18 คมู่ ือครู วิชา วทิ ยาศาสตร์เพื่อพฒั นาอาชพี ช่างอตุ สาหกรรม รหสั วชิ า 20000 – 1302 หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชพี พทุ ธศกั ราช 2562 ชดุ การสอนท่ี 3 เรือ่ ง สมดลุ ของวัตถุ จัดทำโดย นางธญั พร พมุ่ พวง ตำแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครชู ำนาญการพิเศษ กลุ่มวิชา วทิ ยาศาสตร์ แผนกวชิ าสามญั สมั พันธ์ วิทยาลยั เทคนคิ ลพบรุ ี สำนักงานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธิการ
19 ค่มู ือครู ชดุ การสอนที่ 3 เรือ่ ง สมดลุ ของวัตถุ คำชี้แจง ชุดการสอนเรื่องแรงและแรงเสียดทาน ต้องการให้นักเรียน ศึกษาเกี่ยวกับความหมายของสมดุล ประเภทของสมดลุ การคำนวณสมดุลของวัตถุ ทอรก์ หรอื โมเมนต์ และสมดลุ ตอ่ การหมุน 1. จุดประสงคท์ ั่วไป 1.1 นักเรียนมีความรู้และความเข้าใจ ความหมายของสมดุล ประเภทของสมดุล การคำนวณสมดุล ของวตั ถุ ทอร์กหรอื โมเมนต์ และสมดลุ ต่อการหมนุ 1.2 มที กั ษะเก่ียวกับกจิ กรรมการทดลอง สมดลุ ของแรง 3 แรง 1.3 มเี จตคตแิ ละกจิ นสิ ยั ทีด่ ใี นการทำงาน ด้วยความละเอียดรอบคอบ ปลอดภัย เป็นระเบยี บ สะอาด ตรงต่อเวลา มีความซื่อสัตย์ รับผิดชอบ รักษาสภาพแวดล้อม และ มีคุณธรรม จริยธรรมและ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงคท์ ี่ตอ้ งการ 2. จุดประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม เมื่อนกั เรยี นเรยี นเรอื่ งสมดุลของวัตถุแล้วสามารถ 2.1 บอกความหมายของสมดุลไดอ้ ย่างถกู ต้อง 2.2 บอกประเภทของสมดุลไดอ้ ย่างถูกต้อง 2.3 คำนวณหาแรงเมือ่ วตั ถุอยู่ในสภาพสมดลุ ได้อยา่ งถกู ตอ้ ง 2.4 คำนวณหาทอรก์ หรอื โมเมนต์ของแรงทกี่ ระทำต่อวตั ถไุ ด้อย่างถูกตอ้ ง 2.5 คำนวณหาปรมิ าณทเ่ี กี่ยวขอ้ งโดยใชห้ ลักการสมดลุ ตอ่ การหมุนได้อยา่ งถกู ตอ้ ง 2.6 ปฏิบัติงานด้วยความละเอียดรอบคอบ ปลอดภัย เป็นระเบียบ สะอาด ตรงต่อเวลา มีความซือ่ สัตย์ รกั ษาสภาพแวดลอ้ ม 2.7 มีการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ที่ผู้สอนสามาร ถ สังเกตเห็นได้ในด้านความมีมนุษยสัมพันธ์ ความมีวินัย ความรับผิดชอบ ความเชื่อมั่นในตนเอง ความสนใจใฝ่รู้ ความรักสามัคคี ความกตัญญูกตเวที 3. สว่ นประกอบของชุดการสอนท่ี 3 เรื่อง สมดุลของวัตถุ มีดงั น้ี 3.1 ค่มู อื ครูชดุ การสอนท่ี 3 เรอ่ื ง สมดลุ ของวัตถุ 3.2 โครงการสอนที่ 3 เรอ่ื ง สมดุลของวัตถุ 3.3 แผนการจดั การเรยี นรู้ เรื่อง สมดลุ ของวตั ถุ 3.4 เอกสารประกอบการเรียน เร่ือง สมดลุ ของวตั ถุ 3.6 กจิ กรรมการเรียนรู้ที่ 3.1-3.2 3.7 แบบฝกึ หัดทา้ ยหนว่ ย เร่อื ง สมดุลของวัตถุ
20 3.8 ใบกิจกรรมการทดลองท่ี 3.1 สมดุลของแรง 3 แรง 3.9 แบบทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรยี น พร้อมเฉลย ชุดการสอนที่ 3 เรือ่ ง สมดุลของวตั ถุ 3.10 แบบประเมินผลการปฏิบตั ิงาน 3.11 แบบสังเกตพฤตกิ รรมระหว่างการเรียนและการปฏบิ ตั ิงาน 3.12 ส่อื ประกอบการสอน เรื่อง แรงและแรงเสียดทาน 4. เวลาทใ่ี ช้ ใชเ้ วลาในการสอนจำนวน 6 ชั่วโมง 5. การเตรยี มการลว่ งหนา้ สง่ิ ทีค่ รูตอ้ งเตรยี มการล่วงหนา้ มดี งั น้ี 5.1 ศึกษาคู่มือครู โครงการสอน และแผนการจดั การเรียนรู้ เรอื่ ง สมดุลของวตั ถุ 5.2 ศกึ ษาและเตรยี มเอกสารและสือ่ การสอน เรื่อง สมดลุ ของวัตถุ 5.3 ผู้สอนต้องเตรียมเอกสารประกอบการเรียนเรื่อง สมดุลของวัตถุ กรณีให้นักเรียนจัดเตรียมเอง ตอ้ งมตี น้ ฉบบั แจ้งให้นักเรียนจัดเตรยี มเอกสารประกอบการเรียน ล่วงหน้าใหพ้ ร้อมก่อนเรียน 5.4 แบบทดสอบกอ่ นเรยี นและหลงั เรยี นชุดการสอนที่ 3 เรื่อง สมดลุ ของวัตถุ 5.5 จดั เตรียมใบกิจกรรมการทดลองท่ี 3.1 และเตรยี ม วัสดุอปุ กรณ์ทีใ่ ช้ปฏิบตั ิงาน ได้แก่ เครื่องช่ัง สปรงิ เชือก กระดาษขาว กระดาษแขง็ และตัวหนีบยดึ 6. สื่อการเรียนการสอน ชุดการสอนท่ี 3 เรื่อง สมดุลของวัตถุ ประกอบดว้ ยสื่อการเรยี นการสอน ดงั นี้ 6.1 เอกสารประกอบการเรยี น เร่ือง สมดลุ ของวตั ถุ 6.2 ส่ือ Power Point เรอ่ื ง สมดุลของวตั ถุ 6.3 ใบกิจกรรมการเรยี นรทู้ ี่ 3.1-3.2 6.3 ใบกิจกรรมการทดลองที่ 3.1 6.4 แบบฝึกหดั ทา้ ยหน่วยท่ี 3 7. การจดั ชั้นเรยี น การจัดชั้นเรียนตามปกติสำหรับการสอนทฤษฎี โดยจัดการเรียนการสอนแบบครูและนักเรียน รว่ มกนั อภิปราย ถาม-ตอบ และสรปุ เน้อื หา การเรียนภาคปฏิบตั ิจัดกลมุ่ การปฏิบตั งิ านโดยการแบง่ กลมุ่ ๆ ละ 3-4 คน เพือ่ ให้นักเรยี นได้ร่วมกนั อภิปรายและปฏิบตั ิงาน โดยครูเตรยี มวสั ดุ อุปกรณใ์ หใ้ ชค้ รบทกุ กลุ่ม ครูเป็น ผคู้ วบคุมดแู ลพฤติกรรมการปฏบิ ตั งิ านให้คำชี้แนะหากพบปญั หา 8. วธิ ใี ช้ชุดการสอน 8.1 ศึกษาคมู่ ือการใช้ โครงการสอน และแผนการจดั การเรยี นรู้ เน้ือหาที่สอน 8.2 ศกึ ษาวธิ กี ารใชส้ อื่ การเรยี นการสอน 8.2 ศึกษาวธิ กี ารวัดผลและประเมนิ ผล
21 9. ข้ันดำเนินการจดั กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ 9.1 ผู้สอนชี้แจงให้นักเรียนทราบเก่ียวกบั บทบาทหน้าท่ีของนกั เรียน 9.2 ผู้สอนชีแ้ จงเนอื้ หาที่จะเรยี นในชดุ การสอนน้ี 9.3 ผู้สอนชี้แจงวธิ กี ารวดั ผลประเมินผลพร้อมกำหนดเวลาสง่ งาน 9.4 การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน แบง่ ออกเป็น 7 ขั้นตอนตามรปู แบบโมเดลซปิ ปา ดังนี้ ขน้ั ที่ 1 ข้ันการแสวงหาความรเู้ ดมิ ขัน้ ท่ี 2 ขั้นการแสวงหาความรใู้ หม่ ข้ันที่ 3 ขั้นการศกึ ษาทำความเข้าใจ ความรูใ้ หม่และเชอ่ื มโยงความรู้ใหม่กบั ความรูเ้ ดิม ขั้นที่ 4 ขน้ั การแลกเปลย่ี นความรู้ความเขา้ ใจกับกลุ่ม ข้ันท่ี 5 ขน้ั การสรุปและจัดระเบยี บความรู้ ขั้นที่ 6 ขน้ั การแสดงผลงาน ขั้นที่ 7 ขัน้ การประยกุ ตใ์ ชค้ วามรู้ 10. วธิ ีการใชส้ อ่ื การเรยี นการสอน ชดุ การสอนท่ี 3 เร่อื ง สมดลุ ของวัตถุ ผู้สอนต้องศึกษาวิธีการเรียนรู้จากแผนการจัดการเรียนรู้ คู่มือการใช้สื่อ และศึกษาเนื้อหา เรื่อง สมดุลของวัตถุ จากเอกสารประกอบการเรียนและสื่อ Power Point หน่วยที่ 3 เรื่อง สมดุลของวัตถุ ก่อนทำ การสอนจริง ส่วนสื่อท่ีนักเรียนใช้ได้แก่เอกสารประกอบการเรียน หน่วยที่ 3 เรื่อง สมดุลของวัตถุ ผู้สอนต้อง แจง้ ล่วงหน้าใหน้ ักเรียนทราบ 11. บทบาทของนักเรียน 11.1 นักเรียนต้องเตรียมเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง สมดุลของวัตถุ ก่อนเรียน โดยผู้สอน จดั เตรียมต้นฉบับให้ลว่ งหนา้ ทันวนั ใชส้ อนจริง 11.2 นักเรยี นตอ้ งปฏบิ ัติตามคำแนะนำของผู้สอน 11.3 นักเรียนตอ้ งทำกิจกรรมตามท่ีมอบหมายและร่วมกนั อภิปราย 11.4 นักเรียนต้องปฏิบัตงิ านตามใบกิจกรรมการทดลอง 11.5 นกั เรยี นตอ้ งส่งงานให้ตรงตามเวลาท่กี ำหนด 12. การวัดและประเมนิ ผล 12.1 วิธีวัดผล 12.1.1 สังเกตพฤตกิ รรมระหวา่ งการเรยี นและการปฏิบัติงาน 12.1.2 ตรวจผลจากแบบฝึกหดั /การอภิปราย 12.1.3 ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน แบบทดสอบหลงั เรยี น 12.1.4 ตรวจผลการปฏิบัติงานตามใบกิจกรรมการทดลอง 12.3.5 ประเมนิ ผลจากการวดั ทงั้ ส่วนทเ่ี ปน็ ความรู้ และคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
22 12.2 เครอื่ งมือวัด 12.2.1 แบบสังเกตพฤตกิ รรมระหวา่ งเรียนและการปฏบิ ัตงิ าน 12.2.2 แบบฝกึ หัด/ใบประเมนิ ผลการอภิปราย 12.2.3 แบบทดสอบก่อนเรยี น แบบทดสอบหลังเรยี น 12.2.4 ใบประเมนิ ผลการปฏบิ ตั งิ านตามใบกจิ กรรมการทดลอง 12.2.5 แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 12.3 เกณฑก์ ารประเมนิ ผล 12.3.1 นักเรียนได้คะแนนพฤติกรรมระหว่างการเรียนการสอนและการปฏิบัติงาน ไมต่ ำ่ กว่ารอ้ ยละ 80 12.3.2 คะแนนรวมตามแบบประเมินผลงานใบกจิ กรรมการทดลอง ไมต่ ่ำกว่ารอ้ ยละ 80 12.3.3 คะแนนแบบฝึกหดั และแบบทดสอบ ไมต่ ำ่ กวา่ รอ้ ยละ 80 12.3.4 คะแนนประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ไมต่ ่ำกวา่ รอ้ ยละ 80
23 โครงการสอน ชุดการสอนที่ 3 รหสั วชิ า 20000-1302 ชื่อวชิ า วิทยาศาสตร์เพอ่ื พฒั นาอาชีพชา่ งอุตสาหกรรม ช่อื หนว่ ย สมดลุ ของวตั ถุ จำนวน 6 ชว่ั โมง หวั ขอ้ การเรียนรู้ 1. ความหมายของสมดลุ 2. ประเภทของสมดลุ 3. การคำนวณสมดุลของวัตถุ 4. ทอร์กหรือโมเมนต์ 5. สมดลุ ตอ่ การหมนุ หัวข้อการเรยี นรู้ จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม 1. ความหมายของสมดลุ 1. บอกความหมายของสมดลุ ได้อยา่ งถูกต้อง 2. ประเภทของสมดุล 2. บอกประเภทของสมดุลได้อยา่ งถูกต้อง 3. การคำนวณสมดลุ ของวตั ถุ 3. คำนวณหาแรงเม่อื วัตถุอยูใ่ นสภาพสมดุลได้อยา่ ง 4. ทอรก์ หรอื โมเมนต์ ถกู ตอ้ ง 5. สมดุลต่อการหมนุ 4. คำนวณหาทอร์กหรือโมเมนต์ของแรงท่ีกระทำตอ่ วัตถุ ไดอ้ ย่างถกู ต้อง 5. คำนวณหารปริมาณที่เกี่ยวข้องโดยใช้หลักการสมดุล ตอ่ การหมนุ ไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง วิธีการสอน : บรรยาย/ถาม-ตอบ สาธติ เวลาปฏบิ ัติงานกิจกรรมการเรียนรู้ และกจิ กรรมการทดลอง ครูควรกำหนดตามความพรอ้ มของอุปกรณ์การทดลอง ส่ือการสอน 1. สอ่ื ประกอบการสอน Power Point เรอื่ ง สมดุลของวัตถุ 2. เอกสารประกอบการเรยี น เรอื่ ง สมดลุ ของวตั ถุ การประเมิน : คะแนนจากการทำแบบทดสอบก่อนเรียน/หลังเรียน ประเมินผลกิจกรรมขณะเรียน งานที่มอบหมาย กิจกรรมการเรียนรู้ ประเมินผลการปฏิบัติงานตามใบกิจกรรมการทดลอง แบบประเมิน พฤติกรรมระหวา่ งการเรียนและการปฏบิ ัติการทดลอง
24 แผนการจัดการเรียนรู้ ชอ่ื วิชา วทิ ยาศาสตร์เพอ่ื พัฒนาอาชพี ช่างอุตสาหกรรม รหสั วิชา 20000-1302 สอนครัง้ ที่ 6 หน่วยที่ 3 ชอื่ หนว่ ย สมดุลของวตั ถุ จำนวน 3 ชม. 1. หัวขอ้ การเรียนรู้ 1. ความหมายของสมดลุ 2. ประเภทของสมดลุ 3. การคำนวณสมดุลของวตั ถุ 2. สาระสำคัญ เมื่อแรงกระทำต่อวัตถุแล้ววัตถุอยู่นิ่งหรือเคลื่อนที่ด้วยความเร็วคงที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงขนาดของ ความเร็วและทศิ ทาง เรยี กว่า วตั ถอุ ยู่ในสภาพสมดุล แบง่ ได้ 2 ประเภท คอื สมดลุ สถติ และสมดุลจลน์ 3. สมรรถนะประจำหน่วย 1. แสดงความรเู้ กีย่ วกับความหมายของสมดุล ประเภทของสมดลุ และการคำนวณสมดลุ ของวตั ถุ 2. ปฏบิ ัตกิ จิ กรรมการเรยี นรู้ท่ี 3.1 และกิจกรรมการทดลองที่ 3.1 ได้ 3. แสดงพฤติกรรมความมีมนุษยสัมพันธ์ ความมีวินัย ซื่อสัตย์ เสียสละ อดทน ความสนใจใฝ่ หาความรู้ ความรักสามัคคีและความกตัญญูกตเวที เผื่อแผ่ แบ่งปัน ความมีมนุษยสัมพันธ์ รับฟัง ความคิดเห็นของผู้อื่น ความมีวินัย ความรับผิดชอบ ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ความเชื่อมั่นใน ตนเองกล้าแสดงออก 4. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 4.1 จดุ ประสงคท์ ั่วไป 1. นักเรียนมีความรู้และความเข้าใจความหมายของสมดุล ประเภทของสมดุล และการคำนวณ สมดุลของวัตถุ 2. นักเรียนมีทักษะเกี่ยวกับกิจกรรมการเรียนรู้และกจิ กรรมกลุ่ม 3. นักเรียนมีเจตคติและกิจนิสัยที่ดีในการทำงาน มีคุณธรรม จริยธรรมและคุณลักษณะอันพึง ประสงค์ 4.2 จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม 1. บอกความหมายของสมดลุ ได้อย่างถูกต้อง 2. บอกประเภทของสมดุลได้อย่างถูกต้อง 3. คำนวณหาแรงเมอื่ วตั ถุอยู่ในสภาพสมดุลได้อย่างถกู ต้อง
25 4. คำนวณหาทอรก์ หรอื โมเมนตข์ องแรงท่ีกระทำตอ่ วตั ถุได้อยา่ งถูกต้อง 5. คำนวณหาปริมาณที่เกย่ี วข้องโดยใช้หลักการสมดลุ ตอ่ การหมุนไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง 6. ปฏิบัติงานด้วยความละเอียดรอบคอบ ปลอดภัย เป็นระเบียบ สะอาด ตรงต่อเวลา มคี วามซอ่ื สตั ย์ รกั ษาสภาพแวดลอ้ ม 7. นักเรียนมีการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ที่ผู้สอนสามารถ สังเกตเห็นได้ ในด้านความมีมนุษยสัมพันธ์ ความมีวินัย ความรับผิดชอบ ความเชื่อมั่นในตนเอง ความสนใจใฝร่ ู้ ความรักสามคั คี ความกตัญญูกตเวที 5. กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ สปั ดาห์ท่ี 6 ชวั่ โมงท่ี 16-18 กจิ กรรมการเรียนรู้ ชัว่ โมงท่ี 16 ครูมอบหมายใหน้ ักเรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 3 จำนวน 15 ข้อ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ชว่ั โมงที่ 17 (รูปแบบ 7 ขั้นตอน ตามรูปแบบโมเดลซปิ ปา) 1. ขนั้ การแสวงหาความร้เู ดิม ครูแจ้งหัวข้อการเรยี นรู้ จุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม แนวปฏิบัตใิ นการเรียน และครูทบทวนความรเู้ ดมิ ของนักเรยี น โดยใชค้ ำถามตอ่ ไปนก้ี ระตุ้นเพอื่ ใหน้ ักเรยี นเกิดข้อสงสัยและต้องการแสวงหาความรู้ 1) เมื่อมแี รงกระทำกบั วตั ถแุ ล้ววัตถจุ ะมสี ภาพเปน็ อยา่ งไร (วตั ถจุ ะเคลอ่ื นท่ตี ามแรงทก่ี ระทำ) 2) ผลรวมของแรงมผี ลอย่างไรกับวตั ถุ (ผลรวมของแรงมผี ลต่อการเคลื่อนทขี่ องวตั ถุ เพราะวัตถุจะ เคล่ือนทต่ี ามผลรวมของแรงทก่ี ระทำ) 3) ครรู ว่ มสนทนากับนักเรยี นใหน้ ักเรยี นชว่ ยสรปุ หัวขอ้ เรือ่ งตา่ งๆ เพ่ือนำคำตอบตา่ งๆ มาสรปุ เปน็ เน้ือหาความหมายของสมดุลของวตั ถุ 2. ข้นั การแสวงหาความรใู้ หม่ (ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่มๆละ 3-4 คน และให้นักเรียนแบ่งหน้าที่กันภายในกลุ่ม ซึ่งประกอบด้วย ประธาน เลขานกุ าร ผอู้ ภปิ รายและผู้ประสานงาน โดยแต่ละช่วั โมงจะมีการเปลี่ยนหนา้ ที่ภายในกลมุ่ ทุกครัง้ ) ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มศึกษาเนื้อหาโดยค้นคว้าจากชุดการสอนวิชา วิทยาศาสตร์เพื่อพัฒนาอาชีพ ช่างอุตสาหกรรม โดยใช้แหล่งความรู้จากใบความรู้เรื่อง สมดุลของวัตถุ ที่ครูเตรียมไว้ให้ และร่วมกันคิด อภปิ ราย ในประเด็นคำถามเรื่อง ความหมายของสมดุล ประเภทของสมดลุ การคำนวณสมดุลของวตั ถุ และหา คำตอบในกจิ กรรมการเรียนรทู้ ี่ 3.1 3. ข้ันการศกึ ษาทำความเข้าใจ ความร้ใู หม่และเชอ่ื มโยงความร้ใู หมก่ บั ความรเู้ ดิม ครูมอบหมายให้นักเรียนแต่ละกลุ่มอภิปรายร่วมกัน และครูเป็นผู้สังเกตการณ์และคอยให้คำแนะนำ โดยใหป้ ระธานกลุม่ นำการอภปิ รายดงั น้ี 1) สมาชิกคนใดสงสัยอะไรบา้ ง เลขากลมุ่ จดบันทกึ ข้อสงสยั 2) ใครสามารถตอบข้อสงสยั ของเพอ่ื นได้ ใหช้ ่วยกันตอบ สว่ นข้อสงสยั ทย่ี งั ไม่ได้คำตอบให้เก็บไวก้ อ่ น
26 3) นักเรียนในกลุ่มร่วมกันอภิปรายเนื้อหาเพื่อทำความเข้าใจ และช่วยกันหาคำตอบจากกิจกรรม การเรียนร้ทู ่ี 3.1 ขอ้ ใดที่ไม่แน่ใจว่าถกู ต้อง ให้ทำเคร่อื งหมายไว้ก่อน 4) นำรายการข้อสงสัยที่ยังไม่ได้รับคำตอบ และคำตอบที่ไม่แน่ใจว่าถูกต้องมาแบ่งกันระหว่าง สมาชิกในกลมุ่ ใหช้ ่วยกนั ไปศกึ ษาเพ่มิ เติมจากใบความรู้หรอื จากเพื่อน 5) สมาชกิ กล่มุ ยนื ยนั คำตอบและขอ้ สงสยั ของกลุ่ม 6) สมาชิกเชื่อมโยงความรู้ใหม่กับความรู้เดิมเข้าด้วยกัน โดยใช้เทคนิคต่างๆ ของแต่ละคน เช่น การอธิบาย การเขยี นแผนภาพ ซึ่งขณะนน้ี ักเรยี นได้ความรใู้ หม่เพิม่ เติม เสรมิ ความรเู้ ดมิ ท่มี ีอยู่ 4. ขนั้ การแลกเปล่ียนความรคู้ วามเขา้ ใจกับกลมุ่ 1) ครูแบ่งหัวข้อให้แต่ละกลุ่ม นำเสนอขั้นตอนการหาคำตอบของกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 3.1 จาก การอภปิ รายภายในกลมุ่ พร้อมสง่ ตัวแทนนำเสนอหน้าชั้นเรียน 2) ครเู ปิดโอกาสให้นักเรยี นท่ยี ังสงสยั หรือไมเ่ ข้าใจได้ถามและรว่ มกันอภปิ รายในประเด็นคำถาม ของแตล่ ะกลุ่มพร้อมเฉลยคำตอบกจิ กรรมการเรยี นรูท้ ี่ 3.1 จนไดข้ ้อมลู ที่ถูกตอ้ งในการใชศ้ กึ ษาต่อไป 5. ข้นั การสรุปและจดั ระเบียบความรู้ 5.1 ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายสรปุ ความรู้ทั้งหมด โดยครูใช้คำถามเพื่อกระตุ้นให้นกั เรียนได้ ลำดบั ความคดิ อยา่ งต่อเนื่อง และจัดระเบียบขององค์ความรู้ ในประเดน็ สำคญั ของเรื่อง ความหมายของสมดุล ประเภทของสมดุล และการคำนวณสมดลุ ของวตั ถุดังนี้ 1) ถ้าผลรวมของแรงที่กระทำต่อวัตถุมองเป็นศูนย์วัตถุจะมีสภาพอย่างไร (วัตถุจะอยู่ในสภาพ สมดุล) 2) ลกั ษณะสมดุลของวตั ถแุ บ่งได้กี่ประเภทอะไรบ้าง (2 ประเภท คอื สมดุลสถิต และสมดุลจลน์) 3) หลักการคำนวณเก่ียวกบั สมดลุ ของแรง มขี นั้ ตอนอย่างไร (4 ขัน้ ตอน คอื เขยี นแผนภาพของ แรงทกี่ ระทำ แยกแรงไปในแกนสมมิต หาคา่ ผลรวมของแรงในแต่ละแนวแกน และแกส้ มการหาคา่ ท่ีต้องการ) 5.2 ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปเนื้อหาในส่วนที่ยังไม่ครบ หรือเพิ่มเติมให้ชัดเจน จากสื่อเพาเวอร์ พอยท์ โดยผู้สอนคอยดูแลใหค้ ำปรกึ ษาและถามนำให้นักเรยี นช่วยกันตอบ เป็นการกระตุ้นให้นักเรียนได้ศึกษา ตรงวัตถุประสงคท์ ี่ต้องการและเป็นการวัดผลและประเมินผลจากการเรียนรูแ้ ละความสนใจของนักเรียนทั้งใน ด้านความรดู้ า้ นคุณธรรมจริยธรรมและคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงคไ์ ปด้วย 6. ขน้ั การแสดงผลงาน ครูให้นักเรียนสร้างสรรค์ผลงานจากการเรียนรู้ในครั้งนี้ ตามความเข้าใจของตนเอง ซึ่งครูจะให้ใบ มอบหมายงานโดยให้นกั เรยี นแสดงความเขา้ ใจของตนเองออกในรูปผงั ความคดิ ซงึ่ ครจู ะใหน้ ักเรียนกลับไปคิด และปฏบิ ตั ินอกเหนอื เวลาเรยี นในชั้นเรียนแล้วนำสง่ ครใู นวันถดั มา โดยสง่ งานทางออนไลน์ (ครูเขียนคำชมเชย หรือความคิดเห็นในทางบวกลงในผลงานของนักเรียนทุกคน และเลือกผลงานของนักเรียนที่อยู่ในเกณฑ์ดี มาแสดงไว้ที่บอร์ดในชั้นเรียน เป็นเวลา 1 สัปดาห์ นอกนั้นส่งคืนแก่นักเรียนเพื่อให้แลกเปลี่ยนผลงานกัน ดูเพื่อศึกษาและให้ได้แนวความคิดที่หลากหลาย ในขั้นนี้จะช่วยให้นักเรียนได้เข้าใจข้อความรู้ที่ตนสร้างขึ้นมา
27 และได้ถ่ายทอดให้ผูอ้ ื่นไดร้ บั รู้ ซึ่งช่วยให้นกั เรียนได้ตอกย้ำและตรวจสอบความเข้าใจของตนตลอดจนส่งเสริม ให้นักเรียนใชค้ วามคิดสร้างสรรค์ ในการสรุปองคค์ วามรู้ของตนเอง) 7. ขัน้ การประยุกต์ใช้ความรู้ 1) ครใู หน้ ักเรยี นทำแบบฝกึ หัดทา้ ยหนว่ ย ขอ้ 1 เป็นการบา้ นและใหส้ ่งครูในตอนเชา้ ของวันถัดมา 2) ครูแนะนำให้นักเรียนที่สนใจ ไปรับแบบฝึกหัดเพิ่มเติมจากครูได้ หลังชั่วโมงเรียน (ในส่วนนี้ ถ้านักเรียนที่สนใจ ทำมาแล้วครูจะพิจารณาให้ว่าถูกต้องหรือไม่ และทำความเข้าใจเป็นรายบุคคลนอกเหนือ เวลาเรยี น) 3) ครูแนะนำให้นกั เรียนไปศกึ ษาค้นควา้ เนอ้ื หาเพ่ิมเติมจากหอ้ งสมดุ ของวทิ ยาลัย 4) ครกู ล่าวชมเชยนักเรียน ทใ่ี หค้ วามรว่ มมอื ในการเรยี นในชั้นเรยี น กิจกรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 18 กิจกรรมการทดลองที่ 3.1 สมดุลของแรงสามแรง (รูปแบบ 7 ขัน้ ตอน ตามรูปแบบโมเดลซปิ ปา) 1. ขนั้ การแสวงหาความรเู้ ดิม ครูแจ้งจุดประสงค์การทดลอง แนวปฏิบัติในการทดลอง และครูทบทวนความรูเ้ ดิมของนกั เรียน โดย ใชค้ ำถามต่อไปนี้กระตุ้นเพื่อใหน้ ักเรียนเกดิ ขอ้ สงสยั และตอ้ งการแสวงหาความรู้ 1) การรวมแรงมีหลกั การอยา่ งไรบา้ ง (ใชห้ ลักการรวมเวกเตอร์) 2) การหาแรงลัพธ์หรือผลรวมของแรงด้วยวิธีหางต่อหัวมีหลักการอย่างไร (หลักการเดียวกับการ รวมเวกเตอร์โดยการเขียนรูป) 3) ครูรว่ มสนทนากับนักเรยี นใหน้ กั เรยี นช่วยสรปุ หัวขอ้ เรื่องต่างๆ เพื่อนำคำตอบต่างๆ มาสรุปเป็น เน้ือหาสมดลุ ของแรงสามแรง 2. ขั้นการแสวงหาความร้ใู หม่ (ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่มๆ ละ 3-4 คน และให้นักเรียนแบ่งหน้าที่ กันภายในกลุ่ม ซึ่งประกอบด้วย ประธาน เลขานุการ ผู้อภิปรายและผู้ประสานงาน โดยแต่ละชั่วโมงจะมีการเปลี่ยนหน้าที่ภายในกลุ่มทกุ คร้ัง ซงึ่ ครไู ดช้ แ้ี จงทำความเข้าใจแลว้ ในช่ัวโมงเรียนท่ี 1) ครูเตรียมวัสดุอุปกรณ์ไว้ให้แต่ละกลุ่ม ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มศึกษาใบกิจกรรมการทดลองที่ 3.1 และรว่ มกันคดิ อภปิ ราย ในประเดน็ ข้ันตอนการปฏิบตั ิกิจกรรม 3. ขั้นการศกึ ษาทำความเขา้ ใจ ความรใู้ หม่และเชื่อมโยงความรูใ้ หมก่ ับความรู้เดมิ ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มวางแผนการทำกิจกรรมการทดลอง และทำการทดลองตามแผนที่ตั้งไว้ ในขณะที่นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมการทดลองครูคอยให้คำแนะนำและสังเกตพฤติกรรมการทำงานของนักเรียน เป็นระยะ ครูคอยกระตุน้ ให้นักเรียนได้ศึกษาทำความเข้าใจกับปัญหาที่พบรวมทั้งครูคอยกระตุ้นให้นักเรียนใช้ ทกั ษะและกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรใ์ นการปฏิบตั ิการทดลองและแก้ปัญหาที่เกิดขึน้ ในขณะปฏบิ ตั กิ จิ กรรม การทดลอง ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มเชื่อมโยงความรู้ใหม่กับความรู้เดิมเข้าด้วยกันในการปฏิบัติกิจกรรม การทดลองแลว้ บันทึกผลการทดลองลงในตารางบันทกึ ผลกจิ กรรม
28 4. ขน้ั การแลกเปลย่ี นความร้คู วามเข้าใจกับกลมุ่ 1) ครูให้ตัวแทนนักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอผลการทดลองของกิจกรรมการทดลองที่ 3.1 จาก การอภปิ รายภายในกลมุ่ 2) ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายซับถามเกี่ยวกับปัญหาและผลที่เกิดขึ้นจากการทำกิจกรรม การทดลองและรว่ มกันอภิปรายในประเด็นคำถามของแต่ละกลุ่มพร้อมเฉลยคำตอบกิจกรรมการทดลองที่ 3.1 จนได้ขอ้ มูลทถี่ ูกตอ้ งในการใชศ้ ึกษาตอ่ ไป 5. ขนั้ การสรปุ และจัดระเบยี บความรู้ 5.1 ครูและนักเรยี นร่วมกันอภิปรายสรุปความรู้ทั้งหมด โดยครูใชค้ ำถามเพื่อกระตุ้นให้นักเรียนได้ ลำดับความคดิ อยา่ งต่อเน่ือง และจดั ระเบียบขององคค์ วามรู้ ในประเด็นสำคญั ของเร่ือง สมดลุ ของแรงสามแรง ดงั นี้ 1) วตั ถทุ ่ีอยใู่ นสภาพสมดุลมีลกั ษณะอย่างไร (วัตถุไม่เปลี่ยนสภาพการเคล่ือนท่ี) 2) เราสามารถหาแรงที่ทำให้วัตถุอยู่ในสภาพสมดุลได้อย่างไร (วิเคราะห์แรงที่กระทำต่อวัตถุและ หาผลรวมของแรงตามหลักการของการรวมเวกเตอร์) 5.2 ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปเนื้อหาในส่วนที่ยังไม่ครบ หรือเพิ่มเติมให้ชัดเจน โดยผู้สอนคอย ดูแลให้คำปรึกษาและถามนำให้นักเรียนช่วยกันตอบ เป็นการกระตุ้นให้นักเรียนได้ศึกษาตรงวัตถุประสงค์ ที่ต้องการและเป็นการวดั ผลและประเมนิ จากการเรียนรู้และความสนใจของนกั เรียนทั้งในด้านความรู้และดา้ น คณุ ธรรมจริยธรรมและคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงคไ์ ปดว้ ย 6. ขั้นการแสดงผลงาน ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนนำเสนอผลการปฏิบัติกิจกรรมการทดลองและสรุปผล การทดลองหน้าช้ันเรียน โดยครูคอยแนะนำและสรุปผลการทดลองหลังจากตัวแทนทกุ กลุ่มนำเสนอแลว้ 7. ขัน้ การประยกุ ต์ใช้ความรู้ 1) นกั เรยี นนำความรทู้ จี่ ากการปฏบิ ตั กิ ิจกรรมการทดลองประยกุ ตท์ ำคำถามท้ายกจิ กรรม 2) ครูแนะนำให้นกั เรียนไปศกึ ษาคน้ คว้าเนื้อหาเพ่ิมเตมิ จากหอ้ งสมดุ ของวิทยาลัย 3) ครกู ล่าวชมเชยนักเรียน ท่ีให้ความร่วมมือในการเรยี นในชน้ั เรยี น 6. สื่อการจดั การเรียนรู้ 1. เอกสารประกอบการเรียนวชิ าวทิ ยาศาสตร์เพื่อพัฒนาอาชพี ช่างอุตสาหกรรม หน่วยที่ 3 สมดุลของ วัตถุ 2. สื่อ Power Point เรอ่ื ง สมดุลของวตั ถุ 7. การวดั ผลและประเมนิ ผล 1. คะแนนจากพฤติกรรมการเรยี นรู้รายบคุ คล 2. คะแนนจากพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลุ่ม 3. คะแนนแบบจากการทำกิจกรรมการเรยี นรู้ท่ี 3.1
29 4. คะแนนตรวจงานตามใบกจิ กรรมการเรยี นรทู้ ่ี 3.1 5. คะแนนจากแบบสังเกตพฤตกิ รรมระหว่างการปฏิบัติงาน 6. คะแนนจากการสังเกตและประเมินผลพฤติกรรมด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ 8. แหล่งการเรยี นรู้เพ่ิมเติม 1. ศกึ ษาค้นควา้ ในห้องสมุด 2. ศกึ ษาคน้ คว้าจากข้อมลู จากอนิ เตอร์เนต็ 9. กจิ กรรมเสนอแนะ (ถา้ มี) ............................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................
30 แผนการจดั การเรียนรู้ ชือ่ วิชา วทิ ยาศาสตรเ์ พ่ือพัฒนาอาชีพช่างอุตสาหกรรม รหสั วชิ า 20000-1302 สอนครั้งท่ี 7 หน่วยที่ 3 ช่ือหนว่ ย สมดลุ ของวัตถุ จำนวน 3 ชม. 1. หัวขอ้ การเรียนรู้ 1. ทอร์กหรอื โมเมนต์ 2. สมดลุ ต่อการหมุน 2. สาระสำคญั การท่ีมีแรงกระทำต่อวัตถุแล้วเกิดการหมุน ผลของแรงที่พยายามทำให้วัตถุหมุนรอบจุดๆ หน่ึง เรียกว่า ทอร์กหรือโมเมนต์ และการท่ีแรงไปกระทำตอ่ วัตถุแล้ววัตถุไมเ่ ปลี่ยนสภาพการหมุน เรียกว่า วัตถุอยู่ ในสภาพสมดลุ ต่อการหมุน 3. สมรรถนะประจำหน่วย 1. แสดงความรูเ้ ก่ียวกบั ทอรก์ หรอื โมเมนต์ และสมดุลต่อการหมนุ 2. ปฏิบัติกจิ กรรมการเรยี นรู้ที่ 3.2 3. แสดงพฤติกรรมความมีมนุษยสัมพันธ์ ความมีวินัย ซื่อสัตย์ เสียสละ อดทน ความสนใจใฝ่ หาความรู้ ความรักสามัคคีและความกตัญญูกตเวที เผื่อแผ่ แบ่งปัน ความมีมนุษยสัมพันธ์ รับฟัง ความคิดเห็นของผู้อื่น ความมีวินัย ความรับผิดชอบ ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ความเชื่อมั่นใน ตนเองกลา้ แสดงออก 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ 4.2 จดุ ประสงค์ทัว่ ไป 1. นักเรียนมคี วามรแู้ ละความเข้าใจการหาผลรวมของแรง 2. นักเรยี นมที กั ษะเก่ียวกบั กจิ กรรมการทดลองการรหาผลรวมของแรง 3. นักเรียนมีเจตคติและกิจนิสัยที่ดีในการทำงาน มีคุณธรรม จริยธรรมและคุณลักษณะอันพึง ประสงค์ 4.2 จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม 1. คำนวณหาทอร์กหรอื โมเมนตข์ องแรงทกี่ ระทำต่อวัตถุได้อยา่ งถกู ต้อง 2. คำนวณหาปริมาณทเี่ ก่ยี วข้องโดยใชห้ ลักการสมดลุ ต่อการหมนุ ไดอ้ ยา่ งถูกต้อง 3. ปฏิบัติงานด้วยความละเอียดรอบคอบ ปลอดภัย เป็นระเบียบ สะอาด ตรงต่อเวลา มีความซ่ือสัตย์ รกั ษาสภาพแวดลอ้ ม
31 4. มีการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ที่ผู้สอนสามารถ สังเกตเห็นได้ ในด้านความมีมนุษยสัมพันธ์ ความมีวินัย ความรับผิดชอบ ความเชื่อมั่นในตนเอง ความสนใจใฝ่รู้ ความรกั สามคั คี ความกตญั ญูกตเวที 5. กจิ กรรมการจดั การเรียนรู้ สัปดาหท์ ี่ 7 ช่วั โมงท่ี 19-21 กจิ กรรมการเรยี นรู้ ช่ัวโมงท่ี 19-20 (รูปแบบ 7 ขั้นตอน ตามรปู แบบโมเดลซิปปา) 1. ขั้นการแสวงหาความรู้เดิม ครูแจ้งหัวขอ้ การเรียนรู้ จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม แนวปฏบิ ตั ิในการเรยี น และครูทบทวนความรเู้ ดมิ ของนกั เรยี น โดยใช้คำถามตอ่ ไปนก้ี ระตุ้นเพอ่ื ใหน้ ักเรียนเกิดข้อสงสยั และตอ้ งการแสวงหาความรู้ 1) ถ้าเราจับปลายปากกาด้านหนึ่ง แล้วออกแรงกระทำต่อวัตถุที่ปลายปากกาอีกด้านหนึ่งใน ทิศทางตง้ั ฉากกบั ความยาวปากกาจะเกดิ อะไรขึ้นกับปากกา (ปากกาจะหมุน) 2) จากเหตุการณ์ข้อ 1) ถ้าเปลี่ยนทิศทางของแรงที่กระทำกับปากเป็นแนวเดียวกับความยาว ปากกา จะเกิดอะไรขึ้นกบั ปากกา (ปากกาจะไมห่ มนุ ) 3) ครูร่วมสนทนากบั นกั เรยี นใหน้ กั เรียนช่วยสรุปหัวข้อเรือ่ งต่างๆ เพื่อนำคำตอบตา่ งๆ มาสรปุ เป็น เน้ือหาการทอร์กหรือโมเมนต์ และสมดลุ ต่อการหมุน 2. ขั้นการแสวงหาความรูใ้ หม่ (ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่มๆ ละ 3-4 คน และให้นักเรียนแบ่งหน้าที่ กันภายในกลุ่ม ซึ่งประกอบด้วย ประธาน เลขานุการ ผู้อภิปรายและผู้ประสานงาน โดยแต่ละชั่วโมงจะมีการเปลี่ยนหน้าที่ภายในกลุ่มทุกครงั้ ซง่ึ ครูไดช้ แี้ จงทำความเข้าใจแลว้ ในช่ัวโมงเรียนที่ 1) ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มศึกษาเนื้อหาโดยค้นคว้าจากชุดการสอนวิชา วิทยาศาสตร์เพื่อพัฒนาอาชีพ ช่างอุตสาหกรรม และร่วมกันคิดอภิปราย ในประเด็นคำถามเรื่อง ทอร์กหรือโมเมนต์ และสมดุลต่อการหมุน โดยใช้แหล่งความรู้จากใบความรู้เรื่อง ทอร์กหรือโมเมนต์ และสมดุลต่อการหมุน ที่ครูเตรียมไว้ให้ และหา คำตอบในกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 3.2 3. ขัน้ การศึกษาทำความเขา้ ใจ ความรใู้ หม่และเชื่อมโยงความรใู้ หมก่ ับความรเู้ ดิม ครูมอบหมายให้นักเรียนแต่ละกลุ่มอภิปรายร่วมกัน และครูเป็นผู้สังเกตการณ์และคอยให้คำแนะนำ โดยให้ประธานกลุ่มนำการอภปิ ราย ดังนี้ 1) สมาชิกคนใดสงสัยอะไรบา้ ง เลขากลมุ่ จดบนั ทกึ ข้อสงสยั 2) ใครสามารถตอบขอ้ สงสยั ของเพือ่ นได้ ให้ช่วยกันตอบ ส่วนข้อสงสัยที่ยังไมไ่ ด้คำตอบใหเ้ กบ็ ไว้ก่อน 3) นักเรียนในกลุ่มร่วมกันอภิปรายเนื้อหาเพื่อทำความเข้าใจ และช่วยกันหาคำตอบจากกิจกรรม การเรียนรู้ท่ี 3.2 ข้อใดที่ไมแ่ นใ่ จว่าถกู ต้อง ให้ทำเคร่อื งหมายไวก้ ่อน 4) นำรายการข้อสงสัยที่ยังไม่ได้รับคำตอบ และคำตอบที่ไม่แน่ใจว่าถูกต้องมาแบ่งกันระหว่าง สมาชิกในกลุม่ ให้ช่วยกนั ไปศกึ ษาเพิ่มเตมิ จากใบความรู้หรือจากเพอื่ น 5) สมาชิกกลุม่ ยืนยันคำตอบและขอ้ สงสยั ของกลุ่ม
32 6) สมาชิกเชื่อมโยงความรู้ใหม่กับความรู้เดิมเข้าด้วยกัน โดยใช้เทคนิคต่างๆ ของแต่ละคน เช่น การอธิบาย การเขียนแผนภาพ ซึ่งขณะน้นี กั เรียนได้ความรใู้ หม่เพ่มิ เตมิ เสริมความร้เู ดิมทีม่ อี ยู่ 4. ข้ันการแลกเปล่ยี นความรคู้ วามเข้าใจกับกลมุ่ 1) ครูแบ่งหัวข้อให้แต่ละกลุ่มและนักเรียนที่เป็นตัวแทนกลุ่มนำเสนอขั้นตอนการหาคำตอบของ กิจกรรมการเรียนรทู้ ี่ 3.2 จากการอภปิ รายภายในกล่มุ ให้นักเรียนทง้ั ช้นั ฟัง 2) ครูเปดิ โอกาสให้นักเรยี นทีย่ ังสงสยั หรือไมเ่ ขา้ ใจไดถ้ ามและร่วมกนั อภปิ รายในประเดน็ คำถาม ของแต่ละกลุ่มพรอ้ มเฉลยคำตอบกิจกรรมการเรียนรทู้ ี่ 3.2 จนไดข้ ้อมูลที่ถูกต้องในการใชศ้ ึกษาต่อไป 5. ขนั้ การสรุปและจัดระเบยี บความรู้ 5.1 ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายสรุปความรู้ทั้งหมด โดยครูใช้คำถามเพื่อกระตุ้นให้นักเรียนได้ ลำดับความคิดอย่างต่อเนื่อง และจัดระเบียบขององค์ความรู้ ในประเด็นสำคัญของเรื่อง ทอร์กหรือโมเมนต์ และสมดุลตอ่ การหมุน ดงั น้ี 1) ผลของแรงท่ีพยายามทำใหว้ ัตถุหมนุ รอบจุดหมนุ คืออะไร (ทอรก์ หรือโมเมนต์) 2) ถ้าวตั ถุอยูใ่ นสภาพสมดลุ ต่อการหมุน นกั เรยี นมหี ลกั การในการหาปริมาณท่เี กีย่ วขอ้ งอย่างไร (วเิ คราะหจ์ ากคา่ ผลรวมของโมเมนตเ์ ทา่ กับศูนย์) 5.2 ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปเนื้อหาในส่วนที่ยังไม่ครบ หรือเพิ่มเติมให้ชัดเจน จากสื่อเพาเวอร์ พอยท์ โดยผ้สู อนคอยดแู ลใหค้ ำปรึกษาและถามนำให้นักเรียนชว่ ยกันตอบ เป็นการกระตุ้นให้นกั เรียนได้ศึกษา ตรงวัตถปุ ระสงคท์ ่ตี อ้ งการและเป็นการวดั ผลและประเมนิ จากการเรยี นรู้และความสนใจของนักเรยี นทง้ั ในดา้ น ความรูแ้ ละด้านคุณธรรมจริยธรรมและคุณลกั ษณะอนั พึงประสงคไ์ ปด้วย 6. ขั้นแสดงผลงาน ครูให้นักเรียนสร้างสรรค์ผลงานจากการเรียนรู้ในครั้งนี้ ตามความเข้าใจของตนเอง ซึ่งครูจะให้ใบ มอบหมายงานโดยให้นักเรยี นแสดงความเข้าใจของตนเองออกในรูปผังความคิด ซึ่งครูจะให้นกั เรียนกลับไปคิด และปฏิบัตนิ อกเหนอื เวลาเรียนในชั้นเรียนแลว้ นำส่งครใู นวันถัดมา โดยส่งงานทางออนไลน์ (ครเู ขียนคำชมเชย หรือความคิดเห็น ในทางบวกลงในผลงานของนักเรียนทุกคน และเลือกผลงานของนักเรียนที่อยู่ในเกณฑ์ดี มาแสดงไว้ที่บอร์ดในชั้นเรียน เป็นเวลา 1 สัปดาห์ นอกนั้น ส่งคืนแก่นักเรียนเพื่อให้แลกเปลี่ยนผลงานกันดู เพื่อศึกษา และให้ได้แนวความคิดที่หลากหลาย ในขั้นนี้จะช่วยให้นักเรียนได้เข้าใจข้อความรู้ที่ตนสร้างขึ้นมา และได้ถา่ ยทอดให้ผอู้ ื่นไดร้ ับรู้ ซ่งึ ชว่ ยใหน้ กั เรียนไดต้ อกย้ำและตรวจสอบความเข้าใจของตน ตลอดจนส่งเสริม ให้นักเรยี นใชค้ วามคดิ สรา้ งสรรค์ ในการสรุปองค์ความรขู้ องตนเอง) 7. ขัน้ การประยุกตใ์ ช้ความรู้ 1) ครใู หน้ ักเรยี นทำแบบฝึกหดั ท้ายหน่วย ขอ้ 3-4 เป็นการบ้านและใหส้ ง่ ครูในตอนเชา้ ของวันถดั มา 2) ครูแนะนำใหน้ ักเรียนที่สนใจ ไปรับแบบฝึกหัดเพิม่ เติมจากครูได้ หลังชั่วโมงเรยี น (ในส่วนนี้ ถ้านักเรยี น ท่ีสนใจ ทำมาแล้วครจู ะพิจารณาให้ว่าถกู ต้องหรอื ไม่ และทำความเขา้ ใจเปน็ รายบุคคลนอกเหนอื เวลาเรียน) 3) ครแู นะนำให้นักเรียนไปศึกษาคน้ ควา้ เนอื้ หาเพ่ิมเตมิ จากห้องสมดุ ของวิทยาลยั 4) ครูกล่าวชมเชยนกั เรยี น ที่ใหค้ วามร่วมมอื ในการเรียนในชน้ั เรียน
33 กจิ กรรมการเรยี นรู้ ชวั่ โมงที่ 21 ครูมอบหมายใหน้ ักเรยี นทำแบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 จำนวน 15 ข้อ 6. ส่ือการจดั การเรียนรู้ 1. เอกสารประกอบการเรียนวิชาวิทยาศาสตรเ์ พื่อพัฒนาอาชพี ชา่ งอุตสาหกรรม หนว่ ยท่ี 3 สมดุลของ วัตถุ 2. สอ่ื Power Point เรอื่ ง สมดลุ ของวตั ถุ 7. การวดั ผลและประเมินผล 1. คะแนนจากพฤตกิ รรมการเรียนรู้รายบุคคล 2. คะแนนจากพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลุ่ม 3. คะแนนแบบจากการทำกจิ กรรมการเรยี นรู้ท่ี 2.3 4. คะแนนจากแบบสงั เกตพฤติกรรมระหว่างการปฏิบตั ิงาน 5. คะแนนจากการสังเกตและประเมินผลพฤติกรรมด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะ อนั พงึ ประสงค์ 8. แหลง่ การเรียนรู้เพิ่มเตมิ 1. ศึกษาค้นคว้าในห้องสมุด 2. ศึกษาค้นควา้ จากข้อมลู จากอินเตอรเ์ น็ต 9. กิจกรรมเสนอแนะ (ถา้ มี) ............................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................
Search
Read the Text Version
- 1 - 16
Pages: