที่มีชื่อเลื่องลือไปทั่วโลกนั้น ตอนที่มีความสําคัญทางยุทธศาสตร์ตอนหนึ่งชื่อว่า \"ปาต๋าหลิ่ง\" อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงปักกิ่ง ห่างจาก ตัวเมือง กรุงปักกิ่งประมาณ ๘๐ กิโลเมตร กําแพงเมืองจีนมีความยาว ทั้งหมด ๖๗๐๐ กิโลเมตร กําแพงเมืองจีนเริ่มสร้างในสมัย จ้านกว๋อ เวลานั้นก๊กเยี่ยน,ก๊กจ้าวและก๊กฉินในภาคเหนือ ของจีนต่างได้สร้างกําแพงของตนขึ้นในที่ที่มีความสําคัญทาง ยุทธศาสตร์เพื่อป้ องกันการบุกรุกของก๊กใกล้เคียงและชนเผ่า เร่ร่อนเลี้ยงสัตว์ทางเหนือ หลังจากจักรพรรดิฉินสื่อหวงรวม ประเทศจีนเข้าเป็นเอกภาพเมื่อ ๒๒๑ ปีก่อนคศ. ก็ได้เชื่อมต่อ กําแพงที่ก๊กต่างๆ สร้างไว้เข้าด้วยกันและสร้างต่อเติมขึ้นอีก 3
ครั้นถึงสมัยราชวงศ์ฮั่น ราชวงศ์ถัง ราชวงศ์สุย ราชวงศ์หยวน และราชวงศ์หมิงก็ได้ซ่อมแซมและสร้างเติมเสริมต่อเรื่อยมา กํา แพงเมืองจีนในทุกวันนี้ส่วนใหญ่สร้างขึ้นใหม่ในสมัยราชวงศ์หมิง การก่อสร้างกําแพงที่มีความยาวถึง ๖๐๐๐ กว่ากิโลเมตร บาง แห่งยังต้องสร้างบนภูเขาทั้งสูงชันและสลับซับซ้อนอยู่เหนือระดับ นํ้าทะเล ๑๐๐๐ กว่าเมตรในสมัยที่การลําเลียงขนส่งวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยียังไม่เจริญนั้นจะลําบากยากเข็ญเพียงไร ก็ด้วย เหตุนี้เอง กําแพงเมืองจีนจึงได้ชื่อว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ชิ้นหนึ่งใน สถาปั ตยกรรมของโลก ส่วนประกอบ กําแพงเมืองจีนประกอบด้วยด่าน กําแพง ป้ อมรักษาการณ์ และหอคอยจุดเพลิงสัญญาณ ด่านตั้งอยู่ตรงจุดสําคัญในเส้น ทางคมนาคม มีกําแพงหลายชั้นมีทหารประจํารักษาอยู่เป็นจํา นวนมากซึ่งเป็นที่ตั้งกองบัญชาการทหาร ด่านจียงกวานที่ปา ต๋าหลิ่งเป็นด่านสําคัญแห่งหนึ่งของกําแพงเมืองจีน โดยเฉลี่ย สูง ๗-๘ เมตร กว้าง ๕-๖ เมตร สันกําแพง ด้านนอกมีเชิงเทิน รูปฟันปลาเป็นที่กำบังตัว ข้าง ๆ เชิงเทินมีช่องมองใต้เชิงเทิน มีช่องยิงลูกศร 4
โดยทั่วไปบนที่สูงหรือบนยอดเขานอกกําแพงจะสร้างหอคอยสํา หรับจุดเพลิงสัญญาณไว้เป็นระยะ ๆ ซึ่งเป็นสถานีส่งสัญญาณแจ้ง เหตุทางทหารในสมัยโบราณแต่ละหอคอยรับส่งสัญญาณกันเป็ น ทอด ๆ จนถึงเมืองหลวงหรือเขตป้ องกันเมืองเขตใหญ่ ประกอบ เป็นโครงข่าวสื่อสารอันสมบูรณ์ ถ้าเกิดมีข้าศึกมากลางวันก็สุม ควันมากลางคืนก็จุดไฟเป็นสัญญาณ กําแพงเมืองจีนในทุกวันนี้ ได้กลายเป็ นสถานที่ท่องเที่ยวที่ดึงดูดใจทั้งชาวจีนและชาวต่าง ประเทศ 5
ประวัติกำแพงเมืองจีน กําแพงเมืองจีน เริ่มสร้างครั้งแรกในยุคชุนชิว-จ้านกว๋อ (770 ปี ก่อน คริสต์ศักราช-221 ปี ก่อนคริสต์ศักราช) หรือเมื่อประมาณ 2,000 กว่า ปีก่อน เนื่องจากบ้านเมืองอยู่ในภาวะที่วุ่นวาย เกิดศึกสงครามชิง ความเป็นใหญ่อยู่เสมอ ผู้นําแคว้นต่างๆ ได้แก่ แคว้นฉู่, แคว้นฉี, แคว้นเยียน, แคว้นเว่ย, แคว้นจ้าว, แคว้นฉิน ฯลฯ จึงช่วยกันสร้างกํา แพงเมืองจีน เพื่อป้ องกันการรุกรานของชนเผ่าทางเหนือ และการ คุกคามจากชนเผ่าเลี้ยงสัตว์เร่ร่อน เช่น ซวงหนู, ซ่างหู ฯลฯ โดยกํา แพงเมืองของแคว้นฉีซึ่งมีความยาวทั้งสิ้นกว่า 5 กิโลเมตร ถือเป็นกํา แพงเมืองจีนที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดของประเทศ จากนั้นก็มีการสร้างและ ซ่อมกำแพงเมืองจีนในราชวงศ์ต่างๆ 6
สมัยราชวงศ์ฉิน (221 ปี ก่อนคริสต์ศักราช-206 ปี ก่อนคริสต์ศักราช) จิ๋นซี ฮ่องเต้มีรับสั่งให้เกณฑ์ แรงงานจำนวนมากในการ สร้างกำแพงเมืองเมืองจีน โดยเป็ นการสร้างเชื่ อมต่อกับ กําแพงเมืองของแคว้นจ้าว และเยียน รวมเข้ากับแคว้น ฉิน ความยาวนับหมื่นลี้จาก ทิศตะวันตกไปจรดทางตะวัน ออกของมณฑลเหลียวหนิง ทําให้กําแพงที่สร้างนี้มีชื่อ เรียกว่า กําแพงหมื่นลี้ และต่อมาในสมัยราชวงศ์ฮั่น (206 ปี ก่อนคริสต์ศักราช- ค.ศ. 220) มีการบูรณะกํา แพงเพิ่มเตินต่อจากราชวงศ์ ฉิน ด้วยเหตุผลเช่นเดียวกัน กําแพงเมืองจีนที่สร้างขึ้นใน สมัยราชวงศ์ฮั่น ถือเป็นกํา แพงเมืองที่มีความยาวที่สุด ในประวัติศาสตร์จีน 7
เมื่อถึงราชวงศ์สุย (ค.ศ. 581-618) สุยเหวินตี้รับสั่งให้เกณฑ์ ปั ญญาชนไปเป็ นแรงงานในการก่อสร้างกำแพงในช่วงฤดูหนาว อยู่หลายครั้ง เพราะนอกจากพวกซวงหนูแล้ว ยังมีชนเผ่าถู่อวี้ หุนเพิ่มขึ้นมาอีก ต่อมารัชกาลสุยหยางตี้ กำแพงเมืองจีนยัง เป็นหนึ่งในโครงการใหญ่ของพระองค์ สุยหยางตี้มีรับสั่งให้ ซ่อมแซมกำแพงเมืองจีนและสร้างส่วนต่อขยายของกำแพงที่ ตอนเหนือของส่านซี ที่ใช้แรงงานคนถึง 1 ล้านคน เพื่อเร่งรัด ให้เสร็จภายในเวลา 20 วัน ในสมัยราชวงศ์หมิง (ค.ศ. 1368-1644) มีการสร้างและซ่อม แซมกําแพงเมืองจีนเพิ่มเติมอีกกว่า 20 ครั้งโดยเริ่มจากด่าน เจียอวี้กวนทางทิศตะวันตกไปจรดภูเขาหู่ซาน ที่อยู่ทางตะวัน ออกของมณฑลเหลียวหนิง ซึ่งกำแพงเมืองจีนที่ยังหลงเหลือ ให้เห็นในปัจจุบัน ส่วนใหญ่คือกำแพงที่สร้างเพิ่มเติมในสมัย หมิงนี้เอง 8
ความสูง กำแพงเมืองจีนมีความยาวอย่างเป็ นทางการครั้งล่าสุด (** รายงานการอัปเดตครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2555 จากสำนักงานมรดกวัฒนธรรมแห่งชาติจีน) อยู่ที่ 21,196.18 กิโลเมตร หรือ 13,170.7 ไมล์ อาณาเขต กำแพงเมืองจีนมีอาณาเขตครอบคลุมทั้งหมด 9 มณฑล คือ มณฑลเหลียวหนิง (Liaoning), มณฑลเทียนจิน (Tianjin), มณฑลเหอเป่ย์ (Hebei), ปักกิ่ง (Beijing), เขตปกครอง ตนเองมองโกเลียใน (Inner Mongolia), มณฑลซานซี (Shanxi), มณฑลส่านซี (Shaanxi), เขตปกครองตนเองหนิง เซี่ยหุย (Ningxia) และ มณฑลกานซู (Gansu) 9
ผู้ก่อตั้ง จักรพรรดิจิ๋นซีฮ่องเต้ จักรพรรดิองค์แรกของประวัติศาสตร์จีน เป็นผู้สร้างกำแพงเมืองจีนนี้ขึ้นมา ทรงปราบปรามก๊กต่าง ๆ ทั้ง 6 ก๊กได้สำเร็จ รวบรวมจีนเป็นหนึ่งเดียว เพื่อป้ องกันศัตรูเข้ามา บุกรุกและปล้นสะดม และมีการบูรณะแก้ไขเพิ่มเติมทั้งในสมัยฮั่น ถัง และหมิงตามลำดับ ปัจจุบันที่เห็นเป็นกำแพงของราชวงศ์หมิง (ค.ศ. 1368-1644) วัสดุที่ใช้ก่อสร้าง วัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างกำแพงเมืองจีนมีความหลากหลาย และแตกต่างกันตามแต่ละภูมิประเทศที่กำแพงเหล่านั้นพาด ผ่าน ซึ่งมีทั้งหิน ดิน และไม้เป็นวัสดุหลัก แต่บางจุดก็ใช้หิน อ่อน หินแกรนิต โคลน หรือดินเผา แต่ที่คงเหลืออยู่ใน ปั จจุบันมักเป็ นกำแพงที่สร้างด้วยหิน 10
แรงงาน กำแพงเมืองจีนสร้างขึ้นจากหยาดเหงื่อแรงงานนับล้าน โดย แรงงานที่ถูกเกณฑ์มาส่วนใหญ่เป็ นนักโทษสงครามและทาส และมีแรงงานจำนวนไม่น้ อยที่เสียชีวิตลงระหว่างการก่อสร้าง และศพเหล่านั้นก็ได้ถูกฝังทับถมอยู่ภายใต้กำแพง จนได้ชื่อว่า เป็ น\"สุสานที่ยาวที่สุดในโลก\" วัตถุประสงค์ วัตถุประสงค์ของการสร้างกำแพงเมืองจีน เพื่อป้ องกัน อาณาจักรไม่ให้ศัตรูเข้ามารุกรานเมืองหลวงได้ง่าย และยัง เป็นแนวบอกชายแดนอีกด้วย นับจากสมัยจักรพรรดิจิ๋นซี ฮ่องเต้ กำแพงเมืองจีนก็ได้สร้างกันมาอีกหลายยุคหลายสมัย รวมระยะเวลาสร้างทั้งสิ้นเกือบสองพันปี 11
ต้นแบบ ตามตำนานเล่าว่ากำแพงเมืองจีนมีต้นแบบมาจาก \"มังกร\" ซึ่งในจีน มังกรเป็นสัตว์สัญลักษณ์ที่แสดงถึงพลัง การปกป้ องคุ้มครอง และเมื่อมองดูดี ๆ จะเห็นว่ากำแพง เมืองจีนมีลักษณะรูปร่างคล้ายมังกรที่ขดตัวอยู่เหนือภูเขา คล้ายกับว่ากำลังปกป้ องอาณาเขตของตัวเองอยู่ กำแพงเมืองจีนถูกใช้เป็นพื้นที่สมรภูมิรบอยู่หลายครั้ง หากแต่ สมรภูมิรบครั้งสุดท้ายที่เกิดกับกำแพงเมืองจีนเกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1938 สงครามจีน-ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นชุดรบระหว่างกองทัพของ สาธารณรัฐจีนกับจักรวรรดิญี่ปุ่น ก่อนที่สงครามจีน-ญี่ปุ่น ครั้งที่ สองจะเริ่มขึ้นอย่างเป็ นทางการ 12
ด่านต่างๆของกำแพงเมืองจีน 八达岭1. ด่านปาต้าหลิ่ง ( ) เป็นด่านฮอตฮิตยอดนิยมของนักท่องเที่ยว เพราะว่าอยู่ใกล้ ปักกิ่ง และมีกระเช้าให้นั่งขึ้นไปได้ 慕田峪长城2. ด่านมู่เถียนยวี่ ( ) ด่านนี้ก็ไม่ไกลจากปักกิ่งมากนัก นั่งรถออกไป ประมาณชั่วโมง การเดินทางสะดวก 13
居庸关3. ด่านจวียงกวน () เป็นอีกด่านนึงที่ใกล้เมืองปักกิ่งมากที่สุด แต่ไม่มีกระเช้า 金山岭长城4. ด่านจินซานหลิ่ง () ด่านนี้ไม่ค่อยเป็นที่นิยมเท่าไหร่ เพราะอยู่ไกลตัวเมืองและไม่ได้รับ การซ่อมแซม 14
司马台长城5. ด่านซือหม่าไถ ( ) ด่านนี้ถือเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุด ในทุกด่านของกำแพงเมืองจีน 箭扣长城6. ด่านเจี้ยนโค่ว () ด่านนี้ยังคงสภาพเดิมอยู่ ไม่ได้รับการบูรณะซ่อมแซม และยัง ไม่ได้เปิ ดอย่างเป็ นทางการ 15
黄花城7. ด่านหวงฮวาเฉิง ( ) เป็นด่านที่ไม่ค่อยมีคนรู้จัก แต่ก็สวยงามไปอีกแบบ เพราะเป็น กำแพงเมืองจีนริมน้ำ 嘉峪关8. ด่านเจียยวี่ () ด่านสุดท้ายชายแดนหรือจุดเริ่มต้นของกำแพงเมืองจีนในทิศ ตะวันตก บนเส้นทางสายไหมบรรจบกับชายแดนมองโกล 16
山海关9. ด่านซานไห่กวาน () ด่านแรกของกำแพงเมืองจีน และเป็นด่านเดียวที่อยู่ติดทะเล 17
บรรณานุกรม ชื่อผู้แต่ง เด็กหญิงปาลิตา อ่ำเมือง เด็กหญิงปุญณิศา เทพสุนทร เด็กหญิงปุณยวีร์ ตรีสุข เด็กหญิงพิมวิมล ว่องไว ./(2565)./กำแพงเมืองจีน./สืบค้น เมื่อวันที่ 1 กรกฏาคม 2565,/จากเว็บ ไซด์:///////https://travel.trueid.net/detail/23VAk0vBAPRQ
ชื่อสมาชิกในกลุ่ม เด็กหณิงปาลิตา อ่ำเมือง เลขที15 เด็กหญิงปุญณิสา เทพสุนทร เลขที่16 เด็กหญิงปุณยวีร์ ตรีสุข เลขที่17 เด็กหญิงพิมวิมล ว่องไว เลขที่20
Search
Read the Text Version
- 1 - 21
Pages: