โครงงานภาษาไทย เรอง แนวคิดและการใชภ้ าษาในบทเพลงพระราช นิพนธ์ คณะผ้จู ัดทาํ 1.นางสาว สภุ าวดี ศรสมั ฤทธิ เลขที 23 ชัน ม.6/4 2.นางสาว วชญาดา โพธิพมุ่ เลขที 32 ชัน ม.6/4 3.นางสาว อรษา ศิลปกุล เลขที 30 ชันม.6/4 4.นางสาว ณชิ ารย์ แกว้ เจรญ เลขที 25 ชัน ม.6/4 ครูผ้สู อน นาย ธีรพงษ์ คงดว้ ง โครงงานฉบบั นีเปนส่วนหนงึ ของรายวชาภาษา ไทย(ท33102) ภาคเรยนที 2 ปการศึกษา 2563 โรงเรยนทปี ราษฎร์พิทยา จงั หวดั สรุ าษฎร์ธานี
โครงงานภาษาไทย เรื่อง แนวคดิ และการใช้ภาษาในบทเพลงพระราชนพิ นธ์ คณะผ้จู ดั ทา 1.นางสาว สภุ าวดี ศรีสมั ฤทธิ์ เลขท่ี 23 ชนั้ ม.6/4 2.นางสาว วชี ญาดา โพธิ์พุ่ม เลขท่ี 32 ชนั้ ม.6/4 3.นางสาว อรษา ศิลปกลุ เลขท่ี 30 ชนั้ ม.6/4 4.นางสาว ณชิ ารีย์ แก้วเจริญ เลขท่ี 25 ชนั้ ม.6/4 ครูผ้สู อน นาย ธีรพงษ์ คงด้วง โครงงานฉบบั นเี ้ป็นสว่ นหน่งึ ของรายวชิ าภาษาไทย(ท33102) ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2563 โรงเรียนทปี ราษฎร์พิทยา จงั หวดั สรุ าษฎร์ธานี
ก กติ ติกรรมประกาศ ในการทาโครงงานวิชาภาษาไทยเรื่องแนวคดิ และการใชภ้ าษาในบทเพลงพระราชนิพนธ์เป็นโครงงานหน่ึง ที่สามารถช่วยใหผ้ อู้ า่ นไดร้ ับความรู้และความเขา้ ใจในการใชภ้ าษาในบทเพลงพระราชนิพนธม์ ากย่ิงข้ึน โดย โครงงานน้ีสาเร็จลุลว่ งไดด้ ว้ ยความกรุณาจากอาจารย์ ธีรพงษค์ งดว้ งอาจารยท์ ่ปี รึกษาโครงงานทไี่ ดใ้ ห้ คาเสนอแนะแนวคดิ ตลอดจนแกไ้ ขขอ้ บกพร่องต่าง ๆ มาโดยตลอดจนโครงงานเล่มน้ีเสร็จสมบรู ณ์ ผูศ้ ึกษาจึงขอกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูงจากครูทีใ่ ห้คาปรึกษาในเรื่องตา่ ง ๆ รวมท้งั เป็นกาลงั ใจทีด่ เี สมอ มาขอบคุณแหลง่ ขอ้ มูลต่างๆ ที่ใหค้ วามรูแ้ ละสาระเพอื่ ใช้อา้ งอิงในโครงงานชิ้นน้ีขอบคุณเพอ่ื น ๆ ทีช่ ว่ ยให้ คาแนะนาดี ๆ เกี่ยวกบั การเลอื กคาและเกยี่ วกบั โครงงานชิ้นน้ี คณะผจู้ ดั ทา
ข คานา รายงานเลม่ น้ีจดั ทาข้ึนมาเพื่อเป็นส่วนหน่ึงของวิชาภาษาไทยช้นั มธั ยมศกึ ษาปี ท่ี 6 เพื่อให้ไดศ้ กึ ษาหาความรู้เร่ืองเน้ือหาและการศึกษาในบทเพลงพระราชนิพนธใ์ นบทเพลงพระราชนิพนธข์ อ งในหลวงรัชกาลท่ี 9และจะไดศ้ กึ ษาอยา่ งเขา้ ใจเพ่อื เป็นประโยชนก์ บั การเรียนการสอนตอ่ ไป ผจู้ ดั ทาหวงั ว่ารายงานเล่มน้ีจะเป็นประโยชน์กบั ผูอ้ า่ นหรือนักเรียนนกั ศกึ ษาทีก่ าลงั หาขอ้ มลู เร่ืองน้ีอยหู่ ากมี ขอ้ แนะนาหรือขอ้ ผดิ พลาดประการใดผจู้ ดั ทาขอนอ้ มรับไวแ้ ละขออภยั มา ณ ที่น้ีดว้ ย
ค สารบญั เรื่อง หนา้ บทคดั ยอ่ กิตติกรรมประกาศ ก คานา................................................................................................................................... ..........................ข สารบญั ..........................................................................................................................................................ค สารบญั ตาราง................................................................................................................................................ง บทที่ 1...........................................................................................................................................................1 บทนา......................................................................................................................... ....................................1 1.1 ความเป็นมาและความสาคญั ของการศกึ ษาคน้ ควา้ ...........................................................................1 1.2 วตั ถปุ ระสงคใ์ นการศึกษาคน้ ควา้ .....................................................................................................3 1.3 ขอบเขตของการศึกษาคน้ ควา้ ...........................................................................................................3 1.4 ประโยชน์ท่ีคาดวา่ จะไดร้ ับ...............................................................................................................3 1.5 นิยามศพั ทเ์ ฉพาะ...............................................................................................................................3 บทท่ี 2 เอกสารและงานวิจยั ทเ่ี กี่ยวขอ้ ง..........................................................................................................4 2.1.ความรู้เกย่ี วกบั บทเพลงพระราชนิพนธ์.............................................................................................4 2.2. แนวคิดเกยี่ วกบั การใชภ้ าษาในบทเพลงพระราชนิพนธ.์ ................................................................16 3.3.การศึกษากลวธิ ีการใชภ้ าษา............................................................................................................17
บทท่ี 3 วธิ ีดาเนินการวิจยั .............................................................................................................................18 เกณฑใ์ นการวิเคราะห์.........................................................................................................................19 3.1.เกณฑก์ ารวเิ คราะหก์ ลวธิ ีการใชค้ า.................................................................................................19 3.2เกณฑก์ ารวเิ คราะหก์ ารใชภ้ าพพจน์................................................................................................20 3.3เกณฑก์ ารวิเคราะห์แนวคิดทปี่ รากฏในบทเพลงพระราชนิพนธ.์ ....................................................20 3.4ระยะเวลาในการดาเนินการ.............................................................................................................21 บทที่ 4 ผลการศกึ ษา.....................................................................................................................................22 4.1วิเคราะหก์ ารใชภ้ าษาในบทเพลงพระราชนิพนธ.์ .............................................................................23 4.2วเิ คราะหแ์ นวคดิ ทีป่ รากฏในบทเพลงพระราชนิพนธ์.......................................................................26 บทท่ี5 สรุป อภิปราย และขอ้ เสนอแนะ......................................................................................................28 5.1 สรุปกระบวนการการศกึ ษา....................................................................................................................28 5.2 อภิปรายผล ............................................................................................................................................30 5.3 ขอ้ เสนอแนะ.........................................................................................................................................30
สารบญั ตาราง เรื่ อง....................................................................................................................... .............................หนา้ ตารางที่ 1 บทเพลงพระราชนิพนธ.์ .........................................................................................................2 ตารางที2่ ระยะเวลาในการดาเนินการ...................................................................................................21
1 โครงงานเร่ือง แนวคิดและการใชภ้ าษาในบทเพลงพระราชนิพนธ์ บทที่ ๑ บทนำ ควำมเป็ นมำและควำมสำคญั ของกำรศึกษำค้นคว้ำ กวา่ 48 บทเพลงพระราชนิพนธใ์ นพระบำทสมเด็ดพระปรมนิ ทรมหำภูมพิ ลอดุลยเดช ไดแ้ สดงใหเ้ หน็ ถงึ พระอจั ฉริยภาพทางดา้ นดนตรี พระราชนิพนธเ์ พลงและเรียบเรียงเสียงประสาน โดยแตล่ ะเพลงลว้ นมี ทว่ งทานองท่จี บั ใจ และความหมายท่ลี กึ ซ้ึงพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ ัวรชั กาลที่ 9 ทรงมพี ระราชปรีชา ญาณในเรื่องของดนตรี และทรงพระราชนิพนธท์ านองเพลงต้งั แต่ยงั ทรงเป็นสมเดจ็ พระอนุชาธิราชและ เพลงทีพ่ ระองคท์ รงแตง่ น้นั รวมบทเพลงพระราชนิพนธท์ ้งั ส้ิน 48 เพลง ผทู้ โ่ี ปรดเกลา้ ฯ ให้แตง่ คารอ้ งประกอบเพลงพระราชนิพนธม์ ีหลายทา่ น ไดแ้ ก่ พระเจา้ วรวงศเ์ ธอ พระองคเ์ จา้ จกั รพนั ธ์เพญ็ ศิริ, ศาสตราจารย์ ท่านผหู้ ญิงนพคณุ ทองใหญ่ ณ อยุธยา, ศาสตราจารย์ ดร. ประเสริฐ ณ นคร, ท่านผหู้ ญิงสมโรจน์ สวสั ดกิ ุล ณ อยุธยา, นายจานงราชกิจ (จรลั บณุ ยรตั พนั ธุ์), หมอ่ ม ราชวงศเ์ สนีย์ ปราโมช, หมอ่ มหลวงประพนั ธ์ สนิทวงศ์ และทา่ นผหู้ ญิงมณีรัตน์ บนุ นาค เป็นตน้ ในยุคแรก หลงั จากทเี่ พลงพระราชนิพนธ์มที านองและคารอ้ งสมบูรณแ์ ลว้ จะทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯใหค้ รูเอ้ือ สุนทรสนาน นาไปบรรเลงในวงดนตรีกรมโฆษณาการหรือวงกรมประชาสมั พนั ธ์ เพื่อให้ แพร่หลายทวั่ ไป และโดยพระองคท์ า่ นเองทรงดนตรีร่วมกบั วงดนตรี วง อ.ส. วนั ศุกร์ ออกอากาศ ปรากฏวา่ หลายเพลงกลายเป็นเพลงยอดนิยมท้งั ในหมชู่ าวไทยและชาวต่างประเทศในระยะหลงั พระองคม์ ีพระราช กรณียกิจมากมาย ทาใหพ้ ระองคท์ รงไมม่ ีเวลาที่จะพระราชนิพนธ์เพลง เพลงสุดทา้ ยทพ่ี ระองคท์ รงพระราช นิพนธอ์ อกมาคือเพลง “เมนูไข่” เป็นตน้
2 ดงั น้นั คณะผูจ้ ดั ทาจึงสนใจและตอ้ งการท่ีจะศึกษาแนวคดิ และการใชภ้ าษาในบทเพลงพระราชนิพนธ์ จานวน 48 เพลง ไดแ้ ก่ 1. แสงเทยี น (Candlelight Blues) 25. สายลม (I Think of You) 2. ยามเยน็ (Love at Sundown) 26. ไกลกงั วล (When), 3. สายฝน (Falling Rain) 27. แสงเดือน (Magic Beams) 4. ใกลร้ ุ่ง (Near Dawn) 28. ฝัน (Somewhere Somehow) 5. ชะตาชีวิต (H.M. Blues) 29. มาร์ชราชนาวิกโยธิน (Royal Marines March) 6. ดวงใจกบั ความรัก (Never Mind the Hungry Men’s 30. ภริ มยร์ กั (A Love Story) Blues) 31. Nature Waltz 7. มาร์ชราชวลั ลภ (Royal Guards March) 32. The Hunter 8. อาทติ ยอ์ บั แสง (Blue Day) 33. Kinari Waltz 9. เทวาพาค่ฝู นั (Dream of Love Dream of You) 34. แผ่นดินของเรา (Alexandra) 10. คาหวาน (Sweet Words) 11. มหาจุฬาลงกรณ์ (Maha Chulalongkorn) 35. พระมหามงคล 12. แกว้ ตาขวญั ใจ (Lovelight in My Heart) 13. พรปี ใหม่ 36. ยูงทอง 37. ในดวงใจนิรนั ดร์ (Still on My Mind) 14. รกั คืนเรือน (Love Over Again) 38. เตือนใจ (Old-Fashioned Melody) 15. ยามค่า (Twilight) 39. ไรเ้ ดือน (No Moon), ไร้จนั ทร์ 40. เกาะในฝัน (Dream Island) 16. ยิม้ สู้ (Smiles) 41. แว่ว (Echo) 17. มาร์ชธงไชยเฉลมิ พล (The Colours March) 42. เกษตรศาสตร์ 18. เม่อื โสมส่อง (I Never Dream) 43. ความฝนั อนั สูงสุด (The Impossible Dream) 19. ลมหนาว (Love in Spring) 44. เราสู้ 20. ศกุ ร์สัญลกั ษณ์ (Friday Night Rag) 45. เรา-เหลา่ ราบ ๒๑ (We-Infantry Regiment 21) 21. Oh I say 46. Blues for Uthit 22. Can’t You Ever See 23. Lay Kram Goes Dixie 47. รกั 24. คา่ แลว้ (Lullaby) 48. เมนูไข่
3 วัตถุประสงค์ในกำรศึกษำค้นคว้ำ 1. เพอื่ ศึกษาแนวคิดในบทเพลงพระราชนิพนธ์ 2. เพือ่ ศึกษาการใชภ้ าษาในบทเพลงพระราชนิพนธ์ ขอบเขตของกำรศึกษำค้นคว้ำ 1. ศกึ ษาแนวคดิ ในบทเพลงพระราชนิพนธ์ จานวน 48 เพลง 2. ศกึ ษาการใชภ้ าษาภาพพจน์ต่างๆท่ีปรากฏในบทเพลงพระราชนิพนธ์ จานวน 48 บทเพลง 3. เน้ือหาทใ่ี ชใ้ นการศกึ ษาคน้ ควา้ คร้ังน้ีคอื เน้ือเพลงท้งั 48 บทเพลง ประโยชน์ทค่ี ำดว่ำจะได้รับ 1. โครงงาน เรื่อง การศึกษาแนวคิดและการใชภ้ าษาในบทเพลงพระราชนิพนธข์ องราชกาลท่ี9 เป็น ตน้ แบบของการศกึ ษาแนวทางการวิเคราะห์คณุ ค่าของวรรณคดไี ทย 2. ผลที่ไดจ้ ากการดาเนินโครงงาน เรื่อง การศกึ ษาแนวคิดและการใชภ้ าษาในบทเพลงพระราชนิ พนธิ เป็นองคค์ วามรู้ใหม่ทส่ี ามารถนาไปใชป้ ระกอบการเรียนรูไ้ ด้ นยิ ำมศัพท์เฉพำะ 1. การใชภ้ าษา หมายถึง ศลิ ปะในการประพนั ธ์ การใชถ้ อ้ ยคา สานวน โวหารท่ีมคี วามไพเราะ ลกึ ซ้ึง กินใจ ก่อใหเ้ กดิ จนิ ตนาการ หรือกระทบความรูส้ ึกของผอู้ ่านหรือผฟู้ ัง 2. บทเพลงพระราชนิพนธ์ หมายถงึ บทเพลงที่จดั วา่ เป็นเพลงที่พระบาทสมเด็จพระเจา้ อย่หู ัวภูมพิ ลอดุลย เดชทรงพระราชนิพนธ์ข้ึน 3.. ภาพพจน์ หมายถึง ถอ้ ยคาที่เป็นสานวนโวหารทาให้นึกเห็นภาพ, ถอ้ ยคาที่แต่งข้นึ อย่างมีช้ันเชิง เพื่อให้ ผอู้ า่ นผฟู้ ังเหน็ ภาพแจ่มชดั และรู้สึกลึกซ้ึงในเน้ือหา.
4 บทที่ ๒ เอกสำรและงำนวจิ ยั ที่เก่ียวข้อง ในการวจิ ยั เร่ือง แนวคิดและการใชภ้ าษาในบทเพลงพระราชนิพนธ์ คร้งั น้ี ผวู้ จิ ยั ไดศ้ ึกษาเอกสารและ งานวจิ ยั ท่เี กี่ยวขอ้ ง โดยจาแนกเป็นความรูห้ ลกั ๆได้ ดงั น้ี ๑.ความรูเ้ กยี่ วกบั บทเพลงพระราชนิพนธ์ ๒. แนวคดิ เกย่ี วกบั การใชภ้ าษากบั เพลง ๓.การศึกษากลวธิ ีการใชภ้ าษา 1. ความรูเ้ ก่ียวกบั บทเพลงพระราชนิพนธ์ บทเพลงพระราชนิพนธ์ คอื บทเพลงทพ่ี ระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั ไดท้ รงพระมหากรุณารบั สงั่ เลา่ เบ้ืองหลงั การพระราชนิพนธเ์ พลงเป็นคร้งั แรกแก่สมาคมดนตรีเนื่องในโอกาสทพี่ ระราชทานเพลงพระราช นิพนธ์ \" Echo\" บรรเลงเป็นปฐมฤกษว์ ่า”( เพลงแรกคอื แสงเทียน)... จากน้นั ฉันก็แตง่ ข้นึ อีกเรื่อย ๆ จนบดั น้ี รวมท้งั หมด ๔๐ เพลง ในระยะเวลา ๒๐ ปี คิดเฉลีย่ ปี ละ ๒ เพลง ทที่ าไดก้ ็เพราะไดร้ ับความสนบั สนุนจาก นกั ดนตรี นกั เพลงและนกั รอ้ ง รวมท้งั ประชาชนผฟู้ ัง ต่างไดแ้ สดงความพอใจ และความนิยมพอสมควร จงึ เป็นกาลงั ใจแกฉ่ ันเร่ือยมาขอถือโอกาสขอบใจมาในทนี่ ้ีดว้ ย \" พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หัวภมู พิ ลอดุลยเดช ทรงพระราชนิพนธ์ทานองเพลง \"Echo\" ในปี พุทธศกั ราช ๒๕๐๙ นบั เป็นบทแรกทท่ี รงพระราชนิพนธ์ ทานองเพลงพร้อมคาร้องภาษาองั กฤษ ขณะน้นั มพี ระชนมพรรษา ๔๐ พรรษา พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดุลยเดช มีพระราชปรีชาญาณในเร่ืองของดนตรี ทรงพระ ราชนิพนธ์ทานองเพลงต้งั แตย่ งั ทรงเป็นสมเด็จพระอนุชาธิราช รวมบทเพลงพระราชนิพนธท์ ้งั ส้ิน 48 เพลง จากฝีพระหตั ถข์ องพระองค์ โดยทรงพระราชนิพนธท์ านองและคารอ้ งภาษาองั กฤษดว้ ยพระองคเ์ อง มี 5 เพลง คอื “Echo”, “Still on My Mind”, “Old-Fashioned Melody”, “No Moon” และ “Dream Island” นอกจากน้ี มีเพลงทท่ี รง พระราชนิพนธ์ทานองข้นึ ภายหลงั ใส่ในคาร้องทีม่ ผี ปู้ ระพนั ธ์ไวแ้ ลว้ คอื “ควำมฝนั อนั สูงสุด”, “เรำสู้” และ “รัก”
5 1. แสงเทยี น (Candlelight Blues) เพลงพระราชนิพนธแ์ สงเทยี น หรือ Candlelight Blues เป็นเพลงพระราชนิพนธ์เพลงแรก ทรงพระราช นิพนธใ์ นเดือนเมษายน พ.ศ. ๒๔๘๙ คร้งั ดารงพระราชอิสริยยศเป็นสมเดจ็ พระอนุชาธิราช เป็นงานทดลอง ของพระองคใ์ นจงั หวะบลสู ์ ไดท้ รงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ใหพ้ ระเจา้ วรวงศเ์ ธอ พระองคเ์ จา้ จกั รพนั ธ์เพญ็ ศิริ นิพนธค์ ารอ้ งภาษาไทย 2. ยามเยน็ (Love at Sundown) เพลงพระราชนิพนธ์ ยามเยน็ หรือ Love at Sundown เพลงพระราชนิพนธล์ าดบั ท่ี ๒ ทรงพระราชนิพนธ์ ใน พ.ศ. ๒๔๘๙ ขณะยงั ทรงเป็นสมเดจ็ พระอนุชาธิราช เป็นงานทดลองของพระองคใ์ นจงั หวะฟ็อกซ์ทร็อต ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ใหพ้ ระเจา้ วรวงศเ์ ธอ พระองคเ์ จา้ จกั รพนั ธ์เพญ็ ศิริ นิพนธค์ าร้องภาษาไทย และ ทา่ นผหู้ ญิงนพคุณ ทองใหญ่ ณ อยธุ ยา แต่งคารอ้ งภาษาองั กฤษ 3. สายฝน (Falling Rain) เพลงพระราชนิพนธ์ สายฝน หรือ Falling Rain เป็นเพลงพระราชนิพนธ์ลาดบั ที่ ๓ ทรงพระราชนิพนธ์ใน พ.ศ. ๒๔๘๙ ขณะทรงเป็นสมเด็จพระอนุชาธิราช เป็นงานทดลองของพระองคใ์ นจงั หวะวอลทซ์ ทรงพระ กรุณาโปรดเกลา้ ฯ ให้พระเจา้ วรวงศเ์ ธอ พระองคเ์ จา้ จกั รพนั ธ์เพญ็ ศิริ นิพนธค์ ารอ้ งภาษาไทย ส่วน ภาษาองั กฤษ พระเจา้ วรวงศเ์ ธอ พระองคเ์ จา้ จกั รพนั ธ์เพญ็ ศิริ ทรงแต่งร่วมกบั ทา่ นผหู้ ญงิ นพคณุ ทองใหญ่ ณ อยุธยา 4. ใกลร้ ุ่ง (Near Dawn) เพลงพระราชนิพนธ์ ใกลร้ ุ่ง หรือ Near Dawn เป็นเพลงพระราชนิพนธล์ าดบั ท่ี 4 ทรงพระราชนิพนธ์ใน พ.ศ. 2489 ขณะทรงเป็นสมเด็จพระอนุชาธิราช ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ให้ศาสตราจารย์ ดร.ประเสริฐ ณ นคร ประพนั ธ์คาร้องภาษาไทย ส่วนคาร้องภาษาองั กฤษ ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ให้ทา่ นผหู้ ญิงนพคุณ ทอง ใหญ่ ณ อยุธยา ประพนั ธ์ 5. ชะตาชีวติ (H.M. Blues) เพลงพระราชนิพนธ์ ชะตาชีวิต หรือ H.M. Blues เป็นเพลงพระราชนิพนธ์ลาดบั ท่ี ๕ ทรงพระราชนิพนธ์ หลงั จากเสดจ็ ข้นึ ครองราชยส์ มบตั ิ และเสด็จพระราชดาเนินไปทรงศกึ ษาตอ่ ทป่ี ระเทศสวติ เซอร์แลนด์ ทรง พระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ใหพ้ ระเจา้ วรวงศเ์ ธอ พระองคเ์ จา้ จกั รพนั ธเ์ พญ็ ศริ ิ ทรงพระนิพนธ์คารอ้ ง ภาษาองั กฤษ
6 6. ดวงใจกบั ความรกั (Never Mind the Hungry Men’s Blues) เพลงพระราชนิพนธ์ ดวงใจกบั ความรกั หรือ Never Mind The Hungry Men’s Blues เป็นเพลงพระราช นิพนธ์ลาดบั ที่ ๖ ทรงพระราชนิพนธ์ในพ.ศ. ๒๔๙๐ ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ใหพ้ ระเจา้ วรวงศเ์ ธอ พระองคเ์ จา้ จกั รพนั ธ์เพญ็ ศริ ิ นิพนธค์ ารอ้ งภาษาไทย ในงานเฉลมิ พระชนมพรรษา วนั เสาร์ที่ ๖ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๔๙๐ หลงั จากไดเ้ สวยพระกระยาหาร และนกั ดนตรีไดร้ บั ประทานอาหารแลว้ โปรดเกลา้ ฯ ใหพ้ ระ เจา้ วรวงศเ์ ธอพระองคเ์ จา้ จกั รพนั ธเ์ พญ็ ศริ ิ นิพนธ์คารอ้ งภาษาองั กฤษ และพระราชทานช่ือว่า Never Mind the H.M Blues เป็นการตอบปริศนาคาทายท่ีว่า H.M. แปลว่าอะไร ของเพลง H.M. Blues 7. มาร์ชราชวลั ลภ (Royal Guards March) เพลงพระราชนิพนธ์ มาร์ชราชวลั ลภ หรือ Royal Guards March เป็นเพลงพระราชนิพนธล์ าดบั ท่ี ๗ ทรง พระราชนิพนธข์ ้ึนใน พ.ศ. ๒๔๙๑ ช่ือ “ราชวลั ลภ” และพระราชทานใหเ้ ป็นเพลงประจากรมทหารราบที่ ๑ มหาดเล็กรักษาพระองค์ เพอ่ื ไวใ้ ชใ้ นพธิ ีสวนสนาม หลงั จากน้นั ผบ.กรมทหารราบที่ ๑ มหาดเลก็ รักษา พระองคไ์ ดม้ อบหมายใหพ้ นั ตรี ศรีโพธ์ิ ทศนุต แต่งคาร้องภาษาไทยถวาย มหี ้องเพลงยาวกวา่ เดมิ จงึ ขอพระราชทานทานองเพมิ่ เติมเพื่อให้เขา้ กบั คาร้องในการแกไ้ ขทานองให้เขา้ กบั คารอ้ งน้ี ทรงพระกรุณา โปรดเกลา้ ฯ ให้พระเจนดุริยางค์ (ปิ ติ วาทยกร) ชว่ ยตรวจทาน และไดพ้ ระราชทานนามเพลงพระราชนิพนธ์ น้ีว่า “มาร์ชราชวลั ลภ” (The Royal Guards March) เม่ือ พ.ศ. ๒๔๙๕ 8. อาทิตยอ์ บั แสง (Blue Day) เพลงพระราชนิพนธ์ อาทติ ยอ์ บั แสง หรือ Blue Day เป็นเพลงพระราชนิพนธล์ าดบั ที่ 8 ทรงพระราชนิพนธ์ เมือ่ วนั พธุ ท่ี 3 กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. 2492 ขณะประทบั แรมบนภเู ขาในเมืองดาโวส์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ต่อมา ไดท้ รงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ใหพ้ ระเจา้ วรวงศเ์ ธอ พระองคเ์ จา้ จกั รพนั ธเ์ พญ็ ศิริ นิพนธ์คาร้องท้งั ภาษาองั กฤษและภาษาไทย
7 9. เทวาพาคู่ฝนั (Dream of Love Dream of You) เพลงพระราชนิพนธ์ เทวาพาคู่ฝนั (Dream of Love Dream of You) เป็นเพลงพระราชนิพนธล์ าดบั ที่ ๙ ทรง พระราชนิพนธ์เมื่อวนั จนั ทร์ที่ ๗ กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๔๙๒ ขณะประทบั ณ เมืองดาโวส์ ประเทศ สวิตเซอร์แลนด์ และทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ใหพ้ ระเจา้ วรวงศเ์ ธอ พระองคเ์ จา้ จกั รพนั ธ์เพญ็ ศริ ิ นิพนธ์ คาร้องท้งั ภาษาองั กฤษ และภาษาไทย 10. คาหวาน (Sweet Words) คาหวาน หรือ Sweet Words เป็นเพลงพระราชนิพนธล์ าดบั ที่ ๑๐ ทรงพระราชนิพนธ์เม่ือวนั อาทติ ยท์ ี่ ๑๓ กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๔๙๒ ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ให้พระเจา้ วรวงศเ์ ธอ พระองคเ์ จา้ จกั รพนั ธเ์ พญ็ ศิริ นิพนธค์ าร้องท้งั ภาษาไทยและภาษาองั กฤษ 11. มหาจุฬาลงกรณ์ (Maha Chulalongkorn) มหาจุฬาลงกรณ์ เป็นเพลงพระราชนิพนธล์ าดบั ท่ี 11 ของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั ภมู พิ ลอดุลยเดช โดย พระองคท์ รงพระราชนิพนธท์ านองเพลง โดยมที ่านผหู้ ญงิ สมโรจน์ สวสั ดกิ ลุ ณ อยุธยา และ สุภร ผลชีวนิ เป็นผปู้ ระพนั ธเ์ น้ือเพลง พระองคท์ รงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ พระราชทานเพลงมหาจุฬาลงกรณใ์ หเ้ ป็นเพลง ประจาสถาบนั ของจฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั นิสิตและบคุ คลากรที่เก่ียวขอ้ งกบั จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั จะยนื ตรงเมอื่ เพลงมหาจุฬาลงกรณด์ งั ข้นึ 12. แกว้ ตาขวญั ใจ (Lovelight in My Heart) เพลงพระราชนิพนธ์ แกว้ ตาขวญั ใจ หรือ Lovelight in My Heart เป็นเพลงพระราชนิพนธล์ าดบั ที่ ๑๒ ทรง พระราชนิพนธใ์ นพ.ศ. ๒๔๙๒ ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ให้พระเจา้ วรวงศเ์ ธอ พระองคเ์ จา้ จกั รพนั ธ์เพญ็ ศิริ นิพนธค์ าร้องท้งั ภาษาไทยและภาษาองั กฤษ เป็นเพลงในจงั หวะวอลทซ์
8 13. พรปีใหม่ เพลงพระราชนิพนธ์ พรปี ใหม่ เป็นเพลงพระราชนิพนธล์ าดบั ที่ ๑๓ ทรงพระราชนิพนธข์ ้นึ ในเดอื นธนั วาคม พ.ศ. ๒๔๙๔ เม่อื เสดจ็ นิวตั พระนครและประทบั ณ พระตาหนกั จติ รลดารโหฐาน พระราชวงั ดุสิต มพี ระราช ประสงคท์ จ่ี ะพระราชทานพรปี ใหม่ แกบ่ รรดาพสกนิกรไทยดว้ ยเพลง จึงทรงพระราชนิพนธเ์ พลง “พรปี ใหม่” และทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ใหพ้ ระเจ้าวรวงศเ์ ธอ พระองคเ์ จา้ จกั รพนั ธ์เพญ็ ศริ ิ นิพนธค์ ารอ้ งเป็นคา อวยพรปี ใหม่ แลว้ พระราชทานแกว่ งดนตรี ๒ วง คอื วงดนตรีนิสิตจุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลยั นาออกบรรเลง ณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั และวงดนตรีสุนทราภรณ์ นาออกบรรเลง ณ ศาลาเฉลมิ ไทย ในวนั ปี ใหม่ วนั องั คารที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๔๙๕ 14. รกั คนื เรือน (Love Over Again) เพลงพระราชนิพนธ์ รกั คนื เรือน หรือ Love Over Again เป็นเพลงพระราชนิพนธ์ลาดบั ท่ี ๑๔ ทรงพระราช นิพนธ์ใน พ.ศ. ๒๔๙๕ และทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ใหพ้ ระเจา้ วรวงศเ์ ธอ พระองคเ์ จา้ จกั รพนั ธ์เพญ็ ศิริ นิพนธค์ าร้องท้งั ภาษาองั กฤษและภาษาไทย แลว้ พระราชทานใหน้ าออกบรรเลงในงานของสมาคมนกั เรียน เก่าองั กฤษ ในพระบรมราชูปถมั ภ์ ณ เวทีลีลาศ สวนอมั พร เมอื่ วนั ที่ ๒ กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๔๙๕ 15. ยามคา่ (Twilight) เพลงพระราชนิพนธ์ ยามคา่ หรือ Twilight เป็นเพลงพระราชนิพนธ์ลาดบั ที่ ๑๕ ทรงพระราชนิพธ์ใน พ.ศ. ๒๔๙๕ ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ใหพ้ ระเจา้ วรวงศเ์ ธอ พระองคเ์ จา้ จกั รพนั ธ์เพญ็ ศิริ นิพนธ์คารอ้ งท้งั ภาษาองั กฤษและภาษาไทย แลว้ ไดพ้ ระราชทานให้นาออกบรรเลง ในงานของสมาคมนักเรียนเก่า สหรัฐอเมริกา ในพระบรมราชูปถมั ภ์ ณ สโมสรสวนสราญรมย์ เมื่อวนั เสาร์ท่ี ๒๓ กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๔๙๕ เป็นเพลงในจงั หวะฟอกซ์ทร็อต
9 16. ย้ิมสู้ (Smiles) เพลงพระราชนิพนธ์ ยิ้มสู้ หรือ Smiles เป็นเพลงพระราชนิพนธ์ ลาดบั ท่ี ๑๖ ทรงพระราชนิพนธใ์ น พ.ศ. ๒๔๙๕ ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ใหพ้ ระเจา้ วรวงศเ์ ธอ พระองคเ์ จา้ จกั รพนั ธ์เพญ็ ศิริ นิพนธ์คาร้อง ภาษาไทย เพื่อเป็นการปลอบขวญั และให้กาลงั ใจแก่คนตาบอด แลว้ พระราชทานใหน้ าไปบรรเลง ในงาน สมาคมชว่ ยคนตาบอด ในพระบรมราชปู ถมั ภ์ ณ เวทีลีลาศสวนอมั พร เมอื่ วนั เสาร์ท่ี ๑ มนี าคม ๒๔๙๕ ส่วน คาร้องภาษาองั กฤษ พระเจา้ วรวงศเ์ ธอ พระองค์เจา้ จกั รพนั ธ์เพญ็ ศิริ ทรงนิพนธ์ในปี ตอ่ มา 17. มาร์ชธงไชยเฉลมิ พล (The Colours March) เพลงพระราชนิพนธ์ มาร์ชธงไชยเฉลิมพล หรือ The Colours March เป็นเพลงพระราชนิพนธล์ าดบั ท่ี ๑๗ ทรงพระราชนิพนธใ์ น พ.ศ. ๒๔๙๕ ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ พระราชทานแกก่ องทพั ไทย เพ่อื ใชใ้ นการ เชิญธงไชยเฉลมิ พลในพธิ ีการของกองทพั 18. เมือ่ โสมส่อง (I Never Dream) เพลงพระราชนิพนธ์ เมื่อโสมส่อง หรือ I Never Dream เป็นเพลงพระราชนิพนธ์ลาดบั ที่ ๑๘ ทรงพระราช นิพนธ์ใน พ.ศ. ๒๔๙๕ ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ให้พระเจา้ วรวงศเ์ ธอ พระองคเ์ จา้ จกั รพนั ธ์เพญ็ ศิริ นิพนธ์คาร้องภาษาองั กฤษ ไดพ้ ระราชทานให้นาไปบรรเลงในงานร่ืนเริงประจาปี ของสมาคมนักเรียนเกา่ สหรัฐอเมริกาในพระบรมราชปู ถมั ภ์ ณ สโมสรสวนสราญรมย์ เม่อื วนั เสาร์ที่ ๒๓ มกราคม พ.ศ. ๒๔๙๗ ต่อมา ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ใหท้ า่ นผหู้ ญิงสมโรจน์ สวสั ดิกุล ณ อยธุ ยา แตง่ คารอ้ งภาษาไทยถวาย 19. ลมหนาว (Love in Spring) ลมหนาว, เพลงซ่ึงพระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดชทรงประพนั ธท์ านอง และสมโรจน์ สวสั ดกิ ลุ ณ อยุธยา ประพนั ธค์ าร้อง
10 20. ศกุ ร์สัญลกั ษณ์ (Friday Night Rag) เพลงพระราชนิพนธ์ ศุกร์สัญลกั ษณ์ หรือ Friday Night Rag เพลงพระราชนิพนธ์ลาดบั ท่ี ๒๐ ทรงพระราช นิพนธ์ใน พ.ศ. ๒๔๙๗ เพื่อเป็นเพลงประจาวงดนตรี “ลายคราม” โดยบรรเลงทุกคร้ังท่ที รงดนตรีกบั วงลาย คราม พระราชทานออกบรรเลงคร้ังแรกทางสถานีวิทยุ อ.ส. ประพนั ธ์คาร้องโดย หมอ่ มราชวงศเ์ สนีย์ ปราโมช ท้งั ภาษาไทยและภาษาองั กฤษ 21. Oh I say Oh I Say เป็นเพลงพระราชนิพนธ์อนั ดบั ท่ี 21 ทรงพระราชนพิ นธใ์ น พ.ศ. 2498 ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ให้ หม่อมราชวงศ์ เสนีย์ ปราโมช ประพนั ธค์ าร้องภาษาองั กฤษ แลว้ พระราชทานให้นาออกบรรเลงในงาน ของสมาคมนกั เรียนเก่าสหรัฐอเมริกาในพระบรมราชปู ถมั ภ์ ณ สโมสรสวนสราญรมย์ เมือ่ วนั เสาร์ที่ 5 กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. 2498 เพลงพระราชนิพนธ์น้ีไมม่ คี ารอ้ งภาษาไทย 22. Can’t You Ever See เพลงพระราชนิพนธ์ Can’t You Ever See เป็นเพลงพระราชนิพนธ์อนั ดบั ท่ี ๒๒ ทรงพระราชนิพนธ์ใน พ.ศ. ๒๔๙๘ ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ใหพ้ ระเจา้ วรวงศเ์ ธอ พระองคเ์ จา้ จกั รพนั ธเ์ พญ็ ศิริ นิพนธค์ าร้อง ภาษาองั กฤษ แลว้ พระราชทานให้นาออกบรรเลงในงานรื่นเริงประจาปี ของสมาคมนักเรียนเกา่ องั กฤษใน พระบรมราชูปถมั ภ์ ณ เวทีลลี าศสวนลมุ พินี เม่ือวนั เสาร์ท่ี ๑๒ กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๔๙๘ เพลงพระราชนิพนธ์ น้ีไมม่ คี าร้องภาษาไทย 23. Lay Kram Goes Dixie เพลงพระราชนิพนธ์ Lay Kram Goes Dixie เป็นเพลงพระราชนิพนธ์ลาดบั ท่ี 23 ทรงพระราชนิพนธใ์ นปี พ.ศ. 2498 พระราชทานใหแ้ ก่ วงลายคราม ซ่ึงเป็นวงดนตรีแจ๊สส่วนพระองค์ ที่ทรงต้งั ข้ึนหลงั จากเสดจ็ นิวตั ประเทศไทย บรรเลงคร้ังแรกทางสถานีวิทยุ อ.ส. 24. ค่าแลว้ (Lullaby) คา่ แลว้ หรือ Lullaby เป็นเพลงพระราชนิพนธ์ลาดบั ที่ ๒๔ ทรงพระราชนิพนธ์เมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๙๘ ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ให้พระเจา้ วรวงศเ์ ธอ พระองคเ์ จา้ จกั รพนั ธเ์ พญ็ ศริ ิ นิพนธค์ ารอ้ ง ภาษาองั กฤษร่วมกบั ท่านผหู้ ญิงนพคุณ ทองใหญ่ ณ อยธุ ยา และทา่ นผหู้ ญงิ สมโรจน์ สวสั ดิกลุ ณ อยุธยา ประพนั ธ์คาร้องภาษาไทย
11 25. สายลม (I Think of You) เพลงพระราชนิพนธ์ สายลม หรือ I Think of You เป็นเพลงพระราชนิพนธ์ลาดบั ที่ ๒๕ ทรงพระราชนิพนธ์ ใน พ.ศ. ๒๕๐๐ ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ให้ พระเจา้ วรวงศเ์ ธอ พระองคเ์ จา้ จกั รพนั ธ์เพญ็ ศิริ นิพนธ์คา รอ้ งท้งั ภาษาองั กฤษและภาษาไทย แลว้ พระราชทานใหน้ าออกบรรเลงคร้ังแรกในงานของ สมาคมนักเรียน เกา่ สหรัฐอเมริกาในพระบรมราชูปถมั ภ์ ณ เวทีลลี าศสวนอมั พร เมอ่ื วนั ท่ี ๙ มนี าคม พ.ศ. ๒๕๐๐ 26. ไกลกงั วล (When), เกดิ เป็นไทยตายเพอ่ื ไทย เพลงพระราชนิพนธ์ ไกลกงั วล หรือ When หรือ เกดิ เป็นไทยตายเพ่ือไทย เป็นเพลงพระราชนิพนธล์ าดบั ที่ ๒๖ ทรงพระราชนิพนธ์ทานองขณะประทบั อยูท่ ี่วงั ไกลกงั วล ในพ.ศ. ๒๕๐๐ เพอื่ พระราชทานใหเ้ ป็นเพลง ระจาวงดนตรี “อ.ส.วนั ศุกร์” ใชบ้ รรเลงเป็นเพลงสุดทา้ ยกอ่ นเลิกเล่นดนตรี ไดพ้ ระราชทานใหน้ าออ บรรเลงในงานสมาคมนกั เรียนเก่าองั กฤษในพระบรมราชปู ถมั ภ์ ณ เวทีลีลาศสวนอมั พร เมือ่ วนั ท่ี ๑๗ มนี าคม พ.ศ. ๒๕๐๐ ผปู้ ระพนั ธ์คาร้องภาษาไทยคือ นายวิชยั โกกลิ กนิษฐ 27. แสงเดือน (Magic Beams) เพลงพระราชนิพนธ์ แสงเดือน หรือ Magic Beams เป็นเพลงพระราชนิพนธ์ลาดบั ท่ี ๒๗ ทรงพระราช นิพนธข์ ้ึนใน พ.ศ. ๒๕๐๑ ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ใหพ้ ระเจา้ วรวงศเ์ ธอ พระองคเ์ จา้ จกั รพนั ธเ์ พญ็ ศริ ิ นิพนธค์ ารอ้ งท้งั ภาษาองั กฤษและภาษาไทย เพลงพระราชนิพนธ์น้ีมีลีลาชดชอ้ ย อ่อนหวาน สง่างาม เหมาะสาหรบั ประกอบการเตน้ บลั เล่ต์ จงึ ได้ พระราชทานให้อญั เชิญไปประกอบการแสดงบลั เลต่ ใ์ นงานสมาคมนกั เรียนเก่าองั กฤษในพระบรม ราชปู ถมั ภ์ ณ เวทีลีลาศสวนอมั พร เมื่อวนั ท่ี ๘ กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๕๐๑ ตอ่ มาไดน้ าออกบรรเลงในงาน สมาคมนกั เรียนเกา่ สหรฐั อเมริกาในพระบรมราชปู ถมั ภ์ เมื่อวนั ท่ี ๒๒ กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๕๐๑ 28. ฝัน (Somewhere Somehow), เพลนิ ภพู ิงค์ ฝนั หรือ เพลินภูพงิ ค์ หรือ Somewhere Somehow เป็นเพลงพระราชนิพนธ์ลาดบั ท่ี ๒๘ ทรงพระราชนิพนธ์ ใน พ.ศ. ๒๕๐๒ ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ให้พระเจา้ วรวงศเ์ ธอ พระองคเ์ จา้ จกั รพนั ธเ์ พญ็ ศริ ิ นิพนธค์ า ร้องภาษาองั กฤษ และนายศรีสวสั ด์ิ พิจติ รวรการ ประพนั ธค์ ารอ้ ง “ฝนั ” ไดพ้ ระราชทานใหน้ าออกบรรเลงคร้ังแรกในงานสมาคมนกั เรียนเก่าสหรฐั อเมริกาในพระบรมราชูปถมั ภ์ ณ เวทีลลี าศสวนอมั พร เมีอ่ วนั ที่ ๒๑ กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๕๐๒ และพระราชทานให้บรรเลงในงานสมาคม นกั เรียนเกา่ องั กฤษในพระบรมราชปู ถมั ภ์ ในวนั ท่ี ๒๘ กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๕๐๒
12 29. มาร์ชราชนาวกิ โยธิน (Royal Marines March) เพลงพระราชนิพนธ์ มาร์ชราชนาวิกโยธิน หรือ Royal Marines March เป็นเพลงพระราชนิพนธ์ลาดบั ที่ ๒๙ ทรงพระราชนิพนธ์เม่อื พ.ศ. ๒๕๐๒ พล.ร.ต.สนอง นิสาลกั ษณ์ ผูบ้ ญั ชาการกรมนาวกิ โยธินในขณะน้ัน ได้ กราบบงั คมทูลขอพระราชทานเพลงประจากรมนาวิกโยธิน ซ่ึงไดโ้ ปรดเกลา้ ฯ พระราชทานให้เมื่อวนั ท่ี ๒๘ มถิ นุ ายน ๒๕๐๒ และไดโ้ ปรดเกลา้ ฯใหน้ าออกบรรเลงคร้ังแรกเม่อื วนั ที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๐๒ โดยวงดนตรีประจากองเรือท่ี ๗ ของสหรัฐอเมริกา ในโอกาสทนี่ าวกิ โยธินอเมริกนั ประจากองเรือท่ี ๗ ของสหรฐั อเมริกาเดินทางมาเยอื น ประเทศไทย 30. ภริ มยร์ กั (A Love Story) เพลงพระราชนิพนธ์ ภริ มยร์ ัก หรือ A Love Story เป็นเพลงพระราชนิพนธล์ าดบั ที่ ๓๐ ทรงพระกรุณาโปรด เกลา้ ฯใหพ้ ระเจา้ วรวงศเ์ ธอ พระองคเ์ จา้ จกั รพนั ธ์เพญ็ ศริ ิ นิพนธค์ าร้องภาษาองั กฤษ “A Love Story” และพล เรือตรี ปรีชา ดิษยนนั ทน์ ประพนั ธค์ าร้อง ภาษาไทย “ภริ มยร์ กั ” 31. Nature Waltz Nature Waltz หน่ึงในเพลงพระราชนิพนธ์ชดุ Kinari Suite หรือ กนิ รี เป็นเพลงพระราชนิพนธใ์ น พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ภูมพิ ลอดลุ ยเดช ชดุ ที่ทรงพระราชนิพนธ์ใน พ.ศ. 2502 เพื่อประกอบการแสดง ระบาบลั เล่ต์ ชดุ มโนห์รา ทรงแยกและเรียบเรียงเสียงประสานดว้ ยพระองคเ์ องท้งั ชดุ โปรดเกลา้ ฯ ใหว้ ง ดุริยางคร์ าชนาวบี รรเลงประกอบการแสดงบลั เลต่ ช์ ุดมโนหร์ า ณ เวทลี ลี าศสวนอมั พร 32. The Hunter The Hunter หน่ึงในเพลงพระราชนิพนธ์ชุด Kinari Suite หรือ กนิ รี เป็นเพลงพระราชนิพนธใ์ น พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อย่หู ัวภมู พิ ลอดลุ ยเดช ชดุ ท่ที รงพระราชนิพนธ์ใน พ.ศ. 2502 เพอ่ื ประกอบการแสดง ระบาบลั เลต่ ์ ชุด มโนห์รา ทรงแยกและเรียบเรียงเสียงประสานดว้ ยพระองคเ์ องท้งั ชดุ โปรดเกลา้ ฯ ใหว้ ง ดุริยางคร์ าชนาวบี รรเลงประกอบการแสดงบลั เล่ตช์ ดุ มโนห์รา ณ เวทีลีลาศสวนอมั พร 33. Kinari Waltz Kinari Waltz หน่ึงในเพลงพระราชนิพนธ์ชุด Kinari Suite หรือ กินรี เป็นเพลงพระราชนิพนธใ์ น พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หวั ภูมพิ ลอดลุ ยเดช ชดุ ทที่ รงพระราชนิพนธใ์ น พ.ศ. 2502 เพือ่ ประกอบการแสดง ระบาบลั เล่ต์ ชุด มโนห์รา ทรงแยกและเรียบเรียงเสียงประสานดว้ ยพระองคเ์ องท้งั ชดุ โปรดเกลา้ ฯ ใหว้ ง ดุริยางคร์ าชนาวบี รรเลงประกอบการแสดงบลั เลต่ ช์ ดุ มโนห์รา ณ เวทลี ลี าศสวนอมั พร
13 34. แผ่นดินของเรา (Alexandra) แผน่ ดนิ ของเรา Alexandra เป็นเพลงพระราชนิพนธล์ าดบั ท่ี ๓๔ ทรงพระราชนิพนธโ์ อกาสทเ่ี จา้ หญิงอเล็ก ซานดราแห่งเคนท์ สหราชอาณาจกั ร เสดจ็ เยอื นประเทศไทย ใน พ.ศ. ๒๕๐๒ โดยในคร้งั น้นั พระบาท สมเด็จพระเจา้ อยู่หวั เสดจ็ ไปรับดว้ ยพระองคเ์ องทส่ี นามบนิ ดอนเมือง ระหว่างทร่ี อเครื่องบนิ ลงจอดราว ๑๐ นาที พระองคก์ ท็ รงตดั สินพระทยั ทีจ่ ะแตง่ เพลงตอ้ นรบั เจา้ หญงิ ในการมาเยือนคร้งั น้ี ทรงประพนั ธท์ านอง เพลงภายในเวลาไม่ก่ีนาที จากน้นั กท็ รงส่งโนต้ น้นั ให้หมอ่ มราชวงศเ์ สนีย์ ปราโมช ประพนั ธ์เน้ือรอ้ งใหก้ บั ทานองเพลงน้ันทนั ที 35. พระมหามงคล เพลงพระราชนิพนธ์ พระมหามงคล เป็นเพลงพระราชนิพนธล์ าดบั ท่ี ๓๕ ทรงพระราชนิพนธ์ใน พ.ศ. ๒๕๐๒ แลว้ ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ พระราชทานแกค่ รูเอ้อื สุนทรสนาน เมอื่ วนั ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๐๒ ใหเ้ ป็นเพลงประจาวงดนตรีสุนทราภรณ์ ในโอกาสท่กี อ่ ต้งั มาครบ ๒๐ ปี นายเอ้อื สุนทรสนาน หวั หนา้ วงจึงไดข้ อพระราชทาน พระบรมราชานุญาตต้งั ช่ือเพลงวา่ “พระมหามงคล” และไดอ้ ญั เชิญมา บรรเลงนาประจาวงสุนทราภรณม์ าจนทุกวนั น้ี 36. ยูงทอง ยูงทอง เป็นเพลงพระราชนิพนธล์ าดบั ที่ 36 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงประพนั ธ์ ทานองและพระราชทานใหเ้ ป็นเพลงประจามหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์เมอ่ื วนั ที่ 9 กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. 2506 ต้งั แตเ่ ร่ิมก่อต้งั มหาวิทยาลยั วชิ าธรรมศาสตร์และการเมอื งใน พ.ศ. 2477 เป็นตน้ มา มหาวทิ ยาลยั ไดใ้ ชเ้ พลง ประจามหาวทิ ยาลยั ทานองมอญดดู าว ซ่ึงขนุ วิจติ รมาตรา (สงา่ กาญจนนาคพนั ธุ)์ ประพนั ธ์ เป็นเพลงประจา มหาวทิ ยาลยั จน พ.ศ. 2504 นกั ศกึ ษากลมุ่ หน่ึงเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทพระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหา ภูมิพลอดลุ ยเดชและสมเดจ็ พระนางเจา้ สิริกติ ์ิ พระบรมราชินีนาถ ขณะเสดจ็ มาทรงดนตรี ณ เวทีลีลาศ สวน อมั พร ภายในพระราชวงั ดสุ ิต เมอื่ วนั ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2504 37. ในดวงใจนิรนั ดร์ (Still on My Mind) เพลงพระราชนิพนธ์ ในดวงใจนิรันดร์ เป็นเพลงพระราชนิพนธล์ าดบั ท่ี ๓๗ ทรงพระราชนิพนธใ์ น พ.ศ. ๒๕๐๘ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หวั ทรงพระราชนิพนธ์ คาร้องภาษาองั กฤษดว้ ยพระองคเ์ องเป็นเพลงแรก ตอ่ มาทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ใหศ้ าสตราจารย์ ดร.ประเสริฐ ณ นคร ประพนั ธค์ ารอ้ งภาษาไทยถวาย
14 38. เตือนใจ (Old-Fashioned Melody) เตอื นใจ Old-Fashioned Melody เป็นเพลงพระราชนิพนธล์ าดบั ท่ี ๓๘ ทรงพระราชนิพนธท์ านองและคาร้อง ภาษาองั กฤษใน พ.ศ. ๒๕๐๘ ต่อมาใน พ.ศ. ๒๕๑๐ ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ใหท้ า่ นผหู้ ญงิ มณีรตั น์ บุนนาค และหม่อมหลวงประพนั ธ์ สนิทวงศ์ ประพนั ธค์ าร้องภาษาไทยถวาย 39. ไรเ้ ดอื น (No Moon), ไรจ้ นั ทร์ เพลงพระราชนิพนธ์ ไรเ้ ดือน หรือ ไร้จนั ทร์ หรือ No Moon เป็นเพลงพระราชนิพนธล์ าดบั ที่ ๓๙ ทรงพระ ราชนิพนธ์ทานองและคาร้องภาษาองั กฤษพร้อมกนั ใน พ.ศ. ๒๕๐๘ ต่อมาทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ให้ นายอาจนิ ต์ ปัญจพรรค์ ประพนั ธค์ ารอ้ งภาษาไทยถวาย ช่ือ “ไรจ้ นั ทร์” ทา่ นผหู้ ญงิ มณีรัตน์ บนุ นาค และ หม่อมหลวงประพนั ธ์ สนิทวงศ์ ประพนั ธค์ าร้องภาษาไทยถวายชื่อ “ไรเ้ ดอื น” 40. เกาะในฝัน (Dream Island) เพลงพระราชนิพนธ์ เกาะในฝนั หรือ Dream Island เป็นเพลงพระราชนิพนธล์ าดบั ท่ี ๔๐ ทรงพระราช นิพนธท์ านองและคาร้องภาษาองั กฤษพรอ้ มกันใน พ.ศ. ๒๕๐๘ ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ให้ท่านผหู้ ญงิ มณีรัตน์ บนุ นาค และหม่อมหลวงประพนั ธ์ สนิทวงศ์ ประพนั ธค์ าร้องภาษาไทยถวาย 41. แว่ว (Echo) เพลงพระราชนิพนธ์ แวว่ หรือ Echo เป็นเพลงพระราชนิพนธ์ลาดบั ที่ ๔๑ ทรงพระราชนิพนธท์ านองและคา รอ้ งภาษาองั กฤษพร้อมกนั ใน พ.ศ. ๒๕๐๘ ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ให้ศาสตราจารย์ ดร.ประเสริฐ ณ นคร ประพนั ธค์ ารอ้ งภาษาไทยถวาย เพลงน้ีวงดนตรีสุนทราภรณน์ าออกบรรเลงเป็นคร้งั แรกในงานสงั คตี มงคล คร้งั ที่ ๑ ณ บริเวณพระที่นงั่ อมั พรสถาน พระราชวงั ดสุ ิต เม่ือวนั ท่ี ๘ เมษายน พ.ศ. ๒๕๐๙ 42. เกษตรศาสตร์ เพลงพระราชนิพนธ์ เกษตรศาสตร์ เป็นเพลงพระราชนิพนธ์ทีพ่ ระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หัวภูมพิ ลอดลุ ยเดช พระราชทานใหเ้ ป็นเพลงประจามหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ เมื่อวนั ท่ี 17 ธนั วาคม พ.ศ. 2509 ซ่ึงจดั ว่าเป็น 1 ใน 3 สถาบนั การศึกษาท่ีพระองคไ์ ดพ้ ระราชทานเพลงพระราชนิพนธใ์ หเ้ ป็นเพลงประจาสถาบนั โดยอีก 2 เพลง ไดแ้ ก่ เพลงพระราชนิพนธม์ หาจฬุ าลงกรณ์ พระราชทานให้เป็นเพลงประจาจฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั เมือ่ ปี พ.ศ. 2492 และเพลงพระราชนิพนธ์ ยูงทองทพ่ี ระราชทานให้เป็นเพลงประจา มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ เม่ือปี พ.ศ. 2506
15 43. ความฝนั อนั สูงสุด (The Impossible Dream) เม่ือ พ.ศ. 2512 ท่านผหู้ ญงิ มณีรตั น์ บนุ นาค ไดร้ บั พระราชเสาวนียจ์ าก สมเดจ็ พระนางเจา้ พระบรมราชินีนาถ ให้เขียนบทกลอนแสดงความนิยมส่งเสริมคนดีใหม้ ีกาลงั ใจทางานเพือ่ อดุ มคติเพือ่ ประเทศชาติ ออกมาเป็นกลอน 5 บท สมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชินีนาถโปรดใหพ้ มิ พบ์ ทกลอนน้ีลงในกระดาษการ์ดแผน่ เล็ก ๆ พระราชทานแก่ขา้ ราชการ ทหาร ตารวจ พลเรือน และผทู้ างานเพื่อประเทศชาติ เตือนสตมิ ิให้ทอ้ ถอยในการ ทาความดี ตอ่ มา สมเด็จพระนางเจา้ ฯ พระบรมราชินีนาถไดก้ ราบบงั คมทลู พระกรุณาขอให้ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยูห่ วั ทรงใส่ทานองเพลงในคากลอน “ความฝันอนั สูงสุด” ใน พ.ศ. 2514 ขบั ร้องโดย ทา่ นผหู้ ญงิ มณีรัตน์ บนุ นา 44. เราสู้ เพลงพระราชนิพนธ์ เราสู้ เพลงพระราชนิพนธ์ลาดบั ท่ี ๔๔ ทรงพระราชนิพนธใ์ น พ.ศ. ๒๕๑๖ นายสมภพ จนั ทรประภา ไดป้ ระพนั ธก์ ลอนสุภาพ ๔ บท จากพระราชดารัสทพ่ี ระราชทานแก่สมาชิกสภานิตบิ ญั ญตั ิท่ี เขา้ เฝา้ ฯ ณ พระตาหนกั จิตรลดารโหฐาน มาเขยี นเป็นคากลอนถวาย เม่ือทรงเกดิ แรงบนั ดาลพระราชหฤทยั ทจี่ ะทรงพระราชนิพนธ์เพลง “เราสู”้ พระราชทานให้เป็นของขวญั ปี ใหม่แกท่ หาร อาสาสมคั รและตารวจชายแดน ทรงหยบิ ซองจดหมายใกลพ้ ระหัตถม์ าตีบรรทดั ๕ เสน้ เพ่อื ทรงพระราชนิพนธ์ทานอง เสร็จแลว้ พระราชทานให้ วง อ.ส. วนั ศกุ ร์ ซ่ึงกาลงั บรรเลงอยูใ่ นงานวนั ข้ึนปี ใหม่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๗ นาออกบรรเลง ณ พระราชวงั บางปะอนิ จากน้นั ไดท้ รงนากลบั ไปแกไ้ ขก่อนจะ พระราชทานออกมาใหว้ งดนตรี อ.ส 45. เรา-เหลา่ ราบ ๒๑ (We-Infantry Regiment 21) เพลงพระราชนิพนธ์ เรา-เหลา่ ราบ ๒๑ หรือ We-Infantry Regiment 21 เป็นเพลงพระราชนิพนธ์ลาดบั ท่ี ๔๕ ทรงพระราชนิพนธ์ทานองข้นึ ในปี พ.ศ. ๒๕๑๙ เพลงน้ี สมเด็จพระนางเจา้ ฯ พระบรมราชินีนาถ มพี ระราช เสาวนียใ์ ห้ร้อยตารวจโทวลั ลภ จนั ทร์แสงศรี แต่งเน้ือเพลงให้แกก่ รมทหารราบที่ ๒๑ รักษาพระองค์ หรือท่ี รูจ้ กั ในนามว่า “ทหารเสือพระราชินี” แลว้ นาข้นึ ทลู เกลา้ ฯถวาย พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั จงึ ทรงพระราช นิพนธ์ทานองเพลงพระราชทาน
17 46. Blues for Uthit เพลงพระราชนิพนธ์ Blues for Uthit เป็นเพลงพระราชนิพนธล์ าดบั ที่ 46 ทรงพระราชนิพนธ์เพือ่ เป็น อนุสรณแ์ ก่นายอุทิตต์ ทนิ กร ณ อยุธยา นกั ดนตรี วง อ.ส. วนั ศกุ ร์ ทถ่ี งึ แกก่ รรมเมอ่ื วนั ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2522 และไดพ้ ระราชทานให้วงดนตรี อ.ส.วนั ศกุ ร์ นาออกบรรเลงคร้งั แรกทางสถานีวทิ ยุ อ.ส. เมอื่ วนั ศุกร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2522 47. รกั เพลงพระราชนิพนธ์ รัก เป็นเพลงพระราชนิพนธ์ลาดบั ท่ี ๔๗ ในพระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภมู พิ ลอ ดลุ ยเดช ทรงพระราชนิพนธใ์ นเดอื นธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๓๗ สมเด็จพระนางเจา้ ฯ พระบรมราชินีนาถกราบ บงั คมทลู พระกรุณาขอให้พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ ัวทรงพระราชนิพนธ์ทานองเพลงสาหรบั กลอนสุภาพ ๓ บท ที่สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดาฯ สยามบรมราชกมุ ารี ทรงพระราชนิพนธ์ไวเ้ ม่อื พระชนมายุ ๑๒ พรรษา 48. เมนูไข่ เพลงพระราชนิพนธ์ เมนูไข่ เป็นเพลงพระราชนิพนธ์ลาดบั ที่ ๔๘ ทรงพระราชนิพนธ์เม่อื วนั ท่ี ๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๘ เพอื่ พระราชทานเป็นของขวญั วนั พระราชสมภพครบ ๗๒ พรรษา สมเดจ็ พระเจา้ พน่ี างเธอ เจา้ ฟ้ากลั ยาณิวฒั นา กรมหลวงนราธิวาส ราชนครินทร์ ดว้ ยทรงราลึกไดว้ า่ สมเด็จพระเชษฐภคนิ ีโปรดเสวย พระกระยาหารที่ทาจากไข่ เป็นแรงบนั ดาลพระราชหฤทยั ใหท้ รงพระราชนิพนธ์ กอปรกบั ทรงพบโคลงส่ี “เมนูไข”่ ทส่ี มเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกมุ ารีทรงพระราชนิพนธไ์ วเ้ ม่ือ พ.ศ. ๒๕๑๘ 2.แนวคิดเกย่ี วกบั กำรใช้ภำษำกับเพลงง บทเพลงและดนตรีเป็นภาษาสากลประจาโลกท่มี นุษยท์ ุกชาตทิ ุกภาษาสามารถสัมผสั ได้ แต่จะได้ รายละเอียดลึกซ้ึงเพียงใดข้นึ อยกู่ บั ภูมิหลงั และประสบการณ์ของแตล่ ะคน โดยทว่ั ไปแลว้ เพลงและดนตรีมี คุณมากกวา่ โทษ มนุษยใ์ ชเ้ พลงและดนตรีเป็นเครื่องบารุงขวญั บารุงจิตใจ ใชเ้ ป็นยารักษาโรคทางกายและ ทางใจ ใชเ้ ป็นเพ่อื นยามทกุ ขย์ ามเหงา ใชเ้ ป็นเคร่ืองสมานสามคั คี ใชเ้ ป็นส่ือแห่งความรกั และเป็นเคร่ืองมือ สาหรับการยงั ชีพ
18 บทเพลงและดนตรี คือผลงานศลิ ปะทีเ่ กิดจากความคิดของมนุษย์ ซ่ึงสามารถใชเ้ ป็นเคร่ืองมอื ส่ือ ความหมาย ถา่ ยทอดอารมณ์ ความรู้สึก ความคดิ สามารถทาใหค้ นฟังเกิดความรู้สึกต่ืนเตน้ เศรา้ โศก ร่าเริง รกั เสน่หาอาลยั หรือเจ็บช้าใจ เพลงทมี่ ีคุณคา่ น้นั จาเป็นตอ้ งมีองคป์ ระกอบสาคญั ท่ชี ่วยทาใหเ้ พลงน้นั ข้ึนสู่ ระดบั ความสนใจและความพึงใจของผูฟ้ ังจนสามารถฟังและจาได้ องคป์ ระกอบเหล่าน้นั ไดแ้ ก่ 1. ทว่ งทานองตอ้ งไพเราะเสนาะหู ตอ้ งเป็นเพลงที่แตง่ มาดี มกี ารบรรเลงประสานเสียงทดี่ ี จงั หวะ เน้ือรอ้ ง เหมาะสมดี 2. มีความหมายดีและเป็นความหมายทีต่ อ้ งใจผฟู้ ัง 3. มีนกั ร้องนกั ดนตรีท่ีดี สามารถถา่ ยทอดความไพเราะของเพลงมาสู่โสตประสาทของผฟู้ ัง ไดด้ แี ละครบ ครนั 4. เพลงน้นั เม่ือจะบรรเลงออกมาสู่ประชาชน ตอ้ งไดร้ บั การฝึกซอ้ ม ปรบั วง ปรบั เสียง ตอ้ งใช้ ความสามคั คี ร่วมแรงร่วมใจกนั บรรเลง ตอ้ งมรี ะเบียบในตวั เอง กล่าวไดว้ ่าตอ้ งเป็นผลงานท่ีเกิดจากความ สมานสามคั คี ร่วมใจกนั 5. เพลงน้นั จะตอ้ งใหอ้ ารมณ์ สามารถรบั ใชส้ ังคมหรือบุคคลได้ เช่น เพลงปลกุ ใจมพี ลงั ส าคญั ท าใหค้ นฟัง รู้สึกคกึ คกั ใหร้ ู้สึกรกั ชาติบา้ นเมอื ง หรือเพลงรกั เพลงน้นั ๆ ให้อารมณร์ กั ทีล่ ะเมยี ดละไม ฟังแลว้ เกดิ อารมณค์ ลอ้ ยตามได้
19 3.กำรศึกษำกลวิธกี ำรใช้ภำษำ การวเิ คราะห์ลีลาภาษาผ่านบทเพลงพระราชนิพนธ์ ผวู้ ิเคราะหจ์ ะอธิบายรายละเอยี ดเพ่มิ เตมิ โดย แยก ลกั ษณะการใชค้ าออกเป็นประเภท ดงั น้ี 1.การใชถ้ อ้ ยคา 1.1การใชค้ าภาษากวกี ารเล่นคาทม่ี ีเสียงสมั ผสั 1.2การใชค้ าซ้อน 1.3 การใชค้ าซ้า 1.4 การใชค้ าไวพจน์ 1.5 การใชค้ าเลยี นเสียงธรรมชาติ 2. การใชส้ านวน 2.1 การใชส้ านวนเดิม 2.2การใชส้ านวนทีส่ รา้ งข้ึนใหม่
20 บทที่ 3 วิธดี ำเนินกำรวิจัย การศึกษาเรื่องการใชภ้ าษาในบทเพลงพระราชนิพนธข์ ข์ องราชกาลที่ 9 คณะผจู้ ดั ทามีวตั ถุประสงค์ เพ่อื ศกึ ษาขอ้ มูลการใชภ้ าษาและวเิ คราะหแ์ นวคิดในบทเพลงพระราชนิพนธข์ องราชกาลท่ี 9โดยมี ข้นั ตอนการดาเนินการวจิ ยตอ่ ไปน้ี 1.เลอื กหวั ขอ้ เรื่องทีจ่ ะศกึ ษาคน้ ควา้ ทีท่ างกลุม่ สนใจ 2.ศึกษาเอกสารและตาราทเี่ ก่ียวขอ้ งกัน 3.วางแผนของเขตขอ้ มลู และขอบเขตของหวั ขอ้ ท่ีศกึ ษาคน้ ควา้ 4.รวบรวมขอ้ มลู ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกยั การศกึ ษาการวเิ คราะห์แนวคดิ และการใชภ้ าษาในบทเพลงพระราชนิพนธ์ ของราขกาลท่ี 9 จากเวบ็ ไซตต์ า่ งๆมารวมรวมขอ้ มลู 5.ดาเนินการวเิ คราะหข์ อ้ มูลตามหัวขอ้ ที่ศกึ ษาคน้ ควา้ 6.จดั ทารูปเล่มรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้ 7.นาเสนอผลการศึกษาคน้ ควา้ เกณฑ์ในกำรวิเครำะห์ เกณฑใ์ นการวเิ คราะห์บทเพลงพระราชนิพนธ์มีท้งั หมด 3 เกณฑแ์ บง่ เป็น เกณฑก์ าร วิเคราะห์กลวิธีการใชค้ า เกณฑก์ ารวเิ คราะหก์ ารใชภ้ าพพจน์ และเกณฑก์ ารวิเคราะหแ์ นวคิดทปี่ รากฏ ใน บทเพลง ดงั มีรายละเอยี ดดงั ต่อไปน้ี
21 1.เกณฑ์กำรวเิ ครำะห์กลวธิ กี ำรใช้คำ เกณฑก์ ารวเิ คราะหข์ อ้ มลู ท่ีคณะจดั ทานามาใชว้ เิ คราะหก์ ลวิธีการใชค้ าในการแต่งคาประพนั ธ์เน้ือรอ้ งในบท เพลงพระราชนิพนธ์ โดยมีเกณฑว์ เิ คราะห์การใชค้ าดงั น้ี 1. การใชถ้ อ้ ยคา 1.1 การเล่นคาที่มีเสียงสัมผสั พยญั ชนะ 1.2การคาซ้อนเพือ่ ความหมาย 1.3 การใชค้ าซ้า 1.4 การใชค้ าไวพจน์ 1.5การใชค้ าเลยี นเสียงธรรมชาติ 2. การใชส้ านวน 2.1 การใชส้ านวนเดิม 2.2 การใชส้ านวนท่ีสร้างข้ึนใหม่ 2. เกณฑ์กำรวิเครำะห์กำรใช้ภำพพจน์์ เกณฑก์ ารวิเคราะหข์ อ้ มลู ท่คี ณะจดั ทานามาใชว้ เิ คราะหก์ ารใช้ ภาพพจนแ์ ตง่ คาประพนั ธเ์ น้ือรอ้ งในบทเพลงพระราชนิพนธ์ไดใ้ ชเ้ กณฑจ์ ากแหล่งขอ้ มลู ทางอินเตอร์เน็ต จากงานวิจยั โดยจะศกึ ษาคน้ ควา้ วิเคราะหบ์ ทเพลงดงั น้ี 1. การใชภ้ าพพจน์ 2.2 อุปมา 2.3 อปุ ลกั ษณ์ 2.3บคุ ลาธิษฐาน 2.4 อตพิ จน์
22 3. เกณฑ์กำรวิเครำะห์แนวคิดท่ปี รำกฏในบทเพลง เกณฑก์ ารวิเคราะหแ์ นวคิดที่ปรากฏในบทเพลงพระราช นิพนธค์ ณะผูจ้ ดั ทาจะทาการหาความหมายที่สามารถแยกออกเป็น ดงั น้ี 1.เกี่ยวกบั ความเช่ือ 2.เกี่ยวกบั ธรรมชาติ 3.เกย่ี วกบั ความรัก กำรเกบ็ รวบรวมข้อมลู ในการศึกษาคร้ังน้ีคณะผจู้ ดั ทาไดร้ วบรวมขอ้ มูลทใี่ ชใ้ นการวิเคราะห์กลวิธีการใชค้ า การใชภ้ าพพจนแ์ ละ แนวคิดท่ปี รากฏในบทเพลงพระราชนิพนธ์ ซ่ึงมขี ้นั ตอนการดาเนินการดงั ตอ่ ไปน้ี 1.ศึกษาเอกสาร เวบ็ ไซตท์ ่ีเกย่ี วขอ้ งในบทเพลงพระราชนิพนธท์ ่ีเก่ียวขอ้ ง 2. ฟังและศกึ ษาบทเพลงพระราชนิพนธท์ างช่องทางYoutube 3.วิเคราะหแ์ นวคดิ ในบทเพลง 4. รวบรวมผลการวเิ คราะหแ์ ลว้ บนั ทกึ ไวต้ ามหมวดหมเู่ พ่อื ใชส้ รุปและอภิปรายผลต่อไป กำรวเิ ครำะห์ข้อมลู 1. นาบทเพลงบทเพลงพระราชนิพนธ์ทเี่ กบ็ รวบรวมขอ้ มูลได้ มาวเิ คราะหข์ อ้ มลู ตามเกณฑท์ ี่กาหนดไว้ 2. นาขอ้ มูลทีไ่ ดจ้ ากการวิเคราะห์ารใชภ้ าษาและแนวคิดทีป่ รากฏในบทเพลงมาเรียบเรียงและอธิบายพรอ้ ม ยกตวั อยา่ งประกอบ 3. สรุปผล และอภปิ รายผล เสนอแนวทางการนาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นอนาคต
23 ระยะเวลำในกำรดำเนนิ กำร ในการศึกษาเร่ือง การศึกษาแนวคดิ และการใชภ้ าษาในบทเพลงพระราชนิพนธ์ มรี ะยะเวลาในการ ดาเนินการซ่ึงแบง่ ได้ ดงั น้ี ลาดบั ข้นั ตอนการศึกษา ช่วงเวลา ผรู้ บั ผดิ ชอบ ท่ี 1 รวบรวมขอ้ มลู เอกสารและงานวจิ ยั ท่ี วนั ที่15-30พฤศจิกายน นางสาวสุภาวดี ศรีสมั ฤทธ์ เกยี่ วขอ้ ง พ.ศ.2543 นางสาว วีชญดา โพธ์ิพมุ่ 2 รวบรวมขอ้ มูลเกี่ยวกบั การใชภ้ าษา และ วนั ท่ี 3-27ธนั วาคมพ.ศ นางสาวสุภาวดี ศรีสัมฤทธ์ การส่ือความหมายของบทเพลง 2543 นางสาว วชี ญดา โพธ์ิพ่มุ 3 วิเคราะหข์ อ้ มูล วนั ที่6-12มกราคมพ.ศ. นางสาวสุภาวดี ศรีสมั ฤทธ์ 4 สรุปและอภิปรายผลขอ้ มูล 3564 นางสาว วีชญดา โพธ์ิพมุ่ วนั ท่ี24 มกราคมพ.ศ. 2564 นางสาวสุภาวดี ศรีสัมฤทธ์ นางสาว วีชญดา โพธ์ิพุ่ม 5 ตรวจทานและแกไ้ ขขอ้ มูลจดั ทา รูปเลม่ วนั ท่ี 25 มกราคมพ.ศ นางสาวสุภาวดี ศรีสมั ฤทธ์ รายงานการศึกษาคน้ ควา้ 2564 นางสาว วีชญดา โพธ์ิพมุ่ .นางสาว อรษา ศิลปกุล นางสาว ณิชารีย์ แก้วเจริญ 6 นาเสนอผลการศึกษาคน้ ควา้ วนั ท่ี 27 มกราคม พ.ศ. นางสาวสุภาวดี ศรีสัมฤทธ์ 2564 นางสาว วชี ญดา โพธ์ิพุ่ม .นางสาว อรษา ศลิ ปกลุ นางสาว ณชิ ารีย์ แก้วเจริญ 7 ส่งรายงานการศึกษาคน้ ควา้ ฉบบั สมบูรณ์ วนั ที่ 26-29 มกราคม นางสาวสุภาวดี ศรีสมั ฤทธ์ พ.ศ. 2564 นางสาว วีชญดา โพธ์ิพมุ่
24 บทท่ี ๔ กำรวเิ ครำะห์ข้อมลู การศกึ ษาคน้ ควา้ เร่ือง แนวคิดและการใชภ้ าษาในบทเพลงพระราชนิพนธ์ คณะผจู้ ดั ทาไดแ้ บ่งการ วเิ คราะห์ขอ้ มูลออกเป็น2 ประเด็น ตามวตั ถปุ ระสงคใ์ นการศกึ ษาคน้ ควา้ ไดแ้ ก่ 1. วเิ คราะหก์ ารใชภ้ าษาในบทเพลงพระราชนิพนธ์ 2. วเิ คราะห์แนวคดิ ทปี่ รากฏในบทเพลงพระราชนิพนธ์ 1.วิเครำะห์กำรใช้ภำษำในบทเพลงพระรำชนพิ นธ์ คณะผจู้ ดั ทาไดใ้ ชเ้ กณฑก์ ารวเิ คราะห์จากบทเพลงพระราชนิพนธโ์ ดยมหี วั ขอ้ การวเิ คราะห์ ไดแ้ ก่ 1. การใชถ้ อ้ ยคา 2. การเล่นคา 3. การใชค้ าซอ้ น 4. การใชค้ าซ้า 5. การใชค้ าเลียนเสียงธรรมชาติ 6. การใชส้ านวน โดยรายละเอยี ดการวเิ คราะหน์ ้นั คณะผจู้ ดั ทาจะใชก้ ารหาความถีข่ องจานวนการใชค้ าทพ่ี บใน แตล่ ะหวั ขอ้ และนบั คาซ้า เพื่อวิเคราะห์ว่าบทเพลงพระราชนิพนธ์ น้นั มีการใชค้ าอย่างไรและมี ความถี่ในหัวขอ้ ใดมากท่สี ุด ซ่ึงมรี ายละเอยี ดการวิเคราะห์ดงั น้ี
25 1.1.กำรใช้ถ้อยคำ 1.วเิ คราะหก์ ารใชภ้ าษาในบทเพลงพระราชนิพนธ์ 1.1.กำรใช้ถ้อยคำการเล่นคาทมี่ เี สียงสัมผสั พยญั ชนะจาก การวิเคราะห์พบวา่ บทเพลงพระราชนิพนธท์ ่ีเลอื กศึกษาน้ี มกี ารเล่นคาท่ี มเี สียงสมั ผสั พยญั ชนะหลายคร้งั เช่นคาวา่ นกน้อย เดยี วดาย เคยี งครอง หลงใหล ตวั อยา่ งเช่น นกนอ้ ยคลอ้ ยบินมาเดียวดาย คิดคิดมวิ ายกงั วลให้หมน่ ฤทยั หมอง ขาดมวลมติ รไรค้ นสนิทคู่เคียงครอง หลงใหลหมายปองคนปรานี ขาดเรือนแหลง่ พกั พานกั นอน ขาดญาตบิ ิดรและนอ้ งพ่ี บาปกรรมคงมี จาทนระทม (เพลง ชะตาชีวติ ) จากการศกึ ษาและวเิ คราะหบ์ ทเพลงพระราชนิพนธใ์ นหัวขอ้ การเล่นคาที ์่มเี สียงสัมผสั พยญั ชนะพบวา่ มีการเลน่ คาจานวน 38 เพลง เช่น เพลงสายลม เมอื่ โสมส่อง ความฝันอนั สูงสุด ในดวงใจนิรนั ดร์ ภริ มยร์ กั ยมิ้ สู้ ยามคา่ แวว่ แสงเทยี น ยามเยน็ สายฝนใกลร้ ุ่ง ชะตาชีวติ ดวงใจกบั ความรัก มาร์ชราชวลั ลภ อาทิตย์ อบั แสง เทวาพาคฝู่ ัน คาหวาน มหาจุฬาลงกรณ์ แกว้ ตาขวญั ใจ พรปีใหม่ รกั คนื เรือน ศุกร์สญั ลกั ษณ ค่า แลว้ แสงเดือน ฝนั เพลนิ ภพู ิงค์ มาร์ชราชนาวกิ โยธิน ภริ มยร์ กั แผน่ ดินของเรา พระมหามงคล ยูงทอง เป็น ตน้ 1.2.กำรใช้คำซ้อน จากวเิ คราะหพ์ บวา่ ในบทเพลงพระราชนิพนธจ์ านวน 48 เพลงที่เลอื กศึกษาน้ีมกี ารใชค้ า ซ้อนหลายคร้ัง เช่นคาว่า ฟากฟ้า ลิ้วลม เยอื กเยน็ เมามวั จิตใจ ไหวหวาด โรจนเ์ รือง ลอ่ งลอยล่ิว1.2.กำรใช้คำ ซ้อน จากวิเคราะห์พบวา่ ในบทเพลงพระราชนิพนธ์จานวน 48 เพลงทีเ่ ลือกศึกษาน้ีมีการใชค้ า ซอ้ นหลาย คร้งั เชน่ คาวา่ ฟากฟ้า ลว้ิ ลม เยือกเยน็ เมามวั จติ ใจ ไหวหวาด โรจน์เรือง ลอ่ งลอยล่วิ ตวั อยา่ งเชน่
26 ท่ามกลางฟากฟ้ามวั หม่น ลวิ่ ลมหลงั่ ฝนโปรยทวั่ เยอื กเยน็ ชีพเฉาเมามวั จติ ใจไหวหวาดกลวั หวน่ั ฟ้าคารามลนั่ โรจนเ์ รืองแปลบแสงฟ้าผ่า ลอ่ งลอยลิว่ มาเสียงสนนั่ โอล้ มหนอลมพดั คนื วนั โบกโบยเพียงไหนกนั พดั จนไม่รู้วนั สงบเอย (เพลงสายลม) จากการศึกษาและวเิ คราะหบ์ ทเพลงพระราชนิพนธ์ในหัวขอ้ การใชค้ าซอ้ น พบว่ามกี ารใชค้ าซ้อน จานวน 41 เพลง ดงั น้ี แสงเทยี น ยามเยน็ สายฝน ใกลร้ ุ่ง ชะตาชีวติ ดวงใจกบั ความรกั มาร์ชราชวลั ลภ อาทติ ยอ์ บั แสง เทวาพาคู่ฝัน คาหวาน มหาจุฬาลงกรณ์ แกว้ ตาขวญั ใจ พรปี ใหม่ รักคืนเรือน ยามค่า ยิ้มสู้ มาร์ ชธงไชยเฉลมิ พล เมอื่ โสมส่อง ลมหนาว ศุกร์สญั ลกั ษณ คา่ แลว้ สายลม ไกลกงั วล เกิดเป็นไทยตายเพ่อื ไทย แสงเดือน ฝนั เพลนิ ภพู ิงค์ มาร์ชราชนาวิกโยธิน ภิรมยร์ ัก แผน่ ดินของเรา พระมหามงคล ยูงทอง (ธรรมศาสตร์) ในดวงใจนิรันดร์ เตือนใจ ไรเ้ ดอื น ไรจ้ นั ทร์ เกาะในฝัน แว่ว เกษตรศาสตร์ ความฝนั อนั สูงสุด เราสู้ เรา-เหล่าราบ ๒๑ รกั เมนูไข่ ราชวลั ลภ เป็นตน้ 1.3.กำรใช้คำซ้ำ จากวิเคราะห์พบวา่ ในบทเพลงพระราชนิพนธ์จานวน 48 เพลงท่ีเลือกศึกษาน้ีมกี ารใชค้ าซ้า นอ้ ยคร้ังส่วนใหญ่จะไมค่ อ่ ยมแี ต่จะมีการใชก้ ลบทใชค้ าซ้าแทน ตวั อยา่ งเชน่ เพลงเมนูไข่ เมนูไขเ่ มนูไข่ อร่อยแทอ้ ยากกนิ เมนูไข่เมนูไข่ อร่อยแทอ้ ยากกิน เมนูไขเ่ มนูไข่ อร่อยแทอ้ ยากกนิ เมนูไขเ่ มนูไข่ อร่อยแทอ้ ยากกิน เมนูไข่เมนูไข่ อร่อยแทอ้ ยากกนิ เมนูไข่เมนูไข่ จากการศกึ ษาและวิเคราะหบ์ ทเพลงพระราชนิพนธใ์ นหวั ขอ้ การใชค้ าซ้าพบวา่ มกี ารใชค้ าซ้าจานวน 3 เพลง ดงั น้ี เมนูไข่ ในดวงใจนิรันดร์ ยามเยน็
27 1.4 กำรใช้คำไวพจน์ จากวเิ คราะหพ์ บวา่ ในบทเพลงพระราชนิพนธจ์ านวน 48 เพลงท่เี ลือกศกึ ษาน้ีมกี ารใชค้ าไวพจนม์ หี ลายคร้งั ในบทเพลงพระราชนิพนธ์ ตวั อยา่ งเชน่ ค่าคืนนภาดาราพราว ประกายแสงดาวพราวตา ดาษเรียงเคียงแสงดวงจนั ทรา เพลนิ ชมแสงพรายนภาเหน็ ดวงดาราลอ้ มจนั ทร์ ทีจ่ ริงน้นั เดอื นและดวงดาว ต่างเรืองแสงวาวพราวพรรณ ดว้ ยแรงจากแสงดวงตะวนั (เพลง ดวงใจกบั ความรกั ) จากการศึกษาและวิเคราะหบ์ ทเพลงพระราชนิพนธ์ในหัวขอ้ การใชค้ าไวพจน์พบว่ามีการใชค้ าไวพจน์ จานวน42 เพลงดงั น้ี แสงเทยี น ยามเยน็ สายฝน ใกลร้ ุ่ง ชะตาชีวิต ดวงใจกบั ความรกั มาร์ชราชวลั ลภ อาทติ ยอ์ บั แสง เทวาพาคฝู่ นั คาหวาน มหาจฬุ าลงกรณ์ แกว้ ตาขวญั ใจ พรปี ใหม่ รักคืน เรือน ยามค่า ย้มิ สู้ มาร์ชธงไชยเฉลิมพล เมือ่ โสมส่อง ลมหนาว ศกุ ร์สัญลกั ษณ์ คา่ แลว้ สายลม ไกลกงั วล แสงเดือน ฝนั มาร์ชราชนาวิกโยธิน ภิรมยร์ ัก แผน่ ดนิ ของเรา พระมหามงคล พยงู ทอง ธรรมศาสตร์ ใน ดวงใจนิรนั ดร์ เตือนใจ ไรจ้ นั ทร์ / ไรเ้ ดอื น เกาะในฝนั แว่ว เกษตรศาสตร์ ความฝนั อนั สูงสุด เราสู้ เรา- เหลา่ ทหารราบ ๒๑ รกั 1.5 กำรใช้คำเลยี นเสียงธรรมชำติ จากการศกึ ษาพบวา่ ไม่ปรากฏการใชค้ าเลยี นเสียงธรรมชาตใิ นบทเพลงพระราชนิพนธ์
28 2.เกณฑ์กำรวเิ ครำะห์แนวคิดที่ปรำกฏในบทเพลงพระรำชนิพนธ์ เกณฑก์ ารวิเคราะห์แนวคดิ ทปี่ รากฏในบทเพลงพระราชนิพนธ์ คณะผูจ้ ดั ทาไดแ้ ยกออกมาเป็นประเภทดงั น้ี 1.แนวคดิ เก่ยี วกบั ความรกั 2. แนวคดิ เกยี่ วกบั ธรรมชาติ 3. แนวคดิ เกี่ยวกบั ความเช่ือ โดยรายละเอียดการวเิ คราะหน์ ้นั คณะผูจ้ ดั ทาจะใชก้ ารหาความถี่ของจานวนการใชแ้ นวคิดทีป่ รากฏใน บทเพลงเพ่ือวเิ คราะหว์ า่ บทเพลงพระราชนิพนธ์น้นั มีการใชแ้ นวคดิ อย่างไรและมคี วามถ่ีในหวั ขอ้ ใดมาก ที่สุด ซ่ึงมรี ายละเอียดการวิเคราะห์ดงั น้ี 2.1 แนวคิดเก่ยี วกับควำมรัก เป็นความรู้สึก สภาพและเจตคตติ า่ ง ๆ ซ่ึงมตี ้งั แตค่ วามชอบ ระหว่างบุคคลหมายถงึ อารมณก์ ารดงึ ดดู และ ความผูกพนั (attachment) จากการศึกษาและวิเคราะห์บทเพลงพระราชนิพนธ์ จานวน48 เพลง พบว่าการใชแ้ นวคิดเกี่ยวกบั ความ รกั มีจานวน 17 เพลง ซ่ึงเป็นแนวคดิ ท่ีพบความถี่มากท่สี ุด ไดแ้ ก่ เพลงลมหนาว เพลงยามเยน็ เพลงดวงใจ กบั ความรัก เพลงอาทติ ยอ์ บั แสง เพลงเทวาพาค่ฝู ัน เพลงภิรมยร์ กั เพลงคาหวาน เพลงในดวงใจนิรนั ดร์ เพลง แกว้ ตาขวญั ใจ เพลงเตือนใจ เพลงไรเ้ ดอื น เพลงรักคืนเรือน เพลงไรจ้ นั ทร์ เพลงแวว่ เพลงเมือ่ โสมส่อง เพลง รัก เทวาพาคู่ฝนั 2.2 แนวคดิ เกย่ี วกับธรรมชำติ ธรรมชาติเป็นส่ิงท่ีอยู่รอบตวั เรา เกิดข้นึ เองตามธรรมชาติ เช่น ดนิ น้าอากาศ ป่ าไม้ สตั ว์ แร่ธาตุ เป็นตน้ ซ่ึงมคี วามสาคญั ตอ่ การดารงชีวิตของคน พืช และสัตว์ จากการศกึ ษาและวิเคราะห์บทเพลงพระราชนิพนธ์จานวน 48 เพลง พบการใชแ้ นวคดิ เกี่ยวกบั ธรรมชาตจิ านวน 15 เพลง ไดแ้ ก่ เพลงลมหนาว เพลงยามเยน็ เพลงสายฝน เพลงใกลร้ ุ่ง เพลงชะตาชีวติ เพลงสายลม เพลงดวงใจกบั ความรกั เพลงไกลกงั วล เพลงแสงเดือน เพลงเพลินภพู งิ ค์ เพลงไร้เดือน เพลง ยามคา่ เพลงเกษตรศาสตร์ เพลงเมือ่ โสมส่อง เพลงรัก
29 2.3แนวคิดเกีย่ วกบั ควำมเช่ือ ความคดิ ความเขา้ ใจและการยอมรบั นบั ถือ เชื่อมน่ั ในส่ิงหน่ึงส่ิงใดโดยไมต่ อ้ งมีเหตุผลใดมา สนบั สนุนหรือพสิ ูจน์ ท้งั น้ีบางอยา่ งอาจมหี ลกั ฐานอยา่ งเพียงพอทีจ่ ะพสิ ูจน์ได้ หรืออาจจะไม่มหี ลกั ฐานทจ่ี ะ นามาใชพ้ ิสูจน์ใหเ้ ห็นจริงเกี่ยวกบั ส่ิงน้นั กไ็ ด้ จากการศกึ ษาและวิเคราะหบ์ ทเพลงพระราชนิพนธ์จานวน 48 เพลง พบการใชแ้ นวคดิ เกยี่ วกบั ความเชื่อ จานวน 15 เพลง ไดแ้ ก่ เพลงแสงเทียน เพลงชะตาชีวติ เพลงสายลม เพลงเกิดเป็นไทยตายเพอ่ื ไทย เพลงมาร์ ชราชวลั ลภ เพลงฝนั เพลงมหาจฬุ าลงกรณ์ เพลงพรปีใหม่ เพลงเกาะในฝนั เพลงเกษตรศาสตร์ เพลงความ ฝันอนั สูงสุด เพลงยม้ิ สู้ เพลงเราสู้ เพลงเรา-เหล่าราบ 21
30 บทท่ี๕ สรุป อภิปรำย และข้อเสนอแนะ การศกึ ษาเร่ืองการแนวคดิ และใชภ้ าษาในบทเพลงพระราชนิพนธ์ของราชกาลที่ 9 คณะผจู้ ดั ทามี วตั ถุประสงคเ์ พือ่ ศกึ ษาขอ้ มูลการใชภ้ าษาและวิเคราะหแ์ นวคิดในบทเพลงพระราชนิพนธข์ องราชกาลที่ 9 โดยมีข้นั ตอนการดาเนินการวิจยต่อไปน้ี 1.เลือกหัวขอ้ เร่ืองทจ่ี ะศกึ ษาคน้ ควา้ ท่ีทางกลุ่มสนใจ 2.ศกึ ษาเอกสารและตาราท่ีเก่ียวขอ้ งกนั 3.วางแผนของเขตขอ้ มลู และขอบเขตของหวั ขอ้ ทศี่ กึ ษาคน้ ควา้ 4.รวบรวมขอ้ มลู ทเ่ี กี่ยวขอ้ งกยั การศกึ ษาการวเิ คราะห์แนวคิดและการใชภ้ าษาในบทเพลงพระราชนิพนธ์ ของราชกาลท่ี 9 จากจากแหล่งขอ้ มลู ทางอินเตอร์เน็ต 5.ดาเนินการวเิ คราะห์ขอ้ มูลตามหัวขอ้ ท่ีศกึ ษาคน้ ควา้ 6.จดั ทารูปเล่มรายงานการศึกษาคน้ ควา้ 7.นาเสนอผลการศึกษาคน้ ควา้ กำรสรุปผลข้อมลู คณะผจู้ ดั ทาไดส้ รุปผลการวิจยั ตามวตั ถุประสงคใ์ นการศกึ ษาคน้ ควา้ ดงั รายละเอยี ด ตอ่ ไปน้ี 1.วิเคราะหก์ ารใชภ้ าษาในบทเพลงพระราชนิพนธ์ 1.1.กำรใช้ถ้อยคำ พบท้งั หมด 38 เพลง คือ พลงสายลม เมือ่ โสมส่อง ความฝันอนั สูงสุด ในดวงใจนิรนั ดร์ ภิรมยร์ กั ยิ้มสู้ ยามคา่ แวว่ แสงเทยี น ยามเยน็ สายฝนใกลร้ ุ่ง ชะตาชีวิต ดวงใจกบั ความรัก มาร์ชราชวลั ลภ อาทติ ยอ์ บั แสง เทวาพาคฝู่ ัน คาหวาน มหาจฬุ าลงกรณ์ แกว้ ตาขวญั ใจ พรปี ใหม่ รักคืนเรือน ศกุ ร์ สญั ลกั ษณ ค่าแลว้ แสงเดือน ฝัน เพลินภูพงิ ค์ มาร์ชราชนาวกิ โยธิน ภริ มยร์ ัก แผ่นดนิ ของเรา พระมหามงคล ยงู ทอง
31 1.2.กำรใช้คำซ้อน พบท้งั หมด 41 เพลง คอื แสงเทยี น ยามเยน็ สายฝน ใกลร้ ุ่ง ชะตาชีวติ ดวงใจกบั ความรัก มาร์ชราชวลั ลภ อาทิตยอ์ บั แสง เทวาพาคู่ฝัน คาหวาน มหาจุฬาลงกรณ์ แกว้ ตาขวญั ใจ พรปี ใหม่ รกั คืนเรือน ยามค่า ยม้ิ สู้ มาร์ชธงไชยเฉลมิ พล เม่ือโสมส่อง ลมหนาว ศุกร์สญั ลกั ษณ คา่ แลว้ สายลม ไกลกังวล เกิดเป็น ไทยตายเพื่อไทย แสงเดือน ฝนั เพลนิ ภพู ิงค์ มาร์ชราชนาวิกโยธิน ภริ มยร์ ัก แผ่นดนิ ของเรา พระมหามงคล ยงู ทอง (ธรรมศาสตร์) ในดวงใจนิรันดร์ เตือนใจ ไรเ้ ดอื น ไร้จนั ทร์ เกาะในฝัน แว่ว เกษตรศาสตร์ ความฝัน อนั สูงสุด เราสู้ เรา-เหล่าราบ ๒๑ รกั เมนูไข่ ราชวลั ลภ 1.3กำรใช้คำซำ้ พบท้งั หมด 3 เพลง คอื เมนูไข่ ในดวงใจนิรันดร์ ยามเยน็ 1.4 กำรใช้คำไวพจน์ พบท้งั หมดจานวน 42 เพลง ซ่ึง คือ แสงเทียน ยามเยน็ สายฝน ใกลร้ ุ่ง ชะตาชีวิต ดวงใจกบั ความรกั มาร์ชราชวลั ลภ อาทติ ยอ์ บั แสง เทวาพาคู่ฝนั คาหวาน มหาจฬุ าลงกรณ์ แกว้ ตาขวญั ใจ พรปี ใหม่ รกั คืนเรือน ยามค่า ยม้ิ สู้ มาร์ชธงไชยเฉลิมพล เมอื่ โสมส่อง ลมหนาว ศกุ ร์สัญลกั ษณ์ ค่าแลว้ สายลม ไกลกงั วล แสงเดือน ฝัน มาร์ชราชนาวิกโยธิน ภิรมยร์ กั แผ่นดนิ ของเรา พระมหามงคล พยงู ทอง ธรรมศาสตร์ ในดวงใจนิรันดร์ เตือนใจ ไรจ้ นั ทร์ / ไรเ้ ดือน เกาะในฝนั แว่ว เกษตรศาสตร์ ความฝันอนั สูงสุด เราสู้ เรา-เหล่าทหารราบ ๒๑ รกั 1.5 กำรใช้คำเลยี นเสียงธรรมชำติ จากการศกึ ษาพบว่า ไมป่ รากฏการใชค้ าเลียนเสียงธรรมชาติในบทเพลงพระราชนิพนธ์ ผลกำรศกึ ษำแนวคดิ ทป่ี รำกฏในบทเพลง คณะผจู้ ดั ทา พบวา่ 1. แนวคดิ ทป่ี รำกฏในบทเพลง 1.1 แนวคิดเกยี่ วกบั ควำมรัก พบการใชแ้ นวคิดเกีย่ วกบั ความรกั จานวน 17 เพลง ซ่ึงเป็นแนวคดิ ทีพ่ บ ความถม่ี ากทส่ี ุด 1.2 แนวคิดเก่ยี วกบั ธรรมชำต์ิ พบการใชแ้ นวคดิ เก่ียวกบั ธรรมชาติจานวน 15 เพลง 1.3 แนวคิดเกีย่ วกบั ควำมเชื่อ พบการใชแ้ นวคดิ เก่ียวกบั ความเช่ือจานวน15 เพลง
อภิปรำยผล จากผลการวเิ คราะห์แนวคิดและการใชภ้ าษาในบทเพลงพระราชนิพนธ์ จานวน 48 บทเพลง หัวขอ้ การใชภ้ าษาในบทเพลงพระราชนิพนธพ์ บว่ามกี ารใชค้ าซอ้ นเพอื่ ความหมาย ท้งั หมดจานวน 41 เพลง พบมากทสี่ ุดเพราะวา่ เป็นกลวิธีทีใ่ ชใ้ นการแตง่ บทประพนั ธ์ให้มีความไพเราะและมคี วามหมาย เขา้ ใจไดง้ ่าย และตดิ หูผฟู้ ัง 2. จากผลการวิเคราะหแ์ นวคดิ ที่ปรากฏในบทเพลงพระราชนิพนธ์ พบวา่ มกี ารใช้ แนวคิดเก่ียวกบั ความรกั มากท่สี ุดในบทเพลงพระราชนิพนธ์ จานวน 17 เพลงโดยไดถ้ า่ ยทอดอารมณ์ เกย่ี วกบั ความรักไวอ้ ย่างหลากหลายแงม่ ุมที่มคี วามลกึ ซ้ึง ต้งั แตค่ วามรักที่มคี วามสุขสมหวงั ความรกั ที่ ผิดหวงั หรือความรกั ที่ตอ้ งจบลง ข้อเสนอแนะในกำรศึกษำค้นคว้ำคร้ังต่อไป 1. ควรศึกษาและเปรียบเทียบกลวิธีการใช่คาและแนวคดิ ที่ปรากฏในบทเพลงอ่ืนๆ 2. เคลียร์งานให้เสร็จก่อนนาเสนอผลงาน
บรรณานุกรม รวมเน้ือเพลง 48 บทเพลงพระราชนิพนธ์ https://sites.google.com/site/musickhonburischool/home/48-2 ความหมายในบทเพลง https://www.marketingoops.com/news/csr-news/9- %E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%87-9- %E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B2% E0%B8%A2- %E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%87/ การใชภ้ าษา http://119.46.166.126/self_all/selfaccess12/m6/552/lesson4/index4.php ขอ้ มูลประกอบการเรียน https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A3% E0%B8%B1%E0%B8%81 https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%80%E 0%B8%8A%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%8A% E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4
Search
Read the Text Version
- 1 - 40
Pages: