Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ศิลปะ

ศิลปะ

Published by pawarisaphono, 2022-08-07 03:07:31

Description: ศิลปะ

Search

Read the Text Version

ก คำนำ ชดุ การสอน ชดุ ท่ี 5 เร่อื ง สใี นงานทศั นศลิ ป์ จัดทาขึน้ เพื่อใช้เป็นสอื่ การเรียนประกอบการ จดั การเรยี นรูใ้ นหนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1 เรือ่ ง ทัศนธาตุและหลักการออกแบบ รายวิชาศลิ ปะ 9 รหัสวิชา ศ23101 ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3 เพื่อใหน้ ักเรยี นไดฝ้ กึ ใหเ้ กิดความชานาญ เกดิ การเรียนรู้ทคี่ งทนและได้ เรียนรดู้ ว้ ยตนเอง ซ่ึงเป็นการสร้างนสิ ยั ให้เปน็ ผ้มู ีความกระตือรือรน้ ในการศึกษาเล่าเรียน ชดุ การสอนน้ผี ูจ้ ัดทาได้ศึกษาค้นคว้าเอกสารและตาราตา่ ง ๆ ทเ่ี กยี่ วข้อง เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเขา้ ใจใหช้ ัดเจน และไดใ้ ห้ผู้เชย่ี วชาญตรวจสอบความถูกต้องและผา่ นการหาประสิทธิภาพมาแล้ว โดยมเี ป้าหมายเพื่อพฒั นาผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนของนกั เรียน ซ่งึ ชุดการสอนเล่มนปี้ ระกอบดว้ ย - คาชี้แจง - มาตรฐานการเรยี นรู้ ตัวชวี้ ดั และจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ - แบบทดสอบกอ่ นเรยี น - ใบความรู้ - ใบงาน - แบบทดสอบหลงั เรยี น - เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน - เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น ผู้จดั ทาหวังเปน็ อยา่ งยง่ิ วา่ ชดุ การสอนนี้จะเป็นประโยชนแ์ กน่ กั เรียน ช่วยใหก้ ารเรยี นการสอน ในหัวข้อเรื่อง สีในงานทัศนศิลป์ มปี ระสทิ ธภิ าพและบรรลุตามวัตถุประสงค์การเรียนรตู้ ามหลกั สูตร แกนกลางการศึกษาขั้นพนื้ ฐานกาหนดไว้ พรรณพัชร นรสาร

ข สำรบญั เรอ่ื ง หนำ้ คานา....................................................................................................................... ..................... ก สารบญั ........................................................................................................................................ ข คาชีแ้ จง...................................................................................................................................... ค มาตรฐานการเรียนรู้ และตวั ชวี้ ดั .............................................................................................. ง จุดประสงค์การเรียนร.ู้ ................................................................................................................. จ แบบทดสอบกอ่ นเรยี น.................................................................................................................. 1 ใบความรู้ที่ 1 เรอ่ื ง ทฤษฎีสี....................................................................................................... 4 ใบความร้ทู ่ี 2 เรอื่ ง วรรณะของสี สีตรงกนั ขา้ ม และจติ วทิ ยาการใช้สี………………………………….. 9 ใบงานที่ 1 เรอ่ื ง เบ้ืองตน้ เกยี่ วกบั สี.............................................................................................. 14 ใบงานที่ 2 เร่อื ง วงจรสี .............................................................................................................. 15 ใบงานที่ 3 เรื่อง รู้เรอ่ื งสี.............................................................................................................. 16 แบบทดสอบหลงั เรียน................................................................................................................ 18 เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น........................................................................................................ 21 เฉลยใบงานท่ี 1 เร่ือง เบ้อื งต้นเกยี่ วกับส.ี ................................................................................... 22 เฉลยใบงานท่ี 3 เรอื่ ง รู้เรื่องสี..................................................................................................... 23 เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน....................................................................................................... 25 บรรณานกุ รม............................................................................................................................ 26

ค คำชี้แจง ชุดการสอนทน่ี ักเรยี นจะศกึ ษาต่อไปนี้ คอื ชดุ การสอน ชดุ ท่ี 5 เรื่อง สีในงานทัศนศิลป์ เป็นชดุ การสอนท่เี น้นใหน้ ักเรยี นได้ศึกษาความร้เู กี่ยวกับ ทฤษฎีสี วงจรสี วรรณะของสี สตี รงกนั ขา้ มและ จติ วทิ ยาการใช้สี และนาความรเู้ ร่อื งสมี าใชใ้ นการออกแบบงานทัศนศลิ ป์ ฝกึ ทกั ษะ ความคดิ สร้างสรรค์ การคิดวเิ คราะห์ แกป้ ัญหา เพ่อื ให้ชดุ การสอนเกดิ ประโยชนส์ งู สดุ แกน่ ักเรยี น ขอใหน้ ักเรยี นปฏบิ ัตติ าม คาช้แี จงต่อไปน้ี 1. นกั เรยี นอ่านคาชแ้ี จงในชดุ การสอนใหเ้ ข้าใจอยา่ งละเอียด 2. นกั เรยี นปฏบิ ตั กิ จิ กรรมในชุดการสอน ตามลาดับข้ันตอนดังนี้ 2.1 นักเรียนศึกษามาตรฐานการเรียนรู้ ตัวช้ีวดั และจดุ ประสงค์การเรียนรู้ 2.2 นักเรียนทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน 2.3 นกั เรยี นศึกษาเนื้อหาในใบความรู้ท่ี 1 เร่ือง ทฤษฎีสี 2.4 นกั เรียนศึกษาเน้ือหาในใบความรทู้ ่ี 2 เรอ่ื ง วรรณะของสี สีตรงกันขา้ ม และจติ วิทยาการใชส้ ี 2.5 นกั เรยี นทาใบงานท่ี 1 เรือ่ ง เบือ้ งต้นเก่ยี วกบั สี 2.6 นกั เรยี นทาใบงานที่ 2 เรอ่ื ง วงจรสี 2.7 นักเรียนทาใบงานท่ี 3 เรื่อง รเู้ รอ่ื งสี 2.8 นกั เรียนทาแบบทดสอบหลงั เรยี น 3. นักเรียนศึกษาชุดการสอนดว้ ยความตัง้ ใจ ซ่ือสัตย์ และไมด่ ูเฉลยกอ่ นโดยเดด็ ขาด

ง มำตรฐำนกำรเรยี นรู้ ตวั ชีว้ ัด และจดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้ มำตรฐำนกำรเรยี นรู้ มาตรฐาน ศ 1.1 สร้างสรรค์งานทศั นศิลป์ตามจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ วเิ คราะห์ วพิ ากษ์ วิจารณค์ ุณคา่ งานทัศนศลิ ป์ ถา่ ยทอดความรูส้ ึก ความคิดต่องานศิลปะอยา่ ง อิสระ ชน่ื ชมและประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ติ ประจาวัน ตัวชีว้ ัด 1. บรรยายสง่ิ แวดล้อมและงานทศั นศลิ ป์ที่เลอื กมา โดยใช้ความรู้ เรื่องทัศนธาตแุ ละ หลกั การออกแบบ 2. วิเคราะห์และบรรยายวิธกี ารใช้ทัศนธาตุ และหลักการออกแบบในการสร้างงาน ทัศนศิลปข์ องตนเองให้มีคุณภาพ

จ จดุ ประสงคก์ ำรเรียนรู้ ด้ำนควำมรู้ ( K ) 1. บอกความหมายและประวัติความเป็นมาของสไี ด้ 2. บอกสตี ามวงจรสีได้ 3. บอกวรรณะของสี สีตรงกันข้าม และจิตวิทยาการใช้สีได้ ด้ำนทกั ษะ/กระบวนกำร ( P ) 1. สามารถนาความรู้เร่ืองสีสรา้ งผลงานทศั นศลิ ป์ได้ 2. นกั เรยี นมสี มรรถนะสาคญั 2.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร 2.2 ความสามารถในการคดิ 2.3 ความสามารถในการแก้ปญั หา 2.4 ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต 2.5 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี ด้ำนคุณลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ ( A ) 1. นักเรยี นมคี ุณลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ 1.1 ซอ่ื สัตย์สจุ ริต 1.2 มวี นิ ัย 1.3 ใฝเ่ รียนรู้ 1.4 มงุ่ ม่นั ในการทางาน 1.5 มีจิตสาธารณะ

1 แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง สใี นงำนทศั นศิลป์ คำช้แี จง 1. แบบทดสอบกอ่ นเรียนมจี านวน 10 ขอ้ คะแนนเต็ม 10 คะแนน 2. ใหเ้ ลอื กคาตอบที่ถูกตอ้ งและเหมาะสมท่ีสดุ เพยี งข้อเดยี วโดยทาเคร่ืองหมาย กากบาท ( x ) ในชอ่ งข้อ ก, ข, ค, หรือ ง ในกระดาษคาตอบ 1. สวี รรณะร้อนใหค้ วามรู้สึก ก. สดชื่น เยือกเย็น อดุ มสมบูรณ์ ข. สขุ ุม มีเสน่ห์ ค. ลึกลับน่ากลวั ง. ตืน่ เต้น สวา่ ง เร้าใจ 2. สี สมัยกอ่ นไดจ้ าก ก. ดินสีเลือด ข. ดนิ ผสมนา้ ค. เลือดสัตว์ ง. ดินผสมไขสตั ว์ 3. แมส่ ที ีใ่ ช้ในงานวาดเขยี น เรยี กว่า ก. แมส่ วี ัตถธุ าตุ ข. แม่สีช่างเขยี น ค. แมส่ ีอะครลิ ิค ง. แมส่ วี ิทยาศาสตร์

2 4. สีอะไร เปน็ ไดท้ ้ัง 2 วรรณะ ก. ส้ม เขยี ว ข. เหลือง แดง ค. ม่วง แดง ง. ม่วง เหลอื ง 5. สวี รรณะเย็นใหค้ วามรู้สกึ ก. สดชนื่ เยือกเยน็ อุดมสมบรู ณ์ ข. สุขุม มเี สน่ห์ ค. ลึกลบั น่ากลัว ง. ตื่นเต้น สวา่ ง เรา้ ใจ 6. สใี นข้อใดท่ีเรยี งดาดับในวงจรสี ก. แดง ส้มแดง เหลอื ง ข. เขียวเหลอื ง เขียว นา้ เงนิ ค. มว่ ง ม่วงแดง แดง ง. สม้ เหลอื ง เขียวเหลือง เขียว 7. ข้อใดคือสขี ัน้ ที่ 1 ก. สม้ -มว่ ง-เขียว ข. ส้ม-เหลอื ง-แดง ค. แดง-เหลือง-เขยี ว ง. แดง-เหลอื ง-น้าเงนิ 8. วงจรสีธรรมชาตมิ ที ั้งหมดกี่สี ก. 3 สี ข. 6 สี ค. 9 สี ง. 12 สี

3 9. สีท่ใี หค้ วามรู้สกึ สวา่ ง เกิดความเลื่อมใส คือ ก. ม่วง ข. เขียว ค. เหลอื ง ง. แดง 10. สีคู่ประกอบของสแี ดง คือ ก. มว่ ง ข. เขียว ค. เหลือง ง. แดง

4 ใบควำมรู้ท่ี 1 เร่อื ง ทฤษฎสี ี ความหมายของสี สี (COLOUR) หมายถงึ ลกั ษณะของแสง ทกี่ ระทบต่อสายตาให้เหน็ เป็นสี มีผลถึงจติ วิทยา คอื มีอานาจให้เกดิ ความเขม้ ของแสงท่ีอารมณ์และความรสู้ ึกได้ การทีไ่ ด้เหน็ สจี ากสายตาสายตา จะสง่ ความรู้สึกไปยังสมองทาให้เกิดความรสู้ กึ ตา่ ง ๆ ตามอิทธพิ ลของสี เชน่ สดชน่ื รอ้ น ตื่นเตน้ เศร้า สีมี ความหมายอยา่ งมาก เพราะศิลปินต้องการใช้สเี ปน็ สอื่ สร้างความประทบั ใจในผลงานของศลิ ปะ และ สะทอ้ นความประทบั ใจนน้ั ให้บงั เกิดแกผ่ ดู้ ู มนษุ ยเ์ ก่ียวข้องกบั สตี ่าง ๆ อย่ตู ลอดเวลาเพราะทุกสงิ่ ทอ่ี ยู่ รอบตวั นัน้ ล้วนแต่มสี ีสันแตกตา่ งกันมากมาย สีเปน็ สงิ่ ท่ีควรศกึ ษาเพ่ือประโยชนก์ ับตนเองและ ผ้สู ร้าง งานจติ รกรรม เพราะเรื่องราวของสีนัน้ มีหลกั วชิ าเปน็ วิทยาศาสตร์ จงึ ควรทาความเข้าใจวิทยาศาสตร์ ของสี จะบรรลผุ ลสาเรจ็ ในงานมากขน้ึ ถ้าไมเ่ ข้าใจเรื่องสีดีพอสมควร ถ้าได้ศึกษาเร่ืองสดี ีพอแล้ว งานศลิ ปะก็จะประสบความสมบูรณเ์ ปน็ อย่างยิ่ง ทม่ี าภาพ : http://colortheorycom.blogspot.com/2015/02/blog-post9.html

5 คาจากัดความของสี 1. แสงทีม่ คี วามถขี่ องคลนื่ ในขนาดทีต่ ามนุษย์สามารถรบั สัมผัสได้ 2. แม่สีทีเ่ ป็นวตั ถุ (PIGMENTARY PRIMARY) ประกอบด้วย แดง เหลือง นา้ เงิน 3. สที เ่ี กิดจากการผสมของแม่สี ท่ีมาภาพ : http://colortheorycom.blogspot.com/2015/02/blog-post9.html คณุ ลกั ษณะของสี สแี ท้ (HUE) คือ สีที่ยังไม่ถกู สีอ่นื เข้าผสม เป็นลกั ษณะของสแี ท้ที่มีความสะอาดสดใส เชน่ แดง เหลือง นา้ เงนิ สีอ่อนหรอื สจี าง (TINT) ใชเ้ รยี กสแี ทท้ ี่ถกู ผสมด้วยสขี าว เชน่ สีเทา, สชี มพู สีแก่ (SHADE) ใช้เรยี กสแี ท้ท่ีถูกผสมดว้ ยสีดา เช่น สนี ้าตาล

6 ประวัติความเปน็ มาของสี มนุษย์เรม่ิ มีการใช้สตี ง้ั แต่สมัยก่อนประวตั ศิ าสตร์ มที ั้งการเขยี นสลี งบนผนงั ถ้า ผนงั หนิ บนพ้ืนผวิ เครอ่ื งปัน้ ดินเผา และท่ีอืน่ ๆ ภาพเขยี นสบี นผนังถา้ (ROCK PAINTING) เร่มิ ทาตง้ั แตส่ มัย กอ่ นประวัตศิ าสตร์ในทวีปยโุ รป โดยคนก่อนสมัยประวตั ศิ าสตร์ในสมยั หนิ เก่าตอนปลาย ภาพเขียนสีที่มี ช่อื เสียงในยคุ นี้พบที่ประเทศฝรงั่ เศสและประเทศสเปน ในประเทศไทยกรมศลิ ปากรไดส้ ารวจพบ ภาพเขียนสีสมัยก่อนประวัตศิ าสตรบ์ นผนงั ถา้ และ เพงิ หินในทต่ี ่าง ๆ จะมีอายุระหว่าง 1500-4000 ปี เป็นสมยั หนิ ใหม่และยุคโลหะไดค้ น้ พบต้ังแตป่ ี พ.ศ. 2465 ครงั้ แรกพบบนผนงั ถา้ ในอา่ วพังงา ตอ่ มาก็ ค้นพบอีกซึ่งมีอยู่ทัว่ ไป เชน่ จังหวดั กาญจนบรุ ี อทุ ยั ธานี เป็นตน้ สีทีเ่ ขียนบนผนงั ถ้าสว่ นใหญ่เปน็ สีแดง นอกน้นั จะมีสสี ม้ สเี ลือดหมู สเี หลือง สีน้าตาล และสดี าสีบนเครือ่ งป้นั ดินเผา ไดค้ ้นพบการเขยี นลาย ครั้งแรกทีบ่ า้ นเชียงจงั หวัดอุดรธานีเม่ือปี พ.ศ.2510 สที ีเ่ ขียนเป็นสแี ดงเปน็ รูปลายก้านขดจิตรกรรม ฝาผนงั ตามวดั ตา่ ง ๆ สมยั สโุ ขทัยและอยุธยามหี ลกั ฐานวา่ ใชส้ ีในการเขียนภาพหลายสี แต่กอ็ ยใู่ น วงจากดั เพียง 4 สี คอื สีดา สขี าว สดี ินแดง และสีเหลืองในสมัยโบราณนัน้ ชา่ งเขียนจะเอาวัตถุตา่ ง ๆ ในธรรมชาติมาใชเ้ ปน็ สสี าหรบั เขียนภาพ เชน่ ดนิ หรอื หินขาวใช้ทาสขี าว สดี ากเ็ อามาจากเขม่าไฟ หรอื จากตัวหมกึ จนี เปน็ ชาตแิ รกที่พยายามคน้ คว้าเรื่องสีธรรมชาติไดม้ ากกว่าชาติอ่ืน ๆ คือ ใช้หินนามาบด เป็นสีตา่ ง ๆ สีเหลืองนามาจากยางไม้ รงหรือรงทอง สีครามก็นามาจากตน้ ไม้สว่ นใหญ่แล้วการคน้ คว้า เรอ่ื งสกี เ็ พ่ือที่จะนามาใช้ ยอ้ มผา้ ต่าง ๆ ไม่นิยมเขยี นภาพ เพราะจีนมคี ตใิ นการเขียนภาพเพยี งสีเดยี ว คือ สีดาโดยใช้หมึกจนี เขียน สสี ามารถแยกออกเปน็ 2 ประเภทคือ 1. สธี รรมชาติ 2. สีทม่ี นุษย์สรา้ งขน้ึ สีธรรมชำติ เป็นสีท่เี กดิ ข้นึ เองธรรมชาติ เชน่ สขี องแสงอาทิตย์ สขี องท้องฟ้ายามเชา้ เย็น สีของรงุ้ กินนา้ เหตุการณ์ท่ีเกิดขึน้ เองธรรมชาติ ตลอดจนสขี อง ดอกไม้ ต้นไม้ พื้นดิน ท้องฟ้า น้าทะเล สที ี่มนษุ ยส์ รำ้ งขึ้น หรือได้สงั เคราะหข์ นึ้ เชน่ สีวิทยาศาสตร์ มนุษยไ์ ด้ทดลองจากแสงตา่ ง ๆ เช่น ไฟฟา้ นามาผสมโดยการทอแสงประสานกัน นามาใช้ประโยชนใ์ นด้านการละคร การจดั ฉากเวที โทรทัศน์ การตกแต่งสถานท่ี

7 แมส่ ี (PRIMARIES) แม่สีในยคุ ปัจจุบัน อาจจาแนกออกได้เปน็ 3 ประเภท คือ แม่สจี ติ วิทยา แมส่ วี ทิ ยาศาสตร์ และ แมส่ ศี ลิ ปะ 1. แมส่ จี ิตวทิ ยา เปน็ สีในกลุ่มทมี่ ีอิทธพิ ลต่อความรู้สกึ และมีผลต่อจติ ใจของมนุษย์ กล่าวคอื สีท่ีเราพบเห็นจะสามารถโนม้ นา้ วชวนใหร้ ู้สึกต่นื เต้น โศกเศร้า โดยมากมักใช้ในการรักษาคนไข้ได้ เชน่ โรคประสาท หรอื โรคทางจติ แม่สีจิตวทิ ยาสี 4 สีประกอบด้วย สแี ดง สเี หลือง สีเขยี ว และสีนา้ เงนิ ท่ีมาภาพ : http://www.thaigoodview.com/library/teachershow/pechburi/ somphong_k/color01.html 2. แมส่ วี ทิ ยาศาสตร์ แม่สวี ทิ ยาศาสตร์เป็นสที ี่เกิดจากการสรา้ งหรอื ประดิษฐ์ขน้ึ จากกระบวน การทางวิทยาศาสตร์เชน่ สขี องหลอดไฟ สีที่ผ่านแทง่ แกว้ ปริซึม ที่เกิดจากการสะท้อนและการหกั เห ของแสง แมส่ ีในกลุ่มนี้ประกอบดว้ ย สีแสด สเี ขียวมรกต และสีม่วง ที่มาภาพ : http://www.thaigoodview.com/library/teachershow/pechburi/ somphong_k/color01.html 3. แม่สีศิลปะ แม่สศี ลิ ปะหรือบางคร้งั เรียกวา่ แมส่ วี ตั ถุธาตุ หมายถึงสที ่ใี ชใ้ นการวาดภาพ หรือ สร้างสรรค์ผลงานทางศิลปะทั่ว ๆ ไปซ่งึ เม่อื นามาผสมกนั ในปรมิ าณตา่ ง ๆ ท่ีตา่ งอัตราสว่ นกนั จะเกดิ สีสนั ตา่ ง ๆ มากมายใหเ้ ราได้เลือกหรือนามาใช้ในการสรา้ งสรรค์ ผลงานทส่ี วยงามได้ แม่สีในกลมุ่ นี้ ประกอบด้วย สีแดง สีเหลือง และสีน้าเงนิ ที่มาภาพ : http://www.thaigoodview.com/library/teachershow/pechburi/ somphong_k/color01.html

8 วงจรสี (Colour Circle) สขี น้ั ท่ี 1 คือ แมส่ ี ไดแ้ ก่ สแี ดง สเี หลือง สีนา้ เงนิ สีขั้นที่ 2 คือ สที เี่ กดิ จากสขี นั้ ท่ี 1 หรอื แม่สีผสมกนั ในอัตราสว่ นท่เี ท่ากัน จะทาให้ เกดิ สีใหม่ 3 สี ได้แก่ สีแดง ผสมกบั สเี หลอื ง ไดส้ ี สม้ สีแดง ผสมกบั สนี ้าเงนิ ได้สมี ่วง สีเหลอื ง ผสมกับสนี ้าเงนิ ไดส้ ีเขยี ว สีข้นั ที่ 3 คอื สที ีเ่ กิดจากสีข้ันท่ี 1 ผสมกบั สีขนั้ ท่ี 2 ในอตั ราสว่ นท่ีเท่ากัน จะไดส้ ีอื่น ๆ อกี 6 สี คือ สแี ดง ผสมกับสสี ม้ ไดส้ ีส้มแดง สแี ดง ผสมกับสมี ่วง ได้สีมว่ งแดง สเี หลือง ผสมกับสีเขียว ได้สเี ขยี วเหลือง สนี า้ เงนิ ผสมกบั สเี ขียว ได้สีเขยี วนา้ เงิน สีน้าเงิน ผสมกบั สีม่วง ได้สมี ่วงนา้ เงิน สีเหลอื ง ผสมกับสีสม้ ได้สีส้มเหลอื ง ทีม่ าภาพ : http://wipawan2531-mmd.blogspot.com/2010/09/blog-post_19.html

9 ใบควำมรู้ที่ 2 เรอ่ื ง วรรณะของสี สีตรงกนั ข้ำม และจิตวทิ ยำกำรใชส้ ี วรรณะของสี คอื สที ี่ใหค้ วามรู้สึกรอ้ น-เยน็ ในวงจรสีจะมีสรี อ้ น 7 สี และ สเี ยน็ 7 สี ซ่ึงแบ่งที่ สมี ว่ ง กับสีเหลือง ซง่ึ เป็นได้ทั้งสองวรรณะ ที่มาของภาพ : http://mathkanchanaburi.blogspot.com/p/blog-page_30.html

10 สีตรงขา้ ม หรือสีตัดกนั หรอื สีคปู่ ฏิปักษ์ เป็นสที ม่ี ีค่าความเขม้ ของสี ตดั กนั อย่างรุนแรง ในทางปฏบิ ตั ิไม่นยิ มนามาใชร้ ว่ มกัน เพราะจะทาให้แต่ละสีไมส่ ดใสเทา่ ทคี่ วร การนาสตี รงข้ามกันมาใช้ร่วมกัน อาจกระทาได้ดงั นี้ 1. มีพ้นื ทขี่ องสีหน่งึ มาก อีกสีหน่ึงน้อย 2. ผสมสอี ื่น ๆ ลงไปสีสีใดสหี นึ่ง หรือทงั้ สองสี 3. ผสมสีตรงข้ามลงไปในสีทัง้ สองสี ทีม่ าของภาพ : http://www.thaigoodview.com/node/46648 สกี ลำง คือ สที ่ีเขา้ ไดก้ ับสีทุกสี สีกลางในวงจรสี มี 2 สี คือ สนี ้าตาล กบั สีเทา สนี ้ำตำล เกดิ จากสีตรงขา้ มกันในวงจรสีผสมกัน ในอตั ราส่วนที่เท่ากนั สีน้าตาล มีคุณสมบตั ิ สาคัญ คือ ใชผ้ สมกบั สีอนื่ แล้วจะทาให้สนี ้นั ๆ เข้มขนึ้ โดยไมเ่ ปลี่ยน แปลงคา่ สี ถา้ ผสมมาก ๆ เขา้ กจ็ ะกลายเป็นสนี ้าตาล สเี ทำ เกดิ จากสีทกุ สี ๆ สีในวงจรสผี สมกนั ในอตั ราสว่ นเท่ากนั สีเทา มคี ุณสมบตั ิ ท่สี าคัญ คอื ใชผ้ สมกับสอี น่ื ๆ แล้วจะทาให้ มืด หมน่ ใช้ในส่วนท่เี ป็นเงา ซง่ึ มีน้าหนัก ออ่ นแก่ในระดับตา่ ง ๆ ถา้ ผสม มาก ๆ เข้าจะกลายเปน็ สีเทาของสี คือสที ่ีให้ความรู้สึกรอ้ น-เย็น ในวงจรสีจะมีสีร้อน 7 สี และ สีเย็น 7 สี ซ่งึ แบง่ ที่ สมี ่วงกบั สเี หลือง ซง่ึ เป็นได้ทง้ั สองวรรณะ

11 จิตวิทยาการใช้สี (psychology of colors) การใชส้ ใี ห้สอดคล้องกับหลกั จิตวทิ ยา จะต้องเข้าใจว่าสีใดให้ความรสู้ กึ ต่อมนุษย์อย่างไร จงึ จะ ใชไ้ ด้อย่างเหมาะสม ความรู้สกึ เกย่ี วกบั สี สามารถจาแนกออกไดด้ ังนี้ ที่มาภาพ: https://sites.google.com/site/siripornyodtako/1-hawkhx-khorng-ngan/2- bth-thi-2-xeksar-thi-keiywkhxng-1

12 การใช้สีตามหลักจติ วิทยา สามารถก่อให้เกิดประโยชนไ์ ด้หลายประการ ทัง้ น้ีขึ้นอยู่กบั ลักษณะ การใช้งาน ประโยชน์ทีไ่ ด้รบั น้ัน สามารถสรุปไดด้ ังน้ี 1. ประโยชนใ์ นด้านแสดงเวลาของบรรยากาศในภาพเขียน เพราะสีบรรยากาศในภาพเขียนนัน้ จะแสดงใหร้ วู้ ่าเป็นภาพตอนเช้า ตอนกลางวันหรอื ตอนบ่าย เป็นตน้ 2. ประโยชน์ในดา้ นการค้า คอื ทาใหส้ ินค้าสวยงาม น่าซอ้ื หา นอกจากนย้ี งั ใชก้ บั งานโฆษณา เชน่ โปสเตอร์ตา่ ง ๆ ชว่ ยให้จาหน่ายสินค้าได้มากขน้ึ 3. ประโยชน์ในดา้ นประสทิ ธภิ าพของการทางาน เช่น โรงงานอตุ สาหกรรม ถา้ ทาสสี ถานที่ ทางานให้ถูกหลกั จิตวทิ ยา จะเป็นทางหน่งึ ทีช่ ่วยสร้างบรรยากาศใหน้ ่าทางาน คนงานจะทางามากข้ึน มปี ระสทิ ธภิ าพในการทางานสูงขน้ึ 4. ประโยชนใ์ นด้านการตกแตง่ สขี องห้อง และสขี องเฟอรน์ ิเจอร์ ชว่ ยแก้ปญั หาเรือ่ งความสวา่ ง ของห้อง รวมท้ังความสุขในการใชห้ ้อง ถา้ เป็นโรงเรียนเด็กจะเรียนไดผ้ ลดขี ้ึน ถ้าเป็นโรงพยาบาลคนไข้ จะหายเรว็ ข้ึน อทิ ธิพลของสีท่ีมีผลตอ่ ระบบร่างกายของมนุษย์ เร่ิมจากการรับสภาพ ร้สู กึ ผลลพั ธ์ที่แสดง ออกมาทางต่างกายและ จิตใจ ยกตัวอย่างเช่น หอ้ ง ๆ หน่ึงทาสฟี ้าอ่อน ๆ จะทาให้หอ้ งนั้น รู้สึกสงบ และใหญ่ข้นึ กว่า ขนาดจริง และทาให้ผ้อู ยู่อาศัยในห้อง นี้มีทัศนคติในทางท่เี ปน็ บวกมากกวา่ ลบ ในทาง กลบั กนั สิ่งของ เช่น ตู้หรอื ห้อง หรอื เคร่อื งเรือน ใด ๆ ทมี่ ขี นาดใหญ่มาก ๆ การใช้สวี รรณะเย็น ก็จะทา ให้ห้องนน้ั สิง่ นน้ั ใหญ่ข้นึ (รู้สกึ ใหญ่กว่าจริง) แต่ถา้ เรา ต้องการให้หอ้ งนน้ั ๆ ซ่งึ เปน็ ห้องโถงสงู และใหญ่ มขี นาด ที่ไมเ่ วง้ิ วา้ งเกินไปนัก (ต้องการความอบอุน่ ) ก็ควรใช้ สีในวรรณะร้อน เช่น ทาผนงั ด้วยสแี ดงเขม้ หรอื น้าตาลแดง ก็จะชว่ ยให้ห้องนัน้ ๆ กระชับและ ดูอบอุ่น (ร้อนแรง) ขนึ้ ได้ หรือใช้สีดินเผาอ่อน ๆ ทาผนงั ก็จะชว่ ยใหห้ ้องน้ันดูเลก็ ลงแตอ่ บอุน่ ขนึ้ การจัดโครงสีของหอ้ ง ให้เป็นสใี นวรรณะใดวรรณะ หนึง่ ก็จะช่วยใหง้ านเลอื กสงี ่ายขึน้ อีกมากโข เช่น เราชอบ สีรอ้ น เพราะเราเปน็ คนท่มี นี สิ ยั รักท่จี ะกระฉับกระเฉง ตน่ื ตัว อบอ่นุ เหล่านี้ เราอาจใช้ หลายๆ สกี บั หลายๆ ส่ิง ของในห้องหนงึ่ ๆ ไดโ้ ดยไม่ต้องกังวลว่าจะไม่งดงาม กลมกลืนหรือกลวั ว่าจะ เฉิ่มเชย เช่น หอ้ งนอนเด็ก (ควรจะใช้สีวรรณะร้อน) เพราะธรรมชาตขิ องเด็กตอ้ งการส่ิงกระตุ้นตลอด หรอื มากกวา่ ผู้ใหญ่ โดยตู้เสื้อผา้ อาจเป็นสสี ้ม เตยี งสีแดง เกา้ อี้สีเหลือง ผนังหอ้ งสีเหลืองออ่ น มา่ นสีมว่ ง แดง ฯลฯ ทุกส่งิ อย่ดู ว้ ยกันได้เพราะอยู่ในวรรณะเดียวกนั เปน็ ต้น

13 ห้องนอน นา่ จะเป็นสีวรรณะเย็น จาพวกสีฟา้ ออ่ น สีนา้ เงิน สีเขียวน้าทะเล จะทาให้ ห้องนอน สงบ สบายมากข้ึน เชน่ ผนังหอ้ งสีฟา้ อ่อน (เกือบขาว) ม่านสฟี ้าอมน้า- ทะเลออกเขยี วอ่อน ๆ ผ้าปูเตียง สีเดียวกบั มา่ น ภาพประดบั ห้องสโี ทนเขียวอมฟา้ หรือเป็นภาพวิวทิวทัศน์ ชายทะเลเปน็ ตน้ การเลือกสี และวัสดทุ ม่ี สี ีมาตกแต่งห้องก็จะมีเป้าหมาย และง่ายตอ่ การคมุ โครงสี สรุปวา่ การนาประโยชนข์ องสีร้อนและเย็นมาใช้ใน งานตกแต่งภายใน มีเปา้ หมายวา่ สามารถใช้ สีหลากหลาย ในวรรณะใดวรรณะหนึ่ง ได้โดยงา่ ยต่อการกาหนดโครงสีรวม ๆ และควบคมุ งา่ ย

14 ใบงำนที่ 1 เรื่อง เบื้องต้นเกี่ยวกบั สี คะแนน คาชแ้ี จง ใหน้ ักเรียนตอบคาถามต่อไปนี้ (10 คะแนน) 1. สี หมายถึง ................................................................................................................... ………………………………………………………………………………………………………………………. 2. สี แบง่ ออกเป็น 2 ประเภท ได้แก.่ ................................................................................. 3. สีธรรมชาติ คือ.............................................................................................................. ............................................................................................................................. ......... 4. สีท่มี นุษย์สร้างข้ึน คือ.................................................................................................. ............................................................................................................................. ....... 5. สีข้นั ท่ี 1 ไดแ้ ก่............................................................................................................ 6. สีข้ันท่ี 2 ได้แก่............................................................................................................ 7. สีขั้นท่ี 3 ไดแ้ ก.่ ........................................................................................................... ............................................................................................................................. ........ 8. แม่สีศลิ ปะ หมายถงึ .................................................................................................... ............................................................................................................................. ........ ..................................................................................................................................... 9. แมส่ ีวิทยาศาสตร์ หมายถึง ........................................................................................ ..................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ........ 10. แม่สจี ติ วทิ ยา หมายถึง................................................................................................. ............................................................................................................................. ........ ..................................................................................................................................... ชอ่ื ............................................................ช้นั .......................เลขท่ี..................

15 ใบงำนที่ 2 เร่อื ง วงจรสี คะแนน คาชแ้ี จง ใหน้ กั เรียนใช้ความคิดสร้างสรรคอ์ อกแบบวงจรสีและผสมสตี ามวงจรสีให้ถูกตอ้ ง สวยงาม (10 คะแนน) วัสดุอุปกรณ์ 1. กระดาษ 100 ปอนด์ ขนาด A4 2. ดนิ สอ ยางลบ ไมบ้ รรทดั 3. สโี ปสเตอร์ 4. พู่กันขนาดต่าง ๆ เกณฑ์การใหค้ ะแนน 1. ความคิดสร้างสรรค์ 2. ความประณีตสวยงาม 3. องคป์ ระกอบศิลป์ 4. ความน่าสนใจของผลงาน 5. ผลสาเร็จของงาน ภำพตวั อยำ่ ง ทม่ี าภาพ : http://mcpswis.mcp.ac.th/html_edu/cgi- bin/mcp/main_php/print_informed.php?id_count_inform=13690 ช่อื ............................................................ชั้น.......................เลขที่..................

16 คะแนน ใบงำนที่ 3 เรือ่ ง ร้เู ร่ืองสี คาชแี้ จง ให้นักเรยี นใช้ความรู้เรอื่ งวรรณะของสี สีตรงกันขา้ ม และจิตวทิ ยาการใชส้ ี ระบายสี ตามชอ่ งว่างท่ีกาหนด ให้สมบูรณ์ (10 คะแนน) วสั ดุอุปกรณ์ 1. สีโปสเตอร์ 2. พู่กันกลมเบอรต์ ่าง ๆ 1. จงบอกสีตรงกนั ข้ามในวงจรสี ตรงข้ามกบั สี ตรงขา้ มกับสี ตรงขา้ มกบั สี ตรงขา้ มกบั สี ตรงขา้ มกบั สี ตรงข้ามกบั สี 2. สีวรรณะรอ้ น ได้แก่ 3. สวี รรณะเย็น ไดแ้ ก่

17 ภ4 ใบงำนที่ 2 เรื่อง รเู้ ร่อื งสี (ต่อ) 4. จงบอกจติ วทิ ยาการใช้สีของมนุษย์ ควำมหมำย อำรมณ์ ชอื่ สี สี (ระบำยส)ี ชอื่ ......................................................................ชน้ั .............................เลขท่ี..............

18 แบบทดสอบหลังเรียน เรอ่ื ง สใี นงำนทศั นศิลป์ คำช้แี จง 1. แบบทดสอบหลงั เรียนมีจานวน 10 ขอ้ คะแนนเต็ม 10 คะแนน 2. ใหเ้ ลือกคาตอบที่ถกู ต้องและเหมาะสมทีส่ ดุ เพียงข้อเดยี วโดยทาเครื่องหมาย กากบาท ( x ) ในชอ่ งขอ้ ก, ข, ค, หรือ ง ในกระดาษคาตอบ 1. สวี รรณะเยน็ ใหค้ วามรูส้ ึก ก. สดชนื่ เยอื กเย็น อุดมสมบรู ณ์ ข. สขุ มุ มีเสนห่ ์ ค. ลึกลับนา่ กลัว ง. ตื่นเต้น สว่าง เรา้ ใจ 2. วงจรสีธรรมชาตมิ ที ัง้ หมดกี่สี ก. 3 สี ข. 6 สี ค. 9 สี ง. 12 สี 3. สใี นขอ้ ใดที่เรียงดาดับในวงจรสี ก. แดง ส้มแดง เหลอื ง ข. เขียวเหลอื ง เขยี ว นา้ เงนิ ค. ม่วง มว่ งแดง แดง ง. สม้ เหลอื ง เขียวเหลือง เขียว สๆู้ นะคะ คนเก่ง

19 4. สีท่ใี หค้ วามรสู้ กึ สว่าง เกดิ ความเล่ือมใส คือ ก. มว่ ง ข. เขียว ค. เหลอื ง ง. แดง 5. สวี รรณะร้อนให้ความรสู้ ึก ก. สดช่นื เยือกเย็น อุดมสมบูรณ์ ข. สขุ ุม มีเสนห่ ์ ค. ลกึ ลับน่ากลวั ง. ต่นื เตน้ สว่าง เรา้ ใจ 6. แมส่ ที ใ่ี ช้ในงานวาดเขียน เรียกว่า ก. แม่สวี ตั ถธุ าตุ ข. แม่สีชา่ งเขยี น ค. แม่สีอะคริลิค ง. แมส่ วี ทิ ยาศาสตร์ 7. ข้อใดคือสขี ั้นที่ 1 ก. ส้ม-ม่วง-เขียว ข. ส้ม-เหลือง-แดง ค. แดง-เหลอื ง-เขียว ง. แดง-เหลอื ง-น้าเงิน 8. สี สมัยกอ่ นได้จาก ก. ดนิ สีเลอื ด ข. ดนิ ผสมนา้ ค. เลือดสตั ว์ ง. ดนิ ผสมไขสัตว์

20 9. สีคูป่ ระกอบของสแี ดง คือ ก. มว่ ง ข. เขยี ว ค. เหลือง ง. แดง 10. สีอะไร เป็นได้ทั้ง 2 วรรณะ ก. ส้ม เขียว ข. เหลือง แดง ค. มว่ ง แดง ง. ม่วง เหลอื ง

21 เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น เรือ่ ง สใี นงำนทศั นศิลป์ ขอ้ เฉลย 1ง 2ค 3ก 4ง 5ก 6ค 7ง 8ง 9ค 10 ข

22 เฉลยใบงำนที่ 1 เรื่อง เบื้องต้นเกี่ยวกับสี คะแนน คาช้ีแจง ให้นกั เรียนตอบคาถามต่อไปนี้ (10 คะแนน) 1. สี หมายถงึ ลักษณะของแสงทีก่ ระทบต่อสายตาให้เห็นเปน็ สี 2. สี แบง่ ออกเป็น 2 ประเภท ไดแ้ ก่ สธี รรมชาตแิ ละสที ีม่ นษุ ย์สร้างขนึ้ 3. สธี รรมชาติ คือ สีที่เกดิ ข้นึ เองธรรมชาติ เช่น สีของแสงอาทติ ย์ สขี องทอ้ งฟ้ายามเชา้ เยน็ สขี องรุง้ กนิ น้า 4. สที ่มี นุษย์สรา้ งขน้ึ คอื หรือได้สังเคราะหข์ ึ้น เช่น สีวิทยาศาสตร์ มนษุ ย์ได้ทดลองจาก แสงต่าง ๆ เชน่ ไฟฟา้ นามาผสมโดยการทอแสงประสานกัน 5. สีขั้นท่ี 1 ไดแ้ ก่ สีแดง สเี หลอื ง สนี า้ เงิน 6. สขี นั้ ท่ี 2 ไดแ้ ก่ สีเขียว สีสม้ สีมว่ ง 7. สขี นั้ ที่ 3 ได้แก่ สีส้มแดง สีม่วงแดง สีขียวเหลอื ง สีเขยี วนา้ เงิน สีมว่ งนา้ เงิน สีส้มเหลอื ง 8. แม่สศี ิลปะ หมายถงึ สีท่ีใช้ในการวาดภาพ หรือสรา้ งสรรคผ์ ลงานทางศลิ ปะทัว่ ๆ ไป ซึ่งเม่อื นามาผสมกันในปรมิ าณตา่ ง ๆ ที่ต่างอัตราส่วนกนั จะเกดิ สสี นั ตา่ ง ๆ มากมายใหเ้ รา ไดเ้ ลอื กหรอื นามาใช้ในการสรา้ งสรรค์ ผลงานที่สวยงามได้ แม่สีในกลมุ่ น้ีประกอบด้วย สีแดง สเี หลือง และสนี ้าเงิน 9. แมส่ ีวิทยาศาสตร์ หมายถงึ แม่สีวิทยาศาสตร์เปน็ สที ี่เกิดจากการสร้างหรือประดษิ ฐ์ขน้ึ จากกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์เช่น สขี องหลอดไฟ สที ่ผี า่ นแท่งแก้วปริซึม ทเ่ี กิดจาก การสะท้อนและการหักเหของแสง แมส่ ใี นกลมุ่ นี้ประกอบดว้ ย สีแสด สีเขียวมรกต และสีม่วง 10.แม่สีจติ วทิ ยา หมายถึง สใี นกลุ่มทีม่ ีอิทธิพลต่อความรูส้ ึก และมผี ลต่อจิตใจของมนุษย์ กลา่ วคอื สีทีเ่ ราพบเห็นจะสามารถโน้มน้าวชวนใหร้ ูส้ ึกต่นื เต้น โศกเศร้า โดยมากมกั ใช้ ในการรักษาคนไข้ได้ เชน่ โรคประสาท หรอื โรคทางจิต แม่สีจติ วิทยาสี 4 สปี ระกอบดว้ ย สีแดง สเี หลือง สีเขยี ว และสนี า้ เงิน ช่อื ............................................................ชน้ั .......................เลขท.ี่ .................

23 คะแนน เฉลยใบงำนท่ี 3 เร่ือง รูเ้ รอ่ื งสี คาช้แี จง ใหน้ กั เรียนใช้ความรเู้ รื่องวรรณะของสี สีตรงกันขา้ ม และจติ วทิ ยาการใชส้ ี ระบายสีตาม ชอ่ งว่างที่กาหนด ใหส้ มบรู ณ์ (10 คะแนน) 1. จงบอกสีตรงกนั ข้ามในวงจรสี ตรงข้ามกับสี ตรงขา้ มกบั สี ตรงข้ามกับสี ตรงขา้ มกับสี ตรงข้ามกบั สี ตรงข้ามกับสี 2. สวี รรณะรอ้ น ได้แก่ 3. วรรณะเยน็ ไดแ้ ก่

24 ภ4 ใบงำนที่ 2 เรือ่ ง รู้เรื่องสี (ต่อ) 4. จงบอกจติ วทิ ยาการใช้สขี องมนษุ ย์ ควำมหมำย อำรมณ์ ชือ่ สี สี (ระบำยสี) สแี ดง รอ้ น รนุ แรง กระตนุ้ ท้าทาย สีเหลือง การเคลอ่ื นไหว สีเขียว ความตื่นเต้น เรา้ ใจ สีนา้ เงิน สีขาว ชวี ิตใหม่ ความสดใหม่ สีดา ความสกุ สว่าง การแผ่ สชี มพู กระจาย อานาจบารมี เป็นธรรมชาติ สงบ เงียบ รม่ รื่น ร่มเย็น การพักผ่อน ความปลอดภัย สขุ ุม ภูมิฐาน ความสภุ าพ หนักแน่น เคร่งขรึม สงบ ละเอยี ด รอบคอบ สง่างาม บริสทุ ธิ์ สะอาด ไร้เดียงสา สดใส เบาบาง อ่อนโยน การเกิด ความหวัง ความโกรธ ความโศกเศร้า ความกลัว มีพลังอานาจ ความลกึ ลบั อบอนุ่ ออ่ นโยน นุม่ นวล ออ่ นหวาน ความรัก การแต่งงาน ชื่อ......................................................................ชั้น.............................เลขท.ี่ .............

25 เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน เรือ่ ง สใี นงำนทศั นศลิ ป์ ขอ้ เฉลย 1ก 2ง 3ค 4ค 5ง 6ก 7ง 8ค 9ข 10 ง

26 บรรณำนกุ รม สชุ าติ เถาทองและคณะ. หนังสือเรยี นรำยวชิ ำพ้นื ฐำน ทัศนศลิ ป์ ชัน้ มธั ยมศึกษำปีที่ 3 กลมุ่ สำระ กำรเรียนรศู้ ลิ ปะ ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศึกษำขัน้ พื้นฐำน พทุ ธศกั รำช 2551. กรุงเทพฯ: สานกั พิมพ์อักษรเจรญิ ทัศน์ อจท. จากัด, (ม.ป.ป.). วฑิ ูรย์ โสแก้ว. หนังสือเรียน รำยวิชำพื้นฐำน ทัศนศิลป์ ชั้นมธั ยมศกึ ษำปที ี่ 3 กล่มุ สำระกำรเรยี นรู้ ศิลปะ ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศกึ ษำข้ันพน้ื ฐำน พุทธศกั รำช 2551. กรุงเทพฯ: สานกั พิมพว์ ัฒนาพานชิ จากัด, (ม.ป.ป.). สชุ าติ เถาทองและคณะ. คู่มือครู ใชป้ ระกอบกำรสอนร่วมกบั หนงั สอื เรียนรำยวชิ ำพื้นฐำน ทศั นศิลป์ ชน้ั มธั ยมศกึ ษำปีท่ี 3 กลุ่มสำระกำรเรยี นร้ศู ิลปะ ตำมหลักสตู รแกนกลำงกำรศึกษำขนั้ พื้นฐำน พุทธศักรำช 2551. กรงุ เทพฯ: สานกั พิมพ์อักษรเจรญิ ทศั น์ อจท. จากัด, (ม.ป.ป.). http://www.thaigoodview.com/library/teachershow/pechburi/somphong_k/color01.html / สบื ค้นข้อมลู เมอ่ื วนั ท่ี 7 พฤษภาคม 2559 http://colortheorycom.blogspot.com/2015/02/blog-post9.html/ สบื คน้ ข้อมลู เมอ่ื วนั ที่ 7 พฤษภาคม 2559 http://mcpswis.mcp.ac.th/html_edu/cgi-bin/mcp/main_php/print_informed. php?id_count_inform=13690/ สบื คน้ ข้อมลู เม่ือวนั ท่ี 8 พฤษภาคม 2559 http://wipawan2531-mmd.blogspot.com/2010/09/blog-post_19.html/ สืบค้นข้อมูลเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2559 http://mathkanchanaburi.blogspot.com/p/blog-page_30.html/ สบื คน้ ข้อมลู เม่ือวนั ที่ 9 พฤษภาคม 2559 http://www.thaigoodview.com/node/46648/ สืบค้นขอ้ มูลเม่อื วนั ท่ี 9 พฤษภาคม 2559 https://sites.google.com/site/siripornyodtako/1-hawkhx-khorng-ngan/2-bth-thi-2-xeksar- thi-keiywkhxng-1/ สืบคน้ ข้อมูลเมื่อวันท่ี 10 พฤษภาคม 2559 www.lib2.ubu.ac.th/techno/webnew/ctrl/file_document/110815_102526.doc/ สบื คน้ ขอ้ มูลเมอ่ื วันที่ 11 พฤษภาคม 2559


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook