๑ ส่วนที่ ๑ สภาพทั่วไปและขอ้ มูลพืน้ ฐาน 1.ดา้ นกายภาพ ประวัติความเป็นมาของต้าบลถ้ารงค์ เดิมต้าบลถ้ารงค์ เป็นพืนท่ีเดียวกันกับต้าบลต้าหรุ อ้าเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี ซ่ึงขณะนันมีจ้านวนหมู่บ้านทังหมด ๑๒ หมบู่ ้าน และต่อมาเม่ือ ปี ๒๕๒๒ ได้มี การแบ่งแยกต้าบลถ้ารงค์ออกจากต้าบลต้าหรุ โดยมีแม่น้าเพชรบุรีเป็นเส้นแบ่งแนวเขต และมีหมู่บ้านอยู่ในเขต ปกครอง จ้านวน 6 หมู่บ้าน องค์การบริหารส่วนต้าบลถ้ารงค์ ได้ยกฐานะมาจากสภาต้าบล ตามพระราชบัญญัติ สภาต้าบลและองค์การบริหารส่วนต้าบล พ.ศ. ๒๕๓๗ และตามประกาศกระทรวงมหาดไทย โดยจัดตังเป็น องค์การบรหิ ารส่วนต้าบลถา้ รงค์ เม่ือวันท่ี ๑๔ ธันวาคม ๒๕๔๒ และมีการเลอื กตงั ครงั แรก เมอื่ วันท่ี ๒๒ มกราคม ๒๕๔๓ ท่ีท้าการในปัจจุบัน ตังอยู่หมู่ท่ี ๓ ต้าบลถ้ารงค์ อ้าเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี จัดชันเป็นองค์การ บริหารสว่ นต้าบลชันกลาง เมอื่ วนั ท่ี 11 เมษายน 2551 คา้ ขวญั ของต้าบลถ้ารงค์ “ เขาถ้ารงคร์ ูปช้าง ต้นยางนาใหญ่ แม่น้าเพชรใส หลวงพอ่ เทพเลือ่ งลอื ไกล พระด้าใหญค่ ู่ต้าบล” ๑.๑ ที่ตัง (แสดงท่ีตังและระยะห่างจากจากอา้ เภอ) องค์การบริหารส่วนต้าบลถ้ารงค์ตังอยู่ท่ี ๓ บ้านถ้ารงค์ อ้าเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี เป็นตา้ บลหนง่ึ ใน ๑๘ ต้าบลของอา้ เภอบ้านลาดห่างจาก ที่ว่าการอ้าเภอบา้ นลาด ระยะทางประมาณ ๓ กโิ ลเมตร
๒ ๑.๒ ลักษณะภมู ิประเทศ พืนท่ีส่วนใหญ่เป็นที่ราบลุ่มน้าท่วมถึง มีภูเขาเตีย ๆ มีล้าห้วยไหลผ่านทุกหมู่บ้าน และมีแม่น้า เพชรบุรไี หลผ่านทางทศิ ตะวนั ตก เหมาะแก่การทา้ การเกษตรกรรม เช่น ท้านา ท้าสวนผลไม้ เป็นต้น มีถนนเพชร เกษมตัดผ่านต้าบล มีถนนสายบ้านลาด–พุกาม เป็นสายหลักภายในต้าบลและถนนเรียบคลองชลประทานท้าให้ การคมนาคมสะดวกในการสัญจรภายในต้าบลและกับต้าบลใกล้เคียงรวมถึงการขนส่ งสินค้าพืชผลออกสู่ตลาดได้ รวดเร็ว มีแหล่งท่องเท่ียวตามวิถชี วี ิตคนบ้านลาด อาทิ เช่น สวนตาลลุงถนอม การยีโตนด ศูนย์วัฒนธรรมเคร่ืองใช้ โบราณวัดมว่ งงาม ผลติ ภัณฑจ์ ากตาลโตนด และป่ายางนา เป็นต้น ๑.๓ ลกั ษณะภมู อิ ากาศ (ท่มี า : สา้ นกั งานอตุ ุนยิ มวิทยาจงั หวดั เพชรบุรแี ละแผนพฒั นาจงั หวัดสี่ป)ี ต้าบลถ้ารงค์อยู่ใกล้กับตัวจังหวัดเพชรบุรี จึงมีลักษณะภูมิอาศคล้ายคลึงกับจังหวัดเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรีอยู่ภายใต้อิทธิพลของลมมรสุมที่พัดเวียนเป็นประจ้าเป็นฤดูกาล 2 ชนิด คือ พัดจากทิศ ตะวนั ออกเฉียงเหนือในฤดูหนาว เรยี กว่าฤดมู รสุมตะวันออกเฉียงเหนอื ท้าให้จงั หวัดเพชรบรุ ซี ึ่งอยู่ทางตอนบนของ ภาคใต้ฝ่ังตะวันออกมีฝนนอ้ ยในช่วงฤดูหนาว และมีอากาศเย็นเป็นครงั คราวคล้ายคลึงกับภาคกลาง แต่ในช่วงต้น ฤดอู าจมีฝนตกชกุ ได้ ส่วนมรสมุ อีกชนดิ หนงึ่ คือมรสุมตะวันตกเฉยี งใต้ ลมนีจะพัดประจ้าในฤดูฝน และเป็นลมทพ่ี ัด ผ่านมหาสมุทรอินเดีย จึงท้าให้ประเทศไทยมีฝนตกมาก แต่เน่ืองจากจังหวัดเพชรบรุ ีอยู่หลังทิวเขาตะนาวศรซี ่ึงปิด กนั ทางลมนีไว้จึงเปน็ ที่อับฝน และมฝี นตกน้อยในชว่ งฤดฝู น ฝนสว่ นใหญ่จะตกมากในช่วงฤดูหนาวคือระหว่างเดือน ตลุ าคมถึงพฤศจิกายน แบง่ ฤดูกาลออกเปน็ 3 ฤดูดงั นี ฤดรู ้อน เริ่มตังแตก่ ลางเดอื นกมุ ภาพนั ธ์ - กลางเดอื นพฤษภาคม ฤดูฝน เรมิ่ ตังแต่กลางเดือนพฤษภาคม - กลางเดือนตุลาคม ฤดหู นาว เรม่ิ ตังแต่กลางเดอื นตลุ าคม - กลางเดอื นกมุ ภาพนั ธ์ ๑.๔ ลักษณะของดนิ ลกั ษณะดินในต้าบลถ้ารงค์สว่ นใหญ่เปน็ ดินร่วน และดินเหนียวปนทรายตามล้าดับ ซึ่งเป็นดินท่ีมี ความอุดมสมบรู ณ์ สว่ นใหญใ่ ช้ปลูกข้าวและพืชสวน เช่น มะนาว ชมพู่ มะมว่ ง กลว้ ยและพืชผักสวนครัว ๑.๕ ลักษณะของแหลง่ นา้ มลี ้าห้วยไหลผ่านทุกหมู่บ้าน และมีแม่น้าเพชรบุรีไหลผ่านทางทิศตะวันตก เหมาะแก่การท้าการ เกษตรกรรม เช่น ท้านา ท้าสวนผลไม้ นอกจากนียังมี ล้าห้วย/ล้าน้า ๔ สาย บึง หนอง จ้านวน ๒ สาย ซึ่งเป็น แหล่งนา้ ธรรมชาติ และมแี หลง่ นา้ ท่ีสรา้ งขึน เชน่ เหมอื ง คลองชลประทาน เปน็ ตน้ ๑.๖ ลักษณะของไมแ้ ละป่าไม้ ในพนื ท่ตี า้ บลถ้างค์เป็นพืนทีล่ าบลมุ่ มแี ต่มีภเู ขาเตียๆ จ้านวน ๓ ลกู มตี น้ ยางนาที่ขึน ทะเบียนอนุรักษ์ไว้และตน้ ตาลขนึ อย่ทู ่วั ไป 2. ด้านการเมือง/การปกครอง ๒.๑ มีอาณาเขตติดตอ่ กับต้าบลต่างๆ ดังนี คอื ทิศเหนือ ตดิ ตอ่ กบั ต้าบลไร่มะขาม อ้าเภอบา้ นลาด ทิศใต้ ตดิ ต่อกับ ต้าบลทา่ ยาง อ้าเภอทา่ ยาง ทิศตะวนั ออก ติดตอ่ กับ ตา้ บลไรม่ ะขาม อา้ เภอบ้านลาด ทศิ ตะวันตก ตดิ ต่อกบั ต้าบลตา้ หรุ อ้าเภอบ้านลาด เนือที่ พืนทท่ี ังหมดประมาณ ๖,๔๓๘ ไร่ ( ๑๐.๓ ตารางกโิ ลเมตร) ทมี่ า : ประกาศกระทรวงมหาดไทย
๓ ๒.๒ การเลอื กตัง องค์การบริหารส่วนต้าบลมีเขตการปกครอง จ้านวนหมู่บ้าน ๖ หมู่บ้าน จ้านวนหมู่บ้านในเขต องค์การบริหารสว่ นต้าบลเต็มทังหมูบ่ ้าน ๖ หมู่บ้าน แบง่ ออกเป็น (๑) ฝ่ายสภาองคก์ ารบริหารสว่ นตา้ บลถา้ รงค์ สภาองค์การบริหารส่วนต้าบลถ้ารงค์ มีสมาชิกจ้านวน ๑๒ คน มีท่ีมาจากการเลือกตังจ้านวน ๖ หมู่บา้ น หม่บู า้ นละ ๒ คน สภาองค์การบริหารส่วนต้าบลถ้ารงค์มีหนา้ ทพ่ี ิจารณาและอนมุ ัตงิ บประมาณรายจ่าย ประจ้าปี และเพมิ่ เติม ให้ความเห็นชอบแผนพัฒนาต้าบล และขอ้ บัญญัติต่างๆ ตลอดจนตรวจสอบการปฏิบัตงิ าน ของผบู้ ริหาร ๑. นายประสิทธิ์ ดอกนางแยม้ ประธานสภาองค์การบรหิ ารส่วนต้าบลถ้ารงค์ ๒. นายประชมุ เขม็ กลัด รองประธานสภาองคก์ ารบรหิ ารส่วนตา้ บลถา้ รงค์ ๓. นายบญุ ยืน ดมี าก สมาชิกสภาองค์การบรหิ ารสว่ นตา้ บลถ้ารงค์ หมู่ ๑ ๔. นายประสงค์ อ้ามฤต สมาชกิ สภาองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตา้ บลถ้ารงค์ หมู่ ๑ ๕. นายเย่ียม ภพู่ วง สมาชิกสภาองค์การบริหารสว่ นตา้ บลถ้ารงค์ หมู่ ๒ ๖. นางสาวศริ พิ ร สะธรรม สมาชิกสภาองค์การบริหารสว่ นต้าบลถ้ารงค์ หมู่ ๒ 7. พ.จ.อ.ประหยดั ม่วงทอง สมาชกิ สภาองคก์ ารบรหิ ารสว่ นต้าบลถ้ารงค์ หมู่ ๓ ๘. นายศราวิน จับใจ สมาชิกสภาองคก์ ารบรหิ ารส่วนตา้ บลถ้ารงค์ หมู่ ๔ ๙. นายสบุ นิ โตเทย่ี ง สมาชิกสภาองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตา้ บลถ้ารงค์ หมู่ ๔ ๑0.นายสมชาย ทองมี สมาชกิ สภาองค์การบริหารสว่ นตา้ บลถ้ารงค์ หมู่ ๕ ๑1.นายชัน สมานมติ ร สมาชกิ สภาองค์การบรหิ ารสว่ นตา้ บลถ้ารงค์ หมู่ ๖ (๒) ฝา่ ยการเมอื ง ผู้บรหิ ารองค์การบริหารส่วนต้าบล คือ นายกองค์การบริหารส่วนต้าบลท่ีมาจากการเลือกตัง โดยตรงจากประชาชนในต้าบล และรองนายกองค์การบริหารส่วนต้าบล จ้านวน ๒ คน (นายกแต่งตัง) และ เลขานุการนายกองคก์ ารบริหารสว่ นต้าบล ๑ คน ๑. นายสา้ ฤทธ์ิ อบแย้ม นายกองค์การบริหารสว่ นต้าบลถา้ รงค์ ๒. นายอดลุ ย์ บัวสวุ รรณ รองนายกองคก์ ารบริหารส่วนตา้ บลถ้ารงค์ ๓. นายบรรจง สิงหะ รองนายกองค์การบริหารสว่ นตา้ บลถ้ารงค์ ๔. นายณฐธนพล พิมพท์ อง เลขานกุ ารนายกองคก์ ารบริหารส่วนต้าบลถา้ รงค์ (๓ ) ฝา่ ยทอ้ งท่ี มีก้านนั และผ้ใู หญบ่ ้าน จ้านวนหมู่บ้าน ๖ หมบู่ า้ น ได้แก่ หม่ทู ี่ ๑ บา้ นทา่ มะเฟือง มี นายชัยชาญ วาสนา เปน็ ผู้ใหญ่บา้ นหมทู่ ่ี ๑ หมทู่ ี่ ๒ บา้ นมว่ งงาม มี นายประยงค์ สะลชิ ะ เป็นผู้ใหญ่บา้ นหมทู่ ี่ ๒ หม่ทู ี่ ๓ บา้ นถา้ รงค์ มี นายบญุ ยง สรอ้ ยกล่้า เปน็ ผใู้ หญ่บา้ นหมูท่ ี่ ๓ หมทู่ ่ี ๔ บา้ นไรส่ ะทอ้ น มี นายมานพ ทองเก่า เป็นผใู้ หญบ่ ้านหมู่ท่ี 4 หม่ทู ี่ ๕ บ้านดอนตะโก มี นายทุเรยี น สฟี ้า เป็นกา้ นันต้าบลถา้ รงค์ หมทู่ ่ี ๖ บ้านหนองชา้ งตาย มี นายบรรยง เอย่ี มสิน เปน็ ผใู้ หญ่บา้ นหมูท่ ่ี ๖
๔ 3. ประชากร ๓.๑ ขอ้ มลู เก่ยี วกับจ้านวนประชากร ประชากรมีจ้านวนทังสิน 3,390คน แยกเป็น ชาย 1,657 คน หญิง ๑,733 คน จ้านวน ครวั เรือน 1,657 ครวั เรอื น แยกเปน็ รายหมู่บา้ น หมู่ ช่ือหมู่บ้าน จ้านวนประชากร จ้าวนครัวเรอื น 1 บ้านท่ามะเฟอื ง ชาย(คน) หญิง(คน) รวม(คน) 163 2 บ้านมว่ งงาม 196 3 บ้านถ้ารงค์ 252 262 514 100 4 บา้ นไร่สะทอ้ น 187 5 บา้ นดอนตะโก 313 348 661 216 6 บ้านหนองชา้ งตาย 160 139 171 310 3,390 รวม 238 249 487 416 423 839 299 280 579 1,022 1,657 1,733 ๓.๒ ชว่ งอายแุ ละจา้ นวนประชากร หมู่ ช่วงอายปุ ี ที่ ชอ่ื หมู่บ้าน 0 - 5 ปี 6 - 14 ปี 15 - 25 ปี 26 - 39 ปี 40 - 49 ปี 50 - 59 ปี 60 ปขี ึนไป ชาย หญิง ชาย หญงิ ชาย หญงิ ชาย หญงิ ชาย หญิง ชาย หญิง ชาย หญงิ 1 บ้านทา่ มะเฟอื ง ๘ ๑๓ ๒๙ ๒๑ ๔๔ ๔๕ ๔๗ ๔๗ ๔๙ ๔๒ ๓๗ ๓๕ ๔๔ ๕3 2 บา้ นมว่ งงาม ๑๕ ๑๕ ๓๕ ๓๘ ๕๐ ๔๙ 6๓ 6๒ ๔๘ 62 ๕๘ ๕๓ ๕๗ 66 3 บ้านถ้ารงค์ ๕ ๕ ๑๑ ๑๗ ๑๓ ๑๙ ๓๑ ๓๔ ๒๐ 3๓ ๒๓ ๒๙ 31 ๓๙ 4 บา้ นไรส่ ะทอ้ น ๑๑ ๖ ๒๘ 2๗ ๓๒ ๓๓ 3๘ ๔๘ ๓๓ ๔๕ ๒๘ ๔๐ ๔๑ ๖๒ 5 บา้ นดอนตะโก ๒๓ ๑๔ ๓๕ ๓๕ ๗๒ ๗๓ ๘๗ ๙๐ ๗๐ ๖๔ ๕๔ ๗๒ ๗๔ ๘๓ 6 บ้านหนองช้างตาย ๒๒ ๑๒ ๓๐ ๒๖ ๓๖ 46 6๙ ๖๓ ๕๒ ๖๐ ๔๔ ๓๗ ๓๘ 49 **ขอ้ มลู ณ เดอื น มกราคม 2562 - โทรศัพท์ ๐๓๒-๔๙๑๔๖๗ - โทรสาร ๐๓๒-๔๙๑๔๖๗ 4. สภาพสงั คม ๒ แห่ง (ร.ร.วดั ถา้ รงค์ และ ร.ร.วัดมว่ งงาม) ๔.๑ การศกึ ษา ๑ แหง่ (ขยายโอกาส ม.๑- ม.๓/ร.ร.วดั ถา้ รงค์) - โรงเรียนประถมศึกษา ๑ แห่ง ๑ แหง่ - โรงเรียนมธั ยมศึกษา - ศูนย์การเรียนชุมชน ๗ แหง่ - ศนู ย์พฒั นาเดก็ เลก็ ๗ แห่ง - ที่อา่ นหนงั สือพมิ พ์ประจ้าหมบู่ ้าน - หอกระจายขา่ ว
๕ ๔.๒ การสาธารณสขุ - โรงพยาบาลส่งเสรมิ สุขภาพชุมชน ๑ แหง่ - สถานพยาบาลเอกชน ๒ แห่ง ๔.๓ อาชญากรรม ปญั หาอาชญากรรมภายในตา้ บลไม่มี แต่ก็มกี ารป้องกนั โดยมหี น่วยให้บริการให้ประชาชนเกดิ ความรสู้ ึกความปลอดภยั ในชวี ิตและทรัพยส์ นิ ได้แก่ - ทีท่ ้าการต้ารวจชุมชน ๑ แห่ง - ศูนย์ อปพร./กูภ้ ยั ๑ แหง่ - หนว่ ยบรกิ ารการแพทยฉ์ ุกเฉิน (FR) ๑ แหง่ ๔.๔ ยาเสพติด ปญั หายเสพติดทางองคก์ ารบรหิ ารส่วนต้าบลถ้ารงคไ์ ด้ให้ความสา้ คญั ในการปอ้ งกนั และ รณรงค์ให้เยาวชนห่างไกลจากยาเสพตดิ รู้ถึงโทษ พิษภัยของยาเสพตดิ และรู้จกั ใช้เวลาวา่ งให้เปน็ ประโยชน์ ๔.๕ การสงเคราะห์ -ผ้รู บั เบียยงั ชพี คนชรา 554 คน -ผูร้ บั เบยี ยังชพี ผพู้ กิ าร 60 คน -ผู้รับเบยี ยังชีพผูป้ ่วยเอดส์ 8 คน 5. การบรกิ ารพ้นื ฐาน ๕.๑ การคมนาคมขนสง่ การคมนาคมของประชาชนสว่ นใหญ่เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตวั และรถจกั รยานยนต์ เนอ่ื งจากมี ระยะทางไมไ่ กลจากตวั อ้าเภอ และจังหวัดมากนัก ๕.๒ การไฟฟา้ มไี ฟฟ้าใชท้ ัง ๖ หมบู่ า้ น คิดเป็น ๑๐๐ เปอรเ์ ซ็นต์ ๕.๓ การประปา องค์การบริหารส่วนตา้ บลถา้ รงค์มีระบบประทอี ยใู่ นความรบั ผิดชอบดูแล จา้ นวน 3 แหง่ และเปน็ ระบบประปาหม่บู า้ น ๒ แหง่ ประชาชนใชประปาร้อยละ ๙๙ ๕.๔ โทรศัพท์ ส่วนใหญใ่ ช้โทรศัพท์เคลื่อนที่สว่ นตวั และมีตู้ส่งสัญญาณขององค์การโทรศัพท์ ๕.๕ ไปรษณียห์ รือการสือ่ สารหรอื การขนส่ง และวสั ดุ ครุภณั ฑ์ เนือ่ งจากตา้ บลถ้ารงค์อยใู่ กล้กับอ้าเภอบา้ นลาดจึงไม่มีหน่วยให้บรกิ ารไปรษณยี ์ ประชาชนส่วน ใหญไ่ ปใช้บริหารทไี่ ปรษณีย์ท่ีอ้าเภอบ้านลาด ส้าหรบั วสั ดุ ครภุ ัณฑ์ ไดแ้ ก่ - รถยนตส์ า้ นักงาน จ้านวน 3 คัน - รถนา้ เทย่ี วชุมชน จ้านวน ๑ คนั - รถจกั รยานยนต์ จ้านวน ๑ คัน - คอมพิวเตอร์ (ตงั โตะ๊ ) จ้านวน 18 เคร่ือง - คอมพิวเตอร์ (โน๊ตบคุ๊ ) จา้ นวน ๑ เคร่อื ง - เครอ่ื งถา่ ยเอกสาร จา้ นวน ๑ เครื่อง - เครื่องโปรเจคเตอร์ จา้ นวน ๑ เครอ่ื ง - กล้องถ่ายรปู ดจิ ติ อล/วีดโี อ จ้านวน ๒ ตวั
๖ - ชดุ ไมโครโฟนประชมุ จ้านวน ๑ ชุด - เคร่ืองสูบน้า จ้านวน ๑ ชดุ 6. ระบบเศรษฐกจิ ๖.๑ การเกษตร ประชากรสว่ นใหญป่ ระกอบอาชพี เกษตรกรรม เน่ืองจากสภาพืนท่ที ีล่ าบลุ่มและมลี ักษณะสภาพดินเปน็ ดนิ เหนยี วปนทราย และดินรว่ น มแี หลง่ น้าที่ไหลผ่านได้แก่ แม่น้าเพชรบุรี จงึ เหมาะแกก่ ารทา้ เกษตร เชน่ การท้านา ท้าไร่ ทา้ สวน เช่น มะนาว ชมพู่ มะมว่ ง กลว้ ยและพชื ผักสวนครัว เปน็ ตน้ ๖.๒ การประมง พนื ที่ในตา้ บลถ้ารงคเ์ ป็นทีพ่ นื ทีท่ า้ นา ทา้ ไร่ ทา้ สวนเป็นส่วนใหญ่ แตก่ ม็ กี ารเลียงปลา เลียงกบ ใน ครวั เรอื นเปน็ ตน้ เพ่ือเปน็ อาชพี เสรมิ เพิ่มรายได้ให้แกค่ รอบครวั ๖.๓ การปศสุ ตั ว์ ในต้าบลถ้ารงค์มีพืนทปี่ ศสุ ัตว์ ประมาณ 132 ไร่(ขอ้ มลู จากส้านักงานเกษตรอ้าเภอบ้านลาด) ชนิดสัตว์ทีป่ ระชาชนนยิ มเลยี งในพืนทไี่ ดแ้ ก่ เลียงวัว เลยี งไก่ เลียงหมู เปน็ ต้น ๖.๔ การบริการ ๒ แห่ง (โรงแรมเทรชเชอรร์ ่,ี โรงแรมท็อปอิน) 1 แหง่ (นางนยิ ม เป่ยี มสิน) - โรงแรม 1 แหง่ (ป๊ัมแกส๊ ปตท.) - ปมั๊ น้ามนั - ปั๊มแก๊ส ๑ แห่ง (นครหลวงคอนกรตี ) 60 แหง่ - โรงปูนผสมเสร็จ - รา้ นค้า 8 แห่ง ๑ แหง่ - ร้านอาหาร - ร้านเซเว่นอีเลฟเวน่ ๖.๕ การทอ่ งเท่ยี ว -สวนตาลลงุ ถนอม -ไรน่ าสวนผสม -ตลาดดงยาง -ถ้าหลวงพ่อดา้ -วัดเขาพรมชะแง้ -พิพิธภัณฑว์ ดั ม่วงงาม ๖.๖ การอตุ สาหกรรม -บริษทั ไพบูลย์เพชรบุรี จา้ กัด เลขท่ี ๑๒๑ หมู่ ๔ -บมจ.นครหลวงคอนกรตี เลขท่ี ๖๒ หมู่ ๓ -บมจ.ทีทีแอนดท์ ี เลขท่ี ๑๐๙ หมู่ ๔ -บรษิ ทั เพชรยิง่ เจริย จ้ากดั เลขท่ี ๑๒๗ หมู่ ๔ -ร้นแมแ่ วว
๗ ๖.๗ การพาณิชย์และกลุ่มอาชีพ การพาณิชย์ -กระแช่ -สวนตาล กลุ่มอาชพี -ดอกไมป้ ระดิษฐ์จากใบตาล -ผลิตภัณฑจ์ ากเม็ดตาล -ตน้ ตาลประดิษฐ์ -กลุ่มทา้ นา้ พริกแกง -จกั สานไมไ้ ผ่ -กลุ่มยีโตนด -กลุม่ เลยี งววั ชน -กลมุ่ เลยี งปลากดั -หนงั ตะลุง -เกษตรอนิ ทรท์ รีย์ -ไร่นาสวนผสม -กล่มุ อนรุ กั ษพ์ นั ธป์ุ ลาและพนั ธุ์กบ ๖.๘ แรงงาน ประชากรสว่ นใหญป่ ระกอบอาชพี เกษตรกรรม ค้าขาย รับจ้างและรับราชการ ดงั นนั แรงงาน ส่วนใหญ่ภายในตา้ บลจงึ มีอาชีพหลกั คอื เกษตรกรม สว่ นท่เี หลอื จะกไ็ ปหางานท้านอกเขตพืนที่และต่างจงั หวัด 7. ศาสนา ประเพณี วัฒนธรรม 7.1 การนบั ถอื ศาสนา ประชาชนในตา้ บลถา้ รงค์ส่วนใหญ่นบั ถือ ศาสนาพทุ ธ สถาบันองค์กรทางศาสนา - วดั ๕ แหง่ (วดั ม่วงงาม, วัดถา้ รงค์, วดั ขลุบ, วดั เขาพรมชะแง้, วัดเขานอ้ ยเกษโร) 7.2 ประเพณแี ละงานประจา้ ปี (1) ประเพณแี ข่งขนั เรือยาว (2) ประเพณสี งกรานต์ (2) วันมรดกถ้ารงค์ (3) การละเลน่ ผกี ระด้ง,ผสี ่มุ ,ผีกะลา (4) การะเล่นกลองยาว (5) การละเล่นเห่เรอื บก (6) การเลน่ แรลลีล่ ้อโตนด 7.๓ ภูมปิ ัญญาทอ้ งถิน่ ภาษาถ่ิน - ผลิตภณั ฑจ์ ากเมด็ ตาลโตนด - ใบตาลประดิษฐ์ - ตน้ ตาลประดษิ ฐ์ ภาษาถิ่นท่ีใช้ คอื ภาษาบ้านลาด
๘ 7.๔ สนิ ค้าพืนเมอื งและของท่ีระลึก -ตน้ ตาลประดิษฐ์ -ดอกไม้ประดิษฐจ์ ากใบตาล -ผลิตภณั ฑจ์ ากเม็ดตาล -แกงหัวตาล -ขนมตาล 8. ทรัพยากรธรรมชาตใิ นพนื้ ที่ 8.๑ นา้ - มีแม่น้า ๑ สาย(เพชรบุร)ี -มีคลองชลประทานใช้ในการเกษตร -ล้าหว้ ย ๔ แห่ง (ล้าหว้ ยอ่างหนิ ,ถ้ารงค,์ ดอนตะโก,หนองชา้ งตาย) 8.๒ ป่าไม้ -มตี น้ ยางนาและตน้ ตาลขนึ อยทู่ ่ัวไป 8.๓ ภูเขา -มภี ูเขา 3 ลูก (เขาถ้ารงค,์ เขานอ้ ย,เขาพรมชะแง)้ 8.๔ คณุ ภาพของทรพั ยากรธรรมชาติ ต้าบลถ้ารงค์มีแหล่งทรพั ยากรธรรมชาตทิ สี่ มบูรณ์ มีแมน่ า้ เพชรบุรี ภูเขา ป่ายางนา และต้นตาล 9. กลมุ่ มวลชนจัดตั้ง - ลกู เสือชาวบ้าน จ้านวน ๒ รุน่ * รุน่ ท่ี ๑ จ้านวน ๗๐ คน * รุ่นที่ ๒ จ้านวน ๑๖๓ คน - อปพร. จา้ นวน ๒ ร่นุ * รุ่นที่ ๑ จา้ นวน ๒๕ คน * ร่นุ ท่ี ๒ จ้านวน ๓๑ คน - ทีมกูภ้ ัย/OTOS จ้านวน ๑ ทมี - กลมุ่ แม่บ้านต้าบล จา้ นวน ๑๒๐ คน - สภาเดก็ และเยาวชน จา้ นวน ๑ กลุ่ม - คณะกรรมการ สปสช. จ้านวน ๑ คณะ - อาสาสมัครทอ้ งถิน่ ดแู ลรักษามรดกทางศิลปวัฒนธรรม ( อสมศ.) จา้ นวน ๑ กลุ่ม - กล่มุ อนุรักษแ์ ม่นา้ เพชร จ้านวน ๑ กลุ่ม
๙ 10. เศรษฐกิจพอเพียงทอ้ งถิ่น(ด้านการเกษตรและแหล่งน้า) ๗.๑ ขอ้ มูลพนื ฐานของหมบู่ ้านหรือชมุ ชน หมู่ ชอ่ื หมู่บ้าน จา้ นวนประชากร จ้าวนครวั เรอื น 1 บา้ นท่ามะเฟอื ง ชาย(คน) หญงิ (คน) รวม(คน) 163 2 บา้ นม่วงงาม 196 3 บา้ นถา้ รงค์ 252 262 514 100 4 บ้านไร่สะท้อน 187 5 บา้ นดอนตะโก 313 348 661 216 6 บา้ นหนองชา้ งตาย 160 139 171 310 3,390 รวม 238 249 487 416 423 839 299 280 579 1,022 1,657 1,733 ๗.๒ ขอ้ มูลดา้ นการเกษตร หมู่ 1 บ้านทา่ มะเฟือง -ประเภทของการทา้ การเกษตร (ทา้ นา) ในเขตชลประทาน 80 ครัวเรือน /270.0 ไร่ นอกเขตชลประทาน ไม่มี -ประเภทของการทา้ การเกษตร (ท้าสวน) ไมผ้ ลยนื ต้น 50 ครัวเรอื น/110.0 ไร่ ปลูกผัก 30 ครัวเรือน/10.0 ไร่ -ประเภทของการท้าการเกษตร (ท้าไร่) พืชไร่อื่นๆ -ไม่มี- หมู่ 2 บ้านมว่ งงาม -ประเภทของการท้าการเกษตร (ท้านา) ในเขตชลประทาน 100 ครัวเรือน /1,000.0 ไร่ นอกเขตชลประทาน -ไมม่ ี- -ประเภทของการท้าการเกษตร (ท้าสวน) ไม้ผลยนื ต้น 50 ครัวเรือน/163.0 ไร่ ปลูกผัก 50 ครวั เรอื น/30.0 ไร่ ไม้ดอกไม้ประดบั 5 ครัวเรือน/5.0 ไร่ -ประเภทของการทา้ การเกษตร (ทา้ ไร่) พืชไรอ่ ่ืนๆ -ไม่มี- หมู่ ๓ บ้านถ้ารงค์ -ประเภทของการทา้ การเกษตร (ท้านา) ในเขตชลประทาน ๖0 ครวั เรือน /๔๖๐.0 ไร่ นอกเขตชลประทาน -ไมม่ ี- -ประเภทของการทา้ การเกษตร (ท้าสวน) ไมผ้ ลยืนต้น ๑0 ครวั เรือน/๒๓๕.0 ไร่
๑๐ ปลูกผัก ๑0 ครัวเรอื น/๑๖.0 ไร่ ไม้ดอกไม้ประดับ ๙ ครวั เรอื น/๓.0 ไร่ -ประเภทของการทา้ การเกษตร (ท้าไร่) พืชไรอ่ ่นื ๆ -ไมม่ ี- หมู่ ๔ บ้านไร่สะท้อน -ประเภทของการทา้ การเกษตร (ท้านา) ในเขตชลประทาน ๑๐๕ ครวั เรอื น /๑๘๐.0 ไร่ นอกเขตชลประทาน -ไม่มี- -ประเภทของการทา้ การเกษตร (ท้าสวน) ไมผ้ ลยืนตน้ ๑0 ครัวเรอื น/๕๐.0 ไร่ ปลูกผัก ๓0 ครวั เรอื น/๕๒.0 ไร่ ไมด้ อกไมป้ ระดบั ๓๐ ครัวเรือน/๘.0 ไร่ -ประเภทของการท้าการเกษตร (ทา้ ไร)่ พชื ไรอ่ ื่นๆ -ไม่มี- หมู่ ๕ บา้ นดอนตะโก -ประเภทของการท้าการเกษตร (ทา้ นา) ในเขตชลประทาน ๙๐๐ ครวั เรอื น /๗๒๐.0 ไร่ นอกเขตชลประทาน -ไม่มี- -ประเภทของการทา้ การเกษตร (ทา้ สวน) ไม้ผลยนื ตน้ ๓๐0 ครวั เรือน/๔๕๕.0 ไร่ ปลูกผกั ๑๐0 ครวั เรือน/๕๐.0 ไร่ ไม้ดอกไมป้ ระดับ ๓๐ ครัวเรือน/๘.0 ไร่ -ประเภทของการทา้ การเกษตร (ทา้ ไร)่ พชื ไร่อนื่ ๆ -ไม่มี- หมู่ ๖ บา้ นหนองชา้ งตาย -ประเภทของการทา้ การเกษตร (ทา้ นา) ในเขตชลประทาน ๙๐ ครวั เรอื น /๖๔๐.0 ไร่ นอกเขตชลประทาน -ไมม่ ี- -ประเภทของการท้าการเกษตร (ท้าสวน) ไมผ้ ลยืนตน้ ๓0 ครวั เรอื น/๔๘๓.0 ไร่ ปลกู ผัก ๒0 ครวั เรือน/๘๗.0 ไร่ ไม้ดอกไมป้ ระดับ ๑๐ ครวั เรอื น/๖.0 ไร่ -ประเภทของการทา้ การเกษตร (ทา้ ไร่) พชื ไรอ่ ื่นๆ -ไมม่ ี- ๗.๓ ขอ้ มลู ด้านแหลง่ นา้ ทางการเกษตร หมู่ 1 บา้ นทา่ มะเฟอื ง -แหลง่ น้าทางการเกษตร (ปรมิ าณน้าฝน) ความเพียงพอของปรมิ าณน้าฝนทใ่ี ช้ในการทา้ การเกษตร -ไมเ่ พยี งพอ-
๑๑ -แหลง่ นา้ ทางการเกษตร (แหลง่ นา้ ธรรมชาต)ิ /ความเพยี งพอของน้าเพื่อการเกษตรตลอดทงั ปี แม่นา้ ไมเ่ พียงพอ ห้วย/ลา้ ธาร ไมเ่ พียงพอ คลอง ไม่เพยี งพอ หนองนา้ /บงึ เพยี งพอ -แหลง่ น้าทางการเกษตร (มนุษยส์ รา้ ง) แก้งลิง - อ่างเก็บนา้ - ฝาย - สระ - คลองชลประทาน - แหลง่ น้ามนษุ ย์สรา้ งอ่ืนๆ - หมู่ ๒ บา้ นมว่ งงาม -แหลง่ นา้ ทางการเกษตร (ปริมาณน้าฝน) ความเพียงพอของปริมาณน้าฝนที่ใช้ในการท้าการเกษตร ไมเ่ พียงพอ -แหล่งน้าทางการเกษตร (แหลง่ นา้ ธรรมชาต)ิ /ความเพยี งพอของน้าเพอ่ื การเกษตรตลอดทังปี แม่น้า ไม่เพียงพอ ห้วย/ลา้ ธาร ไม่เพียงพอ คลอง ไมเ่ พยี งพอ หนองนา้ /บงึ เพยี งพอ -แหลง่ น้าทางการเกษตร (มนุษยส์ รา้ ง) แก้งลิง - อ่างเกบ็ นา้ - ฝาย - สระ - คลองชลประทาน - หมู่ ๓ บ้านถ้ารงค์ -แหล่งน้าทางการเกษตร (ปรมิ าณนา้ ฝน) ความเพียงพอของปรมิ าณนา้ ฝนท่ใี ช้ในการทา้ การเกษตร ไมเ่ พยี งพอ -แหล่งนา้ ทางการเกษตร (แหลง่ นา้ ธรรมชาต)ิ /ความเพียงพอของน้าเพือ่ การเกษตรตลอดทงั ปี แมน่ ้า - หว้ ย/ล้าธาร ไมเ่ พียงพอ ไม่ท่ัวถึง คลอง - หนองน้า/บงึ - -แหล่งนา้ ทางการเกษตร (มนุษยส์ รา้ ง) แกง้ ลงิ - อา่ งเก็บน้า - ฝาย - สระ - คลองชลประทาน -
๑๒ หมู่ ๔ บา้ นไรส่ ะทอ้ น -แหลง่ นา้ ทางการเกษตร (ปรมิ าณนา้ ฝน) ความเพียงพอของปรมิ าณน้าฝนทีใ่ ช้ในการทา้ การเกษตร ไม่เพียงพอ -แหล่งน้าทางการเกษตร (แหลง่ นา้ ธรรมชาต)ิ /ความเพยี งพอของน้าเพื่อการเกษตรตลอดทงั ปี แมน่ า้ ไมเ่ พยี งพอ หว้ ย/ล้าธาร เพียงพอ คลอง ไมเ่ พียงพอ หนองน้า/บงึ เพียงพอ -แหล่งน้าทางการเกษตร (มนุษยส์ ร้าง) แก้งลงิ - อ่างเก็บนา้ - ฝาย - สระ - คลองชลประทาน - หมู่ ๕ บา้ นดอนตะโก -แหลง่ นา้ ทางการเกษตร (ปริมาณน้าฝน) ความเพยี งพอของปรมิ าณนา้ ฝนทีใ่ ช้ในการทา้ การเกษตร ไมเ่ พยี งพอ -แหล่งน้าทางการเกษตร (แหลง่ นา้ ธรรมชาติ)/ความเพียงพอของน้าเพือ่ การเกษตรตลอดทังปี แม่น้า ไมเ่ พยี งพอ ห้วย/ล้าธาร เพียงพอ คลอง เพยี งพอ หนองนา้ /บงึ เพยี งพอ -แหล่งน้าทางการเกษตร (มนุษย์สรา้ ง) แก้งลิง - อา่ งเก็บน้า - ฝาย - สระ - คลองชลประทาน - หมู่ ๖ บา้ นหนองชา้ งตาย -แหลง่ น้าทางการเกษตร (ปริมาณนา้ ฝน) ความเพยี งพอของปรมิ าณน้าฝนท่ีใช้ในการทา้ การเกษตร ไมเ่ พียงพอ -แหลง่ นา้ ทางการเกษตร (แหล่งน้าธรรมชาติ)/ความเพยี งพอของนา้ เพอ่ื การเกษตรตลอดทังปี แม่นา้ ไม่เพยี งพอ ห้วย/ล้าธาร เพยี งพอ คลอง ไม่เพยี งพอ หนองน้า/บงึ ไมเ่ พียงพอ -แหล่งน้าทางการเกษตร (มนษุ ยส์ รา้ ง) แก้งลิง - อ่างเกบ็ น้า - ฝาย -
๑๓ สระ - คลองชลประทาน - ๗.๔ ข้อมูลด้านแหล่งนา้ กิน น้าใช้ (หรือน้าเพือ่ การอุปโภค บริโภค) หมู่ ๑ บา้ นทา่ มะเฟอื ง บอ่ บาดาลสาธารณะ เพียงพอ ไม่มี บอ่ นา้ ตื่นสาธารณะ ทัว่ ถงึ ไมม่ ี ประปาหมบู่ ้าน(ขององคก์ รปกครองสว่ นท้องถน่ิ ) ไม่เพยี งพอ ระบบประปา (การประปาสว่ นภมู ิภาค) เพียงพอ เพียงพอ แหลง่ น้าธรรมชาติ เพียงพอ ไมม่ ี หมู่ ๒ บ้านมว่ งงาม ไมเ่ พียงพอ บอ่ บาดาลสาธารณะ ไม่มี ไม่มี บ่อนา้ ต่ืนสาธารณะ เพยี งพอ ไมม่ ี ประปาหมบู่ ้าน(ขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน) เพยี งพอ ระบบประปา (การประปาสว่ นภูมิภาค) ไมม่ ี ไมม่ ี แหลง่ น้าธรรมชาติ เพยี งพอ ไมม่ ี หมู่ ๓ บ้านถ้ารงค์ ไม่เพยี งพอ บอ่ บาดาลสาธารณะ ไม่เพยี งพอ ไม่เพยี งพอ บ่อนา้ ตน่ื สาธารณะ เพียงพอ ไม่มี ประปาหม่บู า้ น(ขององค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ ) เพียงพอ ระบบประปา (การประปาส่วนภูมิภาค) ไม่เพียงพอ ไม่เพียงพอ แหล่งนา้ ธรรมชาติ ไมเ่ พยี งพอ ไม่มี หมู่ ๔ บา้ นไรส่ ะทอ้ น ไม่เพียงพอ บอ่ บาดาลสาธารณะ บ่อน้าตื่นสาธารณะ ประปาหมบู่ า้ น(ขององคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิ่น) ระบบประปา (การประปาส่วนภมู ิภาค) แหลง่ นา้ ธรรมชาติ หมู่ ๕ บ้านดอนตะโก บอ่ บาดาลสาธารณะ บอ่ นา้ ตนื่ สาธารณะ ประปาหมบู่ า้ น(ขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ ) ระบบประปา (การประปาสว่ นภมู ิภาค) แหล่งนา้ ธรรมชาติ หมู่ ๖ บ้านหนองชา้ งตาย บอ่ บาดาลสาธารณะ บ่อนา้ ตนื่ สาธารณะ ประปาหมบู่ ้าน(ขององคก์ รปกครองส่วนท้องถิ่น) ระบบประปา (การประปาส่วนภมู ิภาค) แหลง่ น้าธรรมชาติ
๑๔ ส่วนที่ 2 ยุทธศาสตร์การพฒั นาองคก์ รปกครองส่วนท้องถ่ิน ๑.ความสัมพนั ธ์ระหว่างแผนพัฒนาระดับมหภาค ๑.๑ แผนยทุ ธศาสตรช์ าติ ๒๐ ปี คณะรัฐมนตรีได้มีมติเม่ือวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ เห็นชอบให้มีการจัดตังคณะกรรมการจัดท้า ยุทธศาสตร์ชาติ มีอ้านาจหน้าที่ในการจัดทาร่างยุทธศาสตร์ชาติระยะ ๒๐ ปี เพื่อใช้ในการขับเคล่ือนการพัฒนา ประเทศสู่ความม่ันคง ม่ังคั่ง และยั่งยืน และให้เสนอร่างยุทธศาสตร์ชาติระยะ ๒๐ ปี ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา ให้ความเห็นชอบเพื่อใช้เป็นกรอบในการดาเนินงานในระยะที่ ๒ ของรัฐบาล (ปี ๒๕๕๘ -๒๕๕๙) และกรอบการ ปฏิรูปในระยะที่ ๓ (ปี ๒๕๖๐ เป็นต้นไป)ในการที่จะบรรลุวิสัยทัศน์และท้าให้ประเทศไทยพัฒนาไปสู่อนาคต ท่ีพึงประสงค์นัน จ้าเป็นจะต้องมีการวางแผนและก้าหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาในระยะยาว และก้าหนดแนว ทางการพัฒนาของทุกภาคส่วนให้ขับเคลื่อนไปในทิศทางเดียวกัน ดังนัน จึงจา้ เป็นจะต้องก้าหนดยทุ ธศาสตร์ชาติ ในระยะยาว เพ่ือถ่ายทอดแนวทางการพัฒนาสู่การปฏิบัติในแต่ละช่วงเวลาอย่างต่อเน่ืองและมีการบูรณาการ และสรา้ งความเข้าใจถึงอนาคตของประเทศไทยร่วมกัน และเกิดการรวมพลังของทกุ ภาคส่วนในสังคมทงั ประชาชน เอกชน ประชาสังคมในการขับเคล่ือนการพัฒนาเพื่อการสร้างและรักษาไว้ซึ่งผลประโยชน์แห่งชาติและบรรลุ วิสัยทัศน์ “ประเทศไทยมคี วามมั่นคง มง่ั คง่ั ยัง่ ยนื เปน็ ประเทศพฒั นาแลว้ ด้วยการพฒั นาตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง”หรือคติพจน์ประจ้าชาติ “มั่นคง มั่งค่ัง ย่ังยืน”เพื่อให้ประเทศมีขีดความสามารถในการ แข่งขัน มีรายได้สูงอยู่ในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว คนไทยมีความสุข อยู่ดี กินดี สังคมมีความมั่นคงเสมอภาค และเป็นธรรม ซง่ึ ยทุ ธศาสตร์ชาตทิ ี่จะใชเ้ ปน็ กรอบแนวทางการพัฒนาในระยะ ๒๐ ปีต่อจากนีไป จะประกอบด้วย ๖ ยุทธศาสตร์ ได้แก่ (๑) ยทุ ธศาสตร์ด้านความมั่นคง (๒) ยทุ ธศาสตรด์ า้ นการสรา้ งความสามารถในการแขง่ ขัน (๓) ยทุ ธศาสตรก์ ารพัฒนาและเสรมิ สรา้ งศกั ยภาพคน (๔) ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างโอกาสความเสมอภาคและเทา่ เทียมกันทางสงั คม (๕) ยทุ ธศาสตรด์ า้ นการสร้างการเตบิ โตบนคณุ ภาพชีวิตทเ่ี ป็นมติ รกบั สิ่งแวดลอ้ ม (๖) ยุทธศาสตร์ดา้ นการปรับสมดุลและพฒั นาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ โดยมีสาระส้าคัญของแตล่ ะยุทธศาสตร์ สรปุ ได้ ดงั นี ๒.๓.๑ ยุทธศาสตร์ด้านความม่ันคง มีเป้าหมายทังในการสร้างเสถียรภาพภายในประเทศและ ช่วยลดและป้องกนั ภัยคุกคามจากภายนอก รวมทังสร้างความเชื่อมนั่ ในกลุ่มประเทศอา้ เซียนและประชาคมโลกที่มี ตอ่ ประเทศไทย กรอบแนวทางที่ต้องให้ความส้าคัญ อาทิ (๑) การเสริมสร้างความม่ันคงของสถาบันหลักและการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมี พระมหากษัตรยิ ท์ รงเป็นประมขุ (๒) การปฏิรูปกลไกการบริหารประเทศและพัฒนาความมั่นคงทางการเมือง ขจัดคอร์รัปชั่น สร้างความเชือ่ ม่นั ในกระบวนการยตุ ิธรรม (๓) การรักษาความมั่นคงภายในและความสงบเรียบร้อยภายใน ตลอดจนการบริหารจัดการ ความมั่นคงชายแดนและชายฝัง่ ทะเล (๔) การพัฒนาระบบ กลไก มาตรการและความรว่ มมือระหว่างประเทศทุกระดับ และรักษาดุลย ภาพความสมั พนั ธก์ ับประเทศมหาอา้ นาจ เพอ่ื ปอ้ งกนั และแก้ไขปญั หาความมนั่ คงรูปแบบใหม่ (๕) การพัฒนาเสริมสรา้ งศักยภาพการผนึกกาลังป้องกันประเทศ การรักษาความสงบเรียบร้อย ภายในประเทศสรา้ งความรว่ มมอื กับประเทศเพ่ือนบ้านและมติ รประเทศ
๑๕ (๖) การพัฒนาระบบการเตรียมพร้อมแห่งชาติและระบบบริหารจัดการภัยพิบัติ รักษาความ มั่นคงของฐานทรพั ยากรธรรมชาติ สงิ่ แวดล้อม (๗) การปรบั กระบวนการทางานของกลไกท่ีเกยี่ วขอ้ งจากแนวดิง่ สแู่ นวระนาบมากขึน ๒.๓.๒ ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน เพื่อให้ประเทศไทยสามารถ พัฒนาไปสู่การเป็นประเทศพัฒนาแล้ว ซึ่งจาเป็นต้องยกระดับผลิตภาพการผลิตและการใช้นวัตกรรมในการเพ่ิม ความสามารถในการแข่งขันและการพัฒนาอย่างย่ังยืนทังในสาขาอุตสาหกรรม เกษตรและบริการ การสร้างความ มน่ั คงและปลอดภัยดา้ นอ้าหาร การเพ่ิมขดี ความสามารถทางการคา้ และการเป็นผูป้ ระกอบการ รวมทังการพัฒนา ฐานเศรษฐกิจแห่งอนาคต ทังนีภายใตก้ รอบการปฏิรูปและพัฒนาปัจจัยเชิงยุทธศาสตร์ทุกดา้ น อันไดแ้ ก่โครงสรา้ ง พืนฐานและระบบโลจสิ ตกิ ส์ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยแี ละนวตั กรรม การพฒั นาทนุ มนุษย์ และการบริหารจดั การทัง ในภาครัฐและภาคธุรกิจเอกชน กรอบแนวทางทตี่ ้องใหค้ วามสา้ คัญ อาทิ (๑) การพัฒนาสมรรถนะทางเศรษฐกิจ ได้แก่การรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจและสร้างความ เช่ือม่ัน การส่งเสริมการค้าและการลงทุนท่ีอยู่บนการแข่งขันท่ีเป็นธรรมและรับผิดชอบต่อสังคม ตลอดจนการ พัฒนาประเทศสู่ความเป็นชาติการค้าเพ่ือให้ได้ประโยชน์จากห่วงโซ่มูลค่าในภูมิภาค และเป็นการยกระดับไปสู่ ส่วนบนของหว่ งโซม่ ูลคา่ มากขึน (๒) การพัฒนาภาคการผลติ และบรกิ าร บนฐานของการพัฒนานวัตกรรมและมีความเป็นมติ รต่อ สง่ิ แวดล้อม โดยมีการใชด้ ิจิทัลและการค้าทเ่ี ข้มข้นเพ่ือสร้างมูลค่าเพิ่มและขยายกจิ กรรมการผลิตและบรกิ าร โดยมุง่ สู่ ความเป็นเลศิ ในระดบั โลกและในระดับภูมิภาคในอุตสาหกรรมหลายสาขา และในภาคบรกิ ารท่ีหลากหลายตามรูปแบบ การดาเนนิ ชวี ติ และการดาเนินธุรกจิ ท่เี ปล่ียนไป รวมทงั เป็นแหล่งอ้าหารคณุ ภาพ สะอาดและปลอดภยั ของโลก - ภาคเกษตร โดยเสรมิ สร้างฐานการผลติ ใหเ้ ข้มแข็งและย่งั ยนื เพ่มิ ขีดความสามารถ ในการแข่งขันของภาคเกษตรส่งเสรมิ เกษตรกรรายยอ่ ยให้ปรับไปสู่การทาการเกษตรย่ังยนื ท่ีเปน็ มิตรกับส่ิงแวดล้อม และรวมกลุ่มเกษตรกรในการพัฒนาอ้าชีพที่เขม้ แข็ง และการพัฒนาสินค้าเกษตรท่ีมีศักยภาพและอ้าหารคุณภาพ สะอาด และปลอดภัย - ภาคอุตสาหกรรม โดยพฒั นาอุตสาหกรรมศักยภาพ ยกระดับการพฒั นาอุตสาหกรรมปัจจุบันที่ มศี ักยภาพสูง และพัฒนาอุตสาหกรรมอนาคตที่มีศกั ยภาพ โดยการใช้ดิจิทัลและการค้ามาเพิ่มมูลค่าและยกระดับ หว่ งโซ่มูลค่าในระดบั สูงขนึ - ภาคบริการ โดยขยายฐานการบริการให้มีความหลากหลาย มีความเป็นเลิศและเป็นมิตรต่อ ส่ิงแวดล้อม โดยการยกระดับบริการที่เป็นฐานรายได้เดิม เช่น การท่องเท่ียว และพัฒนาให้ประเทศไทยเป็น ศนู ยก์ ลางการใหบ้ รกิ ารสุขภาพ ธรุ กจิ บรกิ ารดา้ นการเงนิ และธรุ กจิ บรกิ ารทม่ี ีศกั ยภาพอนื่ ๆ เป็นต้น (๓) การพฒั นาผปู้ ระกอบการและเศรษฐกิจชมุ ชน พัฒนาทักษะผ้ปู ระกอบการยกระดับผลติ ภาพ แรงงานและพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) สู่สากล และพัฒนาวิสาหกิจชุมชนและสถาบัน เกษตรกร (๔) การพัฒนาพืนท่ีเศรษฐกิจพิเศษและเมืองพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน และพัฒนา ระบบเมืองศูนย์กลางความเจริญ จัดระบบผังเมืองท่ีมีประสิทธิภาพและมีส่วนร่วม มีการจัดการสิ่งแวดล้อมเมือง และโครงสรา้ งพนื ฐานทางสังคมและเศรษฐกิจท่ีสอดคล้องกับศักยภาพ (๕) การลงทุนพัฒนาโครงสร้างพืนฐาน ในด้านการขนส่ง ด้านพลังงาน ระบบเทคโนโลยี สารสนเทศและการส่ือสารและการวจิ ยั และพฒั นา (๖) การเช่ือมโยงกับภูมิภาคและเศรษฐกิจโลกสร้างความเป็นหุ้นส่วนการพัฒนากับนานา ประเทศ ส่งเสริมความร่วมมือกับนานาชาติในการสร้างความมั่นคงด้านต่างๆ เพ่ิมบทบาทของไทยในองค์กร ระหวา่ งประเทศ รวมถึงสรา้ งองค์ความรู้ด้านการต่างประเทศ
๑๖ ๒.๓.๓ ยุทธศาสตร์การพัฒนาและเสริมสรา้ งศักยภาพคน เพ่ือพัฒนาคนและสงั คมไทยให้เป็น รากฐานท่ีแข็งแกร่งของประเทศมีความพร้อมทางกาย ใจ สติปัญญา มีความเป็นสากล มีทักษะการคิดวิเคราะห์ อย่างมีเหตุผล มีระเบียบวินัย เคารพกฎหมาย มีคุณธรรมจริยธรรม รู้คุณค่าความเป็นไทย มีครอบครัวที่มั่นคง กรอบแนวทางทีต่ อ้ งใหค้ วามส้าคัญ อาทิ (๑) การพฒั นาศักยภาพคนตลอดชว่ งชวี ติ ให้สนับสนุนการเจริญเติบโตของประเทศ (๒) การยกระดับคุณภาพการศกึ ษาและการเรียนรู้ใหม้ คี ณุ ภาพ เทา่ เทยี ม และทั่วถงึ (๓) การปลูกฝงั ระเบยี บวนิ ยั คณุ ธรรม จริยธรรมค่านยิ มท่ีพงึ ประสงค์ (๔) การสรา้ งเสริมใหค้ นมสี ุขภาวะที่ดี (๕) การสร้างความอยดู่ ีมสี ุขของครอบครวั ไทยเสริมสร้างบทบาทของสถาบันครอบครัวในการบ่ม เพาะจติ ใจให้เข้มแขง็ ๒.๓.๔ ยทุ ธศาสตรด์ า้ นการสร้างโอกาสความเสมอภาคและเท่าเทยี มกันทางสงั คม เพื่อเร่งกระจายโอกาสการพัฒนาและสร้างความมั่นคงให้ทั่วถึง ลดความเหลื่อมล้าไปสู่สังคมท่ีเสมอภาคและเป็น ธรรม กรอบแนวทางทต่ี อ้ งใหค้ วามสา้ คญั อาทิ (๑) การสร้างความมัน่ คงและการลดความเหลือ่ มล้าทางด้านเศรษฐกจิ และสังคม (๒) การพัฒนาระบบบริการและระบบบรหิ ารจดั การสุขภาพ (๓) การสรา้ งสภาพแวดลอ้ มและนวัตกรรมทเ่ี อือต่อการดารงชวี ติ ในสงั คมสูงวัย (๔) การสร้างความเข้มแขง็ ของสถาบันทางสังคมทุนทางวัฒนธรรมและความเขม้ แขง็ ของชมุ ชน (๕) การพฒั นาการส่ือสารมวลชนให้เปน็ กลไกในการสนบั สนุนการพัฒนา ๒.๓.๕ ยุทธศาสตรด์ ้านการสรา้ งการเติบโตบนคณุ ภาพชีวิตท่เี ป็นมติ รต่อส่ิงแวดล้อม เพ่ือเร่งอนุรักษ์ฟื้นฟูและสร้างความมั่นคงของฐานทรัพยากรธรรมชาติ และมีความมั่นคงด้านน้า รวมทังมี ความสามารถในการป้องกันผลกระทบและปรบั ตวั ต่อการเปล่ียนแปลงสภาพภูมอิ ากาศและภัยพบิ ัติธรรมชาติ และ พฒั นามุ่งส่กู ารเปน็ สงั คมสเี ขียว กรอบแนวทางทตี่ อ้ งใหค้ วามสา้ คญั อาทิ (๑) การจดั ระบบอนรุ กั ษ์ ฟ้นื ฟูและป้องกนั การทาลายทรพั ยากรธรรมชาติ (๒) การวางระบบบรหิ ารจัดการนา้ ให้มีประสทิ ธภิ าพทัง ๒๕ ลมุ่ นา้ เน้นการปรับระบบการบริหาร จดั การอทุ กภยั อยา่ งบูรณาการ(๓) การพฒั นาและใชพ้ ลงั งานท่ีเป็นมิตรกบั ส่ิงแวดล้อม (๔) การพฒั นาเมืองอุตสาหกรรมเชงิ นเิ วศและเมืองท่เี ป็นมติ รกับสงิ่ แวดล้อม (๕) การร่วมลดปัญหาโลกร้อนและปรับตวั ใหพ้ รอ้ มกบั การเปล่ยี นแปลงสภาพภูมอิ ากาศ (๖) การใช้เครือ่ งมือทางเศรษฐศาสตรแ์ ละนโยบายการคลงั เพื่อสิง่ แวดลอ้ ม ๒.๓.๖ ยุทธศาสตร์ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ เพ่ือให้ หน่วยงานภาครัฐมีขนาดท่ีเหมาะสมกับบทบาทภารกิจ มีสมรรถนะสูง มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลกระจาย บทบาทภารกิจไปสทู่ ้องถ่นิ อย่างเหมาะสม มธี รรมาภบิ าลกรอบแนวทางทต่ี ้องใหค้ วามส้าคญั อาทิ (๑) การปรับปรงุ โครงสรา้ ง บทบาท ภารกจิ ของหน่วยงานภาครฐั ให้มีขนาดท่เี หมาะสม (๒) การวางระบบบริหารราชการแบบบูรณาการ (๓) การพฒั นาระบบบริหารจัดการกาลังคนและพฒั นาบุคลากรภาครฐั (๔) การตอ่ ต้านการทจุ รติ และประพฤติมชิ อบ (๕) การปรับปรงุ กฎหมายและระเบียบต่าง ๆให้ทันสมัย เป็นธรรมและเปน็ สากล (๖) การพฒั นาระบบการใหบ้ รกิ ารประชาชนของหนว่ ยงานภาครฐั (๗) การปรบั ปรุงการบริหารจดั การรายได้และรายจ่ายของภาครัฐ
๑๗ ยุทธศาสตรแ์ ละนโยบายของคณะรกั ษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และรฐั บาล ประกอบดว้ ย ๑) ยุทธศาสตรห์ ลกั ๑.๑) ยุทธศาสตรก์ ารสรา้ งความเปน็ ธรรมในสังคม ๑.๒) ยทุ ธศาสตรก์ ารพัฒนาสู่สงั คมแหง่ การเรียนรู้ตลอดชีวิตอยา่ งยั่งยนื ๑.๓) ยุทธศาสตรส์ รา้ งความเขม้ แข็งภาคการเกษตร ความมัน่ คงของอาหารและพลังงาน ๑.๔) ยทุ ธศาสตรก์ ารปรับโครงสร้างเศรษฐกิจสูก่ ารเติบโตอยา่ งมีคุณภาพและยั่งยืน ๑.๕) ยุทธศาสตรก์ ารสรา้ งความเชือ่ มโยงกบั ประเทศในภมู ภิ าคเพอื่ ความมง่ั คงทางเศรษฐกิจและสงั คม ๑.๖) ยุทธศาสตร์การจดั การทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยงั่ ยืน ๑.๗) ยุทธศาสตร์ในการปรับปรุง เปลี่ยนแปลงโครงสร้างการบริหารของรัฐวิสาหกิจให้เกิด ประโยชนก์ ับประชาชน ในการใช้บรกิ ารอยา่ งแทจ้ ริง ๑.๘) ยทุ ธศาสตรใ์ นเร่ืองการปรบั ปรุงระบบโทรคมนาคม เทคโนโลยีของชาติให้เกิดความม่ังคง และยั่งยืน ในอนาคตให้ทัดเทยี มอาเซียน และประชาคมโลก ๑.๙) ยทุ ธศาสตร์ในการปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ ริต คอรัปช่ันอยา่ งยงั่ ยนื ๒) การจัดทา้ งบประมาณในลักษณะบูรณาการเชิงยทุ ธศาสตร์ ท่ีสอดคลอ้ งตามกรอบ ยทุ ธศาสตร์ชาติ การจัดท้างบประมาณในลักษณะบูรณาการเชิงยุทธศาสตร์ ประจ้าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ ได้ก้าหนดประเดน็ ทด่ี ้าเนินการ ๑๗ เรอ่ื ง ประกอบด้วย ๒.๑) การสรา้ งความปรองดองและสมานฉนั ท์ ๒.๒) การขบั เคลือ่ นการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ๒.๓) การจดั การปัญหาแรงงานตา่ งดา้ วและการค้ามนษุ ย์ ๒.๔) การป้องกัน ปราบปราม และบาบดั รกั ษาผูต้ ดิ ยาเสพติด ๒.๕) การจัดการปญั หาทีด่ ินทากนิ ๒.๖) การสรา้ งรายได้จากการทอ่ งเทย่ี วและบรกิ าร ๒.๗) การพฒั นาอุตสาหกรรมศักยภาพ ๒.๘) การพัฒนาเศรษฐกิจดิจทิ ลั ๒.๙) การพฒั นาเศรษฐกิจฐานรากและวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ๒.๑๐) การพัฒนาพืนที่เศรษฐกิจพิเศษ ๒.๑๑) การพฒั นาโครงสรา้ งพนื ฐานและระบบโลจิสติกส์ ๒.๑๒) การส่งเสรมิ การวิจัยและพัฒนา ๒.๑๓) การพัฒนาศกั ยภาพคนตามชว่ งวยั ๒.๑๔) การบริหารจัดการทรพั ยากรน้า ๒.๑๕) การพฒั นาและเพ่มิ ประสิทธภิ าพการใชพ้ ลงั งานทีเ่ ป็นมติ รกับสงิ่ แวดล้อม ๒.๑๖) การบริหารจัดการขยะและของเสยี อนั ตราย ๒.๑๗) การปอ้ งกนั ปราบปรามการทจุ รติ และประพฤติมชิ อบ คา่ นยิ มหลักของคนไทยใหช้ ัดเจนขึ้น จ้านวน 12 ขอ้ ดงั นี้ 1. มีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์ สามสถาบนั หลกั ของชาติ 2. ซือ่ สัตย์ เสียสละ อดทน 3. กตญั ญูต่อพ่อ แม่ ผปู้ กครอง ครู 4. ใฝ่หาความรูท้ งั ทางตรงและทางออ้ ม
๑๘ 5. รกั ษาวัฒนธรรมไทยอย่างดงี าม 6. มศี ลี ธรรม หวงั ดตี ่อผ้อู ่ืน 7. เขา้ ใจ เรียนรูก้ ารเป็นประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษัตรยิ ์เปน็ ประมุข 8. มรี ะเบียบวินัย เคารพกฎหมาย เคารพผใู้ หญ่ 9. มสี ติ รู้คิด รู้ท้า 10. ร้จู กั ดา้ รงตนโดยใชป้ รัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง 11. ความเข้มแขง็ ในจิตใจ ไมย่ อมแพต้ ่ออ้านาจฝ่ายตา้่ 12. ค้านึงถงึ ผลประโยชนส์ ว่ นรวม มากกว่าผลประโยชน์ตัวเอง 1.2 แผนพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมแหง่ ชาติ ฉบบั ที่ 12 จากสถานะของประเทศและบริบทการเปล่ียนแปลงต่างๆ ที่ประเทศก้าลังประสบอยู่ ท้าให้การ กา้ หนดวิสัยทัศน์แผนพัฒนาฯ ฉบับท่ี 12 ยังคงมีความต่อเนื่องจากวิสัยทัศน์แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 11 และกรอบ หลกั การของการวางแผนทน่ี ้อมนา้ และประยุกต์ใชห้ ลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ยึดคนเปน็ ศนู ย์กลางของการ พัฒนาอย่างมีส่วนร่วม การพัฒนาที่ยึดหลักสมดุล ย่ังยืน โดยวิสยั ทัศน์ของการพัฒนาในแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 12 ต้องให้ความส้าคญั กบั การก้าหนดทิศทางการพัฒนาท่ีมุ่งสู่การเปลี่ยนผ่านประเทศไทยจากประเทศที่มีรายได้ปาน กลางไปสู่ประเทศท่ีมีรายได้สูง มีความมั่นคง และยั่งยืน สังคมอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข และน้าไปสู่การบรรลุ วิสัยทัศน์ระยะยาว “มั่นคง มั่งค่ัง ยั่งยืน” ของประเทศ การก้าหนดต้าแหน่งทางยุทธศาสตร์ของประเทศ (Country Strategic Positioning)เป็นการก้าหนดต้าแหนง่ ทางยทุ ธศาสตรข์ องประเทศที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ ชาตทิ ี่ สศช. ได้จดั ทา้ ขึนประเทศไทยเป็นประเทศรายไดส้ งู ทม่ี ีการกระจายรายไดอ้ ยา่ งเปน็ ธรรม เปน็ ศูนยก์ ลางดา้ น การขนส่งและโลจสิ ติกส์ของภูมิภาคสู่ความเปน็ ชาตกิ ารค้าและบริการ (Trading and Service Nation) เป็นแหล่ง ผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์และเกษตรปลอดภัย แหล่งอุตสาหกรรมสร้างสรรค์และมีนวัตกรรมสูงท่ีเป็นมิตรต่อ สง่ิ แวดล้อม เป้าหมาย 1 .การหลุดพ้นจากกบั ดักประเทศรายไดป้ านกลางสรู่ ายได้สูง (1) เศรษฐกจิ ขยายตัวเฉล่ยี ไม่ตา้่ กวา่ ร้อยละ 5.0 (2) ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศต่อหัว (GDP Per Capita) และรายได้ประชาชาติต่อหัว (GNP Per Capita) ณ สินแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 12 ในปี 2564 เพ่ิมขึนเป็น 317,051 บาท (9,325 ดอลลาร์ สรอ.) และ 301,199 บาท (8,859 ดอลลาร์ สรอ.) ตอ่ คนต่อปี (3) ผลิตภาพการผลติ เพ่มิ ขึนไม่ต่า้ กว่าเฉลี่ยรอ้ ยละ 2.5 ต่อปี (4) การลงทุนรวมขยายตัวไม่ต้่ากว่าเฉลี่ยร้อยละ 8.0 (การขยายตัวของการลงทุนภาครัฐไม่ต่้า กว่าร้อยละ 10.0 และการลงทนุ ของภาคเอกชนขยายตัวไม่ต้่ากวา่ เฉลยี่ รอ้ ยละ 7.5 ในขณะท่ีปริมาณการส่งออก ขยายตวั เฉล่ียไมต่ า่้ กวา่ ร้อยละ 4.0 ตอ่ ป)ี 2.การพัฒนาศักยภาพคนใหส้ นบั สนนุ การเจรญิ เติบโตของประเทศและการสร้างสังคมสูงวยั อย่างมคี ุณภาพ (1) ประชาชนทุกช่วงวัยมีความมน่ั คงทางด้านเศรษฐกจิ และสงั คม (Socio-Economic Security) และมีคุณภาพชีวิตท่ดี ีขึน (2) การศกึ ษาและการเรียนร้ไู ด้รบั การพัฒนาคณุ ภาพ (3) สถาบันทางสงั คมมีความเขม้ แข็งเป็นฐานรากทีเ่ ออื ต่อการพัฒนาคน 3. การลดความเหล่ือมล้าในสงั คม (1) การกระจายรายได้มีความเทา่ เทียมกนั มากขึน (2) บริการทางสังคมมีคุณภาพและมีการกระจายอย่างทวั่ ถงึ
๑๙ 4. การสรา้ งการเจรญิ เติบโตทางเศรษฐกจิ และสงั คมทเ่ี ป็นมติ รกับส่งิ แวดล้อม (1) รักษาความม่ันคงของฐานทรัพยากร สร้างสมดุลระหว่างการอนุรักษ์และการใช้ประโยชน์ อย่างยงั่ ยนื และเป็นธรรม (2) ขับเคลอ่ื นประเทศสเู่ ศรษฐกจิ และสังคมที่เป็นมติ รตอ่ สิง่ แวดล้อม (3) เพม่ิ ขดี ความสามารถในการรับมือภยั พิบตั ิและการเปล่ียนแปลงสภาพภูมิอากาศ (4) เพิม่ ประสทิ ธิภาพและเสรมิ สรา้ งธรรมาภิบาลในการบรหิ ารจัดการทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดล้อม (5) มกี ารบริหารจดั การนา้ ใหส้ มดลุ ระหวา่ งการอุปสงค์และอุปทานของนา้ 5. การบริหารราชการแผ่นดนิ ทม่ี ีประสทิ ธิภาพ (1) การบริหารงานภาครัฐที่โปรง่ ใส เปน็ ธรรม มีประสทิ ธิภาพ และมีสว่ นร่วม (2) ขจดั การทุจริตคอรร์ ปั ชั่น (3) มกี ารกระจายอา้ นาจทเี่ หมาะสม แนวทางการพัฒนา 1. การยกระดบั ศกั ยภาพการแขง่ ขนั และการหลุดพน้ กบั ดกั รายไดป้ านกลางสู่รายไดส้ งู 1.1 การสง่ เสรมิ ดา้ นการวจิ ัยและพฒั นา พัฒนาสภาวะแวดล้อมของการพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิจัย และนวัตกรรม ทังด้านการ ลงทุนในการวิจยั และพฒั นา ดา้ นบุคลากรวจิ ยั ด้านโครงสรา้ งพนื ฐาน และดา้ นการบรหิ ารจดั การ รวมทงั สนบั สนุน และผลกั ดันให้ผปู้ ระกอบการมีบทบาทหลกั ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ตลอดจนผลักดนั งานวิจัยและพฒั นาให้ใช้ ประโยชนอ์ ยา่ งแทจ้ ริงทงั เชิงพาณิชยแ์ ละสาธารณะโดยใหค้ วามคุม้ ครองทรัพย์สนิ ทางปัญญา 1.2 การพฒั นาผลติ ภาพแรงงาน สร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนในการพัฒนาก้าลังคนและแรงงานให้มีทักษะ ความรู้และสมรรถนะที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดและรองรับการเปิดเสรีของประชาคมอาเซียน โดย ยกระดับและพัฒนาสมรรถนะแรงงานไทยด้วยเทคโนโลยี เร่งรัดให้แรงงานทังระบบมีการเรียนรู้ขันพืนฐานเพื่อ สามารถแข่งขันในตลาดแรงงานได้ สนับสนุนให้แรงงานและปัจจัยการผลิตมีความยืดหยุ่นในการเคลื่อนย้าย ระหวา่ งสาขาการผลิตและระหวา่ งพืนที่การผลิต เพ่ือให้แรงงานสามารถเคลื่อนยา้ ยไปส่สู าขาการผลิตท่ีมผี ลิตภาพ การผลิตสูงสุด และสนับสนุนให้ผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมและบริการจัดท้ากรอบคุณวุฒิวิชาชีพและ มาตรฐานฝมี อื แรงงานใหเ้ ป็นมาตรฐานทีเ่ ช่อื มโยงกันเพอ่ื ยกระดบั ทกั ษะของแรงงานไทย 1.3 การสง่ เสริมผปู้ ระกอบการที่เข้มแขง็ และพาณิชยด์ จิ ติ อล พัฒนาขีดความสามารถของผู้ประกอบการให้มีความยืดหยุ่น สามารถปรับตัวและด้าเนินธุรกิจ ท่ามกลางการด้าเนนิ นโยบายและมาตรการการกีดกันทางการคา้ ในรูปแบบต่างๆ เพิ่มสัดสว่ นความเปน็ เจา้ ของของ คนไทยและสนบั สนนุ ให้มีการขยายตลาดที่มีแบรนด์สนิ ค้าและชอ่ งทางการตลาดท่ีเปน็ ของตนเองมากขึน ตลอดจน พฒั นาตอ่ ยอดอตุ สาหกรรมและบริการเพื่อเข้าสู่การเปน็ ศูนยก์ ลางการผลติ บริการและอตุ สาหกรรมดิจติ อล 1.4 การลงทุนโครงสรา้ งพื้นฐาน เร่งลงทุนและพัฒนาโครงสร้างพืนฐานด้านการคมนาคมขนส่งเพื่อเช่ือมโยงพืนที่เศรษฐกิจใน ประเทศและต่างประเทศ ทังการพัฒนาและปรับปรุงโครงข่ายรถไฟให้เป็นโครงข่ายหลักในการเดินทางและขนส่ง ของประเทศ พฒั นาโครงข่ายระบบขนส่งสาธารณะและโครงขา่ ยทางหลวงพเิ ศษระหว่าง เมือง ขยายขีดความสามารถของท่าอากาศยานหลักของประเทศ พัฒนาท่าเรือท่ีมีศักยภาพให้เป็นท่าเรือ อิเล็กทรอนิกส์เต็มรูปแบบ รวมทังพัฒนาและปรับปรุงระบบโทรคมนาคมของประเทศ ตลอดจนสนับสนุนการ พฒั นาด้านอุตสาหกรรมทเี่ กิดจากลงทุนด้านโครงสรา้ งพนื ฐาน เช่น อุตสาหกรรมซ่อมบ้ารงุ และผลิตชนิ ส่วนอากาศ
๒๐ ยาน และอุตสาหกรรมระบบราง เป็นต้น เพ่ือสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับประเทศในการเป็นฐานการผลิตใน ภูมภิ าคอาเซยี น 1.5 การปรับโครงสร้างการผลติ ปรบั โครงสร้างการผลิตภาคเกษตร โดยการปรับเปล่ียนจาการผลิตสนิ คา้ เกษตรขนั ปฐมเป็นสินค้า เกษตรแปรรูปที่มีมูลคา่ สูงมีคุณภาพและมาตรฐานสากล สามารถสร้างความเช่ือมโยงทางดา้ นวัตถุดิบกับประเทศ เพื่อนบ้านและลดระดบั การผลติ สินค้าขันปฐมท่ีสูญเสียขีดความสามารถในการแข่งขัน ลงสู่ระดับที่จ้าเป็นส้าหรับ การสร้างความมั่นคงทางด้านอาหารและพลังงาน จัดระบบการผลิตให้สอดคล้องกับศักยภาพพืนที่และความ ต้องการของตลาดตังแต่ต้นน้าถึงปลายน้าทังด้านกายภาพและเศรษฐกิจ รวมทังสง่ เสริมการรวมกลมุ่ ทางการเกษตร จากกิจการเจ้าของคนเดียวเป็นการประกอบการในลักษณะสหกรณ์ ห้างหุ้นส่วน และบริษัทเพ่ือให้เกิดการ ประหยัดจากขนาด พิจารณาพันธ์ุพืชท่ีเหมาะสมกับศักยภาพของพืนที่และแหลง่ น้า ใช้เทคโนโลยีการผลติ ในระดับ ท่ีเหมาะสม ใช้กลไกตลาดในการปอ้ งกันความเส่ียง ตลอดจนส่งเสรมิ และเร่งขยายผลแนวคดิ การท้าการเกษตรตาม หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และระบบเกษตรกรรมยั่งยืนปรับโครงสร้างการผลิตภาคบริการโดยเรง่ พัฒนา ระบบคมนาคมขนสง่ ให้เกิดความเช่ือมโยงกันเป็นโครงข่ายทังทางบก ทางน้า และทางอากาศ เร่งพัฒนาท่าเทียบ เรอื ขนาดใหญเ่ พอื่ รองรับการเติบโตของการท่องเทีย่ วทางทะเล ปรบั ปรุงแก้ไขกฎหมายที่เกย่ี วขอ้ งกับการท่องเทย่ี ว ให้ครอบคลมุ และทนั สมยั ทงั การควบคมุ กิจกรรมตา่ งๆ เกี่ยวกับการท่องเท่ียวและสง่ เสริมการท่องเทีย่ วและกา้ หนด และจัดท้ากฎหมายเพื่อยกระดับมาตรฐานการท่องเท่ียวของไทยสู่สากลและรองรับการพัฒนาการท่องเที่ยวให้ สามารถแข่งขันได้ในระดับนานาชาติ รวมทังส่งเสริมการพัฒนาเชิงพืนที่ในลักษณะกลุ่มคลัสเตอร์ท่องเที่ยว โดย สนบั สนุนการพัฒนาดา้ นการท่องเทย่ี วของพนื ทท่ี ีม่ ีความเชอ่ื มโยงทังทางกายภาพ วิถชี ีวติ /วัฒนธรรมทอ้ งถิน่ และกิจกรรมการท่องเท่ียว ตลอดจนส่งเสริมการสร้างความเช่ือมโยงด้านการท่องเท่ียวในภูมิภาคอาเซียน ทัง ประเทศท่ีมีพรมแดนติดกันและประเทศที่มีโครงข่ายคมนาคมขนส่งเช่ือมโยงกันเพื่อให้เกิดการพัฒนาแบบองค์ รวมทังระบบพัฒนาต่อยอดอุตสาหกรรมอนาคตเพื่อเป็นแหล่งการถ่ายทอดเทคโนโลยี เชื่อมโยงการผลิตกับ อุตสาหกรรมที่เป็นฐานรายได้ประเทศ และเป็นกลไกการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เข้าสู่การเป็นศูนย์กลางการ ผลิตและบริการทังในระดบั อนภุ ูมิภาคและในภูมิภาคอาเซียนพัฒนาโครงสร้างพืนฐานทส่ี นับสนุนการขยายตัวดา้ น การค้าการลงทุน เช่น โลจิสติกส์และพลังงาน รวมทังปัจจัยสนับสนุนการลงทุนอ่ืนๆ เช่น ลดอุปสรรคการ เคล่ือนย้ายเงินทนุ ระหวา่ งประเทศเป็นต้น ส่งเสริมการน้าเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ทังภาคการผลิต การตลาด การบริหารจัดการการเงิน และโลจิสติกส์ เชื่อมโยงเศรษฐกิจดิจิตอล ในการอ้านวยความสะดวกทาง การค้าการลงทุนด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ และสนับสนุนการลงทุนเพื่อสร้างเศรษฐกิจและสังคมแห่งปัญญาและ การเรียนรู้ มุ่งเน้นการพัฒนาธุรกิจเชิงสร้างสรรค์ การลงทุนทใ่ี ช้เทคโนโลยีขันสูงและเป็นมติ รกับสิ่งแวดล้อม การ ประหยัดพลังงานและการใช้พลังงานทดแทน การลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาเชิงพาณิชย์ การจัดตังส้านักงาน ใหญข่ ้ามประเทศ บริษทั การคา้ ระหวา่ งประเทศ รวมทังการใหค้ วามส้าคญั เรอื่ งความรับผิดชอบและการตอบแทนสู่ สงั คมขององคก์ ร และกจิ การเพอื่ สงั คม 2. การพัฒนาศกั ยภาพคนตามชว่ งวัยและการปฏริ ปู ระบบเพ่ือสรา้ งสงั คมสูงวยั อย่างมีคณุ ภาพ 2.1 การพฒั นาศักยภาพคนในทุกชว่ งวัยให้สนับสนนุ การเจริญเตบิ โตของ ประเทศ โดยช่วงวัยเด็กตังแต่แรกเกิดให้มีพัฒนาการท่ีสมวัยในทุกด้าน วัยเรียน วัยรุ่นให้มีทักษะการเรียนรู้ ทักษะชีวิตสามารถอยู่ร่วมกับผู้อ่ืนภายใต้บริบทสังคมที่เป็นพหุวัฒนธรรม วัยแรงงานให้มีการพัฒนายกระดับ สมรรถนะฝีมือแรงงานเพ่ือสรา้ งผลิตภาพเพิ่มให้กับประเทศ วัยผู้สงู อายุให้มีการท้างานท่ีเหมาะสมตามศักยภาพ และประสบการณ์ มีรายได้ในการด้ารงชีวิต มีการสร้างเสริมและฟ้ืนฟูสุขภาพเพ่ือป้องกันหรือชะลอความทุพพล ภาพและโรคเรอื รังต่างๆ ท่จี ะก่อให้เกดิ ภาระแกป่ จั เจกบุคคล ครอบครวั และระบบบรกิ ารสขุ ภาพ
๒๑ 2.2 การยกระดับคณุ ภาพการศึกษาและการเรียนรู้ใหม้ ีคณุ ภาพ เทา่ เทียมและทว่ั ถึง โดย (1) ปฏิรูประบบบริหารจัดการทางการศกึ ษา โดยปรับระบบบรหิ ารจัดการ การศึกษาใหม่เพอื่ สร้างความรบั ผิดชอบตอ่ ผลลัพธ์ (Accountability) (2) ปฏิรูประบบการคลังด้านการศกึ ษา เพือ่ เพ่มิ คุณภาพและประสิทธิภาพการจัด การศกึ ษาโดยการจดั สรรงบประมาณตรงสู่ผเู้ รยี น ส่งเสริมการมีส่วนร่วมจากภาคเอกชนในการจัดการศกึ ษา (3) พัฒนาคุณภาพครู ทงั ระบบ ตังแตก่ ระบวนการผลิต สรรหา และการคดั เลือก ใหไ้ ดค้ นดคี นเก่ง รวมทังระบบการประเมินและรับรองคุณภาพท่เี น้นผลลัพธจ์ ากตัวผเู้ รยี น (4) ปฏริ ูประบบการเรียนรู้ โดยมงุ่ จัดการเรยี นรู้เพือ่ สร้างสมรรถนะก้าลังคนทัง ระบบการศึกษาตังแตร่ ะดับปฐมศึกษาจนถึงการเรียนรู้ตลอดชีวติ พัฒนาส่ือเพอ่ื การเรยี นรู้ ปรบั หลักสูตรและผลิต ก้าลังคนให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงและความต้องการของตลาด การวิจัยและการใช้เทคโนโลยีและส่ือเพ่ือ การเรียนรู้ 2.3 การพัฒนาด้านสขุ ภาพ โดยส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยแี ละนวัตกรรมทางการแพทย์เพื่อ รองรับการเป็นสังคมผู้สงู อายุทังในดา้ นผลิตภณั ฑ์สุขภาพและทอี่ ยู่อาศัยส้าหรับผู้สูงอายุยกระดบั การบริหารจัดการ ระบบสุขภาพเพ่ือลดความเหลื่อมล้าและสร้างความยัง่ ยืนในระยะยาว โดยพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศเพ่ือการ บริหารทรัพยากรด้านสาธารณสุข บูรณาการระบบหลักประกันสุขภาพภาครัฐให้เกิดความเป็นเอกภาพในการ บริหารจดั การและการใชท้ รพั ยากร และส่งเสริมการอภิบาลระบบสขุ ภาพในรูปแบบเครือขา่ ยท่ีมีการใช้ทรัพยากร รว่ มกัน พัฒนาศักยภาพของประเทศไทยสูก่ ารเป็นศูนยก์ ลางสุขภาพนานาชาติทังในดา้ นศนู ย์กลางบริการสุขภาพ (Medical Service Hub) ศูนย์กลางบริการเพ่ือส่งเสริมสุขภาพ(Wellness Hub) ศูนย์กลางยาและผลิตภัณฑ์เพ่ือ สุขภาพ (Product Hub) และศูนย์กลางบริการวิชาการและงานวิจัย (Academic Hub) เพื่อน้ารายได้กลับมาใช้ ยกระดับคุณภาพบริการสาธารณสุขภายในประเทศรวมทังส่งเสริมการให้ความส้าคัญกับมิติสุขภาพในทกุ นโยบาย สาธารณะ (Health in All Policies) เพื่อให้การขับเคลื่อนนโยบายของทุกภาคส่วนตระหนักถึงผลกระทบของ นโยบายสาธารณะที่มีต่อสขุ ภาพของประชาชน 2.4 การสรา้ งสภาพแวดล้อมและนวัตกรรมทเ่ี อ้ือตอ่ การดารงชพี ในสงั คมสูงวยั โดยการปรับปรุงสภาพแวดล้อมและความจ้าเป็นทางกายภาพให้เหมาะกับวัย และการพัฒนาระบบการดูแล ผสู้ งู อายุในรูปแบบท่ีหลากหลายทังในดา้ นการจัดบริการสุขภาพและสวัสดกิ ารสังคมอย่างบูรณาการ โดยการมสี ว่ น ร่วมของทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่อง รวมทังพัฒนาชุมชนท่ีมีศักยภาพและความพร้อมให้เป็นต้นแบบของการดูแล ผูส้ งู อายุเพอ่ื ขยายผลไปสชู่ มุ ชนอืน่ ตลอดจนการพัฒนานวตั กรรมในการใชช้ ีวิตประจา้ วันสา้ หรบั ผสู้ งู อายุ 3. การลดความเหลอื่ มล้าทางสงั คม 3.1การยกระดบั รายได้และสร้างโอกาสในการประกอบอาชพี มุ่งเนน้ การเพ่มิ ผลิตภาพแรงงาน โดยสนับสนุนให้แรงงานมีโอกาสเขา้ ถึงการเรียนรู้และพัฒนาทักษะฝมี ือแรงงานอย่างมีมาตรฐาน ปรับโครงสร้างค่าจ้างแรงงานให้ชัดเจนและสะท้อนทักษะฝีมือแรงงานอย่างแท้จริง เร่งผลักดันให้การใช้ระบบ มาตรฐานคุณวุฒิวิชาชีพและมาตรฐานฝีมือแรงงานในทางปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี เพ่ิมผลิตภาพ ทางการผลิตของเกษตรกรรายย่อย โดยสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาและการผลิตทางการเกษตรท่ีสอดคล้องกับ พืนท่ี สร้างหลักประกันรายได้แทนการอุดหนนุ ด้านราคาสนิ ค้าเกษตร ลดต้นทุนทางการเกษตรโดยสนับสนนุ ปัจจัย การผลติ 3.2 การจัดบริการทางสังคมให้ทุกคนตามสทิ ธิขนั้ พน้ื ฐานและเนน้ การสรา้ งภูมคิ ้มุ กนั ระดับปจั เจก (1) พฒั นาระบบบริการสาธารณะให้มีคณุ ภาพและมชี อ่ งทางการเข้าถึงอยา่ ง หลากหลายโดยเฉพาะระบบบรกิ ารสาธารณสขุ และการศกึ ษาขันพืนฐาน สวสั ดกิ ารสงั คม และกระบวนการยุติธรรม (2) สนับสนนุ การจัดหาท่อี ยอู่ าศัยของผูม้ รี ายได้นอ้ ยและการเขา้ ถงึ ระบบ
๒๒ สาธารณูปโภค ก้าหนดเป็นนโยบายท่ีอยู่อาศัยแห่งชาติและเมืองน่าอยู่ พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแก้ปัญหาชุมชน แออดั ในเมอื งโดยดา้ เนนิ การรว่ มกบั ภาคธุรกจิ เอกชน และ (3) การจัดรปู แบบสวัสดกิ ารพืนฐานทจี่ ้าเปน็ และเหมาะสมตามกลมุ่ เป้าหมาย (Customized Welfare) ท่ีค้านึงถึงฐานะทางเศรษฐกิจและสังคมที่แตกต่างกัน โดยมีแนวทางการรับภาระ ค่าใช้จ่ายร่วมกนั (Cost Sharing) 3.3 การสร้างความเสมอภาคในการเขา้ ถึงทรัพยากร โดยปฏริ ูปท่ีดนิ เพื่อการเกษตรสนบั สนุน ให้เกษตรกรรายย่อยท่ีไร้ที่ดินท้ากินและยากจนได้มีที่ดินเป็นของตนเองหรือมีสิทธิท้ากินในที่ดินปฏิรูประบบการ บริหารจัดการน้าอย่างเป็นระบบและเข้าถึงพืนที่เป้าหมายได้อย่างแท้จริงด้วยการผลักดันพรบ.ทรัพยากรน้า พ.ศ. .... และบูรณาการแผนงานและงบประมาณร่วมกันของหน่วยงาน และสรา้ งกระบวนการมีส่วนร่วม รวมทัง ปรับโครงสร้างภาษที ่ีเป็นธรรม เช่น ภาษีทด่ี นิ และส่ิงปลูกสร้าง ภาษมี รดก และภาษีสิง่ แวดล้อม เปน็ ต้น 3.4 การเข้าถงึ กระบวนการยตุ ิธรรมอย่างเสมอภาค การคุ้มครองสิทธขิ ันพนื ฐานและการเขา้ ถึง กระบวนการยุติธรรมอย่างเทา่ เทยี มโดยการเสรมิ ศักยภาพและความเข้มแขง็ ด้านกฎหมายให้แก่ประชาชน รวมทัง การปรับปรุงและบังคับใช้กฎหมายเพ่ือลดปัญหาความเหล่ือมล้า เช่น กฎหมายป่าชุมชนกฎหมายภาษีมรดก กฎหมายทดี่ ิน เป็นตน้ 4 การรองรบั การเชื่อมโยงภูมภิ าคและความเป็นเมอื ง 4.1 การลงทุนดา้ นโครงสรา้ งพ้ืนฐานและส่งิ อานวยความสะดวกของเมือง เตรียมความพรอ้ ม รองรบั ความเปน็ เมือง ทังด้านการบรหิ ารจัดการด้านผังเมืองด้านสาธารณูปโภคสาธารณูปการระบบคมนาคมขนส่ง ระบบบริหารจัดการสงิ่ แวดลอ้ ม ระบบการศึกษาและระบบสาธารณสขุ ที่ไดม้ าตรฐาน มคี ณุ ภาพ และเพียงพอ ตอ่ ความต้องการของคนในเมอื ง รวมทงั เสรมิ สรา้ งความสามารถในการบริหารจัดการเมอื งตามระดบั การพัฒนา 4.2 การพฒั นาด้านการขนสง่ และโลจสิ ตกิ สเ์ ชอ่ื มโยงกบั เพอ่ื นบ้าน ส่งเสรมิ และเร่งรดั การ พัฒนาระบบการบริหารจัดการโลจิสติกส์ของประเทศเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศทังด้าน การคา้ การลงทนุ และการบริการ โดยค้านึงถงึ การเป็นมิตรตอ่ สิง่ แวดลอ้ ม (Green Logistics) สนบั สนนุ ให้เกิด ความร่วมมือในห่วงโซอ่ ุปทาน และปรับปรุงกฎหมาย กฎระเบียบ รวมทังปรบั ลดกระบวนงานดา้ นอา้ นวยความ สะดวกทางการคา้ ขนสง่ และโลจสิ ติกส์ให้มคี วามสะดวกและมีประสทิ ธิภาพตอ่ ภาคธุรกิจอย่างแท้จริง 4.3 การสง่ เสริมการลงทนุ การคา้ ชายแดน และการจดั ตงั้ เขตพัฒนาเศรษฐกจิ พิเศษ ให้ความสา้ คัญกับนโยบายสง่ เสริมการลงทุนและการคา้ ชายแดนเพ่ือดึงดูดใหน้ ักลงทุนในภมู ภิ าคเขา้ มาลงทุนในไทย และประเทศเพ่ือนบ้าน รวมทังส่งเสริมการจัดตังเขตพัฒนาเศรษฐกจิ พิเศษในพืนที่ชายแดนโดยให้ความสา้ คัญกับ การลงทุนโครงสร้างพืนฐาน การสง่ เสริมการลงทุนและสิทธิประโยชน์ การบริหารจดั การแรงงานต่างด้าว และการ ให้บริการจุดเดียวเบ็ดเสร็จ เพื่อช่วยอ้านวยความสะดวกด้านการค้าชายแดนและการผ่านแดนระหว่างไทยกับ ประเทศในภมู ิภาคมากขนึ 5 การสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างเป็นมิตรกบั ส่งิ แวดลอ้ ม 5.1 การรกั ษาทุนทางธรรมชาตเิ พอื่ การเตบิ โตสเี ขยี ว ใช้ประโยชนจ์ ากทุนธรรมชาติโดย ค้านึงถึงขดี จ้ากัดและศักยภาพในการฟื้นตวั ปกป้องรกั ษาทรัพยากรป่าไม้ โดยสนธกิ ้าลังของทุกภาคส่วนนา้ ระบบ สารสนเทศมาใช้เพ่ือการบริหารจัดการ บังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นธรรม เพิ่มพืนท่ีป่าไม้โดย ส่งเสริมการปลูกไม้มีค่าทางเศรษฐกิจระยะยาว อนุรักษ์และใช้ประโยชน์ความหลากหลายทางชีวภาพอย่างยั่งยืน และแบ่งปันผลประโยชน์อย่างเป็นธรรม รวมทังผลักดันแนวทางการประเมินมูลค่าของระบบนิเวศและการสร้าง รายได้จากการอนุรักษ์ จัดสรรที่ดินให้แก่ผู้ยากไร้ กระจายการถือครองท่ีดิน จัดท้าฐานข้อมูลที่ดินเพื่อการบริหาร จัดการอย่างเป็นระบบ การจัดเก็บภาษีที่ดินในอัตราก้าวหน้า ก้าหนดเพดานการถือครองที่ดินท่ีเหมาะสม และ
๒๓ ก้าหนดมาตรการป้องกันการถือครองที่ดินของคนต่างชาติ บริหารจัดการน้าเพ่ือให้เกิดความยั่งยืน บูรณาการ ระหว่างหน่วยงานอย่างเป็นระบบ สร้างศูนย์ข้อมลู ทรัพยากรน้า จัดตังองค์กรบริหารจัดการน้าในระดับพืนที่ เช่น คณะกรรมการลุ่มน้า และองค์กรผู้ใช้น้า คุ้มครองทรัพยากรทางทะเลและชายฝ่ัง ลดความขัดแย้งเชิงนโยบาย ระหว่างการพัฒนาโครงสร้างพนื ฐาน การท่องเท่ียว การประมง และวิถีชวี ติ ของชุมชนบริหารจัดการแร่โดยก้าหนด ปริมาณท่ีเหมาะสมในการน้าแร่มาใช้ประโยชน์ ค้านึงถึงความจ้าเป็นและมูลค่าในอนาคต บังคับใช้มาตรการ ควบคมุ ผลกระทบจากการทา้ เหมอื งแร่ทก่ี อ่ มลพิษตอ่ สภาพแวดล้อมและสขุ ภาพอนามยั ของประชาชน 5.2 การส่งเสริมการบรโิ ภคทีเ่ ป็นมติ รกับสง่ิ แวดลอ้ ม สร้างระบบหมนุ เวียนวสั ดุท่ใี ชแ้ ลว้ ท่ีมีประสิทธิภาพ ขับเคล่ือนสู่ Zero Waste Society ผ่านมาตรการต่างๆ เช่น การปฏิรูประบบภาษีและ ค่าธรรมเนยี มเพ่อื สิ่งแวดลอ้ ม การศกึ ษาเพอ่ื สงิ่ แวดล้อม มาตรฐานและฉลากสินค้า เปน็ ตน้ 5.3 การสง่ เสรมิ การผลติ การลงทุน และการสรา้ งงานสีเขยี ว เพ่อื ยกระดับประเทศสู่เศรษฐกิจ และสังคมท่ีเป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อม พัฒนาคลัสเตอร์อุตสาหกรรมสีเขียว ส่งเสริมผู้ประกอบการให้สามารถปรับ ระบบสู่ห่วงโซ่อุปทานหรือห่วงโซ่คุณค่าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Supply Chain/Green Value Chain) ส่งเสรมิ การท้าการเกษตรกรรมยั่งยืน รวมทังสง่ เสรมิ ภาคบริการท่ีมผี ลกระทบต่อส่ิงแวดล้อมน้อย เพื่อให้ประเทศ ไทยมศี กั ยภาพใหม้ บี ทบาทมากขนึ ในการขับเคล่อื นเศรษฐกิจ 5.4 การจดั การมลพษิ และรกั ษาคณุ ภาพสง่ิ แวดล้อม ดว้ ยการเร่งรดั การควบคุมมลพษิ ทงั ทาง อากาศ ขยะ น้าเสีย และของเสียอันตราย ท่ีเกิดจากการผลิตและบริโภค เพ่ือสร้างคุณภาพส่ิงแวดล้อมที่ดีให้กับ ประชาชน เรง่ รัดแกไ้ ขปญั หาการจัดการขยะเป็นล้าดับแรก โดยสง่ เสริมให้เกิดกลไกการคัดแยกขยะเพื่อน้ากลับมา ใชใ้ หม่ใหม้ ากที่สดุ เร่งก้าจัดขยะมูลฝอยตกคา้ งสะสมในสถานท่กี ้าจดั ในพืนทว่ี ิกฤต สรา้ งรูปแบบการจัดการขยะมูล ฝอยและของเสียอันตรายท่ีเหมาะสม เน้นการแปรรูปเปน็ พลังงาน สร้างวินัยของคนในชาติมงุ่ สู่การจดั การท่ีย่ังยืน โดยให้ความรแู้ ก่ประชาชน และการบังคับใชก้ ฎหมาย 5.5 การพัฒนาความร่วมมอื ด้านสิ่งแวดล้อมระหวา่ งประเทศ ผลักดันการจดั ทา้ แผนแมบ่ ทการ บรหิ ารจดั การทรพั ยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มของอาเซยี น หาแนวทางความรว่ มมอื กับอาเซียนและอนุภมู ิภาค ลมุ่ น้าโขงในประเด็นการขนส่งขา้ มพรมแดน การเคล่ือนย้ายแรงงาน การบริหารจดั การพลงั งานและการบริหาร จดั การทรพั ยากรธรรมชาติ 5.6 การเพม่ิ ขดี ความสามารถในการปรับตวั เพ่อื รองรบั การเปลยี่ นแปลงสภาพภมู ิอากาศ และการบริหารจัดการเพื่อลดความเส่ียงด้านภัยพิบัติ เพ่ิมขีดความสามารถในการรับมือและปรับตัวต่อการ เปลี่ยนแปลงสภาพภมู อิ ากาศ เพมิ่ ศักยภาพในการลดการปลอ่ ยกา๊ ซเรอื นกระจกให้กับทกุ ภาคส่วน ส่งเสริมการวิจัย และพัฒนาทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมเพื่อลดผลกระทบและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพ ภูมิอากาศ พัฒนาระบบฐานข้อมูลและระบบการเตือนภัย ตลอดจนส่งเสริมความรว่ มมือระหว่างประเทศด้านการ เปลย่ี นแปลงสภาพภูมอิ ากาศและภัยพิบัตทิ างธรรมชาติ ให้ความส้าคัญกบั การปอ้ งกันนา้ ทว่ ม วางแผนปอ้ งกนั เมอื ง และพืนที่ชายฝั่ง พัฒนาเมืองท่ีสามารถปรับตัวและยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Resilience City) การให้บริการของระบบนิเวศ ส่งเสริมการลงทุนของภาคเอกชนในการรับมือภัยพิบัติโดยสร้าง แนวป้องกันตามธรรมชาติ และการจัดท้าแผนธุรกิจต่อเนื่อง รวมทังการพัฒนาระบบการจัดการภัยพิบัติให้มี ประสิทธิภาพพร้อมรองรับแนวโนม้ การเกิดภัยพบิ ตั ิท่รี นุ แรงในอนาคต 6 การบริหารราชการแผน่ ดนิ ทีม่ ปี ระสทิ ธิภาพ 6.1 การสร้างความโปร่งใสในทกุ ขันตอนของการปฏบิ ัตริ าชการ โดยให้มชี อ่ งทางใหท้ ุกภาคส่วน สามารถเข้าถึง เข้าตรวจสอบข้อมูลของภาคราชการและร้องเรียนได้ เช่น ข้อมูลการประกวดราคาจัดซือ จัดจ้าง โครงการของทางราชการ ข้อมูลการประมูลโครงการ ผู้ชนะการประมูลและราคาปิดประมูลข้อมูลความก้าวหน้า
๒๔ ตามกระบวนการยุติธรรม เช่น คดีท่ไี ม่ด้าเนินการตามหลักธรรมาภบิ าล คดที ุจริตคอร์รัปชันและคดีท่ีประชาชนให้ ความสนใจในแต่ละยคุ สมยั ฯลฯ 6.2 การพัฒนาบุคลากรภาครัฐให้มีความเปน็ มืออาชพี และเพยี งพอตอ่ การขับเคล่ือนภารกจิ ภาครัฐร่วมกับภาคเอกชนและภาคประชาสังคมท่ีเปลี่ยนแปลงไป เพื่อให้ระบบราชการเล็กกะทัดรัดแต่มีความ คล่องตวั และมีประสิทธภิ าพสูง 6.3 การสรา้ งรูปแบบการพฒั นา อปท. ใหเ้ หมาะสม สามารถรับมือการเปลยี่ นแปลงทางดา้ น เศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม รวมทังเป็นแกนหลักในการประสานเครือข่ายและเชื่อมโยงภาคส่วนต่างๆ ใน ระดบั พืนทีไ่ ด้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ 6.4 การสรา้ งระบบตรวจสอบ ติดตามและประเมนิ ผลที่มปี ระสทิ ธภิ าพ สรา้ งผลงานท่มี ี คุณภาพ รวดเร็วและน่าเชื่อถือ สามารถเป็นเคร่ืองมือให้กับคณะรัฐมนตรีประกอบการตัดสินใจในเชิงนโยบายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการติดตาม ประเมินผลโครงการใหญ่ๆ ที่มีการใช้จ่ายงบประมาณเป็นจ้านวนมาก และเป็น โครงการทีม่ ผี ลกระทบในวงกวา้ ง ๑. ทศิ ทางและกรอบยทุ ธศาสตร์ของแผนพฒั นาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบบั ท่ี ๑๒ (พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔) ๑.๑ แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ ๑๒ ยึดโยงกับกรอบยุทธศาสตร์ชาติระยะ ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๕๘ - ๒๕๗๗) ขณะนีรัฐบาลได้แต่งตงั คณะกรรมการจดั ท้ายุทธศาสตร์ชาติขึนมาเพอื่ ยกร่างยุทธศาสตรช์ าตเิ บืองตน้ โดย มีเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและรองเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการ เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาตเิ ป็นกรรมการในคณะกรรมการฯ ดังกล่าวด้วย โดยในเบืองต้นได้กา้ หนดวิสยั ทัศน์ใน กรอบยุทธศาสตร์ชาติระยะ ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๕๘ - ๒๕๗๗) ไว้ว่า “ประเทศไทยมีความ ม่ันคง มั่งค่ัง ย่ังยืน เป็น ประเทศพัฒนาแล้ว ด้วยการพฒั นาตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง”หรอื เป็นคติพจนป์ ระจา้ ชาติว่า “ม่ันคง ม่ังค่ัง ย่ังยืน” ทังนี ได้มีการก้าหนดยุทธศาสตร์ชาติท่ีจะใช้เป็นกรอบแนวทางการพัฒนาประกอบด้วย ๖ ยุทธศาสตร์ ได้แก่ (๑) ยุทธศาสตรด์ ้านความม่ันคง (๒) ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน(๓) ยุทธศาสตร์การพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพคน (๔) ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างโอกาสความเสมอภาคและเท่า เทียมกันทางสังคม (๕) ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อม และ (๖) ยุทธศาสตร์ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ เพื่อให้ทุกภาคส่วนในสังคมมีความ ตระหนักถึงเป้าหมายอนาคตของประเทศไทยร่วมกัน และเกิดการรวมพลังในการขับเคล่ือนการพัฒนาเพื่อการ สร้างและรักษาไว้ซ่ึงผลประโยชนแ์ ห่งชาตแิ ละบรรลุวสิ ยั ทัศน์ของยุทธศาสตรช์ าตทิ ก่ี ล่าวขา้ งตน้ จึงจ้าเปน็ จะต้องมี การถ่ายทอดแนวทางการพัฒนาของยุทธศาสตร์ชาติสู่การปฏิบัติในแต่ละช่วงเวลาอย่างบูรณาการ หน่วยงาน ภาครัฐทที่ ้าหนา้ ท่ีก้าหนดแผนและยุทธศาสตร์ในระดับตา่ งๆ ควรจะยึดกรอบการพฒั นาท่กี ้าหนดไวใ้ นยุทธศาสตร์ ชาตเิ ป็นแนวทางในการพัฒนา ดังนนั แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ ๑๒ จึงนา้ วสิ ยั ทศั น์ของยทุ ธศาสตร์ชาติมาเปน็ วิสัยทัศน์ ของแผนพัฒนาฯ ฉบับท่ี ๑๒ และน้ายุทธศาสตร์การพัฒนาทัง ๖ ด้านท่ีก้าหนดไว้ในยุทธศาสตร์ชาติมาเป็น แนวทางในการกา้ หนดยุทธศาสตรก์ ารพัฒนาของแผนพฒั นาฯ ฉบับท่ี ๑๒ โดยจะก้าหนดยุทธศาสตรใ์ ห้ตอบสนอง กบั บรบิ ทการพัฒนาทีจ่ ะเกดิ ขนึ ในชว่ ง ๕ ปแี รกของยทุ ธศาสตรช์ าติ (พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๖๔)เปน็ ส้าคญั ๑.๒ การกา้ หนดยทุ ธศาสตรก์ ารพัฒนาของแผนพฒั นาฯ ฉบับที่ ๑๒ ๑) ยทุ ธศาสตร์การเสริมสรา้ งและพฒั นาศักยภาพทุนมนุษย์ พัฒนาคนทุกช่วงวัยเพ่ือให้คนไทยเป็นคนดี คนเก่ง มีระเบียบวินัย และมีคุณภาพชีวิตท่ีดี โดยเฉพาะการพัฒนาและดูแลผู้สูงอายทุ ่ีจะมีสดั ส่วนสงู ขึนในสังคมสูงวัยทังการสร้างงานทเี่ หมาะสม การฟ้ืนฟูและ ดูแลสขุ ภาพเพื่อชะลอความทุพพลภาพและโรคเรือรงั การสร้างสภาพแวดล้อมและนวัตกรรมท่ีเอือต่อสังคมสูงวัย มงุ่ เนน้ การพฒั นาศักยภาพคนเพือ่ เปน็ ฐานการเพ่ิมขดี ความสามารถในการแข่งขันของประเทศและรองรบั การลดลง
๒๕ ของขนาดก้าลังแรงงาน โดยการยกระดับคุณภาพการศึกษาและการเรียนรู้ท่สี อดคล้องกบั การเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ การป้องกันและควบคุมปัจจัยทางสังคมที่ก้าหนดสุขภาพเพ่ือสร้างสุขภาวะท่ีดี การสร้างความอยู่ดีมีสุขให้ ครอบครัวไทย รวมทังการเสริมสร้างบทบาทของสถาบันทางสังคมและทุนทางวัฒนธรรมในการส่งเสรมิ คุณธรรม จรยิ ธรรมในสังคม ๒) ยทุ ธศาสตรก์ ารสร้างความเปน็ ธรรมลดความเหล่ือมล้าในสงั คม มงุ่ เน้นการลดความเหลอื่ มล้าในทกุ มติ ิเพ่ือสรา้ งความปรองดองในสังคม การสร้างโอกาสให้ทกุ คน ในสงั คมไทยสามารถเขา้ ถงึ ทรัพยากร แหล่งทุนในการประกอบอาชพี เพ่อื ยกระดับรายไดแ้ ละขบั เคลื่อนเศรษฐกจิ ฐานราก การเข้าถึงบรกิ ารทางสังคมของรัฐอย่างมคี ุณภาพ ทวั่ ถึง และเปน็ ธรรม อาทิ การสรา้ งโอกาสการเขา้ ถึง การศกึ ษาและการเรียนรูเ้ พื่อพัฒนาคนได้เต็มตามศักยภาพสามารถประกอบอาชีพและดา้ รงชีวติ ได้โดยมคี วามใฝ่รู้ และทักษะทีเ่ หมาะสม เน้นการเรียนรเู้ พอื่ สร้างสัมมาชีพในพืนท่ี การจัดรปู แบบบริการสุขภาพและสวสั ดิการทาง สังคมขนั พืนฐานท่ีจ้าเปน็ และเหมาะสมตามกลุม่ เปา้ หมาย การพัฒนาระบบบรกิ ารสาธารณะให้มีคุณภาพและมี ชอ่ งทางการเข้าถงึ ทีห่ ลากหลาย รวมทังการพฒั นาระบบยุติธรรมชุมชนการเพิม่ ศกั ยภาพกองทุนยุติธรรมเพ่ือสร้าง โอกาสการเข้าถึงกระบวนการยตุ ธิ รรมอย่างเสมอภาค ซึง่ จะนา้ ไปสกู่ ารลดความยากจนและความเหลอ่ื มล้าอนั จะ น้าไปสกู่ ารลดความขัดแยง้ ในสังคมไทย ๓) ยุทธศาสตรก์ ารสรา้ งความเขม้ แข็งทางเศรษฐกิจและแขง่ ขนั ไดอ้ ย่างยั่งยนื ให้ความส้าคัญกับการบริหารจัดการนโยบายการเงินและนโยบายการคลัง โดยรวมถึงการปฏิรูป ภาษีทังระบบเพ่ือรักษาเสถียรภาพและเพ่ิมประสทิ ธิภาพของระบบเศรษฐกิจการปรับโครงสรา้ งทังห่วงโซ่คุณค่าใน ภาคเกษตร อตุ สาหกรรม บริการ การลงทนุ เพอื่ ต่อยอดการสรา้ งมูลค่าเพ่มิ ของสาขาการผลติ และบริการท่เี ป็นฐาน การเติบโตทางเศรษฐกจิ ในปัจจบุ นั พร้อมทังวางรากฐานการพฒั นาทนุ มนุษย์ องคค์ วามรู้ เทคโนโลยีและนวตั กรรม รวมทังกฎระเบยี บเพ่ือสรา้ งความเขม้ แข็งของสาขาการผลติ และบรกิ ารใหม่ และเศรษฐกจิ ดิจทิ ัลภายใต้เง่อื นไขการ รักษาสิ่งแวดล้อมและการใช้ประโยชน์จากศักยภาพของพนื ที่โดยเฉพาะภาคการผลิตและบริการท่ีมศี ักยภาพที่จะ เป็นฐานส้าคัญสา้ หรบั การพัฒนาประเทศในอนาคต เชน่ อุตสาหกรรมแปรรูปเกษตรและอาหาร อตุ สาหกรรมและ บริการสร้างสรรค์ อุตสาหกรรมบนฐานชีวภาพ อุตสาหกรรมอากาศยาน อุตสาหกรรมระบบราง อุตสาหกรรม หุ่นยนต์ ธุรกิจบริการสุขภาพ ธุรกิจบริการทางการเงิน ธุรกิจการจัดประชุมและนิทรรศการนานาชาติ ธุรกิจ ภาพยนตร์ การศึกษานานาชาติ ธุรกิจท่ีเกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ศูนย์ปฏิบัติการประจ้าภูมิภาค เป็นต้น ทังนี โดยจะให้ความส้าคัญกับรูปแบบการพัฒนาในรูปคลัสเตอร์ การสร้างความเช่ือมโยงการผลิตและ บรกิ าร การพัฒนา SMEs และการสร้างผ้ปู ระกอบการและเกษตรกรรนุ่ ใหม่ รวมถงึ การสร้างศกั ยภาพของลูกหลาน เกษตรกร โดยจะต้องพัฒนาปัจจัยพืนฐานเชิงยุทธศาสตรท์ ังทุนมนุษย์ โครงสรา้ งพืนฐาน การพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม การบริหารจัดการและการปรับปรุงกฎระเบียบเพื่ออ้านวยความสะดวกต่อการค้า การ ลงทุน เพื่อรองรับการพัฒนาประเทศสู่ความเป็นชาติการค้า อันจะเป็นการสนับสนุนให้เศรษฐกิจในภาพรวม ขยายตัวได้ไม่ต่้ากว่า ร้อยละ ๕ ซงึ่ เป็นปฐมบทของการขับเคล่ือนเศรษฐกิจไทยเข้าสู่การเป็นประเทศรายได้สงู ที่มี การพัฒนาท่ยี ัง่ ยืนภายใต้กรอบยุทธศาสตรช์ าติในระยะยาว ๔) ยทุ ธศาสตรด์ ้านการเติบโตท่เี ป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อมเพ่ือการพฒั นาอยา่ งยง่ั ยนื มุง่ อนรุ ักษฟ์ ้ืนฟูสร้างความมัน่ คงของฐานทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม สร้างสมดลุ ระหวา่ ง การอนรุ ักษ์และการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนและเป็นธรรม บริหารจัดการน้าให้มีประสิทธภิ าพ ภายใต้ยุทธศาสตร์ การบรหิ ารจัดการทรพั ยากรน้า แก้ไขปัญหาวกิ ฤตสิ่งแวดล้อมโดยเร่งรัดแก้ไขปัญหาการจัดการขยะ ลดการปล่อย ก๊าซเรอื นกระจกลงร้อยละ ๒๐ ตามเป้าหมายระยะยาว พัฒนาการผลิตให้มปี ระสิทธิภาพ ลดการใช้พลังงาน เพื่อ ปรับตัวไปสู่รูปแบบของการผลิตและการบริโภคคาร์บอนต้่าและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึน รวมทังยกระดับ ความสามารถในการป้องกันผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติธรรมชาติ ต่อเน่ืองจาก
๒๖ แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ ๑๑ ทังนีเพ่ือวางรากฐานและสนับสนุนให้ประเทศมีการเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคม อยา่ งยง่ั ยนื 5 ) ยุทธศาสตร์การเสริมสรา้ งความม่ันคงแห่งชาติเพ่ือการพัฒนาประเทศสู่ความมั่นคั่งและ ย่ังยืน ให้ความส้าคัญกับความม่ันคงที่ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาในทุกมิติ ทังมิติเศรษฐกิจ สังคม และ สิง่ แวดล้อม ตลอดจนการพัฒนาศักยภาพให้ประเทศสามารถรับมอื กับภัยคุกคามทุกรูปแบบท่ีจะเกิดขนึ ในอนาคต โดยมีสาระครอบคลุม ดังนี (๑) สถาบันหลักของชาติให้ด้ารงอยู่อย่างมั่นคงเป็นจุดยึดเหน่ียวของสังคม (๒) ความ สามัคคีของคนในชาติ ลดความเหลอ่ื มล้าในทกุ มติ ิ และสร้างความเช่อื ม่ันในกระบวนการยุติธรรม (๓) ความสงบสุข และการอยู่ร่วมกันอย่างสนั ตสิ ขุ ในทุกพืนท่ี (๔) การบริหารจัดการความม่ันคงชายแดนชายฝงั่ ทะเล เสรมิ สร้างและ พัฒนาความร่วมมือกับประเทศเพ่ือนบ้าน ในการแก้ไขปัญหาด้านความม่ันคง (๕) สร้างความเชื่อม่ันและพัฒนา ความร่วมมือในกลุ่มประเทศอาเซียนและประชาคมโลกเพ่ือรักษาผลประโยชน์ของชาติ ให้สามารถป้องกันแก้ไข ปัญหาภัยคุกคามข้ามชาติ ภัยก่อการร้าย (๖) เสริมสร้างความมั่นคงทางเทคโนโลยีสารสนเทศและไซเบอร์ (๗) รักษาความม่ันคงของฐานทรัพยากรธรรมชาติ ส่ิงแวดล้อม และปกป้อง รักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (๘) เสริมสร้างความมั่นคงทางอาหาร พลังงานและนา้ โดยการกา้ หนดแนวทางบริหารจดั การ (๙) เสรมิ สร้างและพัฒนา ศกั ยภาพการปอ้ งกันประเทศ การรักษาความสงบภายใน และความมนั่ คงระหวา่ งประเทศ รวมทังพฒั นาระบบข่าว กรองให้มีประสิทธิภาพ (๑๐) พัฒนาระบบการเตรียมพร้อมแห่งชาติและระบบบริหารจัดการภัยพิบัติ(๑๑) การ บริหารจดั การยุทธศาสตร์ด้านความม่ันคง ให้เกดิ ผลในทางปฏิบัตใิ นระดับพืนที่ได้อย่างเป็นรูปธรรม พัฒนาระบบ การตดิ ตามประเมนิ ผลอย่างเปน็ ระบบและต่อเนือ่ ง รวมทงั สนบั สนนุ งานศกึ ษา วจิ ัย พฒั นาดา้ นความม่ันคง ๖) ยทุ ธศาสตรด์ ้านการเพิ่มประสิทธิภาพและธรรมาภบิ าลในภาครฐั เพื่อใหก้ ารบรหิ ารจัดการภาครัฐมีความโปร่งใส มปี ระสิทธิภาพ มีความรับผิดชอบและตรวจสอบ ได้อย่างเป็นธรรมรวมทังประชาชนมีส่วนร่วม มีการกระจายอา้ นาจ และแบ่งภารกจิ รับผิดชอบที่เหมาะสมระหว่าง ส่วนกลาง ภูมิภาค และท้องถิ่น โดยมีประเด็นการพัฒนาส้าคัญ ประกอบด้วยการเพ่ิมประสิทธิภาพการบริหาร จัดการภาครัฐ การปรับปรุงการให้บริการภาครัฐผ่านเครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์ (E-Government) การปรับปรุง กระบวนการงบประมาณ และการมีส่วนร่วมของประชาชนในการติดตามตรวจสอบการเงินการคลังภาครัฐ การ กระจายอ้านาจสู่ท้องถิ่นโดยการปรับโครงสร้างการบริหารงานท้องถิ่นให้เอือ ต่อการกระจายอ้านาจท่ีมี ประสิทธิภาพมากขึน และการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น เพ่ือให้ประเทศไทยปราศจากการ คอร์รัปช่ัน ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนส้าคัญท่ีจะช่วยส่งเสริมการพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ ให้ประสบผลส้าเร็จ และบรรลุเป้าหมายที่วางไวต้ ามกรอบในอนาคตประเทศไทยปี ๒๕๗๗ ๗) ยทุ ธศาสตรด์ า้ นการพัฒนาโครงสร้างพืน้ ฐานและระบบโลจสิ ตกิ ส์ การพัฒนาโครงสร้างพืนฐานและระบบโลจิสติกส์ในช่วงแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ ๑๒ จะมุ่งเน้นการ พัฒนากายภาพโครงสร้างพืนฐานด้านการคมนาคมขนส่ง การเช่ือมโยงเครือข่ายโทรคมนาคม และการบริหาร จัดการโครงสร้างพืนฐานเพ่อื สนับสนนุ การพฒั นาพืนท่ีเขตเศรษฐกิจพเิ ศษ พืนท่ีเมอื งการเชือ่ มโยงการเดนิ ทางและ ขนส่งสินค้าระหว่างประเทศที่ไดม้ าตรฐาน การพัฒนาความมั่นคงด้านพลังงานและการผลิตพลังงานทดแทน การ สนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิตอลการลดความเหล่ือมล้าในการเข้าถึงโครงสร้างพืนฐานเพ่ือเพ่ิมคุณภาพชีวิต ของประชาชนในพืนท่ีห่างไกล และการใชป้ ระโยชนจ์ ากการพฒั นาโครงสร้างพนื ฐานเพือ่ สร้างอตุ สาหกรรมใหมข่ อง ประเทศ ได้แก่ อุตสาหกรรมระบบราง อตุ สาหกรรมซ่อมบ ารุงและการผลิตชินสว่ นอากาศยาน อตุ สาหกรรมผลิต อุปกรณ์เพ่ือเพ่ิมประสิทธิภาพการใช้พลังงาน รวมทังการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ทังในด้านการส่งเสริม ผู้ประกอบการไทยในการสร้างเครือข่ายการขนส่งระหว่างประเทศ การพัฒนาบุคลากรด้านโลจิสติกส์และการ
๒๗ ปรับปรุงระบบบริหารจัดการ กฎหมายและระเบียบท่ีเกี่ยวข้อง ตลอดจนการพัฒนาสิ่งอ้านวยความสะดวกเพื่อ รองรับการเปล่ียนแปลงรปู แบบการขนส่งจากถนนสู่รางเป็นหลกั ๘) ยุทธศาสตร์ดา้ นวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิจัย และนวตั กรรม ใหค้ วามสา้ คัญกับการขบั เคลื่อนการพัฒนาวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิจยั และนวตั กรรม ต่อเนื่อง จากแผนพัฒนาฯ ฉบบั ท่ี ๑๑ ทงั การเพ่มิ การลงทนุ วจิ ยั และพฒั นา และการปรบั ปรงุ สภาพแวดล้อมของการพัฒนา วทิ ยาศาสตรฯ์ ทังด้านบุคลากรวิจัย โครงสร้างพืนฐาน และการบริหารจัดการ เพ่ือมุ่งให้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วจิ ัย และนวัตกรรมเป็นเคร่อื งมือส้าคัญท่ีจะช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศในมิติต่างๆ ทังการสร้างคุณค่าและ มลู คา่ เพ่ิมให้กับสนิ ค้าและบริการใหส้ ามารถตอบสนองความตอ้ งการของผู้บรโิ ภคทีเ่ ปล่ียนแปลงไปน้าไปสู่ศักยภาพ การแข่งขันท่ีสูงขึน เสริมสร้างสังคมท่ีมีตรรกะทางความคิด มีทุนทางปัญญา เพ่ือเป็นรากฐานการด้ารงชีวิตที่มี ความสุขของคนไทย บริหารจดั การทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมสูค่ วามสมดุล อันจะน้ามาซงึ่ คุณภาพชีวิตท่ี ดีขึนของประชาชน รวมทังเพื่อแก้ไขปัญหาและยกระดับความเจริญให้กับภาคส่วนต่างๆทังเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนสนับสนุนให้เกิดกลไกบูรณาการระหว่างหน่วยงานและองค์กรต่างๆ ท่ีเก่ียวข้อง อันจะสนับสนุนให้ ประเทศไทยกา้ วสู่การแขง่ ขันในศตวรรษหนา้ โดยหลุดพ้นจากกับดักประเทศรายได้ปานกลาง และกา้ วไปสปู่ ระเทศ ที่มรี ายไดส้ ูงในอนาคต ๙) ยุทธศาสตรก์ ารพัฒนาภาคเมือง และพืน้ ทเ่ี ศรษฐกจิ ก้าหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาภาคเมือง และพืนท่ีเศรษฐกิจส้าคัญให้สอดคล้องกับทิศทางการ พัฒนาประเทศ ศักยภาพ โอกาสและข้อจ้ากัดของพืนที่ รวมทังความต้องการของภาคีการพัฒนาที่เก่ียวข้อง เพ่ือ รกั ษาฐานเศรษฐกิจเดิมให้เข้มแขง็ โดยมีคุณภาพส่ิงแวดล้อมตามมาตรฐานสากลสร้างฐานเศรษฐกจิ ใหม่รองรับการ เข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เพื่อกระจายกิจกรรมทางเศรษฐกิจและความเจริญสู่ภูมิภาค พัฒนาเมือง ศูนย์กลางความเจริญในภูมิภาคให้เป็นเมืองน่าอยู่และปลอดภัย สนับสนุนการเชื่อมโยงในภูมิภาคเพ่ือเพิ่มขีด ความสามารถในการแข่งขันของพืนท่ีและสร้างความอยู่ดีมีสุขให้แก่ประชาชนอย่างทั่วถึง โดยมีสาระครอบคลุม ดังนี (๑) การพัฒนาภาค (๒) การพัฒนาเมืองศูนย์กลางความเจริญในภูมิภาค (๓) การพัฒนาพืนที่ฐานเศรษฐกิจ หลักบริเวณชายฝ่งั ทะเลตะวันออก และ (๔) การพัฒนาพืนท่เี ศรษฐกจิ พิเศษชายแดน รวมทงั ความเชอ่ื มโยงกบั การ พัฒนาคลัสเตอร์อุตสาหกรรมและบรกิ ารทมี่ ีศกั ยภาพ และโครงการพฒั นาท่าเรอื นา้ ลึกทวาย ๑๐) ยทุ ธศาสตรด์ า้ นการตา่ งประเทศ ประเทศเพื่อนบา้ น และภูมภิ าค ก้าหนดยุทธศาสตร์การต่างประเทศ ประเทศเพื่อนบ้าน ภูมิภาค ให้เกิดการประสานและพัฒนาความร่วมมือกัน ระหว่างประเทศ ทังในเชิงรุกและรับอย่างสร้างสรรค์ โดยมุ่งเน้นการดูแลการด้าเนินงานตามข้อผูกพันและ พันธกรณีตลอดจนมาตรฐานต่างๆ ท่ีไทยมีความเก่ียวข้องในฐานะประเทศสมาชิก ทังในเวทีระดับโลก ระดับ ภมู ิภาค และระดับอนุภูมิภาค อาทิ การด้าเนินงานเป้าหมายการพัฒนาท่ียั่งยนื (SDGs) การประมง การค้ามนุษย์ และอ่ืนๆ ใหเ้ ข้าสู่มาตรฐานสากลและเป็นที่ยอมรับของประชาคมโลก เป็นตน้ การเตรียมความพร้อมในการรองรับ และด้าเนินงานของประเทศไทยภายหลังการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี ๒๕๕๘ (Post-ASEAN 2015) การ ปรับตัวและพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศเพื่อรองรับและสอดคล้องกับการด้าเนินงานตาม พันธกรณีของความร่วมมือระดับภูมิภาค อาทิ Regional Comprehensive Economic Partnerships (RCEP) เป็นต้น การเสริมสร้างความเชื่อมโยงกันระหว่างประเทศในอนุภูมิภาคประเทศเพ่ือนบ้านและภูมิภาค และการ สง่ เสริมให้ประเทศไทยเป็นฐานของการประกอบธุรกิจ การให้บริการทางการศึกษา การใหบ้ รกิ ารด้านการเงนิ การ ให้บริการด้านสุขภาพ การให้บริการด้านโลจิสติกส์และการลงทุนเพื่อการวิจัยและพัฒนา รวมทังเป็นฐานความ ร่วมมอื ในเอเชีย
๒๘ ๑.๓ แผนพฒั นากลุ่มจงั หวัด/แผนพฒั นาจังหวัด ยทุ ธศาสตรก์ ารพัฒนากลุ่มจงั หวัดภาคกลางตอนลา่ ง 2 วสิ ัยทัศน์ “ฐานเพ่ือการลงทุนดา้ นอตุ สาหกรรม เกษตรกรรม อาหาร และการทอ่ งเทีย่ วเชิงนิเวศ” พนั ธกจิ 1. สร้างและฟนื้ ฟูทนุ ธรรมชาติและทรัพยากรนา้ เพ่อื เป็นฐานในการลงทุนทางอตุ สาหกรรม เกษตรกรรม และการท่องเท่ียว 2. สรา้ งระบบเชอ่ื มโยงแหลง่ ทอ่ งเทีย่ ว พืนท่เี ศรษฐกิจ และการคา้ ชายแดนสู่ AEC 3. ลดความรุนแรงปัญหาการกัดเซาะชายฝัง่ 4. หยดุ การระบาดของแมลงศตั รูพืช(มะพรา้ ว) เป้าประสงค์ 1. สตั วน์ ้ามีทอี่ ยอู่ าศยั และเพาะพนั ธ์ุ 2. ไม่มรี ะบาดของแมลงศัตรพู ชื (มะพร้าว) 3. แหลง่ ท่องเทย่ี วและพนื ท่ีเศรษฐกิจมีความเช่ือมโยงเปน็ ระบบสู่ AEC 4. การกัดเซาะชายฝ่ังทะเลได้รับการแก้ไขอยา่ งยง่ั ยนื ประเด็นยุทธศาสตร์ ยุทธศาสตร์ท่ี 1 : การสร้างต้นทุนทางทรัพยากรเพ่ือการลงทุน กลยทุ ธท์ ่ี 1.1 สร้างประการบั เทยี ม เพ่ือเป็นแหล่งท่ีอย่อู าศัยของสัตว์น้า กลยทุ ธท์ ่ี 1.2 พัฒนาขีดความสามารถในการก้าจดั แมลงศตั รพู ืชและถ่ายทอด เทคโนโลยีการผลิตพืชปลอดภยั ใหแ้ ก่เกษตรกร ยทุ ธศาสตรท์ ี่ 2 : ความเช่ือมโยงของการทอ่ งเทีย่ วและพืนท่เี ศรษฐกจิ AEC กลยทุ ธ์ที่ 2.1 ก่อสร้างถนนเช่อื มโยงการทอ่ งเทย่ี วและพนื ที่เศรษฐกจิ กลยทุ ธท์ ่ี 2.2 สรา้ งความสมั พันธ์ทางการท่องเท่ียวและการค้า ณ จดุ ผ่านแดน ถาวรไทย – เมียนมาร์ ยุทธศาสตร์ท่ี 3 : การกัดเซาะชายฝ่ังทะเล กลยุทธท์ ่ี 3.1 ปักไมไ้ ผ่ชะลอคลน่ื กลยทุ ธท์ ี่ 3.2 สร้างเขอ่ื นกนั ทรายและคลน่ื กลยทุ ธ์ที่ 3.3 เรยี งหินใหญก่ ันคล่ืน
๒๙ ยุทธศาสตรก์ ารพัฒนาจังหวดั เพชรบุรี วิสัยทัศนจ์ งั หวดั เพชรบุรี “เมอื งเศรษฐกจิ พอเพยี งตน้ แบบ และเมอื งนา่ อยู่ นา่ กนิ นา่ เท่ยี วระดบั ประเทศ” พนั ธกจิ 1. เสริมสร้างความสามารถของจังหวัดรองรับการแข่งขันรองรับการพัฒนาตามทิศทาง การ พฒั นาประเทศไทยทม่ี นั่ คงมงั่ คงั่ ยั่งยืน เป็นประเทศท่ีพัฒนาแลว้ 2. เสริมสร้างความพร้อมของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวท่ีเข้มแข็ง เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และ สร้างรายได้สู่ชมุ ชน สร้างงาน อาชีพแก่ประชาชนสร้างเศรษฐกจิ จงั หวัด 3. สง่ เสริม สนับสนนุ การพัฒนาการเกษตร และเกษตรอุตสาหกรรมก้าวหน้าแบบ ครบวงจรให้มี ศักยภาพในการผลติ ท่มี ีคุณภาพ 4. เสริมสร้างสังคมคุณภาพ ให้มีสุขภาวะเรียนรู้และปรับตัวได้อย่างมีศักยภาพในการจัดการ ตนเองเปน็ ชุมชนพอเพียง ประชาชนมีความมั่งคงในชีวติ เป็นชุมชน ปลอดภยั อบอนุ่ น่าอยู่ 5. อนุรกั ษท์ รัพยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดล้อม และการบริหารจัดการ โดยการมสี ่วนร่วมของทุก ภาคสว่ น 6. พัฒนาโครงสร้างพืนฐานทางการคมนาคม และระบบโลจิสติกส์รองรับการพัฒนา เศรษฐกิจ สังคม ความม่ันคง และคุณภาพชีวติ 7. พัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐให้มีความทันสมยั ธรรมาภิบาล พัฒนาขีด สมรรถนะ บคุ ลากรภาครฐั ทุกระดับใหม้ คี วามพรอ้ มรองรับยทุ ธศาสตร์จงั หวดั และ ทิศทางการพ้ฒนาประเทศ เปา้ ประสงคร์ วม 1. ผลิตภัณฑ์มวลรวมเฉลี่ยระดับจังหวัดในด้านการเกษตร การท่องเท่ียว การค้า การลงทุน เติบโตอย่างต่อเนอ่ื ง 2. การกระจายรายได้มความเท่าเทียมกันมากขึน บริการทางสังคมมีคุณภาพการพัฒนาทาง เศรษฐกจิ และสงั คมเป็นอยา่ งทว่ั ถงึ ทงั จงั หวัด ความเหลอื่ มลา้ ทางเศรษฐกิจและสงั คมลดลง 3. ประชาชนมีคุณภาพ มีวิถีชีวิตเรียบง่าย ยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นฐานในการ ด้าเนินชวี ิต มีความสดุ มขี ีดความสามารถในการพึ่งพาตนเองได้สงู 4. จังหวดั เพชรบุรีสามารถรักษาความมั่นคงของฐานทรัพยากร สรา้ งสมดลุ ระหวา่ ง การอนุรกั ษ์ และการใช้ประโยชน์อย่าง ยั่งยืนและเป็นธรรม ขับเคลื่อนสู่เศรษฐกิจ และสังคมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีขีดความสามารถในการรับมือภัยพิบัติและ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ประสิทธิภาพและธรรม มาภิบาลในการบริหาร จัดการทรัพยากร ธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดล้อมและการบรหิ ารจดั การน้าให้สมดุล
๓๐ ประเดน็ ยุทธศาสตร์(Strategic lssue) จังหวัดเพชรบุรกี ้าหนดประเด็นยุทธศาสตร์ 3 ประเด็น และในแต่ละประเด็นยุทธศาสตร์มกี าร ให้นา้ หนกั ในการพฒั นาในรอบ 5 ปี (พ.ศ.2561-2565) 1. การพัฒนาความมัง่ คั่งด้านเศรษฐกจิ จากฐานการท่องเท่ยี ว การค้า การบรกิ ารและการเกษตร แบบครบวงจร 2. การเสริมสร้างความมั่นคง ความสงบเรียบร้อยและสังคมคุณภาพที่พึ่งตนเองได้ด้วยศสาตร์ พระราชา 3. การบรหิ ารจัดการทรัพยการธรรมชาติ สง่ิ แวดลอ้ ม อย่างสมดุลและยั่งยนื เป้าประสงค์(Goal) 1. เพชรบุรีมีความเติโตทางด้านเศรษฐกิจ มีการกระจายราได้สู่ชุมชน ประชาชนมีอาชีพและ รายไดท้ ่มี น่ั คง เศรษฐกิจฐานชมุ ชนเขม้ แขง็ 2. การคมนาคมขนส่ง และระบบโลจิสติกส์จังหวัด สะดวก ปลอดภัย เชื่อมโยงอยางเป็นระบบ รองรบั การคา้ การกษตร การทอ่ งเที่ยว และการพฒั นา 3. อุตสาหกรรมการท่องเทย่ี วท่ีมีความเข้มแข็ง ครบวงจร เชื่อมโยงระหว่างจังหวัด กลุ่มจงั หวัด ยกระดับส่ภู มุ ภิ าค เอเซียนและนานาชาติ 4. ผลผลิตและผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรมีคุณภาพมาตรฐานการส่งออก สินค้าทางการเกษตร สามารถสร้างรายได้ให้กบั จังหวดั สร้างงาน อาชพี และรายไดแ้ กช่ มุ ชน ประชาชน 5. ภาครัฐมีความพร้อมในการหนนุ เสรมิ การพฒั นาโมเดลเศรษฐกจิ 4.0 6. เพชรบรุ ีเป็นเมืองน่าอยู่ คนสุขภาพดี ปัปญาความไม่ปลอดภัย ปัญหาสังคมของจังหวัดในทุก ด้านลดลงอยา่ งต่อเนอื่ งจนผา่ นเกณฑ์มาตรฐานและเปา้ หมายการพัฒนาของประเทศ 7. เพชรบุรีเมืองแห่งการเรียนรู้ประชาชน ชุมชนตื่นตัวต่อการเปล่ียนแปลง จังหวัดเพชรบุรีมี ความพรอ้ มในการเป็นเมอื งทพี่ อเพยี งของประเทศ 8. หมู่บ้านมีศักยภาพในการพึ่งตนเองสูง ประชาชนมีวิถีชีวิตด้วยหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียงทีเ่ ข้มแข็งเพ่มิ มากขึนอย่างตอ่ เน่อื ง 9. องค์กรภาครัฐมีสมรรถนะสูง บคุ ลากรมีคณุ ภาพ การบริหารจัดการมธี รรมาภิบาล การบรกิ าร ขององค์กรภาครฐั และประสิทธิภาพในการขับเคลือ่ นการพัฒนาจงั หวดั พฒั นาสสู่ ากล 10. พืนทีปา่ เพิ่มมากขึน ทรัพยการธรรมชาติมความอุดมสมบูรณ์ ปัญหาภัยทางธรรมชาติลดลง อย่างต่อเน่ือง 11. จังหวัดเพชรบุรมี ีดิน น้า ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มท่ีเอือต่อการพัฒนาการเกษตร คุณภาพ 12. การบรหิ ารจัดการภัยพิบัติทางธรรมชาติมีประสิทธิภาพ ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมจนสามารถ ลดปญั หาได้อยา่ งตอ่ เน่อื ง 13. จงั หวดั เพชรบรุ มี สี ง่ิ แวดลอ้ มทีม่ ีสามารถจดั การปญั หาทางสิ่งแดลอ้ มได้ท่ีวทกุ พนื ท่ี 14. จังหวัดมีศักยภาพทางพลังงาน สามารถจัดการพลังงานเพ่ือลดต้นทุนทางการเกษตรและ หนุนเสริมการพัฒนาคุณภาพชวิ ติทด่ี ีแกป่ ระชาชน
๓๑ กลยทุ ธ์(ุ Strategy) 1. ยกระดับการค้าการลงุทน การบริการของจังหวัดรองรับการเติบโตของเมือง การเปิด ประชาคมอาเซยี น และการขยายตัวของเมอื งหลวง และปริมณฑล 2. พัฒนาโครงสรา้ งพนื ฐาน และสาธารณูปโภคของจังหวดั รองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจ และ การพฒั นาเมือง 3. พฒั นาอตุ สาหกรรมการท่องเทยี่ วที่เขม้ แขง็ มีคณุ ภาพ มเี อกลกั ษณ์ และแข่งขันได้ 4. พัฒนาการเกษตรแบบครบวงจร เช่ือมโยงอุตสาหกรรมการเกษตร และการเติบโตที่เป็นมิตร กับส่งิ แวดลอ้ ม 5. พัฒนาสภาพแวดล้อมเมืองรองรับการท่องเที่ยว การเชื่อมโยงเมืองกับนานาชาติและการ เตบิ โตสปู่ ระเทศทีพ่ ฒั นาแล้ว 6. พัฒนาการบริการแห่รัฐรองรับการขับเคล่ือนโมเดลเศรษฐกิจไทยแลนด์ 4.0 แลบะรองรับ สังคมดจิ ทิ ัล 7. พัฒนาชุมชนเข้มแข็งพ่ึงตนเอง และส่งเสริมการสร้างและขยายระบบสวัสดิการชุมชน ทุน ชมุ ชนสวสั ดกิ ารสังคมเพ่อื รว่ มสรา้ งสังคมเมืองเพชรบรุ ีนา่ อยู่ พึง่ ตนเองได้ 8. เสริมสร้างความพร้อมของจังหวัดให้มีศักยภาพในการเป็นเมืองแห่งการเรียนรู้พร้อมรับการ เปล่ียนแปลงก้าวส่สู ากล 9. เสริมสรางความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยด้วยกลไกชุมชน หมู่บ้านและการบูรณาการ ภาครฐั เพือ่ ความมน่ั คงของพนื ทแ่ี บบเข้มข้นและทนั สมยั 10. พฒั นาบริการรัฐ ลดความเหลือ่ มล้าทางสังคม เพ่มิ ประสทิ ธิภาพปฏิบตั ิการเชิงรกุ ของภารกิจ แห่งรัฐท่ัวทุกพืนที่ 11. สรา้ งเมืองแห่งสุขภาวะท่ีเข้มแข็ง เพอื่ ประชาชนสุขภาพดี และอยู่ดีมีสุขด้านกลไกชมุ ชนและ ความฉลาดรูข้ องตนเองอย่างเท่าทนั 12. ส่งเสริมธรรมาภิบาลในหน่วยงานรัฐที่มีความเข้มแข็ง และสร้างรรค์สงั คมเพชรบุรีที่ซอื่ ตรง โปร่งใส 13. พัฒนากระบวนการจดั การ และการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ้ มให้ ย่ังยืนตลอดทงั ตน้ นา้ กลางนา้ ปลายนา้ 14. พัฒนาระบบการบริหารจัดการสาธารณภัยให้มีมาตรฐาน รองรับการพัฒนาทางเศรษฐกิจ และการดแู ลคณุ ภาพชวิ ิตประชาชน 15. พัฒนาสภาพแวดลอ้ มเมืองใหน้ ่าอยู่ สะอาด รม่ รนื่ ดว้ ยธรรมชาติและการจดั การในระดบั ตา้ บล 16. ส่งเสริมการจัดการพลังงานที่ย่ังยืน และการใช้ประโยชน์อย่างรู้คุณค่ารองรับการพัฒนา เศรษฐกจิ และการเสรมิ สร้างคณุ ภาพชวี ิต และการเป็นมติ รกับสิง่ แวดล้อม
๓๒ ยุทธศาสตร์การพัฒนาอา้ เภอบ้านลาด วสิ ยั ทศั น์อ้าเภอบ้านลาด “เมอื งนา่ อยู่ น่ากิน นา่ เท่ยี ว ภายใต้หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” พนั ธกิจ 1. ด้านความม่ันคง ป้องกันและแก้ไขปัญหาอาชญากรรมและปัญหายาเสพติด รวมทังการ ปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภัยในพืนที่ เพ่ือให้อา้ เภอบา้ นลาดเปน็ เมืองน่าอยู่ 2. ด้านเศรษฐกิจ ส่งเสริมการเกษตรแบบปลอดสารเคมี สนับสนุนการท่องเท่ียวเชิงอนุรักษ์ วัฒนธรรม ประเพณี พัฒนาโครงสร้างด้านสาธารณูปโภคขันพืนฐาน เพื่อรองรับการคมนาคมและการท่องเที่ยว เพ่ือให้อา้ เภอบ้านเปน็ เมอื งนา่ เที่ยว มีอาหารท่ีปลอดภยั ผบู้ ริโภค 3. ด้านสังคม พัฒนาจิตใจ เสริมสร้างความรัก ความสามัคคี ปรองดอง สมานฉันท์ของคนใน ชมุ ชนและสว่ นราชการ อันจะเป็นสว่ นหน่ึงในการเสรมิ สรา้ งความเข้มแข็งแก่ชุมชน ลดปญั หาทางสังคม 4. ด้านการบริหารจดั การชุมชน ใหช้ ุมชนมีการบรหิ ารจัดการด้วยตนเอง ลดการพึง่ พาภายนอก มกี ารจดั การทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในชมุ ชน น้อมน้าหลักการของปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งไปปรับใช้ ในชวี ติ ประจ้าวัน เปา้ หมายประสงค์การพัฒนาอ้าเภอบ้านลาด 1. ด้านความม่ันคง ป้องกันและแก้ไขปัญหาอาชญากรรมและปัญหายาเสพติด รวมทังการ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในพนื ที่ 2. ด้านเศรษฐกิจ ส่งเสริมการเกษตรแบบปลอดสารเคมี สนับสนุนการท่องเท่ียวเชิงอนุรักษ์ วฒั นธรรม ประเพณี พัฒนาโครงสร้างด้านสาธารณปู โภคขันพนื ฐาน เพอ่ื รองรบั การคมนาคมและการทอ่ งเท่ียว 3. ด้านสังคม พัฒนาจิตใจ เสริมสร้างความรัก ความสามัคคี ปรองดอง สมานฉันท์ของคนใน ชุมชนและสว่ นราชการ อนั จะเปน็ สว่ นหนึ่งในการเสริมสรา้ งความเขม้ แข็งแก่ชุมชน ลดปญั หาทางสังคม 4. ดา้ นการบริหารจัดการชุมชน ใหช้ ุมชนมีการบริหารจัดการด้วยตนเอง ลดการพึง่ พาภายนอก มกี ารจดั การทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมในชุมชน น้อมน้าหลักการของปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงไปปรับใช้ ในชีวิตประจา้ วัน ประเดน็ ยุทธศาสตร์ ประเดน็ ยุทธศาสตร์ ท่ี 1 ปอ้ งกนั และแกไ้ ขปัญหาอาชญากรรมและปญั หายาเสพติด รวมทงั การ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในพนื ท่ี ประเด็นยุทธศาสตร์ ท่ี 2 ส่งเสริมการเกษตรแบบปลอดสารเคมี สนับสนุนการท่องเท่ียวเชิง อนุรักษ์ วัฒนธรรม ประเพณี พัฒนาโครงสร้างด้านสาธารณูปโภคขันพืนฐาน เพ่ือรองรับการคมนาคมและการ ท่องเท่ยี ว ประเด็นยุทธศาสตร์ ท่ี 3 พัฒนาจิตใจ เสริมสรา้ งความรัก ความสามัคคี ปรองดอง สมานฉันท์ ของคนในชุมชนและสว่ นราชการ อันจะเป็นส่วนหน่งึ ในการเสรมิ สรา้ งความเข้มแขง็ แกช่ ุมชน ลดปญั หาทางสงั คม ประเด็นยุทธศาสตร์ ที่ 4 ให้ชุมชนมีการบริหารจัดการด้วยตนเอง ลดการพงึ่ พาภายนอก มีการ จัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในชุมชน น้อมน้าหลักการของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปปรับใช้ใน ชวี ิตประจา้ วัน
๓๓ 1.4 ยุทธศาสตร์การพัฒนาขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ ในเขตจังหวัดเพชรบุรี ยทุ ธศาสตร์ที่ 1 การพัฒนาดา้ นโครงสร้างพนื ฐาน แนวทางการพฒั นา 1. งานด้านคมนาคมและการขนสง่ กอ่ สรา้ งปรับปรงุ บ้ารุงรกั ษา ยทุ ธศาสตร์ที่ 2 ถนน สะพาน ทางเทา้ ทอ่ ระบายนา้ พฒั นาระบบจราจร แนวทางการพฒั นา 2. งานดา้ นสาธารณูปโภค พัฒนาระไฟฟ้า–ประปา พัฒนาแหล่งนา้ ยุทธศาสตรท์ ี่ 3 คูคลอง และระบบชลประทาน แนวทางการพฒั นา 3. งานด้านการผังเมือง ผงั เมืองเฉพาะ และปอ้ งกนั การบุกรุกท่ี ยทุ ธศาสตรท์ ่ี 4 สาธารณะประโยชน์ แนวทางการพฒั นา การพฒั นาดา้ นการสง่ เสริมคุณภาพชวี ติ ยุทธศาสตรท์ ่ี 5 1. งานด้านการส่งเสรมิ เศรษฐกิจและอาชพี ให้กบั ประชาชน แนวทางการพัฒนา 2. งานดา้ นสวัสดิการสงั คม(ผูส้ งู อายุ/คนพิการ/ผูด้ ้อยโอกาส/ผปู้ ว่ ยเอดส)์ 3. งานดา้ นการศกึ ษา ยุทธศาสตร์ที่ 6 4. งานดา้ นการสาธารณสุข แนวทางการพัฒนา 5. งานด้านสง่ เสริมกีฬาและนันทนาการ การพฒั นาดา้ นการจัดระเบียบชุมชน สงั คม และการรักษาความสงบ เรยี บรอ้ ย 1. งานด้านการรกั ษาความสงบเรียบร้อย 2. งานดา้ นการปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภัย 3. งานด้านแกไ้ ขปัญหายาเสพตดิ 4. งานดา้ นการสาธารณสุข การพัฒนาดา้ นการวางแผน การสง่ เสริมการลงทุน พาณชิ กรรม เศรษฐกจิ พอเพยี ง และการทอ่ งเทยี่ ว 1. งานดา้ นการสง่ เสริมการลงทุน 2. งานด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 3. งานดา้ นการพาณิชกรรม 4. งานดา้ นการสง่ เสรมิ เศรษฐกิจพอเพียง 5. งานด้านการทอ่ งเที่ยว การพฒั นาดา้ นการบริหารจัดการและการอนุรกั ษท์ รพั ยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดลอ้ ม 1. งานด้านการปอ้ งกนั และอนุรกั ษท์ รพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม 2. งานด้านการจดั การขยะในชมุ ชน 3. งานด้านการส่งเสริมใหเ้ กิดการผลติ การบริการ การบริโภค เป็นมติ รกบั สง่ิ แวดลอ้ ม การพัฒนาดา้ นศาสนา ศิลปะ วฒั นธรรม จารตี ประเพณี และภมู ิ ปญั ญาท้องถนิ่ 1. งานด้านการสง่ เสริม เผยแพร่ และอนรุ กั ษ์ ศิลปวัฒนธรรม จารีตประเพณี และภมู ปิ ัญญาท้องถน่ิ โบราณสถาน โบราณวัตถุ
๓๔ ยุทธศาสตร์ท่ี 7 การพฒั นากระบวนการบริหารจดั การท่ีดีในองคก์ รและการมีสว่ นรว่ มของ แนวทางการพัฒนา ประชาชน 1. งานด้านการพฒั นาการบรหิ ารจัดการทีด่ ีในองค์กร 2. งานด้านการมีส่วนร่วมของประชาชน และการป้องกันการทุจรติ 3. งานด้านการปรบั ปรงุ และพัฒนาบคุ ลากรในองค์กร 4. งานดา้ นการปรับปรงุ และพฒั นาเครอ่ื งมือเครื่องใช้ และสถานท่ีปฏบิ ัติงาน 5. งานดา้ นการส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจเกย่ี วกับการทอ้ งถิน่ 6. งานดา้ นการสง่ เสรมิ คา่ นยิ ม 12 ประการ ๒. ยุทธศาสตรข์ ององค์กรปกครองส่วนทอ้ งถิน่ ๒.๑ วสิ ยั ทัศน์การพัฒนาของ องคก์ ารบรหิ ารส่วนต้าบลถา้ รงค์ “ถ้ารงค์นา่ อยู่ สู่ประชาคมอาเซียน ทอ่ งเที่ยวเชงิ นเิ วศ เกษตรปลอดภัย ทนั สมยั เทคโนโลยี” ๒.๒ ยุทธศาสตรก์ ารพฒั นา องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตา้ บลถ้ารงค์ จงึ ไดก้ ้าหนดยุทธศาสตร์เพ่อื ใหส้ ามารถด้าเนนิ ก้าวไปสูว่ สิ ัยทัศน์ และจดุ มุ่งหมายท่ีก้าหนดไว้ ๖ ยทุ ธศาสตร์ ดังนี ๑. ยุทธศาสตรก์ ารพัฒนาคณุ ภาพชวี ติ และการคมุ้ ครองทางสังคม ๒. ยทุ ธศาสตร์การพัฒนาดา้ นการบริหารจดั การนา้ ๓. ยุทธศาสตรก์ ารบริหารจัดการ ๔. ยุทธศาสตรด์ ้านเศรษฐกจิ ชมุ ชน ๕. ยุทธศาสตร์ดา้ นทรัพยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ ม ๖. ยุทธศาสตร์การพัฒนาดา้ นการพัฒนาเมืองและชุมชน ๒.๓ เปา้ ประสงค์ ๑. ยกระดับคุณภาพชวี ิตในเรื่องตา่ งๆ ให้เปน็ ท่ีพงึ พอใจ ของประชาชน ๒. ประชาชนมนี า้ เพอ่ื การอุปโภค บริโภค และการเกษตรอย่างเพยี งพอ ๓. สร้างความพงึ พอใจใหก้ บั ประชาชนทม่ี ารับบรกิ ารจาก อบต. เห็นว่า อบต. สามารถ บริหารงานไดอ้ ย่างมีประสิทธภิ าพ ๔. ประชาชนมีรายได้เพม่ิ มากขึน ๕. ประชาชนในทกุ หมู่บ้าน เหน็ ว่า อบต.ถา้ รงค์ เปน็ ชุมชนท่ีสามารถรักษาวถิ ี ชวี ิตการเกษตร ไมท่ ้าลายส่งิ แวดล้อม มีภูมิทศั น์ตามถนนสายหลกั ของแตล่ ะหมบู่ ้าน สวยสะอาดเปน็ ระเบยี บเรียบรอ้ ย และใช้ทรพั ยากรธรรมชาติอยา่ งมสี า้ นึก และมพี ืนท่ี สีเขยี วเพิม่ ขนึ ๖. สรา้ งระบบสาธารณูปโภค สาธารณปู การ และโครงสร้างพืนฐานทางคมนาคมและ การผังบ้านลาดครบทกุ หมู่บ้าน ๒.๔ ตวั ชีวัด ๑. ระดบั คณุ ภาพชวี ติ ของประชาชนภายในต้าบลถ้ารงค์เพิม่ ขึนอยา่ งตอ่ เน่อื ง ๒. รอ้ ยละทีเ่ พ่ิมขึนของการสนับสนุนใหป้ ระชาชนมนี า้ เพอ่ื การบริโภคอุปโภคและ การเกษตรอย่างเพยี งพอ ๓. ชมุ ชนมีศกั ยภาพเข้มแขง็ และสามารพ่งึ ตนเองไดเ้ พิ่มมากขึน
๓๕ ๔. ประสิทธิภาพการบริหารจัดการขององค์กรเพิม่ ขนึ ๕. ประชาชนมีรายไดเ้ พียงพอตอ่ การด้ารงชีพ และมคี ุณภาพชีวิตทีด่ ีเพิ่มขนึ ๖. ทรพั ยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมภายในต้าบลถา้ รงค์ไดร้ บั การจัดการ ดแู ล อนรุ ักษแ์ ละ ฟ้นื ฟเู พม่ิ ขนึ ๗. รอ้ ยละทเ่ี พมิ่ ขนึ ของการพฒั นาสาธารณูปโภคขันพนื ฐานภายในต้าบล ๒.๕ ค่าเป้าหมาย ๑. ส่งเสรมิ คุณภาพชวี ติ ของประชาชน ไดร้ ับการจัดสวสั ดิการทางสงั คมสามารถดา้ รงชพี อยา่ ง มีความสขุ และสามารถคงไว้ซ่ึงศาสนาศิลปวัฒนธรรม ภมู ปิ ญั ญาท้องถน่ิ และวถิ ีชีวติ ชมุ ชน โดยทกุ ภาคมสี ว่ นร่วม ๒. สนับสนนุ ใหป้ ระชาชนมีนา้ เพ่ือการบรโิ ภคอุปโภค และการเกษตรอย่างเพียงพอ ๓. พัฒนาระบบการบริหาร และการบริการให้สามารถอ้านวยความสะดวกและบริการให้แก่ ประชาชนได้อย่างมปี ระสิทธิภาพโดยเน้นให้ประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการบรหิ ารงาน กบั อบต. ๔. สนับสนุนและสง่ เสริมการพฒั นาเศรษฐกจิ และการประกอบธรุ กิจประเภทตา่ งๆ ใหด้ ้าเนนิ ไป ด้วยความเข้มแข็งมนั่ คง เสริมสร้างรายได้ใหแ้ ก่ประชาชนให้เพียงพอต่อการด้ารงชีพ และมีคุณภาพชีวติ ทด่ี ี ๕. อนุรักษ์ และฟ้ืนฟูทรพั ยากรธรรมชาติใหส้ มดุลกบั ระบบนิเวศและให้มีการใช้ประโยชน์อย่าง ยง่ั ยืน และรวมทงั ลดความขัดแยง้ อนั เนอ่ื งมาจากการดา้ เนินกจิ กรรมการพัฒนา ๖. พัฒนาศกั ยภาพและลักษณะทางกายภาพ การปรับปรงุ พนื ท่ีและการก่อสรา้ งทางคมนาคม ระบบสาธารณปู โภค การผังเมือง อนั เปน็ การสง่ เสริมความสะดวกในการอยอู่ าศยั การ ประกอบอาชีพและการทอ่ งเท่ียว
๓๖ ๒.๖ กลยทุ ธ์การพฒั นา ยทุ ธศาสตรก์ ารพฒั นา ๑ การพฒั นาดา้ นคุณภาพชีวิตและการคมุ้ ครองทางสังคม กลยทุ ธ์การพฒั นา ๑.๑ จัดสวสั ดิการค้มุ ครองทางสงั คม ด้านสุขภาพสวัสดิการ แรงงาน ความปลอดภัยในชีวิตและทรพั ยส์ ิน ๑.๒ สง่ เสริมและสนับสนนุ การด้าเนนิ งานกลมุ่ องค์กรของ ชุมชนดา้ นกฬี าและนันทนาการ ๑.๓ ส่งเสรมิ และสนับสนนุ การด้าเนนิ งานตามแนวนโยบายของรฐั ๑.๔ สง่ เสริมการจัดการศึกษา พัฒนาคุณภาพ ศกั ยภาพคนใน ทอ้ งถิ่น ๑.๕ สง่ เสริมบา้ รุงรกั ษาและอนุรักษ์สถาบนั ทางศาสนาและ ขนบธรรมเนยี มประเพณี ๑.๖ ฟ้ืนฟมู รดกทางประวัตศิ าสตร์ ศิลปวัฒนธรรมจารตี ประเพณี ภมู ปิ ญั ญาท้องถน่ิ และสถาบนั ชาติ ๑.๗ จัดบริการด้านสาธารณสุข และการปอ้ งกนั รกั ษาโรค ยทุ ธศาสตร์การพฒั นา ๒ การพฒั นาด้านการบริหารจัดการนา้ กลยทุ ธ์การพัฒนา ๒.๑ อนรุ ักษฟ์ ืน้ ฟู และพัฒนาแหลง่ นา้ ให้สามารถใช้ประโยชน์ ได้อยา่ งพอเพยี ง ๒.๒ จัดให้มนี ้าเพือ่ การอุปโภคบรโิ ภคอยา่ งพอเพยี ง 2.3 สรา้ งระบบระบายนา้ เพือ่ แก้ไขปญั หานา้ ท่วมและบรกิ ารชมุ ชน ยทุ ธศาสตรก์ ารพัฒนา ๓ การบริหารจัดการ กลยุทธ์การพฒั นา ๓.๑ สนับสนนุ กระบวนการประชาคมและข้อมลู ทุกระดบั ในการพฒั นาท้องถนิ่ ๓.๒ พฒั นาบุคลากร และเพ่ิมประสทิ ธภิ าพในการปฏิบัติงาน ๓.๓ เพ่ิมประสิทธิภาพการจัดเกบ็ และพฒั นารายได้ ๓.๔ พฒั นาสถานทพ่ี รอ้ มทังนา้ เทคโนโลยีทนั สมัยมาให้บริการ ยทุ ธศาสตรก์ ารพฒั นา ๔ การพัฒนาด้านเศรษฐกจิ ชมุ ชน กลยทุ ธ์การพฒั นา ๔.๑ ส่งเสรมิ การเกษตรอินทรียแ์ ละเกษตรปลอดสารพิษ ๔.๒ สนบั สนนุ ระบบสหกรณแ์ ละจ้าหนา่ ยผลิตภณั ฑช์ ุมชน ๔.๓ ส่งเสริมรายได้ชมุ ชน กลุ่มอาชพี และกล่มุ องค์กรต่าง ๆ ยุทธศาสตร์การพัฒนา ๕ การพฒั นาด้านทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดล้อม กลยทุ ธ์การพฒั นา ๕.๑ ปรบั ปรงุ รกั ษาสภาพแวดลอ้ มให้สะอาดสวยงาม เปน็ ระเบียบ ๕.๒ พัฒนาปรบั ปรงุ ภูมิทศั น์ เพือ่ การอนุรกั ษ์และส่งเสริมการ ทอ่ งเที่ยว ยุทธศาสตร์การพัฒนา ๖ การพฒั นาด้านการพฒั นาเมอื งและชุมชน กลยุทธ์การพัฒนา ๖.๑ สร้างระบบเสน้ ทางคมนาคมใหค้ รอบคลุมทัว่ ถงึ ๖.๒ สนับสนุนการขยายเขตไฟฟา้ และบรกิ ารไฟฟา้ สาธารณะ 6.3 การเตือนภัย ปอ้ งกันอุบัตภิ ยั และจัดทา้ ป้ายบอกเขต ป้าย ประชาสมั พนั ธ์ ป้ายจราจรและปา้ ยซอยต่าง ๆ
๓๗ ๒.๗ จดุ ยนื ทางยุทธศาสตร์ จากประเด็นความเชื่อมโยงยุทธศาสตร์ที่ส้าคัญของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบบั ที่ 1๒ ยทุ ธศาสตรช์ าติ และยทุ ธศาสตร์จงั หวดั จะเหน็ ไดว้ ่ามคี วามเชื่อมโยงกันอยา่ งชัดเจนในการน้ามาเป็น แนวทางกา้ หนดประเด็นยุทธศาสตรก์ ารพัฒนาขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ซึ่งการก้าหนดประเด็นยทุ ธศาสตร์ การพัฒนาทชี่ ดั เจนจะเป็นการเตรียมการพฒั นา เป็นการน้าภูมคิ มุ้ กันท่ีมอี ยู่ พรอ้ มทังเร่งสร้างภมู ิคุม้ กันในท้องถิ่น ใหเ้ ข้มแขง็ ขึน เพือ่ เตรียมความพร้อมคน สังคม และระบบเศรษฐกจิ ของชมุ ชนใหส้ ามารถปรบั ตัวรองรับผลกระทบ จากการสภาวการณ์ เปล่ียนแปลงได้อย่างเหมาะสม โดยให้ความส้าคัญกับการพัฒนาคน สังคมเศรษฐกิจภายใน ชุมชนให้มีคุณภาพ ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ภายในชุมชนอย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด รวมทังสร้างโอกาสทาง เศรษฐกจิ ด้วยฐานความรู้ เทคโนโลยี นวัตกรรม และความคิดสร้างสรรค์ บนพืนฐานการผลิตและการบริโภคที่เป็น มิตรต่อส่ิงแวดล้อม ซึ่งจะน้าไปสู่การพัฒนาเพ่ือประโยชน์สุขที่ย่ังยืนของชุมชนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง องค์การบรหิ ารส่วนต้าบลถ้ารงค์ จึงได้กา้ หนดจุดยนื ทางยุทธศาสตร์ (Positioning) คือ “เป็นชุมชนแห่ง การมีส่วนร่วม อนุรักษ์วิถีชีวิตท้องถ่ิน พัฒนาสาธารณูปโภคขันพืนฐาน มีภูมิคุ้มกันทางสังคมเพื่อให้ชุมชนมี รากฐานท่เี ขม้ แขง็ ” ๒.๘ ความเช่อื มโยงของยทุ ธศาสตรใ์ นภาพรวม การจัดท้าแผนพฒั นาท้องถน่ิ สปี่ ีขององค์การบริหารส่วนต้าบลมคี วามเชอ่ื มโยงของยุทธศาสตรใ์ นภาพรวม ดังนี ยุทธศาสตรก์ ารพัฒนาขององคก์ ารบรหิ ารส่วนต้าบล เป้าประสงค์ ตัวชว้ี ัด คา่ เปา้ หมาย กลยุทธ์ จดุ ยนื ทางยุทธศาสตร์
๓๘ 3. การวิเคราะห์เพื่อพฒั นาทอ้ งถนิ่ 3.1 การวเิ คราะหก์ รอบการจัดทา้ ยุทธศาสตร์ขององคก์ รปกครองส่วนท้องถิ่น ผลการวิเคราะห์ศักยภาพขององคก์ ารบรหิ ารสว่ นต้าบล วิเคราะห์ศักยภาพเพ่ือประเมินสภาพการพัฒนาขององค์การบริหารส่วนต้าบลถ้ารงค์ โดยใช้เทคนิค SWOT analysis ดงั นี จดุ แข็ง ด้านสภาพพืนที่ ๑. พนื ท่ีสว่ นใหญ่เปน็ พนื ที่ในการท้าเกษตรกรรมเหมาะสมทีจ่ ะสง่ เสริมใหเ้ กษตรกร ดา้ เนินการแบบเศรษฐกิจพอเพียงหรือเกษตรผสมผสาน ๒. มีลา้ หว้ ย ภูเขาและถา้ รวมทังต้นยางนาอนรุ กั ษ์ และมีถนนเพชรเกษมตดั ผ่านตา้ บล การคมนาคมสะดวก เหมาะส้าหรบั พัฒนาเป็นแหล่งทอ่ งเทยี่ วและจา้ หน่ายสนิ ค้าพืนบา้ นลาด ๓. เปน็ แหลง่ วัฒนธรรม ประเพณี ภมู ปิ ญั ญาท้องถนิ่ ด้านบุคลากร ๑. ผู้นา้ ชมุ ชนมศี กั ยภาพในการบรหิ ารงาน มีความรบั ผดิ ชอบและมคี วามสามคั คี ๒. ประชาชนให้ความสนใจและความร่วมมอื ในการด้าเนนิ การงานของสว่ นรวม ๓. ประชาชนสนใจรับฟังขอ้ มูลขา่ วสารต่างๆอย่างต่อเน่อื ง และมีการศึกษาในระดับสงู เพิม่ ขึน จดุ อ่อน 1. งบประมาณไมเ่ พียงพอในการพฒั นา 2. ขาดแหลง่ สรา้ งงาน สร้างอาชพี ใหก้ บั ประชาชนในพนื ที่ 3. ขาดการแปรรูปผลติ ภัณฑใ์ นการน้าออกสูต่ ลาด โอกาส โอกาสที่ส้าคัญขององค์การบริหารส่วนต้าบลถ้ารงค์ คือ อยู่ใกล้ชุมชนบ้านลาด เดินทางสะดวก ไมม่ ีความขดั แย้งของคนในชมุ ชน มรี ะบบการประสานงานทีด่ ีของหน่วยงานต่างๆ ทีอ่ ยู่รอบข้าง อุปสรรค อุปสรรคท่ีส้าคัญขององค์การบริหารส่วนต้าบลถ้ารงค์ คือ เร่ืองระเบียบกฎหมายที่ยังไม่เอือต่อ การปฏิบัติงานท้าให้ไม่เกิดความคล่องตัวในการปฏิบัติงานเพราะติดขัดเรื่องระเบียบแบบแผนทางราชการ ขาด งบประมาณในการดา้ เนินการโครงการใหม่ๆ และขาดการแปรรปู สนิ ค้าพนื เมอื งของชุมชน ๓.๒ การประเมินสถานการณ์สภาพแวดล้อมภายนอกทเ่ี กย่ี วข้อง ในการจัดท้าแผนพัฒนาท้องถ่ินสี่ปีขององค์การบริหารส่วนต้าบลถนัน ได้ท้าการประเมิน สถานการณส์ ภาพแวดล้อมภายนอกทเ่ี ก่ียวขอ้ ง ซ่งึ มรี ายละเอียดดังนี ๑. ดา้ นการพัฒนาคุณภาพชวี ิตและการคุ้มครองทางสงั คม ๑.๒ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กยังขาดการสนับสนุนในบางกิจกรรม ความต้องการของประชาชน คือ ส่งเสริมกิจกรรมการศึกษาของสถานศกึ ษาในการพัฒนาเด็กนกั เรียนใหเ้ ป็นคนดีและคนเก่ง และส้านกึ ในวิถที อ้ งถ่ิน ตามทอ่ี ยู่ในขอบเขตอา้ นาจขององคก์ รปกครองส่วนท้องถ่ิน
๓๙ ๑.๓ ด้าเนินงานตามนโยบายถ่ายโอนภารกิจด้านการศึกษาให้ครบถ้วน เช่น โครงการอาหารเสริม (นม) อาหารกลางวัน และปฏิบัติงานร่วมกับสถานศึกษาในด้านกิจกรรมกีฬา ศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น และการแก้ไขปญั หายาเสพติด ๑.๕ วิถีชีวติ ชุมชนก้าลังจะสูญหายไปกับสังคมเมือง ความต้องการของประชาชน คือ ส่งเสริมวิถี ชวี ิตของประชาชน และบุคลากรให้มีคุณธรรมจรยิ ธรรม ตามหลักศาสนา ๑.๖ ยังขาดมีส่วนร่วมของชุมชนในบางกิจกรรม ความต้องการของประชาชน คือ สนับสนุนและ สง่ เสรมิ ใหส้ ตรี เด็กและเยาวชน ผสู้ ูงอายุ ผู้ดอ้ ยโอกาส มีส่วนร่วมในการบริหารงานกบั อบต. และองค์กรชุมชนให้ เขม้ แขง็ ๑.๗ การจัดการด้านการท่องเที่ยวยังไม่เป็นระบบ ความต้องการของประชาชน คือ ส่งเสริม สนับสนุนการบริหารจดั การการท่องเท่ียวของตา้ บลถา้ รงค์ใหเ้ ป็นระบบ มมี าตรฐาน ๒. ยทุ ธศาสตร์การพัฒนาด้านการบริหารจดั การนา้ 2.๑ ทรพั ยากรธรรมชาติยังขาดดูแลเอาใจใส่ ความต้องการของประชาชน คือ อนุรกั ษ์ฟนื้ ฟู และ พัฒนาแหลง่ นา้ ให้สามารถใช้ประโยชน์ไดอ้ ย่างพอเพียง ๒.๒ น้าเพ่ือการอุปโภค บริโภคไม่เพียงพอ ความต้องการขอประชาชน คือ จัดให้มีน้าเพ่ือการ อุปโภคบริโภคใหม้ ีคณุ ภาพ และเพยี งพอ ในช่วงฤดแู ล้ง 2.3 การระบายน้า การระบายน้าเป็นไปอย่างล่าช้า เกิดการพังทลายของผิวดิน น้ากัดเซาะ เน่ืองจากความรนุ แรงของกระแสซ่ึงระบายน้าไมท่ ันท่วงที ความต้องการของประชาชน คอื สร้างระบบระบายน้า เพอื่ แกไ้ ขปญั หานา้ ทว่ มและบริการชมุ ชนในช่วงฤดนู ้าหลากและฤดูฝน ๓. ยุทธศาสตร์การบรหิ ารจดั การ 3.๑ อบต.ยังขาดอาคารสถานที่ในการใหบ้ ริการประชาชน ความต้องการของประชาชน คือ จัดให้ มกี ารอาคารสถานทีใ่ ห้บรกิ ารอยา่ งเพยี งพอ และการปรบั ปรุงกระบวนการทา้ งานของบคุ ลากร อบต.ให้ทนั สมยั 3.๒ ประชาชนยังขาดการมีส่วนรว่ มในกระบวนการบริหารงาน ความต้องการของประชาชน คือ สนบั สนุนกระบวนการการมสี ว่ นร่วมของประชาชนในการร่วมคดิ ร่วมทา้ และร่วมแกไ้ ข เชน่ การจดั ทา้ แผนชมุ ชน แผนพฒั นาตา้ บล เป็นต้น 3.3 ประชาชนบางกลุ่มยังมีความเข้าใจท่ีไม่ตรงกันในเรอ่ื งของการเมือง การปกครอง ก่อให้เกิด ความขัดแย้ง ความต้องการของประชาชน คือ สนับสนุนให้ประชาชนและบุคลากรของ อบต. ได้รับความรู้ มีวิถี ประชาธิปไตย และยกย่องเทิดทูนสถาบนั พระมหากษตั ริย์ ๔. ยุทธศาสตร์ดา้ นเศรษฐกจิ ชุมชน 4.๑ ประชาชนไม่มีอาชีพเสริม และรายได้ไม่พอกับรายจ่าย ความต้องการของประชาชน คือ สง่ เสริม พฒั นาอาชีพเพ่ือเพิ่มพูนรายได้แก่ประชาชนต้าบลถ้ารงค์ 4.๒ ทรัพยากรทางธรรมชาติขาดการเอาใจใส่ดูแล ความต้องการของประชาชน คือ ปรับปรุงภูมิ ทศั น์และพฒั นาแหลง่ น้าธรรมชาตเิ พ่ือจดั เปน็ สถานท่ีทอ่ งเที่ยว และเพาะพนั ธสุ์ ตั ว์นา้ 4.๓ ประชาชนยังขาดสนบั สนุนการท้าการเกษตร ความตอ้ งการของประชาชน คอื สนบั สนุนการ ทา้ การเกษตรและการเลยี งสตั วต์ ามแนวทางเศรษฐกจิ พอเพยี งและยัง่ ยืน 4.๔ ผลผลติ ทางการเกษตรไมม่ ีตลาดรองรบั ที่เพียงพอ ความต้องการของประชาชน คือ สนับสนุน ให้มตี ลาดนดั เพื่อวางจา้ หน่ายสินคา้ จากชุมชน
๔๐ ๕. ยุทธศาสตร์ด้านทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดลอ้ ม 5.๑ ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคต่างๆ เช่น โรคไข้เลือดออก โรคมือเท้าปากเปลื่อยความ ต้องการของประชาชน คือ ประสานงานกับโรงพยาบาลชุมชน และหน่วยงานที่เก่ียวข้องในการป้องกันโรค และ บริการสาธารณสขุ แก่ชมุ ชนอย่างท่ัวถึง และสนบั สนุนการปฏบิ ตั งิ านของอาสาสมคั ร 5.๒ พืนท่ีสาธารณะขาดกรเอาใจใส่ดูแล ความต้องการของประชาชน คือ จัดระบบรักษาความ สะอาดเรยี บร้อยพนื ทสี่ าธารณะ ถนน ตรอกซอย และไฟฟ้าสอ่ งสว่างในพืนทีเ่ สยี่ งอันตรายให้เพียงพอ 5.๓ ส่งิ แวดลอ้ มถกู ท้าลาย ความตอ้ งการของประชาชน คือ ส่งเสริมให้ความร้แู ก่ประชาชนในการ อนุรักษส์ ่งิ แวดล้อม และใช้พลังงานอยา่ งประหยัดจ้าเป็น 5.๔ เกิดสารเคมีตกค้างในอาหารและปัญหาปุ๋ยยาราคาแพง ความต้องการของประชาชน คือ ส่งเสรมิ การเกษตรอนิ ทรีย์ สมุนไพรพนื บา้ น และภมู ิปัญญาทอ้ งถ่ิน ๖. ยทุ ธศาสตรก์ ารพฒั นาด้านการพัฒนาเมืองและชมุ ชน 6.1 การคมนาคม ขาดงบประมาณในการด้าเนินงาน ปัญหาถนน เส้นทางคมนาคมไม่สะดวก เน่ืองจากเส้นทางท่ีมีอยู่บางส่วนยังไม่ได้มาตรฐาน เป็นหลุมเป็นบ่อ ความต้องการของประชาชน คือ ปรับปรุง เสน้ ทางคมนาคมใหส้ ะดวก ปลอดภัย ให้ครอบคลุมท่ัวถงึ ๖.๒ ไฟฟ้าแสงสว่าง ปัญหาไฟฟ้าส่องสว่างสาธารณะไม่ทั่วถึง ความต้องการของประชาชน คือ เพ่ิมไฟฟา้ สอ่ งสว่างสาธารณะใหค้ รอบคลุมท่วั ถึงพืนท่ภี ายในต้าบลถ้ารงค์ 6.3 ปัญหาการเกิดอุบัติเหตุตามบริเวณทางแยก ทางโค้ง ทางเช่ือม ท้าให้ประชาชนได้รับความ เสียหายต่อชีวิตและทรพั ยส์ ิน ความต้องการของประชาชน คือ จัดท้าป้ายบอกการเตือนภัย ป้องกันอุบัตภิ ัย และ จัดท้าป้ายบอกเขต ป้ายประชาสมั พนั ธ์ ป้ายจราจรและป้ายซอยต่าง ๆ
43 สว่ นที่ 3 การนา้ แผนพัฒนาทอ้ งถน่ิ ไปสู่การปฏบิ ตั ิ 1. ยทุ ธศาสตรก์ ารพฒั นาและแผนงาน ที่ ยุทธศาสตร์ ดา้ น แผนงาน หนว่ ยงานที่ หน่วยงาน รับผิดชอบ สนบั สนนุ 1 ด้านการพัฒนาคณุ ภาพ บริหารทวั่ ไป แผนงานบริหารงานทั่วไป สา้ นกั ปลดั กองชา่ ง กองคลงั ชวี ติ และคุม้ ครองทาง ส้านักปลดั กองคลงั สงั คม แผนงานการรักษาความสงบ ส้านกั ปลัด กองคลงั กองการศกึ ษา กองคลงั ภายใน กองสวัสดกิ ารฯ กองคลงั กองคลงั บริการชมุ ชนและสงั คม แผนงานสาธารณสุข กองชา่ ง กองคลงั กองสวสั ดกิ ารฯ กองคลงั บริการชมุ ชนและสังคม แผนงานการศกึ ษา กองการศกึ ษา กองคลงั บริการชมุ ชนและสังคม แผนงานสังคมสงเคราะห์ กองชา่ ง กองคลัง สา้ นกั ปลัด กองคลัง บรกิ ารชุมชนและสงั คม แผนงานเคหะและชุมชน กองสวัสดกิ ารฯ กองคลัง กองช่าง กองคลัง บริการชุมชนและสังคม แผนสรา้ งความเข้มแข็งของชมุ ชน กองชา่ ง กองคลัง ส้านักปลดั บริการชุมชนและสังคม แผนงานการศาสนา วฒั นาธรรม กองคลงั กองคลงั กองช่าง กองคลัง และนนั ทนาการ กองช่าง กองคลัง สา้ นักปลัด กองคลัง การเศรษฐกจิ แผนงานอุตสาหกรรมและโยธา กองสวัสดิการฯ กองคลัง สา้ นกั ปลัด กองคลัง การเศรษฐกจิ แผนงานการเกษตร กองช่าง กองคลัง กองสวัสดกิ ารฯ กองคลงั การดา้ เนนิ งานอ่นื ๆ แผนงานงบกลาง กองช่าง 2 ดา้ นการบรหิ ารจดั การนา้ การเศรษฐกิจ แผนงานอตุ สาหกรรมและโยธา แผนงานการพาณิชย์ 3 ดา้ นการบริหารจัดการ บริหารท่วั ไป แผนงานบริหารทั่วไป 4 ดา้ นเศรษฐกจิ ชมุ ชน บรกิ ารชมุ ชนและสังคม แผนงานเคหะและชุมชน การเศรษฐกิจ แผนงานอตุ สาหกรรมและโยธา 5 ด้านทรัพยากรธรรมชาติ การเศรษฐกิจ แผนงานการเกษตร และสงิ่ แวดล้อม บรกิ ารชมุ ชนและสงั คม แผนสร้างความเข้มแข็งของชมุ ชน การเศรษฐกจิ แผนงานการเกษตร 6 ด้านการพัฒนาเมอื งและ แผนงานอุตสาหกรรมและโยธา ชุมชน บรกิ ารชุมชนและสังคม แผนสรา้ งความเข้มแขง็ ของชมุ ชน การเศรษฐกิจ แผนงานอุตสาหกรรมและโยธา
Search
Read the Text Version
- 1 - 41
Pages: