➢PRELOAD….➢คําว่า PRE แปลว่า “ก่อน”.. LOAD แปลว่า “ของบรรทุก”➢ในที่นี้หมายถึงจํานวนเลือดที่อยู่ในหัวใจก่อนที่จะถูกปั้มออกไป at the end of diastole.➢เราวัดเป็นความดัน ( PRESSURE ) ที่ดันผนังของRight and Left Ventricle. (preload is the endvolumetric pressure that stretches the rightor left ventricle of the heart , Preload isrelated to the ventricular end-diastolicvolume. )➢ตามกฎของ Starling’s law จํานวนเลือดมากขึ้นแรงบีบตัวก็เพิ่มขึ้น➢ค่าของ Preload เป็นตัวบอกถึงสถาณะของจํานวนเลือดก่อนที่หัวใจจะปั้มออกไป ( fluid status )
➢AFTERLOAD…… คําว่า AFTER หมายถึง หลัง ….ฉะนั้น AFTERLOAD ก็หมายถึง ความดันที่วัดได้จากการปั้ม ( การบีบตัวของหัวใจ ) ขั้นสุดท้ายที่หัวใจต้องใช้ปั้มเลือดออก เป็นความดันที่ต้านการปั้มของหัวใจ➢Aortic valve and Pulmonic valve stenosis มีผลทําให้ Afterload สูงขึ้น➢เส้นเลือดที่ขยายตัวทําให้ Afterload ลดน้อยลงแต่เส้นเลือดที่รัดตัว constrict จะทําให้ Afterloadสูงขึ้น➢ความดันโลหิตไม่ใช่ Systemic VascularResistance (SVR) แต่ถ้าความดันโลหิตสูง SVR จะสูงด้วยฉะนั้นคนที่มีความดันโลหิตสูง จะทําให้หัวใจต้องทํางานหนักเพิ่มขึ้นเพื่อปั้มเลือดออกจากหัวใจที่มีความต้านทานสูง ( high SVR )
การบีบตัวของกล้ามเนื้อของหัวใจ เกิดจากการหดตัวของ Sarcomere ทําให้เกิดการ overlapของ Actin filaments และ Myosin filaments ทําให้เกิดการบีบตัว ( contraction )เมื่อกล้ามเนื้อของหัวใจตาย ( infarction ) จึงมีผลทําให้การบีบตัวของกล้ามเนื้อหัวใจไม่ได้ดี
สาเหตุอย่างอื่นที่มีผลทําให้ Cardiac output น้อยลง เช่น การบีบตัวของกล้ามเนื้อหัวใจห้องข้างล่างไม่พร้อมกัน หรือการบีบตัวที่ไม่สมําเสมอ ไม่เป็นไปในทิศทางที่จะบีบเลือดออกจากห้องหัวใจ
SvO2 คือค่าของ Oxygen saturation วัดได้จากเลือดที่ไหลกลับคืนมาจากส่วนต่างของร่างกายมาผสมกันแล้ว ( เลือดจาก Pulmonary artery )SvO2 ค่าปกติ 60% - 80% ค่ามากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ Supply, Transportation และ DemandSupply = จํานวนค่าของ Oxygen Saturation ในเส้นเลือดแดง ( SaO2 )Transportation = ขึ้นอยู่กับ Hemoglobin และ Cardiac outputDemand = จํานวนที่ร่างกายส่วนต่างใช้ Oxygen ไป
หัวใจห้องข้างล่าง ใช้ oxygen มากที่สุด มากกว่าส่วนอื่นของร่างกาย ใช้ประมาณ 75%ถ้ากล้ามเนื้อของหัวใจต้องการเลือดที่มี oxygen มากขึ้น แต่ถ้า Cardiac output,Oxygen saturation ตำ่ และ Hemoglobin น้อยลง กล้ามเนื้อของหัวใจจะได้รับเลือดรับ oxygen ไม่เพียงพอ จะมีผลทําให้กล้ามเนื้อของหัวใจเสียหายตายได้
sympathetic nervous systemทําหน้าที่มากขึ้นในภาวะที่ร่างกายมีความเครียด(physical stress)หรืออยู่ในสภาพเตรียมสู้หรือถอยหนี (fight or flight) เช่น ขณะออกกำลังกายหนาวสั่น หรือเสียเลือด (hemorrhage)นอกจากนี้ความเครียดเกี่ยวกับอารมณ์(emotional stress) เช่น ขณะตื่นเต้น โกรธ ตกใจกลัว สามารถกระตุ้น sympathetic nervoussystem ได้โดยไปกระตุ้น hypothalamus แล้วส่งสัญญาณประสาทไปยัง reticular formation และไขสันหลังทำให้มีการกระตุ้น sympatheticnervous system อย่างรุนแรงส่งผลให้หัวใจเต้นเร็วและแรงขึ้น หายใจเร็วขึ้น เพิ่มความดันเลือด อัตราการเกิดเมแทบอลิซึมของเซลล์ทั่วร่างกายสูงขึ้น (เพิ่ม catabolic metabolism)นํ้าตาลในเลือดมากขึ้น เพิ่มการหลั่งเหงื่อ เพิ่มmental activity เป็นต้น จากผลรวมเหล่านี้ทำให้ร่างกายสามารถทำงานได้มากกว่าปกติ
Search
