บันทึกการเรียนรู้บทที่ 1-6

บนั ทึกการเรยี นรู้สถิตเิ พ่อื การวิจยั จัดทาโดย นางสาวจไุ รมาศ ฉัตรสวุ รรณ รหสั นักศึกษา 6590051006 รายวิชาสถิตเิ พ่ือการวิจยั Sec.02 TLR302 ผู้สอน อ.พชิ ญ์สินี ชมภูคา

ก คานา รายงานเล่มนี้จัดทาข้ึนเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของวิชา สถิติเพื่อการวิจัย TLR302 เพ่ือให้ได้ ศึกษาหาความรู้เร่ืองสถิติเพ่ือการวิจัย โดยรายงานเล่มน้ีมีเน้ือหาเก่ียวกับสรุปรวบยอดสูตรการหา ค่าต่างๆ ทางสถิติ อาทิเช่น การวัดแนวโน้มเข้าสู่ส่วนกลาง การวัดการกระจายและคะแนน มาตรฐาน การวัดตาแหน่งของข้อมูล การหาคุณภาพเครื่องมือรวบรวมข้อมูล สัมประสิทธ์ิ สหสมั พันธส์ หสัมพันธเ์ ชงิ เสน้ ตรง และการทดสอบคา่ เฉล่ยี และการทดสอบสัดส่วน โดยผู้จัดทาคาดหวังเป็นอย่างย่ิงว่าการจัดทาเอกสารฉบับน้ีจะมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อ ผู้สนใจศึกษาเรือ่ งสถติ ิเพือ่ การวิจัยไดเ้ ปน็ อย่างดี นางสาวจุไรมาศ ฉตั รสวุ รรณ

สารบัญ ข เร่ือง หนา้ คานา ก สารบญั ข บทท่ี 1 บทนา 1 บทท่ี 2 การวดั แนวโนม้ เขา้ สู่สว่ นกลาง และการวัดตาแหน่งของขอ้ มลู 3 บทท่ี 3 การวดั การกระจายและคะแนนมาตรฐาน 5 บทท่ี 4 การหาคุณภาพเครือ่ งมือรวบรวมขอ้ มูล 7 บทที่ 5 สหสมั พันธ์เชิงเสน้ ตรง 11 บทท่ี 6 การทดสอบคา่ เฉล่ียและการทดสอบสดั สว่ น 13 อ้างอิง ค

1 บนั ทกึ การเรยี นรู้ (Learning Log) รายวชิ า TLR302 สถติ ิเพ่ือการวจิ ยั (Statistics for Research) 1.บทที่ 1 เรอ่ื ง สถิติเพ่ือการวิจัย Statistics for Research ได้ความคดิ รวบยอดของเน้ือหาสาระ สรปุ ได้ (สรปุ เป็นข้อความหรือเป็นแผนผงั ความคิดผังกราฟิก) -ไดค้ วามรู้พนื้ ฐานเร่อื งสถิติ -ตรวจสอบคณุ ภาพของเครอื่ งมอื -สถิติเชิงพรรณนา -สถิติเชิงอนมุ าน -ได้ความรู้ดา้ นการใช้โปรแกรม ในการวเิ คาะห์ข้อมลู -ไดล้ งมือปฎบิ ัตจิ รงิ ในการใช้โปรแกรม ขน้ั ตอนการวจิ ยั -การรวบรวมขอ้ มลู และวเิ คาะห์ข้อมลู เบื้องตน้ -วิเคราะห์ตวั แปร -สมมุติฐานทางสถิติ -ประชากร และกลมุ่ ตวั อย่าง -การเกบ็ รวบรวมข้อมูล -การวิเคราะห์ข้อมูล -การแปรความหมาย -สรุปผล 2.ในบทเรยี นทีเ่ รียนเร่ืองน้จี ะนาไปใช้ในการดาเนินงานของตนเองเกย่ี วกบั การทางานในโรงเรียน วิเคราะห์จานวนนกั เรยี น ได้ส่ิงทเี่ รยี นรูใ้ นบทเรียนน้ีมีเน้ือสาระใดที่เป็นประโยชน์แล้วสามารถนาไปประยุกต์ใชไ้ ด้อยา่ งไร การลงมือใชโ้ ปรแกรม Microsoft Excel เพ่ือใชใ้ นการวิเคราะห์ข้อมลู ทางสถิติในการทาวิจยั ต่อไป

2 3.เนื้อหาสาระที่คดิ ว่าตนเองควรมกี ารศกึ ษาเพม่ิ เตมิ การใชโ้ ปรแกรม Microsoft Excel ในการวิเคราะห์ขอ้ มลู 3.1 ให้อาจารยช์ ว่ ยเรือ่ งอะไรบ้าง ให้คาปรกึ ษาแนะนาการใช้โปรแกรม Microsoft Excel ในการวิเคราะห์ขอ้ มลู ใหถ้ ูกต้องตามขั้นตอน 3.2 ให้เพอื่ นช่วยเรื่องอะไรบ้าง ให้คาแนะนาและช่วยเหลอื กันในหมู่เรียนในการใชโ้ ปรแกรม

3 บนั ทกึ การเรยี นรู้ (Learning Log) รายวิชา TLR302 สถิตเิ พื่อการวิจยั (Statistics for Research) 1.บทที่ 2 เรอ่ื ง สถิติพรรณนา การวัดแนวโนม้ สูส่ ว่ นกลางและการวัดตาแหน่งของข้อมลู ไดค้ วามคิดรวบยอดของเน้ือหาสาระ สรปุ ได้ (สรุปเป็นข้อความหรอื เป็นแผนผังความคดิ ผังกราฟิก) -ได้ความรู้พ้นื ฐานเร่อื งสถิติพรรณนา -ไดค้ วามรู้ด้านการใช้โปรแกรม Microsoft Excel ในการวิเคาะหข์ ้อมลู -ไดล้ งมือปฎบิ ัติจรงิ ในการใชโ้ ปรแกรม Microsoft Excel ในการใส่สตู ร ดงั นี้ จากการแจกแจงความถ่ี นามาหาคา่ เฉล่ียเลขคณติ คา่ มธั ยฐาน ฐานนิยม โดยใช้สตู ร ดังน้ี

4 ใช้โปรแกรม Microsoft Excel ในการใส่สูตร ดังน้ี 2.ในบทเรียนท่เี รยี นเรื่องนจ้ี ะนาไปใชใ้ นการดาเนนิ งานของตนเองเกย่ี วกบั การทางานในโรงเรียน วิเคาะห์จานวนนักเรียน คะแนนสอบนักเรียน นา้ หนกั ส่วนสูง เป็นตน้ ได้ส่ิงท่ีเรียนรใู้ นบทเรียนนี้มีเนื้อสาระใดทเ่ี ปน็ ประโยชนแ์ ล้วสามารถนาไปประยุกต์ใชไ้ ด้อย่างไร การลงมอื ใช้โปรแกรม Microsoft Excel เพอื่ ใชใ้ นการวเิ คาระห์ข้อมลู ทางสถิติในการทาวจิ ัยตอ่ ไป 3.เนอ้ื หาสาระท่ีคิดว่าตนเองควรมกี ารศกึ ษาเพ่ิมเติม การใชโ้ ปรแกรม Microsoft Excel ในการวิเคาระห์ข้อมลู การใสส่ ูตร 3.1 ให้อาจารย์ชว่ ยเรอ่ื งอะไรบา้ ง ใหค้ าปรกึ ษาแนะนาการใช้โปรแกรม Microsoft Excel ในการวเิ คาระห์ข้อมูล ให้ถูกต้องตามขน้ั ตอน และอยากให้อาจารย์อธิบายเรอ่ื งการใสส่ ูตรชา้ กวา่ นี้ 3.2 ใหเ้ พือ่ นชว่ ยเรือ่ งอะไรบา้ ง ให้คาแนะนาและชว่ ยเหลอื กันในหมเู่ รยี นในการใชโ้ ปรแกรม

5 บันทกึ การเรียนรู้ (Learning Log) รายวิชา TLR302 สถติ ิเพ่ือการวิจัย (Statistics for Research) ภาคเรียนท่ี 1/2565 1. บทท่ี 3 เรื่องสถิติพรรณนา || : การวัดการกระจายและคะแนนมาตรฐาน ไดค้ วามคดิ รวบยอดของเนื้อหาสาระ สรุปได้ - ไดค้ วามรู้พน้ื ฐานเร่อื งสถิตพิ รรณนา - ไดค้ วามร้ดู ้านการใชโ้ ปรแกรม Excel ในการวเิ คราะหข์ ้อมูลหาค่าวัดการกระจาย 1) พิสัย (Range) 2) พสิ ยั ของควอรไ์ ทล์ (Inter – Quartile Rang : IQR) โดยใชส้ ูตร ดังน้ี 3) ส่วนเบี่ยงเบนควอร์ไทล์ (Quartile Deviation) 4) สว่ นเบี่ยงเบนเฉลี่ย (Mean Devition) โดยใช้สตู ร ดงั น้ี 5) สว่ นเบีย่ งเบนมาตรฐาน (Standard Devition) โดยใชส้ ูตร ดังนี้ 6) ความ แปรปรวน (Variance) โดยใช้สตู ร ดังน้ี

6 7) สัมประสิทธกิ์ ารแปรผนั (Coefficient of Variation : C.V.) โดยใชส้ ูตร ดงั นี้ - ไดล้ งมือปฎบิ ัตจิ รงิ ในการใชโ้ ปรแกรม Excel 2.ในบทเรียนทเี่ รยี นเรื่องนจ้ี ะนาไปใช้ในการดาเนินงานของตนเองเกีย่ วกบั การทางานในโรงเรยี น วิเคราะห์คะแนน ก่อน-หลงั เรยี น นา้ หนกั ส่วนสงู จานวนนักเรยี นในโรงเรยี น ได้สิง่ ทเ่ี รียนรใู้ นบทเรยี นนีม้ ีเน้ือหาสาระท่ีเป็นประโยชน์แล้วสามารถนาไปประยุกต์ใช้ได้อยา่ งไร การลงมอื ใช้โปรแกรม Excel เพือ่ ใชใ้ นการวเิ คาะห์ข้อมูลทางสถิติในการทาวิจัยในช้ันเรียนต่อไป 3.เนอื้ หาสาระท่ีคิดว่าตนเองควรมีการศึกษาเพมิ่ เตมิ การใชโ้ ปรแกรม Excel ในการวเิ คาะหข์ ้อมูลทางสถิติ การใส่สตู ร 3.1 ให้อาจารย์ช่วยเรอื่ งอะไรบ้าง ให้คาแนะนาการใชโ้ ปรแกรม Excel การใส่สูตร 3.2 ให้เพอ่ื นชว่ ยเรื่องอะไรบา้ ง ใหค้ าแนะนาและชว่ ยเหลือกันภายในหมู่เรียน

7 บนั ทึกการเรยี นรู้ (Learning Log) รายวิชา TLR302 สถติ ิเพื่อการวิจัย (Statistics for Research) ภาคเรยี นท่ี 1/2565 1. บทท่ี 4 เรอ่ื ง การหาคุณภาพเครอ่ื งมือรวบรวมข้อมูล ได้ความคดิ รวบยอดของเนื้อหาสาระ สรปุ ได้ (สรุปเป็นข้อความหรอื เปน็ แผนผงั ความคิดผงั กราฟิก) - ความเทย่ี งตรง ( Validity ) โดยใชส้ ูตร - วธิ ีของคูเดอร์ – ริชารด์ สัน โดยใช้สตู ร

8 ดัชนอี านาจจาแนกของข้อสอบ - ดชั นีจาแนกบี โดยใช้สูตร ดังนี้ - ดชั นคี วามยากของขอ้ สอบ จะได้คา่ P ระหวา่ ง 0.20 – 0.80 โดยใชส้ ูตร ดงั น้ี - ความเช่ือม่ันแบบทดสอบอตั นัย (rtt) ของข้อสอบอัตนัย ควรมีค่าตั้งแต่ 0.70 ข้ึนไป โดยใชส้ ูตร ดังน้ี

9 - ดชั นีอานาจจาแนกของข้อสอบแบบทดสอบอตั นยั แบบอิงกล่มุ ขอ้ สอบที่เก็บไวใ้ ช้ได้คือ ข้อสอบท่ี มคี า่ IDisc > 0.30 โดยใช้สูตร ดังนี้ - ดชั นคี วามยากของแบบทดสอบอตั นัย โดยใชส้ ูตร ดังน้ี - คา่ สัมประสิทธิ์ Cronbach Alpha โดยใชส้ ูตร ดงั น้ี 2. ในบทเรียนทเ่ี รยี นเร่อื งน้จี ะนาไปใช้ในการดาเนนิ งานของตนเองเก่ยี วกบั ในการเรียนการสอน การทาข้อสอบวเิ คราะหค์ วามยากและอานาจจาแนก ความมปี ระสิทธภิ าพ ความเชอื่ ม่ัน ไดส้ ่ิงทเ่ี รียนรูใ้ นบทเรยี นน้ีมเี นื้อสาระใด ท่ีเป็นประโยชนแ์ ล้วสามารถนาไปประยกุ ต์ใช้ได้อย่างไร ความยากและอานาจจาแนก สามารถนาไปวิเคราะห์ความยากของขอ้ สอบได้

10 3. เน้อื หาสาระท่ีคิดว่าตนเองควรมกี ารศึกษาเพิม่ เตมิ การใชโ้ ปรแกรม Excel ในการวเิ คราะหข์ ้อมูล การใสส่ ตู ร 3.1 ใหอ้ าจารยช์ ่วยเร่อื งอะไรบ้าง ให้คาแนะนาการใชโ้ ปรแกรม Excel การใส่สตู ร 3.2 ใหเ้ พอ่ื นชว่ ยเร่อื งอะไรบ้าง . ใหค้ าแนะนาและชว่ ยเหลือกันภายในหมู่เรยี น

11 บันทกึ การเรยี นรู้ (Learning Log) รายวิชา TLR302 สถิตเิ พื่อการวจิ ยั (Statistics for Research) ภาคเรยี นที่ 1/2565 1. บทท่ี 5 เรอื่ ง สหสมั พันธ์เชงิ เส้นตรง ได้ความคิดรวบยอดของเน้ือหาสาระ สรุปได้ (สรปุ เปน็ ข้อความหรือเป็นแผนผังความคิดผงั กราฟิก) - สหสัมพนั ธเ์ ชิงเสน้ ตรง หมายถงึ ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งข้อมลู ของตัวแปร 2 ตวั แปร ทไ่ี ม่กาหนดว่าตัวแปร ใดเป็นตัวแปรอิสระหรือตวั แปรตาม และไม่บ่งช้ีความสัมพันธเ์ ชิงสาเหตุ - สมั ประสิทธิส์ หสมั พันธ์ หมายถึง บง่ บอกระดับความสัมพันธ์ของ 2 ตวั แปร โดยบ่งบอกขนาดและทศิ ทาง ของความสัมพนั ธ์เชิงเสน้ ระหว่างตัวแปร 2 ตวั แปร โดยปกตมิ คี ่าตง้ั แต่ -1 ถงึ +1 - สมั ประสิทธส์ิ หสัมพันธเ์ พยี ร์สนั โดยใช้สตู ร - สัมประสทิ ธสิ์ หสัมพนั ธล์ าดับทขี่ องสเปียร์แมน กรณีท่ี 1 ลาดับท่ีไม่มกี ารซ้าซอ้ นกัน โดยใชส้ ูตร ดงั น้ี กรณีที่ 2 ลาดับที่มีการซา้ ซ้อนกัน โดยใช้สูตร

12 2. ในบทเรยี นท่ีเรยี นเรอ่ื งน้จี ะนาไปใชใ้ นการดาเนนิ งานของตนเองเกีย่ วกบั - การทางานในโรงเรียน เช่น ตอ้ งการศกึ ษาทักษะการเรียนของนักเรียนมคี วามสมั พนั ธ์กับเวลาทใ่ี ชใ้ นการเรยี น การสอนหรอื ไม่ หรือผลสัมฤทธทิ์ างการเรียนของนักเรยี นมคี วามสัมพนั ธ์กบั สมาธใิ นการต้งั ใจเรียนในเวลาเรยี น หรือไม่ เปน็ ตน้ ไดส้ ่งิ ทเ่ี รียนร้ใู นบทเรยี นนีม้ เี น้ือสาระใด ทีเ่ ป็นประโยชน์แล้วสามารถนาไปประยุกต์ใช้ได้อย่างไร - สมั ประสทิ ธ์สิ หสมั พนั ธ์ บง่ บอกระดับความสัมพนั ธ์ของ 2 ตัวแปร โดยบง่ บอกขนาดและทิศทางของ ความสมั พันธเ์ ชิงเสน้ ระหว่างตวั แปร 2 ตัวแปร โดยปกตมิ ีคา่ ตั้งแต่ -1 ถึง +1 3. เนือ้ หาสาระท่ีคดิ วา่ ตนเองควรมกี ารศึกษาเพมิ่ เตมิ - การใชโ้ ปรแกรม Excel ในการวิเคาะห์ข้อมลู การใส่สตู ร 3.1 ใหอ้ าจารย์ชว่ ยเรอื่ งอะไรบ้าง - ให้คาแนะนาการใชโ้ ปรแกรม Excel การใส่สูตร 3.2 ใหเ้ พอ่ื นช่วยเรือ่ งอะไรบ้าง - ให้คาแนะนาและช่วยเหลอื กนั ภายในหมู่เรยี น

13 บนั ทกึ การเรียนรู้ (Learning Log) รายวิชา TLR302 สถิตเิ พ่ือการวจิ ัย (Statistics for Research) ภาคเรยี นที่ 1/2565 บทที่ 6 เรื่อง สถิติอนุมาน: การทดสอบค่าเฉล่ยี และการทดสอบสัดสว่ น ไดค้ วามคดิ รวบยอดของเน้ือหาสาระ สรปุ ได้ (สรุปเป็นข้อความหรอื เป็นแผนผงั ความคิดผังกราฟิก) 6.1. สมมตุ ิฐาน บรเิ วณวกิ ฤตหรอื บริเวณปฏิเสธสมมตุ ฐิ าน ค่าความนา่ จะเปน็ - สมมตุ ิฐาน หมายถงึ ข้อความทเี่ ปน็ หลักการข้อความเฉพาะ ข้อความท่ซี ับซอ้ น หรือข้อความที่เปน็ ขอ้ เท็จจริง เป็นทฤษฎกี ็ได้ ท่ีเดาขน้ึ อย่างมีเหตุผล เปน็ การเดาหรอื สรุปไว้เป็นการชัว่ คราว เพือ่ หาหลกั ฐาน ข้อเท็จจริงมาทดสอบว่าถูก หรือเชื่อถือไดห้ รอื ไม่ สมุ มตุ ิฐานแบง่ เป็น 2 ประเภท คือ 1. สมมุตฐิ านการวิจัย (Research Hypothesis) 2. สมมตุ ฐิ านเชงิ สถิติ (Statistical Hypothesis) - สมมุติฐานว่าง (Null Hypothesis) แทนด้วย H0 เปน็ สสมตุ ิฐานเพ่ือใชใ้ นการทดสอบท่ีจะแสดง ความไม่แตกต่าง (=) โดยทัว่ ไปหลายเรือ่ งท่ีทดสอบ H0 เปน็ สมมตุ ิฐานทีต่ ้องการทดสอบแตห่ วังวา่ จะปฏเิ สธ (Reject) - สมมุติฐานทางเลอื ก (Alternative Hypothesis) หรอื สมมุติฐานแย้ง หรอื สมมุติฐานรองแทนด้วย H1 หรอื Ha เป็นสมมตุ ิฐานท่มี ีลกั ษณะตรงข้ามกบั H0 และเป็นสมมุติฐานทไ่ี ม่ต้องทดสอบ เชน่ ถา้ H0 : μ1 =μ2 แล้ว H1 อาจเป็น H1 : μ1 ≠ μ2

14 6.2. ความคาดเคล่ือนในการทดสอบสมมุติฐาน การทดสอบสมมุติฐานเปน็ กระบวนการท่ีนาไปส่กู ารตัดสินใจ ซง่ึ การตดั สินใจนน้ั เปน็ การตัดสนิ ใจบนพื้น ฐานขอ้ มูลที่ไดจ้ ากตัวอย่าง ดังนนั้ การตัดสนิ ใจอาจมีข้อผดิ พลาดได้ ความคลาดเคลื่อนจากการตัดสนิ ใจอาจ เกิดขน้ึ ได้ ดงั ตาราง

15 6.3. บรเิ วณวิกฤตหรือบรเิ วณปฏิเสธสมมุตฐิ าน บรเิ วณวิกฤตของการทดสอบสมมุติฐานแบบด้านเดยี ว บริเวณวกิ ฤตของการทดสอบสมมุตฐิ านแบบสองด้าน

16 6.4.ค่าความน่าจะเป็น (Probability Value: p-value) ค่าความนา่ จะเปน็ ของความคลาดเคลอ่ื นที่เกดิ จากการใช้ตัวอย่างส่มุ หรือค่าโอกาสผดิ พลาดที่เกดิ จากการ ปฏิเสธ H0 โดยท่ี H0 เป็นจริง จากการใช้ข้อมลู จากตัวอย่างสุม่ ชุดหน่งึ สมมตุ ิฐานเพื่อการทดสอบ สถติ ทิ ใ่ี ชท้ ดสอบสมมุตฐิ าน

17 การทดสอบคา่ สดั ส่วน กรณกี ารทดสอบคา่ สดั ส่วนของประชากรกลุ่มเดียว กรณีการทดสอบค่าสัดส่วนของประชากรสองกลุ่ม กรณี 1 ถ้า p0 = 0 กรณี 2 ถ้า p0 ≠ 0

18 2. ในบทเรียนทีเ่ รยี นเรอื่ งน้ีจะนาไปใชใ้ นการดาเนนิ งานของตนเองเก่ียวกบั - การทางานในโรงเรยี น เช่น ใชท้ ดสอบว่าสอ่ื ท่ีเราใช้สอนนักเรยี นวา่ มีคา่ เฉลย่ี ก่อนและหลงั ใช้สอื่ มคี า่ เฉล่ยี ดี ขนึ้ หรือไม่ ไดส้ ิง่ ท่ีเรยี นรูใ้ นบทเรียนน้มี ีเน้ือสาระใด ท่เี ปน็ ประโยชน์แล้วสามารถนาไปประยกุ ต์ใช้ได้อยา่ งไร - การทดสอบค่าเฉลย่ี ก่อนและหลงั เรยี นว่าเป็นไปในทศิ ทางทด่ี ีขน้ึ หรือไม่ 3. เน้ือหาสาระที่คดิ วา่ ตนเองควรมีการศึกษาเพ่มิ เติม - การใชโ้ ปรแกรม Excel ในการวเิ คาะห์ข้อมูล การใส่สูตร 3.1 ใหอ้ าจารย์ช่วยเร่ืองอะไรบ้าง - ใหค้ าแนะนาการใชโ้ ปรแกรม Excel การใสส่ ูตรและการคานวนหาค่าต่างๆ 3.2 ใหเ้ พ่ือนช่วยเรอื่ งอะไรบา้ ง - ให้คาแนะนาและชว่ ยเหลือกันภายในหมู่เรียน

ค อ้างองิ พิชญส์ ินี ชมพูคา.บทที่ 1 สถิติเพ่ือการวจิ ัย พชิ ญส์ นิ ี ชมพคู า.บทท่ี 2 การวัดแนวโน้มเขา้ สู่สว่ นกลาง และการวัดตาแหนง่ ของข้อมลู พชิ ญส์ ินี ชมพคู า.บทท่ี 3 การวดั การกระจายและคะแนนมาตรฐาน พิชญ์สินี ชมพูคา.บทที่ 4 การหาคุณภาพเครื่องมือรวบรวมขอ้ มูล พชิ ญ์สนิ ี ชมพคู า.บทที่ 5 สหสมั พนั ธ์เชงิ เสน้ ตรง พิชญ์สินี ชมพคู า.บทท่ี 6 การทดสอบค่าเฉล่ียและการทดสอบสดั ส่วน