Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บทที่ 1 ภูมิปัญญาไทย อ.พิมลสอน 24 มค62

บทที่ 1 ภูมิปัญญาไทย อ.พิมลสอน 24 มค62

Published by ไกรศร จันทร์นฤมิตร, 2019-01-22 11:16:13

Description: บทที่ 1 ภูมิปัญญาไทย อ.พิมลสอน 24 มค62

Search

Read the Text Version

บทท่ี 1 ภูมปิ ัญญาไทย อาจารยพ์ ิมล รวมไมตรี 1.1 ความหมายของภูมปิ ัญญาไทย สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ ไดอ้ ธิบายความหมายของภูมิปัญญา ดงั น้ี ภูมิปัญญา หมายถึง องคค์ วามรู้ ความสามารถและทกั ษะของคนไทยอนั เกิดจากการสัง่ สมประสบการณ์ ท่ีผา่ นกระบวนการเรียนรู้ เลือกสรร ปรุงแตง่ พฒั นา และถ่ายทอดสืบตอ่ กนั มา เพ่ือใชแ้ กป้ ัญญาและพฒั นา วถิ ีชีวติ ของคนไทยใหส้ มดุลกบั สภาพแวดลอ้ มและเหมาะสมกบั ยคุ สมยั กล่าวโดยสรุป ภูมิปัญญา เป็ นความรู้ ความคิด ความเช่ือ ความสามารถที่เป็นผลมาจากการใชส้ ติปัญญา และการส่ังสมประสบการณ์ที่ผา่ นกระบวนการเรียนรู้ เลือกสรร ปรุงแต่ง พฒั นาและถ่ายทอดสืบต่อกนั มา เพือ่ ใชแ้ กป้ ัญหาและพฒั นาชีวติ ของคนไทยใหส้ มดุลกบั สภาพแวดลอ้ มและเหมาะสมกบั ยคุ สมยั ภูมิปัญญา จึงเป็นส่วนหน่ึงของวฒั นธรรม ภูมิปัญญามีขอบข่ายกวา้ งขวาง ความสาคญั ของภูมิปัญญาไทย คณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ คนไทยไดส้ ร้างชาติ สร้างความเป็นปึ กแผน่ มนั่ คงของบา้ นเมือง มีการ ดารงชีวิตดว้ ยความสุขร่มเยน็ อยไู่ ดจ้ นถึงทุกวนั น้ี เพราะไดใ้ ชภ้ ูมิปัญญาของตนมาตลอด ภูมิปัญญาไทยจึงมี ความสาคญั อยา่ งยง่ิ ซ่ึงพอจะสรุปไดด้ งั น้ี 1. ช่วยสร้างชาติใหเ้ ป็นปึ กแผน่ มน่ั คง 2. สร้างความภาคภูมิใจและศกั ด์ิศรีเกียรติภูมิแก่คนไทย 3. สามารถปรับประยกุ ตห์ ลกั ธรรมคาสอนทางศาสนาใชก้ บั ชีวติ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 4. สร้างความสมดุลระหวา่ งคนกบั สงั คมและธรรมชาติไดอ้ ยา่ งยงั่ ยนื 5. ช่วยเปล่ียนแปลงปรับปรุงวถิ ีชีวติ ของคนไทยใหเ้ หมาะสมไดต้ ามยคุ ความสาคญั ของภูมิปัญญาทอ้ งถิ่น คือ 1. ช่วยใหส้ มาชิกในชุมชน หมูบ่ า้ นดารงชีวติ อยรู่ ่วมกนั ไดอ้ ยา่ งสงบสุข

2. ช่วยสร้างความสมดุลระหวา่ งคนกบั ธรรมชาติแวดลอ้ ม 3. ช่วยใหผ้ คู้ นดารงตนและปรับเปลี่ยนทนั ตอ่ ความเปล่ียนแปลงและผลกระทบอนั เกิดจากสังคมภายนอก 4. เป็นประโยชนต์ ่อการทางานพฒั นาชนบทของเจา้ หนา้ ที่จากหน่วยงานตา่ ง ๆ เพอ่ื ที่จะไดก้ าหนดท่าทีการ ทางานใหก้ ลมกลืนกบั ชาวบา้ นมากยงิ่ ข้ึน คุณคา่ และความสาคญั ของภูมิปัญญาไทย คุณค่าของภูมิปัญญาไทย ไดแ้ ก่ ประโยชน์ และความสาคญั ของภูมิปัญญา ที่บรรพบุรุษไทย ได้ สร้างสรรค์ และสืบทอดมาอยา่ งตอ่ เนื่อง จากอดีตสู่ปัจจุบนั ทาใหค้ นในชาติเกิดความรัก และความ ภาคภูมิใจ ท่ีจะร่วมแรงร่วมใจสืบสานตอ่ ไปในอนาคต เช่น โบราณสถาน โบราณวตั ถุ สถาปัตยกรรม ประเพณีไทย การมีน้าใจ ศกั ยภาพในการประสานผลประโยชน์ เป็นตน้ ภูมิปัญญาไทยจึงมีคุณคา่ และความสาคญั ดงั น้ี 1. ภูมิปัญญาไทยช่วยสร้างชาติใหเ้ ป็นปึ กแผน่ พระมหากษตั ริยไ์ ทยไดใ้ ชภ้ ูมิปัญญาในการสร้างชาติ สร้างความเป็นปึ กแผน่ ใหแ้ ก่ประเทศชาติมาโดยตลอด ต้งั แต่สมยั พอ่ ขนุ รามคาแหงมหาราช พระองคท์ รงปกครองประชาชน ดว้ ยพระเมตตา แบบพอ่ ปกครองลูก ผใู้ ดประสบความเดือดร้อน กส็ ามารถตีระฆงั แสดงความเดือดร้อน เพื่อขอรับพระราชทานความช่วยเหลือ ทาใหป้ ระชาชนมีความจงรักภกั ดีตอ่ พระองค์ ตอ่ ประเทศชาติ ร่วมกนั สร้างบา้ นเรือนจนเจริญรุ่งเรืองเป็น ปึ กแผน่ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระองคท์ รงใชภ้ ูมิปัญญากระทายทุ ธหตั ถี จนชนะขา้ ศึกศตั รู และทรง กอบกูเ้ อกราชของชาติไทยคืนมาได้ พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั ภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 พระองคท์ รงใชภ้ ูมิปัญญาสร้าง คุณประโยชน์แก่ประเทศชาติ และเหล่าพสกนิกรมากมายเหลือคณานบั ทรงใชพ้ ระปรีชาสามารถ แกไ้ ข วกิ ฤตการณ์ทางการเมือง ภายในประเทศ จนรอดพน้ ภยั พิบตั ิหลายคร้ัง พระองคท์ รงมีพระปรีชาสามารถ หลายดา้ น แมแ้ ต่ดา้ นการเกษตร พระองคไ์ ดพ้ ระราชทานทฤษฎีใหมใ่ หแ้ ก่พสกนิกร ท้งั ดา้ นการเกษตรแบบ สมดุลและยง่ั ยนื ฟ้ื นฟูสภาพแวดลอ้ ม นาความสงบร่มเยน็ ของประชาชนใหก้ ลบั คืนมา แนวพระราชดาริ \"ทฤษฎีใหม\"่ แบง่ ออกเป็น ๓ ข้นั โดยเร่ิมจาก ข้นั ตอนแรก ใหเ้ กษตรกรรายยอ่ ย \"มีพออยพู่ อกิน\" เป็นข้นั

พ้นื ฐาน โดยการพฒั นาแหล่งน้า ในไร่นา ซ่ึงเกษตรกรจาเป็นที่จะตอ้ งไดร้ ับความช่วยเหลือจากหน่วย ราชการ มูลนิธิ และหน่วยงานเอกชน ร่วมใจกนั พฒั นาสังคมไทย ในข้นั ท่ีสอง เกษตรกรตอ้ งมีความเขา้ ใจ ในการจดั การในไร่นาของตน และมีการรวมกลุ่มในรูปสหกรณ์ เพ่ือสร้างประสิทธิภาพทางการผลิต และ การตลาด การลดรายจา่ ยดา้ นความเป็นอยู่ โดยทรงตระหนกั ถึงบทบาทขององคก์ รเอกชน เม่ือกลุ่มเกษตร ววิ ฒั น์มาข้นั ที่ ๒ แลว้ กจ็ ะมีศกั ยภาพ ในการพฒั นาไปสู่ข้นั ที่สาม ซ่ึงจะมีอานาจในการต่อรองผลประโยชน์ กบั สถาบนั การเงินคือ ธนาคาร และองคก์ รท่ีเป็นเจา้ ของแหล่งพลงั งาน ซ่ึงเป็นปัจจยั หน่ึงในการผลิต โดยมี การแปรรูปผลิตผล เช่น โรงสี เพอื่ เพ่มิ มูลค่าผลิตผล และขณะเดียวกนั มีการจดั ต้งั ร้านคา้ สหกรณ์ เพือ่ ลด คา่ ใชจ้ า่ ยในชีวติ ประจาวนั อนั เป็นการพฒั นาคุณภาพชีวติ ของบุคคลในสงั คม จะเห็นไดว้ า่ มิไดท้ รงทอดทิ้ง หลกั ของความสามคั คีในสงั คม และการจดั ต้งั สหกรณ์ ซ่ึงทรงสนบั สนุนใหก้ ลุ่มเกษตรกรสร้างอานาจ ต่อรองในระบบเศรษฐกิจ จึงจะมีคุณภาพชีวติ ท่ีดี จึงจดั ไดว้ า่ เป็นสังคมเกษตรท่ีพฒั นาแลว้ สมดงั พระราช ประสงคท์ ่ีทรงอุทิศพระวรกาย และพระสติปัญญา ในการพฒั นาการเกษตรไทยตลอดระยะเวลาแห่งการ ครองราชย์ 2.สร้างความภาคภูมิใจ และศกั ด์ิศรี เกียรติภูมิแก่คนไทย คนไทยในอดีตท่ีมีความสามารถปรากฏในประวตั ิศาสตร์มีมาก เป็นท่ียอมรับของนานาอารยประเทศ เช่น นายขนมตม้ เป็ นนกั มวยไทย ที่มีฝีมือเก่งในการใชอ้ วยั วะทุกส่วน ทุกท่าของแม่ไมม้ วยไทย สามารถชกมวย ไทย จนชนะพมา่ ไดถ้ ึงเกา้ คนสิบคนในคราวเดียวกนั แมใ้ นปัจจุบนั มวยไทยกย็ งั ถือวา่ เป็นศิลปะช้นั เยยี่ ม เป็นที่นิยมฝึกและแขง่ ขนั ในหมู่คนไทยและชาวตา่ ง ประเทศ ปัจจุบนั มีค่ายมวยไทยทวั่ โลกไมต่ ่ากวา่ ๓๐,๐๐๐ แห่ง ชาวตา่ งประเทศที่ไดฝ้ ึกมวยไทย จะรู้สึกยนิ ดีและภาคภูมิใจ ในการที่จะใชก้ ติกา ของมวยไทย เช่น การไหวค้ รูมวยไทย การออก คาส่งั ในการชกเป็ นภาษาไทยทุกคา เช่น คาวา่ \"ชก\" \"นบั หน่ึงถึงสิบ\" เป็น ตน้ ถือเป็ นมรดก ภูมิปัญญาไทย นอกจากน้ี ภูมิปัญญาไทยที่โดด เด่นยงั มีอีกมากมาย เช่น มรดกภูมิปัญญา ทาง ภาษาและวรรณกรรม โดยท่ีมีอกั ษรไทยเป็นของ ตนเองมาต้งั แตส่ มยั กรุงสุโขทยั และววิ ฒั นาการ มา จนถึงปัจจุบนั วรรณกรรมไทยถือวา่ เป็นวรรณกรรมท่ีมีความไพเราะ ไดอ้ รรถรสครบทุกดา้ น วรรณกรรม หลายเร่ืองไดร้ ับการแปลเป็นภาษาต่างประเทศหลายภาษา ดา้ นอาหาร อาหารไทยเป็ นอาหารท่ีปรุงง่าย พืชท่ีใชป้ ระกอบอาหารส่วนใหญเ่ ป็ นพชื สมุนไพร ที่หาไดง้ ่าย ในทอ้ งถ่ิน และราคาถูก มี คุณคา่ ทางโภชนาการ และยงั ป้องกนั โรคไดห้ ลายโรค เพราะส่วนประกอบส่วน ใหญ่เป็นพชื สมุนไพร เช่น ตะไคร้ ขิง ขา่ กระชาย ใบมะกรูด ใบโหระพา ใบกะเพรา เป็นตน้

3.. สามารถปรับประยกุ ตห์ ลกั ธรรมคาสอนทางศาสนาใชก้ บั วถิ ีชีวติ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม คนไทยส่วนใหญ่นบั ถือศาสนาพุทธ โดยนาหลกั ธรรมคาสอนของศาสนา มาปรับใชใ้ นวถิ ีชีวติ ไดอ้ ยา่ ง เหมาะสม ทาใหค้ นไทยเป็นผอู้ ่อนนอ้ มถ่อมตน เอ้ือเฟ้ื อเผอ่ื แผ่ ประนีประนอม รักสงบ ใจเยน็ มีความอดทน ใหอ้ ภยั แก่ผสู้ านึกผดิ ดารงวิถีชีวติ อยา่ งเรียบง่าย ปกติสุข ทาใหค้ นในชุมชนพ่งึ พากนั ได้ แมจ้ ะอดอยาก เพราะ แหง้ แลง้ แตไ่ ม่มีใครอดตาย เพราะพ่งึ พาอาศยั กนั แบ่งปันกนั แบบ \"พริกบา้ นเหนือเกลือบา้ นใต\"้ เป็ นตน้ 4. สร้างความสมดุลระหวา่ งคนในสังคม และธรรมชาติไดอ้ ยา่ งยง่ั ยนื ภูมิปัญญาไทยมีความเด่นชดั ในเรื่องของการยอมรับนบั ถือ และใหค้ วามสาคญั แก่คน สงั คม และธรรมชาติ อยา่ งยง่ิ มีเครื่องช้ีที่แสดงใหเ้ ห็นไดอ้ ยา่ งชดั เจนมากมาย เช่น ประเพณีไทย 12 เดือน ตลอดท้งั ปี ลว้ นเคารพ คุณค่าของธรรมชาติ ไดแ้ ก่ ประเพณีสงกรานต์ ประเพณีลอยกระทง เป็นตน้ ประเพณีสงกรานต์เป็น ประเพณีท่ีทาใน ฤดูร้อนซ่ึงมีอากาศร้อน ทาใหต้ อ้ งการความเยน็ จึงมีการรดน้าดาหวั ทาความสะอาด บา้ นเรือน และธรรมชาติส่ิงแวดลอ้ ม มีการแห่นางสงกรานต์ การทานายฝนวา่ จะตกมากหรือนอ้ ยในแต่ละปี ส่วนประเพณีลอยกระทง คุณคา่ อยทู่ ี่การบูชา ระลึกถึงบญุ คุณของน้า ท่ีหล่อเล้ียงชีวติ ของ คน พชื และ สตั ว์ ใหไ้ ดใ้ ชท้ ้งั บริโภคและอุปโภค ในวนั ลอยกระทง คนจึงทาความสะอาดแม่น้า ลาธาร บูชาแมน่ ้าจาก ตวั อยา่ งขา้ งตน้ ลว้ นเป็ น ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งคนกบั สงั คมและธรรมชาติ ท้งั สิ้น ในการรักษาป่ าไมต้ น้ น้าลาธาร ไดป้ ระยกุ ตใ์ หม้ ีประเพณีการบวชป่ า ใหค้ นเคารพสิ่งศกั ด์ิสิทธ์ิ ธรรมชาติ และ สภาพแวดลอ้ ม ยงั ความอุดมสมบูรณ์แก่ตน้ น้า ลาธาร ใหฟ้ ้ื นสภาพกลบั คืนมาไดม้ าก อาชีพการเกษตรเป็ นอาชีพหลกั ของคนไทย ท่ีคานึงถึงความสมดุล ทาแต่นอ้ ยพออยพู่ อกิน เม่ือเหลือกิน ก็ แจกญาติพ่ีนอ้ ง เพ่อื นบา้ น บา้ นใกลเ้ รือนเคียง นอกจากน้ี ยงั นาไปแลกเปลี่ยนกบั ส่ิงของอยา่ งอ่ืน ท่ีตนไม่มี เม่ือเหลือใชจ้ ริงๆ จึงจะนาไปขาย อาจกล่าวไดว้ า่ เป็นการเกษตรแบบ \"กิน-แจก-แลก-ขาย\" ทาใหค้ นใน สงั คมไดช้ ่วยเหลือเก้ือกลู แบ่งปันกนั เคารพรัก นบั ถือ เป็ นญาติกนั ท้งั หมูบ่ า้ น จึงอยรู่ ่วมกนั อยา่ งสงบสุข มี ความสมั พนั ธ์กนั อยา่ งแนบแน่น ธรรมชาติไม่ถูกทาลายไปมากนกั เน่ืองจากทาพออยพู่ อกิน ไม่โลภมากและ ไม่ทาลายทุกอยา่ งผดิ กบั ในปัจจุบนั ถือเป็นภูมิปัญญาที่สร้างความสมดุลระหวา่ งคน สังคม และธรรมชาติ 5. เปล่ียนแปลงปรับปรุงไดต้ ามยคุ สมยั

แมว้ า่ กาลเวลาจะผา่ นไป ความรู้สมยั ใหม่ จะหลง่ั ไหลเขา้ มามาก แต่ภูมิปัญญาไทย ก็สามารถปรับเปลี่ยนให้ เหมาะสมกบั ยคุ สมยั เช่น การรู้จกั นาเครื่องยนตม์ าติดต้งั กบั เรือ ใส่ใบพดั เป็นหางเสือ ทาใหเ้ รือสามารถแล่น ไดเ้ ร็วข้ึน เรียกวา่ เรือหางยาว การรู้จกั ทาการเกษตรแบบผสมผสาน สามารถพลิกฟ้ื นคืนธรรมชาติให้ อุดม สมบูรณ์ เม่ือปะการังธรรมชาติถูกทาลาย ปลาไม่มีท่ีอยอู่ าศยั ประชาชนสามารถสร้าง ปะการังเทียม ใหป้ ลา อาศยั วางไข่ และ แพร่พนั ธุ์ใหเ้ จริญเติบโต มีจานวนมากดงั เดิมได้ ถือเป็นการใชภ้ ูมิปัญญา ปรับปรุง ประยกุ ตใ์ ชไ้ ดต้ ามยคุ สมยั 1.2 ลกั ษณะของภูมิปัญญาไทย ลกั ษณะของภูมิปัญญาไทย มีดงั น้ี 1. ภูมิปัญญาไทย เป็ นเร่ืองใชค้ วามรู้ (Knowledge) ทกั ษะ (Skill) ความเชื่อ (Belief) และพฤติกรรม (Behavior) 2. ภูมิปัญญาไทย แสดงถึงความสัมพนั ธ์ระหวา่ งคนกบั คน คนกบั ธรรมชาติสิ่งแวดลอ้ มและคนกบั ส่ิงเหนือ ธรรมชาติ 3. ภูมิปัญญาไทย เป็ นองคร์ วมหรือกิจกรรมทุกอยา่ งในวถิ ีชีวติ 4. ภูมิปัญญาไทย เป็ นเร่ืองของการแกไ้ ขปัญหา การจดั การ การปรับตวั การเรียนรู้ เพ่อื ความอยรู่ อด ของบุคคล ชุมชน และสงั คม 5. ภูมิปัญญา เป็นแกนหลกั หรือกระบวนทศั น์ในการมองชีวติ เป็นพ้ืนความรู้ในเร่ืองตา่ ง ๆ 6. ภูมิปัญญาไทยมีลกั ษณะเฉพาะหรือมีเอกลกั ษณ์ในตวั เอง 7. ภูมิปัญญาไทยมีการเปล่ียนแปลง เพอ่ื การปรับสมดุลในพฒั นาการทางสงั คมตลอดเวลา 1.3 ขอบขา่ ยของภูมิปัญญาไทย สานกั งานคณะกรรมการวฒั นธรรมแห่งชาติ กระทรวงวฒั นธรรม ไดก้ าหนดขอบขา่ ยของภูมิปัญญาไทยไว้ 5 ดา้ น ดงั น้ี 1. ภูมิปัญญาดา้ นเกษตรกรรม หมายถึง การผสมผสานการเกษตรและเทคโนโลยโี ดยพฒั นา

บนพ้นื ฐานคุณค่าด้งั เดิม รวมท้งั ความสามารถในกาแกป้ ัญหาตา่ งๆไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ 2. ภูมิปัญญาดา้ นส่ิงแวดลอ้ ม หมายถึง การอนุรักษธ์ รรมชาติและศิลปวฒั นธรรม การถ่ายทอด ความรู้ด้งั เดิมเพ่ือการอนุรักษธ์ รรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มอยา่ งสมดุลและยงั่ ยนื 3. ภูมิปัญญาดา้ นการจดั การ สวสั ดิการและธุรกิจชุมชน หมายถึง การใชค้ ุณธรรมและ จริยธรรมในดา้ นการรวมกลุ่มเพือ่ พฒั นาคุณภาพชีวิตของชุมชนใหม้ ีความมนั่ คงทางเศรษฐกิจ สงั คมและ วฒั นธรรม 4. ภูมิปัญญาดา้ นการรักษาโรคและการป้องกนั หมายถึง การสืบทอดความรู้ด้งั เดิม และการ ประยกุ ตใ์ ชค้ วามเช่ือทอ้ งถิ่น เพ่อื ใหช้ ุมชนสามารถพ่ึงตนเองดา้ นสุขภาพอนามยั 5. ภูมิปัญญาดา้ นการผลิตและการบริโภค หมายถึง การประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยใี นการแปรรูป และการผลิตเพ่ือการบริโภคอยา่ งผลิตเพอ่ื การบริโภคอยา่ งปลอดภยั ประหยดั และเป็ นธรรม อนั เป็น กระบวนการใหช้ ุมชนทอ้ งถิ่นสามารถพ่งึ ตนเองทางเศรษฐกิจ ประเภทของภูมิปัญญาไทย คณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการ แบง่ สาขาหรือประเภทของภูมิปัญญาทอ้ งถ่ินไว้ 10 สาขา ดงั น้ี 1.ดา้ นเกษตรกรรม เช่น การเพาะปลูก การขยายพนั ธ์ การเล้ียงสตั ว์ การเกษตรผสมผสาน การทาไร่นาสวน ผสม การปรับใชเ้ ทคโนโลยที ่ีเหมาะสมกบั การเกษตร เป็ นตน้ 2.ดา้ นอุตสาหกรรมและหตั ถกรรม เช่น การจดั สาน ทอ การช่าง การทอผา้ การแกะสลกั เป็นตน้ 3.ดา้ นการแพทยแ์ ผนไทย เช่น หมอสมุนไพร หมอยากลางบา้ น หมอนวดแผนโบราณ หมอยาหมอ้ 4.ดา้ นการจดั การทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม เช่น การบวชป่ า การสืบชะตาแม่น้า การอนุรักษป์ ่ า ชายเลน 5.ดา้ นกองทุนและธุรกิจชุมชน เช่น ผูน้ าในการจดั การกองทุนของชุมชน ผนู้ าในการจดั ต้งั กองทุนสวสั ดิการ รักษาพยาบาล ผนู้ าในการจดั ระบบสวสั ดิการ บริการชุมชน เป็นตน้

6.ดา้ นศิลปกรรม เช่น วาดภาพ(กิจกรรม) การป้ัน (ประติมากรรม) นาฎศิลป์ ดนตรี การแสดง การละเล่น พ้นื บา้ น นนั ทนาการ เป็ นตน้ 7.ดา้ นภาษาและวรรณกรรม เช่น ความสามารถในการอนุรักษ์ และสร้างผลงานดา้ นภาษา วรรณกรรม ทอ้ งถิ่น การจดั ทาสารานุกรมภาษา หนงั สือโบราณ การฟ้ื นฟู การเรียนการสอนภาษาถิ่นของทอ้ งถิ่นต่าง ๆ เป็ นตน้ 8.ดา้ นปรัชญา ศาสนา และประเพณี เช่น ความสามารถประยกุ ตแ์ ละปรับใชห้ ลกั ธรรมคาสอนทางศาสนา ปรัชญาความเชื่อ และประเพณีที่มีคุณค่าใหเ้ หมาะสมต่อบริบททางเศรษฐกิจ สงั คม การถ่ายทอดวรรณกรรม คาสอน การประยกุ ตป์ ระเพณีบุญ เป็ นตน้ 9.ดา้ นโภชนาการ เช่น ความสามารถในการเลือกสรร ประดิษฐ์ และปรุงแต่งอาหารและยา ไดเ้ หมาะสมกบั ความตอ้ งการของร่างกายในสภาวการณ์ตา่ ง ๆ ตลอดจนผลิตเป็นสินคา้ บริการส่งออกที่ไดร้ ับความนิยม แพร่หลายมาก เป็นตน้ 10.ดา้ นองคก์ รชุมชน เช่น ร้านคา้ ชุมชน ศูนยส์ าธิตการตลาด กลุ่มออมทรัพยอ์ งคก์ รดา้ นการตดั เยบ็ เส้ือผา้ กลุ่มจกั รสาน กลุ่มทอผา้ กลุ่มทอเส่ือ กลุ่มตีมีด ตีขวาน เครื่องมือท่ีทาจากเหล็ก กองทุนสวสั ดิการชุมชน การอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติ เป็นตน้ จากการแบง่ ประเภทของภูมิปัญญาทอ้ งถ่ินท่ีนกั การศึกษา และหน่วยงานต่างๆไดก้ ล่าวมา สรุปไดว้ า่ ภูมิ ปัญญาทอ้ งถ่ินสามารถแบ่งตามลกั ษณะของคนในทอ้ งถิ่นหรือชุมชนไดค้ ิดหรือ ไดร้ ับการถ่ายทอดและถือ ปฏิบตั ิสืบตอ่ กนั มาจากบรรพบุรุษ ซ่ึงเกิดจากความเชื่อ ความรู้สึก ความนึกคิด ในการสร้างสรรคแ์ บบแผน ของการดาเนินชีวติ รวมถึงการนาเทคโนโลยพี ้นื บา้ นมาประยกุ ตใ์ ชใ้ หเ้ กิดประโยชน์ต่อไป 1.4 ภูมิปัญญารากฐานการดาเนินชีวติ ของคนไทย ภูมิปัญญา ถือไดว้ า่ เป็นปรัชญาชีวติ ของชาวบา้ น ซ่ึงเป็นท่ีมาของวถิ ีชีวติ วธิ ีคิด วธิ ีปฏิบตั ิ อนั อยู่ ภายใตก้ ารมองโลกมองชีวติ แบบหน่ึง โดยภูมิปัญญาเป็ นความรู้ท่ีมีการถ่ายทอดมาต้งั แต่บรรพบุรุษ เพอ่ื ให้ คนรุ่นต่อๆ ไปไดน้ ามาปรับใช้ ฟ้ื นฟู ประยกุ ต์ รวมถึงสร้างสรรคใ์ หเ้ กิดความรู้ใหมใ่ นสังคม ซ่ึงภูมิปัญญา ทอ้ งถ่ินจะแสดงถึงความสัมพนั ธ์ระหวา่ งคนกบั คน คนกบั ธรรมชาติ และคนกบั ส่ิงเหนือธรรมชาติ ภูมิ ปัญญาจึงเป็นองคค์ วามรู้ที่มีความสาคญั อยา่ งยง่ิ

ภูมิปัญญา เป็น ปัญญาที่ผกู ติดกบั แผน่ ดิน หรือ ทอ้ งถ่ิน การท่ีชนเหล่าใดที่ดารงเป็นกลุ่ม หรือ ชน ชาติ หรือ ประเทศมาเป็นเวลานาน ตอ้ งมีภูมิปัญญาของกลุ่ม หรือ ของชนชาติ หรือ ของประเทศ ท่ี เรียกวา่ ภูมิปัญญาทอ้ งถิ่น ซ่ึงสะสมข้ึนมาจากประสบการณ์ของชีวิต สงั คม และในสภาพแวดลอ้ มท่ีแตกต่างกนั และ มีการถ่ายทอดสืบตอ่ การมาเป็นวฒั นธรรม ในปัจจุบนั สังคมไทยกาลงั เผชิญกบั ปัญหาการทอดทิง้ ภูมิปัญญาทอ้ งถิ่น เนื่องจากสังคมไทยมีการ เคล่ือนไหวต่อเนื่องอยา่ งไม่หยดุ นิ่ง ทาใหท้ ศั นะคติของคนในสงั คมเกิดการเปล่ียนแปลง โดยหลงลืมภูมิ ปัญญาของบรรพบุรุษที่มีการถ่ายทอดมาอยา่ งยาวนาน ไม่วา่ จะเป็น ภูมิปัญญาดา้ นการนวดแผนไทย และ ภูมิปัญญาดา้ น สมุนไพร การรักษาดว้ ยยาสมุนไพร จากครูภูมิปัญญาดา้ นแพทยแ์ ผนไทยและครูภูมิปัญญา ดา้ นการนวดแผนไทย สมุนไพรพ้ืนบา้ นของไทยเราท่ีมีสรรพคุณในการรักษา ถือไดว้ า่ “ภูมิปัญญาทอ้ งถิ่น” เป็นความรู้และกระบวนการท่ีทาใหช้ ุมชนมีการเคลื่อนไหวอยา่ งไม่ หยดุ นิ่ง ภูมิปัญญาทอ้ งถ่ินจึงมีความสาคญั ต่อการดารงชีวติ หากการพฒั นาชุมชนนาความรู้ทางดา้ นภูมิ ปัญญาทอ้ งถ่ินมาปรับประยกุ ต์ ใหส้ อดคลอ้ งกบั พ้นื ฐานของแตล่ ะพ้ืนท่ี จะทาใหก้ ารพฒั นาชุมชนประสบ ความสาเร็จ โดยในอดีตชาวบา้ นไดย้ ดึ หลกั ภูมิปัญญาทอ้ งถิ่นเป็นแกนหลกั ในการดารงชีวติ ซ่ึงต่างกบั ปัจจุบนั ท่ีชาวบา้ นยดึ เทคโนโลยเี ป็นปัจจยั หลกั ของการดารงชีวติ ทาใหช้ าวบา้ นหลงลืมภูมิปัญญาทอ้ งถิ่นท่ี สืบทอดกนั มาต้งั แตบ่ รรพบุรุษ ที่มา https://sites.google.com/site/khwayvthaymdtanxy/chiwit-kab-sangkhm-thiy/bth-thi-4-phumipayya-thiy http://kanchanapisek.or.th/kp6/sub/book/book.php?book=23&chap=1&page=t23-1-infodetail05.html


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook